ตอนที่ 9
“โอ้ย !”
เพล้ง !
เสียงของหล่นแตกพร้อมเสียงร้องทำให้คุณหมอกับหนึ่งหมาหันขวับไปมองพร้อมกัน หมอที่สภาพดีที่สุดจึงรีบวิ่งไปดู ก็เห็นเนมกุมมือเลือดไหลพราก มีจานหล่นแตกเป็นองค์ประกอบ
“อยู่เฉยๆนะ”
ผมรีบบอกก่อนที่น้องมันจะขยับ เศษกระเบื้องกระจายไปรอบตัว แล้วไอ้เด็กหน้าใสนี่ก็ดูจกตใจจนทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายผมเลยรวบตัวมันขึ้นพาดไหล่เดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะวางลงบนโซฟาที่นั่งเมื่อครู่
“กล่องยาอยู่ใต้โต๊ะหน้าทีวี เอามาทำแผลไป”
สั่งไปรวมๆ ไม่ได้ระบุใคร ก่อนจะเข้าไปจัดการปิดตัวแก๊สและเก็บกวาดพื้น ออกมาก็เห็นไอ้ตูบกำลังบ่นไปทำแผลให้รุ่นพี่มันไป คนเจ็บก็ใช้มืออีกข้างยีหัวไอ้ตูบเบาๆ มันก็ทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยิ้มเขินออกมา บรรยากาศโรแมนติกทำผมกระอักกระอ่วน เอาเถอะ กูทำกับข้าวเองก็ได้วะ!
“ขอโทษนะครับ เพราะผมพี่หมอเลยต้องทำอาหารเอง ทั้งๆที่ผมอาสาแล้วแท้ๆ”
“เอาน่า เรื่องเล็ก กินเถอะ ไม่เจ็บตรงไหนอีกก็ดีแล้ว”
“ขอบคุณครับ”
เด็กมันยกมือไหว้ผม ผมก็ยกมือไหว้ตอบ เออมารยาทดีไหว้สวย ผิดกับไอ้ตูบไหว้ทีนี่ยกมือขึ้นมาทื่อๆ ผมยักคิ้วให้ไอ้ตูบส่งสัญญาณว่าเป็นไงล่ะเอ็ง เขาดีกว่าเอ็งตั้งเยอะ มันก็แลบลิ้นลอยหน้าลอยตาใส่
“อ่ะลุง กินหัวหอมเยอะๆ รู้ว่าลุงชอบ”
นั่นไงมันเริ่มกวนตีนอีกอบ ผมชอบใส่หัวหอมในต้มยำเพราะกลิ่นมันหอมแต่ไม่ได้ชอบกินสักนิด! มันก็ยังอุตส่าห์ประจ๋อประแจ๋ตักมาให้ผม
“อ่ะงั้นเอานี่ไป ใบกระเพราะกรอบ รู้ว่าชอบเหมือนกัน”
มันเริ่มถลึงตากลับ เพราะมันชอบกินผัดกระเพราแบบไม่เอาใบกระเพราเอาแค่กลิ่นเหมือนกัน
“ฮ่าๆ สนิทกันจังเลยนะครับ”
“อยู่มาสักพักมันก็เริ่มชินล่ะนะ”
“แต่ลุงแม่งขี้บ่นนะพี่เนม”
“นี่! ไม่ต้องกินซะดีมั้ย”
“อย่าแกล้งเด็กเด้ ! วัยกำลังกินกำลังนอนนะลุง !”
ไม่ทันไรศึกบนโต๊ะอาหารก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เนมได้แต่อมยิ้มส่ายหัวปลงๆก่อนจะพูดขัดออกมา
“แต่อีกสามวันเบียร์ต้องกลับหอแล้ว พี่หมอคงสบายขึ้นเยอะ ไม่มีคนมากวน เราก็ทำตัวดีๆในอีกสามวันทีเหลือนะเบียร์ เป็นเด็กดีเข้าใจมั้ย หืม”
“อื้อ รู้แล้วน่า”
สุดท้ายก็ต่างคนต่างเงียบ เหลือแต่เนมที่ยังชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทำเหมือนไม่รู้สึกว่าอีกสองคนเงียบไป
“เดี๋ยวพี่ไปส่งมันดึกแล้ว เราอยู่หอไหนล่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ใกล้ๆแค่นี้เอง”
“เถอะน่า ตรงไหนล่ะ”
“หอ …. ครับ ใกล้ๆหอเบียร์แหละครับ”
“โอเค เบียร์เฝ้าบ้านดีๆล่ะ ขโมยมาก็เห่านะ”
ผมยิ้มขำเมื่อไอ้ตูบมันทำท่าแยกเขี้ยว มายืนเกาะประตูโบกมือหยอยๆส่ง ตอนแรกก็อยากให้มันมาด้วย แต่ผมขอแอบเห็นแก่ตัวแยกมันกับแฟนมันหน่อยแล้วกัน อิจฉาโว้ยลูบหัวลูบหางกันอยู่นั่นแหละ
ถือโอกาสคุยกับศัตรูหัวใจหน่อยแล้วกัน เผื่อจะได้รู้ความคืบหน้าของความสัมพันธ์บ้าง
“เป็นไงฝีมือพี่พอใช้ได้มั้ย”
“โห อร่อยกว่าผมทำอีกครับพี่กร ดีนะที่เจ็บตัวไม่งั้นโชว์ฝีมือไปอายตายเลย แหะๆ”
“พี่แค่ชอบทำอาหารน่ะ แต่ก็ชอบกินนะ ปกติจะแบ่งกันกับเบียร์ทำคนละมื้อ รายนั้นยิ่งทำอร่อย”
“อ่อ … ครับ ฮะๆ พี่หมอกับเบียร์รู้จักกันนานแล้วหรอครับ”
“ก็สักพัก แต่ช่วงนี้ก็อย่างที่เห็นสนิทกันไปแล้ว”
“เบียร์เขาสนิทกับคนง่ายครับ เฟรนด์ลี่ด้วยล่ะ อยู่กับใครก็สนิทกับคนนั้นคนนี้ไปหมด จนมีคนเข้าใจผิดบ่อยๆว่าน้องไปให้ความหวัง
ประจำเลยครับ”
“อือฮึ”
ผมรู้สึกว่าไอ้เด็กนี่มันคงจะหวงไอ้ตูบ ก็ไม่แปลก เป็นผมถ้ามีคนมาสนิทกับคนของตัวเองก็หวงเป็นธรรมดา ไม่มานั่งคุยน้ำเสียงสบายอารมณ์แบบนี้หรอก มันต้องมีชี้หน้าประกาศศักดาให้รู้กันไปข้าง! เฮ้อ … แต่ไอ้ตูบเสือกไม่ใช่คนของผม เลยต้องมาทนฟังเจ้าของเขาแซะแบบนี้
“ผมก็ไม่สบายใจเหมือนกันนะครับ บางทีคนที่เข้ามาคุยกับน้องเนี่ยก็เหมือนจะไม่ได้เจตนาดี เฮ้อ … แต่ถ้าเป็นพี่หมอผมก็สบายใจ เพราะพี่หมอเป็นผู้ใหญ่แถมนิสัยดีคงไม่คิดแบบนั้นกับเบียร์หรอก เฮ้อ .. อย่างน้อยก็ดีกว่าน้องไปอยู่กับคนอื่น”
มือผมกำพวงมาลัยแน่น แม่งปิดกูทุกทางเลยนะ! พูดขนาดนี้ถ้าวันไหนผมงาบไอ้เบียร์ขึ้นมานี่เท่ากับโดนตราหน้าว่าหลอกเคลมเด็กชัวร์!
“ฮ่าๆ พี่ไม่หลอกมันหรอก กลัวแต่มันจะหลอกพี่นี่สิ อันนั้นก็ช่วยไม่ได้เนอะ”
ผมแกล้งยิ้มพิมพ์ใจตอบไปแบบเนียนๆว่าถ้าเด็กมันอ่อยกูก็ไม่ผิดนะโว้ย ไอ้เด็กหน้ายิ้มนี่ก็ยิ้มแห้งไปหน่อยแล้วก็ทำชวนคุยเรื่องอื่นแทน ส่วนมากก็ถามเกี่ยวกับผม ไม่รู้จะอยากรู้อะไรนักหนา สงสัยจะประเมินคู่แข่ง เหอะ!
“ลุงงง มาต่อโดมิโนกัน”
กลับมาถึงไอ้ตูบขาเป๋ก็กวักมือหยอยๆชวนเล่นต่อ
“ไม่อาบน้ำอีก สกปรก ไปอาบน้ำไปค่อยมาเล่น”
“โอ่ยยย อุตส่าห์รอลุงนะเนี่ยยยย ค่อยอาบน่ะ เล่นก่อนเดะ”
“ไปอาบโว้ย เหม็น หัวนี่เน่าแล้วมั้งมันแผลบ”
“ก็เซ็ตผมเมื่อเช้าก็มันส์มู้สสสสสสส ลุงสระผมให้หน่อย นะ นะค้าบบบบบบบบบ”
“ทำเองเดะ เก่งไม่ใช่รึไง”
ผมแกล้งเตะมันไปเบาๆก่อนจะทรุดนั่งบนโซฟาข้างมัน มันที่นั่งอยู่บนพื้นก็รีบมาเกาะขาผมทำตาปริบๆ
“สงสารผมหน่อยน่า น้ำมันเข้าขาเน่าทำไงอ้ะ”
“ขาใครก็ดูแลเอง”
“นะลุงนะ เห็นแก่เด็กตาดำๆ เนอะเนอะ”
ถ้ามีหางมันก็หางกระดิกไปมา ซ้ายขวาแน่ๆ ไอ้ตูบเอ้ย
“เออ ก็ได้ ไปเร็ว เหม็น”
“เย้เย้เย้ !”
เราก็เดินกันท่าเดิม คือผมสอดแขนโอบเอวมันประคองขึ้นชั้นสอง มันก็จ้อเรื่อยเปื่อยทุกเรื่องในชีวิตมันถูกเล่าใส่หูผมหมด ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือหางยาว
กิจกรรมในห้องน้ำก็เหมือนเดิม บ็อกเซอร์คนละตัว ผมนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กยืดขาให้ไอ้ตูบนอนหนุน สองมือก็ขยี้ๆหัวมันแชมพูก็เลอะไปทั้งขาเหมือนเดิม
“ซ้ายหน่อยยย”
“โอเคมะ”
“สุดๆอ่ะ มือลุงนี่น้ำหนักดี๊ดี น่าจะเปิด กรบิวตี้ซาลอน ก๊ากกกกกกก โอ้ย ลุงเบาๆ หนังหัวจะหลุดดด อ๊ากกก ผมแหย่เล่นนิดเดียวววว”
“หึหึ เหากระเด็นออกมาเพียบ”
“ไม่มีเหอะ … นั่นเห็บ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ไอ้ตูบเอ้ย”
“ตูบอะไร หล่อขนาดแบรนดพิตชิดซ้าย โรเบิร์ตแพตทินสันชิดขวา สาวๆทั้งโลกยังต้องยอมสยบ”
“เอาน้ำล้างหัวนะ จะได้เลิกฟุ้งซ่าน”
ผมปรับฝักบัวเป็นน้ำเย็นสุดจ่อหัวหมาทันที มันก็เอียงหัวไปมาให้จัดการดูแลทุกขั้นตอน สบายมันเชียว ผมนี่ลำบาก ขาชารอบที่เท่าไหร่ไม่รู้
“เอ้าเสร็จแล้ว ยกตัวขึ้น”
ผมหยิบผ้าพันหัวมันกลายเป็นอาบัง มันก็ตะเบ๊ะเลียนแบบทหารขอบคุณ
“ขอบคุณค้าบ ลุงใจดี๊ใจดี ต่อไปถ้าผมขี้เกียจสระผมจะมาให้ลุงสระให้”
“ไปให้เพื่อนสระให้โน่น ไม่ต้องมาไกลถึงบ้านฉันหรอก”
“โห่ลุง ผมออกจะคิดถึงลุงนะ ลุงไม่คิดถึงผมมั่งหรออออออออ”
ผมยิ้มจนตายิบหยีทำให้ผมไม่รู้จริงๆว่ามันพูดเพราะความเฟรนด์ลี่แบบที่เนมว่า หรือมันพูดจากใจ ผมเลยขยี้หัวอาบังของมันแทน
“ไม่คิด หึหึ”
“โอะ อกหัก โดนลุงสลัดรัก เฮือกกกกกกก”
“คิดจะจีบข้า อีกห้าปีค่อยว่ากัน เด็กกระเปี๊ยกแบบนี้ไม่น่าสนใจสักนิด”
ฉึก … คำพูดกรีดใจตัวเอง ฮืออ ไอ้กรอดทนไว้!
“ลุงชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่หรอ?”
คราวนี้มันจ้องผมนิ่ง ผมเห็นแววตาคาดคั้นชัดเจน
“ก็ … ไม่ดีหรอ? จะได้คุยกันรู้เรื่อง ฉันก็แก่จนนายเรียกลุงทุกวันๆแล้วนี่”
“อ่า… ก็จริง ผมจะอาบน้ำ ลุงออกไปก่อนเลยยยยย เร็วๆ หนาวนะเนี่ย”
“เอ้าไอ้เด็กนี่ ใช้เสร็จก็ถีบหัวส่งเลยนะเอ็ง รีบอาบล่ะ จะอาบต่อ”
ผมเดินออกมาพร้อมปิดประตูห้องน้ำเรียบร้อย แต่ก็ยังยืนจ้องประตูอยู่แบบนั้น … คำถามกับท่าทางมันผมก็ไม่โง่อินโนเซนต์จนดูไม่ออกว่า … มันก็เหมือนจะหวั่นไหวนิดๆ แต่ก็ไม่มากพอที่จะให้ผมก้าวเข้าไปใกล้มันเท่าที่ผมหวังไว้
ผมแก่เกินกว่าจะเอาความหวั่นไหวเพราะการใกล้ชิดกันในช่วงเวลาหนึ่งมาเป็นโอกาส เพราะมันไม่มีความแน่นอนและไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าถ้าต่างคนต่างกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้วความรู้สึกดีมันจะไม่หายไป
เบียร์ลูบหน้าเปียกๆของตัวเองไปมา สายตาก็ยังจ้องไปที่ประตูที่ปิดสนิท … ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีพอรู้ว่าลุงไม่ได้ชอบแบบเขา ก็ดีแล้วนี่ถ้าเกิดลุงมาชอบสิจะบอกพี่เนมยังไง แล้วถึงลุงจะชอบจริงๆเขาจะทิ้งพี่เนมไปหาลุงที่มาทีหลังมันดีแล้วหรอ พี่เนมก็ไม่ได้ทำอะไรผิด … อย่าเอาความหวั่นไหวชั่วครู่มาทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องเสียใจสิ เดี๋ยวก็ดราม่าแบบในละครน้ำเน่าอีกอ่ะ เฮ้อ .. คิดมากทำไมนะ ลุงก็ไม่ได้ชอบเราสักหน่อยนี่…
- --------------------------------------------------------------------------------------
-3- จ้วบ