TWINS บทที่ 14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์ ผมกลับมาถึงห้องด้วยความมึนงงและคิดไม่ตก เฮ้อ ช่างมันก่อนละกัน พรุ่งนี้อาจได้รู้อะไรมากขึ้นก็ได้ ผมคิดพลางเปิดประตู มองหาบุคคลที่ผมเป็นห่วงซะเหลือเกิน ผมหิ้วโจ๊กของโปรดมาฝากธัชด้วย ยิ่งไม่สบายถ้าได้กินต้องหายไวแน่ๆ ผมแกะโจ๊กใส่ถ้วยและเดินเข้าไปหาน้องในห้อง ผมจับตัวน้องอีกครั้ง ตัวยังร้อนนิดๆ แฮะ เดี๋ยวต้องเช็ดตัวอีกที
" พี่มาแล้วเหรอครับ " ธัชลืมตาขึ้นและยิ้มให้ผมอย่างอ่อนแรง
" เป็นยังไงบ้างธัช ยังปวดหัวหรือเปล่า "
" แค่ตัวร้อนนิดหน่อยเองครับ แต่พรุ่งนี้ก็คงหายแล้ว "
" หิวไหม พี่ซื้อของโปรดเรามาให้แน่ะ อยากกินไหมพี่จะป้อน " ธัชดันตัวขึ้นทันทีที่ได้ยิน ฮ่ะๆ เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ ผมช่วยให้น้องนั่งได้ถนัดๆ พลางเป่าโจ๊กและ
" อ้ามมม " ผมที่บอกแบบนั้น แต่ช้อนดันเลี้ยวเข้าปากตัวเองซะได้ ฮ่าๆ นิสัยไม่ดีเลยไอ้มือไม่รักดีนี่
" พี่ธิชเล่นมุกนี้ตลอด ฮ่ะๆ "
" อย่ากังวลพี่ตีมันให้แล้ว ฮ่าๆ " ผมยิ้มพูดเล่นกับน้อง ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อก่อน คนที่เล่นแบบนี้ก็คือธัชต่างหากล่ะ
ผมจ้องมองธัช ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ธัช ลูบหัวน้องเบาๆ พลางนึกถึงอดีตที่พวกเราเคยผ่านพ้นมา
ผมที่หาเศษขนมปังมาได้ ก็รีบกลับมาหาน้องชาย ที่นอนรอกินข้าวด้วยสายตาเหม่อลอย ธัชตัวมอมแมมไปหมด แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะหาเสื้อผ้าดีๆ ให้ธัชเอง ผมนั่งลงและลูบแก้มที่เปื้อนโคลนของน้องด้วยความรัก ผมมองขนมปังในมือที่มีแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่คงพอให้น้องอิ่มได้
" ธัช กินนี่ซะนะ " ผมฉีกขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ และป้อนให้น้อง
" แล้วพี่ละครับ " ธัชมองผมด้วยใบหน้าระโหยโรยแรง
" พี่กินแล้ว พี่อิ่มแล้ว " ผมโกหก และยิ้มให้น้องอย่างอ่อนโยน
" อ้ามม " ธัชหยิบขนมปังขึ้นมาและยื่นมันมาให้ผม
" ผมอยากป้อนพี่ " ผมส่ายหน้าไปมาและดันมือน้องออก
" พี่อิ่มแล้วจริงๆ ธัช " ผมยิ้มให้น้อง ธัชน่ะเป็นเด็กดี และมองผมออกเสมอ
ธัชยังคงยื่นขนมปังมาจ่อปากผมอยู่อย่างนั้น แต่พอผมอ้าปาก ธัชก็เอาขนมปังนั้นเข้าปากตัวเองซะงั้น หนอย เด็กคนนี้นี่
" นี่แนะ เด็กคนนี้ " ผมหยิกแก้มน้องแบบหมั่นเขี้ยว เห็นธัชยิ้มได้ผมก็มีแรงแล้ว ไม่มีอะไรมีค่าสำหรับผม นอกจากธัชอีกแล้ว
" พี่ครับ ถ้าพี่ไม่มีผม พี่จะสบายกว่านี้ไหม " ผมหุบยิ้มลงและกอดน้องไว้แน่นราวกลับกลัวว่าน้องจะหายไป
" อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ " ผมเสียงสั่น นั่นเป็นสิ่งที่ผมกลัวเหลือเกิน
" ถ้าหากพี่ไม่มีธัชแล้วละก็ พี่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ " พวกเรากอดกันทุกๆ วัน เหมือนกับว่าทุกๆ วัน จะเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะอยู่ด้วยกัน ขอแค่มีธัชอยู่ ผมก็ยังคงมีวันพรุ่งนี้เสมอ และโลกที่แสนมืดมนนี้ก็ยังคงงดงามเสมอในใจของผม
รุ่งขึ้นผมและน้องมามหา'ลัยตามปกติ ตอนนี้พวกเรากำลังเดินจากลานจอดรถเพื่อไปยังสถานที่ที่จะเรียน ผมมองธัชที่อาการป่วยดีขึ้นแล้ว จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
" แล้วเป็นไงบ้างครับกับเซนเซย์น่ะ " ธัชถามผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
" ก็ดีนะ พี่ชอบหนังสือของเซนเซย์ เยอะดี " ผมชอบแต่หนังสือนั่นแหละจริงๆ นะ
" แปลว่าเขาดีกับพี่เหรอครับ เห็นวันแรกบ่นแทบตาย "
" ก็เมื่อวานน่ะ เขาคิดว่าพี่เป็นธัชใช่ไหมล่ะ "
" หมายความว่ายังไงอ่าครับ " ธัชถามผมตาแป๋ว
" เซนเซย์อาจจะชอบธัชก็ได้มั้ง " ผมตอบแบบไม่ค่อยมั่นใจ และจ้องมองน้องที่ทำหน้าตกใจทันที
" พูดเป็นเล่นไปพี่ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะสนใจผมเลย "
" ไม่รู้สิ วันนี้พี่ก็ต้องไปหลังเลิกเรียนอีก ถ้าวันนี้หมอนั่นกวนพี่ แกล้งพี่เหมือนวันแรกก็ชัดเจน "
" แล้วพี่ รู้สึกยังไงเหรอครับ " ผมมองหน้าธัช ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่ธัชถามผม
" เอ่อคือ นายสองคนกำลังจะไปเรียนเวิร์คช็อปเหมือนกันใช่ป่ะ คือเราไม่มีเพื่อนเลยน่ะ เราขออยู่กลุ่มด้วยได้ไหม " ผมกับน้องมองหน้าบุคคลที่กำลังยืนขวางทางพวกผมอย่างงงๆ หนุ่มหล่อเข้ม กำลังยืนยิ้มแฉ่งให้ผมกับน้องอย่างเป็นมิตร
" ได้สิ นายชื่ออะไรล่ะ " ธัชเอ่ยถามและส่งยิ้มให้
" เราชื่อท็อปนะ ไม่มีใครอยากให้อยู่กลุ่มด้วยเลยอ่ะ ฮ่ะๆ ฝากตัวด้วยนะ " ผมแค่ทำหน้าเรียบเฉยเหมือนที่เคย ในขณะที่ธัช ชวนเพื่อนใหม่คุยอย่างเป็นมิตร
คาบเรียนวันนี้เป็นการทำเวิร์คช็อปของแท้ เซนเซย์ต้องการให้เราทำซีแคลมป์คนละชิ้น สนุกดีนะ แต่ร้อนชะมัด ผมตั้งใจทำงานของผม ในขณะที่ธัชก็ทำแบบผิดๆ ถูกๆ จนผมต้องช่วยอยู่ตลอด ผมเหลือบมองเซนเซย์ที่เดินเฉียดไปมาแถวๆ ผมบ่อยเหลือเกิน พลางจ้องมองผมแบบกวนประสาท
" นาย เอ่อ ธัช "
" ธิช " ผมพูดชื่อตัวเอง พลางจ้องมองหนุ่มผิวเข้มคิ้วดก ที่เรียกผมกับน้องแบบผิดๆ ถูกๆ อย่างเงอะๆ งะๆ ผมไม่ค่อยมีไมตรีจิตรเท่าไหร่ เลยไม่รู้จะทำตัวยังไง
" นายเก่งจังเลยนะ สอนเราบ้างสิ " ไอ้ท็อปนี่พูดพลางมายืนข้างๆ ผม ชะโงกหน้ามาใกล้ซะผมต้องถอยหลังออก
" ใช่ไหมล่า พี่ธิชน่ะ เก่งสุดๆ ไปเลย " ธัชก็ชะโงกหน้ามาเหมือนกันพลางยิ้มแป้นจนตาหยี
" นั่นสินะ เริ่มจะชอบแล้วสิ " ผมมองหน้าไอ้คนพูดพลางขมวดคิ้วมุ่น
ในที่สุดคาบเรียนก็จบลง หลังจากที่นายท็อปอะไรนี่บอกว่าชอบผม หมอนี่ก็ตามติดผมแจจนน่ารำคาญ และผมสังเกตว่าธัชพูดคุยน้อยลง และอยู่ดีๆ ก็ไม่แจ่มใสเอาซะเลย แปลกแฮะ ไม่สบายอีกหรือเปล่านะ
ผมกับธัชแยกกันที่หน้าคณะ เพราะว่าผมต้องไปช่วยงานเซนเซย์เช่นเคย
" พี่ครับ เดี๋ยวผมกับท็อปจะไปหาอะไรกินกันนิดหน่อยนะครับ " ผมมองน้องชายด้วยความเป็นห่วง
" อย่ากลับดึกนะธัช ถ้าพี่กลับไปแล้วไม่เห็นธัชละน่าดู พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ " ผมจับแก้มน้องและจ้องเขม็งด้วยสายตาดุดัน
" คร๊าบบ ดุอีกแล้ว " ธัชทำหน้าหงอยแต่ก็อมยิ้มเจ้าเล่ห์
" พี่น้องรักกันดีจัง " ผมมองไอ้หนุ่มท็อปพลางหน้าบึ้งใส่
ธัชกับท็อปเดินไปด้วยกัน ผมมองทั้งสองคนนั่นที่เดินไปจนสุดสายตา รู้สึกแปลกๆ แฮะ แต่คงไม่มีอะไรหรอก ผมหันหลังและเดินต่อไปยังตึกคณะ ไปยังห้องทำงานของเซนเซย์
" ช้าจริง คิดว่าที่ทำอยู่นี่เป็นเรื่องเล่นๆ หรือไง " ทันทีที่ผมก้าวเข้ามา ผมก็ต้องหูชาทันที เป็นอันชัดเจน หมอนี่เกลียดผม และเอ็นดูธัชแน่นอน ผมมองใบหน้าที่โหดเหี้ยมของเซนเซย์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
" ขอโทษครับ พอดีแวะเข้าห้องน้ำเลยช้า " ผมก้มหัวลงและหลุบตาต่ำไม่อยากมองหน้าไอ้บ้านี่
" นั่งลง " ผมเดินเข้าไปนั่งลงตรงหน้าเซนเซย์และไม่สบตาเช่นเคย
' ก็อกๆ '
" เซนเซย์คะ คือว่า... " หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะเหลือบมองเห็นผม หล่อนเลิกคิ้วขึ้นด้วยใบหน้าสงสัย
" มีอะไร วันนี้ไม่ว่างหรอกนะ " เหอะ ไอ้บ้านี่มั่วผู้หญิงอีกแล้ว หน้าไม่ซ้ำกันเลยแต่ละคน หมั่นไส้ชะมัด
" เอ่อ เด็กนี่ใครเหรอคะ ใช่เดือนมหา'ลัยปีนี้หรือเปล่านะ " ไม่รู้ทำไมผมเห็นเซนเซย์กระตุกยิ้มนิดนึงพลางจ้องหน้าผม
" คนนี้น่ะไม่ใช่หรอก คนน้องต่างหาก ที่เป็นเดือนมหา'ลัย " ผมมองหน้าเซนเซย์แบบไม่สบอารมณ์
" แต่ก็หล่อทั้งคู่อยู่ดีแหละ ก็แฝดนี่นะ " รุ่นพี่สาวพูดพลางมองหน้าผมและยิ้มให้
" งั้นวันนี้หนูไม่กวนแล้วค่ะ แต่หนูจะโทรหานะคะ " ผู้หญิงนั่นส่งยิ้มให้ผมอีกครั้งและเดินออกไป
" หึ ทำตัวแบบนี้เหรอ เป็นอาจารย์แท้ๆ " ผมพูดเบาๆ ก้มหน้าลงต่ำ
" ทำไม เป็นอาจารย์แล้วยังไง " เซนเซย์เท้าแขนข้างหนึ่งลงกับที่พักแขน พลางจ้องมองผมแบบกวนสุดๆ
" อิจฉาหรือไง แต่ฉันไม่สนเธอหรอกนะ " ผมเงยหน้ามองไอ้บ้านี่ด้วยความเดือดดาล
" เป็นบุญของผมมากกว่าครับ ที่เซนเซย์ไม่สนน่ะ " เซนเซย์เปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งสนิทเย็นยะเยือกตัดขั้วหัวใจ
' หมับ! '
เซนเซย์ยื่นมือมาบีบแก้มผมเอาไว้และดึงเข้ามาใกล้จนผมต้องจับข้อมือของเซนเซย์ไว้ด้วยความเจ็บ
" เธอจะได้รับบทเรียนเองเมื่อถึงเวลา " ผมขมวดคิ้วสงสัย นี่นายกำลังพูดเรื่องอะไรกัน
เซนเซย์ปล่อยผมและกลับไปนั่งพิงพนักเหมือนเดิม ผมลูบแก้มตัวเองช้าๆ หมอนี่แรงเยอะชะมัด
" วันนี้กลับไปได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอนักหรอก " ผมลุกขึ้นทันที และเดินออกไปแบบที่ไม่พูด และไม่บอกลาสักคำ
ไอ้บ้าเอ้ย ไม่อยากเห็นหน้างั้นเหรอ หน้าผมก็เหมือนน้องนั่นแหละ ทำมาพูด โมโหโว้ย ผมโมโหจนเดินเหยียบเชือกรองเท้าหลุด ผมก้มลงผูกเชือกรองเท้าพลางบ่นปากขมุบขมิบอย่างอารมณ์เสีย
" เป็นอะไรถึงอารมณ์เสียขนาดนี้น้า " ผมเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมพลางขมวดคิ้วมุ่น
" พี่โชนมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ " ไอ้หมอแว่นนี่ร่อนไปทุกที่เลยแฮะ ก็เป็นพวกนักกิจกรรมนี่นะ คงไม่แปลก พี่โชนนั่งลงยองๆ จ้องหน้าผมด้วยรอยยิ้มตาหยีแบบที่ธัชว่า
" ไม่อยากมาที่นี่นักหรอก กลัวเจอหมาบ้า " ผมรู้เลยว่าพี่โชนหมายถึงใคร ผมยิ้มกลับให้พี่โชน ดูเหมือนเราจะมีอะไรคล้ายๆ กันนะ
" พี่รู้ไหม ว่าผมคือใคร " ผมจ้องพี่โชนและยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่อยู่ดีๆ พี่โชนก็ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาหาผมใกล้ๆ จนผมต้องหดคอถอยหนี
" ฮ่าๆๆ ถ้าปฏิกิริยาแบบนี้ก็ธิชแน่ๆ " เป็นงั้นเองหรอกเหรอ เป็นการแยกผมออกจากน้องที่ร้ายกาจจริงๆ หึ
" อยากไปหาไรกินกันไหมครับ " ผมพูดพลางมองหน้าพี่โชนที่่ตอนนี้ ทำท่าเหมือนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งซะงั้น บางทีคนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ผมยิ้มให้กับผู้ชายตรงหน้า
แต่จริงๆ แล้วผมวางแผนจะตามแอบดูธัชต่างหากล่ะ พี่โชนรู้คงร้องไห้แน่ หึหึ