บทที่ 16 ช้ำ
บอกในขณะที่ปลายนิ้วยังคงลูบเล่นริมฝีปากอีกฝ่าย
"โอ๋ๆ เลิกงอนนะครับ ผมเข้าใจ คนหน้าตาดีอย่างผมก็ต้องมีหึงหวงกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา" ไม่อยากให้เครียดไปกันใหญ่จึงแซวเล่นให้อาทัชยิ้มอย่างสบายใจ
"เฮ้ออออ!" เห็นฝ่ายอีกฝ่ายลากเสียงยาว พลางกลอกตาไป-มาแถมส่ายหน้าระอาถึงกับระเบิดหัวเราะเสียงดัง
"ฮ่าๆๆ ผมพูดความจริงถึงกับรับไม่ได้เลยหรอครับ?."
"รับได้สิครับ ก็คายัคหล่อที่สุดในปฐพีอยู่แล้วนี่"
"โธ่!...อาทัชอะ มันต้องชื่นชม ไม่ใช่ประชดแฟนแบบนี้สิ" มองคนหน้ามุ่ยก็แต้มยิ้มบางเบาก่อนจะยื่นมือไปดึงแก้มเนียนเด็กหนุ่มจนยืดอย่างกับขนมมาร์ชเมลโล
"ถ้าไม่มีอะไร อาไปต่อแล้วนะ"
คายัคพยักหน้า หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เดินทางกันต่อ ขับรถไปไม่ไกลเท่าไหร่ อินทัชตกใจเมื่อมือเย็นเฉียบ เลื่อนมาสอดปลายนิ้วประสานกันไว้หลวมๆ วางบนตักของอินทัช
พอเห็นการกระทำดังนั้น อินทัชละสายตาจากท้องถนนหันไปมองเห็นคายัคจุดรอยยิ้มละมุนพร้อมส่งสายตาหวานก็ออกอาการเขินเล็กน้อย เพราะตั้งแต่ที่ทะเลาะกันไปเมื่อครู่ ดูเหมือนคายัคพยายามใส่ใจอินทัชมากขึ้น
ไม่ต้องมีคำบอกรักหวานหูออกมาจากปาก แต่ก็รับรู้ได้จากการกระทำที่ส่งความสุขแผ่ซ่านไปทั่วห้องโดยสาร
ปล่อยให้คายัคจับมืออยู่อย่างนั้น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การสัมผัสกันและกันทำให้อินทัชอุ่นใจ ราวกับว่าต่อจากนี้ อินทัชจะไม่ขาดความอบอุ่น เพราะได้ความรักมาเติมเต็มจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
อินทัชขับไปแบบเรื่อยๆ ชิลล์ๆไม่เร่งรีบ บางช่วงของสองข้างทางมีต้นไม้สูงใหญ่โอบล้อมราวกับอ้อมกอดที่ช่วยเพิ่มพลังและสร้างความอบอุ่นให้กับนักเดินทางที่ผ่านเส้นทางนี้ แค่ได้เห็นก็สบายตา อินทัชผุดรอยยิ้มมุมปากพลันเหลือบมองเด็กหนุ่มที่แม้ว่าจะหันหน้าออกไปมองนอกรถ แต่มือเรียวของคายัคยังกุมมือกันไว้แน่น
นานหลายชั่วโมงกว่าจะถึงที่พักก็เย็นย่ำ ขณะที่เช็คอินเรียบร้อย อินทัชตั้งใจชวนคายัคไปผาเก็บตะวันที่เห็นจากป้ายบอกทางว่าอยู่ไม่ไกลนัก
ออกจากที่พัก มุ่งหน้าไปผาเก็บตะวัน ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึง พาคายัคเดินไปยังจุดชมวิว ซึ่งมีกลุ่มคนราวสี่ห้าคนยืนอยู่ก่อน ทั้งสองโชคดีมากที่มาทันดูพระอาทิตย์ตก ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นรวมถึงภาพวิวธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาลที่มีภูเขาและต้นไม้น้อย-ใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา ช่วยเยียวยาร่างกายและหัวใจที่ได้มองวิวธรรมชาติแบบนี้ รู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อย
ในขณะที่สองคนยืนมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยรอยยิ้มอันประทับใจ คายัคดึงมืออินทัชไปกุมไว้และเลื่อนมาวางตรงช่วงแผงอก จังหวะที่อินทัชหันไป ก็ปะทะเข้ากับริมฝีปากได้รูปของเด็กหนุ่มที่ตั้งใจฉวยโอกาสจูบอินทัชทั้งๆที่มีคนอยู่ตรงนี้
รีบผละทั้งๆที่หน้าแดงก่ำ และลากคายัคให้เดินออกไปอย่างไวที่สุด
"ทำไมคายัคทำแบบนี้ คนก็มี ไม่ใช่ไม่มี" ทำหน้าดุแล้วบอกเสียงลอดไรฟัน
"ไม่มีใครเขาสนใจหรอกครับ อีกอย่างที่ผมทำก็เพื่อพิสูจน์ว่าผมมีแค่อาทัช และไม่เคยคิดมองใคร อาทัชจะได้เลิกกลัวว่าผมจะไปหาคนอื่น"
มันก็น่าดีใจอยู่หรอก ที่คายัคต้องการให้อินทัชสบายใจด้วยการแสดงออกทางการกระทำที่ชัดเจน แต่เรื่องแบบนี้ทำประเจิดประเจ้อกลางที่สาธารณะก็ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
"อารู้แล้วครับ ทีหลัง ห้ามทำตอนอยู่ข้างนอกอีกนะ เข้าใจไหม?" มองเด็กหนุ่มลอยหน้าลอยตา ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก็ได้แต่ส่ายหน้าระอา ก่อนจะเดินห่างออกไปในบริเวณใกล้เคียงเพื่อถ่ายรูปคู่ โดยมีพื้นหลังเป็นวิวธรรมชาติสุดแสนสบายตา
เหตุผลที่มา แค่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจึงไม่คิดมากหากไม่ได้เที่ยวแบบอิ่มหนำ อยู่บนผาเก็บตะวันไม่ถึงสิบห้านาที ก็ขับกลับที่พัก
จังหวะที่ต้องเดินกลับห้องนั้น คายัคเหลือบเห็นสระว่ายน้ำที่ไร้ผู้คน จึงจูงมืออาทัชไปพอถึง ทั้งสองวางของสำคัญไว้บนเตียงริมสระ เด็กวัยสิบเจ็ดเล่นทีเผลอกระตุกแขนอาทัชและเหวี่ยงร่างจนทั้งสองร่วงหล่นลงสระว่ายน้ำ
"คายัคเล่นอะไร? เรามีเสื้อผ้าชุดเดียวนะ อีกอย่าง ใส่ชุดนี้เล่น มันผิดกฏของสถานที่ด้วย" บ่นแต่ไม่โกรธ
"โอ้ย! อาทัช จะจริงจังไปไหน? ไม่มีใครเห็นหรอกน่า ส่วนเสื้อผ้าก็ซักแล้ว ใช้ไดร์เป่าเอา เดี๋ยวก็แห้งครับ"
ขณะที่อินทัชใช้มือลูบน้ำออกจากใบหน้า เขาสะดุ้งตอนเด็กหนุ่มกระชากตัวเข้าไปใกล้จนช่วงล่างแนบชิดสนิทกัน วงแขนก็โอบเอวไว้หลวมๆ
รอยยิ้มมุมปากปรากฎขึ้นเมื่อใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้าไปใกล้จนปลายจมูกทั้งสองชนกัน ริมฝีปากสีแดงสดกำลังขยับช้าๆ
"จูบผมหน่อย" แม้ดวงตาคู่นั้นจะฉายชัดถึงความต้องการและอินทัชเองก็เห็นดีเห็นงามกับความรู้สึกอีกฝ่าย แต่เพราะใจไม่กล้าพอทำกลางสระว่ายน้ำ
"ไม่เอา เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"
"ผมชอบ ตื่นเต้นดีออก"
"เดี๋ยวเถอะ แค่เรื่องข้างห้องคายัค อาก็อายพอแล้วนะ" บอกแล้วรีบหลุบตาลงทั้งๆที่ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว
"เสียงที่ดังทะลุออกไปไม่ใช่เสียงของผมสักหน่อย เสียงของอาทัชทั้งนั้น โอ้ยอาทัชครับ เบามือหน่อย ผมเจ็บ" บ่นคนรักที่ฟาดแรงๆเข้าที่แขนจนขึ้นเป็นรอยแดง
"ไปทำที่ห้องก็ได้"
"มันไม่เหมือนกันนี่นา"
"คายัค อาไม่เล่นด้วยแล้ว" มองคนเขินจัดรีบปีนขึ้นสระว่ายน้ำก็อมยิ้ม คายัคชอบแกล้งอาทัช เพราะเวลาอาทัชเขินจนประหม่า ช่างดูน่ารัก น่ามอง
และแล้ว ความหวังที่คายัคอยากได้ฉากโรแมนติกจูบกลางสระน้ำก็อันตรธานหายไป เมื่อคนอายุมากกว่าไม่ยอมเล่นด้วย
เดินตามอาทัชเข้ามาในห้องพัก ก็ขออาบน้ำด้วย หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองปีนขึ้นเตียงด้วยร่างกายเปล่าเปลือย เนื่องจากเสื้อผ้ามีเพียงชุดเดียวและตอนนี้ก็ถูกตากไว้ข้างนอก
ยามนี้ จึงไม่ต่างกับฉากอีโรติก ที่ร่างมนุษย์ทั้งสองต้องนอนเปลือยเปล่าภายใต้ผ้านวมผืนเดียวกัน
การไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้ายิ่งทำให้การโดนเนื้อของกันและกัน กระตุ้นและเร้าอารมณ์ได้โดยง่าย
ผิวกายที่เสียดสีและสัมผัสกันในบางจังหวะ ทำคายัคลอบกลืนน้ำลายลงคอ เพราะนาทีนี้ ความต้องการทางเพศพุ่งสูงจนแทบทะลุขีดจำกัด แต่คายัคก็ข่มใจ แกล้งหลับเพื่อดูปฏิกิริยาอีกฝ่ายว่าจะสนใจกันหรือไม่
ไม่ถึงห้านาที คายัคสัมผัสได้ว่ามีคนยุกยิกๆ ก่อนจะซบหน้าลงบนแผงอก พอเด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาก็เห็นอาทัชช้อนตามอง
"หนาว" คายัคยิ้มขำ ลูบแก้มอีกฝ่าย ก่อนจะดันร่างอาทัชให้มาชิดใกล้มากกว่าเดิม ทั้งสองนอนตระกองกอดกันเพื่อส่งต่อความอบอุ่น จากนั้น คายัคก็หลับตา แต่สักพักใหญ่ๆคายัคเผลอซี้ดปาก เมื่อคนที่ซุกในอ้อมกอดช่างร้ายกาจใช้มือหนารวบแท่งร้อนทั้งสองท่อนเอาไว้ แล้วขยับรูดไปพร้อมกันจนคายัคลืมตามามอง
"อารู้ว่าเวลานี้ คายัคยังไม่นอนหรอก"
"โอ้ย!...ทำไมถึงชอบยั่วผม"
"หรือไม่อยาก?"
"ฮ่าๆ...ร้ายนะครับ" คายัคหยุดขำแล้วเป็นฝ่ายตะโบมจูบหนักหน่วง และเริ่มเร่าร้อนมากขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างกวาดต้อนความหวานด้วยปลายลิ้นอุ่นสัมผัสตวัด ไล่ รุกกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ สักพัก คายัคผละ ก่อนที่จะขยับตัวลงต่ำ ก้มลงไปใช้ริมฝีปากไต่ตามร่างกาย พรมจูบหนักๆ ทั่วแผงอกและแผ่นท้อง จนได้ยินเสียงหอบหายใจสั่นสะท้าน
จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ
หลังจากนั้น ไม่มีแม้คำพูด มีเพียงเสียงครางกระเส่า และการกระทำอันซื่อตรงต่อหัวใจและความรู้สึก เมื่อทั้งสองกำลังร่วมรักกันเพื่อลดความอึดอัดข้างในแทนที่ด้วยความสุขกาย สบายใจในเวลาต่อมา
นับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายและคุ้มค่า เมื่อทั้งสองกำลังกอบโกยความสุขกันอย่างเต็มที่....
..............
"ของฝาก" หลังจากที่คายัคกลับมาจากการไปเติมความหวานให้ชีวิต ยามนี้ คายัคนัดบอลและแคนมาตรงลานโต๊ะม้าหินนำของที่คายัคแวะร้านจำหน่ายช็อคโกแลตอยู่ตรงเขาใหญ่ตอนขากลับบ้านเพื่อเอามาให้เพื่อนๆ
คายัคซื้อมาทั้งหมดสามกล่อง กล่องใหญ่ให้พวกติ๊ก โมทย์ เก่ง ได้กิน ส่วนกล่องเล็ก เขาตั้งใจซื้อมาขอโทษแคนและบอลเป็นพิเศษ
ฟากบอลเหลือบมองเพื่อนที่วางถุงลงบนโต๊ะ
"กูขอโทษ" เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่คายัคพูดดีและไม่อารมณ์ร้อนเหมือนทุกที
"กูได้ยินถูกใช่ไหมวะ?" บอลเลิกคิ้วขึ้นสูง
"เออ...กูขอโทษทุกอย่างรวมถึงเรื่องที่กูจะต่อยมึงด้วย""กูก็ไม่ได้โกรธมึง" ได้ยินดังนั้น คายัคยิ้มกว้าง
"จริงนะ กูขอบใจที่มึงไม่เคืองกู"
แคนยืนยิ้มตื้นตันใจที่เห็นเพื่อนทั้งสองคนรักกันอย่างสนิทใจดังเดิม
"อืม""เราขอบใจแคนด้วยนะ อ้อ!... เราจะบอกข่าวดีให้รู้ด้วย เราคบกับอาทัชแล้ว" บอลกับแคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึง ก่อนจะหันไปหาคายัคด้วยดวงตาเบิกโพลง
"ห้ะ? จริงหรอครับ?"
"อื้มจริง ก็ที่เมื่อวานไม่มาโรงเรียนก็เพิ่งไปเที่ยวกันมา"
"ไม่อยากจะเชื่อเลย แคนดีใจด้วยนะ อย่างนี้ต้องฉลอง"
"ได้สิ เราเต็มใจ เพื่อเป็นการขอบคุณ อยากกินอะไรบอก เราเลี้ยงเอง จะฉลองที่บ้านอาทัช หรือจะไปกินที่ห้างก็ได้นะ"
"ไปกินที่บ้านอาทัชดีกว่า แคนอยากเจออาทัช""กูขอพิซซ่าคนละถาด" บอลเอ่ย
"ได้ ไม่มีปัญหา" บอลตาโตเพราะช็อค ที่คายัครอบนี้ ว่านอนสอนง่ายและใจป้ำสุดๆ
"อย่าบอกพวกติ๊กนะ เดี๋ยวมันงอน ถ้างั้นก็ไปวันนี้เลยไหม?"
"จัดไป" และแล้ว คายัคก็กลับมาเป็นคนเดิม เพิ่มเติม คือ มีใบหน้าที่สดใสและสัมผัสได้ว่ามีความสุขจากภายในหัวใจจนล้นออกมาสู่ภายนอก สงสัยความรักจะช่วยชุบชีวิตให้มีชีวา เพราะตอนที่คายัคมาที่โรงเรียน ใครเห็นเป็นต้องทักว่า ดูดีและร่าเริงขึ้น
วันนี้ คาบเรียนทุกวิชา คายัคไม่เล่น ไม่คุยกับใคร เขาตั้งใจเรียนตามคำสัญญา จนกระทั่ง ได้เวลาเลิกเรียน คายัครายงานอาทัชก่อนกลับบ้าน ว่าแคนและบอลจะเข้าไปกินพิซซ่าด้วย โดยระหว่างนี้ คายัคขอแวบไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าสักหน่อย
เมื่อได้เที่ยวจนเพลินใจ คายัคจึงพาเพื่อนๆไปหาอาทัช ไม่นานนัก ทั้งสามถึงที่หมายในช่วงเวลาใกล้ปิดร้าน คายัควิ่งนำเพื่อนไม่รอ เพื่อเข้าไปหาคนที่อยู่ด้านในเคาน์เตอร์ อินทัชยังไม่ทันเอ่ยปากก็โดนเด็กหนุ่มประกบจูบ จนบอลและแคนต่างยืนเหวอ มือที่กำลังพนมมือจะไหว้อาทัช ชะงักค้างกลางอากาศ
ก็คาดไม่ถึงว่าพอดีกัน ทั้งสองจะรักกันจนหวานออกสื่อขนาดนี้
"สรุปแล้ว คายัคอยากให้พวกเรามาไหมอะบอล?" แคนหันไปถามพลางกระพริบตาปริบๆ
"นั่นดิ เรากลับกันไหมแคน?" จะว่าไปก็ต้องขอบคุณคายัคเหมือนกัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้แคนประทับใจในตัวบอลที่ดูแลและรักเพื่อนมากขนาดนี้ จึงตัดสินใจแอบคบบอลเงียบๆ โดยไม่บอกให้เพื่อนรู้
และขณะที่ทั้งสองจะพูดแทรกเพื่อลา คายัคและอาทัชก็ผละออกจากกันพอดี
ฟากอินทัชดุใส่คนรัก
"คายัค ทำตัวประเจิดประเจ้ออีกแล้วนะ"
"โธ่...อาทัชครับ คนกันเองทั้งนั้น""ไม่ได้ อาก็อายเป็นนะ"
"เฮ้ย! เมื่อกี้มีใครเห็นอะไรหรือเปล่า?" คายัคหันไปตะโกนถามเพื่อน ซึ่งบอลและแคนต่างส่ายหน้ารัว
"เห็นไหมครับ? อย่าบ่นเลย ผมว่าได้เวลาสั่งพิซช่าแล้ว" บอลและแคนต่างพยักหน้ารัวอย่างต้องการรีบกิน รีบกลับเพราะไม่อยากรบกวนเวลาหวานชื่นของคู่นี้อีก
ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดกำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างคนมีความสุขสุดๆ เพราะรอบกายของคายัคมีแต่คนที่รักคายัคจากใจมารวมตัวกันในเวลานี้
................
และแล้วเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
หนึ่งเดือนครึ่ง ที่คายัคและอินทัชคบหากันเป็นแฟน ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ทั้งสองไม่ค่อยมีปากเสียง เพราะพยายามปรับความเข้าใจกันทีละนิดละหน่อย เพื่อป้องกันการทะเลาะภายหลัง
ยามนี้ เป็นเวลาห้าทุ่มของวันศุกร์ที่คายัคและอินทัชเพิ่งเสร็จสิ้นจากกิจกรรมแห่งรัก
ร่างของทั้งสองไร้เสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกาย มีเพียงผ้านวมผืนใหญ่ที่ปิดช่วงท่อนล่าง แขนแข็งแกร่งพาดลงบนเอวคนอายุมากกว่าที่นอนตะแคงข้างซบแขนอีกข้างของคายัค
อินทัชหายใจหอบถี่ เพราะเหนื่อยจากการร่วมรักเมื่อสักครู่ เขามองหน้าคายัคชื้นเหงื่อแล้วแต้มยิ้มบางเบา มันก็ดีอยู่หรอกที่พอคบกัน เราสองคนต่างเติมความรักให้กันไม่ขาด ด้วยการเอาอก เอาใจทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่ง เรื่องเซ็กซ์
ยอมรับว่า ในตอนแรก ก็เป็นอินทัชเองที่เอ่ยปากชวนคายัคก่อน แต่พอหลังๆมานี้ เวลาที่คายัคชวนร่วมรัก อินทัชก็เริ่มมีปฏิเสธไปบ้าง
มันจะไม่แปลกเลย หากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันวันละครั้ง แต่บางวัน มีการร่วมรักมากสุดถึงสี่ครั้ง อินทัชว่ามันมากไปจนทำให้ร่างกายเขาแทบแย่เหมือนกัน
เขาแพ้ทางเด็กหนุ่มด้านนี้จริงๆ พอครั้นจะขอให้คายัคยอมลงเป็นฝ่ายรับบ้าง ก็มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่คายัคยอมให้ แถมร้องจะเป็น จะตาย ว่าจากนี้ ไม่เอาอีกแล้ว จนอินทัชต้องเป็นฝ่ายยอมมาตลอด
"อาทัชครับ ผมมีอะไรจะบอก"
"ว่าไงครับ?"
"ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเซ็กซ์จัด" คายัคพูดตรงๆ เพราะเป็นกังวลเรื่องความสัมพันธ์ชีวิตคู่กับเรื่องบนเตียง
"หือ?"
"แค่ผมเห็นหน้าอาทัชตอนนี้ ผมก็มีอารมณ์แล้วครับ"
"......"
"อาทัช ผมเครียด ผมควรทำไงดีครับ? ผมว่าเซ็กซ์มันเป็นปัญหาใหญ่ของเราสองคนนะ ถ้าความต้องการเราสวนทางกัน ผมกลัวว่า จะมีปัญหาภายหลัง ทุกครั้งที่อาทัชมีอะไรกับผม อาทัชต้องการมันจริงๆหรือเปล่า?""ต้องการครับ มีแค่บางครั้งที่คายัคต้องการมันมากไปหน่อย อาก็เหนื่อยเหมือนกัน"
"จริงหรอครับ? ทำไงดีอะ ผมสงสารอาทัช"
"แล้วก่อนหน้าที่เราห่างกัน คายัคมีความต้องการแบบนี้หรือเปล่า?"
"ไม่มีครับ"
"ก็อยู่ได้ โดยไม่มีปัญหาที่ต้องการจะมีเซ็กซ์กับใคร งั้นเหรอ?"
"ใช่ครับ ผมเป็นกับอาทัชคนเดียว ถ้าถามตอนนี้ ผมก็มีอีกได้นะ"
รู้สึกร่างกายร้อนวูบวาบทันที อินทัชหน้าแดงจัด พอเป็นแฟนกัน การได้ยินอย่างนี้มันก็รู้สึกดี เพราะนั่นแสดงว่าตัวอินทัชก็มีเสน่ห์เย้ายวนอีกฝ่ายให้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือได้เหมือนกัน
แต่....
"หา? แต่เราเพิ่งจะจบกันไปเมื่อกี้เองนะ"
"ก็ใช่น่ะสิครับ และผมก็รู้ว่าอาทัชไม่น่าจะไหว เพราะผมเห็นหน้าอาทัชดูเพลียมาก เฮ้อ! เป็นเพราะผมหมกมุ่นในกามมากไปหรอ? อย่างนี้ ผมต้องไปหาหมอไหม?""เอ่อ...ใจเย็นก่อนนะคายัค อาว่าอาจจะเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาคายัคอาจไม่ได้ระบายออกไป ลองดูอีกสักเดือนก่อน ถ้าคายัคยังมีความต้องการทางเพศสูงขนาดนี้ อาว่า เราไปหาหมอกันนะ"
"ได้ครับ ขอบคุณนะครับอาทัชที่เข้าใจผม"
"อามีแฟนคนเดียวก็ต้องดูแลและทำทุกอย่างให้ดีที่สุดสิ" บอกแล้วจูบที่ปลายจมูกเด็กหนุ่ม
จุ๊บ
"น่ารักที่สุด ถ้างั้น วันนี้ผมพอแล้วก็ได้ ฝันดีนะครับ อาทัช" เห็นสีหน้าเด็กหนุ่ม ก็นึกสงสาร แม้ว่าตัวเองจะอ่อนล้าและเหนื่อยสักเพียงใด สุดท้ายอินทัชก็ต้องตามใจ อย่างกลัวเด็กหนุ่มคิดมาก เขาจึงโน้มตัวไปจูบคายัคและเริ่มร่วมรักกันใหม่อีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน พอเห็นอาทัชยอมทำเพื่อคายัคก็อดดีใจไม่ได้ และถ้าต้องเลือกระหว่างทรัพย์สินเงินทองมากองไว้ตรงหน้ากับอาทัช
คายัคตอบได้ไม่คิดว่า เลือกอาทัชแน่นอน เพราะเงินหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การได้ใช้เวลาอยู่กับคนรักที่คายัคเรียกได้เต็มปากว่าเขาคือคนในครอบครัว มันช่างล้ำค่าที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้
.............
เช้าวันต่อมา
ครืด ครืด
ในขณะที่ทั้งสองยังไม่มีใครตื่น เนื่องจากเพลียจัดจากการร่วมรักเมื่อคืน แต่แล้ว คนที่กำลังฝันหวานก็เริ่มหงุดหงิด เมื่อเสียงดังครืดๆจากการสั่นสะเทือนของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง
มือเรียวควานสะเปะสะปะเพื่อหาเครื่องมือสื่อสาร เมื่อเจอต้นตอของความน่ารำคาญ คายัคกดรับ
"ฮัลโหล"[พี่ทัชยังไม่ตื่นหรอคะ? ตื่นได้แล้วค่ะ วาวมีเรื่องสำคัญต้องคุย ถ้าเป็นไปได้มาหาวาวด่วนเลยนะคะ...วาวต้องคุยเรื่องงานแต่งกับพี่ค่ะ!....]
****1.1****
.
1. ชอบชีวิตรักคู่นี้จัง เปิดเผยธาตุแท้ดี อุตส่าห์กำลังปรับตัวเข้าหากันและรักกันหวานจนมดขึ้นแล้วแท้ๆ
.
.
2. มาลุ้นและช่วยเป็นกำลังใจให้น้องคายัคกันด้วยนะคะ งื้อออออ
.
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
rinyriny