เมื่อความกลัวมาเยือน.....
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0มาขอแปะกดหน่อยนะคะ
บทนำ
“ผมเกียจพวกมันทุกคน....”
“คุณหนูอย่าพูดแบบนั้นนะคะมันไม่ดี....ถ้าคุณนายได้ยินท่านต้องเสียใจแน่ๆๆ “ นั้นเป็นเสียงแม่นมที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เกิด
ผมมองค้อนแม่นมก่อนที่จะวิ่งหนีไปยังสวนหลังบ้าน
บ้านของผมเรียกได้ว่าเป็นบ้านของเศรษฐี ผู้รากมากดี เป็นที่นับหน้าถือตา แม้ตอนนี้ผมจะอายุแค่ 8 ปี แต่ก็มีคนก้มหัวให้
ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีมาก เวลาใช้ชม หรือยกย่อ
แต่ต่อไปนี้จะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว...............กูเกลียดพวกมึง
ผมเดินเล่นอยู่ที่สนามหลังบ้านซึ่งมีคนสวนกำลังดูแลรักษาต้นไม้อยู่
ไม้ที่อยู่ในมือผมกำลังฟาดฟันต้นไม้ เพื่อทำให้ทำหายโกรธ....
มองหันกลับไปมองรถตู้คันงามที่กำลังเลี้ยววนผ่านน้ำพุหน้าบ้าน ก่อนที่จะมาจอดที่บ้านใหญ่
ซึ่งมันเคยเป็นบ้านที่ผมอาศัยอยู่กับแม่.....
นังเมียน้อยของพ่อที่ได้รับการเชิดหน้าชูตา ได้เดินลงมายังบ้านใหญ่ พร้อมด้วยกระเป๋าสัมภาระอีกมากมาย
“โธ่โว้ย...พ่อนี้.......ก็รักอีนังเมียน้องซะจริง แมร่งงงง” เมื่อเห็นภาพก็ยิ่งให้มือผมยิ่งฟาดฟันต้นไม้หนักมือขึ้นไปอีก
ผมหันกลับไปมองอีกครั้ง เพื่อมองดูลูกอีนังเมียน้อย เรียกได้ว่าลูกติด ซึ่งอายุไล่เรียงกับผม
เป็นเด็กผู้หญิงคน และเด็กผู้ชาย คน ซึ่งดูจะตื่นเต้นกับบ้านหลังใหม่เสียจริง
ผมเห็นพวกมันวิ่งขึ้นลงบันไดหินอ่อนหน้าบ้าน แถมพวกมันยังจับมือกันกระโดดโลดเต้น
เสียงตะโกนของพวกมัน ดังไปทั่วบ้านจนผมได้ยินว่าพวกมันตะโกน
“บ้านใหม่สวยจัง เย้ๆๆๆๆ” ...............เสียงที่ได้ยินทำให้ผม ด่ากลับ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การบ่นกับตัวเองก็ตาม
“นั้นมันบ้านกู...พวกมึงนั้นแหละที่แย้งมันไป...ไอเหี้ย....”
“คุณหนูครับ...อยากพูดอะไรไม่เพาะแบบนี้สิครับ...” คนดูแลสวนเดินเข้ามา
“ยุ่งอะไรด้วย .........” ผมวิ่งเข้าไปในสวนมะม่วง ด้านหลังของบ้าน
ผมไม่อยากเห็นหรือได้ยินอะไรเกี่ยวกับนังเมียน้อยนั้นอีก
+++++++++
“แม่ครับ...ทำไมเราต้องย้ายมาอยู่เรือนเล็กด้วยครับ.........” ผมนั่งข้างๆ กองเสื้อผ้าที่มีราคาแพง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยอยู่ในตู้
มีแม่นมค่อยช่วยพับใส่กระเป๋าอีกแรง....
“แม่ผิดเองลูก.......แม่ไม่ดีเอง....” นั้นเป็นเพียงคำพูดที่แม่ของผมบอก แล้วเขาก็ร้องไห้ซึ่งมีแม่นมคอยปลอบประโลม
คำตอบที่ถามไปนั้นไม่ได้รับคำตอบกลับมาซักอย่าง
ผมรู้เพียงแต่ว่าภายใน 1 อาทิตย์พวกผมต้องย้ายตัวเองไปอยู่เรือนเล็กซึ่งอยู่หลังบ้าน.......
แต่บ้านใหญ่จะมีคนมาอยู่แทนแม่....แทนผม.....
ผมวิ่งออกจากห้องนอนของแม่ เพื่อเข้าไปในห้องทำงานที่พ่อของผมนั่งทำงานเป็นประจำ............
“พ่อ....ทำไมแม่ต้องย้ายไปอยู่เรือนเล็กครับ....” ผมเดินเข้าไปในนั้นพร้อมร้องตะโกนถาม
มีเพียงสายตาแห่งความโกรธที่ฉายแววอยู่บนในหน้าหล่อเหลา ถึงแม้จะอายุมากก็ตาม
“ทำไมภูมิ ไม่ถามแม่ดูแหละ......แต่ภูมิจะอยู่กับพ่อที่นี่แหละ...” รอยยิ้มเครียดๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการอดกลั่น
“ไม่...ภูมิจะอยู่กับแม่...และแม่ต้องอยู่ในบ้านใหญ่นี้..” น้ำตาของเด็ก อายุ 8 ขวบ ที่กำลังจะร้องไห้เพราะไม่อยากให้แม่ผู้เป็น
ที่รักต้องไปอยู่เรือนเล็ก สิ่งไม่มีความสะดวกสบายเลย
“ภูมิ ลูกนะยังเด็ก...ไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่หรอก.......”
“...ก็เพราะไม่มีใครบอก...แล้วภูมิจะเข้าใจได้ไง....” โรงเรียนที่ผมเรียน สอนให้ผมกล้าที่จะแสดงออก และพูดความคิดนั้นออก
มาในทางที่เหมาะสม
“....ภูมิมานั่งตรงนี้มา.....” พ่อกวักมือเรียกให้ผมไปนั่งที่ตักของท่าน
“.....ภูมิ.....พ่อรักภูมินะ......และพ่อก็รักผู้หญิงอีกคนเหมือนที่รักภูมิเช่นกัน.....” เสียงที่แผ่วเบานั้นทำให้ผมต้องตั้งใจฟัง
“.....แล้วพ่อไม่รักแม่หรอ.....” ผมถามเพราะต้องการรู้...... “พ่อก็รักแม่เหมือนกัน.......แต่.....”
เสียงที่อู้อีทำให้ผมจับใจความต่อจากนั้นไม่ได้
“...ภูมิ อีก 3 วัน จะมีคนมาอยู่ที่นี้แทนแม่ของภูมิ เขาเป็นคนดีนะ แล้วภูมิก็จะได้มี พี่ น้อง อย่างที่ภูมิอยากมีไง.......”
“ไม่......ภูมิไม่อยากได้พี่ น้อง ภูมิจะอยู่กับแม่.....” ผมกระโดดลงจากตักพ่อ แล้ววิ่งออกไปที่สวนซึ่งมีเครื่องเล่นหลากหลาย
ชนิดอยู่ ซึ่งนั้นเป็นของเล่นอย่างหนึ่งที่พ่อผม ทุ่มเงินซื้อให้ผม เมื่อผมยังเล็กๆ อยู่
ตอนนี้สวนเด็กเล่นกลายเป็นของตกแต่งบ้านแทนที่จะเป็นสนามที่ผมเอาไว้เล่น.........
น้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม และชุ่มช่ำบนขนตา ทำให้ผมต้องขยี้ตาเพื่อให้มองเห็นทางที่วิ่งไป
--3— วันต่อมา
ผมย้ายตัวเอง ...เสื้อผ้า และกระเป๋า มาอยู่เรือนเล็ก.... ถึงแม้ว่าขนาดจะไม่ได้เล็กตามที่ชื่อของบ้านก็ตาม
แต่ความสะดวกสบายนั้นน้อยกว่าเห็นๆ ไม่มีแอร์ เป็นบ้านไม้ยกสูงเหมือนบ้านในสมัยก่อนด้านล่างเป็นที่โล่ง
ส่วนด้านบนเป็นบ้านพัก มีห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน้ำ และลานหน้าบ้าน ส่วนห้องครัวอยู่ด้านล่าง
ผมเคยมาวิ่งเล่นแถวนี้.....แต่บรรยายกาศมันน่ากลัวมาก ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยมาวิ่งเล่นแถวนี้อีก
แต่ตอนนี้ต้องมาอยู่ มานอนที่นี่แทนบ้านใหญ่........เรือนเล็กถูกทำความสะอาด และไม่มีคนใช้เหมือนบ้านใหญ่
บ้านหลังนี้ มีผม แม่ และแม่นมมาอยู่แค่นั้น ทุกอย่างต้องช่วยเหลือตัวเอง
“นม...ทำไมพวกเราต้องมาอยู่ที่นี้...แล้วให้เมียน้อยอยู่บ้านใหญ่....” ผมถามแม่นมตอนที่กำลังลากกระเป๋าเข้ามา
“คุณหนู...นมว่าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ดีกว่าค่ะ...นมไม่อยากพูด...” นมลูบหัวผมพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ
ก่อนจะลากกระเป๋าต่างๆ ไปเก็บที่ห้องของแม่ และห้องของผม
พรุ่งนี้ซินะที่จะได้เห็นอีนังเมียน้อย ที่พ่อเชิดหน้าชูตา แทนแม่ผม.....
มันจะพาลูกๆๆ มันมาด้วย......ผมสัญญาว่าจะทำให้เจ็บยิ่งกว่าผมให้ได้คอยดู
+++++++++++++++
“แม่ค่ะ.....พวกหนูขอไปเดินเล่นได้ไหมค่ะ....”
“พวกหนูเพิ่งมาถึงไม่เหนื่อยกันบ้างหรอ.........” แม่มองหน้าพ่อเลี้ยงก่อนที่จะพยักหน้าให้พวกเรา 2 คนออกไปเล่นได้
“ไปเร็ว สอง หนึ่งเห็นมีสนามเด็กเล่นด้วยตอนเข้ามา เราไปเล่นกัน....”
ผมพยักหน้าให้พี่หนึ่ง ก่อนจะเดินจูงมือกันไปที่สนามเด็กเล่น
วันนี้ครอบครัวของเราได้ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหญ่ เรียกได้ว่าคฤหาสน์จะดีกว่า
พ่อเลี้ยงใจดีกับพวกเรามาก ท่านรักและเอ็ดดูพวกเราเหมือนลูก ซึ่งผมก็รักท่านเหมือนกัน
ผมอายุ 7 ปี ส่วนพี่สาวผมอายุมากว่า 2 ปี พ่อแท้ๆ ของเราทิ้งเราไปตั้งแต่ผมยังไม่เกิดก็ว่าได้
ผมไม่เคยเห็นหน้าพ่อตัวเองเลยด้วยซ้ำ แม่เลี้ยงดูพวกผมมาเป็นอย่างดี แม่ตามใจผม และพี่สาวไม่ให้ขาดสิ่งใดๆ
ที่จะทำให้คนอื่นมาดูถูกพวกผมได้
ก่อนที่จะมา......แม่บอกพวกเราว่า จะย้ายมาอยู่บ้านใหม่ และต่อไปพวกเราจะสบายทั้งชาติไม่ต้องทำอะไรก็มีกิน..ยังลูกหลาน
แม่เล่าว่า พ่อเลี้ยงกับแม่เคยเป็นคนรักกัน....แต่พ่อเลี้ยงต้องมาแต่งงานกับคนอื่นเพราะพวกผู้ใหญ่จัดหาเนื้อคู่ไว้ให้......ดังนั้น
เพื่อเป็นการชดเชยกับแม่ของพวกเรา
ท่านเลยรับพวกเราเป็นลูกบุญธรรมและให้เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย
ผมก็ถามแม่ว่า แล้วเมียของท่านตายแล้วหรอ....แม่ผมยิ้มแล้วลูกหัวผมบอกว่า “เขายังไม่ตายหรอ....แต่ก็ต้องเหมือนอยู่ในนรก
ทั้งเป็นนั้นแหละ....ก็เล่นคบชู้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เมื่อได้ยินผมรู้สึกกลัวนิดหน่อยที่แม่แสดงท่าทางแบบนั้น
“สอง...แกจะรู้ไปทำไป พรุ่งเราก็ได้ไปอยู่บ้านหลังใหญ่ๆ แล้ว แกอยากได้อะไร ก็ได้...แกไม่ชอบหรอ..” เสียงพี่หนึ่งที่เข้าไป
กอดแม่ไว้ พร้อมทั้งยิ้มจนเห็นไร้ฟันของพี่เขา......
ผมเดินเข้าไปก่อนแม่เหมือนพี่หนึ่ง แต่ในใจก็คิดว่าบ้านใหม่คงสวย และใหญ่ และสบายแน่นอน นั้นทำให้ผมดีใจ......
รถตู้มารับเราที่หน้าบ้าน....ในรถมีพ่อเลี้ยงและคนขับรถ.....ของและกระเป๋าที่สำคัญๆ ถูกยกขึ้นไปในรถคันนั้น
พร้อมทั้งครอบครัวของเราก็ขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปบ้านใหม่
“สองดูสิ บ้านหลังนั้นแหละบ้านของเรา..” เสียงตื่นเต้นของพี่หนึ่ง
“ไหนๆๆ พี่หนึ่ง ฮู.........ฮู สวยมากเลยพี่หนึ่ง....”
“สอง เห็นสนามนั้นเปล่า นั้นก็เป็นของเรา”
“ของเราหรอ...... พ่อครับ สนามนั้น ผมขอได้ไหม....” ผมหันไปทางที่พ่อเลี้ยงนั่งอยู่
“ได้สิสอง...ของในบ้านก็เป็นของ สอง ของหนึ่ง และของแม่ด้วยเหมือนกัน...”
“ เย้ๆๆ ผมมีสนามเด็กเล่นแล้ว พี่สอง....สนามเป็นของผม......”
สายตาเขียวปัดดูน่าโกรธที่ผมแย้งสนามที่เธอเห็นเป็นคนแรกไป แต่ผมไม่สนเพราะพ่อยกให้ผมแล้ว
+++++++
“สอง มาเร็วๆ ใครวิ่งถึงสนามก่อนชนะ...” พี่หนึ่งตะโกนตามหลังมา
เราวิ่งแข่งกันไปยังสนามที่มีเครื่องเล่นมากกว่าที่เห็นในรถซะอีก
ผมวิ่งไปเกาะชิงช้า แต่ไม่ทันพี่หนึ่ง.....เพราะเธอถึงก่อน
“พี่หนึ่ง........สนามพ่อยกให้ผมแล้ว...พี่ลุกไปเล่นอันอื่นเลย...” ผมร้องบอก
“อะไรแก ยังไม่ทันไรก็แสดงเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแล้ว...แกนั้นแหละไปเล่นอันอื่น...”
ผมจับชิงช้าไว้ไม่ให้พี่หนึ่งแก่วงไกว เธอลุกขึ้นจากชิงช้า และผลักผมลงไปนั่งอยู่กับสนามหญ้า
เวลาตอนต่อหน้าแม่เธอจะทำตัวเป็นเด็กดีเรียบร้อย....แต่เวลาอยู่กับผมเธอก็ชอบแกล้งผมเหมือนกัน
“พวกแกทำอะไร...นั้นของเล่นของกู...” เสียงเด็กผู้ชายตะโกนออกมาจากด้านหลังของสนาม พร้อมทั้งเดินเข้ามาหาพวกเรา
“แกเป็นใคร สนามนี้พ่อยกให้ฉันแล้ว.......” ผมพูดออกไป เพราะอารมณ์เสียที่พี่หนึ่งแกล้ง
“ใช่ๆๆ แกเป็นใคร...พวกฉันเป็นเจ้าของที่นี้....” พี่หนึ่งพูดพร้อมยิ้มอย่างยียวน
“เชอะๆ.....กูเป็นเจ้าของที่นี้ต่างหาก พวกมึงนั้นแหละที่มาแย้งไป..ไอขี้ขโมย...”
“อ่อ ฉันรู้แหละสอง มันก็ไอคนที่แม่บอกไง ว่า เป็นลูกชู้นะ........”
“อ้อ ไอลูกชูนี่เอง...” ผมอออ้อกับพี่หนึ่ง ทั้งที่จริงก็ไม่ได้รู้ความหมายหรอก
“แก.........แกอย่าอยู่เลย....” ไอเด็กที่บอกว่าเป็นเจ้าของบ้านวิ่งเขามาผลักพวกผม แต่พี่หนึ่งหลบทัน มีแต่ผมที่หลบไม่ทัน
ทำให้โดนผลักเป็นรอบที่สอง ซึ่งเจ็บกว่ารอบแรก
แต่พี่หนึ่งก็วิ่งเข้าไปจิกหัวไอเด็กนั้น ส่วนผมลุกขึ้นได้ก็ต่อยมัน แต่มือที่ยังเป็นอิสระอยู่ก็สู้กับผมเช่นกัน
“ว้าย....คุณหนูภูมิหยุดนะคะ...” ผมเห็นหญิงแก่คนหนึ่งวิ่งเข้ามาเหมือนจะช่วยไอหมอนี่
และพวกเราสองคนที่สองก็กลัวพอที่จะไม่สู้กับผู้ใหญ่ ผมหยุดต่อยมัน ส่วนพี่หนึ่งก็ปล่อยมือจากหัวมันด้วยเช่นกัน
แต่มันไม่ยอมหยุด มันกระโดดถีบผมลงไปจุกบนพื้นหญ้า ส่วนพี่หนึ่งก็โดนมันต่อยเหมือนกัน
“ว้าย........ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า....” นั้นเป็นเสียงแม่ของพวกผมเองครับ
เธอวิ่งเข้ามาฉุดพวกเราขึ้นแล้วดูอาการบาดแผลที่เกิดขึ้น
“แกกล้าดีอย่างไงมาทำลูกฉัน.......” เสียงอันโกรธเกี้ยวของแม่ผม เราสองคนได้แต่โอบกอดเอวของแม่ไว้ แล้วร้องไห้
เพราะความเจ็บปวดที่เกิดจากการโดนทำร้าย.....ซึ่งอาการบาดแผลก็พอๆๆ กัน
ผมมองเห็นหญิงแก่คนนั้นโอบกอดมันเช่นกัน แต่ไม่มีน้ำตาเหมือนพวกเราเลยซักนิด
“นุช เกิดอะไรขึ้น.....” เสียงพ่อเลี้ยงที่เดินตามมาสมทบ
“คุณคะ ก็เด็กเนี้ยอยู่ๆ ก็มาทำร้ายลูกฉัน....ดีที่มาทันไม่งั้น ลูกฉันคงเจ็บมากกว่านี้”
“ภูมิลูกลงมือก่อนหรอ.....” เสียงพ่อเลี้ยงทำให้ผมรู้ว่าไอเด็กเปรตนั้นชื่อภูมิ
ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงสายตาที่จ้องอาฆาตมาทางพวกเราสามแม่ลูก
“คุณคะ ดูสายตาลูกคุณสิ....”
“ภูมิพ่อถามว่าลูกทำก่อนหรือเปล่า........”
“พ่อครับ ผมกับหนึ่งโดน มัน...เออ ภูมิ แกล้งก่อนครับ..” ผมบอกออกไป
“ใช่คะคุณพ่อ พวกเราเล่นกันอยู่ดีๆๆ ภูมิก็มาผลักสอง.....” เสียงพี่หนึ่งคอยเสริมทับ
“ภูมิขอโทษเดี๋ยวนี้....” เสียงพ่อเลี้ยงที่เดินเข้าไปหาไอภูมิ
แล้วจับมือไว้ พาเดินมายืนตรงหน้าพวกเรา สองคน
“ภูมิถ้าลูกทำผิดก็ต้องขอโทษนะ ต่อไปพวกเขาจะเป็นพี่น้องกับภูมินะ...”
ไอภูมิมันสะบัดมือออกจากการจับของพ่อ
“ไม่...ไม่ ผมไม่มีพี่น้องแบบพวกมัน รวมทั้งมันด้วย...”
ผมตกใจกลัวกับท่าทางที่ไอภูมิมันชี้นิ้วมายังแม่ของผม ซึ่งสายตาของแม่ผมก็ไม่ได้จะญาติดีด้วยเช่นกัน.....ก่อนพี่ไอภูมิมันจะ
วิ่งหนีไป
“คุณคะ ถ้าเป็นแบบนี้ลูกฉันต้องโดนแกล้งแน่ๆ “ เสียงแม่ผมพูดขึ้น
“เดี๋ยวผมจะบอกเรื่องนี้กับ......เม......แม่ภูมิเอง...”
ปัญหาของเรื่องนี้จบด้วยคำบอกเล่าของแม่ว่า ............เขาจะไม่เข้ามาเล่นที่บ้านใหญ่....ส่วนถ้าเขาแกล้งอะไรพวกผมก็ให้บอก
แม่ได้เลย......แม่จะเป็นคนจัดการให้....ซึ่งพวกผมก็ดีใจที่จะได้ไม่เห็นมันอีก.....
+++++++++++++++
ตลอดระยะเวลา 10 ปีนี้มานี้ ไอภูมิกลายเป็นของเล่นของพวกเราไปโดยปริยาย
โดยการกลั่นแกล้ง ที่ไม่มีการโต้กลับ ทำให้พวกผมได้แกล้งมันไม่เว้นแต่ละวัน
พอวันไหนมันโกรธจนลงมือกับพวกเรา แม่ก็เป็นคนที่จะจับมันลงโทษ
ซึ่งพ่อเลี้ยงก็ให้อำนาจแม่ของพวกเราแล้วเช่นกัน ตลอด 10 ปีมานี้ แม่ค่อยจัดการเรื่องทุกอย่างภายในบ้าน
แทนเมียเก่าของพ่อเลี้ยง และสิ่งที่พวกเรารู้อีกอย่างคือ ภูมิไม่ใช้ลูกชู้แต่เป็นลูกชายแทนๆ ของพ่อเลี้ยง และทรัพย์สมบัติของ
พ่อเลี้ยงเกินครึ่งจะเป็นของไอภูมิโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ซึ่งนั้นทำให้แม่ผมโกรธมากตอนที่รู้ความจริงเรื่องนี้ แต่แม่ก็ทดแทนโดยการปรนนิบัติพ่อเลี้ยงเป็นอย่างดี
แต่ช่วงหลังๆ พ่อเลี้ยงป่วยบ่อย ทำให้ต้องอยู่บ้านซะเป็นส่วนใหญ่.....
ตลอด 10 ปีที่พวกเราอยู่บ้านหลังนี้ พร้อมทั้งคนใช้ เงิน หน้าตา ที่ปลูกปั้นผมให้พวกเราเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ได้
ยิ่งพี่หนึ่งซึ่งปีนี้เข้ามหาลัยชื่อดังชั้นแนวหน้าด้วยเงินก้อนโต พร้อมทั้งรถคันแรกที่เธอเลือกชื้อด้วยเศษเงินของที่บ้าน
ส่วนผมปีนี้อยู่ ม.6 แม้ว่าผมจะอายุห่างจากพี่หนึ่ง 2 ปี แต่ผมเรียนเร็วกว่าทำให้ระดับการศึกษาไม่ห่างจากกันมาก
นิสัยผมก็คล้ายๆ กับพี่หนึ่งซึ่งถูกปลูกฝังมาเป็นอย่างดี......แต่อาจจะมีนิสัยเสียบ้าง ตรงที่ชอบเห็นใจคนอื่น.....
ส่วนไอภูมิอยู่ชั้นเดียวกับผมครับ ถือว่าคอยเป็นเบ๋ให้ผม ผมกับมันเรียนคนละโรงเรียนกัน......
!!!!!!!!!!!!!!!!
ปล. มาลงแล้วจร้า เรื่องนี้ แรงๆๆ กันทุกคนเนอะๆๆ
เขียนไปเขียนมาพล็อตคล้ายๆ หนังบ้านเราเลย แต่มันจะสนุกตรงเนื้อในละมั่ง
ใครอ่านแล้ว สนุก หรือเกิดความรู้สึกอะไรก็บอกได้นะ.....
พยายามมาลงให้เร็วๆๆ (นิยายเรื่องนี้มาตามเสียง....) เหอะๆๆๆๆ
ขอให้สนุกกับการอ่าน และนอนหลับฝันดีนะจร้า...