เตรียมใจหน่วงกันต่อแล้ว ใช่ไหม ตัวเธออออออออออออออ
ตอน 12
บางครั้งแม้เราจะรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ มันไม่ต่างอะไรกับการทรมานตัวเอง แต่เราก็ยังจะทำ..
ผมทำงานที่ร้านได้ราวๆสามเดือนแล้ว จริงๆทุกวันวันก็เป็นวันปกติธรรมดา ผมยังคงหาเรื่องต่อปากต่อคำกับเจ้าของร้านตัวโต แต่นั่นไม่ใช่เพราะผมอยากกวนประสาท แต่ผมแค่ อยากอยู่ในสายตาของเขาบ้าง แต่ทั้งๆที่พยายามมาตลอดมันก็ไม่เคยจะสำเร็จเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือเมื่อก่อน…
เมื่อสองสามวันก่อน แกลอรี่ก็ได้พนักงานใหม่มาเพิ่มอีกคน รู้สึกว่าจะชื่อพี่เมฆ ร้านดูเหมือนจะขายดีเป็นสองเท่าพูดแล้วจะหาว่าคุยนอกจากผมจะหล่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พนักงานอีกสามคนของร้านก็เรียกได้ว่า จัดอยู่ในขั้นหน้าตาดีมากทำให้สาวๆมาอุดหนุนที่ร้านเราเพียบ จนแทบจะชงกาแฟไม่ทัน แต่นี่ไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงเดียวที่มีเมื่อ จู่ๆผู้ชายคนหนึ่งมาหาพี่เล็ก ผมไม่รู้ตื่นลึกหนาบางอะไรนักหรอก แต่ถ้าผมมองไม่ผิดแววตาที่พี่เล็กมองผู้ชายคนนั้นมันไม่น่าจะใช่แค่คนรู้จักธรรมดา ยิ่งตอนที่พี่เล็กรีบร้อนตามเขาออกไปยิ่งแล้วใหญ่ ไหนจะฉากทะเลาะกันของป้าปางแดงที่มาเรื่องพี่เล็กถึงในร้านอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยว่า ผู้ชายคนนั้นรู้จักพี่เล็กได้ยังไง แต่พอถามพี่เมฆ ก็บอกว่า เป็นเพื่อนกัน และไม่ให้คำตอบมากไปกว่านั้น แถมวันต่อมาพี่แกก็เล่นหายหน้าไปอีคน
“ลุง ชะเง้อจนคอจะยาวเป็นยีราฟแล้วน่ะ ยังไงวันนี้พี่เล็กก็ไม่มาหรอก” ผมเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าเจ้าของร้านตัวโตเอาแต่ชะเง้อมองประตูหน้าร้าน
“แกรู้ได้ยังไงวะ”
“ ลุง ถามจริงๆเถอะ อายุปูนนี้แล้ว ดูไม่ออกจริงๆเหรอว่าเขาเป็นอะไรกัน”
“เหอะ” เจ้าของร้านแค่นเสียงในลำคอก่อนจะทำทีเป็นเช็ดแก้วต่อ
“ลุงดูไม่ออกหรือไม่ยอมรับกันแน่!”
“ไอ้ไม้ ถามไรอย่างสิ” เสียงทุ้มเรียก แม้ปากจะพูดกับผมแต่ตาก็ยังมองออกไปที่นอกร้าน
“มีไรอ่ะ”
“แกเคยรักใครไหม” จู่ๆร่างสูงก็ถามคำถามนั้นขึ้นมา
“แล้วลุงจะรู้ไปทำไม” ผมตอบเสียงดัง พยายามที่จะบังคับให้เสียงไม่สั่น มันก็แปลกดีกับการที่ถูกคนที่เรารักถามว่าว่า “เคยรักใครหรือเปล่า”
“ก็แค่อยากถามดู เฉยๆ”
“ลุงชอบเขาเหรอ พี่เล็กน่ะ” ผมถามกลับคนตรงหน้ายิ้มน้อยๆก่อนจะตอบ
“เขาก็น่ารักดี ไม่มีอะไรเสียหายไม่ใช่เหรอถ้าจะชอบ”
“แล้วถ้าเขาไม่ชอบลุงล่ะ”
“ขนาดแกยังดูออกว่าเล็กไม่ชอบพี่ แล้วแกคิดว่าพี่จะดูไม่ออกหรือไง” พี่ต้นยังคงตอบเสียงเรียบ
“แล้วทำไมลุงยังชอบพี่เล็กอยู่อีก” นั่นสิ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ได้ชอบ ไม่ได้รักตอบ ทำไมยังชอบเขาอยู่อีก คำถามนี้ผมควรถามใคร พี่ต้นหรือตัวผมเอง
“ชอบก็ชอบ ทำไมต้องหาเหตุผลวะ ไอ้นี่ถามเซ้าซี้ อยู่ได้ จะไปไหนก็ไปไป๊ งานการน่ะมีก็ทำบ้าง นี่จ้างมาทำงานนะเว้ย ไม่ได้จ้างมากวนตีน” เจ้าของร้านบ่น
“ไปก็ได้ เหอะ นี่เห็นแก่โบนัส ปลายปีหรอกนะ ”
พี่เล็กกลับมาที่ร้านหลังจากหายไปสองวัน พร้อมกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่บอกว่าเป็นญาติ ผมก็ไม่รู้ว่าญาติฝ่ายไหนเหมือนกัน แต่ผมก็สังเกตว่าช่วงนี้พี่เล็กดูเหม่อเหมือนมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา ไอ้ผมก็ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว เป็นเจ้าของร้านต่างหากที่ดูจะเป็นเดือดเป็นร้อน ซะมากมาย
“พักนี้เป็นอะไรเหรอพี่ ทำไมชอบเหม่อจัง” ผมตัดสินใจเดินเข้าไปถาม
“พี่ก็คิดอะไรไปเรื่อยน่ะไม้ อย่าสนใจเลยไม่มีอะไรสำคัญหรอก”
“ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอกพี่ แต่คนโน้นน่ะเขาให้ผมมาถามสงสัยจะเป็นห่วง พี่ไปบอกลุงแกเองแล้วกัน” ผมบอกพลางชี้ไปที่ร่างสูงของเจ้าของร้านที่แอบมองอยู่
“อืม เดี๋ยวพี่คุยเองไม้ไปทำงานเถอะ”
ผมมองตามแผ่นหลังของสองคนที่เดินเข้าไปหลังร้านก่อนจะลอบถอนหายใจ ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำไปทำไม แต่ถ้าเรื่องราวทุกอย่างมันจบลงวันนี้ก็คงดี ..
ผมไม่รู้ว่าพี่เล็กคุยอะไรกับพี่ต้นแต่มันคงเป็นคำตอบที่ไม่ค่อยถูกใจเจ้าของร้านนักเพราะดูเหมือนว่าหลังจากคุยเสร็จพี่ต้นจะซึมลงกว่าเดิม แถมวันนี้พี่เล็กยังถูกผู้ชายที่เคยมาที่ร้านตอนนั้นลากขึ้นรถไปอีก นี่มันเรื่องอะไรกันนะ
ปริ๊นๆๆๆ
“ไม้ยังไม่กลับหอ อีกเหรอ” เสียงคุ้นหูเอ่ยทักก่อนที่รถเก๋งสัญชาติญี่ปุ่นคุ้นตาจะจอดข้างๆ เวฟลูกรักของผม
“กำลังจะกลับ ลุงมีไรเนี่ย”
“เฮ้ย ไปหาเหล้ากินไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ผมมองคนตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
“ลุงเนี่ยนะ กินเหล้า”
“อ้าวไอ้นี่ พี่ก็เป็นผู้ชายนะเว้ย ของแบบนี้มันก็ต้องมีบ้าง ว่าแต่แกจะไปไหม ถ้าไปก็ขึ้นรถ เร็วๆ”
“ไปก็ไป นี่เห็นแก่คนแก่หรอกนะ กลัวว่า จะไปทำอันตรายคนอื่นๆเขา”
พี่ต้นพาผมมาร้านอาหารกึ่งผับที่อยู่ไม่ไกลจากหอผมนัก แต่โซนที่เรานั่งจะเป็นโซนสำหรับนั่งกินสบายๆมากกว่าเพราะโซนผับจะอยู่ด้านใน ผมมองคนที่เอาแต่นั่งเหม่อ แม้ว่าจะชวนผมมากินเหล้าก็จริงแต่คนชวนกลับแทบไม่แตะมันสักนิด
“เฮ้ย พี่ไม่กินล่ะ ชวนมาแท้ๆกลับมานั่งมองแก้วซะงั้น”
“วันนี้ เล็ก พูดอะไรกับพี่แกรู้ไหม”
“อ้าว คุยกันอยู่สองคน แล้วไอ้กระผมจะทราบไหมล่ะครับ”
“เหอะ เล็กบอกให้พี่ตัดใจ”
“แล้วลุงตอบว่าไงล่ะ” ผมถามเสียงเบาพลางมองหน้าคมที่มีร่องรอยของความผิดหวังชัดเจน ผมรู้ดี ว่า ความรักที่ไม่มีทางสมหวังมันเจ็บปวดแค่ไหน
“ ขอแค่ได้รักก็พอแล้ว เป็นไง พระเอกโคตรๆ ฮ่าๆ” เขาหัวเราะแต่กลับเป็นเสียงหัวเราะที่ขมขื่นเหลือเกิน
“ลุงแมร่ง พระรอง ได้อีก ถามจริงเอามาจากละครเรื่องไหนเนี่ย” ผมถามพลางมองอีกคนอย่างหนักใจ ไม่ชอบเลย ไม่ชอบแววตาของพี่ต้นตอนนี้เลย เพราะมันทำให้ผม เจ็บไปด้วย
“ คนดีๆเราก็ทิ้งเขามา พอคิดจะรักใครอีกคนเขาก็ไม่รักตอบ ชีวิตพี่แกนี่ น้ำเน่าสุดๆเลยว่ะ ไอ้ไม้ ” พี่ต้นบอก พลางแสยะยิ้ม
“บางทีอาจมีคนที่น้ำเน่ากว่าลุงก็ได้นะ”
“หึ” ร่างสูงแค่นเสียงในลำคอก่อนจะยกแก้วแอลกอฮอล์เข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว
“เฮ้ย ลุง เบาๆดิ เดี๋ยวก็เมาตายหรอก”
“ก็ดี ชวนมากินเหล้าก็เพราะอยากเมา เมาแล้วจะได้หลับ อย่างน้อยน่าจะลืมได้สักพัก”
“กลัวว่าเมาแล้วจะอ้วกนะสิ แล้วคนที่ซวยก็ไอ้ไม้ อีก”
“กินๆไปเหอะน่า นี่เหล้าฟรีนะเว้ย นานๆทีจะเลี้ยงอย่าพูดมาไอ้น้อง”
“เออ กินก็ได้” ผมตอบก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบบ้าง ไม่กล้าจัดหนักกลัวว่าจะไม่มีคนขับรถกลับถ้าเมาทั้งคู่คืนนี้คงต้องนอนข้างเสาไฟฟ้าแน่
“เฮ้ย กินดิวะ เหล้านะ ไม่ใช่โหลปลากัด ใสขนาดนี้ จะเก็บไว้เลี้ยงปลาเหรอ” คนที่เริ่มหน้าแดงนิดๆบอก
“ผมเมาใครจะพาลุงกลับล่ะ ถ้าอยากเมานักก็กิเข้าไป เดี๋ยวผมขับรถให้”
“โว๊ะ วันนี้ท่าทางหิมะตกแน่ๆ ไม่โดนแกกวนตีน พี่ไม่กินให้เมาหรอก ไอ้ไม้น้องรัก ไม่ต้องเป็นห่วง ฮ่าๆๆ” พี่ต้นหัวเราะร่วนก่อนจะยกแก้วตัวเองขึ้นจิบบ้าง คงจะพอรู้ตัวว่ามึนๆแล้ว
“เฮ้ย ลุง จะไปไหน” ผมร้องเสียงหลงเมื่อคนร่างสูงเดินเข้าหอผมหน้าตาเฉย ไหนบอกแค่แวะมาส่งไงวะ
“นอนไง ถามไมวะ”
“นอนยังไงละ นี่มันหอผมไม่ใช่บ้านลุง”
“ก็พี่จะนอนนี่ไง พี่มันคนดีเว้ย เมาไม่ขับเข้าใจป่ะไอ้น้อง ไปเร็วเปิดประตู อย่าช้าง่วงนะเว้ย” ร่างสูงเร่งอย่างกับเป็นบ้านตัวเอง
“โอ้ย นานๆกินเหล้าที นี่มันมึนโคตรๆเลยว่ะ” ว่าพลางล้มตัวลงบนที่นอนโดยที่ไม่ถามความเห็นของเจ้าของห้องอย่างผมสักคำ
“บ่นทำไม ลุงอยากกินเองนะ แล้วใจคอจะไม่อาบน้ำเลยหรือไง” ผมบอกก่อนจะยื่นผ้าเช็ดตัวให้ ถึงผมจะชอบเขาแต่ให้ทนนอนดมกลิ่นเหล้าก็ไม่ไหวนะครับ
“เว้ย ไอ้ไม้ นี่เป็นน้องหรือเป็นเมีย บ่นจริง เออๆ อาบก็ได้ แต่ยืมชุดด้วยนะ ไม่มีชุดเปลี่ยน” ร่างสูงบ่นอุบพลางเดินเข้าห้องน้ำไป
ฟุ๊บ!! ผ้าขนหนูถูกโยนมาคลุมหัวผมอย่างแม่นยำก่อนที่คนโยนจะหัวเราะร่า
“แกไปอาบน้ำได้แล้ว เร็วๆ ง่วงนะเนี่ย” ร่างสูงที่อยู่ในชุดบอลเต็มยศบอกกับผม ค้นทั้งตู้แล้วครับ เสื้อกับกางเกงที่พอจะใส่ได้มี
แค่ชุดนี้ ชุดเดียว ผมว่าผมตัวไม่เล็กนะ แต่พี่ต้นใส่เสื้อผมไม่ได้สักตัว
“อ้าว หลับแล้วเหรอ” ผมเช็ดผมอย่างลวกๆ พลางก้มหน้ามองอีกคนที่ชิงหลับไปก่อน
“พี่มันโง่ รู้ไหม ตัวใหญ่ซะเปล่าแต่สมองเล็กเท่าถั่วเขียว” ผมย่นจมูกใส่อีกคนอย่างนึกโมโห ทั้งที่ผมอยู่ใกล้กว่าใครๆแท้ๆแต่พี่
ต้นกลับมองข้ามไปตลอด
พรึบ!
“เฮ้ย ไอ้ลุงทำไรวะ” ผมแหวลั่นเมื่อจู่ๆคนที่คิดว่าหลับไปแล้วกลับพลิกตัวมากอดผมแน่นแถมยังกดผมซะจมเตียง หน้าเราสองคนห่างกันแค่ฝ่ามือกั้น ลมหายใจร้อนที่เป่ารดแก้มทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา บ้าน่า นี่ไม่ใช่ละครน้ำเน่านะ ที่พระเอง
จะเมาแล้วปล้ำนางเอก
“ฮ่าๆๆๆ ตกใจ เหรอวะ ฮ่าๆๆ ขำว่ะ เพิ่งเห็นแกหน้าเหวอครั้งแรก นะเนี่ย เกรียนไม้ก็กลัวเป็นเว้ย” ร่างสูงหัวเราะร่า อ้อ นี่คือแกล้งหลับเหรอ ไอ้ลุง เจ้าเล่ห์
“ลุงแกล้งหลับเหรอ”
“เออสิวะ ฮ่าๆๆ โอ๋ๆ นี่แกงอนพี่เหรอ อย่างงอนน่า มันไม่ได้น่ารักเลยนะเว้ย ก๊ากๆๆ” พี่ต้นยังล้อไม่หยุด ก่อนจะลงไปชักดิ้นชักงอ
บนเตียง
“ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้มีโอกาสนะ ผมจะตอบแทนอย่างสามสมเลย!”
“อ้อเหรอ รีบมาเอานะเว้ย ฝากพี่ไม่มีดอกเบี้ยเหมือนธนาคารนะ”
“เหอะ” ผมแค่นเสียงพลางยกผ้าห่มมาคลุมโปงอีกชั้น เสียหน้า เสียหน้ามาก !!
“ไม้ แกรู้อะไรไหม ว่าทำไมพี่ถึงชอบเล็ก” จู่ๆคนขี้แกล้งก็เปลี่ยนอารมณ์กะทันหันจนผมแทบตั้งตัวไม่ทัน หรือนี่เป็นผลข้างเคียงของแอลกอฮอล์
“จะรู้กับพี่เหรอ พี่บอกว่าพี่เล็กน่ารักดีไม่ใช่หรือไง”
“มันก็ใช่นะ เล็กน่ารัก นิสัยดี ยิ้มเก่ง ทำกับข้าวอร่อย ถึงจะดูเงียบๆไปบ้าง แต่ก็เป็นคนจริงใจดี”
“เหอะ“ ผมได้แต่แค่นเสียงในลำคอ ก่อนจะหลับตาลงผมไม่ได้ว่างขนาดมานั่งฟังพี่ต้นอธิบายเรื่องของคนอื่นหรอกนะ
“พี่ตกหลุมรักเล็ก เพราะแววตาคู่นั้น แม้มันจะเต็มไปด้วยความเศร้าแต่ก็มีแววเด็ดเดี่ยว มันทำให้พี่นึกถึงใครบางคน” แม้ว่าผมจะ
ไม่เห็นหน้าคนพูดแต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความเศร้าในน้ำเสียงนั้น
“ถ้าพี่ไม่ไหวก็ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ”
“พี่ชายแกไม่ได้อ่อนแอ ขนาดนั้นนะเว้ย ”
“ตอนที่พี่ยังเรียนมหาลัย พี่เคยมีแฟนคนหนึ่ง เขาเป็นคนดีมาก มากซะจนพี่คิดว่าจะหาใครดีกับพี่ได้เท่าเขาหรือเปล่า แต่สุดท้ายเราก็ต้องเลิกกัน”
“อ้าว ถ้ารักกันมากขนาดนั้น ลุงเลิกทำไม”
“เพราะพี่ไม่คู่ควรกับคนดีๆอย่างอิท จำได้ว่าวันนั้น เป็นวันสิ้นปี อิทร้องไห้เอาแต่ถามพี่ว่าเขาทำผิดอะไร พี่ทำได้แค่หันหลังและ
เดินจากไป ทั้งๆที่อยากกอดปลอด ทั้งๆที่อยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไปแต่พี่มันขี้ขลาด ขี้ขลาดที่ไม่กล้ารั้งเขาเอาไว้ แต่ก็ดีแล้วล่ะ เขาจะได้เจอคนดีๆ คนที่คู่ควรกับเขามากกว่าพี่ ” ผมมองแผ่นหลังกว้างนั่นอย่างเห็นใจ ทำไมพี่ไม่เคยเห็นบ้างว่าคนที่รักพี่ยังอยู่ตรงนี้อีกคน
“ถ้าพี่เจ็บปวดกับมันนัก ผมจะทำให้พี่ลืมมันเอง”
“แกหมายความว่ายังไง”
“กอดผมสิ ถ้ามันจะทำให้พี่หายเจ็บ” ผมบอกก่อนจะซบแผ่นหลังกว้างของอีกคน
“รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา!” พี่ต้นหันกลับมาตวาดลั่น
“ผมไม่ได้เมา และผมก็รู้ตัวดีว่าผมกำลังทำอะไร” ผมบอกก่อนจะกดจูบลงบนรมฝีปากหนา ไม่รู้ว่าเพราะแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปหรือเพราะความเจ็บปวดในใจที่ทำให้ผมตัดสินใจแบบนั้น แต่ผมก็ทำมันลงไปแล้ว รสจูบร้อนแรงขมปร่าเพราะน้ำตาของเราสอง
คน สัมผัสที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะต้องการลืมความเจ็บปวด แม้ทำได้เพียงชั่วครู่ แม้จะรู้หนทางข้างหน้าจะยิ่งทรมาน แต่ผมก็เลือกที่จะทำมัน แม้เพียงชั่วคราวที่ร่างกายนี้ได้มอบให้กับคนที่รัก เท่านั้นก็พอ
หัวเราะเยาะผมเถอะ สมเพชผมเถอะ เพราะผมเป็นคนโง่ …. คนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลยนอกจาก รัก
...................................TBC...............................
จบพาสอดีต พาสแรก (ยังจำกันได้ไหมใช่ไหมว่าน้องไม้มันย้อนอดีตอยู่)
มุมเมาท์มอย
หายหัวไปสามชาติ พิตกลับมาแล้ว
ตอนนี้ มีพลังงานเพิ่งขึ้น 70% แต่ ก็ยัง ปั้นได้แบบเต่าคลานอยู่ดี
แต่เค้าจะพยายาม อย่าเต็มที นะคะ ที่รักของพิต
อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจด้วยนะคะ
เพื่อความรวดเร็ว ในการอัพข่าวสาร กิจกรรมต่างๆ จร้า