CHAPTER 21
Despite everything, I'm glad we met.
- A Six Word Story -
หลังจากจัดแจงตารางชีวิตกันลงตัวก็ถึงวันที่เรากำลังจะไปพักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าพี่แทนไปตกลงกับดิมและจาริณกันอีท่าไหน ไป ๆ มา ๆ ทริปทะเลภูเก็ตกลายเป็นมัลดีฟส์และยังเป็นทริปส่วนตัวของเราไปซะอย่างนั้น
ร้ายจริง ๆ
“ไปครับ เกทเปิดแล้ว”
แล้วดูยังมาทำหน้าซื่อตาใสกระฉับกระเฉงขึ้นมา กันต์ส่ายหัวเล็กน้อยกับอาการกระตือรือร้นของคนพี่ ร่างโปร่งขยับกายลุกขึ้นตามแรงดึงจากฝ่ามือใหญ่ที่เดินนำไปขึ้นเครื่อง ก่อนที่เครื่องจะออกดิมก็ส่งข้อความมาอวยพรพร้อมกับแนบรูปหน้าตากวนประสาทของแฟนมันมาให้
กันต์เองก็ได้แต่ส่งข้อความไปขอโทษที่ปีนี้ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันไว้คราวหน้าจะแก้ตัวให้ ตั้งแต่รู้จักกันมาทุกปีหลังปิดเทอมเขาและดิมจะจัดทริปเล็ก ๆ แล้วไปเที่ยวด้วยกัน มีปีนี้ที่ถูกคนเจ้าแผนการมาชิงตัว
“หมดไปเท่าไหร่ครับเนี่ย” ไม่อยากจะบ่นแต่ก็ขอสักหน่อย รู้ว่าทำงานมีเงินของตัวเองแล้วแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมาใช้ไปยั้งมือแบบนี้ เอาอะไรมาพนันก็ได้เลยว่าพี่แทนต้องจองที่พักไว้แบบอย่างพรีเมียมที่สุดแน่ ๆ
“อย่าไปพูดถึงราคาเลย พี่ถือว่าเป็นการซื้อบรรยากาศให้เราไง” แทนคุณตอบปุ๊บก็ได้รับการย่นจมูกใส่กลับมา ความมันเขี้ยวจึงทำให้เขาก้มลงไปงับปลายจมูกกระต่ายตัวบางของตัวเองหนึ่งที
“พี่แทน!” ถึงแม้ที่นั่งจะค่อนข้างส่วนตัวแต่เขาก็เขินอยู่ดี
“นอนไหม เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับนี่”
“ฮื่อ ก็ตื่นเต้นอ่า” ไปต่างประเทศล่าสุดก็สมัยมัธยมต้น ครั้งนี้เขาจึงตื่นเต้นพอสมควรเลยทั้งยังไปกับคู่ชีวิตอีกด้วยมันเลยยิ่งทำให้เขายอมรับว่าอยากไปจนเมื่อคืนกว่าจะหลับก็ตีสองกว่า
ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่า ๆ เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินมาเล ณ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ทันทีที่ก้าวเท้าลงมาก็มีลมเย็น ๆ ท้องฟ้าสวย ๆ คอยต้อนรับ ก่อนจะรอต่อเรือเพื่อไปเกาะที่แทนคุณวางแผนเอาไว้ มือเล็กเกาะเกี่ยวข้อมือแกร่งเอาไว้แน่นด้วยความตื่นตาตื่นใจ ทะเลของมัลดีฟส์เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่อยากมามากที่สุดสำหรับคนรักทะเลอย่างเขา
“เดี๋ยวเรานั่งสปีดโบ๊ทต่ออีกนิด” กันต์พยักหน้ารัวอย่างอารมณ์ดี ท่าทางของน้องทำให้คนพามาถึงกับอมยิ้ม ตอนแรกก็กลัวว่าน้องจะโกรธที่ทำอะไรไม่ปรึกษาแต่เขาก็รู้จักคนรักของตัวเองดี จึงเลือกมัลดีฟส์เป็นปลายทางในทริปนี้
หลังจากมาถึงวิลล่ากลางทะเล สามารถมองเห็นผืนน้ำสีฟ้าใสได้สุดลูกหูลูกตาแถมยังมีบันไดต่อลงไปถึงพื้นผิวน้ำ คนตัวบางรีบวิ่งมายืนเกาะขอบระเบียงเพื่อเก็บภาพเอาไว้ โดยมีแทนคุณที่เพิ่งตรวจเช็คห้องพักเสร็จเดินตามหลังมา “สวยจังเลยครับ” รอยยิ้มหวาน ๆ ถูกส่งกลับมาให้ยิ่งทำให้แทนคุณใจชื้น
เสียงคลื่นเสียงลมทำให้อารมณ์แจ่มใส ยิ่งมาถูกช่วงถูกจังหวะยิ่งทำให้ทะเลน่ามองมากขึ้นไปกว่าเดิม แทนคุณดึงน้องให้นั่งลงบนตักพร้อมโอบเอวพลางวางคางไว้บนไหล่แคบ กลิ่นตัวหอม ๆ ของน้องเคล้าไปกับอากาศดี ๆ ทำให้ความเหนื่อยล้าจากงานที่สะสมเอาไว้แทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง
กันต์ขยับตัวเข้าหาพี่เขาพลางลูบกรอบหน้าที่ดูโทรมไปหลายส่วนจากการโหมงานแลกเวรเพื่อที่จะหาวันหยุดยาวสักระยะแล้วพาเขามาเที่ยวด้วยความซาบซึ้งใจ เขารู้สึกว่ามันดีจริง ๆ ที่เราอดทนฟันฝ่าอุปสรรคกันมาได้เพราะปลายทางที่พบมันสวยงามที่สุด
“ขอบคุณนะครับ”
“หืม” เราสบตาเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกระหว่างกัน หัวใจที่เต้นไปในจังหวะเดียวกัน ตัวเลขที่ขยับไปที่จำนวนเดียวกันมันบ่งบอกว่าแทนคุณโชคดีเหลือเกินที่ได้หาเด็กตรงหน้าเจอ
“ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ขอบคุณที่อดทนกับพี่มาตลอดนะ”
“พี่...กันต์ไม่เคยต้องอดทนเลย กันต์แค่ใช้ความเข้าใจ”
“น่ารักที่สุดเลยกระต่ายของพี่” แทนคุณกดจูบลงบนลาดไหล่พร้อมกับกระชับกอดแน่น
“ไปนอนพักกันดีไหมครับ บนเครื่องพี่ไม่ได้นอนเลย ไหน ๆ ก็อยู่ที่นี่อีกหลายวัน มาใช้เวลาไปด้วยกันนะครับ”
“ครับคนดี” แต่บรรยากาศหวานซึ้งก็อยู่ได้ไม่นาน
“เห้ย! พี่แทน!!” กันต์เผลอร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกอุ้มขึ้นจนตัวลอย แต่มีหรือคนขี้แกล้งจะสนใจ แทนคุณวางน้องลงบนเตียงก่อนจะทาบทับด้วยร่างใหญ่โตของตัวเองไม่ให้อีกฝ่ายดิ้นหนี กอดหมับแนบแน่นทุกอณูจนกันต์ทำได้เพียงส่ายหน้าและถอนหายใจอย่างขบขัน
“แกล้งอีกแล้ว”
“ก็เรามันน่าแกล้ง”
กันต์มุ่ยหน้าใส่ก่อนจะขยับร่างกายให้เข้าที่ด้วยการซุกหน้าลงกับอกของพี่เขาแล้วหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ยิ่งเคลิ้มกว่าเดิมเมื่อถูกลูบหัวอย่างแผ่วเบาเพื่อขับกล่อม
ตื่นกันมาอีกครั้งก็ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดินแล้ว จึงตัดสินใจกันว่าจะไปกินข้าวเย็นที่ร้านริมทะเลและนั่งดูตะวันลับขอบฟ้าที่นั่นทีเดียว แต่ก่อนจะได้ไปสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกแทนคุณและกันต์กำลังเถียงเรื่องพาหนะเดินทางอย่างไม่ยอมกัน คนหนึ่งจะใช้บริการเช่ารถยนต์นั่งสบาย ๆ มีคนขับให้ไปทุกที่ แต่อีกคนอยากเช่าจักรยานปั่นเล่นเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป
“พี่อยากให้เรานั่งสบาย ๆ”
“แต่กันต์อยากซ้อนจักรยานกินลมชมวิว”
“มันอันตราย”
“เขาก็ขี่กันเยอะแยะ อีกอย่างเช่ารถมันเปลืองนะพี่ เราไม่ได้จะไปไหนไกลก็แค่ไปหาอะไรกิน จุดชมวิวก็อยู่แถวที่พัก”
“แต่”
“นะ นะครับ นะครับพี่แทน” กันต์แนบหน้าลงกับต้นแขนแกร่งเพื่อลดทอนบรรยากาศอึมครึม แทนคุณที่เจอลูกอ้อนไปก็ได้แต่อ่อนใจยอมพยักหน้าแล้วพากันเดินไปเช่าจักรยานที่อยู่ถัดไปไม่ไกล
พอได้ซ้อนท้ายอย่างที่ต้องการก็อมยิ้มอย่างอารมณ์ดี กันต์จะไม่ยอมให้พี่เขารู้ความลับหรอกว่าที่เลือกจักรยานแทนรถยนต์ก็เพราะเขาชอบการที่ได้กอดซบแผ่นหลังกว้างแผ่นนี้
หลังจากกินข้าวที่เน้นหนักไปทางอาหารทะเลของโปรดของคนทั้งคู่เรียบร้อย แทนคุณก็พาคนตัวเล็กที่ซัดอาหารทะเลจนหยดสุดท้ายกลับมายังหาดทรายบริเวณหน้าโรงแรม ตัดสินใจกันว่าจะเดินกินลมชมวิวก่อนจะเข้าที่พัก เท้าเปลือยเปล่าสัมผัสลงบนหาดทรายละเอียดนุ่มไปตามทาง ข้างทางประดับไฟดูท่าจะเข้ากับบรรยากาศสำหรับคู่รักเสียเหลือเกิน
เมื่อเดินห่างจากผู้คนมาเล็กน้อยทั้งคู่ก็นั่งพักมองดาวที่เริ่มประกายบนท้องฟ้า รอยยิ้มยังคงแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าของคนทั้งคู่ กันต์มีความสุขมากแม้จะเพิ่งวันแรกเท่านั้นแต่มันพาลไม่อยากให้หมดช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้ไปเลย
“ชอบไหม”
“ชอบมาก ๆ เลย ขอบคุณนะครับ” เมื่อรอบด้านไม่ค่อยมีใครคนตัวเล็กกว่าจึงทิ้งหัวลงบนไหล่กว้างอิงแอบแนบชิดอย่างตามใจตน กันต์เคยฝันถึงวันที่จะได้เที่ยวได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่รักทว่าก็ผิดหวังเรื่อยมา แต่ในที่สุดเขาก็ได้สมหวังเสียที
“กลับห้องกันดีกว่า” แทนคุณดึงตัวน้องให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กันต์มองพี่เขาอย่างมึนงงแต่ก็ยอมให้พี่เขาจูงมือกลับเข้าที่พัก
และทันทีที่ประตูห้องปิดลงไม่ทันให้เสียบคีย์การ์ดเพื่อเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่างโปร่งบางก็ถูกดันจนหลังติดกำแพงก่อนจะทาบทับด้วยแทนคุณที่จู่โจมปากนุ่มสีอ่อนของน้องแบบไม่ให้ตั้งตัว อารามตกใจแปรเปลี่ยนไปตามความเคลิบเคลิ้ม กันต์ปล่อยให้พี่เขาจูบและซุกซบตามความพอใจ ไม่คิดแม้แต่จะขัดขืน
...
แสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านช่วยปลุกให้คนที่กำลังหลับอยู่รู้สึกตัวขึ้น กันต์ขยับตัวยุกยิกอยู่บนเตียงก่อนจะลืมตาขึ้นแต่กลับพบว่าข้างกายนั้นว่างเปล่า คนเพิ่งตื่นขยับตัวขึ้นพิงหัวเตียงเพื่อเรียกสติ เมื่อวานกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า ขนาดเผลอหลับกันไปแล้วพอโดนตัวกันเท่านั้นก็ตื่นมาสปาร์คกันอีกรอบ นึกแล้วก็ขำ
“นั่งยิ้มอะไรครับ”
“ไปไหนมาครับ” กันต์ส่ายหน้าพลางตอบคำถาม
“จ็อกกิ้งมาครับแล้วก็สั่งรูมเซอร์วิสให้เราด้วย ลุกอาบน้ำไหวไหม” แทนคุณพาตัวเองมาหยุดข้างเตียงพลางยกมือลูบกลุ่มผมนุ่มของคนรักที่ชี้ไม่เป็นทรงจากการตื่นนอนให้เข้าที่
“ไม่ไหวเลยครับ”
“หนู” คนโตกว่ากดเสียงต่ำเมื่อน้องช้อนตามอง รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายแกล้งกันแต่ถ้ายังอยากออกไปเที่ยวก็ต้องหยุดแกล้งก่อนที่จะเลยเถิด
“ฮ่ะ ๆ พี่จะอาบก่อนไหมไปวิ่งมาเหงื่อเต็มเลย”
“กันต์อาบก่อนดีกว่าเดี๋ยวเผื่อเขามาส่งอาหารพี่จะได้อยู่รับ” กันต์พยักหน้ารับก่อนจะพาร่างเหลวเป๋วของตัวเองจากเหตุการณ์เมื่อคืนเข้าห้องน้ำไป
เมื่อจัดการอาหารเช้าเสร็จก็พอจะมีแรงออกไปเที่ยวต่อโดยเช้าวันที่สองนี้แทนคุณได้จ้างทัวร์เพื่อดำน้ำดูปะการัง ซึ่งดีที่ทั้งคูว่ายน้ำกันเป็นหลังจากที่ทางทัวร์ปล่อยให้นักท่องเที่ยวลงจากเรือเพื่อดำน้ำในบริเวณพื้นที่ที่จัดไว้ให้ก็ไม่รอช้า เราต่างจับมือแล้วพากันดำดูสิ่งสวยงามภายใต้ท้องทะเล
กว่าจะกลับมาจากทัวร์ดำน้ำก็ค่อนบ่ายเข้าไปแล้ว รายการสุดท้ายของทัวร์นี้ได้พาไปทานอาหารทะเลร้านพื้นเมืองบนเกาะที่เราแวะดำน้ำ อาหารประจำชาติพื้นเมืองมีส่วนประกอบหลักเป็นปลาเนื่องจากเป็นประเทศมุสลิมซึ่งกันต์และแทนคุณไม่ได้มีปัญหาตรงนั้นอยู่แล้วจึงมีความสุขกับอาหารตรงหน้า แม้จะรสชาติต่างจากที่เคยกินมาบ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“อิ่มไหม เอาอีกหรือเปล่า” คนถูกถามส่ายหน้าหวือพลางลูบท้องที่ป่องออกมาเพราะความอิ่มเกิน ตั้งแต่คบกันมาเขาถูกพี่แทนขุนจนน้ำหนักขึ้นพรวด ถึงอย่างนั้นเพราะความเป็นคุณหมอในสายเลือดจึงพาเขาออกกำลังกายบ่อย ๆ
ออกกำลังกายที่หมายถึงการออกกำลังกายจริง ๆ น่ะนะ
“กันต์รออยู่นี่แป็บนึงนะ พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” กันต์พยักหน้ารับมองตามจนแผ่นหลังกว้างหายไปด้านหลังของเพิงร้าน
ร่างโปร่งในชุดดำน้ำที่มีเสื้อแขนสั้นตัวโคร่งสวมทับอีกทีนั่งเท้าคางเก็บบรรยากาศรอบข้างอย่างเพลิดเพลิน แรงสะกิดที่ต้นขาทำให้เขาต้องละสายตาจากทะเลมามองก่อนจะพบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังเงยหน้ามองเขาตาแป๋ว
“ปี้ ปี้กนฉวย” กันต์ทำหน้าเลิ่กลั่กเมื่อเด็กตรงหน้าเรียกเขาด้วยสรรพนามแปลกหู แต่จะให้โกรธก็ทำไม่ลงเมื่อถูกรอยยิ้มหวานแอทแทคเข้าอย่างจัง
“ลูกใครครับเนี่ย”
“ยูก ยูกป๊ะป๋า”
“หรอครับ แล้วป๊ะป๋าหนูอยู่ไหนเอ่ย”
“ป๊ะป๋า ป๊ะป๋าอยู่ อยู่” ดวงตากลมกวาดมองไปรอบตัวก่อนจะสะบัดหน้าจนเส้นผมปิดหน้าปิดตาไปหมด กันต์มองหาผู้ปกครองแต่ก็ไม่พบจึงเริ่มใจคอไม่ดีแล้ว
“ไม่ยู้”
“แล้วหนูอยู่ที่ไหนได้ยังไงครับ”
เอาแล้วไงกับเด็กไม่กี่ขวบจะสื่อสารกันรู้เรื่องได้ยังไง ดูจากการแต่งกายเสื้อผ้าก็ไม่ได้ดูเหมือนเด็กเร่ร่อนเลยสักนิด เสื้อยืดและกางเกงขาสั้นดูสะอาดสะอ้าน กระเป๋าเป้ที่สะพายหลังก็ดูมีราคา ในระหว่างที่เด็กก็ยืนยิ้มหวานส่วนคนโตกว่าก็เริ่มหน้าเครียด ตัวช่วยอย่างแทนคุณก็เดินกลับมาที่โต๊ะพอดี
“มีอะไรคนดี”
“น้องคนนี้น่าจะหลงกับพ่อแม่อะพี่” ดวงตาเรียวสั่นระริกด้วยความสงสาร อาจเป็นเพราะตัวเองก็มีหลานเหมือนกันหากหลานตัวเองพลัดหลงกับผู้ปกครองไปเจอคนไม่ดีคงแย่เป็นแน่
“ใจเย็น ๆ ก่อนนะกันต์” แทนคุณลูบหัวเด็กน้อยของตัวเองเพื่อปลอบโยนก่อนจะนั่งลงจนใบหน้าเสมอเท่ากับเด็กเล็กอีกคน
“สวัสดีครับคนเก่ง หนูชื่ออะไรเอ่ยบอกอาได้ไหมครับ” เสียงทุ้มถูกปรับให้นุ่มลงและดูใจดีเหมาะกับคู่สนทนาเรียกให้เด็กที่ยืนมองคนรักของเขาหันกลับมามองได้
“จื้อ จื้อ จิณณ์ อายุฉอง ฉองขวบคับ!” เด็กน้อยพูดตอบอย่างไม่กลัวคนแปลกหน้าแต่สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นดาบสองคมเสมอหากเด็กไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง
“แล้วหนูมายังไงครับน้องจิณณ์”
“ย้อง ย้องมากาบป๊ะป๋า”
“พี่แทน กันต์ว่าไม่รอดหรอก พาไปแจ้งเจ้าหน้าที่ประกาศตามหาดีกว่า” แทนคุณพยักหน้าเห็นด้วยเพราะขนาดยืนคุยกันมาเป็นสิบนาทียังไม่วี่แววคนจะตามหาเด็กคนนี้ เราทั้งคู่ต่างกลัวว่าจะไม่ใช่แค่พลัดหลงน่ะสิ
หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่บนเกาะให้ประสานงานกับเรือทุกลำที่เพิ่งเข้าเทียบและกลับออกไปจากเกาะ แต่จนทัวร์ของกันต์เรียกเพื่อกลับขึ้นเรือแล้วก็ยังไม่มีผู้ปกครองคนใดติดต่อมารับ และพวกเขาก็ต้องปล่อยให้เด็กอยู่กับเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้ารอ
“ม่าย ฮึก ม่ายทิ้ง ฮึก ทิ้งจิณณ์ ฮึก” แต่เมื่อจะปล่อยมือกลับเป็นฝ่ามือเล็กที่ไม่ยอม เด็กน้อยเริ่มสะอึกสะอื้นทำเอาคนมองดูสะเทือนใจไปตามกัน กันต์มองคนรักอย่างต้องการความช่วยเหลือ จะให้บอกกันตามตรง เขาเองก็ถูกชะตากับเด็กคนนี้มาก แต่จะให้พาลูกเต้าใครเขากลับโรงแรมไปโดยพลการก็ไม่ใช่เรื่อง
“เอาอย่างนี้ได้ไหมครับคุณตำรวจ พวกผมขอลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วพาเด็กคนนี้กลับไปโรงแรมด้วยกัน หากมีผู้ปกครองมารับก็ให้ติดต่อมาที่ผม" ด้วยมาดที่ดูเป็นคนน่าเชื่อถือตามประสาคุณหมอทำให้ตำรวจยอมเพราะจนใจจะปลอบเด็กน้อยที่เกาะติดขาของคุณอาคนใหม่ไม่ปล่อย
“ผมจะให้นามบัตรเอาไว้นะครับแล้วเดี๋ยวจะช่วยประกาศผ่านโซเชียล แต่ถ้าภายใน 24 ชั่วโมงไม่มีการแจ้งคนหายยังไงรบกวนโทรบอกผมทีนะครับ” โชคดีที่ภายในกระเป๋าสตางค์ยังมีนามบัตรอยู่จึงแลกกับเบอร์โทรศัพท์ของตำรวจที่มาช่วยรับเรื่องและประสานงาน
หลังจากเคลียร์จบกันต์ก็อุ้มน้องเอาไว้ที่กอดคอไม่ยอมปล่อย แก้มกลมซบอยู่บนไหล่แคบชองคุณอาคนใหม่ด้วยความเซื่องซึม ทั้งคู่พากันกลับมาที่เรือและเอ่ยขอโทษแขกคนอื่นที่ทำให้เสียเวลา บนตักของกันต์มีเด็กที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่ถึงชั่วโมงเกาะติดไม่ห่างกาย
“เอ ... พอมาเห็นใกล้ ๆ ก็เหมือนจะเห็นแวบ ๆ นะคะน้อง” อยู่ ๆ เสียงแขกร่วมทัวร์คนนึงก็เอ่ยขึ้น ทำให้เขาและทุกสายตาหันไปมองด้วยความหวัง
“พี่เห็นน้องเขามากับผู้ชายตัวสูงใหญ่ท่าทางจะเป็นพ่อ พาน้องมานั่งโต๊ะข้างหลังพี่นี่เอง เห็นคุยอะไรกับเด็กนี่แหละแล้วเดินออกไป แต่พี่ก็ไม่ได้สนใจต่อเพราะคิดว่าพ่อเด็กคงเดินไปสั่งอาหารหรือไม่ก็เข้าห้องน้ำเลยกินเสร็จก็ลุกออกไปเล่นน้ำต่อเลยค่ะ”
“บนเกาะมีกล้องวงจรปิดไหมครับคุณ”
“ตอนสอบถามกับเจ้าหน้าที่เขาบอกไม่มีครับ เกาะนี้ปั่นไฟกันเป็นช่วงเลยไม่ได้ติดกล้องเอาไว้” แทนคุณเป็นคนตอบ
“พี่พอจะจำลักษณะของผู้ชายคนนั้นได้ไหมครับ” กันต์ถามต่อ
“ตัวสูงใหญ่ เสื้อกับกางเกงรู้สึกจะสีดำ เขาเหมือนจะใส่หมวกด้วยนะพี่เลยมองหน้าเขาไม่ชัด”
“พี่แทนลองติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เช็คกล้องจากบนฝั่งได้ไหมครับ”
หลังจากถึงฝั่งแทนคุณก็รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนจะสองเด็กต่างช่วงวัยไปพักที่วิลล่า ซึ่งเด็กเล็กก็ตามติดกันต์ไม่ยอมห่าง ทำเอาแทนคุณไม่รู้จะขำหรือหัวเสียดีที่ทริปสองคนกลายเป็นสามคนกะทันหัน แต่ผ่านมาหลายชั่วโมงจนกระทั่งฟ้ามืดหมดแล้วก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา
“เอายังไงดีพี่แทน”
“ก็ต้องส่งน้องไว้กับเจ้าหน้าที่แหละให้เขาดำเนินการต่อ เราทำเต็มที่แล้วคนดี” แม้ใจจะไม่ยอมรับแต่ก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ แม้ส่วนลึกเขาอยากจะรับอุปการะทว่าตัวเขาเองก็ยังเรียนไม่จบ ยังดูแลชีวิตตัวเองไม่ได้แล้วจะเอาอะไรไปดูแลชีวิตคนอื่น
นัยนต์หวานสลดลงด้วยความสะเทือนใจ คงต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่จัดการต่อซึ่งแน่นอนว่าน้องคงต้องเข้าไปอยู่ภายใต้การดูแลของสถานรับเลี้ยงเด็กจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะหรือจะมีคนมาอุปการะ
...
วันสุดท้ายของการพักผ่อนครั้งแรกของเราทั้งคู่จบลงที่การเอนตัวนอนดูน้ำทะเลสวยที่ระเบียงห้องพักเท่านั้น กันต์เกลือกกลิ้งใบหน้าลงบนแผ่นอกของคนรักก่อนจะทิ้งหัวซบลงบนตำแหน่งตัวเลขนิ่งเงียบเพื่อฟังเสียงจังหวะหัวใจคลอเคล้ากับเสียงคลื่นเป็นการขับกล่อม
“ชอบไหม”
“ชอบครับ ชอบทุกอย่างเลย ขอบคุณนะพี่แทนที่พากันต์มา” คนบนอกเงยหน้าจ้องเบาะนอนส่วนตัวตาแป๋ว
แทนคุณยิ้มบางกับรอยยิ้มน่ารักของน้อง เขามองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นก็พบแต่ความสดใสที่แตกต่างกับตอนที่เราเจอกัน ไม่อยากจะอวยตัวเองเท่าไหร่แต่จะถือว่าเป็นเพราะเขาที่ทำให้น้องดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้วกัน
“พรุ่งนี้ก็กลับแล้วอ่า ไม่อยากกลับเลย”
“ไว้วันหลังค่อยมาด้วยกันใหม่นะ” เรียวนิ้วยาวเกี่ยวเส้นผมเล็กเล่นจนเพลินมือ แทนคุณก้มลงหอมหัวด้วยเอ็นดูแต่ก็ไม่ใช่แค่น้องคนเดียวที่ไม่อยากกลับ เขาเองก็เช่นกัน ตั้งแต่เรียนหมอมาจนทำงานเรียกว่าแทบไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยก็ว่าได้
“กันต์”
“?”
“เบื่อไหมที่ต้องอยู่กับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาแบบพี่”
คนโตกว่าตัดสินใจถามในสิ่งที่ค้างคาใจ แม้เขาจะอยู่โรงพยาบาลเอกชนและเป็นหมอที่ต้องมีคิวนัด มีการเข้า-ออกเป็นเวลา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเคสด่วนอีกทั้งหากตัวยังอยู่โรงพยาบาลก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะคอยตอบข้อความได้ตลอด เพราะน้องยังเด็กเขาจึงกังวลว่าน้องอาจจะอยากได้คนที่คอยอยู่ดูแล คอยไปไหนมาไหนด้วยกัน ตอบข้อความได้ตลอดอะไรแบบนั้นตามประสาวัยรุ่น
“ไม่เลย ไม่เลยจริง ๆ นะ อย่ากังวลเลยครับ พี่มาหากันต์ไม่ได้เดี๋ยวกันต์ก็ไปหาพี่เองเหมือนทุกครั้งน่ะแหละ” และเขาก็ไม่เคยผิดหวังกับคนของชีวิตเลยสักครั้งเดียว เพราะนอกจากจะได้คำตอบที่ทำให้อุ่นไปทั้งใจแล้วยังมีรอยยิ้มที่ช่วยปลอบประโลม
ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ต้องยอมรับว่ากลายเป็นคนขี้กังวลไปทุกสิ่งจนบางครั้งก็ยิบย่อยจนรำคาญตัวเอง แต่ก็นั่นแหละนะเพราะว่ารักมากจึงคิดมาก อยากรักษาและถนอมความรักของคู่เราให้อยู่ด้วยกันเป็นอย่างดีไปอีกนาน
ครืด ครืด ครืด
“เดี๋ยวพี่ขอคุยงานแป็บนึงนะ หนูนอนเล่นไปก่อน” แทนคุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะขอตัวเดินกลับเข้าห้องไปรับสาย กันต์พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายแล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารของตัวเองขึ้นมาบ้างเพื่อเก็บภาพบรรยากาศเอาไปอวดเพื่อนสนิท
แทนคุณหายเข้าไปในห้องสักพักก่อนจะออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งทว่าหากมองให้ดีก็จะพบแววตาที่เปล่งประกายคล้ายกับว่ามีเรื่องอะไรให้น่ายินดี
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าครับ หิวหรือยัง ไปหาอะไรกินกันดีกว่าจะได้กลับมาเตรียมเก็บของ” กันต์ลุกขึ้นตามแรงฉุดดึงเดินออกจากที่พักไปเอาจักรยานที่เช่าไว้แล้วพากันไปร้านอาหารเล็ก ๆ แต่รสชาติไม่เบาเลย เป็นร้านที่เมื่อวานเขาและพี่แทนเจอโดยบังเอิญหลังกลับมาจากเที่ยว
“แล้วนี่กลับไปพี่ต้องทำงานเลยหรือเปล่า”
“วันหยุดเหลืออีกวันนึงครับ”
“ดีแล้ว จะได้ไม่เหนื่อย”
ตกกลางคืนเราทั้งคู่ก็มาช่วยกันนั่งเก็บกระเป๋าสำหรับการเดินทางกลับในเช้าวันพรุ่งนี้ ใบหน้าน่ารักมุ่ยลงอย่างนึกอยากงอแงที่จะต้องกลับไปเรียน แก้มพองจนคนมองมันเขี้ยวเลยคว้าคอน้องเข้าไปรัดแล้วฟัดจนได้ยินเสียงหัวเราะใสลั่นห้อง
“ฮะ ๆ พ พี่ อื้อออ แก้มกันต์ช้ำแล้ว ฮะ ๆ” แทนคุณมองน้องที่ดิ้นหนีล้มตัวนอนอยู่บนพื้นกำลังอ้าปากเล็ก ๆ ออกเพื่อกอบโกยอากาศด้วยแววตาพราวระยับ กันต์ที่เห็นสายตาคนพี่ก็หลุดขำก่อนจะยกแขนชูขึ้นพร้อมกับร่างกายใหญ่โตจะโถมทับเข้ามากอด และจากเสียงหัวเราะก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญคราง
“หนู ... เราลองกันตรงบันไดไหม” ในระหว่างที่กำลังร่างกายสอดประสาน คนพี่ก็ดันนึกพิเรนท์อยากจะพาผาดโผนเสียอย่างนั้น บันไดที่ว่าคือบันไดตรงระเบียงห้องที่ทำหย่อนลงไปในทะเล
“อ๊ะ พี่จะบ้าหรอ”
“งั้นตรงระเบียงก็ได้” แทนคุณไม่รอฟังคำตอบเขาอุ้มน้องขึ้นมาโดยที่ร่างกายยังไม่แยกออกจากกันพร้อมกับฉวยผ้าขนหนูผืนใหญ่ของทางโรงแรมวางไว้ให้ไปด้วย
แทนคุณหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ยาวที่ปรับการเอนได้ จังหวะที่นั่งทำให้กันต์เงยหน้าสูดปากอย่างอดกลั้นเพราะเจอแรงกระแทกเข้าไปอย่างไม่ทันตั้งตัว คนคิดพิเรนท์จับร่างบางให้นอนตะแคงหันหลังจนแผ่นหลังแนบชิดอกของตัวเอง ก่อนจะจับส่วนกายขยับเข้าไปในตัวน้องอีกครั้งโดยมีผ้าขนหนูปิดทับกันสายตาและสายลมที่หนาวเย็น
“อ๊ะ”
“ชู่ว หนูอย่ารัดพี่แรง”
“อื้อ”
กว่าคลื่นอารมณ์จะสงบก็ทำเอาเราทั้งคู่ตัวเย็นเฉียบ แทนคุณอุ้มน้องกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับช่วยเช็ดตัวจนอีกฝ่ายนอนหลับสบายก็ไปจัดการตัวเองแล้วกลับมานอนกอดน้องหลับไปพร้อมกัน
“ฝันดีนะคนดี”
แทนคุณได้แต่หวังว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านแล้วทุกอย่างที่เขาเตรียมเอาไว้จะเรียบร้อยเป็นอย่างดีและคงจะไม่มีอะไรผิดแผน เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็อยากให้น้องประทับใจที่สุด
แล้วผมจะไปหาเจอได้อีกทีไหน ทำไมเกิดมาทีต้องเหนื่อยขนาดนี้วะเนี่ย ...
To be continued.
_____________________________________
TALK : หาไปนานมากกกกก ขอโทษด้วยค้าบ
อีกไม่เกิน 2 ตอนจบจ้า ฝากด้วยนะคะ
ส่วนที่เคยแจ้งเรื่องการตีพิมพ์
ตอนนี้เราประสบปัญหาการติดต่อสื่อสารกับสำนักพิมพ์
ยังไม่รู้จะยังไงต่อ เดี๋ยวถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาแจ้งอีกทีนะคะ
#ครึ่งชีวิตของผม