〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗  (อ่าน 31268 ครั้ง)

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“หึหึ ไม่ต้องแดกงั้นอ่ะ กูจะวางยาเบื่อ แม้งทุกจานเลย  ”

“กล้าก็ลอง. .  เออ ตอนนี้กูอยู่ Big c อยากได้อะไรมั้ยเดี๋ยวซื้อไปฝาก”

.”ไม่อ่ะ . . ”ซักพักดูเหมือนจะมีเสียงอะไรดังๆ มาจากที่ไอกายกำลังยืนอยู่

“เออๆ งั้นกู แค่นี้นะ พี่เจมส์เรียกกุแล้ว”แต่ระหว่างนั้นเองผมก็พึ่งจะนึกออก

“เออ ใช่ กาย!! กูฝากซื้อ สีย้อมผมหน่อย”

“ห้ะ! อะไรนะพูดใหม่อีกทีสิ”

“กูฝากซื้อ สีย้อมผมหน่อย ”

“สีย้อมผม เออแล้วเอาอะไรอีก”

“เออแล้วก็ถุงมือยาง. . แล้วก็เออแค่นี้แหละ ”

“อือๆเดี๋ยวซื้อไปให้ละกัน แค่นี้ก่อนนะเสียงข้างๆดังมากเลย ”

“อ่ะๆไว้เจอกันมึงรีบกลับมาละ ตื๊ด !!”

[14.14] เวลาสวยเลขสวย ทั้ง พี่เจมส์และกายหอบหิ้วของกลับมา ชนิดที่ว่า พี่อิน กับยัยเอริ์น นี้ ดูดอปไปเลยละครับ ไม่รู้ว่าไปเหมาห้างกันมาหรือมันมีโปรโคตร Super Sale!  กันแน่นะ= =’

“โห เจมส์ วันนี้ ที่ห้างมีโปร ซื้อ 1 แถม 10 รึไง ทำไมของมันถึงได้เยอะขนาดนี้เนี้ย”ผมเดินดุ่มๆ เข้ามาถามพี่ชายตัวเองอยู่ที่หน้าประตู แต่สายตาของผมก็แอบเหล่มองไอหน้าหล่ออีกคนนึงที่กำลัง เดินแบกของเข้าบ้านอยู่ คนเดียว ถ ถ ถ  คุณชายของ ผม โดนพี่เจมส์ใช้งาน แวบแรกผมก็อยากเดินไปช่วยอยู่นะ แต่หลังรู้ๆ สึกว่ายืนมองอยู่เฉยๆ จะดีกว่า  ถึงคราว ที่มันต้องชดใช้กรรม ที่มันเคยทำไม่ดีกับผมไว้ซะหน่อย แต่ผมก็ทนได้แค่แปปเดียวก็ต้องเดินแบกหน้า หล่อๆ ของตัวเอง เข้าไปช่วยมัน เพราะพึ่งมานึกได้ว่าเมื่อวานผมแกล้งให้มันขุดดินอยู่คนเดียวจนมือมันพอง ทั้งสองข้าง
 :z10:
ผมกับกายเราเดินเข้าออกบ้านประมาณ เกือบ ยี่สิบรอบ กว่าจะหยิบของเข้าบ้านครบทุกอย่าง แต่สิ่งที่ผม อึ้งถึงมากที่สุดก็น่าจะเป็น ถุงหลังๆ ที่ถือเข้ามา ทุกถุงล้วนมีแต่สีย้อมผมประมาณ เกือบ ห้าสิบกล่องได้ ด้วยความสงสัยผมเลยแกล้งๆ ถามไอกายมันไป และคำตอบที่ได้มา ก็ทำเอาผม กุมขมับไปหลาย นาที กายมันบอกว่า ผมสั่งให้ซื้อสี แต่ไม่ได้บอก ว่าเอาสีอะไร มันก็เลยเหมามาทั้งชั้นเลย ตั้ง แต่สีดำยัน สี เทาอ่อน ม่วง แดง เขียว สม เหลือง มันเหมามาหมด = =’ แต่จะนึกๆ ไปแล้ว ฝ่ายที่ผิดหน้าจะเป็นผมมากกว่าที่ไม่ได้บอก มันให้รู้เรื่องก่อน ก็ใครจะไปรู้ละว่าไอกายมันจะเซนต์ต่ำขนาดนี้ หมดไปกี่ตังละงานนี้ แต่ละกล่องนี้ของแบรนด์ทั้งนั้น ส่วนของ อื่นๆ ที่ซื้อมากนอกจากนั้นจะเป็นพวก ของกินของใช้ในบ้านซะสวนใหญ่ นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นของเบ็ดเตล็ด เล็กๆ น้อยๆ

“พ่อ มาเปลี่ยนสีหัวกัน พ่ออยากได้สีอะไรบอกเจ เลยเดี๋ยวเจ ย้อมให้”พ่อทำสีหน้าไม่ต่างจากผมตอนเห็นแรกๆ พ่อเองก็อึ้งไปนานพอควร  ก่อนจะถามผมออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“นี้เอ็งโกรธแค้นอะไรพ่อรึเปล่าไอเจ. . ”

“โกรธอะไรละพ่อ”

“แล้วนั้นเอ็งเหมามาหมดโรงงานรึยังละหน่ะ หึ ทำไมถึงซื้อมาเยอะขนาดนั้น”

“ถามเด็กส่งของของพ่อสิ มันเป็นคนซื้อมาเจซื้อมาเองซะที่ไหน? ”

“จริงๆหรอไอหนุ่ม. .”ชะอุ้ย อยู่ๆ ผมก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวของผม

“จริงๆครับพ่อ แต่ผมคงฟังไม่ดีเอง ไม่รู้จะเลือกสีไหนมา ผมเลย ซื้อมาทุกเฉดสีที่ร้านมีเลย  ”

“หมดไปกี่ตังละนั้น ดูท่าไม่ใช่ถูกๆเลยนะ”

“ไม่เท่าไหร่หรอกครับพ่อ”

“แล้วไอไม่เท่าไหร่ของเองหน่ะมันเท่าไหร่ละ?”พ่อผมคะยั้นคะยอถามไอกายพลางยื่นมืออีกข้างไปหยิบกระเป๋าตังที่วางไว้อยู่ที่โต๊ะข้างๆ

“เจ็ดพันกว่าบาทครับ ที่จริงมันก็เกือบแปดพันกว่าๆ แต่เจ้าของร้านเขาคงเห็นผมซื้อเยอะเขาเลยให้ราคาส่งผม มาครับ”

“จ จ เจ็ดพัน!!/เจ็ดพัน!!” ทั้งผมและพ่อเราสองคนต่างอุทานขึ้นมาพร้อมกันด้วยความตกใจตั้งแต่เกิดมาที่ ผมเคยซื้อ สีอะไรมาใส่ลงบนหัวนี้ กล่องยังไม่เคย ถึงร้อยเลยด้วย ซ้ำแล้วนี้มันบ้าอะไร กัน ไอสีที่วาง อยู่ข้างๆ ผมตอนนี้ มีราคาเกือบ เฉียดหมื่นเลยหรอนี้ มันอะไรกันละนี้!

 “งั้นเดินมานี้ไอหนุ่มมาเอาเงินไป เอ็งคงหมดไปหลายตังเลยสิท่า”

“ไม่เป็นไรหรอกครับพ่อเรื่องแค่นี้ เอง ”

“ไม่ได้ๆ ของราคาไม่ใช่น้อยๆ จะให้เอ็งซื้อให้ได้ไง เอ็งยังเป็นหนุ่มกันอยู่แท้ๆ ยังมีเรื่องต้องใช้จ่ายกันอีกเยอะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เอาเงินนี้ไป  ”ทั้งพ่อและกายต่างเล่นบทละครน้ำเน่ากันอยู่นานจนผมชักเริ่มรำคาณ เลยเผลอพูดออกไป

“ช่างมันเหอะป๊าเงินแค่นี้ ขนจมูกกายมันไม่ร่วงหรอก  ”

“แต่จะว่าไป เอ็งก็มีส่วนผิดนะ ไอเจ เอ็งไปสื่อสารกับไอหนุ่มนี้ยังไง ถึงได้ซื้อมาผิดขนาดนี้”

“เจแค่ลืมบอก สีที่จะซื้อเท่านั้นเองอ่ะป๊า แต่กายมันก็มีส่วนผิดนะ กายมันไม่ยอม โทรมาถามเจเองอ่ะ”

“ไม่ต้องเถียงกัน เอ็งนั้นแหละผิดไอเจ เพราะชะนั้น เดือนนี้ ป๊าจะหักจาก เงินค่าขนมของเอ็งไปให้ไอหนุ่มนี้”

“แต่ป๊า. . ”ผมยังไม่ทันได้เถียงอะไรพ่อก็ยื่นเงิน แบงค์พันมาให้ผม แปดใบ ส่วนอีกเจ็ดใบที่เหลือตอนนี้ กลับไปอยู่ที่ไอกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ . . . แถมคราวนี้ ไอกายมันยังไม่ปฏิเสธอะไรอีก ยิ้มหน้าระรื่นรับเงินไป แถมยังแอบส่งสายตาเยาะเย้ย มาที่ผมอีก . ..

“โถ่กาย เพราะมึงอ่ะ กูเลยโดนตัดเงินค่าขนมของเดือนนี้เลย T-T ”พลางส่งสายตาอาฆาตแค้นไปที่มัน

“ไม่ต้องกลัวนะไอหนุ่ม ถ้าไอเจมัน ข่มขู่หรือทำอะไรเอ็ง ก็มาบอกพ่อได้เดี๋ยวพ่อจะจัดการมันเอง”

“ครับคุณพ่อ ^ ^” ได้ทีพ่อกูให้ท้ายเข้าหน่อย ก็เอาใหญ่เลยนะมึง หึหึ ! เดี๋ยวๆ รอกลับไปก่อน กูจะคิดบัญชีแค้นกับมึง
. . . . . . .
“อ่ะ”อยู่มันก็ยื่นถุงสีดำอะไรไม่รู้มาให้ผม แถมตอนยื่นมายังแอบเห็นมันทำท่าเกาทีท้ายทอย เหมือนกำลังเขิลอะไรอยู่

“อยู่ๆ ก็ ยิ้มคนเดียว ไหนๆ ซื้ออะไรมา. . .”แต่พอผมเปิดถุงดูเท่านั้นแหละ. . .  ถ ถ ถุง ถุงยาง ? ผมช้อนหน้าขึ้นไปมองไอกายที่กำลังยืนยิ้มเลวๆ ให้ผมอยู่

“ยิ้ม ห่าอะไร กาย แล้วนี้มึงซื้อถุงยางมาทำไม เนี้ย ?”หวังว่ามันคงไม่ได้คิดจะทำอะไร กลางวันแสกๆ หรอกใช่ไหม?

“อ้าวก็เห็นมึงบอกให้กูซื้อ . . กูก็เลยหยิบมาอะไรของมึงเนี้ย เป็นคนบอกกูแท้ๆ ทำลืมหรอ ?”

“เดี๋ยวๆ กูไปบอกอะไรแบบนี้กับมึงตอนไหนกายไหนลองอธิบายให้กูฟังสิ”

“ก็ตอนที่มึงบอก ให้ซื้อสีแล้ว ก็. . .ถุงยาง ”

“ถุงมือยาง!!!โอ้ย กายกูว่ามึงควรไปหาหมอเช็คหูดูหน่อยนะ กูว่า อาการเริ่มแย่ละ = =’”

“อ้าว เหรอ ! ก็เสียงมันดังนิ่ ใครจะไปรู้ละ แต่ไหนก็ซื้อมาแล้ว. .ถ้าไม่ใช้ก็คงจะเสียดายตังแย่. . .”(ออกอาการทางสีหน้า) ตอนนี้มันกำลังอ่อยผมอย่างรุนแรง

“สองกล่องทำเสียดาย ไอสีย้อมผม เมื่อกี้มึงควรเสียดายมากกว่าป่ะห่า
!”
“เออช่างมันเหอะเก็บไว้ที่มึงนั้นแหละ เผื่อวันไหนจำเป็นค่อยเอาออกมาใช้ ”คงอีกนานเลยครับมึง ครั้งที่แล้วเล่นเอาผมซะเดี้ยง เลยต้องขอเวลาพักฟื้นตัวยาวๆหน่อยก็แล้วกัน

ผ่านไปหลังจากนั้น อาทิตย์ กว่าๆ พ่อกับพี่เจมส์ ก็ต้องรีบกลับไปทาธุระกันที่ต่าง ประเทศ แต่ก่อนจะไปก็ไม่ลืมทิ้งเงินไว้ให้ลูกชายสุดหล่ออย่างผมไว้ยาไส้ ส่วน ไอกายวันๆ มันก็เอา แต่เดินตามผมทุกฝีก้าว ยังกะแฝดสยาม ระยะเวลาช่วงปิดเทอมของ ผม ก็มี แต่มัน มัน มัน แล้วก็มัน (ปล.มันในที่นี้ =กาย เน้อ) ไม่ใช่มันส์! อย่างที่หลายๆ คนกำลังคิดกันอยู่ ก็นั้นแหละครับ คือช่วงเวลาปิดเทอม อันแสนวุ่นวายของผม ตอนนี้ก็เหลือเวลา เพียงแค่ไม่กี่วัน ก็จะเปิด เทอม ใหม่กันแล้ว แล้วสิ่งที่แปลกใหม่ไปจากนั้นก็คือ ที่อยู่ของผมนั้น เอง หลังจากที่เดินทางกลับไป คุณนายอินเธอก็เนรเทศ ผมให้ไปหาหอ อาคาร อพาทเม้น อยู่อาศัยชั่วคราวไปก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า ตอนนี้ พี่อินแกกำลัง ปรับปรุง รื้อร้านใหม่หันอยู่ครับ ส่วนยัยเอริ์นรายนี้ไม่น่ามีปัญหาเพราะมีเพื่อนพวกแก๊งสาววายคอยช่วยเหลือกันอยู่ใกล้ๆ เวลา สามสี่วันหลังจากนี้ ผม เลยต้องใช้ เวลา เกือบทั้งวัน ในการหาหอพักดีๆ ที่อยู่ไม่ไกลจาก ม. เท่าไหร่ (แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า วงเงินมันจำกัดนะสิครับ) เลยเลือกมากไม่ได้ เลยต้องหาที่พัก ที่ตัวเองพอจะอยู่ได้แล้วก็รวม ถึง ราคาที่ถูกอีกด้วย . .  แต่ที่อย่างนั้นมันจะไปมีได้ยังไงละครับ  . . .  แต่ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วิที่ผมกำลังเพ่งเล็งไปที่ข้อความในเว็ป จู่ ฟีดข่าวข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมา ว่า

“สัญญา เช่า เหลือหนึ่งเดือน มีใครสนใจไหม ครับ ห้องพักดี ฟอร์นิเจอร์ครบสิ่งเอานวยความสะดวกทุกอย่าง และอย่างอื่นอีกบลาๆๆ สนใจทักแชทได้นะครับ ราคาคุยกันได้”ผมไม่รอช้ารีบกดแอดเฟส ไปในบัดดล

ผม:“หวัดดีครับ พอดีผมตามมาจากข้อความที่นายโพสไว้อ่ะครับ เห็นว่ามีที่พักดีๆ ราคาถูก คือผมสนใจอะครับเลย อยากมาสอบถามเรื่องราคาซะหน่อย”

เขา:”อ่อ ครับ ยินดีเลยครับ ราคาก็ ห้าพันเก้า ต่อเดือน นายโอเครใช่ไหม”พร้อมส่งรูปภายในห้องมาให้ผมดู แต่พอดูไปดูมาทำเอาผมแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ที่อยู่ที่ ว่ามานี้ มันจะอยู่ที่ ห้าพันเก้า เพราะข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ว่าเยอะแล้ว ยังมีของ จุกจิกอีกเพียบ . . ราคาห้าพันเก้าเนี้ยนะ โม้กันรึเปล่า

ผม:“เอ่อ ผมสนใจมากนะครับ แต่ขอถามอะไรอย่างทำ ไม ที่พักดีฟอร์นิเจอร์ครบแบบนี้ ถึงราคาแค่นี้เองละครับ รึว่า แถวนั้น จะมีผี. . ”

เขา:“อ๋อไม่มีผีอะไรหรอกครับ ที่จริงห้องนี้ มี ผมกับเพื่อนๆอีกสามคน มาอยู่ด้วยกัน ช่วยกันจ่าย ที่นี้ พวกเพื่อนๆสองคนของผมมันก็จ่าย ค่าห้องตามปกติแหละช่วยๆ กัน แต่ ย้ายไปอยู่อีก ที่ (หนีพ่อแม่ไปเที่ยวแน่ๆ เลย)มันก็เลยปล่อยห้องว่างไว้ เก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เฉยๆ ”

ผม:”แล้วทำไมถึงหาคนเช่าต่อละครับ ผมว่า ก็ดีออก”

เขา:“อ๋อ อาจจะดีสำหรับบางคนนะครับแต่สำหรับผมคงไม่ เพราะที่ นี้ มี หุ่นยนต์อยู่ในห้อง ด้วย คนนึง”หือ? หุ่นยนต์ คนนึง ?
เขา:“หมายถึง พวก สันโดษนะครับ มันไม่ค่อยพุดคุยกับใครจนผมคิดว่ามันเป็นใบ้ไปแล้ว แล้วอีกอย่างผมก็เป็นพวกที่เฮฮาด้วยไง มาเจอ คนอารมณ์แบบนี้ ก็ หมดไฟกันพอดี เลยรู้สึกเบื่อ ก็เลยปล่อยให้เช่าต่ออย่างที่เห็นนี้แหละครับ ถ้านายสนใจ ราคา คุยกันได้อีกนะ . .  แต่คงมีมันพ่วงอยู่ในห้องด้วยกันอีกคน. . ”

ผม:“อ่อ เรื่องแค่นี้ ผมไม่ถือหรอกครับดีซะอีก ผมอยากมีเมทเหมือนคนอื่นตั้งนานแล้ว เอาเป็นว่า ผมตกลง ขอเช่าห้องต่อก็แล้วกัน ไว้ พรุ่งนี้ตอนเย็น เจอกันที่.. . . .  เวลาตามนี้นะครับ ขอบคุณครับ. . .” และในที่สุด เวลา นอน ของผมก็มาถึง ผมเหลือบหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียงบอกเวลา ตีสอง สี่สิบ โอย นี้ทั้งวัน ผมมัวแต่นั่งจ้อง หน้า I Pad ทั้ววันเลยรึนี้ จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ละสายตาออกมาจากจอพึ่ง เที่ยงกว่าๆ เอง

 สายตา ไม่เสีย ก็ให้มันรู้ไปสิ ! ปล. เพื่อนก็อย่าจ้องหน้าจอ เป็นเวลานานนะครับ . .
[ด้วยความปรารถนาดี จาก เจ &คิม]

TBC. . . . . . . . . . . . . . .. . . .. . . . .
[คิมกอนอู]

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
หลายๆ เดือนที่ ผ่านมาทางผู้เขียน (คิทเองฮ้ะ) ติดกิจกรรม ที่ มหาลัยทำให้ไม่มีเวลา มาอัพ ตอนใหม่ๆ เลย (ต้องขออภัยใน ที่นี้)
หลัง จากที่ กิจจกรรม ต่าง ได้ผ่านพ้นไปก็ได้เวลา ที่ จะกลับมาอัพอีกครั้ง (เย้ๆไม่รู้มีใครดีใจเหมือนกับเค้ารึป่าวน้า^ ^)

ท้าย นี้ ตัวคิม เอง ต้องขอ เวลาเรียบเรียงและ แก้ไข อะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วจะกลับมาอัพตอนใหม่ๆ ให้น้า ค๊าบบ



อย่าพึ่งลืมกัน น้า ชุปๆ

10.10.59 :hao5:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 24 :  Who Are You ?

เย็นวันต่อมา
ผมโทรนัดเรียก ทำสัญญาเช่า ต่อจากเพื่อนต่างคณะ ที่กำลังจะย้ายออกจากคอนโด ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากมอ มากนัก

“สรุปกฎก็มีอย่างที่ผมพึ่งพูดไปนั้นแหละครับ ส่วนที่เหลือ นายจะจัดการยังไงก็ขึ้นอยู่กับนายก็แล้วกัน”เสียงพูดปนยิ้มของเพื่อนต่างคณะ ที่ กำลังสาธยาย กฎ ของ คอนโด ที่ผมเองกำลังจะย้ายสัมโนครัวเข้าไปอยู่ภายในไม่ช้าให้ฟัง. .  จะว่าไปกฎก็ไม่ได้มีมากหรอกครับ แค่ห้ามเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด และห้ามส่งเสียงโวกเหวกโวยวายรบกวนห้องอื่นๆ


“เรื่องแค่นี้เอง ผมทำได้สบายอยู่แล้วครับ ว่าแต่ ผม เข้ามาพักที่ห้องได้เมื่อไหร่ ?”
“แล้วแต่ที่สะดวกเลยละกันครับ ส่วนนี้กุญแจ ห้อง 302  ชั้น 10 เปิดลิฟฟ์ไปห้องจะอยู่ทางขวามือนะครับ.  .  อ๋อแล้วก็อีกอย่าง. . . ”
“ . . . ” มันเว้นช่วงพักนึกกว่าจะยอมเปิดปากพูดต่อ

.”ถ้านายเข้าไปอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้าเห็น เมทอีกคน มัน ไม่พูดไม่จา . . .เพื่อนผมมันบอกว่า น่าจะเป็นใบ้ แต่อย่าใส่ใจเลยครับ มันไม่ค่อยอะไรกับใครหรอก . .” คงจะหมายถึงเพื่อนหุ่นยนต์ที่มันพูดถึงเมื่อวานสินะ

“อ๋อเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ผมอัธยาสัยดี เรื่องแค่นี้สบายมั่กๆ”

“ถ้างั้นก็ โชคดีนะครับ ส่วนเรื่องเงิน ไว้ค่อยโอนให้ผมช่วงเย็นๆ ก็ได้นะครับ พอดี ผมมีธุระต้องรีบไปทำต่อ”และยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร บุคคล เมื่อ ครู ก็ได้บริ้ง หาย ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ครับ ไวจริงๆ

. . . . . . . . . .

และแล้วก็ได้เวลาที่ผมจะมาสำรวจห้องใหม่ เพื่อน ใหม่ซะที ผมเดิน มาหยุดอยู่ที่ห้อง 302 ที่สลักด้วยไม้สวยงาม ผมไม่รอช้า

รีบไขกุญแจและเดินเข้าไปแทบจะทันที ถ้าไม่บังเอิญ เดิน สะดุดกับขวดอะไรเข้าอย่างจัง. . หืม.. 

สิ่งแรกที่ผมเห็นหลังจากเดินเข้ามาภายในห้อง คือขวด สุราแบรนด์ดัง เกือบๆ สิบขวด วางนอนเรียงกันอยู่ที่หน้าประตู . .. ผม

รู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าการที่ จะมีขวดเหล้าอยู่ในห้องคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และคงเป็นธรรมดา

ของชีวิตนักศึกษาที่อาจจะมีสงสรรค์เฮฮาปาตี๋กันบ้าง. . . ผมค่อยๆ เดินสำรวจห้อง ตามรูป ที่เพื่อนต่างคณะเมื่อครู่ได้ส่งรูปมาให้

ผมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน  ผมยกไอโฟน มองดู ขึ้นลงๆ เพื่อเปรียบเทียบภาพที่ได้รับกับสภาพที่เป็นจริง. . . และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่

มีในภาพเป๊ะทุกอย่างครับ ถ้าไม่ติดที่ว่า มีกางเกงลิงของใครมาเซฮัลโหล อยู่ใกล้ๆ กับโซฟา ผมก็คงจะแฮปปี้มากกว่านี้นะ - -* .

. .  แก๊กๆ เอี๊ยดดด เสียงของประตูบานไม้ภายในห้องถูกเปิดออก พร้อม กับบุลคล ที่ผมคิดว่าน่าจะใช่คนเดียวกับ ที่ เพื่อนต่างคณะ(ผมลืมถามชื่อมัน เลยเรียกเพื่อนต่างคณะซะเลย)ได้เคยเกริ่นไว้. .. .  แล้วก็เป็น ไปตามที่มันบอก ทุกอย่างเลยครับ ไอนี่. . .ถึงหน้า ตา เกือบๆ จะดี (จริงๆ ก็ดีแหละครับ แต่อาจจะน้อยกว่าผมหน่อย อิอิ) หน้ามันนี้บ่งบอกถึงการต้อนรับแขกมาก

ครับ(ประชด - - )ไอร่างสูงๆ นั้นเดิน ผ่านหน้าผมไปราวกับว่า ผมไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้เลย ไม่สิต้องเรียก ว่า มันไม่แลตามองผมแม้แต่นิดเดียวเลย จะดีกว่า. . .. เอาน่า มันอาจกำลังเหม่อหรือละเมออยู่ก็ได้ ใจดีสู้เสือเว้ย!

“เห้ยนาย หวัดดี เราเป็นเมทใหม่ที่จะเข้ามาอยู่ในวันนี้เราชื่อ เจ นะ แล้วนายละ ชื่อ. . .” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกๆ ตื๊ดๆ ไอเจยืนคุยคนเดียวอีกแล้วครับท่าน จากที่คิดว่า มันอาจจะละเมอ ตอนนี้ผมชักแน่ใจแล้ว ว่า มัน ตั้งใจจะเมินผมเองต่างหาก

ไอร่างสูงหน้าหล่อนั้น ยังยืน กระเดือกน้ำลงคอของมันสองสามอึกก่อนจะปิดตู้เย็นดังปั๊ก.. . และ เหมือนจะเบิกตา มอง ผม อยู่นิดนึง(นิดนึงจริงๆ )เหมือนจะขยิบแต่ก็ไม่น่าจะใช่ เรียกว่ามองผ่านๆ จะดีกว่าครับ. .. ไอนี้วอนกูซะแล้ว . .

“อือ” และนั้นคือคำพูดเดียวที่ออกมาจากปากของไอร่างสูงหน้าหล่อคนนั้น ครับ. . .เป็นการต้อนรับเพื่อนใหม่ที่ดีมากเลยนะมึงไอสัด.

“ไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยหรอ. .”ผมพยายามพูดที่คิดว่าน่าจะไพเราะและน่าฟังที่สุดออกไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้ ผมแทบจะกระโดดเตะปากของมันได้อยู่แล้ว

“อะตอม.  ” และนั้นก็คือคำพูดสุดท้ายก่อนที่ ร่างสูงหล่อนั้น จะเดินกลับเข้าประตูบานไม้ของมัน เช่นเดิม. . .

. .  . .. . . . . .

ผมเดินออกมาจากคอนโดได้ซักระยะพร้อมกับ กับการข่มอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ระเบิด โหวกเหวก ออกมา หู้ย เกือบแล้วไหมกู เกือบ ได้ กระทืบคนเข้าแล้วไง . .  นี้ท่าไม่ติดว่ามันรีบวิ่ง หนีเข้าห้องไป นะ ผมจะเดิน ไปโบกหัวมันซักทีสองที หึ้ย คนบ้าอะไรวะ อัธยาสัยแย่เป็นบ้า นอกจาก จะเงียบไม่ยอมพูดแล้ว ยังมีหน้าเดินทำเมิน ถามคำตอบคำใส่ผมอีก .  .เย็นๆ ไว้มึงไอเจ นี้แค่วันแรกๆ เย็นไว้ เหลืออีกตั้ง เกือบเดือน ทนๆ ไปหน่อยละกัน สู้เว้ย. . .

ในคณะที่ผมกำลังพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า ไอหมาบ้าก็โทร มาพอดี (ผมเปลี่ยนชื่อให้มันอีกแล้ว!)

“เออ!”น้ำเสียงผมดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่.. .

 “เป็นไร โมโหอะไรมา”กายมันถามผมกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างกัน

“เบื่อคน”

“มึงกล้าเบื่อกูหรอ” เสียงของกายเริ่มดุๆ ขึ้นมาบ้างละครับ. . .อะจึ้ยย นี้ผมเผลอไปแหย่หนวดของมันใช่ไหมเนี้ย

“เปล่า แค่มีเรื่องเครียดๆ นิดหน่อย แล้วโทรมามีอะไร?” ผมพยายามเบี่ยงคำตอบและถามมันกลับไปบ้าง
 
“ก็คิดถึง. เลยโทรหา กู จะโทรหาแฟนตัวเองบ้าง ไม่ได้รึไง. . ” .  .     = ///=  อยู่ๆ ก็พูดคิดถึงกันโต้งๆ น้องหมาสายพันธ์ต่างในปากผมก็ไม่กล้าออกมาเดินเล่นเลยสิครับ. .

“. . . .”ผมเงียบ

“. . . . ” มันก็เงียบ

“เงียบทำไม ก๊อง !”ก๊องคือ ชื่อใหม่ของ ผมเองครับสารยานามนี้ถูกตั้ง ขึ้น เมื่อตอนคุณชายแก บังเอิญ เปิด จูนหาช่องให้คุณนายอินที่ร้านหลายวันก่อน (ก่อนที่จะรื้อร้าน) และดันบังเอิญไปหยุดอยู่ที่ช่องการตูนคลับ. และดันไปจ๊ะเอ๋กับ ได้โนเสาตัวสีเหลืองตัวนึง เข้า . .  ไอคุณชายมันก็นั่งดูด้วยความสงสัยของมันไป ซึ่งในตอนนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะมัวแต่ก้มหน้าคุยแชทกับไอติน แล้วมันก็พูดขึ้นมา ว่า

“เจ ไอตัวเหลืองนี้มันนิสัยเหมือนมึงเลยเน้อว่าป่ะ. . ” :m20:

“นิสัยดีน่า รัก เมตตา กรุณา. .” :o8:

“ปากหมา ก๋ากั่น ชอบโวยวาย  ขี้โมโห โคตรเหมืองมึงเลยอ่ะเจ” เอ่อ ตลอดเวลาที่คบกันมานี้มึงมองกูเป็นแบบนั้นมาตลอดเลยใช่ไหมห้ะไอหมา กาย   :m31:
และนั้นก็ เป็น ที่มาของชื่อไดโนเสาร์ ตัวสีเหลืองที่มี นามว่า ก๊อง. .

“คิดจะหยอดก็หยอดคิดวะกูเขิลไม่เป็นรึไงไอหมากาย. . ”และนั้นก็คือชื่อที่ผมไว้เรียกชื่อแทนตัวมัน ที่แรกผมกะจะเรียกว่าแค่ไอหมานั้นแหละครับ แต่เหมือนมันจะไม่ค่อยรู้ตัวเลยเติมชื่อมันเข้าไปอีก เรียกทีนี้หันควับคอแทบเคร็ดเลยละครับฮ่าๆ

“แล้วตอนนี้อยู่ไหนว่างรึเปล่า หาอะไรกินกัน. .” ผมก้มมองดูนาฬิกา ตอนนี้ก็เกือบๆ จะทุ่มแล้ว ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องของผมเลยตั้งแต่เช้า พอไอกายทักขึ้นมาท้องของ ผมก็ร้องดังโครมคราม ยังกับเสียงฟ้าร้อง ขึ้นมาทันที


ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
.”อื่อ กำลังจะไปหาอะไรกินอยู่พอดีเลย ตอนนี้กูอยู่ที่คอนโดใกล้ๆ ม.หน่ะ พอดีพึ่งทำธุระเสร็จ”

“ธุระ ธุระอะไร ไปกลับใคร แล้ว จะกลับเมื่อไหร่ ?”

“ก็เรื่องหาที่อยู่ชั่วคราวนั้นแหละ กูมาคนเดียว จะให้กูมากับใครละ. .  ”

“เอองั้นรอกูอยู่ตรงนั้นแหละ อีก สิบนาทีถึง  .  . ”

“คร้าบ!”. . .

. . . .


ครึ่งชั่วโมงผ่านไป . . .  ยังไม่มี รถคันไหน ขับ เข้ามาที่ศาลาไม้ทรงไทยหน้าตึกเลย. . . ผมเลยหยิบโทรศัพท์ ขึ้น มาเล่นเกมส์บ้าง แชทกับพวกไอวิน บ้าง เพื่อฆ่าเวลา

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป. ก็ยังไร่วี่แวว .  . .ว่ากายจะปากฎตัวอยู่ตรงหน้าผม . . . ผมเดิน เล่นไปมา อยู่ที่ศาลา

สองชั่วโมงผ่านไป. . ..  จากที่ผมพยายาม เดินเล่น เพื่อที่จะทำให้ตัวเองหัวไม่ว่าง จะไม่ต้องคิดอะไรให้มันหนัก หัว แต่หลายๆ สิ่งๆ หลายๆอย่างเริ่มทำให้ผมกังวน. .. . . . .กายมันไปอยู่ไหนของมันนะป่านนี้แล้วยังไม่มาอีก. . .ผมเริ่มชัก หงุดหงิด. . .  จากหงุดหงิด . . . . ก็กลายเป็นกังวล. . .

เห้อ สงสัยรถคงจะติด ไม่น่ามีอะไรหรอก. . . เวลาผ่านไปเกือบราวๆ สี่ชั่วโมง . . กายก็ยังไม่มา. . . เอะรึมันจะหลงทางใช่ มันคงจะหลงทาง. . .คิดได้ดังนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหามัน. . .  ติด ติดครับ แต่ไม่มีคนรับสาย. . . จากความกังวน ตอนนี้ผมเริ่มชักจะเป็นห่วงมันขึ้นมาแล้ว สิ .. .

เวลาล่วงเลยไปผมยังคง กดโทรศัพท์ โทรหามันตลอด ไม่เว้นช่องว่างให้เสียงโทรศัพท์หยุดพูดประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา. และแล้ว ในที่ สุดปลายสายก็กดรับ. ..แต่ที่หน้าแปลก. . คือเสียงคนที่รับนั้น ไม่ใช่กาย.

“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ”เสียงปลายสายดูไม่ค่อยคุ้นหู.ผมเท่าไหร่

“ฮ่ะ ฮัลโหล นั้นใช่เบอร์กายรึเปล่าครับ” ผมนี้ก็ถามอะไรออกไปโง่ๆ นะครับ ถ้าไม่ใช่เบอร์ของไอ กาย แล้วจะ มี ชื่อ ขึ้นอยู่ที่หน้าจอผมได้ยังไงละ. .

“อ๋อๆ ใช่ค่ะ  แต่ตอนนี้ กายคงไม่สะดวกรับสายอะค่ะ พอดีกำลังเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่.” ประโยคของผู้หญิงในสายที่พูดขึ้นมาเมื่อครู่ ทำให้ความคิดต่างๆ ที่ผมพึ่งจะคิดไว้ก่อนหน้า แปรเปลี่ยนไป. . 

“ฮัลโหล.  ฮัลโหล ได้ยินรึเปล่าค่ะ ฮัลโหล. . . ” เสียงของปลายสาย ยังคงพูดไม่หยุด ต่าง จากผมที่ ได้แต่ยืน ฟังเสียง ที่เข้ามา แล้วก็ออกไป ซ้ำๆ. .

“ครับ ได้ยินครับ.. .” เสียงของผมเรียบ นิ่งเหมือนกับคนไร้อารมณ์แบบสุดๆ. . ไม่ต่างจาก คนที่ผมพึ่งเจอ มันอยู่บนห้องเมื่อกี้เลย

“(กายคะฝากล้างตัวให้ลูกด้วยนะ )อ๋อแล้วก็อย่าลืมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ด้วยนะ เดี๋ยวแยมเสร็จจากตรงนี้แล้วจะรีบ ไปช่วยนะค่ะ (ครับๆ)”เสียงของผู้หญิงปลายสายกำลังพูดคุยกับบุคคลที่ผมคิดว่าน่าจะไม่ใช่มัน .  .  แต่กลับเป็น มัน คนที่ผมพึ่งจะนึกถึงอยู่ในตอนนี้ กาย. . . ลูก . . . . ลูกงั้นเหรอ . . .กายมันไปแอบมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่  . . .  แล้วผู้หญิงคนนี้คือ. ..  ใคร. . ..  ตลอดเวลาที่ผ่านมา กายมันโกหกผมมาตลอดเลย งั้น เหรอ. . .

“(มีอะไรรึเปล่าครับแยม. .) เสียงตะโกนดังกึกก้องออกมาจากปลายสาย ผมแน่ใจว่านั้นคือเสียงของกาย) อ๋อ มีคนโทรมาหากายนะค่ะ แต่ไม่ได้เม็มชื่อไว้. .”อะไรนะ กาย มันไม่ได้ เมมเบอร์ผมไว้ในเครื่องเลยงั้นเหรอ. . ผมอธิบายอารมณ์ของตัวเองในตอนนี้ไม่ถูก เลย . . มัน ตื้อ มันช้า ด้านไปหมด. . . ผมอยากให้สิ่งที่พึ่งจะได้ยิน ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิด.. . ขอให้เบอร์ ที่ผมกำลัง คุยสายอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เบอร์ของมัน  . . . . แต่จะหลอกตัวเองไปได้ซักกี่น้ำ . . . ในเมื่อความจริงก็คือความจริง . . . นี้คือเบอร์ ของกาย. . กับเมียของมัน. .

“สักครู่นะค่ะกายกำลังเดินมาพอดีเล. .. ” ยังไม่ทันที่ปลายสายจะพูดจบผมก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ไม่เป็นไรครับ บอกว่าผม โทรผิด ขอโทษด้วยครับที่รบกวนเวลา. . ” ผมกดวางจากปลายสายไป ไปได้พักนึงแล้ว. . .แต่มือของผมยังคงแนบโทรศัพท์ไว้ที่หู. . . ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมยังคงนั่งพูดกับโทรศัพท์อยู่คนเดียว . . . ผมนั่งเฝ้าถามตัวเองว่า ที่ผ่านมามันคือ อะไร . .  ตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ แล้ว สิ่งๆ ต่างๆ เรื่องราวที่ผ่านมามันคืออะไรกัน. . แค่เพียงคำว่าลูกคำเดียว คงแทนคำตอบได้ในหลายๆ คำถามที่ผมตั้งขึ้นมา โดยที่มันไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกเลย . . . 

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ผมเดินออกมาจาก ศาลาทรงไทยหน้า คอนโด ออกมาแถวทางฟุตบาตร เตรียมรอที่จะข้ามถนน . . ผมรู้ตัวว่าตัวเองพึ่งทำโทรศัพท์ตกจากมือไป
 แต่ผมก็ไม่ได้สนใจที่จะหันหลังกลับไปเก็บมัน. . ผมยังคงเดินเหม่อลอย. . มาเรื่อยๆ รอจนสัญญาณไฟสีเขียว สว่างขึ้น ผู้คนราวๆ สิบคนที่ยืน ขนาบข้างผมเมื่อครู่ตอนนี้ ค่อยๆ เดินหายไปทีละคนๆ . .

ผมจึงเริ่มก้าวเท้าซ้ายของตัวเองไปข้างหน้าอย่างช้าๆ โดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง. . ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียง คนเรียกผมอยู่ตลอดเวลา ..แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรและยังคงก้าวขาตัวเองต่อไป . .ผมเริ่มรู้สึกมองทางด้านหน้าไม่ค่อยชัด เพราะแสงไฟที่สว่าง อยู่ข้างตัวผมนั้น สว่างจนเกินไป . .

ตุ้บ!! เสียงเหมือนมีอะไร หลนลงที่พื้น  ภาพถนนของผมตรงหน้าเมื่อ ครู่ ตอนนี้กับแปรเปลี่ยนกลายเป็น เสาไฟต้นใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างๆถนนแทน. . เสียงเด็กผู้หญิงมัธยมกลุ่มนึง ร้องขึ้นด้วยความตกใจ บางคนก็ยกมือขึ้นมาป้องปากของตัวเอง. . ผมไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงพวกนั้นกำลังตกใจอะไรกันอยู่ . .  . ระหว่างนั้นเอง สายน้ำอุ่นๆบางๆก็ไหลมานองอยู่ที่แก้มของผม อย่างห้ามไม่ได้. . ผมได้แต่ นอน มองเสาไฟต้นนั้น พร้อมกับเสียงสะอื้นของตัวเอง ที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆ . . .

“เห้ย อยากตายมากนักรึไง ถึงเดินเหม่อไม่มองทางแบบเนี้ย!!” เสียงตะโกนโหวกเหวกดัง ข้างๆ หูของผม ผมเอียงคอกลับมามองตามเสียงที่ได้ยิน. . และทำให้ผมได้พบกับ .  . . อะตอมรูมเมท ของผม. .  ที่พึ่งเจอหน้ามันเมื่อเย็น. .ตอนนี้มันกำลังคุยกับผมอยู่ใช่มั้ย?. . .ประโยคเมื่อครู่ผมยังจับคำไม่ได้ว่ามันพูดว่าอะไร. . . แล้วผมควรจะพูดตอบกลับมันไปว่ายังไง ดี. . .

ผมใช้มือของตัวเองพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น . . แต่มือของผมกลับไม่มีแรงเลยสักนิด มันชาไปหมด. . ชาทั้งแขน ทั้งตัว. . และหัวใจของผม. . . ที่ตอนนี้ แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย. . ผมนอนหลับตาสะอื้นเสียงดังอีกครั้ง. . และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามอย่างที่มันควรจะเป็น. . ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกเหมือนว่าตัวของผมเอง กำลัง ลอยขึ้น . . .  เหนือพื้นถนน ใช่. . ตอนนี้ ยมบาล คงจะมาตามตัวของผมแล้ว ตาย แบบไม่รู้สึกตัวเป็นแบบนี้เองสินะ. .  แต่ความคิดฟุ้งซ่านต่างของผมได้หมดลงเมื่อตัวของผมกำลังถูกอุ้มขึ้นโดย .. อะตอม. . มันกำลังแบกผมขึ้นหลังและเดิน กลับเข้าไป ตามทางที่ผมพึ่งจะเดินออกมา. .
 
เหมือนอะตอมจะ ก้มลง ทำอะไรซักอย่างแปปนึงก่อนจะยืนหยัดขึ้นมาดังเดิมและเดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่ได้หัน พูดคุยกับผมอีกเลย. . .น้ำตาของผมยังคงไหล อยู่ไม่ยอมหยุด. .และ ได้แต่คิดอยู่คนเดียวว่า . . ..ทำไมกูถึงได้โง่ขนาดนี้ นะ. . และทำไม มึงต้อง ทำลายความรู้สึกของกู ที่มีให้กับ มึงด้วย

. . . . กาย #

 
TBC.

 หลังจากที่ห่างหายไปนาน พอได้เวลากลับมาลงจอก็เริ่มบทมาม่าเลย ฮือๆ  อย่าคิดมากนะฮับน้องเจ เรื่องต่างๆ มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ คิดก็ได้นะ(แอบสปอย) -3- ไว้เจอกันใหม่ อีพีหน้า น้า  ^ ^  #ทีมน้องกาย



ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
เจใจเย็นๆสิ อาจจะเข้าใจผิดกันก็ได้นะ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาให้กำลังใจจ้า

กำลังตามอ่านอยุ๋

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 25 : แค่เข้าใจผิด  o22

ระหว่างทางที่อะตอมแบกผมเดินมา ใบหน้าผมซบอยู่ที่ต้นคอ ของอะตอมมาตลอดทาง น้ำอุ่นๆที่ไหลรินออกจากตาของผมก็ค่อยๆเหือดแห้งลง จนหยุดไปในที่สุด . . .

“  มีปัญหาอะไรรึเปล่า? เพื่อนทิ้ง . . . . หรือว่าอกหัก. . . จบคำพูดของอะตอมเหมือนมีบางอย่างพุ่งเข้ามาทิ่มแทงที่อกด้านซ้ายของผมเข้าอย่างจัง มันรู้สึก ปวด จน ผมแทบจะหายใจไม่ออก.. . ผมได้แต่นิ่งไม่ได้ตอบอะไรอะตอมไป

หลังจากที่ลิฟฟ์เปิดออกอะตอมก็พาผมเดิน มาหยุดที่ๆไหนซักแห่งผมก็ไม่แน่ใจ . . ว่าที่นี้จะใช่ ที่ผมพึ่งจะเข้ามาเยือนเมื่อช่วงเย็นรึเปล่า อะตอมเดินพาผม มาพักอยู่ที่โซฟา ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ส่วน ตัวมันหลังจากที่วางผมลงกับ โซฟาแล้ว มันก็เดินหายเข้าไปในห้องของมันดังเดิม. .ปล่อยให้ผม นั่งอยู่คนเดียวที่กลาง ห้องอย่างเงียบ เหงา. . .

ผมเงยหน้ามองฝ้าเพดาน พร้อม กับถอนหายใจ เสียงดัง ในหัวผมตอนนี้เพียงแต่ความเปล่า มันโล่งไปหมด ผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่นั่ง หัวพิงโซฟา และเริ่มๆ รู้สึกหนักที่หนังตาขึ้นมา จน ผมพล้อยหลับไปในที่สุด. . .  แม้แต่ในความฝันทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเห็นก็ยังคงว่างเปล่า . . .ผมมองเห็นทุกๆ อย่างที่อยู่รอบตวมืดมัวไปหมด. . ผมเดินตรงไปตามเส้นทางนั้นโดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินไปที่ไหน . . จนในที่สุดก็มีแสงสว่างสาดส่องลงมาที่ดวงตาของผมเข้าอย่างจัง จนผมรู้สึกตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ ผมเห็นหลังจากที่ลืมตาขึ้นมา คือ แสงไฟนีสีขาวคล้ายๆ กับแสงแฟลช กำลังส่องมาที่ หน้าของผม อยู่ ผมใช้มือขยี้ตา เพื่อพยายามมอง ภาพข้างหน้าให้ชัดเจน ก็เห็น. . .ไอ้อะตอม กำลังยกไฟฉาย ส่องที่หน้าของผมอยู่. . . .มันทำหน้าอึนๆ ก่อนจะยอมกดปิดไฟฉายที่มือของมัน

“จะส่องหาลายแทงบนหน้ากูรึไง .กูแสบตา !” ทันทีที่ ผมเริ่มโฟกัสสายตาให้คงที่ได้ ปากของ ผมก็ไปไวกว่าความคิดอีกเช่นเคย. .  ทั้งๆ ที่ผมไม่มีอารมณ์จะด่า แต่ปากมันก็ไปเองตลอดทุกที. .

“ป่าวหรอกแค่นึกว่าจะช้ำในตายซะแล้ว เลยเดินออกมาดู แล้วนี้ ไม่ปวดแผลบ้างรึไง ?” มันพูดพร้อมกับ ชี้นิ้วไปที่แขนของผมทั้งสองข้าง. .  จะว่าไปพอมันทักขึ้นมาอาการชาที่ตัวผมก็ถูกแทนที่ด้วยความปวดไปทั้งตัวแทน โอ้ยย ! เจ็บ....

“ก็นิดหน่อย. . .โอ้ย !! แล้ว มึงจะจิ้มทำไมเนี้ย” อยู่มันก็เอานิ้วมาจิ้ม ตรง รอยม่วงๆที่แขนของผมเล่นเอาผมสะดุ้งจนเอวลอยเลย. .

“ก็เห็นบอกว่าไม่เจ็บก็แค่ลองทดสอบ ไม่นึกว่าจะร้องขนาดนี้. . ”หน้ามันนิ่งได้อีก. . .

“ประชดๆหน่ะครับผมชด. . ” -  - * ซื่อหรือบื้อว่ะไอนี้

 “แล้วเมื่อกี้ เป็นอะไร กูเห็นเหมือนมึง จะเดินไปให้รถชน...เล่น”

“กู. . . ไม่ได้เดินเล่นๆ กูแค่. . . . ”ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจนจบประโยคมันก็พูดแทรกผมขึ้นมา..

“มึงโง่ไป ป่ะ ห่ะ ชีวิตนะเว้ย ชีวิต มึงจะมาทิ้งให้กับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลยรึไง . . ปีนี้มึงอายุเท่าไหร่. . ”จากที่มันพึมพัมๆอะไรอยู่คนเดียว จู่ๆ ก็เปลี่ยนบทกลับมาถามผมแทน..

“ย ...ยี่สิบ”

“นี้ไง อายุ ตั้ง 20 แล้ว มึงยังคิดเองไม่ได้อีกหรอวะ  กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงมีเรื่องเครียด อะไรแต่การที่มึง คิดจะฆ่าตัวตายมันเป็นความคิดที่ โง่มากนะเว้ย...”

“ด.เดี๋ยวๆนะๆ”

“กูรู้นะเว้ย ว่ากูอาจจะไม่มีสิทธิพูด เพราะกูกับมึง เราไม่ได้รู้จักกัน จริงอยู่ว่าการที่มึงจะตาย มันก็เป็นสิทธิของมึง ชีวิต ของมึง . .แต่มึงได้ลองหาทางออกบ้าง รึยัง ลองได้หาวิธีแก้ไขบ้างรึเปล่า ถึง คิดได้แค่นี้?” ผมเริ่มไม่ไหวกับ คำสบประมาทต่างๆ ที่มันพูดโดยที่ไม่ฟังคำตอบของผม . . ผมเลยอาสัยจังหว่ะที่มันพักหายใจพูดขึ้นมามั้ง

“เดี๋ยวๆ มึงฟังกูพูดก่อน ดูปาก กู น่ะ กู ไม่ ได้ จะฆ่าตัวตาย. .  ”จบคำพูดของผมไอ้นั้นมันเงียบไป. . เหมือนสมองกำลังประมวลผลอยู่. .

“ถ้ามึงไม่คิดอยากจะตาย แล้ว จะเดิน ไปให้รถบรรทุกทับเล่นรึไง. .” ประโยคหลังๆ มันพูดเสียงอ่อยๆ เหมือนไม่ค่อยมั่นใจกับคำพูดของตัวมันเองว่า ถูกรึเปล่า . .

“กู...ก็แค่ คิดอะไรเพลินๆ ” ผมตอบมันไปสั้นๆ

“เพลินจนเกือบโดนรถเหยียบนี้นะเพลิน . .”บางทีผมก็แอบคิดว่า การที่มันมานั่งด่าผมฉอดๆแบบนี้มันเป็นเหมือนการล้ำเส้นกันจนเกินไป ถ้าหากเป็นไอวินหรือไอ้.... พอนึกถึงชื่อนั้น คำด่าที่ผมพึ่งจะคิดไว้ในหัวก็หลุดลอยไป. .

“เอ่อ.....กูขอโทษกูผิดเองกูมันไม่ดีเอง. .. ”จากคำที่ผมเตรียมจะด่าคนตรงหน้ากับเปลี่ยนเป็น กล่าวโทดตัวเองแทน. .เพียงแค่นึกถึงชื่อ นั้น บ่อน้ำใต้ ตาของผมก็แทบจะเอ่อล้นขึนมาอีกรอบ. .

“เห้ย กู ไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะเว้ย กูแค่พูดในฐานะเพื่อนมนุษย์คนนึง ก็แค่นั้น อีกอย่างกูก็พูดไปตามที่กูเห็น..  .กูผิดเองแหละที่ด่วนสรุปอะไรไปเอง. . . แล้วนั้นมึงจะร้องไหทำไมหน่ะ. .”คนตรงหน้าดูตกใจไม่ใช่น้อยเหมือนมันกำลังประมวนผลว่า ระหว่าง การสนทนาระหว่าผมกับมันใครผิดถูกมากกว่ากัน. .
 
..”กูขอโทษ. .กูไม่ดีเอง. . แต่มึงก็ไม่น่าหลอกกู ไม่น่าให้ความหวังกู มึงไม่น่าโกหกกู กูไม่น่ารักคนอย่างมึงเลย . .” จบประโยคน้ำตาของผมก็ไหลออกมาอย่างกับก๊อกแตก คนตรงหน้าค่อยขยับตัวเข้ามานั่งข้างผม ก่อนจะยื่นมือมาคว้าตัวผมเข้าไปสวมกอด.. พร้อมกับลูบหลังของผมอย่างแผ่วเบา. . เวลาเศ้ราหากมีคนมาช่วยปลอบโยน มันยิ่งจะทำให้ อารมณ์อ่อนไหวมากกว่าเก่า น้ำตาของผมไหล ลง ที่บ่าของมันจนเปียกชุ่ม. . ความรู้สึกที่อยู่ในหัวของผมตอนนี้ มีเพียง ความไม่เข้าใจ ว่าทำไม. ทำไม ต้องหลอกกัน ?

. . . . . . . . . . .  . . .

เวลาผ่านไปนานพอที่ผมจะควบคุมสติของตัวเองได้ผมนั่ง มอง ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ มันเอามาวางไว้ให้พร้อมกับเสื้อแขนสั้นกับกางเกงใส่นอนขายาวนุ่มๆ วางไว้ให้ผม ส่วนตัวมัน เดินกลับเข้าห้องของมันไปแล้วครับ. . .  ผมกลับมามีสติเหมือนคนปกติอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ นึกคิดตามถึงคำพูดของใคร เมื่อช่วงเย็น

(  อ๋อแล้วก็อีกอย่าง. . . นายเข้าไปอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้าเห็น เมทอีกคน มัน ไม่พูดไม่จา
 . . .เพื่อนผมมันบอกว่า น่าจะเป็นใบ้ แต่อย่าใส่ใจเลยครับ มันไม่ค่อยอะไรกับใครหรอก .) สำหรับพวกมันนี้ . . .คือคนที่ไม่พูดไม่จาใช่มั้ย. .แล้วไอบ้าที่นั่งด่าผมฉอดๆ นี้ นะที่เป็นใบ้. .  ผมว่าคนที่สติไม่สมประกอบน่าจะเป็นเมทคนเก่าของมันต่างหาก . . ครับ ไม่ใช่มัน

... . . . . . . . .

ผมล้มตัวนอนที่โซฟาหวังจะหลับเพื่อให้ลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่พอ หัวถึงหมอนอิงข้างโซฟา ก็พึ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้อาบน้ำ. .  ว่าอยู่ทำไมถึงรู้สึกเหนียวตัวแปลกๆ ผมไม่ค่อยชินกับการที่นอนโดยไม่ได้อาบน้ำ เลยใช้แขนข้างนึงที่ยังพอมีแรงเพื่อโน้มตัวหวังจะถอดเสื้อตัวเก่าออก แต่กลับทำไมได้เพราะรู้สึกปวดแขนอีกข้างนึง จนแทบจะกรี๊ดออกมา (ถ้าผมกรี๊ดเป็นนะ) ผมลองแขมวตัวให้เข้ากับรูปของเสื้อแต่ไม่ว่าจะพยายามกี่ท็เหมือนเป็นการฝืนตัวเองเกินไป . . .

เอี๊ยดดด. . เสียงประตูบานไม้ถูกเปิดออก  ไอหน้าหล่อร่างสูง เดินออกมาพร้อมกับแสง สปอตร์ไลท์ ที่ส่องเป็นแบล็คกราวให้กับมัน (จริงๆ เป็นแสงไฟจากในห้องของมันครับ ที่ดูเด่นๆ (เพราะตอนนี้ข้างนอกห้องมืดสนิทมีเพียงแสงสว่างจากห้องของ ไอสูงหน้าหล่อนี้ท่านั้น) มันเดินมาพร้อมกับกะลัมังใบเล็กพร้อมกับ ผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่เดินตรงตรงเข้ามาหยุดที่หน้าของผม. .ผมกับมันเรามองตากินปริบๆ ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไร . .  เลยได้แต่นั่งจ้องหน้ารอมันเปิดประเด็นพูดขึ้นมาเอง. .
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2016 07:42:13 โดย thitema3 »

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“เอ่อ. . เหนียวตัวมั้ย”มันทำเสียงอ้ำอึ้งๆ

“อื่อ ก็นิดหน่อยรู้สึกไม่ค่อยชินวะ ไม่ได้อาบน้ำแถมนอนต่างที่อีก เกรงใจวะ. .”

“เห้ยเกรงใจทำไมเป็มรูมเมทกันแล้ว คิดมากทำไมวะ. .”ประโยคพูดเป็นการเองของมันทำให้ผมคลายความเกร็งไปได้มากเลยทีเดียว. . .

“เออขอบใจนะเว้ย งั้น วางไว้แหละ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง มึงเข้าไปในต่อเถอะ. .”

“เดี้ยงขนาดนี้จะทำเองได้ไง. .มาเดียวกูทำให้”มันแอบหลบสายตาผมเล็กน้อย . .

“แต่..”เหมือนมันจะไม่ยอมทำมในสิ่งที่ผมพูดเลยแม้แต่น้อย . .  นึกไปนึกมานิสัยมันก็คล้ายๆ. . .  ผมขอไม่พูดในตอนนี้จะดีกว่า  ระหว่างนั้น มันบอกให้ผมก้มตัวลงและค่อย ดึงเสื้อผมออกเริ่มจากด้านหลัง ล่นๆ เสื้อให้เขาหากันเป็นวงๆ และบอกให้ผมยื่นแขนไปข้างหน้า ตรงๆ แล้วมันก็ค่อยๆดึงเสื้อออกกตัวผม จนเสร็จ.  ก่อนที่มันจะหันไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดบ่าข้างซ้ายของมันอยู่ก่อนจะจุ่มลงที่น้ำในกะละมังและบิดจนหมาด  จังหว่ะที่มันยกผ้าขึ้น เตรียมจะเช็ดตัวให้ผมมันมอง ผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนกับว่ากำลังคุ่นคิดอะไรอยู่. . .  แต่แม้งก็ไม่ยอมพูด และพยายามเช็ดตัวให้ผมอย่างเบามือ ระหว่างนั้นผมเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศมันเงียบเกินไป . .และมันอาจจะดูแปลกๆ ที่ผู้ชายสองคน (มีสติทั้งคู่)กำลังนั่งเช็ดตัวให้กันพร้อมกับความเงียบ . . ผมเลยถือโอกาสนี้ หาเรื่องคุยกับ มันเพื่อทำลายบรรยากาศพวกนี้ให้หายไป. .


“อะตอม..  มึงชื่ออะตอมใช่ไหม . .” เป็นประโยคถามที่ดูโง่ๆ แหะ ก็ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยกับมันด้วยคำถามอะไรนี้  . .  เลยเลือกที่จะพูดไป เท่าที่ตัวเองพอจะคิดออก. .

“อืม”คำตอบสั้นๆ แต่หน้าของมันก็ยังวุ่นกับการเช็ดตัวให้ผมอยู่. .

“แล้วทำไมเมื่อเย็น มึง ถึงทำตัวนิ่งจัง.  . ทั้งๆที่มึงก็พูดมากไม่ต่างจากกูเลย” จบประโยคอะตอมช้อนตาขึ้นมามองผม..

“กูอินดี้ไง.. ” อิดี้ห่าอะไรละ. . แถวบ้านกูเขาเรียก พวกมนุษย์สัมพันธ์แย่เว้ย

“เออใช่จะว่าไป เมื่อตอนเย็นกูเจอเมทเก่าของมึงมันบอกว่า มึง ไม่พูดไม่จากับพวกมันเลย จนมันคิดว่ามึงเป็นใบ้ไปแล้ว ทำไมถึงเป็นอย่างั้นวะ ?”

“เพราะ. . .กูเลือกคบ. . .”

“แย่ แย่โคตร. . การที่มึงทำอย่างนี้นะเว้ย มันทำให้คนอื่นมองมึงในทางไม่ดีนะเว้ย. . ”

“แต่ทุกการกระทำมันมีเหตุผลนะเว้ย” จบคำพูดของอะตอมทำให้ผมต้องคิดตาม. . .

“เหตุผลอะไรวะ ?”

“คนที่มึงเจอ เมื่อเย็น คงจะเป็นไอ บีม ไอตัวขาว หน้า เข้มๆ คิ้วหนาๆ ตาตี่ๆ ใช่ไหม. .” อะตอมนั่งสาธยายถึงบุคลิคหน้าตาของบุคคลที่พึ่งเจอเมื่อตอนเย็น. . พอเอามารวมๆ กันกูคือคนเดียวกันกับที่ผมเจอเมื่อเย็นนี้เองแหละครับ. .

“อือใช่ๆแล้วยังไงวะ”

“มึงเห็นมันเฟรนลี่ ขนาดนั้น มึงอาจจะมองว่ามันเป็นคนดีนะเว้ย แต่กูไม่เลย กูอยู่กับมันมาเกือบปี กูเห็น แต่ละวันมันควงผู้หญิงหน้าไม่ซ้ำกันเลย”

“มึงหึงแล้วก็ตามไปตบผู้หญิงเพื่อแย่งมันมา. . .”ผมพยายามหยอดมุข เพื่อให้ การคุยของผมกับอะตอมสนุกขึ้นแต่. . . เหมือนผมกำลัง เล่น มุขกับ น้องรัก น้องยม เพราะ ไอเหี้ยตรงหน้ามันไม่ยอมรับมุขของผมเลย. . สาดด

“ก็ธรรมดาป่าววะ คนแม้งหล่อจะคบหลายคนก็ไม่แปลก. . .”อะตอมขมวดคิ้วเหมือนอารมณ์เสีย. .

“จะคบกับใครกูไม่ว่าหรอกนะ แต่มันมา หรอก หลานสาวกู พอได้แล้วก็ทิ้ง. . จนหลานสาว แทบเป็นบ้า เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เพราะ ชอบทำร้ายตัวเอง. . ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาก็เพราะมัน. .”ผมพอจะเข้าใจ ความรู้สึกของอะตอมขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งการที่คนเราบุคลิคนิ่งเงียบ เป็นไปได้ว่า คน ส่วนมากจะมองว่า หยิ่ง  ถือ ทิถิ โลกส่วนตัว ส่วน แต่ถ้าหาก ลองมองในมุมที่กลับกัน อาจจะมีเรื่องราว ที่ซับซ้อนเกินยากจะอธิบายได้ มากกว่านั้น. . ตอนนี้ผมเข้าใจดีแล้วครับ. .

“โห่ชีวิตแม้งแย่พอๆ กับกูเลย. .กูยอมรับนะเว้ย ว่ากูเป็นเฟรลี่ก็จริงแต่กูไม่ได้เจ้าชู้เสเพลเพลยบอยนะเว้ย กูรักเดียวใจเดียว อีกอย่างนะเว้ยมึงคบกับกูเหมือน มึงหีบโซเหล็กลยนะเว้ย. .”มทำหน้า งง หยุดเช็ดที่แขนผมและหันมาให้ความสนใจกับบทสนทนาแทน. .

“โซเหล็กมาเกี่ยวอะไรด้วยว???”

“ปกติกูญแจโซเหล็กขอดีของมันคืออะไรละ?”

“ป้องกันกุญแจผี. .. . มั้ง” 

“ใช่ แต่ความหมายของกูไม่ได้เกี่ยวกับกุญแจผี ที่กูจะสื่อถึงก็คือ. . . ถ้า เปรียบเหมือนกับมึง เป็นเจ้าของหีบสมบุติหีบนึง วันนึง มึงเขียน แทงลายแผนที่ๆมีสมบัติมากมาย  แล้วปิดเก็บไว้ในหีบนั้น. . แต่สิ่งที่มึงลังเลก็คือการเลือกแม่กุญแจ เพราะถ้าเลือกไม่ดี ใครก็สามารถ ที่จะสะเดาะ แล้ว เอาความลับในลายแทงนั้นไปเผยแพร่ได้. . ถ้าถ้าหากมึงใช้แม่กุญแจที่ดี สมมุติว่าแม่กุญแจ่นั้นเป็นกู. . มึงก็สามารถสบายใจได้เลยว่า จะไม่มีใครเอาความลับออกจากหีบนี้ไปได้แน่นอน เพราะกูคือแม่กุญแจที่แม่แต่กุญแจผี ก็ทำอะไรกูไม่ได้ไงละ. .”จบคำพูดของผมไออะตอมแอบยิ้มที่มุมปากเหมือนมันเตรียมจะหลุดขำออกมาทุกเมื่อ. . .ไอสัดกูอุตสาห์จริงจัง  . .. อย่าทำกูเสียเซลส์ดิวะ

“ตอนแรกกูก็นึกว่ามึงจะฝังมุขอะไรเข้าไปด้วยที่แท้ความหมายมันก็เป็นอย่างนี้นี้เอง ขอบใจมากนะเว้ย ว่าแต่มึงชื่ออะไรนะ.  .” เกือบจะซึ่งกับคำพูดของมันแล้วเชียวถ้าแม้งไม่ลืมชื่อของผม เนี้ย - - *

“จ่ายมาพันนึงแล้วกูจะบอก” มันกระตุกคิ้วข้างนึงเหมือนพยายามจะกวนตีนผม. .

“เอาดีๆ ชื่ออะไร”มันยังคะยั้นคะยอ. .จะถามผม แต่ใสเจีย เสียใจครับ น้อง พี่บอกได้รอบเดียว. .

“หึ่ ไม่บอก ไอสัดที่กูยังชื่อมึงได้เลย กูไม่บอกมึงรอบสองให้โง่หรอก . หึ้!” จว่าไปการที่ผมได้คุยกับเพื่อนใหม่อย่างมันก็ทำให้ผมลืมความเครียด ที่พึ่ง พบเจอกับตัวไปได้บ้างแล้ว ถึงจะลืมได้แค่ส่วน นึง.  .แต่ ก็ยังดี กว่า ที่ผมไม่ได้ระบายออกมาเลย ซะอีก.

“เออเดี๋ยวกูสืบเองก็ได้. . . เยอะนะมึงเนี้ย. . ” พ่อมึงเป็นโมริโค โกโร่หรอครับ ไอสัด 5  5 คิดจะตามสืบพี่คงยากครับน้องเพราะที่อยู่ของพี่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่งหรอก. .

กว่าจะเช็ดตัวเสร็จ  ก็เล่น ไปเกือบ ตีสาม คงเพราะคุยเพลิน จนลืมดูเวลา กว่าจะสลายตัวแยกย้ายกันไปนอนได้ก็เกือบตีสี่. . แต่อย่างน้อย เวลานี้ ก็ช่วยทำให้ผมลืมเรื่องราวแย่ ๆ ไปได้บ้าง ก็ยังดี. . ไว้ตอนเช้าค่อยคิดไหม้ก็ได้. . . ไม่เป็นไร. . . ผมหลับตานอนปลอบตัวเอง . . หลับตาลงจากนั้น ก็พล้อยหลับไป. . . . . :sad4:


. . . . .. . . . .  . .

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เช้าวันใหม่ ต้อนรับด้วยเสียง เพลง ที่ผมรู้สึกคุ้นๆหู แต่จำชื่อเพลงไม่ได้.  . ดังมาจากห้องของไอ้อะตอม นี้มันจะเปิดแข่งขายกับรถขายกับข้าวรึไง โอะ (แถวบ้านผมช่วยเช้าๆจะมีรถกระบะขายกับข้าว เปิดเพลง เหมือนคอย ปลุก ผมในช่วงเช้าของทุกวัน ) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ในกรุงเทพมันจะไปมีแบบนั้นได้ยังไงละ. .

แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้ครับ ก่อนนอนอุตส่าห์ลืมเรื่องได้. .  แต่ตอนนี้ผมก็กลับมาคิดกับเรื่องเดิมๆ เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้. . .

เอี๊ยยยดดด ! เสียงประตูหลอนได้อีก(ว่างผมจะหาน้ำมันมาหยอดให้มันหน่อยละ)เปิดออกมาพร้อมกับ ไออะตอมที่มาพร้อมกับชุดนักศึกษา ที่ดู. . ดีไปซะหมด. .ตั้งแต่หัวยันเล็บแม่โป้งตีน. . คนห่าอะไรจะเนี๊ยบขนานนั้นวะ. มันยืน นิ่งเอามือค้ำประตูเหมือนกำลังแสกนผมแบบถี่ยิบ แม้งคงจะเปรียบระหว่างผมที่แต่งตัว ซอมซ่อ  กับมันที่อยู่ในคราบเทพบุตรชุดนักศึกษาสินะ หึ. . กูอ่านความคิดมึงออก ไอห่าตอม!.

“อ้าวตื่นแล้วหรอเป็นไงบ้าง หลับสบายดีไหม”มันยักคิ้วแสะยิ้มที่มุมปาก. ถามผมด้วยทีท่าที่กวนตีนไม่ใช่เล่น มันเดิน ถือพระเป๋าสะพาย เท่ๆ เดินมานั่งที่โซฟาข้างๆผม มันขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมแล้วทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกำลัง จะหาสิ่งผิดปกติที่อยู่บริเวณนี้อยู่. . .

“มึงได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ปะวะ ” มันมองจ้องตาถามความคิดเห็นจากผม. .

“มึงจะบอกว่า ได้กลิ่นตัวกูว่างั้นสิ.  .ห่า ก็กูไม่ได้อาบน้ำนี้หว่า อีกอย่าง เสื้อ ผ้ากูก็ไม่มีจะเปลี่ยน แล้วกูก็ไม่รู้ด้วยว่าไอเสื้อผ้าที่มึงเอามาให้กูใส่เนี้ย ไปขุด มาจากกองเก็บผ้าที่ใช้แล้วรึเปล่าก่อนเอามาให้กูเนี้ย. . .” คิดจะด่ากูก็ด่าซึ่งๆ หน้าเลย ครับ แหม่ ชอบทำให้คิดตาม กูยิ่งโง่ๆอยู่

“รู้ได้ไงวะไปแอบดูมาเหรอ อุตส่าห์หาตัวที่เลอะน้อยที่สุดมาให้แล้วนะเนี้ย  . ” มันระเบิดเสียงขำข้างๆหูผม. . ถ้าไม่ติดที่ว่า แขนผมเดี้ยงอยู่นี้ผมคงเบิ๊ดกระโหลดมันแล้วครับ รอกูหายดีก่อนเถอะมึง

“ทำคงไม่มีทางสู้เขาว่ากันว่าบาปหน้ามากนะมึง ระวังตัวไว้ไอสัด . .”

“โอ้ยกูโม้เล่น กูไม่กล้า รังแกคนป่วยน่ารักอย่างมึงหรอก. . . ”พูดเฉยๆผมไม่ว่าหลอก แต่ทำไมต้อง เอามือมาหยิกแก้มผมด้วยก็ไม่รู้. .

“กูหล่อเว้ย  ไม่ได้น่ารัก”

“มึงน่ารัก ไม่ได้หล่อเลย. .”

“เอ๊ะมึงนิ่ . . ช่างเถอะ แล้วนี้มึงจะนั่งรังแก คนไม่มีทางสู้อีกนานไหม ไอห่าไม่รีบไปเรียนรึไง เดี๋ยวก็สายหรอก. .”มันก้มมองดูนาฬิกาที่แขนแขนมัน ก่อนจะหันหน้ากลับมาคุยกับผมต่อ

“วันนี้กูมีเรียนบ่าย. .. ”

“ประทานโทษนะครับ แล้วมึงจะแต่งตัวเต็มยศตอนเก้า โมงสามสิบเอ็ดนาที สี่สิบเอ็ดวินาที เพื่อ ?”

“ให้มึงถามเล่นไง กลัวมึงจเหงา ฮ๋าๆ”ผมว่าผมอยากเจออะตอมในร่างเมื่อวานมากกว่าตอนนี้อีก อย่างกับคนละคนแหนะ- - - * ทีเมื่อวานเงียบยักกับเป่าสากพอมาวันนี้ พูดแม้งไม่หยุด โอ้ย หล่อเซ็ง. .

“ไม่หรอก พี่สายรหัสจะสวน ไปทำธุระหน่ะ บอกให้แต่งตัวสุภาพๆ  ก็เลยแต่งเตรียมไว่ก่อน. . .”

“แต่กูว่าชุดนี้แม้งโคตรไม่สุภาพเลย. . ”ผมพูดยิ้มๆ ที่มุมปากเหมือนที่มันทำกับผม

“ชุดนักศึกษาเนี้ยนะไม่สุภาพ. . แล้วชุดแบบไหนวะที่สุภาพ”

“มันต้องเป็นเสื้อสีขาวเว้ย แล้วกางเกง ก็ต้องเป็นสีขาว ส่วนรองเท้าไม่เคร่งสี จะเป็นสีสายรุ่งก็ได้ ส่วน. . .”

“เดี๋ยวๆ. . นั้นมันแต่งตัวเข้าวัดแล้วมั้งห่า . .”

“เอ้าเสือกรู้อีกกูอุตส่าห์พูดอ้อมๆ ให้มึงงแล้วนะเนี้ย. .ฮ่าๆ”

“พอดีผมฉลาดครับ ^ ^” อ่ะจะพ่อคุณ. . แล้วบรรยากาศก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง. . ทั้งผมทั้งมันต่างหมด คำถามที่จะมาคุยกัน. . .ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ. .  ชอบกล
 
“แล้วนี้มึงจะนั่งจ้องหน้ากูอีกนานไหมเนี้ย ถ้าเกิดกูท้องขึ้นมาจะว่าไง”

“เดี๋ยวให้พ่อไปขอเอง สินสอดเท่าไหร่ดีครับ”จริงๆ กูก็แค่พูดลอยๆอะครับ ไม่ต้องเก็บไม่จริงจังก็ได้นะครับมึง - -*

“สิบล้าน” อ้าวแล้วไหงผมเล่นตามน้ำกับมันไปละเนี้ย ฮ่าๆ ฮาตัวเองหว่ะ

“แค่สิบล้าน. .” มึงใช้คำว่าแค่กับเงินตั้งสิบล้านเนี้ยนะ โอ้ว แสดงว่าบ้านแม้งต้องไม่ธรรมดา

“ป่าวสิบล้านที่ว่านั้นค่าเห็นไรขนกู ค่าตัวกูร้อยล้านเว้ย. . .ก๊ากๆ”หน้ามันซีดไปครับ คงจะเป็นเพราะหมดมุขจะหยอดผมแล้วละ สิ . . ฮ่าๆ ก็อย่างว่าแหละครับ เรามันคนละระดับกันครับน้อง . .


 Tr . . .. . . . . . . เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางวงสนทนาระหว่างผมกับอะตอมมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามอง ว่าใครโทรมาก่อนจะยื่นคืนมาให้ผม. . . เอ้าไอ บ้านี้โทรศัพท์ดังแล้วยื่นมาที่กูทำไม. . .ผมมองหน้ามันอย่างสงสัยแต่ถ้าลองมองดูดีๆ แล้ว ไอโฟนเครื่องนี้มัน . . ของผมนิ่ ที่เมื่อวาน ทำตกไว้ แถวหน้าประตูทางเข้า นี้มันอุตส่าห์เก็บไว้ให้ผมเลยหรอ เนี้ย ! ผมยื่นมือไปหยิกแก้มข้างขว้าก่อนจะยิ้มๆ ให้มัน แล้วค่อยหยิบโทรศัพท์มาจากมือของมัน. . และรอยยิ้มความสุขต่างๆ ของผมก็จบลงเมื่อ เบอร์ที่โทรเข้ามาคือ . . กาย. . . ผมคงหุบยิ้มเร็วไปทันทีที่มองจอทำให้อะตอมที่มองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว ถึง กับเกิดความสงสัย  ถามผมขึ้นมา. . .

“มีอะไรรึเปล่าวะ ?”ผมส่ายหน้าพร้อมกับ วางโทรศัพท์ที่ยังสั่นไม่เลิก ไว้ข้างตัว.  . 

“ไม่มีอะไรหรอกแก้งคอลเซ็นเตอร์อย่าใส่ใจเลย. .”ผมพูดปัดๆ เพราะไม่อยากตอบคำถาม. . เลยจำใจต้องโกหกไป. .

“แก้งคอลเซ็นเตอร์บ้าอะไรจะโทรมาบ่อยขนาดนี้. .” คำว่าบ่อย ทำเอาผมที่นั่งก้มหน้าต้องหันไปสบตากับมัน

“เบอร์นี้โทรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนกำลังจะนอนพอดีเลย ตอนแรกก็ว่า จะเอามาให้แต่เห็นหลับแล้ว เลย ปล่อยไว่อย่างนั้น”

“บ่อยของมึงนี้กี่สายวะ. .”

“ดูมิสคอลเองดิ่.  ” Miss call 76 สาย (กาย)  ผมก้มลงมองไอโฟนของตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับตั้งคำถามที่สงสัยของตัวเองว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ผมควรจะโทรกลับไป เพื่อ ฟังมันอธิบาย หรือควรจะปล่อย ให้ มันมิสคอล ไปเรื่อยๆ แบบนี้ดี. .. ตอนนี้ผไมรู้จริงๆ ว่าควรทำไงดี. .  อะตอมยื่นมือมาแตะที่บ่าของผมเหมือนเป็นการให้กำลังใจ. .. แล้วบอกผ่านนัยต์ตานั้นว่า สู้เว้ง  ถึงแม้ผมกับมันจะได้ไม่พูดกันแต่สาย ตา ก็คงจะสื่อถึงกันได้. .  ผมตัดสินใจกดรับ โทรศัพท์ ที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง.

“ฮัลโหล”น้ำเสียงผมดูหดหู่กว่าทุกครั้ง. . .

“เจ เมื่อวานมึงเป็นอะไร โทรไปทำไมไม่รับ ” ผมควรจะตอบมันกลับไปว่าไงดี. . เพราะกูไม่พอใจที่โทรหามึงได้ได้คุยกับเมียมึง แบบนี้ หรอ? ถ้าเป็นคนอื่นผมอาจไม่รู้ แต่สำหรับ ผม แล้ว ไม่กล้า แม้แต่จะพูดออกไปเลย. .

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“โทรมาตอนไหนละ ถ้าช่วงดึกหน่อย กูคงหลับแล้ว..” สิ่งที่ผมนึกก่อนที่จะกดรับสานมันคือ รีบพูดในสิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในใจให้

หมดๆ ไป . .แต่พอเอาเข้าจริงๆ ดันทำอะไรไม่ๆได้เลย. . .แต่แต่จะพูดกับกายผมยัง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฝืนใจตัวเองฝืนใจ ในที่นี้ของผมคือ การ ใจดีเข้าสู้ . . .. ผมจะไม่ยอมให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเด็ดขาด. .แม้การกระทำเมื่อวานของผมอาจจะสื่อไปทางแนวนั้น แต่ถ้านั้นทำให้ผมกับมันยังคุยดีๆ กันได้ ก็ถือว่า ผลลัพธ์ที่ออกมา ดีที่สุดแล้ว . . .

“เหรอ แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหนอยู่กับใครทำอะไรอยู่ ”

“อยู่บ้าน (แต่ผมไม่ได้บอกว่าบ้านหลังไหน)อยู่กับเพื่อนพึ่งตื่นตอนมึงโทรมาเนี้ย”

“แล้วมีเรียนกี่โมงให้กูไปรับมั้ย ?”ถ้าเลือกได้ตอนนี้ผมยังอยากจะขอเวลานอกสักหน่อย ถ้าต้องเจอหน้ากับมันตอนนี้จริงๆ ผมคงได้วีนแตกแน่ๆ. .

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูหาไปทางไปเองได้.  . มึงละไม่มีเรียนเช้าเหรอ . .” ผมพยายามถามมันด้วยน้ำเสียง ขำปนยิ้ม. .กลบเกื่อน

“มีสายๆกำลังแต่งตัวอยู่เลย เออ แล้วเมื่อวานได้กินข้าวรึป่าว มึงคงไม่ได้รอกูใช่มั้ย?. .. ” มาถึงจุดนี้ผมควรจะพูความจริง หรือควรเก็บมันไว้ต่อไปดี. .ผมนั่งถามตัวเองอยู่หลายครั้ง สุดท้าย ความปอดก็ครอบงำจิตใจผม . .

 “ที่แรกก็รอ ครึ่งชั่วโมงเอง กูหิวจัดเลย  ขี้เกลียดรอ เลยแดกก่อนเลย . .”

“เออดีแล้ว นึกว่ามึงจะรู้กูอยู่ซะอีก” ใช่กูรอมึง . . .แต่มึงก็ไม่มา . . .

“กูไม่ได้ความอดทนสูงขนาดที่จะต้องมานั่งรอใครหลายๆ ชั่วโมงหรอกนะ ” เว้นแต่มึง . . .

“เอองั้นเดี๋ยวกูไปเรียนก่อนนะ  คิดถึงนะครับ ไว้เย็นจะแวะไปรับหาอะไรกินกัน” มันจะเป็นการรอที่เสียเวลาอีกครั้งรึเปล่า ? ผมตอบด้วยท่าทีที่ลังเล

“ไม่แน่ใจเหมือนกันวะ. .ไม่อยากรับปาก. . ไว้เดี๋ยวกูบอกอีกทีละกันนะ”

“คร้าบ โอเคคร้าบ รัก นะ ครับ  จุ้บก่อนๆ”

“จุ้บตีนกูเถอะไปเรียนเถอะไป. .” ผมกดตัดสายทันทีโดยที่ไม่รอฟังคำตอบของปลายสาย. . . ขืนผมฟังมันพูดอะไรมากกว่านี้ คง  จะเก็บความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ไม่ไหวแน่ๆ . . .

ผมพึ่งสงเกตุว่าอะตอมยังไม่ไปไหน มันยังนั่งเสนอหน้า มามองจิกผม เหมือนผม ทำอะไรผิด. . .

“กูไปขโมยของอะไรมึงรึไง. .  มองกูซะตาไม่กระพริบเลย. ..”

“ใช่มึงขโมย. .” หือ. .ผมหันข้างไปมองหน้ามันด้วยความสงสัย. .

“กูไปขโมยของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ห้ะ. . .”มันยังทำทีท่าจะกวนตีนผมอยู่ผมก็อยากเล่นกับมันนะ แต่ตอนนี้อารมณ์ของผมเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ

“เมื่อกี้เอง. . ก็มึงขโมย.. . . .”มันทำท่าเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด - -* จนผมชักรำคาณการทำตัวของมันเต็มที. .

“พอกูไม่อยากรู้ละ มึง ก็รีบๆ ไปเรียนได้ละ เบื่อขี้หน้าจะตายชัก. .”มันลุกขึ้นเอามือมาขยี้หัวผม ก่อนจะเดินยิ้มๆ ออกไปที่หน้าประตูพร้อมกับกระเป๋าสะพายคู่ใจของมัน

“เจ!!! ”ตัวของมันอยู่ข้างนอกแล้วครับแต่หัวของมันยักเสือกอยู่ข้างใน. .

“ห้ะ. . ”ไอรอยยิ้มกวนตีนนั้นหมายความว่าไง. .กัน

“ช่วงที่กูไม่อยู่. . .มึง. .. อย่าคิดถึงกูนะ. .  ”  โถ่ๆ จะไปแล้วยังไม่วายจะหันมาหยอดกูอีกเน้อมึง - -*

“ครับแน่นอนครับ ! ไปเรียนเถอะครับไปๆ ชิ่วๆ ”

“โอเคๆ งั้น ไปละนะ ถ้ามีอะไร กดเลขหนึ่ง ค้างไว้นะ กูจะรีบมาหามึงเลย . .” มันกำลังสื่อถึงอะไรกันแน่ผมเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ. .แต่ตอนนี้มันไป ที่ชอบๆ ของมันแล้วละครับ. .  เหลือ ไว้แต่ผม ที่มีความคิด ฟุ้งซ้านอยู่เต็มหัวไปหมด. . .ใครก็ได้ช่วยผมที. . .. .  ช่วยผมคิดทีว่าควรทำยังไงต่อไป

. .  . . .....

ช่วงบ่ายๆ ผมนอนอ่านนิตยสารที่วางอยู่ข้าง โซฟา เล่มเดิมซ้ำไปซ้ำมาจนแทบจะจำคำพูด ที่เขียนไว้ได้ทุกหน้าแล้ว เห้อ เบื่อๆ ช่วงนี้ผมทำอะไรมันก็รู้สึกเบื่อไปหมด จะไปตีแอลแก้เคีรยดก็ไม่ได้ เพราะมือยังเดี้ยงอยู่. .ผมวางนิตยสาร จากมือ แล้วค่อยเอนหลังพักผ่อน หวังเพื่อที่จะหลับจะได้ไม่ต้องคิดอะไร.  . .  ขอแค่ ผ่านช่วงนี้ไปขอเวลาที่ผมกล้าพอที่จะพูดความรู้สึกที่อยู่ในใจทั้งหมดออกไปให้มันฟัง ได้ ก็คงจะดี. . 
. . . . .  .  .

Tr….. เสียงโทรไอโฟนแพดเสียงดังอยู่ที่หน้าอกของผมว่าอยู่ทำไม่รู้สึกใจสั่นแปลกๆ - *-  ผมกดรับโดยที่ไม่ได้มองรายชื่อที่โทรเข้ามา

“ครับ” ใครก็ไม่รู้แหละ แต่ผม ไม่ค่อยจะอยากคุยกับใครเลยในตอนนี้

“แหม่พูดสะเพราะเชียวทำไรอยู่กินข้าวรึยังน้ำเสียงฟังดูไม่คุ้นแหะ. .” .ใครกันวะ. .

“นั้นใครครับ ”

“ให้เดา ถายสิใครเอ่ยย ?”

“งั้นกูวางละ” ผมกำลังจะตัดสายวางไปแต่เหมือนได้ยินเสียงปลายสายตะโกนออกมาซะก่อน

“โห่เดี๋ยวดิแค่ แซวเล่นๆ เลย เจ แม้ง ”

“แล้วมึงใคร. . จะบอกกูรึยัง ไม่บอกกูวาง 1 2 .. ”

“อะๆ กูบอกก็ได้ อะตอมไง มึงจำเสียงกูไม่ได้จริงๆอ่อวะ” ..ไอที่มันโทรมาหน่ะผมไม่แปลกใจหรอก แต่ที่มันมีเบอร์ผมนั้นแหละที่แปลกกว่า . . .

“แล้วมึงได้เบอร์กูมาจากไหนวะ อย่าบอกนะว่า พ่อมึงเป็นโมริจริงๆ ห่ากูชักกลัวแล้วนะเนี้ย. . ”

“หาแค่นี้ไม่ต้องใช้นักสืบหรอก.  แค่ลองกดดูมัวๆ ก็เข้าพาสเวิด มึงได้ละ ตั้ง ห่าอะไรได้เด็กมากอ่ะชิบหาย ”

“ก็ไม่เด็กนะ แค่ 1 2 3 4 เด็กตรงไหนวะ  . . .”

“หลานกูอยู่ ป.1 รหัสเครื่องมันยัง ใช้รหัสที่ยากกว่านี้เลย ” ห่านี้มันกล้าเอาหลานมาเปรียบเทียบกับผมเลยเหรอเนี้ย . .

“เออกูโง่ สมองกูช้าพอใจรึยัง.  แล้วโทรมาทำห่าอะไรเนี้ย คนจะหลับจะนอนวุ๊.”

“ก็แค่จะโทรมาถามว่า ตอนเย็นๆอยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวซื้อเข้าไปฝาก. . ?”

“ตังมึงเยอะขนาดนั้นเชียว ไม่ต้องมาทำตัวป๋ากับกูหรอกกูไม่หิว อยากกินอะไรมึงก็ซื้อมากินเองดิ่. .”

“ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวมาตายในห้องกูๆทำใช้คืนพ่อแม่มึงไม่ได้นะเว้ย” มันยังคะบั้นคะยอ จะซื้อ มากินกับผมจนได้จนผมชักรำคาณเลยตอบส่งๆ ไป

“เออ อะไรก็ได้ซื้อมาเหอะ กูแดกได้หมดแหละ. . ”

“โอเค งั้นเดี๋ยวกูไปเรียนก่อนนะ อย่าลืมนะเว้ย ถ้าเกิดปัญหาอะไรกดเลขหนึ่งข้างไว้นะเข้าใจป่าว ?”

“คร้าบๆ พ่อคุณ ไปเรียนเถอะมึงหน่ะไป . . ” ผมกดวางสายจากเบอร์ของ มันก็เกิดความสงสัยตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ว่าไอเลข 1 ของมันที่ว่า มันคอะไร ผมลองกด 1 ค้างตามที่มันบอก ก็โชวเบอร์โทรออกฉุกเฉิน . . อะตอมคุง อ่อ ที่แท้มันก็เม็ม ชื่อ เบอร์ของมันนี้เอง . . นึกว่าแอบเมมเบอร์คุณตันไว้ให้ผมซะอีก. .. .!! . . ผมละสายตาจากไอโฟน และ ค่อยๆเดินย่องเข้าไปที่ห้องน้ำ ว่าแต่ห้องน้ำมันอยู่ส่วนไหนของ ภายในห้องนี้กันละ. .  ผมมองซ้ายมองขวา สายตาก็ไปหยุดอยู่ ที่ ประตูบานไม้ที่เปิดเข้าออก บ่อยที่สุดห้อง ไออะตอมครับ. . ผมเดินตรงเข้าไปสำรวจดู อืม จะว่าไปห้องมันก็มีหลายๆ อย่างคล้ายกับห้องผมอยู่นะทั้ง หนังสือสมุดกาตูน ที่เก็บสะสม  มุมคอมพิวเตอร์ ฟอรนิเจอร์สีโทนทึบ  . . เลิกสงัเกตุตามห้องและรีบวิ่งตรงเข้าห้องนำทันทีเพราะเริ่มรู้สึกว่าข้าสึกเริ่ม เข้ามาบุกยึดพื้นที่แล้ว. . . พอปลดทุกข์เสร็จผมก็รีบเดินออกมาจากห้องมันโดยไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ผิดสังเกตุ. .

. . . . .

ตกเย็นกายโทรมาหาผมนักกันไปเจอ ที่ร้าน กาแฟของพี่โชน ที่ผมเคยทำงานอยู่ ใจจริงผมก็ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่หรอก . .ถ้า มันไม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับผมจริงๆ . .. . และก็คงเป็นผมเองที่ยอมบ้า จี้มาตาม ที่มันโทรนัดไว้. . . ก่อนออกมาผมก็ไม่ลืมที่จะหาเสื้อแขนยาวและก็บังเอิญไปเจอเสื้อฮู้ดสีดำแขนยาวที่อยู่ในห้องของอะตอมยืมมาใส่เพื่อ ปิดบัง รอยบวมช้ำๆ ที่แขนของผมไว้.และรีบออกไปตามสถานที่ที่ได้นัดกันไว้. . .

. . .

ผมมาถึงก่อนเวลา ที่นัดกันไว้ครึ่งชั่วโมง เพราะไม่อยากให้มันรอ ผม แต่ในทางกลับกันกายมันมาถึง ที่ร้าน เร็ว กว่าผมอีก ผม รีบเดิน เปิดประตู เข้าไปในร้าน ก็เห็นพี่ๆ ภายในร้านส่งร้อยยิ้มมาให้ผม ผมก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำทักทายพี่ที่ร้าน และเดินเดินตรงไปที่เค้าเตอร์

“อ้าวน้องเจ กลับมาแล้วเหรอ พร้อมเริ่มงานวันไหนดีละ ^ ^” เป็นเสียงของพี่ออมแคชเชียร์หน้าสวยที่ยิ้ม จนตาปิดหันมาถามผม . ”   

“อ่อยังหรอกครับพี่ออม พอดีผมนัดเพื่อนไว้ ที่ร้าน อะครับ ”ผมยิ้มแบบพอเป็นพิธี ส่งให้ที่พี่ออมๆก็ดูเหมือนจะดูออกว่าผมคงมีธุระเลยไม่ๆได้ถามอะไรต่อและปล่อยให้ผม เดินตรง เข้า ไปนั่ง เก้าอี้ตรงข้าม กับบุคคลที่ นั่งรอผม อยู่ก่อนแล้ว. . .

“ไงมึง. .”ผมทักกายด้ยน้ำเสียงที่คิดว่าปกติที่สุด.

“ทำไมมึงมาเร็วละ. . นี้ยังไม่ถึงเวลานัดเลยนะ” มันหันมาตอบผม โดยที่ใบหน้าของมันดูหมองๆ มันป่วยรึเปล่าน่ะ.

“ว่าแต่กูตัวมึงเหอะมาก่อนกูกี่ชั่วโมงแล้วละ รอนานรึเปล่า . . ”

“เปล่าพึ่งมาเหมือนกัน. . แล้วนี้มึงกินอะไรมารึยัง อยากกินอะไรรึเปล่าสั่งได้เลยนะ  พี่ครับ !. .”กายมันยกมือขึ้นจะขอเมนูแต่ผม ขัดจังหว่ะ การพูดของมันไว้ซะก่อน. .

“กูไม่ค่อยหิว ไม่เป็นไร ว่าแต่มึงเถอะเรื่อง สำคัญที่ว่า จะคุยกับกู . .. คือเรื่องอะไร . .”จากบรรยากาศเสียงเพลงภายในร้านที่เปิดคลอกับเสียงพูดคุยของ คนภายในร้านกลับถูกเปลี่ยนเป็นความเงียบแบบเฉียบ พลัน. . ทุกสิ่งทุกอย่าง ยัง เดินไปตามปกติ เพียงแต่ผมโฟกัส จุดสำคัญไปที่ กาย แค่คนเดียว. . . ท่าทางกายดูกุกกักมันพยายามยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม เพื่อดับความกังวนในใจของมันเอง. . จนเมื่อมัน เริ่มพูดขึ้น. .

“เจ กูขถามอะไรตรงๆเลยนะ เมื่อวาน....  มึง. . .ได้รอกูรึเปล่า ?” กายถามผมด้วยน้ำเสียงสั่นๆเหมือนกำลังกลัวคำตอบ. . ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว โกหกมันต่อไปจะได้อะไรขึ้นมา. . ผมเลยตัดสินใจที่จะพูดความจริงออกไป. .

“อืม. .” ตอนคุยกับมันหน้าผมนิ่งไม่แสดงอาการอะไรทั้งสิ้น

“นานมั้ย?”

“3 เกือบ 4ชั่ว โมง”หน้ามันดูเสียไป . .  แต่ก็ยังถามผมต่อ

“แล้วตอนที่มึงโทรหากู มึงได้คุยกับแยมมั้ย ?” แยมคงหมายถึงเมียของมันสินะ ถ้าใช่. . ก็

“อืม ได้คุย แล้วยังไง อยากจะอวดเสียงเมียกับลูกมึงมากรึไง ?”จากสายตามันที่เอาแต่หลบๆ หน้าผม ก็รีบ เงยขึ้นมามองหน้าผมแทบจะทันที. .

“เมีย  ใครเมียกู ?” เรื่องแค่นี้มันยังต้องให้ผมอธิบายเพิ่มเติมอีกเหรอ. .

“อย่าแกล้งโง่เลยกาย ก็คนที่กูคุยด้วย ตอนที่โทรไปหามึงนั้นไง ?” ผมเริ่มมีน้ำโหนิดๆ แล้ว

  “เดี๋ยวๆ นะเจ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วกูกับ แยม เรา สองคนเป็นแค่เพื่อน กัน”

“เพื่อนห่าอะไรมีลูกด้วยกัน แบบไหนที่เขาเรียกว่าเพื่อนกันวะ!!” เหมือนผมคงจะใส่น้ำเสียงมากไป จนคนในร้านต่างหันมามองที่โต๊ะผมกับกายกันให้ควับ

“เจ . . .ฟังกูนะ กูกับ แยม เราสองคนไม่ได้มีอะไร กัน แล้วอีกอย่าง พ่อของลูกแยมคือเพื่อน กู ไม่เชื่อก็ดูนี้. .”มันพูดพร้อมกับยื่นไอโฟนที่มีรูปของ ผู้หญิงสวยๆคนนึง อุ้มลูกพร้อมกับผู้ชายที่ นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ. . . และมีแคปชั่น แยม&แจ็ค และลูกของเรา. . . หลังจากที่อ่านข้อความในไอโฟนของมันเสร็จผมก็กลับ มาคิดประมวลผลต่างๆตามภาพที่ได้เห็น แล้วสรุปเรื่องเมื่อวานที่ ผมนั่งคิดไปเองอยู่คนเดียวนี้มันคืออะไรกัน . .แล้วถ้าเมื่อวาน ผม ไม่ได้อะตอมช่วยผมไว้ ผมจะได้มานั่งฟังความจริง ที่มันอธิบายให้ผมฟัง ในวันนี้มั้ย? ผมนั่งถามตัวเองในใจพร้อมกับ ความ รู้สึกจุกอยู่ที่อกจนยากที่จะหักห้าม ไม่ให้มันไหล ออกมา. .ผมนั่งก้มหน้า สะอื้นเบาๆ . .โดยไม่กล้าที่แม้จะสบตามัน

“เจ กูไม่เป็นไรไม่ต้องร้อง. . ถ้าเป็นกูๆก็คงคิดมากไม่ต่างจากมึงหรอก เพราะชะนั้นไม่ต้องร้อง . .กูไม่ได้โกรธ มึง หยุดร้องได้แล้ว. .”ให้กายมันดูมันด่าผมแบบเมื่อก่อน ยังจะดีซะกว่า ยิ่งกายมันพูดปลอบโยนผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก..

“กาย. .. . ” เสียงของผมยังคงสั่นสะอื้น. .เพียงแต่ไม่กล้าที่จะขึ้นมาสบตามองคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

“หืม. .. . ” เสียงของกายยังดูใจดีจนผมแทบอยากจะลงไปกอดขาขอโทษมัน. .

“กูขอโทษ. . . ” มีพียงคำเดียวที่ผมสามารถพูด มันออกมาได้ในตอนนี้ .  .คือคำว่า ขอโทษ ขอโทษ และขอโทษ. .

“ขอโทษ ทำไม บอกแล้ว ว่าไม่ได้โกรธ . .” กายพูดพร้อมกับเขยิบเข้ามานั่ง ข้าง เก้าอี้ตัวยาวข้างผมพร้อมกับตัวผมให้ไปซบที่ไหล่ของมัน. . พลางลูบหัวผมอย่างเอ็นดู. .โดยที่มันไม่แคร์ถึงสายตาของคนอื่นๆ ในร้านที่กำลังจองมอง มันอยู่เลย

“กูขอโทษนะกาย ที่ด่วนสรุปคิดไปเอง ขอโทษ นะที่กูไม่ยอมฟังเหตุผลมึงก่อน กู ขอโทษ นะกาย ที่กู ไม่ไว้ใจมึง. กูขอโทษ ขอโทษ ขอ. ...”

“ไม่เป็นไรเจ. .กูยกโทษให้ กู รู้ดีว่าความรู้สึกของมึงตอนนั้นมันเป็นยังไง . . มันคงเหมือนการที่เราถูกคนที่เรารักหักหลัง ถ้าถามว่าทำไม กูถึงรู้ เพราะกู เคยผ่านมันมาแล้วไง มึงยังจำตอนที่กูกับพี่ริวกลับมาคุยใหม่ๆได้มั้ย.. ถ้าไม่ใช่เพราะมึงที่คอยช่วยในวันนั้น กูก็คงจะเข้าใจผิดๆไปอีกนาน และถ้าไม่ใช่เพราะมึง กูกับพี่ริวเราก็คงไม่ได้กลับมาเป็นพี่น้องกันอย่างทุกวันนี้หรอก.  เพราะชะนั้นเลิกร้อง ไหเถอะ.  .กูไม่ชอบที่เห็นน้ำตาของมึงเลยเจ  มึงรู้ตัวมั้ย ตอนมึง ร้องไหนี้โคตร อุบาตส์ เลย เหมือนพวกลิง ชิมแปนซี เวลามันอ้าปากอ่ะ มึงว่าป่ะ. ฮ่าๆ ” กายมันไม่ได้โกรธผมเลยแม้แต่น้อยแถมยัง คอยปลอบโยน ผมในแบบ ของมันอีก .  เห้อ ผมไม่อยากคิดเลย ว่าถ้าตัวเอง ไม่มีโอกาส ที่จะมานั่งข้างๆ ฟัง คำตอบของมันในวันนี้ ผมคงจะต้องตายไปพร้อม กับความเข้าใจผิด แน่ๆ เลย . . .

“หน้ากูอุบาตส์แล้วมึงรักมั้ยหล่ะ ?” ผมยิ้มขำๆ ตอบมันไปทั้งน้ำตา แห่งความสุข. .

 ”รักมั้ยหรอ กูคงบอกตอนนี้ไม่ได้หรอก แต่ถ้าจะถามความคิดกู... ลิงอุบาตส์แบบมึงนี้ คงหาใหม่ได้ยากวะ ฮ่าๆ ” ผมเกือบจะซึ่งอยู่แล้วเชียวถ้ามันไม่เปรียบผมๆ เป็นอะไรแย่ๆ ตามที่มันคิดออก ผมก็คงจะรู้สึกดีมากกว่านี้อีก ฮ่าๆ . .แอบขำตาม



. . ..  ท้ายนี้ผมได้แต่พูดพร้อมกับบอกตัวเองอยู่ภายในใจ
ขอโทษนะกาย ขอโทษที่ดูถูกความรู้สึกมึง ขอโทษที่กู. .กลัวมัวแต่มองสิ่งที่เห็นจนลืมมองสิ่งที่เป็นควมจริงไป  . . .กุสัญญานะ ว่าต่อจากนี้ไป กู จะ พยายามเข้าใจมึง และถึงแม้ มันจะเป็นคนที่เข้าใจยากมากแค่ไหน. .ผมก็ยังอยากที่จะลอง . . .  ลองที่จะได้เข้าใจ. . และต้องพยายาม ให้มากกว่าเดิม. . 
 
.สัญญา. . จาก ♥   (∩_∩)   :n1:

เจ...



TBC.   ⊙ω⊙ 


 
ขอขอบคุณทุกคอมเม้น ที่ยังคอยติดตามกันอยู่นะครับ (รู้สึกมีกำลังใจ)  :hao6: {KIM}

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ตามอ่านอยู่ครับ

ยังอ่านไม่ทัน

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Falling In Love

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

【special】【Part】เรื่องคืนนั้น 【By Guy】

“กาย. .มึงหายไปอยู่ไหนนะ . . มึงรู้บ้างไหม ว่ากูคิดถึงมึงมากขนาดไหน. . ปล.คิดถึงแต่ไม่กล้ากดส่ง.

“ ถ้ามึงไม่กลับมาอีก สองวัน กูจะตามไปเผาคอนโดนพร้อมกับจุ๊ ของในห้องมึงออกมาขายแล้วหนีไปอยู่ที่ต่างประเทศ” .

“กายมึงมุดหัวหายไปอยู่ที่ไหนของมึง วะ มึงไม่อยู่กูเหงานะเว้ย !” ผมนอนอ่านข้อความหลังจากที่กลับ มาจากบ้านของเจได้

สองสามวันอ่านซ้ำไปซ้ำมา . . .  จนจำประโยคคำพูดต่างๆ ของเจ ได้ขึ้น ใจ ผมไม่เคยคิดเลยว่า เจมันจะมีมุม น่าๆ รักแบบนี้

ด้วย สำหรับผมแล้ว การ ที่ คนที่รักของใครคนนึงอยู่ๆก็หาย ไปคงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เรา จะคิดถึงเขา จะบ่นถึง เขา หรือแม้

กระทั่ง ร่าง ข้อความปัญญาอ่อนแบบ นี้ (ก็มีด้วย) ช่วงที่ผมอยู่มัธยมปลาย ผมได้รับจดหมายบอกรัก ไม่ต่ำกว่า วันละ 20 ถึง 30

ซอง ผมเปิดอ่านอันเว้น อันเพื่อพอจะเป็นพิธี แต่ตั้งแต่อ่าน จดหมาย หรือข้อความที่เคยได้รับมา ผมก็ไม่เคย ที่จะยิ้มตาม

เหมือนคนบ้า จนได้มาเจอ ข้อความ ของ เจ คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า ตอนนี้ มันได้กลายเป็นตัวป่วนของชีวิตผม ไปแล้ว . . วันวานที่

แสนจะหน้าเบื่อของผม จบลง เมื่อเจอ กับ มันเพียงครั้งเดียว . . ผมยังจำได้ดี. . วันแรก ที่ผมกับมันได้เจอกันเป็นครั้งแรก . . วัน

นั้นเป็นวันศุกร์ ของการเปิดภาคเรียนใหม่ วันนั้น ผมถูกเพื่อนที่คณะ กอดคอพาผมวิ่งไปที่ โรงอาหารคณะวิศวะ เพื่อ ไปหยิบ

โทรศัพท์ ที่มันดันวางลืมไว้ ที่โต๊ะ แต่พอ มาถึงมันกลับบอกกับผมว่า เจอแล้ว อยู่ในกระเป๋าเสื้อของมันเอง และเป็นธรรมดาที่

ผมจะแสดงสีหน้าไม่พอใจให้กลับมัน แต่ผมก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรมัน และเดินกลับมา ที่ รถ จังหว่ะนั้น เอง ผมได้ยิน เสียง ดังเพล้

งง. !! เหมือนมีสิ่งของหรืออุกาบตร หล่นลงมาที่รถของผมเข้า อย่างจัง ตอน แรก ผม คิดแค่ว่า นี้อาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุ สนาม

บอลจากที่ๆผมจอดรถตรงนี้ก็ไม่ห่างกันมาก จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ้าง ก็ไม่น่าเดือดร้อนอะไร กระจกแตกก็แค่เปลี่ยน ใหม่

 ผมไม่วอรี่เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว. . แต่ความคิดต่างนั้นๆของผมก็จบลง เมื่อ มีผู้หญิง เอ้ย ไม่สิ . . ผมมองคนที่กำลังวิ่งมาด้วยทาที่

รีบ ร้อน อย่าง สงสัย  ว่า มันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายกันแน่. . แต่พอคำนวณดูดีๆ แล้ว มันคือผู้ชายครับ. . มาถึง มันก็ไม่พูดพร่ำทำ

เพลงครับ รีบกล่าว คำขอโทษ ผมซะยก ใหญ่ แต่เหมือน บรรดาโทษะ อะไรสักอย่างเลยทำให้ผมพูดถึงเรื่องการรับผิดชอบไปที่

มัน และนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด พอเจอหน้า มัน ถึง ต้อง ตีหน้าซึม เงียบ ไม่ยอมพูดกับ มันๆ ทั้งๆ ที่ในใจผม

กำลังแอบ ขำถึงการกระทำของมันอยู่. . . พวกคุณคงจะไม่รู้ ว่าตอนที่ มันพูด ขอโทษ กับผม หน้า ตา ของมันน่าสงสารแค่ไหน

 มันเหมือนกับ ว่า ตัวเองไปฆ่าพ่อของใครตาย มันจะก้มหน้า แล้วก็พูดน้ำเสียงสั่นๆ หรือ บาง จังหว่ะที่มันกวนตีน ก็กวนตีน ได้

แบบ ยากที่จะให้อภัย. . หรือบาง ครั้ง เวลา มัน ยิ้มหัวเราะ ผมก็แอบยิ้ม หรือหัวเราะ ตามในมุขตลกของมันในบางครั้ง  ที่มัน

ชอบพูดกวนๆ กับผม . .  แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการหัวเราะซักเท่าไหร่เพราะคิดว่าการ หัว เราะนั้น เป็นเหมือน

การ ดูถูกดูหมิ่น หรือเหยียดหยาม คนๆนั้นๆ  บางคนนอาจจถามผมว่า แล้ว การหัวเราะ เนี้ย มันเกี่ยวกับเรื่องที่ผมกล่าวมาตรง

ไหน . .  พวกคุณคงไม่รู้ว่าช่วงเวลา สมัยที่ผมยังเด็ก ผมเคยถูกให้ออก ไปร้องเพลงที่หน้า ชั้นเรียน ผมเขิน ผมอาย ผมไม่กล้า

ทำอะไร . .  แต่ครูประจำชั้นก็ยังคะยั้นคะยอให้ผม ร้องทั้งๆ ที่ไม่อยาก แต่พอผมเอ่ยปากร้อง ทุกๆ คนที่อยู่ในห้องรวมถึงอาจารย์

 ก็ต่างพากันหัวเราะ เยาะผม บอกว่าผมเป็นอย่างนี้อย่างนั้นบ้างแหละ. . แล้วนั้นก็คือสาเหตุที่ผมเกลียดการหัวเราะมากที่สุด

ตั้งแต่ผมเคยมีเพื อน มีแฟน สมัย ม.ปลาย ผมก็เคยยิ้มบ้าง หัวเราะบ้างเป็นบางครั้ง แต่พอ เกิดเหตุการณ์บางอย่าง เกิด ขึ้นใน

ช่วง นั้น ผมก็ เหมือน คนที่ถูกลืม .  ไม่สิต้องเรียกว่า ผมเป็นฝ่ายลืมพวกเขาเอง ต่างหาก มันเป็นช่วงที่ผมอยากใช้เวลาทบทวน

อยู่คนเดียวให้มากที่ สุด แต่ชีวิตอันเปล่าเปลี่ยวของผมก็จบลง เมื่อได้มาเจอ กับ ไอเจ ผู้ชาย หน้า หวานสายตาออดอ้อนคนนี้ .

 .  ตอนแรกที่มันบอกผมว่าจะหาเงินมาใช่หนี้ค่าซ้อมรถ ให้ผมๆก็ไม่เชื่อหรอก ว่าคนอย่างมันจะทำได้.ร่างกายของมันทั้งเล็กทั้ง

เตี้ย ไม่มีอะไรสมส่วนเลยซักอย่าง มีดีก็แค่ตาโต กับปากสีส้ม. . กับสีผิวที่ขาว แบบเรืองแสง. .แค่นั้นเอง. .จะเอาแรงจากไหนไป

ทำงาน. .  จนเมื่อวันนั้น ผมขับรถไปทำธุระแถวร้านกาแฟ ของอาผม เห็นเจ มันเหมือนจะมาสมัครงาน  ผมไม่ค่อยเชื่อในสปิริต

ของมันสักเท่าไหร่ แต่พ่อผมสอนว่าการให้โอกาส คน มันได้บุญเยอะ ผมก็เลยอย่างลองเสี่ยงดูสักครั้ง เลยโทรบอกให้ อารับมัน

เข้าทำงาน. . แล้วก็เป็นไปตามคาครับ มันทำงานได้ดี ไม่บ่นสักแอะ แถม วันๆ ยังเอาแต่ทำงานจนลืมกินข้าว  บางทีก็ทำงานล่วง

เวลา จนลืมพักผ่อน  จากความสะใจที่เห็นมันทำงานเหนื่อยๆ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็น ความ เป็นห่วง ถึงผม จะไม่ค่อยถูกหน้ากับ

มัน (มันก็ไม่ค่อยชอบหน้าผม) แต่ผมก็คงทนเห็นมัน เป็นแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไปเหมือนกัน ผมมีความคิดที่จะเลิกแกล้งมัน อยู่

หลายครั้งเหมือนกัน แต่พอเห็นหน้า มันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็อดไม่ได้ ที่ จะแกล้ง หยอก ให้มันโกรธ ตะโกน โวยวาย ผมเหมือน เคย

ได้ และความประทับใจนึงที่ ยังจำได้ไม่เคย ลืม . .  ก็คือเจ มันเป็น คนที่จำพวก ชอบเป็นห่วง คนอื่นมากกว่าตัวของมันเอง ไม่

ว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนที่ มันรู้จัก หรือไม่รู้จักก็ตาม  ผมกะจะขอบใจมันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาส ได้บอก  ซักที . . . ตั้งแต่ที่
มันช่วยดูแล ผมหลายๆ ครั้ง ทั้ง ที่ไม่ใช้หน้าที่ของมันแต่มัน ก็ยัง ทำ

 ผมไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่มันเต็มใจ รึเปล่า แต่ทุกครั้ง ที่ผม เห็น สีหน้า มัน . . . เหมือนสีหน้าและแววตาของมันจะแลเปลี่ยนไปเวลา ที่ผม หรือคนรอบข้าง หรือป่วยไม่สบาย ก็มีแต่มันนี้แหละ  ที่คอยดูแลและช่วยเหลือคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียว. . และ นี้ก็คือสิ่งหนึ่งที่ผม ยังคงจำได้ไม่เคยลืม. .  ว่า เจ มัน ชอบ แจกจ่าย ความ มีน้ำใจและความน่ารัก ของมันไป ทั่ว  จนผม เหนื่อยที่จะต้องตามไปหึงหวงมันแล้วละครับ เลยปล่อยเลยตามเลย. . 

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Tr…….. ไอโฟนของผมแผดสั่น เรียกสติของผมที่กำลัง นอน ยิ้มคิดอะไรอยู่คนเดียว. .

“เออ ตั้ม ว่า ไง ”  เสียงเพื่อนที่คณะ ของผม โทร เขา มา ขนาดผมเองยังแปลกใจเลย ปกติถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายมันคงไม่ลำบากโทรมาหาผมหรอก. .

“กายตอนนี้มึงอยู่ไหนเนี้ย.  . ”เสียงของมันดูร้อนรน

“อยู่บ้าน มีรึไรรึเปล่าวะ ?”

“ไอโอมันโดน รถชนเว้ย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พวกกูกำลังไปดูอาการมันอยู่ไม่รู้แม้งเป็นไงมั้ง มึงจะไปด้วยกันป่ะ .” แล้วการที่มันโทรมาก็ เหมือนลางบอกเหตุจริงๆ ครับ

“เออ ได้ๆ เดี๋ยวกูรีบไป . .  . มันอยู่โรงบาลไหนวะ.. . เออได้โอเคเดี๋ยวกูจะรีบไป. . เออไว้เจอกันมึง” หลังจากที่วางสายผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปโรงพยาบาลอย่างเร่ง รีบ . . . พอไปถึงก็เห็นไอโอเพื่อนผม มันยิ่งนั่งยิ้มกวนตีนส่งมาให้พวกผมอยู่เลย สรุปมันโดนรถชน จนเอ๋อ หรือมันโดน ขอบรถกระแทกหัวจนสติกลับกันแน่ แต่พอๆ ถามๆ มันก็บอกว่าแค่โดนรถเฉี่ยว แต่ไอตั้มนี้ สิ ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมจนพวกผมต้องรีบ พากันปลีกตัวจากงานกัน เพื่อมาเยี่ยมไอโอมัน . . เห้อ เล่นเอาซะพวกผมใจหายกันหมด . .. 

. . . .

ขากลับผมไม่ได้แวะเข้าบ้านก่อน เพราะจะแวะไปเอา สมุดแล็กเชอร์ ที่ ไอวินมันฝากเอาไว้แต่ทุกคนอย่าพึ่งคิดว่าไอวินมันจะกลับตัวกลายมาเป็นเด็กเรียนเกรียรตินิยมนะครับ มันแค่ จดเบอร์เด็กของมันไว้ในสมุดแค่นั้นเอง แล้วก็ดันบังเอิญเขียนในสมุดของผมด้วย ไง ก็เลยต้องลำบากมาหยิบให้มัน ด้วยทั้งๆ ที่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมด้วยเลย. . . พอหยิบสมุดเสร็จผมกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ปิดน้ำในห้องน้ำเลยเดินไปปิด แต่สายตาของผมก็บังเอิญ ไปเห็นอะไรเข้า. . เหมือนจะเป็นกางเกง ซับใน ที่ เจมันลืมไว้ตั้งแต่ ช่วงแรกๆ ที่มัน เข้ามาที่ห้องของผมแล้ว ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็อดที่จะคิดถึงมันไม่ได้เลย . ป่านนี้จะทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ คิดได้ดังนั้นผมก็รีบกดเบอร์ โทรออกไป ที่ปลายสาย. .

. .  . .  ผมรอสายอยู่สักพัก ในที่สุดก็มีคนรับ 

“เออ!” น้ำเสียงของมันเหมือนกำลังโกรธใครอยู่. .

“เป็นอะไรโมโหอะไรมา” ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ามันกำลังโกรธใครอยู่กันแน่ หวังว่า คงไม่ใช่ตัวผม

“เบื่อคน” อ้าว พอคำตอบเป็นงี้ไปผมก็ทำอะไรไม่ถูกเลยสิครับ ผมก็เลยตวาดมันกับไป และเหมือนมันเองก็คงจะตกใจที่อยู่กลับเป็นผมที่วีนมันกลับ

“เปล่าแค่มีเรื่องเครียดๆนิดหน่อย แล้วโทรมามีอะไร” คนเป็นกันจำเป็นต้องมีธุระทุกครั้ง งั้นเหรอครับ ถึงจะ โทรคุยกันได้. .

“. . . .” เหมือนเจมันจะเงียบไปสงสัยกำลังเขินหน้าแดงอยู่แน่ๆ เลย

.”เงียบทำไมก๊อง !” แล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาดเดาไว้ครับ เจมันแอบเขิลผมอยู่จริงๆ ด้วยที่มันเงียบไป คงเพราะต้องการจะเก็บอาการเขินของมันมากกว่า  ผมออกมาดูนาฬิกาที่ห้อง นอน บอกเวลา  หกโมงกว่าเกือบจะทุ่มแล้ว ป่านนี้ เจมันคงยังไม่ได้กินอะไรแน่ๆ เลย ผมเลย เอ่ยปากชวน กันไปหาอะไรกิน ซึ่งเจก็ตอบตกลง ผมยังไม่ได้คิดล่วงหน้าว่า จะไปที่ ไหน เพราะอยากให้มื้อนี้เจเป็นคนเลือกเองมากกว่า . .

ร ะหว่างทางที่ผมขับ รถกำลัง ไป หาเจที่นัดพบกัน. . . อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงที่ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณตาเป็นอย่างมากโบกมือเรียก

ทำให้ผมต้องรีบชลอรถลงไปดู พอ ผมจอดรถและเพ่งมองดีๆ ก็ทำให้ผมร้องอ๋อออกมา

“อ้าวแยม หวัดดีครับ มายืนทำอะไรดึกๆดื่นๆข้างถนนแบบนี้. .”ผมเอ่ยปากถามเพื่อน ผู้หญิงของผมตั้งแต่สมัยม.ต้น ถึงแยมจะไม่ใช่เพื่อนคนแรก ของผม ก็เธอก็เป็นเพื่อนคนสำคัญไม่ต่างจากพวกไอวินเลย.

.”อ๋อ กาย กายใช่ป่ะ ค่ะ  ”ผมพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ครับแล้วแยมมายืนทำอะไรคนเดียวเนี้ย มัน อันตรายนะรู้รึ่เปล่า?”

“ก็ใช่ว่าแยมเองอยากจะมายืน ในที่แบบนี้ ในเวลานี้ซะเมื่อไหร่ ถ้ารถไม่บังเอิญเสีย อยู่ข้าง ทาง แยมก็คงขับ ไปต่แล้วละคะ” จบคำพูดของแยมผมหันมองตามนิ้วที่ชี้ไปที่ล้อหลังของเบ้นคันสีบรอน ที่จอดไว้ข้างๆทาง. .

“อ้าวแล้วแจ็คไปไหนแล้วหล่ะ ทำไมถึงปล่อยให้แยมยืนคนเดียวแบบนี้” แจ็คคือแฟนของแยม ครับ ถึงผมจะไม่ค่อยสนิทกับแฟนแยมเท่าไหร่ แต่ก็พอจะรู้จักกันบ้างเล็กน้อย. .

“แจ็คติดงานอยู่ค่ะ แยมกับลูกเลยว่าจะขับรถไปรับด้วยกัน. .แต่รถดันมาเสียซะก่อน แถมแบตโทรศัพท์ ก็ดันมาหมดอีก . .แยมเลยไม่รู้จะทำไง เลยเดิน ออกมาขอความช่วยเหลืออย่างที่กายเห็นนี้แหละค่ะ ไม่นึกว่าจะได้เจอกายที่นี้น่ะ ^ ^” แม้ตัวเองกำลังเจอเรื่องซวยๆ แต่แยมก็ยังส่งยิ้มมาให้ผมทุกครั้งที่เราคุยกัน

“งั้นเดี๋ยว กายดูให้เอง ”

“กายดูเป็นด้วยเหรอค่ะ” เธอหันมาถามผมด้วยความสงสัย

“ก็พอเป็นนะ เคยอ่านเจอผ่านๆ”

“อ๋อแยมก็ลืมไปว่ากำลังคุยอยู่กับ เด็กอัจฉริยะ อยู๋ ฮ่าๆ” ผมไม่ได้หันไปมองตอนแยมพูด แต่กำลังเพ่งเล็ง มองดูอาการของ ล้อ ว่า สาเหตุที่แบนจนติดพื้นขนาดนี้ เกิดจากอะไร . .

“สังสัยจะขับไปเหยียบโดนตะปูเข้าอ่ะครับแยม แถวที่แยมพึ่งขับออกมา คงกำลังก่อสร้างกันอยู่แถวนั้นใช่ไหมครับ”

“กายรู้ได้ยังไง ค่ะ” เธอเดินมานั่งยองๆ ข้างผมและทำหน้างงเหมือนสงสัย. .

“ผมเดาเอาหน่ะ ”

“กายชักจะน่ากลัวขึ้นทุกวันแล้วนะค่ะเนี้ยรู้ตัวรึเปล่า ”จากความสงสัยก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใสที่ยิ้มมาให้ผมแทน. .
ผมขับรถออกไปซื้อ ยางพร้อมกับแยมเพราะไม่อยากทิ้งเธอไว้นที่เปลี่ยนพร้อมกับลูก  กว่าจะเปลี่ยนยางอะไรเสร็จก็ปาไปชั่วโมงกว่า. .

“เสร็จแล้วครับแยมลองไปติดเครื่องดูสิ” แยมยอมขึ้นรถทำตามโดยว่าง่าย  ก่อนจะลองติดเครื่องยนต์และลองขับเดินหน้าดู. .
.”โอเคแล้วค่ะกายขอบคุณมากๆนะค่ะ ส่วนเรื่องเงินไว้แยมจะโอนคืนไปให้พรุ่งนี้นะค่ะพอดีว่า บัตรของแยมอยู่ที่แจ็คอ่ะค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับแยม เพื่อนกัน ผมไม่ คิดเงินหรอก อีกอย่างผมก็เป็นฝ่ายที่อยากจะช่วยแยมเองด้วย เพราะชะนั้นไม่ต้องคิดมากนะ”

“ขอบคุณกายมากๆ นะค่ะถ้าไม่ได้กาย แยมคงแย่แน่ๆ เลย”

“ครับไม่เป็นไรครับ”

“ว่าแต่กายจะรีบไปไหนรึเปล่าค่ะ” จะว่าไปผมลืมตัวไปเลยว่ากำลังโทรนัด เจไว้อยู่ป่านนี้ผม ยังรอผม อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้. .พอนึกขึ้นได้ผมก็แทบจะรีบวิ่งขึ้นรถเพื่อรีบขับออกไป ถ้าไม่ติดที่ว่าแยม เรียก ให้ผมต้องหันไปสนใจกับคำพูดของเธอซะก่อน. .”แล้วกายจะไปทั้งๆอย่างนี้เหรอค่ะ” ผมก้มมองลงดูตัวเอง ตามนิ้วที่แยมชี้มาที่ผม ก็เห็นเป็นคราบเขม่าดำๆ เต็มตัวผมไปหมด. .

“เอ่ออ . .”ผมพูดอะไรไม่ออกจริงถามว่าผมกล้าไปเจอ เจมันทั้งๆ สภาพนี้มั้ย ผมตอบได้เลยว่ากล้า แต่ผมกลัวว่า เจมันจะอายคนอื่น มากกว่า ผมเลยต้อง ขับรถตรงไปที่บ้านของแยมที่อยู่ไม่ไกล มากนัก. .
ผมเดิน เข้าบ้านแยม ด้วยอาการตะกุกตระกัก เพราะการที่ผู้ชายอย่างผมจะเข้าบ้าน ผู้หญิง  มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกใช่มั้ยครับแล้วอีกอย่าง ที่บ้านแยมก็ไม่มีใครอยู่ด้วย ผมยิ่ง ไม่กล้า แม้แต่ จะกล้า เดินขึ้นห้องของเธอเลย. .

“กายทำตัวตามสบายเลยนะค่ะ แยมบอก แจ็คแล้ว ว่ากายมาบ้าน แจ็คก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แถมยังบ่นบอกให้แยมดูแล ดีๆ ด้วย เลิกคิดมากได้แล้วค่ะกาย ฮ่าๆ”แยมดูจะขำท่าทีลุกลี้ลุกลนของผม แม้แต่ลูฏของแยม ยัง หันมาส่งยิ้มให้ผมเลย หึหึ
พออาบน้ำเสร็จผมเดินออกมาหยิบเสื้อของยืด ของแจ็คแฟนของแยม วางไว้ที่เตียงบอกให้ผม เอาไปใส่ ได้เลยไม่ต้องเอามาคืน . .แทนการขอบคุณ ช่วยเหลือในวันนี้ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมเดินลงมาข้างล่าง เห็นแยมกำลังยืนคุยโทรศัพท์ อยู่ทำหน้าเคร่งเครียด

“ฮัลโหล.  ฮัลโหล ได้ยินรึเปล่าค่ะ ฮัลโหล. . .” อุ้ยตายแล่ว ไปทำ อะไรถึงตัวเลอะขนาดนี้ ค่ะอิคิว . . อยู่ลูกของแยมก็เดินมาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มๆ ปนขำๆ ตามภาษาเด็ก. .ผมแอบเห็นแยมมองตามลูกขึ้นมา.. เห็นหน้าเด็กมอมแมมไปหมด เสื้อผ้าก็เลอะคราบอะไรมาไม่รู้  . . ระหว่างนั้นแยมตะโกนขึ้นมาบอกฝากให้ผมล้างตัวให้ลูกของแยมหน่อย ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร และทำตามโดยว่าง่าย พอล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกของแยมเสร็จผมก็เดินลงมาด้านล่าง เห็น แยมยืนจ้องโทรศัพท์ของผมที่อยู่ในมือของแยมอยู่. .


“มีอะไรรึเปล่าครับแยม”

“อ๋อมีคนโทรมาหากายค่ะ แต่ไม่ได้เม็มชื่อไว้” ที่ไม่มีรายชื่อก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะ โทรศัพท์เครื่องเก่าของผมโดนน้องน้ำ เอาไปกินเรียบร้อยแล้วครับ พึ่งจะซื้อเครื่องใหม่ ก่อนที่ผม จะไปหาเจที่จันทบุรีเอง. . และด้วยความสงสัยผมเลยเดินไปหาแยมที่กำลังยื่นโทรศัพท์ให้

“สักครู่นะค่ะกายกำลังเดินมาพอดีเลย นี้ค่ะกาย. . ”

ผมรับโทรศัพท์ที่มือของแยมก่อนจะ ลองพูดผ่านไปสายไปโดยที่ยังไม่ทันได้มองหน้าจอ  . .  ผมพูดอยู่หลายคีรั้งแต่ก็ไร้วี่แววว่าจะมีเสียงตอบรับ เลยลองกดที่หน้าจอ เพื่อดูรายเบอร์ที่ปลายสายโทรเข้ามา. .  และนั้นก็ทำเอา ผมอึ้งไปพักนึง เมื่อเบอร์ที่โทรมาคือเบอร์ ของเจ ซึ่งผมเองจำได้ขึ้นใจ  เจโทรหาผม ตั้ง แต่ช่วง สองทุ่ม จนตอนนี้ สี่ทุ่มกว่าๆ แล้วมันก็ยังโ?รมาไม่ขาดสาย. . แต่พอผมกดโทรกลับ ไม่มีทีท่าว่าปลายสายจะยอมรับเลย . .ระหว่างนั้นเองที่ ป้าภา คนดูแล ที่บ้านของผมก็โทรเข้ามา. .
“ฮัลโหลสวัสดีครับ มีอะไรรึเปล่าครับป้าภา. .”

“มีค่ะพอดี ว่าคุณ หนู เอ่อ คุณหนู. .”

“ซีเกมๆทำไมครับ” ซีเกมคือลูกพี่ลูกน้องกับผมครับ แต่ พ่อแม่ของซีเกมเสียไปพ่อกับแม่ผมเลยรับซีเกมมาเป็นลูกบุญธรรมอีกคน  ผมกับมันเลยกลายมาเป็นเหมือนพี่น้องท้องเดียวกันไปโดยปริยาย (ไว้ถ้ามีโอกาสคราวหน้าผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับซีเกม ให้ฟังนะครับ. )

“คือคุณหนูไปทะเลาะวิวาทกับเพื่อนห้องเดียวมาค่ะคุณชาย ป้าเลยไม่รู้จะทำยังไงเกิดคุณท่านมาเห็นเข้า รับรองได้เลยว่า. . คงไม่จบเรื่องแค่นี้แน่ๆ เลยค่ะ”

ผมนั่งครุ่นคิดสองจิตสองใจว่าควรจะเอาอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ดี .  . คนนึงก็น้อง ส่วนอีกคนก็แฟน . .ผมควรจะเลือก ทางไหนดี. .  แวปแรกผมตัดสินใจจะรีบไปหาเจ แต่ ป้าภาแกก็คะยั้นคะยอบอกให้ผมรีบไปดูอาการน้องของตัวเอง ก่อน ผมเลยจำเป็นต้องไปหาไอตัวปัญหาที่ก่อเรื่องไว้ที่บ้านก่อน . . เพราะคิดว่า ดึกป่านนี้แล้วเจคงมันไม่บ้ามานั่งรอผมหรอก . .ใช่ไหม. .

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
พอกลับถึงบ้าน ผมก็เข้าไปเคลียปัญหาที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น . . แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะนิ่ง ไม่ได้สะทกสะท้านกับความผิดที่ตัวเองได้ทำลงไปเลยแม้แต่น้อย. . ผมก็จนปัญญาที่จะพูด คุยหรือต่อว่าแล้วเหมือนกัน. . เลยปล่อย มันไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อย เริ่ม คุยกันใหม่. .

ผมเดินล้มตัวนอนที่เตียงของตัวเอง สายตาแอบมองไปที่นาฬิกา บอกเวลาตีสองกว่า ทำให้ผมถึ่งนึกถึงเจขึ้นมาได้เลย ลอง โทรไปหามันทั้ง ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงจะหลับไปแล้ว แต่ผม ก็ยัง คงโทรต่อไปเรื่อย. .  โทรจนตัวเองแองเริ่มสะลึมสะลือ และเผลอหลับไปพร้อมกับ โทรศัพท์ที่ยังแนบชิดอยู่ที่หู ไม่ห่าง. . .

. . . . ผมสะดุ้ง เมื่ออยู่ๆ ก็รู้สึกนึกถึงเจมันขึ้นมา. .  ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ผมละเมอหรือคิดไปเองกันแน่ถึงรู้สึกว่า เจมันกำลังนอนอยู่ข้างๆตัวผมแต่พอลองกวาดสายตามองไปทั่วห้องกลับพบแต่ความว่างเปล่า ใช้ผม คงจะคิดถึงมันมากไปแค่นั้นเอง ผมหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง บอกเวลา สิบโมงเป๊ะๆ ผมคิดว่าเจมันน่าจะตื่นแล้ว เลยลองกดโทรไปหาเจ มันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไมมี คนกดรับเหมือนเมื่อคืน เลย.  . ผมพยายามโ?รอีกหลายครั้ง จนในที่สุดมันก็ยอมรับสายผมครับ

“ฮัลโหล” เสียงของเจดูแปลกไป. .  ตลอดเวลา ที่คบกันมาทำให้ผมสามารถแยกแยะอามรมณ์ของมันออก รวมถึงตอนนี้ที่น้ำเสียงนิ่งเหมือนไมค่อยมีอารมณ์จะคุยกับผมสักเท่าไหร่เลย.  ได้ทีผมก็ใส่คำถามรัวๆ ไป กะจะแกล้งๆ ให้มันอารมณ์เสีย จะได้ด่าผม เหมือนทุกที.  แต่เปล่าเลย เจมัน ไม่ได้ด่าผมซักคำแถมยัง พูด ด้วยน้ำเสี่ยงหดหู่อย่างเดิม

“แล้วนี้อยู่กับใครทำอะไรอยู่”ผมมั่นใจว่าเจมันคงอยู่กับ วิน หรือไม่ก็พี่ริว  แล้วก็เป็นไปตามนั้นครับ ถึงน้ำเสียงของมันจะยังเหมือนเดิม ก็ยังดี กว่าให้มันอยู่คนเดียว. . ผมอาสาจะไปรับไปส่ง เจเผื่อจำได้ไปขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วย แต่คำตอบทีได้มาคือ การปฏิเสธ แผนที่ผมเตรียมจะง้อ . .มันก็เลยล้มเหลวไม่เป็นท่า แล้วกลับเป็นมันเองที่ย้อนกลับ คำถามเดิมๆ มาที่ผม ซึ่งผมก็ตอบไปตามความจริง ส่วนตอนนี้ เจกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ผมไม่รู้ ไม่รู้เลยจริงๆ ก่อนจะวางสายผมก็ แอบหยอดมุขไปบ้างกะให้มันแสดงทีท่าเขินๆ  แต่มันกลับไปเขินแถมยัง กวนตีน ผมกับมาด้วย ถึงแม้ มันจะไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะเขินออกมาแต่การที่มันกวนตีนผมกลับมาบ้างนั้นก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นไปเยอะเลย ^ ^


.  . . . . . . 

ผมมาถึงม.เกือบๆ เที่ยง ผมเดินตรงไปที่โรงอาหารคณะวิศวะ ระหว่างทางผมเอาแต่คิดถึง มัน. .จนไม่เป็นอันจะทำอะไร มันจะกินข้าวรึยัง มันกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนกับใคร นะ มันกำลัง. . .โป้ก.  .ผมกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวแต่อยู่ๆ ก็มีฝ่ามือของใครก็ไม่รู้ลอยเข้ามาหยุดอยู๋ที่หัวผมอย่างจัง.. . . หันไปถึงได้รู้ครับ ว่าเป็นไอ้วิน . . ว่าแต่ไหง ตอนนี้มันมาคนเดียวละ เจไปไหน.  .
ผมชวนมันนั่งข้างๆ แล้วก็ถามเกี่ยวกับเจต่างๆนาๆ แล้วก็ได้ข้อสรุปมาว่า ไอวิน ไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ มันบอกว่าเมื่อวานมันไม่ได้ติดต่อไอเจ เลย เพราะมันคิดว่าเจอยู่กับผม เลยไม่ได้คุยกัน.  . . . ถ้าไม่ใช่ไอวินงั้นก็ต้องเป็น.. . ผมกดโทรศัพท์ไปหาพี่ริว พอพี่ริว รับสายผมก็รัวคำถามใส่พี่แกแบบที่พึ่งพูดกับไอวินไปเมื่อครู่. .  แล้วคำตอบที่ได้มาก็ทำเอาผมคิดหนักไปมากกว่าเดิมอีก . .  เพราะคำตอบที่ได้มาก็ไม่ต่างจากไอวินเลย . .

ระหว่างนั้นไอวินก็เดินไปหาของกิน ส่วนผมก็ได้แต่นั่งเครียดกุมขมับ อยู่ๆ หูผม ก็แอบได้ยิน เสียงโต๊ะข้าง คุย อะไรกันเสียงดัง. .

“นี้แกรู้ข่าวเรื่องที่ มีเด็กในม. เรา โดนรถชนแล้วรึยัง. แถวๆหอข้างม.เรานี้เอง.”

“เออก็พอรู้นะแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร. . แกรู้จักพี่เขาหรอ. .”

“ถามว่าร็จักมั้ยก็ไม่เชิงรู้จักหรอกแค่เคยเห็นหน้า. .”

“ที่ไหนเมื่อไหร่อะไรยังไง ?”

“ก็พี่คนที่น่าตาเขาน่ารักๆ อ่ะแก ที่ แบบ ชอบโดนผู้ชายหลายๆ คณะแซวบ่อยๆ อ่ะ” อยู่ๆ ทำให้ผมนึกถึงเจขึ้นมา

“แซวๆหลอ อืมก็คุ้นๆนะ แต่ฉันยังมโนไม่ออกอะไหนแกลองอธิบายเชิงลึกมากกว่านี้สิ. . ”

“ก็พี่ที่ตัวขาวๆ เรืองแสง ไว้ผมปกหน้า แล้วก็. ก็. . .. ก็”

“โอ้ยจะก็อีกนานป่ะค่ะคือรอฟังอยู่อ่ะค่ะ เกร็งจนฉี่จะราดแล้วเนี้ย. .”

“เดี๋ยวสิแกฉันนึกอยู่ เอ่อ.. อ๋อ ฉันจำได้แล้ว ก็คนที่เคยมีข่าวกับพี่กายช่วงนั้นไง แกพอจำได้ป่ะ”เหงื่อผมเริ่มแตก. .

“อ๋อ ถ้าเกี่ยวพันธ์ กับพี่กายของฉันหรอ มีอยู่คนนึง  แปป ฉันเคยแค็บรูปไว้อยู๋ ใช่ คนนี้ป่ะแก ฉันไม่แน่ใจ”

“ไหน เออใช่ๆ คนนี้แหละ แต่ ฉันนึกชื่อพี่เขาไม่ออกวะแก. .  ”

“ เจเจ !”

“เออใช่ พี่เจเจ อยู่คณะมุษย์ศาสตร์ปีสองไง มันติดอยู่ริมฝีปาก อ่ะ  ”

“แล้วทำไมแกถึงรู้ลึกยันชื่อจริงเขาขนาดนั้นหล่ะ”

“แหม่ข่าวสารหัดติดตามบ้างสิค่ะ พี่เขาเป็น Cute Boy ของ ม.เราไง ได้ข่าวว่าติดทอปไฟท์ ด้วยนะ เพื่อนๆ เก้งกวางของฉันนี้ ตาม จีบกันให้ควับ แต่ได้ข่าววงในมาว่าแกมีเจ้าของแล้ว .  เลยไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยอีกเลยอะแก” จบคำบอกเล่าของน้องผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่โต๊ะ ถัดจากผมไปสอง โต๊ะ. .ผมก็รีบลุกขึ้น ทันที ผมรีบเก็บกระเป๋า พร้อมกับมือถือของตัวเองที่วาง อยู่บนโต๊ะก่อนจะรีบเดินออกมาจากบริเวณนั้น แต่ ไอวิน ดันเรียก ผมไว้ก่อน

“เห้ยไอกายไปไหน. .” วินมันทำหน้างง ปน สงสัยหันมาถามผม

“กูจะไปหาไอเจ. . ”

“จะไปหามันทำไม”

“นี้มึงไม่รู้หรอว่าเจมัน. . ”

“โดนรถเฉี่ยว  ถ้าเป็นเรื่องนี้กูรู้แล้ว”

“แล้วไหงมึงถึงใจเย็นจังวะ มันก็เพื่อนมึงไม่ใช่หรอ?” ผมรู้สึกไม่เข้าใจไอวินมาก ที่มันยังนั่งนิ่ง ใจเย็นเหมือนทองไม่รู้ร้อนไปได้.
 
“เออกูรู้แต่ ไอเจมันไม่เป็นอะไรมากหรอก. . เมื่อกี้กูเจอคนที่ช่วยมันไว้แล้ว มันบอกว่า ไอเจนอน พักอยู่ที่คอนโดมัน ไอเจสบายดี ทุกอย่างยังครบ 32 อีกอย่างตอนนี้มันกินยานอนไปแล้ว ไปตอนนี้ ก็รบกวนมันเปล่าๆ”จบคำพูดของไอวินทำให้บางสิ่งบางอย่างที่หน่วงๆ อยู่ในอกของผมก็ค่อยๆ เบาบางลง

“แต่กูอยาก. .”

“เออน่าก็เข้าใจว่ามึงอยากไปหามัน แต่ตอนนี้ เรามี เรียนที่สำคัญเหมือนกันนะเว้ยอาจารย์วิชานี้แม้งยิ่งเคร่งๆ อยู่ด้วย ถ้าไม่อยากติด F ก็ไปกับกู”

“แต่..”

“ไม่ต้องแต่ อะไรทั้งนั้นแหละ เลิกเรียนเสร็จแล้วค่อยโทรไปหามันก็ได้ห่า ป่ะๆ”

“เดี๋ยวๆ ไอวิน แล้วไอเพื่อนคนที่ช่วย ไอเจนี้คือใครวะ. .  ” ไอวินมันทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะตอบผมมา

“อืม. . .กูก็ไม่แน่ใจวะ แต่มันเรียนอยู่วิศวะนี้ละ  น่าจะเอกคอมมั้งดูจากช็อปแล้ว ”

“เอองั้น เรียนเสร็จมึงพากูไปหามันทีนะ. . กูอยากขอบใจมันหน่อย .. ”

“ได้ๆ เดี๋ยวกูพาไป”

. . . . . . .  ระหว่างที่เรียนในช่วงภาคบ่ายผมแทบไม่มีกระจิตกระใจที่จะนั่งเรียนเลย ในหัวผมเอาแต่คิดถึง ไอเจ. . ผมอยากรู้ว่าตอนนี้สภาพมันเป็นยังไงบ้าง. .คนที่ช่วยเหลือ มันจะดูและมันดีเหมือนที่ผมเคยดูแลย รึเปล่า . . ตอนนี้มันอาจจะตื่นแล้ว ทำอะไรอยู่ มีใครเช็ดตัวให้มันรึยังผมเป็นห่วงๆ มันไปหมด.  . จนไม่อันจะทำอะไรแล้ว. .

. .  . . .
พอจบคลาสเรียนผมรู้สึกกดีใจเหมือนยกอภูเขาออกจากอกมันเหมือนการ ที่เรากำลังตั้งใจจำทำไรสักอย่าง แล้วสิ่งๆ นั้นก็สำเร็จในที่สุด . . ในวันนี้สิ่งที่ผมคิดอย่างเดียวในหัวก็คือ อยากไป หา มัน อยากเจอ หน้า มัน อยากรู้ว่าตอนนี้ มันเป็นยังไงบ้าง. . ถึงไอวิน จะคอยบอกผมอยู่หลายครั้งว่าเจ มันไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ผมเองก็ยังอดเป็นห่วงมันไม่ได้อยู่ดี. . ผมกับวินเราแยกกันที่หน้าตึกเพราะมันเองพึ่งนึกออกว่า จะต้องไปรับ เพื่อน คนสำคัญของมัน ซึ่งผมเองก็งง ว่าเพื่อน คนสำคัญที่มัน ว่า จะคือ เพื่อน หรือ เด็ก ของมันกันแน่ . . แต่ผมเองก็ไม่ได้เอ่ยปากด่าอะไรมันไปหรอก ครับ ยิ่งเห็นมันกระติอรือร้นแบบนั้นด้วยก็คงยากที่จะพูดบอกให้มันอยู่ต่อ เลยปล่อยเลยตามเลย. . ผมเดินกลับมาที่รถของตัวเองที่จอดไม่ใกล้ไม่ไกลจากตึกมากนัก . . .
ระหว่างทางที่ผมขับรถออก มาจาก หน้า ตึกออกจากม.ไปได้พักนึง ก็มีมอเตอร์ไซด์ ที่ไหนไม่รู้อยู่ๆ ก็โผล่มาผมเลยต้องหักเลี้ยวหลบ จนเกือบจะชนกับรถคันที่ชับสวนมาข้างๆ . .. และแน่นอน ครับว่าคนอย่างผมคงจะไม่อยู่นิ่ง ผมเปิดประตูลงจากรถ ออกมาดูสภาพ รถของตัวเองและ คู่กรณี  มันกำลังยืนถอดหมวกกันน็อคและหันมาจ้องหน้าผมตาเขม้ง . .   และเหมือนกับว่าการเจรจาระหว่างผมกับมันเหมือนจะไม่รู้เรื่อง เลยต่างคนต่าง ใช้หมัดพูดคุยกัน มันได้ผมไปสองหมัด ส่วน ผมได้ไปแค่หมัดเดียวเพราะไอวิน มันวิ่งมาห้ามไวซะก่อน. .


“มึงจะเอายังไง วะสัด ขับรถออก มาไม่ดูตาม้าตาเรือ แล้ว ยัง เสือกจะ มากวนส้นตีนกูอีก เหี้ยเอ๊ย.  .” ไอวินยังคงรั้งตัวผมไว้ ที่พร้อมจะพุ้งเข้าไปหาไอห่านั้นได้ทุกเมื่อ 

“มึงขับมาผิดเลนเองมาโบ้ย กูได้ไงวะสัด กูไม่ต่อยแม้งให้คว้ำก็บุญหัวแม้งละ สัดเอ้ย. .”

“พอๆ ไอสัด พวกมึง ก็ผิดแม้งทั้งคู่แหละ กายมึงเองก็ผิดขับออกมาเสือกไม่ดูเลน มึงก็ผิดที่ ขับมาแต่ไม่ดูสัญญาญไฟให้ดีก่อน”

“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ให้กูกราบขอโทษมันรึไง ไอเหี้ยวิน มึงบอกกูดิ่. . ” ตอนนี้ในหัวผมเดือดไปหมดไม่พร้อมจะรับฟังเหตุผลอะไรจากคนรอบข้างแล้วครับ

“โอ้ยกูก็”ไม่รู้หรอกนะ ว่าใครผิดไม่ผิด . . แต่ตอนนี้มึงสอง คนควรจะเลิกจ้องหน้ากัน แล้วหลบรถให้คนที่พวกเขาอยู่ข้างหลัง
พวกมึงบ้างสิวะ. . ” ผมกับไอเหี้ยตรงหน้า หันกลับไปมอง สายตานับร้อยคู่ที่กำลังบีบแตรล่พวกผม กันอย่างพร้อมเพียง.. . .
 
“กูจะถือว่าครั้งนี้ โชคช่วยมึงละกันไอสัด อย่ามาให้กูเห็นนะอีกนะมึง. . ”

.”คิดว่ากูกลัวมึงรึไงไอสัด อยากได้ก็เข้ามาดิ่วะ” เหมือนเลือดนักเลงในตัว ผมกำลังพุ่งพล่าน ผมแทบจะกระโดด ไปต่อย มันได้ อีกรอบ ถ้าไม่ติดที่ว่า เสียงสัญญาณ ไซเลน กำลังดังไกลๆ มาจากมุมไหนซักมุมของถนน ผมกับมันเลย ยอม  ขับรถหลบเพื่อให้คนที่กำลังรอรถอยู่ข้างหลัง ได้ขับออกไปซะที. . .


.  .  . .


ก่อนจะขับออกมาไอวินก็ยังบอกผมว่าให้สงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้ เพราะตอนนี้ ผมกำลัง จะไปพบ กับเจ ที่ร้าน กาแฟ ข้างม. ก่อนจะแวะร้านเข้าร้าน กาแฟ ผมก็ จอด ที่ปั้มข้างๆ เดินเข้าไปซื้อยาทานิดหน่อยๆ ก่อนจะกลับขึ้นรถ และ ตรงไปที่ร้านกาแฟ. .
ถ้าเจมันเห็นผมในสภาพนี้มันคงจะตกใจไม่ใช่น้อย ผมเลย ใช้เวลา เตรียมตัวอยู่ในรถก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอ ในร้าน ที่ๆนัดเจอกับมันไว้. เกือบชั่วโมง.  ผมอาจจะลืมบอกไปว่าในร้านไม่มีใครรู้จักผมในฐานะหลานชายของเจ้าของร้านเลยแม้แต่คนเดียว . . .
ผมกำลังจะหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อ เพื่อโทรหา เจ  แต่ขณะที่กำลังจะกดก็มีเสียงกล่าวคำทักทายที่ผมรู้สึกคุ้นหูดี. .ดังมาจากด้านหลัง


“ไงมึง”สีหน้าของมันดูซีดๆ ไป จนผม ชักเป็นห่วงเลยแสดงสีหน้า ที่ไม่ค่อยต่างจากมัน เลย

“ทำไมมาถึงเร็วละ  นี้ยังไม่ถึงเวลานัดเลยนะ ” เจไม่ได้ตอบคำถามผมแต่ดันตั้งคำถามขึ้นมาถามผมแทน

“ว่าแต่กูมึงเหอะมานานรึยัง รอนานรึเปล่า ” สำหรับ มัน นานแค่ไหนผมก็รอได้

“เปล่าพึ่งมาเหมือนกัน  อะไรมารึยัง อยากกินอะไรรึเปล่าสั่งได้เลยนะ  พี่ครับ !”ผมกำลังยกมือจะขอเมนูพนักงานในร้าน แต่ เจ มันก็ดันพูดดักหน้า ผมไว้ซะก่อน

“กูไม่ค่อยหิว ไม่เป็นไร ว่าแต่มึงเถอะเรื่อง สำคัญที่ว่า จะคุยกับกู . .. คือเรื่องอะไร” ใจจริงคำถามแรกที่ผมอยากจะถามมันคือ เป็นอะไรมากมั้ย เจ็บจรงไหน บ้างรึเปล่า แต่ไม่มีรู้เพราอะไร ผมถึงเลือก คำถาม ที่ไม่ได้อยู่ในหัวผมเลยแม่แต่น้อย. .

“เจ กูขถามอะไรตรงๆเลยนะ เมื่อวาน มึงได้รอกูรึเปล่า ?” ทั้งที่ผมเองก็พอจะเดา ทางออกว่าเจมันคงจะไม่รอผมอยู่แล้ว แต่คำตอบที่ผมได้ยิน ทำเอาผมหน้าแทบถอดสี

“อืม” เพียงคำเดียวเป็นเหมือน กระสุนนับร้อยๆ นัดที่สาดมา เข้าที่ตัวผมเต็มๆ  ผมรู้สึกจุกๆ อยู่ที่อก นี้เจ มัน รอผมอย่างนั้นหรอ ?

“นานมั้ย ” ผมถามไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ อย่างกลัวคำตอบ

“3-4 ชั่วโมง”ผมแทบสำลักน้ำเปล่าที่ตัวเองพึ่งกลืนลงไป แต่ที่แย่ไปกว่านั้น คือสีหน้าของเจ มันดู หม่นหม่องลงไป เหมือนมันพยายาม ปิดบังอะไรผมอยู่ . .
 
“แล้วตอนที่มึงโทรหากู มึงได้คุยกับแยมมั้ย”ผมถามโดยที่ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่า เจคงจะเข้าใจ . .ว่าผมกับแยมเราไม่ได้เป็นอะไรกัน

“อืม ได้คุย แล้วยังไง อยากจะอวดเสียงเมียกับลูกมึงมากรึไง ?”ผมรู้สึกงงๆกับคำพูดของ เจมันเมื่อครู่จากที่คิดว่ามันจะเข้าใจแต่ไหง กับเป็นแบบนี้ไปได้. . ผมเลิกสนใจแก้วน้ำเปล่าที่ว่างอยู่ตรงหน้าและหันมาให้ความสนใจกับ เจแทน . .

“เมียใครเมียกู?”

“อย่าแกล้งโง่เลยกาย ก็คนที่กูคุยด้วย ตอนที่โทรไปหามึงนั้นไง ?” เรื่องตอนนี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว สายตาที่ดูหม่นๆ ตอนนี้ กลับแทนที่ด้วยน้ำใสๆ ที่ตามัน แทบจะเอ่อล้นออกมา จนผมเองต้องรีบอธิบายความจริงให้มันเข้าใจ. .

  “เดี๋ยวๆ นะเจ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วกูกับ แยม เรา สองคนเป็นแค่เพื่อน กัน”

“เพื่อนห่าอะไรมีลูกด้วยกัน แบบไหนที่เขาเรียกว่าเพื่อนกันวะ!!” เจมันจะกลั้นอารมณ์ของมันไว้ไม่อยู่ น้ำตาเลยเอ่อออกมาจากดวงตาของมันทั้งสองข้าง. . ผู้คนในร้าน หันมามองที่โต๊ะ ผมกับเจ อย่างพร้อมเพียง ผมรู้สึกไม่เข้าใจทั้งๆ ที่ผมเองก็พยายามอธิบายให้เจมันฟังแต่ดูเหมือนมันเอง จะเชื่อ ความคิดของตัวเอง มากกว่าจนผมเองเริ่มรู้สึกหงุดหงิด. . และถ้าหากผมใส่อารมณ์ไปแน่นอน เรื่องราวมันต้องบานปลายไปมากกว่านี้แน่ . . . ถ้าตอนนี้ เจ กำลัง ร้อน ผมเองก็ต้องเย็นเข้าสู้ ขืนร้อนๆ กับร้อนเจอ กัน เรื่องได้แย่มากไปกว่านี้แน่ ผม พยายามกดค้นหารูป ของแยมกับแฟนแยม ก่อนจะยกมือถือขึ้นให้เจดู เพื่อให้มันเข้าใจผมซักที และเหมือนคำตอบของผมเองก็คงจะชัดเจน จนเจ ชะงักไป เจดูเงียบ เหมือนกำลังคิดอคำตอบอะไรให้ผมอยู่.  . แต่คำตอบที่เจให้ผมมานั้นกลับไม่ใช่คำพูด แต่เป็นรอยน้ำตาแทน ผมชะงักไปไม่ต่างจากเจ ที่เห็นมันร้องไหออกมา

“กาย” มันเรียกชื่อผม ทั้งๆ ที่ไม่กล้าสบตากับผม

“หืม”ผมเป็นฝ่ายยอมแพ้ให้กับสงครามในครั้งนี้ แม้ว่าผม จะเป็น คนถูกหรือคนผิดแต่ในเวลา นี้ ผมก็ พร้อมจะน้อมรับโทษๆทุกๆ อย่างที่ตัวเองกำลังจะได้รับ

“กูขอโทษ. . . ”คำพูดของเจ ทำเอา ผมใจแทบล่วงไปตามมัน ผมไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากมัน ผมแค่ต้องการ อธิบายความจริงให้มันฟังก็เท่านั้น 

“ขอโทษ ทำไม บอกแล้ว ว่าไม่ได้โกรธ . .” ผมไม่รู้ว่าจะปลอบให้เจมันหายงองแงได้ยังไง เลยเลือกวิธีที่ผมทำบ่อยตอนมันโกรธผมมากที่สุดนั้นก็คือการเข้าไปนั่งๆ ข้าง พูดคุย กันด้วยเหตุผลและพลางรูปหัวมันเบาๆ

“กูขอโทษนะกาย ที่ด่วนสรุปคิดไปเอง ขอโทษ นะที่กูไม่ยอมฟังเหตุผลมึงก่อน กู ขอโทษ นะกาย ที่กู ไม่ไว้ใจมึง. กูขอโทษ ขอโทษ ขอ. ...”

“ไม่เป็นไรเจ. .กูยกโทษให้ กู รู้ดีว่าความรู้สึกของมึงตอนนั้นมันเป็นยังไง . . มันคงเหมือนการที่เราถูกคนที่เรารักหักหลัง ถ้าถามว่าทำไม กูถึงรู้ เพราะกู เคยผ่านมันมาแล้วไง มึงยังจำตอนที่กูกับพี่ริวกลับมาคุยใหม่ๆได้มั้ย.. ถ้าไม่ใช่เพราะมึงที่คอยช่วยในวันนั้น กูก็คงจะเข้าใจผิดๆไปอีกนาน และถ้าไม่ใช่เพราะมึง กูกับพี่ริวเราก็คงไม่ได้กลับมาเป็นพี่น้องกันอย่างทุกวันนี้หรอก.  เพราะชะนั้นเลิกร้อง ไหเถอะ.  .กูไม่ชอบที่เห็นน้ำตาของมึงเลยเจ  มึงรู้ตัวมั้ย ตอนมึง ร้องไหนี้โคตร อุบาตส์ เลย เหมือนพวกลิง ชิมแปนซี เวลามันอ้าปากอ่ะ มึงว่าป่ะ. ฮ่าๆ ” ผมลองย้อนนึกไปหากเรื่อง แบบ นี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวผมว่าคงยากที่จะเข้าใจ. . และผมคิดว่าความผิดในครั้งนี้คงเป็นหมือนความผิดที่บริสุทธิ เพราะ ต่อให้ เรื่องราวจะแย่ซักแค่ไหนแต่ถ้าตอนท้าย เราคุยกันด้วยเหตุผล ข้อกล่าวหา หรือข้อสงสัยข้างต้นก็ไรมลทิน. .


ตลอดเวลาที่ เริ่มคบกับมัน มาผมรู้สึกได้ถึง ตัว ผมเอง ที่เปลี่ยนไป . . จากผมที่ ไม่ค่อยจะกล้า เผชิญ เข้ากับสังคม หรือผู้ใหญ่ผมก็มีความกล้ามาขึ้น ผมรู้สึกกล้า แสดงความรู้สึก กล้า หัวเราะ กล้าแสดง ออก ตั้งแต่ มี มันเข้ามาในชีวิต ความเปล่าเปลี่ยวที่ผมเคยมี มันก็ค่อยๆ หาย ไป . .  ตั้งแต่มีมัน ผมรู้สึกว่าตัวเอง ยิ้มเยอะ ขึ้น. .  ตั้งแต่มีมันผมรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองมีสีสันขึ้น . . .และถ้าหากวันนี้ ผมไม่มีมัน . . อยู่ข้างๆ แบบ นี้ ผมไม่รู้เลย ว่าจะได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของตัวเองแบบนี้อีก เมื่อไหร่

ขอบคุณที่คอยอยู่ข้างกันนะ ไอลิงดื้อ. . . .#กาย   :m16:

 :m20:






TBC. . . .. . .
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2016 10:49:25 โดย thitema3 »

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
หลังจากที่ตรวจสอบอะไรนิดหน่อยๆ แล้ว คิมเองก็พบว่ามีคำบางคำ หลายๆ จุด ที่ ยันเขียน ผิดพลาด . . ต้องขออภัยด้วยนะครับ ไว้มีเวลา ผมจะรีบกลับมาแก้ไขให้เลยนะครับ

 :hao5:

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
รูมเมทเจ จะชอบหนูเจรึป่าวน๊า

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 26 :  Don’t Worry

หลังจากที่พึ่งจะผ่านมหกรรมความเศร้าไป กายมันก็เดินออกมาส่งผมที่นอกร้านแถมยังบอก ให้ผมไปนอนที่คอนโดกับมันด้วย ไอจริงๆ ผมเองก็ไม่ได้เล่นตัวอะไรหรอกนะ เพียงแต่ กลัวว่ากลายมันจะจับได้ว่าตอนนี้ร่าง กายของผม ยังไม่โอเค  ขืนมันรู้รับรองได้ นอน บ่น นั่งบ่น ตีลังกาบ่นผมถึงเช้าแน่ๆ . ผมก็เลยต้องหาข้ออ้างปฏิเสธแบบงามๆ ไป นั้นคือการ บอกว่า พี่อิน เรียกผมไปคุยธุระด่วนที่บ้าน ซึ่ง แผนการก็ใช้ได้ผลดีครับ กายมันยอมให้ผมกลับไปที่ร้านแต่มีข้อแม้คือ มันต้องไปส่งไม่ให้ผมกลับเองไม่รู้มันเกิดระแวงอะไรขึ้นมา พอมาถึง ร้าน ผมกำลังปลดเข็มขัดแหนะๆ คิดอะไรกัน ผมหมายถึงเข็มขัดนิรภัยต่างหาก. . ผมกำลังจะก้าวขาตัวเองออกจากรถของมันแต่กลับถูกดึงให้หันไป   . . คิสเบาๆ  เป็นค่ามาส่งผมกลับบ้าน. . แหม่ ค่ามาส่งคราวนี้มันแพงไปมั้ย. . . แต่ต่อให้แพงแค่ไหน ผมคนนี้ก็พร้อมจ่ายละ ครับเอิ้กๆ และจังหว่ะที่ผมกำลังจะก้าวขาลงจากรถอีกครั้งไอกายมันก็ดึงแขนผมไว้อีกครั้งแต่คราว เหมือนมันจะดึง แขนของผมแรงจนเกินไปจนผมเผลอ ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด. . เพราะรอยอุบัติเหตุเมื่อคืน. . เลยทำให้ผมเผลอร้องเสียงหลงขนาดนั้น . .  กายมัน มันมองสแกนตัวและพยามมองหาสิ่งผิดปกติ  ผมก็ได้แต่หันไปมอง ด้านนอกกลบเกลื่อนจนกายมันต้อง ดึงแก้มของผมให้กลับมา มอง ที่หน้ามันดังเดิม

“เจ. .”

“หื้อ !”มันใช้มือบีบปากผมเป็นรูปตัวโอ.  ก่อนจะเค้นหาความจริง. .   (รู้สึกตลกหน้าตัวเอง ฮ่าๆ)

“ไปทำอะไรมา บอกมา... . ”

“อำอะไอไอ้เอ้นอ่ะอุ๋เอื้องเอย”

“พูดว่าอะไรฟังไม่รู้เรื่อง”ก็มึงเล่นบีบ ปากกูขนาดนี้กูคงจะพูดชัดหรอกไอควาย. . ผมเลยใช้มืออีกข้างนึงบีบปากของมันมั้ง. . คราวนี้ผมแอบได้ยินเสียงไอกายมันร้องออกมาเหมือนกัน ยิ่งถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นถึงสิ่งที่ผิดปกติไปนั้นก็คือปากด้านซ้าย ของมันมีรอยทะลอก เหมือนมันไปมีเรื่องกับใครมา ผมพลิกบทบาทจากผู้ต้องสงสัย มาเป็นผู้สอยสวนแทน ผมใช้มืออีกข้างนึงปัดมือมันออก และเป็นฝ่าย สืบสวนมันแทน

“พูดมา. . ไม่งั้นอย่าหวังว่ากูจะปล่อย”

“อื้อ !” กายมันยังทำปากจู๋แถมยังแอบสายหัวเหมือนไม่กลัวผมเลยแม้แต่น้อย แต่แม้ง. . โคตรน่ารักเลยวะ แม้ง เอ้ย ผมเองอยากจะถ่ายเก็บไว้ถ้าไม่ติดว่าต้องเค้นความจริงจากมันก่อนผมคงทำไปแล้ว

“จะบอกดีๆ รึบอกด้วยน้ำตากาย”ผมจ้องหน้ามันเขม้ง แต่ไม่ได้กะจะใช้กำลังกับมันหรอกนะครับ. . ผมเองเป็นคนนึงๆที่เกลียดการใช้กำลังในการแก้ปัญหามากครับ. . และก็เกินคาดครับ กายมันยอมพยักหน้าหงึกๆ เหมือนเป็นอันตกลงว่าจะยอมบอก ผมเลยค่อยๆ ปล่อยมืออกจากปากของมัน.  แต่มันก็ยังไม่วาย แลบลิ้นล้อเรียนใส่ผมอีกไอนี้ จะบอก ยังจะเสือกลีลาอีก. .

“มึงไปมีเรื่องกับใครมาใช่ไหม. . .”กายนิ่งไปเหมือนมันกำลังคิดคำตอบ.

“เปล่า”

“แล้วไปโดนอะไรมา. .”ผมยังถามคะยั้นคะยอรอ ฟังคำตอบ

.”กู. . .เดินชนประตู. .” ตึกโป๊ะ . . เดินชนประตู ควายไปมั้ยครับ ผมแทบจะระเบิดเสียงขำออกมา ถ้าไม่ติดที่ว่า มันดันมองค้อนผมอยู่ผมก็คงจะขำออก. . .

“แล้วมึงละ . . แขนไปโดนอะไรมา”อ้าวแล้วไหงๆ ไปๆ มา ผมถึงกลับมาเป็นผู้ถูกสอบสวนอีกละเนี้ย กรรมของเวร
.”ก็ล้มนิดหน่อย. . ”แต่ไม่ได้บอกว่าล้มเพราะสาเหตุอะไร. . ขืนบอกไปมันได้ช็อคแน่ๆ

“แน่ใจ. . ”กายมันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อผม แต่ก็ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“ก็ ..เออ ดิ่ กูจะโกหกมึงทำไม เล่าวุ๊  อ้าวนั้นพี่อินมาพอดี เลย พี่อิน หวัดดีฮ้ะ”ตามแผนครับ ผมอาศัยช่วงที่ไอกายมันหันหลังกลับไปมอง รีบวิ่งออกจากรถ แล้วเดินตรงไปที่หน้าร้านเลยทันที. . ไอกายเองก็คงงงไม่ใช่น้อยครับ. .ดูจากหน้าเหวอๆ ที่มองผมผ่านกระจกรถ. .คันงาม

“คิดจะหนีรึไง มานี้เลยนะ . . ” กายมันเปิดประตูเดินมาเหมือนจะเอาเรื่อง ผม แต่เสียใจครับ พี่ไวกว่าครับน้อง ผมรีบวิ่งเข้าร้านโดยมีไอกายวิ่งตามเข้ามา กอดล็อค คอผมแน่น พร้อมกับเดินตบ หัวผมไประหว่างทาง. .

“จะยอมบอกดีๆ รึยังห้ะ” และแน่นอนผมตอบว่าไม่

“ไม่บอกเว้ย ยังไงก็ไม่บอก พี่อิน พี่อินช่วยเจ ด้วยไอกายมันแกล้ง เจ. .”ทันใดนั้นนางมารหน้าเขียวก็ปรากฏกายออกมาให้เห็นครับ.หวื้ยย ตกใจหมด.  นี้ถ้าไม่ติดว่าไอกายมันล็อคคอผมอยู่นะป่านนี้วิ่งทะลุกำแพงเหมือนทอมแอนเจอรรี่ไปแล้วหึหึ

“ตายๆ สองหนุ่มเล่นอะไรกันเป็นเด็กๆ ไปได้ แล้วน้องกายมาทำอะไรดึกดื่นๆ จ้ะ แหนะๆคิดถึงพี่ละสิแหม่แต่พี่มีแฟนแล้วนี้สิ ต้องขอโทษทีนะ. . แต่ไมเป็นไรพี่จะยอมให้น้องกายมาเป็นกิ๊กของพี่ก็ได้สักสองสามวันๆ ”

“แอ๊ะแอ่ม”ไม่ใช่เสียงใครหรอกครับเสียงผมเอง แหม่ๆ คิดจะแทะโลมเด็กผม คงอีกไกลครับพี่อิน และดูเหมือนไอกายมันก็คงรู้ว่า ผมกระแอ่มเสียงทำไม . . ผมยังแอบได้ยินเสียงมันหัวเราะๆ หึๆอยู่ในคอเหมือนที่มันชอบทำบ่อยๆ

“โอ้ยกายปล่อยก่อนกูหายใจไม่ออก” กลายมันยอมปล่อยผมโดยว่างายครับ ทั้งๆที่ตอนแรกนี้แทบจะร้องขอชีวิต แต่พออยู่ต่อหน้าพี่อินแม้งก็แสร้งทำตัวเป็นคน ดี ตอแหล ชิบหาย . . เอ๊ะๆ พูดไปพูดมาเหมือนเข้าตัวเองยังไม่รู้แหะ ฮ่าๆ

“สวัสดีครับพี่ อิน  พอดีผมไปเจอมันอยู่ข้างทางหน่ะครับ เลยเก็บ มาส่ง แล้วนี้ ทำไมสภาพร้านถึงเป็นแบบนี้ละครับ. . พายุเข้าหรอ . . ”

“อ๋อเปล่าหรอกจ้ะ พอดีพี่จะต่อเติมร้านอะไรนิดๆ หน่อยๆ เลยดูรกๆ แต่ก็ใกล้เสร็จแล้วแหละจ้ะ อีกไม่เกินสอง อาทิตย์ ร้านก็เปิดตามปกติแล้ว. .”

“แล้วนี้น้องเจ กลับมาทำไม กันหล่ะ ยังหาที่พักไม่ได้อีกหรอ. . ” พี่อินค่อยเดินลงจากบรรใดมาจับมือผมกับไอกายให้เดินตามเข้าห้องครัวไปนั่งคุยกัน. .

“หาได้แล้วครับ แต่ว่าจะมาเก็บกระเป๋าพอดีเมื่อวาน เจ ลืมเอาไปด้วย วันนี้ก็เลยกลับมาเอา”

“อ่อ แล้วนี้ค่าห้องพอดีมั้ยขาดเหลืออะไรรึเปล่า ”

“ก็พอดีครับ แต่ยังไม่ได้จ่ายเลย เพราะ ATM ก็อยู่ในกระเป๋าเสื่อผ้าเจเหมือนกันแฮ่ๆ”

“เออ ใช่จะว่าไปทำไมถึงไม่ไปอยู่กับน้องกายละ สบายกว่ากันตั้งเยอะ แถมยังมีคนคอยไปรับไปส่งอีกด้วย ไม่ชอบรึไง” เหมือนพี่อินจะหันไปสบตาและส่งยิ้มให้ไอกายมันก็ยิ้มตอบแต่ก็ไม่วายส่งสายตามองค้อนมาที่ผม .  . . เหมือนกำลัง จะถามผมว่า มึงไปนอนกับใคร อะไรประมาณนี้ แฮ่ๆ อย่าพึ่งสอบสวนกูตอนนี้ เลยนะไอคุณชาย. . พลีสสส

“กายมันนอนดิ้น กลนเสียงดัง แถมน้ำท่ายังไม่ค่อยอาบอีก เจเลย ไม่อยากไปอยู่กับมัน ฮ่าๆ ” ทันทีที่ผมพูดจบไอกายหันมายิ้มให้ผมแบบ เหมือนกัดฟันยิ้ม และยังยื่นมือมาบีบที่ไหล่ของผมอย่างเบามือ (ที่ไหนกันเล่า)

“อ่ะ นี้ก็ดึกมากแล้ว ขึ้นไปอาบน้ำนอนกันได้แล้วไป เดินทางตอน กลางคืนมันอันตราย ส่วนน้องกาย ถ้าไม่รังเกลียดคืนนี้ ก็นอนกับน้องเจ ได้เลยนะพี่อนุญาต. .”


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“ไม่รังเกลียดเลยครับ ขอบคุณมากครับพี่อิน” มันแสะยิ้มมุมปากใส่ผม เหมือนสะใจ - - *

“แต่พี่อินเจ. .” รายนี้ก็เหมือนกันครับ ส่งสายตาอัมหิตมองมาที่ผมจนผมเองต้องหลบสายตา เฮ้อ ! สุดท้าย คืนนี้ ผมเลย ต้องนอน กับไอคุณชายอย่าง หาข้ออ้างที่จะเลี่ยง มิได้. .

. . . .  กว่าจะผลัดกันอาบน้ำเสร็จก็ใช้เวลา ไปเกือบๆ ครึ่งชั่วโมงผม รีบปูผ้าจัดเตียงใหม่โดยมีหมอนค้างกั้นกลางจริงๆ ไม่ใช่ว่าผมรังเกลียดอะไรกายมันหรอกครับเพียงแต่ไม่อยากให้แขนของตัวเองไปถูกตัวมันมากนัก เพราะกลัวตัวเองจะเจ็บจนร้องออกมา ไม่อยากให้มันคิดมาด้วย ต้องจำใจทำไป ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยอยากจะทำ. . . เห้อช่วยเข้าใจกูทีนะกาย. . .
ผมขึ้นมานอนก่อน ส่วนไอกายยังคงสำอางยืนส่องกระจกอยู่ในห้องน้ำ และยังแอบมองผมลอดผ่านกระจก มาขยิบตาให้ผมอีก . . วันไหน มันไม่ได้ทำนี้คงจะนอนไม่หลับแน่ๆ เลยครับ . .  ผมคิดว่างั้นนะ 
แสงไฟในห้องน้ำถูกปิดลง กายล้มตัวนอนๆข้าง ผมโดยมีหมอนข้างกั้นกลางอยู่ ตอนแรกก็คิดว่ามันจะนอน หลับไปเลย แต่เปล่าครับ มันยังคงลืมตา แหกปากร้องเพลงอะไรของมันอยู่คนเดียว. . .

.”ทำไมเธอต้องยิ้ม ทุกทีที่เดินสวนกัน”

“ทำไมเธอต้องหวาน ทุกคำที่เอ่ยวาจา”

“ทำไมเธอต้องซึ้งเวลาที่ฉันมองตา ฉันจะบ้า อยู่แล้ว ”

“เหมือนเธอมีเวทมนต์ทำให้ใจฉันอ่อน รู้มั้ยเธอว่าใครเดือดร้อน”

“ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ มันเอาแต่เพ้อไม่กินไม่นอน”

“อยากบอกเธอสักครั้ง โปรดเถิดนะขอวอน หยุดน่ารักได้มั้ย ใจฉันกำลัง ละ ลาย อู่ อูวว*” มันจะรู้ไหมนะ ว่าผมกำลังแอบยิ้มตามเหมือนคนบ้าอยู่ข้างๆ มัน ผมรีบดึงผ้าห่มมาคลุมโปง โดยที่มันก็ยังแหกปากร้องไม่หยุด. .

“คนหน้าตาอย่างฉัน นั้นมันต้องเจียมหัวใจ”

“เก็บอาการเอาไว้แม้ใจจะสั่น ระรัว”

“อยากจะให้ดอกฟ้าเอนดูหมาวัดสักตัว ก็ไม่กล้าเอ่ย ออกไป”

“เหมือนเธอมีเวทมนต์ทำให้ใจฉันอ่อน รู้มั้ยเธอว่าใครเดือดร้อน”

“ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ มันเอาแต่เพ้อไม่กินไม่นอน”

“อยากบอกเธอสักครั้ง โปรดเถิดนะขอวอน หยุดน่ารักได้มั้ย ใจฉันกำลัง ละ ลาย อู่ อูวว*”   เพลงจบคนไม่จบ. . กายมันยังพยายามขยับตัวแทรกกลางระหว่างหมอนข้างกับตัวของมัน จนในที่สุด มันก็เขยิบเข้ามานอนเอาขาก่ายผมจนได้ครับ เห้อ แล้วผมจะกั้นหมอนข้างเพื่ออะไรกันละเนี้ย. . กายมันพยายาม ดึงผ้าห่มออก ขณะที่ผมพยายามดึงผ้าห่มกลับมาแต่แรงของผมหรือจะสู้แรงมันได้ ต่อให้ผ้าห่มหลุดไปแต่ผมจะไม่ยอมให้มันเห็นอาการเขินอาย ของผม เด็ดขาด มีอย่างที่ไหน มาร้องเพลงหวานๆซึ่งๆ ให้ ฟังก่อนนอนกัน ไอบ้า !

“อื้อ. คืนนี้หนาวจังเลย ไหนขอนอนกอดแฟนให้หายหนาวหน่อย. เร้ว.” จากแค่กายก่ายจากขามันตอนนี้ผมเริ่มเหมือนว่าผมกับมันกำลังรวมร่างกันแล้วครับ กายมันดึงตัวผมให้หันหน้าไปนอน ซบอยู่ที่อกของมันโดยมีมือของกาย ที่ช้อนคอของผมขึ้นไปนอนทับแขนของมันตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ รู้แต่ว่า ผม ฟิน >< ก๊าก ผมเผลอพูดอะไรออกไปเนี้ย

“เอามือปิดหน้าทำไม เขินหรอ หืม” ยังๆไม่เลิกทำเสียงออดอ้อนแบบนั้น อีก มันก็รู้ว่า ผมแพ้ทางมันในโหมดนี้ทุกทีเลย. .

“ตอนนี้หน้ากูอุบาตส์ไม่อยากให้ใครเห็น”ผมพูดตอบมันโดยที่ไม่ได้หันไปสบตากับมัน

“ปกติก็ไม่ได้ดูดีนี้จะปิดเพื่ออะไรหล่ะ. . เอามือออก ไหนๆ ขอดูหน้าหน่อย. .” แล้วสุดท้ายผู้พ้ายแพ้อย่างราบคราบก็คือผมคนนี้นี้เองครับ แพ้ไปด้วยคะแนน 100-0 แพ้ขาดลอยเลยครับพี่น้อง.... พอผมค่อยๆ เอามือออก ก็รู้สึกอุ่นๆ ที่หน้าผากของตัวเองจนต้องหลับตาพริ้ม หลับไปพร้อมกับใจที่สั่น ระรัวว ตลอดทั้งคืน . .   . ..

. . . . . . . .

กรี๊งงงงง!!! ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงไอหมีบราวเจ้ากรรมตัวเดิม ที่ส่งเสียงร้อง ดังจนหูของผมแทบละเบิดนี้ ถ้าจับค้อนได้ผมคงหยิบมาทำลายให้มันหยุดร้องไปแล้ว. . ไม่นานนักเสียงปลุกจากไอหมีบราว ก็เงียบไป ผม ควานมือ หาบุคคลที่ ส่มสู่ เอ้ย ที่นอนด้วยกัน เมื่อคืน แต่ควานรอบเตียงก็ไม่เห็นมีใครผมเลยลืมจาขึ้นมามอง ก็ต้องพบกับความว่างเปล่าครับ . .ไอคุณชายมันหายหัวไปไหนของมันละเนี้ย. .  จะว่าไป อาการใจสั่นของผม ยังมีกาการแบบเดิมไม่ยอมหยุดเลย . . ตอนนี้มันเลยกลายเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ไปแล้ว เมื่อใดที่ ผม เจอหน้ามัน ในระยะใกล้เคียงอาการ แบบนี้ก็จะเกิดขึ้น แบบอัตโนมัติเลยละครับ ^ ^
. . .. ผมรีบลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะเดินลง มา ก็เห็น ยัยเอิรน์กำลัง นั่ง คุยกับไอคุณชายอยู่ข้างล่างครับ . .ผมเลยแอบยืนส่องสองคนนั้นคุยกันอยู่ที่ราว บรรได.  .

“พี่กายว่า อันนี้สวยมั้ยค่ะ”ยัยเอิรน์ ยื่นกระดาษที่มีรูปอะไรซักอย่างผมมองไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ไกลแถมกำลังแอบฟังสองคนนั้นคุยกระหนุงกระหนิงกันอยู่ . .อยู่ด้วย  - -*

“ก็สวยดีครับ แต่พี่ว่าแบบแรกสวยกว่านะ”

“เหรอค่ะแต่เอิร์นว่ามันยัง ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะค่ะ งั้นพี่กายลองดูอันนี้ เอิร์นว่าพี่กายต้องชอบแน่ๆ เลย” ยัยเอิร์นพูดพร้อมกับ หยิบกระดาษอีกใบที่วางอยู่ใต้สมุดยื่นไปที่ไอคุณชาย. .   

“เป็นไงค่ะ”

“อือ สวยอย่างที่น้องเอิร์นบอกจริงๆด้วย งั้นพี่เอาแบบนี้ละกัน เท่าไหร่เหรอ. . ”

“อู้ยเอิร์นไม่คิดเงินหรอกค่ะ เพื่อ พี่กาย แค่นี้สบายมั่กๆ ” เพื่อพี่กายแค่นี้สบายมั่กๆ แหยะๆ ผมเบ้ปากพูดตามยัยเอิร์นทุกคำ ที่กับพี่ของตัวเองละไม่เคยเห็นมี โม้เม้นแบบนี้เลย แต่พอเป็นกับไอกายนะ ออดอ้อน หึ . .. มัน น่านนอยๆ จริงๆ

“ ขอบคุณมากนะครับว่าแต่ อีกนานไหมครับกว่าจะเสร็จ”

“อืมอันนี้ เอิร์นเองก็ไม่ค่อนแน่ใจเหมือนกันนะค่ะ ต้องรอ ถามเพื่อนดูอีกทีนึง.. แล้ว นี้ แฟนพี่กายยังไม่ตื่นอีกเหรอค่ะนี้ก็จะ แปดโมงแล้วนะ ” อะแฮกๆ ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ตอนที่ยัยเอิร์นพูดว่า แฟนพี่กาย .-.-

“ไม่รู้สิ เมื่อกี้ตอนพี่ลงมายังนอนอ้าปากค้างอยู่เลย สงสัย กำลังฝันดีอยู่มั้ง ฮ่าๆ ”

“พี่เจก็เป็นอย่างนี้ประจำแหละค่ะ ยิ่งวันเสาร์อาทิตย์นี้ไม่ต้องพูดถึง กว่าจะตื่นทีนี้ หกโมงเย็นยังเคยมีมาแล้วค่ะ”

“เว่อๆ พี่ไม่เคยตื่นสายขนาดนั้นซะหน่อยแล้ว นี้มีเวลามานั่งเผาพี่ให้กายฟังมากรึไง ทำไมถึงไม่รีบไปโรงเรียนห้ะ. .”ผมรีบเดินลงมาขัดจังหว่ะการสนทนาระหว่างไอคุณชายกับ ยัยเอิร์นไว้ ขืนมาช้า กว่านี้รับรอง ความลับๆ ต่างๆ ของผมได้เผยแพร่ให้มันรู้แน่ๆ เลยครับ

“วันนี้บราเดอร์ที่คุมนักเรียนไม่อยู่ค่ะ เอิร์นเลยไม่รีบ ว่าแต่พี่เจ เถอะ ทำไมถึงตื่นสายจัง ไม่รีบไปเรียนเหรอ” ยังครับ ยัยเอิร์นยัง มีหน้ามาย้อนคำถามผมกลับอีก และก่อนที่ผมจะกระโดดแฮ่มหัวน้องสาวตัวเอง ยัยเอิร์นก็รีบวิ่งออกจากร้านไปเรียนแล้วละครับ. .
“อ่ะ” กายมันเขี่ยๆแก้วกาแฟที่วางไว้ก่อนหน้า มาให้ผม ..  ผมหันไปสบตากับมันตาปริบๆ

“กูไม่กินกาแฟ. .” เหมือนมันจะดูเหวอๆ

“แล้วทำไมไม่บอก”

“ก็มึงไม่ถาม. . ” มันทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองผม. .เพื่อนผมไปพูดอะไรไม่เข้าหูมัน

“แล้วอยากกินอะไร เดี๋ยวกูไปทำมาให้” กายทำทีท่า กำลังจะลุกออกจากโต๊ะไป แต่ผมรีบรั้งแขนของมันเอาไว้ก่อน

“แล้วมึงกินอะไรอยู่. .”

“โอวันติน?”

“กินด้วยกันก็ได้ ^ ^.. นั่งลงเถอะ. .” ผมแอบเห็นกายมันอมยิ้ม แต่ก็ยอมนั่ง ลงพร้อมกับขยับมานั่งข้างๆ ผม

 แต่กว่าจะกิน กันเสร็จ (เอ่อหมายถึงโอวันตินหน่ะครับ) ก็ใช่เวลานานพอควรเพราะ มัว แต่กินหนึ่งคำ มองตาที. .สลับไปมาจนหมดแก้ว. . ผมรีบเดิน ขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไป ม. พร้อมกับกาย แต่ผมก็ยังแอบแปลกใจอยู่นิดๆ ว่าไอกายมันไปแอบเอาชุดนักศึกษามาจากไหน เพราะดูๆ แล้ว เสื้อที่มันใส่คงไม่ใช่ไซด์ของผมแน่ๆ นอกซะจากว่ามันจะแอบกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดในตอนเช้า แล้วกลับมาทำทีเหมือนกลับว่า ยังไม่ได้ไปไหน. . เพื่ออะไรนั้นสิ.. (มึงจะมานั่งคิดมากเพื่ออะไรวะเจ . . 
เวลาเกือบ ๆสิบโมงเช้า ตอนนี้ ผมอยู่ที่หน้าตึกคณะมนุษย์ศาสตร์ โดย มี คนขับรถประจำกายเป็นคนขับมาส่งครับๆ ทั้งๆ ที่ก็อุตส่าห์บอกแล้ว ว่าให้รีบ เข้าตึกเรียนของมันไปเลย แต่มันก็ยังจะรั้น มาส่งผมจนได้. . .

“อ้าวเจ  ว่าไง ไม่ได้เจอหน้านาน หล่อขึ้นรึเปล่าเนี้ยเรา ” จะเป็นเสียงใครไปไม่ได้ครับน้องจากพี่ริว พี่ชายสุดรักของผมเอง ^ ^ ไม่ได้เจอพี่แกมาเกือบเดือนแล้ว ความหล่อยังมีเท่าเดิม เพิ่มเติมคือพี่แก ขาว ขึ้นรึเปล่าเนี้ย สีผมก็แอบดูแปลกตา หล่อกะสวกไส้มากครับ -.-

“แหม่พี่ริวก็พูดไป. . แล้วนี้ กลับมาเมืองไทยนานรึยังครับ แล้ว....”

“ถ้าหมายถึงของฝากละก็. . นี้ไง !” พี่ริว ยื่นถุง ใบสีน้ำตาลใบใหญ่ที่วางไว้อยู่ข้างๆ ตัวแกมาให้ผม. . 

“ไหนๆ ไปต่างประเทศทั้งทีจะมีอะไรมาฝากน้องบ้างน้า อื่มมมม โห้!!!” ผมค่อยๆเปิดปากถุงสีน้ำเพื่อดูสิ่งของที่อยู่ข้างใน แล้วก็ทำให้ผมได้พบ.... ช็อคโกแลต...แม่เจ้า กี่แบรนด์กันละนี้  แต่ละชิ้นนี้ ไม่ใช่ถูกๆ เลยนะครับ โอ้ย ถูกใจ. . ไอเจหลายๆ ผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ พี่ริว พร้อมกับเอาหัวของตัวเองถูๆไถๆ ที่ไหล่ของพี่ริวจนแกต้องหันมายิ้มให้กับการกระทำของผม

“ขอบคุณครับพี่ริว ว่าแต่ทำไมพี่ริวถึงรู้ว่า ผม ชอบกินช็อคโกแลตละ. .”

“พี่มีสายบอกมา. .” น้องชาย . สายหรอ เอ๊ะหรือจะเป็น . .

“มันไปแอบบอกพี่ตอนไหนอ่ะเจ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย. . ”

“ซักประมาณ สองอาทิตย์ที่แล้วมั้ง เห็น บ่นว่า อยากให้พี่กลับมาเร็วๆ  แต่พอพี่กลับมาก็ยังไม่เห็นหน้าเลย. . เจเห็นบ้างรึเปล่า” พี่ริวยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวผม อย่างเอ็นดู

“เมื่อกี้ มันพึ่งมาส่ง เจ เองนะ แต่เจไล่มันกลับไปตึกเรียน แล้ว พี่ริวอยากเจอหน้ามันเหรอ ให้ เจโทรตามให้มั้ย. .”ผมกำลังกดโทรออกเบอร์ปลายทาง แต่พี่ริวบอก ยังก่อน .  . ไว้ว่างๆ ค่อย นัด ไปกินกาแฟสามพี่น้องกัน. .ผมก็พยักหน้าอือออตามพี่แกก่อนจะเก็บไอโฟนของตัวเองเข้ากระเป๋าไป.  .
ผมแยกตัวออกมาจากพี่ริวได้พักนึงแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลา ที่ผมจะต้องไปเอาความรู้มาใส่สมองหน่อยแล้ว . . หลังจากที่ห่างเหิน ไปนาน พอกลับมาอ่านทีนี้ลมแทบจับ ครับ ผมมองเห็นหนังสือเป็นตัวหนอน มองเห็นตัวอักษรเป็นดักแด้เลยครับ ทีแรกก็ตั้งใจ ว่าจะนั่งตั้งใจเรียน แต่พอเวลา ผ่านไปได้ไม่ถึงสิบนาที. .  หลับครับ กว่าจะสะดุ้งตืนมาอีกที ก็ตอน. . มีเพื่อนๆ ต่างคณะในคลาส เขย่าตัวเรียก ผมถึงตื่น. . .
ตกบ่ายผมมีเรียนอีกแค่วิชาเดียว แต่เป็นวิชา เดียว ที่ผมแอบโดดบ่อยมากที่สุด แต่วันนี้ไม่รู้ตัวเองนึกคึกอะไรถึงเดินเข้าห้องไปตั้งใจเรียนจนจบคลาส ต่างจาก เมื่อเช้าลิบลับเลย ละครับ ฮ่าๆ

 เวลาเกือบบ่ายสามโมง ผมนั่งรอ ไอวินที่ คณะของผมเองครับ เหตุเพราะขี้เกียจเดินไป คราวนี้เลยให้มันเป็นฝ่ายมาหาผมเองบ้าง ระหว่างนั้น ผมก็แอบส่องเฟส คุณแฟน.  . เห็นวันนี้มันโพสบ่นว่าเรียนหนัก. . อยากกลับบ้าน ซึ้งผมเองก็ไม่ได้กะจะแซวอะไรมันหรอกครับ ก็เลยได้แค่กดไลค์ แล้วเลื่อนผ่านๆ ไป. .  แต่เอ๊ะ. . คำข้อร้องเป็นเพื่อนเด้งขึ้นมา ผมกดเข้าไปดู ปรากฏใบหน้าที่ ค่อนข้างจะคุ้นเคย. . ไออะตอมครับ. .ผมกดตอบรับคำขอเป็นเพื่อนจากมัน และ กลับมาสนใจฟีดเพื่อนๆ คนอื่นๆ ต่อ . . และมันก็ยังไม่วายก่อกวนผมด่วน การส่งสติ๊กเกอร์มารัวๆ จน ไอโฟน ผมค้างไปหลายนาที . . 

“พ่อ  มึง  ตา ย. . ” ผมตอบแชทสั้นๆ ไปหาไออะตอมครับ ไม่รู้มันจะด่าผมกลับมาว่าไง

(ยัง ยังไม่ตาย เขา บอกรอ ได้อุ้มหลาน ก่อน) ไอนี้ก็ดันแช่งพ่อตัวเองอีกเอ้อ!

“ไม่มีเรียนอ่อมึง ว่างมานักรึไง ถึงมากวนตีนกูเนี้ย ”

(ก็ไม่ถึงกับว่างหรอกพักเบรก  ห้านาที)  เออจะว่าไป

“แล้วมึงหาโปรไฟล์กูเจอได้ไงวะ . .อย่าบอกนะว่าตามแกะรหัส ผ่านกูอีกนะ. . ”

(ป่าวๆ ที่แรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาหรอก แต่พอดีเข้าไป หน้าวอ ไอบีม แล้วเห็นหน้าคุ้นๆ ก็เลยลองแอดมา). .  บีมคงหมายถึงเพื่อน สุดที่รักของมันสิ น่ะ คึคึ

.”อ่ออย่างนี้นี้เอง”

.(เออเจแค่นี้ก่อนนะ หมดช่วงพักแล้ว ไว้ว่างๆ เดี๋ยวทักไปนะ)

“เออ มึง . . ตั้งใจเรียนนะ” ผมแอบหยอดๆมุขให้มันไปบ้างแต่ไม่คิดว่ามุขที่มันตอบกลับมาจะทำเอาผมช็อคไปเกือบๆ สามวิ

“ค้าบผม....จุ้บๆ ”  -3- จุ้บตีนกูมั้ยละมึง. . ห่า
.. . . . . .  . .

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“แฮ่!!”

“เหี้ย !!!” ผมสะดุ้ง แทบเขวี้ยงโทรศัพท์หลุดมือ หลังจากที่มีเสียงใครมาตะโกน อยู่ข้างหลังผม.  ไอเหี้ยวิน.

“แหม่ แค่นี้ทำ ขวัญอ่อน โอ๋ๆ  แต่ๆ เอ๊ะๆ เมื่อกี้กูเห็นนะ มึงแอบคุยแชทกับผู้ชายอยู่ใช่มั้ย ไอเจ เดี๋ยวนี้หัดแรดแล้วนะมึง ฮ่าๆๆ”

“แรดพ่อง เพื่อนกูต่างหาก”

“ใช่ปาว เจ!! (แอบเสียงสูงๆ)  มึงก็รู้เซนต์กูมันแรงเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้”

“(เซนต์เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ นี้มึงคงภูมิใจมากสินะ)”ผมแอบเบ้ปากบ่นพึมพัมไม่ให้มันได้ยิน

“แอบด่ากูอยู่ในใจละสิ สัด กูรู้หรอก” ป่าวครับกูด่ามึงออกสื่อเลย....

“อ้าวแล้วไหงมาคนเดียวแล้ว. .ไอกายละไม่มากับมึงด้วยเหรอ..” ไอวินมันทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะยอมบอกผม

“อย่าไปพูดถึงมัน เพื่อน ธรพี ! ว่าแตทำไมเดี๋ยวนี้ ทั้งมึงทั้งไอกายทำไมถึงถามหากันบ่อยจังวะ. . . แหนะๆ อย่าบอกนะว่ามึงสองคน แอบทำอะไรลับหลัง กัน แล้วกูไม่รู้ใช่มั้ย ไอเจ บอกกูมา. . ” ไอวินมันทำหน้า กวนๆชวนสงสัย เข้ามาใกล้ ผม แถมยังคะยั้นคะยอ. จะให้ผมตอบมันให้ได้ด้วย.  แต่ประทานโทษครับมึง. . สกิลเอาตัวรอดกูมีเยอะกว่า. .  ผมรีบถามแทรก จากคำถามที่ไอ วินพูดไว้ก่อนหน้าทันที

“ไอกายมันไปทำอะไรให้มึงโกรธอีกรึไง” แล้วก็ได้ผลเหมือนเคยครับ ไอวิน ลืมเรื่องที่จะแควะผมไปชั่วคราว และกลับมาเข้าโหมดดราม่าเหมือนเดิม

“แน่นอนว่ามันทำ?”

“ทำอะไร” จากที่ผม แค่แกล้งๆ ถามไม่ได้สนใจกับคำตอบ . . แต่ตอนนี้กลับอยากได้ยิน ถึงสิ่งที่ไอวินกำลังจะพูด. .ซะงั้น

“มัน. .  .. ไม่ยอมโดดเรียน มาเที่ยวกับกู ”พ่างๆ. . - -*

“แล้วมึงก็มานั่งด่ามันเนี้ยนะ ไอห่า คนที่ควรถูกด่าคือมึงไม่ใช่มัน. .”

“แต่กูก็พยายามหาเหตุผลดีๆ แล้วนะ แต่แม้ง ก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจด แม้งอย่างเดียว ไม่ยอม สนใจกูก็เลยนอย มันโดด เรียนมานั่ง คุยอยู่กับมึงเนี้ย” สรุปผม ควรจะด่ามันกลับไป รือควรปลอบโยนมันดีละเนี้ย เห้อๆ มีเพื่อน สติฟั่นเฟือนต้องทำใจครับ. .

“เออน่ากูเข้าใจ แต่กูว่าไอกายมันทำถูกแล้วแหละ ถ้ามันไม่คอยจดลิสไว้ แล้วถ้าคราวหน้ามึงจะตาม งานที่พวกอาจารย์เขาสั่งได้ยังไงละ จริงมั้ย. .” คำพูด ของผมน่าจะทำให้ไอวินคิดตามได้บ้าง

“เออ มันก็น่าจะจริงอย่างที่มึงพูดแหะ . . แล้วนี้ เราจะโดดไปไหนกันดีวะ กูยังไม่ได้คิดแผนการล่วงหน้าไว้เลย. .”

“ไปบ้านมึง กู อยากเล่น Ps4”

“อย่าเลยมึงป๊ากูอยู่ไม่อยากโดนบ่น งั้นไปที่ร้านกันมึง.  .กูอยากกินลาเต้..”

“ไม่ต่างกันแหละมึง.  . ” ที่บ้าน ถึงพ่อไอวินมันจะเป็นคนขี้บ่นมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ามาเทียบกับพี่สะใภ้ผมแล้ว. .แพ้ขาดลอยครับ ผมกล้าคอนเฟิม 5555

“งั้นจะไปไหนดี. .. ”

“นั้นสิไปไหนดี” ผมกับไอวินเอามือเกาคางใช้ความคิดอยู่นาน. . . .

.”งั้นไปทะเล  . ”

“พ่องมึงสิ”

“งั้นไปน้ำตก”

“แม่งมึงสิ”

“งั้นไป.  ”

“พอๆ ไอห่าพูดแต่ละอย่างยังกับว่ากูไปได้งั้นแหละ. ”

“เออจริงด้วยแหะมึง กลัวที่ๆมีน้ำเยอะๆ นี่หว่ากูลืมไปเลย. .  งั้นๆ”

“พอๆ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ นั่ง รอ. ด้วยกันที่นี้แหละ. . โอเคนะ!! ”ไอวินมันเงียบไปยอมตอบ แสดงว่าตกลง . .แต่พอผมหันไป กลับไม่เจอไอวินมันนั่ง อยู่ข้างๆ ผมแล้วละครับ ไอเวร นี้ไวจริงๆ - - * ผมก็เลยจำเป็นต้องนั่งรอคุณชายผู้ใฝ่เรียนอย่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวและเดียวดาย อะซิกๆ. . . สุดท้ายนั่งรอนานจัดหลับรอแม้งเลย. .ละกันคร่อก
Tr………. เสียงสั่นๆ อยู่ที่โต๊ะทำเอาหัวผมสั่นไปด้วย โอย เมื่อกี้ ก๋งกำลังจะให้เลขเด็ดผมเลย ใครมาขัดจังหว่ะว่ะ ..  . ผมเงยหน้ามอง รายชื่อ. . .กาย. . ผมรีบกดรีบสายทั้งที่ตัวเองยังสะลึมสะลือ. . 

“โหล” พูดไปพลางหาวไปด้วย . . ก็คนพึ่งจะตื่นนี่นา . .

  “เป็นอะไรเสี่ยงอ่อยๆ”

“อ่อยห่าอะไรกูพึ่งตื่นแล้วเมื่อไหร่มึงจะมาเนี้ย. . กูนั่ง นอน รอมึงนานละนะ. .   ก่อนจะหลับไปผมยังจำได้ว่าท้องฟ้ายังมีแสงแดดสาดส่องลงมาอยู่เลยแต่พอมองไปรอบๆ ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มครึ้มๆ ละครับ. . สงสัยจะหลับยาวไปหน่อย”

“รออยู่ไหน . ” เอ้าก็รอ. . . และก่อนที่คำพูดในความคิดผมจะหลุดปากออกไป ผมก็พึ่งคิดออกได้ ว่าตัวเอง ไม่ได้โทรไปนัดแนะหรือส่งข้อความบอกกายมันเลย. . . นั้นสิ มันจะไม่มาก็คงไม่แปลก. .เห้อช่างเถอะ ครั้งนี้ถือว่าผมพลาดเองที่ดันลืม. .

“อ๋อ..ยย อยู่ร้าน กูนึกว่ามึงจะมา. . ว่าจะช่วยติวหนังสือให้หน่อย. . ”

“ติวหนังสือ. . !! . ” แอบลากเสียงยาวๆ มัน คงคิดในใจ หน้าอย่างมึงเนี้ยน่ะอ่านหนังสือ . .ผมว่ามันคิดงี้ชัวเลย

“เออ แต่ช่างเถอะ แล้วมึงอยู่ไหน ละถึงบ้านรึยัง. . ”

“ยัง กำลังรอคนอยู่. . ” น้ำเสียงมันเหมือนแอบขำๆ อยู่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่านะ. .

“รอ รอใคร ?” . . ผมชักเริ่มไม่สบอารมณ์

“ก็. . มึงไง. . ”  .. . .  รอผม?

“รอกู รอทำไม?” มันจะรอผมทำไมกันในเมื่อผมอุตส่าห์บอกว่าตัวเองอยู่ร้านแล้วแท้ๆ - -* ชักงงๆ

“รอมึงเดินออกมาจากคณะซะทีไง กูยืนรอนานละเนี้ย” จบคำพูดของมันทำให้ผมต้องรีบลุกยืนขึ้นและหมุนตัวมองไปรอบด้าน ก็ไปสะดุด กับ. . ชะอุ้ย ไอกาย กำลังยืนยิ้มให้ผมอยู่ที่หน้าตึก .  .  ผมได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ รีบเก็บกระเป๋าและสมุดที่ไอวินมันวางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะก่อนจะรีบวิ่ง ไปหา มัน. .

“ไหนบอกอยู่ร้าน. หึ้”.. . .  ผมพูดอะไรไม่ออกเพราะกำลังหน้าแตกอยู่ ได้แต่ยืนยิ้มๆปนขำ หันซ้ายหันขวา โดยไม่มองหน้ามัน ทำเชิงๆ เมินๆ กลบเกลือน จริงๆ แล้ว ผมเสียเซลส์จนไม่กล้าสบตากับมันต่างห่างละ

“ห้ะๆ อะไรนะ ใครพูดอะไร ห้ะ ว่าง ง ไง. . .”การกระทำบ้าๆของผมถูกหยุดลงเมื่อ กายใช้มือทั้งสองข้างของ มันจับที่แก้มของผม และโน้มคอ ลงมาใกล้ๆกับ. . ปากของเราสองคนสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาและรวด เร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันได้แต่ยืนอ้าปากค้าง. . จนคนตรงหน้าผมต้องดีดนิ้วเพื่อเรียกสติ. .

“ไงละหึ้ หยุดเล่นได้รึยัง. . ป่ะกลับบ้านได้แล้วเดี๋ยวไปส่ง. .” ผมยืนนิ่งเหมือนคนไม่มีสติ  แต่ก็ยังพอรู้สึกได้ว่ามันกำลังดึงมือผมให้เข้าไปในรถพร้อมกับมัน. .

 กาย มัน ขับออกมาจากม.ได้สักพัก ผมได้แต่นั่งหันข้างมอง บรรยากาศ ข้างนอก พร้อมกับ จับ ริมฝีปากของตัวเอง ลูบเบาๆไปมา เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ นี้ผมกำลังเป็นอะไรอยู่. . นี้อาจจะไม่ใช่จูบแรกของผมกับกายผมรู้ดี. .แต่ทำไมการจูบครั้งนี้ ถึงทำให้ผมรู้สึก เหมือนพึ่งจะมีเฟิส คริส เลยละ . . . ยิ่งคิดใจของผมก็ยิ่งเต้นรัว. .ผมไม่กล้าที่จะหันสบตากับมันเลยทำไงดี.  .   ผมนั่งคิด ๆ จนนึกข้ออ้างที่จะไม่ต้อง หันไปมองหน้ามันตลอดทาง ออก

“ห๊าว. . ง่วงวะ. .  กาย ไปส่งที่ร้านทีนะ วันนี้เดี๋ยวจะไป ก . ก เก็บของ. . ถึงแล้วปลุกกูด้วยนะ.  .” กายไม่ได้ตอบ. . ผมก็ไม่ได้หันไปพูดอะไรรอบสองได้แต่นอน ข่มตาเอนหัวไปทางกระจก. .ตลอดทาง. .

  . . .  . . . . . .

ไม่นานนัก ผมก็มาถึงที่ร้านพร้อมกับไอกาย ผมชวนมัน เข้าไป กินอะไรก่อนกลับ แต่มันก็ส่ายหัวเพราะบอกว่าต้องรีบไปทำธุระ กับคุณพ่อ ผมก็เลยเออออ ห่อหม่กตามมันไป . .  ดี แล้ว ที่มันกลับไป ไม่งั้น ผมเองคงจะหาคำตอบให้กับอาการสั่นๆ เมื่อกี้ไม่ได้แน่ๆ . . .  ผมก้มมองดูนาฬิกา . . ตอนนี้เวลาทุ่มกว่าๆ ผมรีบเดินขึ้นห้องไป ขนสัมภาระ เตรียม พร้อมที่จะย้ายถิ่น. . ไปที่คอนโด หลังใหม่.  . โดยมีวินประจำตัวนั้นก็คิไอเหี้ยวินนั้นแหละครับ ที่มา รับส่งผม. . ตอนแรกก็กะจะพามันขึ้นไปชมห้องด้วยกันหน่อยแต่ไอเวรนี้ พอส่งผมถึงหน้าประตูปุ๊ป มันก็เปิ่นแน่บหายไปอย่างรวดเร็ว. . เหอะ มันจะรีบไปไหนของมันนะ. .
. . . . . . .  . . .
ผมเดินมาถึงหน้าห้อง 302  ยืนเคาะเรียกบุคคลด้านในแต่ก็ดูเหมือนจะไร้เสียงตอบกลับ . . สงสัยมันคงจะออกไปข้างนอกละมั้ง.  แต่ถ้าลองนึกดีๆ แล้วรู้สึกเหมือนผมเองก็มีกุญแจสำรองอยู่ดอกนึง.. ถ้าไม่ติด ที่ว่า เผลอลืมวาง ไว้ที่โซฟาเมื่อวันก่อน  โง่ดีมั้ยละ ไม่งั้นป่านนี้ ผมคงจะได้ เข้าไปนอนสบายใจเชิ่บ แล้ว เห้อ เบื่อกับความขี้หลงขี้ลืมของตัวเอง.  . ผมเลยนั่งฟุบเล่นเกมส์ในไอโฟนอยู่ที่หน้าประตูเพื่อรออะตอมมันกลับมา

. . . . .  ..  . . .   และไม่นาน นักเสียงของลิฟฟ์ก็เปิดออกพร้อมกับอะตอม ที่เดิน ถือถุงอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด
“อ้าว เจ มาได้ยังไงอะ แล้วนั่งรอตรงนั้นทำไมๆถึงไม่เข้าไปนั่งในห้อง. . ”ประเด็นคือถ้ากูมีกุญแจ กูก็คง ลงไปนอนยิ้มอยู่บนโซฟาแล้ว ละครับ มึง. .

“รอเจ้าของห้องเขามาเปิดให้  ไม่อยากเปิดเข้าไปเอง มันเสียมารยาท. .” จริงๆ ก็อยากจะพูดออกไป นะครับว่า ผมลืมกุญแจไว้  ในห้องแต่เพราะมัวแต่ติดนิสัยขี้ระแวงกลัวหน้าแตก . .  เดี๋ยวมันจะล้อผมเอา(เหตุการณ์นี้ส่วนมากจะเกิดกับ ผมกับไอเชี้ยวินเท่านั้น) ถึงมันอาจจะไม่เกิดขึ้นระหว่างผมกับไออะตอม แต่ จะไม่ให้คิดมันก็ไม่ได้ . .

“ไม่ใช่ว่าลืมนี้หรอกหรอ” อะตอมมันล้วงหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อของมัน ชูขึ้นมาเหนือหัว.  . ผมพูดอะไรไม่ออกนอกจากเดินไปหยิบกุญแจที่มือมันอย่างเงียบๆ และเบา มือ แอบเห็น มันขำคิกๆ อยู่ในลำคอ. .  เหมือนสะใจที่ยืน มองดูผมตอแหล แบบเนียนๆ ใส่มัน
.  . . . . . . . . .

พอเดินเข้ามาในห้องผมก็สามารถรับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่ดูเปลี่ยนไป. .  กางเกงในที่เคยวางไว้ข้างๆ โซฟาตอนนี้ ก็ไม่มีอยู่แล้วครับ. .เห้อโล่ง อกนึกว่าจะต้องนอน พร้อมกับ กางเกงในอีกรอบซะอีก.  แต่ถ้าลองสังเกตที่โซฟาดูดีๆ แล้วก็จะเห็น ตุ๊กตาหมีบราวตัวโตๆ วาง อยู่ ข้างๆโซฟาอีกฝั่งนึง. .ครั้งก่อนที่ผมามันยังไม่มีนิ่ ผมค่อยๆ เดินนิ่งๆ เข้าไปนั่งแบบเนียน จนมือของตัวเองเผลอไปคว้า หมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีก ที ก็ได้ยินเสียง หัวเราะดัง ลั่น จาก คนที่ กำลังยืนค้ำหัวผมอย่างสะใจ. 


“ขำอะไรของมึง. . ”

“ก็ขำมึงนั้นแหละ. . ฮ่าๆ ” ทำไมๆกันเด็กผู้ชายจะชอบตุ๊กตาหมีไม่ได้เลยรึไงกัน.. . โด่วว นี้มันยุคไหนละหนู

“กูก็แค่ชิน มือ ปกติตอนนั่ง มันก็ต้องมีอะไรมาวางที่ตัก. . ก็เลยหยิบๆ มาเฉยๆ ไม่ได้ชอบอะไรเลย จริ๊งๆ”

“แต่หมอนอิงข้าง ๆ ก็มีนะ. ”ผมรู้สึกหน้าชาทันทีที่หันมองตาม. .

“เอาหน่ะๆ  ความลับนะมึง ว่าแต่มึงออกไปไหนมาดึกๆ ดื่นๆ ไม่หมกตัวอยู่ในห้องแล้วรึไง. .”

“ก็ออกไปหาอะไรกินนิดหน่อย. .” แต่จะว่าไป ตั้งแต่ตอนบ่าย ผมก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยแหะ พอได้ยินเรื่องของกินขึ้นมาปุ๊ปทอมันก็ร้องขึ้นมาปั๊ปเลย. .  ผมกลืนน้ำลายตาม เอื้อกๆ พร้อมกับ มองไปที่ ถุงในมือมัน. .

“แล้วนี้กินอะไรมารึยัง หิวรึเปล่า ”หู้วดีใจจังเลยที่มันถามม”

“ก็กินมาบ้างแล้วหล่ะ แต่ถ้ามึงเอ่ยปากชวนขนาดนี้กูจะกินเป็นเพื่อนตามมารยาทก็ได้เอ้า. .”

“เปล่าชวนแค่ถามเฉยๆ คิดไปถึงไหนละหน่ะ ฮ่าๆ” โถ่ไอฟลัด !

“กูออกไปหากินเองก็ได้ ถ ถ ถ น้ำใจคนไทย”

“อ่ะๆ ล้อเล่นๆ งั้นไปช่วยหยิบจานให้ที สิ อยู่ในครัว ตรงตู้ริมฝั่งซ้ายนะ ถ้าไม่เจอ ก็ลอง ดูตรงลิ้นชักข้างล่างอะ” ผมรีบวิ่งไปพร้อมกับสอดส่องหาจานชาม ตามจุดที่มันบอก ก่อนจะหยิบ มานั่ง ลงที่โซฟากลางห้องดังเดิม. .

“เออ เจเดินไปหยิบน้ำกับแก้วให้ทีสิ. .” ได้ทีละใช้กูใหญ่เลยนะ   . . แต่พอเปิดตู้เย็นก็ทำเอาผมเอะใจเล็กน้อย. .ทั้งๆ ที่ในตู้เย็น ก็มี เนื้อ นม ผักและสารพัดของอื่นๆ ที่สามารถทำกินเองได้ แต่ไหง กลับ ออกไปซื้อกินข้างนอกซะละ

หลังจากที่กินเสร็จผมก็ช่วย อะตอมเก็บถ้วยชามไปล้าง. .โดย อะตอม ล้าง น้ำแรก ผมล้างน้ำสะอาด . . ระหว่างนั้นผมก็หาเรื่องมันชวนคุย เพราะกลัวบรรยากาศในห้อง จะเงียบเกินไป 

 “เออ อะตอม เมื่อกี้ตอนกูเปิด ตู้เย็น กูเห็น เนื้อ หมู ไก่ ผัก บลาๆ เยอะแยะไปหมด. . แล้วทำไมถึงออกไปซื้อกินเองข้างนอกละ. .ทำไม่เป็นหรอ. ”

“ไอเป็นหน่ะมันก็เป็น. .แต่ ทำกินคนเดียวแล้วมันแปลกๆ นานๆทีถึงจะทำ”

“แล้วปกติตอนมึงอยู่กับไอ้....มันชื่ออะไรวะ เออ ไอบีมอ่ะ มึงเคยทำให้มันกินป่ะ . .” อะตอมยืน นิ่ง ทำหน้าเครียดๆ เหมือนใช้ความคิด

“เอ่อคือถ้าจะคิดนาน ขนาดนั้นกูว่าอย่าบอกเลย มึง”

“อืมก็มี ครั้งสองครั้ง ”

“แล้วต่อจากนั้นหล่ะ”

“ไม่เคยอีกเลย.  ”

“แล้วมึงทำอะไรเป็นบ้างละ ” ผมจัดจานที่ล้างเสร็จใส่ตะแกลง ข้างๆ ก่อนจะแอบ เช็ดมือกับเสื้อของมัน

“ก็หลายอย่าง. . แต่จะเลิกเนียนเช็ดได้รึยัง เปียกหมดละเนี้ย”อะอ้าวรู้ตัวหรอกหรือนี้แหม่อุตส่าห์ทำเนียนๆ ละนะ

 “งั้นพรุ่งนี้ทำกินกัน”

“ไม่เอาอะขี้เกลียดทำไปก็ไม่มีใครกิน. ”

“ทำไมอะ รสชาติมันแย่ขนาดนั้นเลยอ่อ”

“ก็เปล่าหรอกแค่พอเวลาทำ แล้วคนกินมันไม่ค่อยอยู่ ” คงหมายถึงเพื่อนเก่ามันสินะ

“เอาน่าๆ เดี๋ยวกูอยู่กินเป็นเพื่อนเอง ช่วยเป็นลูกมือด้วยก็ได้อะ. .” ผมแอบเห็นๆ มันแสะยิ้มเหมือนกำลังวางแผนอะไรอยู่

“อืมไว้ดูก่อนละกัน ถ้าเลิกไว อาจจะกลับมาทำ แต่ ถ้า เย็น ก็ เอาไว้วันอื่นนะ. ” ผมพยักหน้าตอบเป็นอันตกลง. .
. . . . . . ..

ผมกับอะตอมรีบช่วยกันล้างจากให้เสร็จก่อนจะรีบแยกย้ายกันไป อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอน . . ผมกลับมานั่งที่โซฟาของตัวเอง นั่งเล่นโทรศัพท์ อ่านฟีดคนอื่นๆ แต่แล้วจู่ๆ . .ไอกายก็โทรมา.

‘โหล โทรมาดึกดื่นมีธุระอะไรคนจะหลับจะนอน วุ๊” ผมจะกล้าพูแบบนี้ก็ต่อเมื่อ เวลาอยู่ห่างจากมันเท่านั้นแหละครับ ขืนพูดไปในระยะเผาคนมีหวังผมได้ซี้แหงแก๋แน่ครับ

“ก็อยากได้ยินเสียง แล้ววันนี้นอนไหน ได้นอนที่ร้านรึเปล่า”

“เปล่าวันนี้ นอน หอข้างๆ ม. อะ ”

“หรอ แล้ว พี่อินเป็นไงบ้าง”เดี๋ยวๆนะผมเริ่มแหม่งๆ ละ

“โทษนะครับคุณชาย ถ้าจะโทรมาถามไถ่ความเป็นอยู่ของ คุณนายอิน รบกวนติดต่อ เบอร์อื่นนะครับ ห่า ”

“ ป่าวๆ ฮ่าๆ อยากจะแกล้งให้หงุดหงิดเล่นเฉยๆ”ไอนี้ท่าทางจะจิตเบาๆ นะมึง

“เออคุณชาย มึงไปแอบคุยกับพี่ริวตอนไหนวะ ตอนอยู่ที่บ้าน กูก็เห็นมึงอยู่กับกูตลอดนี้หว่า.  ” จะว่าไปผมก็พึ่งจะนึกเรื่อง เมื่อเช้าออก เรื่องที่พี่ริวบอกว่ากายแอบโทรไปหา ไม่รู้ว่าแอบเผาเรื่องของผมบ้างรึเปล่า. .

“เปล่าแอบนิ ก็โทรคุยแค่ครั้งเดียว ตอนที่ไป BIG C กับ พี่เจมส์  และก็ไม่ได้โทรหาอีกเลย. ”

“เออ แล้วไป ” นึกว่ามันจะแอบเผาเรื่องผมกับพี่ริวแล้วซะอีก

“ถามแบบนี้มีอะไรรึเปล่า?”

“เปล่าๆไม่มีอะไร นี่ก็ดึกมาแล้ว นอนได้ละมึง. .”

“รีบไล่กูเพราะจะแอบไปคุยกับใครใช่มั้ย”

“คุยบ้าอะไรเล่า ดึกดื่นขนาดนี้ กูจะคุยกับใครได้ละจะมีก็แต่. . มึงนี้แหละ ”

“ให้มันจริง เจ อย่าให้กูรู้ว่ามึงแอบไปคุยกับคนอื่น ที่ไม่ใช่กูนะ ไม่งั้น ทั้งมึงและ มัน. . . คงไม่ต้องให้กูพูดนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น !!”

“คร้าบ ผม แฟนผมดุขนาดนี้ผมไม่กล้านอกใจหรอกคร้าบบแหม่ๆ ” ผมแอบเหล่ มองเวลา ตอนนี้ก็เกือบๆจะเที่ยงคืนแล
ว คงได้เวลาเหมาะแกการ นอนเต็มที

“เออกาย เดี๋ยวกูต้องไปนอนละนะ  พรุ่งนี้กูมีเรียนเช้าด้วย กลัวตื่นสาย”

“ทำอย่างกับมึงเคยตื่นเช้า. ขนาดมีนาฬิกาปลุก มึงยัง ไม่ยอมตื่นเลย”. . นี้มันคงตั้งใจจะแควะผมเรื่องนี้ใช่มั้ยห้ะ. .

“เออน่า กูง่วงแล้ว.  .นอนนะๆ”

“อื่อๆ งั้น คืนนี้ก็ฝัน ดีละกัน. . อย่าลืมฝันถึงกูด้วยละ. ” ถ้าได้นอนฝันถึงมึงกูคงนอนไม่หลับแน่ๆ ละครับมึง. .

“เออ มึงก็ รีบๆ นอนซะละ อย่าอ่านหนังสือหนักเกินไปนะมึง ระวังเดี๋ยวฉลาด. .”

“มึงก็หัดอ่านหนังสือบ้างนะ จะได้ไม่โง่”ฉึก ไอสัด รู้สึก เหมือน ถูกมันหลอกด่า
 
ผมวางสายจากไอคุณชายไปแต่ก็ยังไม่วายจะส่งข้อความมากวนประสาทผมอีก.  .

“ถ้ามึงฝัน ถึงคนอื่น มึงตาย คุยกับคนอื่นก็ตาย แอบส่อง ก็ตาย . .  หึหึ.. ” นับวันสกิลความหึงหวง+ระแวงมันก็ ยิ่งอัพ ความโหด ป่าเถื่อน เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนผมเองก็แอบคิด ลึกๆ นะ ว่า ไอกายเวอร์ชั่น ก่อน กับปัจจุบัน นั้น มีความต่างกัน ถึง เกือบ 10 เท่า. . แต่ในสิบเท่านี้อาจจะมีทั้งด้านดีและด้านเสียปะปนกันอยู่แต่ก็อย่างว่าแหละครับ หากขาด องค์ประกอบ ส่วนใดส่วนหนึ่ง ของ ด้านนึง ไป  มันก็อาจไม่ใช่ตัวของมันเองก็ได้. .  ยิ่งพูดมาก ยิ่งงง เอง งั้น รีบจบๆ ตอนเลยละกันละครับ

บรัยย !! -.-


TBC . . . . . . .  . . . .

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ติดตามกันต่อ

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
อยากเห็นกายหึง

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter27: วันสำคัญ【ที่ดันลืม 】

เช้าวันศุกร์สุดทรหด ณ โรงอาหาร ตึกคณะ มนุษย์ศาสตร์ ผมกับไอวินเราสองคนพากัน ออกมาจากที่พักกัน ตั้งแต่เช้า เหตุผลเพราะว่า ไอวิน มัน บอกว่ามีธุระสำคัญ ซึ่ง ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ ว่าจะรีบโผล่หัวมาทำซากอะไร (แล้วจะลากผมมาด้วยทำไม. .)

ทั้งๆที่มันบอกว่านัดไว้ตอน เที่ยงๆ แต่เวลาในตอนนี้ พึ่งแปด โมงกว่าๆเอง ตัวผมทั้งเครียดทั้งปวดหัว เมื่อคืนก็นอนน้อยกว่าจะหลับได้ก็เกือบๆ ตีสี่ แถมวันนี้ ยังต้อง ตื่นมาที่ม. พร้อมกับมันตั้งแต่เช้าอีก. . .  วันนี้เลยถูกนับว่าเป็นวันสุดบัดซบวันนึงที่ผมต้องพบเจอมาตลอดทั้งสัปดาห์เลยละครับ หึหึ !

“เจ มึงว่า ตุ๊กตาหมีสีขาว กับตัวนี้สีน้ำตาลตัวเนี้ย มึงว่าตัวไหน แพม เขาจะชอบวะ. .” วินมันยื่นไอโฟนของมันที่ มีรูปหมีสอง ตัวกำลังนั่งอยู่ข้างๆ กันพร้อมกับถามความเห็นผม แล้วผมก็มารู้ความจริงที่หลังว่า ธุระสำคัญที่มันพูดถึง น่าจะเป็น เรื่องผู้หญิงครับ เหอะๆ. .

“กูว่าก็เหมือนๆ กันแหละ ”

“เหมือนห่าอะไรละ ตัวนี้สีขาวส่วนตัวนี้สีน้ำตาล . . ”

“ก็แค่สีปะวะ มึงลองสังเกตดูขนาดตา จมูกปาก แถม ไอโบสีแดงๆนั้นยังมีเหมือนกัน อยากได้ตัวไหนมึงก็ซื้อเอาดิ่. .”จริงๆ ผมเองก็ไม่ค่อยจะเข้าอารมณ์ในการเลือกอะไรสักอย่างของ มัน แต่นานๆ ทีจะเห็นมันเริ่มที่จะจริงจังกับใครสักคน. .เพื่อนสุดแสนจะดีอย่างผมเลยต้องอยู่เป็นที่ปรึกษาก่อนลง สนามจริงให้กลับไอเชี้ยวินมันนั้นแหละครับ

“แล้วมึงว่าตัวไหนสวยอ่ะ” ผมเริ่มชักเบื่อๆ กับความเยอะของมัน ที่เอาแต่ถามเซ้าซี้ ผมเลยชี้ นิ้วเลือกอย่างสุ่มๆ แต่ผลที่ออกมาก็คือตรงกันข้าม ครับ . . . โดย เพื่อนวินสุดที่รัก ให้เหตุผลที่โคตรจะฟังขึ้นว่า

“ที่กูขอให้มึงเลือกเนี้ยเพราะกูรู้ว่าเซนต์เรื่อง เลือกของๆมึงเนี้ยโคตรรจะห่วย เลยลอง ถามดู แล้วแม้งก็เป็นอย่างที่กูคิดไว้ไม่มีผิดเลย . .แต่ยังไงก็ขอบใจนะมึงที่อุตส่าห์ ช่วยเลือก”  หึหึ ถ้า ผมจะเลิกคบกับไอเชี้ยวินวันนี้ตอนนี้เลยจะมีใครว่าอะไรมั้ย หึหึ ไอเราก็อุตส่าห์หวังดีมานั่งช่วยเลือก ยังจะสอใส่เกือกมานั่งด่าผม อีกซะงั้น ไอเพื่อนเวร.  . .

ผมกับไอวินเรานั่ง รอกันอยู่ ที่คณะจนเกือบๆ จะเที่ยงๆ แต่ก็ยังไม่เห็นมีวี่แวว ว่าจะมีสาวๆ คนไหน โผล่ หน้ามาให้ผมกับไอวินได้เห็นกันเลย. .  นึกๆ แล้วประชากร ผู้หญิงในคณะผม นับว่าขาดแคลนมากครับ . . แต่ถ้าจะให้เทียบคณะผมกับ คณะนิเทศศาสตร์  นับว่า แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยละครับ. . .

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ จนชนะด่านสุดท้ายใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงกว่า แต่ก็ยังไม่เห็นจะมี ใครเดินเข้ามาที่ โต๊ะที่ผมกับไอวินนั่งอยู่เลย จนผมชักเริ่มเอะใจว่า ทางฝั่งผู้หญิงน่าจะเป็นฝ่ายเบี้ยวนัด ผมกำลังจะหันไปถาม ขอความเห็นจากไอวินว่าควรจะเอาไง ต่อ เพราะ อีกไม่ถึง 20 นาที ก็จะได้เวลา ที่ผมต้องเข้าห้องเรียนกับเขาบ้างแล้ว. . 

“ไอวิน ไหน คนที่มึงนัดไว้วะ ไม่เห็นจะมา.... ” อ้ะ อ้าว ไอวินมันหายไปไหนของมันอีก แล้ว เป็นอย่างนี้ทุกทีเผลอไม่ได้เป็นหายตลอด ผมรู้สึกนึกโมโหขึ้นมา กะว่าจะโทรด่ามัน สักหน่อย แต่ระหว่างที่ กำลังยกโทรศัพท์กดเบอร์ไปหาไอวิน ก็มีสายเข้ามาซะก่อน นับว่ามันโชคดีไปครับ หึหึ .  .. กาย

“เออ”

“เป็นอะไร. . ”

“ป่าว”

“ป่าวแล้วทำเสียงอย่างนั้นทำไม. ”

“เออไม่มีอะไรหรอกน่า”

“ โทรมามีอะไร”

“ถ้าไม่อยากคุยวางไปก็ได้นะ กูไม่ว่าหรอก อีกย่าง ถ้ากูจะโทรหามึงจำเป็นต้องมีธุระด้วยเหรอ ? .  .” อ้าวๆ ซวย แล้วนี้ผมเผลอใส่อารมณ์กับไอกายไปหรอกเหรอเนี้ย ผมไม่รู้ตัวเลยจริงๆ นึกว่าตัวเองกำลังคุยกับไอวินอยู่ซะอีก. . ชักมึนๆ

.”เห้ย ๆ กาย อย่านอยกูนะเว้ย กู แค่เครียดๆ เรื่องไอเหี้ยวินนิดหน่อย หว่ะ กู ขอโทษ คือ. . ”

“เออกูไม่ได้โกรธอะไรมึงหรอกแค่แปลกใจ แล้วนี้อาบน้ำแต่งตัวรึยัง ให้กูไปรับมั้ย?”

“อ่อไม่เป็นไร ตอนนี้กูอยู่ที่คณะแล้วกำลังจะเข้าเรียน   แล้วมึงอะอยู่ไหน ทำอะไรกับใครอยู่. . ไม่มีเรียนอ่อ”

“วันนี้ไม่มีเรียน เลยนอนอยู่บ้าน มึงเรียนเสร็จกี่โมงอะ เดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน. .”

“เกือบๆสี่โมงอะมึงๆงั้นเดี๋ยวกูบอกให้ไอเซิฟ จดไว้ให้ก็ได้ มึงอยากกินอะไรละ?”ในระหว่างที่ผมกำลัง รอฟังคำตอบจากปลายสายก็เริ่มๆรู้สึกว่าทางนั้นเงียบไป
“ฮัลโหล. . ฮัลโหล ได้ยินกูมั้ยเนี้ยกาย.ฮัล”
“เซิฟคือใคร ?” น้ำเสียงของมันดูนิ่งๆ ฟังแล้วชวนเอาผมเสียวสันหลังวาบ

“เซิฟมันเป็นเพื่อนในคณะกูมึงคิดไปไหนละนั้น อย่าบอกนะว่ามึง .  หึงกู. . .”

“เออกู หึง แล้วกูก็ไม่ชอบใครใครมายุ่งกับคนของกูด้วย. .” ผมเผลอยิ้มออกมาตอนได้ยินที่มันพูดว่า .คนของกู. . . ฟังแล้วมันรู้สึกหวิวๆ ยังไงไม่รู้แหะ  ><

 “คร้าบ รู้แล้วคร้าบ  งั้นเดี๋ยวกูรีบวิ่งเอาสมุดขึ้นไปให้ไอเซิฟมันก่อนนะ เดี๋ยว กูรีบลงมา”

“กูไม่รีบ. .มึงขึ้นเรียนเถอะ.  . ” คนเขาอุตส่าห์จะโดดเรียนเพื่อไปหาแท้ๆ กลับไม่ชอบ. . เอ๊ะๆ แต่ไหงวันนี้ ไอกายมันดันปฏิเสธซะได้. .


ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“กายมึงโกรธกูป่าวเนี้ยถามจริงๆ ทำไมวันนี้ทำตัวแปลกๆ ห้ะ ปกติ มึงไม่เป็นแบบนี้ๆนี่หว่า”

“ที่กูบอกให้ขึ้นไปเรียนเพราะมึงจะได้ไม่ต้องไปนัดพบเจอ  เรื่องเอาสมุดกับมันทีหลังอีกไง. . ” แต่บางทีผมกับมันก็เจอกันแทบจะทุกวันป่าววะ เรียนคณะเดียวกันนะเฟ้ย จะให้เอากระสอบคุมหัวเรียนรึไงกัน . 

“อ๋อ เออๆ งั้นเดี๋ยวกูขึ้นไปเรียนก่อนละกันงั้นอะ คิดได้ละโทรมาบอกนะครับ. .ตัวเอง”

“อือ”

“เคๆงั้นกูขึ้นไปเรียนละนะ อย่าลืมหาอะไรลงพุงด้วยหละมึง. . =3=”

ผมวางสายจากไอกายได้ 5 นาทีก็ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องเรียน กำลังที่จะเปิดเข้าไป แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดันดันขึ้นมาซะอีก(ขยันดังจริงๆ)(วิชานี้อ.ปราโมทย์แกเข้มเรื่องการตั้งใจเรียนของนักศึกษามากๆครับ ต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดและห้ามแอบเล่นในชั่วโมงเด็ดขาด เพราะถ้าหากอ. แกเกิดเห็นขึ้นมารับรองได้รับ D ด็อกตัวใหญ่ๆ ไว้รับประทานแทนข้าวเที่ยงแน่ๆ ครับ) ผมมองดูไปที่เบอร์ที่โทรเข้ามา. . อะตอม. .  ผมทำท่าลังเลว่าควรจะรับสายตอนนี้ดีมั้ย เพราะอีกมีกี่ นาที

อ.ปราโมทย์ก็จะล็อคห้องแล้ว แถมเพื่อนๆ สองสามคนในนั้นที่เห็นผมยืน งึกๆงักๆ อยู่ก็กวักมือเรียกผมให้รีบเข้าไป ในคลาส ในหว่ะหว่างนั้นผมยืนคิดอยู่สองจิตสองใจว่าควรจะรับ ดีมั้ย หรือควรจะรีบเดินเข้าไปเรียน ดีแต่สุดท้ายผมก็กดรับเพราะคิดว่ามันอาจจะมีธุระอะไรก็ได้ แต้ถ้าหากโทรมาหยอดมุขห่าส้นตีนอะไรตอนนี้ละก็รับรอง กลับไปมีตื้บครับ. .

“ฮัลโหล. . ว่าไงมึง” ผมกล่าวคำทักทายด้วยน้ำเสียงที่ดูไพเราะ(มั้ง)

“ฮ.ฮะ.....”ปลายสายยังทำเสียงอ้ำๆอึ้งๆ ทำเอาผมจับใจความไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะสื่ออะไรกับผมอยู่

“ถ้าจะโทรมากวนตีนไว้เวลาอื่นนะมึง ตอนนี้กูมีเรียน ไว้ กลับไป. . . ”

“เพล้ง!!” เสียงมีสิ่งของอะไรบางอย่างตกแตกดังมาจากปลายสาย ผมชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูไว้และตั้งใจ ฟังเสียง จากคนในสายให้ชัดมากที่สุด เท่าที่ตัวผมเองจะพอได้ยิน

“ฮัลโหลอะตอม มึงได้ยินกูมั้ย ฮัลโหล เห้ย อะตอมมึงเป็นอะไร??”

“เจจจจจจจ!”ผมได้ยินเสียงอะตอมมันกำลังเรียกชื่อผมอย่างยาวเยียดเหมือนมันพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดูโอดครวณ เหมือนมันกำลังเจ็บปวดปวดอะไรซักอย่างอยู่. . .

“เฮ้ยอะตอมใจเย็นๆ มึงเป็นอะไรบอกกูดิ่. . ตั้งสติหายใจช้า. .แล้วค่อยๆ พูด” ผมยืนลุ้นคำตอบของอะตอมอยู่ที่หน้าประตู ทั้ง เพื่อน ในคณะและอาจารย์ ต่างพากันหันมามองผมที่ยืนอ้ำอึ้งๆอยู่ที่หน้าประตูไม่ยอมเข้ามาสักที ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง นาที ที่ผม จะสามารถเดินเข้าห้อง เพื่อเข้าเรียนร่วมคลาสกับเพื่อนได้. . แต่ในจังหว่ะเดียวกัน ผมก็ตัดสินใจที่ จะปล่อยมือออกจากบานประตูและ รีบวิ่งออกจากตึกคณะของตัวเอง เพื่อ รีบ ตรงไปที่ คอนโดข้างๆ ม.ที่ ไออะตอมมันอยู่. .  ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้

อะตอมได้อยู่ที่ห้องมั้ยผมรู้แต่ ว่าถ้าหากผมไม่ไปหามัน อะตอมมันก็ไม่มีใคร เลย นอกจากผม. .แล้วยิ่งตอนฟังน้ำเสียงผ่านโทรศัพท์ผมยิ่งแอบ คิด มากไม่ได้ทุกที กลัว มันจะเป็นอะไรไป บาง คนอาจจะตั้งคำถามขึ้นมาว่า มันใช่เรื่องหรอ ที่ผมต้องมา เที่ยววิ่ง ตามดูแล คนอื่นๆ ไปทั่วขนาดนี้ . .สำหรับคนอื่นผมก็ไม่สามารถให้คำตอบได้นะ แต่ถ้าสำหรับผมแล้ว เพื่อนๆ ทุกคนก็เปรียบ เหมือนคนในครอบ ครัวของผมแล้วทั้งนั้นแหละ. . ให้ทำไงได้  นิสัย แบบนี้ ของผมมันแก้ไม่เคยหายสักที . .. . .

ระหว่างขึ้นลิฟฟ์ผมคิดอยู่อย่างเดียวคือ ขออย่าให้มันเป็นอะไรเลย . . หรือถ้าหากเกิดเหตุการณ์อะไรที่ๆไม่คาดฝันก็ขอให้มีคนมาเห็นและ ช่วยมัน ที . . ..  ลิฟฟ์ถูกเปิดออก ขณะที่ตัว ผมกำลัง วิ่งตรงไปยัง ห้อง 302 ผมไม่รอช้ารีบหยิบกุญแกขึ้นมาไขห้อง และรีบเดินไปเคาะ ห้องของอะตอม แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ. .ผมลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ยิ่งทำให้ผมแน่ใจว่าอะตอมต้องอยู่ด้านในของประตูไม้บานนี้แน่ เพราะเสียงริงโทนของมัน ยังดังแพดเสียงดังอยู่ข้างใน. .  ผมใช้มือทุบๆ เรียก ชื่อมันอยู่

หลายที แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ จนผมคิดที่จะพังประตูเข้าไป แต่ ถึงจะพยายามแค่ไหน ร่างกายของผมมันก็ไม่เอื้ออำนวยอะซะเลย ประตูไม้บานใหญ่กว่าผมมาก  ผมพยายามใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมด.  . ตั้งท่าวิ่งเข้าชนประตูบานหวังจะพังเข้าไป แต่เหมือนยิ่งทำไปก็เสียแรงเปล่า. .  ผมเลยลองชิวิธีสุดท้ายนั้นก็คือ การสะเดาะกลอน.  . แต่มันก็เหมือนมีใครมาเล่นตลกผมเมื่อลองบิดดู

ปรากฏว่าห้อง ของอะตอมมันไม่ได้ล็อค อยู่ ผมเลยรีบวิ่งเข้าไปด้านในห้องและภาพที่ผมเห็นคือ  . . .อะตอม. . .กำลังนอน หน้าฟุบอยู่กับพื้นอยู่ แถมยังมีเศษแก้วแตกกระจายอยู่ทั่วห้อง ผมรีบเดินไปพยุงตัวอะตอมที่นอน สลบอยู่ ให้หงายหน้าขึ้นมา. . . ระหว่างที่มือของผมสัมผัสเข้ากับต้นคอของอะตอมผมรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ้าน ไปทั่วมือของผม. . ผมรีบช่วนพยุง ดันตัวของอะตอมให้ขึ้นไปนอนอยู่ที่เตียงก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา กล่องตัวบวกที่คิดว่าหน้าจะมีอยู่ภายในห้องนี้บ้าง แต่กลับมีเพียงถุงยาเพียงไม่ กี่ อย่าง มีแค่ยาแก้ไอ แก้เจ็บขอ และ ยาบรรเทาอาการปวดเมื้อยกล้ามเนื้อเท่านั้นเอง. .  จนอยู่ๆ ก็ลืมนึกขึ้นได้ว่า

ตัวผผมเองอาจจะเอาพวกยาสามัญ ติดกระเป๋ามาบ้าง แล้วก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ ครับนับว่าโชคดีไป. . ผมเดินไปหยิบน้ำ ขวด ที่อยู่ในแพ็คข้างๆ ตู้เย็นถือมาพร้อมกับยา 4 เม็ด ผมพยายามพยุงพอให้มันลุกขึ้น และเรียกสติ อะตอมมันหลี่ๆ ตามมามองผม แต่ก็ยัง มีกะจิตกะใจจะส่งยิ้ม กวนๆ ให้ผมอีก เห้อ ผมรีบ วางยาไว้บนมือของมันก่อนจะ ยกขวดน้ำ ให้มันดื่มตาม. . .

ผมนั่งเฝ้าดูอาการของอะตอม อยู่พักใหญ่ จากที่มันนอนขดตัวเหมือนกำลังเจ็บปวดอยู่ จนตอนนี้มัน กลับมานอนเหยียดตรงอย่างปกติแล้วครับ.  . . แต่จะว่าไปไออะตอมมันก็เก่งเหมือนกันนะครับ ทั้งๆ ที่ร่างกายของตัวเองเป็นหนักขนาดนี้แต่ก็ยังพอมีสติโทรไปหาผมได้ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าหากผมมาช้ากว่านี้ มันจะเป็นยังไงบ้าง. . ไม่อยากจะคิดภาพตามเลยจริงๆ ผมเฝ้า คอยเช็ดตัวให้มันสลับกับเปลี่ยนผ้าที่คอยประคบอยู่ที่หน้าผาก สอง สามครั้ง จน ผมเองเริ่มรู้สึกเพลียๆ เลยเผลอหลับไปโดยที่ผม ไม่ทันได้รู้ตัว .  . . 


. . . . . . . . . . . . .

ผมตื่นมาอีกทีเพราะเริ่มรู้สึกถึงแรงขยับตัวของมัน ผมปรือตาขึ้นมองก็เห็นมันกำลังมอง นอนจ้องหันหน้ามาทางผมอยู่ก่อนหน้าแล้ว. .

“ตื่นแล้วอ่อมึงเป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง. .”อะตอมไม่ได้พูดตอบผมได้เพียงแต่พยักหน้า. .แทนการพูด

“เออไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รู้มั้ยกูโคตรตกใจเลยนะเว้ย ตอนที่มึงโทรมาแล้ว ได้ยินเสียง ห่าอะไรแตกสักอย่างเนี้ย. .  แล้วสรุปเรื่องราวมันเป็นยังไงวะ เล่าให้กูฟังดิ มันเกิดอะไรขึ้น...” อะตอมมันพยายามจะใช้มือของมันกดไปที่ลำคอของตัวเองเพื่อพยายามเค้นเสียงออกมาตอบคำถามของผม. . พอผมเห็นผมก็รีบ ดึงมือมันออกและบอกให้มัน นอนอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร แค่ตอบ ว่าใช่หรือไม่ใช่ ด้วยการพยักหน้า หรือส่ายหน้าก็พอ. . .

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“มึงป่วยมานานรึยัง ” (อะตอมส่ายหน้า)

“เออแล้วนี้กินอะไรรึยัง หิวรึ เปล่า เดี๋ยวกูออกไปซิ้อให้ก็ได้นะ . ” คำตอบของมันก็ยังเหมือนเดิม

“หรองั้น มึงก็ควรพักผ่อนเยอะๆ นะเดี๋ยววันนี้กูอยู่เฝ้าไข้มึงเองไม่ต้องเป็นห่วงนะ ถ้าอยากได้อะไรก็ เรียก เอ้ย ไม่สิ มึงยังพอมีแรงยกแขนอยู่ใช่มั้ย”อะตอมพยักหน้า

“มึงหยิบอะไรก็ได้เขยี้วงใส่ประตูละกัน เดี๋ยวกูได้ยินแล้วจะรีบวิ่งเข้ามาเอง โอเคนะ” ในระหว่างนั้น สายตาของผมก็แอบเหล่ไปมองเวลาที่ ข้างหัวเตียง บอกเวลา  20.46 น. ดึกมากขนาดนี้แล้วหรอเนี้ย จำได้ว่าขามาพึ่งจะบ่ายๆ เอง . . . เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เร็วจนผมเองก็แอบตกใจอยู่เหมือนกัน. . และ จังหว่ะที่ผมกำลังจะยื่นลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง ก็มีเสียงสั่นๆ ดังออกมาจาก กระเป๋าเสื้อของ ผม “กาย”

“อื่อว่าไงมึง. . ”

“เมื่อไหร่มึงจะมาเนี้ยเจ กูรอนาน แล้วนะ . . ” จังหว่ะนั้นเองผมก็พึ่งนึกออกว่า ตัวเองมีนัดกินข้าวกับกายเมื่อช่วงบ่ายๆ เอาไว้อยู่. . . แต่กว่าจะนึกออกอีกทีนี้ก็เกือบ สามทุ่มแล้ว ตอนนี้ผมกำลังคิดอยู่สองแง่ว่าควรจะไป ในตอนนี้ แล้วทิ้ง อะตอมไว้หรือควรจะอยู่เฝ้าอะตอมแล้วเลื่อนนัดไปเป็นวันพรุ่งนี้แทน. . . ก็ในเมื้อผมได้กล่าวลั่นว่าจาสัญญากับทั้งสองคนไปแล้ว ถ้าหาก ผมไปกับคนใดคนนึง อีกคนนึงก็คงต้องอยู่คนเดียว ใจนึกผมก็อยากรีบไปหายกายแต่กลัวว่าไปแล้ว จะไม่มีใครคอยอยู่ดูแลอะตอมอยู่ที่

ห้อง. .แต่ถ้าผมไม่ไปหากายมันก็ผิดคำที่เคยพูดไว้อีก . .  .เห้อ ผมควรจะเลือดทางไหน ดี ถ้าเพื่อนๆ คนไหนพอจะมีไอเดียก็ช่วงแน่นำ ผมได้ นะครับ ตอนนี้รู้สึกในหัวผมว่างเปล่าไปหมด . . . คิดอะไรไม่ออกเลย. . .แต่ระหว่างนั้น  ผมก็ชุกคิดขึ้นมาว่า การกินข้าว กับการดูแลชีวิต คนมัน มี อะไรที่ต่างกัน กินข้าวผม อาจจะกินวัน ไหน ตอนไหน เวลาไหนก็ได้ แต่ชีวิต คนคือสิ่งที่ไม่แน่นอน ผมยอมรับว่าลำบากใจมากในการตัดสินใจครั้งนี้และหวังว่ามันคงจะเข้าใจผม ๆเลยเลือกที่จะอยู่อะตอมเพื่อคอยดูแลมันในคืนนี้ส่วนเรื่องนัดกินข้าวระหว่างผมกับกายก็ขอผลัดไว้เป็นวันหน้าละกัน . . . พอผมคิดประมวณผลหาเรื่องต่างๆ มาอธิบายได้จึงค่อยๆ เริ่มคุยๆ กับ กาย อย่างสงบๆ

“กาย คือ เอ่อ เรื่องกินข้าวอ่ะ ไว้เป็นวันอื่นได้ปะวะ คือกูติดธุระหว่ะ ”

“ธุระ. . สำคัญมากเลยหรอ”

“ก็”ถ้าถามผมว่าสำคัญมั้ย มันก็สำคัญแหละครับแต่ผมควรจะเรียบเรียงคำพูดอธิบายยังไงให้กายมันเข้าใจดีนะ. .

“ก็. . .สำคัญ แต่มึงเข้าใจกู. . . .”

“สำคัญมากขนาดนั้นเลยหรอ. .”

“คือ กูก็อยากไปนะกายแต่” ถ้าผมเผลอพูดออกไปว่าที่เลื่อนนัดมันเพราะต้องมาดูแลอะตอมมันมีหวังไอกายมันโกรธ ผมตายแน่ๆ ผมเลยจำเป็นที่จะต้องโกหกเพื่อ. . ไม่ให้มันคิดมาก และก็คงเป็นทางเดียวที่จำทำให้กายไม่ผิดหวังจนเกินไป

“กูติดธุระอยู่ที่ร้าน กับพี่อินวะ กว่างานจะเสร็จคงอีกนานเลยอะมึง ยังไงวันนี้กูขอโทษนะ เว้ยกาย ไว้วันไหนเดี๋ยวกูชดเชยให้ มึง ไม่โกรธกูใช่มั้ย. .”

“งั้น ก็รีบไปทำงานเถอะเดี๋ยวพี่อินรอนาน.  . ”เหมือนกายมันกำลังโกรธผมอยู่ทั้งๆ ที่ผมถามคำถามนึง มันกลับตอบอีกคำถามขึ้นมาอีกข้อหนึ่งเลยทำให้ผมรู้ว่า กายกำลังโกรธผมอยู่แน่ๆ . . ผมได้แต่พูดขอโทษ ๆ อยู่ในใจ เพราะตอนก่อนที่ผมจะตกลงเป็น แฟนกันผมได้ให้สัญญากันไว้ว่ามีอะไร ผมกับมันเราต่างคนต่างจะช่วยให้คำปรึกษา กัน พูดคุยกันทุกๆ เรื่องๆ และสิ่งหนึ่งที่กายย้ำนักย้ำหนากับผมเลยก็คือ.  มันเกลียดการโกหกเป็นที่สุด. . .เพราะการโกหกคือจุดเริ่มต้น ของ การผิดคำสัญญา. . . พอผิดสัญญา ความเข้าใจที่เคยมีให้กันก็จะลดน้อยลง. .  พอความเข้าใจน้อยลง. . .ก็ทำให้ความเชื่อใจที่เคยมีให้กันก่อนหน้า น้อยลงถดถอยลงไปอีก. . . ผมทั้งรู้สึกผิดและไม่อยากที่จะโกหกกาย กลัวมันจะเสียความรู้สึก และสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดเลย คือ. . .ถ้าหากมันรู้ความจริง แล้ว . .. กาย มันอาจ ไม่เหมือนเดิม  นั้นคือสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดในตอนนี้ . . . เห้อ จะทำไปได้ซักกี่น้ำวะ เจ .  .


ก่อนวางสายกายมันไม่พูดเหมือนทุกๆ ครั้งที่เราเคยคุยกันปกติแล้ว มันจะต้อง พูดบอกกับผมเสมอว่าอย่านอนดึกนะ ฝันดีนะ เป็นห่วง นะแต่คราวนี้กลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาจากปลายสายเลย มีเพียง ความรู้สึกเหงาๆ เท่านั้น ที่ผมพอจะสัมผัสได้. . อย่างน้อย ถ้ามันด่า ผมหรือต่อว่าผมสักนิดผมก็ยังดีแต่นี้ กลับวางสายไปดื้อๆ ไม่พูดไม่จาเลยแม้แต่คำเดียว  . .

ตกดึกเกือบๆ เที่ยงคืนผมเดินลุกไปที่ห้อง อะตอมเพื่อเช็ดตัวให้มันอีกครั้ง ตอนนี้ ไข้ของมันก็ลดลงเรื่อยๆ แล้วครับ ถึงจะตัวอุ่นๆ อยู่นิดหน่อย แต่ก็นับว่า ยังดีกว่าช่วงบ่ายเยอะเลย. . .

ผมรู้สึกทั้งง่วง ทั้งเพลีย ข้าวปลาก็ยังไม่ได้กิน จะเดินออกไป ซื้อก็กลัวว่า ระหว่างนั้น อาการมันจะแย่ขึ้นรึเปล่า ผมเลยได้แต่อดทนแล้ว บอกกับตัวเอง ว่า เอาให้มันโอเคขึ้นก่อน ส่วนมึงจะไปไหนก็ค่อยไปนะเจ. .ผมบอกตัวเองอย่างนั้น ซ้ำๆ อยู่ในหัว จนเวลาเลื่อนลอยผ่าน ไป ผมก็เผลอหลับไปโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว. . . .


Trrrr.  .  . ..   เสียงไอโฟนดังแพดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ทำให้ผมปรือตาขึ้นมามองว่าใครโทรมา. . จังหว่ะที่ผมกำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมา ก็พึ่งสังเกตว่า ตัวเอง ทำไมถึงมา มานอนข้างๆ เตียง แล้วทำไมมือผมถึงไปจับ มือของอะตอมได้. . คิดว่าผมเองน่าจะละเมอไปจับมือมันเอง ผมไม่ได้ใส่ใจและ พยายามดึงมือตัวเองออกจากมือของอะตอมอย่างเบามือ (กลัวมันจะตื่น) ก่อนจะค่อยๆ เดินย่องๆ ออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกห้อง. .

“อืม มีไรมึง ไม่มีเรียนรึไงถึงโทรมาหากูแต่เช้าเนี้ย” ผมกล่าวคำทักทายไอเพื่อนเวร ที่ดันโทรมาปลุกในเวลาพักผ่อนของผม
.”กู อ่ะไม่มี . .แต่มึง. . ”ยังไม่สิ้นสุดคำพูดของไอวินดีก็ทำให้ผมชุกคิดขึ้นมาได้ว่า ตัวเอง มีเรียนตอนเช้า กว่าจะนึกออก ผมก็หันไปมองนาฬิกาทั่ว ห้อง บอกเวลา 08.24 น. เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่า โชคดีหน่อย ที่ตอนนี้ ผมย้ายมาอยู่ข้างๆ ม.เลยทำให้ง่ายต่อการเดินทางไปคณะมาก ปกติแล้ว ผมจะใช้เวลา จากที่ร้าน มา ม. เกือบครึ่งชั่วโมง. . แต่ตอนนี้ ผมใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการเดินเข้า ม.

“ งั้นเดี๋ยวอีกสิบนาทีเจอกัน ”

“เออกูอยู่ ตึกวิศวะนะเว้ย  รีบมาละกูรอแดกข้าวอยู่. . ”

“เออ ๆเดี๋ยวกูจะรีบไป แค่นี้นะ กูไปอาบน้ำก่อน” ผมกดวางสายไอวิน ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ห้อง น้ำด้านนอก เตรียมตัวกำลังจะอาบน้ำแต่น้ำ. . ดันไม่ไหล. .  แต่ในระหว่างนั้นก็พึ่งจะคิดออกว่า ในห้อง ของอะตอมก็ยังมีห้องน้ำอยู่อีกห้อง ผมเลยรีบเดินที่คิดว่าน่าจะส่งเสียงรบกวนอะตอมมันเบาที่สุด และรีบ อาบน้ำอย่างที่ตัวเองตั้งใจไว้. . .  ผมใช้เวลาอาบในวันนี้ไม่ถึง 5 นาที เพราะต้องรีบทำเวลา. . พอเดินออกมาก็ยังเห็นอะตอมนอนหลับตาอยู่เลยจะว่าไปไอนี้มันก็ขี้เซาเหมือนกันนะครับ ขนาดเสียง น้ำ
กระทบพื้นเสียงดังขนาดนั้นมันยังไม่ได้ยินอีก . .  สงสัยคงจะหลับลึก ผมเลยอาศัยจังหว่ะนั้น ใส้เสื้อผ้ามันซะตรงนั้นเลย แต่. . . ก็ไม่ได้โป๊ร่อนจ้อนขนาดนั้นนะครับ มีผ้าเช็ดตัวคลุมช่วงเอวผมไว้อยู่. . .พอใส่กางเกงเสร็จก็พึ่งจะนึกออกว่าลืม หยิบเสื้อเข้ามาด้วย แต่ถ้าลองนึกดูๆ แล้ว เสื้อที่ผมใส่ไว้เมื่อวานเป็นตัวสุดท้ายแล้วนิ่. .จะให้ซักรีดใหม่วันนี้ก็คงไม่ทันด้วย แต่ถ้าจะให้ใส่ ตัวเดิมไป มันก็คงจะหน้าเกลียดทั้งเหม็นเหงื่อ และกลิ่นๆอะไรอีกมากมาย. . ผมหันหลังกลับไปมองอะตอมอีกครั้ง เพื่อดูเชิง กะจะลงมือทำแผนใหญ่นั้น คือการ ขโมยเสื้อของมัน ไม่สิ ต้องเรียกว่า ยืมแต่ยังไม่ได้บอกจะดีกว่า เพราะดูหน่วยก้านแล้ว มันน่าจะใส่ไซด์เดียวกับผม. . แต่พอเปิดดูก็ทำเอาผมตกใจอยู่ไม่น้อย . . ถ้าคุณๆ คนไหนเคยดูพวกซีรี่ที่ตัวเอกร่ำรวยๆหน่อยก็น่าจะพอเห็น ด้านในของตู้เสื้อผ้านะ ครับว่า มันมีอะไรบ้าง ทั้งเยอะ และ ดูหรู หราแปลกๆ อาจเป็นเพราะตู้สีดำขลับ ที่ทำให้ เสื้อผ้าเหล่านั้นดูโดดเด่น แต่จริงๆ แล้วผมกำลังตกใจกับจำนวนเสื้อ ผ้าที่มีอยู่ในตู้มากกว่า เสื้อ นักศึกษาของ มัน ผมลองนับๆ ดูแล้วประมาณ 15 ตัว แล้วทุกๆ ตัว นี้ หารอยยับไม่เจอเลยครับ แหม่ ไม่เคยคิดเลยว่า ไออะตอมมันจะเป็นคนที่เนี้ยบขนาดนี้. . .ผมกำลังจะหยิบ

เสื้อของอะตอมออกมาจากตู้แต้เหมือนมีความคิดชั่งใจผมไว้ว่าควรจะทำดีมั้ย จะเสียมารยาทรึเปล่า แตก็อย่างว่าแหละครับ มือผม ไปไวกว่าความคิดเสมอ เผลอหยิบเสื้อมาใส่โดยไม่รู้ ตัว และรีบ วิ่งออก จากห้องของอะตอมหวังจะ เข้ามหาลัย ก่อน 20 นาทีให้ได้เลย ไว้มัน ตื่นมาค่อย บอกขอยืมที่หลังละกัน ตอนนี้ ให้มันนอน สลบเหมือดอยู่อย่างนั้นต่อไปเถอะครับ หึหึ

ผมใช้เวลาเกือบ  ครึ่งชั่วโมงในการเดินจากคอนโด ไป ตึกคณะมนุษย์ ไม่รู้วันนี้ รถบัสรับนักศึกษา กับพวกพี่วินมอไซด์หายไปไหนกันหมด. . กว่าจะถึงหน้าคณะ ก็เล่นเอา ผม ยืน กุ่มท้องเป็นหมาหอบแดดอยู่หน้าคณะเลย. .  เหมือนจะเห็นไอวินเดินออกมารับผมอยู่ไกลๆ ด้วย .   ผมอยากจะรีบวิ่งเข้าไปหามันแต่ ตอนนี้ให้มันเป็นฝ่ายเดินเข้ามารับผมจะดีกว่า. . . ไม่งั้นผมคงจะได้ลงไปนอนชักเพราะความเหนื่อยแน่ๆ

“ไงมึง วิ่งมารึไง ทำไมแลดูเหนื่อยๆ วะ”

“มึงว่าสภาพอย่างนี้กูนั่งวินมาหรอห่า แทนที่จะออกมารับกู เสือกให้กูเดินมา . . ”

“วันนี้กูนั่งแท็กซี่มา มอไซด์เสีย ”

“แล้วเบนซ์คันงามมึงละ. . ”

“ป๊าไม่ให้กูเอาออกมา. .”

“เออๆช่างเหอะ เหลือเวลา อีกตั้งชั่วโมงกว่า ไปหาอะไรกินกันดีกว่า. . . ”พอพูดถึงเรื่องกิน ผมก็นึกถึงไอกายขึ้นมา เห้อไม่รู้ป่านนี้จะหายโกรธผมรึยัง. . ก่อนออกมาผมก็โทรไปสามสี่สาย แต่ก็ไม่มีคนรับ . . สงสัยคงจะหลับอยู่. . ไอ่ผมเองก็ไม่อยากรบกวน. .ไว้กินข้าวเสร็จก่อนค่อยโทรไปหา มันใหม่แล้วกัน. . . .

“มึงจะกินอะไร” ไอวินหันมาถามความคิดผมทั้งๆ ที่ตอนนี้กำลัง อยู่หน้าร้านข้าวมันไก่. . โคตรจะมึน ผมแอบเห็นป้าคนขายหันมามองหน้าผมกับไอวินแหม่งๆ เหมือนสีหน้าของป้าแกบอกว่า ถ้ายังนึกไม่ออกแล้วจะมายืนแซกคิวคนอื่นทำพระแสงอะไร . . .
“มายืนขนาดนี้แล้วก็เอาร้านนี้แหละห่า มึงสั่งนะ เผื่อกูด้วยเดี๋ยว กูไปซื้อน้ำเอง มึงเอาน้ำอะไร. . ”

“เป็ปซี่ ” ผมรีบเดินไปซื้อน้ำที่ร้านตรงข้ามสองแก้วก่อนจะรีบเดินกลับมาทีโต๊ะ รอไอวินมัน

“อะ ไอวินวางจานข้าวมันไก่ตรงหน้าของ ผมและดูเหมือนว่าจานของผมจะมีเนื้อไก่มากกว่าจานของมัน ผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวไปมองไอวินด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้ว มันต้องคอบแอบกิน กับข้าวของผมอยู่เสมอ . .แต่ไหง คราวนี้ใน ไหงในจานของผมกลับมีมากกว่าของมันก็ไม่รู้. . .เอ๊ะ หรือมัน จะกลับตัวกลายเป็นคนดี แล้ว. . แต่ก็อย่างว่าแหละครับ จะเปลี่ยน จะเปลี่ยนไอวินให้กลายมาเป็นคนดี ยากยิ่งกว่าการเปลี่ยนแมวให้กลายเป็นสิงโตอีกครับ .

ในรหว่างที่ผม กำลังนั่งคิดปลงๆ อะไรอยู่คนเดียว จู่ๆ ก็มี ผู้ชายตัวสูงๆ เดินเข้ามานั่งข้างๆ ผมแบบไม่ทันตั้งตัว ผมมองหน้ามันสลับกับมองหน้าไอวิน เพื่อจะถามเป็นนัยๆ ว่า ไอเหี้ย ตัวสูงๆ ชะรูด ตาตี่ๆ แถมยังส่งยิ้มให้กูนี้มันเป็นใคร .

“เออ พอส นี้เจ เจ นี้พอส เพื่อนที่คณะกู . .  มันบอกอยากเ จอมึง มานานละ ” ไอตี๋ตาตี่นั้นส่งยิ้มให้ผมอย่างกลัวๆ จนผมเองต้องคอยหลบสายตาของมันมามองหน้าไอวินแทน. .

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เจ จำผมได้มั้ย เราเคยเจอกันครั้งนึง ใน งานกีฬาปีก่อนอ่ะ จำเราได้ป่ะ” เออ ผมหันไปมองหน้ามันพร้อมกับใช้ความคิดอย่างหนักในการ นึกถึงเบ้าหน้า ของมันว่า ผมเคยได้ พบเจอ กับมันมาก่อนหน้านี้รึเปล่า แต่ก็ดูเหมือนว่า มัน คงจะนาน เกินไปจนผม ต้องส่งยิ้มเจื่อนๆ และส่ายหน้าแทนการปฏิเสธไป. .

“ จำไม่ได้ก็ไม่แปลก หรอก เพราะตอนนั้น เพื่อนๆ ที่สแตน บังผมอยู่ แฮ่ๆ” แล้วสรุปมึงจะถามกูทำซากอะไรครับห่า ไม่เคยเจอหน้ากันแต่ถามว่าจำได้มั้ย ถถถถ .  .ไอนี้หล่อซะเปล่า แต่สงสัยจะบ้องตื้น เหมือนไอวินแน่เลยๆ มิน่าถึงเป็นเพื่อนกันได้ ฮ่าๆ
ผมปล่อยให้ไอพอสศรัน นั่ง คุยกับไอเชี่ยวินต่อไป โดยผมก็หันมาให้ความสนใจกับจานข้าวมันไก่ตรงหน้าแทน ผมตักกินไปได้คำเดียวก็ไปสะดุด กับ ชื่อคนที่มัน กำลังพูดถึงกัน. . .

“เออวิน วันนี้ทำไมกู ไม่เห็นหน้าไอกาย เลยวะ หรือแม้ง ฉลองดึกจน ลืมว่า แม้งมีเรียนเช้า”

“ฉลอง?”

“อ้าว. .เมื่อวานมึงไม่ได้ไปหรอวะ. .กูนึกว่ามึงไปถึงถาม ”

“เฮ้ยมึง. ”จู่ไอวินก็ทำหน้าเหมือน ตกใจกับอะไรซักอย่างที่หน้าจอไอโฟนของมัน. .

“มีอะไรวะมึง ”ผมเอ่ยปากถามไอวินที่นั่งอ้ำอึ้งๆ อยู่หน้าโทรศัพท์ของมัน 

“เมื่อวาน  วันเกิดไอกายนี้หว่า. .”พรวดดดด แป็ปซี่ที่ผมพึ่งจะยกดื่มแทบพุ่ง ออกจมูกผม. . 

  วัน เกิด . .กาย . . . งั้นหรอ .  แล้วทำไม กายมันถึงไม่ยอมบอกผมตรงๆ ละ  . . .ผมกล้าสารภาพตรงๆ ได้เลยว่า ผมจำวันเกิดของมันไม่ได้จริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยรู้มาก่อน แต่เพียง พักหลังนี้ผมมีเรื่องให้เครียดบ่อย แถมเมื่อวานยังเกิด เรื่องขึ้นมา อีก ทำให้ผมลืม เรื่องวันเกิดของกายมันซะสนิทเลย. .ไอวินมันละสายตาออกจากไอโฟนของมันและหันมา จ้องหน้าผมแทน. . เหมือนมันกำลังคิดว่า ผมเกิด เป็นอะไรขึ้นมา

“แดกดีๆไม่ชอบอีกไอนี้  ชอบแดกทางจมูก”วินมันเสี่ยงกึ่งบนกึ่งแซว หันมาขำผมที่วันที่เผลอทำตัวแปลกไป แต่ใครหล่ะจะรู้ว่าที่ผมแปลก ไปเป็นเพราะ เรื่องที่พึ่งได่ยินเมื่อกี้ต่างหาก

“เออ . กูลืมสนิทเลย แล้วสรุปเมื่อวานมันฉลองที่ไหนวะ”

“อืมเมื่อวานก็เห็นจัดอยู่ที่คอนโดมันอ่ะ แต่แค่แปปเดียว เหมือนกูไปแดกเหล้ากันเฉยๆ อ่ะ สักพักนึงเหมือนพวก ไอเชกับน้องรหัสมันบอกว่าเห็นไอกายยืนคุยโทรศัพท์แล้วแม้งก็หายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้. . แล้วทีนี้มึงจะเอาไงต่อ. .” ไอตี๋ตาตี่หันมาส่งยิ้มให้ผมก่อนจะหันไปถามไอวิน

“เออน่า เดี๋ยวกูหาของไปเซ่นไหว้มันเอง ”

“แต่มันน่าแปลกนะมึง ”. . . ทั้งวินและผมหันไปสบสาสยตากับไอพอสที่ทำหน้าคุ้นคิดเหมือนกำลังนึกอะไรอยู่. .

“แปลกยังไงวะมึง?”

“ก็เมื่อวาน ตอนเกือบๆ สามทุ่ม กูไปซื้อกาแฟที่ร้าน . . อะไรไม่รู้อะกูลืม ดู แต่พนัก งานนี้ ไอสัดยังกับดารา กูเห็นลูกค้านี้ยืนรอกันซื้อ จนแถวยาวออกไปนอกร้านเลย”

“มึงจะมาแซว ว่า พนักงาน หล่อ พนักสวย ว่างั้นสิ” ไอวินหันไปบ่นพึมพำด่าเพื่อนมันที่เอาแต่พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้

“ยังๆ เรื่องที่กูจะเล่ามันต่อจากนี้ต่างหาก เออ พอ พวก ลูกค้าสาวๆ หายไปกูก็เดินเข้ามาสั่งกาแฟที่หน้าเค้าท์เตอร์แต่แม้งพนักงาน”

“โคตรหล่อเลย/โคตรหล่อเลย” ทั้งผมและไอวินส่งเสียงตอบพร้อมกัน และทำทีท่าว่าจะลุกออกจากโต๊ะเพราะเริ่มรำคาณ ไอตาตี่นี้มันพร่ำพรรณนา หล่อๆสวยๆ ของมัน

“อะๆ เอาจริงๆ ละ เออ พอกูสังเสร็จพนักงานบอกกูว่าของหมด รับอย่างอื่นแทนมั้ย กูก็บอก ว่า ไม่ได้ครับ . .คือถ้าเป็นกูแดกกูไม่อะไรหรอก แต่ม๊ากูเค้าโทรมาย้ำนักย้ำหนาเลยว่าจะกินที่ร้านนี้ให้ได้พนักงานก็เลยแม้งไปตามหาของที่หลังร้านอยู่ตั้งนาน กว่าจะออกมา. . ”

“อันนี้ก็ละเอียดไป มึงเริ่มเรื่องตอนคลายแมก ซักทีดิ ไอห่า . ”

“กูก็กำลังเล่าอยู่นี้ไง .  .แล้วต่อจากนั้นกูก็ไปนั่งรอที่โต๊ะข้างๆ จังหว่ะนั้นแหละ กู เห็น. . ”

“เห็นผี เห็นหมี รึเห็น.  . ”

“เห็นไอกายเว้ย คือกูเห็นมันนั่งนิ่งๆ เหมือนแม้งนั่งกึ่มๆ มันดูเมาๆ แต่ก่อนออกมากูก็ก็ไม่เห็นมันแตะเลยสักแอะนะเว้ย  ท่าทางเหมือนมัน รอใครเลยวะ. . หน้าแม้งโคตรหงอย นี้ๆ กูถ่ายมาให้ดู. . .”ไอพอสหยิบไอโฟนที่กระเป๋าเสื้อ ยื่นมาให้ผมดูรูปที่มันแอบถ่ายไว้ เป็นภาพของกาย ที่มันหัน ข้างมองไปที่กระจกข้างๆ ร้าน ถ้าจำไม่ผิดหน้าจะเป็นร้าน ที่ผมเคยทำงานอยู่แน่ๆ

“แล้วเป็นไง่ต่อวะ” ถึงผมไม่ได้พูดแต่ความต้องการของผมที่ต้องการอยากรู้เรื่องราวต่อ ก็ไม่ต่างไปจากไอวินเลย

“กูก็ไม่แน่ใจวะ กูจำได้ว่า ยืนรออยู่ที่หน้าเคาเตอร์ แล้วอยู่ๆ โทรศัพท์ก็ดัง กูเลยออกมาคุย อยู่นอกร้าน หน้าผมเองรู้สึกชาๆ เสียงรอบข้างอื้อไปหมด ผมพยายามควบคุมสติ ของตัวเองไม่ให้หลุดลอยเผลอ คิดมากเรื่องนี้มากเกินไป.  . แต่เหมือนยิ่งผมห้ามไม่ให้ตัวเองคิดก็เหมือนกับยิ่งคิดหนักมากกว่าเดิมอีก. . . . 

“เจ. ” อยู่ๆผมก็นึกถึงเสียงเรียกที่ได้ยินคุ้นหู ดี เสียง ดังก้องอยู่ในหัว ถึงผมจะรู้ตัวว่าเป็นเพียงเสียงในความคิด แต่ผมก็ยังแอบยิ้มตามทุก ครั้งที่นึกถึง. . .

“เจ. ..  ”เสียงเรียกชื่อผมยังดังขึ้นเรื่อยๆ แต่อยู่ผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรกระแทกใส่หัว พอตั้งสติได้ผมลองมองรอบๆ ก็เห็น ฝ่ามือของไอวิน ผ่านหน้าผมไป. .

“อะไรของมึง ไอวิน. .”
“กูเรียกมึงนานละสัด นั่งเหม่อ อะไรอยู่คนเดียว มึงเมาค้างปะเนี้ย. . ”ไอวินมัยื่นหน้ามาถามผมพร้อมกับดอมดมตาม ตัวของผม .. 

“เมาเมิวอะไรของมึง กูไม่ได้แดก. . ”ผมยังยืนยันคำตอบเสียงแข็ง

“แต่เจ . .. กูถามจริงๆ นะมึง มีเรื่องอะไรที่อยากบอกกูรึเปล่าวะ กูสังเกตมึงมาตั้งแต่เมื่อกี้ละ ” ถึงจุดนี้ผมได้แต่นั่งเงียบไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าตัวเองจะ เผลอแสดงพิรุท ให้ไอวินมันเห็น สายตาของมันออกจะดูเป็ฯห่วงผมซะด้วยซ้ำ. . แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะเล่าเรื่องๆ ต่างๆ ที่ผมกำลังคิดมากอยู่ในตอนนี้ให้มันฟังหรอกนะ เพียงแต่ ผมไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไงดี. .ผมเลยได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธ และตั้งใจหันมานั่งฟังสิ่งที่พวกมันกำลังพูดอยู่แทน

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
“เออๆ ถึงไหนละวะ ” วินมันหันไปถามเพื่อนของมันที่นั่งตรงข้ามกับผม

“อ๋อ ถึงตอนที่  มันนั่งหงอยไง เออ ที่นี้เหมือนกูเห็น มันกดโทรศัพท์ โทรไปหาใครก็ไม่รู้ ตอนก่อนจะโทรหน้าแม้งก็ดีอยู่หรอก แต่อกดวางสายเท่านั้นแหละแม้งอ้ยย ! ”

“ทำไมวะไอกายมันโมโหจนพังร้านเลยรึไง”

“มึงจะบ้าหรอ . .  มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่หน้ามัน เหมือนโดนสาวหักอกมาเลยวะ คือเหมือนจะร้องไหก็ไม่เชิงออกแนวซึมๆอ่ะ มึงพอนึกตามกูออกใช่ปะ  กูนี้ลองขยี้ตาอยู่หลายครั้งเลย นึกว่าตัวเองตาฝาด  แต่ที่ไหนได้แม้งซึมจริง กูนี้ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลว่าหน้าอย่างมันจะโดนสาวหักอกได้. . ” ถ้าเกิดมันเป็นไปตามอย่างที่ไอพอสเล่าจริงๆ ล็ คงเป็นผมเองนี้แหละที่ทำใหกายมันต้องนั่งซึม

“ซึมแล้วยังไงต่อวะ”

“ก็แค่นั้นแหละวะ ’

“. . . เหี้ยอะไรของมึงเนี้ย ยังเล่าไม่ถึงจุดที่กูต้องร้องอ๋อเลย  เล่ามาให้หมด ดิ่ กูค้างคานะเนี้ย ” ไอวินนั่งสบถด่าเพื่อนของมันยกใหญ่

“กูก็อยากจะเล่าอยู่หรอก แต่เรื่องที่กูเห็นมันก็มีอยู่แค่นี้นี่แหละ. . . ทีแรกกูก็กะจะเข้าไปทักมันนั้นแหละ แต่ม๊ากูโทรมาก่อนแถมกาแฟที่สั่งยังเสร็จพอดีด้วยเลยต้องรีบกลับ ” จบการเล่าเรื่องของเพื่อนมันทั้งหมด ผมเองได้แต่นั่งนิ่ง รู้สึกผิดจนอยากจะเอ่ยคำขอโทษ เพียงแต่. ไม่รู้ว่ามันจะมีค่าพอ ให้กายมันหายโกรธผมรึเปล่า

“เอองั้นถาไม่มีอะไรแล้วกูไปหาพวกไอเชี้ยก้องก่อนนะ พวกแม้งโทรมาตามกูละ ไว้เจอกันมึง . .ไว้เจอกันนะครับเจ” เพื่อนไอวินมันยังมิวายหันมาส่งยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป  - -*

“กูว่าแม้งคงนอยกูแน่นอนเลย สงสัยวันนี้คงต้องยกเลิกโปรแกมไปเที่ยวกันแล้ววะ”

“แล้วทีนี้มึงจะเอาไงต่อ ตอนนี้มันอยู่ไหนยังไม่รู้เลย. . . โทรไปก็ไม่ยอมรับ . . ”ระหว่างที่คุยกันผมแอบโทรไปหาอะกายแต่ไม่มีคนครับสาย

“’งั้นมึง พยายามติดต่อไอกายให้ได้นะ ไอวิน เดี๋ยว กูมีธุระต้องรีบไป. .  ถ้าได้เรื่องยังไงโทรมาบอกกูด้วยละกัน”

“เดี๋ยวๆ แล้วนั้นมึงจะไปไหน ไม่รีบเข้าเรียนหรอ ใกล้เวลา เรียน แล้วนะมึง. . ”

“มึงไม่ต้องสนใจเรื่องของกูหรอก แค่ติดต่อไอกายให้ได้ก็พอ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง ” ผมรีบวิ่งตรงออกจากโรงอาหารแต่ก่อนออกมาก็ไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจ รถมอไซด์ของไอวิน มา และขับตรงไปที่ร้าน  ☆یŦαя Café ที่ๆ ผมเคยทำงานไป ถึงผมก็กล่าวทักทาย พี่ๆ ที่ร้าน ก็ยังคงจำผมได้ดี รับ ไหว้ ผม และส่ง ยิ้มให้  ผมเดินตรงไปหาพี่โชนที่หน้าเค้าท์เตอร์ เห็นพี่แกกำลังยืน คิดเงินให้ลูกค้าผู้หญิง ที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่.  . 

“เอ่อ พี่. .” ยังไม่ทันที่ผมจะได้เรียกชื่อกล่าวคำทักทาย พี่แกเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับส่งยิ้ม ให้ผมเหมือนเคย

“อ้าวน้องเจ ว่าไง นี้จะกลับมาทำ งานแล้วหรอ ดีๆ พี่กำลังจะโทรไปถามอยู่พอดีเลย. .”

“อ่อ ยังหรอกครับพี่ แต่ผมมีเรื่องจะมาถาม พี่หน่อย ”

“เรื่องอะไรละ ?”

“คือเมื่อวาน ช่วง ทุ่มกว่าๆ พี่โชนพอจะเห็นคนที่ตัวสูง.........มั้ยอ่ะครับ”พี่โชนขมวดคิ้วยืนคิดอยู่ พักนึงกว่าจะตอบผมมา

“อืมจะว่าไปแล้ว พี่ก็รู้สึกคุ้นๆ อยู่นะ แต่พี่ไม่ทันได้สังเกตอะไรมากนะ เพราะเมื่อวาน ลูกค้าเยอะ.  .แต่ถ้าเจ อยากดู งั้น . .เดินมาหลังร้านกับพี่สิ” ผมเดินตามพี่โชนไปที่หลังร้านอย่างว่าง่าย พอมาถึงพี่แก็เปิดดูกล้องวงจรปิดผ่านคอม ที่ตั้งอยู่หลังร้าน เห็น ภาพเป็นผู้ชายใส่ชุดสีดำ ที่ดูคุ้นตา ต่อให้ ผมองระยะไกลแค่ไหนก็คงรับรู้ได้ว่า คนที่นั่งเหงาอยู่ข้าง กระจก นั้น คือกาย . . กายมันนั่งรอผม ตั้งแต่ช่วงหกโมงกว่าจน เกือบๆ เที่ยงคืน. . ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนจะเดินออกมาจากร้านคือใบหน้า ของกายที่เดินออกจากร้านพร้อมกับใบหน้าที่เหงาหงอย ของมัน ทำเอาผมเศร้าไปตามๆ กัน

ผมขับรถออกมาจากที่ร้าน มุ่งตรงไปที่คอนโด ยืนเคาะประตูเรียก มันอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ. . จนผมเริ่มคิดที่จะถอดใจ แต่จังหว่ะที่ผมหันหลังกำลังจะเดินกลับ เสียงของบานประตูนั้น ก็ถูกเปิด ออก ผมรีบหันหลังกลับไปมอง แต่มีเพียงประตูเท่านั้นที่ถูกเปิด แต่ไม่มีใครเดินออกมาตอนรับผมเหมือนเคย ผมเดินกลับมาที่หน้าประตูอีกครั้ง สูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมตั้ง สติ และอารมณ์ ของตัวเองให้คงที่ และพยายามทำตัวให้ร่าเริงมากที่สุด. . .  ในเมื่อเรื่องนี้ผมเป็นฝ่ายที่ผิดผมก็จะเป็นคนที่สะสางเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองๆ พอผมแง้มประตูออก ก็เห็นกาย มันกำลังยืน หน้านิ่ง มองผมด้วยสายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึก . . ทำเอาความตั้งใจที่ผมมีก่อนจะเปิดประตูนั้นปลิวหายไปหมด.  .  ผมพยายามฝืนยิ้ม เท่าที่ตัวเองจะทำได้ส่งยิ้ม มองไปที่กาย. .   แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ จากมันเลย

“กาย ทำ...ทำไมวันนี้มึงถึงไม่เป็นเรียนวะ เออ.คือ.. วันนี้ กูกับไอวิน ว่าจะชวนมึงไปกินข้าวมื้อเย็นด้วยกัน ถ้าไม่มีธุระอะไรงั้นเราไป. . ”

“มึงกินกับไอวินสองคนเถอะ. . วันนี้กูจะกลับบ้านคงไปด้วยไม่ได้ ยังไงก็ กินเพื่อด้วยละกัน. .” และยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดหรือถามอะไรต่อ กายมันก็ปิดประตู ใส่ผมเฉยเลย ผมพยายามเคาะเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะเสียแรงเปล่า. . จนพี่ๆ รปภ ที่เดินตรวจความปลอดภัยอยู่บนอาคารเดิน มา หาผม  คงกำลังคิดว่าผมจะมาสะเดาะกลอนยกเค้าท์ห้องไอกาย นะสิ ผมเองก็พยายามอธิบายให้พี่แกฟังด้วยเหตุผล ร้อยแปด แต่ ต่อให้พูดยังไง ก็ไม่มีใครเชื่อผมหรอกครับ . . ในเมื่อ คนในห้องยังไม่ยอม สนใจ ผมเลยเป็นฝ่ายต้องเดินออกมา พร้อมกับความผิดหวังยกที่หนึ่ง และกลับมาตั้งหลัก ใหม่. .ที่ร้าน
ผม เองได้แต่คิดอยู่ในหัวอย่างเดียว ว่า จะหาวิธีไหนขอมันคืนดี มีไอเดียนับร้อยผุดขึ้นมาในหัวของผมเพียง แต่ ผมไม่รู้ว่าจะมีสักกี่วิธีที่จะสามารถใช้กับ มัน ให้ได้ผล  ผม ไม่รู้ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปเลยจริงๆ

TBC. . . . . . .   :hao5:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ thitema3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter28: หน้ามือ&หลังมือ

เช้าวัน ถัดมาผม ตื่นขึ้น ด้วยสภาพที่ไม่ค่อยต่างจากศพสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วที่สภาพของผมเป็นอย่างนี้น่าจะเป็นเพราะ ผมไม่ค่อยได้พักผ่อน ในช่วงสองสามวันมานี้ ไหง จะมีเรื่องให้เครียดอีกตั้งหลาย เรื่อง . .   ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำ แต่งตัวไป ม.ตั้งใจไว้ว่าจะรีบไปดักรอไอกาย อยู่ที่หน้าประตู แต่สุดท้ายก็ต้องแห้วแดก ครับ พอถามไอวิน มันบอกไอกายมีเรียนบ่าย แล้ว ที่ผมรีบตื่นมาม.แต่เช้าเพื่ออะไรกันละเนี้ย. . ผมนั่งรอเวลา อยู่ที่คณะคนเดียว ระหว่างนั้นผมก็พยายามโทรติดต่อกายอยู่บ่อยครั้ง จนปลายสายปิดเครื่องไป ผมเลยได้แต่นอน มองโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหวังว่ามันจะโทรกลับมา แต่ รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีวี่แวว แม้แต่แมสเซนเจอร์ ไลน์ วอชแอพ บี ทอค บลาๆ ของผม ก็ไม่มีฟีดขึ้นเด้งเลยแม้แต่ข้อความเดียว . . .  สายลม

อ่อน ๆ จากต้นไม้ พัดเข้าใส่หน้าผมอย่างจัง ทำให้อดรู้สึกดีไม่ได้ ผมเองที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน ก็เลยเริ่มๆ รู้สึกคล้อยตามไปกับบรรยากาศ จนแถบจะเคลิ้มหลับตาม ถ้าไม่ติดที่ว่าไอเพื่อนเวร โทรเข้ามาก่อนผมคงได้หลับไปพร้อมกับบรรยากาศดีๆแล้ว - -*

“อือ. . .”

“อยู่ไหน. ”

“โต๊ะหินอ่อน ข้าง ๆ คณะ มีอะไรรึเปล่า?”

“น้องเอิร์นโทรมาหากู”

“โทร. .หามึงเนี้ยนะ แล้วทำไมไม่โทรมาหากูละ”

“กูก็ไม่รู้แต่เห็นบอกว่ามีเรื่องให้ช่วย. .”

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าวะ?”

“มีค่ะ. . ตอนนี้พี่เจว่างรึเป่ลามาหาเอิร์นหน่อยสิ. .”แล้วไหงทีแรกบอกโทรมา. .แต่เดี๋ยวๆ นะ ทำไมสองคนนี้ถึงอยู่ด้วยกันละ. .

“เอิร์นอยู่ไหนทอะไรกับใคอยู่”

“เอิร์นอยู่กับเพื่อน แล้วก็พี่วินค่ะ พอดีวันนี้มีเรื่อง ต้องมาทำนิดหน่อยเลยให้พี่วินเขามาช่วย แล้วนี้พี่เจอยู่ไหน ว่างรึเปล่า ?”

“พี่ก็อยากไปนะ แต่. . .พอดีพี่มีเรื่อง. .”

“หมายถึงพี่กายใช่มั้ย?”

“ก็.อ..อื้อ..”

“ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเอิร์นช่วยเอง. .รับรองคืนดีกันแน่นอน ”ผมยังไม่ทันบอกอะไรเอิร์นเลยเพรากลัวเสียเซลฟ์แต่ไหนๆ ยัยเอิร์นก็เกริ่นจนมึงขนาดนี้แล้วผมก็คงไม่มีทางปฏิเสธเลยต้อง ยอม ไปหายัยเอิร์นที่กำลังยืนเรียกลูกค้า ขายของ และรับบริจาค เงินสมทบค่าอาหารกลางวันของบ้านเด็กกำพร้า อยู่ ก่อนมาผมก็กะวาจะใส่อามรมณ์ซะหน่อย แต่พอมาเห็นเรื่องที่ยัยเอิร์นกำลังทำอยู่ หมาในปากของผมนี้ไม่ยอมขยับเลยครับ

“เชิญค่า เชิญเลยนะค่ะ เชิญเลือกซื้อดูสินค้าแฮนเมด ฝีมือของพวกเราเองค่า ฃวนกันเข้ามาดูและเลืกซื้อได้เลยนะค่า. . .. อ้าวพี่เจ มานานรึยังค่ะ มัวแต่ยืนดูอยู่นั้นแหละมาตรงนี้มา ” ทันทีที่ยัยเอิร์นเห็นตัวผมก็รีบกวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหา พร้อมกับไอเพื่อน เวรที่ส่งรอยยิ้มชวนสยองมาที่ผม . . หึหึ กูรู้นะว่า มึงกำลังจะสื่ออะไรไอวิน - -*

“กว่าจะมาได้นะมึง คิดว่ากุต้องเตรียมราชรถไปรับแล้ว ถึงจะยอมมาไอห่า เห็นมั้ยเนี้ยกูยืนขาย จน แขนขากูบวมไปหมดละเนี้ย. ..”แต่บางที่ภาพที่ผมพึ่งเห็นมันช่างขัดแย้งกับสิ่งที่ไอวินมันกำลังแถมากครับ. . .  ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยืนยิ้มฟังมัน ตอแหลต่อไป สนุกดีจัง 5 5 5

“แล้วเรียกพี่มาจะให้พี่ช่วยอะไรละ. .”ยัยเอิร์นทำหน้าครุ่นคิดหันซ้ายหันขวาเหมือน กำลังหาอะไรบางอย่างให้ผมทำจนในที่สุด ยัยเอิร์นก็ยื่นกล่องลังใบใหญ่ที่มีพวกกุญแจนับร้อยอันมาที่ผม. .
“. . .. . ”ผมอึ้งจนพูดไม่ออก

“พี่เจช่วยแพ็คใส่พลาสติกให้เอิร์นหน่อยนะค่ะ ส่วนพี่วิน ก็ช่วยพี่เจอีกแรงด้วยนะคะ  . . .”ยัยเอิรนพูดพร้อมกับส่งยิ้ม มาให้ไอวิน แต่ส่งสายตาอาฆาตมาที่ผม. .แต่เดี๋ยวๆ ผมไปทำอะไรให้ละเนี้ยหา ตอบบ ที
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งแพ็คของช่วยยัยเอิร์นอยู่ข้างหลัง. .ก็แอบสะกิดๆ ยัยเอิร์นให้หันมาคุยกับผมหน่อย ผมกะจะแอบถามถึงวิธี ที่ยัยเอิร์นจะช่วยผมง้อไอกาย แต่กลับโดนเมินใส่ เพราะกำลังยุ่งกับการขายพวงกุญแจให้กับนักเรียนกลุ่มหนึ่ง. .ผมเลยหันมาตั้งใจรีบแพ็คอีกครั้งโดยไม่ได้หันไป สนใจอีก

“เฮ้ย เฮ้ย อย่าหนีนะเว้ย”เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังมาจากด้านหลังของผม ผมแอบเหล่ๆ มองแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากเท่าไหร่ อาจจะเป็นพวกม็อบอีเว้นจัดกิจกรรมแจกของอะไรอยู่ก็ได้

“หยุดก็โง่สิ ควายย. . ”โป๊ก. . . . .โอ้ยยยเสียงหัวของผมกระทบกับอะไรเข้าสักอย่างจากการคาดเดาผมว่าน่าจะเป็นสันของโต๊ะที่วางของอยู่เมื่อกี้แน่.  . . ผมพยายามข่มเสียงของตัวเองไม่ให้ดังเล็ดลอดออกมาลูบหัวตัวเองอยู่สองสามที่ และหันหลังกลับมามอง ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น. . .ทันทีที่ผมหันกลับมามองสิ่งแรกที่ผมเห็นคือนักเรียนหัวเกรียน มองจากเสื้อและกางเกงแล้วน่าจะเป็น โรงเรียน ตรงข้ามกับยัยเอิร์น.  แต่ช่างเรื่องโรงเรียนมันก่อนเถอะครับสิ่งที่ผมอยากถามคือเมื่อครู่มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่. .

“เห้ยบอกให้หยุดไง.  .”เสียงตะโกนของกลุ่มนักเรียน ขาสั้นอีกลุ่มหนึ่ง ดังมาจากฝั่งตรงข้ามของบันไดเลื่อน. .  กำลังมองมาที่ๆผมกำลังยืนอยู่. . . ขาของผมสั่นอัตโนมัติเมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงเรื่องไม่ดีที่กำลังเกิดขึ้นขาของผมสั่นอัตโนมัติเมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงเรื่องไม่ดีที่กำลังเกิดขขึ้นในอีกไม่ช้าแน่ๆ
 “เห้ยพวกแกทำไมทำงี้อ่ะ ”เสียงของยัยเอิร์นที่กำลังยืนต่อว่ากลุ่มนักเรียนกางเกงสีน้ำเงินกลุ่มแรกที่อยู่ก็วิ่งมาชนร้าน- ที่ยัยเอิร์นกำลังยืนขายอยู่. 

“เอ้ย คือ ไม่ทันมองจริงๆ ไว้จะชดใช้ให้ทีหลังนะ ” เด็กผู้ชายตัวๆ ขาวๆ ตาตี่ๆ มาดคุณหนูที่เดินมาพร้อมกับไอ-หัวเกรียน พูดขึ้นมา ทำเอาผมและยัยเอิร์นหันไปมองตามพร้อมกัน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ต่อว่าอะไรไอเด็ก สองคนตรงหน้าก็ทำทีท่าว่าจะเดินหนีไป เหมือนไม่คิดจะขอโทษหรือรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้ทำลงไปเลย

“เฮ้ยเดี๋ยวจะรีบไปไหน . . ทำผิดแล้วจะเดินหนีหรอวะ. .”มาดของไอวินดูเปลี่ยนไปทันที แต่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยเห็นมันในด้านนี้ เพียงแต่มันจะแสดงออกมาก็ในเมื่อยามขับขันหรือเรื่องอะไรที่มันไม่ยุทติธรรมเท่านั้น ทั้งแววตาและคำพูด รวมถึงน้ำเสียง ยังกับคนละคน. . ไอวินมันยื่นแขนไปจับชายเสื้อของไอเด็กตัวขาว ส่วนไอหัวเกรียนวิ่งหนีออกไปอีกด้านแล้วครับ ส่วนไอนี้พอโดนจับได้ก็ร้องโวยวาย ซะเหมือนกับใครเอามีดไปเฉือนมัน. .


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด