ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===  (อ่าน 151708 ครั้ง)

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
นอกจากใจแข็งแล้วอยากรู้จังเลยว่าอย่างอื่นแข็งด้วยหรือเปล่า

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดินที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาลมเย็นๆ เอื่อยๆ ครับ มาอ่านบทที่ 21 กันต่อนะครับ ยังไงก็เป็นแรงใจให้นายช่างชยุตม์ด้วย และอย่าลืมให้กำลังใจผู้เขียนนะครับ ตอนนี้้ผู้เขียนกำลังเหงา

21

"มันหายหัวไปไหนของมัน" โชคดีบ่น ตื่นเช้าขึ้นมาเขาเดินหาโต๋ไปทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบ พงษ์ได้ยินจึงเดินเข้ามาบอกว่าโต๋ไปกรุงเทพฯ
"ทำไมมันไม่มาบอก มาขออนุญาติ" โชคดีโวยวายทันที
"เห็นพูดว่าคุณโชคดีบอกว่าไปได้" พงษ์ตอบ
"อะไรนะ บอกที่ไหน บอกว่ายังไง มันมาขอผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมันไปทำไม รอให้กลับมาก่อนเถอะ พ่อจะเหยียบให้เละ"
"โต๋บอกว่าคุณโชคดีพูดว่าจะไปไหนก็ไป พอดีพวกที่รีสอร์ทเขาเหมารถเข้ากรุงเพทฯ ไปเยี่ยมนายช่าง โต๋ก็เลยไปด้วย" พงษ์อธิบาย
"อ้าว แล้วเมียล่ะ เมียกำลังท้องแก่" โชคดีเสียงดังขึ้นกว่าเดิม
"เดือนก็ไปด้วยครับ" พงษ์ตอบเสียงเบาลงกว่าเดิม
"จะบ้าหรือ ท้องใหญ่ขนาดนั้น เกิดไปคลอดบนรถจะว่ายังไง" โชคดีหยิบโทรศัพท์เตรียมตัวกดเบอร์
"ก็เด็กมันอยากไปเยี่ยมนายช่างของมัน แกจะโทรไปด่ามันทำไมหมูปิ้ง" คุณเตือนใจที่ยืนฟังอยู่ใกล้ประตูพูดแทรกขึ้นมา "โต๋มันเคารพรักนายช่าง คนเขารักกันก็ต้องไปเยี่ยมกันสิ โต๋มันไม่ใช่คนเย็นชา..."
"พอเถอะแม่ ไม่ต้องมาประชดกันหรอก" โชคดีเก็บโทรศัพท์แล้วเดินปึงปังออกไปนอกร้าน
"พนันกันไหมพงษ์ ถ้าฉันกับเธอจะเข้ากรุงเทพฯ ไปเยี่ยมคุณชยุตม์ หมูปิ้งมันก็จะไม่ไปด้วย ลูกคนนี้มันร้ายจริงๆ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น" คุณเตือนใจถอนหายใจเฮือกใหญ่
...ทำไมจะไม่เคยเห็น คุณโชคดีก็คงเหมือนแม่นี่ล่ะ...
พงษ์คิดในใจ หากแสดงความเห็นว่า "ผมว่าไปครับ ถ้ารู้ว่านายช่างอาการหนักมาก คุณโชคดีต้องไปแน่ๆ"
คุณเตือนใจยืนนิ่งชั่วครู่แล้วตาลุกวาบ คิดอะไรได้บางอย่าง แล้วจึงพยักหน้าให้พงษ์เดินตามเข้าไปในห้องทำงาน
...หมูปิ้ง ต้องโดนสั่งสอนเสียบ้าง ร้ายนัก ต้องเอาให้เข็ด...

ร้อยตำรวจเอกปฐพีหัวเราะลั่นเมื่อได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากจังหวัดน่าน จนจักริณทร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมาทำหน้าแปลกใจที่อยู่ดีๆ ผู้กองหนุ่มมาดเท่ออกอาการ 'หลุด' แบบที่เขาไม่เคยเห็น
ปฐพีเอาแต่พยักหน้ารับคำแล้วจึงวางสาย แต่ใบหน้ายังระบายยิ้มอยู่เป็นนานจนจักริณทร์ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"คุณนายเตือนใจจะดัดหลังโชคดี" ปฐพีตอบ
"หมายความว่ายังไงครับ"
"ถ้าเป็นโชคดี คุณจะมาเยี่ยมชยุตม์ไหมครับ คนที่ไม่กินเส้นกน คุณจะมาเยี่ยมหรือเปล่า" ปฐพีถามยิ้มๆ
"พูดถึงเรื่องนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม" จักริณทร์พูดเสียงเบา แล้วยิ้มออกมาเศร้าๆ "บางทีมันน่าจะถึงเวลาแล้ว"
ปฐพีมองหน้าของจักริณทร์แล้วนึกภาพของโชคดี เขาเข้าใจความรู้สึกของจักริณทร์ดี สิ่งที่ชายหนุ่มเพิ่งพูดไป เขาก็ควรจะเป็นคนพูดด้วยเช่นกัน
"ผมขอโทษ" ปฐพีทำหน้าอ่อนโยน เสียงนุ่ม
"ขอโทษทำไมครับ" จักริณทร์เลิกคิ้วถาม
"สิ่งที่ผมพูดอาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดี"
จักริณทร์ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้นายตำรวจหนุ่มแล้วยื่นมือไปวางบนหลังมือของอีกฝ่าย
"ผมเข้าใจ ผมคิดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และตระหนักว่าเราฝืนมันไม่ได้ หากยุตม์จะเปลี่ยนไป ไม่มีประโยชน์ที่จะไปห้ามและรั้งเขาไว้"
ปฐพีนิ่งรอฟังจักริณทร์พูดต่อ ในใจเขาอดรู้สึกเจ็บแปลบไม่ได้เมื่อนึกภาพว่าโชคดีจะกลายเป็นของชยุตม์
"จะว่าไป โทษยุตม์ฝ่ายเดียวก็ไม่ผิด เพราะผมเองก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน แล้วนี่เรายัง..."
"เมื่อคืนนี้ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ นะครับ และทำไปด้วยมีสติครบทุกอย่าง ส่ิงที่เกิดขึ้นมีความหมายกับผมมาก" ปฐพีทำหน้าจริงจัง
จักริณทร์มองตาของปฐพีนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วดึงมือกลับไป ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องถามนายตำรวจหนุ่มว่าที่จะดัดหลังโชคดีนั้นจะทำอย่างไร ใครเป็นคนทำ และเมื่อไหร่
"ชักรู้สึกสนุก" จักริณทร์ยิ้มบางๆ หลังจากได้ยินปฐพีเล่าแผนการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
"คุณชยุตม์จะเข้าไอซียู อาการทรุดหนักไม่รู้สึกตัว ลองดูซิว่าถ้าถึงขนาดนี้แล้ว โชคดีจะทำเย็นชาไม่มาเยี่ยมคนป่วยเชียวหรือ และที่สำคัญ ที่คุณชยุตม์เจ็บแบบนี้ก็เพราะเร่งจัดการเรื่องประตูน้ำที่โชคดียกขึ้นมาเป็นประเด็ดต่อต้านการสร้างรีสอร์ทนั่นล่ะ"
“ยุตม์จะยอมร่วมมือหรือครับ” จักริณทร์ถาม “รายนั้นไม่เคยทำอะไรนอกตำราเลย ตรงไปตรงมาตามหลักเกณฑ์ถูกต้องตามกฏระเบียบทุกอย่าง โกหกก็ไม่เป็น กลัวว่าคุณโชคดีจะจับได้”
“ไว้เป็นหน้าที่ผมเอง” ปฐพียิ้มกว้าง “อย่างที่จักรพูด ท่าทางน่าสนุก”

โชคดีเดินไปตามทางเดินหน้าห้องแถวในตลาดสด มองดูสิ้นค้าที่วางขายอย่างเบื่อๆ แต่ทว่า เมื่อเดินผ่านแผงขายหนังสือพิมพ์ก็ต้องหยุดกึกเมื่อตาเหลือบไปเห็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
...ชยุตม์! เป็นไปได้ยังไง...
โชคดีหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน หัวใจเต้นแรง มือแทบไม่มีแรงถือสิ่งที่อยู่ในมือ ข่าวที่กำลังอ่านทำให้เขาแทบช๊อค
ชายหนุ่มวางหนังสือพิมพ์ แล้วเร่งฝีเท้าตรงไปที่รถเพื่อรีบกลับบ้าน แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าขาวสะอาดตาตี่ของทรงศักดิ์โผล่มาขวางหน้า
“โชคดีอย่าไล่เรานะ” ทรงศักดิ์รีบชิงพูดขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะไล่ให้ถอยไป
“กำลังอารมณ์ไม่ดีนะซ่ง จะพูดอะไรก็พูดเร็วๆ”
“เราอ่านข่าวคุณคนนั้นแล้วล่ะ” ทรงศักดิ์พูดเสียงเบา
“เขามีชื่อ” โชคดีหน้าเคร่ง
“ทำไมโชคดียังไม่ไปเยี่ยมเขาอีก ยังอยู่ที่น่านอีกหรือ”
“ไปทำไม”
“ก็จะรออะไรอีกล่ะ นี่เราต้องเจ็บปวดแค่ไหนที่จะพูดกับโชคดีแบบนี้รู้หรือเปล่า” ทรงศักดิ์ทำเสียงขื่น
“จะไปรู้ได้ยังไง ก็พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ หยุดอ้อมค้อมได้แล้วซ่ง คนกำลังรีบ” โชคดีดุเสียงห้วน
“ตัวเองนั่นล่ะอ้อมค้อม รักเขาชอบเขาก็ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด เดี๋ยวไม่ทันดูใจเขาหรอก”
“ปากไม่ดี คนยังไม่ได้ใกล้จะตายซักหน่อย” โชคดีถลึงตา ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ส่งผลให้อีกฝ่ายถอยหลังไปหนึ่งก้าวเช่นกัน
“เราตัดใจได้แล้วล่ะที่โชคดีไม่รักเรา แต่เราก็อยากให้โชคดีมีความสุขนะ อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่าสิ คิดยังไง รู้สึกยังไง โชคดีต้องทำตามหัวใจตนเอง เราจะได้มองอยู่ห่างๆ ว่า คนที่เรารักได้สมหวังในรักแล้ว” ทรงศักดิ์เสียงสั่น
หากเป็นเมื่อก่อน โชคดีก็คงตวาดตี๋หนุ่มแล้วพูดว่า เอียนและเลี่ยนกับการพูดที่อีกฝ่ายคงไปจำมาจากละครทีวีหรือหนังสือนิยาย แต่ตอนนี้โชคดียืนนิ่ง ไตร่ตรองถึงสิ่งที่ทรงศักดิ์ คนที่หลงรักเขาหัวปักหัวปำมาตั้งแต่เรียนมัธยมพูดกับเขา
โชคดียอมให้ทรงศักดิ์เดินมาส่งที่เงียบๆ ก่อนจะขั้นนั่งบนรถ ชายหนุ่มหน้าดุหันไปพูดกับคนที่หลงรักเขาหัวปักหัวปำมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ซ่ง ขออะไรซักอย่างได้ไหม ไม่เคยขอให้ทำอะไรเลย แต่ตอนนี้ทำให้หน่อยเถอะ”
“ได้สิหมูปิ้ง จะให้ซ่งทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่อย่าบอกให้ซ่งไปตายเลยนะ มันเจ็บปวด หยุดว่าเราแบบนั้นซะที เราจะ...”
“หยุดพูดมากได้แล้ว” โชคดีอดถอนหายใจไม่ได้ “เราอยากจะขอให้ซ่งแต่งงาน”
“ฮ้า” ทรงศักดิ์ตาเหลือก อ้าปากค้าง แต่ครั้นได้สติแล้วก็โวยวายลั่น “จะบ้าหรือ ต่อให้เรารักหมูปิ้งมากแค่ไหนเราก็ทำอย่างที่ขอไม่ได้หรอก เป็นตายยังไงก็...”
“พูดเล่น” โชคดีหัวเราะเบาๆ “ทำเป็นตี๋ตื่นไฟไปได้”
“บ้า ล้อเล่นแบบนี้ตกใจหมดเลย” ทรงศักดิ์หน้ามุ่ย
“เราอยากให้ซ่งมีความสุข อยากให้ซ่งลองเปิดใจมองคนอื่นบ้าง” โชคดีทำหน้าจริงจัง มองใบหน้าขาวๆ ของทรงศักดิ์ด้วยประกายตาอ่อนโยน
“จะทำได้ยังไง เรารักหมูปิ้งแล้ว มอบใจให้ไปหมดไม่เหลือ”
“ขอคืนได้ไหม”
“โชคดียังเก็บไว้อยู่อีกหรือ” ทรงศักดิ์ทำเสียงตื่นเต้น
“ไม่เคยทิ้งไปไหนหรอก” โชคดียิ้ม “เรารู้ว่าซ่งดีกับเรา แต่ใจคนมันก็บังคับกันไม่ได้หรอกนะ พอโชคชะตาเล่นตลกกับเราแบบนี้แล้ว เราก็อยากให้ซ่งได้สมหวังบ้าง”
“ใครล่ะหมูปิ้ง ในเมืองน่านนี่จะมีใครสำหรับเรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่จะลืมหมูปิ้งได้ ก็รู้อยู่ไม่ใช่หรือว่า เรานะคิดว่าหมูปิ้งกับเรานั่นเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ชาติที่แล้ว” ทรงศักดิ์ตีหน้าเศร้า
“ถ้ายังงั้นก็รอต่ออีกชาติแล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ชาตินี้เราไม่ได้คู่กัน” โชคดีชักจะใจเย็นต่อไปไม่ได้แล้ว
“ไม่เป็นไร บอกแล้วไงว่าเราตัดใจแล้ว ชาตินี้โชคดีเป็นของนายช่าง เราจะอวยพรให้มีความสุข แต่โชคดีต้องไม่ปล่อยเวลาให้เสียไป เดี๋ยวนายช่างไปเจอคนอื่น จะมาเสียใจแบบเราที่เอาแต่นั่งมองหัวใจหลุดลอย” ทรงศักดิ์ทำหน้าเศร้ามากกว่าเดิม
โชคดีตัดบท ขอบใจทรงศักดิ์สำหรับความรักและความหวังดี ฝ่ายนั้นยังพยายามจะคุยต่อ แต่ชายหนุ่มบอกว่าต้องรีบกลับบ้าน ตลอดทางนึกถึงคำพูดของทรงศักดิ์แล้วต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
...ไม่ต้องกลัวว่านายช่างจะไปเจอคนอื่นหรอก นายช่างเขามีเจ้าของแล้ว ยิ่งเจ็บหนัก คนรักของนายช่างก็คงคอยห่วงหวง คนจะเห็นใจกันและรักแนบแน่นมากยิ่งกว่าก็ตอนเจ็บหนักนี่ล่ะ...
...เขาเป็นใคร เป็นอะไรกับชยุตม์ อย่างที่โต๋ว่านั้นก็ถูก...
...แต่เขาไม่ได้เกลียดชยุตม์นะ ไม่ได้เกลียดอย่างที่ชยุตม์ชอบปักปรำว่าเขาเกลียด...

เมื่อกลับถึงบ้าน โชคดีถามหาแม่ของตัวเองทันที แต่คำตอบที่ได้รับทำให้อารมณ์เขาเดือดจนต้องโวยวายเสียงดัง
“แม่กับน้าพงษ์ไปกรุงเทพฯ แล้วทำไมไม่บอก อยู่ๆ ไปเลยแบบนี้หรือ”
“เห็นบอกว่าเรื่องด่วนค่ะ พออ่านหนังสือพิพม์แล้วก็ไปเลย” เสมียนประจำร้านร้ายงานพร้อมยื่นหนังสือพิมพ์ให้เจ้านาย “บอกไว้แต่เพียงว่าถ้าคุณโชคดีจะตามไปก็ให้โทรไปบอก”
...แม่นะแม่ ไม่ชวนซักคำ...
...ถ้าชวน เขาจะไปหรือเปล่า...
...ไม่ไปได้ยังไง ชยุตม์อาการหนักขนาดนี้ จะให้นั่งดูดายทำเย็นชา ใจไม้ใส้ระกำ ใจจืดใจดำอ่างที่โต๋กับแม่เขาพูดได้ยังไง โต๋นั่นเขาเชื่อว่าพูดด้วยใจซื่อ แต่แม่เขาพูดเพราะจงใจกระทบกระเทียบ...
...แล้วเขาใจดำไม่ไปเยี่ยมคนป่วยอย่างที่แม่เหน็บแนมจริงหรือ...
...เขาไม่ได้เย็นชา แต่จะให้ไปได้อย่างไร จักริณทร์ก็อยู่ อีกอย่าง ชยุตม์ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนัก แค่ขาหักกระตูกแตก...
...แต่ตอนนี้หนักแล้วนี่ ในหนังสือพิมพ์ก็บอกวาทรุดลงต้องส่งเข้าไอซียู ไม่ได้สติ และหมอก็บอกว่าอาจต้องเป็นอัมพาต หรือโชคร้ายต้องตัดขาทิ้ง...
...อยู่เฉยๆ ก็ทรุดลง เป็นไปได้ยังไง...

โชคดีหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ของมารดาก่อนแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจึงกดเบอร์ของพงษ์ก็ไม่มีเสียงตอบรับเช่นกัน ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงอย่างหงุดหงิด หันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป แตทันใดก็นึกถึงผู้กองปฐพี
โชคร้ายเมื่อกดเบอร์ของนายตำรวจหนุ่ม ผลลัพท์ที่ได้ก็ไม่ต่างกัน
ชายหนุ่มก่นด่าบริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือพร้อมกับตำหนิเจ้าของโทรศัพท์ทั้งสามคนที่อาจจะปิดเครื่อง
...ทำไมจะต้องมาปิดเครื่องพร้อมกันทั้งสามคน แล้วนี่หากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำไมจะต้องมาซวยไม่มีพร้อมกันทั้งสามเครื่องด้วยนะ...
...โต๋...จริงสิ โต๋ไปกรุงเทพฯ กับพวกที่ทำงานรีสอร์ท น่าจะได้เยี่ยมชยุตม์แล้ว...
โชคดีนึกได้จึงโทรศัพท์หาโต๋ แต่เมื่อได้ยินเสียงของปลายสายที่ไปหาก็อารมณ์เดือดถึงขีดสุด โทรศัพท์ในมือจึงลอยไปกระทบผนักห้องแตกละเอียด
...บ้ากันไปหมดแล้ว ติดต่อใครไม่ได้เลย...

ชยตม์นอนลืมตาโพลงมองเพดานอย่างเบื่อๆ คืนที่ผ่านมาเขานอนไม่ค่อยหลับ วันนี้ก็นอนกลางวันไม่หลับเช่นกัน ขณะนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น บรรยากาศในห้องผู้ป่วยพิเศษเงียบสงัด มีเพียงเสียงแอร์ดังเบาๆ เขารู้สึกคันขายุบยิบ อยากจะล้วงมือเข้าไปเกาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเข้าเฝือก เขาแปลกใจที่ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเท่าไหร่นัก เพียงแต่รำคาญที่ทำอะไรไม่ค่อยถนัด
แต่นั่นเป็นเพียงความลำบากทางกาย ที่แย่กว่านั้นก็คือ ตอนนี้หัวใจเขารู้สึกทรมานเหลือเกิน นอนอยู่คนเดียวทั้งคืนทั้งวัน หลับตาลงก็เห็นแต่ภาพใบหน้าดุๆ ของโชคดีคอยรบกวนอยู่ร่ำไป
...แล้วนี่โชคดีจะมาเยี่ยมเขาอย่างที่ปฐพีรับประกันจริงหรือ...
ชยุตม์พยายามพลิกตัวเพื่อเปลี่ยนท่านอนเพราะรู้สึกปวดเอว เขาอยากจะลุกขึ้นเดินเล่นนอกห้อง ทนอยู่ในห้องพักคนป่วยมาหลายวัน เขาไม่อยากทนอยู่ต่อไปอีกแล้ว ถ้าทำได้ อยากกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านเสียไวๆ
...บ้านหลังเล็กริมธาร อิงแอบธรรมชาติ หลังที่โชคดีพูดเหน็บแนมเขาคราวที่ทานอาหารมื้อพิเศษกับคุณพ่อและคนอื่นๆ ที่จวนผู้ว่าราชการ...
คุณเตือนใจกับน้าพงษ์มาเยี่ยมเขาเมื่อตอนบ่าย หลังจากที่กลุ่มลูกน้องที่รีสอร์ทมาเยี่ยมเมื่อตอนสายๆ วันนี้เขาต้องรับแขกแทบตลอดวัน
...แต่แขกคนไหนก็ไม่มีคนชื่อโชคดีโผล่มาเยี่ยมซักที...
...ใจร้ายจริงๆ คนอะไรใจแข็งที่สุด...
ปฐพีกับคุณเตือนใจและพี่ชายของเขาวางแผนหลอกโชคดีให้ตกใจด้วยการออกข่าวว่าอาการของเขาทรุดหนัก โดยหวังว่าโชคดีจะต้องกังวลใจจนมาเยี่ยมเขาที่กรุงเทพฯ คุณแม่ของโชคดีบอกว่าลูกชายต้องมากรุงเทพฯ แน่นอน แต่เขาชักจะหวั่นใจ ข่าวออกไปตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น โชคดีก็ไม่โผล่มา
...“ปิดโทรศัพท์กันหมดทุกคน ให้หมูปิ้งโทรจนบ้าเลือด ทุรุนทุราย เพราะโทรยังไงก็โทรไม่ติด ดูซิ มันจะยอมมากรุงเทพฯ หรือเปล่า ระหว่างนี้ ฉันกับพงษ์จะไปชอบปิ้งที่ห้างสยามพารากอน”...คุณเตือนใจเป็นคนเสนอความคิด
...โชคดีนะโชคดี มาทำให้เขารักทำไมก็ไม่รู้ ต่อจากนี้ไปจะทำยังไงล่ะ เขาก็คงต้องเหนื่อยปราบพยศพ่อตัวร้ายแห่งเมืองน่านสิท่า ไม่รู้จะเจออะไรบ้าง...

โชคดียืนหน้าง้ำอยู่หน้าแผงขายหนังสือพิพม์หน้าตลาด รอคำตอบจากคนขายอย่างกระวนกระวาย วันนี้แปลกมาก จวบจนหกโมงเย็นแล้ว หนังสือพิมพ์ฉบับยังไม่มาถึง
“สายส่งไม่เคยช้านะคะ ปกติก็มาถึงแล้ว” คนขายกล่าว สีหน้าไม่สู้ดีเพราะโชคดีกำลังทำหน้าฉุนเฉียว
“นี่หกโมงแล้ว ข่าวสารบ้านเมืองไม่ต้องรู้กันพอดี” โชคดีเสียงห้วน
“หนูโทรไปแล้ว แต่ไม่ติด รออีกหน่อยนะคะคุณโชคดี นี่จะรออ่านข่าวอะไรหรือคะ ไม่อ่านฉบับนี้เลยหรือคะ” คนขายพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน มือหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับที่สายส่งมาส่งแล้วให้ชายหนุ่มหน้าดุ
“ไม่ ไม่เห็นมีข่าวนั้น” โชคดีส่ายหน้า ก้มลงมองหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นอกครั้ง แล้วหันไปหยิบอีกฉบับหนึ่งขึ้นมาดูแต่ก็ไม่เห็นข่าวของชยุตม์เช่นกัน
...เอ๊ะ แล้วทำไมไม่ลงข่าว หนังสือพิพม์คู่แข่งกัน ฉบับนั้นยังลงรูปด้วยเลย แม้ไม่ใช่พาดหัวข่าวหลัก แต่ก็เป็นพาดหัวข่าวรองที่ตัวหนังสือใหญ่ไม่ใช่เล่น อีกเล่มหนึ่ีงก็ลง แต่เล่มนี้ไม่ลง...
โชคดีหยิบหนังสือพิมพ์ทุกฉบับขึ้นมาดู จึงเห็นว่ามีเพียงสองฉบับที่ลงข่าวชยุตม์ อีกสามฉบับไม่ลง แต่ฉบับที่เขากำลังรออยู่นั้นลงกรอบใหญ่มากกว่าฉบับอื่นๆ พร้อมลงรูปภาพชัดเจน รูปถ่ายของชยุตม์หน้าตาหล่อเหลา วันนี้เสมียนที่ร้านของเขาคุยกันให้ได้ยินว่าน่าสงสาร คนหล่อๆ ยิ่งกว่าพระเอกหนังต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
ขณะที่กำลังเปรียบเทียบข่าวในหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ สายส่งหนังสือพิมพ์ฉบับที่เขาต้องการก็มาถึง โชคดีจึงได้อ่านข่าวของชยุตม์สมใจ
รูปภาพของชยุตม์บนหน้าหนึ่งของหนังสือที่มียอมจำหน่ายเป็นอันดับสองของประเทศนั้นดูน่าสงสาร ขาเข้าเฝือกทั้งสองข้าง ชยุตม์นอนอยู่บนเตียง เห็นหน้าด้านข้างไม่ชัด มีเครื่องมือการแพทย์หลายเครื่องตั้งอยู่ใกล้ๆ ชยานนท์พี่ชายของชยุตม์นั่งทำหน้าเศร้า มือวางอยู่ใกล้ปลายเท้าน้องชาย
...อาการยังไม่ดีขึ้นเลย แพทย์ยังหนักใจ ขณะนี้กำลังทำการรักษาอย่างเต็มที่เพราะไม่อยากให้ถูกตัดขา...
...ชยุตม์...น่าสงสารชยุตม์...
...เพราะเร่งงานเรื่องรื้อถอนประตูน้ำรีสอร์ทนั่นที่เดียวที่ทำให้ชยุตม์ประสบอุบัติเหตุ จะว่าไปก็ความผิดของเขา ชยุตม์คงพยายามทำให้เขาเห็นว่ารีสอร์ทได้ “ยอม” ต่อการเรียกร้องของเขาแล้ว
“น่าสงสารลูกชาย ม.ท. 1 หน้าตาก็ดี๊ดี ไม่น่าจะกลายมาเป็นคนพิการเลย ยิ่งเรื่องเกิดที่น่านแล้วยิ่งเศร้า แต่รูปหน้าไม่ค่อยชัดเลย ไหนดูเดลี่นิวส์ซิ เผื่อลงรูปหล่อๆ ชัดๆ”
เสียงสาวใหญ่คนหนึ่งดังขึ้นข้างๆ ทำให้โชคดีหันไปมอง ผู้หญิงคนนั้นคว้าหนังสือพิมพ์อีกฉบับขึ้นมาอ่ารนแล้วบ่นเสียงดัง “อ้าว เล่มนี้ไม่มี ทำไมล่ะ ปกติแข่งกันออกข่าวนี่ เสียดาย ไม่ได้ดูคนหล่อ”
โชคดีขมวดคิ้ว ในสมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว มือหยิบหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทั้งสองฉบับที่เป็นคู่แข่งกันขึ้นมาเปรียบเทียบข่าวหน้าหนึ่ง
...ปกติสองฉบับนี้ขัดเคี่ยวกันเรื่องการเสนอข่าว หากข่าวของชยุตม์ลงหน้าหนึ่งของอีกฉบับพร้อมมีภาพชัดเจนตั้งสองวันติดต่อกัน อีกฉบับหนึ่งน่าจะมีข่าวบ้าง ถึงไม่ลงภาพก็น่าจะมีช่องข่าวเล็กๆ อาการลูกชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทรุดหนักเสี่ยงถูกตัดขา ไม่มีข่าวก็แปลกล่ะ...
โชคดีล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหามารดาอีกที แต่ก็ยังไม่ติดเช่นเคย ปฐพี พงษ์ หรือโต๋ ล้วนแต่ปิดเครื่อง
...เอ๊ะยังไงกัน...
สมองอันชาญฉลาดของโชคดีเริ่มวิเคราห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว...
ใช้เวลาไม่นาน ชายหนุ่มก็คิดอะไรได้บางอย่างจึงกดหมายเลขของบริการสอบถามเลขหมาย ทันทีที่ได้หมายเลขโทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่ชยุตม์รักษาตัว โชคดีก็ไม่รีรอ และเมื่อโทรไปที่โรงพยาบาล เพียงแค่บอกชื่อและนามสกุลของผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ก็ต่อสายให้เขา
...ห้อง 1913...
...ชยุตม์ ลูกชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย...
“คุณชยุตม์ เป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่มีคนรับสาย โชคดีกรอกเสียงลงไปทันที
“โชคดี” เสียงปลายสายตอบกลับ น้ำเสียงฟังดูดีใจ แต่ก็นิ่งไปชั่วครู่
“ผมเป็นห่วงคุณมาก” โชคดีทอดเสียงอ่อนโยน “เป็นห่วงมากจริงๆ”
“เอ่อ...ผม”
“เสียงดูสดชื่นนะครับ ได้ยินเสียงคุณแล้วผมก็โล่งใจ อ่านข่าวคุณแล้วก็ตกใจมาก แต่อาการหนักขนาดนี้รับโทรศัพท์ได้ด้วยหรือ ในข่าวบอกว่าอยู่ในไอซียู” โชคดีเสียงนุ่ม พูดเสร็จก็เม้มปาก ในสมองวิเคราะห์หาเหตุผลอย่างรวดเร็วราวคอมพิวเตอร์
“คือว่า...”
...นั่นไงล่ะ อึกอัก ตอบไม่เป็นคำไม่เป็นประโยค โกหกแน่ๆ คิดว่าโชคดีจะจับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรือ...
...เจ็บใจนัก ชยุตม์คิดได้เองหรือว่าใครคอยช่วย...
...แม่ น้าพงษ์ ผู้กองปฐพี ชยานนท์ ไอ้โต๋...
...มิน่า ปิดโทรศัพท์กันหมดทุกคน...
...เล่นกับโชคดีแบบนี้เลยหรือ...
***** 21 *****

ออฟไลน์ CHOKUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
โอ๊ย ทำไมโชคดีมันฉลาดยังงี้ อยากให้ไปเยี่ยม ลงทุนขนาดนี้ พ่อโชคดีเนี่ยยังไม่ยอมไปเยี่ยมเลย สงสารนายช่างจัง :m16: :m16: :m16: :m16:

speedboy

  • บุคคลทั่วไป
นายโชดีเนี่ย   คนหรือคอมพิวเตอร์คร้าบ


ฉลาดเกิ๊น   แล้วจะได้รักกันมั้ยละคร้าบเนี่ย


 :oni2: :oni2: :oni2:

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกโดนจับได้กันยกแก๊งค์
จะแก้ตัวกันยังงัยละทีนี้ 5555555555555555

upzyte

  • บุคคลทั่วไป
ว่าไปแล้ว โชคดีก็ไร้มนุษยธรรมไปหน่อยนะ

ขนาดบางคนทะเลาะกัน ป่วยขนาดนี้ยังควรไปเยี่ยมเลย

สงสารแต่ชยุต คนอะไรนิสัยโครตน่ารัก

Cn-Nt

  • บุคคลทั่วไป
งานเข้า....................อย่างแรง......

 :fire:

jajey9

  • บุคคลทั่วไป
โชคดี ฉลาดมากกกกกก
อย่างนี้ ชยุตม์ และทุกคน จะทำไงต่ออ่ะ
 :m31:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
โชคดีจะฉลาดเกินไปแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว  :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
โชคดีเป็นคนที่ฉลาดเว่อร์มากๆ

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
ทำไมโชคดีฉลาดงี้ฟะเนี่ย = ='
ยังงี้ไม่โมโหคนอื่นแย่เร้อออ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
โชคดีฉลาดแบบนี้ นายช่างอาจจะยอมแพ้???

ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
นี้ขนาดหลายคนช่วยกันคิดแล้วนะครับ เนี่ย
ยังเอาหมูปิ้งไว้ไม่อยู่เลยอะ
ดันฉลาดเกินคนซะงั้น
เก่งจังเลยโชคดี แต่ดูถ้า มีวิธีแก้เผ็ดกันแน่เลย
แต่คนที่โดยชัวร์แน่เลย ดูถ้าน่าจะเป็นชตุยม์  :z1:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าโชคดีไม่ฉลาดมันก็ต้องยืดอีกหลายบทสิคร้าบบบบ  :m20:  :m20:  :m20:

บทที่ 22 ตอนจบ

22

แสงแดดจ้า ลมทะเลเย็นสบาย อากาศสดชื่น คนที่เพิ่งจะเห็นทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิตนอนอยู่บนเตียงผ้าใบ กระดิกเท้าอยู่อย่างสบายอารมณ์
...ให้รู้ซะบ้าง ใครจะมาเล่นกับโชคดีก็ต้องเจอฤทธิ์โชคดีหน่อยละ ป่านนี้คงวิ่งวุ่นหาตัวเขาแล้วสิ...
...เจ็บใจชยุตม์นัก นี่คงเป็นคนต้นคิด วางแผนหลอกให้เขาตกใจเมื่อเห็นอาการของตัวเองทรุดหนัก ต้องรีบเข้ากรุงเทพฯ มาเยี่ยม ลงทุนมหาศาล จ้างหนังสือพิพม์เขียนข่าว หมดเงินไปเท่าไหร่ไม่รู้...
...เป็นไงล่ะ รถของนายโชคดี โชคไม่ดีเสียหลักลงข้างทาง เจ้าของหายตัวไปไหนก็ไม่รู้...
...อีกไม่นาน ผู้กองปฐพีก็คงหารถเจอ แต่จะหาตัวเขาเจอนี่ไม่ง่ายนักหรอก...
...เอ แต่ว่าปฐพีรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า คนอย่างปฐพีไม่น่าจะเจ้าเล่ห์ คิดอะไรแบบนี้ออก แล้วแม่ล่ะ...
...รู้สิ ทุกคนที่ปิดโทรศัพท์ต้องรู้เรื่องกันหมดทุกคน...
...เดี๋ยวจะกลับไปคิดบัญชีให้ครบถ้วนเลย...

ชยุตม์แทบทรุดเมื่อได้ยินข่าวจากปฐพีว่าโชคดีหายตัวไป เห็นแต่รถที่ประสบอุบัติเหตุ พยานก็ไม่มีใครเห็นร่องรอยของชายหนุ่มหน้าดุสักคน
“ทำใจดีๆ ไว้ก่อนครับ ตอนนี้กำลังเช็คโรงพยาบาลแถวพิษณุโลก ชื่อโชคดีจำได้ง่าย ถ้ามีใครนำตัวส่งโรงพยาบาล เราต้องหาตัวเจอได้เร็วแน่” ปฐพีให้กำลังใจ
“หมูปิ้งลูกแม่ ไม่น่าขับรถมาเองตอนกลางคืนเลย เด็กที่ร้านก็มี ทำไมไม่ให้ใครมาเป็นเพื่อน” คุณเตือนใจคร่ำครวญ ทรุดตัวลงนั่งกับโซฟา มีพงษ์ยืนอยู่ห่างๆ และมองด้วยความห่วงใย
ชยุตม์ถอนหายใจลึกๆ แล้วพูดกับปฐพีว่าจะขอให้พ่อของเขาช่วย แต่นายตำรวจแย้งว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตโดยใช่เหตุ
“ให้ผมพยายามก่อนเถอะนะครับคุณชยุตม์ อีกไม่นานต้องเจอโชคดีแน่”

อาหารทะเลหลากชนิดลำเลียงมาวางบนโต๊ะ โชคดีคว้ากุ้งเผาก่อนเป็นอย่างแรก และรับประทานหมดไปกว่าครึ่งจานภายในเวลาไม่นาน ตามด้วยปูนึ่งและปลาหมึกย่าง
“รู้ยังงี้มาทะเลตั้งนานแล้ว” ชายหนุ่มพึมพำแล้วก้มหน้ารับประทานต่ออย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่สังเกตว่ามีใครบางคนมองอยู่
โชคดีเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อสัญชาตญาณบอกว่ามีใครบางคนจ้องมอง แต่ครั้นเห็นคนที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของร้านอาหารก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
...พ่อของชยุตม์!
...ท่านรัฐมนตรีมหาดไทยมาทานข้าวอะไรแถวนี้ ดูท่าจะมาคนเดียวเสียด้วย...
ชายหนุ่มเมืองเหนือผู้กำลังอร่อยกับอาหารทะเลวางก้ามปูลงบนจาน ยิ้มบางๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปสวัสดีผู้ที่สูงวัยกว่า
“ท่าทางอร่อยนะครับคุณโชคดี มาคนเดียวหรือ” ม.ท. 1 ถามหน้ายิ้มๆ แต่ฉายแววแปลกใจ
“ครับ ผมมาทะเลเป็นครั้งแรก”
“มาเยี่ยมชยุตม์แล้วเลยมาทะเลละสิ ใช่ไหม ลุงก็แอบมาเที่ยวเหมือนกัน งานยุ่งมาก ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว พอดีมาประชุมที่ระยองก็เลยแวบมาเกาะเสม็ดซะเลย นี่คงกำลังตามหาตัวลุงกันวุ่น ม.ท. 1 หาย จะเป็นข่าวหรือเปล่าก็ไม่รู้” ม.ท. 1 หัวเราะชอบใจ
โชคดียิ้ม ไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้พ่อของชยุตม์คุยอยู่คนเดียว
“เบื่อนักข่าว นี่ก็ตามสัมภาษณ์เรื่องยุตม์อยู่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็ออกข่าวว่าอาการทรุดหนัก ลุงก็ไม่เห็นเป็นอะไรมาก อีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
...จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ก็เกิดอยากแกล้งโชคดีสนุกๆ กันนะสิครับ...
โชคดียิ้มเย็นๆ หรี่ตาลงเล็กน้อย หายใจฟึดฟัด นึกภาพใบหน้านิ่งๆ ของ “วิศวกรคนนั้น” อย่างมาดร้าย
“แต่ย้ายเข้ากรุงเทพฯ ก็คงอาการหนัก...”
“ตอนนั้นลุงตกใจ เลยทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไปหน่อย ยุตม์ไม่รู้สึกตัวเลยนี่ ขาก็ชาไม่รู้สึกอะไร ลุงกลัวลูกเป็นอัมพาตก็เลยพามารักษากับอาจารย์หมอ อยู่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด อีกอย่าง จะได้มีคนช่วยกันดูแล” ม.ท. 1 อธิบายยิ้มๆ
...ช่างแตกต่างจากชยุตม์ยิ่งนัก ดูยังไงพ่อของชยุตม์ก็ไม่เหมือนกันลูกชาย...
...ท่านรัฐมนตรีฯ ดูเปิดเผย ท่าทางลุยๆ ส่วนลูกชายดูเงียบๆ ขรึมๆ เป็นผู้ใหญ่...
...อ้อ เจ้าเล่ห์ด้วย...
“แล้วนี่เขายอมให้มาเที่ยวทะเลคนเดียวหรือ”
โชคดีเลิกคิ้ว “ใครครับ”
ท่านรัฐมนตรีฯ ยิ้มกว้าง แล้วถอนหายใจแรงๆ ทำเหมือนยอมรับความจริงอะไรบางอย่าง
“ก็จะใครซะอีกล่ะ”
โชคดียังขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจอยู่ดี ชายหนุ่มจึงถามตรงๆ ออกไปอีกครั้ง
“ลูกชายลุงนะสิ” ท่านรัฐมนตรีฯ ตอบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งขรึม โน้มตัวมาข้างหน้า มองตาโชคดีอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนอยู่โรงพยาบาลน่าน ยุตม์มันเพ้อจนจักรน้ำตาซึม ต้องเดินหนีออกจากห้อง ถามจริงๆ เถอะ เป็นอะไรกันหรือเปล่า”
โชคดีอึ้งไปชั่วขณะ ไม่นึกว่าจะได้ยินพ่อของชยุตม์พูดแบบนี้ “ท่านทราบ...”
“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ ลูกรักคนสุดท้องนี่นา ตอนแรกที่รู้ว่ายุตม์เป็นยังไงลุงก็รับไม่ค่อยได้เหมือนกัน แต่มีประสบการณ์ครั้งแรกกับชยานนท์มาก่อน พอรู้เรื่องยุตม์ก็เลยทำใจได้ง่าย อีกอย่าง ยุตม์นี่มันเป็นคนดีมาก ลุงยังคิดว่าเป็นลูกเทวดามาเกิด พอรู้เรื่องว่าคงหมดโอกาสได้ลูกสะใภ้คนที่สองแน่ๆ ลุงก็โกรธยุตม์ไม่ลงเพราะลูกลุงดีจนยังรู้สึกอายเลยว่าตัวเองก็ไม่ค่อยได้เลี้ยงลูกเท่าไหร่ แต่ทำไมมันโตมาเป็นเทพบุตรแบบนี้ ลุงไม่ใช่คนใจแคบ ไม่ใช่ไดโนเสาร์นะ พอได้ไตร่ตรองก็รับได้ไม่ยาก แต่ที่ไม่รู้ก็คือว่า ยุตม์มันนอกใจจักรเมื่อไหร่ และไม่นึกว่าจะเป็น...” ท่านรัฐมนตรีฯ อธิบายยืดยาว แล้วชี้นิ้วมายังคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ทำไมล่ะครับ” โชคดีถามเพราะอยากรู้
“ยุตม์น่าจะเหมาะกับจักร บุคลิกเขาไปกันได้ นั่งเงียบๆ อยู่ด้วยกันทั้งวัน คุยอะไรกันก็ไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องคอยเงี่ยหูฟัง พอรู้ว่าเป็นโชคดี ลุงก็ตกใจเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ แต่มันคนละแนว”
โชคดีพูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว ท่านรัฐมนตรีเป็นคนตรงไปตรงมาพอๆ กับเขา พอเจอคนตรงแบบนี้เขาก็อึ้ง
“แต่ยุตม์เขาเก่ง ฉลาด ประนีประนอม เป็นคนอดทน คิดว่าน่าจะรับมือโชคดีได้”
“ฉลาดแกมโกง” โชคดีพึมพำ
“โกงที่ไหน” ผู้เป็นพ่อเลิกคิ้ว “ลุงรู้จักยุตม์ดี ไม่เห็นว่ามันโกงใครเป็น ขนาดคนขายไอสครีมทอนเงินผิด ยังปั่นจักรยานตาลีตาเหลือกเอาเงินไปคืน รถเขาหายไปแล้ว มันก็ยังตามหาวนไปวนมาในหมู่บ้านอยู่นั่นล่ะ โตขึ้นก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ลุงยังเคยคิดจะเข็นให้เล่นการเมืองเลย อยากให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง” พูดเสร็จ ม.ท. 1 ก็หัวเราะเสียงดัง
โชคดีลืมอาหารบนโต๊ะของตัวเองไปสนิทเพราะเริ่มจะคุยกันถูกคอกับท่านรัฐมนตรีฯ ชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังแล้วสรุปวา
“ลูกชายท่านต้องเป็นคนต้นคิดแน่ๆ “
“งั้นหรือ อืม ไม่น่าเชื่อ ยุตม์โกหกใครไม่เป็น และถ้าเริ่มพูดอะไรไม่ตรงกับใจนี่จะมองออกได้ง่ายมาก ลุงไม่เคยนึกว่ายุตม์จะคิดอะไรได้แบบนี้ ถ้าเป็นชยานนท์ล่ะไม่แน่ รายนั้นกะล่อน ไม่เคยจับได้ไล่ทันซะที”
“ผมได้ยินกับหูเลยนะครับ เขาบอกว่าเพิ่งออกมาจากไอซียู และหมอบอกว่าไม่ต้องตัดขาแล้ว” โชคดียืนยัน
“งั้นเอายังงี้ ต้องดัดหลัง โชคดีต้องหายไป อย่าให้ตามพบ ลุงมีเซฟเฮ้าส์ที่ระนอง ไปอยู่นั่นเลย เอาให้ทรมานตามหากันซักหนึ่งอาทิตย์” ม.ท. 1 วางแผน แล้วหันไปเรียกบริการให้ย้ายอาหารจากโต๊ะของโชคดีมานั่งทานด้วยกัน สองหนุ่มต่างวัยจึงเริ่มแผนการดัดหลังคนป่วย

จักริณทร์ยืนมองชยุตม์ด้วยสายตาครุ่นคิด แม้จะได้ตัดสินใจแล้ว แต่ในใจรู้สึกสับสนอีกครั้ง กว่าสามวันที่เขาไปทำงาน ขณะขับเครื่องบินอยู่บนท้องฟ้า มองเห็นปุยเมฆขาว เห็นพระอาทิตย์ทอแสงอ่อนยามเช้าส่องต้องปุยเมฆขาวกลายเป็นสีทองอ่อนๆ และเปลี่ยนเป็นสีเข้มยามเย็นทำให้เขาได้ตระหนักว่า ชีวิตใหม่ก็ควรจะมาถึง เฉกเช่นพระอาทิตย์ที่มีขึ้นและตก
เขาตระหนักได้ว่า ภาพใบหน้าของปฐพีตามไปรบกวนเขาอยู่ไม่น้อย และทันทีที่เครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ คนที่เขาอยากเห็นหน้าก่อนคนอื่นคือผู้กองปฐพี
“ไปคุยกับเขาหน่อยสิครับ วันนี้ไม่ทานอาหารเช้า เอาแต่นั่งเหม่อ” ปฐพียื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหู มือใหญ่แข็งแรงแตะไหล่ของนักบินหนุ่มและบีบเบาๆ
“คุณโชคดีหายไปกี่วันแล้วครับ” จักริณทร์ถาม
“สี่วัน” ปฐพีถอนหายใจ “ยังตามหาไม่เจอ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง”
“บอกพ่อชยุตม์หรือยัง” จิกริณทร์หันไปสบตากับปฐพี
นายตำรวจหนุ่มส่ายหน้า จักริณทร์จึงพูดต่อว่า”บอกเถอะ คุณลุงจะได้ช่วย รัฐมนตรีมหาดไทยสั่งการ อีกหน่อยก็หาเจอ”
ปฐพีพยักหน้า จักริณทร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนอนคนป่วย นายตำรวจจับมือของชายหนุ่มเอาไว้และบีบเบาๆ พร้อมกับถามว่า “จะบอกคุณชยุตม์ไหมครับ”
“บอกสิ เก็บไว้ทำไม ถึงเวลาแล้ว” จักริณทร์ยิ้มให้ปฐพีอย่างอ่อนโยน พนักหน้าแสดงความมั่นใจ แล้วเดินเข้าไปหาคนที่เขากำลังจะเรียกว่า ‘อดีตคนรัก’


katawoot

  • บุคคลทั่วไป
โชคดีบิดขี้เกียจพร้อมส่งเสียงครางเบาๆ ก่อนจะนอนแผ่หราต่อไป หลับตาพริ้ม รู้สึกสบายอย่างไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขานอนมองทะเลมาได้กว่าสองชั่วโมงแล้ว บรรยากาศสงบเงีบบทำให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ บ้านพักของท่านรัฐมนตรีมหาดไทยหลังใหญ่พอประมาณ กวาดถูจนเหนื่อย แต่เขาก็มีเวลาเหลือเฟือ นั่งๆ นอนๆ จนถึงวันนี้ก็ครบวันที่ห้าแล้ว ในใจคิดเอาไว้ว่า เมื่อครบหนึ่งอาทิตย์เต็ม เขาถึงจะกลับไปลุย ‘ขบวนการแกล้งหลอกโชคดี’ ที่กรุงเทพฯ อยู่เฉยๆ ก็โผล่ไปให้ตกใจเหมือนเห็นผีตอนกลางวันแสกๆ หลังจากนั้นค่อยสวมหน้ากากยมทูต จัดการกับคนต้นคิด
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง โชคดีรู้สึกเริ่มจะหิวข้าวจึงลุกขึ้นเดินเอื่อยๆ กลับไปที่บ้าน ตั้งใจว่าจะทำอาหารจานเดียวแล้วมานั่งทานริมทะเล ดูพระอาทิตย์ตกดินให้สบายใจ
แต่ทันทีที่เดินขึ้นไปบนบ้านก็รู้สึกแปลกๆ สัญชาตญาณระวังภัยบอกเขาว่ามีคนอื่นอยู่ในบ้าน ทำเสียงกุกกักอยู่ในห้องนอน โชคดีจึงคว้ามีดจากห้องครัวแล้วค่อยเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้โอ๊คสีดำแดงบานใหญ่
...เสียงเงียบไปแล้ว คิดจะแอบหรือ เจอโชคดีหน่อยเป็นไร...
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู แล้วค่อยๆ ดันประตูเปิดช้าๆ โผล่หน้าเข้าไปทีละน้อย สอดส่ายสายตาหาผู้บุกรุก มือกระชับมีดในมือเตรียมพร้อม แต่ครั้นมองเห็นว่าใครอยู่บนเตียง ชายหนุ่มก็ผลักประตูเข้าไปแรงๆ พร้อมตวาดเสียงดัง
“คุณมาทำไม มาได้ยังไงเนี่ย”
ชยุตม์หันขวับ แสดงท่าทางตกใจชั่วไม่กี่วินาที แล้วปรับสีหน้าให้นิ่งเรียบ ทำใจดีสู้เสือแล้วตอบคำถามที่ทำให้โชคดีฉุนกึกขึ้นมาทันที
“พ่อมาส่ง”
...ท่านรัฐมนตรีนะท่านรัฐมนตรี กล้าหักหลังเขา นี่เขาโดนหลอกอีกแล้วหรือ เจ็บใจนัก ทั้งพ่อทั้งลูก เจ็บใจนัก...
“ออกไป” โชคดีไล่
“ผมหรือ” ชยุตม์ตีหน้าซื่อ “นี่บ้านพ่อผมนะ”
“ผมมาก่อน ผมอยู่ก่อน คุณมาทีหลัง”
“อยู่ด้วยกันก็ได้นะโชคดี” ชยุตม์เสียงอ่อน มองโชคดีด้วยสายตาอ้อนวอน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายตาระวังภัยเมื่อมองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม
“ผมมาขอโทษ ขอโทษทุกอย่าง คุณจะด่าว่าผมยังไงก็ได้ แต่อย่าให้ถึงฆ่าแกงกันเลยนะครับ” ชยุตม์เล่นบทอ้อน เพราะรู้ว่ายังไงก็สู้โชคดีไม่ได้
“อยากต่อยให้ฟันหักนัก”
“ถ้าอยากทำแบบนั้น ผมก็ยอม” ชยุตม์ตีหน้าเศร้า จับทางโชคดีได้ว่า หากจะทำให้โชคดีอ่อนลง ต้องยอมผิดเอาไว้ก่อน ทำเป็นรู้สึกผิด ทำเป็นน้อยเนื้อต่ำใจ “ผมผิดที่โกหกคุณ ทำให้คุณเป็นห่วงจนต้องฝืนสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง”
“สัญญาอะไร” โชคดีตวัดเสียง
“ก็ที่เคยบอกว่าไม่เคยคิดจะเข้ามาเหยียบกรุงเทพฯ แม้แต่นิดเดียว แต่ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณต้องเข้ามา...”
“วางแผนกันดีนัก”
“ผมเปล่า...” ชยุตม์ปฏิเสธ
“งั้นใคร”
“เอ่อ...” ชยุตม์อ้ำอึ้ง
“ผมถามว่าใคร” โชคดีเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าเอาเรื่อง
“วางมีดลงก่อนนะโชคดีนะ” ชยุตม์ขอร้อง มือขวาจับหมอนเอาไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้ยกขึ้นป้องกันตัวได้ทัน
“กลัวผมจะตัดขาคุณหรือ” โชคดีตะคอก “อาการทรุดหนัก อาจเป็นอัมพาตหรือต้องตัดขา เรารึอุตส่าห์เป็นห่วง ตกใจที่จู่ๆ ก็มีข่าวออกไปอย่างนั้น เสียเงินให้หนังสือพิมพ์กันไปเท่าไหร่ละนี่ จ้างให้หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ลงข่างหน้าหนึ่งแบบนั้น คิดว่าจะทำให้ผมช็อคหรือยังไง รู้ไหมที่ขับรถเข้ากรุงเทพฯนี่ไม่ใช่เพราะข่าวนั้นนะ เพราะจะเข้ามาเอาเรื่อง ผมอ่านเกมออกตั้งแต่อยู่ที่น่านแล้ว”
“คุณไม่ได้เป็นห่วงใจผมจริงๆ ด้วย” ชยุตม์เสียงแผ่ว เริ่มแสดงบทน้อยเนื้อต่ำใจ “ไม่แม้แต่นิด”
...ใครบอก ชอบพูดเองเออเอง...
โชคดีพูดในใจ หันหน้าหนีไปถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นใบหน้าและแววตาเจ็บปวดของชยุตม์
“ถ้ายังงั้นผมกลับก่อนนะครับ” ชยุตม์ขยับตัวพยายามลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล
"ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากให้คุณมาเยี่ยมบ้าง ถึงไม่เจ็บปางตายพอจะทำให้คุณมาเยี่ยมได้ แต่ผมก็ยังหวังลึกๆ ตั้งแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลน่าน แต่รอแล้วรอเล่าคุณก็ไม่ไป เกลียดผมขนาดนั้นหรือยังไงนะ" ชยุตม์ทำเสียงขื่น พูดไปเดินโขยกเขยกไปช้าๆ "ผมขอโทษที่ทำให้คุณไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรก ตอนนี้ผมถอนตัวจากรีสอร์ทคุณอาแล้ว คุณจะได้ไปต่อต้านได้สะดวกกว่าเดิม แต่พอผมไม่ได้เป็นพวกของรีสอร์ททำลายธรรมชาติแล้ว ผมก็แอบหวังวาคุณจะดีกับผมบ้าง แต่ผมว่า ถึงยังไง คุณก็คงไม่อยากจะมองหน้าผมอีกแล้ว"
ชยุตม์หันมามองโชคดีแวบหนึ่ง แล้วพลันนึกอะไรได้บางอย่าง
...ขออีกสักครั้งเถอะ ไหนๆ ก็เล่นละครบทพระเอกแสนงอนแล้ว ขอเล่นบทเจ้าเล่ห์ต่ออีกหน่อย...
"โอ๊ย" ชยุตม์ร้องอย่างเจ็บปวดแล้วล้มตัวลงเมื่อพ้นประตู
...ลงทุนมากจริงๆ เรา โชคดีจะวิ่งมาประครองเขาหรือเปล่านี่...
ชยุตม์เหลือบตาไปมองโชคดีทีหันขวับมาเมื่อได้ยินเสียงเขาล้ม
...เปล่าเลย คนอะไรใจเข็งจริงๆ...
"ทำเป็นอวดเก่ง" โชคดีเดินกระแทกเท้าเข้ามาใกล้ ยืนเท้าเอวมองคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น แล้วคุกเข่าลงข้างๆ
...โธ่ อย่าให้ถึงกับต้องบีบน้ำตานะคุณหมูปิ้ง...
ชยุตม์รู้สึกเจ็บจนแทบจะทนไม่ไหวเพราะเมื่อครู่ที่แกล้งล้มเกิดผิดคิว ขากระแทกกับพื้นแรงไปหน่อย
วิศวกรหนุ่มพยายามจะพลิกตัวนอนหงาย แต่ขาที่เข้าเฝือกหนักเอาการทั้งยังไม่ชิน จึงออกแรงมากเกินไป ลืมไปว่ามีโต๊ะเล็กๆ อยู่ข้างประตู เขาจึงพลิกไปโดนขาโต๊ะ ทำให้ต้องร้องโอดโอยออกมาจริงๆ
...คราวนี้ไม่ได้แกล้ง เจ็บมากถึงมากที่สุด...
"เอ๊า เอาเข้าไป" โชคดีถอนหายใจ มองคนที่นอนตัวงอด้วยความเจ็บจนน้ำตาเล็ด
"คุณอยู่เฉยๆ ได้ไหม" โชคดีดุชยุตม์แล้วสอดแขนเข้าไปใต้รักแร้ของคนที่นอนครวญครางบนพื้นเพื่อพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่ง
"ตัวหนักจริงๆ"
"ค่อยๆ นะครับ ผมจะไม่ไหวแล้ว" ชยุตม์โอบไหล่โชคดีเพื่อยึดไว้เป็นหลัก
"ทำอวดดี" คนที่ให้การช่วยเหลือบ่น
"โอ๊ยเจ็บ" คนเจ็บบ่น
"ก็ต้องเจ็บสิ เอาละนะ นับหนึ่งสองสาม ผมจะดึงขึ้นมา" โชคดีเตรียมตัวออกแรง
ชยุตม์โอบรัดโชคดีแน่นกว่าเดิม ถือโอกาสนี้ซุกหน้าเข้ากับซอกไหล่ของชายหนุ่ม ในใจนึกอยากจะจูบอีกฝ่ายขึ้นมาทันที แต่ก็ยังใจเอาไว้ได้ เพราะคิดแล้วว่าไม่น่าจะคุ้มที่หากจูบแล้วเสี่ยงต่อการถูกต่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขามีสภาพแบบที่เห็น
"คุณโชคดีครับ ผม..."
"อะไรอีกล่ะ หยุดพูดก่อนได้ไหม เอ๊า พร้อม หนึ่ง สอง..."
"เดี๋ยวๆ ผมยังไม่พร้อม" ชยุตม์บอก แล้วทำตัวอ่อนจะนอนราบบนพื้นอีกครั้ง
"ไม่ต้องเดี๋ยวแล้ว" โชคดีไม่ยอมปล่อย กลับบอกให้ชยุตม์แข็งใจ "กอดไว้แน่นๆ อย่าปล่อยมือนะ ผมนับถึงสาม คุณช่วยดันตัวส่งด้วย"
ชยุตม์กอดโชคดีแน่นอีกครั้ง คราวนี้เขาซุกหน้าเข้ากับซอกคอของชายหนุ่มแล้วแอบสูดดมเอากลิ่นกายของคนที่เขานอนคิดถึงมาอาทิตย์กว่าๆ
...เนื้อตัวของโชคดีอุ่นจริงๆ ขนาดมีเสื้อผ้าขวางกั้นยังอุ่นขนาดนี้ ถ้าได้ถอดเสื้อผ้า เนื้อแนบเนื้อจะอุ่นขนาดไหน...
"โชคดี ผมรักคุณ" ชยุตม์เผลอหลุดปาก ตอนนี้เขาใกล้ชิดโชคดีมาก สัมผัสอบอุ่นทำให้เขาทนไม่ได้
แต่ชยุตม์เลือกเวลาผิด เพราะทันทีที่บอกรักโชคดี ฝ่ายนั้นก็ปล่อยร่างของเขาให้หล่นลงพื้น ชยุตม์ไม่ทันระวัง แขนสองข้างที่โอบโชคดีเอาไว้จึงกระตุกโดยสัญชาตญาณ ดึงเอา 'คนใจร้าย' ล้มลงมาด้วย
"ปล่อยนะ" โชคดีเสียงเข้มทันที
ชยุตม์นัวเนียวชั่วไม่กี่วินาทีแล้วปล่อยแขนโดยง่ายเพราะกลัวจะโดนต่อย
"ทำอะไร"
"ผมเพิ่งบอกรักคุณ" ชยุตม์มองหน้าโชคดีนิ่ง
"มาพูดอะไรตอนนี้" โชคดีไม่ลุกหนี แต่หันหลังนั่งกอดเข่า ทำเสียงงึมงัมในลำคอเหมือนบ่นอะไรซักอย่าง
ชยุตม์นอนหงายอยู่บนพื้น ตามองแผ่นหลังของชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นมาเสียงเบา
"จะต่อยผมให้เจ็บๆ ผมก็ยอมนะครับ ถ้าแลกกับการได้บอกรัก ผมยอมเจ็บ ผมยอมคุณทุกอย่าง"
...ยอมไปก่อน รอให้เขาหายก่อนเถอะ...
...รอให้เป็นของเขาก่อน...
ชยุตม์นิ่งเงียบ กลั้นใจรอฟังคำตอบของโชคดี
"แล้วนี่จะนอนยังไง มีห้องนอนอยู่ห้องเดียว บ้านออกหลังใหญ่ พ่อคุณนี่สร้างบ้านยังไงไม่รู้" โชคดีเฉไฉพูดเรื่องอื่น
...ม.ท. 1 ก็ ม.ท. 1 เถอะ เจออีกทีละน่าดู หลอกให้เขามาหลบชยุตม์ที่ระนอง แต่กลับพาลูกชายมาส่ง...
...ทำเหมือนส่งเข้าห้องหอยังไงยังงั้น...
"ผมก็นอนเตียงสิครับ เจ็บขาจะแย่ ผมต้องนอนที่นุ่มๆ" ชยุตม์ให้เหตุผล
"เจ็บขานะ ไม่ใช่เจ็บหลัง" โชคดีเสียงห้วน "หรืออยากจะหลักหัก จะได้นอนนานๆ"
"คุณรักผมไหมโชคดี" ชยุตม์ย้อมกลับมาเรื่องเดิม ตัดสินใจรุกประชิด ไหนๆ ก็บอกรักแล้ว เขาต้องบีบให้โชคดีรับรักเขาให้ได้
"จะถามให้ได้อะไรขึ้นมา คุณก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมไม่ชอบเป็นตัวกลางเข้าแทรกระหว่างความสัมพันธ์ใคร คุณจักรเป็นคนดี คุณไม่ควรทำร้ายคนรักแบบนั้น"
"อดีต..." ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม "แล้วแฟนคุณก็กลายเป็นอดีตไปแล้วเหมือนกัน"
โชคดีหันขวับมามองคนเจ็บที่นอนแผ่อยู่บนพื้น "ใคร ใครเป็นแฟนผม เอาอะไรมาพูด"
"ผู้กองปฐพีเปลี่ยนใจแล้วล่ะ ตอนนี้คุณโสดแล้ว อย่าปฏิเสธผมเลย มารักกันเถอะนะ ผู้กองบอกว่าผมจะรักคุณก็รักได้เลย"
...หยุดยิ้มเดี๋ยวนี้นะชยุตม์ ไม่รู้หรือไงว่ายิ้มแบบนี้กำลังจะทำให้เขาใจอ่อน...
โชคดีเม้มปาก นึกฉุนปฐพีขึ้นมาทันใด
...มีสิทธิ์อะไรมายกเขาให้ชยุตม์...
"เรารักกันไม่ได้หรอก" โชคดีพูดเสียงสะบัด "แม่ของเราสองคนมีความหลังกันแปลกๆ เกิดเราเป็น..."
"พี่ชายกับน้องชาย" ชยุตม์แทรกแล้วหัวเราะเสียงดังจนทำให้อีกฝ่ายหันมามองตาขวาง
"คุณนี่ช่างถนัดคิดเองเออเองจริงๆ เลย คิดมากอีกต่างหาก" ชยุตม์ตำหนิ นัยน์ตาพราวระยับ
"ก็ใครจะไม่คิดล่ะ"
"ผมถามคุณแม่แล้ว คุณแม่เล่าเรื่องในอดีตให้ผมฟังหมดแล้ว ถ้าไม่แน่ใจ ไปตรวจดีเอ็นเอกันก็ได้ พอรู้ผลให้คุณได้สบายใจแล้วค่อยตอบตกลงเป็นแฟนกันผม" ชยุตม์เสนอทางเลือก
"บ้า" โชคดีกระแทกเสียง "แล้วนี่ทำไมไม่เล่าให้ผมฟัง รู้แล้วทำไมเก็บงำเอาไว้"
"แล้วคุณให้โอกาสผมหรือ จ้องจะทำร้ายผมอยู่นั่น พูดอะไรคุณก็ทำท่าจะกัดผมเสียให้ได้" ชยุตม์พูดยิ้มๆ แล้วรีบขยับตัวโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นตาของโชคดีลุกวาบ
"หาว่าผมเป็นหมาหรือ"
"โธ่ เปล่านะครับ คุณนี่คิดมาจริงๆ เลยหมูปิ้ง" ชยุตม์หน้ามุ่ย ลืมนึกไปว่าอีกฝ่ายไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่น
"หยุดเรียก ห้ามเรียก อย่ามาเรียกชื่อเล่นผม ชื่อนี้สำหรับคน..."
"คนรักกัน ผมรักคุณ ผมจะเรียก จะต่อยผมก็เอาสิ ผมไม่มีทางสู้แล้วนี่ นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นแบบนี้แล้ว ต่อยได้เลย กระทืบซ้ำก็ยังได้"
"อย่าท้านะ"
"ถ้าผมท้า คุณจะทำจริงหรือเปล่าล่ะ โอ๊ย..." ชยุตม์ร้องลั่นเมื่ออีกฝ่ายชกเข้าที่หัวไหล่
"นี่แค่เบาะๆ โทษฐานที่หลอกลวงผม"
"หลอกเรื่องอะไร" ชยุตม์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"เรื่องเจ็บหนักไงล่ะ ออกข่าวมาได้ แล้วบอกให้ทุกคนปิดโทรศัพท์ ไม่ติดต่อ แล้วสมคบกับพ่อคุณหลอกผมมาที่นี่"
"เรื่องอื่นผมยอมรับผิด" ชยุตม์ทำหน้าจริงจัง มือขวาลูบต้นแขนซ้ายป้อยๆ เพราะความเจ็บ "แต่เรื่องพ่อผมหลอกคุณ ผมไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ พ่อทำไปโดยพลการ"
"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มายุ่งอะไรกับเรื่องภายในของ..."
"คนในครอบครัว" ชยุตม์แทรก "ไม่เห็นหรือครับ ขนาดพ่อผมยังยอมรับและเห็นด้วย เพราะฉะนั้นคุณอย่าใจแข็งต่อไปเลยนะ"
"เราไปกันไม่ได้หรอก เราอยู่กันคนละโลก" โชคดีทำหน้าเคร่งขรึม "คุณเป็นคนเมือง ผมเป็นคนท้องถิ่น จะให้ผมมาอยู่กรุงเทพฯ กับคุณนั้นไม่มีทาง คุณจะไปอยู่เมืองเล็ก รับจ้างสร้างโกดังกับห้องแถวก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนกัน"
"พูดซะเสียหาย"
"วิถีชีวิตของเราต่างกัน แล้วเรื่องจะอยู่คนละที่แบบ long distance relationship นั้นฝันไปเถอะ คนเรามันต้องช่วยกันทำมาหากิน" โชคดีพูดเสียงเรียบ
"รู้ศัพท์สวยด้วยแฮะ" ชยุตม์ล้อ
"ผมไม่ใช่คนโง่นะ เห็นเป็นคนบ้านนอก ผมก็มีการศึกษา" โชคดีหันขวับมาทำตาดุ
"ผมรู้ ทำไมจะไม่รู้ ผมเข้าใจ คุณก็ต้องเข้าใจด้วยนะหมูปิ้ง"
"บอกแล้วว่าอย่า..."
ชยุตม์เอื้อมมือไปแตะแขนชายหนุ่มผู้ไม่ชอบชื่อเล่นของตัวเองแล้วรีบพูดขึ้นว่า "ผมตระหนักดีว่าความสัมพันธ์ของเรามันก็คงไม่ง่ายนักหรอก ที่จริงความสัมพันธ์แบบเราๆ ก็ไม่ง่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ด้วยกันหรืออยู่ห่างกัน อยู่ในเมืองใหญ่หรืออยู่ในเมืองเล็ก แต่ผมพร้อมจะปรับตัว พร้อมจะฝ่าฟัน คุณมั่นใจในตัวผมได้เลย ผมไม่ใช่คนเหลาะแหละ ผมเป็นคนอดทนและไม่ท้อถอยง่ายๆ"
"แต่คุณก็ยอมถอยเรื่องประตูน้ำรีสอร์ท" โชคดีเสียงอ่อนลง ชยุตม์ยิ้มมุมปากที่ชายหนุ่มยอมเข้าใจเขา แต่ประโยคต่อมาทำให้ต้องส่ายหน้า "แสดงว่าที่จริงคุณก็ไม่มุ่งมั่นจนสุดชีวิต"
"ผมยอมเพราะผมรักคุณไงครับ ไม่รักไม่ยอมหรอก" ชยุตม์เสียงนุ่ม ประกายตาที่มองโชคดีฉายแววอบอุ่บพร้อมส่งผ่านความในใจให้ชายหนุ่มได้รับรู้
"แต่เราต้องทำข้อตกลงกันหลายข้อนะ" โชคดีพูดเสียงเรียบ ใบหน้าคาดคั้น
"ได้ครับ แต่ต้องให้ผมเสนอแนะด้วย จะเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียวไม่ได้" ชยุตม์พยักหน้า ต่อรอง ตอนนี้ในอกพองโตเพราะโชคดียอมรับเขาแล้ว แม้จะเป็นการยอมรับแบบกลายๆ และไม่เป็นทางการเขาก็พอใจ
...ยอมรับในแบบของโชคดี...
...เสียดาย น่าจะมีเทปบันทึกเสียงเอาไว้...
"ประเทศเราเป็นชาติประชาธิปไตย" ชยุตม์ย้ำเพื่อความมั่นใจว่าเขาจะต้องมีสิทธิ์มีเสียงด้วย
"ไม่มีอะไรในโลกนี้เที่ยงธรรมเสมอไปหรอกนายช่าง" โชคดีพึมพำเบาๆ ทำทีเหมือนคนยอมรับสัจธรรมชีวิต
...เอาซะแล้วไหมล่ะ แค่นี้ก็ฉายแววว่าแฟนคนนี้จะควบคุมให้อยู่ในโอวาทได้ยากลำบากซะแล้ว...
...แต่ก็เอาเถอะ ยังไงๆ เขาก็ต้องยอมให้โชคดีก่อนบ้าง พอเป็นของเขาแล้ว ค่อยตะล่อมและดัดนิสัยไปทีละน้อย...
...ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะถึงเวลาจู๋จี๋กันได้แล้ว จะให้นอนแผ่อยู่บนพื้นไม้แบบนี้ ชักจะปวดหลัง...
"โอ๊ย เจ็บ โชคดีครับ ผมมีความรู้สึกว่าเหล็กที่ดามอยู่ในขาอาจจะหลุด ผมเจ็บมาก เหมือนมีมีดกำลังแซะเส้นเอ็นในขาผมยังไงยังงั้น" ชยุตม์คราง ทำหน้าบูดเบี้ยว
...ชยุตม์ก็เจ้าเล่ห์เป็นครับคุณโชคดี จะใจร้ายไม่ดูดำดูดีแฟนก็ให้รู้ไป...
"แล้วล้มลงมาทำไม ทำเป็นอวดเก่งจะเดินออกจากห้อง แล้วยังคิดว่าจะลงบันได้บ้านได้อีก คุณนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ ให้ตายสิ" โชคดีบ่นแล้วพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
...เฮ้อ ร้ายไม่มีใครเหมือน ขนาดนี้แล้วยังทำท่าเหมือนจะหักคอเขาซ้ำเติม...
"โอย โอ้ย โอ๊ย เจ็บ ช่วยผมด้วย" ชยุตม์ร้องดังกว่าเดิม หลับตาปี๋ แสดงอาการให้รู้ว่าเขาจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
"อดทนหน่อยสิ ไป๊ ขึ้นไปนอนบนเตียง" โชคดีตั้งท่าจะพยุงชยุตม์ "ตัวหนักจริงๆ เลย คุณลดอาหารบ้างนะ"
"ครับ" ชยุตม์รับคำแล้วแอบยิ้ม
"เอ้า กอดคอผมไว้ พอลุกขึ้นนั่งก็พักนิดนึง แล้วเปลี่ยนมากอดเอว ผมจะดึงตัวขึ้น แล้วอย่าปล่อยมือ" โชคดีสั่งเป็นขั้นตอน
...ได้กอดแล้ว ไม่ปล่อยง่ายๆ หรอก...
"คุณนั่นล่ะอย่าปล่อยผม เหมือนเมื่อกี้ไม่เอานะ" ชยุตม์เตือน
"ก็อย่าพูดอะไรไม่เข้าหูสิ"
"ตอนนั้นผมบอกรักคุณนะครับหมูปิ้ง" ชยุตม์อุทธรณ์เสียงอ่อน
"แล้วเลิกเรียกชื่อนี้ซะที ไม่งั้นจะหาว่าร้ายไม่ได้นะ" คนชื่อแปลกปรามเสียงเข้ม หน้าขึงขัง
"ครับๆ ไม่เรียกแล้วครับที่รัก" ชยุตม์รับคำหน้าขึงขังเช่นกัน
"เดี๋ยวเถอะๆ" โชคดีทำเสียงดุ ก่อนจะออกแรงดึงตัวชยุตม์ขึ้นนั่ง
วิศวกรหนุ่มเลิกพูดอะไรไม่เข้าหูผู้ที่ให้การช่วยเหลือเพราะกลัวว่าจะโดนปล่อยกับพื้นเสียดื้อๆ ซึ่งเขาค่อนข้างมั่นใจว่าโชคดีคงจะทำเช่นนั้นจริงๆ โดยไม่รั้งรอแม้แต่นิด ชยุตม์จึงเอาแต่ร้องโอดโอยว่าเจ็บเพื่อทำตัวให้น่าสงสารและเรียกร้องความสนใจ
...รออีกหน่อย เขาจะแกล้งอาการทรุดหนัก คืนนี้ก็จะเพ้อ อ้อนให้โชคดีเข้ามานั่งเฝ้าข้างเตียงให้ได้...
...แต่จะให้ขึ้นมานอนปลอบบนเตียงคงเป็นไปได้ยาก อันนี้เขายังไม่กล้าคิด แม้จะน่าลองดูก็ตามเถอะ ตอนนี้ขอแค่นี้ก็พอใจแล้ว ยังไงๆ เขาก็จะเผด็จศึกโชคดีให้ได้ก่อนถอดเฝือก...
...อืม หรือไม่ก็อาจต้องเตรียมแผนสำรอง นั่นก็คือ ทำให้โชคดีบอกรักเขาให้ได้ก่อนถอดเฝือกอาจจะง่ายกว่า พอหายแล้วค่อยทำอย่างว่ากัน...
...งานนี้ท้าทายยิ่งกว่าสร้างตึกร้อยชั้นกลางเมืองใหญ่เสียอีก...
...ไม่นึกเลยว่าจะมารักคนร้ายๆ แต่ก็เพราะร้ายนี่ล่ะ เขาถึงรัก...
...ร้ายนัก รักซะเลย...
********The End********

ขอบคุณผู้อ่านทุกอ่านที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจและกดคะแนนให้นะครับ ผู้เขียนมีความสุขที่ได้เข้ามาโพสและอ่านคอมเมนท์น่ารักๆ ทุกรี นะครับ
ผมตระหนักว่าคงมีบางคน "ค้าง" เติ่งแน่ๆ อันนี้ต้องฝึกทำอารมณ์และปล่อยวางเรื่องกามารมณ์หน่อยก็ดีนะครับ นิยาสเรื่องนี้มันเรท PG เด็กอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี จะให้พระเอกกับนายเอกจู๋จี๋กันก็เอาแต่พองาม อย่าให้ถึงกับเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเลย และอีกอย่าง ตอนจบก็ต้องทำให้เป็นเหตุเป็นผล เพราะที่เซฟเฮาส์ของท่านรัฐมนตรีฯ คงไม่มีถุงยางและ KY ติดบ้านไว้เป็นแน่แท้ และตอนที่พ่อเอาลูกชายมาส่งก็คงไม่ยัด Durex กับ เจลใส่กระเป๋ากางเกงลูกหรอกนะ
เพราะฉะนั้น มันเลยจบแบบไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อด้วยประการฉะนี้
อนึ่ง หากมีอารมณ์ ก็จะพิมพ์บทพิเศษครับ ตอนนี้คอมที่บ้านเดี๊ยง ลงวินโดว์มิได้ และผู้เขียนก็ตกงานเรียบร้อย แอบมาใช้คอมที่ทำงานเก่าก็ยังไงๆ อยู่นะ  :pigha2:

เดี๋ยวมาโพสโปรแกรมหน้าครับ ขอไปพยายามปลอกมะม่วงก่อน เีสียเงินซื้อข้าวเหนียวมะม่วงมาหนึ่่งชุด แม่ค้าไม่ยอกมปลอกให้ เมียก็ไม่มี ต้องทำกับข้าวเอง ซักผ้ารีดผ้า กวดบ้านถูบ้าน กินข้าว ทำทุกอย่างเองหมดเลย น่าสงสาร
 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2009 18:51:56 โดย katawoot »

Zarch_Chabu_Chabu

  • บุคคลทั่วไป
 :sad11:ขอบคุณพี่นายนะครับที่โพสให้อ่านจนจบสนุกมากเลย หวังว่าเรื่องหน้าคงไม่ทำให้ผิดหวังนะครับ o18
ปล.ไอ่งานบ้านที่ว่ามาน่ะผมว่าไปจ้างแม่บ้านมาทำดีกว่าครับเดี๋ยวห้องจะกลายเป็นรังหนูซะก่อน5555555 o13

ออฟไลน์ k_U_K_K_I_K

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อ่านมานาน เข้ามา +1 ให้กะตอนจบ  :sad11:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
อุกรี๊ดดดดดหมูปิ้งโดนคุณพ่อท่านลวงมาบ้านพักส่วนตัว 55
เข้าล๊อกกันเลยทีเดียว โหย แบบนี้หมูในอวยชัดๆ
ส่วนนายช่างก็นะ ว่าจะได้บอกรักต้องเจ็บตัวแล้วเจ็บอีก
นี่ท่าจะเผด็จศึกสงสัย ส่วนล่างต้องพิการหรือไม่ก็ต้องเจ็บหนักอีกแน่ๆ55
หมูปิ้งนี่มันน่ารักจริงๆ ม้าศึกผยศได้ใจมากๆ  :-[

ปล.  o13 เยี่ยมคะ PG ก็ PG ใสๆ มะเสียเลือด :jul1:
อวยให้คุณคฑาวุธปลอกมะม่วงแล้วได้กินมะม่วงนะคะ
ไม่ใช่เหลือแต่เม็ดมะม่วง  :m20:


ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อะไรกันจบแล้วเหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แต่หมูปิ้งก็ยังเป้นหมูปิ้งร้านจนหยดสุดท้ายจิงๆ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เข้าใจในเหตุผลที่บอกนะครับ บางครั้งการได้อ่านอะไรที่มีที่มาที่ไป

ก็ไม่จำเป็นต้องลงในรายละเอียดทั้งหมดก็ได้

ขอบคุณครับ พี่นาย ที่แต่งเรื่องสนุก ๆ มาให้ได้อ่านเป็นประจำ

แต่ไอ้ที่บ่น ๆ นะ ใช่ชีวิตจริงหรือครับ ไม่ค่อยอยากเชื่อเลย

เป็นกำลังใจให้แล้วกัน +1 ให้อีกเป็นการเพิ่มแต้มนะครับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ ค่ะ

หวังว่าจะได้อ่านตอนพิเศษของเรื่องนี้อีกนะคะ   :L2:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
แบบนี้น่ารักดีค่ะ ขอบคุณในความเหน็ดเหนื่อยค่ะ รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ :pig4:

speedboy

  • บุคคลทั่วไป
ก่อนอื่น    +1  ให้กับควานสำเร็จของนายช่างนะคร้าบ


ขอบคุณเรื่องราวดีๆนะคร้าบ


เฮ้อมีความสุขจังคร้าบ   นอนดีกว่า


 :oni2: :oni2: :oni2:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
+1ให้กับความน่ารักของคนแตง
รับสมัครแม่บ้านหรือเปล่าจ๊ะ
สาวเสียบแก่อย่างป้านี่น่าจะพอไหวนะ อิอิ

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
+1 ให้เลย

ชอบมากอ่ะ เรื่องนี้

อิอิ

ถ้ามีตอนพิเศษมาต่อก็จะดีมากเลยน้า

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดี สำหรับคะแนน สำหรับความคิดเห็น สำหรับการติดตามอ่าน สำหรับการเสนอตัวช่วยให้คลายเหงา สำหรับการเป็นเพื่อน สำหรับการอยากอ่านฉากอย่างว่า (แต่ว่าผู้เขียนอายที่จะเขียนอ่ะ และนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าโชคดีจะขึ้นคล่อมชยุตม์แบบเอ็กซ์ๆ ยังไง เลยนึกถึงบทรักของสองคนนี้ไม่ออก)
วันนี้ก็มาโพสตอนพิเศษให้อ่านครับ เขียนไว้แล้วล่ะ พอดีได้มีโอกาสพิมพ์ ก็ใช้เวลาหน่อยเพราะต้องแกะลายมือคุณคุฑาวุธ คนอะไร เขียนหวัดจนสี่ตาอ่านก็ไม่ออก น่ายุให้หาแฟนมาช่วยสอนคัดลายมือ

11 มิถุนายน
น่าน


"โต๋ นายช่างไปไหน" โชคดีออกมาจากห้องทำงาน ยืนเท้าสะเอว มองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นโต๋กำลังนั่งนับสินค้าอยู่จึงถามออกไปเสียงดัง
"เอาเหล็กไปส่งครับ"
"อ้าว แล้วทำไมไปเอง น้าพงษ์ไปไหน แล้วทำไมเอ็งไม่ไปด้วย"
"ไม่ไปกับลุงพงษ์หรือไม่ไปกับนายช่างครับ" โต๋ถามหน้าซื่อ
"เดี๋ยวเถอะๆ" โชคดีถลึงตาใส่เด็กหนุ่มที่ยกมือเกาหัวแกรกๆ เพราะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าถูกดุเพราะอะไร
"แล้วทำไมไม่ไปดูลูก มานั่งนับของทำไมตรงนี้"
"นายช่างให้ผมนับ" โต๋ตอบเสียงเบา
"ใครเป็นเจ้านายแก" โชคดีเสียงเข้ม ตาขวาง "ไปดูลูกช่วยเมียโน่น ลูกป่วยยังจะทิ้งให้เมียดูลูกคนเดียวอีก"
"ครับ ไปแล้วครับ" โต๋รีบลุกขึ้นแล้วผลุบหายเข้าไปหลังร้าน ปล่อยให้ "เจ้านายตัวจริง" ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในร้านยืนนับสินค้าแทน

โชคดีนับกล่องสินค้าเสร็จก็เดินออกมาหยุดยืนอยู่หน้าร้าน สูดเอากากาศสดชื่นของเช้าวันใหม่เข้าไปเต็มปอด คืนที่ผ่านมาฝนตกหนักมากทั้งคืน ชยุตม์ล้อเขาว่าไม่ต้องกลัวจะติดน้ำป่าแล้วเพราะอยู่บนตึกชั้นสาม
"ผมเริ่มรักคุณตอนนั้นล่ะ ตอนที่คุณทำหน้าอายๆ ในกระท่อมปลายดอยเมื่อเห็นผมนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หลงหุ่นผมละสิ ไม่นึกใช่ไหมว่านายช่างหน้าหล่อจะหุ่นดีด้วย หล่อทั้งตอนใส่เสื้อผ้าและถอนถอด"
"หลงตัวเอง หยุดพูดได้แล้วนายช่าง ผมจะนอน"
"อย่างเพิ่งสิครับ มาทะเลาะกันก่อนนอนซักหน่อยเถอะน่า"
"ใครจะอยากไปทะเลาะกับคุณ"
"ผมอยากทะเลาะก่อนนอนทุกคืน"
"อย่านะ"
"เงียบเถอะ อย่าขัดใจ"
"นายช่าง"
"หมูปิ้ง"
"ฮื่อ"
"อูว"

โชคดียิ้มบางๆ เมื่อนึกถึง 'การทะเลาะ' กันเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้วหันหน้าเข้าหาร้านที่เคยเป็นร้านโชคดีค้าเหล็ก ตอนนี้ร้านสามคูหาขยายใหญ่กว่าเดิม โกดังขนาดใหญ่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่โดยฝีมือของวิศวกรคนเก่งที่เคย 'ผ่านการฝึกงาน' สร้างตึกร้อยชั้นมาแล้วหลายแห่งในหลายประเทศ
"อย่าให้หลังคาพังตอนพายุมานะนายช่าง ไม่งั้นโดนฟ้องร้องค่าเสียหาย" เจ้าของโกดังขู่
"ไปร้องเรียน ม.ท. 1 เลยยังได้ ผมไม่กลัวหรอก" วิศวกรหนุ่มยักไหล่ ก่อนจะแบมือขอค่าจ้าง
"ข้าวฟรีสามมือกับที่ซุกหัวนอนก็พอแล้ว" เจ้าของกิจการค้าวัสดุก่อสร้างหน้าเลือดตอบเสียงห้วน ตีมือวิศวกรที่ยื่นมาตรงหน้า
"หน้าเลือดไม่มีใครเกิน เวลารับงานก่อสร้างผมจะไม่มาสั่งของร้านโชคดีวัสดุภัณฑ์"
"ลองดูสิ ถ้าชยุตม์เอ็นจิเนียริ่งไปสร้างห้องแถวที่ไหน ผมจะตามไปประท้วง"
"ดี ผมก็จะประท้วงไม่ยอมทำการบ้านบ้าง"
"ขอให้จริงเถอะ"
"อย่ามาสะกิดผมก็แล้วกัน"
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวโดนต่อย"
"ต่อยก็จูบ ผมชินแล้วล่ะ"
"คุณนี่วิตถาร ชอบโดนทำร้าย"
"อยู่กับคนซาดิสม์ ทำไงได้"
"น้อยๆ หน่อยนะนายช่าง"
"ร้ายจริงๆ คนอะไรก็ไม่รู้"
"ร้ายแล้วมารักทำไม"
"เพราะร้ายไง เลยต้องรัก ร้ายนัก รักซะเลย"

ขณะที่ยืนอมยิ้มคิดถึงชยุตม์เพลินๆ โชคดีก็ได้ยินเสียงเครื่องขยายเสียงมาแต่ไกล หันไปมองก็เห็นแม่ของเขายืนเด่นอยู่บนรถหกล้อ มือถือไมโครโฟนหาเสียง ตอนนี้แม่เขาคิดการใหญ่ ลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. พรรคเดียวกันกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
"อย่าลืมนะคะพ่อแม่พี่น้อง เบอร์สองเท่านั้น รักเมืองน่าน เลือกเตือนใจ เบอร์สอง เลือกเตือนใจ สบายใจ หายห่วง"
เสียงของคุณโชคดีดังขึ้นเมื่อรถแล่นใกล้ผ่านหน้าร้านโชคดีค้าวัสดุก่อสร้าง ดนตรีเปิดดังกระหึ่มเพราะแม่ของเขาใช้เครื่องเสียงชุดใหญ่
"เลือกเตือนใจ พรรคสร้างสรรค์ไทย เบอร์สอง ถ้าต้องการความมั่นใจว่าเมืองน่านจะได้รับการพัฒนาอย่างแน่นอน ต้องเลือกเบอร์สองเท่านั้น"
โชคดียืนยิ้มกว้างอยู่หน้าร้าน ยกมือขึ้นโบกให้มารดา แต่ทันใดก็ต้องหุบยิ้มเมื่อคนที่ยืนเด่นอยู่บนรถตะเบ็งเสียงใส่ไมโครโฟนดังสนั่น ได้ยินไปทั่วทั้งท้องถนน
"หมูปิ้งลูกแม่ เชียร์แม่นะลูก เบอร์สอง พรรคสร้างสรรค์ไทย เตือนใจ เบอร์สองนะหมูปิ้งลูกรัก"
ยิ้มค้าง มือค้าง โชคดีกัดฟันกรอดๆ เมื่อมองออกไปนอกถนนเห็นประชาชนหลายคนกำลังอมยิ้ม ชายหนุ่มเลยหันหลังจะเข้าร้าน แต่เห็นใบหน้าของโต๋อยู่ใกล้ๆ
"ไอ้โต๋ แกออกมาทำไม กลับเข้าไปดูลูก" โชคดีทำหน้ายักษ์ใส่เด็กหนุ่มที่กำลังยืนอุ้มลูกชายอ้วนจ้ำม่ำอยู่ใกล้ๆ
"ก็...ลูกผมอยู่นี่" โต๋หน้าเสีย
"เสียงมันดัง เดี๋ยวเด็กแก้วหูแตก บอกอะไรก็ทำเถอะ"
"ผมมาให้กำลังใจนายแม่" โต๋ทำใจดีสู้เสือ
"เอาลูกมานี่" โชคดียื่นมือไปรับเด็กน้อยจามอ้อมแขนของพ่อวัยรุ่น แต่ทันทีที่เด็กหันมาเห็นว่าใครกำลังจะอุ้มก็ร้องจ้าดังลั่นแข่งกับเสียงของขบวนรถหาเสียงของว่าที่ ส.ส. คนใหม่
"อะไรวะ"
"โอ๋ๆ ขวัญมานะลูกนะ"
"ไอ้โต๋"
"อย่าอุ้มเลยนะครับ"
"เดี๋ยวเถอะแก สอนลูกให้เกลียดเจ้านายหรือ"
"ผมเปล่านะ เด็กมันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย"
"แล้วทำไมมันร้องทุกที"
"ผมไม่รู้"
"ลูกแกนี่มันขวัญอ่อนจริงๆ"
"ลูกจ๋าอย่าร้องสิลูก โอ่ โอ๊ หยุดร้องนะลูก หยุดร้อง ลุงโชคดีแค่มองเฉยๆ ลุงเขาไม่อุ้มหนูหรอก"
"วอนซะแล้วไอ้นี่"
.............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2009 09:13:12 โดย katawoot »

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เด็กยังกลัวเลย....โถพ่อคุณโชคดี :jul3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2009 10:27:00 โดย M@nfaNG »

ออฟไลน์ canzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตกลงใครปราบใครหรือคับ  งงจิงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด