ตอนที่ ๒๔
“กูบอกไบท์แล้วนะบีนว่ากูไม่ไป” ผมตื่นได้สักพักแต่ยังนอนอยู่บนเตียง
“โอเค แล้วนี่จะไปไหนแต่เช้า”
“กูว่าจะกลับบ้านว่ะ กลัวที่บ้านว่าว่ามาอยู่ห้องเพื่อนนาน”
“มาอยู่ขนาดนี้แล้วยังกลัวโดนว่าอยู่หรอ”
ผมว่าเสร็จน้องมันก็กระโดดขึ้นเตียงมากอดตัวผมไว้ “ไว้พรุ่งนี้จะมาใหม่แล้วกัน” จุ๊บ โอ๊ตพูดเสร็จก็หอมแก้มผมหนึ่งครั้งก่อนจะเตรียมตัวออกจากห้อง
“ลุงชัยมารับหรอ”
“ใช่ ไปก่อนนะ”
“เจอกันโอ๊ต” ผมเดินมาส่งโอ๊ตที่หน้าประตูก่อนที่น้องจะหันมากอดผมอีกครั้ง
“กูรักมึงมากนะบีน”
“อืม รู้แล้ว เจอกันพรุ่งนี้”
ผมส่งน้องกลับบ้านหน้าประตูห้องก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแล้วมาทำอะไรกินรองท้องตอนเช้า
ติ๊ง ติ๊ง
อ้าว ใครอีกล่ะ อย่าบอกนะว่าพี่อิฐ
ผมเดินไปดูจอตรงประตูอย่างกล้าๆกลัวก่อนจะพบว่าคนที่มาหาผมก็คือ เจ้านายนั่นเอง
แกรก
“ผมเป็นคนบอกให้โอ๊ตกลับบ้านเอง”
“อ๋อครับ”
“อยู่นานๆเดี๋ยวกลัวหลานผมจะทำอะไรล่วงเกินคุณ” ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่เหงื่อที่รักแร้จะไหลออก แบบนี้คงไม่มีพิรุธหรอกนะ
“แล้วอยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสองทั้งวันเลยเหรอคุณ”
“เปล่าครับ ก็มีออกไปเดินห้าง ดูหนัง ฟังเพลงตามประสาวัยรุ่นนี่แหละ ไม่ได้อยู่แต่ในห้อง” ผมจำเป็นต้องโกหกออกไปเพราะเมื่อวานผมกับน้องเล่นด้วยกันในห้องทั้งวัน
“อืม แล้วอิฐนั่นเป็นยังไงบ้าง”
“เห็นบอกว่างานยุ่งๆครับ เลยไม่ได้มาหา ก็ดีแล้วล่ะครับ” แต่ผมยังอัดอั้นตันใจเรื่องกี้อยู่ จะปรึกษาเจ้านายตอนนี้เลยจะดีไหมนะ
“มีอะไรหรือเปล่า” คุณบิ๊กเดินมาถามผมใกล้ๆ
“เอ่อ คือ”
“ตะกุกตะกักแบบนี้ พูดมาเถอะ อยากปรึกษาเรื่องอะไรหรือเปล่า”
ผมตัดสินใจเล่าเรื่องของกี้ไปทั้งหมด รวมทั้งเรื่องที่แฟนกี้กับกี้อาจจะรู้ความจริงเรื่องผม
เจ้านายผมพอฟังก็ถอนหายใจยาวๆก่อนทิ้งตัวลงไปนอนที่โซฟา
“คุณโกรธผมหรอ”
“ไม่หรอก ยังไงงานนี้ก็คงทำไปตลอดไม่ได้ คุณก็ไม่น่าซุ่มซ่ามทำบัตรหล่นเลยนะ”
“ขอโทษครับ” ผมยกมือไหว้คุณบิ๊กก่อนที่เจ้าตัวจะเรียกผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ
“สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ต้องเข้าใจผมนะบีน เสร็จจากเรียนเทอม ๒ นี้เสร็จแล้ว คุณคงต้องเลิกทำงานนี้”
ผมแทบจะหมดแรงเมื่อได้ยินคำนี้ ถึงแม้ว่าจะทำใจมาสักพักแต่พอได้ยินคำสั่งจากปากคุณบิ๊กก็ตกใจอยู่ไม่น้อย
“คุณต้องเลิกติดต่อกับเด็กๆที่คุณรู้จักทั้งหมดรวมทั้งโอ๊ตด้วยเข้าใจนะ”
“ครับ”
“เรื่องงานไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมหางานหาที่พักให้ แต่อาจจะเป็นแถวรอบนอกเป็นบริษัทในเครือผมนี่แหละ ทำๆไปก่อน”
“...............................................” ผมจุกที่คอพูดไม่ออก รู้สึกอีกทีน้ำตาผมก็ไหลออกมาเต็มหน้า
“เฮ้ย ร้องไห้ทำไมคุณ หืม ทำใจไม่ได้หรือยังไง” คุณบิ๊กเอามือมาปาดน้ำตาที่เลอะหน้าผมออกแล้วดึงผมเข้าไปกอด “ เฮ้อ อย่าเศร้าไปเลย คุณทำดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยคุณก็ได้ช่วยเด็กคนหนึ่งให้เขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผมเป็นหนี้บุญคุณคุณอยู่นะบีน ผมไม่ทิ้งคุณไปไหนหรอก”
“แต่ผมทำใจไม่ได้ที่ต้องทิ้งเพื่อนๆไป” ผมพยายามกลั้นใจพูดให้เสียงเป็นปกติที่สุดพร้อมกับข่มใจไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอีก ทำไมช่วงนี้อารมณ์ผมมันอ่อนไหวจัง
“เดี๋ยวเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง ไม่ต้องกลัวหรอก ทำงานที่นั่นเดี๋ยวผมจะไปหาบ่อยๆ” ผมก็ไม่ได้ต้องการให้คุณบิ๊กไปหาบ่อยซะอีก ผมกลัวที่ต้องหนีจากโอ๊ตไปเฉยๆ “เข้าใจไหม”
ผมก็จำใจพยักหน้าตอบไปแล้วพยายามลุกออกจากอกของคุณบิ๊กที่เจ้าตัวโอบผมไว้อยู่ แต่เจ้านายกลับดึงผมกลับไป เราสองคนจ้องหน้ากันก่อนที่คุณบิ๊กจะโน้มตัวและหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าผม จะจูบแน่ๆทำแบบนี้คงไม่ได้จะทำอะไรนอกจากจูบ ผมผลักคุณบิ๊กออกเบาๆก่อนที่เจ้าตัวจะกลับไปนั่งถอนหายใจเบาๆ แล้วถามคำถามที่ฟังแล้วเจ้านายคงไม่คิดกับผมแค่ลูกน้องแน่ๆ
“หรือว่าคุณรักโอ๊ตไปแล้ว” ผมไม่ขอตอบคำถามแต่เป็นฝ่ายตั้งคำถามกับคุณบิ๊กต่อ
“คุณคิดกับผมยังไงหรือครับ แค่ลูกน้องจริงๆใช่ไหม” ผมกลั้นใจถามคำถามที่ในชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้ถามเจ้านายตัวเอง
“ตอนแรกก็คิดแค่ลูกน้อง แต่ผมห้ามใจไม่ไหวจริงๆผมพยายามรักษาระยะห่างๆไม่มาหาคุณบ่อยๆแต่ก็ยังตัดใจไม่ได้” เจ้านายชอบผมหรือนี่ ผมที่กำลังอึ้งอยู่เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าคนขนาดคุณบิ๊กจะมาชอบลูกน้องธรรมดาๆแบบผม “ผมเสียใจนะที่รู้ว่าหลานผมชอบคุณ แต่ก็ทำใจได้แล้วล่ะ ”
“คุณบิ๊ก” ผมเอามือตัวเองไปกุมมือเจ้านายไว้ ทำไมผมรู้สึกสงสารเจ้านายขึ้นมาล่ะ
“อย่างนั้นเรื่องหลานผมกับคุณผมขอเวลาคิดดูก่อนแล้วกัน ตอนนี้ผมเหนื่อยขอเข้าไปนอนในห้องคุณได้ไหม”
คุณบิ๊กดูท่าทางเพลียๆขึ้น อาจจะเป็นเพราะคิดมากถึงมากที่สุด ผมจึงปล่อยให้เจ้านายเข้าไปนอนในห้องผม ส่วนผมก็ดูทีวีเล่นมือถืออยู่ข้างนอกเพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปในห้องอาจจะรบกวนเวลาพักผ่อน
...................................................................................
“บีนๆ ลุกขึ้นมาคุยกันซิ” หืม ผมเผลอหลับไปบนโซฟาก็ต้องตื่นขึ้นเพราะเจ้านายเดินออกจากห้องมาปลุกด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ครับ” ผมขยับที่ให้คุณบิ๊กนั่ง
“ตอบผมมาตามตรงนะ ความสัมพันธ์ของคุณกับหลานผมนี่ถึงขั้นไหนแล้ว”
“เอ่อ คุณบิ๊ก ผมก็ตอบไปแล้วนี่ครับทำไมอยู่ถึงถามอีก”
“ก็อยากได้ยินอีกครั้ง ตอบสิบีน เจ้านายถามต้องตอบ” คุณบิ๊กพูดเสียงดัง ทำผมตกใจใจหายตกไปอยู่ตาตุ่ม ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน
“ผมขอโทษครับ”
“คุณสองคนรักกันแล้วใช่ไหม คุณรับรักหลานผมแล้วใช่ไหม”
“ผมคิดว่าตอนนี้
เรา
รักกันครับ ”
ผมก้มหน้าพูดออกไปช้าๆ
“เงยหน้าขึ้นมามองตาผม ผมจะถามว่าถึงขั้นมีอะไรกันเลยหรือ”
“คุณบิ๊ก”
“ผมถามให้ตอบ ไม่ใช่ให้มาเรียกชื่อผม” คนตรงหน้าไม่เหมือนเจ้านายผมเลย ผมรู้สึกจุกขึ้นมาที่คออยากจะร้องไห้อีกแล้วแต่ต้องกลั้นไว้
“ครับ ผมยอมรับว่ามีอะไรกันกับน้องแล้ว แต่ผมไม่ได้ขัดใจน้องหรือน้องขัดใจผมนะครับ เราสมยอมกันทั้งคู่”
เจ้านายถอนหายใจออกแรงๆก่อนจะปรับสีหน้าเครียดๆของตัวเองให้ดูเป็นหน้าตาปกติ
“เอาเถอะ ผมรู้นิสัยหลานผมดี”
“คุณบิ๊กรู้ได้ยังไงครับ”
“เศษถุงยางที่ใช้แล้วอยู่ข้างๆเตียง ทำอะไรกันทำไม่ไม่ทิ้งให้ดีๆ” คำตอบของคุณบิ๊กทำเอาเสียผมหน้าแดง
“ขอโทษครับ”
“ผมก็เลยต้องคิดใหม่ วิธีแรกที่จะให้คุณทำที่บอกว่าให้ตัดขาดกับโอ๊ตไปเลยผมว่าคงไม่เหมาะแล้วล่ะ”
“หืม หมายความว่ายังไงครับ”
เจ้านายเอนตัวลงพิงโซฟาเต็มแผ่นหลังก่อนจะหันมามองมาที่ผมที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วตอบคำถามผมว่า
“ก็หมายความว่าจะเปลี่ยนวิธี ถ้าหลานผมมันชอบคุณไปแล้วและก็เอ่อ ไปกันถึงขั้นกันนั้นแล้วโอ๊ตมันคงไม่ยอมให้คุณหายไปเฉยแน่ๆ อีกอย่างถ้าทำตามวิธีแรกหลานผมคงกลุ้มใจ เสียใจไม่เป็นอันเรียนแน่นอน ”
“ผมก็เคยคิดแบบนี้ แล้วต้องทำอย่างไรหรอครับ”
“ เราต้องรับผิดชอบด้วยกันคือ ผมก็จะบอกความจริงกับเขา คุณก็ต้องบอกความจริงกับเขา คุณต้องบอกความจริงทั้งหมดว่ามันเป็นยังไง คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร”
“ก็เพื่อที่จะช่วยให้น้องเรียนดีขึ้น” ถึงเหตุผลแรกมันจะมาจากอยากมีงานทำและอยากมีเงินใช้ก็เถอะ
“ ถ้าเขาเกลียดคุณผมจะช่วยคุณเอง”
“ อ้าวคุณบิ๊ก แล้วถ้าเขาโกรธคุณบิ๊กด้วยล่ะจะทำยังไง”
“ เราก็ช่วยกันไง คุณก็ต้องพูดถึงผมว่าผมหวังดีจะให้เขาเป็นเด็กดีขึ้น เข้าใจไหม”
“ เข้าใจครับ แล้วต้องบอกตอนไหนหรือ”
“บอกก่อนที่เด็กที่ชื่อว่า มิคกี้ จะบอกความจริงกับโอ๊ต รีบบอกไปเลยก่อนที่ความรักของพวกคุณจะพังลง ไม่ต้องห่วงไม่ต้องพะวงผมจะช่วยคุณเต็มที่ คุณเป็นคนดีผมก็อยากให้หลานผมมีความสุขและมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต”
คุณบิ๊กทำไมใจกว้างขนาดนี้นะ นี่ถ้าโอ๊ตไม่มาชอบผมและผมรู้ว่าคุณบิ๊กมาชอบ ผมอาจจะลงเอยกับเจ้านายตัวเองก็ได้ใครจะเป็นรู้
“ผมขอบคุณคุณบิ๊กมากเลยนะครับ นอกจากครอบครัวผมแล้วไม่เคยมีใครดีกับผมขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยการที่ได้เห็นคนที่ผมรักและเอ็นดูทั้งสองคนได้รักกันไปนานๆผมก็มีความสุขแล้ว”
“คุณบิ๊ก”
“หึหึ ไม่ต้องกลัวผมเสียใจหรอกคุณผมทำใจมานานแล้วและที่สำคัญผมไม่ขี้แยเหมือนคุณหรอกนะ ฮ่าๆ”
จากเศร้าๆผู้ชายต้องหน้าผมก็ทำให้ตัวเองมีรอยยิ้มขึ้นมาได้เอง อย่างนี้สิคือพ่อของลูก ใครได้เป็นแฟนคงโชคดี
..................................................................................................
เช้าวันเสาร์นอกจากสภาพอากาศจะร้อนไม่เป็นไปตามฤดูแล้วจิตใจผมตอนนี้ก็ยังร้อนไปด้วยเพราะใจอยากจะบอกความจริงกับ
โอ๊ตตั้งแต่เมื่อวานที่คุณบิ๊กได้วางแผนกับผมไว้
วันนี้โอ๊ตบอกว่าจะมาหาผมนี่นาก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำผมจึงโทรหาน้องจึงได้ใจความว่าน้องจะมาหาตอนบ่ายเพราะว่าตอนเย็นมีนัดกินเหล้ากับไบท์เลยจะเอาผมไปด้วย
ผมรีดเสื้อผ้ากางเกงรวมทั้งจัดแจงหนังสือสมุดเตรียมพร้อมที่จะไปเรียนหนังสือในวันจันทร์นี้ คุณบิ๊กบอกกับผมไว้เมื่อวานว่าถึงจะบอกความจริงกับโอ๊ตไปแต่แกก็ขอให้ผมเรียนให้จบเทอมนี้ไปก่อน น้องรับได้ไม่ได้ยังไงก็ต้องง้อให้ถึงที่สุด อย่างน้อยคุณบิ๊กก็เชื่อว่าหลานตัวเองคงไม่ใจดำทิ้งคนที่ตัวเองรักหรอกถึงจะปลอมตัวมาหลอกก็เถอะแต่ก็ปลอมตัวมาเพื่อความหวังดี ผมก็คิดในใจนิดๆว่าน้องอาจจะโวยวายเสียใจแต่ก็คงจะเข้าใจ
ติ้ง ติ้ง ติ้ง
แกรก
อืม น้องมาถึงก็ดึงหน้าผมเข้าไปจูบแทนคำทักทายก่อนที่ผมจะโดนลากเข้าไปห้องนอนแล้วเล่นกันกับโอ๊ตบนเตียงหนึ่งรอบ
“ตอนเย็นไปกับกูนะ ไบท์มันนัดกูไว้ว่ะแต่มันไม่ได้บอกให้ชวนมึง แต่กูจะเอามึงไปด้วย”
“อ้าว จะไปดื่มตามประสาผู้ชายหรือเปล่า”
“หืม แล้วมึงไม่ใช่ผู้ชายหรอว่ะ ไอ้นี่ก็มี”
“เฮ้ย” โอ๊ตพูดไม่พอล้วงมือเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วกำไปที่ส่วนที่อ่อนไหวของผมเป็นเชิงหยอกล้อ
“มันบอกว่ามีมันกับพี่อิฐและก็เพื่อนของพี่อิฐที่เป็นตำรวจ กูก็ไม่รู้จักเขาหรอก”
“เพื่อนที่เป็นตำรวจหรอ” คนที่เป็นตำรวจ เพื่อนพี่อิฐ
ตายแล้ว อีกี้ต้องวางแผนล่อทั้งไบท์ทั้งโอ๊ตไปฟังความจริงแน่ๆอย่างว่าล่ะถึงไม่ได้ชวนผมไปด้วย นี่คงให้แฟนตัวเองมาชวนอีกทีสินะ ผมจะทำยังไงดีล่ะทีนี้
คิดอะไรไม่ออกจริงๆผมเลยถามโอ๊ตไปว่า “โอ๊ตจะไปจริงๆหรอ”
“ถามอะไรแปลกๆหรือมึงไม่อยากให้กูไปวะ กูกินไม่เยอะไม่เมาหรอก มึงก็ไปด้วยนี่หว่า”
“แต่เขาไม่ได้ชวนบีนหนิ” ผมบ่นเชิงน้อยใจก่อนจะหันหน้าไปกอดโอ๊ตที่นอนอยู่ข้างๆ อ้อนซะหน่อย
“เออน่า ไม่มีใครว่ามึงหรอก ไปกันนะๆ”
หรือว่าผมคิดมากไป คิดในแง่ดีอีกี้อาจจะไม่มาก็ได้ ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ
ลุงชัยพาเรามาส่งถึงร้านแนว Bar & Bistro สุดหรูใจกลางเมืองก่อนที่โอ๊ตจะให้ลุงแกไปหาข้าวทานแถวนี้แล้วจึงมารอรับพวกผมว่าแล้วผมกับโอ๊ตก็เดินเข้าไปในร้านก็เจอกับพี่อิฐและก็ไบท์นั่งรอเรากันอยู่แล้วทั้งสองคน
“อ้าวไม่เห็นบอกว่าบีนจะมาด้วย”
“เซอร์ไพรส์ไง คนพิเศษของกูขนาดนี้ก็ต้องมาด้วยกันสิวะ” โอ๊ตทักทายเพื่อนอย่างอารมณ์ดีก่อนที่เราสองคนจะยกมือไหว้พี่อิฐแล้วนั่งลงเก้าอี้ฝั่งเดียวกัน และดูท่าทีแล้วไบท์คงไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆพี่อิฐก็ดูไม่รู้อะไร ถ้ามันจะมาจริงๆนะผมก็มีแผนรองรับไว้เหมือนกัน
“รอเพื่อนพี่ก่อนนะครับมันกำลังจอดรถเดี๋ยวก็เดินมาแล้ว จะได้เปิดไวน์พร้อมๆกัน ร้านนี้พึ่งเปิดใหม่ได้ข่าวว่าบรรยากาศดีไวน์ก็รสชาติดีเลยอยากชวนน้องมา” พี่อิฐพูดขึ้นบ้าง
“เอ่อโอ๊ต ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ อยู่ๆก็มวลๆท้องน่ะ”
“หืม ไม่สบายหรือเปล่า”
“คงไม่เป็นอะไรมากหรอก” ผมรีบเดินไปทางห้องน้ำแล้วแอบดูตรงลานจอดรถเพราะมันอยู่ใกล้ๆกัน
ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่ผมคิดเอาไว้มันผิด มันมากับแฟนมันจริง
ดูท่าทางรีบร้อนเสียด้วย ผมรีบหยิบแผ่นพลาสเตอร์บรรเทาปวดตราเสือออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำ แผนนี้คงใช้ได้นะ
แผ่นพลาสเตอร์ตราเสือสูตรร้อนที่ติดอยู่บนหน้าผากผมกำลังแผ่ความร้อนเข้าหน้าผากผมแบบร้อนได้ที่ ผมจึงโทรหาโอ๊ตที่นั่งอยู่ข้างนอก ฝ่ายนั้นก็คงกระอักกระอ่วนใจที่ได้เจอแฟนเก่าที่มากับแฟนใหม่
“โอ๊ต เรารู้สึกไม่สบายแล้วอ่ะ”
“อ้าว เป็นอะไรมาหรือเปล่า”
“มารับเราในห้องน้ำหน่อยสิ เราอยากกลับห้องแล้ว พาเรากลับเถอะนะ”
“ได้ๆ” โอ๊ตมารับผมที่ห้องน้ำก่อนพาผมออกไปอีกทางพร้อมกับบอกว่าได้ลาพี่เขาออกมาแล้ว
“เฮ้ย มึงตัวร้อนจัง” โอ๊ตแตะที่หน้าผากผมก่อนจะพูดออกมากด้วยความตกใจ
“ไปหาหมอไหมมึง เดี๋ยวกูบอกลุงชัยให้พาไป แกกำลังจะเข้ามารับเรา”
“ไม่หรอกกินยาคงหาย ว่าแต่โอ๊ตนอนกับบีนได้ไหมคืนนี้”
“เอาอย่างนั้นหรอ” ถึงจะถามแบบนั้นก็โอ๊ตก็ดูยิ้มมีความสุข
“อืม ขอแค่โอ๊ตอยู่กับเรา” ผมตอบไปแบบอ้อนๆ
ลุงชัยมารับพวกผมหน้าร้านก่อนที่โอ๊ตจะบอกให้ไปส่งที่คอนโดผมแล้วโอ๊ตก็ฝากลุงไปบอกคนที่บ้านว่าวันนี้จะนอนห้องผม
“มึงอยากกลับก็ดีแล้ว มึงรู้ไหมนอกจากเพื่อนพี่อิฐแล้วใครมาด้วย”
“ใครหรอ” ผมแกล้งถามที่จริงก็รู้ว่าใคร
“กี้ กูโคตรเกลียดขี้หน้ามันเลยมันมากับแฟนใหม่ หึ กูก็มีแฟนใหม่เหมือนกันล่ะวะ ดีแล้วล่ะกูก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน”
“อืม อยู่ห่างๆเขาไว้เถอะ ยังไม่ได้คุยอะไรกันใช่ไหม”
“ไม่ว่ะ กูไม่อยากคุยกับมัน”
ผมต้องบอกความจริงกับโอ๊ตแล้วสินะ คงต้องวันนี้แล้วล่ะที่ต้องบอก
ก่อนที่โอ๊ตจะไปรู้มาจากคนอื่นแบบนั้นคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ ถึงห้องค่อยคุยแล้วกัน
“มึงเช็ดตัวเสร็จแล้วใช่ไหม”
“อืม”
“นี่ยากับน้ำ” โอ๊ตที่อาบน้ำก่อนผมสงสัยรีบอาบเพราะรีบไปเตรียมน้ำกับยามาให้ผมก่อนที่ผมจะเช็ดตัวเสร็จ แกล้งป่วยนี่ก็แกล้งให้ถึงที่สุดสินะ
ใจผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อรู้ว่าต้องบอกความจริงแล้ว
“เป็นอะไรหรือเปล่า ตัวมึงสั่นๆ หนาวหรือเปล่า”
“ไม่หนาวหรอก”
เราปิดไปนอนไปแล้วสักพักแต่ก็ไม่มีใครนอนหลับ
“โอ๊ต ถ้าเกิดบีนไม่ใช่เด็กมัธยมโอ๊ตจะรักบีนไหม”
“รักสิ มึงเป็นอะไรก็รักหมดแหละ ถามแปลกๆ ขอให้มึงรักกูและเป็นมึงแบบนี้ก็พอ”
มันจะง่ายขนาดนั้นจริงหรือ
“ถ้าบีนมีเรื่องปิดบังโอ๊ตล่ะ”
“ถามอะไรแปลกๆวะ กินยาแล้วเพี้ยนหรือเปล่า นอนเถอะ”
“โอ๊ต” ผมกอดน้องแน่นขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้า “บีนมีเรื่องจะบอกแต่ขออย่างหนึ่งนะ อย่าทิ้งบีนไปไหน”
“เรื่องอะไร”
“สัญญาก่อนสิว่าอย่าทิ้งบีนไปไหน”
“สัญญา”
โอ๊ตสัญญาด้วยการประทับปากตัวเองลงบนปากผมอย่างนุ่มนวล ถึงเวลาแล้วสินะ
แล้วผมก็พูดประโยคแรกออกไป
“โอ๊ตฟังให้ดีนะ บีนไม่ใช่เด็กมัธยม”
...............................................................................
นี่เราแอบย่องมาตอนดึกๆนะ :katai5:ไม่รู้จะมีใครรออ่านหรือเปล่านะ ขอเสียงคนอ่านหน่อยเร้วววววววว
คุณบิ๊กเป็นคนดีทั้งภายนอกภายในเลยเนาะ อิอิ สงสารอยู่นะนิดนึง
เรื่องปูมาขนาดนี้ก้คงไม่ต้องเดากันแล้วนะครับว่าใครเป็นพระเอก แต่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คงเป็นบททดสอบสำหรับคู่พระ นาย ของเราแล้วกัน มาดูกันตอนหน้าว่าโอ๊ตจะว่ายังไงบ้าง
สำหรับวันนี้ฝันดีครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเข้ามาเม้นนะครับ
รักคนอ่าน