มีข่าวจะแจ้งให้ทราบค่ะ แต่ก่อนอื่น อ่านนิยายให้สนุกก่อนคะนะ แล้วค่อยไปอ่านข้างล่างค่ะ ตอนนี้หากมีคำผิด หรือพลาดอะไรตรงไหนก็ขอภัย ณ ทีนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 41
ชมรมบาสเก็ตบอล...
เอยอยู่บ้านเศวตเจริญจนถึงตอนค่ำ หลังจากทานอาหารมื้อค่ำเสร็จ เอยก็ขอตัวกลับ แม้ว่าคุณวิดาขอร้องให้นอนค้างอีกคืนก็ตาม
“เอย นอนค้างอีกคืนสิ แล้วพรุ่งนี้จะได้ไปทำงานพร้อมกวินเลย” คุณวิดาว่า
“อย่าดีกว่าครับ ผมไม่ได้เตรียมชุดทำงานมา” เอยบอกออกไปเช่นนั้น
“เสียดายจัง ถ้าอย่างนั้นอาทิตย์หน้ามาค้างนะ” คุณวิดาบอก
“ดูก่อนครับ” กวินบอก ก่อนที่จะขึ้นรถไป เอยยกมือไหว้ลาคุณเกริก คุณวิดา กฤศ และชมพู
“ไปก่อนนะครับ” เอยบอก
“มาอีกนะครับพี่เอย” กรินยืนโบกมือโบกไม้ให้
เอยขึ้นรถไป พร้อมๆกับกวินที่สตาร์ทเครื่องและขับรถออกไปจากบ้านเศวตเจริญ ขับไปเรื่อยๆไม่ได้รวดเร็วนัก ข้างทางไม่มีอะไรให้ดู เอยจึงนั่งเรื่อยๆ มองไปแต่ทางข้างหน้า
“คืนนี้ไปค้างคอนโด” กวินพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“อะไรนะครับ” เอยหันไปถาม
“คืนนี้ไปค้างคอนโด” กวินย้ำคำเดิม
“แต่ผมบอกแม่แล้วครับว่าจะกลับบ้าน...เป็นวันอื่นได้ไหมครับ?” เอยบอก
“ถ้าอย่างนั้นก็พรุ่งนี้” กวินว่า
“พรุ่งนี้เลยเหรอครับ?”
“ใช่” กวินบอกอย่างนั้น
“ก็ได้ครับ” เอยตกปากรับคำ
กวินขับไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ถึงบ้านของเอย ตอนนี้ทั้งบ้านเปิดไฟสว่าง แปลว่าแม่ของเอยยังไม่นอน เอยปลดเข็มขัดนิรภัยออก ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นบนบ่า
“จะลงไปไหมครับ?” เอยถาม
“วันหลังดีกว่า” กวินว่า
“ถ้าอย่างนั้น....ขับรถกลับดีๆนะครับ” เอยบอก
“เดี๋ยวถึงแล้วจะโทรหา” กวินบอกเช่นนั้น ก่อนที่จะขับรถออกไป เอยมองรถของกวินที่ขับหายไปแล้ว ถึงจะเดินเข้าบ้าน
เข้าบ้านไปก็คุยกับแม่นิดหน่อยเพราะแม่ก็กำลังจะเข้านอนแล้ว เอยจึงขึ้นห้องไปอาบน้ำ สวมชุดนอนเตรียมพร้อมจะนอน แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ครับ คุณกวิน” กวินเป็นคนโทรมา
“ฉันอยู่ที่คอนโดแล้ว” กวินบอก
“อย่างนั้นเหรอครับ” เอยว่า
“เธอจะนอนแล้วใช่ไหม?” กวินถาม
“ครับ ใกล้จะนอนแล้ว” เอยพูด
“ฝันดี” กวินบอก
“ครับ”
หลังจากวางสายไป เอยก็ล้มตัวลงนอน ก่อนนอนก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงมินตราและเรื่องที่คุณวิดาเล่าที่ว่าคุณภัสสรเธอไม่ยอมรับที่กวินไม่เลือกมินตรา ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรต่อไป ในเมื่อฝั่งนั้นไม่ยอม จะมีผลต่อธุรกิจในภายภาคหน้าหรือไม่ คิดไปคิดมา เอยก็เผลอหลับฝันไป...
วันนี้เป็นวันที่มีคาบชมรมอีกแล้ว วันนี้เอยต้องทำรายงานถึงรายละเอียดการทำเวรบรรณรักษ์ส่งอาจารย์สุธี ส่วนกี้ก็กำลังประชุมกับน้องๆ ถึงการเพิ่มงานและตารางที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่อีกครั้งหนึ่ง เอยทำรายงานเสร็จพอดี ก่อนที่จะหันไปบอกกี้ว่าต้องไปส่งรายงานกับอาจารย์สุธี
“กี้...เราไปส่งรายงานให้อาจารย์สุธีก่อนนะ” เอยบอก
“เอย...จะไปหาอาจารย์สุธีเหรอ รู้สึกแกจะไม่ได้อยู่ที่ห้องพักนะ” กี้ว่า
“แล้วแกอยู่ที่ไหนเหรอ?”
“น่าจะเป็นชมรมบาส ไปนั่งคุยกับอาจารย์เมฆอย่างเคยนั่นแหละ” กี้บอก
“ชมรมบาสเหรอ...”
ถ้าไปชมรมบาสเก็ตบอล ก็ต้องเจอกวินแน่ๆ เพราะกวินอยู่ชมรมนั้น เอยจึงเดินออกจากห้องสมุดตรงไปยังโรงประชุม ที่ๆเป็นสถานฝึกซ้อมของชมรมบาสเก็ตบอล เห็นอาจารย์สุธีนั่งหัวเราะกับอาจารย์เมฆมาแต่ไกล เอยเดินเลียบๆเคียงๆไม่ให้เข้าไปบริเวณที่เขากำลังซ้อมกันอยู่
“อ้าว....พีระนัม มีเรื่องอะไรรึเปล่า?” อาจารย์สุธีหันมาเจอเอยพอดี จึงเอ่ยถาม
“ผมเอารายงานมาส่งครับ” เอยว่า
“ไหน เอามาดูหน่อย” อาจารย์สุธีขอดูรายงานที่เอยทำ
“นี่ครับ” เอยว่าพลางยื่นให้
“นั่งก่อนพีระนัม ขออาจารย์ตรวจดูหน่อย” อาจารย์สุธีว่า เอยจึงนั่งลง และมองดูชมรมบาสที่กำลังซ้อมกันอยู่
“พร้อมแข่งกันรึยัง?” เสียงอาจารย์เมฆตะโกนถาม
“พร้อมครับ” เสียงเด็กนักเรียนในชมรมว่า
“แข่งอะไรกัน?” อาจารย์สุธีที่อ่านรายงานหันไปถามอาจารย์เมฆ
“แข่งคัดตัวจริงไปแข่งกับโรงเรียนอื่น” อาจารย์เมฆบอกอย่างนั้น
“ว่าแต่ เด็กนายว่างไหม” อาจารย์เมฆพูดต่อ พลางพยักพเยิดหน้ามาที่เอย
“ทำไมเหรอ?” อาจารย์สุธีถาม
“รบกวนมาช่วยชมรมเราวันนี้หน่อยสิ วันนี้คนที่ดูแลชมรมไม่มา” อาจารย์เมฆบอก
“พีระนัม...ทำรายเสร็จก็ว่างแล้วใช่ไหม?” อาจารย์สุธีถาม
“ก็..ครับ” เอยบอก
“ถ้าอย่างนั้นอยู่ช่วยชมรมบาสก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวอาจารย์จะไปบอกนายกีรติให้” อาจารย์สุธีว่า
“กะ...ก็ได้ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปชมรมก่อนนะเมฆ” อาจารย์สุธีบอก ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกไปจากโรงประชุม
“พีระนัมใช่ไหม?” อาจารย์เมฆถาม
“ครับ” เอยพยักหน้า
“เดี๋ยวไปเอาน้ำดื่มในถังไปแจกพวกที่ซ้อมเสร็จ แล้วก็เอาผ้าเย็นให้ด้วยนะ” อาจารย์เมฆบอก
“ครับๆ”
เอยลุกขึ้นเดินไปยังถังที่อาจารย์เมฆชี้บอก ก่อนที่จะหยิบขวดน้ำขวดเล็กๆที่แช่พร้อมน้ำแข็งอยู่ในนั้น และยังมีผ้าเย็นอีกหลายผืน หยิบมาตามจำนวนคนที่อาจารย์เมฆบอก ยกมันมานั่งรอข้างๆสนาม สายตาเหลือบไปเห็นกวินกำลังอบอุ่นร่างกายอยู่ ดูท่าว่ากวินกำลังจะลงแข่งในวันนี้ด้วยแน่ๆ
ตอนนี้เริ่มแข่งไปเรื่อยๆ การแข่งขันนั้นสั้นๆ เพราะแข็งเพื่อคัดตัวจริง จึงคล้ายๆว่าเล่นกันธรรมดาเสียมากกว่า โดยที่พอคนในชมรมแข่งเสร็จเอยก็แจกน้ำแจกผ้าเย็นให้กับทุกคน จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ กวินก็ลงแข่งเป็นคู่สุดท้ายพอดี เอยจึงไปหยิบน้ำดื่มและผ้าเย็นเพิ่ม พร้อมกับนั่งรอที่ข้างสนามเช่นเคย
กวินกำลังลงแข่ง วิ่งไปมาบนสนามไม่หยุดไม่หย่อน พร้อมทั้งโยนลูกลงห่วงได้หลายครั้ง หากถามว่ากีฬาบาสเก็ตบอลเป็นยังไง สำหรับเอยไม่มีความรู้จริงๆ รู้แค่ว่าการโยนลูกลงห่วงจะได้แต้มก็แค่นั้น
“ส่งมาๆ” เสียงของคนในทีมตะโกนขึ้น กวินโยนลูกให้คนนั้นๆพาลูกเข้าห่วงไปได้อีก ทีมของกวินได้แต้มขึ้นมามากกว่าของอีกทีมมาก จนในที่สุดทีมของกวินก็ชนะ เอยที่นั่งอยู่จึงยกถังขึ้นบนเก้าอี้ พร้อมแจกน้ำดื่มและผ้าเย็นให้กับทุกคนที่พอแข่งเสร็จก็มามุงตรงถังกัน
กลิ่นเหงื่อโชยจนเอยแสบจมูก แต่ก็ยังยืนแจกอยู่อย่างนั้นจนเกือบจะครบทุกคน และคนสุดท้ายที่มายืนอยู่ตรงหน้าเอยคือกวิน เอยหยิบน้ำที่เหลือขวดสุดท้ายให้กวิน กวินมองหน้าเอยก่อนที่จะรับขวดน้ำนั้นมา
“ขอบใจ” กวินว่า ก่อนที่จะยืนดื่มน้ำอยู่ตรงหน้าเอย
เหงื่อของกวินไหลโชกไปทั้งตัว แต่แปลกที่ไม่ได้มีกลิ่นชวนเหียนเหมือนของคนอื่นๆ แต่กลับรู้สึกว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆออกมาจากตัวของกวิน เอยยืนมองกวินอยู่อย่างนั้น จนกวินดื่มน้ำหมดขวดแล้วยื่นขวดเปล่ามาให้เอย
“เอ่อ...จะรับผ้าเย็นด้วยไหม?” เอยถาม
“เอา” กวินพูดแค่นั้นเอยจึงหยิบผ้าเย็นให้ กวินรับมันมา ก่อนที่จะพยายามแกะซอง แต่เหมือนแกะไม่ออก เพราะมือของกวินเต็มไปด้วยเหงื่อและน้ำ มือจึงลื่น ไม่สามารถแกะซองผ้าเย็นได้
“เรา...แกะให้ไหม?” เอยว่า ก่อนที่จะแบมือรับผ้าเย็นจากกวิน
กวินยื่นผ้าเย็นให้เอย เอยรับมันมา ก่อนที่จะแกะซองมันออกมา แต่เหมือนเอยแกะแรงไปหน่อยผ้าเย็นจึงกระเด้งออกมาจากซองทำท่าจะตกพื้น
“อ๊ะ!!!”
เอยร้องขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่จะรีบคว้ามันกลางอากาศก่อนที่จะหล่นลงพื้น และดูเหมือนกว่ากวินเองก็รีบคว้าไว้เช่นกัน ทั้งสองจึงจับผ้าเย็นผืนนั้นพร้อมๆกันโดยไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้น กลายเป็นว่ากวินจับทั้งผ้าเย็นและมือของเอยไปด้วย
แม้ผ้าเย็นจะเย็นขนาดไหน แต่เอยกลับรู้สึกได้ถึงความอุ่นที่ส่งผ่านมาจากมือของกวิน กวินมองหน้า สบสายตาของเอยอย่างตรงๆ ก่อนจะที่ดึงผ้าเย็นออกจากมือของเอย เอยเหมือนจะรู้สึกตัวก็รับชักมือกลับทันที
“ระวังหน่อย” กวินพูดแค่นั้น ก่อนที่จะเดินไปหาอาจารย์เมฆ เอยรู้สึกใจเต้นแรงอีกแล้ว เวลาที่ได้สัมผัสมือของกวิน
สายตาไล่มองกวินที่ตอนนี้กำลังยืนฟังผลการคัดนักกีฬาตัวจริงเพื่อที่จะไปแข่งกับโรงเรียนอื่น และผลปรากฏว่ากวินก็ติดหนึ่งในตัวจริงด้วย แต่ดูเหมือนกวินจะสละสิทธิ์ แม้อาจารย์เมฆจะยืนยันว่าให้กวินลงแข่งด้วย แต่กวินบอกว่าเดี๋ยวจะมีผลกระทบต่อการเรียน อาจารย์เมฆจึงขอให้กวินเป็นตัวสำรองแทน ซึ่งกวินก็ยินยอมรับผลตัดสินของอาจารย์เมฆ
ตอนนี้แข่งเสร็จแล้ว แต่ละคนก็ต่างแยกย้ายกลับกัน แต่เอยยังคงกลับไม่ได้ เพราะขวดน้ำที่พวกชมรมบาสเก็ตบอลเพิ่งดื่มนั้นเกลื่อนโรงประชุมไปหมด เอยจึงเดินตามเก็บขวดเหล่านั้นใส่ถุงดำ เก็บไปก็หันไปเห็น กวินเดินมาดึงถุงดำไปจากมือของเอย ก่อนที่จะก้มลงเก็บขวดน้ำและซองผ้าเย็นที่หล่นเกลื่อนไปหมด
พอเห็นอย่างนี้ก็นึกถึงตอนออกร้านที่งานวัฒนธรรมในครั้งนั้น กวินเองก็เป็นคนช่วยเองเหมือนเช่นครั้งนี้ จนในที่สุดก็เก็บจนหมดเกลี้ยง กวินก็ลากถุงดำไปวางยังที่ทิ้งขยะ
“ขอบคุณนะ” เอยบอก
“ไม่เป็นไร...กลับบ้านได้แล้ว” กวินบอกอย่างนั้น ก่อนที่จะเดินกลับไปยังห้องเรียนเพื่อไปเอากระเป๋า เอยก็เช่นกัน เดินตามกวินกลับไปยังห้องเรียนเพื่อไปเอากระเป๋านักเรียนเหมือนกัน
พอออกมาจากห้องเรียน เอยก็เดินออกมาพร้อมๆกับกวิน กลายเป็นว่าทั้งสองเดินเคียงกัน ตั้งแต่ออกจากมาตึกเรียน เอยเดินก้มหน้าไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากวินเหลือบมองด้วยหางตาอยู่ตลอดเวลา
จนในที่สุดทั้งสองก็เดินมาถึงหน้าโรงเรียน กวินนั้นมีรถคันหรูมารอรับอยู่แล้ว ส่วนเอยก็ต้องนั่งรถเมล์กลับเช่นเคย
“ไปนะ...” เอยพูด ก่อนที่จะโบกมือให้กวิน กวินได้แต่มอง ไม่พูดไม่จา ก่อนที่จะขึ้นรถไป
เอยเดินออกมาจากโรงเรียนหน่อยเดียวก็ถึงป้ายรถเมล์ เพื่อรอรถเมล์เที่ยวต่อไปที่กำลังจะมา ที่นั่งก็ถูกจับจองเต็มไปหมด เอยจึงยืนอยู่อยู่เช่นนั้น และเอยก็หันไปมอง...รถที่มารับกวินยังคงจอดอยู่
“ยังไม่กลับเหรอ?” เอยพูดกับตนเองเบาๆ ผ่านไปสักพักใหญ่ รถคนนั้นก็ยังไม่ขยับ เอยหันไปมองหลายครั้งตนในที่สุดรถเมล์ที่เอยรอก็มา
เอยรีบวิ่งขึ้นรถเมล์และเดินไปนั่งเบาะหลัง พลางหันไปมองทางกระจกหลัง พอรถเมล์เคลื่อนตัว รถคนนั้นที่มารับกวินจึงขับออกไปจากหน้าโรงเรียน
“เขารออะไร?” เอยคิดในใจ ก่อนที่จะหันมองไปยังข้างหน้า ดูทางที่จะกลับไปยังบ้าน พลางขบคิดในใจ ทำไมรถของกวินคันนั้นถึงไม่ยอมขับออกไปในทันทีที่กวินขึ้นรถ.. เช้าวันจันทร์ วันน่าเบื่อของคนทำงานได้เริ่มต้นขึ้น เอยตื่นเช้าขึ้นมาในเวลาปกติ ตื่นมาก็รีบอาบน้ำไปทำงานเช่นเคย เมื่อมาถึงที่ทำงาน สิ่งแรกที่เอยแปลกใจนั่นคือเจอกวินยืนอยู่หน้าลิฟต์
“คุณกวิน..ทำไมมาเช้าขนาดนี้ครับ?” เอยถามอย่างสงสัย กวินยกยิ้มมุมปากก่อนที่จะตอบ
“มาหาเธอ” กวินบอกอย่างนั้น
“ระ...เหรอครับ” เอยก้มหน้าลง รู้สึกว่าตนเองหน้าแดงอีกแล้ว
“ไปที่ห้องทำงานฉันเถอะ” กวินว่า
“ไว้ตอนเย็นดีกว่าครับ” เอยว่า
“ไปเถอะ” กวินยังคงยืนยัน เอยจึงจำต้องเดินตามกวินไป เมื่อมาถึงห้องทำงาน กวินก็เดินไปนั่งยังเก้าอี้ทำงาน ก่อนที่จะเรียกให้เอยมายืนใกล้ๆ
“มีอะไรรึเปล่าครับ?” เอยถาม
“คืนนี้เราจะไปปาร์ตี้กัน” กวินบอก
“หมายถึงปาร์ตี้เพื่อนที่มหาวิทยาลัยที่คุณมินตราบอกนะเหรอครับ?” เอยโพล่งขึ้นมา
“ใช่ เราจะไปกันคืนนี้” กวินบอก
“มันจะดีเหรอครับ...ผมหมายถึงคุณกวินไม่...เอ่อ ไม่อายเหรอครับ?” เอยถามด้วยน้ำเสียงเบา
“เธออายที่เป็นแฟนฉันเหรอ?” กวินถาม ใบหน้านิ่งสวนทางกับน้ำเสียงที่เริ่มจะติดโมโห
“ไม่ๆ ครับ ไม่ได้อาย แต่ผมกลัวคุณจะ...” เอยพยายามจะอธิบาย
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่สนเรื่องพรรค์นั้น เธอเป็นของฉันแล้ว เธอก็ควรจะมั่นใจกว่านี้” กวินว่า
“ครับ...” เอยก้มหน้าลงเมื่อกวินพูดเสียเต็มปากว่าเป็นของกวินแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย
“เดี๋ยวเลิกงานไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านเธอก็แล้วกัน” กวินว่า
“ถ้าอย่างนั้นผมกลับแผนกนะครับ” เอยว่า ทำท่าจะเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยว....” กวินกลับเรียกเสียก่อน
“ครับ?”
กวินลุกขึ้นมาก่อนที่จะดึงเอยมากอดหลวมๆ พร้อมจูบริฝีปากของเอย จูบเน้นๆหนักๆ ก่อนที่จะปล่อย เอยยืนตาโตก่อนที่จะแตะริมปาของตนเอง
“ถ้าหน้าแดงอีก ฉันจะทำมากกว่าเดิม” กวินว่า เอยรีบถอยหลังทันที
“ไม่แดงแล้วครับ...ผมไปนะครับ” เอยว่า ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว โดนที่ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆแว่วๆของกวินตามหลังมา..
...
..
.
ถึงเวลาเลิกงาน เมื่อทุกคนออกไปจากแผนกกันหมดแล้ว เอยจึงขึ้นไปหากวิน แต่ไม่ทันจะเดินไปถึงลิฟต์ กลับเห็นกวินเดินมาเสียก่อน
“มาไวจังครับ” เอยพูดออกมา
“ไปกันเถอะ” กวินว่า ทั้งสองจึงลงลิฟต์ไปพร้อมกัน
เมื่อลงไปก็รีบขึ้นรถ ทรรศเป็นคนขับเช่นเคย พาเอยและกวินไปยังบ้านของเอย เพื่อไปเอาเสื้อผ้า หมู่นี้เอยไม่ค่อยได้นอนบ้านจริงๆ แต่แม่ก็ไม่บ่นอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว จะถามก็แค่ว่ากลับเมื่อไหร่ก็เท่านั้น ตอนนี้กวินบอกพ่อแม่ของกวินเองแล้วว่าคบกับเอย แต่เอยยังไม่บอกแม่เลย และกลัวแม่จะรับไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกท่าน เอยคิดในใจว่ารอสบโอกาสจะพูดเรื่องนี้กับแม่ของตนเอง ผลลัพธ์จะเป็นอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที
“แม่ครับ” เอยเข้ามาในบ้าน พบว่าวันนี้แม่กลับมาแล้ว
“มาแล้วเหรอ” แม่ของเอยถาม กวินที่เดินเข้ามาก็ยกมือไหว้แม่ของเอย
“กวินมารับไปค้างด้วยเหรอ?” แม่ของเอยถาม พลางยิ้ม
“ครับ” กวินว่า
“กี่คืนล่ะ?” แม่ของเอยถาม
“คืนเดียวครับแม่?” เอยตอบ
“จะจริงเหรอ?” แม่ของเอยพูดพร้อมหัวเราะขึ้นมา
“จริงครับ” เอยว่า ก่อนที่จะหันไปถามกวิน
“ให้ผมแต่งตัวไปเลยไหมครับ”
“ค่อยไปแต่งที่คอนโดก็ได้” กวินว่า
“ครับๆ” เอยบอก ก่อนที่จะขึ้นไปบนห้องไปเก็บเสื้อผ้า และไม่ลืมจะเอาชุดที่ดาวเลือกให้ติดไปด้วย อย่างน้อยก็ควรดูดีเพื่อไม่ให้กวินขายหน้าเพื่อน
ใช้เวลาไม่นานนัก เอยก็ลงมาพร้อมกระเป๋าเป้ใบเดิมที่ใช้บ่อยๆ คุยกับแม่เล็กน้อย ก่อนที่จะออกจากบ้านและขึ้นรถที่ทรรศรออยู่เพื่อกลับคอนโดของกวิน
มาถึงก็รีบขึ้นคอนโดเพื่อไปอาบน้ำ กวินก็พยายามจะเข้าอาบน้ำกับเอยให้ได้ แต่เอยก็ก็หลบหลีกได้มาอย่างหวุดหวิด กวินจึงจำต้องอาบน้ำในห้องของตนเอง ส่วนเอยก็ใช้อีกห้องหนึ่ง
ใช้เวลาแต่งตัวไม่นานนัก กวินแต่งเสื้อยืดสีขาวพร้อมเสื้อสูทลำลองสีเทาแบบรูดแขนเป็นสามส่วนและกางเกงขายาวเข้ารูปสีดำ เอยมองกวินแล้วก็อดจะจ้องมองไม่ได้....กวินดูดีกว่าตอนสวมสูททำงานเสียอีก
“เธอใส่ชุดแบบนี้อีกแล้ว?” กวินพูดขึ้น พลางขมวดคิ้วเป็นปม
“ทำไมครับ ดูแย่เหรอครับ?”
เอยว่าก่อนที่จะก้มมองเสื้อผ้าที่ดาวเลือกให้ ชุดนี้ไม่เคยใส่ออกไปไหน คล้ายๆกับของกวิน แต่ของเอยเป็นสูทลำลองที่มีฮู๊ดสีครีม สวมทับเสื้อยืดลายกราฟิกสีดำ กางเกงเข้ารูปสีดำเช่นกัน
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เอาชุดทำงานมาใส่” กวินว่า
“ไม่ได้นะครับ ให้ผมใส่ชุดนี้เถอะครับ” เอยบอก
“เหตุผล?” กวินถามหาเหตุผลกับเอย
“คุณ...คุณกวินพาผมไปเปิดตัวนะครับ อย่างน้อยก็เพื่อตัวคุณเอง ถ้าผมดูไม่ดี คุณก็จะเสียไปด้วย” เอยบอกเหตุผล
“ฉันไม่สนเรื่องนั้น” กวินว่า
“ขอเถอะครับ” เอยขอร้อง อ้อนวอนกวิน
“......” กวินยังคงเงียบ
“คุณกวิน......” เอยเรียกชื่อของกวินขึ้นมา
“จูบฉันก่อน ฉันถึงจะยอม” กวินว่า
“จูบเหรอครับ?” เอยถามย้ำ กวินพยักหน้านิดๆอย่างยืนยัน
เอยมองหน้าของกวิน คงต้องจำยอมจูบกวินเพื่อสวมชุดนี้ออกไป กวินไม่ยอมเสียเปรียบเลยจริงๆ จะทำอะไรต้องมีข้อต่อรองเสมอ เอยยืนเม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจ ก่อนที่จะค่อยๆเขย่งเท้าและจูบกวินเบาๆตรงปลายคาง กวินก้มมองเอย ก่อนที่จะดึงเอยเข้ามากอด
“ขี้โกง....” กวินว่า
“ก็...ก็คุณบอกจูบ แต่ไม่บอกนี่ครับว่าตรงไหนก็ได้” เอยว่า
“เดี๋ยวนี้หัดเจ้าเล่ห์”
กวินว่า ดึงเอยเข้ามาจูบ ดูดริมฝีปากของก่อนที่จะแทรกลิ้นเข้าไปกวาดชิมความหวานข้างใน ถูกกวินจูบอยู่หลายนาที กว่าจะยอมปล่อยก็อ้อยอิ่งเสียจนเอยรู้สึกอายจนไม่รู้จะทำอย่างไร กวินผละออกมา ก่อนที่จะสบตาของเอยก่อนพูดออกมา
“เดี๋ยวพอเข้าไปในนั้น อย่าอยู่ห่างจากฉัน เข้าใจไหม?” กวินว่า
“ครับ” เอยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“ไปกันเถอะ”
กวินและเอยลงลิฟต์และตรงไปยังลานจอดรถ วันนี้กวินขับรถคันใหม่เอี่ยมยี่ห้อม้าดำ คันสีแดงเพลิงที่คุณเกริกและคุณวิดาให้เป็นของขวัญ เอยขึ้นนั่งอย่างรู้สึกตื่นเต้น เพราะรถแบบนี้เห็นแต่ในภาพยนตร์เท่านั้น กวินขับออกไปจากคอนโดตรงไปยังที่นัดหมายที่จะจัดปาร์ตี้....
++++++++++++++++++++++++
ข่าวที่จะแจ้งให้ทราบคือเราจะงดอัพนิยายประมาณสี่ถึงห้าวันนะคะ เพราะ....เจ้านายมาค่ะ เจ้านายมาจากกรุงเทพ มาตรวจเช็คงานและสภาพลูกน้องอย่างเรา มานานๆทีค่ะ เดือนละครั้ง ไม่ก็สองเดือนครั้ง ไม่บ่อยหรอก และแน่นอนว่าไม่สะดวกเลยที่จะมาอัพนิยายหรือแต่งนิยายในเวลางานได้ แหะๆ ขอโทษจริงๆนะคะ รอเจ้านายกลับเมื่อไหร่จะมาอัพตามปกติแน่นอนค่ะ รอเจ้านายกลับก่อนนะคะ อย่าเพิ่งโกรธเราเลยนะคะ ไม่เกินสี่ถึงห้าวันจะกลับมาอัพปกติแน่นอนค่ะ (นอกจากไฟดับเหมือนวันนั้นอีก อิอิ) จึงแจ้งให้นักอ่านทุกคนทราบมา ณ ทีนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้ เจอกันวันเจ้านายกลับค่า