วันที่ 18 สัตว์ประหลาดที่บาดเจ็บ.
.
.
.
[ค่ำคืนวันที่ 17 ย่างเข้าวันที่ 18 หลังเหตุการณ์นองเลือด
เศษชิ้นเนื้อ กระดูก เครื่องใน และอวัยวะบางส่วนที่ยังหลงเหลือ.....]
“อ่ะ...ไอ้โจ๊ก....มึงจะทำอะไรกูวะ....ปะ....ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะเฮ้ย”
“ไว้ใจโจ๊กนะ.......กล้า......ไว้ใจโจ๊ก”
ตั้งแต่เล็กจนโต ต้นกล้าไม่เคยได้มีโอกาสนั่งเครื่องบินมาก่อน วิสัยทัศน์ของภาคพื้นดินยามมองลงมาจากที่สูง เขาเองก็เคยเห็นแต่จากในหนังหรือ Google Map เท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เขาได้บินไปพร้อม ๆ กับมัน.....ไอ้สัตว์ประหลาดตัวโตมีปีกเหมือนค้างคาว
ไม่ทันที่จะได้ออกคำสั่งใดๆทั้งสิ้น แต่ไอ้โจ๊กกลับรู้หน้าที่เป็นอย่างดี แม้ว่ามันจะบาดเจ็บ และมันเพิ่งจะมีปีกงอกออกมา นั่นเท่ากับว่าเป็นการบินครั้งแรกของมันด้วยเช่นกัน มันทำไปโดยสัญชาติญาณ ในขณะที่จิตสำนึกส่วนลึก มันปรารถนาแค่ช่วยต้นกล้าให้พ้นจากความยุ่งยากเท่านั้นเอง คงไม่ดีแน่หากมีใครมาเห็นเขาในสภาพโชกเลือดคนอื่น และอยู่ท่ามกลางซากศพที่เละไม่เป็นชิ้นดี ต่อให้รู้แน่แก่ใจว่าพวกไอ้เสือคงไม่โง่แจ้งตำรวจก็ตามที
คำสั่งของต้นกล้า....ต่อให้อีกฝ่ายไม่เอ่ยออกมา แต่มันก็เรียนรู้และจดจำเอาไว้จนหมดแล้ว
มากกว่าหน้าที่....
แต่เพราะความรัก
นั่นทำให้มันต่างจากหุ่นยนต์
แม้จะยังห่างไกลจากความเป็นมนุษย์....
และมันไม่มีวันได้เป็น....
"กอดโจ๊กนะ....กอดแน่น ๆ"
"เออ"
ถูกพวกเหี้ยนั่นเห็นไอ้โจ๊กเสียแล้ว แต่กลับปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ น่าเจ็บใจ นี่ถ้ามันไม่มีปืนล่ะก็ ต่อให้พากันมามากกว่านี้ก็คงไม่คณามือไอ้โจ๊กของเขาหรอก เด็กหนุ่มกัดฟันอย่างเจ็บแค้นใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เขากลับมีแต่ความเรียบเฉย ไม่ยินดียินร้าย
อ่ะ......ไอ้โจ๊กของเขา
ที่รักของโจ๊ก......
เหี้ยเอ๊ย
อยู่ ๆเขาก็รู้สึกร้อน ๆใบหน้าชอบกล
.
.
.
.
.
.
เขาอยู่กับมันยันเช้า โดยที่ไม่ได้นอนเลยสักงีบ มันบินกลับไปยังโรงงานร้าง โดยมีเขาคอยบอกทิศทาง แรก ๆ ก็กลัวจนไม่กล้าลืมตามองลงไป ได้แต่กอดคอมันแน่น แต่พอค่อย ๆตั้งสติและพยายามเชื่อใจ เขาก็พบว่าประสบการณ์ในครั้งนี้มันช่างสุดยอดและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
ใครบ้างจะมีโอกาสได้บินกับสัตว์ประหลาด
แต่ถ้าเป็นอาหารล่ะก็....เพียบเชียวล่ะ
มึงนี่บทจะเท่ห์ก็เท่ห์ฉิบหายเลยนะไอ้โจ๊ก.....
ไอ้ก้อนเนื้อเละ ๆตัน ๆวันนั้น นึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นได้อย่างในวันนี้ เด็กหนุ่มเพ่งมองมันทั่วทั้งร่าง แผงอกกำยำคล้ายมนุษย์ที่มีหุ่นอย่างนักมวยปล้ำ ทว่ามีช่วงไหล่ที่กว้างกว่า และแขนที่ยาวผิดสัดส่วน แต่สำหรับสัตว์ประหลาด มันคือช่วงลำตัวที่สวยงามอย่างในภาพเขียน กรงเล็บนั้นเล่า ช่างดูทรงพลังเสียจริง เขี้ยวแหลม ๆขาววาววับ จะมีก็แต่ดวงตาออดอ้อนที่ดูไม่เข้ากันเท่าไหร่
แต่ก็ทำให้มันเป็นไอ้โจ๊ก....ไอ้โจ๊กของเขา
ปีกของมันนั้นเล่า ยามที่โบกสะบัดไปมาในอากาศ ก่อให้เกิดเสียงลมที่ดังอื้ออึง ปีกคู่นั้นที่พาเขาบินอยู่บนท้องฟ้าเมื่อคืนนี้ ท้องฟ้าที่เย็นและสวยกว่าทุกคืน ปีกนั้นคงจะห่อตัวเขาจนมิด และมันคงจะอบอุ่นน่าดู หากต้องออกมากินนอนกับมันจริง ๆ ในวันที่อากาศตอนกลางคืนเหน็บหนาวแบบนี้....
นี่คงโตที่สุดของมันแล้วกระมัง เด็กหนุ่มคิด ภาวนาอย่าให้ใหญ่โตไปมากกว่านี้ ถึงเขาจะชอบไอ้โจ๊กตอนที่เพิ่งมีขางอกใหม่ ๆ เพราะว่ามันดูน่ารักน่ากอด แต่ไอ้โจ๊กในตอนนี้ก็สวยงามมากเลยทีเดียว หากโตกว่านี้ความงามคงกลายเป็นอะไรที่สยดสยอง
“มึงเจ็บไหม.....มึงโดนยิง....สองนัด”
“เจ็บบบบ....แต่โจ๊ก....โจ๊กอดทน”
“มึงเก่ง โจ๊ก.....มึงเก่งที่สุด ถ้าไม่มีมึง กูคงไม่มาถึงจุดนี้ ถ้าไม่มีมึงเคียงข้างกู กูคงทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้”
“โจ๊กจะอยู่กับกล้าตลอดไป”
“ไม่ได้หรอกโจ๊ก”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะเราไม่เหมือนกัน.....เพราะกูเป็นมนุษย์.....ชีวิตมนุษย์มันสั้น.....มึงก็เคยเห็นความตาย.....แต่ก่อนจะถึงวันนั้น มันนานพอที่มึงจะเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง หาอาหารเอง หาที่ซ่อนเอง กูเลี้ยงมึงเหมือนเลี้ยงไอ้แมวไม่ได้ รู้แบบนี้แล้วยังอยากอยู่กับกูอีกไหม....”
“ตลอดไป......โจ๊กกับกล้า”
“โธ่เอ๊ย.....ไอ้โจ๊ก”
จะทำอย่างไรมึงถึงจะเข้าใจ
บางครั้งไอ้โจ๊กก็ดูจะเข้าใจอะไรยาก แต่บางเรื่องที่ว่ายาก มันกลับเข้าใจได้โดยง่ายดาย ต้นกล้าอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่หลอกใช้มันเป็นเครื่องมือ เขาพยายามนึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเขาเองทำให้มัน สิ่งเหล่านั้นถือเป็นประโยชน์ต่างตอบแทนกันได้ไหม
เขาจ่ายมันด้วยอาหาร
จ่ายด้วยอ้อมกอด
จ่ายด้วยของเล่น
มันตอบแทนเขาด้วยการกินซากศพและฆ่าคน
และตอบแทนเขาด้วยสิ่งที่เขาแทบจะไม่เคยให้มันจริง ๆเลยสักครั้ง
มันตอบแทนเขาด้วยความรักและภักดี
มันกำลังขาดทุนนะรู้ตัวไหม....ไอ้สัตว์ประหลาดโง่เอ๋ย
“กล้ารักโจ๊ก......โจ๊ก.....รักกล้า”
“นอนพักนะไอ้โจ๊ก เราเหนื่อยกันมากแล้ว วันนี้กูขอสั่งให้มึงนอน นอนจนกว่าจะหาย”
เมื่อได้เพ่งพิศไปยังบาดแผล....รอยบุ๋มและชิ้นกระดูกที่แตกร้าว.....
แววตาที่ออดอ้อนแม้จะดูเหนื่อยล้า
ทำไมเขาถึงรู้สึกเจ็บปวดไปกับมันด้วย
เด็กหนุ่มตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
.
.
.
.
ต้นกล้ากลับมายังบ้านอีกครั้ง โดยใส่เสื้อเก่า ๆที่เขาเคยขนมาให้ไอ้โจ๊กสวมใส่ตอนที่ย้ายจากตึกร้างมายังโรงงานร้าง สวมหมวกและแว่นดำอำพราง สภาพของเขาหากสกปรกกว่านี้อีกนิด คงดูเหมือนเด็กจรจัด
แม่ของเขาไปทำงานแล้ว เด็กหนุ่มจึงใช้เวลาเต็มที่ในการกำจัดหลักฐานที่ติดตัวเขา เขาจุดไฟเผาเสื้อผ้าเปื้อนเลือด อาบน้ำ ชะล้างคราบและกลิ่นคาวเลือดให้หมดไปจากตัว
ใช้เวลาในขณะที่สายน้ำไหลผ่านอาบร่างกาย คิดทบทวนทุกเรื่องที่ผ่านมา
เขาคงไม่ต้องเป็นฆาตกร......หากบอกเรื่องที่ไอ้ชดล่วงละเมิดเขาให้แม่หรือใครสักคนรู้
พวกไอ้เสือคงไม่ตาย....หากเขาไม่ทำตัวเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ยอมถูกแกล้งตั้งแต่แรก เพื่อนหลายคนที่กลัวมัน แต่คนพวกนั้นก็ไม่ได้ถูกรังแกอย่างเขา
ถ้าเขาทำตัวให้น่าคบมากกว่านี้ เขาก็จะมีเพื่อน.....มีกลุ่มที่คอยปกป้องซึ่งกันและกันอย่างคนอื่น ๆ
แต่ตอนนี้เขามีลูกเต๋า......นั่นยังไม่พออีกหรือ
เขามีไอ้โจ๊ก......
แล้วไงต่อล่ะ?
บอกเรื่องที่ไอ้ชดพยายามข่มขืนเขาให้แม่บังเกิดเกล้าฟัง.....ทำอย่างกับว่าหล่อนจะช่วยเขาได้
พวกครูก็ไม่เคยฟังเขา
ตอนประถมเขาเคยปลูกต้นไม้ส่งอาจารย์ ขณะที่เพื่อนคนหนึ่งแอบไปขุดต้นไม้ที่ปลูกในสวนของโรงเรียนมาส่ง เพื่อนคนนั้นขอแบ่งดินจากเขาไปครึ่งหนึ่ง แต่กลับเป็นต้นไม้ของเขาเองที่ถูกอาจารย์ตำหนิ กระถางของเขาใหญ่เกินไป พอดินหายไปครึ่งหนึ่ง มันจึงดูเหมือนกับว่าเขานั้นไปขโมยต้นไม้ใครมาปักเอาไว้ แล้วเอาดินกลบไปแบบส่ง ๆ
เขาร้องไห้ เพราะอาจารย์ไม่ยอมรับฟังเขา พยายามอธิบาย แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจฟัง
ทั้งที่เขาตั้งใจปลูกมันจนโต แต่อีกคนกลับได้คะแนนเต็ม
ความยุติธรรม....ถ้าอยากได้เราต้องสร้างมันเอง
ใครสักคน....หรือตัวละครในหนังสักตัวเคยพูดออกมา ประโยคนี้ฝังหัวของเขามาตลอด และมันก็จริงอย่างที่ใครคนนั้นพูด
ช่วยไม่ได้หรอกถ้าใครสักคนจะตกเป็นอาหารของสัตว์ประหลาด มันแค่หิว พวกมึงนั่นแหละควรปกป้องตัวเอง
อยู่ ๆต้นกล้าก็หัวเราะ
เขานี่มันสารเลวยิ่งกว่าใครเสียอีก
.
.
.
.
.
.
“ไอ้โจ๊ก”
เขากลับไปหามันพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผล ไอ้โจ๊กนอนขดตัวเหมือนหมาป่วย มันส่งสายตาน่าสงสารมองเขา เวลามันเก็บเขี้ยวเก็บเล็บ มันก็ไม่ได้ดูน่ากลัวเท่าไหร่นัก
หรือไม่เขาก็คงชินไปแล้วล่ะมั้ง
“หนังหนานะมึงอ่ะ ห่า.....โดนยิงหัวก็ไม่ตาย หรือเป็นเพราะโชควะ.....”
“กื๊”
“แต่มึงต้องให้กูดูไหล่มึง.....ต้องเอากระสุนออก”
“เจ็บ.....โจ๊กเจ็บ”
“ห่า....อย่าสำออย ทีเมื่อคืนล่ะบู๊แหลก อดทนหน่อยเว้ย”
“กล้ากอดโจ๊กได้ไหม”
“ได้สิ.....แต่ขอทำแผลก่อน แล้วกูจะกอดมึงหลาย ๆทีเลย”
เจ้าสัตว์ร้ายข่มเสียงคำรามในลำคอ เมื่อเด็กหนุ่มใช้คีมทิ่มแทงเข้าไปในแผลของมันเพื่อคีบเอากระสุนออกมา ต้นกล้ากลั้นหายใจด้วยความกลัวว่ามันอาจจะทนความเจ็บไม่ไหวแล้วเผลอเล่นงานเขา แต่ไอ้โจ๊กก็อดทนได้เป็นอย่างดี
เขาเป็นคนสั่งให้มันอดทน และมันก็ตอบสนองคำสั่งของเขาดังเช่นทุกครั้ง
“เย็บแผลหน่อยนะมึง”
“เหยบบบบบ”
“เย็บเว้ย”
หลังจากทำแผลเสร็จ ไอ้โจ๊กค่อย ๆปิดเปลือกตาลง ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างรวดเร็ว เพราะความเหนื่อยล้าที่มันต้องเผชิญมาตลอด เจ้าสัตว์ประหลาดหายใจเป็นจังหวะ ต้นกล้าลูบหัวของมันอย่างแผ่วเบา เด็กหนุ่มส่งเสียงฮัมออกมาเป็นเพลงที่ตัวเขาเองเป็นคนคิดท่วงทำนองขึ้นมาแบบส่ง ๆ เสียงเย็น ๆนั้นฟังดูหลอนไม่น้อย ยิ่งในที่ที่เสียงซึ่งเปล่งออกมาฟังดูกึกก้องแบบนี้ หากใครมาได้ยินเข้าคงกลัวจนเก็บไปฝันร้าย
แม้ว่าจะต้นกล้าจะฮัมเพลงไปตามเรื่อง แต่สำหรับไอ้โจ๊ก....มันคือเพลงกล่อมนอนที่ฟังไพเราะที่สุด
เหนื่อย.....โจ๊ก....เหนื่อย
แต่โจ๊กมีความสุข....ความสุข
ต้นกล้ารักโจ๊กเยอะ ๆนะ.....อย่าทิ้งโจ๊กไปเลย.....โจ๊กจะอยู่กับที่รักของโจ๊ก......
ตลอดไป
กลิ่นของต้นกล้าหอมหวานเหลือเกิน
กลิ่นสบู่ที่เจ้าตัวนั้นหยิบมาฟอกกลายเป็นความชาชิน
สำหรับไอ้โจ๊ก.....มันคือความหอมหวานอันแสนสุข
ความสุขนั้นมากพอจะเยียวยาความเจ็บปวดทางกายให้ทุเลาลง
มือของต้นกล้านุ่มจัง อยากให้ลูบแบบนี้ตลอดไป
จมูกและริมฝีปากนุ่ม ๆที่ชนแก้มของมันโดยบังเอิญ ตอนที่อีกฝ่ายหอมมันอย่างลืมตัว
ไอ้โจ๊กยอมแลกทั้งชีวิตของมัน เพื่อให้ได้รับสัมผัสแบบนี้อีกสักครั้ง
แม้เพียงเสี้ยววินาทีก่อนตาย
ตึง!!!!!
“กรรรรรรรรรรรร์”หูของมันแว่วเสียงดังมาจากข้างนอก ไอ้โจ๊กนั้นลืมตาโพลงราวกับเปิดสวิทซ์ มีใครสักคนตามกลิ่นของพวกเขามาถึงที่นี่ ที่ของต้นกล้า....กับโจ๊ก
ไม่ใช่คนพวกนั้น
กลิ่นหอมละมุน ทว่าคนละกลิ่นกับนายของมัน ต้นกล้าสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะถอดกรูดจนชิดผนังอย่างคนที่ลนลานทำอะไรไม่ถูก ขณะที่ไอ้โจ๊กนั้นพุ่งตัวออกไปอย่างแรง พังประตูเหล็กที่กั้นขวางอยู่อย่างแน่นหนาออกไป โดยที่ลืมไปว่าร่างกายของมันกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น
“เฮ้ยยยย.......อย่าเข้ามานะ”
เสียงตะโกนด้วยความตกใจจากด้านนอกนั้นฟังคุ้นหู หลังจากรวมสติได้ ต้นกล้าก็รีบวิ่งตามไอ้โจ๊กออกไป เขาตะโกนห้ามมันเอาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะฉีกร่างผู้มาเยือนออกเป็นชิ้น ๆ
“ไอ้โจ๊กอย่า”
“กล้าช่วยเราด้วย”
“แอบดู......กิ๊.......แอบดู”
มือของมันยังคงรวบกำลำคอของอีกฝ่ายเอาไว้ ดูเหมือนว่ามันเองก็ยังลังเลที่จะฆ่ามนุษย์ในเงื้อมมือคนนี้ แม้ว่าผู้เป็นนายจะไม่ร้องห้ามมันก็ตาม มันสูดดมเหยื่อตรงหน้าอย่างลังเล เหมือน.....แต่ก็ไม่ใช่
กินได้ไหมนะ.....
หรือต้องรอให้ต้นกล้าสั่งมันเสียก่อน.....
“ไอ้โจ๊ก.....มึงปล่อยเพื่อนกูเดี๋ยวนี้”
“กิ๊”
“กูบอกว่าเดี๋ยวนี้!!!! ไม่งั้นกูจะหนีมึงไปให้ไกล ๆเลย!!!”
เด็กหนุ่มตะโกนลั่นอย่างลืมตัว แม้ว่าเขาจะเคยสั่งมันเอาไว้ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันจะไม่คิดขัดคำสั่งเขา แต่เพราะเป็นห่วงมากเหรอเกิน กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้รับอันตราย
ทำไมลูกเต๋าถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ
ไม่สิ
ลูกเต๋าไม่ควรจะต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำไป
ทำไมถึงเป็นแบบนี้
ต้นกล้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เป็นกังวลและกลัวมาตลอดมาถึงจนได้แล้ว
บ้าเอ๊ย.....ถูกเจอจนได้!!!!
…………………………..
To be con
มาลุ้นตอนต่อไปนะ....กิ๊