ครึ่งหลัง
ผมอุ้มเขาพาส่งโรงพยาบาล.....มือที่อุ้มอยู่สั่น ขาที่วิ่งเข้าโรงพยาบาลแทบไม่มีแรง
ผมไม่เคยคิด ว่าความคิดชั่วๆ ของผมจะทำให้คนที่ผมรักเป็นแบบนี้ได้ ผมนั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉิน
4 วันเต็มๆ ที่พวกเราไม่ได้ย่างกร่ายออกจะห้อง
4 วันที่ผมไม่รู้ถึงเรื่องราวภายนอก.....
4 วันที่ผมได้อยู่กับเขา ได้อยู่ในร่างกายขอเขา
4 วันที่เขาตอบสนองความต้องการของผมอย่างไม่สิ้นสุด
ผมก้มมองมือตัวเองมือที่พยายามทำร้ายคนที่ผมรัก.............
ผมนั่งรอจนหมอออกมาบอกอาการของคนไข้
หมอบอกว่าร่างกายของสองมีสารพิษอยู่ ทำให้ระบบให้ร่างกายทำงานผิดปกติ
บวกกับสารขาดอาหารอย่างแรง ทำให้ร่างกายไม่สามารถทนได้
หมอบอกว่าจะทำการล้างท้องเอาสารพิษนั้นออกและฉีดยากระตุ้นการทำงานอวัยวะภายในร่างกาย
อาจจะต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสักพัก
ผมโทรบอกแม่และนม...เรื่องสอง และรอพวกท่านมายังโรงพยาบาล
ตอนนี้สองถูกเตรียมเข้าห้องไอซียูเพื่อล้างท้อง.........
ผมนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไอ ซี ยู อีกครั้ง
“ภูมิ..ภูมิ.........” ผมหันไปมองเสียงที่เรียกผม
เสียงของแม่ และนมที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่ผมซึ่งนั่งอยู่
“แม่ นม.....” แขนสองข้างของผมโอบกอดไปยังท่าน พร้อมกับน้ำตาที่ไม่เคยหลั่งมานาน
“ผม...ผมมันชั่ว.....ผมเป็นคนทำสอง....ผมข่มขืนสอง ผมทารุณสอง ผมทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้.....แม่ ช่วยผมด้วย...”
“.......................................”
“แม่อย่าให้เขาเป็นอะไรนะ เอาผมไปแทนก็ได้.........”
เสียงร้องเหมือนเด็กที่ขวัญเสียทำให้ฉันต้องลูบและประคองลูกชายคนเดียวของฉันขึ้นมาและกอดเขาไว้....
ยังมีนมข้างๆ ที่ปลอบประโลมอาการลูกชายฉัน
ที่จริงฉันตกใจมากเมื่อได้รับโทรศัพท์จากภูมิ เพราะพวกเราโทรหาเขาแต่เขาไม่รับเลย
ความกังวลเกิดขึ้น.....แต่เมื่อเขาโทรมา กับเสียงที่พูดอย่างอยู่กับเนื้อกับตัว พวกเรารู้เพียงแต่ว่าเป็นเรื่องของสอง
นั้นยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกใจคอไม่ดีเข้าไปใหญ่......พอเดินทางมาก็พบสภาพของภูมิที่ดูแย่เข้าไปอีก
พร้อมคำสารภาพ กับสิ่งที่เขาทำกับสองในช่วงเวลาที่พวกเขาหายไป
ฉันโทรไปบอก คุณนุชแม่สองเรื่องที่สองเข้าโรงพยาบาล
ซึ่งเธอเดินทางมาทันทีที่ได้ข่าว.........สีหน้าเธอตกใจและเป็นห่วงสอง
ฉันเล่าเรื่องและพยายามใช้คำพูดที่ดูอ่อนโยน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอดีขึ้นเลย
อารมณ์เธอขาด จนเธอทำร้ายร่างกายภูมิ ซึ่งเราก้มหน้ายอมรับแต่โดยดี.....
ฉันเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่....มือที่ตีลงไปยังภูมิ พร้อมกับน้ำตาที่รินไหล....
เธอร้องไห้จนล่มพับไป....พวกเราต้องช่วยพยาบาลเธอ...
เรานั่งรอหลายชั่วโมงจนหมอเข็นรถออกมาจากห้องไอ ซี ยู
และพาตัวสองไปอยู่ห้องพิเศษของทางโรงพยาบาล
เสียงของแม่สองที่ยังร้องไห้อยู่ดังขึ้นเมื่อเห็นหน้าลูกชายที่หลับอยู่บนรถเข็น
“ทำไม..ทำไม..ถึงไม่ทำฉัน...” นั้นคือเสียงร้องที่แม่สองพูดขึ้นหลังจากลูกชายเธอถูกพาไป
แม้ว่าคุณนุชจะเป็นคนร้ายกาจขนาดไหน แต่ความรักลูกของเธอก็ไม่แพ้ฉันเช่นกัน..
พวกเรายอมตายแทนลูกของพวกเราได้.......
ฉันประคองเธอไว้ก่อนที่จะพาเธอมายังห้องพักผู้ป่วย........
เราทุกคนเข้ามายังห้อง ซึ่งสองยังนอนสลบอยู่ที่เตียง ใบหน้าซีดเซียว....ไร้เรี่ยวแรง
คุณนุชเข้าไปโอบกอดลูกชายไว้ โดยที่มีพวกเราเฝ้าดูอยู่
++++++++++
“ไป ออกไปให้หมด...อย่ามายุ่งกับเขา............” เสียงแม่สองซึ่งทั้งตะโกน ทั้งร้องไห้
“ผม......ขอโทษ....ผมยอมรับผิดทุกอย่าง........” ผมกล่าวออกไป
“ฉันบอกให้ออกไปไง...........” เสียงแม่สองที่ยังไม่เลิก จนแก่ล้มพับไปอีกรอบ
“ภูมิ ...ภูมิอยู่เฝ้าสองเถอะ เดี๋ยวแม่กับนมพาคุณนุชกลับบ้านใหญ่...”
เสียงสะอึกสะอื้น และหมดแรงของคุณนุช ทำให้นมและแม่พาคุณนุชพากลับบ้านได้
“สอง...ผมขอโทษ........” น้ำเสียงผมที่เหมือนจะร้องไห้ ผมเพียงแค่อยากได้ยินเสียงสองเท่านั้น
“สอง...........ผมรักคุณนะ......” เป็นเสียงที่ผมไม่คิดว่าจะพูดออกมาได้
ผมนั่งกุมมือเขาและฟุตหลับอยู่ข้างกายเขา.....จนผมหลับไป
++++++++++++++
เขาหลับเพราะฤทธิ์ยาจนกระทั้งบ่ายของอีกวันหนึ่ง....ซึ่งผมก็อยู่เฝ้าไม่ห่าง....
ปลายนิ้วที่กระดิกเป็นสัญญาว่าเขารู้สึกตัวหลังจากโดนยาสลบ....
“สอง...........สอง.........” ผมดีใจมากที่เขาตื่นขึ้นมา ผมกลัวว่าเขาจะไม่ยอมตื่น
ผมดีใจจนต้องกอดเขาไว้เบาๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาเมื่อเห็นเขา....
“สอง...............” ผมกอดเขาอยู่นานจนรู้สึกว่าเข้าลูบหัวผมอยู่
สายที่ระโยงระยาง และเข็มที่เจาะอยู่ที่แขนทำให้ผมรู้สึกเจ็บแทน และเสียใจจริงกับการกระทำดังกล่าว
“ผมอยู่โรงบาล.....” สายตาของเขามองรอบๆ ห้องก่อนที่จะพูด
“ภูมิ..คอแห้ง เอาน้ำให้หน่อย...” แม้ว่าพูดได้แต่ก็ไม่มีเสียงออกมา
แต่ผมรู้ว่าเขาพูดอะไร จึงหยิบแก้วน้ำที่มีหลอดให้เขาดูด
แคร่กๆๆ เสียงไอเมื่อน้ำผ่านเข้าไปในลำคอ นั้นทำให้ผมตกใจ จนผมต้องกดปุ่มเรียกพยาบาล
“พยาบาลเข้าไอ เขาเป็นอะไรไหม...” มีเพียงรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าพยาบาล
“คุณเขาไม่เป็นไรค่ะ ที่ไอเพราะคอที่แห้งพอมีน้ำเข้าไปเลยทำให้เกิดการระคายเท่านั้น”
นั้นเป็นคำตอบที่ทำให้ผมสบายใจขึ้น เมื่อได้ยินคำตอบจากผู้รู้
มีเพียงสองเท่านั้นที่ทำท่าเหรอหรา กับปฎิกิริยาของผม ก่อนที่เข้าจะดูดน้ำจนหมดแก้ว
“สองเอาอีกไหม......” เขาเพียงการส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ
ผมนั่งจับมือเขาอยู่นาน จนกระทั้ง แม่ นม และคุณนุชเข้ามา
“สองลูก....”เสียงคุณนุชเข้ามาเมื่อเห็นสองตื่นแล้ว
น้ำตาของคุณนุชไหลอีกครั้ง ที่เห็นลูกชายตัวเอง......
ผมเห็นรอยยิ้มของสองที่เหมือนจะปลอบประโลมแม่ตัวเอง
“สองเป็นไงบ้างลูก.......” มีเพียงการพยักหน้าตอบ
ก่อนที่คุณนุชจะหันหน้ามาหาผม.......... “เธอต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้.....” เสียงคุณนุช
“ครับ............” ผมตอบออกไป
“แม่...............แม่..” เสียงพูดของสองที่พยายามเรียกแม่
เธอหันมามองสอง “แม่จัดการเองสอง....” แต่มีเพียงการส่ายหน้าปฏิเสธจากสองเท่านั้น
“ลูกจะไม่เอาผิดมันหรอ..มันทำสองขนาดนี้....มันติดคุกได้เลยด้วยซ้ำ...” เสียงคุณนุชที่พยายามบอกลูก
แต่มีเพียงการส่ายหน้าเช่นเดิม........
“นั้นต่อไปนี้ห้ามเธอยุ่งกับสองอีก....ไม่งั้นฉันจะแจ้งความ...” คุณนุชพูดเสร็จพร้อมกับให้ผมออกไปจากห้อง
ซึ่งผมก็น้อมรับด้วยความยินดี เพราะผมได้เห็นว่าสองปลอดภัยแล้ว
ผมนั่งรอหน้าห้องจนแม่ และนม ออกมา “แม่ครับ....ผม...”
“ไม่เป็นไรจะลูก เวลาจะช่วยพวกเราทุกคนเอง” แม่ผมพูดก่อนที่จะพาผมกลับบ้าน
!!!!!!!!!!!!!!
ผมนอนอยู่ในห้องพักฟื้นที่มีแม่ค่อยดูแลเหมือนเมื่อครั้งยังเด็ก.....
ผมใช้เวลานานพอสมควรก่อนจะพูดได้เต็มเสียง
“แม่..........” ว่าไงจ๊ะสอง
“แม่ไม่ต้องเฝ้าหรอก....สองอยู่ได้...” ผมบอกออกไป
“ไม่เป็นไร...เดี๋ยวแม่อยู่เป็นเพื่อน เพราะอยู่บ้านก็ไม่มี.....ใคร..........เอาน่าสอง แม่จะอยู่เนี้ยแหละ”
ผมไม่อยากขัดแม่.....ทำให้คืนนี้ผมเลยได้นอนกับแม่ที่โรงพยาบาล
ก่อนนอนแม่จุ๊บที่แก้มทั้งสองข้าง และหน้าผาก แม่ทำเหมือนสมัยผมยังเป็นเด็กๆๆ
“นอนนะลูก หลับให้สบาย......” เสียงแม่กล่าวราตรีสวัสดิ์พร้อมกับลูบหัวผม
ผมฝันเห็นเขา ค่อยๆ ห่าง ห่าง ออกไปเรื่อยๆ จนผมแทบไม่เห็นเขาด้วยซ้ำ “ภูมิ......ภูมิ.....อย่า..........ไป.......รอ...ก่อน..”
“สอง.....สอง......” มือที่เขย่าให้ผมรู้สึกตัว
“เป็นอะไรสอง........” เสียงแม่ที่ถามผม
“เปล่าครับ...” ผมโกหกออกไปเพื่อทำให้แม่รู้สึกสบายใจ
ก่อนที่แม่จะมานั่งจับมือผม แล้วปล่อยให้ผมหลับอีกครั้ง
++++++++++++
วันนี้พ่อเลี้ยงเดินทางมาเยี่ยมผมด้วย........ซึ่งทำให้ผมดีใจมาก
“พ่อ...............” สีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเห็นแขกคนพิเศษ
หน้าตาพ่อดูดี แถมยังสื่อสารได้ดีขึ้นแม้จะพูดตระกุกตระกักอยู่
แต่ท่านสามารถรับรู้ได้แล้ว........
สีหน้าของผมกับของพ่อที่ต่างก็ดีใจที่ได้เห็นกันและกัน ทำให้ผมมีแรงขึ้นอีกเยอะเลยครับ
แต่ผมไม่ดันไม่เห็นภูมิเลย.....แต่ผมรู้ว่าเขามาแน่นอนแต่คงไม่กล้าเข้ามา
ประตูถูกเปิดออกอีกครั้งตามมาด้วย น้าเพ็ญ นม และคนใช้ในบ้านใหญ่.....
“โห้...จะมากันทำไมเยอะแยะ....” ผมบ่น เพราะผมต้องทำให้ทุกคนเดือดร้อน
“..แหมก็คุณหนูสองไม่สบายนี้ค่ะ พวกเราก็ต้องมาเยี่ยมกันหน่อย...” นั้นเป็นเสียงน้อยที่พูดขึ้น
พวกเขาทุกคนอยู่คุยกับผมสักพักก่อนที่จะขอตัวกลับ ผมพยายามมองประตูที่เปิดตอนที่พวกเขาแต่ละคนออกไป
แต่ไม่เห็นภูมิยืนหน้าห้องดังที่คิดเลย
“แม่แล้วพี่หนึ่งแหละ........” ผมถามเมื่อยังไม่เห็นพี่สาวคนเดียว
“สอง...อย่าสนใจหนึ่งเลย..” แม่ทำสีหน้าหนักใจก่อนที่จะพูด
“มีอะไรอีกหรอ...บอกผมมาเถอะ....”
“ตอนนี้พี่แกมันบ้าไปแล้ว กินเหล้า สำมะเลเทเมา แม่พูดอะไรก็ไม่ฟัง...”
“ห๊ะ....” ผมรู้สึกไม่ดีที่พี่ตัวเองแย่ลงๆ
“สอง .........หมอบอกว่าร่างกายสองมีสารพิษมากเกินไป สองไปกินอะไรมา...สองติดยาหรอ..” เสียงหนักใจเกิดขึ้นก่อนที่แม่
กั้นใจถาม
สีหน้าตกใจของผมที่ได้ยินว่าผมติดยา......... “เปล่าผมไม่ได้ติดยาอะไรนั้นหรอก..”ผมปฎิเสธไป”
“แล้วสองกินอะไรเข้าไป บอกแม่มา...”
“ผมไม่ได้กินหรอก....แม่อย่าคิดมากน่า...........” ผมพยายามชักจูงให้แม่เปลี่ยนเรื่อง
ซึ่งเธอก็ไม่คะยั้นคะยอถามผมอีก
++++++++++++++++
วันรุ่งขึ้นอุ้มกับเพื่อนที่คณะมาเยี่ยม.....................เธอซื้อกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมพร้อมทั้งบอกลาอาจารย์ประจำวิชาให้ พร้อมทั้ง
เอกสารต่างๆ ที่จำเป็นกับผม..... พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนของอุ้ม ซึ่งผมไม่เคยคุยด้วยเลย...
แต่เมื่อผมไม่สบายพวกเขากลับมาเยี่ยมผม ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีมากๆๆ กับเพื่อนใหม่จะกำลังจะผูกไมตรีด้วย
+++++++++++
ตลอดสัปดาห์ที่ผมพักอยู่ที่ห้องพักฟื้น มีเพียงวันแรกเท่านั้นที่ผมเห็นภูมิ และผมก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย
กลางคืนมีแม่ และน้อยที่คอยสลับกันเฝ้าผม....
จนผมออกจากโรงพยาบาลกลับมาอยู่บ้าน....
พอผมรู้ตัว สายตาก็จ้องมองแต่โทรศัพท์.........(พอไม่ต้องรับผิดชอบ ก็หนีหายไปเลยนะภูมิ).........
ผมรู้ว่าไอที่ผมเป็นหนักเพราะยาที่กิน ส่วนเรื่องของภูมินะมันเป็นเรื่องเล็กน้อย
ซึ่งไม่จำเป็นให้เขามารับผิดชอบหรอก.........
แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า....ร่างกายผมชินที่อยู่ใกล้ๆ กับเขาแล้ว....ผมรู้สึกตื่นเต้นเมื่ออยู่ใกล้เขา
ยิ่งช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ยิ่งทำให้ผมรู้สึกขาดเขาไม่ได้.....มันเป็นความรู้สึกที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ....
ผมพักอยู่ที่บ้านอีก 3 วันก่อนที่จะกลับมาเรียนตามปกติ
ขอบคุณค่ะ