“ แม่ต้องขอโทษทุกคนด้วยน่ะ ที่ดิวเค้าทำตัวไม่น่ารักกับทุกคน อย่าไปโทษดิวเค้าเลย แม่ผิดเองแหละที่เลี้ยงลูกมาไม่ได้ ไม่เอาใจใส่ลูกตัวเองเท่าที่ควร เอาแต่สนใจเรื่องงานมากกว่าเรื่องครอบคัว จนเค้าเติบโตมาเป็นเหมือนเด็กเก็บกดและก้าวร้าว หวังว่าทุกคนคงไม่โกรธดิวมันน่ะ ตัวจริงเค้าไม่มีพิษภัยอะไรกับใครหรอก อาจจะเกะกะระรานไปบ้าง ก้ออย่าถือสาเค้าเลยน่ะ “ น้าเนตรหน้าตาน้ำเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คงจะรู้สึกผิดจริงๆ ผมเริ่มสงสารน้าเนตรแล้ว
“ ไม่มีใครเค้าไปถือสาไอ้ดิวมันหรอกครับน้าเนตร ผมรู้จักมันมานาน น้าเนตรอย่าคิดมากน่ะครับ “ ต้งพูดปลอบน้าเนตร
“ ใช่ครับ พวกเราไม่มีใครเค้าว่าอะไรมันหรอก กรณ์ว่าน้าเนตรทานข้าวดีกว่า เรื่องนี้มันเล็กน้อยครับ น่ะครับ อย่าทำหน้าเครียดสิครับ ดูสิ ต้งสั่งของมาน่าทานทั้งนั้นเลยครับ “ พี่กรณ์เสริมไปอีกแรง
แล้วพวเราก้อลงมือทานอาหารกันต่อ ก้อมีการพูดคุยกันเรื่องร้านบ้าง ต้งบอกว่าเจ้าของร้านนี้เพิ่งซื้อที่ดินตรงนี้ได้ไม่นานนัก จากนักก้อเร่งดำเนินการก่อสร้างในระยะเวลาไม่ถึงเดือน จนตอนนี้ใกล้จะเสร็จทุกอย่างแล้ว เหลือตกแต่งอีกนิดหน่อย ประมาณกลางเดือนนี้คงจะเปิดให้บริการได้ ทั้งเจ้าของร้านยังให้บัตรสมาชิคพิเศษกับพวกเราด้วย ไว้มาใช้บริการกันอีก พอทานเสร็จแล้วต้องก้อไปเช็คบิล โดยที่มื้อนี้ต้งขอเลี้ยง ตอนแรก น้าเนตรและพี่กรณ์ก้อไม่ยอมเหมือนกัน แต่ต้งบอกว่าต้งจัดการจ่ายไปเรียบร้อยแล้ว ทุกคนเลยยอม
พอเช็คบิลแล้ว พวกเราก้อแยกย้ายกันไปทำงาน โดยที่ป๊อบขับรถของดิวไปส่งน้าเนตรที่บ้าน ส่วนต้งก้อไปส่งผมและพี่กรณ์ที่ออฟฟิซ จากนั้นพวกเราก้อแยกย้ายกันไปทำงานกันต่อ พอผมเข้ามาที่ห้องทำงานของผม ก้อพบว่ามีทั้งของขวัญและดอกไม้มากมายวางไว้บนโต๊ะทำงานของผม ผมหยิบขึ้นมาดูก้อพบการ์ดติดอยู่ที่ของขวัญและดอกไม้ เขียนอวยพรผมเนื่องในงานวันเกิดของผม เพื่อนๆที่ทำงานทุกคนน่ารักกันมาก ของขวัญแต่ละอย่างก้อน่ารักๆทั้งนั้น มีทั้งเครื่องสำอางเป็นเซ็ทๆสวยงาม มีปากกา มีตุ๊กตาที่เป็นนาฬิกาปลุกได้ และบางอันก้อเป็น เอ่ออออ Sex Toy รูปร่างแปลกๆ ผมเห็นแล้วขนลุก มันเป็นเหมือนแท่งอะไรสักอย่างที่มันสั่นๆได้ ของชิ้นนี้พี่ฝ่ายบุคคลเป็นคนให้ผม แหมท่าทางพี่เค้าเรียบร้อย ไม่นึกเลยว่าไอเดียจะบรรเจิดขนาดนี้ พอดูของขวัญเสร็จแล้วผมก้อลงมือทำงานต่อ ช่วงนี้มีงานที่ต้องสะสางเยอะเหมือนกันครับ ผมคิดว่าจะจัดการวันนี้ให้จบ พรุ่งนี้จะได้ไปพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์ ไม่มีอะไรต้องกังวลใจอีก
ผมทำงานไปเรื่อยๆจนได้เวลาประมาณ 5 โมงกว่าๆ เพื่อนๆของผมก้อโทรเข้ามาถามผมว่าจะเข้าไปร้านกี่โมง ผมเลยบอกไปว่า เลิกงานแล้วคงเลยไปร้านเลย เพราะว่าอยู่ไม่ไกลจากที่ออฟฟิซผมนัก ส่วนเพื่อนๆก้อจะมีกรณ์ และป๊อบคอยไปรับ ส่งให้ พวกนั้นคงจะกรี๊ดสลบ ที่มีหนุ่มๆหล่อๆ สองคนเป็นสารถีให้ โดยเฉพาะนังเอ๋ย รายนี้เค้าคลั่งไคล้พี่กรณ์มาก เก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ แต่พี่กรณ์ก้อวางตัวดีครับ ไม่ได้แสดงอาการใดๆว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเกินเลยกับเอ๋ยนอกจากน้องสาวคนนึงเท่านั้นเอง
พอผมเคลียร์งานเสร็จแล้ว ผมก้อเก็บของเตรียมตัวไปที่ร้านที่ผมจะจัดงานวันเกิด ( ผมลืมบอกไปว่า ร้านนั่นยงไม่ได้ตั้งชื่อครับ ทางเจ้าของร้านยังหาชื่อดีๆ เจ๋งๆยังไม่ได้ ) โดยที่ต้งเป็นคนมารับผมตามระเบียบ พอต้งมาถึงที่ออฟฟิซผมแล้ว ผมก้อลงไปหาเค้าที่ลานจอดรถ ต้งก้อเดินมาเปิดประตูให้ผม วันนี้ต้งแต่งตัวมาหล่อม๊ากกกก ต้งใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีชมพูอ่อน แล้วใส่เสื้อกั๊กสีน้ำเงินเข้มเท่ห์ทับอีกที กางเกงสีเข้ารูปสีขาว รองเท้าผ้าใบสีขาวมีลายสีน้ำเงินเล็กน้อย ดูแบบว่าเกาหลี ญี่ปุ่นมากๆ ใส่แว่นตามาอีกต่างหาก เป็นแว่นตาที่มีกรอบเป็นสีน้ำเงินลาย เข้ากับชุดมากๆ โชคดีจังที่ผมมีแฟนน่ารักๆแบบนี้ ก่อนที่ผมจะยืนสลบอยู่ตรงนั้นเพราะหลงกับความหล่อของต้งแล้ว ต้งก้อมาจูงมือผมไปขึ้นรถ ผมดูสภาพตัวเองแล้วมันดูไม่จืดสิ้นดี ใส่ชุดธรรมดามากๆ[/color]