( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 483678 ครั้ง)

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
จิงนี่มารร้ายชัดๆ น่าจะคิดการชั่วอยู่
นางดูจิตมากๆ ดูไม่ปกติ น่ากลัว!!

เป็นห่วงเมดนะตอนนี้
แต่เชื่อว่าเมดสตรองขึ้นกว่าเดิมแล้ว
และเชื่อว่า อาฟ อารยะ ต้องจัดการได้

เดอะแก๊งค์ Throw Up สู้ๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอบนี้จิงตอแหลไม่เนี่ยนน๊าาา :m20:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
แต่ละคนมีความเติบโตอ่ะ
เหลือแค่ไม่กี่คนที่ยังเล่นอะไรเป็นเด็กๆ
แบบที่เรียกว่า. แพ้แล้วพาล

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอวิธีการแก้ปัญหาของเฮียอาฟว่าจะทำอย่างไร แต่ก็อยากจะให้จัดการก่อนที่เมดจะรู้เรื่อง  o18

ออฟไลน์ Sorth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
...มาดูกันว่าคุณ อารยะ จะจัดการยังไงกับเรื่องราวคราวนี้.. o18

ออฟไลน์ PK.Kenaf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ก็จริง บางเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าควรพูดดีไหม เราก็จะเงียบรอไปก่อน
แต่คือเหม็นความรัก ชอบเวลาเมดใส่ใจอาฟ ชอบเวลา2คนนี้งุ้งงิ้งกัน น่ารัก
ส่วนจิงนี่นิสัยขี้อิจฉาป่ะ เขามีความสุข ใจนางก็ดูร้อนรุ่มไปเลยจ้า สะใจนักตอนเมดตอบจิง ยุยงเก่งงงงง :m31:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จิง เป็นเพื่อนที่เลว ยังๆไม่พอ (ไม่สมกับความดำมืดในจิตใจ น่าไปพบจิตแพทย์ได้แล้ว)
ยังเลวน้อยไป ต้องพูดว่าเลวโคตรๆ  :fire: :angry2: :m31:
ตัวเองแอบกินผัวเพื่อน แล้วถูกบอกเลิก มีความทุกข์
แล้วเห็นเพื่อนที่ตัวเองแอบกินผัวเขาได้ดีมีความสุข ก็อิจฉา  :เฮ้อ: :really2: :serius2:
มากุเล่าเรื่องอาฟพาสาวไปกินข้าวให้เมดฟัง
ดีที่เล่าเรื่องโกหกมันค้านกับที่เมดรู้  เลยหน้าแตกซะ
หวังให้คู่รักเขาแตกแยก ไม่มีความสุขเหมือนที่ตัวเองไม่มีความสุข
ช่างเป็นหมาหางด้วนแท้ทรู  เลววววววสัดๆ  :fire: :fire: :fire:

วิว มีพัฒนาโตขึ้น รู้จักคิด รู้จักยับยั้งช่างใจ
ปรึกษาเจเสียก่อน ดีมากกกกกกกก

อาฟ  เมด   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ชื่อจิงผู้ไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่กับเพื่อนที่เรียกได้ว่า เพื่อนสนิท :beat: :beat:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ความห่วงพี่ของน้องจะบอกก็กลัวพี่เสียความรู้สึกไม่บอกแต่พอพี่รู้ความจริงที่หลังก็กลัวพี่เจ็บกว่าเดิม แต่ดีเลยที่ยังไม่บอกเอามาปรึกษาหลายๆคนแบบนี้ดีกว่าหลายความคิดหลายทางออกดีกว่าหาทางออกไม่เจอแล้วมันจะแย่กว่าเดิมน้องวิวเริ่มคิดเป็นแล้ว
  หวานกันแบบไม่แคร์สื่อจริงๆทำไมอาฟมันน่ารักแบบนี้แต่ยังไงก็ปกป้องเมดด้วยนะตอนนี้เมดกำลังมีมารมาคอยรังควานอีกแล้ว เมื่อไหร่มารพวกนี้จะไปจากเมดสักทีหรือต้องให้อารยะจักการให้สิ้นซากไปเลยดี

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เรื่องพีคแต่ละเรื่อง ทำเมดเจ็บใจตลอด
แต่ดีที่วิวยังไม่เล่า คุยกับเจก่อน พัฒนานะวิว 5555
ตลกวิว จะให้ตื่นเต้นขนาดไหนล่ะ
ให้พี่เจพาไปเล่นสวนสนุกหรอ
เจเอ็นดูวิวมากเลยนะ และออกปากว่ารัก

เมดเป็นคนน่ารัก น่าเอ็นดู และน่าแกล้งไปพร้อมกัน
ตอกหน้าจิงได้ซื่อมากเลย ไม่ได้อยากให้เจ็บ แค่บอก
อาฟคือคนเท่ห์ ที่ปากแข็งตลอดกาล บ้าบอด้วย
แหมม ปลื้มล่ะสิที่เมดบอกเชื่อใจ และพูดยาวสามกิโล
ถึงขั้นต้องจอดรถให้รางวัลกันเลยทีเดียว

จิง บางทีก็ต้องหยุดนะ ก่อนที่จะไม่เหลือใคร

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องวิวตอนนี้ได้ใจแม่ยกไปเต็มๆเลยจ้า

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เอาจริงๆถ้าเราไม่รัก ไม่มีเยื่อใยแล้ว ต่อให้รู้เรื่องว่าตอนนั้นทำอะไรกับเราไว้ เราก็แค่ อืม... แบบ เฉยๆอ่ะ แบบเออชีวิตที่ผ่านมากูมีเรื่องแบบนี้เคยเกิดด้วยอ่ะ แต่มันคืออดีต แก้ไขไม่ได้ ทุกข์ใจแล้วได้อัลไลลลล  จริงป่ะ!!!!

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อาฟจะทำยังไงนะ  :hao5:

ออฟไลน์ moonoi1000

  • I'm a realist dreaming the impossible
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากกกก อ่านรวดเดียวแบบตาแฉะ

ออฟไลน์ mookim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีคำผิดอยู่นิดนึงค่ะ


หรือเรพาะ(เพราะ)ก่อนหน้านี้กูไม่เคยอยู่กลุ่มคนอื่นเลย



. . . . . . . . . . . . . . . .

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อาฟจะบอกเมดมั้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ตามทันแล้วววว :hao7: :hao7:  ขอโทษค่ะที่หายไปนาน ตามอ่านแล้วก็เม้นท์แล้วจ้าาาา :mew1:
อดีตเพื่อนเนี้ยตามจองล้างจองผลาญดีจังเลย เราเชื่อว่าสัดพี่ต้องบอกเมดแน่ๆตามสไตล์​นางแต่ก็จะมีวิธีนับมือด้วยเหมือนกัน :กอด1: :man1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ถ้าไม่ติดว่าคนของวิวคือพี่เจ

เราเชียร์เดอะเดย์ให้น้องวิวแล้ว

เคมีเข้ากันสุดๆคู่กัดที่ทัดเทียม

รอเพื่อนอาฟกลับจากนอก

ออฟไลน์ Fahsang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอตบ นังจิงซักทีได้ไหม
ในฐานะเด็กพี่อาฟก็ได้ 


ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ความรักดีๆ ก็มีได้

ไม่ไปหาเอากับคนอื่นวะ

จะมาคอยแย่งชาวบ้านเค้าทำไง


งงใจ

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
คิดว่าครั่งนี้อาฟจะทำให้คนพวกนั้นไม่มายุ่งกับเมดอีก

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

บทเพลงเศร้าที่กำลังเปิดอยู่ภายในผับ กล่อมคลอความรู้สึกของผมที่กำลังนั่งเงียบและใช้ความคิดคนเดียวแบบที่ไม่มีใครพูดเอ่ยรบกวน แม้แต่เพื่อนสนิทที่นั่งข้างกันก็ยังแค่ยกเบียร์ขวดโปรดของตัวเองขึ้นดื่มโดยไม่พูดอะไรมาก มันคงรู้ดีว่าผมต้องใช้ความคิด เจเลยไม่คิดจะพูดขัดอะไร

‘ เมื่อวานตอนไอ้วิวไปห้าง ระหว่างรอไอ้เดย์มันเจอไอ้บินที่ร้านหนังสือ กำลังคุยกับไอ้จิง มันได้ยินไอ้บินขอเลิกกับไอ้จิง แต่ไอ้จิงดูเหมือนจะไม่ยอม จิงบอกว่า ทำไมมันถึงเลือกยีนส์ ทั้งๆที่มันเองก็มีหักหลังไอ้เมด แล้วมีอะไรกับไอ้บินมาพร้อมๆกับไอ้ยีนส์ ’

จำได้ว่าตอนที่ฟัง ผมนั่งนิ่งอยู่สักพักก่อนจะหันไปมองคนพูดทันทีหลังจากจบประโยคนั้น สบสายตาเพื่อนสนิทที่หันมามองกันแล้วถอนหายใจแผ่วเบาอย่างหนักใจออกมาราวกับก้อนน้ำแข็งใหญ่จุกคือที่คอของผม ‘ วิวมันไม่กล้าเล่า ฝากมึงหน่อยแล้วกัน ’

ขีดสูงสุดในความเศร้าของชีวิตคนมันอยู่ตรงไหนกันวะ ทำไมเรื่องที่คิดว่าทั้งเศร้า ทั้งน่าสมเพช มันยังมีเรื่องที่ชวนให้น่าสมเพชยิ่งกว่า ราวกับไม่มีจุดสูงสุดใดทั้งนั้น

ทนคบกับผู้ชายที่เหี้ยมากๆมา 4 ปี ก่อนจะเจอมันนอนอยู่กับเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตบนเตียงของตัวเอง จากนั้นก็มารู้ว่าเพื่อนที่เคยคิดว่ารักกัน กับไม่ได้จริงใจกับตัวเองเลยมาตลอดเวลาที่คบ หนำซ้ำยังทั้งคอยแกล้งทั้งรังคราน ทั้งๆที่ตัวเองก็พยายามออกห่าง ต่อมาก็มารู้ความจริงว่า 4 ปีที่ทนรักกับผู้ชายคนนึงมา เรื่องที่เค้าทำให้และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวความสุขของตัวเองมาตลอด นั่นคือเรื่องโกหก และตอนนี้ก็ต้องได้รู้อีกว่า เพื่อนอีกคนที่เหมือนจะดีกับตัวเอง แท้จริงก็คือคนที่หักหลังด้วยเช่นกัน

ผมถอนหายใจออกมา พลางมองน้ำแข็งที่ละลายตรงหน้าผสมกับเหล้าครึ่งแก้วที่ยังกินไม่หมด เอื้อมมือไปหยิบมันมาเขย่าไปมา แล้วดื่มมันเข้าไปจนหมดแก้ว แม้รสชาติของความขมจะไม่ได้ดีเหมือนเดิมเพราะมันถูกเจือจางด้วยน้ำแข็งในแก้วที่น้ำแข็งละลายเป็นน้ำเข้ามาผสม แต่ถึงอย่างงั้น เหล้าก็คือเหล้า มันก็ยังไม่ทิ้งรสชาติของมันไปอยู่ดี

“ ยังไงก็ต้องเสียใจ ” เพื่อนสนิทที่นั่งข้างกันพูดขึ้น ผมหันไปมองมันที่ก็ยกยิ้ม “ มันไม่มีที่ไม่เสียใจหรอก อยู่ที่ว่ามากหรือน้อยก็แค่นั้น ”

“ เหรอ ” ก็คงไม่ต่างอะไรกับเหล้าเมื่อครู่ที่ผมดื่มเข้าไป “ เดย์ เอามาอีกแก้ว ”

“ จะเอาอีกเหรอ แก้วที่สี่แล้วนะ พี่เมดสั่งไว้ว่าไม่ให้สัดพี่มึงกินเหล้าเยอะไม่ใช่เหรอวะ ”  น้องชายผมบอกแต่ถึงอย่างงั้นมือก็เปิดขวดเหล้าแล้วรินให้ตามปกติ “ เดี๋ยวก็โดนพี่เมดงอนอีก ”

“ แล้วตกลงเฮียจะทำยังไง ” ไอ้อัยย์บาร์เทนเดอร์อีกคนที่ยืนอยู่ข้างน้องชายผมถามขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ “ จะบอกความจริงเลยเหรอ ”

“ พวกมึงคิดว่ายังไง ” ผมถามกลับพวกมัน “ ถ้าเป็นพวกมึง พวกมึงจะทำยังไง ” มีเพียงแค่เสียงถอนหายใจตอนที่ได้ฟังคำถาม ผมยกยิ้มขึ้นมากับความรู้สึกของทุกคนที่ต่างเข้าใจกันดีแม้ไม่ต้องพูดอะไรให้ยืดยาว

แท้จริงแล้ว การพูดความจริงที่ต้องเสียใจนั้นจะง่ายจะยากขึ้นอยู่กับความรู้สึกของเราที่มีต่อคนฟัง 

สำหรับคนอย่างผมมันไม่ยากหรอก การพูดความจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เรื่องยากอะไร กลับกันที่ว่ามันง่ายมากด้วยซ้ำ สำหรับคนที่ยึดคติที่ว่า ‘ ความจริงไม่ว่ายังไงมันก็คือความจริง เราก็แค่ต้องยอมรับ ’ ผมที่เคยพูดตรงๆอย่างไม่คิดอะไร แต่พอตอนนี้คนฟังเป็นเมด ก็รู้เลยว่า แท้จริงแล้วการพูดความจริงมันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะความจริงที่ต้องทำให้คนที่รักเสียใจ

ไม่ต่างอะไรกับทุกคนที่รู้ความจริงแล้วในตอนนี้ ทุกคนคงคิดไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ ‘ เมดเจอความเสียใจมาเยอะแล้ว เยอะจนสงสารและไม่อยากจะให้รู้อะไรอีก ’ และเพราะแบบนั้นทุกคนก็เลยคิด ว่าจะทำยังไง ให้อีกฝ่ายเสียใจน้อยที่สุด ถึงแม้มันจะเป็นไปไม่ได้เลย 

บางทีผมก็คิด ว่าตัวผมก็เป็นแค่คนเห็นแก่ตัวคนนึง เห็นแก่ตัวที่อยากจะเก็บรอยยิ้ม และความสุขนั่นไว้ โดยไม่อยากจะให้อะไรมาพรากมันไปจากใจของอีกคน

“ ก็บอกตรงๆไปเลย บอกเสร็จถ้าซ้อร้องไห้ เฮียแม่งก็กอดซ้อไว้แน่นๆเลยเว้ย ”

“ แล้วถ้าพี่เมดร้องไห้ไม่หยุดอะ แบบสะอึกสะอื้น ” น้องชายผมให้ไปถามเพื่อนของมัน ไอ้อัยย์ที่ยิ้มอย่างที่เลศนัยในตอนนั้น

“ ก็ค่อยโน้มลงเตียง จูบที่ข้างแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะบอกว่า มาทำอย่างอื่นเพื่อลืมเถอะ วิ้วววว ”

“ วิ้วพ่อมึง ” ไอ้เจเพื่อนผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหน้า “ เค้าเครียดกันจะตายไอ้สัดอัยย์ มึงยังจะเล่น ”

“ ก็กูไม่มีความคิดเห็นอื่นยกเว้นบอกความจริง แล้วพวกมึงเองก็รู้ดีไม่ใช่เหรอวะ ไม่ว่าจะยังไง พวกพี่มึงก็ต้องบอก ” ทุกคนเงียบคนพูดก็ถอนหายใจ  “ กูเข้าใจว่าพวกพี่มึงคิดมาก แต่อย่าลืมสิวะ พี่เมดไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น แล้วก็ไม่ได้เป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริงอะไร มันจริงอยู่ที่เค้าจะเศร้า จะเสียใจ ก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเรื่องที่ต้องฟังมันเหี้ย มันทำร้ายความรู้สึก แต่มันก็เรื่องปกติของคนที่รู้ความจริงในเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอวะ แต่พอเวลามันผ่านไป เค้าก็จะลุกขึ้นมาได้แล้วก็ยิ้มเหมือนเดิม ”

“ ก็จริงของมึงนะ ” น้องชายผมหันไปบอกเพื่อนตัวเอง ไอ้อัยย์ถอนหายใจ

“ จะกลัวอะไรวะ คนเราอะ ความรักแม่งมันยังหายไปได้เลย นับภาษาอะไรกับความเสียใจ ถ้ามันมีเข้ามา สักวันมันก็ต้องหายไปเหมือนกัน ”

“ โคตรเฉียบ ” ไอ้เจบอกก่อนจะยิ้มให้คนตรงหน้า แต่ผมเองก็เช่นกัน 

“ ก่อนอื่นพวกพี่มึงแม่งต้องแยกให้ออกก่อนนะว่าตอนนี้ พวกพี่มึงต้องการอะไร ถ้าต้องการให้พี่เมดรู้ความจริงแบบไม่เสียใจ กูตอบได้เลยว่า เลิกคิดเพราะมันไม่มีทางอยู่แล้ว พวกพี่มึงก็รู้ดี ”

“ จริงของมึง ” น้องชายผมพยักหน้ารับ ในตอนนั้นผมก็ยกเหล้าขึ้นมากินเป็นจังหวะที่ไอ้อัยย์หันมามองกันพอดี

“ แต่ถ้าเฮียคิดว่าจะทำยังไงให้พี่เมดเจ็บน้อยสุด กูขอเสนอให้บอก แต่ก็แค่ดูเวลาให้ดี คืออย่าบอกตอนพี่เมดกำลังมีความสุขมากๆ หรือบอกตอนที่กำลังทุกข์มากๆ ให้บอกเหมือนว่ามันเคือรื่องทั่วไป ก็คุยนู้นนี่ไปก่อนแล้วค่อยบอก บอกเสร็จเฮียมึงก็กอดพี่เมดไว้หน่อย บอกเค้าว่าถ้าจะร้องไห้ ก็ให้ร้องออกมา เฮียมึงจะอยู่ข้างๆกับเค้าเอง จะไม่ไปไหน บอกเค้าว่าไม่เป็นไร เรื่องผ่านไปแล้ว แค่นั้น กูว่าเท่านี้มันน่าจะโอเคแล้วนะ ”

“ พี่อัยย์ของน้อง ” ไอ้เดย์หันไปกอดแขนเพื่อนตัวเองก่อนจะซบลงที่ไหล่ “ เท่ห์อะไรขนาดนั้นครับเนี้ย ”

“ ส้นตีน ”ดึงแขนออกจากเพื่อนแบบรังเกียจแต่เหมือนคนกอดจะไม่ปล่อยง่ายๆ มันยังคงวอแวและวุ่นวายตามนิสัย

“ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ” เจบอกมันหันมาเหลือบมองผม

“ สิ่งที่สำคัญคือเฮียต้องคิดว่า เรื่องนี้ไม่มีทางที่พี่เมดจะไม่เสียใจ เค้าเสียใจอยู่แล้วแค่จะมากหรือน้อย เพราะถ้าเฮียมัวแต่คิดว่ามันต้องมีสักทางที่ทำให้ไม่เสียใจ กูบอกไว้เลยนะ มึงคงไม่ได้บอกหรอก  ”

ผมไม่ได้ตอบอะไรกับคำพูดนั้น แค่ยกเหล้าในแก้วตรงหน้าขึ้นมาดื่มจนหมดก่อนจะวางมันลงแล้วลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปที่ประตูทางขึ้นชั้นสาม เอื้อมมือกดรหัสปลดล็อกประตู ก้าวเดินขึ้นบันไดไปทีละขั้นอย่างใช้ความคิดก่อนจะหยุดอยู่หน้าประตูห้อง ในตอนนั้นผมพยายามลืมสิ่งที่คิดมาทั้งหมด ปรับสีหน้าของตัวเองให้เรียบเฉย แล้วตอนที่เปิดประตูเข้าไปด้านในผมพบว่าคนที่ต้องทำงานอยู่ตรงโต๊ะทำงานกลับมานอนเล่นอยู่บนเตียงแล้วหัวเราะคิกคักกับจอไอแพตที่เหมือนกำลังฉายอะไรบางอย่าง

“ ทำงานเสร็จแล้วรึไง ” คำถามที่ทำให้คนที่นอนอยู่หันมามองกันด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหยาดน้ำตาที่หางตา เดาว่ามันคงหัวเราะจนน้ำตาไหลกับสิ่งที่มันกำลังดูอยู่ เมดลุกขึ้นจากเตียงที่นอนอยู่มานั่งก่อนยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หางตาของตัวเอง

“ เสร็จแล้ว วันนี้มีงานไม่เยอะ แค่ทำบัญชีเมื่อวานกับสต๊อกของนิดหน่อย ”

“ แล้วมึงดูอะไรอยู่ ท่าทางจะหัวเราะเหมือนคนบ้าเลย ”

“ เห็นรึไงสัดถึงมาว่ากูอะ ” อีกคนเถียงกลับด้วยสีหน้าหาเรื่องตามฉบับ ก่อนจะยื่นเอาไอแพตให้ผมดูพร้อมกับเปลี่ยนท่าทางเป็นเด็กเล็กที่กระตือรืนร้นไม่ต่างอะไรกับการอวดของเล่นใหม่ “ ดูอันนี้ รายการวาไรตี้เกาหลีอะ โคตรตลก กูขำจนน้ำตาไหล ฮ่าๆ ” พูดไปก็หัวเราะราวกับว่าในตอนที่พูดมันก็คิดถึงสิ่งที่ทำให้หัวเราะไปด้วย เป็นท่าทางมีความสุขที่ชวนให้ผมยิ้มจนต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้มันแล้วจูบลงบนริมฝีปาก อย่างคนที่หวงแหนรอยยิ้มนั้น

‘ บอกตอนนี้เลยเป็นไง ’  ในใจของผมคิดในตอนที่จ้องแววตาใสของอีกคนที่ก็ยิ้มให้กันแบบตาปิดจนเป็นขีด เมดเป็นคนตาเรียว เวลายิ้มแบบมีความสุขก็เลยชอบเป็นแบบนั้น เหมือนอาหมวยลูกเจ้าของร้านซาลาเปาไม่มีผิด

“ มึงมีอะไร ” แล้วนั่นก็เป็นคำถามที่ทำให้ผมต้องพับทุกอย่างเก็บไป ราวกับทำมันหลุดหายไปที่ไหนสักแห่ง

เข้าใจในสิ่งที่ต้องเผชิญตรงนี้ดี อย่างที่ไอ้อัยย์บอก ถ้าได้รู้ความจริงมันไม่มีทางที่จะไม่เสียใจอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ไม่อยากจะให้อีกคนเสียใจอยู่ดี ก็แค่อยากจะให้ยิ้ม หัวเราะ แล้วก็มีความสุขต่อไปในทุกวัน และในห้วงวินาทีนั้นผมก็เกิดคำถามตอนที่มองหน้ามันอยู่ในขณะนี้ ‘ ทำไมถึงต้องเป็นมึงด้วยวะ ทำไมคนที่กูรักจะต้องมาเสียใจกับเรื่องเหี้ยๆพวกนี้ด้วย ทำไมต้องเป็นมึงทุกที ’

“ มึงมาดูด้วยกันสิ ” อีกคนบอกก่อนจะวางหน้าจอไอแพตลงบนเตียงตามเดิม มันกดเล่นวิดีโอนั้นที่กำลังฉาย คนหลายคนที่ใส่ชุดแยกสีเพื่อบอกความเป็นทีม และทุกคนในนั้นก็กำลังทำกิจกรรมที่ก็ทั้งสกปรกและดูใช้กำลังแบบสุดตัว แต่ถึงอย่างงั้นเมดก็ยังหัวเราะไม่มีหยุด

“ เล่นเหี้ยอะไรกันวะ ” ผมเผลอพูดอีกคนก็หันมามองหน้ากัน “ ไอ้เหี้ยนั่นมันโกงนี่ ”

“ มันเป็นอิจเมจในรายการของเค้า เค้าเล่นเป็นคนขี้โกงอะ ”

“ แล้วมึงก็ตลกกับความขี้โกงนี่น่ะเหรอ ” คำถามที่ทำให้อีกคนนิ่ง แล้วก็พูดออกมาไม่เต็มเสียง

“ ก็นะ แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้โกงนะ มันตลกดี ก็แค่บางครั้งเอง เรียกว่าแค่เจ้าเล่ห์ละมั้ง ”

“ คนเราพอชอบอะไร มันก็ดูดี แล้วก็ข้อแก้ตัวให้ไปหมดนั่นแหละ ”

“ มึงแม่งจะซีเรียสยันรายการวาไรตี้เลยเหรอวะ ” เมดหันมาถอนหายใจใส่ “ เค้าดูแบบให้ตลก คลายเครียด เค้าใส่เสียงให้มันขี้เล่น เข้าใจมั้ยครับคุณ ” มือนั่นเอื้อมมาหยิกแก้มผมที่ก็เหล่มองมันพร้อมกับส่งสัญญาณเตือนทางสายตาให้ปล่อย แต่เหมือนว่าเมดจะไมได้สนใจอะไร

“ ยังไม่ปล่อยอีก ”

“ หงุดหงิดง่ายซะจริงๆเลยยยยยย วันนี้เครียดอะไรมาอีกละ ” ลากเสียงในประโยคสุดท้ายพร้อมกับมือหยิกแก้มอยู่ก็ขยับไปมาแบบล้อๆ ก่อนจะปล่อยลง

“ เปล่า ”

“ รู้ตัวมั้ยว่าบางครั้งมึงแม่งอารมณ์โคตรสวิงเลย เดี๋ยวดีเดี๋ยวหงุดหงิดชั่วโมงหนึ่งเหมือนเปลี่ยนไปสามสิบอารมณ์ ” อีกคนบ่นก่อนจะหันไปดูรายการตลกที่หน้าจอ “ แต่ว่ากูก็เข้าใจมึงอยู่นะ ”

“ เข้าใจอะไร ”

“ ก็เข้าใจว่ามึงเป็นคนแบบนี้ไง ไม่งั้นเราจะอยู่ด้วยกันได้เหรอวะ ” เมดบอกก่อนจะหันมามองกันอีกครั้ง “ เพราะถึงมึงจะหงุดหงิด หรือทำหน้าดุใส่กู แต่กูก็รู้ว่า ถ้าเป็นกู มึงก็ไม่จริงจังหรอก อีกอย่างมึงโกรธกูไม่นานด้วย ”

“ งั้นเหรอ ”

“ ใช่แล้ว ” เมดยิ้มอย่างภูมิใจ “ กูมานั่งคิดๆแล้วนะ ว่ากูเนี้ยก็เก่งเหมือนกันที่อยู่กับมึงได้ ”

“ หลงตัวเอง ”
 
“ มึงไม่รู้หรอกว่าการใช้ชีวิตอยู่กับใครคนนึงมันต้องใช้จิตวิทยาขั้นสูงเลยนะเว้ย คนเราชอบบอกว่าคนรักกันจริงๆก็ควรมีแค่ความรัก แต่จริงๆกูว่ามันก็มีทุกอย่างนั่นแหละ มีทั้งความรักที่ต้องเติมให้กันบ่อยๆ มีความเชื่อใจ มีความเข้าใจ แล้วก็การผ่อนหนักผ่อนเบา แบบว่า ”

“ แบบว่าถ้ามึงเกิดโมโหหิวขึ้นมา แล้วหงุดหงิดจะร้องไห้เพราะไม่ได้แดกไอ้ข้าวหมูกรอบนั่น กูก็ต้องเข้าใจแล้วอย่าไปถือสาว่าปัญญาอ่อน เพราะช้างแค่กำลังตกมัน ”

“ ไอ้สัด ” อีกคนด่าก่อนจะขมวดคิ้ว เมดบ่นเสียงเบา “ ชอบแกล้งกูทุกทีเลยไอ้แฟนเหี้ย ”

“ แต่มันมีอย่างนึงที่กูไม่เข้าใจนะ ” เอื้อมมือไปจับแก้มมัน ผมใช้นิ้วโป้งลูบเบาๆด้วยความเอ็นดู “ ทำไมคนเราต้องทำร้ายกันด้วยวะ ทั้งๆที่คนที่ถูกทำร้ายก็เป็นคนดี ไม่เคยทำร้ายใคร ”

“ นี่มึงหรอกด่ากูเปล่าวะ แบบ มึงหมายถึงกูที่ทำร้ายมึงหรือเปล่า ” หลุดยิ้มออกมากับคำถามของคนตรงหน้าที่กำลังขมวดคิ้วมองเหล่มาจับผิด

“ วัวสันหลังหวะว่ะ ”

“ แต่กูไม่ได้ทำร้ายมึงนะ ”

“ แน่ใจ ”

“ นิดๆหน่อยๆ คนเรามันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันบ้างไรบ้าง ” อีกคนตอบเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้ผม เมดหันไปดูหน้าจอไอแพตของตัวเองต่อ มันที่นอนคว่ำลงก่อนจะพูดออกมาเหมือนบ่น “ แต่กูว่าการทำร้ายคนที่รักกันไม่ว่าจะเป็นแฟน หรือเพื่อน ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องมีเหตุผล แต่แค่เราไม่รู้เหตุผลก็เท่านั้นแหละ ”

“ มึงคิดงั้นเหรอ ”

“ อื้ม ” เมดพลิกตัวมามองหน้าผมก่อนจะอธิบายต่อ “ ก็เพราะเวลาคนคนนึงคิดจะทำร้ายใคร มันไม่ได้มีเหตุผลว่าโดนกระทำไม่ดีเลยแก้แค้นอย่างเดียวหรอกจริงมั้ย แต่มันมีเหตุผลที่มาจากความรู้สึกด้วย ”

“ ความรู้สึกอะไร ”

“ ไม่เคยได้ยินเหรอวะ ความอิจฉาน่ะ  บางทีก็ความอยากได้อยากมี ความแค้นแบบแค่หมั่นไส้ กูว่าอะไรแบบนั้นมันน่ากลัวกว่าการทำร้ายกันแบบซึ่งๆหน้าอีกนะ เพราะเราจะไม่รู้เลยว่า ใครที่รู้สึกแบบนี้กับเรา บางทีอาจจะเป็นเพื่อนที่รักเรามาก หรือคนในครอบครัวของเราก็ได้ มันเป็นใครก็ได้ ”

“ งั้นเหรอ ”

“ ก็ความรู้สึกมันเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แถมจะเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางทีดูเหมือนเค้ารักเค้าหวังดี แต่เผลอแปปๆก็เกลียดเรา แล้วก็ทำร้ายเราแล้ว โดยที่เรายังไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรผิด เป็นอะไรที่โคตรเข้าใจยาก ”

“ คนมันจะเกลียดก็แค่เกลียด ”

“ นั่นแหละคือสิ่งที่กูจะบอก บางทีเราก็แค่ต้องยอมรับให้ได้ว่าโดนเกลียด ถึงจะไม่รู้เหตุผลก็เถอะ เพราะถ้าเราจะมาหวังให้คนทั้งโลกเข้าใจ หรือรัก มันก็ไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว ”

“ เหมือนกูกำลังนั่งพูดกับคนที่บรรลุทางธรรมแล้ว ” ผมแซวมันอีกคนก็ยิ้มเท่ห์ๆก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่ไหล่

“ ความเจ็บปวดจะทำให้เจ้าแข็งแกร่ง อารยะ ”

“ กวนส้นตีน ” เมดหัวเราะตอนผมบอก มันที่หันไปดูทีวีต่อแบบตั้งใจอีกครั้ง ผมเองก็จมลึกสู่การคิดใคร่ครวญเช่นกัน

ความจริงคนตรงหน้าก็คงเหมือนกับที่ไอ้อัยย์บอก เมดไม่ได้อ่อนแอจนรับฟังอะไรไม่ได้ ไม่ได้ทำตัวเองให้น่าสมเพชจนต้องเวทนา แต่เป็นคนคนนึงที่มีเหตุผลและทำความเข้าใจเรื่องราวที่ต้องเผชิญอยู่ได้แม้ต้องใช้เวลา มันอาจจะช้าบ้างในบางครั้งที่ต้องทำใจยอมรับให้ได้โดยเฉพาะบางเรื่องที่หนักหนา แต่นั่นก็ยังผ่านมาได้ ผมว่ามันคงจริงที่คนหลายคนบอกว่า มนุษย์เติบโตขึ้นจากความเจ็บปวด และเมดก็เป็นแบบนั้น

“ เมด ” ผมเอ่ยเรียกมันอีกคนก็หันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ‘ แต่คำพูดกับการกระทำมันต่างกันนะ ตอนพูดก็มีเหตุผล ดูเหมือนจะเข้าใจความเสียใจได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ได้หมายความว่าพอได้ฟังเรื่องเสียใจจริงๆ มันจะรับได้อย่างที่พูด คำพูดก็ส่วนคำพูด การกระทำก็ส่วนการกระทำ การันตีไม่ได้ว่าจะเหมือนกัน สุดท้ายพอรู้ความจริงมันอาจจะเป็นแค่คนคนนึงที่ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ว่าเคยพูดอะไรไว้ ’

“ มีไรวะ เรียกแล้วเสือกเงียบอีก ”

“ พรุ่งนี้ไปทะเลกัน ”

“ ห๊ะ ? ” คนฟังไอ้แต่อ้าปากค้าง มันหันไปมองจอที่ตัวเองกำลังอยู่ บนหน้าจอนั่นฉายเกมส์วาไรตี้เดิมแต่เปลี่ยนเป็นฉากทะเลและผู้เข้าแข่งขันนั้นกำลังกินอาหารทะเลกันอยู่ “ อย่าบอกนะว่ามึงเห็นเค้าแดกแล้วมึงอยากแดก ”

“ อื้ม ” ตอบแบบสั้นๆง่ายๆ อีกฝ่ายก็ได้แต่ส่ายหน้าถอนหายใจ “ ไม่อยากไป ? ”

“ อยาก! ” หันมาตอบเสียงดังก่อนจะหัวเราะ “ กูก็อยากกินเหมือนกัน อยากกินกุ้ง! อีกอย่างนะตั้งแต่คบกันมาเรายังไม่เคยไปเที่ยวไหนกันเลยมึง ยกเว้นเดินห้าง ”

“ อื้ม ” ยักคิ้วให้เป็นการตอบรับ

เหมือนเคยได้ยินใครบางคนบอกว่า ถ้าเรากำลังเศร้าก็ให้เอามันไปทิ้งทะเล การมองคลื่นซัดฝั่งในบรรยากาศเงียบๆจะทำให้จิตใจดีขึ้น ที่สำคัญถ้าเกิดว่าเมดร้องไห้ขึ้นมา เสียงสะอึกสะอื้นพวกนั้นที่ผมไม่อยากได้ยินก็คงโดนเสียงทะเลกลบไปจนหมด

‘ กูกลัวอะไรกันแน่วะ ’ กูกลัวว่าเมดจะเสียใจ หรือกูกลัวว่าตัวเองจะต้องเห็นเมดเสียใจกันแน่ แท้จริงแล้วตัวผมที่ยังคงไม่กล้าบอกแบบนี้ และพยายามคิดหาทางอยู่อย่างงี้ มันเพราะอะไร กลัวอะไรอยู่กัน

“ แต่พรุ่งนี้กูมีเรียนสิบโมงแล้วเลิกบ่ายโมง เราไปหลังจากกูเลิกเรียนได้มั้ย ”

“ ได้สิ ”

“ เย้! งั้นคืนนี้กูจะกลับไปจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไว้เลยดีมั้ย ไปไหนๆ พัทยา หัวหิน ”

“ หัวหิน ”

“ ไปสักสองวันนะ ” อีกคนบอกด้วยความกระตือรือร้น เมดเปลี่ยนตัวเองลุกขึ้นมานั่งเรียบร้อย “ เราจะได้ไปหาของกินอร่อยๆเยอะๆไง ไปวันเดียวไม่ได้แดกเหี้ยอะไรต้องกลับละ ”

“ มึงนี่นะ หวงแดกจริงๆ ” ได้แต่ส่ายหน้ากับความช่างกินของมัน แต่ในตอนนั้นเมดก็ไม่ได้สนใจอะไร มันแค่หยิบไอแพตขึ้นมาแล้วกดออกจากหน้าจอที่กำลังดูอยู่เปลี่ยนไปเข้ากลูเกิ้ลเพื่อค้นหา และสิ่งที่มันพิมพ์ลงไปในนั้นก็คือ ‘ ของกินอร่อยๆหัวหิน ’

ช่วงเวลาสามทุ่ม ที่แสงไฟในห้องยังคงสว่างทั้งที่เวลานี้คนที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ในห้องแต่งตัวควรนอนอยู่ข้างผม แต่เพราะความตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวทะเลทำให้ตอนนี้เมดกลับยืนอยู่ที่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว มันกำลังเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ลงไปในกระเป๋าแค่สามชุดแต่ก็นานกว่า 40 นาทีแล้ว

“ หัวหินไม่ใช่ญี่ปุ่น ” ผมบอกแต่อีกคนก็แค่หันมามองแล้วก็ยิ้มให้

“ มึงว่าเสื้อตัวนี้กับตัวนี้ ตัวไหนดีกว่ากัน ” เสื้อยืดสีขาวคนละลายถูกยื่นออกมาตรงหน้า ผมชี้แบบสุ่มๆไปอย่างไม่ใส่ใจเพราะมันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แต่คนที่เลือกไว้แล้วก็ถามออกมา “ ตัวนี้ไม่สวยเหรอวะ ”

“ ถ้าเลือกไว้แล้วก็ไม่ต้องถาม ”

“ ก็เพื่อความมั่นใจไง ” เมดบอก “ นี่จะเป็นการไปเที่ยวครั้งแรกของเรานะเว้ย ต้องถ่ายรูปเยอะแน่ๆ เพราะงั้นต้องเลือกเสื้อผ้าดีๆ ”

“ ถามจริง ไม่เคยหัวหินรึไงวะ ”

“ เคย แต่ไม่เคยไปกับมึง ” ผมเงียบคนตรงหน้าที่แค่ยักคิ้วให้เมดชูเสื้อสองตัวนั่นขึ้นมาอีกครั้ง มันยิ้ม “ เลือกให้หน่อย เอาตัวไหนดี ”

“ ตัวขวา สีมันสด คงเข้ากับทะเลดี ”

“ โอเค ” อีกฝ่ายพยักหน้ารับมันเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเงียบอยู่สักพักก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับปิดประตูแล้วนอนลงบนเตียง “ เรียบร้อย ” เมดเอ่ยบอกตอนที่ดึงผ้าห่มขึ้นห่มตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาก่อนจะพลิกตัวมามองผม “ ตื่นเต้นวะ ”

“ จัดเสื้อผ้ากูแล้วเหรอ ”

“ เรียบร้อย ของมึงจัดเสร็จนานละ ไม่ต้องเลือกเยอะ ” ผมขมวดคิ้วตอนที่อีกคนบอก “ เพราะแต่งหล่อไปก็เท่านั้นอะ  แต่งธรรมดาพอกูหวง ”

“ ไร้สาระ ” บอกแบบนั้นแต่ก็อดยิ้มหว้างไม่ได้เลย ผมเอื้อมมือไปดึงคนที่นอนข้างๆมากอดกันเอาไว้ เมดที่หัวเราะมันซุกเข้ามาอกผม

“ เขินก็บอก ”

“ นอนได้แล้ว ” ปิดไฟหลังจากที่พูด ผมขยับตัวเตรียมจะหลับตาลงแต่ก็โดนคนในวงแขนเรียกไว้

“ อาฟ ” ผมก้มลงไปมองแล้วตอนที่สบเข้ากับแววตาใสนั่น เมดก็ดึงตัวเองขึ้นมาจูบกัน “ กูมีความสุขว่ะ ” มันเป็นคำพูดสั้นๆที่ทำให้ผมยิ้มอย่างไม่ต้องอธิบายด้วยเหตุผลอะไร หรือหาคำตอบว่าทำไม เป็นความรู้สึกที่ว่า ‘ แค่เมดมีความสุขไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันก็ดีทั้งนั้น ’  “ หน้าแดงอยู่แน่ๆ ”

“ กูบอกว่าให้นอน ”

ตอนนั้นผมนึกขอบคุณที่ตัวเอง ปิดไฟแล้ว


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
บรรยากาศตอนเช้าภายในร้านคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดค่อนข้างสบายเพราะความเงียบเชียบ แม้ตอนนี้เวลาจะผ่านเลยเข้าสู่ช่วงบ่ายโมงเข้าไปแล้ว ผมผ่อนหลังลงนั่งกับเก้าอี้ วันนี้หลังจากที่ส่งคนมีเรียนที่หน้าคณะเสร็จเรียบร้อย ตัวเองก็วนรถมาที่ร้านกาแฟประจำที่จะเปิดหลัง 9 โมงเช้าเป็นต้นไป

กาแฟคาราเมลมัคคิอาโต้แบบเย็นที่วางลงตรงหน้าพร่องลงไปแล้วครึ่งแก้วในระหว่างที่รอ ผมหลับตาลงเพื่อพักสายตาหลังจากที่เล่นเกมส์ติดต่อกันมานานเป็นชั่วโมงจนรู้สึกล้าไปหมด ปกติผมจะมาที่นี่แค่เฉพาะช่วงที่เมดมีเรียนหลัง 10 โมงเท่านั้น ส่วนเวลามันมีเรียนเช้า ผมจะแค่นั่งคอยอยู่หน้าคณะเพราะไม่ชอบย้ายที่ไปไหนมาไหนหลายครั้ง

ครืน ครืน ครืน

สายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา ปรากฏขึ้นทั้งเบอร์และภาพหน้าจอที่เจ้าของเบอร์เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการตั้งไว้อย่างไม่ต้องร้องขอ ผมเผลอยิ้มกับภาพน่ารักนั่นแม้จะเคยบอกมันว่าเอาซาลาเปาไส้หมูแดงมาตั้งไว้ที่หน้าจอผมทำไมก็ตาม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย

“ ว่าไง ”

“ เรียนเสร็จแล้ว ไปเที่ยวหัวหินกันนนนน ” ปลายสายที่ยังคงตื่นเต้น ผมส่ายหน้าไปมากับความเป็นเด็กของมัน ตั้งแต่ตื่นจนถึงก่อนลงรถไปเรียน คนข้างๆก็เอาแต่พูดจ้อเรื่องทะเลไม่มีหยุด มันถามผมว่า ผมจะลงเล่นน้ำทะเลมั้ย หรือจะลงเล่นน้ำในสระ มันถามแม้ว่าโรงแรมที่จองเป็นยังไง ห้องเป็นแบบไหน ไปถึงจะทำอะไรก่อน จะกิน จะอาบน้ำ หรือว่าไปเที่ยวตลาดกลางคืน แพลนของมันมีเป็นร้อย เยอะชนิดที่ว่า แค่เอ่ยปากบอกว่า จะกินอะไร มันก็จะมีร้านดังเสนอขึ้นมาได้ทันที ไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไหร่ ไม่ต่างอะไรกับเด็กเล็กเลยสักนิด ‘ ไอ้ตัวน่ารักเอ้ย ’
 
“ เมด ” ผมแกล้งปั้นเสียงเศร้า ปลายสายเองที่ได้ฟังก็นิ่งไป “ คือ กูมีอะไรจะบอก ”

“ อย่าบอกนะว่าจะไม่ได้ไปหัวหินแล้วน่ะ ” มันพูดดัก ผมก็ได้แต่เงียบ “ ทำไมเงียบไปวะ ”

“ ก็มึงบอกว่าอย่าบอก ”

“ อะไรวะ จริงเหรอมึง ทำไมอะ ที่ผับมีปัญหาอะไรวะ ” น้ำเสียงเป็นห่วงแต่ก็ติดจะเสียดายอยู่หน่อยๆ ชวนให้ผมยิ้มกว้างในตอนที่อีกคนพูดพร้อมกับถอนหายใจเซ็งๆออกมา

“ ขอโทษที ”

“ เออๆ ไม่เป็นไร กูเข้าใจ งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกัน มึงมารับกูเถอะ ”

“ ขอโทษที่ต้องโกหก ”

“ อ้าวยังไงวะ ” เมดพูด ก่อนจะเงียบไปสักพัก “ คือมึงตอแหลกูเหรอไอ้สัดอารยะ ”

“ ฉลาดจัง ”

“ K ” มันว่าแค่นั้นก่อนจะวางสายไปด้วยความน้ำเสียงหงุดหงิด ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มกว้าง ก็อย่างที่เมดบอก การแกล้งมันคือความสุขที่สุดของผมในทุกวัน

ขับรถมาจอดที่หน้าคณะที่มีคนโดนโกหกยืนรออยู่ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แต่เหมือนจะเป็นการปั้นหน้าให้หงุดหงิดมากกว่าจะรู้สึกจริงๆ ในใจที่เต้นเป็นลิงโลดเพราะจะได้ไปเที่ยวมันฝืนตัวเองไม่ให้ยิ้มด้วยการกัดฟันทนเอาไว้ ในตอนที่เปิดประตูขึ้นมาบนรถมันก็มองผม

“ สีหน้าดูปวดขี้ ไม่ต้องไปแล้วมั้งหัวหิน ”

“ ไป! ไอ้สัดอาฟแม่งแกล้งกู ” อีกคนบ่นก่อนจะมองมาด้วยหางตา

“ งั้นยิ้มก่อน ”

“ ยิ้มเหี้ยอะไร ” พูดออกมาแบบนั้นแต่กลับยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะหันไปทางอื่นแล้วสบถในตอนที่ผมเองก็ยิ้มตาม “ มึงแม่ง ” ขยับเกียร์เปลี่ยนให้เดินหน้าผมขับรถออกไปจากหน้าคณะมันแต่ยังไม่ทันถึงทางออกมหาลัยเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์เมดก็ดังขึ้น

“ อะไรวะ ” คนที่พลิกมือถือขึ้นมาดูพูดขึ้น มือที่กดพิมพ์ข้อความด้วยสีหน้าหงุดหงิดชวนให้ผมชะลอรถก่อนจะกดไฟเลี้ยวซ้ายเข้าจอดข้างทาง

“ มีอะไร ”

“ อาฟ วนกลับไปคณะกูก่อนได้มั้ย ”

“ ทำไม ” ผมถามอีกคนก็ถอนหายใจก่อนจะหันมาบอก

“ ไอ้ฝ้ายส่งข้อความมาบอกกูว่าจะคุยเรื่องรายงานกลุ่มตอนนี้ ”

“ อื้ม ” เมดพยักหน้ารับก่อนจะเกาหัว แล้วก้มหน้าลงพิมพ์ข้อความลงไปในมือถือ “ แต่วันนี้ตอนที่นั่งข้างมันไอ้ฝ้ายไม่เห็นพูดอะไรเลย กูยังบอกมันเลยว่าจะไปหัวหิน ทำไมอยู่ๆเปลี่ยนใจขึ้นมาวะ ”

“ ก็ลองถามมัน ”

“ มันไม่ตอบ ” ผมถอนหายใจก่อนจะเลี้ยวรถกลับไปจอดที่หน้าคณะเหมือนเดิม แล้วตอนที่ดึงเบรคมือขึ้นเมดก็บอก “ มึงขึ้นไปกับกูนะ ”

“ ขึ้นได้ ? ”

“ ขึ้นได้สิ ไม่ได้ขึ้นไปเรียนขึ้นได้อยู่แล้ว ”

“ อื้ม ” ปลดสายเข็มขัดนิรภัยตามคำขอของคนข้างกัน กดล็อกประตูรถในตอนที่เดินออกมาแล้วเข้าไปในตึกที่ก็รอลิฟต์อยู่ไม่นานก็ถึงชั้นที่อีกคนถูกนัดมาให้มาเจอ ห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่ประตูที่ถูกแง้มไว้ราวกับมีคนที่มาก่อนหน้านั้นแล้ว เมดผลักประตูเข้าไปในและไม่ต้องหาคำตอบอะไรให้นาน คำตอบก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า คนที่มาถึงก่อนหันมามองเราที่เข้ามาใหม่ ไอ้บินนั่งอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งพร้อมกับยีนส์อดีตเพื่อนสนิทของเมดที่ก็ยังอยู่บนเก้าอี้ตัวที่ติดกับโต๊ะนั่นคนที่ทั้งคู่ที่กำลังยิ้มให้กันแต่ก็ต้องหุบลงตอนที่เห็นหน้าพวกเรา

“ อ้าว เมด ” ไอ้บินเอ่ยทักคนตรงหน้าผมที่ก็ยิ้มให้ก่อนจะก้มหน้าลงทักกลับไป เมื่อเอื้อมมือตัวเองมาจับมือของผมไว้แน่นในตอนนั้น สายตาที่หันไปมองอีกคนก็หันมามองผมพอดี เมดยิ้มกว้างราวกับจะบอกคนที่มองดูเราอยู่ตอนนี้ว่าผมคือแฟนของมัน และก็อยากจะให้ผมมั่นใจว่า ผมสำคัญที่สุดและมันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น

“ ฝ้ายส่งข้อความนัดมึงมาเหมือนกันยีนส์ ” เมดถามอีกคนที่ก็ขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหน้า

“ ไม่นะ ไอ้จิงบอกกู แต่มันก็บอกนะว่าฝ้ายนัดมา ”

“ เหรอวะ ” พยักหน้ารับกับอีกคนก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนผมก็นั่งลงบนโต๊ะตัวข้างหลังเมดที่ก็หันมาชวนคุย “ เดี๋ยวเราจะไปกินข้าวกันที่นู้นมื้อเย็นทีเดียว หรือว่าจะหาอะไรกินกันไปก่อน ”

“ หาอะไรกินก่อนสิ ตอนเที่ยงยังไม่กินอะไรเลย ”

“ งั้นหาไรกินแถวนี้นะ จะได้ขับรถออกไปเลย ”

“ ผ่านร้านไหนน่ากินก็แวะเอา ” ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาแล้วเอาแต่ขมวดคิ้ว

“ ทำไมช้าจังวะ อยากไปหัวหินแล้วเนี้ย ” เมดเริ่มบ่นก่อนจะส่งข้อความไปหาเพื่อนคนที่นัด

“ มากันแล้วเหรอ ” เสียงที่ดังมาจากประตูไม่ใช่คนที่นัดแต่เป็นเพื่อนอีกคนของเมดที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จิงปิดประตูห้องลง แล้วเดินตรงเข้ามาหาเราทั้งสี่คนที่ตอนนี้นั่งอยู่เป็นคู่ ฝั่งขวาเป็นไอ้บินไอ้ยีนส์ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นผมกับเมด  “ ทำไมพาแฟนมาด้วยวะ จะเย้ยกูเหรอ ”

“ อะไรวะ ” ยีนส์สบถออกมายิ้มๆตอนที่เพื่อนของตัวเองพูดแบบนั้น

ห้องเลคเชอร์เล็กๆมีประตูทางออกเดียว ทำให้พวกเราไม่ได้อยู่ห่างกันเท่าไหร่ จิงเดินมาหยุดอยู่ตรงกลางนั้นมันยังคงยิ้มอยู่แบบนั้น ก่อนจะหัวเราะออกมา แล้วผมก็รู้สึกในตอนนี้ ว่าผม ช้าเกินไป

“ ก็พวกมึงเล่นพาแฟนมาเป็นคู่ ทั้งๆที่กูนัดมาคนเดียวแบบนี้ ถ้าไม่เย้ยกันมันจะอะไรวะ จะมาข่มกูที่แฟนทิ้งเหรอ ”

“ แล้วฝ้ายละ ” ไอ้บินพูดดักขึ้นมาในตอนนั้นจิงก็ยกยิ้ม

“ รีบปัดเชียวน้า ”

“ เดี๋ยวนะกูงง มึงบอกว่าแฟนทิ้งมึงเหรอ มึงมีแฟนแล้ว ? ” ยีนส์ถามเพื่อนตัวเองก่อนจะยิ้มกว้างพลางมองไปเชิงล้อ “ ไม่บอกเลยนะสัด เขินเหรอวะ ถึงไปคบกันเงียบๆแบบนั้น ใครอะไรยังไง ไม่เล่าเลย ”

“ กูพูดไปมึงก็เสียใจสิวะ ” คำพูดที่คนโดนแซวแค่ยิ้มออกมาให้คนถามก่อนจะหันมามองเมด “ เมดเองก็คงเสียใจเหมือนกัน ”

“ กูเหรอ ” คนโดนพาดพิงอย่างเมด เอียงหน้างง

“ กลับเถอะ กูว่าแบบนี้ ฝ้ายไม่น่ามาแล้วละ ” ผมพูดขึ้นตอนที่ลุกขึ้นจากนั่งก็ดึงแขนคนตรงหน้าให้ลุกขึ้นตามด้วย แต่เมดที่ยังงงๆมันหันมามองผมด้วยสายตาไม่เข้าใจเท่าไหร่

“ ใช่ ฝ้ายไม่มีทางมาหรอก ” จิงพูดขึ้นก่อนจะพยักหน้ารับแล้วยิ้มให้ผม ก่อนจะลองไปทางเมด  “ เพราะกูเป็นคนเอามือถือส่งข้อความไปหามึงเองแหละ ด้วยการบอกแบตหมดแล้วก็ต้องใช้มันโทรหาไอ้ยีนส์ ”  ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องเงียบลงไปอย่างรู้ตัวแล้วว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น จิงเองที่ยังคงยิ้ม “ แต่แน่ใจเหรอเมดว่ากลับ กูว่ามึงอยู่ฟังความจริงดีกว่า เดี๋ยวมารู้อะไรทีหลังแล้วจะเสียใจอีก ”

“ กลับเถอะ ” ผมบอกแต่เมดก็ยังนิ่ง เราสบตากันในแววตานั้นของคนตรงหน้ามันบอกผมว่า ‘ อยากฟัง ’

“ กูว่ามึงพอเถอะ ” บินพูดสวนขึ้นทันทีแล้วนั่นก็ทำให้คนโดนห้ามหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ มึงกลัวเหรอบิน ” จิงยิ้มถาม “ มึงกลัวสิ มึงกลัวว่าความจริงมันจะถูกเปิดเผยออกมาก็เลยบอกให้กูหยุด มึงคิดจะกลับตัวเป็นคนดี กูจะบอกอะไรให้นะ ตัวเปื้อนโคลนอย่างมึงใส่เสื้อผ้าใหม่ยังไงมันก็สกปรก แล้วต่อให้มึงอาบน้ำ กลิ่นเหม็นโคลนมันก็ยังติดตัวมึงอยู่ดีจำไว้ ”

“ มึงจะพูดอะไรกันแน่วะจิง ” ยีนส์ถามก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

“ กูก็จะพูดว่าทั้งๆที่ตอนนั้นยังเป็นแฟนไอ้เมดอยู่ แต่กลับมาแอบเอากับมึงที่เป็นเพื่อนไอ้เมด แล้วนอกจากนั้นก็ยังมาเอากับกูที่ก็เป็นเพื่อนด้วยไง ”

“ นี่มึง..หมายความว่า ”

“ พวกเราน่ะครั้งหนึ่งก็เคยมีผัวคนเดียวกันนะรู้มั้ย เราทั้งสามคนเลย สมเป็นเพื่อนรักกันเลยเนอะ ”

ได้แต่ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ฟัง คิดไว้แล้วว่าประโยคนั้นต้องหลุดออกมา ในที่สุดอีกคนต้องมารู้แบบที่ไม่ได้ตั้งตัวอะไรเลยสักนิด ไม่น่าเลี้ยวรถกลับมาเลยกู ผมถอนหายใจออกมาในตอนที่หันไปมองหน้าเมดที่ยังยืนนิ่งไม่ไปไหน แต่ทว่าคนที่คิดเอาไว้ว่าจะเสียใจ กลับไม่ได้แสดงสีหน้าตกใจอะไรทั้งนั้น เมดไม่แม้จะร้องไห้ มันแค่ยืนมองคนสามคนนั้นนิ่งๆ ต่างกับยีนส์ที่พูดออกมาจากปากสั่นๆด้วยคำพูดซ้ำๆ

“ ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ย ”

“ จริง ไม่เชื่อก็ถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆมึงสิ ว่าไงบิน บอกเลย ความจริงเรื่องของเราน่ะ ” ยีนส์มองบินในตอนนั้นอีกคนก็ไม่พูดอะไร มันก้มหน้าลงแล้วนั่นก็คือคำตอบของทุกอย่าง

“ นี่พวกมึง ”

“ มึงไม่มีวันจะได้รักกันหรอก ทำเหี้ยก็ต้องได้รับผลกรรมสิวะ จะมาบอกว่า ขอเลิกกับกู ไม่อยากจะเอากูลับๆไอ้ยีนส์ จะปรับตัว จะเป็นคนดี มึงเหี้ยมาหลายปีแต่มาบอกกูว่าจะเป็นคนดี  ฝันไปเถอะ กูไม่มีทางให้พวกมึงเสวยสุขอยู่กันสองคนหรอก จำไว้ เพราะกูจะไม่มีวันเสียใจคนเดียว ”

“ แบบนี้นี่เอง ” คำตอบที่หลุดออกมาจากคนข้างกายผมทำให้จิงหันมามองด้วยความรู้สึกแบบขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่คิดว่าต้องเสียใจอย่างมันถึงไม่ได้ร้องไห้อะไรทั้งนั้น

 “ อย่าแสดงทำเป็นเข้มแข็งไปหน่อยเลยเมด กูรู้ว่ามึงช็อคแล้วก็เสียใจ นึกไม่ถึงละสิว่ากูเองก็จะเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ทรยศมึงด้วย ”

“ ก็ตกใจ แต่ไม่ได้เสียใจนะ ” เมดตอบ “ ก็มึงทรยศกูมาตั้งแล้วนานไม่ใช่เหรอ มันก็ไม่ได้ต้องเสียใจอะไรนี่ ” คำอธิบายที่เพิ่มเติมที่พูดออกมายิ้มๆ ร่างเพรียวคนมองตรงหน้า “ กูไม่รู้สึกอะไรนะ ก็บินโกหกกูเรื่องที่บอกว่าให้นมกู ยีนส์แอบเอากับบินหลับหลังกู ส่วนมึงที่ตอนแรกเก็บความลับให้ไอ้ยีนส์ไอ้บิน ตั้งแต่ที่กูรู้ว่าพวกมึงเป็นแบบนี้ พวกมึงแม่งก็ตายไปจากชีวิตกูแล้ว คือพวกมึงไม่ใช่คนที่กูเรียกว่าเพื่อน ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่คนที่กูให้ค่าให้ความสำคัญอะไร อีกอย่างตั้งแต่วันนั้นกูก็ไม่เคยมองมึงเป็นคนดีเลยจิง ” มันส่ายหน้าไปมาตอนที่พูด “ อย่างที่กูเคยบอกไง เพื่อนที่ดีเค้าจะไม่ทำให้เพื่อนต้องเสียใจหรอก เพื่อนที่ดีคือเพื่อนที่ต้องเคอยเตือนกันเวลาที่รู้ว่าเพื่อนจะทำไม่ดี หรือกำลังเดินทางผิด แต่เพื่อนแบบมึง คือเพื่อนที่ปล่อยให้กูเดินหลงอยู่ในทางโง่ๆนั้น ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่ายีนส์คบกับบินอยู่ แล้วต่อให้วันนี้กูรู้ว่ามึงก็คือคนที่ได้กับบินด้วย กูก็ไม่ตกใจ เพราะถ้าเป็นคนแบบมึง ก็ว่ามันก็ไม่เห็นแปลก ”

“ เมด ” จิงเอ่ยชื่ออีกคนเสียงเบา

“ แต่ยีนส์ก็น่าสงสารหน่อย  เพราะมันไม่รู้เรื่องอะไรเลย  ไม่รู้เลนว่าว่าจริงๆ เพื่อนที่อยู่ข้างมันมาตลอด ก็แค่อยากจะปกปิดสิ่งที่ตัวเองก็ทำอยู่ก็เท่านั้น นั่นคือการแอบกินกับไอ้บิน ไม่ใช่เพราะว่าเข้าข้างมันอย่างที่มันเข้าใจ  ”

“ มึงเข้าใจผิดแล้วเมด ” จิงพูดสวนขึ้นก่อนจะยกยิ้ม คนโดนเรียกก็หันไปมอง “ มึงเข้าใจผิดทั้งหมด มึงคิดว่าคนแบบไอ้ยีนส์มันจะกล้าเอากับไอ้บินเหรอ ถ้ากูไม่พูด ไม่บอกว่าทำได้ ไม่ยุยงมัน ไอ้ยีนส์คนรักเพื่อนก็คงไม่กล้าเอากับไอ้บินหรอก แล้วทุกอย่างที่มันทำ กูเองนี่แหละที่เป็นคนบอกให้มันทำ  เพราะว่ากูอยากให้มึงไม่มีเพื่อนที่ดีสักคนไง ”

“ หมายความว่าไงวะ ”

“ เรียนก็ดี หน้าตาก็ดี ทำอะไรใครๆก็มอง ชมกันไม่ขาดปาก จนกูอยากจะอ้วก พ่อแม่กูเองก็พูดกรอกหูกูทุกวัน ตั้งแต่วันแรกที่กูเข้าโรงเรียนมาแล้วเจอมึง ‘ ไม่ว่ายังไงก็ต้องคบกับเด็กคนนั้นให้ได้นะเพราะว่าพ่อสมัยเด็กๆก็เคยแข่งเรียนกับพ่อเค้ามา แล้วก้ต้องเอาชนะให้ได้นะ ’ แล้วพอได้เป็นเพื่อนกัน สอบทีไรนอกจากคะแนนของกูเค้าก็จะถามถึงคะแนนของมึง คะแนนของเมดเป็นยังไงบ้างละ เป็นยังไงชนะมั้ย แล้วสุดท้ายกูก็คือคนแพ้ทุกที ‘ ทำไมไม่เรียนให้เก่งได้เท่าน้องเมดละ ’ กูฟังคำนี้เป็นร้อยรอบ ‘ ขยันเข้าสิ ’ ‘ ไปเรียนพิเศษให้เยอะๆเลยนะ ’ ‘ ลองเอาชนะน้องเมดให้ได้สักครั้งสิ ’ แต่คนอย่างกูจะไปชนะอะไรมึงได้วะ ตั้งแต่เด็กจนโต มึงเรียนเก่งกว่าใคร เป็นที่หนึ่งของห้อง ไม่ว่าจะวิชาอะไรก็ถนัด หน้าตาก็ดีได้ทำกิจกรรมเป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียนตลอด แถมชีวิตครอบครัวก็มีความสุข ทั้งๆที่แม่ตาย แม่เลี้ยงก็ต้องเหี้ยหน่อย แต่เสือกมีแม่เลี้ยงดี น้องบุญธรรมก็ดี ชีวิตที่มีดีไปหมดของมึง ทำไมถึงมีความสุขได้ทั้งๆที่กูแม่งรวยกว่า ทุกอย่างพร้อมกว่า แต่กลับไม่ได้มีอะไรเหมือนมึงเลย ”

“ ประสาท ” ผมพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้นอีกคนก็หันมาจ้องหน้ากัน

“ แล้วมึงจะทำไม มึงไม่เข้าใจชีวิตที่ถูกกดดันของกูหรอก กูที่อยากจะทำลายไอ้เพื่อนเหี้ยคนนี้ให้มันเจอเรื่องเลวร้ายบ้าง ให้มันเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้กู เรื่องกดดันแบบนี้ เรื่องที่ทำให้ต้องร้องไห้ ” จิงยิ้ม “ แล้วอยู่ๆ นรกแม่งก็ส่งไอ้เชี้ยบินให้เข้ามาจีบไอ้เมด ไอ้ยีนส์ตอนนั้นก็ดูท่าทางจะชอบไอ้สัดนั่นสุดๆ ทุกอย่างแม่งก็เลยเข้าทางกู แล้วไอ้บินแม่งก็โคตรเหี้ย ทำร้ายจิตใจไอ้เมดตลอด สารพัดความเหี้ย แต่กูก็ชอบบอกให้มึงทน จะได้ทรมานนานๆไง แม่งเอาคนนู้น คนนี้ไปทั่ว กูรู้หมดแหละ ที่เอามาบอกมึงทุกครั้ง ที่ให้คนอื่นมาบอกมึงบ้าง นั่นก็กูจ้างทั้งนั้น รู้มั้ยกูเคยภาวนาขอให้มึงติดเอดส์ด้วยนะ ชีวิตจะได้ล่มจมแบบกู่ไม่กลับไง ตายแบบหมาทุเรศๆ ที่สุดท้ายยังโดนเพื่อนรักหักหลังอีกถึงสองคน ”

“ จิง มึงคิดถึงขนาดนี้เลยเหรอ ”

“ ถามจริงๆ มึงคิดเหรอ ว่ายีนส์มันจะกล้าไปเอากับไอ้บินในห้องมึงถ้ากูไม่ได้เป็นคนบอกว่า ให้ไปเอากันให้ห้องมึงแล้วกูจะเป็นคนดึงตัวมึงไว้ให้เอง เพราะทุกอย่างมันก็คือแผนของกูเอง แผ่นที่จะทำให้มึงเสียใจจนจะเป็นบ้า กูบอกให้มึงกลับไปเอาหนังสือทั้งๆที่มันไม่ต้องใช้ กูจงใจให้มึงเห็น ให้มึงเสียใจ กูอยากให้ชีวิตมึงแม่งบัดซบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กูอยากให้คนอย่างมึง ต้องสูญเสียทุกอย่าง กูหมั่นไส้มึง หมั่นไส้คนอย่างมึงที่มันดีไปหมด กูเกลียดมึงเมด กูเกลียดที่ใครๆก็เอาแต่เปรียบเทียบกูกับมึง แล้วกูก็อยากให้คนพวกนั้นพูดว่า ดีแล้วที่ไม่มีชีวิตแบบคนอย่างมึง แล้วจำไว้นะ กูไม่เคยอยากจะเป็นเพื่อนกับคนอย่างมึงเลยสักครั้ง ”

“ อื้ม ” เป็นแค่เสียงตอบรับสั้นๆที่ออกมาจากปากคนฟังพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาจากแววตาแดงกล่ำนั่น เมดที่ยังคงยิ้มมันพยายามกลั้นน้ำตาแต่มันก็ยาก เวลาจริงใจกับใครแล้วเค้าไม่จริงใจด้วยมันก็เหี้ยแบบนี้  เหี้ยจนบรรยายความรู้สึกไม่ออก ผมเข้าใจมันว่าตอนนี้อึดอัดแค่ไหน คงเสียใจกว่าการที่แฟนเอากับเพื่อน เสียใจกว่าทุกอย่าง นั่นเพราะความเป็นเพื่อนที่เคยให้กัน ที่เคยคิดว่า มันไม่เคยมีอยู่จริงเลยแม้แต่น้อย  “ แต่ตอนนั้นกูอยากเป็นเพื่อนกับมึงจริงๆนะ ”

“ เหรอ ”

“ ตั้งแต่เด็กที่เรารู้จักกัน วันที่มึงเข้ามาทักกูตอนเปิดเทอมวันแรก กูดีใจมาก ตอนที่บอกว่าจะเป็นเพื่อนกับกู ตอนนั้นคิดว่ามึงคือเพื่อนรัก แล้วก็ไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่นเลย ไม่เคยรู้สึกอะไรนอกจากอยากให้เราเป็นเพื่อนรักกันไปตลอด  กูไม่เคยคิดอยากจะทำร้ายมึง ไม่เคยเลย ”

“ เพราะมึงมันโง่ไง มันไม่มีใครอยากจะเป็นเพื่อนกับมึงไปตลอดหรอก คนอย่างมึงเป็นเพื่อนไปก็มีแต่ทำให้เพื่อนโดนลดคุณค่า เหมือนโดนกดอยู่ตลอดเวลาใครมันจะไปอยากมี เพื่อนที่ทำอะไรก็เด่นไปหมด เชิดหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไรตอนที่โดนนอกใจน่ะ กูแม่งโคตรสะใจเลยรู้มั้ย ”

“ มึงสิโง่ ” ผมพูดตอกกลับอีกคนไป “ ที่ทิ้งเพื่อนที่จริงใจที่สุดในชีวิตไป มึงโง่มากๆ ที่ทำแบบนั้น เพราะต่อจากนี้ไปทั้งชีวิต มึงจะไม่มีวันมีใครที่เรียกเค้าได้ว่าเพื่อนอีก เพื่อนที่อยู่ข้างมึงเวลาที่มึงมีปัญหา เพื่อนที่ช่วยเหลือมึง ” จิงมองหน้าผม มันก็แค่อยากจะเอาชนะอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งๆที่มันก็รู้อยู่แก่ใจว่าเมดเป็นเพื่อนที่ดีแค่ไหน “ กูว่ากูไม่ต้องอธิบายหรอก ว่าเมดมันดีกับมึงยังไง มึงคงรู้คำตอบ แต่กูจะบอกอะไรให้ฟังนะ สิ่งเดียวที่ทำให้เมดโดดเด่นคือความเหี้ยๆของมึงที่คิดกับมันแบบนั้น เมดที่สว่างท่ามกลางความมืดในใจมึง เมดที่ทำดีกับมึง มันก็เลยโดดเด่นสำหรับมึงที่คิดแต่จะทำร้ายมันก็เท่านั้นเอง ”

“ หึ ”

“ ยิ้มไปเถอะ ถ้าความโดดเดี่ยวทำให้มึงรู้สึกชนะ มึงก็ยิ้มต่อไป ” ผมยิ้มให้มัน “ เพื่อนน่ะ มันต้องจริงใจต่อกัน มันถึงจะเรียกว่าเพื่อน ส่วนมึงน่ะ มันไม่ใช่ มึงมันเป็นแค่คนขี้อิจฉาที่ไม่ว่าจะทำยังไงสุดท้าย มึงก็ได้แค่อิจฉา แล้วจำไว้นะว่าต่อไปนี้เมดจะมีแต่ความสุขมากกว่ามึงไม่ว่าจะด้วยเป็นเรื่องอะไรก็ตาม จำคำกูไว้ ”

แววตาโกรธที่จ้องมองผมไม่ได้หลบสายตาไปไหน จิงมีความโกรธอยู่ในใจเต็มร้อยแบบชนิดที่ถ้าเป็นไฟมันก็ร้อนจนขีดสุด เพราะสิ่งเดียวที่ขัดขวางมันตอนนี้คือผม ผมที่ทำให้เมดคนที่มันเกลียกมีความสุข อย่างที่มันไม่อยากจะให้เป็น

“ อาฟ ” เมดก็เอื้อมมือมาจับมือผมแล้วส่ายหน้าไปมาราวกับจะบอกให้หยุด  “ กลับเถอะวะ คงไม่มีอะไรแล้วละ ” ดึงมือผมให้เดินออกมาในตอนที่ปาดน้ำตาแล้วสูดน้ำมูกเข้าไปนั้น มันที่ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะยิ้มให้ผมอย่างเข้มแข็งที่สุด ตอนนั้นมันเอียงหน้าไปมองยีนส์ “ ยีนส์ กุรู้ว่ามึงคงเจ็บมาก แต่มันจะหายไปนะมึง เพราะงั้นรักตัวเองให้มากๆนะ แล้วสุดท้ายในตอนที่มึงหลุดออกมาจากขุมนรกนั่น มึงจะรู้ว่า สิ่งที่กูพูดมันจริงที่สุด ”

ยีนส์ไม่ได้พูดอะไร มันแค่มองอีกคนด้วยสายตาสั่นไหว ว่ากันว่า เรื่องบางเรื่อง ถ้าไม่เจอกับตัวเราจะไม่มีทางรู้ว่ามันเจ็บปวดยังไง

“ เมด กูขอโทษ ”

“ ไม่เป็นไร กูขอให้มึงโชคดีแล้วกัน ”

“ จะไม่เสียใจหน่อยเหรอวะ ” พูดคำที่ทำให้ขาที่กำลังเดินไปของเราสองคนหยุดชะงัก เมดหันกลับมามองจิงที่ก้มหน้าพูดออกมาแบบนั้นทั้งน้ำตา คนที่ทำให้ผมถอนหายใจออกมาเพราะรู้สึกว่ามันเหมือนคนบ้าที่กำลังเสียสติ กับเรื่องที่ไม่เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ “ ทำไมมึงถึงไม่เสียใจในสิ่งที่ได้ยินจากกูบ้าง กูเป็นคนที่โกหกมึงไงเมด กูที่เคยเป็นเพื่อนที่แสนดีของมึงไง คนที่มึงเคยไว้ใจแล้วเล่าทุกอย่างมาตลอดชีวิตแต่กลับไม่เคยจริงใจกับมึงเลย ทำไมมึงไม่เสียใจบ้างวะ มึงจะมาร้องไห้แค่นี้ แล้วตัดใจไม่ได้ มึงต้องเสียใจให้ได้แบบที่กูอยากจะให้มึงเสียใจ มึงต้องเสียใจกับชีวิตบัดซบของมึง มึงต้องเสียใจที่มึงต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้  ทำไมมึงไม่เสียใจ..”

“ กูคงผ่านมันมาแล้วมั้ง ความเสียใจพวกนั้นน่ะ อีกอย่างพวกมึงเองก็ไม่มีค่าอะไรในชีวิตกูแล้ว แบบนั้นกูจะไปเสียใจไปทำไมวะ กูเองก็เต็มที่กับฐานะเพื่อนมาตลอด แต่มึงไม่เห็นค่างั้นก็ช่างมันเถอะ กูมีเพื่อนอีกเยอะแยะ ปล่อยให้คนที่เค้าเห็นมึงมีค่าเสียใจเถอะ ” มันเชิดหน้าไปทางยีนส์แล้วในตอนที่หันกลับมา ปลายกระบอกโลหะก็จ่อมาทางคนข้างตัวผมในระยะประชิด

“ เมด! หลบ! ปืนปากกา ” คว้าเอาตัวคนที่เอ่ยเรียกชื่อเข้ามาอยู่ในวงแขน แล้วใช้แผ่นหลังของตัวเองบังเอาไว้ด้วยความรู้สึกว่าต้องปกป้องไว้เป็นอย่างแรก

ปัง!

อ้อมกอดผมกอดรัดเมดไว้แน่นในตอนที่ได้ยินเสียงนั้น ทุกอย่างมันเงียบไปหมด ผมไม่แน่ใจว่าเสียงของปืนชวนให้มีอาการหูอื้อหรือเปล่า แต่ภาพของคนในอ้อมกอด ณ วินาทีนั้นมันช่างเลือนลางจนแทบจะไม่เห็นรูปร่างใดชัดเจน ผมเห็นเพียงแค่แววตาใสนั้นที่เงยขึ้นมองกันตอนที่ผมก้มลงไปดู น้ำตาที่เริ่มไหลของเมด ผมได้ยินเสียงของอีกคน

“ อาฟ ไม่นะ  ไม่นะ อาฟ  ไม่นะ ไม่ๆ อย่าเป็นอะไรนะ ”

“ เมด มึงเป็นอะไรมั้ย ” มันเป็นคำถามแรกที่ผมอยากรู้ในตอนที่เอื้อมมือไปจับใบหน้านั้น แล้วลูบไปตามตัวของอีกคนเพื่อตรวจเช็ก แต่คนตรงหน้าก็แค่ส่ายหน้าไปมา

“ ไม่ กูไม่ได้เป็นอะไร ”

“ งั้นก็ดีแล้ว ”  คำพูดสุดท้ายของผมเอ่ยออกไป ก่อนความเจ็บหน่วงที่ช่วงท้องจะแล่นขึ้นแกนสมองราวกับสั่งให้รับรู้ว่าเสียงปืนเมื่อครู่ที่ได้ยินนั้น ตอนนี้ลูกกระสุนนั้นมันฝากฝังอยู่ในตัวผมแล้วและกำลังมีเลือดอุ่นที่เริ่มซึมออกมาพร้อมกับเสียงร้องไห้ของคนตรงหน้าที่กำลังลนไปกับทุกสิ่งมันจะค่อยๆชัดเจนขึ้น มือของแมดจับที่แผลของผม มันที่พยายามหาอะไรบางอย่างที่ผมคิดว่าคงเป็นมือถือ

“ ช่วยด้วย ช่วยด้วยมีคนโดนยิง ช่วยด้วยมีคนโดนยิง ช่วยด้วย ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย ” ประโยคที่วนไปวนมาแบบนั้นก่อนที่มือถือจะถูกดึงไปจากมือมัน ก่อนจะรายละเอียดที่จำเป็นจะถูกพูดออกไปตามสายโดยไอ้บินเป็นคนพูดให้ เมดหันมามองผมมือที่จับกันไว้แน่น มันหอมไปบนมือ หน้า และริมฝีปากของผมทั้งน้ำตา “ หมอกำลังจะมานะ มึงจะไม่เป็นอะไรหรอก ไม่เป็นอะไรหรอกนะ อดทนนะอาฟนะ บอกกูว่าจะพากูไปเที่ยวหัวหินไง เราต้องได้ไปกันนะ เข้าใจมั้ย ห้ามทิ้งกูไปไหน นี่คือคำสั่ง เข้าใจรึเปล่า ” 

“ ยิ้มให้ดูหน่อย ” ผมบอกอีกคนก็ยิ้มกว้างออกมาตามที่บอก ในตอนนั้นผมยิ้ม “ ห้ามร้องไห้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ก็อย่าร้องไห้เด็ดขาด เพราะกูเกลียดนน้ำตาของมึงที่สุด ” แล้วนั่นคือคำพูดและรอยยิ้มสุดท้ายของผม ก่อนสติทั้งหมดมันจะดับวูบไป

...........................................................

พี่อาฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
คิดว่าตอนหน้าน่าจะจบเนื้อเรื่องหลัก แต่ไม่เป็นไรนะ ตอนพิเศษมีให้อ่านอีกเพียบ #บีบมือให้กำลังใจน้องเมดต่อไป

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อย่ามาม่าอีกก็พอ ครั้งนี้อารยะคงมีสติไม่ทะเลาะโวยวายกันอีกนะ หวานๆกวนๆแบบนี้แหล่ะดีที่สุดแล้ว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
เห้ย นี่เกลียดกันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ
ตอนแรกนึกว่าริษยาที่เพื่อนดีกว่า แต่นี่ถึงกับจะฆ่ากันเลย เกินเยียวยาแล้วววว
ว่าแต่พี่อาฟฟฟฟ อย่าเป็นอะไรนะ  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด