Politics of love รักถะศาสตร์ #เจ้ากรมขย่มปฐพี เล่มออกละเด้อ พร้อมส่ง 10/6/2563
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Politics of love รักถะศาสตร์ #เจ้ากรมขย่มปฐพี เล่มออกละเด้อ พร้อมส่ง 10/6/2563  (อ่าน 60713 ครั้ง)

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
ยังไม่แน่ใจกันทั้งสองคนเลยเนาะเพราะอยู่กันแบบพี่น้องปลอมๆมาตลอด :laugh: เอาใจช่วยทั้งสองคนเลย แต่ตอนต่อไปน้องผีจะเมามั้ยนะ อยากเห็นน้องบดๆยั่วๆอีก55555 ถ้าไม่ติดว่าน้องผีมีความหวั่นไหวให้กับพี่กรมก็อยากให้พี่เทพมาจีบน้องผี เพราะเราหมั่นไส้พี่กรม เรือผีๆเทพผีเราจะได้เดินด้วย555 คุณไก่ทอดมาเร็วมากๆว่าจะเม้นตอนที่แล้วเปิดมาอีกทีตอนใหม่มาแล้ว ขอบคุณมากๆนะคะที่มาเร็วมาก ห้ามทิ้งกันนะ :pig4: :L1:  :กอด1:

เราก็รอคุณน้า

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3


บทที่ 12.2



        ผมไม่รู้นะว่าเพลงนี้ที่พี่กรมมันพูดขึ้นมาคือเพราะพี่มันอยากฟังเอง หรืออยากจะสื่ออะไร ผมเองก็นอนฟังไปนิ่งๆทั้งที่หัวใจตอนนี้ของมันมันกลับหวั่นไหว ไม่รู้ว่านี่มันเรียกว่าอะไร แต่ผมอยากจะบอกว่าในเนื้อเพลงที่คิดไปเองข้างเดียว แต่สำหรับตอนนี้ถ้าพี่มันอยากจะสื่อตามความหมายจริงๆ ผมก็อยากจะบอกออกไปว่าผมก็คิดเหมือนกัน แต่นั่น....ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลืมตาขึ้นมาจากภวังค์ความนึกคิดของตัวเอง อยู่ๆก็มีบางอย่างทาบลงมาบนริมฝีปากของผมเบาๆ...


   มันเป็นสัมผัสที่อ่อนโยนและอ่อนนุ่มที่ผมไม่เคยได้สัมผัสในสิ่งนี้มาก่อน ด้วยความอยากรู้ทำให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา แต่...ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลืมมือของพี่กรมกลับวางทับลงมาที่ตาทั้งสองข้างของผมเอาไว้


   “ อย่าลืมตา...ขอแค่ตอนนี้เท่านั้น” ผมไม่รู้ว่าพี่มันหมายความว่าอย่างไร แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธทำให้ผมหลับตาและปล่อยให้ทุกอย่างมันดำเนินไปตามจังหวะของมัน ริมฝีปากที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิตมันทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งสัมผัสเวลาที่พี่กรมค่อยๆใช้ริมฝีปากของเขาขบเม้มที่ริมฝีปากของผมอย่างหยอกล้อและต้องการสื่อให้ผมรับรู้ว่าเขาต้องการทำมากกว่านี้ ผมพร้อมที่จะเปิดหากพี่มันต้องการแต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมคิดมันจะไม่ได้เป็นสิ่งที่มันต้องการจริงๆ เพราะสัมผัสของพี่กรมมันหยุดอยู่แค่ริมฝีปากของผมเท่านั้น.....


   “ ขอโทษ....” ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมนอนปล่อยตัวให้พี่มันจูบจนกระทั่งพี่มันค่อยๆผลักออกจากริมฝีปากของผมอย่างอ้อยอิง มือที่ปิดแนบบริเวณดวงตาของผมในตอนแรกค่อยๆเลื่อนลงมากุมใบหน้าของผมเอาไว้ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาและยังคงเห็นว่าใบหน้าของเขายังคงอยู่ที่เดิมไม่ห่างไปไหน..


   “ ครับ?...”


   “ ขอโทษที่จูบมึงไป” พี่กรมเลื่อนนิ้วชี้ของเขามาสัมผัสที่ริมฝีปากของผมอยู่อย่างนั้นจนผม...ทำอะไรไม่ถูกจนเผลอกัดปากของตัวเองไป “ อย่ากัดปาก”


   “ พี่.......”


   “ หึ” ไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมผมแพ้สายตาแบบนี้ของพี่มันจนทำให้ผมเบือนหน้าหลบไปอีกทาง แต่นั้นมันก็ยังไม่ทำให้ผมรู้สึกหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้นเมื่อพี่มันเปลี่ยนท่าให้ผมขึ้นนั่งอยู่บนตักของพี่มันทั้งๆที่เรานั่งหันหน้าเข้าหากันอยู่


   “ พี่ อย่าทำแบบนี้ดิ” ผมพยายามจะดันตัวเองให้ลุกออกจากตักของพี่กรม แต่ดูเหมือนว่ายิ่งผมขยับตัวมากเท่าไหร่ มันก็ไปกระตุ้นบางอย่างของพี่มันขึ้น และนั่น...ผมก็รู้ว่ามันคืออะไรจนกระทั่งผมยอมนั่งอยู่นิ่งๆบนตักของพี่มัน


   “ พี...กูไม่ไหวละหวะ” ผมไม่รู้ว่าพี่มันหมายความว่าอย่างไร แต่สิ้นเสียงนั้นของพี่กรม ใบหน้าของพี่มันเลื่อนเข้ามาจูบผมอย่างรุนแรงซึ่งแตกต่างจากในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง ลิ้นร้อนของพี่มันลุกล้ำเข้ามาในโพรงปากหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่ไม่เป็นประสีประสาอะไรของผม มือทั้งสองข้างเลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอของพี่มันไว้เพื่อต้องการทรงตัวยิ่งพี่มันรุนแรงผมก็ยิ่งรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันค่อยๆเริ่มก่อตัวขึ้น


   นี่ผมมีอารมณ์กับผู้ชายอย่างนั้นหรอวะ?


   “ พี่ขยับได้ไหมครับ..” พี่กรมผลักริมฝีปากจากผมก่อนที่พี่มันจะเอี้ยวตัวมากระซิบที่ข้างหูเลื่อนลงมาที่ซอกคอก่อนที่พี่มันจะหยุดนิ่งอยู่ที่ซอกคอของผมและค้างเอาไว้.. “ อื้อ” เสียงครางนั้นทำให้ผมรู้เลยว่าพี่มันต้องการอะไร


   เมื่อเห็นว่าผมยังคงนิ่งอยู่ที่เดิมพี่กรมค่อยๆเลื่อนมือของเขาเข้ามาจับที่สะโพกทั้งสองข้างของผมและค่อยๆออกแรงดันให้ตัวของผมนั้นเคลื่อนเป็นจังหวะ ยิ่งขยับมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ทิ่มอยู่ภายใต้ร่างของผมที่มีเพียงแค่กางเกงของเราทั้งสองกั้นเอาไว้


   “ อื้ม อย่างนั้นแหละครับ” เสียงครางของพี่มันที่บ่งบอกว่ามีความสุขนั่นทำให้ผมขยับตัวมากกว่าเดิม เมื่อเริ่มจับจังหวะได้ว่าทำอย่างไรจะทำให้พี่มันรู้สึกมีความสุข จากตอนแรกที่พี่มันค่อยบังคับเอวให้ผม แต่เมื่อเริ่มเรียนรู้ได้ผมก็ไม่ต้องการให้พี่มันบังคับได้อีกต่อไปเพราะผมอยากที่จะคุมเกมเองทั้งหมด เมื่อมือของพี่กรมเป็นอิสระก็เหมือนว่ามือของพี่มันจะว่างทำให้ผมค่อยๆจับมือของพี่มันเลื่อนเข้ามาในเสื้อของผม


   “ ถ้ามือพี่ว่าง....เล่นกับนมของผมได้นะครับ” สิ้นเสียงเชื้อเชิญนั้นมือใหญ่ของพี่มันสัมผัสเข้ากับหน้าอกเล็กทั้งสองข้างของผมอย่างหยอกล้อ นิ้วมือของพี่กรมค่อยๆขย้ำเข้ากับหน้าอกทั้งบีบทั้งคลึงจนกระทั่งพี่มันผลักตัวผมให้นอนราบไปกับพื้น


   “ มึงทำให้กูรู้สึกแย่” ผมขมวดคิ้วทันทีที่พี่มันพูดออกมาแบบนี้ “ แย่...ที่กำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้” พี่มันเบือนหน้าหนีผมไปอีกทางเหมือนพยายามสะกัดกั้นความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นรุนแรง และนั่นก็ทำให้ผมได้สติกลับคืนมา


   “ ขอโทษครับ” ผมค่อยๆดันตัวพี่มันให้ออกห่างจากตัวของผมก่อนที่ผมจะค่อยๆยันตัวเองให้ลุกขึ้นตามพี่มันมาอย่างยากลำบากเหมือนกัน


   ไม่ใช่ว่าพี่มันรู้สึกอยู่คนเดียว....เพราะผมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ยิ่งตอนนี้ผมไม่ได้ปลดปล่อยมานาน


   “ มันไม่น่าเกิดขึ้นกับมึงเลยไอ้พี” ใบหน้าของพี่กรมบ่งบอกว่าเขาเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


   “ ไม่เป็นไรพี่” ผมพยายามพูดเหมือนว่าไม่ใส่ใจ เพื่อให้พี่มันรู้สึกดีขึ้นกับเหตุการณ์ที่เราเพ้อ “ ก็แค่เผลอเอง ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ”


   “ กูไม่ได้เผลอ!” พี่มันหันมาตะหวาดใส่ผมเสียงดัง “ กูไม่ได้เผลอ กูตั้งใจ!! มันไม่ควรเกิดขึ้นกับมึงและกูเลย....” ในช่วงประโยคสุดท้ายของพี่กรมดูน้ำเสียงอ่อนลง


   ผมไม่ได้ตอบอะไรพี่มันออกไปเพราะกลัวว่าสถานการณ์มันจะยิ่งแย่ไปกว่านี้ ทำไมไม่เอาเวลาที่มานั่งคิดมากมาทำให้มันเสร็จๆไปละครับ ไม่รู้ว่าความคิดแบบนี้มันออกมาจากความคิดของผมได้อย่างไร และนั่นก็เป็นตัวเปิดฉากที่ทำให้ผมก้าวข้ามผ่านเส้นบางๆระหว่างความสัมพันธ์ที่เรียกว่าพี่น้อง


   เมื่อมือของผมค่อยๆเลื่อนไปปลดตระขอกางเกงของพี่มันออก พี่กรมที่เบือนหน้าหนีผมออกไปในตอนแรกค่อยๆก้มลงมามองมือของผมที่กำลังจะถอดกางเกงของพี่มันออกอย่างช้าๆ จนกระทั่งเหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียวเท่านั้น ถ้าผมข้ามผ่านมันก็จะต้องไม่เหลืออะไร


พรึบ


   ยังไม่ทันที่ผมจะถอดกางเกงของพี่มันออก พี่กรมกลับจับมือของผมเอาไว้ก่อน


   “ มึงจะเอาแบบนี้จริงๆใช่ไหม?”


   ผมมองใบหน้าของพี่กรมที่แดงกร่ำไปด้วยความรู้สึกที่เริ่มจะก่อตัวอย่างรุนแรง


   “ ครับ แค่ใช้ปากนะ” ผมไม่สนอะไรแล้วเมื่อมือทั้งสองข้างของผมดันมือของพี่กรมที่จับมือของผมเอาไว้อยู่ให้ออกจากทางที่ผมจะได้เข้าไป เมื่อกางเกงชั้นในที่เป็นสิ่งสุดท้ายที่พันธนาการบางสิ่งบางอย่างเอาไว้อยู่ออก


   “ อื้มมมม” มือของพี่กรมขย้ำที่กลุ่มเส้นผมของผมเบาๆ เมื่อปากผมครอบครองมักกรยักษ์ของพี่กรม อันที่จริงผมก็ทำไม่เป็นหรอกนะครับแต่ว่าเวลาที่ผมดูหนังโป๊ ผมเคยเห็นว่าถ้าผู้หญิงทำแบบนี้ให้กับผู้ชายก่อนมีเพศสัมพันธ์มันจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้ชายมีอารมณ์มากขึ้น ผมก็ไม่รู้นะว่ามันจะได้ผลกับผู้ชายด้วยกันอย่างนี้ไหม แต่ผมสังเกตจากพี่กรมแล้วผมว่า..ฝีมือของผมมันก็ค่อยข้างดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว


   “ เน้นๆ” ผมไม่รู้ว่าไอ้เน้นๆของพี่มันคืออะไรจนกระทั่งพี่มันกดหัวของผมให้ครอบบริเวณนั้นลึกลงไปมากกว่าเดิม แต่ผมก็ยันตัวเอาไว้ไม่งั้นผมจะอ้วกออกมาเพราะของพี่กรมมันใหญ่คับปากผมจริงๆครับ


   ขอโทษนะที่ผมบรรยายออกมามันอาจจะทำให้ทุกคนดูหมดอารมณ์ไปบ้าง


   ผมค่อยๆใช้ลิ้นของตัวเองเลียรอบๆโคนของพี่มันก่อนจะใช้ทั้งสองมือช่วยขยับขึ้นลงตามจังหวะจนกระทั่งเห็นว่าพี่มันใกล้ถึงจุดสุดยอดผมก็ปล่อยมือและปากออกจากบริเวณนั้นของพี่กรม


   “ ไอ้พี...” พี่กรมเรียกผมเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าอยู่ๆผมก็หยุดการกระทำทุกอย่าง


   “ ผมว่า...ผมทำต่อไม่ได้แล้วหวะ” เอาจริงๆนะผมก็เคยช่วยเหลือตัวเอง แต่ไอ้ขั้นตอนสุดท้ายผมไม่สามารถคิดและปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้จริงเมื่อน้ำของพี่มันปล่อยให้หน้าและปากผม...แบบนั้นผมยังไม่กล้า


   “ มึงทำแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย” พี่กรมจับมือของผมเอาไว้ไม่ให้ผมลุกหนี หน้าของพี่กรมบ่งบอกว่าพี่มันโคตรจะทรมานในการทำอะไรครึ่งๆกลางๆ แต่ผมมีเหตุผลของผม


   “ ทำได้ดิ นี่ไงก็ทำอยู่” ผมพูดหน้านิ่งใส่พี่มันเพื่อรอดูว่าพี่กรมมันจะทำอย่างไรต่อไป


   “ จะตามใจ..สองอย่าง” แค่นั้นแหละครับผมก้มลงสานต่อในสิ่งที่ผมทำค้างเอาไว้จนกระทั่งเสร็จกิจทุกอย่าง ไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ไม่ว่าความสัมพันธ์ของผมกับพี่มันจะต้องเปลี่ยนไปอย่างไร ผมก็ยังเป็นน้องชายของพี่มันเสมอ.....


   “...........”


   “ .........”


   ทั้งผมและพี่กรมปล่อยให้ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ ให้เราอยู่ในความคิดของตัวเองว่าสิ่งที่ทำไปมันควรจะจบลงแค่ตรงนี้หรือมันควรที่จะเริ่มและดำเนินต่อ ผมโอเคสำหรับทั้งสองทาง อย่างไงผมก็กล้าที่จะเสี่ยงแต่ดูเหมือนว่าใครอีกคนเขาไม่พร้อมเหมือนที่ผมพร้อม


   “ ไอ้พี...”


   “ ครับพี่?” ผมหันไปมองหน้าพี่มันเมื่ออยู่ๆพี่มันก็เรียกผมขึ้นท่ามกลางความเงียบ “ ถ้าพี่คิดอะไรอยู่พี่ก็พูดออกมา ผมโอเคถ้าพี่จะให้ผมอยู่ในสถานะน้องชายแบบเดิม แล้วไอ้เหตุการณ์นั้นมันก็น่าจะช่วยให้พี่ตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น พี่เผลอผมเผลอก็แค่นั้น?”


   “ กูจะจีบเมย์ กู....กูว่ามันไม่ใช่หวะ”


   “ .....”


   ตลกไหมละครับที่ผมยิ้มออกมาเมื่อพี่มันพูดออกมาว่าจะจีบผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งๆที่เมื่อกี้เรา....นั่นแหละครับ ก็ดีเหมือนกันที่การที่ผมทำอะไรแบบนั้นลงไปมันจะทำให้อะไรมันง่ายขึ้น และผมก็ได้คำตอบแล้วหละครับว่าพี่มันให้ผมอยู่ในสถานะน้องชายต่อไป


   “ เอาใจช่วยนะพี่”


   “ ไอ้พี” ไม่รู้นะครับว่าตอนนี้สีหน้าและน้ำเสียงของผมมันแสดงออกไปอย่างไร แต่ที่แน่ๆผมไม่อยากเห็นหน้าพี่มันแล้วหวะ ทั้งๆที่ผมเป็นคนบอกเองว่าผมยอมอยู่ในสถานะน้องชาย แต่เอาเข้าจริงๆมันยากฉิบหายเลยครับ


   “ น้องชายคนนี้เอาใจช่วยพี่ชายเสมอ ผมว่าผมง่วงและหวะพี่ ไอ้ที่บอกจะพาไปทะเลไม่ต้องละนะ ไว้ผมค่อยมาดูเองดีกว่า ฝันดีครับ” ผมยันตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มลงมองหน้าพี่มันที่มองหน้าผมอยู่เหมือนกันด้วยสายตาที่สับสนและรู้สึกผิด “ ผมโอเคเว้ยพี่” ผมตบไหล่พี่มันเบาๆสองที หันหลังเดินขึ้นเตียงไปและทิ้งตัวลงนอนหลับตาทั้งๆที่ในใจตอนนี้ของผมโคตรเจ็บปวดที่ผมดันรู้สึกไปเองว่าเราคิดเหมือนกัน มันคงจะไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกมั้งครับผมหวังว่านะ


ตุบ


   เสียงยวบไหวของเตียงทำให้ผมรู้ว่าใครอีกคนที่อยู่ในห้องยังคงไม่ได้ออกไปไหน และขึ้นมานอนซ้อนด้านหลังของผมพร้อมกับสองมือใหญ่ที่โอบกอดเอวของผมเอาไว้


   “ ขอโทษนะ...” น้ำเสียงที่รู้สึกผิดของพี่กรมมันกระตุ้นให้ผมรู้สึกเจ็บมากเท่านั้น


   “ .......” ผมไม่ได้ตอบอะไรพี่มันออกไปแค่นอนหลับตาฟังในสิ่งที่พี่มันพูดต่อ


   “ จะเป็นอะไรไหมถ้ากูขอให้มึงอยู่กับกูในฐานะน้องชายแบบนี้ตลอดไป...”


   “ ครับ.....” ผมพึ่งรู้ตัวก็วันนี้ว่าการที่ฝืนพูดออกมาทั้งๆที่ในใจไม่ได้คิดอะไรมันเป็นแบบนี้นี่เอง


   “ ขอโทษที่เห็นแก่ตัว”


   “ ผมจูบพี่ได้ไหม? น้องชายอย่างผมจูบพี่อีกได้ไหม?” ผมหันหน้าไปหาพี่มันที่นอนกอดผมอยู่ ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเราทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงเอื้อม


   “ .......”


   “ ข้อหนึ่งที่ผมขอ” ผมยกข้ออ้างที่พี่มันพูดในตอนนั้นออกมา


   “ แต่มึงจะเจ็บ”


        “ ผมโอเค Just kiss”


   “ ถ้ามึงต้องการ” สิ่งที่ผมขอไปผมไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือคิดผิดที่ขอพี่มันแบบนั้นออกไป ในเมื่อพี่มันเห็นแก่ตัวขอผมเป็นน้องชาย ผมก็เห็นแก่ตัวพอที่จะขอพี่มันจูบ ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าพี่มันจะทนจูบกับน้องชายได้นานแค่ไหน


   “ ถ้าพี่ไม่รังเกียจ”


   “ พี กูไม่เคยรังเกียจมึงเลย เมื่อกี้ก็ไม่รังเกียจ” พี่กรมยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของผมเบาๆ


   “ เล่าเรื่องผู้หญิงที่ชื่อเมย์ให้ผมฟังหน่อยได้รึเปล่าครับ” ในเมื่อเจ็บก็ต้องเจ็บให้สุดซิครับ ไอ้เหี้ยเอ้ย เจ็บกว่าโดนต่อยก็ครั้งนี้นี่แหละ


   “ เมย์อยู่ปีสามคณะแพทย์ เคยเจอกันตอนปีหนึ่งที่เป็นวิชารวมจีบมาได้เกือบสองปี แต่เบื่อไม่อยากจีบ พอวันนี้กูเห็นรูปเขา กูก็เลยรู้สึกตัวเองได้ว่ากูยังชอบเขาอยู่หวะ”


   “ พี่กรม พี่มันแย่จริงๆแหละ”


   “ กูยอมรับ”


   “ แต่ผมก็ยังจะยืนยันคำเดิมว่า....”


   “ .....” พี่กรมตั้งหน้ารอฟังคำที่ผมจะพูดกับพี่มันอย่างคาดหวังว่าผมจะพูดว่าอะไร คนอย่างผม คนอย่างที่ทุกคนรู้


   “ ผมง่วง”


   “ ......”


   คืนนี้ผมไม่ไหวแล้วครับ มันเกินไปที่คนโง่ๆอย่างผมที่จะรับไหว เอาไว้ว่ากันต่อพรุ่งนี้นะครับ หวังว่า...ผมจะรู้สึกดีกว่าวันนี้ที่ผ่านมา


   หวังว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะยังเจอคนที่นอนข้างๆผมอยู่จนถึงเช้า


   หวังว่าทุกอย่างจะไม่เปลี่ยนไป... แม้ว่าหัวใจของผมมันจะชัดเจนแล้วก็ตาม










PS. น้องบอกว่า just kiss

พี่กรมสับสนแต่มาทำแบบนี้เพื่ออะไร?????????

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:45:54 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่กรม จะไปขย่มเมย์ซะและ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ทั้งที่พี่เทพเตือนแล้วนะ  :m16:
คิดกับพี แสดงออกกับพี จูบพี แต่พี่ไม่กล้า ขอให้พีเป็นแค่น้องชาย
พี่กรมทำใจให้ได้อย่างปากว่าละกัน  :m20: :laugh:
เพราะท่าทางไอ้พี่กวงจะจีบพีจริงจังซะแล้ว  o18
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอแก้ที่ผิดนะ
ทำให้ผมขว้าแขน ------- คว้า
ลูกผู้ชายอกสามซอก ------ ศอก

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ความรู้สึกที่มีให้พี่กรมตอนนี้คือ :a5: อิหยังสรุปชอบหรือไม่ชอบน้องผี ถ้าชอบแต่รู้สึว่าจะเปิดเผยไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบคู่รักไม่ได้ก็ไม่ควรทำงี้ป้ะหรือว่ายังสับสนอยู่ แต่จะว่าพี่กรมคนเดียวก็ไม่ได้น้องผีก็ไม่ได้ขัดขืนอ่ะ ความรู้สึกมันซับซ้อนจริงๆจะบอกว่าไม่เข้าใจมันก็พูดได้ไม่เต็มปาก ในความรู้สึกเราก็คือถ้าพี่กรมจะmove on ก็อยากให้น้องผีmove onด้วย น้องผีต้องเข้าใจสถานะตัวเองว่าเป็นน้องชายไม่ใช่เมีย ถ้าจะมีใครสักคนก็ไม่ผิดแต่น้องผีจะmove onได้มั้ย :serius2: รอตอนต่อไปล่ะกัน ตอนนี้คือหน่วงในอกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยากskipไปตอนที่มีความสุขเลยใจรับไม่ไหว แต่ก็อยากเห็นอิพี่กรมตอนช้ำใจ มาต่อเร็วๆนะคะ สนุกมากๆเลย อิพี่กรมจะทำยังไงกับน้องผีต่อ แล้วจะจีบคุณหมอเมย์ติดมั้ย :katai1: อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว คุณไก่ทอดสู้ๆนะคะมาต่อเร็วๆนะ :pig4: :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 13

น้องพีคนดีคนเดิม (มั้ง)


ผมรู้แล้วว่าไอ้การที่ผมบ้าขนาดที่ไปขอพี่มันจูบ และไอ้เหตุการณ์ที่ผมทำกับพี่มันในคืนนั้นมันเป็นผลมาจากการที่ผมดื่มเบียร์ ไม่ดิไอ้พี! มึงเลิกใช้ข้ออ้างสักทีเถอะ มึงรู้ตัวเองดีทุกอย่างว่ามึงกำลังทำอะไร แต่ผมแพ้ให้อีกใจที่ผมไม่ควรแสดงแบบนั้นออกมา แค่มองหน้าพี่มันตอนนี้ผมก็ไม่กล้าหละครับ แล้วผมจะไปมีหน้าไปจูบพี่มันตามที่ผมขอได้อย่างไร แบบนี้ซิครับที่เขาเรียกว่าทำอะไรไม่คิด!


   “ ไอ้พีวันนี้มึงจะไปบ้านไอ้กรมไหม” ผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินชื่อพี่กรมคนที่ผมพยายามหลบมาตลอดอาทิตย์


   “ พี่เทพผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย” ผมพูดบอกพี่เทพออกไปส่งๆ ส่วนไอ้เรื่องไม่สบายผมก็เป็นข้ออ้างไปอย่างนั้นแหละครับ แค่ไม่อยากไปก็รู้ว่าถ้าไปจะเจออะไรผมก็ไม่อยากไป


   “ ไปทำบ้านกูไหม ไม่ต้องไปบ้านไอ้กรม เดี๋ยวนี้แม่งติดหญิง ตั้งแต่กลับจากทะเลก็เปลี่ยนไปสัดๆ กับเพื่อนนี่เจอแทบจะนับครั้งได้เลย” ผมหน้าสลดทันทีที่พี่เทพพูดออกมาแบบนั้น ไม่ใช่แค่ผมที่หลบหน้าพี่มันคนเดียวแต่พี่มันเองก็หลบหน้าผมด้วยเหมือนกัน ถ้าย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้าของอีกวันที่ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงคนเดียวทั้งๆที่เมื่อคืนเรานอนกอดกันตลอดทั้งคืน รู้จากพี่เทพอีกทีว่าพี่กรมกลับไปกับพ่อของเขาที่ผ่านมาทางนี้พอดี ถ้าไม่เรียกว่าหลบหน้าจะให้เรียกว่าอะไร ไอ้ผมก็อยากไปถามพี่มันตรง   ๆนะว่าเป็นอะไร แต่...ติดอยู่อย่างเดียวคือผมไม่กล้าเหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าผมกล้าผมจะลุยเดี่ยวไปถามพี่มันแน่นอน คนอย่างน้องพีเก่งกับหมาซ่ากับเด็กตีกับคนแก่ แต่ลืมไปว่าไอ้พี่กรมนั่นแม่งไม่ใช่หมาไม่ใช่เด็กและไม่ใช่คนแก่


   “ บ้านพี่เป็นอย่างไง” อ่อ ผมลืมบอกไปครับว่าผมบังเอิญมาเจอพี่เทพที่ร้านกาแฟพี่มันเลยเรียกให้ผมไปนั่งด้วยแถมยังใจดีเลี้ยงน้ำผมอีก พี่แม่งใจดีแปลกๆหวะ


   “ ก็ใหญ่แต่เล็กว่าบ้านไอ้กรม อยู่กับแม่สองคน เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว”


   “ น่าสนใจ” ผมลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด “ พี่....พี่กรมไปไหม?”


   “ มันบอกว่าไม่ว่างอะไรนี่แหละ มึงไม่ได้ดูไลน์กลุ่มรึไง” ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ค่อยจับโทรศัพท์เลยครับ เอาเวลามาสนใจสิ่งรอบข้างดีกว่า “ มึงเหมือนคนอกหักเลยหวะ”


   “ ห้ะ? บ้าเปล่าพี่ผมนี่จะไปอกหักกับใคร” ผมนี่รีบยกน้ำขึ้นมาดื่มเลยครับไม่มีพิรุธจริงๆ


   “ ไอ้พี แก้วกูครับ” พี่เทพมันถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนที่พี่มันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น “ จะไปนอนบ้านกูก็ได้นะ จะได้สะดวก”


   “ ครับพี่ ข้าวฟรีไหม?”


   “ เออ งกจริง แต่แม่กูทำให้แดกนะ ไม่ต้องไปทำเหมือนบ้านไอ้กรมแล้ว กูยังไม่อยากขี้แตกอีก” ผมเองนี่ก็หลอนทุกครั้งเมื่อพี่มันพูดถึงชื่อของพี่กรม มันเสียวสันหลังแปลกๆ อย่างไงก็ไม่รู้ ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันครับ


   “ เห้ย นั้นไอ้กรมกับเมย์นี่หว่า” พี่เทพมันชี้ออกไปนอกร้านทำให้ผมหันไปมองตามือของพี่เทพ ก่อนจะเห็นภาพบางอย่างที่ทำให้ผมปวดใจฉิบหายเลยครับ


   ภาพที่พี่แม่งเอามือวางไว้บนหัวของผู้หญิงพร้อมกับรอยยิ้มสายตาหยอกล้อตลอดทั้งทางโดยไม่สนใจคนรอบข้างแม้กระทั่งที่ว่า ผมกับไอ้พี่เทพยืนเกาะกระจกร้านพี่มันก็ยังไม่สังเกตเห็น ผมเองก็ไม่รู้ตัวเองว่ามือของผมมันไปวางบนหัวของไอ้พี่เทพตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันทำแบบเดียวกับที่พี่กรมมันทำกับผม


   “ อย่าอินเกินไอ้น้อง” พี่เทพมันจับมือของผมออกจากหัวพี่มันก่อนที่จะหันให้ผมนั่งลงกับเก้าอี้เหมือนเดิม “ กูพึ่งเคยเห็นหมาหัวเน่าก็วันนี้เอง”


   “ พี่ ผมไม่ขำครับ” ผมมองหน้าไอ้พี่เทพอย่างเอาเรื่อง ไม่รู้ว่าผมไปโกรธหรือโมโหใครมา แต่เอาเป็นว่าวันนี้ไอ้พี่เทพรับเคราะห์ไปเต็มๆครับ


   “ แล้วกูขำไหมละ” พี่เทพถอนหายใจออกมาก่อนที่พี่มันจะหยิบแก้วกาแฟของตัวเองขึ้นดื่ม


   “ พี่ พี่เคยโดนผู้ชายอมไข่ไหม?”


พวดดดดดดดดดด


   เต็มหน้าผมเลยครับ กาแฟของพี่มันพ่นใส่หน้าผมเต็มๆ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะใช้มือลูบหน้าตัวเองเพื่อเอาไอ้กาแฟที่พี่เทพพ่นออกมาออกจากหน้า ถ้าปล่อยไว้นานมันจะเหนียวเอาผมขี้เกียจกลับไปอาบน้ำ   


   “ ถามเหี้ยอะไรของมึง” ไอ้พี่เทพวางแก้วลงพร้อมกับใช้ทิชชู่เช็ดปากของตัวเอง


   “ ก็...แค่อยากรู้”


   “ มึงไปอมไข่ใครเขามาละ” ไอ้พี่เทพยื่นหน้ามาถามผมใกล้ๆด้วยแววตาล้อเลียนจนผมต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นทันที

 
   “ เพ้อเจ้อพี่” ด่ากลบเกลื่อนไปก่อนครับ เดี๋ยวพี่มันจับได้


   “ ปกติวันนี้วันศุกร์เพื่อนกูต้องครบทีมดิวะ ทำไมกูมานั่งโง่กับมึงสองคน ไอ้วินแม่งก็บ้าขายของ ส่วนไอ้คินก็ไปอยู่กับน้อง ไม่รู้จะติดไรหนักหนาน้องหรือเมียก็ไม่รู้แต่น้องมันน่ารักดีกูเห็นก็ยังชอบไปเล่นเลย แต่ไอ้เวรนี่หวงฉิบหาย” ผมไม่ได้ฟังว่าพี่เทพมันบ่นอะไรออกมา เพราะตอนนี้ภาพของพี่กรมกับผู้หญิงคนนั้นมันยังติดตาผมอยู่ สิ่งที่พี่มันทำกับคนนั้นพี่มันก็เคยทำกับผมแบบเดียวกัน


   “ ไอ้ชั่ว!!!”


   “ ......”


   “ เลวมาก เลวที่สุด ทำงี้กับกูได้ไงวะ!!!!”


   “ ไอ้พี......”


   “ ไม่ต้องมาเรียกกู มึงแม่ง ฮื่อออออออออออ” ผมก้มหน้าลงบนมือของตัวเอง ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วครับ ผมอ่อนแอเกินไป ยิ่งคิดถึงช่วงเวลาดีๆที่เคยมีให้กัน มันก็ตอกย้ำให้กับความโง่ของผมที่ไปทำอะไรแบบนั้น ผมแม่งไม่ต่างจากพวก LOSER เลยวะ


ผั๊วะ!


   “ ไอ้พี มีสติหน่อยดิวะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้พี่เทพที่ตอนนี้มันยืนอยู่ตรงหน้าผม


   “ พี่ตบหัวผมหรอ?”


   “ เออ! กูเอง จะให้ใครไปตบมึงหละ”


หมับ


   ผมขว้าเอวพี่เทพเข้ามากอด ทำไมพี่มันต้องมาวนเวียนอยู่ในหัวผมด้วย ผมไม่อยากคิดมากอีกแล้ว ตลอดเวลาผมแม่งก็คิดถึงพี่มันตลอด ยิ่งไม่เจอยิ่งห่างก็ยิ่งคิดถึง มองอะไรเห็นอะไรก็กลายเป็นว่าผมเคยมา เคยเจอ เคยโดนพี่มันทำอย่างนั้น ขนาดไอ้พี่เทพตบหัวผม ผมยังคิดถึงที่พี่มันชอบตบหัวผมเลยครับ....


   “ โอ๋ ไอ้ควายน้อย”



   แต่ใครจะรู้ว่าภาพที่พีดึงเทพมากอดและซุกหน้าลงบนหน้าท้องของเทพที่ยืนอยู่ตรงหน้า จะถูกใครอีกคนยืนมองอยู่ห่างๆด้วยความไม่พอใจ แล้วเขามามีสิทธิ์อะไรที่จะไม่พอใจ ทั้งๆที่ตัวเองตัดสินใจเองแล้วทั้งนั้นว่า...ให้มันเป็นได้แค่น้องชาย


   “ กรมไปกัน” เจ้ากรมก้มลงมองมือของเขาที่ถูกคนตัวเล็กกุมเอาไว้ และตอกย้ำกับตัวเองให้อยู่กับปัจจุบันให้โฟกัสที่ผู้หญิงตรงหน้าและย้ำกับตัวเองเสมอว่านี่คือคนที่เขาชอบ ถ้าเขาไม่ชอบเขาจะเฝ้าจีบเธอมาทำไมตั้งสองปี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปว่าเวลาสองปีมันไม่ใช่ตัววัดค่าเพราะเขาเคยเลือกที่จะเดินออกมา แต่ที่เขากลับเข้าไปอีกนั่นเป็นเพราะว่าอะไร....


   “ เมย์เย็นนี้เราไปกินข้าวกันนะครับ”


   “ ได้ดิ เดี๋ยวเมย์ขับรถให้นะ ^^”


   “ ครับ ^^” ให้โอกาสน้องมันไปเจอคนที่ดีกว่านี้ นี่คือคำพูดของคนเห็นแก่ตัวอย่างเขาเอง เขาไม่ดีพอเพราะเขารู้ว่าอนาคตมันจะเป็นอย่างไรหากถึงวันที่ต้องคบกัน สถานะนี้มันดีที่สุดสำหรับเราทั้งสองคน ตอนนี้ก็ปล่อยให้แค่มันและเขาไปทำใจและได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากที่สุด









 

PS. ขอมาสั้นๆก่อนนะ พน.พี่จะยาวให้เด้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 12:40:46 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :fire: :fire:

ตามสบายพี่กรม

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทั้งชัง ทั้งเหม็นหน้า........ไอ้พี่กรม   :z6: :fire: :angry2:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ไอ้พี่กรมดีมาตลอด มาเลวตอนนี้ได้ไง ยกน้องพีให้พี่เทพไปเลย จะรอสมน้ำหน้าคน ชิ

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อยากถามพี่กรมว่าสถานะตอนนี้มันดียังไง สงสารน้องผีมาก อยากให้มีใบลาออกจากการเป็นน้องชาย แบนพี่ชายที่ชื่อกรมค่ะถ้ามีปุ่มบล็อกพี่กรมออกจากน้องผีก็จะกดรัวๆ ตอนนี้คือเรือเทพผีพายมากไม่ใช่เรือผีแล้ว แต่เอาจริงๆอ่านตอนต้นๆคือเจ็บมากเลยนะเรารู้ว่าเรือเราพายแต่มันก็มีรูใหญ่ๆให้เรือจม เรารู้ว่าน้องผีชอบพี่กรมขนาดไหนยังไงเราก็อยากให้น้องสมหวังอ่ะ ถึงตอนนี้พี่กรมจะผีมากไอ้คนใจร้าย มันแย่ที่สุดตรงที่ชอบเขามาก แต่ขยับสถานะไม่ได้ พอเขามีใหม่ก็อยากออกห่างแต่ก็ไปไม่ได้เพราะเขาขอให้เป็นน้องชาย อิเวงความสัมพันธ์และสถานะน้องที่เจ็บมากๆ ขนาดคนนอกอย่างเรายังเจ็บอ่ะ แต่พออ่านถึงตอนพี่กรมเห็นบอกเลยว่าสะใจมาก   อยากให้น้องอยู่ในสถานะนี้เอง แต่ก็ยังดีที่พี่กรมรู้ว่าไม่มีสิทธ์ไม่พอใจ เรือเทพผีของเราจงเจริญ ทิ้งไปเลยน้องผีอะไรที่มันห่วยๆอ่ะ ตอนต่อไปมาต่อเร็วๆนะคะ จัดอิพี่กรมหนักๆเลย หมั่นไส้อิพี่กรม เราเป็นกลจให้คุณไก่ทอดนะคะสู้ๆกอดๆ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พลอย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เราถึงกับเข้าระบบมาคอมเมนท์ในรอบหลายปีเลย สองตอนล่าสุดคือไม่ไหวจริงๆ เราร้องให้เลยจนเมทถามว่าเป็นอะไร สงสารน้อง เพราะเราเคยอยู่ในสถานะนั้น เป็นทุกอย่างยกเว้นแฟน แต่คนภายนอกเค้าคิดว่าเป็นแฟนกันหมด จนวันนึงทุกอย่างมันหายไปเอง รู้ตัวอีกทีเราก็อนู่ในสถานะน้องสาวแล้ว เค้าบอกว่าเราเป็นแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว เป็นพี่น้องกันไม่ต้องเลิกกันนะ คุณไก่ทำเราตายใจเปิดมุมมาให้ขำก่อนมาตั้งนาน มาดราม่าแบบไม่ตั้งตัว อ่านไปน้ำตาไหลไป ขอร้องล่ะค่ะ ถ้าจะเขียนดราม่าคั่นกลางอย่าให้พี่กรมกลับเข้ามาในชีวิตน้องได้ง่ายๆนะคะ ตอนเขาจะไปเขายังทิ้งน้องได้ง่ายๆเลย ตอนรู้ตัวเมื่อไหร่ว่ารักน้องแล้วพยายามจะกลับเข้ามาอย่าให้เค้าเข้ามาได้ง่ายๆนะคะ อย่าทำเหมือนให้น้องรอฝ่ายนั้นเสมอ น้องต้องเข้มแข็งค่ะ น้องต้องผ่านมันไปได้  ให้ไอ้พี่กวงตามขอโทษ ตามตื้อ ตามจีบใหม่เลยก็ดี ทุกอย่างควรเริ่มจาก 0 ไปเลย คุณทำความรู้สึกน้องพีเราพัง เราไม่ยอม!!!!! You broke my Pee's heart. You not deserve his love again. จำไว้ไอ้พี่กรม!!!! ไม่เชียร์แล้ว โกรธ โกรธมาก

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 13.2

น้องพีคนดีคนเดิม (มั้ง)



 ช่วงเย็น ณ บ้านเทพบุตร


   ผมโคตรตื่นเต้นเลยครับที่ได้มาบ้านไอ้พี่เทพ บ้านของพี่เทพดูร่มรื่นเพราะปกคลุมไปด้วยต้นไม้และไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดที่พี่มันบอกว่าแม่ของเขาเป็นคนปลูกเอาไว้ เพราะแม่พี่เทพเกษียณจากงานทำให้ว่างอยู่บ้านและดูแลธุรกิจเล็กๆน้อยๆพอให้มีเงินใช้ไปวันวัน แต่ผมว่าไอ้เงินใช้เป็นวันวันของพี่มันนี่เยอะกว่ารายได้ที่พ่อผมหาได้ทั้งปีอีกครับ


   “ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ผู้หญิงวัยสูงวัยที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ของพี่เทพที่นั่งถักผ้าพันคออยู่บนโซฟาในบ้านพร้อมกับเปิดซีรีย์เกาหลีร่วมสมัยที่กำลังดังอยู่ตอนนี้


   “ อันยองจ้ะ”


   “ อันยองครับนูน่า”


   “ ว้ายยย ปากหวานสุด” แม่ของพี่เทพพูดอย่างอารมณ์ดีที่ผมเรียกเธอว่านูน่า เพราะนูน่าในภาษาเกาหลีแปลว่าพี่สาว ไอ้นิสัยขี้ประจบนี่ผมแก้ไม่หายเลยจริงๆครับ


   “ ตกพ่อไอ้กรมไม่พอยังมาตกแม่กูอีกนะไอ้พี” พี่เทพเดินตามเข้ามาหลังจากที่พี่มันไปจอดรถ


   “ ลูกเทพูดไม่เพราะค่ะ” แม่พี่เทพส่งสายตาดุๆไปให้พี่เทพที่เดินมานั่งข้างๆแม่ของเขาก่อนที่จะหอมแก้มแม่ตัวเองแรงๆ


   “ โถ่คุณแม่ แค่กับมันแหละครับ” ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายเถื่อนๆเวลาอยู่กับแม่จะกลายเป็นผู้ชายมุ้งมิ้งรักครอบครัวไปเลยครับ

 
   “ น้องชื่ออะไรคะ” เธอหันหน้ามาถามผม


   “ น้องพีครับ”


   “ น้องพีรู้ไหมว่าลูกเทพไม่ได้ชื่อเทพ”


   “ แม่ไม่เอาดิ” เหมือนพี่เทพพยายามห้ามแม่ของเขาพูดความลับออกมา


   “ ตอนเด็กๆลูกเทพชื่อว่าเท แต่พอมีข่าวลูกเทพกำลังดังช่วงนั้นก็ให้แม่พาไปเปลี่ยนชื่อเป็นลูกเทพ แต่แม่ห้ามไว้ก่อนแม่ไม่อยากมีลูกชื่อลูกเทพ เลยให้ชื่อว่าเทพบุตร” ผมนี่กลั้นขำเต็มที่เลยครับเมื่อแม่ของพี่เทพเล่าวีรกรรมการเปลี่ยนชื่อออกมา จริงๆชื่อเทผมว่าเพราะกว่าเทพอีกนะครับ “ นั่นลูก เพื่อนๆของลูกเทพ” แม่พี่เทพชี้ไปที่ตู้กระจกขนาดใหญ่ที่ด้านในเต็มไปด้วยตุ๊กตาลูกเทพ ไอ้ห่า! หลอนฉิบหาย

 
   “ พี่เทพ?” ผมก็พึ่งรู้ว่าพี่มันมีมุมแบบนี้ด้วย


   “ ตาเทพเป็นผู้ชายติดดวง ชอบดูดวง แม่ก็ไม่รู้ว่าไปติดแม่หมอพ่อหมอที่ไหนหรือเปล่า”


   “ พี่เทพ???” นี่มันเรื่องใหม่ที่ผมรู้เลยนะครับเนี่ยว่าไอ้พี่เทพติดดวงด้วย


   “ พอเถอะแม่ ไปๆไอ้พีมึงจะรู้เรื่องกูเยอะไปละ” พี่เทพมันลากคอเสื้อผมให้เดินตามเข้าไปด้านในที่ถูกจัดและตกแต่งเป็นห้องอ่านหนังสือมีชั้นหนังสือมากมายมีโซนคอมพิวเตอร์และโซนนั่งเล่น ถึงไม่ใหญ่เท่าบ้านพี่กะ...อย่าไปพูดถึงมันเลยดีกว่าครับ


   “ ให้ผมทำอะไร” ผมนั่งที่พื้นพรมรอพี่เทพสั่ง


   “ เดี๋ยวกูเปิดคอมก่อน” พี่เทพเดินไปเปิดคอมอีกด้านหนึ่งก่อนจะกลับมานั่งตรงข้ามผมพร้อมกับโน๊ตบุ๊ค


   “ งานมันอยู่ในหัวของไอ้กรม กูว่าต้องรอมันพิมพ์ออกมา”


   “ แล้วให้ผมมาทำไมเนี่ย”


   “ หาพื้นที่ ที่จะลงว่าจะไปเจาะพื้นที่ไหนเพื่อนสโคปงานให้แคบ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะคิดถึงว่านโยบายที่พี่กรมมันคิดคือนโยบายเกี่ยวกับผู้สูงอายุ


   “ พี สติ” ผมพูดกับตัวเองก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆและเปิดคอมเพื่อหาข้อมูล


   “ เดี๋ยวไอ้คินกับไอ้วินตามมา เดี๋ยวมันซื้อกับข้าวมาด้วย”


   “ โถ่ ไม่ให้ผมโชว์ฝีมือเลยดิ”


   “ กูไหว้ละนะ พอเถอะมึง” พีเทพส่ายหัวก่อนที่พี่มันจะเดินไปนั่งที่คอมตัวใหญ่ “ มึงเกิดวันอะไร?”


   “ ศุกร์พี่”


   “ มีเกณฑ์อกหัก คนที่แอบรักจะไปมีแฟนใหม่” พี่เทพอ่านดวงให้ผมฟัง....จุกตั้งแต่คำแรกเลยครับ “ แต่เตรียมใจไว้ว่าเขาอาจจะกลับมา”


   “ ไปเชื่ออะไรมากพี่ ก็แค่ดวงปะวะ” ถึงปากจะบอกว่าอย่าไปเชื่อแต่ใจผมนี่คิดและวิเคราะห์ไปไกลแล้วครับ ว่าแต่ละคำมันหมายความว่าอะไรบ้าง



   นี่ก็ผ่านมาเกือบหกโมงเย็นแล้วพี่คินเป็นคนแรกที่มาถึงบ้านพี่เทพพร้อมกับไก่ทอดร้านดังที่ผมชอบกิน ส่วนพี่วินก็ตามมาติดพร้อมกับอาหารอิสานยั่วน้ำลาย คือมาทำงานหรือมาปาร์ตี้อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมเองมีหน้าที่เอาจานชามออกมาเทใส่อาหารที่ตอนนี้พวกเราย้ายมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้าน เพราะไอ้พี่เทพมันพรีเซนต์ว่ายามค่ำคืนที่บ้านของพี่มันจะมองเห็นดวงดาวและพระจันทร์สวยๆ แต่นั่นก็เป็นข้ออ้างเพราะจริงๆแล้วพี่มันไม่อยากให้บ้านมีกลิ่นอาหาร แค่นั้นจริงๆที่ทำให้ผมพวกผมย้ายออกมา


   “ ต้มแซ่บยังร้อนอยู่เลยมึง” พี่เทพตัดต้มขึ้นมาซดเสียงดัง


   “ อยากแดกเบียร์ว่ะ” อยู่ๆพี่คินก็พูดขึ้น พูดถึงเบียร์แล้วผม....ก็คิดถึงใครบางคน ห้ามนึกถึงเลยไอ้พี!! หยุดความคิดซะ!!!


   “ เอาปะล่ะ”


   “ พี่เรามาทำงานนะ” ผมรีบเบรกเอาไว้ก่อนที่พี่มันจะไปหาซื้อเบียร์มานั่งกินจริงๆ


   “ เออ มึงนี่ก็มีสาระเหมือนกัน” ผมจะคิดว่าพี่มันชมผมก็แล้วกันนะครับ


   ผมหัวเราะไปกับมุขตลกของพี่เทพพี่วินและพี่คินที่พากันเล่าเรื่องตัวเองขำๆออกมาหลังจากที่ผมเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องที่แม่พี่เทพเล่า ไอ้พวกพี่ทั้งสองก็บอกว่ารู้อยู่แล้วเวลามาบ้านพี่เทพทีไรก็จะต้องเล่าเรื่องนี้ทุกที เหมือนว่าแม่พี่เทพฝังใจกับการเปลี่ยนชื่อของลูกชาย


   “ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะออกมาทั้งๆที่ในปากยังมีเศษอาหารที่ยังเขี้ยวไม่หมดเพราะพี่วินดันพูดเรื่องตอนขายของแล้วลูกค้ามาเต๊าะให้ฟัง พี่มันบอกว่ามีหลายรูปแบบของการเต๊าะมากๆ จนกระทั่งเสียงหัวเราะผมหยุดลงเมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามา


   “ พี่เทพ?” ผมหันไปมองพี่เทพทันทีเพราะพี่มันบอกว่าพี่กรมจะไม่มา ละนี่คือร่างอวตารของพี่มันหรือไง ที่ตอนนี้ยืนหน้านิ่งถือของพลุงพลัง


   “ ซอรี่ ลืมบอก” ผมได้แต่ถอนหายใจออกมา และพยายามไม่มองไปทางพี่มัน


    “ ไอ้พีพาไอ้กรมไปเก็บของดิ เอาจานมาใส่ของด้วย” พี่คินที่ไม่รู้เรื่องอะไรพูดขึ้นมา


   “ ไม่เอาอะพี่ ผมจะกิน” เวลานี้ผมขอเป็นคนเห็นแก่กินก่อนก็แล้วกันครับ


   “ เมื่อกี้มึงบอกอิ่ม” ไอ้พี่วินนี่ก็ยังจำได้ดีจริงๆ


   “ หิว หิวมาก” ผมยัดข้าวเหนียวยัดไก่ซะเต็มปากเดี๋ยวมันจะไม่สมจริงว่าผมหิวถึงแม้ว่าผมจะอิ่มแต่ถ้าให้เลือกไปกับพี่มันสองคน ผมยอมหิวดีกว่าครับ


   “ เดี๋ยวกูไปเอง” พี่กรมไม่ได้มองมาทางผมแต่พี่มันกลับเดินเลยเข้าไปในบ้าน


   “ ฟู่” ผมพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ผมหนีสายตาส่งสัยของพี่ๆแต่ละคนไม่ได้


   “ ทะเลาะกัน?” พี่คินเป็นผู้เปิดประเด็นทำให้พี่ๆคนอื่นพากันซักถาม


   “ ไม่ใช่พี่ ไม่มีอะไร แฮะๆ” ผมยิ้มกลบกลื่นพยายามที่จะไม่ส่อพิรุธอะไรออกมา จนกระทั่งพี่กรมเดินกลับมาพร้อมของกินที่คาดว่าเขาน่าจะซื้อมาพร้อมกับจานชาม


   “ ซื้อไรมาเยอะแยะวะ” ไอ้พี่เทพที่ตอนนี้ยังกินไม่หยุดเอ่ยถาม


   “ เยอะว่ะ” พี่มันลากเก้าอี้มานั่งข้างๆพี่วินซึ่งเป็นตำแหน่งนั่งที่ตรงข้ามผมพอดี ถ้าผมเงยหน้าหรือมองตรงผมก็จะเห็นใบหน้าของพี่มันเต็มๆ เอาเป็นว่าตลอดการกินนี้ผมจะไม่มีปากมีเสียงกับใครหรือเงยหน้าขึ้นมาแน่นอน ผมจะอยู่กับจานของผมไปตลอดจนจบ


   “ โอโห้ววว รู้ใจกูจริงๆว่ากูอยากกินกุ้งเผา”


   “ เฮือก” ผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินคำว่ากุ้งเผา....กุ้งอีกแล้วหรอครับ กุ้ง กุ้ง กุ้ง กูเกลียดกุ้ง!!!!!!!!!!! มันหลอกหลอนผมมาถึงทุกวันนี้


   “ กินไหมกูแกะให้....ไอ้เทพ” น้ำเสียงของพี่กรมโคตรจงใจเลยครับ ไม่ใช่ว่าผมคิดไปเองนะแต่พี่มันพูดออกมาแบบนั้นจริงๆ


   “ เออๆ เอาดิ กูขอสองตัว” ผมอยากจะหันไปด่าพี่เทพมันครับว่าไม่มีมือแกะเองรึไง ผู้ชายสมัยนี้เขาไม่ให้ใครมาแกะกุ้งให้แล้วครับ แต่ผมไม่ได้พูดออกไปเดี๋ยวแม่งกลายเป็นประเด็นไปอีก


   “ ไอ้พีไปเอาน้ำแข็งในตู้เย็นมาดิ” ผมอยากจะขอบคุณพี่คินจริงๆที่สามารถทำให้ผมหลุดออกมาจากตรงนี้ได้ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมเงยหน้าขึ้นจากจานและสบตาเข้ากับพี่กรมอีกครั้ง เพราะ....พี่มันมองผมตลอดตั้งแต่มา


   “ ได้พี่ๆ” ผมคว้าถังน้ำแข็งบนโต๊ะก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว


   “ เฮ้อออ” ผมวางถังน้ำแข็งลงก่อนจะเอาหลังพิงกับเคาท์เตอร์ครัวไว้ และเงยหน้าขึ้นหลับตาเพื่อเรียกสติของผมให้กลับมาไวๆ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้อยู่ไปเรื่อยๆละก็ งานการไม่ต้องทำกันพอดีครับ เป็นครั้งแรกที่ผมอยู่ใกล้พี่มันแล้วอึดอัดมากขนาดนี้


   เมื่อผมเรียกสติตัวเองกลับมาได้แล้ว ผมก็เปิดตู้เย็นหยิบถุงน้ำแข็งออกมาเทใส่ถังจนเต็ม แต่ในตู้เย็นเหลือน้ำแข็งแค่ไม่กี่ถุง ผมว่านะถ้าผมบอกพี่เทพเดี๋ยวพี่มันต้องใช้ผมไปอีก ผมไม่บอกดีกว่าใครบอกคนนั้นก็ไปซื้อเอง ผมขี้เกียจเป็นอันจบนะครับทุกคน เมื่อได้น้ำแข็งตามที่ต้องการแล้วผมก็เตรียมเดินออกมาจากห้องครัว หวังว่าจะไม่เจอพี่มันมาดักรอเหมือนในละครหรือในนิยายหรอกนะครับ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็พยายามรวบรวมสติอีกครั้งเพราะถ้าพี่มันมารอผมจริง ผมต้องไม่ทำตัวตื่นตระหนักมากเกินไป


   และดูเหมือนว่าผมคิดผิดไป เพราะเดินออกมาจนสุดทางก็ไม่มีวี่แววพี่มันเลยจนกระทั่งผมเดินออกมาที่เดิมก็เห็นว่าพี่กรมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมพูดคุยกับเพื่อนของเขาอยู่อย่างสนุกสนานจนผมกลับมาย้อนถามตัวเองว่า...


   กำลังคาดหวังอะไรอยู่?


   “ พี่น้ำแข็งหมดแล้วนะ” ผมว่าผมต้องออกไปเดินเล่นซักหน่อยครับ อยู่นี่ก็มีแต่ฟุ้งซ่านเปล่าๆ


   “ ไปซื้อมา เอาน้ำอะไรก็ซื้อมา” พี่เทพยื่นเงินมาให้ผมก่อนที่ผมจะวางถังน้ำแข็งลงบนโต๊ะและเดินออกจากบ้านของพี่มันไปในยามวิกาล ผมมองกลับไปทางด้านหลังก็ไม่มีเงาของใครสักคนตามมา


   “ พี มึงอย่าเพ้อเจอ เขาจะตามมึงมาทำไมวะ” ผมนึกด่าตัวเองที่กำลังคิดอะไรเพ้อเจอเฝ้ามองไปทางด้านหลังอย่างลมๆแล้งๆ ก็รู้ว่าไม่มาก็ไม่เห็นต้องทำหน้าผิดหวังขนาดนี้


 ไม่คาดหวังก็จะไม่ผิดหวัง....


ผมซื้อทั้งน้ำและขนมมาเต็มมือ พี่เทพให้มาห้าร้อยผมก็ใช้ห้าร้อยไปจนหมดไม่เหลืออะไร แถมยังแวะซื้อลูกชิ้นมากินเล่นโดยใช้เงินของผมเอง เพราะเงินที่พี่เทพให้มาหมดไปกับขนมและน้ำหมดแล้ว เมื่อผมเดินเข้ามาในรั้วบ้านตรงเข้ามาที่สวนก็เห็นว่าพี่กรมนั่งอยู่คนเดียว


        “ ไปข้างในหมดแล้ว” เมื่อพี่มันเห็นว่าผมยืนงงอยู่ พี่กรมก็พูดขึ้นมา


   “ ครับพี่” ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมควรจะพูดคำไหนออกมา เพราะนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบอาทิตย์ที่เราสองคนคุยกันแบบตรงๆ ผมไม่สนใจพี่กรมต่อก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพี่มันพูดขึ้นมา


   “ ไหนว่าจะเป็นน้องชายเหมือนเดิมไง”


   “......”


   “ น้องชายที่ไหนเขาหลบหน้ากันแบบนี้วะ?” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหันกลับไปมองพี่กรมอีกครั้ง ทำให้สายตาของเราสองคนสอดประสานกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ และผมเองก็ไม่คิดจะเลี่ยง


   “ ใครกันแน่ที่หลบหน้าครับ?”


   “ ถามตัวมึงเองไหมพี มึงน่าจะรู้ดีกว่ากูว่ากูไม่เคยหลบมึงเลย” แล้วการที่พี่เขาไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนนั้นแทนการมาเล่นหรือมาอยู่กับผมเหมือนเมื่อก่อนเขาไม่ได้เรียกว่าหลบหน้า ใช่ครับไม่หลบหน้า แต่หายไปเลย ก็เท่านั้น เขามีคนของเขาแล้วมึงยังจะมาคาดหวังให้เขากลับมาเล่นกับมึงเหมือนเดิม มันก็ไม่ใช่ไหมพี...

        “ ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นหนิครับว่าน้องชาย..จะต้องอยู่กับพี่ชายทุกวัน” ผมพยายามกลืนก้อนบางอย่างลงไปไม่ให้มันขึ้นมาจุกที่อกเหมือนกับวันนั้น ผมจะอ่อนแอต่อหน้าพี่มันไม่ได้


   “ ถ้ารู้ว่ามันเปลี่ยนไป มึงจะทำ ทำไมวะ” แล้วใครกันที่เรียกร้องให้ผมทำ...แต่มันก็ไม่ถูกอยู่ดีเมื่อผมเป็นคนเสนอตัวทำให้พี่มันเอง


   “ พี่แม่ง...โคตรเห็นแก่ตัวเลยวะ” ผมไม่สามารถที่จะอยู่ต่อตรงนี้ได้ ทำให้ผมรีบเดินเข้ามาในบ้านทันทีโดยที่ไม่สนใจว่าพี่มันจะพูดอะไรตามหลัง ผมไม่อยากฟังไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้วจริงๆ


   “ พี่ชายคนนี้ยังต้องการน้องชายคนเดิมกลับมานะครับ...” ผมไม่อยากฟังแต่ผมก็ต้องฟัง ผมไม่อยากได้ยินก็ต้องได้ยิน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่น้ำตาของผมมันไหลออกมา ไหลออกมาให้กับความโง่...งมของตัวเองที่เขาให้เป็นได้แค่น้องชาย


หมับ!


   ผมไม่รู้ว่าผมเดินเข้ามาที่ไหนของบ้านรู้ตัวอีกทีผมก็ถูกใครสักคนสวมกอด และนั่นมันทำให้ความอ่อนแอของผมพังถลายลงมาอย่างไม่สามารถที่จะสกัดกั้นได้อีกต่อไป


   “ ร้องออกมาเถอะ..ถ้ามันทำให้มึงรู้สึกดีขึ้น” และผมรู้ทันทีว่าคนนั้นคือพี่ชายจริงๆที่ผมรู้สึกว่าเขาเป็นพี่ชายตั้งแต่แรกและเขาก็เห็นผมเป็นน้องชายของเขาตั้งแต่แรกเหมือนกัน แบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่าอ้อมกอดของพี่ชายไม่ใช่อ้อมกอดของผู้ชาย


   “ พี่ ผมเจ็บว่ะ ทั้งๆที่ผมบอกเขาเอง”


   “ โถ่ ไอ้น้อง” พี่เทพไม่มีแม้แต่คำพูดปลอบโยนแต่พี่เขามีแค่สองมือที่ลูบหลังของผมเบาๆเท่านั้น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ที่ผมกอดพี่มัน รู้ตัวอีกทีผมก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้วพร้อมกับไปสู่สถานการณ์ชีวิตจริง


   “ ครั้งแรกก็เจ็บแบบนี้แหละมึง” ไอ้พี่เทพตบบ่าผมเบาๆ


   “ เจ็บอะไรพี่”


   “ เจ็บตูดมั้งละสัด ชงมาไม่รู้เวลาจริงๆ” พอจะได้หัวเราะออกไปบ้าง จนกระทั่งเข้ามาที่ห้องเดิม ตอนนี้พี่วินกับพี่คินกำลังนั่งพักอยู่ที่โซฟา ส่วนผมก็ไปนั่งที่เดิมและพี่เทพนั่งที่โต๊ะคอมของเขา


   “ เริ่มเลยไหม?” พี่กรมเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกลิ่นบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็นว่าพี่เขาจะสูบ ใช่ครับ พี่เขาสูบบุหรี่ นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ผมไม่รู้เกี่ยวกับตัวของพี่กรม


   “ มึงเอามันออกมาจากหัวมึงก่อนเลย” พี่เทพหันมาบอกพี่กรมที่เดินเข้ามาหยุดตรงกลางห้องเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปนั่งตรงไหน


   “ พี่มานั่งนี่ก็ได้ครับ” ผมพูดขึ้นทำให้พี่กรมเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างแปลกใจ แต่ก็เดินมานั่งตามที่ผมบอกโดยที่ผมเองก็ไม่ได้สนใจในท่าทีของพี่มัน


   “ ยืมคอมหน่อย”


   “ ผมหาข้อมูลอยู่หนิพี่” ให้มานั่งด้วยแล้วยังจะมาแย่งคอมผมอีกนะครับคนเรา


   “ เอาโทรศัพท์หาก็ได้”


   “ ก็จอมันเล็ก” ผมหาข้ออ้างไปอย่างนั้นแหละ แต่จริงๆต้องการที่จะกวนพี่มันเฉยๆ ผมจะเปลี่ยนตัวเองให้กลับไปเป็นน้องชายของพี่มัน แม้ว่าจะยากและเจ็บไปหน่อยก็ตาม แต่ผมมั่นใจว่าผมทำได้ครับ...ฮึก! ร้องไห้หาพ่อมึงหรอพี แค่ร้องในใจเอง ไม่ได้! ผมกำลังคุยกับตัวเองอย่างนั้นหรอ?


   “ เอาของกูไป” เดจาวูครับ ผมรับโทรศัพท์ของพี่มันมาหาข้อมูลต่อ แต่สายตาผมก็เหลือบไปเห็นแจ้งเตือนไลน์ที่เด้งขึ้นมาพอดี


   MAY : คอลหาได้ไหม






PS. พี่กรมมีเหตุผล พี่กรมฝากมาบอกว่าพี่กรมเสียใจนะครับ แต่ยอมรับในการกระทำทุกอย่าง

ส่วนน้องพีเองก็สู้ต่อไป ความรักไม่ใช่อุปสรรค์ แต่มันเป็นแค่บทเรียนที่ต้องรู้จักกับความว่าล้มเหลวและเริ่มต้นเท่านั้นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 12:47:04 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไอ้พี่กรม ตลกละ......  :m16:
ว่าพีหลบหน้า แต่ตัวเองก็ไปยุ่งขิงกับหญิงเมย์ทุกวันๆ
แล้วจะให้พีเสนอหน้าประกบไปด้วยรึไง  :m31: :fire: :angry2:
ชังน้ำหน้าไอ้พี่กรม  :z6: :z3: :ling2:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ขอให้หลุดจากวงจรน้องพีไปจริงเลยเหอะ
อิพี่กรมจะได้รู้สึกมั่ง ชิ
 :angry2:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ตัดใจไปเลยน้องพี ปล่อยพี่มันไปจากใจซะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เหมืแนจะเข้าใจเหตุผลของอิพี่กรมอ่ะนะ แต่ว่ามาทำน้องผีเจ็บซ้ำๆเลาไม่โอเค :ling1:

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนนี้ค่ดชอบพี่เทพเลย ชอบชื่อมากพี่ลูกเทพ5555ชื่อเฟี้ยวมากแต่ความเป็นมาของชื่อเฟี้ยวกว่าชอบมากๆ แต่แอบหลอนๆกับลูกตุ๊กตาของพี่แก พี่เทพคือพี้ชายแบบจริงๆ คนเขาเป็นพี่น้องกันเขาไม่จูบไม่ทำแบบนั้นหรอกพี่กรม พี่กรมในตอนนี้ทำเราพูดไม่ออกเลยยิ่งตอนอ่านถึงอยากได้น้องชายคนเดิมอยากกระโดดถีบขาคู่ใส่พี่กรมกับตบแรงๆสักพันที :z6: :beat:   แล้วตอนสุดท้ายที่ให้โทรศัพท์ให้ทำเพื่อไรหรอหรือว่ามันบังเอิญเด้งขึ้นมาตอนนั้นพอดี โกรธพี่กรมมาก  เป็นกลจให้คุณไก่ทอดนะสนุกมากๆมาต่อเร็วๆนะคะ :กอด1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
เปลี่ยนให้เทพเป็นพระเอกแทนเลย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ลุ้นไป พี อย่าไปสนใจพี่มัน ควงคนอื่นเลย

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 13.3

จากใจกรมรินทร์


        “ คอลหาได้ไหม” ผมเบะปากพูดล้อเลียนข้อความของพี่มันเสียงเบา แต่ผมก็ไม่ได้บอกพี่กรมว่ามีแจ้งเตือนขึ้นมา ปล่อยให้พี่มันนั่งพิมพ์ไปครับ ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่รู้เวลารึไงว่าเขาทำงานทำการอยู่ ไอ้ฉิบหาย! ผมรู้ว่าเธอไม่ผิดแต่ทำไมผมห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ให้พาลไม่ได้วะ


   “ ไอ้กรมมึง กูขอวันนี้นะ”


   “ เออ จะพยายาม” ผมเข้าใจพี่มันนะว่าการที่เอาความรู้และสิ่งที่คิดอยู่ในหัวออกมาเป็นตัวอักษรมันค่อนข้างที่จะยาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนให้เป็นภาษาวิชาการ อันนี้แม่งยากกว่า


   “ พี่ต้องการแถวไหนอะ เราต้องลงด้วยหรอพี่มันทั้งประเทศเลยนะ” ก็เพราะนโยบายเป็นการวางแผนที่เป็นบริการสาธารณะคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศต้องได้รับ แล้วทีนี้จะไปหาพื้นที่จากไหนละวะ


   “ ลงไปเพื่อสอบถามบางส่วน” พี่กรมเป็นคนตอบผมขณะที่เขายัวคงจ้องหน้าจอและพิมพ์อย่างรวดเร็ว “ เอาใกล้ๆกรุงเทพฯก็ได้”


   “ คิดไม่ออกครับ” ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะไปที่ไหนเพราะผมเองก็คิดไม่ออกว่าถ้าจะไปหาแหล่งที่ผู้สูงอายุที่ไหน นอกจากบ้านพักบางแค แต่นั่นก็จะได้แค่ผู้สูงอายุบางกลุ่มเท่านั้น แต่ผมอยากได้ข้อมูลที่หลากหลายมากกว่านี้


   “ ค่อยๆคิดไป ไม่เห็นต้องรีบ” ผมนี่เบะปากใส่พี่มันเลย ทำตัวเป็นคุณพ่อรู้ดี


   “ จ้ะ” ผมเลิกสนใจพี่กรม ก่อนจะหันมาสนใจโทรศัพท์ของพี่มันต่อที่ยังมีข้อความของผู้หญิงคนนั้นเด้งมาเรื่อยๆจนผมรำคาญ ยื่นโทรศัพท์ไปให้พี่มัน


   “ รำคาญอะ ไปคุยๆกันให้เสร็จนะพี่” ตอนแรกพี่กรมมันก็ทำหน้างงครับ แต่พอรับมาดูเขาก็กดโทรออกทันที ย้ำนะครับว่ากดโทรออกทั้งๆที่ผมยังนั่งอยู่ตรงนี้....


   “ เมย์ครับ กรมมาทำงานบ้านเทพนะ กรมขอโทษที่ปล่อยให้เมย์รอ” น้ำเสียงที่พี่มันใช้กับสาวนี่อ่อนโยนมากครับ อ่อนโยนกว่าที่พี่มันใช้กับผมเป็นสิบเท่า เจ็บฉิบหาย!


   “ โอ้ย เหนื่อยยย!!” ผมแกล้งพูดออกมาเสียงดังให้เข้าไปในปลายสายของพี่มัน “ ทำงานนะพี่ ไม่ใช่มาคุยโทรศัพท์”


   “ แป๊บนะครับเมย์” พี่มันป้องปากบอกคนปลายสายก่อนจะทำหน้าดุใส่ผม “ มึงบอกให้กูไปคุยเอง อย่าลืมดิ กูทำให้มึงแล้วนี่ไง”


   “ .......” ผมพูดไม่ออกนอกจากเงียบและฟังพี่มันคุยกับผู้หญิงคนนั้นต่อ เพราะปากกูอีกแล้วครับ ทำไมปากผมมันต้องพาผมเจ็บด้วยวะ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะอยู่เฉยๆแล้วแท้ๆ น้องพีขอโทษนะหัวใจ


   ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกหาอะไรเย็นๆกินด้านนอก อยู่ในนี้ก็ฟุ้งซ่าน ผมหิวนะทั้งๆที่ตอนเย็นผมก็กินอิ่มแล้ว ผมเหลือบสายตาไปมองกุ้งและอาหารทะเลที่พี่มันซื้อมาวางอยู่บนโต๊ะ กุ้งที่ผมยังไม่ได้กินเลย ทำให้ผมนั่งลงและค่อยๆแกะกุ้งกิน โดยที่ลืมเจตนารมณ์ในตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะแค่ออกมาหาอะไรเย็นๆกิน


   “ อร่อย ทำไมมึงต้องเกิดมาเป็นกุ้งวะ กูพาลนะอย่ามองหน้ากู เดี๋ยวจับแดกให้หมดเลย” ผมแกะแล้วแกะเล่าก่อนจะนั่งกินจนเพลินโดยไม่ได้ยินหรือรู้สึกว่ามีใครบางคนยืนอยู่ด้านหลัง จนกระทั่งเสียงเลื่อนเก้าอี้นั่นทำให้ผมรู้เลยว่าใครบางคนที่ผมหนีออกมานั่นเองที่นั่งอยู่ข้างๆผม


   “ ออกมาทำไมพี่ คุยเสร็จแล้วรึไง? เห็นคุยกับหวานหยดย้อยเชียว รักกันมากดิ ไม่แต่งงานไปเลยหละครับ” ไอ้เวรเอ้ย ห้ามปากตัวเองไม่ได้จริงๆครับ นับวันกูยิ่งนิสัยเหมือนผู้หญิงทุกที


   “ ประชดเพื่อ?”


   “ เรื่องของผมไหมอะ”


   “ ไอ้พี มึงชักจะเอาใหญ่ละนะ ไหนมาคุยกันให้รู้เรื่องดิ” พี่มันจับไหล่ทั้งสองข้างของผมให้หันมามองพี่มันตรงๆไอ้ผมมันก็คนใจง่ายไงครับ ค่อยๆหันมาตามแรงพี่มันโดยที่ไม่ขัดขืนเลยสักนิด


   “ เป็นอะไรไหนพูด?” พี่มันมองหน้าผมตรงๆก่อนที่จะใช้มือของพี่มันวางบนศีรษะของผมอย่างเคยชิน แต่ขอโทษนะครับครั้งนี้ผมเองที่ขยับศีรษะออกก่อนที่มือของพี่มันจะวางลง


   “ เป็นน้องชาย”


   “ ไอ้พี” พี่มันเรียกผมเสียงดุทันทีที่ผมพูดประชดออกมาแบบนั้น “ มีเหตุผลหน่อยดิวะ”


   “ เหตุผลเหี้ยอะไรวะพี่ พี่จะเอาไงกับผม” ผมลุกขึ้นยืนทันทีที่พี่มันถามหาเหตุผลกับคนอย่างผมทั้งที่การกระทำของพี่มันก็ไม่เคยเหตุผลให้ผมอะไรสักอย่าง นอกจากบอกว่าเหตุการณ์นั้นมันทำให้เขาตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ ตัดสินใจที่จะไปมีความสุขกับคนอื่นทั้งๆที่ผมเองก็ต้องมานั่งคิดมากอยู่แบบนี้  “ พี่มาถามหาเหตุผลกับผมทั้งๆที่พี่เองก็ไม่เคยให้....”


   ภาพวันนั้นที่ผมตื่นขึ้นมาหวังว่าจะเจอใครอีกคนที่นอนกอดผมอยู่ แต่เปล่าครับ ผมพบแค่ความว่างเปล่า นั่นก็ทำให้ผมรู้แล้วว่ามันไม่มีทางที่จะกลับมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไป แม้ว่าในใจของผมมันจะรู้สึกไปแล้วก็เถอะ


   “ พี กูไม่อยากเสียมึงไป” พี่มันลุกขึ้นยืนเสมอกับผมพร้อมกับจับไหล่ทั้งสองข้างของผมเอาไว้เหมือนเดิม “ อยากให้มึงอยู่ข้างๆกูแบบนี้ ไม่ได้หรอวะ?”


   “ ......”


   “ พี...แบบนี้มันดีสำหรับเราทั้งคู่”


   “ กับพี่แค่คนเดียว ไม่ใช่กับผม”


   “ ได้ไหม...” ยิ่งพี่มันทำสายตาอ้อนวอนผมมากเท่าไหร่ ไอ้หัวใจไม่รับดีมันก็สั่งให้ผมตอบรับพี่มันไป


   “ ขอเวลา”


   “ นานเท่าไหร่”


   “ อย่ามาถามเลยพี่ ถ้าผมพร้อมผมก็คุยเอง อย่างไงผมก็ไปไหนไม่ได้ละหนิ ผมไปไหนไม่ได้แล้ว พี่จะเก็บผมไว้ในฐานะเหี้ยอะไรผมปฏิเสธพี่ได้ไหมละ พี่แม่งก็รู้ว่าผม......” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรออกมาพี่กรมก็ยื่นนิ้วของเขามาทาบที่ริมฝีปากของผมเพื่อห้ามไม่ให้ผมพูดคำนั้นออกมา


   “ อย่าพูดเลย...อย่าพูดมันออกมา” ผมพยักหน้าตามที่พี่มันพูดก่อนจะเบื่อนหน้าหนีไปทางอื่น “ ขอจูบได้ไหม?”


   “......” ผมไม่ได้ตอบหรืออนุญาตพี่มันออกไป แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือริมฝีปากของพี่กรมแนบลงมาบนนิ้วมือของเขาที่ทาบริมฝีปากของผมอยู่ ก่อนที่นิ้วนั้นจะเลื่อนออกและนั่นทำให้ริมฝีปากของเราทั้งคู่สัมผัสกันตรงๆ ผมหลับตาปล่อยให้ความรู้สึกในตอนนี้มันพาทุกอย่างไป แม้จะรู้ว่าผิดแต่ผมก็ไม่สามารถที่จะผลักพี่มันให้ออกห่างจากตัวของผมได้ จนแล้วจนเล่าที่เราสองคนจูบกันอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่มีทีท่าว่าใครสักคนจะผลักมันออก จนกระทั่งเป็นผมเองที่ยอมแพ้ผลักพี่มันออกมา


   “ พอแล้วพี่ มันมากไปสำหรับวันนี้แล้ว” ผมใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะเดินกลับไปทำงานที่ห้องต่อ โดยไม่ได้สนใจว่าพี่กรมจะกลับเข้ามาตอนไหนจนกระทั่งผมเผลอหลับไป........



Jaokom’s talk


   หลังจากเหตุการณ์ที่ผมห้ามตัวเองไม่ให้จูบไอ้พีไป แต่แล้วสมองของผมมันก็ดันแพ้ให้กับหัวใจ ทำให้ผมจูบมันไปทั้งๆที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่ลุ่มล่ามกับไอ้พีจนกว่าผมจะไดคำตอบท่ชัดเจนจากตัวเอง แต่เหตุการณ์นี้มันก็ทำให้ผมได้คำตอบมาแล้วแหละครับ แต่....บางครั้งคำตอบอย่างเดียวมันก็ไม่มากพอที่จะทำให้ผมเห็นแก่ตัวสำหรับทุกอย่าง แค่ผมเห็นแก่ตัวกับไอ้พีผมก็รู้สึกแย่มากๆแล้วครับ ครั้งที่ไอ้พีกอดไอ้เทพแล้วร้องไห้ออกมาหลังจากที่ทะเลาะกับผมไปก่อนหน้า ผมเห็นทุกอย่าง ถามว่าผมเจ็บไหม เจ็บครับ เจ็บที่ทำให้ไอ้พีมันต้องเสียน้ำตาให้กับคนอย่างผม เจ็บที่ไม่สามารถเป็นอกที่แข็งแกร่งที่ปกป้องมันได้ แต่กลับเป็นตัวทำลายให้ไอ้พีเสียใจ


   “......” ผมปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับสายลมที่พัดอ่อนๆ มองดูดาวบนฟ้าที่วันนี้มีดาวส่องสว่างมากกว่าทุกวัน คงออกมาสมน้ำหน้าคนขี้แพ้อย่างผมมั้งครับ ผมก้มลงมองควันของบุหรีที่ล่องลอยออกมา นับว่าเป็นรอบหลายเดือนที่ผมใช้มัน บางทีมันก็อาจจะช่วยให้ผ่อนคลายได้บ้าง แต่มันก็แค่ชั่วขณะเท่านั้น พอสูบหมดความกังวลก็กลับมาอีกครั้ง


   ยิ่งเวลาผมเห็นสายตาที่ไอ้พีมองมาที่ผมด้วยความเจ็บปวด นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่าผมเองก็ทรมานไม่ต่างจากไอ้พีเลย ทำไมผมต้องเกิดมาแบกรับกับอะไรหลายๆอย่าง? แค่ความรักแบบคนปกติผมยังทำไม่ได้ แล้วแบบนี้ผมจะไปดูแลมันอย่างไร แล้วอะไรจะเป็นตัวประกันว่าถ้าในอนาคตมันคบกับผมแล้วมันจะสบายและมั่นคง...

   ผมเดินกลับเข้ามาอีกทีก็เห็นว่าไอ้เด็กผีของผมมันหลับไปแล้ว...เด็กบ้าตื่นมาก็โวยวาย หลับไปแบบนี้แม่งก็น่ารักดีนะครับ แต่ผมชอบตอนมันตื่นมากกว่า ไม่รู้เผลอมองหน้ามันนานเท่าไหร่ จนกระทั่งไอ้เทพเดินมานั่งลงข้างๆไอ้พีพร้อมกับผ้าห่มผืนหนาห่มให้ไอ้พีที่นอนหลับอยู่ ทำไมผมรู้สึกที่ไม่พอใจที่ไอ้เทพทำแบบนี้...


   “ มันไม่ตายหรอก” ผมพูดประชดขึ้นมาลอยๆ กับสิ่งที่ไอ้เทพทำทั้งๆที่จริงแล้วควรเป็นผมที่ต้องดูแลมันไม่ใช่ให้ไอ้เทพดูแล


   “ กูรู้ เดี๋ยวน้องมันหนาว” เมื่อเห็นว่าไอ้เทพไม่ยอมหยุดผมก็โอบไหล่ให้ไอ้พีเข้ามานอนใกล้ๆตัวผม



   “ ถ้าหนาวก็ให้มานอนในอกกูหนิ ผ้าบางๆของมึงจะไปสู้อกอุ่นๆของกูได้อย่างไง?”


   “ หมาหวงก้างฉิบหาย ไอ้พีมันก็น้องกู” ไอ้เทพมันก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเอาตัวไอ้พีออกไปจากตัวผม แต่มันกลับนั่งลงข้างๆ “ มึงทำตัวมึงเองนะกรม กูเตือนมึงแล้ว”


   “ เออ” ไอ้เทพเป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดมีอะไรผมก็บอกมันทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของไอ้เด็กเวรนี่ ผมปรึกษากับมันมาได้สักพักก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น ผมถามมันว่าถ้าเรารู้สึกดีกับผู้ชายด้วยกันมันได้ไหมผมถามมันตั้งแต่ผมรู้ตัวว่าชอบเอาตัวเองไปอยู่ใกล้ไอ้พีทั้งๆที่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่ใช่รู้สึกเหมือนเพื่อนหรือเหมือนน้อง แต่มันมากกว่านั้น และผมเองก็ตอบไม่ได้ว่ามันมากขนาดไหน ไอ้เทพมันก็บอกผมว่าไม่ต้องรีบปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเวลา ถ้าวันหนึ่งใช่มันก็จะใช่เองแล้วถึงเวลามันจะเป็นไปตามธรรมชาติโดยที่ผมจะไม่ต้องมานั่งคิดมากแบบนี้ แต่แล้วตัวของผมเองครับที่รีบร้อนอยากรู้คำตอบของตัวเอง จนกระทั่งมันเกินเลยไปขนาดนี้


   “ มึงผิดที่ดึงเมย์เข้ามาเกี่ยว”


   “ ............”


   “ มึงผิดที่ไม่ทำตามใจตัวมึงเอง”


   “ ...........”


   “ และมึงผิดที่กำลังทำแบบนี้ เข้าใจที่กูพูดไหม” ผมพยักหน้าให้กับไอ้เทพ ผมบอกแล้วว่าผมรู้ตัวทุกอย่างว่ากำลังทำผิด กำลังทำร้ายใครเพิ่มอีกหนึ่งคน นอกจากตัวผมตัวของไอ้พี...แต่ผมยังดึงเมย์เข้ามาเกี่ยว


   ผมเห็นแก่ตัว สิ่งที่ผมทำผมยอมรับทุกอย่าง...ผมพลาด คนที่พลาดคือผมเอง


   “ กูขอเวลา แล้วกูจะจบทุกอย่างเอง” มันจะง่ายกว่านี้ถ้าไอ้พีเป็นผู้หญิง มันจะง่ายกว่านี้ที่ไอ้พีมันไม่ใช่ผู้ชาย มันจะง่ายกว่านี้ถ้าผมไม่เป็นที่รู้จักของสังคม และมันจะง่ายกว่านี้ที่ผมเป็นลูกคนธรรมดาไม่ใช่ลูกชายของหัวหน้าพรรคการเมืองดังที่คอยรักษาหน้าตาให้พ่อในทุกๆเรื่องแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว ถ้าถึงวันนั้นผมคบกับไอ้พีผมไม่รู้เลยว่ากระแสที่จะเข้ามาโจมตีพ่อผมกระแสแบบไหน ถึงปากของใครหลายๆคนว่าเปิดกว้างเรื่องเพศแต่ขึ้นชื่อว่าประเทศไทยอย่างไงมันก็ต้องมีคนไม่เห็นด้วย ผมไม่อยากให้ไอ้พีถูกวิจารณ์ ผมไม่อยากให้ไอ้พีมันก้าวเข้ามาในสังคมของผม ผมแค่อยากให้มันอยู่กับผมแบบนี้ในฐานะที่ไม่ต้องกังวลอะไรอย่างน้องชาย มันเห็นแก่ตัวผมรู้ดี ผมรู้ดีทุกอย่างแต่ผม...ไม่รู้ว่าเลือกทางไหนจะทำให้ทุกฝ่ายเจ็บน้อยที่สุด


   “ กูจะเอาใจช่วยมึง” ไอ้เทพมันตบไหล่ของผมเบาๆอย่างให้กำลังใจ ก่อนที่มันจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมก่อนจะมองไปที่ไอ้คินที่นั่งอยู่อีกมุมด้วยสีหน้าที่เครียดและสับสน เรื่องของผมเมื่อเทียบกับมันแล้ว....เรื่องของผมมันเล็กไปเลยครับ


   ผมนั่งทำงานต่อไปโดยที่มีไอ้เด็กผีนอนอยู่ข้างๆ ผมสังเกตเห็นว่ามันไม่มีทีท่าจะขยับ มันนอนท่านี้มาตั้งแต่แรกไม่รู้ว่าเกร็งหรืออะไร จนกระทั่งผมทนไม่ไหวจับตัวไอ้พีให้นอนลงราบบนพื้นพรมนุ่มๆโดยที่ค่อยๆจับศีรษะของมันหนุนที่ตักของผม ยิ่งเห็นใบหน้าโง่ๆแบบนี้ของมันก็ทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นมาแปลกๆ อยากจะก้มไปหอมแก้มมันแรงๆสักที แต่ติดที่ว่าการกระทำของผมอาจจะอยู่ในสายตาของเพื่อนผมคนใดคนหนึ่ง แต่....ความอยากนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำให้ผมทนไหวอีกต่อไป เมื่อผมก้มหน้าลงเอาหนังสือขึ้นมาปิดไว้ก่อนที่จะจูบลงบนหน้าผากของไอ้พีเบาๆแล้วผลักออก แค่นี้ก็พอแล้วครับสำหรับพลังที่ผมได้รับจากมัน... ไอ้น้องผีของผม


   
Pee’s talk


   ผมตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าไม่ซิสายของอีกวัน ผมลุกขึ้นเพื่อนปรับระดับสายตาก่อนจะมองไปรอบๆก็เห็นว่าพี่ๆทั้งหมดต่างหามุมนอน พี่วินพี่คินนอนพิงกันอยู่ที่โซฟา พี่เทพนอนฟุบอยู่บนโต๊ะคอม ส่วนพี่กรม....นอนอยู่ข้างๆผมเมื่อเห็นว่าพี่ๆยังคงหลับกันอยู่ทำให้ผมเดินไปล้างหน้าแปรงฟันและลงไปด้านล่างเพื่อว่าจะมีอะไรให้ผมทำได้บ้างนอกจากรอให้พี่ๆตื่น


   “ น้องพี” ผมได้ยินเสียงคุณแม่ของไอ้พี่เทพเรียกขณะที่ผมกำลังจะก้าวเดินออกไปนอกบ้าน ทำให้ผมเปลี่ยนทิศทางตรงมาหาคุณแม่ทันที


   “ ตื่นเช้าจังครับ” ผมเดินมานั่งลงข้างๆท่านที่บนตักของท่านมีแมวตัวเล็กสีขาวขนฟูอยู่ “ น่ารักจัง” ผมยื่นมือไปสัมผัสขนของมันเบาๆ เมื่อมือของผมสัมผัสลงบนขนของเจ้าแมวตัวขาว มันค่อยๆหลับตาและทำหน้าพริ้มสุขเหมือนว่าชอบให้ผมลูบมันอย่างนั้น


   “ แมวของตาเทพเขาลูก เห็นหน้าโหดแต่อยู่ในโหมดคิตตี้นะลูกชายของแม่” อันนี้ผมเห็นด้วยครับเพราะถ้าคนไม่รู้จักหรือผมตอนแรกๆที่รู้จักกับพี่มัน พี่เทพเป็นบุคคลที่โคตรจะกวนตีนเลยครับแถมยังดูไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่ จนกระทั่งอยู่กับพี่มันไปเรื่อยๆผมก็ได้เห็นด้านที่น่ารักของพี่มัน


   “ ชื่ออะไรครับเนี่ย” ผมยังคงลูบขนของเจ้าแมวน้อยอยู่อย่างนั้นเหมือนว่าผมถูกดูดกับความน่ารักของมันที่ทำให้ผมหยุดมือหรือเอามือออกจากมันไม่ได้


   “ จิ๋มจ่ะ”


   “ ห้ะ??” ผมถึงกับชะงักมือทันทีที่แม่ของพี่เทพพูดออกมาแบบนั้น


   “ แม่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกเทพของแม่ถึงตั้งชื่อลูกแมวน่ารักๆว่าจิ๋ม แม่ห้ามแล้วนะแต่ตาเทพไม่ฟัง แม่ก็พยายามไม่เรียกชื่อของจิ๋มเขา”


   “ แปลกดีครับ” ผมช็อกนะ ไม่รู้ว่ามีใครในประเทศนี้อีกไหมที่ตั้งชื่อแมวน่ารักๆแบบนี้ว่าจิ๋ม ยิ่งผมเห็นหน้าแมวน้อยตัวนี้ผมก็อดที่จะสงสารมันไม่ได้ที่ต้องเป็นแมวของไอ้พี่เทพ เกิดมาน่ารักแต่แอบมีกรรมก็เพราะเป็นแมวของพี่เทพนี่แหละครับ


   ผมคุยกับแม่สักพักก่อนที่แม่จะให้ผมเอาข้าวต้นขึ้นไปให้พวกพี่ๆที่คาดว่าน่าจะตื่นกันแล้ว และทำให้ผมกินข้าวบนนั้นเลย จนกระทั่งเราได้เค้าโครงของงานมาเป็นที่เรียบร้อยในเวลาเพียงแค่หนึ่งคืนจากการปั่นงานของพี่กรม ที่ผมแอบได้ยินว่าพี่มันทำเสร็จเกือบๆตีสี่ ผมมีหน้าที่ตรวจคำผิดอีกครั้งเพื่อความเรียบร้อย โดยที่คนที่ใช้ผมก็คือพี่กรมเหมือนเคย เพราะพี่มันบอกว่าพิมพ์ตอนกลางคืนมันง่วงเลยให้ผมตรวจสอบอีกรอบเพื่อความรอบครอบ แต่เท่าที่ผมตรวจดูมาเกือบๆสามสิบหน้า ก็ไม่มีคำไหนที่พี่มันพิมพ์ผิดเลย แล้วจะให้ผมตรวจอีกทำไมวะ แต่ช่างมันเถอะครับเพราะผมตรวจเสร็จแล้ว


   ตอนนี้ก็เกือบๆเที่ยงพวกพี่ๆให้เรามาลงพื้นที่แถวๆย่านรังสิตเพราะพี่วินบอกว่าเขาหาข้อมูลมาบอกว่าที่รังสิตมีชมรมผู้สูงอายุที่ได้รับรางวัล มีโรงเรียนผู้สูงอายุ มี Day care และมี Care manager ที่คอยให้คำปรึกษารวมถึงสถานที่ที่เตรียมให้การบริการเกี่ยวกับการทำกายภาพบำบัดให้กับผู้สูงอายุ ถือเป็นชุมชนต้นแบบของประเทศเลยก็ว่าได้ที่มีแหล่งบริการสาธารณะที่ครอบคลุมให้ผู้สูงอายุขนาดนี้ อีกอย่างคือมันก็ค่อนข้างที่จะใกล้กับมหาวิทยาลัยของผมอยู่เหมือนกัน ทำให้ตอนนี้พวกเรามาถึงสถานที่เทศบาลเพื่อติดต่อ อย่างว่าแหละครับวันนี้วันเสาร์ก็จริงแต่ก็มีพนักงานคอยให้บริการอยู่ครึ่งวัน และดีที่ว่าพี่กรมโทรมาติดต่อเมื่อตอนเช้าก่อน ไม่งั้นก็คงต้องมาลงพื้นที่ในวันธรรมดาแน่ๆ


   “ สวัสดีครับ” พี่กรมเดินเข้าไปสวัสดีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ท่าทางมีภูมิฐาน คาดว่าน่าจะเป็นบุคคลมีตำแหน่งแต่แค่ผมยังไม่รู้ว่าเธอทำหน้าที่อะไรก็เท่านั้น ก็คงต้องรอให้พี่กรมแนะนำ “ นี่คุณวรรณานะเป็นปลัดกองสาธารณะสุขของที่นี่” พี่กรมหันมาแนะนำให้พวกผมรู้จัก


   “ ครับ สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นทำความเคารพเธอเหมือนกับพี่ๆคนอื่น


   “ น้องกรมมากะทันหันไป น้าไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้เลยค่ะ”


   “ แค่นี้กรมก็เกรงใจน้าวรรณมากแล้วครับที่มารบกวนเวลาทำงานครึ่งวันข้างน้า” พี่กรมเดินเคียงคู่มากับคุณปลัดด้วยท่าทางสนิทสนม ผมแอบได้ยินว่าพี่กรมเรียกเธอว่าน้าสงสัยจะรู้จักแน่ๆ


   “ กรมอยากรู้เรื่องส่วนไหนละ” เธอหันมาถามพี่กรมขณะที่ตอนนี้หยุดอยู่ที่ห้องทำงานที่ด้านหน้ามีป้ายเขียนชื่อตำแหน่งของเธอเอาไว้


   “ เกี่ยวกับผู้สูงอายุเน้นๆเลยครับ ตามที่น้าวรรณดูแลเลย” เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานพี่กรมเดินมานั่งเก้าอี้ด้านหน้าส่วนพวกผมเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆห้องและรอฟังบทสนทนาของทั้งคู่


   “ แบ่งกลุ่มไหม มากี่คน เอาเป็นสองสามก็ได้ น้าจะส่งไปดูพวกบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานส่วนอีกสามคนก็ไปไล่ถามผู้สูงอายุตามบ้าน ตอนนี้มีโครงการเกี่ยวกับผู้สูงอายุหลายประเภทเลย ผู้สูงอายุที่อยู่ในช่วงวัยหกสิบต้นๆก็ยังเป็นพวกติดสังคม งานที่น้าดูแลก็จะเป็นโรงเรียนผู้สูงอายุที่จัดอาทิตย์ละหนึ่งวัน ส่วนผู้สูงอายุที่ติดบ้านติดเตียงน้าก็จะจัดผู้เชี่ยวชาญและอสม.ไปดูแลและตรวจสุขภาพทุกๆอาทิตย์ ส่วนเรื่องบริการก็น่าจะมีประมาณนี้ ที่เทศบาลของเราส่วนมากจะเน้นเรื่องผู้สูงอายุที่ติดสังคมสะส่วนใหญ่ ส่วนติดบ้านติดเตียงตอนนี้ก็กำลังวางแผนอยู่” ผมนั่งจดตามที่ปลัดเธอพูดออกมา ถือว่าน่าสนใจมากๆเลยครับสำหรับโรงเรียนผู้สูงอายุ เพราะผมเคยเห็นและได้ยินแค่ชมรมผู้สูงอายุเท่านั้นที่บ้านของผมก็มี แต่โครงสร้างโครงการอ่อนแอมากครับ ผู้สูงอายุก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ขนาดย่าผมยังไม่ไปเลยครับ แกบอกว่าอยู่บ้านสบายกว่า


   “ เดี๋ยวผมไปกับน้าวรรณครับ ส่วนไอ้เทพไอ้วินไอ้คินไปกับเจ้าหน้าที่อีกคนนะ พวกมึงก็ถามว่าอยากได้บริการอะไร อยากให้ภาครัฐจัดอะไรบ้าง เดี๋ยวกูไปกับไอ้พี” พี่กรมมันเหลือบสายตามมามองหน้าผมเพียงแค่เสี่ยววินาทีก่อนจะหันกลับไปเหมือนเดิม


   ถูกมัดมือชกอีกแล้วครับ????  มันเป็นงานต้องเข้าใจ ไอ้พีเอาเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานให้ได้นะเว้ย


   “ งั้นไปกันเลยครับ” เมื่อพี่กรมลุกขึ้นผมก็ต้องลุกขึ้นตามทันทีก่อนจะเดินตามหลังพี่มันออกไป ส่วนพวกพี่เทพก็นั่งรออยู่ในห้อง


   “ ไม่ได้เอาหมวกมา?” เมื่อเดินลงมาถึงด้านล่างของตึกพี่กรมหันมาถามผมที่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ข้างๆเขา


   “ ครับ ผมไม่รู้ว่าแดดจะร้อน” มันค่อนข้างกะทันหันมาก ไม่คิดว่าจะได้ลงพื้นที่วันนี้


   “ เอาไป” พี่กรมเดินเอาหมวกมาสวมให้ผม และจัดแจงสวมให้ผมอย่างเรียบร้อย ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพี่กรมอย่างไม่เข้าใจว่าพี่มันทำแบบนี้กับผมทำไม ผมไม่เข้าใจสถานะครึ่งๆกลางๆแบบนี้เลย


   “ ดูแลผมทำไมอะ?”


   “ เรื่องของกู” เวรมากครับ ถามดีๆได้คำตอบว่าเรื่องของกูมาผมนี่เลิกถามเลย เอาเป็นว่าอยากจะดูแลเหี้ยไรก็ดูแลมาเลย ผมโอเคมากๆ มากจริงๆ ไม่เชื่อผมหรอกหรอครับ??? เอามือปาดน้ำตาในใจแพรบ


   หลังจากนั้นผมก็ขึ้นรถมากับปลัดวรรณาที่พามาดูแหล่งบริการสาธารณะประโยชน์ที่เป็นส่วนร่วมและเป็นศูนย์กลางของประชาชนได้มาใช้ประโยชน์โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และอีกสถานที่มากมาย จนกระทั่งผมจดลายละเอียดงานส่วนพี่กรมก็มีหน้าที่สอบถามข้อมูลมาให้ได้เยอะที่สุด จนกระทั่งตอนนี้ผมกับพี่กรมกลับมาก่อนในช่วงเกือบๆบ่ายสาม


   “ หิวข้าวยัง?” พี่กรมถามผมขณะที่ตอนนี้เรานั่งรออยู่ที่ชั้นล่างของเทศบาลหลังจากไปลงพื้นที่มาเสร็จ


   “ ก็นิดหน่อยพี่”


   “ ไปกินไหม”


   “ แล้วพวกพี่เทพละครับ”


   “ ไม่ต้องห่วงมันหรอก” ผมพยักหน้าตามก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปหาพี่กรมที่ตอนนี้เดินออกมาหน้าเทศบาลซึ่งเป็นถนนใหญ่


   “ แถวนี้ไม่มีอะไรกินหวะ ไปฟิวไหม?”


   “ ฟิวเลยหรอ” แต่ระยะทางจากเทศบาลไปฟิวเจอร์ก็ค่อนข้างไกลครับ ถ้าเดินไปเดินไปได้แต่ว่าตอนนี้อากาศมันร้อนเกินกว่าที่พวกผมจะเดิน


   “ เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ไป” พี่กรมพูดเสร็จไม่ได้รอให้ผมตอบ แต่เขากลับเดินไปเรียกแท็กซี่จนกระทั่งเมื่อได้แท็กซี่แล้วพี่กรมก็เอี้ยวตัวกลับมาเรียกให้ผมเข้าไปนั่งด้านหลังกับพี่กรม


   “ อยากกินอะไร” เมื่อนั่งมาได้สักพักพี่กรมก็ถามขึ้นเพื่อไม่ให้บรรยากาศบนรถดูเงียบเหงามากจนเกินไป


   “ อะไรก็ได้พี่”


   “ ไม่มีหรอกนะอะไรได้” ผมหันไปมองหน้าพี่มันทันทีด้วยความไม่พอใจ ก็ผมไม่รู้หนิครับว่าผมอยากกินอะไร “งั้นกิน KFC ก็แล้วกัน”


   “ ตามใจพี่เหอะ” กินอะไรก็ได้เพราะผมก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกันนี่ก็เลยเวลากินข้าวมานานแล้ว







PS. สารจากกรมรินทร์ ฉบับที่ 1

" เคยรู้สึกว่าตัวเองเลวไหมครับ? ตอนนี้ผมรู้สึกแบบนั้น" ถ้าทำให้คนที่รักมีความสุขไม่ได้อย่างแท้จริงก็ไม่ควรดึงเขาเข้ามาเกี่ยวและปล่อยให้เขาตัดใจจากไป... มันอาจจะเจ็บแปบเดียวแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ครับ ผมรู้ ผมเข้าใจทุกอย่าง และผมก็รู้สึกเหมือนที่ทุกคนรู้สึกกัน ผมมีทางเลือกอยู่สองทาง

หนึ่ง ปล่อยให้ไอ้พีเดินจากไป..ให้เจอกับคนที่ดีกว่า และพร้อมที่จะดูแลมันมากกว่าผม

สอง เห็นแก่ตัวกั๊กมันเอาไว้ในฐานะน้องชาย

ทุกคนคงเดาไม่อยากว่าผมจะเลือกทางไหน? แล้วมาดูกันครับ

-กรมรินทร์-

(13 มี.ค. 2562)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 12:52:33 โดย KJH177 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อยากเห็นน้องพีเป็นฝ่ายเลือกบ้าง

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เอาจริงตอนนี้ค่ดไม่ชอบพี่กรม ถ้าพี่กรมจะทำแบบนี้ก็ควรบอกเหตุผลน้องเว้ย พูดกันให้เข้าใจไม่ใช่กั๊กไว้แล้วไม่ทำอะไรเลย แล้วที่บอกว่าอยากให้น้องผีเป็นน้องชายยูก็ควรจะทำตัวเป็นพี่ชายจริงๆสถานะกับการกระทำก็ให้มันชัดอย่างที่ปากบอก เราโป้งนายแล้วพี่กรม อยากให้น้องผีความจำเสื่อมแล้วลืมพี่กรมไปเลย สงสารน้องจิ๋มแมวพี่เทพจริงๆเป็นแมวมีกรรมจริงๆนั้นแหละ5555 พี่เทพค่ดกวนตีนกับเกรียนมากเฟี้ยวตั้งแต่ชื่อตัวเองยันชื่อแมว แต่จริงๆก็สงสารพี่กรมอยู่นะนิดนึงถ้าไม่ดึงหมอเมย์เข้ามามันจะดีกว่านี้มากๆ คนเราก็ผิดพลาดกันได้ขอให้เรียนรู้และก็ปรับปรุงตัวเนอะ สู้ๆนะทั้งพี่กรมน้องผีและก็พี่เทพด้วย อยากรู้เรื่องพี่เทพกับพี่คินเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขาทั้งสองคนกันอะ มาต่อเร็วๆนะ สนุกมากๆเลยอินมากถึงจะสงสารพี่กรมแต่เราก็ยังอยากตบพี่กรมอยู่ดี เป็นกลจให้คุณไก่ทอดนะคะ :กอด1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่กรมคือใจร้ายมาก ทำแบบนี้กับน้องได้ไง.อ่านแล้วแอบจุกๆกับประโยคประมาณว่าถ้าน้องพีเป็นผู้หญิงน่าจะดีกว่านี้ แล้วทำไมต้องเป็นผู้หญิงละ แง้ ก็แค่คนจะรักกันทำไมพี่กรมต้องเอาเพศเป็นตัวตัดสินด้วยยยย

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
พี่กรมหมายความว่าถ้าพีเป็นผญ.จะง่ายตรงที่ไม่ต้องกังวลเรื่องของกระแสสังคมการรักษาให้พ่อ(ทุกอย่างพี่กรมต้องคีพเพราะตรงนี้ไรท์อยากเล่นประเด็นของสังคมไทยที่ปากบอกยอมรับเพศทางเลือก แต่สุดท้ายก็ยังวิจารณ์อยู่ดี) แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าพีจะเป็นเพศไหนก็ไม่มีปัญหาค่ะเพราะพี่กรมรักในตัวพีไม่ใช่เพศของพี

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4: :เฮ้อ:

เหนื่อยแทน

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 14

เหมือนจะดี

        ตอนแรกเราตกลงกันว่าจะกินไก่ทอดแต่พอมาถึงห้างจริงๆพี่แม่งก็ลากผมมากินบุฟเฟต์ชาบูจนได้ ตั้งแต่ผมรู้จักพวกพี่มันมาไม่เคยมีมื้อไหนที่พวกพี่เลี้ยงผมไม่ดีเลยครับ ก็จะมีแต่ครั้งนั้นที่ผมทำพวกพี่มันท้องเสียแต่นั่นมันก็เป็นเพราะฝีมือของผมเองที่เลือกอะไรไม่ยอมถามเจ้าของบ้าน ผมรู้สึกว่าผมอ้วนขึ้นขนาดตัวของผมก็ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แก้มผมก็ดูบวมขึ้น เหนียงที่ผมไม่เคยก็เริ่มออกเวลาที่ผมยิ้ม

 
   “ พี่ว่าผมอ้วนไหม” ผมหันไปถามพี่กรมที่ตอนนี้กำลังมัวหยิบผักใส่ในหม้อต้มของเขา เมื่อผมถามพี่กรมก็ละมือออกจากการหยิบผักมาใส่ พร้อมกับเลื่อนสายตามาสำรวจผมทั้งตัว


   “ อ้วน” และพี่มันก็หันไปจัดการต้มผักของพี่มันต่อ ทั้งๆที่ผมกินเท่าพี่มันแท้ๆทำไมพวกพี่มันไม่อ้วนขึ้นกันเลยวะ มีแต่ผมที่นับวันยิ่งอ้วนขึ้น


   “ แล้วทำไมพี่ไม่อ้วน”


   “ กูเผาผลาญดี มึงมันอ่อนไง”


   “ พี่...เดี๋ยวผมก็ผอม” ไม่สนละครับกินมื้อนี้เสร็จผมค่อยลดก็แล้วกัน ผมมองสายพานอาหารที่เลื่อนผ่านตรงหน้าแล้วตรงหน้าเล่าแต่ผมก็ไม่รู้จะหยิบอะไรมาใส่ในหม้อตัวเอง พร้อมกับมองคนที่นั่งข้างๆที่ตอนนี้เอาแต่กินจนผมเองก็อดที่จะหิวตามไม่ได้ แย่งแม่ง เสือกน่ากินดีนัก หมาย...ถึงอาหารนะครับ


   “ กินนะ” ผมคีบลูกชิ้นปลาในหม้อของพี่มันขึ้นมากินหน้าตาเฉยโดยที่ไม่รอให้พี่มันอนุญาต


   “ เดี๋ยวทำให้” พี่กรมวางตะเกียบของตัวเองลงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบของที่เลื่อนผ่านมาตรงหน้า ทั้งสาหร่าย หมูปรุงรส กุ้ง หมึก ปลา และไม่ลืมใส่ผักให้ผมด้วยก่อนจะปิดท้ายด้วยการตอกไข่


   “ เจาะหรือจะเอาเป็นลูก” พี่มันเงยหน้าขึ้นมาถามผมที่มองการกระทำของพี่มันทุกอย่างด้วยความเพลิดเพลินยิ่งตอนที่พี่มันตั้งใจหยิบของใส่ให้ผมอย่างใส่ใจ มันก็ยิ่งกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวผมออกมา แต่ผมก็พยายามที่จะซ้อนมันกลับไปให้ลึกที่สุด


   “ อะไรก็ได้พี่”


   “ คิดเองไม่เป็นเลยนะมึง” พี่มันส่ายหัวให้ผมเมื่อผมไม่มีคำตอบที่พี่มันถาม เมื่อผมไม่ตอบพี่กรมก็จัดการทำตามใจเขาโดยการตีไข่ให้ผสมเข้าไปกับน้ำซุปของผม จนกระทั่งทั้งหมอเดือดทุกอย่างพร้อมทานทำให้ผมเตรียมหยิบช้อนขึ้นมาซดน้ำซุป แต่ผมก็ถูกมือของพี่กรมจับเอาไว้ก่อนที่มันจะเข้าปากผม


   “ ทำไมไม่เป่า มันร้อน” พี่มันยื่นหน้ามาใกล้ๆผม ก่อนจะก้มลงเป่าลงบนช้อนผมเบาๆและผลักออกมาเมื่อพี่มันรู้สึกว่าน้ำซุบน่าจะอุ่นขึ้นจากเดิมที่ตักมาในหม้อเดือดๆ


ตึก ตัก ตึก ตัก


   เสียงหม้อไฟนี่มันดังจริงๆนะครับ ผมเลิกสนใจพี่มันโดยการเทน้ำซุบที่พี่มันเป่าให้ลงในหม้อเหมือนเดิม ก่อนที่จะตักขึ้นมาใหม่แล้วเป่าเอง


   “ มึงนี่มันจริงๆเลยนะ หมั่นไส้หวะ” พี่กรมเอื้อมมือของเขามาบีบแก้มผมแรงๆจนผมต้องปัดมือพี่มันออก หวงตัวครับ ช่วงนี้ผมหวงตัวเป็นพิเศษ


   “ กินไปพี่ อย่าเล่นเวลากินข้าว” ผมเฉไฉไปเรื่องอื่น ทำให้ตอนนี้เราทั้งคู่ต่างกินโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร แต่ผมก็ไม่ได้อึดอัดเหมือนเมื่อคืนแล้วนะ ผมว่าผมแยกแยะออกว่าเวลาไหนที่ผมควรจะดราม่าและเวลาไหนที่ผมควรจะนิ่ง จนกระทั่งพวกเรากินเสร็จพี่กรมมันก็ลุกขึ้นไปจ่ายเงิน ผมมองราคาที่ติดไว้อยู่หน้าร้านก่อนจะหยิบเงินออกมาตามจำนวน


   “ อะพี่” ผมยื่นเงินไปให้พี่กรมที่เดินนำออกมาหน้าร้าน พี่มันก้มลงมองเงินที่ผมยื่นให้ก่อนที่พี่มันจะปัดมือผมให้ออกห่าง


   “ เลี้ยง รวย” พี่มันเดินล้วงกระเป๋ากางเกงนำออกไปทำให้ผมวิ่งไปเกาะไหล่พี่มัน


   “ ไม่อยากเอาเปรียบนะครับพี่” ผมยังไม่ยอมแพ้ตามไม่ยื่นเงินให้พี่มันเหมือนเดิม เมื่อเห็นว่าผมตื้อมากพี่กรมก็ลากผมไปที่ห้องน้ำ อ่อ สงสัยพี่มันปวดฉี่


   “ ทำไรอะ” ผมเห็นสายตาพี่มันดูเลิกลั่กหันไปมองทางประตูห้องน้ำและบริเวณอื่นๆของห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ  พี่กรมมันก็ผลักผมเข้าไปในห้องน้ำด้านในสุดจนตัวผมติดกับกำแพง ส่วนพี่มันล็อคประตูเสร็จก็ตามเข้ามาประชิดตัวผม


   “ อยากจ่ายมากใช่ไหม?” พี่กรมวางแขนของเขาลงบนตำแพงในตำแหน่งที่สูงกว่าตัวขอผมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยสายตานิ่งๆ


   “ เออดิพี่” ผมเองก็ไม่ยอมแพ้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่มันเหมือนกัน เอาสิ! น้องพีจะสู้ อ่อยมาอ่อยกลับไม่โกง


   “ งั้นจ่ายเป็น....” พี่มันเว้นช่วงเอาไว้ก่อนที่จะใช้นิ้วชี้ของตัวพี่มันเองมาเขี่ยเล่นที่ปากของผมเบาๆ “ จูบก็แล้วกัน...” สิ้นเสียงนั้นผมเองก็เลื่อนหน้าเข้าไปหาพี่มันโดยอัติโนมัติเหมือนกันเราต่างคนต่างยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่ประกบเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ประสบการณ์ที่ผมโดนมาสองครั้งมันเริ่มสอนให้ผมรู้จักการจูบตอบ ไม่รู้ว่าฝีมือของผมมันเรียกว่าขั้นไหนแต่ผมได้ยินเสียงของพี่มันหัวเราะออกมาเบาๆ


   “ หึ” ผมเอียงคอให้ได้มุมเพื่อพี่มันจะได้เข้ามาลิ้มลองริมฝีปากของผมได้ถนัดมากกว่าเดิม เมื่อรู้สึกว่าการจูบแบบนี้มันไม่เพียงพอต่อความต้องการของเราทั้งคู่ นั่นทำให้ผมค่อยๆเปิดริมฝีปากออกเพื่อให้พี่กรมสอดลิ้นเข้ามาด้านในของผมเมื่อสัมผัสนั้นเข้ามาใจของผมก็หล่นวูบไปทันที เมื่อไม่ได้มีเพียงแค่ลิ้นร้อนที่เข้ามาเพราะมือทั้งสองข้างของพี่มันกลับเลื่อนเข้ามาด้านในเสื้อของผมก่อนจะขยับนิ้วเพื่อหลอกล้อกับบางสิ่งบางอย่างที่ตอนนี้แข็งตัวเป็นไตบ่งบอกว่าผมมีอารมณ์เต็มที่


   “ พี่ครับ...” พี่กรมเว้นจังหวะถอนริมฝีปากออกมาเพื่อให้เราทั้งคู่ได้หายใจ สายตาที่ผมมองพี่มันไม่รู้เหมือนกันนะครับว่ามันสื่อไปว่าอย่างไร เพราะนั้นทำให้พี่กรมก้มลงมาไซร้ที่ซอกคอของผมอย่างหื่นกระหายจนกระทั่งผมรู้สึกเจ็บขึ้นมาเมื่อพี่มันดูดเม้มที่ซอกคอของผมแรงๆจนผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ


   “ สำหรับค่าชาบู” พี่กรมผลักออกมาจากซอกคอ พร้อมกับใช้นิ้วมือของเขาเช็ดที่ริมฝีปากของผมเบาๆด้วยสายตาที่เซ็กซี่จนผมแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหว... “ ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวมึงจะเดินไม่ไหวนะครับน้องผี” ไม่รู้ซิ ทำไมผมรู้สึกว่าตอนนี้มันดีมากๆเลย ตราบใดที่ทั้งสองคนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกันผมก็มีสิทธิ์ ผมโคตรมั่นใจเลยว่าพี่แม่งก็ชอบผมเหมือนกัน ไม่งั้นไม่มาจูบผมแบบนี้หรอก ไม่ใช่แค่จูบนะพี่มันยังเอานิ้วมาเขี่ยนมมาบีบนมผม อย่าคิดว่าไม่รู้ เห็นไหมละครับมีน้อยแต่ก็มันไม่แพ้ผู้หญิงเลยนะ


   ผมมั่นใจว่าอย่างไรผมก็ไม่ได้คิดเข้าข้างไปเองคนเดียวแน่ๆ แต่....ผมไม่รู้ว่าในใจของพี่กรมมันกังวลอะไรอยู่ ทำไมผมจะไม่รู้ว่าการที่พี่กรมไปหาพี่เมย์ไปดึงพี่เมย์เข้ามาก็เพราะพี่มันต้องการพิสูจน์ตัวมันเองว่ายังมั่นคงกับผมอยู่ไหม ถ้ากลับไปหาผู้หญิงที่เคยชอบ ซึ่งวิธีที่พี่มันเลือกใช้...โคตรเห็นแก่ตัวและเป็นวิธีที่ไม่ฉลาดเลย ผมจะคิดแบบนี้ตามสิ่งที่ผมรู้สึกถ้าพี่มันยังไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงออกมา


   “ ทำไมหน้ามึงตอนนี้ดูแรดจังหวะน้องผี”


   “ .....หมดคำสิเว่า” ผมผลักพี่มันออกให้พ้นทางก่อนจะเดินเปิดประตูห้องน้ำโดยไม่ทันได้ดูว่าด้านนอกมีใครอยู่หรือไม่ จนกระทั่งผมสบตาเข้ากับเจ้าตัวน้อยที่กำลังล้างมืออยู่


   “ ขวางทาง” พี่กรมที่เดินตามผมออกมาพร้อมกับใช้มือของเขาผลักผมให้พ้นทาง


   “ พ่อครับ” เจ้าเด็กตัวน้อยเดินไปเกาะขาพ่อของเขาที่เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี พร้อมกับมองผมกับพี่กรมสลับไปมา “ ทำไมพี่สองคนเขาออกมาจากห้องน้ำห้องเดียวกันอะครับ” ก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะชี้มาที่ผมกับพี่กรมสลับกันไปมาจนพ่อของเจ้าตัวเล็กต้องก้มหัวขอโทษผมกับพี่กรมที่เจ้าตัวเล็กถามออกมาแบบนั้น


   “ เอ่อ...ขอโทษนะครับ”


   “ ไม่เป็นไรครับ” เป็นพี่กรมที่พูดออกไป ส่วนผมก็ยืนนิ่งครับ กูเขิน เจอเด็กถามออกมาตรงๆผมนี่ไปไม่ถูกเลย จะให้ผมตอบไปว่า พี่ไปจูบกันครับ ลิ้นแลกลิ้นแบบผู้ใหญ่ แต่ก็กลัวพ่อของเด็กจะไล่กระทืบผมเอา เอาเป็นว่าผมเงียบปากและยืนให้พี่กรมมันเคลียร์ไปเองก็แล้วกัน


   “ เด็กแม่งรู้มากไป” ผมเดินหน้ามุ่ยกอดคอพี่กรมออกมาจากห้องน้ำ ส่วนไอ้คนตัวสูงก็เอาแต่หัวเราะเหมือนเห็นว่าเป็นเรื่องตลก


   “ พาลว่ะ” พี่มันขยี้เส้นผมเบาๆ ก่อนที่เราจะพากันเดินไปดูนู้นดูนี่จนลืมไปว่าวันนี้พวกเรามาทำงาน


   “ ชอบแบบนี้” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่กรมที่เดินโอบไหล่ผมอยู่ “ แบบนี้ก็ดีที่สุดแล้วพี่” ผมจับมือของพี่มันที่ไหล่ของผม
   “ เออ ไอ้น้องผี” รอยยิ้มของพี่กรม ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ ยิ่งมองก็ยิ่งหลง คนบ้าอะไรเกิดมาหล่อขนาดนี้ ขออนุญาตชมท่านอัศวินเลยครับที่สามารถผลิตลูกหน้าหล่อขนาดนี้มาให้ผมได้เชยชม ต่อไปนี้สิ่งที่ผมจะทำต่อไปคือการติดเกาะพี่มันอยากไปหาผู้หญิงคนนั้นก็ไป ผมก็จะไปด้วยในเมื่อพี่มันหลอกตัวเองโดยใช้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเป็นเครื่องมือ ไม่ยอมฟังเสียงหัวใจตัวเอง ผมเองแหละครับที่จะทำให้พี่มันยอมรับให้ได้ เมื่อวันไหนที่ผมอึดอัดหรือหมดความพยายามแล้วละก็ ผมจะออกมาเอง


   ขอโทษนะครับพี่เมย์....ผมก็รักของผมเหมือนกัน :)

   ผมเองก็เห็นแก่ตัวเป็น ไม่ดีไปกว่าใครเลย... แล้วไงครับ ผมไม่แคร์ หึ




    “ วันนี้พวกมึงได้อะไรมา นอกจากรอยแดงที่คอไอ้พี” ตอนนี้ผมกับพี่กรมกลับมาที่บ้านของพี่เทพเป็นที่เรียบร้อยในเวลาเกือบสองทุ่ม ไอ้พี่เทพพูดเสียงดังจนทำให้พี่ๆอีกสองต่างหันมาจ้องคอของผมทันที


หมับ


   ผมรีบปิดคอตัวเองไม่ให้พี่มันเห็น ผมนี่อยากไปทุบหัวพี่กรมจริงๆ ไอ้บ้าเอ้ย ทำรอยแดงขนาดนี้ก็ขอกูแต่งงานเถอะครับ


ผั๊วะ!!


   พี่กรมยื่นมือมาตบหัวผมแรงๆหนึ่งทีจนหัวผมโยกไปซบที่ไหล่ของพี่มัน เอ้อออ ไอ้หัวนี่ก็รู้งานจริงๆครับ ไม่อยากจะลุกขึ้นมาเลย


   “ ผิดข้างครับ” พี่กรมก้มลงกระซิบที่ข้างหูนั่นทำให้ผมรีบปิดคออีกข้างหนึ่งทันที แต่ผมว่าไม่ทันละครับเมื่อพี่ๆหันกลับไปทำงานกันเหมือนเดิม และดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจพวกผมอีกเลย แม้กระทั่งไอ้พี่เทพ


   “ พี่แม่ง” ในเมื่อลงกับใครไม่ได้ก็ลงกับพี่มันไปแล้วกันครับ ผมเล่นกับพี่กรมไปเรื่อยจนไม่ได้สนใจงานสักเท่าไหร่ ก่อนจะหยุดลงเมื่อโทรศัพท์ของพี่กรมดังขึ้นมา


   “ MAY is calling รับดิ ไม่ได้ว่าอะไร” ผมยักไหล่ให้พี่มันก่อนที่จะหันมาเปิดคอม เมื่อเห็นว่าผมทำท่าทีไม่สนใจพี่มันก็ตั้งท่าจะกดรับ แต่ด้วยความไวนั้นทำให้ผมคว้าเอาโทรศัพท์พี่มันเอาไว้ก่อนเพราะความคิดอีกขั้วของสมองที่สั่งตรงมาจากหัวใจของผมบอกว่าไม่อยากให้พี่มันรับ


   “ หึ ไปเถียงกับตัวเองก่อนนะน้องผี” พี่มันส่ายหัวหลังจากที่ผมแย่งโทรศัพท์ของพี่มันไป “ ไอ้ผีเอ้ย”

        “ ทำงานไปพี่ เดี๋ยวไม่เสร็จ” ผมเกร็งคอและเชิดหน้าขึ้นเหมือนว่าเมื่อสักครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับทำงานต่อจากการลงพื้นที่วันนี้ทำให้ผมได้เนื้อหามากมายและได้รู้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมขึ้นมา และที่สำคัญทำให้ผมได้ตัดสินใจตัวเองครั้งใหญ่ในเมื่อพี่มันไม่ยอมรับใจตัวเอง ผมก็จะทำให้พี่มันรับหัวใจของผมให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม   ความรักมันเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว พี่เริ่มก่อนผมก็แค่สนองต่อเท่านั้น








PS. สารจากน้องพี

     ทุกคนครับอย่าโกรธผมที่ผมปล่อยตัวปล่อยใจไปแบบนั้น เพราะผมมีเหตุผลก็คือ... ผมรักพี่กรมครับ ผมยอมรับออกมาตรงๆ แต่ปัญหาของผมก็คือพี่กรมมันยังปิดใจตัวเองอยู่ทั้งๆที่คิดเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าอะไรที่อยู่ในใจ แต่ผมจะแหกมันออกมาจนกว่าผมจะทำให้พี่มันรู้ใจตัวเอง แต่ถ้าวันหนึ่งพี่มันยังคงโกหกอยู่ และผมทำสุดความสามารถแล้ว เมื่อถึงวันนั้นผมก็จะออกมาเอง

ความรักไม่มีคำว่าโง่ครับ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสมยอม และฝ่ายนั้นก็ดันเป็นผมเอง...

( ปฐพี , 2562)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 12:57:15 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

น้องพีสู้ๆ

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านไปอ่านมาก็รู้สึกว่าพี่กรมกับน้องผีเป็นคู่เหมาะสมกันมาก อ่านฉากที่น้องกับอิพี่จูบกันรู้สึกถึงความร้อนแรงเขินมาก :jul1: แต่คืองงว่าพวกแกก็รักกันแต่ทำไมไม่คบกัน ทำทุกอย่างเหมือนแฟนแต่ก็บอกพี่น้อง ตอนนี้คือหมั่นไส้น้องผีมากความมั่นหน้านี้ ถ้าพี่กรมไม่คิดเหมือนกับหนูหน้าจะแตกยับมากเลยนะลูก เป็นกลจให้ทั้งสองคนเลย ตอนนี้คืออยากเห็นงานนโยบายกับบักกวงมาก ก็ยังแค้นใจอยากให้บักกวงเจอหนักอยู่ๆ มาต่อเร็วๆนะคะ เราป็นกลจให้คุณไก่ทอดน้า สนุกมากๆเลยอยากอ่านต่อไปแล้ว :pig4: :L1: :กอด1:

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เรารออยู่นะ คุณไก่ทอดไปไหน o9 คิดถึงพี่กรมคนเลว

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เข้าใจเหตุผลพี่กรมนะ แต่ครึ่งๆกลางๆแบบนี้น้องผีก็ไม่ไหวปะวะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด