บท6"อาหารที่เป็นอันตรายต่อคุณแม่แล้วก็ลูกน้อย... ไข่ดิบหรือไข่ที่ปรุงไม่สุก เนื้อหรือปลาที่ปรุงไม่สุกหรือเกือบดิบ พวกซูชิปลาดิบ สเต็กไม่สุก แซลมอนรมควัน อ๋อ... แต่เราก็ไม่ชอบของพวกนี้อยู่แล้วละนะ" น้ำเหนือกึ่งนั่งกึ่งนอนเปิดอ่านหนังสือคู่มือคุณแม่มือใหม่อยู่บนเตียง
"อารมณ์ของคุณแม่จะส่งผลต่อลูกน้อย ไม่ควรเครียดหรือคิดมาก ฉุนเฉียวหรือกรุ่นโกรธ" น้ำเหนืออ่านไปก็เริ่มขมวดคิ้วไปก่อนจะนึกขึ้นได้ก็รีบสะบัดหน้าทันที
"ทุกอย่างมันมาถึงขนาดนี้แล้วนี่นะ กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเราก็ควรจะเลิกคิดมากเพื่อเจ้าตัวเล็ก" มือข้างหนึ่งละจากหนังสือมาลูบที่หน้าท้องของตัวเอง "แม่จะพยายามเป็นแม่ที่ดีที่สุดนะตัวเล็ก"
น้ำเหนือยิ้มกับตัวเองในเมื่อเครียดหรือคิดมากไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงเขาก็จะยอมรับเรื่องราวในสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกของเขาจะต้องเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดคนหนึ่ง
มือยังคงเปิดหนังสือที่ไปซื้อมาโดยที่คุณหญิงมรกตเป็นคนเลือกให้ นึกขอบคุณคุณหญิงอยู่ในใจเพราะหนังสือที่ได้มานั้นช่วยให้น้ำเหนือเข้าใจอะไรต่างๆ ได้มากขึ้น
"เอ...ตอนนี้เราท้องได้เก้าสัปดาห์แล้ว ฮ่ะๆๆ เจ้าตัวเล็กสูงตั้งสองเซน ตัวอย่างกับลูกหนู" น้ำเหนืออดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อนึกว่าเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องนั้นมีความสูงเพียงแค่สองเซนติเมตรแต่อีกส่วนหนึ่งรู้สึกทึ่งว่าภายในท้องของตนเองตอนนี้มีเด็กที่กำลังเจริญเติบโตอยู่
หลังจากนั้นเจ้าตัวก็อ่านคู่มือของการเป็นคุณแม่มือใหม่เสียจนเพลินจนกระทั่งเสียงของนาฬิกาโทรศัพท์ดังแจ้งเตือนว่าได้เวลาทานยาบำรุงต่างๆ แล้วเจ้าตัวจึงผละจากหนังสือเล่มนั้นไปหยิบสารพัดยาบำรุงที่หมอวิรัชให้มาก่อนจะเตรียมตัวเข้านอน โดยไม่ลืมที่จะเตรียมน้ำผลไม้ใส่แก้วแช่เอาไว้ในตู้เย็นด้วย ก็หวังว่าเจ้าสิ่งนี้จะพอช่วยให้อาการแพ้ท้องที่รุนแรงของน้ำเหนือลดลงไปบ้าง
แต่ดูเหมือนลูกน้อยของตนจะไม่เห็นใจคนเป็นแม่เพราะน้ำเหนือรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงก่อนฟ้าสว่างพร้อมอาการคลื่นไส้เวียนหัวรุนแรงจนต้องรีบพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาเจียนออกมา
เสียงอาเจียนดังก้องอยู่ในห้องน้ำแคบๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรจะให้อาเจียนออกมาแล้วแต่อาการก็ยังไม่ลดลง สุดท้ายน้ำเหนือก็ได้แต่นั่งพิงผนังห้องน้ำพร้อมกับหอบหายใจจากการโก่งคออาเจียน
อาการแพ้ท้องในเช้าวันนี้ดูจะรุนแรงกว่าในทุกๆ วันเพราะถึงแม้น้ำเหนือจะฝืนดื่มทั้งน้ำผลไม้ หรือ น้ำขิงก็ยังไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
กว่าจะพาร่างอันอ่อนแรงของตัวเองกลับมาที่เตียงได้ก็ใช้เวลาไปไม่น้อยพอมาถึงก็ได้แต่นั่งพิงหมอนหยิบพิมเสนมาดมเพื่อหวังให้อาการเวียนหัวนั้นดีขึ้น แล้วได้แต่นั่งนิ่งๆ อยู่แบบนั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือของน้ำเหนือดังขึ้นเรียกให้เจ้าตัวต้องลืมตาขึ้นมองแล้วคว้าเอาเครื่องที่กำลังส่งเสียงมาดู คิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นเบอร์โทรแปลกๆ ก่อนจะกดรับ
"สวัสดีครับ"
[สวัสดีจ๊ะน้ำเหนือ ฉันคุณหญิงมรกตเองนะ] ปลายสายที่ส่งเสียงตอบมาพร้อมกับแนะนำตัวให้คนฝั่งนี้สะดุ้งแล้วนั่งตัวตรงทันทีด้วยความตกใจ
"ครับ ค คุณหญิงสวัสดีครับ"
[จ๊ะ ขอโทษทีนะที่โทรมาตอนเช้าแบบนี้ตกใจแย่เลยสิ]
"ม ไม่หรอกครับ คุณหญิงมีเรื่องอะไรหรือครับ" น้ำเหนือถามกลับไปด้วยความสงสัย ถึงแม้เขาจะเคยถูกคุณหญิงเรียกไปรับใช้บ่อยๆ เวลาคุณหญิงมาที่สาขาใหญ่แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะได้รับโทรศัพท์แบบนี้
[วันนี้น้ำเหนือไม่ต้องเข้าไปที่ร้านนะ มาหาฉันที่บริษัทจิลเวลที วันนี้มีประชุมดีไซเนอร์พอดีคุณสุภาโทรมาบอกว่าไม่ว่าง] คุณหญิงมรกตพูด
"เออ... ปกติแล้วพี่โอ๊ตจะเป็นคนเข้าไปประชุมกับผู้จัดการไม่ใช่หรือครับ" น้ำเหนือถาม
การประชุมดีไซเนอร์นั้นจะมีทุกเดือนหรือบางเดือนอาจจะมีมากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อพูดคุย ปรึกษา เสนอความคิดเห็นถึงความต้องการของลูกค้าแล้วก็เทรนที่กำลังมาแรงในตอนนี้เพื่อมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบเครื่องประดับ คนที่ไปร่วมประชุมนั้นจะเป็นผู้จัดการร้านและดีไซเนอร์ของร้านซึ่งสาขาใหญ่ที่น้ำเหนือทำงานอยู่นั้นคนที่จะไปประชุมร่วมก็คือโอ๊ต
[คุณสุภาบอกว่าโอ๊ตมีนัดคุยงานกับลูกค้าเลยจะให้น้ำเหนือมาแทน พอได้ยินแบบนั้นฉันก็เลยอาสาจะโทรมาหาน้ำเหนือแทนจ๊ะ]
"จะดีหรือครับ ผมเองก็เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่นานเกรงว่าจะทำได้ไม่ดี" น้ำเหนือบอกออกไปอย่างไม่แน่ใจนัก
[ไม่หรอกจ๊ะ การประชุมไม่ได้เคร่งเครียดอะไรขนาดนั้น เอาเป็นว่าตอนเก้าโมงเราก็เข้ามาที่บริษัทเลยนะ รู้ใช่ไหมจ๊ะว่าตรงไหน]
คนฟังได้แต่นึกถอนหายใจในใจแม้จะไม่อยากไปแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ยิ่งคนที่โทรมาบอกเป็นถึงเจ้าของร้านเพชรเพทายแบบนี้แล้วด้วย "ครับคุณหญิง"
น้ำเหนือวางโทรศัพท์เอาไว้ที่เดิมก่อนจะถอนหายใจออกมามือเผลอยกขึ้นลูบหน้าท้องตัวเอง "หวังว่า...จะไม่ต้องเจอเขานะ"
ใช่... เหตุผลที่น้ำเหนือไม่อยากไปที่บริษัทไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะทำงานได้ไม่ดี แต่เพราะเขาไม่อยากเจอใครคนหนึ่งต่างหากถึงแม้จะไม่อยากไปมากแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถทำได้ น้ำเหนือจึงได้แต่ลุกเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลือกเอาเสื้อเชิ้ตสีอ่อนแขนยาวมาใส่เพื่อให้ดูเรียบร้อยก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ใบเล็กมาใส่บรรดายาบำรุง ยาแก้แพ้รวมไปถึงชงน้ำขิงร้อนๆ ใส่แก้วแบบเก็บความร้อนได้แล้วเอาใส่กระเป๋าไปด้วย ไม่รู้หรอกว่าของพวกนี้จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนแต่น้ำเหนือก็เตรียมเอาไว้ก่อน
ร่างเพรียวบางของน้ำเหนือเดินออกไปที่บริเวณหน้าถนนใหญ่ก่อนจะตัดสินใจโบกรถแท็กซีแทนที่จะขึ้นรถโดยสารประจำทางเพราะขนาดแค่เขาเดินมายืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ได้ไม่นานก็ชักจะเวียนหัวแล้ว
เพราะทั้งกลิ่นน้ำหอม กลิ่นเหงื่อไหนจะยังมีสารพัดกลิ่นอาหารที่วางขายอยู่ริมทางปะปันกันมั่วไปหมดจนเขาพะอืดพะอมอยากจะอาเจียน แม้ว่าการขึ้นรถแท็กซีจะเสียเงินมากแบบที่หากเป็นเวลาปกติน้ำเหนือจะไม่ขึ้นเลยแต่เวลานี้เขาไม่อาจจะขึ้นไปสู้รบกับคนจำนวนมากคนรถประจำทางได้เลยต้องยอมขึ้นรถแท็กซีแทน
ใช้เวลาเดินทางกว่าหนึ่งชั่วโมงรถแท็กซีที่น้ำเหนือนั่งมาก็จอดสนิทอยู่หน้าอาคารสูง เจ้าตัวจ่ายเงินค่าแท็กซีก่อนจะก้าวลงจากรถพร้อมถอนหายใจ
"เสียงไปตั้งเกือบสองร้อย เจ้าตัวเล็กนะเจ้าตัวเล็ก" คนเสียเงินไปเยอะกับค่าเดินทางเบ้ปากน้อยๆ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดด้านหน้าอาคารขึ้นไป
"บริษัทจะใหญ่ไปไหนเนี่ย..." คนที่เพิ่งเคยเข้ามาที่บริษัทครั้งแรกอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา เคยได้ยินโอ๊ตเล่าให้ฟังอยู่ว่าตึกนี้เป็นของบริษัทจิลเวล บริสตัน จำกัดทั้งหมด แต่ก็เปิดให้บริษัทอื่นๆ มาเช่าชั้นอยู่ ตึกนี้สูงสามสิบชั้น เป็นของบริษัทอื่นๆ สักสิบชั้น ส่วนที่เหลืออีกยี่สิบชั้นเป็นของบริษัทจิลเวล บริสตัน
ภายในตกแต่งอย่างหรูหราจนน้ำเหนือชักจะไม่แน่ใจว่าที่นี่คือบริษัทหรือโรงแรมระดับห้าหกดาวกันแน่
"น้ำเหนือจ๊ะ"
ในขณะที่กำลังมองสำรวจไปรอบๆ ก็เป็นอันต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทักจากทางด้านหลังให้ต้องรีบหันกลับไปมองแล้วยกมือไหว้ทันที
"สวัสดีครับคุณหญิงมรกต คุณอชิตพล แล้วก็... เออ... สวัสดีครับ" น้ำเหนือยิ้มพร้อมกับพูดทักทายคุณหญิงมรกตรวมไปถึงควอตซ์ ส่วนอีกสองคนที่เดินมาด้วยนั้นเขาไม่รู้จักเลยได้แต่พูดสวัสดีเท่านั้น
อุตส่าห์ภาวนาว่าอย่าได้เจอ ดันเจอเสียตั้งแต่ก้าวเข้ามาในอาคาร"อ๋อ! จริงสิน้ำเหนือยังไม่รู้จักสินะ นี่คุณโทมัส บริสตัน ประธานบริษัทจิลเวล บริสตัน สามีของฉันเองจ๊ะ ส่วนนี่ลาพิสลูกสาวคนเล็ก" พอได้ยินคุณหญิงมรกตแนะนำเท่านั่นแหละดวงตาของน้ำเหนือก็เบิกกว้างทันทีพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อีกรอบ
"ส สวัสดีครับท่านประธาน คุณลาพิส" นอกจากไหว้คุณโทมัสแล้วยังหันไปไหว้ลาพิสให้สาวเจ้ารับไหว้แทบไม่ทันก่อนจะพูดยิ้มๆ
"พี่น้ำเหนือไม่ต้องไหว้พิสหรอกค่ะ พิสอายุน้อยกว่า พี่น้ำเหนือนี่น่ารักอย่างที่คุณแม่บอกเลยนะคะ เป็นผู้ชายจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย" ลาพิสขยับมาใกล้พร้อมกับยิ้มหวานให้น้ำเหนือจนเจ้าตัวได้แต่ยิ้มตอบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร
"ยังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะเริ่มประชุมยังไงน้ำเหนือขึ้นไปข้างบนกับฉันก่อนแล้วกันนะ ไปนั่งในห้องรับรองข้างบนก่อน" คุณหญิงมรกตเอ่ยชวน พอน้ำเหนือตั้งท่าจะปฏิเสธลาพิสก็คว้าแขนเรียวของเขาเอาไว้ทันที
"นะคะพี่น้ำเหนือ พิสอยากให้พี่ช่วยให้คำแนะนำเรื่องออกแบบเครื่องประดับ ไปนั่งด้วยกันนะคะมีคุณแม่แล้วก็พิสสองคนเองค่ะ" พอได้ยินแบบนั้นน้ำเหนือก็พยักหน้าตกลงรับคำก่อนจะถูกลาพิสจับแขนพาเดินไปด้วยกัน
ควอตซ์ออกเดินนำทุกคนไปที่ลิฟต์เพื่อกดลิฟต์รอ
"เดี๋ยวผมกดให้เองครับ" น้ำเหนือพูดพึมพำก่อนจะยืนกดลิฟต์ค้างไว้เพื่อรอให้ทุกคนเข้าไปจนหมดก่อนจะก้าวตามเข้าไปแล้วขยับไปยืนอยู่มุมลิฟต์ข้างๆ กับควอตซ์ที่ยืนอยู่ก่อน
ตลอดระยะเวลาสั้นๆ ในลิฟต์น้ำเหนือได้แต่ยืนตัวเกร็งก้มหน้ามองพื้น ยิ่งพอมีคนเข้ามาในลิฟต์มากขึ้นระยะห่างของน้ำเหนือกับควอตซ์ก็ยิ่งน้อยลง
น้ำเหนือหันหน้าเข้าหาผนังลิฟต์มือยกข้างหนึ่งขึ้นดันผนังเอาไว้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉุนเสียจนรู้สึกเวียนหัว ใบหน้าน่ารักนั้นเริ่มซีดพยายามกล่ำกลืนสิ่งที่วิ่งมาจุกอยู่ที่คอให้กลับลงไป
"เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าเธอซีดมาก" เสียงทุ้มเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นเบาๆ อยู่เหนือศีรษะให้คนที่อาการแพ้ท้องกำเริบต้องเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเบนสายตากลับ
"ม... ไม่เป็นอะไรครับ" น้ำเหนือตอบก่อนจะขยับตัวชิดผนังลิฟต์มากขึ้นพยายามหนีให้ห่างจากกลิ่นที่ทำให้เวียนหัวจนอยากจะอาเจียนนั้นแต่นั่นก็ยิ่งทำให้เข้าใกล้ควอตซ์มากขึ้นแบบไม่รู้ตัว
มือของควอตซ์ขยับมาจับแขนคนที่เซจวนจะล้มเอาไว้แน่นพร้อมกับขยับไปใกล้จนน้ำเหนือสามารถยืนพิงตัวเขาเอาไว้ได้ พร้อมกับก้มมองสีหน้าของคนที่ยืนหน้าซีด ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เจอหน้าตายังดูสดใสอยู่แท้ๆ แต่พอเข้าลิฟต์มาได้ไม่นั้นก็หน้าซีด เหงื่อซึมจนกลัวว่าจะเป็นล้มไปเสียได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะดีขึ้น
คนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังไปยืนพิงคนที่อยากจะหนีหน้าไปให้พ้นนั้นเริ่มรู้สึกหายใจโล่งขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ จากสิ่งที่กำลังพิงอยู่นี้ทำให้น้ำเหนือรู้สึกดีขึ้นทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังรู้สึกฉุนกลิ่นน้ำหอมอยู่แท้ๆ จนอดไม่ได้ที่จะซุกหน้าลงกับความหอมนั้นอย่างลืมตัว แล้วท่าทางนั้นก็ทำเอาคนที่ยืนเป็นกำแพงให้พิงก็ยกยิ้มขึ้นจางๆ โดยที่ทั้งสองคนไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีใครกำลังมองอยู่
ช่วงเวลาที่แสนทรมานของน้ำเหนือสิ้นสุดลงในที่สุดเมื่อเหล่าผู้คนที่เป็นมลภาวะทางกลิ่นของน้ำเหนือก้าวออกจากลิฟต์ไปหมดจนเหลือเพียงพวกเขาห้าคนในลิฟต์ที่ยังคงขึ้นสูงต่อไป
"พี่น้ำเหนือเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงทักของลาพิสทำให้คนที่ซุกหน้าเข้าหากลิ่นหอมอ่อนๆ สะดุ้ง เสื้อเชิ้ตสีอ่อนเนื้อผ้านุ่มสบายปรากฏอยู่ตรงหน้าหลังจากที่ลืมตาขึ้น แล้วเมื่อเงยหน้าขึ้นมองน้ำเหนือก็รีบผละถอยหลังออกห่างทันที
"ข...ขอโทษครับ" ได้แต่พูดขอโทษอีกฝ่ายแล้วหันหน้าไปอีกทาง
"พี่น้ำเหนือไม่สบายหรือคะ หน้าซีดเชียวก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลยหรือว่ากลัวความสูง กลัวที่แคบ กลัวลิฟต์หรือเปล่าคะ" ลาพิสขยับมาหาพร้อมกับเอ่ยถาม
"คือผมเหม็นกลิ่น... เออ ไม่ใช่ ผมไม่สบายนิดหน่อยครับ พอลิฟต์มันเลื่อนขึ้นเลยรู้สึกเวียนหัว ต แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก" น้ำเหนือตอบ
"ไม่เป็นไรนะคะ นี่... ถึงชั้นพอดีเลย มาค่ะพี่น้ำเหนือ" น้ำเหนือได้แต่ก้าวตามแรงดึงของลาพิสออกจากลิฟต์
คุณโทมัสและควอตซ์เดินแยกไปทางขวามือหลังจากที่ออกจากลิฟต์ซึ่งเป็นส่วนของห้องทำงานของผู้บริหารใหญ่ ส่วนน้ำเหนือ ลาพิสและคุณหญิงมรกตเดินมาทางซ้ายมือซึ่งเป็นห้องรับรอง อีกทั้งยังมีห้องพักอยู่ด้วย เรียกว่าชั้นนี้เป็นชั้นของครอบครัวบริสตันเท่านั้น
"ห้องน้ำอยู่ทางนั้นนะจ๊ะ ไปล้างหน้าหน่อยไหมหน้าตายังซีดๆ อยู่เลย" คุณหญิงมรกตชี้ไปทางประตูที่อยู่ด้านในของห้องรับรอง หรือถ้าเทียบกับเป็นบ้านก็คงเป็นห้องนั่งเล่น
"ครับ ผมขอตัวสักครู่นะครับ" น้ำเหนือพูดก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้น
หลังจากที่ออกจากห้องน้ำ น้ำเหนือก็เดินมานั่งข้างลาพิสที่ร้องเรียกก่อนจะพูดคุยกับทั้งสองคนซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นทางฝั่งคุณหญิงมรกตและลาพิสที่มักจะชวนน้ำเหนือคุยมากกว่า
"ขนมค่ะคุณหญิง วันนี้เป็นขนมชั้นนะคะ" ประตูห้องรับรองเปิดออกพร้อมกับพนักงานเดินยกขนมและเครื่องดื่มเข้ามาก่อนจะวางลงที่โต๊ะหน้าโซฟาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกจากห้องไป
"น้ำเหนือลองทานดูสิ พิสส่งขนมให้พี่เขาสิ" คุณหญิงมรกตพูดให้ลาพิสรับคำก่อนจะหยิบจานขนมส่งให้น้ำเหนือ
"ขอบคุณครับ" น้ำเหนือทำได้แค่รับมาพร้อมกับยิ้มแม้จะรู้สึกอยากจะวางจานนั้นลงเพราะรู้สึกเหม็นกลิ่นกะทิ กลิ่นน้ำนมแมวที่ใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมนั้น
แต่พอเห็นสายตาของทั้งสองคนที่มองมาน้ำเหนือจึงได้แต่ใช้ส้อมจิ้มขนมอันเล็กจิ้มขนมชั้นรูปดอกกุหลาบขึ้นมา แต่พอยิ่งเลื่อนมือเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่อาการพะอืดพะอมก็ยิ่งตีตื้นขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายก็ได้แต่วางจานในมือลงโต๊ะเร็วๆ แล้วรีบสาวเท้าไปที่ห้องน้ำท่ามกลางความตกใจของทั้งคุณหญิงมรกตและลาพิส
"น้ำเหนือ! ไหวหรือเปล่า" คุณหญิงมรกตเดินเข้าไปลูบหลังคนที่โก่งคออาเจียนอยู่ที่อ่างล้างหน้าด้วยความเป็นห่วง
"ห... ไหว ครับ อ๊อกกกกกกก!!" แต่พอเอ่ยปากพูดก็ต้องก้มลงไปอาเจียนอีกรอบ มือทั้งสองข้างที่จับขอบอ่างล้างหน้านั้นสั่นระริกเพราะหมดแรงไปกับการอาเจียน
"พี่น้ำเหนือไหวแน่หรือคะ ไปหาหมอไหม" ลาพิสเองก็ก้าวมายืนอีกข้างพร้อมกับใช้มือจับแขนพยุงคนที่ดูเหมือนจะหมดแรงนั้นเอาไว้
แต่คนแพ้ท้องก็ยังไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาพูดตอบอะไรได้
"ลาพิสไปตามพี่ควอตซ์มาหน่อยลูก หรือเรียกใครมาก็ได้คงต้องพาน้ำเหนือไปหาหมอแล้วละ" คุณหญิงหันไปสั่งคนลูกสาวซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับทันที
ประตูห้องเปิดออกก่อนที่ลาพิสจะเดินไปถึงพร้อมกับร่างสูงในชุดสูทของควอตซ์จะเดินเข้ามา ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าร้อนรนของน้องสาว
"พ พี่ควอตซ์พาพี่น้ำเหนือไปหาหมอทีค่ะ พี่น้ำเหนืออาเจียนหนักมากเลย" มือเรียวสวยของลาพิสเอื้อมมือไปจับแขนของควอตซ์พร้อมกับเขย่า
"ผ ผมไม่เป็นไรครับ" เสียงของน้ำเหนือที่ฟังดูอ่อนแรงดังขึ้นทางประตูห้องน้ำโดยมีคุณหญิงมรกตคอยช่วยประคอง
เห็นแบบนั้นควอตซ์ก็รีบเดินเข้าไปหาก่อนจะรั้งน้ำเหนือมาประคองไว้แทน "ผมเองดีกว่าครับคุณแม่" ก่อนจะพาคนหน้าซีดหมดแรงไปนั่งที่โซฟา
"แน่ใจนะน้ำเหนือว่าจะไม่ไปหาหมอ" คุณหญิงมรกตถาม
"ครับ ไม่เป็นอะไร... ไม่ต้องไปหาหมอหรอกครับ"
"แล้วพี่น้ำเหนือเป็นอะไรคะเนี่ยทำไมถึงได้อาเจียนหนักขนาดนี้"
คนถูกถามชะงักไปทันทีที่ได้ยินคำถาม จะให้บอกได้อย่างไรว่าเหม็นกลิ่นขนมเพราะกำลังท้องอยู่ พอเห็นคนไม่สบายยังอ้ำอึ้งคุณหญิงมรกตก็ถามซ้ำต่อ
"นั่นสิน้ำเหนือ ไม่สบายเป็นอะไร"✽ ✽ ✽ ต่อคราวหน้านะคะ ^^'' ✽ ✽ ✽
************************************************
ไม่ครบ 100% อะค่ะ แฮ่... สักเท่าไหร่ก็บอกไม่ถูกแต่เหมือนจะเกิน 50% อยู่นะ มาที่เหตุผลที่มาอัพช้ากันก่อน... ฟางมีเรียนพิเศษจ้า เรียนลากยาวตั้งแต่วันจันทร์-วันอาทิตย์เลย ฟางเลยไม่ได้แต่งนิยายเลยค่านี่ก็เอาจากการแต่งเล็กผสมน้อยในแต่ละวันออกมา เอาไปเท่านี้ก่อนเนอะ เดี๋ยวสัปดาห์หน้าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติละจ้า นี่แวบเอาเน็ตเอาคอมในที่เรียนพิเศษมาอัพนะเออ
มาที่นิยาย... อิอิ อย่าโจมตีเค้าเลย ไม่ได้ตั้งใจจะตัดแบบนี้นะเออ... แต่มันถึงเวลาต้องตัดฉับ! ตอนนี้จะมีใครรู้เรื่องน้องเหนือท้องบ้างไหม หรือจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้รออ่านที่เหลือนะจ๊ะ ส่วนพี่ควอตซ์...พี่แกทำทุกอย่างออกไปแบบไม่รู้ตัวอะ ยังไงละ...เห็นคนยืนหน้าซีดก็เข้าไปช่วย เห็นแม่ประคองน้องออกมาก็เลยเข้าไปช่วยแม่ เป็นการกระทำที่แสดงออกมาเองโดยที่ตัวพี่เขาก็ไม่รู้อะจ้า เจอกันส่วนที่เหลือนะคะ
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้อุ่นไอรักค่ะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ