ตอนที่ 27
I’m sorry สามวันหลังจากนั้น
เหมือนโลกทั้งใบของผม . . เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง
“คุณหนูครับ ผมซื้อของใช้ส่วนตัวของคุณหนูมาให้แล้วนะครับ” โทมัสพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะไม่ใช่โทมัสเอาเสียเลย ผมรู้ว่าเพราะอะไร
เพราะผมนี่ไง . .
“ขอบใจมากนะ” ผมเอาหน้าซุกลงกับหมอน ป่านนี้ไม่รู้หนังหน้าจะโทรมลงไปแค่ไหนแล้ว เพราะนอนก็นอนไม่หลับ หนำซ้ำบางครั้งบางคราวก็แอบมีน้ำตาไหลออกมานิดๆอีกด้วย
แม่งโว้ย . . นี่มันไม่ใช่ตัวกูเลย
“คุณหนูจะต้องดูแลตัวเองแล้วนะครับ อีกสองวันคุณหนูก็จะเริ่มมีงานเข้ามาเหมือนเดิมแล้ว ละ และตอนนี้คุณหนูก็ . .”
“โทรมใช่มั้ย ธามรู้หรอกน่า”
โทมัสนั่งลงบนเตียงของผม ไม่รู้ว่าจะมองมาที่ผมด้วยสีหน้าท่าทางแบบไหน แต่เงียบไปนานพอดู
“กลับมาเป็นคนเดิมเร็วๆนะครับ”
โทมัสพูดแค่นั้นก่อนที่จะลุกออกจากห้องไป ผมพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ . . กลับมาเป็นคนเดิมงั้นเหรอ . . เมื่อไหร่ดีล่ะ
ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านใหญ่ของผมเองครับ บ้านใหญ่เงียบสงบและก็เป็นที่ที่ผมสบายใจที่จะอยู่มากที่สุดในตอนนี้ ของๆผมก่อนจะไปขอนแก่นนั้นอยู่ที่คอนโดของปอนด์หมดเลย ผมยังไม่ได้ไปขนออกมา . . ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะผมหวังว่าผมกับปอนด์จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมใช่มั้ย หรือเพราะผมไม่สามารถทนมองที่ๆผมกับมันมีความทรงจำร่วมกันได้
ที่ๆมันบอกกับผม . . ว่ามันรักผม . . แม่ง ยิ่งคิดก็ยิ่ง . . เจ็บ ผมรู้สึกปวดแปลบไปหมด ข้างในหัวใจมันร้าวระบมอย่างหาคำเปรียบไม่ได้ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ อาจจะเป็นเพราะผมให้ใจกับปอนด์ไปเยอะไปหน่อย หรือไม่ก็อาจจะมากกว่าใจที่ผมให้มันไป . . บอกตามตรงว่าตั้งแต่เกิดมา . . เรื่องความรักล่ะก็ . . ผมเจ็บที่สุดก็คราวนี้แหละ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขอโทษนะโทมัส ธามจะนอนแล้ว” ผมเอาหมอนอีกใบมาปิดหัวของตัวเองเอาไว้ แต่โดนบางคนดึงออก
“ลูกชายป๊า”
ชิบหาย . . ป๊ากลับมาถึงบ้านแล้วเหรอเนี่ย
ผมลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นๆ โคตรไม่อยากให้ป๊าเห็นว่าผมกำลังเสียใจมากแค่ไหน . . ผมพยายามปั้นสีหน้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ไม่ทันแล้วล่ะลูก” สุดท้าย . . ป๊าก็คือป๊า “ใครทำลูกป๊า เดี๋ยวป๊าจะไปเก็บมัน!”
“อุ้ย ป๊า ไม่ต้องหรอก” ผมรีบจับแขนป๊าเอาไว้ เพราะป๊าพูดจริงทำจริงเสมอ
“ก็ . . ดูธามสิ” ป๊าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “ป๊าเลี้ยงลูกป๊ามาอย่างดีนะเว้ย ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม สิวสักเม็ดป๊ายังไม่ยอมให้ขึ้นบนหน้าของลูกป๊า แล้วนี่อะไร ใครมันทำให้ลูกป๊าเสียใจ ป๊าเจอแบบนี้ป๊าโกรธนะ = =”
“ไม่มีอะไรหรอกป๊า” ผมรีบบอก “เดี๋ยวธามก็ลืม”
“ลืมอะไรของลูกน่ะ นี่มันสามวันมาแล้วนะที่ลูกไม่ยอมกินไม่ยอมนอน”
เถียงไม่ออกเลย “หมะ ไม่ขนาดนั้น”
“ไอ้เด็กคนนั้นใช่มั้ย”
“หา”
“ป๊าจำมันได้ คนที่ธามละเมอถึง”
“ก็ . . ใช่อ่ะ แต่ป๊าไม่ต้องจัดการมันหรอกนะ”
“เป็นห่วงมันล่ะสิ”
“ก็ . .” หลบสายตาป๊า “ใช่อ่ะ”
“โธ่เอ๊ย” ป๊าดึงผมเข้าไปกอด “ลูกชายป๊าเป็นคนดีที่หนึ่งแบบนี้ ทำไมมันถึงทำกับลูกป๊าได้นะ”
“นั่นสิ” ผมก็ไม่อยากจะค้านป๊าเรื่องนี้สักเท่าไหร่หรอก . . (ยังมีอารมณ์หลงตัวเอง)
“เอาอย่างนี้สิ วันนี้มีงานเลี้ยงตอนเย็นที่บ้านคุณหญิงรวิภา . . เปิดตัวแบรนด์น้ำหอมใหม่ของเค้าน่ะ ธามจะไปกับป๊ารึเปล่า”
ผมส่ายหน้าทันที “ไม่เอาอ่ะป๊า วุ่นวาย น่าเบื่อ”
“เปิดหูเปิดตาบ้างเหอะน่า อยู่แต่ในห้องแบบนี้ก็มีแต่ฟุ้งซ่าน”
“ก็ช่วงนี้ธามยังไม่อยากเจอใครนี่นา”
“เออ ตามใจละกัน” ป๊าตบบ่าของผมเบาๆ “มีอะไรก็บอกป๊าได้ เห็นป๊ายุ่งๆ แต่ถ้าเพื่อลูกชายของป๊าล่ะก็ . . ป๊ามีเวลาให้เสมอนะรู้มั้ย”
ซึ้ง . . “ขอบคุณนะป๊า”
“เปลี่ยนใจยังทันนะ งานเริ่มตอนทุ่มนึง ตอนนี้เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเอง”
“ครับป๊า”
ผมมองจนป๊าปิดประตูห้องให้ . . และผมก็ทรุดตัวลงไปนอนอีกครั้ง
ทำตัว . . ไร้แก่นสาร . . ชะมัดยาด
ผมเหลือบมองไปที่โทรศัพท์มือถือ . . ที่ปกติแล้วจะมีเบอร์ของปอนด์โทรเข้ามาไม่หยุด ผมไม่รู้ว่ากี่มิสคอลแล้ว แต่ทั้งสามวันที่ผ่านมาผมไม่รับสายของปอนด์เลย ผมไม่รู้ว่าปอนด์มันจะโทรมาหาผมเรื่องอะไร
ผมคิดไว้สองแง่ แง่ที่หนึ่งคือมันคิดได้ว่ามันยังรักผม ก็เลยจะโทรมาง้อ และแง่ที่สอง เป็นแง่ที่ผมกลัว และไม่อยากให้มันเกิด ก็คือมันคิดได้ว่ามันยังรักคินตา . .
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ . . มึงเอามีดมาแทงกูยังดีเสียกว่านะปอนด์
“คุณหนู ขนม นม น้ำอัดลม แล้วแต่จะหยิบเลยครับ” ที่สวนหน้าบ้าน มีผมนั่งเล่นกับหมาของคนสวนอยู่ . . โทมัสเดินเข้ามาหาพร้อมกับของกินถาดเบ้อเร่อ “ผมดีใจนะครับที่คุณหนูออกมาจากห้องสักที”
“อากาศบริสุทธิ์ดี” ผมตอบ หมาตัวนี้มันตัวใหญ่จังวะ . . ขนก็นิ่มๆ หน้าตามันก็ดูกวนๆดี อยากเลี้ยงชะมัด
“แล้วตอนเย็นคุณหนูจะไปงานกับคุณท่านรึเปล่าครับ ผมจะได้ไปเตรียมสูทอย่างดีที่สุดมาให้คุณหนู”
ผมยังคงส่ายหน้า “คิดว่าจะไม่ไปหรอก . . อีกหน่อยธามก็ต้องออกไปเจอคนเยอะ ธามหาเวลาสันโดษไม่ค่อยได้น่ะโทมัส”
“คุณหนูครับ”
“ว่าไง”
“นั่น . . ใช่คุณปอนด์รึเปล่าครับ” หืมมมมมมมมม ผมหันไปตามสิ่งที่โทมัสกำลังมองทันที . . ที่ประตูของบ้านผมเห็นไอ้ปอนด์กำลังคุยกับหัวหน้าแม่บ้านอยู่
. . . ผมมือสั่น
“โทมัสไปไล่เค้ากลับ บอกว่าธามไม่อยู่” ผมตั้งท่าจะลุกขึ้นเดินหนีไปที่ไหนสักที่
“คุณหนูครับ แต่คุณปอนด์ตามหาคุณหนูมาตลอดทั้งสามวันเลยนะครับ แทบทุกๆคอนโดของคุณหนูเลยนะ”
“โทมัสเข้าข้างมันเหรอ!” ผมตวาด “ไม่รู้ล่ะ ยังไงธามก็ไม่พร้อมที่จะคุยกับมันตอนนี้ โทมัสไปบอกกับมันอย่างที่ธามบอกซะ!”
“แต่ . .”
“ก็แล้วแต่นะโทมัส” ผมคว้ากุญแจรถที่ห้อยบนกางเกงของโทมัสแล้วเดินไปที่โรงรถทันที
“คุณหนูครับ จะไปไหน!”
“ถ้าโทมัสอยากให้มันอยู่ที่นี่ล่ะก็ ธามจะไปเอง!”
ไม่เข้าใจรึไงว่าคนมันไม่พร้อมน่ะ!!! ผมขึ้นไปบนรถ สตาร์ทรถ เตรียมออกรถเต็มที่ . .
. . ถ้าไม่ติดว่าปอนด์มันมายืนขวางรถของผมเอาไว้ซะก่อน
ดวงตาของผมสั่นระริก ทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตะโกน “ถอยไป!! ไม่งั้นกูชน!!” กูชนจริงด้วย กูไม่ได้ขู่ . .
“มาคุยกันก่อนได้มั้ย” น้ำเสียงของปอนด์ฟังดูเหนื่อยล้าและก็ออดอ้อน ผมเห็นจากตรงนี้เต็มๆว่าปอนด์ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผม
มันทั้งโทรม ดวงตาหมองคล้ำ และก็คงจะไม่ค่อยได้นอนเช่นกัน
“ไม่มีอะไรจะคุย”
ปี๊นนนนนนนนนนนน!!!! “มึงจะถอยไม่ถอย ไม่งั้นกูเรียกรปภ!!!”
ผมเหยียบคันเร่ง รถพุ่งตัวออกไปจนเกือบจะชนปอนด์เล่นหัวหัวใจของผมชาวาบ โชคดีมากที่ปอนด์หลบทัน . . แต่ไม่มีอะไรจะรั้งตัวผมเอาไว้ได้ทั้งนั้น ผมไม่พร้อมจะคุยกับปอนด์จริงๆ
ผมยังโกรธ ผมยังน้อยใจ . .
ผมขับรถออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมายปลายทางว่าจะไปไหน . . จนกระทั่งผมเจอสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ท่าทางเงียบดี . . ผมเลยจอดรถตรงนี้แล้วก็เดินเล่น
จนกว่าไอ้ปอนด์มันจะกลับออกไปจากบ้านผมนั่นแหละ ผมถึงจะกลับไป . .
“พี่ๆ พี่เป็นดาราใช่ม้า” เด็กอ้วนๆตี๋ๆคนหนึ่งเดินเข้ามาดึงเสื้อผม ผมโคตรตลกกับท่าเขย่งของมัน ว่าแต่พ่อกับแม่อยู่ไหนวะเนี่ย ?
“เปล่าๆ ไม่ได้เป็น” ขอคุยกับเด็กหน่อยเหอะ เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น
“ไม่เชื่อหรอก เคยเห็นพี่แปะบนรถไฟฟ้า ตัวเบ้อเร่อ”
กู . . แปะบนรถไฟฟ้าเนี่ยนะ อ๋อออ รูปโฆษณาชาเขียว . . แหม เด็กสมัยนี้ทำผมงงนะ
“ตาฝาดละ ไม่ใช่เหอะ” ผมนั่งยองๆตรงหน้าไอ้เด็กจ้ำม่ำ “พ่อกับแม่ไปไหนเนี่ย”
“พ่อกับแม่ดูน้องอยู่ที่ริมน้ำโน่นแน่ะ นี่วิ่งมาเก็บบอล” มันชูลูกบอลสีส้มแป๊ดให้ผมดู
“อ๋อ”
“สรุปพี่เป็นดาราใช่ป่ะ ขอลายเซ็นหน่อยดิ จะเอาไปให้น้องสาว”
หา . . ผมจ้องมองได้เด็กจ้ำม่ำที่อายุอานามไม่น่าจะเกินสี่ขวบ และน้องมันคงอายุไม่น่าจะเกินสองขวบ . .
“น้องนายรู้จักพี่แล้วเหรอ”
“ไม่อ่ะ เพิ่งคลอดออกมาสามเดือนเอง แต่ยังไม่มีของขวัญให้น้องเลย” เด็กจ้ำม่ำยื่นลูกบอลมาให้ผม “ลูกบอลที่ดาราเซ็นให้ คงเจ๋งชะมัด”
“พี่ไม่ใช่ดารานะ” ผมยังคงแกล้งมันต่อไป เห็นมันขมวดคิ้วมุ่น โคตรตลกเลยพับผ่า “แต่พี่ก็จะเซ็นให้” เพราะคำพูดนั้นไอ้เด็กนั่นจึงยิ้มออกมาได้
“กินติมป่าว”
ผมรู้สึกว่ามีใครบางคนนั่งยองๆข้างๆผม เห็นไอ้ปอนด์ยิ้มแฉ่งยื่นไอติมเยลลี่สีแดงให้ไอ้เด็กอ้วน ที่รับแล้วเลียทันที โดยไม่เอะใจว่าไอ้คนให้มันเป็นใคร
แต่ผมนี่หน้าเสียไปแล้ว . .
“อ้าว จะไปไหนอ่ะ” ปอนด์ร้องตาม
“พี่ๆ ลูกบอลของน้องสาวผม!!!” อ้าวชิบ กูหยิบบอลติดมือมาด้วยเหรอเนี่ย ผมหันกลับไปกะโยนไปให้ไอ้เด็กจ้ำม่ำ แต่ไอ้เด็กนั่นถูกไอ้ปอนด์อุ้มแล้วเดินตรงแหน่วมาหาผมซะแล้ว
ผมยืนตัวชา มองดูไอ้ปอนด์อุ้มเด็กอ้วนด้วยท่าทางที่มันไม่รู้สึกหนักอะไรเลย
“เพื่อนพี่เหรอ หล่อแฮะ” เด็กมองไอ้ปอนด์อย่างตื่นๆ
“ไม่ใช่เพื่อน” ผมพูดแบบไร้เยื่อใย ก่อนที่จะยื่นลูกบอลไปให้เด็กคนนั้น
“ไม่ใช่เพื่อน งั้นก็ . .”
“แฟนไง” ปอนด์ตอบด้วยรอยยิ้ม แต่พอเจอหน้าของผมที่มองมัน รอยยิ้มนั้นก็กลายเป็นรอยยิ้มเจื่อนทันที หนึ่งคือผมยังโกรธมัน และสองคือไปบอกอะไรเด็กใสซื่อมันแบบนั้นนนนนนนน มันใช่เรื่องที่ไหนนนนนนนนน
“แฟนกัน!!!” ไอติมเกือบตกลงไปบนพื้นหญ้า “จริงป่าวเนี่ย!!!"
“ไม่จริง!/จริง” ผมกับปอนด์ตอบพร้อมกัน แต่ไม่เหมือนกันเลย
“ตอนแรกผมคิดว่าพี่คนนี้เป็นผู้ชายซะอีก ที่แท้ก็เป็นผู้หญิงนี่เอง” อ้าวชิบ กลับกลายเป็นกูที่ซวยสินะ = = ไอ้ปอนด์ยิ้มร่า ขณะที่ไอ้เด็กคนนั้นมองมันกับผมด้วยดวงหน้าที่ไร้เดียงสา
“สวยใช่มั้ยล่ะ” ปอนด์ถามไอ้จ้ำม่ำ
“สวยๆ พี่ก็หล่อ สวยก็ต้องคู่กับหล่อ”
“พูดแบบนี้อยากกินไอติมอีกแท่งใช่ป่าวเนี่ย”
“แม่บอกให้ลดความอ้วน แท่งเดียวก็พอฮะ”
O_O อะไรของพวกมันสองคนวะ มองกลายๆเหมือนไอ้ปอนด์เป็นคุณพ่อยังหนุ่มเลยแฮะ แต่จะอะไรก็ช่างเหอะ ผมยังอยากจะคุยกับไอ้เด็กนี่ต่อ ถ้าไม่มีเชี่ยไอ้ปอนด์มาขวางล่ะก็ . . หึ
“พี่สาวเค้าจะไปไหนอีกแล้วล่ะ” ผมที่เดินหนีได้สองสามก้าวเป็นอันต้องหยุดชะงักกึกเมื่อไอ้จ้ำม่ำมันโพล่งขึ้นมา
“พี่สาวเค้างอนพี่ชายน่ะ” ไอ้ปอนด์ . . ผมมองตาเขียวไปที่มันทันที มันทำหน้าเศร้าใส่เด็กไม่พอ หนำซ้ำยังเรียกผมว่าพี่สาวตามมันอีกน่ะ ไอ้เหี้ยเอ๊ย . . เล่นกากด๋อยอะไรวะ ไม่ขำด้วยนะโว้ย!!! “ดูสิ พูดด้วยก็ไม่ยอมพูดด้วย อยู่ใกล้แค่ห้าวิยังไม่ได้เลยอ่ะ”
“แล้วพี่ชายไปทำอะไรผิดล่ะฮะ พี่สาวเค้าถึงได้โกรธขนาดนั้นอ่ะ” ไอ้จ้ำม่ำ!!! กูให้แมคนั่มสิบแท่งไปเลย!!! มึงช่างเป็นเด็กที่มีเหตุมีผล มีหัวคิดที่สุดเท่าที่กูเคยเห็นมา
“เอ่อ . .” ปอนด์มองหน้าผมเหมือนไม่รู้จะตอบว่าอะไร “อะไรที่ผิดมาก ผิดจนไม่น่าให้อภัย แต่ที่พี่ชายมา ก็เพื่อขอโทษ”
ผมหันหน้าหนี . . ไม่อยากฟังต่อ . . ได้ยินแค่นั้นใจมันก็สั่นระรัวไปหมดแล้ว ความใจอ่อนของผมนี่ทำไมมันถึงมาง่ายขนาดนี้นะ แต่ไม่มีทางซะล่ะ กูไม่ใช่ของตายนะเว้ย!!!!
“ขอโทษพี่สาวเค้าสิฮะ”
หา . . ผมสะดุ้งสุดตัวตอนที่ไอ้ปอนด์วางเด็กจ้ำม่ำลง แล้วค่อยๆเดินมาหาผม
“มึงไม่ต้องเอาเด็กมาช่วยเลยนะ” ผมกัดฟันพูด ให้ไอ้ปอนด์ได้ยินคนเดียว
“ถ้าไม่มีเด็กคนนี้ธามก็จะไม่ฟังปอนด์ใช่ป่ะละ”
“ของมันแน่”
“ขอโทษนะ” ปอนด์ส่งเสียงออดอ้อน ผมมองหน้ามันที่ตอนนี้โคตรเศร้า เศร้าจนผมรู้ว่าที่มันพูดออกมานั้นล้วนแต่ออกมาจากใจของมันทั้งสิ้น
แต่ผมยังโกรธอยู่ . . ผมยังโกรธจริงๆนะ “รับไว้นะ แต่ไม่ให้อภัยว่ะ”
ผมสะบัดหน้าหนี เดินหนี ดึงแขนไอ้จ้ำม่ำให้เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
“ธามมมมม”
“พี่สาวให้อภัยพี่เค้าจิฮะ!”
“เรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะไอ้อ้วน”
“แต่พี่ชายรักพี่สาวมากเลยนะฮะ ผมดูก็รู้” มึงชักจะแก่แดดเกินไปแล้วโว้ย “สายตาที่พี่เค้ามองพี่สาวน่ะ เหมือนพ่อมองแม่ผมเลย”
ทำไมเปรียบกูเป็นผู้หญิงตลอดเลยวะ . .
“พ่อแม่อยู่ไหนเนี่ย จะพาไปส่ง”
“พี่สาวต้องให้อภัยพี่ชายเค้านะฮะ”
“ . .” ทำไมต้องทำหน้าตาน่าสงสารตามไอ้ปอนด์ด้วยล่ะ มันเป็นโรคติดต่อกันได้เหรอ “เอ่อ”
“นะฮะๆ”
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็คงด่าว่าเจือกไปนานแล้ว แต่นี่เป็นเด็ก TT
“เอ่อ ก็ได้” ผมตอบรับไว้ แต่ก็เพื่อให้เด็กสบายใจ แค่นั้นเองนะครับ!
“พี่ชายฮะ!!!! พี่สาวบอกจะให้อภัยพี่ชายแล้วฮะ!!!!” ไอ้อ้วน มึงกวนตีนแล้วสัดเอ๊ย!!!!!! ปอนด์ที่เดินตามมาทำหน้างงๆ แต่ก็เริ่มยิ้มออกมานิดๆ
“ไม่ใช่ซักหน่อย เชี่ยปอนด์ มึงไม่ต้องมายิ้มเลย!” โว้ยยย กูไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้ว
ผมกับปอนด์เดินไปส่งไอ้เด็กอ้วนกับพ่อแม่ของมันที่ริมน้ำ ที่รถเข็นเด็กมีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่าชังมากๆอยู่คนนึง คนนี้สินะที่เป็นน้องไอ้อ้วน
ดูยังไงก็น่ารักมากกว่าพี่มันเยอะ!!!!!!!!!!!. . 2 BROKEN HEARTS FALL IN LOVE . .
[/i]
“ตามกูมาทำไม”
“เปล่าตามซะหน่อย ทางออกมันอยู่ตรงนี้นี่”
“ . . ชิ” จริงของมัน
“แต่จะว่าตามก็ตามอะนะ เมื่อตะกี้ติดรถของโทมัสมา”
ผมหันหลังขวับไปมองไอ้ปอนด์ที่หยุดชะงักกึกเมื่อผมหยุด มันกระพริบตาปริบๆ เหมือนรู้ตัวว่ากำลังจะโดนด่า = =
“แผนของมึงใช่มั้ย”
“แผนอะไรเล่า”
“ไม่ต้องมาทำไก๋”
“ก็โทมัสมีงานต่อนี่นา จะให้ทำยังไง”
ผมมองปอนด์ตาขวาง “ดีแต่รบกวนคนอื่น ไม่ได้เรื่องเลย”
“ครับ ขอโทษครับ” ปอนด์หงอยไปเลย . .
ผมยืนนิ่ง จ้องมองไปที่ปอนด์ที่ยืนก้มหน้าอยู่ไม่ห่าง ไอ้โกรธก็ยังโกรธอยู่หรอกนะ แต่จะให้ทิ้งเคว้งคว้างไว้ที่นี่มันก็ใช่เรื่อง
“เดี๋ยวจะขับไปส่งละกัน”
“จริงเหรอ!!!” พ่อเจ้าประคุณตื่นตัวขึ้นมาราวกับหมาพุดเดิ้ลรู้ว่าเจ้านายกลับมาถึงบ้าน
“แต่ระหว่างทางมึงห้ามคุยกับกูสักคำนะ”
“อ่า . .”
“อ่าคือ ?”
“คือไม่แน่ใจ . . ว่าจะทำได้รึเปล่า”
ผมตวัดสายตามองดูหน้าของปอนด์ ที่ซึ่งตอนนี้มีใบหน้าเหลือแค่ประมาณ 3 นิ้ว เห็นปอนด์ทำหน้าจ๋อยแบบนี้แล้ว ผมรู้สึกใจอ่อนยวบยาบไปหมด แต่ด้วยทิฐิและก็นิสัยเดิมของผม ผมจึงยังให้อภัยมันไม่ได้
แค่ขับรถไปส่งมันที่คอนโดนี่ก็ถือว่าโชคดีแล้วนะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ธาม”
“ …” ระหว่างทาง ไอ้ปอนด์ก็เริ่มเอื้อนเอ่ยออกมา ผมว่าแล้วมันไม่มีทางที่จะทำตามที่สัญญาไว้ได้หรอก (เมื่อกี้เค้าสัญญากับเอ็งเหรอวะ?)
“จะไม่ . .คุยกันจริงๆเหรอ”
“…” ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี สิ่งที่ปอนด์กำลังจะพูดต่อไปนี้คงเป็นแก่นแท้ของปัญหาระหว่างผมกับมันแล้วสินะ
“ปอนด์อยากให้ธามฟังปอนด์”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” ให้ตายยังไงผมก็ยังไม่อยากฟัง
“ปอนด์ขอโทษ”
“คำขอโทษของมึงไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกของกูดีขึ้นมาได้หรอก” น้ำตาของผมปริ่มที่ขอบตาแทบจะในทันที . . ผมเจ็บปวด . . ผมทรมาน . . ยิ่งผมคิดเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเหมือนคนโง่ลงไปทุกที และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมปวดร้าวมากเหลือเกิน
“ปอนด์ยอมทำทุกอย่างแล้ว ธามจะให้ปอนด์ทำยังไง ปอนด์ยอมทุกอย่าง ขอแค่ธามหายโกรธเท่านั้น”
มือเรียวยาวของปอนด์เอื้อมมาจับมือของผมที่วางอยู่บนหน้าขา ผมที่กำลังจ้องมองทางข้างหน้ามีดวงตาที่สั่นระริก ไม่รู้ว่าจะทำยังไง
เพราะในหัวใจลึกๆจริงๆของผม . . ผมให้อภัยมัน . . ตั้งแต่ที่ผมเห็นหน้ามันแล้ว
ผมมันโง่ . .
“นานเท่าไหร่แล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือจาง
ปอนด์เหลือบมามองหน้าผมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
“นานเท่าไหร่แล้ว . .ที่ตัวปอนด์อยู่กับธาม . . แต่ใจของปอนด์ก็ยังคงคิดถึงคนอื่นอยู่” พูดออกไปด้วยความยากลำบาก
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะธาม”
“แล้วจะให้ธามคิดยังไง!” เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ผมเหยียบเบรกกะทันหันให้รถจอดที่ข้างทาง เพราะน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมาทำให้ผมไม่มีสมาธิในการขับรถอีกต่อไป
“การที่ธามไปเจอ . . ปอนด์กอดกับ . . คนที่ปอนด์ไม่เคยลืม ทั้งๆที่ไม่กี่วันก่อนปอนด์ก็บอกเองว่ารักธามมาก ฮึก . . ปอนด์คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับธามเหรอ แค่คิดธามก็เจ็บมากแล้วววว ธามไม่มีวันจะรับมันได้หรอก!!!!!” “ธามครับปอนด์ก็แค่ . .”
“สิ่งที่ปอนด์จะพูดก็มีแต่ทำให้ตัวเองดูดีเท่านั้นนั่นแหละ!!!!!” “ไม่ใช่อย่างนั้น!”
“ถามใจตัวเองเหอะ . .ฮึก ว่ายังต้องการกันอยู่รึเปล่า . . ว่ายังรักกันอยู่รึเปล่า หรือแค่มีธามเพื่อคั่นเวลา ทั้งๆที่ตัวเองก็กำลังรอใครบางคนอยู่!!!” “ธาม”
“กลับไปซะ” มือทั้งสองข้างของผมประสานกันที่ใบหน้า ปิดบังความอ่อนแอของตัวเองเอาไว้ ร้องไห้จนอกรู้สึดปวดแปลบไปหมด
“กลับไปหาคนที่ปอนด์ไม่เคยลืม” “ธาม . .” ปอนด์พยายามจะจับมือของผมเอาไว้ แต่ผมสะบัดมือหนี
“กลับไป!!!!!! อุบ . .” ปอนด์ดึงใบหน้าของผมเข้าไปประกบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว การปล้นจูบของมันในคราวนี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีเลยสักนิด แม้ในใจจะวาบหวามอยู่บ้างแต่ไม่ตรงสถานการณ์และก็ไม่ถูกกาลเทศะเอาเสียเลย ผมทั้งทุบแขนมัน ทั้งผลักมันออกไป แต่ไอ้บ้าปอนด์ก็ดันตัวเองเข้ามาเบียดกับผม และปากของผมกับปากของมันก็ไม่ได้แยกกันอยู่นานสองนาทีครึ่ง
ทันทีที่มันผละออก ผมโมโหมาก นางเอกในละครตบพระเอก แต่ผมขอชกละกัน
พลั่วะ!
“ไอ้เหี้ย!!!!!!!” “คนนี้ไงที่ปอนด์ต้องการ”
“ไม่ใช่!!!” “ธามจะไปรู้ใจปอนด์ได้ไง”
“มึงคิดเองเออเอง มึงไม่ได้ลองคิดดีๆด้วยซ้ำไป!!!” “คิดดีแล้ว”
“ไม่” “ฟังปอนด์สักทีได้มั้ย”
“มึงก็เข้าใจกูสักทีได้มั้ย!!! ว่ากูเจ็บ!!!” คำพูดของผมทำเอาปอนด์ไม่เถียงอะไรอีก ปอนด์มีสีหน้าที่รู้สึกผิดแทบจะมีน้ำตาปริ่มออกมาที่ขอบตาอยู่แล้ว
มันก็คงเสียใจไม่แพ้ผม . .
“กูขอโทษ” ปอนด์พูดในที่สุด
“กูขอโทษนะ” “กูยังไม่พร้อมที่จะให้อภัยจริงๆ” ผมรักมัน . . แต่ในหัวของผมก็ยังคิดถึงเรื่องของคินตาอยู่ ผมเจ็บมากจนผมฝังใจ และลืมไม่ลง
“กูมันเหี้ย” ปอนด์หลับตา ราวกับต้องการสะกดความเจ็บปวดเอาไว้ให้ลึกที่สุด
“กูเหี้ยจน . .ไม่คู่ควรกับคนอย่างมึง” หวะ ว่าไงนะ . . ผมมองไอ้ปอนด์ผ่านม่านน้ำตา น้ำตาของปอนด์หนึ่งหยดหยดแหมะที่กางเกงยีนส์ของปอนด์ ปอนด์ร้องไห้ . .
“ถ้ากูยังอยู่ . . มึงก็คงจะเสียใจต่อไปเรื่อยๆใช่มั้ย สิ่งที่กูทำ มันทำให้มึงเจ็บ มึงคงเจ็บมาก เสียใจมาก และมึงก็ยังได้รู้ด้วยวิธีที่เหี้ยที่สุดด้วย . .”
“แต่ขอให้จำไว้อย่างนึงนะ ที่กูทำไปมันผิดมากจริงๆผิดจนไม่น่าอภัย แต่กูไม่เหลือความรักให้พี่คินอีกแล้ว กูเหลือแค่ความเป็นห่วงเท่านั้น สิ่งที่กูแสดงออกไป ทำให้มึงเข้าใจกูผิด ซึ่งกูก็ไม่โทษมึงหรอก . .” “กูไม่คู่ควรกับคนอย่างมึงอีกต่อไปแล้ว ธาม . . กูจะปล่อยมึงไป” เราสองคนมาไกลได้เท่านี้จริงๆน่ะเหรอ . .
“รักษาสุขภาพด้วยนะ กูมองมึงอยู่เสมอไม่ว่ากูจะอยู่ที่ไหน” “…”
“กูรักมึงจริงๆนะธาม” ปัง! เสียงประตูปิดดึงเอาสติของผมกลับคืนเข้าสู่ร่าง นี่มันอะไรกัน ผมกับปอนด์จบสิ้นกันแล้วเหรอ . . หมะ ไม่จริงใช่มั้ย . .
ผมมองแผ่นหลังของปอนด์ที่เดินโคตรเซอยู่ริมฟุตบาทข้างๆถนน ปอนด์ยืนนิ่งยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง
ผมมองภาพนั้น ดวงตาที่เริ่มจะแข็งทื่อกลับสั่นระริกขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาของผมไหลพรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก
ผมกับมัน . . ก็โง่ด้วยกันทั้งคู่
. . เราจบกันแล้ว *ใกล้จบจริงๆแล้วน้าาาา*
เตรียมตัวรับการอ่านปอนด์ธามแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์
รักนะค้าา ^^