HEARTBREAKER P.I [ UP! : SPECIAL : Tar’s birthday ] 1/3/59 : P.151
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: HEARTBREAKER P.I [ UP! : SPECIAL : Tar’s birthday ] 1/3/59 : P.151  (อ่าน 1308937 ครั้ง)

ออฟไลน์ meuy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4470 เมื่อ13-12-2015 17:33:27 »

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4471 เมื่อ13-12-2015 19:03:31 »

ตอนแรกเศร้าเฉยๆที่ต้าร์ตายแต่มาบ่อน้ำตาแตกตอนที่แม่แซทตบแซทและพูดว่าขอโทษ  :m15: เศร้า

ออฟไลน์ PRINCESSPRIME

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4472 เมื่อ13-12-2015 20:14:02 »

 :a5:

ก็รู้นะว่านิยายเรื่องนี้จะจบไม่สวย
แต่ไม่คิดว่าจะมีคนตาย  :m15:

ขอให้ดวงวิญญาณต้าร์จากไปอย่างสงบสุข
หวังว่าบทเรียนราคาแพงนี้ จะทำให้ควิน แซทเป็นคนที่ดีมากขึ้น
 :hao5:

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4473 เมื่อ14-12-2015 23:21:30 »

สะเทือนใจมาก แต่ลึกๆ ก็รู้สึกสาแก่ใจที่สองคนนี้ได้รับความเจ็บปวดและทรมานใจไม่น้อยไปกว่าต้าร์

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4474 เมื่อ14-12-2015 23:22:55 »

 :sad4: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ diszalove_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4475 เมื่อ15-12-2015 02:42:03 »

เรื่องที่ต้าร์เจอมันยาวนานและเจ็บปวดมากจริงๆ ไม่แปลกที่จะเลือกเดินทางนี้
โดนบีบจากควินและแซท อยยากหนีแต่ก็หนีไม่พ้น ทางเดียวที่หนีได้ คือ หายไป
ต้าร์เลือกที่จะตาย เราว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เราอยากให้ต้าร์ได้ใช้ชีวิตของตัวเอง
กับคนที่รัก กับครอบครัว ต้าร์แค่หายไปใช่มั้ย ? ต้าร์กำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ใช่มั้ย ?
เราไม่อยากให้ต้าร์ตายเลย เราสงสารต้าร์ ชีวิตตัวเองแต่กลับถูกบังคับ ถูกกำหนด
สิ่งเดียวที่ต้าร์เลือกได้ ก็คือ ความตาย เรายังไม่อยากให้ต้าร์ตาย อย่าตายนะ

ออฟไลน์ lovelypolly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4476 เมื่อ15-12-2015 04:04:13 »

สุดท้ายต้าก็ตัดสินใจปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
ถึงจะต้องทำให้คนอื่นเสียใจ ก็เลือกที่จะจากไปอยู่ดี
ไม่รู้จะว่ายังไง ต้าเป็นคนที่ใจแข็งมาก ใจแข็งมากจริงๆ (เหมือนคนเขียนเลย อิอิ :hao3:) คิดจะทำอะไรแล้วก็จะทำให้ได้ ไม่ค่อยจะคิดถึงคนอื่นเลยจริงๆ เหมือนต้าจะเป็นคนเห็นแก่ตัวเลยเนอะ
แต่เมื่อคิดในมุมของต้ามันอาจจะถึงทางตันที่หาทางออกไม่ได้แล้วก็ได้ ถึงต้องตัดสินใจ คิดสั้นๆตัดช่องน้อยแต่พอตัวแบบนี้
โมโหต้าเหมือนกันนะที่ไม่คิดถึงพี่เนสบ้างว่าจะเป็นยังไง จะเสียใจแค่ไหน เพราะเนสมีต้าเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
โอ้ยยยยยยยยย  :hao5: :hao5:  :hao5: ขนาดทำใจไว้แล้วนะ ยังรับไม่ค่อยได้เลย

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4477 เมื่อ15-12-2015 10:43:28 »

เศร้าเลย.... ต้าร์จากไปซะแล้ว ฮือออออออออ

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4478 เมื่อ15-12-2015 18:16:33 »

 :ling3: คนเขียนช่างใจร้าย ทำหัวใจคนอ่านแตกเป็นเสี่ยงๆได้ลงคอ  :mew6:  รอตอนต่อไป T^T  :ling1:

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4479 เมื่อ17-12-2015 01:28:35 »

ทำใจกุบตอนจบไว้แล้ว แต่ก็อดใจเสียไม่ได้ จวบจนวินาทีสุดท้ายต้าร์ก็ยังต้องร้องไห้อยู่ดี :ling1:
น้องไปสบายแล้ว เหลือแต่คนข้างหลังที่ต้องอดทนอยู่ต่อไป
 สงสารพี่เนส สงสารเฟียซ สงสารทุกคน
สุดทัายก็ไม่มีใครได้อะไร ไม่มีใครได้มีความสุขเลยสักคน

 :กอด1:     รอตอนถัดไปนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
« ตอบ #4479 เมื่อ: 17-12-2015 01:28:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ p2w1990

  • ความหล่อผมถึงมันจะอยู่ลึก.....แต่มันก็มีอยู่จริง (ปะ) ?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4480 เมื่อ19-12-2015 06:41:24 »

สงสารจับใจคือพี่เนส พอกลับมาอีกทีก็รับบทหนักเสียแล้ว ถ้าหากว่าต้าตายจริงบทพิเศษที่ส่งมาก่อนหน้านี้มันจะมีความหมายอะไร. ก็เข้าใจได้ว่าความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของความสุข. แต่เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขได้. โดยเฉพาะคนที่คิดว่าเขาเป็นของของเรา จะไปไหนไม่ได้  สุดท้ายก็ตัดรอนอิสรภาพที่เขาควรจะมี หากโจทย์ออกมาว่าต้ารอด ก็ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะเปลี่ยนนิสัยหรือไม่ แหละผู้รับภาระอันหนักหน่วงต่อไปก็คือพี่ชายเนสที่แสนดีนี่แหละ เมื่อต้องรับรู้ว่าน้องตัวเองเลือกที่จะไปอยู่กับเขา. เฮ้ออออออ รักครั้งนี้ต้องจ่ายสูงเพียงใดหนอ :m15: :monkeysad: :sad11:

ออฟไลน์ fukuroki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4481 เมื่อ20-12-2015 22:10:58 »

 :hao5: :hao5 :hao5:
เพราะอะไรที่มันกดดันเกินไป บีบคั้นเกินไปทำให้ต้าร์เหลือทางออกแค่นี้จริงๆ
สงสารคนอยุ่ สงสารคนที่จากไปทั้งๆที่ยังสับสน
อยากให้นี่เป็นแค่ฝัน อยากให้ตื่นมาแล้วคิดได้ว่าการคาดคั้นมันไม่ใช่เรื่องดี
แต่มันคง... สายไปแล้วรึป่าวนะ







ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4482 เมื่อ24-12-2015 22:22:42 »

น้ำตาไหลไม่หยุดเลย ไม่รู้จะสงสารใครก่อนดี :m15:

ออฟไลน์ New-Y Holic

  • Your love is a lie
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +207/-5
    • https://www.facebook.com/pages/New-Y-Holic/352883328112176
HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (100%) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4483 เมื่อ30-12-2015 19:24:39 »


HEARTBREAKER

68



สนามบินสุวรรณภูมิในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ทั้งเหล่านักท่องเที่ยวขาออกและขาเข้าประเทศ ชายหนุ่มรูปร่างเพรียวบางในชุดสีดำทั้งเสื้อโค้ทตัวยาวและกางเกงหนังรัดรูปหยุดยืนอยู่กลางทางเพื่อดู Boarding Pass ในมือ ผิวขาวจัดของใบหน้าเรียวเล็กที่มีแว่นดำอันใหญ่ปิดบังรอบดวงตาอยู่ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเหลี่ยวมองอย่างสนใจใคร่รู้ แต่ทว่าคนถูกมองกลับไม่สนใจสายตาผู้คนเหล่านั้น ขาเรียวยาวก้าวเดินตรงไปข้างหน้าพร้อมกับมืออีกข้างที่ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
หากยังไม่ถึงที่หมายก็ต้องหยุดเสียก่อนเมื่อเบื้องหน้ามีผู้ชายสองคนยืนดักรออยู่ ชายหนุ่มไม่ได้เดินเข้าไปหา เขายืนนิ่งมองอยู่เช่นนั้น ปล่อยให้ผู้ชายสองคนรีบร้อนเดินเข้ามาหาเจ้าตัวแทน
“จะไปจริงๆเหรอครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เอ่ยถามขึ้น ทั้งแววตาที่ทอแววเป็นห่วง
คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ
“ตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ย” ผู้ชายอีกคนที่อาวุโสกว่าถามขึ้นบ้าง
“ครับ…ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้”
ได้ยินคำตอบ คนถามก็ยิ้มเจื่อนก่อนยื่นมือออกไปตบบ่าเล็กเบาๆอย่างให้กำลังใจ
“ลุงเข้าใจ ถ้ามีปัญหาอะไร ติดต่อลุงได้เสมอ คิดซะว่าลุงเป็นญาติอีกคนนึง”
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มยกมือไหว้
“บอกตามตรง ผมไม่อยากให้พี่ไปเลย ผมสัญญากับ…เพื่อนไว้ว่าจะดูแลพี่”
“พี่ดูแลตัวเองได้ ขอบคุณนะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”
“แล้วพี่จะไปนานแค่ไหน”
“ยังไม่รู้เลย”
บทสนทนาคล้ายจะสิ้นสุดลงด้วยความเงียบต่อจากนั้น
“ขอผมกอดพี่หน่อยได้มั้ยครับ”
ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยขอด้วยรอยยิ้ม รอจนกระทั่งอีกฝ่ายผายมือออกกว้างก็ขยับเข้าสวมกอดร่างบางไว้แน่น กระซิบบอกข้างหู
“เดินทางปลอดภัยนะครับ ได้โปรดดูแลตัวเองและกลับมาบ้านบ้าง นานแค่ไหนผมก็จะรอ”
คนฟังกระชับอ้อมกอดแม้สีหน้าและแววตาภายใต้แว่นดำยังคงเรียบเฉย
“อืม…พี่จะกลับมา”
คลายอ้อมกอดออกจากกัน ร่างบางหันไปมองผู้ชายอีกคน และได้รับอ้อมกอดอบอุ่นกลับมา
“ลุงขอโทษ”
คนฟังเผลอกัดฟันแน่นแต่ไม่เอ่ยคำใดออกมา
“ลุงขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ และมีความสุข เดินทางปลอดภัยนะ”
ผละจากอ้อมกอด ร่างบางยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าอีกครั้งก่อนหันไปพยักหน้าให้เด็กหนุ่มร่างสูง
“โชคดีครับพี่”
“อืม…เราก็ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“ผมจะดูแลตัวเองและรอพี่กลับมาครับ”
เดินห่างทั้งสองคนมาไกลจนกระทั่งเข้าแถวรอเช็คเอกสารสำคัญในการเดินทางออกนอกประเทศ มือบางล้วงเอาเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าเสื้อโค้ท แตะสัมผัสหน้าจอ มองรูปเด็กผู้ชายสองคนที่กำลังจับมือกันพร้อมส่งรอยยิ้มสดใสให้กล้องด้วยแววตาอ่อนโยนเจือด้วยความเศร้า ปลายนิ้วเรียวยาวลูบที่ใบหน้าเล็กของเด็กผู้ชายหน้าหวานด้านขวามือในรูปถ่าย ราวกับได้ยินเสียงแว่วหวานดังขึ้นมาเมื่อนึกถึงประโยคนึงในไดอารี่ที่พบอย่างบังเอิญและได้อ่านมันจนจบ
‘ผมขอโทษครับพี่ ได้โปรดยกโทษให้กับความโง่และความอ่อนแอของผมด้วย’
‘ได้โปรดใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พี่ชายของผมต้องมีความสุขตลอดไป’
‘รัก…จากน้องชายคนเดียวของพี่’
น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ เจ้าตัวไม่คิดจะเช็ดมันออก ปลายนิ้วเรียวสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์แตะเข้าโปรแกรม Messages เลือกเบอร์ที่ต้องการ และเลือกรูปถ่ายข้อความในไดอารี่ที่ได้ถ่ายไว้ มองอยู่ครู่
นึงก่อนตัดสินใจส่งออกไปยังผู้รับ
   “ความรู้สึกเหมือนอยู่อย่างตายทั้งเป็นมันเป็นยังไง พวกมึงจะได้รู้สักที”

   รอยยิ้มเศร้าฉายชัดบนใบหน้าเมื่อคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายต้องเดินทางไกล ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เมื่อคิดว่าชีวิตต่อจากนี้ต้องขาดเพื่อนและพี่ชายก็รู้สึกวูบโหวงไปทั้งใจ สัมผัสหนักๆที่บ่าทำให้ต้องหันไปมอง
   “เครียดอะไรอยู่ ถอนหายใจแรงเชียว”
   เจ้าตัวยิ้มเจื่อนก่อนตอบ
“เปล่าครับ ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ว่าแต่ลุงหมอจะกลับหรือยังครับ”
“ว่าจะกลับแล้วล่ะ แล้วเฟียซล่ะ จะกลับเลยมั้ย”
“ครับ”
“ขับรถดีดี อย่าซิ่งให้มากนัก”
เจ้าตัวยิ้มจาง รับคำเสียงเบา
   “มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาลุงได้นะ เฟียซก็เหมือนหลานลุงคนนึง”
ผู้อาวุโสกว่าบอกพลางตบบ่าเด็กหนุ่ม
“ขอบคุณครับ เอ่อ…แล้วตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างครับ”
แม้ไม่อยากเอ่ยถามนัก แต่ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาก็อดห่วงคนที่ยังอยู่ไม่ได้ เพราะขนาดตัวเขาเองยังแย่ กว่าจะผ่านมาได้ก็เกือบล้มป่วย เจ็บปวดทางร่างกายภายนอกยังไม่เท่าไหร่แต่เจ็บปวดในใจนี่สิ กว่าจะหายเป็นปกติ ไม่รู้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน นับประสาอะไรกับคนที่อยู่ใกล้ชิดเพื่อนสนิทของเขามาโดยตลอดจนกระทั่งเกิดเรื่อง
“ก็สาหัสทั้งคู่นั่นแหละ มันคงเป็นเวรกรรม อารมณ์แบบอยากตายแต่ก็ตายไม่ได้ ต้องฝืนอยู่ทั้งที่หัวใจเหมือนตายไปแล้ว อยู่อย่างตายทั้งเป็น”
ถ้อยคำที่บอกไปไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด เพราะอาการของหลานชายในตอนนี้มันสาหัสจริงๆ อาการหนักจนคนเป็นพ่อบังเกิดเกล้าแทบเสียสติตามลูกชาย แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะกลัวว่าลูกจะหายไปจากสายตา ส่วนอาการของเพื่อนหลานชายก็ไม่ต่างกัน เพราะตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องเจ้าตัวก็ยังไม่ได้ย่างก้าวออกจากเขตโรงพยาบาลเลย
“ขอให้พวกเขาอาการดีขึ้นเร็วๆนะครับ”
เฟียซยิ้มจืดจางก่อนขอตัวกลับ ทิ้งให้ผู้อาวุโสยืนถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าอยู่เพียงลำพัง เขาก็หวังให้คนทั้งคู่อาการดีขึ้นเร็วๆเช่นเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการของทั้งคู่มันสาหัสจนยากจะเยียวยา เพราะความเจ็บปวดทางใจซึ่งไม่ได้เกิดจากการเป็นโรคที่ต้องใช้ยาในการรักษา ไม่สามารถหายได้โดยง่าย มันต้องขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจและกำลังใจของแต่ละคน ถ้าใจไม่อยากอยู่แล้ว ต่อให้ใช้ยาแพงแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนป่วยได้
อาการของคนตรอมใจเพราะความรัก…มันไม่มียารักษาหรอก

**************************************************
“แซท ทานผลไม้มั้ยลูก”
น้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมรอยยิ้มหวานเอ่ยถามลูกชายพลางยกจานผลไม้ไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง เจ้าของชื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ร่างกายผ่ายผอมในชุดผู้ป่วยของทางโรงพยาบาลได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียง นัยน์ตาที่ไร้แววของคนมีชีวิตเหม่อลอยมองออกไปนอกนอกต่างอย่างไร้จุดหมาย
“แซท”
คนเป็นแม่เรียกลูกอีกครั้งพลางขยับตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง จับมือลูกชายบีบเบาๆ ฝืนยิ้มให้กำลังใจตัวเองแม้ลึกๆจะยังสะเทือนใจกับอาการของลูกอยู่
‘จะต้องเจ็บปวดทรมานอยู่ในสภาพนี้ไปถึงเมื่อไหร่’
หัวอกคนเป็นแม่ก็เจ็บแทบขาดใจที่เห็นลูกเป็นแบบนี้
ความรักก็เหมือนดาบสองคมที่มีทั้งดีและร้าย หากรู้จักรักให้ดี รักให้ถูกทาง ก็คงไม่มีจุดจบแบบนี้
“มือถือ…เอามือถือมา”
เสียงแผ่วเอ่ยขึ้นโดยไม่หันมามอง พาให้คนฟังรีบลุกขึ้นตามหาเครื่องมือสื่อสารส่งให้ ด้วยไม่อยากให้ลูกชายอาละวาดจนวุ่นวายไปทั้งโรงพยาบาลอีก
“ดูรูปน้องไปด้วย ทานผลไม้ไปด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่ป้อน”
แม้ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากลูกชาย แต่คนเป็นแม่ก็จัดการปลอกเปลือกผลไม้ไว้รอ เป็นกิจวัตรประจำวันของลูกไปแล้วที่ต้องขอมือถือเพื่อจะดูรูปของคนรักที่เจ้าตัวถ่ายไว้เต็มโทรศัพท์ เพียงแค่ได้ดูก็คล้ายจะบรรเทาความคิดถึงไปได้บ้าง หากแต่ทุกครั้งที่ดู ลูกชายเธอก็ต้องเสียน้ำตาทุกครั้งไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดีกว่าให้ลูกอาละวาด ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง แผดร้องเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนให้คนทั้งโรงพยาบาลแตกตื่นเหมื่อนที่ผ่านมา
“ต้าร์…ต้าร์!”
เสียงร้องดังทำให้คนที่ตั้งใจบรรจงกับการปลอกผลไม้สะดุ้งจนมีดหลุดมือ หันไปมองลูกชายก็เห็นว่าร่างผอมบนเตียงกำลังจ้องมองโทรศัพท์ในมือตัวสั่น น้ำตาไหลพรากอย่างคนขาดสติ เธอรีบลุกจากเก้าอี้ ขยับเข้าใกล้ตัวลูก หวังจะโอบกอดปลอบโยนให้ใจเย็นลง ทว่าพอเข้าใกล้ ลูกกลับตะเกียดตะกายจะลงจากเตียง
“ขอโทษ…กูผิดเอง กูขอโทษต้าร์ กลับมา…ได้โปรดกลับมา อย่าทิ้งกูไป!”
คนป่วยหล่นลงจากเตียงจนล้มกลิ้ง ทั้งที่ในมือยังกำโทรศัพท์ไว้แน่น นัยน์ตาแดงก่ำกับร่างกายที่สั่นไหวรุนแรงบอกถึงภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติและไม่อาจควบคุมได้
“แซท…เป็นอะไรลูก แซท…”
พยายามจับตัวลูกชายไว้ทั้งสองมือ แต่ก็สู้แรงลูกไม่ได้ น้ำตาของคนเป็นแม่ไหลอาบแก้มอย่างสงสารลูกชายจับใจกับสภาพที่เห็น
“ช่วยด้วย! อังเดร เข้ามาช่วยลูกฉันที”
ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอกห้องอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
“เกิดอะไรขึ้นครับมาดาม บอส!”
อังเดรร้องเสียงหลงเมื่อเข้ามาเห็นสภาพของเจ้านายที่กำลังคลานอย่างเชื่องช้าอยู่กับพื้น รีบเข้าจับตัวคนป่วยประคองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เสียงร้องไห้ราวจะขาดใจพาให้คนมองสะเทือนใจตามจนไม่สามารถทนมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้นได้
“ต้าร์…ต้าร์”
หน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังแสดงรูปถ่ายถูกหยดน้ำตาไหลเปื้อนเต็มหน้าจอ เจ้าของโทรศัพท์ไม่คิดจะ
เช็ดมันออก นัยน์ตาพร่ามัวยังคงจ้องที่ข้อความในรูปถ่าย เพียงแค่คิดถึงเจ้าของลายมือ หัวใจก็เจ็บแปล็บ
ขึ้นมา มันเจ็บจนร่างกายสั่นสะท้าน เจ็บจนต้องตะโกนออกมาทั้งน้ำตา
“ทำไมไม่เป็นกู! ทำไม!”
คนป่วยตะโกนทั้งเสียงแหบแห้ง สองมือตะบมลงบนบ่ากว้างของบอดี้การ์ด จับขย้ำเสื้อไว้แน่นก่อนออกแรงเขย่าอย่างบ้าคลั่ง
“ฆ่ากูเลยสิ ฆ่ากู ฆ่ากูที”
น้ำเสียงอ่อนระโหยบอกกับคนตรงหน้า แรงเขย่าหยุดลงพร้อมกับที่ตัวคนป่วยทรุดนั่งคุกเข่ากับพื้น โทรศัพท์หลุดจากมือตกกระแทกพื้นตามมา อังเดรปล่อยให้เจ้านายหนุ่มนั่งอยู่แบบนั้น ด้วยคิดว่าเจ้าตัวคงหยุดอาละวาดแล้ว หากเพียงพริบตาเดียวคนป่วยกลับทำในสิ่งที่คนมองคาดไม่ถึง ร่างกายผ่ายผอมทำร้ายตัวเองด้วยการโขกศีรษะกับผนังห้องอย่างแรง พาให้คนที่กำลังยืนมองเจ้านายด้วยความสงสารรีบรุดเข้าจับตัวไว้
“แซท สงบสักทีเถอะลูก พอได้แล้ว” คนเป็นแม่เอ่ยขอร้องทั้งน้ำตา
“ปล่อยกู!”
“อย่าทำแบบนี้เลยครับบอส หยุดทำร้ายตัวเองสักที”
อังเดรเอ่ยบอกเจ้านายพลางจับลากขึ้นเตียง กดร่างให้นอนนิ่งๆ
“ปล่อยกู! ปล่อย!”
ประตูห้องพักพิเศษถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับหมอและพยาบาลที่รีบเดินเข้ามาดูอาการคนป่วย
อังเดรถอยห่างออกมาให้พวกเขาได้ทำหน้าที่ ยืนมองเจ้านายหนุ่มถูกจับแขนขาตรึงไว้กับเตียง หลังจากนั้นแพทย์ก็ฉีดยาสลบให้เหมือนเคย พอคนป่วยเริ่มสงบลง มารดาก็เดินเข้าไปใกล้เตียงลูบหัวลูกอย่างปลอบประโลม
“ข...ขอร้อง ฆ่าผมที”
น้ำเสียงแหบพร่ากับอาการยกมือจะยื่นออกมาจับแขนแม่ไว้แต่ก็สลบไปเสียก่อนทำให้คนเป็นแม่ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น ร่างบอบบางจวนจะเซล้มอย่างคนหมดแรง อังเดรรีบเข้ามาประคองภรรยา
ของนายเหนือหัวไว้พาไปนั่งที่โซฟา พยาบาลเดินตามมาตรวจดูอาการ
   “นอนพักหน่อยมั้ยคะ ห้องพิเศษข้างๆยังว่างอยู่” พยาบาลถามอย่างเป็นห่วงอาการ
   “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณมาก”
   เมื่อนายหญิงปฏิเสธ อังเดรก็พยักหน้าให้พยาบาลอย่างเข้าใจกัน พอหมอกับพยาบาลออกจากห้องไปแล้ว อังเดรก็ประคองร่างบอบบางลุกขึ้นพาเดินไปที่ข้างเตียงก่อนถอยห่างออกมา ให้แม่ได้ดูแลลูกชาย โทรศัพท์ตกอยู่ที่พื้นยังอยู่ในสภาพเดิม อังเดรเก็บขึ้นมาตั้งใจจะวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง แต่ข้อความในรูปที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอทำให้ต้องชะงักมือไว้
เขารู้สาเหตุที่ทำให้เจ้านายคลั่งขึ้นมาอีกครั้งแล้ว หวนคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปไม่นาน ตั้งแต่วันที่สูญเสียคนรักไป เจ้านายของเขาก็แทบเสียสติ อาการคลุ้มคลั่งและอาละวาดหนักจนปั่นป่วนไปทั้งโรงพยาบาล ใครก็เข้าหน้าไม่ติดแม้กระทั่งมารดาผู้ให้กำเนิด ถ้าไม่ได้เข็มยาสลบที่ฉีดให้ทุกวัน เจ้านายเขาคงบ้าไปจริงๆ อังเดรตัดสินใจส่งโทรศัพท์ให้นายหญิง
 “ฉันทนเห็นลูกเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้วอังเดร” น้ำเสียงอ่อนแรงปนสะอื้นเอ่ยขึ้น
“ให้ผมแจ้งข่าวดอนมั้ยครับ”
“ช่วยบอกแทนฉันที ฉันอยากพาลูกกลับบ้าน”

**************************************************

แสงของโคมไฟส่องสว่างให้เห็นเงาของคนๆหนึ่งซึ่งกำลังนั่งขดตัวอยู่มุมห้อง ร่างกายผ่ายผอมอยู่ในชุดนอนลายทางสีอ่อน ใบหน้าที่ซูบตอบอิงแอบอยู่กับผนังห้องเหยียบเย็น นัยน์ตาหมองเศร้าหลุบต่ำมองแหวนทองคำขาวที่สวมอยู่ในนิ้วมือ ปลายนิ้วอีกข้างลูบคลึงมันไปมา ริมฝีปากแห้งแตกคลี่ออกเป็นรอยยิ้มบางก่อนหยดน้ำตาจะค่อยๆไหลออกมา อากัปกิริยาเหม่อลอยตามมาหลังจากนั้น เปลือกตาค่อยๆปิดลง เสียงหายใจเป็นจังหวะเข้าออกอย่างช้าๆ บ่งบอกถึงสภาพร่างกายของชายหนุ่มที่ไม่สู้ดีนัก
ก็อกๆๆ
เสียงเคาะประตูไม่ได้ทำให้คนในห้องรู้สึกตัว จนกระทั่งร่างสูงใหญ่เดินมานั่งลงตรงหน้าพร้อมวางมือบนศีรษะที่ปราศจากเส้นผม
“ควิน ได้เวลากินยาแล้วลูก” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกลูกชาย
เจ้าของชื่อค่อยๆลืมตา เงยหน้าหันมามองคนเรียกทั้งใบหน้าเปื้อนน้ำตา แม้จะสะเทือนใจกับสภาพของลูกชายมากเพียงใด คนเป็นพ่อก็ยังคงส่งยิ้มอบอุ่นให้ลูกก่อนช่วยพยุงให้ลุกขึ้น เสียงโซ่ลากไปตามพื้นดังขึ้นเมื่อขายาวค่อยๆก้าวเดินมาถึงเตียง
“พ่อขอโทษ”
น้ำตาซึมเมื่อก้มลงมองข้อเท้าลูกที่มีโซ่ล่ามไว้ราวกับเป็นนักโทษทั้งที่อยู่ในห้องภายในบ้านของตัวเอง แม้จะทำราวกับลูกเป็นสัตว์เลี้ยง แต่เหตุผลที่แท้จริง คนเป็นพ่อแค่ต้องการรักษาชีวิตของลูกชายไว้
“ไม่เป็นไร”
น้ำเสียงอ่อนแรงตอบกลับ ก่อนค่อยๆนั่งลงบนเตียง รู้แก่ใจดีว่าที่ตัวเองถูกขังอยู่ในห้องทั้งยังถูกล่ามโซ่ไว้แบบนี้เพราะสาเหตุใด
“พ่อเหลือควินคนเดียว ควินเข้าใจใช่มั้ย”
คนฟังพยักหน้ารับทั้งน้ำตา เข้าใจความหมายที่พ่อต้องการสื่อ
“ทานยาเถอะ จะได้พักผ่อน”
ส่งยาพร้อมแก้วน้ำให้ นั่งมองจนลูกทานยาเสร็จก็จัดการเก็บแก้วน้ำวางไว้ตามเดิม
“มือถือของลูก” บอกพลางส่งของสำคัญให้อย่างที่ทำมาทุกวันตั้งแต่พาลูกกลับมารักษาตัวที่บ้าน
ควินรับมากำไว้แน่น นัยน์ตาแดงก่ำที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตามองพ่อบังเกิดเกล้าที่กำลังนั่งลงแทบเท้าเขา ค่อยๆจัดการปลดโซ่ให้อย่างระวังเพื่อที่เขาจะได้นอนหลับอย่างสบายตัว พอไม่มีโซ่ล่าม คนป่วยก็ขยับตัวเอนหลังพิงหัวเตียง คนเป็นพ่อจึงจับผ้าห่มคลุมตัวให้ลูกชาย แล้วถอยไปนั่งมองอยู่ปลายเตียง นั่งเฝ้าจนกว่าลูกจะหลับสนิทไปเพราะฤทธิ์ยา นี่คือหน้าที่ที่คนเป็นพ่อต้องทำหลังจากวันที่เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นวันนั้น
นั่งมองลูกชายจ้องหน้าจอโทรศัพท์ มองหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของลูก ฟังเสียงร้องไห้อย่างทุกข์ทรมานของลูกด้วยหัวใจที่เจ็บปวดไม่ต่างกัน ไม่คิดว่าจะได้ทำหน้าที่ของพ่อในตอนที่ลูกมีสภาพเช่นนี้
“ต้าร์”
เสียงครางชื่อจากลูกทำให้คนที่นิ่งไปความคิดตัวเองหลุดออกจากภวังค์
“ควิน เป็นอะไร เจ็บตรงไหน” ถามเสียงตื่นเมื่อเห็นว่าลูกเริ่มร้องไห้หนักจนสั่นไปทั้งตัว
“ต้าร์...จะไปหาต้าร์”
“ไม่ได้!” เผลอตะคอกใส่เพราะความกลัวว่าจะเสียลูกไป
“ปล่อยผมไป ขอร้อง…ผมขอร้อง”
“ควิน…”
คนเป็นพ่อส่ายหน้าเมื่อลูกเริ่มทำร้ายตัวเองด้วยการทุบอกซ้ำๆ มืออีกข้างที่ยังถือโทรศัพท์ไว้แน่นก็ทุบที่หัวของตัวเองอย่างไม่กลัวว่าจะบาดเจ็บ เห็นภาพตรงหน้าแล้วคนเป็นพ่อก็ได้แต่กัดฟัน ตัดสินใจหยิบโซ่บนพื้นขึ้นมาล็อคไว้กับข้อเท้าของลูกตามเดิม
“ปล่อย!” ควินตะคอกใส่พ่อทั้งน้ำตา
แม้จะเจ็บปวดที่ถูกลูกตะคอกใส่ แต่คนเป็นพ่อก็ไม่คิดเอ่ยคำใดออกมาอีกนอกจากยึดโทรศัพท์ในมือลูกกลับมา
“เอาคืนมา! ต้าร์อยู่ในนั้น! เอามือถือผมมา!”
ควินร้องสั่งเสียงดังลั่นห้อง หอบหายใจแรงอย่างเหนื่อยล้า พยายามขยับตัวเข้าใกล้พ่อเพื่อจะแย่งเอาโทรศัพท์คืนมาแต่ก็ต้องทรุดเพราะยาเริ่มออกฤทธิ์ทำให้ภาพตรงหน้าพร่ามัว แต่ถึงยังนั้นเสียงแหบพร่าก็ยังลอดออกจากปาก
“ผมจะไปอยู่กับต้าร์ ปล่อยให้ผมไปอยู่กับคนที่ผมรัก ได้โปรด…”
หยดน้ำตาไหลผ่านสันจมูกโด่งเมื่อเปลือกตาของคนสิ้นฤทธิ์ปิดลง ร่างสูงหลับไปในท่าตะแคงตัวใบหน้าซีกนึงจมไปกับฝูกนุ่ม
“ทรมานแค่ไหนก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะควินเป็นลูกพ่อ”
มองลูกทั้งน้ำตาซึมก่อนเดินเข้าไปใกล้ วางโทรศัพท์ของลูกไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง จับพลิกตัวให้ลูกนอนหงาย คลี่ผ้าห่มขึ้นคลุมตัวให้ ประโยคที่ลูกตะคอกใส่ยังดังก้องอยู่ในหัวจนต้องหันไปมองโทรศัพท์เจ้าปัญหา หยิบมันขึ้นมาเปิดดูด้วยความเจ็บใจอยู่ลึกๆที่แม้แต่ลูกยังรักและอยากไปอยู่กับคนที่ตายไปแล้วมากกว่าคนเป็นพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่ คิ้มเข้มขมวดมุ่นเมื่อสายตาปะทะกับรูปถ่ายข้อความที่แสดงอยู่ในหน้าจอ ไล่สายตาอ่านมันจนจบ แทบไม่รู้ตัวว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ส่งสัญญาณสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงจึงหยิบมันออกมา พอเห็นชื่อคนโทรเข้าก็รีบรับสายทันที โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยคำ
    “พี่ครับ ช่วยผมด้วย ช่วยหลานชายพี่ด้วย”

**************************************************



v
v
v

ออฟไลน์ New-Y Holic

  • Your love is a lie
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +207/-5
    • https://www.facebook.com/pages/New-Y-Holic/352883328112176
HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (100%) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4484 เมื่อ30-12-2015 19:25:50 »


7 ปีผ่านไป

   Tar’s Diary

ผมไม่เคยเขียนไดอารี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะเริ่มเขียนบันทึกเรื่องราวของตัวเอง เพราะหลายครั้งผมก็ไม่กล้าพูด ไม่กล้าระบายความรู้สึกออกไปตรงๆ ผมเลยลองบันทึกทุกความรู้สึกที่ไม่สามารถระบายมันออกไปได้ มันคงจะดีถ้าไดอารี่เล่มนี้จะเป็นความลับตลอดไป แต่ผมก็เชื่อว่าความลับ…ไม่มีในโลก

จู่ๆก็มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามาในชีวิตผม ในความทรงจำตอนนั้น พวกเขาสองคนคือเพื่อนของพี่ชาย ไม่เคยคิดเลยว่าชะตาชีวิตของผมจะมาเกี่ยวข้องกับพวกเขาจนถึงตอนนี้…

เมื่อก่อนผมเคยมีอิสระ โลกของผมมันสว่าง มันเป็นโลกของเด็กผู้ชายคนนึงที่ในวันปกติใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน เล่นสนุกไปกับเพื่อน ผมไม่เคยรู้ว่าตัวเองในตอนนั้นอ่อนต่อโลกมากแค่ไหน จนกระทั่งได้เจอกับพวกเขา…ยังมีอีกโลกที่ผมไม่เคยรู้ ไม่เคยได้สัมผัส และไม่เคยจินตนาการถึงมัน

ต้องยอมรับความจริงว่าชีวิตของผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว…ตั้งแต่วันที่ได้สบตากับพวกเขา

ทำไมต้องเป็นผม? คำถามนี้ ผมถามตัวเองหลายร้อยหลายพันครั้ง ผมทำผิดอะไร? ชาติก่อนผมเคยทำสิ่งไม่ดีไว้มากเหรอ บาปกรรมถึงได้ตามสนองผมในชาตินี้ ผมคิดจนปวดหัว เหมือนสมองมันจะระเบิด ได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆว่าทำไม ทำไม ทำไมต้องเป็นผม ความสัมผัสของพวกเราเดินทางมาถึงจุดเลวร้ายนี้ได้ยังไงกัน ผมได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ

พวกเขาเป็นเพื่อนของพี่ชาย ผมรักและเคารพพวกเขาเหมือนพี่ชายคนนึง ผมไม่เคยลืมความใจดี ของพวกเขาที่มีให้กับผมในช่วงเวลานั้น ความเอ็นดูที่ผมคิดเอาเองว่าพวกเขาคงคิดว่าผมเป็นเหมือนน้องชายคนนึง เพราะความโง่เขล่านั้น เพราะความผิดพลาดของตัวผมเอง ถึงทำให้ผมมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานอย่างทุกวันนี้ ผมมองพวกเขาผิดไป หรือจริงๆแล้วผมมันโง่เอง หลงคิดไปเอง คาดเดาไปเอง เรื่องราวจึงได้ดำเนินมาถึงจุดนี้

อดีตไม่มีวันหวนกลับ เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองได้ ผมรู้ดี แต่ผมก็ยังมีความคิดงี่เง่านี้อยู่ในหัวตลอดเวลา ถ้าเพียงแค่ย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าผมสามารถย้อนเวลาได้
ผม…ไม่อยากให้พวกเราต้องเจอกัน

ผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมได้รู้แล้วว่าอีกโลกที่ผมไม่รู้จักมันเป็นยังไง ผมเรียนรู้ได้จากพวกเขา ขอบคุณที่เปิดตาให้ผมมองเห็นอีกด้านนึงของมนุษย์ ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงจิตใจคน ขอบคุณที่ทำให้ผมเรียนรู้กับความโหดร้ายของชีวิต ขอบคุณที่พวกเขาเข้ามาในชีวิตผม…และเปลี่ยนแปลงมัน

น้ำตาที่กำลังไหล มันแสดงอาการว่าผมกำลังอ่อนแอ ทั้งที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งได้แล้ว แต่เปล่าเลย…ผมไม่เคยเข้มแข็ง ที่ผ่านมาผมแค่หลอกตัวเอง ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน หัวใจผมมันก็ยังอ่อนแออยู่เหมือนเดิม ผมยังรู้สึกเจ็บปวด ยังหวาดกลัว และโกรธแค้น ผมในตอนนี้ ไม่ได้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเลย

ผมคิดถึงมันอีกแล้ว ภาพเหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้น มันยังตามมาหลอกหลอนไม่หยุด ผมอยากลืมมัน ไม่อยากคิดถึงมันอีก ทำไมมันถึงยังในอยู่ในหัว ทำไมถึงยังฝั่งอยู่ในความทรงจำ ทำไมมันไม่หายไปสักที ทำไม? ผมเหนื่อย ไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ทั้งที่ในหัวยังเต็มไปด้วยความทรงจำเหล่านั้น ผมก็ไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว…

ทรมานกับฝันร้าย ความฝันซ้ำๆเหมือนวันวาน ฝันแล้วต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำตา ผมมันน่าสมเพชจริงๆ ทั้งๆที่ผ่านมานานแล้ว แต่ทำไมยังฝันถึงเรื่องวันนั้นอยู่ ต้องการอะไรกันแน่ หยุดหลอกหลอนผมได้แล้ว ผมพยายามจะลืมมัน พยายามแล้ว แต่ทำไม…ทำไมมันไม่หายไปจากใจผมสักที

ความรักคืออะไร…ถ้ารักกันแล้วจะมีความสุขใช่มั้ย? ผมอยากมีความสุข…แต่มันคงไม่มีวันนั้น

เหนื่อยมั้ยครับ ผมอยากถามพวกเขา อยากถามว่าพวกเขาเหนื่อยมั้ยที่ต้องอยู่กับผม ทุกครั้งที่สบตากัน พวกเขาคิดอะไรอยู่ ทุกวันที่ผ่านพ้นไป พวกเรากำลังอยู่กันอย่างหวาดระแวงใช่มั้ย?

พวกเราทะเลาะกันอีกแล้ว ผมจะต้องร้องไห้อีกกี่ครั้ง? พอแล้ว หยุดได้แล้ว ผมไม่อยากเสียน้ำตาอีกแล้ว ได้ยินมั้ย ได้ยินเสียงผมมั้ย หยุดทำร้ายผมสักที

พวกเราจะอยู่กันอย่างสงบไม่ได้เลยเหรอ ทำไมต้องมีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด ผมอยากอยู่อย่างสงบ ขอพื้นที่ให้ผมหายใจบ้างได้มั้ย ผมขอร้อง ปล่อยผมไป

ผมผิดสัญญา ผมผิดเอง ไล่ผมไปสิ สั่งให้ผมไปไกลๆ พูดออกมาก็ได้ว่าไม่อยากเห็นหน้าผมอีก ทำไม่ได้ใช่มั้ย? แค่ปล่อยผมไป มันไม่ยากอะไรเลย

พวกเราต่างสร้างความเจ็บปวดให้กันและกัน ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำ มันถึงจุดสิ้นสุดหรือยัง พวกเราควรหยุดได้หรือยัง ทำไมต้องทน ทนไปทำไม ทนไปเพื่ออะไร คำถามเต็มไปหมด แต่ผมก็ได้คำตอบ เพราะผมไปไหนไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ยอมปล่อยผมไป

ขอบคุณที่รักผม ขอบคุณสำหรับความทุ่มเท ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมมาตลอด ขอบคุณจริงๆครับ ผมคงพูดได้แค่คำนี้

นี่คงเป็นบันทึกสุดท้ายแล้ว…กับการตัดสินใจของผม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขอบคุณนะครับ
ทั้งสุขและทุกข์ที่พวกเราต้องเผชิญด้วยกันมา สุดท้ายมันก็ต้องมีจุดสิ้นสุด พวกเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันตลอดไปได้ ต้องมีสักวันที่พวกเราต้องเดินกันไปคนละทาง
เมื่อถึงวันนั้น…วันที่พวกเราต้องจากกันตลอดกาล

“ยังอ่านไดอารี่ต้าร์อยู่เหรอ”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น คนถามยืนอยู่ข้างหลังชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังให้ความสนใจอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ มองแผ่นหลังกว้างของคนที่เมื่อก่อนเคยคิดสั้นนับครั้งไม่ถ้วน คนที่อยากตายเพราะพิษรัก เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ดูรูปคนที่จากไป เอาแต่โทษตัวเองและร้องไห้จนหลับไปทุกคืน แต่เพราะได้ความรัก ความเอาใจใส่จากครอบครัว ทั้งพ่อทั้งยาย ทั้งลุงที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด จนในที่สุดเจ้าตัวก็คิดได้ ถึงแม้อาการจะร่อแร่ ราวกับคนไร้จิตวิญญาณ เหมือนอยู่อย่างหายใจทิ้งไปวันๆ แต่ระยะเวลาในการรักษาตัว และการเยียวยา รวมทั้งกำลังใจจากครอบครัว ทำให้ตอนนี้เจ้าตัวอาการดีขึ้นมาก สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนคนอื่น พูดคุยและยิ้มได้
“ครับ เวลาผมอ่าน ผมจะรู้สึกว่าต้าร์ยังอยู่ข้างๆผม”
“ควิน…”
เอ่ยชื่อหลานชายแล้วเงียบไป รับรู้ได้ว่าภายในใจของหลานยังคงเต็มไปด้วยบาดแผลของเรื่องราวในอดีต หากแต่เจ้าตัวคงรู้จักวิธีสะกดกลั้นมันไว้ จากเวลาที่ผ่านมานานหลายปี
“ผมโอเคครับลุง อย่าห่วงเลย”
ควินหันมาตอบพลางคลี่ยิ้มบางให้ลุงวางใจว่าเขาไม่ได้เครียด สภาพจิตใจยังเป็นปกติดี ข้อความในไดอารี่ของคนรักไม่ได้ทำให้เขาคลุ้มคลั่งเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่ทุกครั้งที่อ่าน ความเสียใจก็ไม่เคยลดน้อยลง เวลาที่ผ่านมาจวบจนวันนี้มันทำให้เขารู้ว่าความรักและความคิดถึงที่มีให้ต้าร์ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ดีแล้ว อย่าคิดมาก มาพักผ่อนทั้งที่ก็ผ่อนคลายหน่อย” คนเป็นลุงตบบ่าหลานชาย
ควินพยักหน้ารับ หันกลับไปมองท้องทะเลกว้างใหญ่เบื้องหน้า แม้มันจะมืดเพราะเวลาตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว  แต่แสงจากดวงจันทร์ยังพอส่องสว่างให้เห็นระลอกคลื่นที่ซัดสาดเข้ามากระทบฝั่ง
“งั้นลุงกลับบ้านก่อนนะ อย่าอยู่ดึกมากล่ะ พ่อกับยายจะเป็นห่วง”
“ครับ ผมขอเดินเล่นอีกสักพักก็จะกลับแล้ว”
ควินตอบและยืนรอส่งจนลุงเดินขึ้นจากหาดไป พอได้อยู่คนเดียวชายหนุ่มก็เดินเลียบชายหาดอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดและนั่งลงบนผืนทราย เงยหน้ามองแผ่นฟ้ามืดดำที่มีดาวดวงเล็กส่องประกายระยิบระยับหลอกล่อความสนใจ
“อยากให้มึงมานั่งดูดาวกับกูตอนนี้ ได้ยินเสียงกูมั้ยต้าร์ เสียงของคนที่คิดถึงมึง”
ควินยิ้มเศร้า น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมา ต้องทนทรมานอยู่กับความคิดถึง เฝ้ารอวันที่จะได้เจอกันอีก ทั้งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ในใจก็ยังหวัง แม้จะเจอกันในความฝันก็ตาม ขอแค่ได้เห็นหน้า ต่อให้ตื่นขึ้นมาพบกับความจริง ต่อให้ฝันสลาย เขาก็ดีใจ
หลายครั้งที่เมื่อก่อนพ่อพูดถึงเรื่องแต่งงาน ท่านอยากให้เขามีครอบครัว มีทายาทสืบสกุล แต่หัวใจเขามันรักได้แค่คนคนเดียว หัวใจเขามันซื่อสัตย์กับคนคนเดียวเท่านั้น เขาทรยศความรู้สึกตัวเองไม่ได้ เลยตอบท่านไปว่า ที่เขายังมีลมหายใจอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อชดใช้ความผิดที่ได้ทำไว้กับต้าร์ ท่านถึงได้เงียบไปและไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย
“หัวใจกูมีแค่มึง กูรักแค่มึงคนเดียวต้าร์”
น้ำตาไหลออกมาเมื่อความคิดถึงกำลังร้องเรียกหาคนรักอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวด ความทรมาน ความทุกข์ในหัวใจมันกลายเป็นแผลเรื้อรัง เหมือนอยู่อย่างตายทั้งเป็น รอแค่วันนั้น…วันที่หมดลมหายใจ เขาก็จะได้ไปพบกับต้าร์ ได้ไปอยู่กับคนที่รักสักที
‘จนถึงตอนนี้กูก็ยังเห็นแก่ตัว กูยังขังมึงไว้ในใจ ขอโทษต้าร์…กูปล่อยมึงไปไม่ได้จริงๆ’

**************************************************

บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรูใจกลางกรุง ย่านธุรกิจและแฟชั่น บรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองหลวงที่ไม่เคยหลับไหล ท่ามกลางแรงลมที่พัดมาปะทะใบหน้า ร่างสูงของชายหนุ่มเดินต้านกระแสลมแรงตรงไปข้างหน้าผ่านลานจอดฮอลล์ ก่อนจะหยุดนิ่งตรงสุดขอบของลานกว้าง แสงไฟจากมุมเสาทั้งสี่ส่องให้เห็นวิวรอบตัวได้อย่างชัดเจน นัยน์ตาของชายหนุ่มมองลงไปเบื้องล่าง เห็นถนนที่เต็มไปด้วยรถรามากมาย และผู้คนที่เหมือนกับมดตัวเล็กๆ เงยหน้ามองท้องฟ้า หลับตาปล่อยลมหายใจไปกับสายลมและบรรยากาศรอบตัวก่อนที่เสียงวิ่งและเสียงหอบหายใจจะดังรบกวนให้ต้องลืมตาหันไปมอง
“บอส!” เสียงเรียกดังจากบอดี้การ์ด ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า
“มีอะไร” ถามกลับเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจนัก
“บอสทำให้ทุกคนในโรงแรมแตกตื่นกันหมดแล้ว”
“กูทำอะไรผิด” นัยน์ตาคมทอแววหงุดงหงิดกับคำกล่าวหาของลูกน้อง
“เปล่าครับ แต่บอสน่าจะบอกผมก่อนว่าจะขึ้นมาดาดฟ้า”
“กูต้องรายงานมึงทุกเรื่องมั้ยอังเดร มึงเป็นแม่กูตั้งแต่เมื่อไหร่” ชายหนุ่มขึ้นเสียงพลางถลึงตาใส่
“ขอโทษครับ แต่ดอนกับมาดามเป็นห่วงบอสมากนะครับ”
“หุบปาก!”
คนถูกตวาดยิ้มเจื่อน ก่อนล้วงเอาเครื่องมือสื่อสารออกมาโทรรายงานนายเหนือหัวและภรรยาที่ยังอยู่ในงานเลี้ยง
“ครับมาดาม คุณแซทขึ้นมาดาดฟ้าครับ เอ่อ…บอสขึ้นมาเดินเล่นครับ”
รายงานเสร็จก็เหลือบมองเจ้านายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งกับพื้นเตรียมจุดบุหรี่สูบ
“มึงแก่ลงมากนะอังเดร ไม่คิดจะลาออกกลับไปหาเมียที่บ้านเกิดหน่อยเหรอ”
“ผมไม่อยากมีเมียหรอกครับ ผมอยากอยู่ดูแลบอสต่อไป เพราะปีนี้บอสก็อายุมากขึ้นเหมือนกัน”
“ไอ้อังเดร”
แซทกดเสียงต่ำ ตั้งท่าจะถีบบอดี้การ์ดแต่เสียงเรียกคุ้นหูกลับดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน
“แซท! ลูกขึ้นมาทำอะไรบนนี้”
มารดาบังเกิดเกล้าเดินเข้ามาประชิดตัวด้วยความเป็นห่วง กวาดสายตามองสำรวจตัวลูกชายก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เห็นว่าสภาพลูกยังเป็นปกติดี
“ผมก็แค่มาเดินเล่นรับลม”
แซทลุกขึ้นตอบแม่เสียงเรียบ ทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น เริ่มหงุดหงิดกับอาการแตกตื่นเกิดเหตุของมารดา
“ลูกก็น่าจะบอกแม่ก่อน จู่ๆก็หายตัวไป แม่ตกใจหมด”
กว่าลูกชายเธอจะฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอไม่อยากเห็นลูกกลับไปตกอยู่ในสภาพแบบนั้นอีก
“เอาเป็นว่าผมขอโทษ หายตกใจแล้วก็กลับเข้าไปในงานเถอะ” แซทบอกไล่แม่กลายๆ
“แซท…ลูกสัญญากับแม่แล้วนะ”
คนเป็นแม่ทวงคำสัญญาที่ลูกเคยบอกว่าจะไม่คิดสั้น ไม่คิดทำร้ายตัวเองอีก
“ผมไม่ลืมหรอก ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้ว ผมก็ยังอยู่ ไม่ได้หายไปไหน จะกลัวอะไรนักหนา!”
“บอสครับ” อังเดรแตะศอกเจ้านายเบาๆอย่างจะปรามให้ใจเย็น
“แม่ก็แค่เป็นห่วง ถ้าเดินเล่นจนพอใจแล้วก็กลับเข้าไปในงานนะลูก”
แซทพยักหน้ารับ มองตามจนมารดาเดินหายไปจากสายตาก็หันมาคาดโทษบอดี้การ์ด
“ไสหัวออกไป กูอยากอยู่คนเดียว”
“แต่…”
“กูจะอยู่กับเมียกู คนเดียว เงียบๆ” แซทบอกเสียงเข้มอย่างเน้นคำ
อังเดรพยักหน้ารับอย่างจำยอม เพราะถ้าเมื่อใดที่เจ้านายเอ่ยขอว่าจะอยู่กับคนรัก ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เจ้านายเขาแค่จะใช้เวลาอยู่คนเดียว เงียบๆ เพื่อที่จะนั่งดูรูปคนรักในโทรศัพท์ หรือไม่ก็อ่านข้อความในไดดารี่ของคนรัก เป็นอย่างนี้ประจำทุกวัน ดีเท่าไหร่แล้วที่เจ้านายเขาไม่อาละวาด ไม่ทำร้ายตัวเองเหมือนเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะมีคุณแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด คอยพร่ำบอกให้ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไป อย่างน้อยก็เพื่อไถ่บาปในใจที่ก่อไว้ในอดีต ให้มันลบล้าง และช่วยบรรเทาความเสียใจลงไปได้บ้าง
“ผมรออยู่หน้าประตูนะครับ”
อังเดรบอกเจ้านายก่อนเดินจากไป ทิ้งให้ร่างสูงอยู่คนเดียวอย่างที่ต้องการ
“ถ้ามึงยังอยู่กับกูก็คงดี ต้าร์…กูคิดถึงมึง”
แซทบอกกับคนในรูปถ่าย ปลายนิ้วแตะสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์เลื่อนดูรูปเก่าๆพร้อมรอยยิ้มเศร้า กี่ปีมาแล้วที่เขาได้แต่ดูรูปคนรักในโทรศัพท์เพื่อบรรเทาความคิดถึง กี่ปีที่เขาต้องทนดูรูปเดิมๆ ซ้ำๆ เพื่อย้ำถึงความเหงา ความโดดเดี่ยว ความทรมาน
“มึงมันใจร้าย แต่กูก็ยังรักมึง”
หยดน้ำตาไหลถูกหน้าจอโทรศัพท์ เจ้าของเครื่องรีบเช็ดมันออก สูดลมหายใจลึกอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ เวลาช่วยลดความบ้าคลั่งของเขาได้ แต่เวลา…ไม่ได้ช่วยให้เขาคิดถึงต้าร์น้อยลง
“กูรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากมึง กูยังยืนยันคำเดิม”

Kwin’s Diary

กูจะใช้เวลาที่เหลือของชีวิตต่อจากนี้ เพื่อรัก…และคิดถึงมึงตลอดไป
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนกูก็รักมึงคนเดียว ได้ยินมั้ย กูรักมึงคนเดียว

อดีตก็รักมึง ปัจจุบันก็รักมึง อนาคตกูก็ยังรักมึง



Sat’s Diary

แม้ว่าตอนที่คิดถึงมึงจะทำให้กูทรมานมากแค่ไหน เจ็บแทบขาดใจยังไง กูก็ยังคิดถึงมึง
รอวันที่จะได้เจอมึงอีกครั้ง จะในความฝันหรือชาติหน้า กูก็เชื่อว่าต้องเจอมึงอีก

รักมึงเสมอ รักมึงคนเดียว รักมึงตลอดไป

**************************************************

ในน้ำตาแต่ละหยดจะให้บทเรียนกับเรา
เพราะมันจะทำให้เราฉลาดและเข้มแข็งมากขึ้น
ความรักก็เช่นกัน…จงเรียนรู้ที่จะรัก และรักษามันไว้










-----------------------------------------------------------

ในที่สุดก็เขียนจบจนได้ จบแล้วจริงๆค่ะ T_T
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนจบนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้น ตั้งแต่ตอนที่เปิดเรื่องจนถึงตอนนี้
ระยะเวลาที่เขียนเรื่องนี้ ยาวนานมากจริงๆ ฮ่าๆๆ
ขอโทษอีกครั้งนะคะที่ไม่สามารถเขียนตอนจบให้เป็นอย่างที่หลายคนต้องการได้
ความรักก็มีทั้งสมหวังและไม่สมหวัง มีทั้งดีและร้าย
เรื่องราวในนิยายเรื่องนี้ก็เป็นมุมมองความรักอีกแบบนึง
ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับการติดตาม แล้วพบกันในตอนพิเศษค่ะ


ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4485 เมื่อ30-12-2015 23:15:22 »

สงสารควินกับแซท ต้าร์ตอนนี้ยังรักไม่มากพอที่จะให้อภัย แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่สามารถรักแบบนั้นได้นี่นา คือต้าร์ทำอะไร ไม่คิดถึงเนส ไม่คิดถึงคนที่เขารักต้าร์บ้างเลย

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 67 (100%) ] 12/12/58 : P.149
«ตอบ #4486 เมื่อ31-12-2015 00:05:44 »

เราว่าเราโอเคค่ะ  มันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นแล้วจริงๆ  ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ

ออฟไลน์ Aueizii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4487 เมื่อ05-01-2016 15:01:55 »

เฮ้อ จบแล้ว ตามอ่านจนจบ คนเขียน เขียนเก่งมากค่ะ เราร้องไห้กับเรื่องนี้เยอะมาก
เราว่าจบถูกต้องแล้ว ต้าร์คงทรมานมากเกินที่จะอยู่ต่อ ก็นั่นแหละ "จงเรียนรู้ที่จะรักและรักษามันไว้"

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4488 เมื่อ05-01-2016 15:50:12 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4489 เมื่อ05-01-2016 15:55:42 »

เขียนเก่งมากเลย ชอบมากๆ เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อไปจ้า สัญญาเลยถ้ารวมเล่มจะซื้อแน่นอน
 :L1: :pig4: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
« ตอบ #4489 เมื่อ: 05-01-2016 15:55:42 »





ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4490 เมื่อ05-01-2016 16:37:05 »

ความคิดชั่ววูบของคนเราเกิดขึ้นได้กับทุกคนเมื่อไม่เจอทางออก

อย่างน้อยทั้งสองคนก็ก้าวผ่านมาได้ ถึงจะเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน  o13 o13

ดีแล้วที่คิดยาวๆกับชีวิต คิดสั้นไปใช่ว่าเป็นทางที่ดี

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4491 เมื่อ05-01-2016 19:06:11 »

สงสารน้องต้าร์ แต่ก็รู้สึกโกรธที่ทำอะไรไม่สนหัวใจพี่เนส เฟียซ ลุงหมอบ้างเลย ไม่สนเลยว่าคนข้างหลังที่รักตัวเองจะอยู่อย่างทรมานขนาดไหน คือเสียใจ อยากให้ต้าร์ได้มีความสุขกะพี่ เพื่อน กับชีวิตที่เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป

ส่วนควินกะแซท สองคนนี้ได้รับบทเรียนชีวิต โดยใช้ชีวิตของคนๆนึงมาแลก ดีที่สำนึก เข้มแข็ง และผ่านมันมาได้ แต่มันสมควรจะเป็นแบบนี้หรือ? ความจริงมันไม่ควรจะจบลงแบบนี้เลย มันไม่ควรจะต้องเอาชีวิตคนอื่นมาเป็นจุดเปลี่ยนเลย  :ling1:

ขอบคุณนะคะที่แต่งจนจบ เราไม่เฟลกับตอนจบ แล้วเราก็โอเคค่ะ แค่อดรู้สึกอยากรำพึง "ทำไมกันนะ..." แค่นั้นเองค่ะ  o13

ปอลิง ตอนสุดท้าย แหม่ นึกว่าพี่เนสจะคู่กะเฟียซ 5555

ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4492 เมื่อ05-01-2016 19:32:41 »

แต่งตอนชาติหน้าด้วยได้ไหมคะ555555
เจอกันแล้วจีบกันดีดี จะได้เลิฟๆกัน
ขอบคุณคะที่แต่งจนจบ

ออฟไลน์ tistaek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4493 เมื่อ06-01-2016 10:13:07 »

 :katai2-1: :hao6:
ดีใจทึ่ได้อ่านเรื่องนี้ถึงตอนจบถึงแม้จะไม่สมหวังกันก็ตาม

ออฟไลน์ vivee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4494 เมื่อ06-01-2016 10:58:36 »

เขียนได้ดีมากๆเลยค่ะ เรื่องมันควรจะจบอย่างนี้จริงๆ ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ั

ออฟไลน์ diszalove_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4495 เมื่อ06-01-2016 13:48:36 »

เป็นนิยายที่ดีมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่แต่ง มันเป็นอะไรที่มีเหตุผลในตัวเอง
เราดีใจมากเลยค่ะที่จบแบบนี้ ความรักที่ควินกับแซทมีมันเป็นรักที่ทำให้ต้าร์เจ็บ
ความรู้สึกของต้าร์มันไม่มากพอที่จะรัก มันก็ไม่แปลกที่จะไป เราหวังให้นิยายจบแบบนี้แหละค่ะ
รอดูตอนพิเศษนะคะ อยากเห็นว่าถ้าวันหนึ่งต้าร์มาปรากฏตัวต่อหน้าควินกับแซท
สองคนนั้นจะทำหน้าแบบไหน จะทำตัวอย่างไร จะทำแบบเดิมอีกไหม

ออฟไลน์ doll@love

  • >3<~
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4496 เมื่อ06-01-2016 15:18:22 »

ต่อให้รู้สึกดีด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ความรักอยู่ดี มีคนมาทำดีด้วยแสดงออกว่ารักมากมาย

และก็รักเราจริงๆด้วย ต่อให้ไม่ได้รักมันก็ต้องมีความรู้สึกดีๆบ้างนั่นแหละ เป็นคนชอบนิยายฟีลกูด

แบดอีนด์อย่างนี้ไม่ค่อยชอบอ่าน แต่มันจริงในหลายๆเรื่องของความเป็นจริง

การที่เราจะสามารถรักคนที่ข่มขืนเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยกตัวอย่างง่ายๆ

หากคนรักของเราเคยนอกใจซักครั้งแล้วล่ะก็ ต่อมาไม่ว่าเค้าจะทำดีอย่างไร

แต่มันจะมีรอยร้าวที่เรียกว่า ความกลัว ความหวาดระแวงฝังอยู่ ไม่เจอกับตัวไม่รู้

การจะรักคนที่เคยทำเรื่องร้ายๆกับเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย   :a6: :a6: เคร้าจริงไรจริงเรื่องนี้


ออฟไลน์ fukuroki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4497 เมื่อ06-01-2016 15:23:44 »

จบแล้ว... เป็นเรื่องแรกเลยนะที่จบแบบนี้ ฮื่ออออออออ

แต่นี่แหละความจริง ความรักในเมื้อมันไม่ได้เริ่มต้นที่รักทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เริ่มที่ความรัก ถึงแม้เราจะรักเค้ามากจนยอมที่จะเป็นคนเลวในสายตาเค้า แต่เมื่อมันมาถึงทางตัน ที่โดนบีบบังคับจนไม่เหลือทางให้เดินต่อ อยุ่ต่อก็เจ็บ จากเป็นก็เจ็บ การจากไปของต้าร์เหมือนจะให้อิสระกับตัวต้าร์เอง แต่มันกลับเป็นการผูกมัดควีนกับแซทไม่ให้ไปไหนได้ เจ็บปวดทรมานก็จริง แต่มันก็เต็มไปด้วยหัวใจที่พองโต

ขอบคุณที่สื่อความรักในอีกรูปแบบให้ได้เห็น ขอบคุณที่ทำให้ได้รู้ว่าทุกสิ่งไม่ได้จบง่ายดายด้วยการอยุ่ด้วยกันในตอนจบ
อยากอ่านตอบพิเศษค่ะ รออยุ่นะ ^ω^

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4498 เมื่อ06-01-2016 16:59:59 »

พอเห็นตอนจบ ทำใจอยู่ตั้งนานกว่าจะอ่านได้ เรื่องมันเศร้า  :m15: :m15:


ไม่รู้จะเม้นยังไง มันอึนๆ มึนๆ สงสัยเราอินจัดไปหน่อย

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 68 (THE END) ] 30/12/58 : P.150
«ตอบ #4499 เมื่อ06-01-2016 20:05:50 »

ติดตามอ่านมานานมาก เขียนดีสุดๆ จอบคุณที่ช่วยเปิดมุมมองความรักอีกด้านนึงไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวังแต่ก็เรียกว่ารัก
รอตอนพิเศษนะ  :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด