ฝั่งผู้โดยสารขาเข้า มีผู้มารอรับคนรู้จักหรือญาติกันคลาคล่ำไปหมด และคุณหมอณัฐกานต์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ชายหนุ่มก้มลงมองนาฬิกาข้อมือทุกๆห้าวินาที ก่อนจะพึมพำออกมาโดยไม่ได้มองเลยว่ากำลังจะชนกับใครเขาเข้า...
"โธ่...เครื่องลงแล้วนี่นา ทำไมถึงยังไม่ออกมาอีก... อ๊ะ !! ขอโทษครับ พอดีผมไม่ทันได้มองดูทาง..."
"ระวังหน่อยสิคุณ...ตัวเล็กแล้วแถมยังยืนก้มหน้าแบบนี้อีก เดี๋ยวก็โดนใครเขาเหยียบเข้าหรอก..." ชายหนุ่มรูปร่างสูงผมสีทองนัยน์ตาสีอ่อนแบบลูกครึ่งในชุดสูทสีดำสนิทราคาแพงระยับคือคนที่ณัฐกานต์ชนด้วย มันอาจจะไม่มีอะไรเลยถ้าหากว่าหนึ่งในคำพูดนั้นจะทำให้คุณหมอหนุ่มไม่พอใจเอาอย่างมาก...กับการที่ถูกเรียกขานว่า 'ตัวเล็ก'
"...คุณ... ผมก็ขอโทษคุณไปแล้วไง... แล้วผมก็คิดว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่ต้องมาสั่งสอนผมขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ..." แต่ไหนแต่ไรณัฐกานต์ไม่เคยยอมลงให้กับใครหน้าไหนก็ตามที่มาพูดหรือว่าเขาว่า 'ตัวเล็ก' แถมยังมายืนทำตาระยิบเหมือนไม่รู้สึกรู้สาใดๆทั้งสิ้นแบบนี้...คงได้เจอกันซักตั้ง...
"อ๋อ...นี่ความหวังดีของผมทำให้คุณไม่พอใจงั้นเหรอ..." ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ย นึกขำในใจกับท่าทางเหมือนลูกแมวที่กำลังขู่ฟ่อใส่เขา...ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ ว่าคำพูดของเขาคงไปทำให้ร่างเล็กๆตรงหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เข้าสิท่า...
"ก็คุณ..."
...กริ๊งง กริ๊งง พี่ค๊าบบบ รับโทรศัพท์ด้วยค๊าบ กริ๊งง กริ๊งง... เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์พกพาของณัฐกานต์ดังขึ้น... คุณหมอฮึดฮัดอย่างขัดใจที่ไม่สามารถต่อคารมณ์กับคนตรงหน้าได้... และเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงเรียกของเจ้านายชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง...
"/มีอะไร...มาคัส/" น้ำเสียงทรงอำนาจที่ปนมากับกระแสโทสะเล็กๆทำให้ชายหนุ่ม มาคัส ไบรอัน รีบหันกลับไปตอบทันที
"/เปล่าครับบอส...พอดีชนกับลูกแมวเข้า เลยแหย่เล่นนิดหน่อยน่ะครับ.../" แม้ว่าสิ่งที่ชายหนุ่มสองคนพูดจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่คุณหมอณัฐกานต์ก็ฟังออกทุกคำ กำลังจะหันกลับไปต่อคารมณ์แต่ชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ทำให้คุณหมอหนุ่มแล่บลิ้นใส่คนตัวสูงที่ชนกับเขาอีกที แล้วรีบเดินหนี... เมื่อเห็นว่าแท้จริงแล้วขณะนั้นคุณหมอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของชายชุดดำไม่ต่ำกว่าสิบคน... โดยมีชายหนุ่มที่ชื่อ 'มาคัส' กับ 'บอส' ของเขายืนเด่นอยู่ตรงกลาง พร้อมกับคุณหมอณัฐกานต์ที่ไม่ทันได้มองรอบตัวเมื่ออารมณ์มันขึ้น ว่าคู่กรณีของเขามี 'พวก' มาด้วย... ...ถึงยังไงก็เถอะ รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง... อย่าให้เจออีกรอบก็แล้วกัน... จะทำให้รู้ซึ้งเลยว่า คุณหมออย่างเขาไม่ได้หงอหรอกนะจะบอกให้...
"...ถ้าไม่ใช่เรื่องก็รีบไปซักที..." น้ำเสียงหงุดหงิดของเจ้านายทำให้มาคัส ไบรอัน ผู้ทำหน้าที่เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดต้องรีบโค้งตัวให้นิดๆแล้วออกเดินตามเจ้านายที่ก้าวยาวๆไปตรงประตูทางออก
"...ยังหงุดหงิดเสียงเด็กร้องในเครื่องบินอยู่อีกเหรอครับบอส..." ชายหนุ่มถามเจ้านายขำๆ แต่คนถูกถามกลับไม่ขำด้วย...
"ใช่...เดินทางไกลแบบนี้ใครเค้าให้พาเด็กขึ้นมาด้วยล่ะ น่าจะรู้นะว่าเสียงมันรบกวนคนอื่น แถมยังมานั่งเฟิร์สคลาสอีก... รู้งี้ฉันเลื่อนไฟลท์ไปกลับพรุ่งนี้ซะก็ดี..."
"แต่นายหญิงให้บอสรีบกลับมาเมืองไทยไม่ใช่เหรอครับ..."
"..." ชายหนุ่มเงียบไปก่อนจะเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือราคาเจ็ดหลัก... "เพราะงั้นไงล่ะฉันถึงต้องทนกลับมากับไฟลท์นี้แทน..."
"แต่เท่าที่ผมได้ยิน เขาก็น่าสงสารนะครับ... เหมือนว่าแม่ของเด็กคนนั้นจะเสียไปตั้งแต่เกิด..."
"...แล้วไง ฉันไม่คิดนะว่าคนอย่างมาคัส ไบรอันจะมาแก้ต่างให้กับคนที่ไม่รู้จักด้วยแบบนี้ให้ฉันฟัง..."
"ครับบอส...งั้นผมจะแก้ต่างให้เฉพาะกับคนที่ผมรู้จักก็แล้วกัน..." เลขาและบอดี้การ์ดหนุ่มโค้งให้เจ้านายตัวเองที่มองมาอย่างไม่สบอารมณ์ที่การปะทะคารมณ์ครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะเสียแต้มไป... ถ้าไม่ถือว่ามีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และถือว่าเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กของเขา... มาคัส ไบรอันคงไม่ได้มาเดินตามหลังเขาด้วยอวัยวะครบ 32 ประการแบบนี้แน่...
-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-
to be continue-->>