( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 483615 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ห่างกันสักพักก็แล้วกัน :ling2: :ling2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอยยย ไอพี่อาฟ ไปง้อเลย อะไรวะ

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: ในที่สุดความหึงแบบหน้ามืดตามัวก็ก่อเหตุจนได้  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ SNOFFY_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาม่ามาแล้ววว เข้าข้างพี่เมด ฮืออออ ไปว่านุ้งต่อน่าคนอื่นไม่น่ารักเลยนะพี่อาฟฟฟ
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ห่างกันสักพักดีแล้ว ช่วงที่ห่างกันอาฟควรทบทวนตัวเองว่าทำถูกหรือไม่
กับการด่าว่า ร่าน กับเอาความเลวของตัวเองไปเปรียบเทียบเทียบกับความเลวของไอ้บิน
สรุปอยากเลวแบบไอ้บินว่างั้นเถอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2018 15:15:16 โดย เอมมี่ »

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
คิดแล้วว่าซักวันต้องมีวันที่ทะเลาะกันเพราะความปากหมาของอาฟ หึงได้แต่ควรจะพูดว่าเมดแรงๆ ให้เมดอับอายและเสียใจหรา แคร์มาก หึงมาก หวงมากแล้วงัยถ้าจะพูดไม่คิดถึงใจอีกฝ่ายแบบนี้ก็พัง :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
อิสัดพี่ โอ๊ยยยย เกรียวกราดอ่ะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ว่าแล้วต้องมีอะไร เฮ้อ~

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รักมากแล้วมีสิทธิด่าคนรักตัวเองว่า ร่าน  หรือ

ทั้งที่รู้นิสัยคนรักตัวเอง ทั้งที่รู้ความเลวของบินทำให้เมดเจ็บช้ำ
ยังพูดให้สะเทือนใจว่าทีบิน ทำไมเมดทนได้
ปัดโธ่เอ๊ยอาฟ.........มีสมองแค่ไว้คั่นหูเท่านั้นใช่ไหม
เมดอธิบายยังไงก็ยังทื่อ ทึ่ม โกรธ หึงตะบี้ตะบัน  :เฮ้อ:
สมแล้วที่จะโดนบอกเลิก  :angry2: :angry2: :angry2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Christa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เราเข้าใจทั้งสองฝั่งนะ

แฟนที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์มันไม่มีหรอก เท่าที่ผ่านมาที่อาฟทำให้เมดเราว่าอาฟเป็นแฟนที่ดีมากคนหนึ่งแล้วนะ

แต่ข้อเสียที่อาฟมีมันก็รุนแรงเกินไปเหมือนกัน ควรลดๆลงบ้าง ส่วนเมดคงต้องใช้ความเข้าใจ และก็ขอโอกาสให้อาฟด้วยนะ T^T

ปล.อย่าดราม่านานนะคะ พี่อาฟคือพระเอกในดวงใจเรา ฮือออออออ
ปล.2 ถ้าเป็นไปได้เราขอซีนที่แสดงให้เห็นว่าเมดก็รักอาฟมากๆเหมือนกัน เพราะในความรู้สึกเรา เราว่าอาฟอาจจะยังไม่รู้สึกถึงจุดนี้ ที่ผ่านมาเหมือนเมดรักอาฟเพราะอาฟรักเมด ให้เมดทุกอย่าง อะไรประมาณนี้ ดูได้จากตอนล่าสุด อาฟยังคิดว่าเมดรักบินมากกว่าอยู่เลย ฮืออออ ปลอบใจพี่อาฟเค้าหน่อยนะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
โอยยยย ไม่เอาๆ อย่าทะเลาะกันนน นังอาฟก็พูดกับน้องเมดดีๆหน่อย นี่ก็ปากเสียละเกินนน

ออฟไลน์ NY_JK

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อาฟเคยเสียเมดไปไงตั้งแต่ช่วงมัธยมทั้งๆที่คอยส่องคอยเฝ้ามอง คงกลัวเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมก็เลยระแวงเรื่องมีคนมาจีบเมด ทำให้หึงแรงและด้วยความปากเสียไม่ระวังคำพูดเรื่องเลยไปกันใหญ่  :katai1:

ซึ่งตอนที่อาฟถามเมดว่าทำไมพอเป็นอาฟแล้วเมดทนไม่ได้เหมือนตอนที่ทนกับบิน มันทำให้รู้เลยว่าลึกๆอาฟก็ยังกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเมดกับตัวเองอยู่ กังวลว่าเมดจะไม่รักตัวเองเท่าตอนคบกับบิน
เพราะคบกันมา4ปีถ้าเมดไม่รักมากตอนนั้นเมดคงไม่ทน แต่สำหรับเมดเรื่องนั้นมันคืออดีตที่เมดไม่อยากนึกถึง ไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพนั้นไม่อยากอดทนกับเรื่องต่างๆอยู่ฝ่ายเดียวอีกแล้ว ผลก็อย่างที่เห็น ระเบิดตู้มเป็นโกโกครั้น  :hao5:

ออฟไลน์ qxrb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นี่งอแงกับเพื่อนเพราะอาฟกับเมดจะเลิกกัน ไม่อยากอ่านต่อแล้ว รับไม่ไหว เหมือนตัวเองจะเลิกกับแฟนเลย ฮือออ ให้คืนดีกันไวๆนะ :z3: :sad4: :hao5:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
มาม่า มาเป็นโต๊ะจีนเลยจ้าาา

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……

น้องเมดก้อใสเกิ้นไป.  มีอย่างที่ไหน_มาถามว่ามีแฟนหรือยัง

คำถามแบบนี้ เซลไม่ควรถามเพราะมันไม่สุภาพ ไม่ใช่คำถามตามมารยาทเลย

อาฟก้อปากร้าย จะด่าก้อด่าอีตาเซลคนเดียวดิ

มาด่าคนของตัวเองทำไม

เมดน่ารัก ช่างคุย ใสๆ อ่ะ ใครเห็นก้อชอบ นิสัยคุยง่ายไม่ใช่ร่านนะ

สรุป อย่าไปซื้อเหล้ามันเลย ใสหัวอีตาเซลเนี่ยไปห่างๆ

 :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:   :z6:  :z6:


แล้วกลับมาทำความเข้าใจกันนะ. ต่างก้อรักกัน

อย่าเอาทิฐิมาตั้งกำแพงกันเลย…


 :z3:  :z3:  :z3:  :z3:  :z3:  :z3:  :z3:






ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แงง ร้องไห้เลยย เข้าใจทั้งคู่นะ แงงงง

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ขอทุบอาฟสักที

เมื่อตอนก่อนหน้านี้ตอนไอ้บินมาหาที่ผับ


เบน นี่อวยอาฟหนักมาก

พระเอกที่เป็นพระเอกจริงๆ ไม่หึงพร่ำเพื่อ มีสติ

ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ไม่ไหลตามอารมณ์หยอกเย้า

พูดถึงเมดแต่ในแง่ดีๆ


โคตรอวยอะตอนนั้น ชอบมากคือดีงามมาก



พอมาตอนนี้ นี่เงิบเลยค่ะ รู้สึกเหมือนตัวเองมีคนมตบหัว แล้วบอก "เบน มึงตื่นได้แล้ว "

ถึงกับอุทาน นี่มันเหี้ยอะไรวะเนี่ย ช็อกกับคนว่าร่านไม่พอ

เจอกับประโยคเอาแต่ใจ ทำไมพอเป็นกูแล้วมึงทนไม่ได้


พอเมดบอกว่า แล้วก็ไม่สิทธิจะเจอรักดีๆเลยหรอ นี่กูต้องทนตลอดเลยหรอ


นี่ขึ้นเลยค่ะ องค์เบนลงมาก 





กอดน้องเมดค่ะ ทีมน้องเมดเสมอๆเลย

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
เมื่อวันก่อนอยากได้แฟนแบบพี่อาฟ 

แต่ทำไมตอนนี้อยากถีบพี่อาฟมากๆๆเลย

ออฟไลน์ rodoubles

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่ะนี่เข้าใจในมุมของอารยะนะ ก่อนหน้านี้ที่บินมาหา พี่มันมีสติเพราะมันก็ยังรู้สึกว่าเอ้อเนี่ย กับเมดก็ยังไม่สุด คือตอนนั้นความสัมพันธ์ยังไม่สุดจริงๆ แต่ตอนนี้คือพี่มันได้ครอบครองทุกอย่างที่เป็นเมดแล้ว พี่มันก็คิดเข้าข้างตัวเองแล้วว่าทั้งหมดคือของกูนะ และจากนี้จะไม่ปล่อยเมดไปให้ใครหน้าไหนได้แตะต้อง ไม่ปล่อยให้หลุดมือไปอีก พี่มันถึงโมโหร้าย หึงหน้ามืดตามัว เป็นบ้าขาดสติยั้งคิดยั้งทำแบบนี้

แต่คือพี่มึงก็ต้องคิดถึงใจเมดจริงๆ อ่ะ ถ้าให้นับเวลาจริงๆ เมดก็เพิ่งเลิกกับบินได้ไม่นาน แถมเพิ่งศึกษาดูใจกับอาฟได้แค่แปบเดียว ก็ไม่แปลกที่จะยังมีรอยแผลอยู่ คือเมดน่ะอาจจะหมดรักบินไปละ แต่แผลเป็นอ่ะแผลเป็น ต่อให้ลูบไปมันจะไม่เจ็บแล้ว แต่ถ้ามีอะไรคมๆ มาบาดมันก็ยังเจ็บได้อยู่ป่ะวะ

แต่ก็นะ.. ในส่วนของทางนี้จะด่าอารยะก็ด่าได้ไม่เต็มปาก นังโมโหก็มีเหตุผลของนาง เมดก็มีเหตุผลของเมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็วอนไรท์เตอร์อย่าทำให้คนอ่านช้ำนานเลย ปวดใจเหลือเกิน T-T

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 36

ทุกอย่างมันเงียบเชียบ อาจเพราะความรู้สึกเสียใจที่กำลังดำดิ่งเลยทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น ทั้งๆที่มีเสียงเพลงที่ดังอยู่ข้างล่างจะดังทะลุผ่านบันไดขึ้นมาแต่ผมกลับรู้สึกว่าทุกอย่างมันดูเงียบไปหมด เสียงโครมครามก่อนหน้านี้เงียบลงไปแล้วแม้แต่น้ำตาของผมก็เหือดแห้งไป สูดลมหายใจผ่านฝ่ามือที่ยกขึ้นปิดหน้าผมดึงตัวเองขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวขาเดินลงมาชั้นล่าง

อาฟไม่ได้เดินออกมาจากห้องนั้นเพื่อง้อกัน แต่ผมคิดว่านั่นก็ดีแล้ว อารมณ์ของเรายังคงร้อนพูดไปตอนนี้ก็คงมีแต่อารมณ์ของความต้องการที่ต่างฝ่ายก็ต่างอยากจะให้อีกคนเป็นอย่างที่ตัวเองอยากจะให้เป็น

ทุกความรู้สึกเกิดขึ้นง่ายอย่างน่ากลัว เมื่อเช้าอาฟยังหอมแก้มผมอยู่บนเตียง ผมที่ตื่นขึ้นมาแล้วยิ้มให้มันอย่างมีความสุข เราจูบกับบนรถตอนที่มันมาส่งผมที่มหาลัยด้วยการขอจูบแบบคนปากแข็งอย่างมัน หัวเราะกันตอนแวะกินข้าวเที่ยงในร้านอาหารญี่ปุ่นที่พอเปิดถ้วยน้ำซุปมิโซะจะกินแต่พนักงานดันลืมใส่มาให้ หรือแม้ตอนที่นั่งตื่นตาตื่นใจกับเครื่องเติมเบียร์ แต่พอมาตอนนี้ ความสุขพวกนั้นกลับหายไปหมดเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ และหลงเหลือไว้ซึ่งแค่ความเสียใจที่กำลังเจ็บปวด

“ น้องเมด ” ผมหันไปตามเสียงตอนที่ปิดประตูลง คนที่เอ่ยทักทำให้ผมยิ้มจางๆกับท่าทางไม่สบายใจของเค้า พี่ต่อคนเป็นเซลล์ยืนอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ “ พี่ขอโทษนะ ”

“ ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่ไม่ผิดหรอก ผมเองมากกว่าที่ต้องขอโทษ ขอโทษแทนคุณอาฟด้วยนะครับ ที่เค้าใจร้อนไปหน่อย ”

“ เราไม่เป็นไรแน่นะ ” ถามเหมือนจะขอความแน่ใจแต่ผมก็รู้ว่าอีกคนรู้ว่ามันไม่ได้มีอะไรโอเคทั้งนั้น ดูได้จากสายตา และปลายจมูกแดงๆของผมที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักนั่นก็พอเดาได้แล้ว “ พี่ไม่น่าถามเลย หมายถึงคำถามพวกนั้น พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ ”

“ มีอะไรกันวะ ” เจที่นั่งอยู่ตรงส่วนบาร์เดินเข้ามาหาเราก่อนจะถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาตอนที่หันไปมองอีกคนแล้วหันกลับไปมองเซลล์ขายเหล้าอีกครั้ง

“ พี่ต่อ เรื่องเสนอเหล้าเมดว่าไว้โอกาสหน้าดีกว่านะครับ ขอโทษด้วยจริงๆ ”

“ ไม่เป็นไรครับ พี่มากกว่าที่ต้องขอโทษน้องเมดด้วยที่ทำให้น้องเมดลำบาก ”

“ ไม่เป็นไรครับ ” ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้เค้าอีกคนก็ก้มหน้าลงให้ผมกับเจก่อนจะเดินออกไปจากผับ เสียงถอนหายใจของผมที่ผ่อนตามออกมาคนที่ยืนข้างๆก็พูดขึ้น

“ ไม่ใช่เรื่องดีถูกมั้ย ”

“ อื้ม ” ผมบอกมันก่อนจะพยักหน้ารับ

“ เหมือนกูจะพอเดาได้เลยว่ะว่าเรื่องอะไร ” เจยกไหล่ก่อนจะถอนหายใจออก “ แล้วนี่จะไปไหน กูจะได้บอกไอ้อาฟไปง้อถูก “

“ กูแค่อยากจะไปอยู่ในที่เงียบๆสักพัก ” ยิ้มจางๆให้คนตรงหน้าที่ก็เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ผมรู้ว่าเจคงไม่อยากจะให้ผมไปไหน ในใจของมันคงคิดอยากจะให้ผมอยู่ เพราะมันคงรู้ดีว่าเพื่อนมันไม่ใช่คนที่จะง้อเก่งอะไร “ ปล่อยกูไปเถอะมึง พูดอะไรไปตอนนี้เพื่อนมึงก็เถียงจะเอาชนะกูอย่างเดียว แล้วกูเองก็ไม่ยอมด้วย ”

“ งั้นตามใจแล้วกัน ” คนฟังถอนหายใจออกมาราวกับถอดใจที่จะรั้งผมไว้

“ ฝากบอกอาฟด้วยนะ ว่ากูขอลางาน ”

“ แล้วนั่นมึงจะไปไหน บอกกูหน่อยได้มั้ยกูเป็นห่วง ”

“ ไปหาคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ” เจพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำผมออกไป

“ กูไปส่ง ”

“ ไม่ต้องหรอกมันไกลมึง เปลืองตังค์ รถก็ติด ” บอกปัดอีกคนไป “ กูนั่งบีทีเอสก็ได้ คอนโดกูมันติดบีทีเอส ”

“ งั้นนั่งแท็กซี่ไปดิ ”

“ แล้วมันจะต่างอะไรกับที่มึงไปส่งกูวะเจ” ยิ้มบอกอีกคนก่อนจะเดินออกไปจากผับโดยที่มีอีกคนเดินตามหลังกันออกมา

“ งั้นกูไปส่งมึงที่บีทีเอสแล้วกัน ” ผมหันมาทำทีจะเถียงมันว่ายุ่งยาก แต่เหมือนอีกคนจะรู้ทัน “ กูแค่เดินไปส่ง ”

“ โอเค ”

“ เดี๋ยวไอ้อาฟแม่งฆ่ากู โทษฐานที่ปล่อยแฟนมันให้เดินออกไปคนเดียว ”
 
“ ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง ” บอกอีกคนยิ้มๆ เจก็เหลือบมอง

“ มึงคิดงั้นจริงดิ ”

“ คิดอะไร ”

“ ก็คิดว่าไอ้อาฟมันไม่ได้หวงมึงขนาดนั้นอย่างที่มึงบอก ” คนถามยิ้มกว้างก่อนจะยักคิ้วให้ “ กูว่ามึงน่าจะรู้ดีนะ ”

“ อื้ม กูรู้ดี ” พยักหน้ารับก่อนจะหันไปยิ้มให้อีกคน ผมรู้ดีว่าตัวเองถูกรักมากแค่ไหน ถึงจะไม่เคยมีคำพูดหวานใดๆมาคอยย้ำ แต่ทุกการกระทำก็บอกกันว่า สำคัญมากที่สุดและทำแบบนี้ให้ผมแค่คนเดียว

ครั้งนึงเมื่อนานมาแล้ว ผมเองก็เคยคิดว่าอยากจะเป็นคนที่ถูกรักมากที่สุด ครั้งนั้นผมจินตนาการว่าถ้าเป็นคนที่ถูกรักมากตัวผมจะมีความสุขแค่ไหน แต่วันนี้ผมก็ได้รู้ อะไรที่มากไปมันไม่ดีหรอก อย่าอยากได้อะไรที่มันมากเกินไปเลย

“ เมด ”

“ ขอบคุณที่เดินมาส่งกูนะมึง ” ผมหันไปบอกเจตอนที่พยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองตอนที่คิดเรื่องพวกนั้น เจเองที่นิ่งมองกันมันเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง “ มึงมองกูเหมือนจะพูดอะไร ”

“ อาฟมันรักมึงนะ ” อีกคนบอกแบบนั้น “ จริงอยู่ที่มันดูเกินไปทุกเรื่อง ห่วงมึงเกินไป หวงมึงเกินไป แล้วบางทีก็รักมึงมากเกินไป แต่นั่นเพราะ มันไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่าอะไรคือความพอดี มันคิดว่า มันรัก ก็ให้ทุกอย่างที่มี อาฟมันก็คิดแค่นั้นแหละ ”

“ สมเป็นเพื่อนรักคุณอารยะ ” เอ่ยแซวอีกคนที่ทำทีไปมองทางอื่น ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ กูก็พูดไปตามที่คิด ”

“ กูไปละ ขอบคุณอีกที ”

เดินขึ้นบันไดเลื่อนก่อนจะซื้อบัตรโดยสาร ผมสอดบัตรผ่านเข้าไปรอรถไฟฟ้าที่กำลังจะเข้ามาเทียบสถานีพอดี ผ่อนลมหายใจกับจำนวนประชากรที่ดูท่าทางว่าไม่น่าจะมีเก้าอี้ว่างให้นั่ง แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ไม่ได้แย่ อย่างน้อยก็ยังมีมุมยืนพิงที่ติดกับประตูอีกฝั่งที่ยังว่างอยู่ ผมเดินไปยืนตรงนั้นก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างของรถโดยสาร

‘ บรรยากาศแม่งโคตรเหงา ’ ภายในใจมันคิดตอนที่มองไปเห็นดวงไฟสีส้มที่ตัดกับท้องฟ้ามืดสนิท ปกติตอนอยู่ในรถกับอาฟไม่เห็นรู้สึกแบบนี้ แต่พอวันนี้กลับรู้สึกว่ามันโคตรเหงา คงจริงอย่างที่ใครบอก วิวเดียวกันแต่ก็มองกันไปคนละแบบ เพราะมันขึ้นอยู่ที่อารมณ์คนมองในตอนนั้นว่าเป็นแบบไหน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เคาะประตูคอนโดตัวเองสองสามครั้ง ยืนรอไม่นานคนที่อยู่ในห้องก็เดินมาเปิดให้ด้วยรอยยิ้ม “ วิวกำลังจะโทรถามพี่เมดพอดีว่าพี่เมดอยู่ไหน ”

“ เจบอกเหรอวะ ว่าพี่จะมา ” ถามน้องที่ก็พยักหน้ารับ เราเดินเข้าไปในห้อง ผมหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ กินอะไรมายัง โทรสั่งอะไรกินมั้ย หรือว่าจะออกไปหาอะไรกิน ”

“ ไม่อะ กูไม่หิว ” หันไปบอกวิวก็นั่งลงข้างกัน เรามองหน้า ผมยิ้มให้น้องแต่ในแววตานั้นกลับมีแต่หยดน้ำตาคลอเต็มไปหมด ฟันของผมกัดกันแน่น เอาจริงๆก็ไม่อยากจะร้องไห้เลย แต่ทำไมพอเห็นหน้าอีกคนในใจถึงอ่อนแอลงอย่างงั้นวะ

“ โอ๋ๆ กอดนะพี่เมด ” สองแขนที่ดึงตัวเองเข้ามากอดผม น้ำตาที่ไหลออกมาผมซบลงที่ไหล่ของน้องชายตัวเอง “ พี่อาฟทำอะไรมึง ไหนเล่ามาเลย กูจะไปตบมันให้ ”

“ ตัวแค่นี้ไอ้อาฟผลักมึงก็กระเด็นแล้ววิว ” เผลอหลุดยิ้มออกมาก่อนจะดึงตัวเองออกมามองหน้าอีกคน ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองแล้วเอียงตัวลงพิงกับโซฟาตัวที่นั่งอยู่

“ เกิดอะไรขึ้นวะ ทะเลาะอะไรกัน ”

“ มึงว่าใครผิดวะ ” ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้วิวฟังตั้งแต่ตอนที่พี่ต่อเข้ามาทักผมจนถึงตอนที่ผมตัดสินใจเดินออกมา คนฟังที่ฟังด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะพูดออกมาแค่สั้นๆ

“ พูดยากว่ะ ”

“ มึงคิดว่า อาฟมันไม่ได้ผิดเหรอ ” ผิดคาดจากที่คิดไว้หมือนกัน ผมคิดว่าวิวจะด่าอาฟออกมาทันทีหลังจากที่มันฟังจบ

“ เปล่าหรอก คือกูว่าพี่อาฟก็ผิดนั่นแหละ มันไม่ควรด่ามึงแบบนั้น ไม่ควรด่ามึงต่อหน้าคนอื่น ไม่ควรดูถูกมึง แต่ว่ามึงเอง ก็คาดหวังความสมบูรณ์แบบเกินไปรึเปล่าวะพี่เมด ”

“ ไม่นะ กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น กูก็รู้ว่าอาฟมันปากไม่ดี แต่สิ่งที่มันพูดมันเกินไปอะมึง มันไม่ฟังอะไรเลย ไม่ฟังเหตุผล มันด่ากูร่าน ด่าต่อหน้าคนอื่นด้วย แล้วยังมีคำพูดดูถูกกูอีก ”

“ กูไม่ได้หมายถึงการคาดหวังแบบนั้น กูหมายถึงว่ามึงกำลังคาดหวังพี่อาฟ ว่าพี่อาฟต้องเป็นคนในแบบที่มึงต้องการรึเปล่า ” ผมเงียบไป วิวก็เอียงหน้ามองกัน “ กูว่ามึงเหมือนกำลังเสียใจที่พี่อาฟมันไม่ยอมลงให้มึงเหมือนทุกทีมากกว่า แบบเสียใจที่พี่อาฟไม่เป็นไปอย่างที่มึงคิด มึงเหมือนกำหนดทุกอย่างของพี่อาฟอยู่ในใจ กำหนดความรักในแบบที่มึงอยากได้ด้วยความสมบูรณ์แบบ  คือปากหมาได้เท่านี้ เหี้ยได้เท่านี้ แล้วถ้ามากกว่านั้น มึงก็จะรู้สึกไม่โอเคละ เหมือนอย่างวันนี้ที่มึงกำลังรู้สึก ”

“ กูคิดแบบนั้นเหรอวะ ” ผมไม่เห็นเคยรู้ตัวเลย ตั้งแต่คบกับอาฟมา ทุกอย่างดูเรียบง่ายไปหมดจนผมไม่ทันสังเกตเลยว่าตัวผมจะเป็นแบบที่วิวบอก แต่อาจเพราะความเรียบง่ายที่ไม่เคยมีปัญหาก็ได้ เลยทำให้ผมรู้สึกเริ่มคาดหวังกับอาฟมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

“ กูก็ไม่รู้ มึงลองถามตัวเองดูว่าตัวมึงกำลังคาดหวังอะไรอยู่รึเปล่า คาดหวังจะมีชีวิตดีๆ ความรักดีๆ แบบที่ต้องไม่เสียใจอีก คาดหวังว่าพี่อาฟจะเป็นคนในแบบที่มึงคาดหวังว่าอยากจะให้เค้าเป็นรึเปล่า แบบคนที่รักมึง ห่วงใยมึง ดูแลมึง ส่วนมึงก็ดูแลเค้า เวลาทะเลาะกันก็คุยกันด้วยเหตุผล จับเข่าคุยกัน แต่พี่เมด มึงคิดว่าอะไรแบบนั้นมันมีในตัวพี่อาฟรึเปล่า ”

“ มันก็มีนะมึง อะไรแบบนั้น อาฟมันก็ดูแลกูเหมือนกัน ”

“ แล้วเพราะการที่เค้าเป็นแบบที่มึงชอบมาตลอด ทำให้มึงลืมไปรึเปล่า ว่าจริงๆ พี่เค้าเป็นคนยังไง ” วิวมองตาผม “ มึงรู้สึกว่าพี่อาฟเป็นแบบนั้นเหรอ กูไม่หรอก มึงรู้ไม่ใช่เหรอว่าเค้าปากหมาได้มากกว่าที่ด่ามึงวันนี้ และ ใจร้ายกว่านี้ได้อีกเยอะ ถามจริงเค้าดีกับมึงจนมึงลืมไปแล้วรึเปล่าว่าเค้าก็มีมุมแบบนี้เหมือนกัน  ความรักมันไม่ได้มีแต่ด้านดีๆแบบที่มึงจินตนาการไว้นะ  ”

“ แต่กูไม่อยากจะกลับไปอดทนกับอะไรแบบนั้นแล้วไง ให้กูกลับไปทนมันอีกคนกูไม่ไหว มันไม่มีความสุขเลย  พอได้แล้วมั้ยวะมึง อะไรแบบนั้นอะ ”

“ เออ กูเข้าใจ มันไม่ผิดหรอกที่มึงจะรู้สึกไม่อยากจะเจอกับอะไรแบบนั้นแล้ว ถอยออกมาแล้วไม่มีใครอยากจะกลับไปเจอคนเหี้ยๆอีกหรอก แต่พี่เมด นี่พี่อาฟไง ไม่ใช่ไอ้บินนะ ” ท้ายประโยคที่ทำให้ผมจุกจนเอาแต่นิ่งค้าง วิวที่ก็มองหน้าผมอยู่มันถอนหายใจออกมา “ อย่าเอาไอ้บินมาเป็นตัวกำหนดว่าพี่อาฟต้องเป็นแบบนั้น ถ้าเกิดมึงยอมให้เค้า อย่าเอาความทรงจำร้ายๆที่เพราะครั้งนึงมึงเคยยอมทุกอย่างมันเลยแย่ มาเป็นตัวตัดสินว่า ถ้าครั้งนี้มึงยอม มันจะกลับไปเป็นแบบนั้นอีก เพราะนี่ไม่ใช่ไอ้บิน นี่พี่อาฟนะ ”

“ แล้วกูต้องยอมให้มันด่ากูอย่างงั้นเหรอวะ ”

“ ไม่ใช่แบบนั้น ที่พี่อาฟมันด่ามึง อันนั้นพี่อาฟมันก็ผิด มันควรมาขอโทษมึง เพราะถ้าเป็นกูแล้วโดนพี่เจด่าแบบนั้นกูจะหยิบขวดเหล้าที่ตั้งอยู่แถวนั้นฟาดหัวมันให้ตายเลย ”

“ สงสารไอ้เจล่วงหน้าเลยกู ”
 
“ แต่ที่กูพูดให้มึงคิด คือ กูอยากให้มึงอ่อนบ้าง ไม่ใช่คิดยึดติดว่า กูไม่เอาแล้วผัวแบบไอ้บิน เพราะนี่ไม่ใช่ไอ้บินไง นี่คือพี่อาฟ กูอยากให้มึงค่อยๆ ใจเย็นๆ มันก็ดีแล้วที่มึงออกมาแบบนี้ เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งทะเลาะ แต่การที่มึงบอกพี่อาฟว่า ‘ ถ้าต้องเป็นอะไรแบบนั้นอีก เราก็พอแค่นี้แล้วกัน  ไม่ต้องไปต่อหรอก ’ อะไรแบบนั้นมันดูเหมือนมึงไม่รักพี่อาฟเลยอะ เหมือนมึงตัดเค้าออกไปได้ง่ายๆ ไม่แคร์ไม่สนใจ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากจะเสียใจแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่อะ ก่อนที่มึงจะมีความรักที่ดี มึงก็ต้องปรับ แล้วก่อนที่จะได้ปรับมึงก็เจอปัญหาอยู่แล้ว ถ้ามึงไม่เจอปัญหาเลยมึงจะรักจะเข้าใจ หรือจะเป็นความสบายใจแบบที่อยากจะเป็นได้ไง มันไม่ได้หรอกพี่เมด มึงต้องรู้จักตัวตนของเค้าทั้งหมดก่อนสิว่ะ ”

“ พอฟังมึงพูดแล้วกูรู้สึกเหมือน นี่กูทำอะไรลงไปวะ กูเหมือนคนที่ลืมไปแล้วว่าจริงๆ อาฟมันเป็นยังไง กูเหมือนคนที่คิดแค่จะเอาแต่ความสุข แล้วพอเจอความทุกข์กูก็ไม่เอามันแล้ว ”

“ มันไม่ใช่มึงผิดคนเดียวพี่เมด อย่างที่กูบอกไงว่าเรื่องนี้มันพูดยาก พี่อาฟเองก็เหี้ยเกินที่พูดออกมาว่าให้มึงทน ทำไมเป็นพอเป็นเค้ามึงทนไม่ได้ คนเราโดนด่าว่าร่านมันไม่มีใครทนอยู่แล้ว ไหนจะคำดูถูกอีก อันนั้นมันก็ต้องมาขอโทษมาเคลียร์กับมึง แต่ที่กูพูด กูพูดถึงมึงที่บอกพี่อาฟก่อนที่มึงจะออกมาจากผับ ว่ามึงก็ไม่ควรรู้สึกว่าพอเค้าไม่เป็นดั่งใจที่มึงคาดหวังว่าอยากจะได้ มึงก็จะแบบ เออ ไม่เอาแล้ว พอ จบ เลิก มันไม่ได้ไง “ วิวเอื้อมมือมาจับไหล่ผม

 “ อย่ายึดติดว่ามันจะมีแต่ความสุขสิวะพี่เมด ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เฟอร์เฟ็คหรอก ทุกอย่างมันต้องหันหน้าเข้าหากันแล้วปรับกันทั้งนั้น ถ้าปรับแล้วไม่ได้ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ยังไม่ปรับเลย มึงก็ไม่เอาแล้วเหรอ มึงทำเหมือนพี่อาฟแม่งเฟอร์เฟ็คสุดๆ ไม่มีอะไรที่ทำให้มึงเสียใจแน่นอน ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่ามันปากหมาจะตายห่าแล้วแค่วันนี้มันปากหมามากกว่าที่มึงคาดคิดไว้ก็เท่านั้น แต่ว่านั่นมันก็คือ ตัวตนของพี่อาฟแฟนมึงนะ มึงก็แค่ต้องเคลียร์กับมันว่ามึงไม่โอเคเรื่องอะไรบ้าง ไม่ใช่ไปบอกเค้าว่าไม่เอาเค้าแล้ว “

“ ทำไมพอเวลากูมีปัญหามึงถึงพูดปลอบกูเก่งจังวะวิว ”

“ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของกูไงพี่เมด” น้องชายผมยิ้ม “ คนรักกันมันใกล้กันก็จริงแต่ก็มองอะไรแบบแคบๆเพราะอคติแล้วก็อารมณ์ ส่วนคนอื่นเค้าก็มองกว้างกว่า เพราะไม่มีอคติอะไร ลองให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับวิว วิวก็เป็นแบบพี่เมดนั่นแหละ แล้วพี่เมดก็ต้องพูดแบบที่วิวพูด ”

“ ขอบใจนะมึง ”

“ จะมาขอบใจทำไม วิวเป็นน้องพี่เมดนะ เวลาพี่เมดไม่สบายใจวิวก็ต้องช่วยพี่เมดสิ ”

“ เด็กดี ” เอื้อมมือไปขยี้หัวของน้องชาย เราที่ยิ้มให้กันก่อนที่ผมจะถอนหายใจออกมา

“ พอมานั่งคุยกับมึงแล้ว กูก็มานั่งคิดว่าที่อาฟพูดออกมาว่า ทำไมกับมันกูไม่ยอม แล้วทำไมกับบินกูยอมทุกอย่าง มึงว่ามันจะยังคิดอยู่รึเปล่าว่ากูยังรักไอ้บินอยู่ ”

“ ทำไมพี่อาฟจะไม่คิด ขนาดกูฟัง กูยังคิดเลย ” ผมหันไปหาวิว แต่ก่อนจะพูดอะไรอีกคนก็พูดขึ้นก่อน “ ก็เหมือนอย่างที่บอก มึงดูตัดพี่อาฟได้ง่ายอะด้วยคำพูดที่มึงพูด พอพี่อาฟไม่ได้ดั่งใจมึงก็พูดแล้วว่าพอแค่นี้ ไม่อยากจะเสียใจอีก คนเราถ้ารักกันมันตัดไม่ง่ายๆขนาดนั้นอะพี่เมด ”

“ แต่กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้บินแล้วนะ ” ผมเถียงอีกคนกลับ “ แล้วแบบนั้นมึงจะให้กูอดทนไม่พูดอะไรเหรอวะ ”

“ มีอีกตั้งหลายประโยคที่มึงพูดได้ มึงอาจจะเงียบไปตอนที่พูดว่ามึงไม่มีสิทธิ์จะมีความรักดีๆเลยเหรอ ไม่ก็บอกว่าไอ้บินไม่เกี่ยวนี่เรื่องของมึงกับพี่อาฟ หรือค่อยมาคุยกันอีกทีตอนอารมณ์มันเย็นๆ ” น้องชายผมเงียบไปก่อนจะถอนหายใจออกมา “ แต่กูก็เข้าใจนะ ”

“ เข้าใจว่า ”

“ อารมณ์มันเป็นใหญ่ พูดอะไรก็ไม่คิดให้ดีหรอก ทั้งมึงทั้งพี่อาฟนั่นแหละ ”

“ แต่กูไม่ได้รักไอ้บินนะ ไม่มีความรู้สึกรักอะไรแล้ว ”

“ ถ้าคิดให้ดีก็เข้าใจแหละ ว่ามึงแค่เอามันมาเป็นเกณฑ์ตัดสินพี่อาฟว่าไม่อยากได้อะไรแบบนั้นแล้ว แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การที่แฟนเก่ายังเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิต ต่อให้เป็นแค่ความคิด ก็ไม่มีแฟนใหม่คนไหนชอบหรอกจริงมั้ย ”

“ ก็จริง ” ผมเผลอถอนหายใจออกมาก่อนจะพลิกตัวเองแล้วเงยหน้ามองเพดานของห้องที่กำลังว่างเปล่า ไม่มีอะไรที่วิวพูดผิดไปเลย

สุดท้ายผมเป็นอย่างงั้น เป็นคนที่ยังเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบัน แล้วคิดว่าตัวเองจะมีแต่ความสุขในทุกวันกับคนที่รัก ผมมองอาฟราวกับรูปปั้นที่ตัวเองปั้นไว้สวยดั่งใจ ทั้งๆที่มันไม่ใช่ อาฟก็คืออาฟ มันเป็นคนคนนึงที่ไม่ได้ดีไปหมด มันมีข้อเสียของมันแล้วข้อเสียนั้นบางทีก็เกินที่ผมจะรับไหว แต่ตอนนั้นผมกลับไม่คิดว่าเราจะต้องมาปรับตัวกัน คิดแค่ว่าไม่ได้ดั่งใจ คิดแค่ว่าทำไมเราไม่มีความสุขกันเหมือนกัน  แล้วพอคิดแบบนั้นก็ไม่อยากจะทนแล้ว ทั้งๆที่ตัวเองพูดบ่อยๆ ว่า ‘ สมกับเป็นอารยะ ’ แต่นั่นก็แค่ อารยะในความคิดผมเท่านั้น ไม่ใช่ อารยะตัวจริงแบบที่อีกคนเป็นเลยสักนิด

“ มึงยังเจอพี่อาฟอีกหลายมุมพี่เมด พี่อาฟด้วยมันก็ต้องเจอมึงในอีกหลายมุม ”

“ ก็คือต้องทะเลาะกันไปจนกว่าจะรู้จักกันดีพอเหรอวะ ”

“ คนที่เค้ารักกันมันก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอวะ ทะเลาะกันไปง้อกันไป ปรับกันไป จนรู้จักและเข้าใจกันดีในที่สุด” วิวหันมาบอกผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเงียบ

“ มึงว่าอาฟจะมาง้อกูมั้ย ”

“ มาสิ ” วิวบอกผมก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปในครัว “ แต่หลังจากที่สำนึกได้นะ ”

...................................................................

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

‘ แล้วกูไม่มีสิทธิ์จะมีความรักดีๆกับเค้าบ้างเลยเหรอวะ ’

ประโยคนี้วนเวียนอยู่ในสมองของผมที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้องทำงาน ผมไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่แบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เก้าอี้ที่ถูกถีบระบายอารมณ์เมื่อตอนที่เมดเดินออกไปไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะลูบหน้าลูบตาตัวเองแรงๆด้วยความหงุดหงิด

‘ สุดท้ายก็เป็นคนที่ทำให้ร้องไห้ซะเอง ทั้งๆที่เคยบอกว่าไม่ชอบเห็นน้ำตางี่เง่านั่น ’  สุดท้ายคนที่ทำให้เมดร้องไห้ก็คือผมที่ก็ไม่ดีไปกว่าไอ้เชี้ยบินเท่าไหร่ วาดฝันว่าตัวเองจะเป็นคนที่ดีกับเค้าไปก็เท่านั้น ตัวตนยังไงมันก็คือตัวตนอยู่แล้ว น่าสมเพชสิ้นดีที่ตัวเองกลับคิดว่า ‘ ไม่ใช่แค่ดี แต่ต้องดีที่สุด ดีกว่าใครทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของเมด ’ แต่สุดท้ายมันกลับไม่ต่างอะไรกันเลย ไม่ต่างอะไรกับไอ้เหี้ยนั่นที่ทำให้เมดเสียใจมาตลอด

 ก้าวเท้าเดินออกไปที่ประตูห้องมือที่เอื้อมจับลูกบิดประตู ผมไม่รู้หรอกว่าถ้าเจอใครอีกคนนั่งร้องไห้อยู่ผมจะทำยังไง หรือคำพูดแรกที่พูดออกไปควรจะเป็นอะไร ผมไม่ได้คิดอะไรเผื่อไว้ทั้งนั้น เพราะสิ่งที่คิดมันมีแค่ว่า ‘ ไม่ว่ายังไงก็เสียไปไม่ได้ ’ แต่ทว่าเมดก็ไม่ได้นั่งอยู่อย่างที่คิด หน้าห้องไม่มีใครอยู่ มันว่างเปล่า

ผมเดินลงไปชั้นล่างเดินตรงไปที่ห้องพนักงานที่มีแมวอ้วนอย่างไอ้หมูตุ๋นอยู่ เพราะทุกวันเวลาทำงานเสร็จอีกคนจะมานั่งเล่นกับลูกแมวที่นี่ แต่ว่าในห้องนั้นก็ไม่มีเหมือนกัน

“ ไอ้เจ ไอ้เมดอยู่ไหน ” เดินออกมาเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ที่บาร์ มันที่หันมามองผมก่อนจะยกยิ้มแล้วก็พูดสั้นๆ

“ จนได้นะมึง ”

“ กูถามว่าไอ้เมดอยู่ไหน ”

“ ไม่ต้องบอกพี่เจ “ น้องชายผมที่อยู่ด้านในของบาร์บอก “ คนปากแบบสัดพี่บอกว่าพี่เมดอยู่ไหน แม่งก็ตามไปทำร้ายความรู้สึกพี่เมดอีกนั่นแหละ ”

“ เสือก ” ผมจ้องอีกคนก่อนจะพูดสั้นๆ เหลือบมองเพื่อนสนิทอีกครั้ง “ บอกกูมา ”

“ บอกก็ได้ แต่มึงต้องบอกกูก่อนว่ามึงทำผิดอะไรกับไอ้เมด ” ถอนหายใจออกมาผมหันไปทางอื่นตอนที่ได้ยิน

“ ทำไมกูต้องบอก นี่มันเรื่องของกู แฟนกูไม่ใช่แฟนมึง  ”

“ งั้นกูก็ไม่บอก เพราะนี่ก็ไม่ใช่เรื่องของกูเหมือนกัน ”

“ ไอ้เจ ” ผมเรียกเพื่อนสนิทเสียงเรียบ เสียงที่จะบอกกับมันว่า อย่ากวนตีนคนอารมณ์ไม่ดีอย่างผมไปมากกว่านี้

“ บอกมึงไป มึงแน่ใจเหรอว่าจะไปพูดกับมันด้วยเหตุผล กูถามจริงๆ ตอนนี้มึงรู้รึยังว่า เมดมันโกรธมึงเรื่องอะไร หรือแค่คิดว่า มึงทำมันร้องไห้ เมดโกรธ เลยต้องไปง้อ เพราะเสียไปไม่ได้ “ ไม่ได้ตอบอะไรอีกคน เรามองหน้ากันนิ่งๆก่อนไอ้เจเชิดหน้ามาที่เก้าอี้ตัวข้างมัน “ นั่งลงก่อนมั้ยสัด มีสติแล้วค่อยไป เพราะถ้าไปแล้วทำให้แย่ลง มึงอยู่นิ่งๆที่นี่เถอะ อย่าไปทำร้ายเค้าเลย ”

“ มองอะไรกูไอ้เชี้ยเดย์ ” ผมถามน้องชายตัวเองตอนที่นั่งลงตรงเก้าอี้ตัวที่ไอ้เจบอกอย่างช่วยไม่ได้ คงจริงอย่างที่มันบอก นั่งให้มีสติแล้วค่อยไป

“ มองไอ้เหี้ยตัวนึงที่ทำให้พี่เมดของกูต้องเสียใจ ”

“ เหล้าหน่อยมั้ย ” ไอ้เจถามผมก็ส่ายหน้า

“ กูอยากจะคุยกับเมดให้รู้เรื่อง อารมณ์กูตอนนี้แดกไปก็เมา ”

“ มึงหึงไอ้เมดกับเซลล์ที่ชื่อต่อถูกมั้ย ” คนข้างๆถามผมก็หันไปมองหน้ามัน “ ที่กูรู้เพราะกูเห็น ตอนที่เมดเดินลงมาเซลล์คนนั้นมันก็เดินมาคุยกับเมด ”

“ มึงว่าไงนะ..”

“ ใจเย็นๆ มึงแม่งพอเรื่องไอ้เมดแล้วโคตรใจร้อน เบาๆหน่อยเถอะสัด ฟังกูก่อน ” ถอนหายใจออกมาอีกครั้งผมนิ่งไปเจก็พูดต่อ “ เซลล์คนนั้นมันเดินมาขอโทษไอ้เมด ที่เหมือนมันจะพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้มึงกับไอ้เมดทะเลาะกัน มึงพูดอะไร ” เจหันมาถามผมในท้ายประโยคที่ก็นิ่งไปก่อนจะพูดเสียงเรียบๆ

“ ร่าน ” ผมบอกมัน “ ประมานว่า งั้นคนของกูก็ร่านไปคุยกับมึงเองงั้นสิ กูด่ามันต่อหน้าไอ้เชี้ยนั่น ”

“ สมเป็นมึงไอ้สัดอาฟ ”

“ ก่อนหน้านั้นกูเดินขึ้นไปชั้นสอง กูได้ยินไอ้เหี้ยนั่นพูดกับเมดว่า เพื่อนมันลืมบอกว่าเลขาผับนี้น่ารัก แล้วก็ถามต่อว่า มีแฟนรึยัง ” ผมหลุดยกยิ้มออกมาตอนที่คิดถึงภาพที่เห็นแล้วก็เสียงที่ผมได้ยิน ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นที่มองเมดด้วยสายตาชื่นชอบ และที่ผมเกลียดที่สุดก็คือ มันคนนั้น คือคนในแบบที่เมดชอบ เป็นท่าทางคนใจดีที่ช่างพูด แถมยังดูอบอุ่น คนที่ไม่ใช่คนในแบบผม

“ สติมึงก็เลยขาดเพราะเกิดอาการหึงหวงสินะ ”

“ มันควรรู้ว่าข้อห้ามของผับนี้คือ ห้ามยุ่งกับเลขากู ”

“ ทำไวนิลมาติดเลยมั้ย ขึงป้ายเอาตัวใหญ่ๆ ตรงระเบียงชั้นสอง ด้วยสโลแกน รักชีวิตอย่าคิดยุ่งกับเมียพี่อาฟ ” เจหันมาบอกผมก่อนจะยกเบียร์ที่อยู่ตรงหน้ามันขึ้นกิน “ ช่วยเล่าให้กูฟังตั้งแต่ต้นจนจบหน่อยเรื่องมันเป็นมายัง ขอละเอียดๆนะ แล้วอย่าเล่าข้ามละไอ้สัด ”

“ เพื่อ ? “

“ เพื่อให้ตอนที่มึงพูดออกมา มึงจะได้นั่งคิดว่าสิ่งที่มึงทำมันเหี้ยแค่ไหน ” ผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คนข้างๆอย่างจำยอม พร้อมกับไอ้เดย์ที่ก็ไม่ยอมเดินไปไหนเพราะความอยากรู้

“ ด่าเหี้ยยังสงสารเหี้ยเลย ” น้องชายผมบอกตอนที่ผมเล่าจบ “ มึงด่าพี่เมดของกูต่อหน้าคนอื่นอะ ทั้งๆที่เค้าไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยอะสัดพี่ แล้วเค้าก็พูดกับมึงด้วยเหตุผลด้วยซ้ำอะ แต่มึงไม่ฟังอะไรเค้าเลย แถมยังไปดูถูกเค้าอีก มึงแม่งแบบ กูจะสรรหาคำไหนมาด่ามึงดีวะ ”

“ งั้นก็เงียบปากไป ” บอกปัดน้องชายตัวเอง ก่อนจะนั่งเงียบๆแล้วก็คิดทบทวน

หงุดหงิดตัวเองที่ตอนนั้นขาดสติไปทุกอย่าง ทำไมถึงได้พูดเหี้ยอะไรแบบนั้นออกมาวะ ยิ่งคำพูดที่บอกออกไปว่า ทำไมพอเป็นผมถึงไม่ทน มันยิ่งทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากแค่ไหน เหมือนกับช่วงเวลานั้นผมไม่ได้แคร์มัน คิดแค่ว่า อยากจะให้ยอมกันเหมือนอย่างที่มันเคยยอมให้ไอ้บิน ทั้งๆที่ก็บอกตัวเองตลอดว่าไม่อยากจะเป็นแบบนั้น

“ มึงทำเหมือนไอ้เมดเป็นตุ๊กตาอะ ” เจหันมาพูดกับผม “ ตุ๊กตาที่มึงเคยอยากได้มาก แต่มึงไม่เคยได้ตอนเด็กๆ พอวันนึงมึงไปเจอมันโดนทิ้งอยู่ สภาพไม่ดี แต่เพราะมึงชอบมากก็เลยเก็บกลับมา มึงเอามันมาซักทำความสะอาด ดูแลทุกอย่างให้อย่างดี จนมันสวยเหมือนเดิม  แล้วมึงก็คิดว่า ตุ๊กตาตัวนี้ต้องทำตามความต้องการของมึงทุกอย่าง เพราะมึงก็ไม่เคยทำแบบนี้ให้ใคร แต่มึงลืมไปรึเปล่า เมดมันก็มีหัวใจนะมันไม่ใช่ตุ๊กตา ” ผมนั่งฟังอีกคนพูดแบบเงียบๆ “ มึงด่ามันแบบนั้นด้วยอารมณ์โกรธทั้งๆที่มันพยายามจะทำให้มึงใจเย็น แต่มึงก็ยังบอกให้มันคิดอย่างที่มึงต้องการ มึงบอกให้มันยอมมึงทั้งๆที่มึงก็รู้ว่ามันเคยเจ็บกับการยอมไอ้เชี้ยบินมา แล้วมึงยังจะมาทำร้ายมันอีกเหรอวะ  .. ไอ้อาฟ กูถามจริงๆ มึงกลัวอะไรรึเปล่า ”

“ กลัวอะไร ” ผมหันไปมองอีกคนที่ก็หมุนเก้าอี้มามองหน้าผม

“ กลัวว่ามึงจะไม่ดีพอในความรู้สึกเมด กลัวว่าเมดจะไปจากมึงถ้าเจอคนที่ดีกว่า ”

“ จะกลัวทำไม กูก็ไม่ได้ดีอะไรอยู่แล้ว ” ตอแหลสิ้นดี ทั้งๆที่ทั้งหมดมันก็เป็นแบบนั้น

ผมกลัวการที่ไม่มีเมดอยู่ข้างกัน มันคงเหมือนกับเสือตัวนึงที่เผลอไปเจอลูกแมวตัวนึงเข้า ในใจที่อยากจะได้แมวตัวนั้นมาอยู่ด้วย แต่จะดูแลยังไงก็รู้ ก็เลยลองทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ลูกแมวตัวนั้นดูชอบสิ่งที่ผมทำ แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังกลัว ว่าถ้าลูกแมวตัวนี้ไปเจอแมวอีกตัวที่ถูกใจเข้า มันก็คงไป และเพราะไม่อยากจะให้เป็นแบบนั้น ก็เลยขู่คำรามกับทุกคนที่เข้ามาใกล้ รักและหวงแหนมากเกินไป จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นความอึดอัด

“ สิ่งที่มึงทำกับเมดแบบที่มึงไม่เคยทำให้ใคร มันดีอยู่แล้ว แต่บางอย่างมันมากเกินไป อย่างเรื่องที่มึงหึงมันจนพูดด่ามันต่อหน้าคนอื่น แล้วก็ไปพูดดูถูกมันว่าเหมือนมันชอบเค้า ทั้งๆที่มันไม่ได้คิดอะไร กูถามจริงๆ จากใจเลยนะ มึงคิดว่าไอ้เมดชอบเค้า หรือมึงแค่กลัวไปว่าไอ้เมดจะชอบเค้าจนโมโหแล้วด่ามัน ”

“ อย่างหลัง ” เจถอนหายใจออกมาตอนที่ผมตอบ

“ มีสติหน่อยสัด ถ้าเมดมาหึงมึงแบบปัญญาอ่อนมึงก็ไม่ชอบหรอก เอาใจเค้ามาใส่ใจเราซะบ้าง วันนี้ถ้ามึงเป็นเมดมึงจะรู้สึกยังไง หัวร้อนไม่เข้าท่า มึงเป็นเจ้าของผับนะเวลางานก็ช่วยจริงจังหน่อยสิวะ มึงก็บอกมันไปแล้วว่าเมดมีแฟนแล้วนั่นก็จบแล้ว มึงจะพาลไปถึงเรื่องซื้อเหล้า ด่าไอ้เมด คือมึงแบบขาดสติชิบหาย มึงรักไอ้เมดจนขาดสติไปแล้วอะสัดอาฟ ”

“ อื้ม ” ผมยอมรับว่าตัวเองเป็นอย่างที่เพื่อนพูด รักจนขาดสติไปแล้ว “ แล้วอะไรคือความรักแบบที่มันพอดีวะ ” อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นยังไง ผมไม่รู้จักอะไรพวกนั้น สิ่งที่รู้มีแค่ ผมรักเมดและถ้ามีอะไรผมจะให้มันทั้งหมด ผมรู้อยู่แค่นั้น

“ มึงต้องหันเรียนรู้ที่จะรักอย่างพอดี มีเหตุผล แล้วก็มีสติ ควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ถ้าไม่เข้าใจก็คิดให้มากๆเวลาโมโห เมดจะเสียใจ เมดจะเสียใจ ท่องไว้จะได้ใจเย็นๆ ” ไอ้เจส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดเหมือนบ่น “ มึงมีเหตุผลกับทุกเรื่องทำไมพอเป็นเรื่องไอ้เมดนิดๆหน่อยๆมึงเหมือนผีเข้าขนาดนั้น ”

“ เพราะนั่นคือเมดไง ” หันบอกอีกคนสั้นๆ “ มันคือคนที่อยู่อีกฝากนึงของถนนสำหรับกูมาตลอด ” เป็นคนที่ไม่เคยเอื้อมถึงแต่พอวันนี้ได้มีมันมาอยู่ใกล้ๆ ทุกอย่างมันก็มากไปหมดจนทำให้อีกคนเสียใจ

“ แต่วันนี้เมดมันยืนอยู่ข้างมึงแล้วไงอาฟ รักษาไว้ให้ดีสิวะ อย่าขาดสติบ่อย ไม่มีใครชอบที่โดนดูถูกหรอก ยิ่งมันมาจากคนที่รักก็ยิ่งไม่ชอบ ”

“ มึงว่ากูดีพอสำหรับเมดรึยังวะ ”

“ ตอบไม่ได้ไม่ใช่ไอ้เมด ” เพื่อนผมบอกก่อนจะยกเบียร์ขึ้นกิน “ แต่ที่กูพอจะบอกได้ก็คือ เมดมันมีความสุขเวลาที่อยู่กับมึงมากๆ ดูจากแววตามันตอนมองมึงก็รู้ ”

“ แล้วกูกับไอ้บินใครดีกว่ากัน ”

“ มึงจะลดตัวเองลงไปเทียบกับเหี้ยทำไมวะ ”

“ ก็ถ้าไอ้เมดมันยังรักเหี้ยกูก็ต้องเทียบรึเปล่า ” หันไปมองอีกคนที่ก็เงียบไปตอนที่ผมพูด เจถอนหายใจออกมา มันคงรู้สึกไม่ต่างอะไรจากผม ก็พอรู้ว่ามันไม่ได้รักแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงอยู่ดี และไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกแบบไหนที่อีกคนคิดถึง ผมก็รู้สึกไม่ชอบใจทั้งนั้น แต่ที่เหี้ยยิ่งกว่าคือ ผมไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงเพื่อให้มันหายไปจากความคิดของเมด

“ แล้วทำไมมึงต้องแคร์วะสัดพี่ ” ไอ้เดย์ที่ยืนฟังอยู่พูดขึ้น “ มึงแม่งโคตรไม่ใช่มึงเลยอะ กูจะบอกให้นะมึงแม่งอ่อนด๋อยมากอะที่มีความคิดแบบนี้ ความมั่นใจของมึงมันหายไปไหนหมด พี่ชายกูแม่งเคยเท่ห์กว่านี้อะ ถามหน่อยมึงคนที่มั่นใจว่าต้องทำได้แน่นอนกับทุกเรื่องหายไปไหนแล้ววะ ไอ้เหี้ยนั่นมันมีอะไรดีให้พี่เมดกลับไปคิดถึงยกเว้นความเหี้ยวะ แล้วตัดภาพมาเทียบกับมึงที่เป็นเจ้าของผับ ขับ GTR คันละเป็นสิบล้าน ที่บ้านพ่อสะสมรถยุโรป ทำธุรกิจอสังหา มีน้องชายที่หล่อและน่ารักแถมยังเข้ากันได้แบบสุดๆ แล้วมันจะมีอะไรให้พี่เมดต้องกลับไปคิดถึงไอ้เหี้ยนั่นวะกูถามหน่อย ”

“ อยากยืนปรบมือให้มึง แต่ต้องหยุดความคิดตอนที่มึงบอกว่า มีน้องชายหล่อ ” เจบอกแซว ไอ้เดย์ก็ถอนหายใจมันที่ยังจ้องหน้าผม

“ แล้วที่ตอนนี้พี่เมดก็อยู่กับมึงอะสัดพี่  มึงที่แม่งรักพี่เมดมากๆอะ แต่แค่ปากหมามากไปหน่อย ไม่นับรวมนิสัยเหี้ยอื่นๆอีกเป็นร้อยแต่ก็โอเคอะ อันนั้นมึงแค่ต้องปรับมั้ยวะ กูไม่คิดว่าพี่เมดจะใจร้ายขนาดไม่ทนมึงที่กำลังปรับตัวอะ เค้าก็รู้อยู่แล้วมั้ยว่ามึงก็เหี้ยอะ ขนาดมึงด่าเค้า เค้ายังใจเย็นเลย นั่นมันก็เพราะว่าเค้าไม่อยากจะเสียมึงไปแล้วเค้าก็รักมึงไม่ใช่เหรอ ทำไมโง่วะ คิดแค่นี้ก็ไม่ได้ พี่เมดมีความสุขจะตายตอนอยู่กับมึงยังมาคิดว่าตัวเองเหมือนไม่ดีพออีก กูจะอ้วก ไอ้สัด เก็บความคิดพระเอกแบบน้ำเน่าของมึงลงโถส้วมไปเถอะ ถ้าเราดีจริงไม่มีอะไรที่เราจะไม่ได้มาเว้ย จำไว้ ”

“ เดย์ มึงแม่งมาว่ะ ”

“ ตอนที่มึงบอกว่าจะคบกับพี่เมด ตอนที่มึงบอกกูว่า มึงจะจริงจังกับเค้าทั้งๆที่ตลอดเวลามึงแม่งไม่เคยจริงจังกับใครเลย มึงในตอนนั้นสำหรับกูมันเท่ห์มากเลยนะ แล้ววันนี้มึงจะเท่ห์มากกว่านั้นอีก ถ้ามึงยอมไปขอโทษพี่เมดแล้วฟังเรื่องที่เค้าต้องการเพื่อปรับตัวมึงให้อยู่กับเค้าให้ได้ ”

“ งั้นกูคงต้องไปแล้วว่ะ ” ผมลุกขึ้นยืนตอนที่พูดคำนั้น “ เพราะนานๆทีน้องชายกูจะมีสาระแล้วเห็นว่ากูเท่ห์เหมือนคนอื่น ”

“ เมดอยู่กับไอ้วิวนะ ที่คอนโดของพวกมัน ” พยักหน้ารับคำพูดของเพื่อนที่ตะโกนไล่หลังมา ผมหันหลังเดินออกมาจากผับทันทีในตอนนั้น เหมือนอย่างที่ไอ้เดย์พูด ‘ ถ้าเราดีจริงไม่มีอะไรที่เราจะไม่ได้มา ’

จอดรถอยู่ที่หน้าคอนโดของอีกคน ผมมาถึงได้สักพักแล้วแต่ไม่รู้จะเข้าไปยังไง หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา หน้าจอที่ถูกปลดล็อคฉายโปรแกรมมากมายบนนั้น แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะโทรศัพท์มากกว่าจะพิมพ์คุยกันแบบไม่ได้ยินเสียง

“ ฮัลโหล ” เสียงปลายสายที่ตอบรับชวนให้ผมนิ่งไป เดาอารมณ์ได้จากเสียงสั้นๆนั้นว่าอีกฝ่ายยังคงตึงแต่คงไม่โกรธมากเพราะอย่างน้อยมันก็รับโทรศัพท์ “ ถ้าไม่พูดกูจะวางนะ ”

“ อยู่ข้างล่าง ”

“ มาทำไม ”

“ มีอะไรจะคุยด้วย ขอ..” ผมรู้สึกตื่นเต้นจนต้องกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ ไม่เคยง้อใครเลย นี่เป็นครั้งสองที่ผมง้อเมด และครั้งแรกก็คือมันนั่นแหละที่ผมง้อ “ ขอคุยกับมึงหน่อย ”

“ พูดคราวนี้ มึงจะมีเหตุผลใช่มั้ย ”

“ อื้ม ”

“ งั้นเดี๋ยวลงไป ” สายสนทนาถูกตัดลง ผมเดินออกไปยืนรอนอกรถ แล้วไม่นานนักประตูคอนโดก็ถูกเปิดออก เมดยังใส่ชุดเดิมตัวที่เราทะเลาะกัน แววตาที่ดูไม่สดใสเหมือนก่อนของมันชวนให้ผมนิ่งค้าง ก่อนที่เมดจะทักขึ้น “ เข้ามาสิมึง ”

“ อื้ม ” เดินตรงเข้าไปหาอีกคน ผมเดินผ่านประตูนั้นเข้าไปจนถึงลิฟต์ เราเงียบไม่ได้พูดอะไรกันเลยระหว่างรอลิฟต์ที่ขึ้นไปให้ลงมา แม้แต่ตอนที่เดินเข้าไปด้านใน เมดกดชั้นที่ไม่ใช่ชั้นห้องของมันแต่ก่อนที่ผมจะถามอะไรอีกคนก็บอก

“ วิวอยู่บนห้อง กูว่าคุยไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ไปคุยที่สวนของคอนโดแล้วกัน ”

ประตูถูกเปิดออกมันเป็นสวนลอยฟ้าของคอนโดที่ฝั่งนึงถูกแต่งเป็นสระว่ายน้ำ ส่วนอีกฝั่งเป็นสวนแบบทำที่นั่งไว้ล้อมรอบต้นไม้ เมดเดินนำไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งที่หันออกไปเห็นวิวเมืองทั้งหมด ส่วนตัวผมกลับยืนอยู่ตรงหน้ามันแล้วเลือกที่จะพิงตัวเองเข้ากับระเบียง อยากจะมองหน้าของอีกคนตอนที่เราพูดเรื่องนี้

“ มีอะไรก็พูดมา ” เมดที่เงยหน้าขึ้นมาถามกันแต่ผมกลับทำได้แค่นิ่งไปเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นประโยคยังไง ทั้งๆที่ตอนด่าออกไปไม่เห็นจะเคยคิดอะไรแบบนี้ ด่าเสร็จถึงจะมานั่งคิดว่าไม่ควรทำแต่ถึงอย่างงั้นความรู้สึกของอีกคนมันก็เสียไป คำพูดเป็นสิ่งที่เมื่อพูดไปแล้วเราเอามันกลับคืนมาไม่ได้ “ อาฟ ”

“ ขอ.. ขอโทษ ” ผมบอกมันก่อนจะถอนหายใจแล้วหันไปมองทางอื่นอยู่สักพัก ผมพยายามทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เวลาง้อเมดมันยากทุกครั้งที่แค่คิดว่าทำยังไงให้อีกคนหายโกรธ “ ขอโทษที่พูดแบบนั้น ” หันไปพูดแบบนั้นด้วยเสียงจริงจังตอนที่หันมองหน้าเมด แต่อีกคนก็แค่นิ่งฟังและท่าทางแบบนั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมต้องเม้มริมฝีปากระงับความตื่นเต้นที่ทำให้ใจเต้นแรง “ กู  กูไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะ คือ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ กูขอโทษ ”

“ รู้แล้ว ” เมดบอก “ แต่มึงไม่มีอะไรที่จะพูดมากกว่าคำว่าขอโทษเหรอวะ ” คำถามที่ทำให้คนถามหันไปมองทางอื่นอยู่สักพัก มันถอนหายใจก่อนจะหันมามองหน้าผม ” ถามจริงมึงรู้รึเปล่าว่าตัวเองผิดเรื่องอะไร ”

 “ ขอโทษที่พูดแบบนั้น ขอโทษที่ด่ามึงออกไปต่อหน้าคนอื่น ขอโทษที่ตอนนั้นกูไม่ได้ฟังอะไรเลย ขอโทษที่เอาแต่ดูถูกมึงทั้งๆที่มึงก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น กูขอโทษที่มันคงมากเกินไปสำหรับความรู้สึกที่กูมี แต่กูจะพยายามทำให้มันพอดี กูหมายถึงเรื่องของเราทั้งหมด ”

“ มันจะมีครั้งหน้าอีกมั้ยมึง ”

“ กูไม่รู้ ” บอกมันออกไปตามตรง แต่คนฟังก็ได้แต่ก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจ “ อยากจะบอกมึงเหมือนกันว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก แต่กลัวว่าพอถึงตอนที่โมโหมากๆ กูจะเผลอทำไป แล้วจะทำให้มึงยิ่งเสียใจไปอีก เพราะเคยสัญญากันไปแล้วว่าจะไม่ทำ แต่กู..จะพยายามนะ จะพยายามไม่พูดอะไรแบบนั้น แล้วจะมีสติมากกว่าเดิม ”

“ กูจะทำยังไงกับมึงดีวะ ” เมดถามผม “ กูแม่งนึกหงุดหงิดตอนที่ฟังมึงพูดว่ามึงไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะเผลอหลุดปากด่ากูอีกมั้ย  แต่พอฟังมึงพูดจบ กูกลับรู้สึกว่า เออ ก็จริงของมึง สัญญากันไปก็ไม่มีความหมายถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องสัญญาดีกว่า คนฟังอย่างกูมันคาดหวัง ”

“ แต่กูจะพยายาม ” ผมย้ำบอกมัน “ ถึงจะเปลี่ยนสันดานไม่ได้ แต่จะพยายามให้มันมีสติกว่านี้ ”

“ กูรู้ว่ามึงรู้สึกยังไงนะอาฟ กูรู้ว่ามึงไม่ชอบที่มีคนเข้ามาคุยกับกู มึงจะหึงกูก็ได้กูไม่ว่าหรอก แต่อาฟอย่าหึงเหมือนวันนี้อีกนะ กูเข้าใจว่าเวลาหึงมันไม่มีสติหรอก แต่มึงกูเจ็บมากเลยนะ ตอนที่มึงด่ากู กูในตอนนั้นถามตัวเอง มึงแม่งเป็นคนคนเดียวกันกับเมื่อเช้าที่ทำให้กูมีความสุขรึเปล่า มันเหมือนคนละคนกันเลยกูจะบอกให้ ” เมดบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา “ กูรู้ว่ามึงปากไว แต่ด่าคำอื่นได้มั้ย ทำไมต้องร่านว่ะ กูไม่ได้ไปอ่อยใครสักหน่อย กูก็คุยปกติ ถ้ามึงรู้สึกว่าไม่ชอบคำพูดของคนที่ชมกู มึงด่าเค้าแทนได้มั้ยวะ แบบ อย่าชมแฟนกู แต่อย่าด่ากูร่านได้มั้ย กูไม่ชอบเลย เพราะกูไม่ได้เป็นแบบนั้น กูไม่เคยมีใครนอกจากมึง ”

“ ขอโทษ ”

“ แล้วที่มึงบอกว่ากูชอบคนท่าทางแบบพี่ต่อเพราะเค้าดูอบอุ่นเป็นผู้ใหญ่อะไรพวกนั้น มึงคิดผิดแล้วอาฟ กูไม่ชอบคนแบบนั้น ตอนนี้กูชอบคนแบบมึง ” แววตาเรียวที่เงยหน้าขึ้นมามองกันถึงกับทำให้ผมปั้นสีหน้าไม่ถูกกับอารมณ์ที่อยู่ๆก็เปลื่ยนไปฉับพลัน

ริมฝีปากที่เหมือนกับกำลังจะยิ้มแต่ก็ต้องกลั้นไว้ ทำทีเป็นหันไปทางอื่น ก็พอเข้าใจอีกคนเวลาผมแกล้งให้มันเขินแบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว อาการมันก็คงประมานนี้หัวใจที่เต้นแรงนั่นก็ด้วย
 
“ หันหน้าหนีกู มึงเข้าใจที่กูรึเปล่าวะ  กูไม่ได้บอกว่าห้ามหึงนะ ก็หึงได้แต่มีสติหน่อย ไม่ใช่มาด่ากูแบบนั้น กูไม่ชอบเวลากูดูถูกกู มันเหมือนกูไม่มีค่าเลย ”

“ เมด ” ผมเอ่ยเรียกมันตอนที่อีกคนพูดจบ ผมรู้สึกผิดจนมีแค่คำว่า ขอโทษเป็นพันๆคำลอยไปมาอยู่ในสมอง รวมถึงคำด่าทอตัวเองที่ทำให้อีกคนต้องรู้สึกอย่างงั้น “ อาฟขอโทษเรื่องวันนี้นะเมด” เอื้อมมือไปจับมือของอีกคนเมดก็เอาแต่นิ่งมองหน้าผม “ กูก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไรได้นอกจากคำนี้ เพราะกูย้อนเวลากลับไปแก้ไขในสิ่งที่กูพูดหรือทำไม่ได้ กูเลยได้แต่บอกมึงว่ากูขอโทษ ขอโทษที่พูดดูถูกมึงต่อหน้าคนอื่น แล้วก็พูดว่ามึงชอบคนอื่นทั้งๆที่มึงไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ขอโทษที่เห็นแก่ตัว ที่กูพูดเรื่องที่ให้มึงอดทนทั้งๆที่กูก็รู้ว่ามึงเจอเรื่องอะไรมาก็มาก ขอโทษที่พูดถึงไอ้เหี้ยนั่นกับมึง ขอโทษนะเมด อาฟขอโทษจริงๆ ”

“ กูให้อภัยมึงก็ได้อาฟ แต่อย่าพูดบ่อยนักนะ คำว่าขอโทษของมึงน่ะ ไม่ใช่ว่าวันนี้ขอโทษ แล้วอีกไม่กี่วันมึงก็ทำผิดอีก แล้วมึงก็มาขอโทษอีก ความอดทนของกูมันมีจำกัด ให้อภัยมึงไม่ได้ทุกรอบหรอกนะ ”

“ กูจะพยายามไม่ทำแบบนั้นอีก ”

“ อื้ม ” เมดพยักหน้ารับก่อนจะกำมือผมที่จับมือมันอยู่ไว้แน่น “ แล้วอีกอย่างที่วันนี้กูให้อภัยมึง เพราะกูเชื่อที่มึงพูดนะว่ามึงจะพยายาม แล้วเหตุผลที่กูเชื่อแบบนั้น ก็เพราะความดีของมึงที่ทำให้กูเห็นมาตลอดตั้งแต่ที่เรารู้จักกันมา ”

“ ขอบคุณครับ ” ถอนหายใจโล่งออกมา ตอนเดินไปนั่งลงข้างอีกคนเมดก็หันมามอง

“ แล้วมีอีกอย่างที่กูอยากจะบอกมึง ”

“ อะไร ” หันไปมองหน้าอีกคนที่ก็หันมามองผมเหมือนกัน

“ ที่กูพูดว่าถ้ามึงเป็นแบบบินกูไม่ไหวหรอก ถ้าต้องเจ็บแบบนั้นกูขอเดินออกมาตอนนี้ดีกว่า ที่กูพูดแบบนั้น กูขอโทษนะ กูไม่รู้ว่ามึงจะคิดไปถึงว่า กูยังคิดถึงไอ้บินอยู่มั้ย แต่กูก็อยากจะยืนยันกับมึงนะอาฟ ว่ากูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับมันแล้ว และความรู้สึกที่กูให้มันได้ตอนนี้ ก็มีแต่ความเกลียด ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ”

“ อื้ม ” พยักหน้ารับอีกคนที่พูดเรื่องนั้นออกมา เหมือนกับรู้ว่าผมรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้

หันไปมองวิวตรงหน้า รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกภาพที่เห็นมันเป็นอะไรที่แตกต่างจากตอนที่ขับรถมาอย่างสิ้นเชิงทั้งๆที่มันก็เป็นวิวเดียวกัน แต่ตอนนี้มันไม่ได้ดูเหงาและเคร่งเครียดกลับกัน ผมรู้สึกว่ามันสวยยิ่งกว่าตอนไหนที่เคยมอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศโล่งใจ หรือมุมวิวที่แตกต่างไปจากที่เคยมองกันแน่

“ มาพยายามปรับตัวไปด้วยกันนะมึง ” ยกคิ้วเป็นคำตอบให้อีกคน เมดที่ถอนหายใจออกมามันมองไปยังวิวข้างหน้าเหมือนผม “ รู้สึกว่าวิวคืนนี้แม่งสวยกว่าตอนที่มองมาจากบีทีเอสเยอะมากๆ ”

“ มึง ” ผมเอ่ยเรียกอีกคนตอนที่ยื่นนิ้วก้อยไปให้เมดก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองผมยิ้มๆ

“ อะไรของมึง ”

“ อย่าถามทั้งๆที่รู้ ” บอกมันแบบนั้นด้วยความรู้สึกร้อนๆที่หน้าแต่ก็ไม่ดึงมือกลับไปไหน “ ดีกันแล้วเกี่ยวก้อยกัน ”

“ มึงแม่งเล่นอะไรเป็นเด็กๆ ”

“ อย่าทำให้กูต้องอายไปมากกว่านี้ ” มือที่ยื่นเข้าไปใกล้มันอีกนิดเชิญชวนให้อีกคนเกี่ยวนิ้วก้อยของตัวเองกลับ “ ตอนเด็กๆไม่เคยทำเหรอ กูตอนเด็กๆเวลาทะเลาะกับไอ้เดย์ แม่ให้เกี่ยวก้อยคืนดีกันประจำ มาสิ เราดีกันแล้ว ต้องเกี่ยวก้อยคืนดีกันนะ ”

“ ปัญญาอ่อน “ พูดแบบนั้นแต่ก็ยอมยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับผม

“ มึงชอบไม่ใช่เหรอ เวลาที่กูทำอะไรแบบนี้ ”

“ นั่นเพราะกูชอบมึงตังหาก ” ทุกอย่างในตอนนั้นเงียบไปหมด ผมรู้สึกเหวอมันเหมือนจะได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงจนกลัวว่ามันจะดังจนคนที่นั่งข้างกันได้ยิน

“ วันนี้มึงแม่งท๊อปฟอร์มว่ะ ” ตั้งแต่ที่ทำให้โมโหแทบบ้าจนมาถึงทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก ความรู้สึกที่เหวี่ยงให้ตัวผมมีทั้งความสุขและความทุกข์แบบชนิดที่ขึ้นสุดและลงสุด ดูเหมือนจะมีแค่เฉพาะคนที่นั่งข้างกันเท่านั้นที่จะได้ “ กูยอมแพ้มึงแล้วเมด จากใจเลย ”

.......................................................................

ตอนแรกกังวลมากว่าคนอ่านจะเข้าใจมั้ย เพราะตอนที่แล้วหลายๆคนคิดว่า อาฟผิดคนเดียว แต่หนมมองว่ามันมีส่วนที่เมดผิดนะ แต่มันไม่ใช่ความผิดแบบอาฟ คือเราว่าเมดคาดหวังกับอาฟแบบที่วิวพูด ส่วนอาฟก็ผิดแบบที่เจพูด อยากให้ความรักของคู่นี้ไปในทิศทางที่ค่อยๆเข้าใจ มันผิดบ้างถูกบ้างก็ปรับๆกัน
สุดท้ายนี้ ขอมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้น้องวิวและพี่เจ ส่วนน้องเดย์เอาใจพี่ไปนะลูก
เกี่ยวก้อยแล้วเนอะ ดีกันๆ ดีกันๆ
ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
 :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ดีกันแล้ว ก็ขอตอนหวานๆให้เบาหวานขึ้นตาคนอ่านไปเลยนะคะคนเขียน

ออฟไลน์ rodoubles

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แงงงงงงง ขอบคุณมากเลยนะที่ยอมวางทิฐิลงแล้วกลับมาคุยกัน หลังจากนี้คงจะมีปัญหาเข้ามาอีกเรื่อยๆ แต่อยากให้จับมือกันไปแบบนี้ตลอดๆ เลย คุณแม่จะเอาใจช่วยทั้งคู่เองงงง

// ชูป้ายทีมแม่น้องเมดและน้องอาฟ

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
มอบโล่ให้น้องวิว พี่เจ น้องเดย์ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีแล้วที่เข้าใจกันได้

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ดีกันแล้วค่อยโล่งใจหน่อย
วิวกับเจนี่บุคคลแห่งชาติเลย ปรบมือ :katai2-1:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
อย่างน้อยที่ทะเลาะกันก็ไม่ข้ามวัน ดีจัง
ขอบคุณวิว เจ และน้องเดย์

อาฟ อารยะ คะ ไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะคะ คำพูดมันทำร้ายจิตใจจริงๆ ค่ะ เราเชื่อว่า อาฟ อารยะ จะจัดการควบคุมอามณ์และปากของตัวเองได้ ใช้ให้ถูกทางเนอะ เอาใจช่วยค่ะ

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
คืนดีกันแล้วๆๆๆ ดีจัง เค้าชอบให้อาฟหวานๆกับเมดจัง อบอุ่นดีค่ะ

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบที่คนแต่งมองว่ามันเป็นความผิดของทั้งสองคน ❤️❤️❤️
 เพราะถ้าใครสักคนต้องเป็นคนปรับคนเดียว ต่อไปถ้าทะเลาะกันอีกแล้วปรับคนเดียวก็ไม่ไหว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด