ความไร้เดียงสาครั้งที่ 1 ความอ่อนหัดของนายมาเฟียใหญ่
ผู้ชาย...ดูเหมือนจะเป็นเพศที่ดื้อรั้น หัวแข็ง มีนิสัยหยาบกระด้างแต่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่มีความเปราะบางและความ
ละเอียดอ่อนแอบแผงอยู่เช่นกัน....
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ในยามเช้าเสียงเจาะแจะของเหล่าสมุนผู้พักดีต่างดังกันให้วุ่นวาย ถึงจะเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่แต่ก็ไม่ได้
เงียบเหงาเหมือนหลังอื่นๆคงเพราะเจ้าพวกลูกน้องปัญญาอ่อนทั้งหลายที่พอได้อยู่ในที่ของตัวเองต่างแสดงความเป็นตัวของตัว
เองออกมาอย่างไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาว่าๆมันไม่สมควร คงเพราะประมุขของบ้านนั้นไม่ได้เข้มงวดอะไร แต่หากเวลางานทุกคน
ต่างทำกันอย่างแข่งขัน
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เสียงเอ่ยทักทายของเหล่าสมุนผู้พักดีที่กุลอกุจอตั้งแถวตามแนวทางเดินตั้งแต่หัวบันไดต่างเอ่ยทั้งทายขึ้น
อย่างพร้อมเพรียง
ร่างสูงใหญ่ใบหน้ามาดนิ่งก้าวเท้าเดินผ่านอย่างดูสง่า ในแววตาผู้เป็นบริวาลต่างมองว่ามันช่างดูงดงามและเท่เหลือเกิน
“เตรียมอาหารไว้แล้วนะครับนายน้อย”
“โทษนะวันนี้ฉันไม่กิน พวกนายกินกันไปเลย” ดวงตาคู่เรียวตวัดมองคนพูดก่อนจะตอบออกไปด้วยเสียงที่เรียบนิ่งแต่ทรงพลังยิ่ง
นัก ก่อนจะเดินออกไป แต่เสียงคุยจากเหล่าพวกบริวาลที่ต่างชอบพูดกันนั้นมันทำให้เขาต้องชะงักทุกครั้ง
“วันที่นายน้อยของเราก็ดูเท่เหมือนเคยเลยน้า”
“ใช่ๆ อายุแค่ 23 ปี แต่ออร่าความร้ายกาจก็ออกมาแล้ว สมกับเป็นบุตรของนายใหญ่จริงๆ”
“ต่อไปคงจะเนื้อหอมต่อสาวๆไม่น้อย นี้ก็ได้ข่าวว่านายน้อยมีสาวเข้าหาเพียบเลย”
“ต้องแบบนี้ซิถึงจะเป็นมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่ภายนอก นายน้อยเรานี้แหละเป็นมาเฟียเหนือมาเฟียของแท้แน่นอน”
เสียงพูดคุยของเหล่าบริวาลยังคงมีมาให้ได้ยินเป็นระยะซึ่งผิดกับความรู้สึกของคนในหัวข้อสนทนาเลย ข่าวลือพวกนั้น
มันอะไรกัน
“รู้ไหมคนที่จัดการพวกคู่แข่งที่เข้ามาก่อกวนที่ผับเมื่อวันก่อนนั้นก็คือนายน้อยนะ”
“ใช่ๆเป็นคนเก่งขนาดนั้นแต่กลับถ่อมตัว เป็นมาเฟียด้วยจิตใจที่ดีจริงๆแต่ถึงอย่างนั้นกลับมีแต่ผู้คนหวั่นเกรง”
ผิดแล้วเขาไม่ใช่คนแบบนั้นเลย ผมไม่ใช่ผู้ชายที่น่ายกย่องแบบนั้นแม้แต่น้อยสมกับเป็นมาเฟียอะไรกันพวกบ้านั้น
เข้าใจผิดกันไปทั้งนั้น จริงอยู่ผมอาจจะเก่งเรื่องการบริหารจัดการต่างๆนั้นไม่มีทางแพ้ใคร แต่ว่าถึงจะบอกว่าสมเป็นมาเฟียแต่ว่า
ใช่จะแข็งแกร่งเพราะผมยังมีเรื่องที่อ่อนหัดอยู่เลย
“นายน้อยจะไปที่นั้นหรือครับ ให้ผมไปส่งไหมครับ” เสียงกล่าวจากชายหนุ่มชุดดำเรียกให้ผมต้องกลับหันไปมอง
“ไม่เป็นไร ฉันจะไปคนเดียว” ว่าเสร็จผมก็หันไปยิบหมวกกันน็อคใบงามมาหวังจะสวมใส่
“แต่ว่า”
“ไม่ต้องตามมานะ ควอต” สายตาคมกริบตวัดมองอย่างไม่พอใจก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นออกมา ควอตมักเป็นแบบนี้เสมอเป็นห่วงผม
ตลอดคงเพราะรู้ดีว่าผมจะเป็นอย่างไรแต่ผมจะค่อยให้ควอตช่วยตลอดไม่ได้ ควอตเป็นเลขาของผมแต่ถึงจะบอกว่าเป็นเลขาแต่
เขาก็ทำทุกอย่างทั้งเรื่องเล็กเรื่องน้อยเพราะหน้าที่หลักคือดูแลผมตามคำสั่งของพ่อและแม่ที่ทิ้งผมไปทำธุรกิจที่เมืองนอกเมือง
นา
“ครับ ยังไงก็ระวังตัวนะครับ มีอะไรก็โทรหาผมได้ตลอดนะครับนายน้อย”
ผมไม่ได้ตอบรับอะไรกลับไปหันมาขึ้นค่อมบนมอเตอร์ไซค์คู่ใจก่อนจะมุ่งทยายออกไปยังจุดหมายที่ตั้งไว้
....ร้านลอลลี่ป๊อปคอฟฟี่....
ที่นี้ที่เป็นความลับที่ไม่สมกับหนุ่มมาเฟียอย่างผม ความลับที่ไม่มีใครรู้นอกจาก ควอต ว่าจริงๆแล้วผมนะ
กรุ้งกริ้ง กรุ้งกริ้ง
“ลอลลี่ป๊อปคอฟฟี่ยินดีต้อนรับครับบบ” เสียงใสที่เอ่ยดังขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งทางประตูก่อนจะหันมายิ้มหวานส่งให้ผมที่พึ่ง
เดินเข้ามา
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก เสียงหัวใจที่เต้นระรัวมันทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ พออยู่ตรงหน้าคนๆนี้ ตึกตัก ตึกตัก
“สวัสดีครับ วันนี้รับอะไรดีครับ?” เสียงหวานเอ่ยพร้อมทั้งรอยยิ้มที่ทำเอา
ตึกตัก ตึกตัก ชะ ช็อค รอยยิ้มนี้มันช่างเจิดจรัส ไม่ไหวผมไม่ไหวจริง ทำไมควบคุมตัวเองไม่ได้ พะ พูดอะไรไม่ออกทำไงดี กะ
ก้าวขาก็ไม่ออก ตึกตัก ตึกตัก
“เอ่อ..?” ทำไงดีพะ พูดไม่ออก ตื่นเต้นตลอดเลย สีหน้าสงสัยพร้อมรอยยิ้มนั้นไม่ไหวผมรับไม่ไหวจริงๆ มองหน้าเขาไม่ได้เลย
จริงๆ
“คะ คา ปะ ปูชิโน่ กะ กับ พะ พายแอบปะ เปิ้ลครับ” พูดไปแล้วผมพูดออกไปแล้ว อยากมองใบหน้าหวานนั้นให้เต็มตาเหลือเกิน
ตะ แต่ ทำไม่ได้
“ครับ รับคาปูชิโน่และพายแอบเปิ้ลนะครับ จะทานที่ร้านหรือกลับบ้านดีครับ” ใบหน้าสวยเอ่ยก่อนจะตามด้วยรอยยิ้มที่ฆ่าผมได้
เลย ทะ ทำไมถึงน่ารักเช่นนี้
“กะ กลับบ้านครับ”
“ครับผม กรุณารอสักครู่นะครับ” เขาตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
ความลับที่ไม่สมเป็นชาย ความจริงที่เจ็บปวด แค่จะสบตากับคนที่ชอบตรงๆยังทำไม่ได้เลยผมมันช่างไร้เดียงสา เป็นได้
แค่ไอ้อ่อนหัด พูดให้ถูกก็เป็นแค่ไอ้ผู้ชายน่าสมเพชนั่นแหละ
ตั้งแต่เด็กเมื่อไหร่ที่ผมอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบก็มักจะทำตัวไม่ถูกทำตัวเปิ่นๆให้เขาขายหน้าจนถูกทิ้งและยังถูกตราหน้าว่า
เป็นไอ้อ่อนหัด มันทำให้ผมช็อคจนป่วยไปเลยตั้งแต่ตอนนั้นก็กลายเป็นโรคขี้ขลาดต่อหน้าคนที่ชอบ ผมพยายามฝึกร่างกายและ
จิตใจให้แข็งแรงแต่มันก็เท่านั้นโรคบ้านี้มันไม่หายไปยิ่งมีคนที่ชอบยิ่งอาการสาหัสเข้าไปทุกที ไม่แปลกเลยที่ผมยังเวอร์จิ้นอยู่
แบบนี้ช่างเป็นเรื่องน่าสมเพชจริงๆในฐานะผู้ชาย
“ขอโทษที่ให้รอนะครับ พอดีทางร้านของมีลอลลี่ป๊อปแจกฟรีจะรับด้วยไม่ครับ”
ผมได้แต่พยักหน้าไปเป็นตอบก่อนที่มือเล็กๆนั้นจะเอื้อมไปยิมลอลลี่ป๊อปสีสวยที่กลายเป็นของโปรดผมไปเสียแล้ว นั้น
มายืนให้ ผมค่อยๆเลื่อนมือที่รู้สึกว่าติดจะสั่นเทาไปรับมาอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ระหว่างนั้น แตะ มะ มือ ผมสัมผัสเข้ากับมือเล็กขาว
เนียนนั้น ผมรับรู้ถึงเสียงเส้นประสาทการรับรู้ขาดลงดังเปรี๊ยะ และเหมือนทุกอย่างจะหยุดนิ่งไปผมไม่สามารถทำอะไรได้อีกเลย
“อะ...เอ่อ..เป็นไรรึเปล่าครับคุณลูกค้า?” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นคนตรงหน้ายืนนิ่งไม่ยอมขยับ สีหน้าซีดดูไม่ดีเท่า
ไหร่
ตึกตัก ตึกตัก มะ มือ ผมยังจับมือเขาอยู่เลยทำยังไงดี มะ มันยกไม่ขึ้นเลย ตึกตัก ตึก ตัก
“ขอโทษนะครับ” อยู่ๆชายในชุดสูทสีดำสนิทก็เข้ามาพาผมออกไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ควอต เอง
คนตัวเล็กเมื่อเห็นดูเหมือนจะตกใจกับการกระทำของผมไม่น้อย จบกันความรักของผม มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายจริงเป็นถึง
มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แต่กลับไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง
“ผมถึงบอกไงว่าจะมาส่ง ถ้าผมไม่แอบตามมานายน้อยคิดว่าตัวเองจะออกมาไหวรึครับ คุณนะไม่เคยฟังที่ผมพูดเลย” เพราะควอ
ตดูแลผมมาตั้งแต่เด็กเลยกล้าที่จะเถียงและขัดคำสั่งของผมตามความสมควร
“คราวนี้เป็นหนุ่มน้อยน่ารักร้านกาแฟหรือครับ แต่ว่าเป็นไงมาไงถึงได้มาชอบผู้ชายได้ละครับ” ควอตที่ขับรถอยู่เอ่ยยถามขึ้น
“หนวกหูน่า” ผมว่ากลับไปอย่างเบื่อหน่าย อาการที่เคยมีก็หายไปแล้ว ทำไมกันทำไมฟ้าถึงได้กลั้นแกล้งคนรูปงามที่เพียบพร้อม
อย่างผมกัน เฮ้ออออ
“ถ้านายใหญ่รู้ว่านายน้อยไปชอบผู้ชายเข้า ผมที่เป็นคนดูแลคงถูกฆ่าหมกป่าแน่ๆ ดังนั้นกรุณาเก็บเป็นความลับด้วยนะครับ
“รู้แล้วน่า” ผมว่ากลับไปอย่างหงุดหงิด
“ฉันนะก็ไม่ได้อยากชอบผู้ชายสักหน่อยแต่ในเมื่อมันชอบไปแล้วก็ช่วยไม่ได้นิ”
“ถ้าช่วยไม่ได้ผมก็ไม่เข้าไปช่วยแล้วนะครับนายน้อย”
โป๊ก
จบเสียงพูดของควอตก็ตามด้วยเสียงกล่องกระดาษทิชชู่ที่ผมปาไปถูกหัวของคนที่ชอบกวนประสาทตรงที่นั่งคนขับทันที
“มันอันตรายนะครับนายน้อย”
ผมไม่ได้ตอบกลับไปได้แต่ปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความคิด ถ้าไม่เกิดเรื่องเมื่อครึ่งปีก่อน...ผมก็คงไม่ชอบผู้ชายคนนั้นหรอก
......ฝากติชมด้วยนะค่ะ....
พึ่งเคยแต่งเรื่องสั้นครั้งแรกยังไงก็ฝากด้วยนะค่ะ ช่วยแนะนำ ติชมเลยค่ะจะได้เอาไปพัฒนาตัวเอง