[9]
“หั่นให้มันเร็วๆสิ” เสียงไอ้เจโวยวายที่เห็นกุ้งหั่นผักช้าแบบนั้น จะว่าไปแล้วกุ้งไม่น่าจะเป็นผู้หญิงที่เข้าครัวบ่อยนัก เพราะดูจากการหั่นผักที่ออกจะเก้งก้างแบบนั้น
“มาหั่นเอง” กุ้งเงยหน้าจากการมองผลัก มาส่งสายตาเย็นเชียบให้ไอ้เจ พร้อมกันส่งด้ามมีดให้มัน หน้าตาบ่งบอกได้ว่าเซ็งอยู่ไม่ใช่น้อย
“เรื่องอะไร อยากอาสาก็ทำเองสิ” ไอ้เจทำปากเบ้ ก่อนจะส่ายหัวให้ดูว่าไม่มีทางจะเข้ามาช่วยแน่ๆ
“ถ้างั้นก็อย่าบ่น” กุ้งหันไปหั่นผักอีกครั้ง หลังจากปรามไอ้เจด้วยน้ำเสียงชัดเจน
“เดี๋ยวเราทำให้ก็ได้นะ เราเคยทำบ่อยๆ” ไอ้ไผ่ยื่นมือเข้าไปช่วย ส่วนกุ้งเมื่อได้ยินเสียงไอ้ไผ่ก็รีบหันมาส่งตาหวานให้ทันที
“ไผ่ใจดีมากเลย ไม่เหมือนตาแก่ขี้บ่นบางคน” สายตาที่มองตอบไอ้ไผ่แสนจะหวานย้อย แต่เมื่อหันมาทางไอ้เจกับคมกริบเสียจนน่ากลัว
“อ้าว...ยังไม่ได้ซื้อน้ำแข็งกันไม่ใช่หรอ ไผ่ลงไปซื้อหน่อยสิ” ไอ้เจไม่ได้สนใจสายตาของกุ้งที่มองอยู่ แต่เดินมาดันหลังไอ้ไผ่ให้ออกไปนอกห้อง ก่อนจะกลับมากวนประสาทกุ้งต่อ
“อย่าคิดจะมาหลอกให้ไผ่ใจแตกหละ ยัยทอมเอ๋อ” มันพูดบอกกุ้งเบาๆเมื่อเดินผ่านกุ้งที่ตอนนี้ได้แต่มองตามไอ้ไผ่ออกไป แต่เมื่อได้ยินคำพูดของไอ้เจแล้ว ก็ต้องวางมีดลงแล้วก็เอาสองมือตบแก้มไอ้เจแบบพร้อมกันสองข้าง ทำให้ไอ้เจอึ้งไปเล็กน้อย มันคงไม่คิดว่ากุ้งจะตอบโต้มันแน่ๆ
“คำก็ทอม สองคำก็ทอม.....โดนเข้าไปสะใจไหมหละไอ้แต๋วปากมอม” กุ้งไม่ได้มีอาการโกรธให้เห็น แต่ก็ปะทะคารมกลับไอ้เจทันที ทำให้หน้าที่อึ้งอยู่แล้ว กลับยิ่งเอ๋อหนักเข้าไปอีก
“ใครแต๋ว...” ไอ้เจถามกลับเบาๆ
“ก็แกไง” กุ้งใช้สองมือถูกันก่อนจะใช้วิธีเดิม โดยการตบขนาบข้างสองแก้มไอ้เจ พร้อมกับเน้นชัดด้วยคำพูดว่าตัวเองหมายถึงใคร
“ไอ้ติน...” ไอ้เจหันมาทางผม พร้อมกับชี้ไปที่กุ้ง บ่งบอกว่ากำลังพูดอะไรไม่ออกเป็นแน่ 555 นานๆครั้งผมจะเห็นไอ้เจมันอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกแบบนี้ มันก็สะใจไปอีกแบบนะนี่
“มึงออกไปช่วยไอ้ไผ่ไป” ผมเดินไปจับไหล่ไอ้เจให้เดินออกจากห้องครัว ซึ่งมันก็เดินออกจากห้องไปอย่างมึนๆ ก่อนจะกลับมาหากุ้งที่ตอนนี้กลับมาหั่นผักอย่างสบายอารมณ์
“ขอโทษแทนไอ้เจด้วยนะ” ผมเดินเข้าไปหยิบผักที่กุ้งหั่นแล้วใส่ในหม้อที่เตรียมไว้
“นายกับไผ่ทำไมชอบขอโทษแทนคนอื่นนะ” กุ้งหันมามองหน้าผมนิดนึง ก่อนจะหันไปจัดการกับผักที่เหลือ
“ไม่รู้สิ คงเพราะเราไม่รู้จะพูดอะไรมั้ง” ผมก็ใส่ผักลงในหม้อ โดยที่ไม่ได้หันไปมองที่กุ้ง
“อยู่เงียบๆก็ดี” กุ้งทำท่ายักไหล่ แต่ก็หันมายิ้มให้เล็กน้อย คงเพราะกุ้งเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับผมเช่นกัน แต่ก็ไม่อยากให้เกิดบรรยากาศอึดอัดเลยต่างฝ่ายต่างหาอะไรทำไปเรื่อยๆ จนไอ้ไผ่มานั่นหละ ผมถึงแยกออกมา
“ไงหละเอ๋อแดกเลยมึง” ผมเดินออกมาเจอไอ้เจนั่งเขลี่ยถุงน้ำแข็ง พร้อมกับตาที่เหม่อ จนผมอดขำอีกรอบไม่ได้
“มึงว่าใครเอ๋อ” มันเหมือนได้สติ เงยหน้ามาตวาดผม แล้วทำเป็นหลบตา ใครดูก็รู้ว่ามันอาย
“ก็ใครซะอีกหละ มึงนี่นะ ไปแกล้งเค้าอยู่ได้” ผมส่ายหน้าให้กับท่าทางของเพื่อนรัก
“มึงก็เห็นนี่หว่า ว่าใครเริ่ม” มันเริ่มเถียง แต่เท่าที่ผมดูมามีแต่มันที่เป็นฝ่ายไปกวนประสาทเค้าเสียมากกว่า
“เอาเหอะ คราวหลังก็อย่าไปกวนเค้าอีกหละ” ผมบอกมันไป พร้อมกับเอนตัวพิงกับโซฟา ส่วนไอ้เจก็ไม่ได้ตอบอะไรผม นอกจากจะหันไปใช้โลกส่วนตัวอยู่กับถุงน้ำแข็งนั้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อันนี้จอง” ไอ้เจหลังจากนั่งเอ๋อไปได้สักครู่ พอเริ่มทานมันก็เริ่มออกลายอีกครั้ง เพราะเมื่อกุ้งคีบหมูจากหม้อสุกี้ขึ้นมา ไอ้เจก็รีบเอาตะเกียบไปคีบออกจากถ้วยของกุ้งมาใส่ปากตัวเอง พร้อมกับยิ้มยียวนบอกว่าตัวเองจองแล้ว
“อันนี้ด้วย” มันคีบลูกชิ้นมาใส่ถ้วยตัวเองอีกครั้ง ซึ่งกุ้งก็ทำได้แต่มองอย่างเคืองอารมณ์
“อันนี้........เฮ้ย” มันคีบตับหมูมาจากถ้วยของกุ้ง แล้วก็ค้างไว้จะวางคืนในถ้วย กุ้งก็ยกหนีมันไปแล้ว
“คีบไปแล้วอย่ามาคืน กินเข้าไปซะ” กุ้งทำท่าแสยะยิ้มจนน่ากลัว ก่อนที่จะเข้าล็อกคอไอ้เจ จับมือมันที่คีบตับอยู่บังคับให้มันเอาเข้าปาก
“ไม่เอาไม่กิน....ไม่ชอบบบบบ” ไอ้เจดิ้นหนีจนผมขำออกมาพร้อมกับไอ้ไผ่ เพราะไม่บ่อยนักจะเจอไอ้เจในสภาพนี้ สงสัยกุ้งจะเป็นคู่ปรับที่เหมาะสมของไอ้เจแน่ๆ
“จะแย่งอีกไหม” กุ้งกับไอ้เจยื้อกันอยู่สักพัก จนกุ้งถามมันด้วยการกัดฟันพูด
“ไม่แย่งแล้ว กินตามสบายเลย” ไอ้เจมันก็ยังดิ้นอยู่ ถ้าจะว่าไปกุ้งก็คงไม่มีแรงพอที่จะบังคับไอ้เจได้หรอก แต่ไอ้เจมันคงตกใจเพราะมันไม่ชอบกินเครื่องใน มันบอกว่ามันแยะๆหยุยๆ ผมเคยหลอกให้มันกินไปครั้งนึง มันอ้วกจนหน้าซีดเลย คราวนี้มันคงตกใจจริงๆนั่นหละถึงยอมกุ้งง่ายๆ
“ก็แค่นั้น” กุ้งปล่อยแขนไอ้เจ พร้อมกับมานั่งที่เดิม
“ยังไงหละที่นี้ อายไหมหละ” ไอ้ไผ่หันไปยิ้มให้ไอ้เจ ที่ตอนนี้หน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด ถึงมันจะไม่ได้ตอบอะไร แต่มันก็ทำหน้าละห้อยให้ไอ้ไผ่สงสาร แต่พวกผมรวมทั้งกุ้งด้วยได้แต่หัวเราะกับท่าทางของมัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เราว่าเจต้องชอบกุ้งแน่นอน” ไอ้ไผ่บอกกับผมหลังจากที่สองคนนั้นกลับไปแล้ว โดยที่ก่อนกลับยังไม่วายที่จะเถียงกันจนผมกับไอ้ไผ่ต้องแยกออกจากกัน
“อย่างงั้นหรอ” ผมถามมันกลับเพราะไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยเห็นไอ้เจมันจะเป็นแบบนี้สักที
“สายตาเราดูไม่เคยพลาดหรอก” ไอ้ไผ่ยิ้มให้กับผม ทำให้ผมก็ยิ้มตอบมันไปอย่างไม่รู้ตัว
“นี่....คืนนี้ถ้าดูหนังผีแล้วเกิดกลัวขึ้นมา ก็จับมือเราได้นะ” ผมบอกไอ้ไผ่หลังจากใส่แผ่นเข้าเครื่องเล่นเรียบร้อยแล้ว
“อย่างงั้นหรอ ไม่เอาดีกว่านะเกรงใจนายเปล่าๆ” ไอ้ไผ่ตอบผมกลับมาหน้าตาย
“ไม่ต้องเกรงใจ เพื่อนกันแค่นี้สบายมาก” ผมบอกกับมัน พร้อมกับโบกไม้โบกมือว่าไม่เป็นไร
“กลัวนายจะอึดอัดเปล่าๆ เราว่าเดี๋ยวดูเสร็จแล้วเรากลับไปนอนบ้านดีกว่านะ” ไอ้ไผ่ยังหน้านิ่งเช่นเดิม แต่ผมสิตอนนี้หน้าเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ก็ถ้ามันกลับแล้วผมจะนอนได้ยังไงหละ หลอนซะขนาดนั้น
“ดึกแล้วลำบากเปล่าๆน่า......นอนนี่หละ” ผมทำใจดีสู้ บอกให้มันนอนที่นี่คืนนี้เลย
“เราชินแล้วหละ ตอนที่เป็นยามก็กลับดึกๆ หรือไม่ก็เช้าอยู่แล้ว” ไอ้หน้านิ่งๆของมัน ทำให้ผมหมั่นไส้แล้วตอนนี้ เพราะมันทำท่ายืนกรานว่าจะกลับให้ได้
“งั้นก็กลับไปเลย กลับไปตอนนี้หละ” ผมเริ่มโวยวายไล่มัน มันก็น่าจะรู้นี่นาว่าผมกลัว ยังยืนยันจะกลับอีก
“ใจร้อน....” ไอ้ไผ่ทำท่าลุก พร้อมกับทำตาเศร้าๆ นี่มันคิดจะกลับจริงๆหรือนี่ แล้วที่บอกว่าใจร้อนมันหมายถึงผมหรอ ใช่สิ ผมเคยบอกกับมันว่าผมจะไม่ใจร้อนนี่นา แต่นี่ผมเพิ่งจะไล่มันกลับเอง
“เฮ้ย..ไผ่เราขอโทษ” ผมดึงแขนมันไว้ แต่มันก็ไม่ได้ตอบอะไรผม หรือไม่แม้แต่จะหันมามอง
“โอเค...เรากลัว เราอยากหาคนมานอนเป็นเพื่อน เราอยากได้ใครมาอยู่ข้างๆตอนนอน” ผมบอกมันด้วยน้ำเสียงที่ดังพอประมาณ แต่ก็เบาลงตอนท้าย เพราะมันบ่งบอกได้ว่าผมขี้กลัว
“ก็มันหลอนนี่หว่า ขอร้องหละนายอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยนะ” ผมพูดกับมันด้วยน้ำเสียงที่เบาลง เพราะรู้สึกผิดที่ไปไล่มันแบบนั้น
“ถ้านายไล่เราอีกเราจะไป....แล้วไม่กลับมา” มันหันมายิ้มเศร้าๆให้ผม แค่นั้นผมก็รู้สึกผิดมากๆกับคำพูดของตัวเอง
“ไม่มีแล้ว ขอโทษจริงๆ นายอยู่เป็นเพื่อนเรานะ” ผมรีบตอบมันกลับไป เพราะไม่อยากให้มันต้องเศร้า กว่ามันจะยอมรับเพื่อนใหม่เข้ามาในชีวิต แล้วผมจะให้มันทิ้งไปอยู่กับความเศร้าเหมือนเดิมได้ยังไง
“อื้ม.....” ไอ้ไผ่ตอบผมกลับมา พอดีกับหนังที่เปิดไว้เริ่มพอดี ทำให้ผมสะดุ้งกับเสียงดนตรีประกอบที่น่าวังเวง ทั้งผมและไอ้ไผ่ก็หัวเราะให้กันเบาๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอโทษที่หายไปหลายวันนะครับ
เห็นรูปนี้แล้วนึกถึงไผ่ อิอิ
ดวงตาเศร้าๆเหงาๆ