ตอนที่ 27
เสน่ห์แรง
หลังจากที่ทานข้าวเที่ยงกันเสร็จเรียบร้อยแล้วปฐพีกับอัคนีก็พาปลายฝันกลับเข้ามาที่ห้องพักอีกครั้งท่ามกลางความไม่พอใจของร่างเล็กที่อยากจะเดินเที่ยวให้รอบๆ รีสอร์ทนี้ แต่ปฐพีกับอัคนีก็ไม่ยอมให้ตนไป
“ขอนอนก่อนนะ ตอนเย็นจะพาไป” ปฐพีบอก
“พี่ดินก็นอนบนรถแล้วนี่ พี่เพลิงเป็นคนขับนะ ให้พี่เพลิงนอนคนเดียวได้ไหม พาดรีมไปเดินเล่นก่อน” ร่างบางบอกอย่างเอาแต่ใจ
ซึ่งเป็นการเอาแต่ใจครั้งแรกเลยก็ว่าได้
“ใครบอกว่ามันนอน มันแค่หลับตา ไม่ได้หลับอะไรเลย พี่ดินของดรีมน่ะ มันนอนบนรถได้ที่ไหน” อัคนีบอกเรื่องที่ปลายฝันไม่รู้มาก่อน
“หรือฮะ” ปลายฝันพึมพำด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ
ตอนเย็นก็ตอนเย็น
“ก็ได้ พวกพี่ไปนอนพักเถอะ เดี๋ยวเย็นๆ ดรีมมาปลุก” คนตัวเล็กบอก ทำท่าว่าจะเดินออกไปจากตรงนี้
“แล้วจะไปไหนล่ะนั่น” ปฐพีถามเสียงเข้ม ขมวดคิ้วแน่นมองปลายฝันที่กำลังจะเดินหนีจากฝั่งเตียงนอนไปยังอีกที่
“ก็จะไปเอาเสื้อผ้าเข้าตู้ไงครับ ไม่แอบหนีไปไหนหรอกน่า เชิญพี่สองคนนอนให้อิ่มเถอะ”
“ไม่ได้ประชดใช่ไหมล่ะนั่น” อัคนีถาม
“ครับ ไม่ได้ประชด” ตอบเสียงเรียบ
ปฐพีกับอัคนีเองดูเหมือนจะเหนื่อยเกินกว่าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับร่างเล็กต่อไป เลยพยักหน้านิด แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างกันทั้งคู่
ปลายฝันที่ยืนมองอยู่นั้นก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง เพราะความเอาแต่ใจของตน
“จะบ้าหรือไงดรีม เกิดมานอกจากแม่แล้ว เราก็ไม่เคยเอาแต่ใจกับใครเลยนี่ แต่พอพี่เขาเอาใจหน่อยเดียว ก็เหลิงใหญ่แล้วนะ” ปลายฝันเตือนตัวเองพร้อมกับแขวนชุดเข้าตู้ไปด้วย
อยากให้เขาเอาใจเรามากกว่านี้อีก
“แต่มันจะมากไปหรือเปล่า เราแค่คนอาศัยนะ”
เจียมตัวเข้าไว้ดรีม...มันไม่ใช่สิทธิ์ของเรา
“หลับไปแล้วสินะ หลับเร็วชะมัดเลย” ปลายฝันพึมพำเบาๆ เมื่อเดินมามองร่างสูงทั้งสองที่หลับสนิทบนเตียงกว้างหลังจากที่จัดเสื้อผ้าเข้าตู้เรียบร้อยแล้ว
มองไปรอบห้องอย่างเบื่อๆ แม้ว่ามันจะสวย แต่อยู่คนเดียวแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ร่างเล็กเดินไปขึ้นไปตามบันไดที่สังเกตเห็นก็พบว่ามีห้องใต้หลังคา เอาไว้ดูดาวด้วย
“คืนนี้มานอนดูดาวดีกว่า” ว่าพลางเดินดูรอบๆ ห้องใต้หลังคาที่มีผ้าปูกับหมอนวางไว้อยู่มุมหนึ่ง
ร่างเล็กเดินลงมาข้างล่างอีกครั้ง ก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย มองซ้ายมองขวาก็ไม่เจออะไรที่มันถูกใจเลยสักนิด เพราะไม่ต่างอะไรจากการนั่งนอนอยู่กับห้องเฉยๆ
“มาที่นี่ทั้งทีจะอยู่เฉยได้ยังไงล่ะ พี่เขาก็ไม่ได้ห้ามเขาด้วยว่าอย่าออกไปไหน ถ้างั้นก็...ไปเดินเล่นหน่อยก็แล้วกันนะ” ปลายฝันพูดกับตัวเองยิ้มๆ เดินไปหยิบกุญแจห้อง ใสเสื้อคลุมหนาวๆ เพราะอากาศค่อนข้างเย็น หยิบโทรศัพท์ กระเป๋าเงินออกจากห้องไป โดยพยายามปิดห้องให้เบาที่สุด
สองเท้าเดินไปข้างหน้าด้วยความไม่มั่นใจนักว่าควรจะไปตรงไหน ส่วนหนึ่งก็เพื่อจดจำทางด้วย ถ้าหากเดินเล่นจนพอใจแล้วจะกลับมาที่ห้องได้ถูก
“ว้าว! สวยชะมัดเลย ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” คนตัวเล็กเดินไปตามทาง ข้างทางมีสวน มีดอกไม้สวยๆ อยู่เต็มไปหมด จนอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเหล่านั้นเก็บไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
ผู้คนมากมายที่มาพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ ต่างก็เดินชมพื้นที่รอบๆ อย่างสนใจ และหนึ่งในนั้นก็คือปลายฝันที่แอบหนีปฐพีกับอัคนีออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้
“อยากให้ธากับวามาเห็นจังเลย”
ใบหน้าหวานประดับด้วยรอยยิ้มสวยตลอดเวลา จนคนแถวๆ นั้นต่างพากันมองร่างเล็กด้วยความสนใจ ทั้งหญิงและก็ชาย บ้างก็เคยเห็นปลายฝันจากหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ แต่บางคนก็ไม่รู้จัก อยากจะเข้ามาทำความรู้จัก แต่ก็ไม่กล้า เพราะร่างเล็กดูเหมือนไม่สนใจคนมากเท่าไหร่ เอาแต่มองธรรมชาติและดอกไม้ลูกเดียว
และการที่ปลายฝันสนใจแต่ธรรมชาตินี่แหละ ที่ทำให้ร่างเล็กชนกับคนๆ หนึ่งเข้าอย่างแรง
พลั่ก!!
“อ๊ะ” ร่างเล็กล้มลงกระแทกกับพื้นหญ้าอย่างแรง จนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“ขอโทษครับเป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มเข้มของคนที่ร่างเล็กชนถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงเพื่อช่วยพยุงปลายฝันขึ้นจากพื้นหญ้าเย็น
“ม่ะ...ไม่เป็นไรครับ ผมผิดเองที่ไม่ได้มอง แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ร่างเล็กตอบสั่นๆ เพราะยังเจ็บอยู่ แต่ก็ถามคนที่ถูกเขาชนกลับไปอย่างเป็นห่วง
แน่ล่ะ!! ตัวเองเป็นคนผิดนี่ เอาเรื่องขึ้นมาใครจะซวย ถ้าไม่ใช่ตัวเอง
“ผมไม่เป็นไรครับ มาครับเดี๋ยวผมช่วย” ร่างสูงใหญ่ของคู่กรณีช่วยพยุงร่างเล็กขึ้นมาอย่างสบายๆ เพราะตัวของปลายฝันไม่ได้หนักอะไรมาก
“ขอโทษจริงๆ นะครับ” ปลายฝันสบตาร่างสูงอย่างรู้สึกผิด เล่นทำเอาคนที่ช่วยพยุงถึงกับลมหายใจติดขัด ตอนแรกที่ลงไปช่วย ก็ไม่ได้มองหน้าปลายฝันอะไรอยู่แล้ว แต่พอเจอแบบนี้ ก็ใจเต้นแรงได้เหมือนกันนะ
น่ารัก!
“ไม่เป็นไรครับ ที่จริงต้องเป็นผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ เพราะผมเองที่ไม่ระวังและไม่มองด้านหลังให้ดีเสียก่อน”
“เอ่อ...แต่ยังไงก็ต้องขอโทษอยู่ดีครับ” ปลายฝันหลบสายตาที่มองมายังตนด้วยความอึดอัด
“ฮ่าๆ ถ้างั้นตอนนี้ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าครับ”
“ไม่แล้วครับ เดินได้ปกติ” ปลายฝันตอบพลางผละตัวเองออกมาอย่างไม่ให้ดูน่าเกลียด
“ดีแล้วล่ะครับที่ไม่เป็นอะไรมาก ถ้าอย่างนั้นผมต้องเสียเครดิตแน่ๆ เลยที่ทำให้ลูกค้ารีสอร์ทต้องเป็นอะไรไป หรือได้รับบาดเจ็บ” ร่างสูงพูดยิ้มๆ
เป็นการอวดตัวเองแบบไม่น่าเกลียดจริงๆ ...ปลายฝันคิด
“คุณ...เอ่อ” ปลายฝันอึกอัก
“ผมรามินทร์ เรียก ราม ก็ได้ครับ เป็นเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้ แล้วคุณ...?” รามินทร์แนะนำตัวเอง ก่อนจะถามกลับด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“เอ่อ...ผม ดรีมครับ” ตอบไปอย่างอึกอัก อยากจะออกไปจากตรงนี้เต็มแก่
“ชื่อเหมือนผู้หญิงเลยนะครับคุณดรีม อ๊ะ...ผมหมายความว่า น่ารักดีน่ะครับ” รามินทร์รีบแก้ตัวเมื่อเห็นคิ้วเล็กเริ่มขมวด
ปลายฝันสามารถแสดงความไม่พอใจออกไปได้ แต่พยายามเก็บไว้ดีกว่า เพราะอีกคนเป็นถึงเจ้าของรีสอร์ท และไม่อยากจะทำให้สองร่างสูงที่หลับอยู่ในห้องต้องเสียหน้าด้วย ถ้าเกิดว่าเขามีเรื่องออกมา
แน่นอนว่าร่างเล็กไม่ชอบให้ใครมาพูดว่าชื่อของเขาเหมือนผู้หญิง ไม่ว่าจะชื่อจริงหรือชื่อเล่น มันก็เหมือนผู้หญิงทั้งสอง แต่เขาก็ภูมิใจในชื่อ เนื่องจากมารดาเป็นคนตั้งให้แก่เขา ปฐพีกับอัคนียังไม่เคยพูดเลยว่าชื่อของเขาเหมือนผู้หญิง แต่ถึงจะพูดเขาก็ไม่รู้สึกอะไร
“ไม่เป็นไรครับ”
“ว่าแต่ คุณดรีมทานข้าวมาหรือยังครับ จะรังเกียจหรือเปล่าถ้าหากว่าผมจะเลี้ยงข้าวเป็นการไถ่โทษ”
“ผมทานแล้วล่ะครับ ที่จริงไม่ต้องเลี้ยงก็ได้นะครับ เพราะผมเองก็มีส่วนผิดเหมือนกัน” ปลายฝันปฏิเสธนิ่งๆ
“ทำแบบนี้ ผมรู้สึกผิดนะครับ ผมอยากเลี้ยงจริงๆ นะครับ ตอนเย็นก็ได้นะครับ ว่าแต่คุณดรีมมากับใครหรือครับ ครอบครัวหรือเปล่า” รามินทร์ถาม ในใจก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าปลายฝันยังไม่มีแฟน
“ครับ” พนักหน้าตอบ ซึ่งมันทำให้รามินทร์ยิ้มระรื่นอย่างดีใจ เพราะร่างเล็กบอกว่ามากับครอบครัว แสดงว่ายังไม่มีแฟน ยังไม่มีเจ้าของ
ก็หมั้นกันแล้ว แสดงว่าเป็นครอบครัวใช่หรือเปล่านะ...
“ถ้างั้น เย็นนี้มาทานข้าวที่ร้านอาหารนะครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง พาครอบครัวของคุณดรีมมาทานด้วยก็ได้นะครับ นี่เป็นนามบัตรของผม มีปัญหาอะไรติดต่อผมได้นะครับ”
ปลายฝันรับนามบัตรตรงหน้ามาตามมารยาท ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้กับคนตัวสูง
“ขอบคุณนะครับ ดูแลลูกค้าดีจังเลยนะครับ เจ้าของลงมาดูแลเองขนาดนี้เลย”
“ผมมาดูแลเฉพาะลูกค้าที่พิเศษเท่านั้นแหละครับ” สิ้นคำตอบของรามินทร์ ปลายฝันถึงกลับกลืนไม่ได้คายไม่ออก ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าคนตรงหน้าพยายามที่จะจีบ
แต่ก็ไม่อยากคิดในทางที่ไม่ดีไว้ก็เท่านั้น
“เอ่อ...ครับ”
“แล้วนี่คุณดรีมจะไปเดินเล่นหรือครับ” เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มถาม
เร่งทำคะแนนเต็มที่ เพราะสำหรับรามินทร์แล้ว ชื่นชอบใบหน้านี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลย...ไม่รู้ตัวเองหรอกว่ามันคือความรู้สึกอะไร แต่โดยนิสัยของตนแล้ว
ถูกใจอะไรแล้ว เขาก็ต้องได้มาครอบครอง
อยากได้อะไร เขาก็ต้องได้
นี่แหละ...คือนิสัยของ รามินทร์ อัครสิงหบดี เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มที่มีสาขาตามสถานที่ท่องเที่ยวหลายสาขาที่เพิ่งจะรับสืบทอดมาจากผู้เป็นพ่อของตน แม้จะไม่ได้เด่นดังเช่นปฐพีกับอัคนี แต่ก็ดังในหมู่นักธุรกิจรีสอร์ทด้วยกันเองเป็นอย่างดี
และเขาก็มั่นใจว่า สิ่งนี้มันจะสามารถมัดใจของปลายฝันได้
“ผมว่าจะกลับไปพักผ่อนแล้วล่ะครับ”
“เสียดายจัง ผมกะว่าจะพาคุณเดินเที่ยวรอบๆ รีสอร์ทเสียหน่อย” บอกออกมาอย่างเสียดาย แต่สำหรับปลายฝันมันน่ายินดีนักที่บอกว่าตนจะกลับที่พัก
“ขอบคุณนะครับที่จะสละเวลา แต่ผมเดินชมแบบเต็มอิ่มแล้วล่ะครับ เดี๋ยวตอนเย็นๆ ผมจะมาเดินเที่ยวบรรยากาศของที่นี่อีกทีกับครอบครัวของผมน่ะครับ แอบหนีเขามาก่อน” ปลายฝันบอกยิ้มๆ เมื่อนึกถึงคนที่นอนอยู่ในห้องทั้งสองคน
ถ้าหากพวกเขารู้ว่าปลายฝันแอบมาเดินเที่ยวคนเดียวล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...
“ถ้างั้นให้ผมเป็นไกด์ก็ได้นะครับ”
“ไม่ดีกว่าครับ ผมเกรงใจ ที่สำคัญครอบครัวของผมชอบอะไรที่มันเป็นส่วนตัวมากกว่า” รามินทร์นิ่งไปกับคำตอบของปลายฝัน แต่ก็พยายามคิดในทางที่ดี
อาจจะชอบความเป็นส่วนตัวจริงๆ ก็ได้
“ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรครับ แล้วพรุ่งนี้คุณดรีมมีทริปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือเปล่าครับ ให้ผมไปเป็นไกด์ได้นะครับ เพราะแถวนี้ผมรู้จักหมด” เสนอตัวเองเข้าไปอีก
รามินทร์ไม่เคยยอมแพ้ใครอยู่แล้ว
“ยังไม่ทราบเลยครับ คงจะแล้วแต่ว่าพวกพี่เขาจะพาผมไปที่ไหนบ้าง”
อ่า...มากับพี่นี่เอง
“ถ้าต้องการไกด์ยังไง โทรมาที่เบอร์ของผมได้นะครับ เดี๋ยวผมจะมาเป็นไกด์ให้”
“อ่า...ขอบคุณครับ”
ปลายฝันไม่ได้ปฏิเสธและไม่ได้ตอบรับในคราวเดียวกัน แค่บอกขอบคุณอย่างเป็นกลางก็เท่านั้น เพราะเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ถึงขนาดที่ปลายฝันจะไปหักหน้า
“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณรามินทร์” ปลายฝันเอ่ยขอตัว
“ได้ครับ พักผ่อนให้เพียงพอนะครับ มีอะไรขาดตกบกพร่องก็โทรแจ้งผมได้เลย”
“ครับ”
“เจอกันตอนเย็นนะครับ” ปลายฝันไม่ตอบ แต่ส่งยิ้มให้แทน ก่อนจะก้มหน้าน้อยๆ เดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นทันที
พอเดินจากตรงนั้นมาได้ไกลพอสมควรแล้ว ร่างเล็กก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจที่สามารถหนีออกจากรามินทร์ได้
“ผู้หญิงก็มีตั้งเยอะ แต่ทำไมถึงมีแต่ผู้ชายที่เข้ามาจีบกันนะ” พึมพำกับตัวเอง
ไม่ได้โง่ขนาดที่จะมองไม่ออกว่าผู้ชายคนไหนเข้ามาด้วยจุดประสงค์อะไร เพราะคนที่ล้วนแต่เข้าหาปลายฝันมักจะแสดงออกมาทางสีหน้าจนสามารถเดาได้ เว้นไว้แค่ ปฐพีกับอัคนี สองคน ที่แม้จะบอกว่าชอบเขา
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ปลายฝันมั่นใจอะไรได้เลย
“คิดอะไรมากเนี่ยเรา เดินเล่นต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน”
คนตัวเล็กพูดกับตัวเองก่อนจะเดินไปอีกฝั่งหนึ่งที่คิดว่ารามินทร์จะไม่เห็น เดินเล่นเพลินจนลืมเรื่องที่คิดมากไปเสียสนิท ถ่ายรูปนั่นรูปนี่ไปเรื่อยๆ บ้างก็ส่งไปให้ก้องภพกับญาณินอิจฉาเล่น จนได้รับข้อความต่อว่ากลับมามากมาย แต่ก็ไม่จริงจังนัก
“ฮ่าๆ สนุกจังเลย” หัวเราะออกมาเพราะข้อความของญาณินที่ส่งมาแบบงอนๆ
ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าของเสื้อโค้ทเหมือนเดิม เห็นเวลาจากโทรศัพท์แล้วก็ปรากฏว่าตัวเองออกมาจากห้องได้เกือบ 2 ชั่วโมง ก็ตัดสินใจที่จะเดินกลับห้อง
ภาวนาในใจให้ปฐพีกับอัคนีจอมขี้เซายังไม่ตื่นขึ้นมาก็พอ
...
...
...
ปลายฝันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เข้ามาในห้องแล้วยังพบว่าปฐพีกับอัคนียังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ก็อดที่จะยิ้มกับความหลับลึกของทั้งคู่ไม่ได้
“คงจะเหนื่อยจริงๆ เพราะเลิกงานเสร็จก็ได้นอนไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องถ่างตาพาเรามาเที่ยวก่อน”
“ไม่น่าไปเอาแต่ใจตัวเองตอนนั้นเลย”
ปลายฝันถอดเสื้อกันหนาวที่เป็นโค้ทตัวใหญ่ออก แล้วเดินไปนั่งดูโทรทัศน์ฆ่าเวลา รอทั้งสอนตื่นขึ้นมาพาตนไปเดินเล่นตามสัญญา
แม้ว่าจะไปเดินมาแล้ว แต่ก็อยากเดินกับทั้งคู่อยู่ดี
มันน่าจะรู้สึกดีกว่านี้แน่ๆ
“รีบตื่นนะฮะ พี่ดิน พี่เพลิง” พึมพำเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
สุขใจที่ได้มาด้วยกัน แต่มันคงจะมีความสุขมากแน่ๆ ถ้าได้มีความทรงจำร่วมกันกับปฐพีและอัคนี เพราะปลายฝันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะอยู่ตรงนี้ได้นานแค่ไหน
จะจบกันไปด้วยดีหรือไม่...
แต่ขอจดจำความทรงจำดีๆ เอาไว้ดีกว่าความทรงจำแย่ๆ
…
…
ตกเย็น อากาศเริ่มเย็นตัวลงจนปลายฝันที่เพิ่งจะอาบน้ำอุ่นๆ เสร็จถึงกับขนลุกเกลียวทั้งตัว รีบเอาเสื้อแขนยาวมาใส่ทับให้หนา
“ดีนะที่ไม่สระผม ว่าแต่พวกพี่เขาตื่นยังเนี่ย” ปลายฝันเดินไปยังเตียงกว้างอีกครั้งก่อนจะทำการเขย่าตัวปฐพีเพื่อปลุกเป็นคนแรก เนื่องจากเป็นคนที่ตื่นยากที่สุด
“พี่ดินตื่น นอนนานไปแล้วนะ นี่มัน 5 โมงแล้วนะ” เวลาปกติของ 5 โมงเย็นจะไม่ได้มืดเร็วขนาดนี้ เนื่องจากฤดูหนาวทำให้เวลามันมืดเร็วไป
ปลายฝันคงไม่ได้เดินเล่นแล้วล่ะ ทั้งหนาว ทั้งมืด คงถ่ายอะไรไม่สวยแน่ๆ
“อืม...ตื่นแล้ว” บอกด้วยน้ำเสียงที่งัวเงียเต็มที่
“ถ้างั้นก็ลุกไปอาบน้ำ จะได้ไปหาอะไรกิน” ปลายฝันเท้าสะเอวมองคนตัวสูงที่ปากบอกว่าตื่นแล้ว แต่ยังนอนอยู่ที่เดิม ท่าเดิมไม่ขยับตัว
“แป๊บนะ”
“ไม่!”
“นิดเดียว”
“ไม่!! เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับนะพี่ดิน”
“เออน่า”
“ลุกกกก” ดึงแขนใหญ่ให้ลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับลากเสียงยาวๆ ซึ่งปฐพีก็ยกยิ้มออกมาทั้งที่ตายังหลับอยู่ ลุกขึ้นตามแรงดึงของคนตัวเล็ก
“หอม” ไม่พูดเปล่า ซุกหน้าหล่อของตนเข้ากับลำคอระหงส์ก่อนจะสูดดมเข้าเต็มปอด จนปลายฝันหน้าแดงซ่านด้วยความอาย
ปั่ก!!
“นี่แหนะ! ชอบลวนลาม ไปอาบน้ำเลยนะ” ปลายฝันทุบหลังแกร่งแรงๆ อย่างไม่กลัวปฐพีเจ็บ จนใบหน้าหล่อเงยจากคอสวยหอมแก้มนุ่มของปลายฝันแรงๆ ก่อนจะลุกจากเตียงไปอย่างเร็ว ทิ้งให้ปลายฝันยืนทำอะไรไม่ถูกสักพัก
“บ้าที่สุด”
ร่างเล็กเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งที่มีร่างของอัคนีนอนอยู่
“ตื่นแล้ว” ยังไม่ทันที่ปลายฝันจะปลุก อัคนีก็พูดขึ้นมาก่อน
“ก็ลุกสิฮะ นอนอยู่ทำไม” ถามกลับไป
“ไอ้ดินมันอาบอยู่ ค่อยลุกก็ได้”
“เฮ้อออ...ก็พากันมีข้ออ้างดีจังเลยนะ”
“เอาน่า เรื่องที่มันอนุโลมได้ก็ปล่อยๆ บ้างเถอะ เข้มงวดอย่างกับคนแก่” อัคนีลืมตาขึ้นสบกับดวงตาของปลายฝันที่มองแบบหาเรื่องที่มาหาว่าเขาแก่
“เชอะ! วันไหนที่ไม่มีผมแล้ว พวกพี่จะรู้สึก” สิ้นคำพูดของปลายฝัน อัคนีก็ดีดตัวขึ้นจนไม่กลัวว่าเลือดจะหมุนเวียนไม่ทัน
“ปากน่าตีจริงๆ”
“อ้าว? นี่ดรีมผิดอะไรอีกล่ะ” ถามด้วยความไม่เข้าใจ นั่งลงบนเตียงข้างๆ กับอัคนี
“เมื่อกี้พูดอะไรออกมา” ถามเสียงเข้ม
“พูด? พูดอะไรล่ะ”
“เฮ้อ...เอาเถอะๆ แล้วนี่อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษไหม จะไปหาอะไรกินข้างนอกหรือกินร้านอาหารข้างใน” อัคนีถามเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากจะทะเลาะกัน
“กินข้างนอกได้ไหม นะฮะ” ปลายฝันรีบขอจนอัคนีหรี่ตามองอย่างสงสัยที่ดูเหมือนจะอยากเกินเหตุ
“มีอะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ...” ปลายฝันหลบตา
จะบอกไปยังไงล่ะเนี่ย ดันทำตัวพิรุธเองนี่เรา โง่จริงเลยดรีม
(มีต่อ)