หลังจากเมื่อคืนที่ผมแกล้งมันได้สำเร็จแล้ว ผมก็ตื่นมาแต่เช้าหันไปมองไอ้คนที่นอนข้างๆ มันยังไม่ยอมตื่นเลยดีแล้วล่ะ เมื่อคืนคงเหนื่อยมากไปหน่อยก็กว่าที่ผมจะปล่อยให้มันนอนผมก็หลับไปแล้วหลายรอบ จนมันรู้ทันว่าผมนะหายปวดท้องเป็นตะคริวตั้ง
นานแล้วแต่แกล้งมัน มันก็เลยเลิกนวดท้องให้ผมแล้วนอนหันหลังให้ผมซะนี่
ผมปล่อยให้มันนอนต่อไปเรื่อยๆ เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดของผม ผมเลยอยากพักผ่อนอยู่ที่บ้านบ้างไม่อยากออกไปไหน มันนอนอยู่จนกระทั้งผมอาบน้ำเสร็จแล้วมันก็ไม่ยอมตื่น
การที่ใครที่เคยร้ายกาจที่สุดจะยอมให้คนอื่นแกล้งอย่างง่ายๆ มีอยู่สองอย่างไม่เสแสร้งแกล้งทำหรือไม่ก็สำนึกผิด แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่ไอ้เฟคมันทำเป็นอย่างหลังหรืออย่างแรกกันแน่ แต่ผมอยากให้เป็นอย่างหลังมากกว่า
การที่ผมได้ใกล้ชิดไอ้เฟคมันมากขึ้นทำให้ผมเห็นอะไรที่ดีในตัวมันมากขึ้นเหมือนกัน ผมนั่งมองมันอยู่จนกระทั้งมีเสียงที่เคาะห้องดังขึ้น นี่ก็อีกคนไม่รู้ว่าพี่เขาจะเอาอย่างไงกับชีวิตผมกันแน่ มาๆ หายๆ เอาแน่เอานอนกับพี่เขาไม่ได้เลย
“สวัสดีตอนเช้าครับพี่กันต์ เข้ามาก่อนซิครับ”
ผมยกมือขึ้นสวัสดีแขกผู้มาเยือนแต่เช้า แต่ผมก็ไม่แปลกใจหรอกที่เป็นพี่กันต์ ที่มาที่ห้องของผมแต่เช้า แต่ผมแปลกใจตั้งหากที่ว่าทำไมเมื่อคืนพี่เขาถึงไม่มามากกว่า เพราะปกติเมื่อผมเห็นไอ้เฟคที่ไหนก็ต้องมีพี่กันต์ด้วยโดยเฉพาะที่ห้องของผม
“สวัสดีครับน้องบีมให้พี่กันต์หอมแก้มก่อนเร็วพี่คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”
พอมาถึงพี่กันต์ก็รีบฉวยโอกาสกับผมทันที ผมไม่มีทางเลือกหรอกครับผมยื่นหน้าของผมไปให้พี่กันต์หอม เพราะถึงผมไม่ยื่นหน้าไปให้หอม พี่กันต์แกก็คงจะหาโอกาสหอมจนได้
“แก้มน้องบีมเนี๊ยหอมจังเลยครับ ดูนี่ซิพี่ซื้อโจ๊กมาฝากด้วย”
พี่กันต์ชูถุงโจ๊กในมือให้ผมดู
“ขอบคุณครับพี่กันต์ งั้นเดี๋ยวผมเอาโจ๊กไปเทเลยนะครับ แล้วพี่กันต์จะทานพร้อมผมเลยหรือเปล่าครับ”
ผมรับโจ๊กจากพี่กันต์มาแล้วถามพี่เขา เพราะว่าผมเห็นมีโจ๊กอยู่สองถุง ผมเดินไปเทโจ๊กใส่ถ้วยแล้วก็ยกไปให้พี่เขาแล้วไปรินน้ำมาให้ทุกอย่างเกือบดีหมดแล้วถ้าไม่มีคนในห้อง
“ทำอะไรกันอ่ะ หอมน่ากินจังบีม”
เจ้าของเสียงยืนใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวอิงอยู่กับประตูห้องนอนผม
“อ้าว....ไอ้กันต์มึงมาทำอะไรแต่เช้าว่ะ”
พอถามผมเสร็จมันก็หันไปถามเพื่อนมัน คนอะไรหน้ามึนที่สุดในโลก
“กูก็เอาโจ๊กมาฝากน้องบีมแล้วมึงล่ะมาตั้งแต่เมื่อไรว่ะ”
“กูมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วโว๊ยแล้วมึงเอาโจ๊กมาฝากแต่บีมเหรอว่ะไม่เผื่อเพื่อนมึงบ้างเลยนะไอ้เพื่อนชั่ว”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่ามึงอยู่ด้วย ถ้ากูรู้กูคงซื้อมาเผื่อแล้วล่ะ”
ผมเดินมานั่งที่โต๊ะเพราะเบื่อที่สองคนนี้เถียงกัน ผมคงจะต้องทำใจเรื่องนี้อีกเรื่องใช่ไหม
“งั้นไม่เป็นไรกูกินกับบีมก็ได้”
ว่าแล้วไอ้เฟคมันก็เดินมานั่งเบียดกับผมบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน แล้วตักโจ๊กกินหน้าตาเฉยเออ...ให้มันได้อย่างนี้ซิ มันจะขัดความสุขผมไปแม้แต่ตอนกินเลยหรือไงว่ะ
“แล้วนี่มึงเป็นอะไรว่ะเฟค เหมือนอดนอนมาเลยไปทำอะไรมา”
หลังจากที่ทานโจ๊กกันจนเสร็จแล้ว ก็ย้ายมานั่งทานกาแฟกันต่อที่โซฟาพี่กันต์ก็ถามไอ้เฟคที่ทำท่าเมาขี้ตาอยู่ตลอดเวลา
“ก็บีมนะซิกวนกูทั้งคืนเลยว่ะ ไม่ได้นอนเลย”
มันพูดพร้อมกับยิ้มไปด้วย แล้วดูมันพูดซิส่อไปในทางกามซะขนาดนั้น พอดีพี่กันต์ก็เข้าใจผิดกันพอดี
“พูดดีๆ เลยนะพี่เฟคกวนอะไรทั้งคืน ผมปวดท้องเป็นตะคริวแล้วให้นวดให้แค่นี้ก็บ่นไปได้ ต่อไปไม่ใช้ก็ได้”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วมึงล่ะไอ้กันต์ดูท่าทางก็เหมือนไม่ได้นอนมาเหมือนกัน ไปทำอะไรมาว่ะ”
พอไอ้เฟคมันถามพี่กันต์ พี่กันต์ก็ก้มหน้า เหมือนซ้อนพิรุธบางอย่างเอาไว้
“เปล่า...กูแค่ไปจัดการอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง ก็เลยนอนน้อยนิดนึง มึงอย่าไปสนใจเลยว่ะ เออ...แล้วน้องบีมครับวันนี้วันหยุดไปไหนหรือเปล่าครับ”
พูดกันอยู่ดีๆ พี่กันต์ก็หันมาถามผมซะงั้น เล่นเอาผมคิดตามไม่ทันเลยเพราะผมไม่ได้สนใจเรื่องที่พวกเขาสองคนคุยกันตั้งแต่แรก ผมมั่วแต่สนใจรายการโทรทัศน์อยู่
“อะไรนะครับพี่กันต์ ผมไม่ได้ฟัง...?”
“บีมเขาจะไปกับกู มึงจะไปไหนก็ไปเถอะไอ้กันต์ ไม่ต้องมายุ่งเลย”
ผมยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไอ้เฟคมันรีบตอบพี่กันต์แทนผมเสียนี่
“จริงเหรอครับน้องบีม”
ผมงงไปหมดแล้วว่าสองคนนี่เขาพูดกันเรื่องอะไร แล้วทำไมผมจะต้องไปกับไอ้เฟคด้วยผมไปรับปากกับมันตอนไหนกัน ผมเองยังไม่รู้เรื่องเลย แต่พอผมจะอ้าปากตอบพี่กันต์ว่าไม่รู้เรื่อง ไอ้เฟคมันก็เอามือมาจับที่ขาของผมแล้วบีบเบาๆ เสียก่อน
“จริง....จริงครับ”
“เห็นไหมกูบอกแล้วว่าบีมจะไปกับกู มึงก็กลับไปเถอะกินอิ่มแล้วไม่ใช่หรือไง แล้วไอ้เรื่องที่มึงไปจัดการเมื่อคืนเรียบร้อยแล้วหรือไงห่ะ กูว่าไปจัดการต่อเถอะว่ะ”
“เออ...กูไปก็ได้ไม่ต้องมาไล่กูหรอก แล้วมึงเป็นเจ้าของห้องตั้งแต่เมื่อไรว่ะ มึงถึงมาไล่กู กูได้ข่าวว่ามึงก็เป็นผู้อาศัยเหมือนกันนี่หว่า”
“เออ...กูมีสิทธิ์ก็แล้วกัน มึงไปเถอะไม่ต้องอยากรู้มาก”
“งั้นก็ได้...พี่ไปก่อนนะครับน้องบีม แล้วตอนกลางวันพี่จะไปรับไปทานข้าวกัน”
“ครับพี่กันต์แล้วเจอกันตอนกลางวันครับ”
แล้วพี่กันต์ก็กลับไป ตอนนี้เหลือผมกับไอ้เฟค ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนคนบ้าขึ้นมาอีกแล้ว
“บีมครั้งต่อไป ไม่ต้องรับปากอะไรกับไอ้กันต์อีกเลยนะ”
ไอ้เฟคมันพูดขึ้นมาหลังจากเงียบไปนาน มันคงทนไม่ไหวแหละครับเลยพูดขึ้นมาซะงั้น
“แล้วพี่มีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมล่ะ ไหนพี่บอกว่าจะไม่บังคับผมอีกแล้วไง จะปล่อยผมให้มีอิสระแล้วนะ”
“สิทธิ์ของความเป็นผัวไง หรือจะให้พี่สาธิตดีห่ะ”
“อ๋อเหรอ...งั้นพี่กันต์ก็เป็นผัวผมเหมือนกัน หรือพี่เฟคจำไม่ได้ แล้วก็เผ็นพี่นั้นแหละที่เป็นคนชักชวนให้พี่กันต์เขามาเป็นผัวผมอีกคน ดีนะวันนั้นเพื่อนพี่คนอื่นไม่ได้มาร่วมกันเป็นผัวผมนะ ยังเหลืออีกตั้งหลายคนนะที่ยังไม่ได้สิทธิ์นั้น งั้นพี่ก็โทรไปเรียกคนที่เหลือมาไป วันนี้วันหยุด ผมมีเวลาว่างทั้งวัน”
ผมพูดความในใจที่อัดอั้นมาหลายวันออกไป เพราะความโมโหสุดขีด ไอ้เฟคมันก็นิ่งเงียบ มันคงเริ่มระงับอารมณ์โกรธของตัวเองอยู่
“งั้นไปแต่งตัวไป ไปบริษัทกับพี่ก็แล้วกัน”
อยู่ๆ มันก็เปลี่ยนเรื่องซะงั้น แต่อารมณ์ผมยังไม่ดีขึ้นเลย
“ไม่ไป พี่จะไปก็ไปคนเดียวซิ ผมไม่ไปได้ยินไหม”
ผมตะโกนใส่หน้ามัน แล้วลุกขึ้นเพื่อเดินหนีมัน แต่ไม่ทันที่ผมจะเดินหนีไปไหน ไอ้เฟคมันก็จับแขนผมไว้เสียก่อน
“ไม่ไปก็ต้องไป อย่ามาเรื่องมาก ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้หรือจะให้พี่ไปช่วยแต่ง ไปได้แล้ว...เร็วด้วย”
“ไม่ไป...อย่ามาบังคับนะผมก็เป็นคนนะมีความคิด ไม่ใช่ควายจะมาจูงไปทางไหนก็ได้”
“เออ..พูดดีๆ ไม่รู้เรื่องใช่ไหม นั้นจะมาหาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้นะ”
ว่าแล้วมันก็จับผมแบกใส่บ่าก่อนที่จะพาผมเข้าไปในห้องแล้วโยนผมลงบนเตียงแล้วไปค้นเสื้อผ้าในตู้ของผมมาโยนใส่ผม
“เอา..เปลี่ยนซะ หรือจะให้พี่เปลี่ยนให้ด้วย เร็ว พี่จะได้เตรียมตัวเหมือนกัน”
แม้ไม่ค่อยเต็มใจแต่ผมก็ต้องยอมทำตามที่มันสั่ง ผมนั่งรถออกมากับมันจนมาถึงบริษัทของมัน ก็ใหญ่ดี ว่าแล้วทำไมมันมีเงินซื้อคอนโดหรูอย่างนั้นอยู่ได้
“เอา...นั่งรอตรงนี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนแล้วจะออกพาไปหาอะไรกิน”
ว่าแล้วมันก็เดินหายไปปล่อยผมเอาไว้คนเดียว อยากถามมันจริงๆ ว่าจะเอาผมมาด้วยทำไมเนี๊ย แทนที่ผมจะได้หยุดอยู่บ้านกลับต้องมานั่งเบื่ออยู่ที่นี่ คิดแล้วเซ็ง ป่านนี้พวกไอ้อ้นคงไปเที่ยวกันสนุกแล้วแน่ๆ เห็นมันบอกว่าจะไปดูหนังเดินดูสาวๆ กัน