ตอนที่ 3
“2475!!!”
...นี่มันเวรกรรมอะไร๊ ตื่นมาในยุคไหนไม่ตื่น ดันตื่นมาในพ.ศ. 2475 ไม่ใช่เศรษฐกิจไม่ดีอย่างเดียว ยังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองอีก แล้วสงครามโลกครั้งทีสองก็ใกล้จะมีอยู่ร่ำๆ
ซวย ซวยจริงจริ๊ง
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรจะถามอีก ตาฉันถามนายมืดบ้างแล้ว”
รัตติกาลอึ้งกับปีช่วงเวลาที่ตัวเองหลงตื่นมาได้แค่ชั่วครู่ ก็ต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัยอีกรอบ เมื่อหลวงอินทรทินกรอยากถามอะไรเขากลับ
อย่าบอกนะว่าสนใจเขาขึ้นมา?
“คุณหลวงจะถามอะไรผมหรือครับ”
หลวงอินทรทินกรมองที่ชายหนุ่มที่นั่งกับพื้น แล้วจึงเหลือบมองไปทางคนรับใช้คนอื่นที่อยู่นอกเรือน
“พูดตรงนี้คงไม่เหมาะ ตามฉันเข้ามาสิ”
...หืม? มีชวนเข้าห้องด้วย?
ชายหนุ่มร่างใหญ่เดินตามคุณหลวงต้อยๆ พอยืนขึ้นแบบนี้ คุณหลวงสูงแค่คางเขาเท่านั้น เห็นแล้วรัตติกาลก็อดนึกถึงไอ้ดวงไม่ได้
...คุณหลวงกับไอ้ไร้หัวใจนั่นเหมือนกันเกินไป
เหมือนจนคิดถึงดวงใจ และกังวล...ว่าจะไม่ได้เจอกันอีก
“นายมืด...ที่นายมืดพูดเมื่อเช้า ทำไมถึงพูดอย่างนั้น”
“เอ่อ...พูดอะไรหรือครับ”
ที่ถามเพราะไม่รู้ว่าหลวงอินทรทินกรหมายถึงที่พูดตอนไหน
“ก็...ที่บอกว่าไม่อยากทำบุญร่วมชาติกับ ‘ผู้หญิง’”
“......”
...อืม แล้วทำไมคุณหลวงถึงติดใจคำพูดนี้ล่ะ?
“ไม่กลัวคนอื่นว่าเอาหรือ”
“กลัวทำไมล่ะครับ”
แม้จะบอกไปอย่านั้น แต่เมื่อลองนึกถึงเหตุผล หากนี่เป็นปีพ.ศ. 2475 และเขาที่ตื่นมาในยุคอดีตย่อมต้องถูกมองว่าแปลกประหลาดที่ไม่ปิดบังว่าตัวเองไม่ชอบผู้หญิง อย่างร้ายที่สุดคือถูกมองว่าเป็นคนวิปริต หากแสดงออกว่าฝักใฝ่ในเพศเดียวกัน
ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ไม่ต้องการโกหก จึงเอ่ยกับหลวงอินทรทินกรอย่างตรงไปตรงมา
“ผมชอบผู้ชาย ไม่คิดจะปิดบังด้วย เพราะงั้นใครจะว่ายังไงผมก็ไม่แคร์หรอก เพราะยังไงผมก็เปลี่ยนไปชอบผู้หญิงไม่ได้อยู่ดี”
คุณหลวงเจ้าของเรือนนิ่งไปชั่วขณะ ดวงน้าขาวฉายแววระคนแปลกใจ
“ไม่อับอายบ้างเลยหรือ”
“ไม่”
รัตติกาลตอบเสียงหนักแน่น
“ไม่มีอะไรต้องอาย แล้วผมก็ภูมิใจที่เป็นอย่างนี้ และอย่างน้อยคนที่ผมรัก ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่าน่าอายตรงไหนที่จะรัก”
“......”
“คือที่จริงถ้าผมรักใคร ต่อให้คนคนนั้นจะหน้าตาอัปลักษณ์ นิสัยแย่ หรือพิการไม่สมประกอบ ผมก็ไม่รู้สึกอายสักนิด”
หลวงอินทรทินกรไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
“นายมืดเปลี่ยนไปมาก เพราะจมน้ำจึงทำให้เปลี่ยนไปขนาดนี้ได้เชียวหรือ”
ที่ว่าเปลี่ยน หมายถึงรสนิยมเปลี่ยนหรือเปล่า
“ไม่เกี่ยวกับจมน้ำหรอกครับ เรื่องรสนิยมทางเพศ ผมเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว”
“ตั้งนานแล้วหรือ แล้วนังแดง นังอิ่ม นังสมที่มาติดพันนายมืดเล่า”
...เวรละ ไอ้มืดนี่มันหน้ามืดหรือยังไง ทำไมผู้หยิงเยอะจังวะ
เมื่อรัตติกาลแสดงสีหน้าปุเลี่ยนๆ หลวงอินทรทินกรจึงถามต่อ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือ ในน้ำมันมีอะไรหรืออย่างไร”
“คือ...พูดไป...คุณหลวงก็ไม่เชื่ออยู่ดี”
“ทำไมถึงคิดเช่นนั้น”
“ก็มันน่าเหลือเชื่อเกินไป”
“จะมีอะไรน่าเหลือเชื่อกว่าการที่นายมืดพูดออกมาว่ารักใคร่ในเพศเดียวกันได้อีก”
“......”
เรียวคิ้วของรัตติกาลขมวดเข้าหากัน จริงอยู่ที่เขาไม่ใช่คนช่างใส่ใจหากจะมีคนคิดว่าเขาบ้า แต่การอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่เดาออกได้ล่วงหน้าว่าจะต้องถูกหาว่าบ้าว่าเพี้ยนอย่างแน่นอน ก็ดูจะเสียแรงเปล่าไปหน่อย
“บอกมาเถอะ หากนายมืดสัญญาว่าจะไม่โป้ปด ฉันก็จะเชื่อ”
แต่พอหลวงอินทรทินกรยืนยันอย่างนั้น รัตติกาลก็เล่าให้ฟังแต่โดยดี
.
.