SECRET GARDEN
คือความลับในใจฉัน..
CH1 : CACTUS
“เหมือนกูไหว้วานผิดคน แค่ให้มาเอาดอกไม้ทำไมมึงก่อเรื่อง”
“…………………………………………………………”
“ดอกไม้ก็ไม่ได้ จีจี้ก็งอน กูต้องทิ้งงานกลางคัน เข้ามุมหันหน้าเข้ากำแพงไปสำนึกผิดเลยมึงอ่ะ รามิล”
“…………………………………………………………”
ไอ้เบนบ่นเป็นหมีกินผึ้งแล้วบรรยากาศตอนนี้นี่มันอะไรวะ เขาเหมือนนักโทษทำความผิดร้ายแรงเลยเนี่ยนี่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลางร้านรายล้อมไปด้วยคนสามคนที่ยืนกอดอกจ้องหน้าอยู่คนแรกคือคนที่ให้เขาเข้ามุมสำนักผิดไอ้เบนแกงค์ลูกเพื่อนแม่ที่เติบโตมาด้วยกัน ด้านซ้ายคือเพื่อนที่ทำงานของได้เบนชื่อเจท่าทางจะรีบมากหอบมาทั้งแฟ้มเอกสารปากกายังทัดไว้ที่หูส่วนผู้ชายที่ยืนอยู่ทางด้านขวามือคือ
คุณต้นไม้..ไม่ได้หมายถึงต้นไม้ที่เป็นต้นๆ แต่เป็นชื่อเจ้าของร้านดอกไม้ SECRET GARDEN
สรุปเจ้าของร้านเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คิดไว้
“มีอะไรจะแก้ตัวไหม ไอ้มิล”
“ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมอยากถ่ายรูปต้นกระบองเพชรของคุณต้นไม้”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้“ขอโทษนะครับที่นี่ไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้ามา”
ทันทีที่จบประโยครามิลที่ตกอยู่ในภวังค์เริ่มรู้สึกตัว เลยหันกลับไปมองด้านหลังผู้ชายผิวขาวตัวผอมความสูงน่าจะสักประมาณร้อยเจ็ดสิบห้าเจ็ดสิบหกผมสีน้ำตาลยาวปรกหน้าเป็นหน้าม้าบางๆ บนตัวมีผ้ากั้นเปื้อนที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านดอกไม้สวมใส่อยู่
เด็กในร้าน? หรือว่า เจ้าของร้าน?
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ คือผมเห็นว่าไม่มีใครอยู่หน้าร้านเลยเดินเข้ามาเรื่อยๆ ”
“มารับดอกไม้เหรอครับ”
“ใช่ครับ ผมสั่งดอกไม้ไว้ชื่อเบนจามิน”
คนตรงหน้าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อเลยต้องรีบบอกว่าลูกค้าที่ชื่อเบนจามินให้มารับแทน คงจะรู้จักไอ้เบนแน่ๆ ถึงได้ทำหน้าแบบนั้นพอเจ้าตัวร้อง อ้อ..ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อยกลัวจะคิดว่าเขาเป็นขโมยขะโจนที่ไหน พอเห็นว่าเขาเงียบไปผู้ชายที่ใส่ผ้ากั้นเปื้อนก็บอกให้เขาไปรอตรงหน้าร้านจะดีกว่าที่ตรงนี้เป็นที่ส่วนบุคคล รามิลมองไปรอบๆ ต้นกระบองเพชรที่วางเรียงรายกันอยู่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันผ่านไป เขาเจอสิ่งที่อยากถ่ายแล้ว เขาจะปล่อยให้มันหลุดมือไปไม่ได้
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็น..”
“ผมเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ SECRET GARDEN ผมชื่อพฤกษาเรียกผมว่าต้นไม้ก็ได้ครับ”
“คือผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อย”
“ครับ?”
“ผมอยากขอถ่ายรูปต้นกระบองเพชรของคุณ คือผมอยากได้ต้นกระบองเพชรไปถ่ายรูปส่งประกวดภาพถ่ายผมจะอธิบายยังไงดี เอาเป็นว่าผมอยากจะซื้อต้นกระบองเพชรของคุณ”
“คุณจะถ่ายรูปต้นกระบองเพชรของผมส่งประกวดภาพถ่าย”
“อ่า…ใช่ครับ”
“มันสวยเหรอครับ”
“มันตรงตามหัวข้อที่เขากำหนดไว้ที่สุดแล้วครับ”
“คุณอยากได้ต้นกระบองเพชรไปถ่ายรูปเฉยๆ”
“ประมาณนั้นครับ”
“ถ้าผมขายต้นกระบองเพชรให้คุณพอคุณถ่ายรูปเสร็จแล้วพวกกระบองเพชรคุณจะทำยังไงต่อเหรอครับ”
ทำไมอยู่ดีๆ บรรยากาศมันเย็นยะเยือกขนาดนี้วะ..ความรู้สึกเหมือนกำลังเจรจาธุรกิจร้อยล้านอยู่ทั้งๆ ที่คุยกันเรื่องต้นไม้ใบหญ้าเท่านั้น คุณต้นไม้เจ้าของร้านไม่ได้ทำท่าดุหรือทำหน้าไม่พอใจเขาเลยสักนิดแถมยังยิ้มอยู่ด้วยโอเคยิ้มสวยอยู่หรอก..แต่เขารู้สึกเกรงอกเกรงใจไม่กล้าตอบคำถามของคุณต้นไม้เลยสักนิดเขาไม่ได้คิดอะไรต่อทั้งนั้นแหละ เขาแค่อยากจะถ่ายรูปต้นกระบองเพชรเพียงเท่านั้นไม่ได้คิดจะปลูกหรือมานั่งดูแลประคบประหงมอะไร
“ก็..”
“ผมไม่ขายต้นกระบองเพชรให้คุณ ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
เออ…“เฮ้ย เดี๋ยวคุณไม้ผมว่าเรามาคุยกันก่อน”
“ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมไม่ขาย”
“งั้นผมขอแค่ถ่ายรูปได้ไหม แบบเช่ามาถ่ายอะไรแบบนั้น”
“ไม่อนุญาตครับ”
“คุณไม้ เรามาคุยกันสักนิดคุณไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเช่าผมรับรองว่าผมไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน คุณเรียกราคามาได้เลย”
“ผมว่าคุณเบนจามินรอดอกไม้นานแล้วนะครับ”
รามิลมองเจ้าของร้านดอกไม้ที่ใจเข็งยังกะหินพูดเท่าไหร่ตื้อเท่าไหร่ก็ไม่สนใจเขาเลย แถมยังหยิบดอกไมช่อบะเร่อบะร่าของไอ้เบนออกมาวางตรงเคาน์เตอร์ คุณต้นไม้จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมได้..นี่เขารามิลนะเขาไม่มีทางที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ หรอกรามิลลากเก้าอี้มาตรงหน้าเคาน์เตอร์แล้วนั่งอยู่อย่างนั้นไม่ลุกไปไหน จนเจ้าของร้านต้องหยุดจัดดอกไม้แล้วหันมามองหน้ากันตรงๆ รามิลโน้มตัวพาดไปกับเคาน์เตอร์ก่อนจะบอก
“ถ้าคุณไม่ยอมขายต้นกระบองเพชรให้ผมผมก็จะไม่ไปไหนดอกไม้ไอ้เบนก็เอาไว้ที่นี่แหละ ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น!”
กลับมาปัจจุบัน“เมื่อไหร่มึงจะกลับบ้านคุณไม้เขาจะปิดร้านแล้ว”
“บอกคุณไม้ยอมใจอ่อนให้กูสิ”
“มึง ที่เขาขายต้นกระบองเพชรมีอีกเป็นล้านแห่งเลยถ้ามึงจะเอา คุณไม้เขาก็คงมีเหตุผลมึงเข้าใจเขาด้วย”
“ไม่ ต้องที่นี่เท่านั้นกูมั่นใจว่าต้องที่นี่เท่านั้น”
ปวดหัวเว้ย! เบนจามินเส้นประสาทในสมองจะแตกแล้วโตจนจะสามสิบแต่ยังมาเคลียร์เรื่องต้นกระบองเพชรอะไรไม่รู้ให้ไอ้รามิล ตอนที่คุณไม้โทรมาบอกให้มาพาตัวเพื่อนกลับนี่ใจตกไปตาตุ่มนึกว่าเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงแต่พอมาถึงและทราบที่มาที่ไปนี่ถึงกับกุมขมับ สงสารคุณเจ้าของร้านที่ต้องมาเจอเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ ดีที่คุณไม้ไม่ได้โวยวายหรือทำท่ารำคาญแค่นั่งห้อยขามองไอ้มิลนิ่งๆ มีแวบนึงที่เห็นคุณไม้ยิ้มขำๆ เออคงตลกท่าทางเหมือนเด็กแปดขวบของไอ้มิลมัน เบนเองไม่ได้รู้จักคุณไม้เป็นการส่วนตัวแค่สั่งดอกไม้ร้านนี้บ่อยเพราะไอ้เจที่ทำงานด้วยกันเป็นคนแนะนำ พอเห็นว่าจัดสวยถูกใจเลยใช้บริการเรื่อยมาแต่สงสัยจะแตกหักเพราะไอ้เพื่อนเฮงซวยคนเดียว
“ผมต้องปิดร้านแล้วนะครับ”
“คุณไม้ ขายต้นกระบองเพชรให้ผมเถอะครับ”
“ไม่ครับ ผมยังยืนยันคำเดิม”
ไอ้มิลพุ่งเข้าหาคุณไม้ซะจนคุณไม้แทบจะหงายหลังตกเก้าอี้ เบนจามินถอนหายใจรอบที่สามสิบตั้งแต่เจอเหตุการณ์นี้มา ท่าทางไอ้มิลจะหมดแรงสู้ถึงได้ยกมือสองข้างยอมแพ้พยักหน้าอย่างเข้าใจ เบนเลยโล่งใจไปด้วยนึกว่าจะจบแบบเจ็บเนื้อเจ็บตัวหรือไม่ก็คุณไม้โทรเรียกตำรวจมาจัดการให้มาลากคอไอ้มิลออกจากร้าน ดีที่มันยังรู้จักเกรงอกเกรงใจเป็นกะเขาบ้าง เบนจามินกับเจเลยเอ่ยลาและขอโทษที่วันนี้ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย รามิลเลยเดินตามเบนมาที่หน้าประตูร้าน จังหวะที่กำลังดึงประตูเข้ามาปิดกลับมีมือแทรกเข้ามาพร้อมกับใบหน้าของรามิลที่โผล่เข้ามาอีกรอบ
“เดี๋ยวผมจะมาใหม่เตรียมตัวเจอหน้าผมทุกวันได้เลย คุณต้นไม้”
เจ้าของร้านดอกไม้ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นก่อนจะชะโงกหน้าไปมองคนที่โดนเพื่อนลากตัวออกไป ต้นไม้ก้มหัวให้คุณเบนจามินที่เอ่ยขอโทษแทนเพื่อนเสียงดังลั่น ไม้รอจนคุณนักธุรกิจทั้งสองคนขับรถออกไปแล้วถึงได้กลับมาปิดร้านตามเดิม เสียงไลน์ที่ดังขึ้นต้นไม้เลยเดินมาตรงเคาน์เตอร์แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดข้อความ
ต้นไม้ยิ้มกับข้อความที่ได้รับก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
TREE : วุ่นวายดี************************************
“ทำไมลูกชายคนเล็กของคุณแม่ที่เลิกงานเร็วกกว่าคนอื่นถึงได้กลับบ้านช้ากว่าคนอื่นคะ”
เสียงที่ดังขึ้นมาทำให้รามิลหยุดชะงักแล้วหมุนตัวเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ห้องนั่งเล่นแทน ภาพที่เห็นคือคุณแม่ที่ตอนนี้กำลังเอาพวกแจกันเก่าๆ มาปัดกวาดเช็ดถูตามประสาคนที่ละมือจากธุรกิจ หลังจากที่คุณพ่อเขาเสียไปด้วยโรคประจำตัวเมื่อสองปีก่อนคุณแม่ของเขาก็เลยอำลาทุกตำแหน่งในบริษัทแล้วรับตำแหน่งแม่บ้านอย่างเต็มตัว
“ทำไมยังไม่นอนล่ะครับ ดึกแล้ว”
“แม่ยังไม่ง่วงก็หาอะไรทำไปเรื่อยเราเถอะตามิลไปไหนมาค่ำมืดดึกดื่น”
“ธุระนิดหน่อยครับการเจรจาไม่เป็นผล”
“ลูกค้าเรื่องมากเหรอคะ”
“ลูกค้าใจแข็งมากครับ”
รามิลทำหน้าอ้อนก่อนจะค่อยๆ ย้ายตัวลงมานอนหนุนตักคนเป็นแม่เหมือนตอนเด็กๆ คุณใบบัวเห็นเจ้าลูกชายที่ตัวโตเป็นหมีแต่ก็ยังทำท่าเหมือนเด็กสามสี่ขวบก็อดที่จะตีลงบนก้นเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“แม่ครับ คนที่เขาชอบต้นไม้นี่เขาจะชอบอะไรครับ”
“แม่ว่าเรามึนๆ นะตามิลก็ลูกเพิ่งบอกว่าเขาชอบต้นไม้”
“หมายถึง คนที่เขาชอบต้นไม้ดอกไม้แบบนี้เขาจะชอบอะไรอย่างอื่นไหมครับ”
“นี่เราไปจีบสาวร้านดอกไม้เหรอคะ”
“เรียกว่าความสัมพันธ์ในทางธุรกิจมากกว่าครับ”
“แม่ก็เลยวัยแบบนี้มานานแล้ว แต่ถ้าลูกจะจีบคนที่ชอบต้นไม้ดอกไม้แม่ว่าลูกก็ต้องชอบต้นไม้ดอกไม้ด้วย”
“แม่ผมไม่ได้จะจีบเขา”
“ประโยคเราเหมือนจะไปจีบเขามากกว่าจะไปเจรจาธุรกิจ”
“ไม่ได้จีบแน่นอน แต่แม่ครับพรุ่งนี้ผมขอกล้วยไม้ของพ่อต้นนึงได้ไหม”
SECRET GARDEN
กล้วยไม้ดอกสีส้มนี่มันอะไรกัน..
ต้นไม้ยืนกอดอกมองกล้วยไม้สีสวยที่อยู่ในกระถางกระเบื้องลายครามที่เดาว่าราคาน่าจะแพงจนไม่กล้าจะแตะ แถมไอ้คนที่เอามานี่ยืนยิ้มแฉ่งในชุดทำงานเต็มยศดูเป็นนักธุรกิจที่ว่างดีเห็นคนอื่นนี่ประชุมกันจนหัวหมุน
“ดอกกล้วยไม้นี่..”
“ผมเอามาฝากครับคุณไม้”
“เอามาฝากผม?”
“ครับ”
“เอาดอกไม้มาฝากผมที่เป็นเจ้าของร้านดอกไม้”
“………………………………………………………………..”
ต้นไม้อยากจะหัวเราะให้ตายเขาจะอยากได้ดอกไม้ไปทำไมกันในร้านเขานี่ดอกไม้ต้นไม้เป็นร้อยๆ ชนิดหรือถ้าอยากได้แบบไหนเขาก็โทรหาไร่ดอกไม้เองก็ได้นักธุรกิจตรงหน้าทำท่าคิดตามก่อนจะพูดเบาๆ ว่าเออว่ะ..แต่ท่าทางจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มีการอ้อนวอนขอซื้อกระบองเพชรเขาไม่เลิกสี่สิบล้านกลยุทธ์ในการเจรจาถูกงัดมาใช้หมดและแน่นอน
“ไม่ครับ ผมยังยืนยันคำเดิมผมไม่ขายต้นกระบองเพชรให้คุณ”
วันที่หนึ่งไม่ได้ผล…“สาวเขาไม่ชอบดอกกล้วยไม้ของคุณพ่อเหรอคะ”
คุณแม่ใบบัวคนเดิมตะโกนถามมาจากห้องครัวหลังจากที่เห็นเจ้าลูกชายกลับบ้านมาด้วยสภาพหงอยเหมือนคนหมดแรงแถมในมือยังอุ้มดอกกล้วยไม้กระถางเดิมกับที่อุ้มออกไปตอนเช้า รามิลวางกล้วยไม้ดอกสีส้มไว้บนโต๊ะแล้วชะโงกหน้ามาดูว่าคุณแม่กับแม่ครัวกำลังทำอะไรเพราะเห็นเดินกันให้วุ่น
“ตาเทพกับหลานๆอยากกินขนมไทย แม่ก็เลยเข้าครัวซะเลย”
รามิลมองบรรดาขนมไทยสารพัดชนิดที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าเชื่อได้เลยว่าเจ้าหลานฝาแฝดลูกพี่เทพบ่นอยากกินแต่คงไม่ได้มากมายขนาดนี้แน่นอนว่าสำหรับหลานสุดที่รักแล้วคุณนายใบบัวไม่เคยขัดนี่อาจจะไปเปิดตำราชาววังมาค้นสูตรทำเลยก็ได้ รามิลมองคุณแม่บ้านที่จัดวางขนมใส่กล่องแล้วนึกขึ้นได้
“พรุ่งนี้ขอผมกล่องนึงนะครับ”
SECRET GARDEN
บรรดาขนมไทยนี่มันอะไรกัน
ต้นไม้มองกล่องขนมแล้วกะพริบตาปริบๆ และแน่นอนว่าคนเดิมเวลาเดิมนักธุรกิจคนเดิมคุณรามิล เตชนะหิรัญที่ยืนยิ้มอยู่หน้าเคาน์เตอร์ประโยคที่พูดซ้ำๆ เหมือนกดอัดเสียงไว้ก็เริ่มเล่นและแน่นอน
“ผมยังยืนยันคำเดิมผมไม่ขายต้นกระบองเพชรให้คุณ และผมขอบคุณสำหรับขนมนะครับ”
วันที่สองก็ยังไม่ได้ผลต้นไม้มองแผ่นหลังที่เดินออกจากร้านไปแล้วก่อนจะหยิบโทรศัพท์ถ่ายรูปกล่องขนมแล้วกดส่ง คุณรามิลไม่ได้เอากลับไปบอกว่าคุณแม่เป็นคนทำเองเลยอยากให้เขาชิม ต้นไม้เองก็เอ่ยขอบคุณแล้วก็ไม่รู้นะว่าพรุ่งนี้เขาจะเจอกับอะไรอีก
วันที่สาม
“คุณต้นไม้วันนี้ผมเอาอาหารฝรั่งเศสมาฝากจากเชฟโรงแรมห้าดาวมาฝากคุณด้วยนะครับ”
“คุณรามิลครับ ผมไม่ขายต้นกระบองเพชรให้คุณและคุณไม่ต้องซื้ออะไรมาให้ผมแล้ว”
วันที่สามก็ยังไม่ได้ผลวันที่สี่
“คุณไม้ไปกินเหล้ากันไหมครับ !”
“…………………………………………………”
วันที่สี่ก็ยังไม่ได้ผล“รามิลลูกเพื่อนแม่มึงไปจีบใครที่ร้านดอกไม้วะแม่มึงมาบอกแม่กูว่ามึงหอบหิ้วสารพัดอย่างไปฝากเขา”
คินเดินเข้ามาหาคนที่นั่งจิบเบียร์อยู่ตรงโต๊ะในร้านประจำ ทันทีที่ได้ฟังรามิลถึงกับกระดกเบียร์ในมือจนหมดแก้วแล้วเอนศีรษะพิงไปกับโซฟาท่าทางหมดอาลัยตายอยากของเพื่อนในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนทำเอาคินขมวดคิ้วนี่ต้องสั่งเบียร์เพิ่มเพื่อมาปลอบใจ
“มึงจำที่ไอ้เบนเล่าใฟ้ฟังเมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ป่ะวะ”
“ที่มึงไปงอแงที่ร้านขายดอกไม้ต้นไม้อะไรสักที่สรุปมึงไปจีบเขา? ไหนไอ้เบนบอกเจ้าของร้านเป็นผู้ชาย”
“ไม่ได้จีบกูจะขอซื้อต้นไม้เขาแต่เขาไม่ขาย”
ยิ่งฟังคินก็ยิ่งทำหน้า งง มากกว่าเดิมรามิลเลยต้องเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังอีกรอบมีการย้ำรอบที่สิบล้านว่า ต้นกระบองเพชรที่ร้าน SECRET GARDEN สวยมากทุกอย่างมันตรงตามคอนเสปสำหรับการถ่ายรูปส่งประกวด คินถามอีกรอบว่าถ้าจะถ่ายต้นกระบองเพชรที่อื่นก็น่าจะมีเหมือนกันอาจจะสวยกว่าที่นี่ด้วยซ้ำ แต่รามิลส่ายหน้าไปมาพร้อมกับบอกว่าต้องที่นี่เท่านั้น
“กูรู้ว่ามึงดื้อมาตั้งแต่เด็กไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ แต่กูกลัวว่าเจ้าของร้านจะแจ้งตำรวจมาจับมึงสักวันข้อหาคุกคาม”
“กูไม่ได้ไปแต๊ะอั๋งเขาสักหน่อย”
“มึงโผล่ไปร้านเขาทุกวันแบบนี้ก็ใกล้เคียงพวกโรคจิตแล้ว เออ..มีคนจะอยากจะสั่งสอนมึงด้วย”
รามิลขยับตัวมานั่งเท้าคางรอเมื่อคินยกโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วกดวีดีโอคอลหาใครสักคนแค่เพียงไม่นานภาพที่ปรากฏขึ้นมาบนจอโทรศัพท์ทำให้รามิลหลุดขำ คนตัวเล็กตาโตๆ ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าบึ้งตึงอยู่ตรงหน้าคือสมาชิกแกงค์ลูกเพื่อนแม่อีกคน
ทิม นพจินดา “ไอ้เบนรายงานให้มึงฟังแล้วใช่ไหมทิมถึงอยากคุยกับกู”
“งี่เง่า!”
“โห..นี่กูโดนคนที่ได้ตำแหน่งงี่เง่าที่สุดในกลุ่มด่าว่างี่เง่าจะร้องไห้แล้วเนี่ย”
“มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยไอ้มิล ใครให้มึงไปทำนิสัยป๋าใส่เจ้าของร้านดอกไม้ เขาไม่เอากระถางปาใส่หัวก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
“ก็เขาไม่ขายต้นกระบองเพชรให้กูอ่ะทิม”
“เพราะมึงเป็นแบบนี้เขาถึงไม่อยากขายให้มึง ถ้าอยากได้จริงๆ ก็อย่าทำท่าทางเล่นๆ มึงเคยคุยกับเขาจริงๆ จังๆ หรือยังว่าเพราะอะไรทำไมมึงถึงอยากได้ต้นไม้ร้านเขา ไม่ใช่เอะอะก็ใช้เงินฟาด”
รามิลเงียบไปเมื่อฟังเพื่อนสนิทสั่งสอน จะว่าไปมันก็จริงเขาไม่เคยบอกเหตุผลที่เขาอยากได้ต้นกระบองเพชรให้คุณต้นไม้ฟังเลย เขาพอจะดูออกว่าคุณต้นไม้คงไม่อยากจะขายต้นกระบองเพชรที่เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูให้ใครก็ไม่รู้ที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาบอกว่าอยากถ่ายรูปกระบองเพชรแถมยังเอานู่นเอานี่มาฝากทุกวันหวังผลอีกต่างหาก
“ไปอยู่เยอรมันแล้วดูเติบโตขึ้นเยอะ”
“พวกมึงทุกคนเป็นเหมือนกันหมดเอะอะๆ ใช้เงินฟาดไม่ใช้สมองเลย ไอ้เบน คิน มึงด้วยไม่ต้องมาหัวเราะเดี๋ยวกูต้องไปแล้ว แม่มีนัดกับลูกเพื่อนแม่นอกแกงค์เห็นว่าจะหมั้นเลยให้กูมาออกแบบแหวน”
“เมื่อไหร่จะกลับไทยวะ”
“เดือนหน้าชัวร์ๆ เออ..กูต้องไปจริงๆ แล้วแม่เรียกกูรอบที่สิบ”
“คิดถึงนะจ๊ะทับทิม”“สัสมิล! ไอ้เพื่อนชั่ว!”
ยังโหดเหมือนเดิมอุตส่าห์หวานใส่รามิลแกล้งส่งจูบโบกมือให้อีกคนที่อยู่คนละฟากโลกแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคือภาษาไม่สุภาพที่ไม่เข้ากับหน้าตาคนพูดเลยสักนิด ขนาดไอ้คินยังโดนด่าไปด้วยแต่มันก็เป็นเรื่องปกติมาตั้งแต่เด็กนี่มันก็ไปเยอรมันนานแล้วเห็นบอกจะกลับเดือนหน้าดีเหมือนกันแกงค์ลูกเพื่อนแม่จะได้สมาชิกครบสักที
“เดี๋ยวมันก็ไปฟ้องไอ้เบน มึงก็ชอบแกล้งไอ้เบนก็ชอบโอ๋”
“แล้วมึงอ่ะ”
“กูเป็นเบ๊ไงครับ ตั้งแต่อนุบาลกูนี่เป็นคนสะพายกระเป๋าแบกกระติกน้ำส่วนไอ้ทิมเดินแดกอมยิ้มหน้าตาเฉย”
“ก็เห็นบ่นตลอดแต่มีคนมาจีบมันทีไรทั้งไอ้เบนและมึงหวงจนนึกว่าเป็นพ่อ”
“อ้าว..นี่คุณชายทับทิมใครจะให้ไปง่ายๆ ต้องผ่านด่านกูก่อนมึงอ่ะหัวหน้าแกงค์ต้องด่านยากสุด”
“ผ่านมาถึงกูๆจะยกไอ้ทิมฟรีแถมคอนโดริมน้ำบริษัทกูเลยหนึ่งห้อง”
แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ไอ้เบนที่เพิ่งมาถึงบอกว่ารับสายจากเยอรมันนึกว่าไอ้ทิมจะโทรมาถามเรื่องของฟงของฝากไรงี้แต่กลับกลายเป็นบ่นเรื่องบ้าบออะไรไม่รู้ จบด้วยคำถามที่ว่าแหวนหมั้นนี่มันต้องเป็นแบบไหน รามิลไม่ได้ฟังที่เบนพูดเท่าไหร่นักในหัวมันคิดแต่เรื่องที่ทิมบอกซ้ำไปซ้ำมา
พรุ่งนี้เขาจะลองดู
“ผมปิดร้านเลยนะครับพี่ไม้”
พนักงานส่งดอกไม้ที่ชื่อเต้ควบตำแหน่งผู้ช่วยในร้านถามคำถามนี้กับเขาเป็นรอบที่สามแล้วเขาก็พยักหน้าตอบเป็นรอบที่สาม และเหมือนจะถามอีกครั้งเป็นรอบที่สี่ไม้เลยชิงตอบว่าปิดได้เลย
“แล้ววันนี้คุณนักธุรกิจไม่มาเหรอครับ”
“พี่จะไปรู้ได้ยังไงกัน”
“ไม่สนุกเลยยอมแพ้ง่ายเกินไปเห็นมาตื้อพี่ไม้ทุกวัน”
“เขาจะมาซื้อต้นกระบองเพชรต่างหาก”
ไม้เห็นเต้บ่นต่ออีกสองสามประโยคก่อนจะยอมแพ้เลิกถามคำเดิมๆ เป็นรอบที่สี่ ต้นไม้ก้มหน้าเช็คบัญชีของร้านต่อสักพักก่อนจะเงยหน้ามองต้นกระบองเพชรที่วางโชว์ไว้ตรงเคาน์เตอร์แล้วยิ้ม
SECRET GARDEN
“วันนี้มิลของแม่ไม่มีอะไรไปฝากสาวเหรอคะ”
คุณใบบัวเอ่ยทักลูกชายที่วันนี้เดินตัวปลิวลงมาจากบันไดเห็นหลายวันที่ผ่านมาต้องมีอะไรติดไม้ติดมือมาด้วยตลอด ปานอัปสรทำตาโตถามซ้ำว่าน้องชายเธอไปจีบใครแต่คุณใบบัวว่าส่ายหน้าพลางบอกว่าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ขนาดเลขาอย่างคุณพิมพ์ดาวยังแอบมากระซิบว่าเจ้านายเด้งตัวก่อนเวลาเลิกงานทุกวัน
“ผมบอกว่าผมไม่ได้ไปจีบเขาอันนี้นี่ธุรกิจล้วนๆ ”
“มีโปรเจคใหม่เหรอวะทำไมพี่ไม่รู้”
“ไม่เกี่ยวกับบริษัทพี่เทพอันนี้ธุรกิจผม”
“ทำอะไรระวังไว้ด้วยขาดทุนไปนี่ไม่คุ้ม”
“ระดับผมไม่มีขาดทุนหรอกครับมีแต่ได้กับได้”
“เหรอคะ แต่แม่เห็นมิลเดินคอตกกลับบ้านทุกวันเลยนะ กล้วยไม้คุณพ่อเขาก็ไม่เอา ขนมที่แม่ทำเขาเอาไปทิ้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ อาหารฝรั่งเศสก็ไม่ได้ผล”
ทั้งครอบครับเตชนะหิรัญเห็นท่าทางหน้าแตกเพล้งของคุณชายรามิลก็พากันหัวเราะกันใหญ่ แต่รามิลก็ย้ำให้ทุกคนรับรู้ว่าระดับเขาแล้วไม่มีทางพลาดแน่อนนรับรองได้เลยทุกคนก็ได้แต่อวยพรขอให้โชคดีคุณใบบัวยิ้มขำแต่ก็ยังคงสงสัยว่านี่มันเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจแน่รึเปล่าเพราะไม่เคยเห็นลูกชายเอาจริงเอาจังขนาดนี้มาก่อน
แต่ถ้าจะหาลูกสะใภ้เธอเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก
เขาแก่จนปูนนี้แล้วจะมาวางมาดร้ายแบบแม่ผัวในละครก็คงไม่ใช่
ตื่นเต้นเหมือนจะไปสัมภาษณ์งาน
ทั้งๆ ที่ความจริงรามิลไม่เคยไปสัมภาษณ์งาน
วันนี้ลุกลี้ลนทั้งวันจนคุณพิมพ์ดาวแทบจะหยิบไม้เรียวมาฟาดแถมเอาแต่ดูนาฬิกาทุกห้านาทีตาก็เอาแต่มองไปที่ประตูห้องเหมือนจะพุ่งตัวออกไปได้ทุกเมื่อ ทันทีที่นาฬิกาบอกเวลาสิบแปดนาฬิการามิลหยิบกุญแจรถพร้อมแล้วแต่อยู่ดีๆ คุณพิมพ์ดาวก็เปิดประตูพร้อมกับผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ถือแฟ้มมาพะลุงพะลัง
“คุณมิลคะคุณมานพขอประชุมด่วนค่ะ โครงการคอนโดแถวอ่อนนุชมีปัญหานิดหน่อย”
รามิลหยุดค้างชะงักอยู่หน้าโต๊ะทำงาน
และดูจากหน้าตาตื่นตะหนกของคุณมานพแล้วปัญหาคงจะไม่ใช่แค่นิดหน่อย
23.30 น.หน้าร้านดอกไม้ secret garden มืดสนิทก็แน่แหละปกติคุณต้นไม้ปิดร้านตอนสามทุ่มครึ่งสามทุ่มสิบห้าก็เริ่มเก็บของแล้วด้วยซ้ำ รามิลซบหน้าลงกับพวงมาลัยหมดแรงจะขยับเขยื้อนตัวไปไหน สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินลงจากรถแล้วไปนั่งตรงหน้าร้าน นี่เตรียมคำพูดมาตั้งแต่เมื่อคืนแต่กลับไม่ได้พูดสักประโยค เขาไม่ชอบให้อะไรมันค้างคาเลยตั้งใจจะบอกคุณต้นไม้วันนี้ทั้งหมด
แต่ก็พังไม่เป็นท่า
ไอ้เบนบอกเหมือนจะไปสารภาพรักแต่จริงๆ นี่คือการเจรเจาขอซื้อต้นไม้
จังหวะที่กำลังจะลุกขึ้นขับรถกลับบ้านอยู่ดีๆ ประตูหน้าร้านก็เปิดออกพร้อมกับไฟสลัวๆ ตรงนอกร้านก็ติดจนสว่างจ้า รามิลหันไปมองที่ประตูใบหน้าของเจ้าของร้านก็โผล่ออกมาพร้อมกับอาวุธในมือคิดว่าเป็นเสียมพลั่วหรือจอบอะไรสักอย่าง
“คุณรามิล”เกือบโดนฟันหัวแบะ
ดีที่คุณไม้ยังจำหน้าเขาได้เลยได้มานั่งในร้านดอกไม้ตอนเกือบเที่ยงคืน เจ้าของร้านที่อยู่ในชุดนอนสีเขียวอ่อนบอกว่าได้ยินเสียงรถเลยเดินไปเปิดกล้องวงจรปิดเห็นคนมานั่งหน้าร้านเลยนึกว่าโจร รามิลคิดว่านี่เขาทำตัวใกล้เคียงกับพวกโรคจิตตามที่ไอ้ทิมบอกเข้าไปทุกวัน
“วันนี้ไม่มีอะไรมาฝากเหรอครับ”
“ถ้าเวลานี้ผมคงต้องซื้อขนมจีบซาลาเปาเซเว่นมาฝากคุณไม้แล้วล่ะครับ ผมเพิ่งเลิกประชุมเมื่อตอนห้าทุ่มนี่เอง”
“นี่คุณก็เหมือนนักธุรกิจคนอื่นๆ เขาเหมือนกันเนอะ”
“ปกติหกโมงผมเด้งออกจากเก้าอี้ทำงานกดลิฟท์ตรงดิ่งมาที่รถเลย”
ต้นไม้ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็นะหลายวันผ่านมาหกโมงกว่าๆ ก็เห็นรามิลโผล่หน้ามาที่ร้านตลอด ก็คงมีวันนี้ละมั้งที่มาเวลาเกือบเที่ยงคืนหายไปวันนึงไม่รู้ว่าไปคิดแผนแบบไหนมาอีก พอต่างคนต่างเงียบก็เลยไม่รู้จะทำอะไรต้นไม้เลยหันไปจับกระถางต้นกระบองเพชรที่วางอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์
“คุณไม้ครับเรื่องต้นกระบองเพชร”
“ผมไม่ขายครับ”
“ผมรู้”
“เอาจริงๆ คุณเห็นพวกต้นกระบองเพชรไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ มันสวยจนถึงขนาดเอาไปถ่ายรูปได้เลยเหรอครับ”
รามิลลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่แล้วเดินมาตรงหน้าเค้าน์เตอร์ เจ้าของร้านดอกไม้ SECRET GARDEN ก็ยังเป็นเหมือนวันแรกที่เขารู้จัก ผู้ชายอารมณ์ดีที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มีรอยยิ้มอยู่เสมอขนาดวันแรกที่เขางี่เง่าใส่เจ้าตัวก็ไม่ได้เอ่ยปากไล่เป็นคนใจเย็นในระดับนึงไม่ใช่แค่ใจเย็นแต่รามิลรู้สึกว่า
เวลาที่อยู่ใกล้ๆ จะรู้สึกเย็นๆ สดชื่น
เหมือนเวลาที่เราอยู่ใกล้ต้นไม้ “ผมยอมรับนะครับว่าผมไม่เคยสนใจเรื่องต้นไม้ดอกไม้ใบหญ้ามาก่อน เวลาที่ผมเห็นดอกไม้ผมก็แค่รู้สึกว่ามันสวยดีก็แค่นั้น แต่วันที่ผมเห็นต้นกระบองเพชรของคุณครั้งแรก ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์”
“………………………………………………………………….”
“เพียงแค่ไม่ถึงสิบนาทีแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันสวยจนอยากจะถ่ายเก็บรูปเอาไว้”
“……………………………………………………………………….”
“ความคิดผมไม่ซับซ้อนเลย เพราะสวยผมเลยอยากถ่ายรูปและผมเองก็รู้สำหรับคุณที่ดูแลต้นกระบองเพชรมาอย่างดี แต่อยู่ดีๆ ก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาขอซื้อง่ายๆ เพียงเพราะว่ามันตรงกับคอนเสปของการประกวดรูปถ่าย”
“……………………………………………………………………..”
“ผมมีเวลาให้คุณตัดสินใจอีกนานเพราะกว่าจะส่งผลงานก็ปลายปี แต่อยากที่บอกไปเหตุผลผมมีเท่านี้จริงๆ ครับ”
“……………………………………………………………………..”
“คุณมิลคุณบอกว่าคุณชอบต้นกระบองเพชรเพราะว่ามันสวยดี”
“ครับ”
“แต่คุณยังไม่ได้หลงรักมัน”“………………………………………………………………..”
“ผมไม่รู้หรอกนะเวลาที่คุณถ่ายรูปคุณถ่ายด้วยความรู้สึกแบบไหน แต่สำหรับผมๆ คิดว่าถ้าเรารักสิ่งที่เราจะถ่ายมันก็คงจะออกมาสวยการที่เราถ่ายไปงั้นๆ ผมยังยืนยันคำเดิมผมคงขายต้นกระบองเพชรให้คุณไม่ได้คุณรามิล”
รามิลหลับตาลงก่อนจะถอนหายใจเขาเข้าใจเหตุผลที่คุณไม้ต้องการจะบอก ยอมรับเลยว่าเขาไม่ได้รู้สึกชอบหรือรักต้นกระบองเพชรเป็นพิเศษก็แค่อยากถ่ายรูปมันก็เท่านั้น นักธุรกิจยกมือยอมแพ้เขาเองก็ไม่มีอะไรจะไปอธิบายให้คุณต้นไม้ฟังแล้วเช่นกันอย่างน้อยวันนี้ก็ควรจะถอยทัพไปก่อน รามิลเอ่ยลาเจ้าของร้านดอกไม้แล้วเดินไปที่ประตู แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคที่เจ้าของร้านดอกไม้ SECRET GARDEN บอก
“สนใจมาทำ part time ที่ร้านดอกไม้ไหมครับสามเดือนต่อจากนี้ผมจะให้คุณมาอยู่กับต้นกระบองเพชร ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำให้คุณรักต้นกระบองเพชรขึ้นมาบ้างหรือเปล่า”รามิลยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูร้านในสมองประมวลคำพูดของคุณต้นไม้วนไปวนมา ความเงียบที่เกิดขึ้นทำให้ต่างคนต่างมองหน้ากันอยู่อย่างนั้นจนรามิลเป็นฝ่ายที่เดินเข้ามาหาก่อนจะยิ้มให้คนที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์
“ฝากตัวด้วยนะครับเจ้านาย ช่วยทำให้ผมหลงรักต้นกระบองเพชรทีนะครับ”
SECRET GARDEN
ความลับของต้นไม้
TO BE CONTINUED
ต่อจากนี้จะเป็นการเวลคัมสู่โลกของต้นกระบองเพชรค่ะ 555
#ความลับของต้นไม้ ฝากด้วยนะคะ