พิสูจน์รักวัดใจ ........ อัพ28/3/2556 อัพล่าสุด ตอน บทส่่งท้าย(จบแล้วจ้า^^)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พิสูจน์รักวัดใจ ........ อัพ28/3/2556 อัพล่าสุด ตอน บทส่่งท้าย(จบแล้วจ้า^^)  (อ่าน 200228 ครั้ง)

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ตามมาจากเด็กดีค๊า
รออยู่นะค๊า
 :L2: :กอด1: :z13:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
สนุกมากๆเลยจร้า ชอบทุกคู่เลย มีครบทุกรสชาติ ฮ่าๆ
>w< ชอบเพลงกับภูมิมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2011 07:02:33 โดย 111223 »

ออฟไลน์ zatamare

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
เอก/นิค

สถานที่สวย บรรยากาศดี และวิวดีเยี่ยม ไม่มีอะไรลงตัวเท่านี้อีกแล้วสำหรับคู่รักที่กำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูนนับว่าเจ้าของสถานที่และคงออกแบบเก่งมากทีเดียวในการเลือกทำเลและออกแบบให้ทุกอย่างออกมาลงตัวจนไม่อาจปล่อยเวลาให้เสียไป ดังนั้นร่างสูงที่กำลังอุ้มคนรักไว้ในอ้อมแขนจึงมีลังเลที่จะวางร่างของคนรักลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมและเริ่มโอ้โลมคนรักในคล้อยตาม
“อ๊ะ..เอก..จะทำ ..อื้อ..”เสียงประท้วงขาดห่วงของร่างเล็กขาดห้วงไปเพราะถูกร่างสูงประกบจูบ
“นะครับ..เอกไม่อยากปล่อยเวลาโดยเปล่าประโยชน์ยังไงนี่ก็ช่วงฮันนีมูนของเรา แต่..เอกจะเบาๆนะ”ร่างสูงกระซิบอ้อนข้างหู มีหรือร่างเล็กจะไม่ใจอ่อน ในเมื่อรักขนาดนี้แล้วอย่างที่ร่างสูงว่าต่อให้รักและใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากแค่ไหนแต่ช่วงเวลาแบบนี้มันก็มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นแหละ
“อื้อ..เบาๆนะ ยังเจ็บอยู่เลย”สิ้นเสียงอนุญาตแบบอ้อนๆร่างสูงก็ไม่รอช้าที่จะดำเนินบทรักจนในที่สุดร่างกายทั้งสองก็เปลือยเปล่า และร่างสูงกำลังเตรียมพร้อมให้กับคนรักอย่างเบามือตามสัญญาแม้ว่าความต้องการของตัวเองจะมากมายจนแทบทนไม่ไหวก็ตาม
“อ๊ะ..เอก เข้ามาเถอะ นิคพร้อม”ร่างเล็กเอ่ยเชิญชวนด้วยใบหน้าขึ้นสีและสีหน้าบอกความต้องการจนร่างสูงก็ทนไม่ไหวและทำตามความต้องการของร่างเล็กทันที แต่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเจ็บเค้าจึงต้องเข้าไปให้เบาที่สุดแต่มันก็ทำให้เสียวที่สุดเหมือนกัน พิสูจน์ได้จากเสียงครางหวานของร่างเล็กและเสียงซี๊ดปากด้วยความอดทนของเค้าเอง จนในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เค้าเข้าไปในตัวร่างเล็กได้จนหมดและทำให้ทั้งคู่ต้องผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมกัน
“ข..ขยับเถอะ..”เสียงอ้อนจากร่างเล็กทำให้ร่างสูงเริ่มขยับ แต่กลัวเหลือเกิน หากว่าตัวเองเป็นคนนำเกมส์จะเผลอทำให้อีกฝ่ายเจ็บ จึงโอบตัวอีกฝ่ายขึ้นมานั่งทั้งที่ร่างกายยังคงเชื่มกันและป้อนจูบแสนเร่าร้อนให้ก่อนจะผละออกแล้วกระซิบเสียงพร่าข้างหูเล็ก
“นำเองเลยที่รัก..เอกตามใจนิค”จากนั้นบทเพลงรักก็ดำเนินไปโดยที่ร่างเล็กเป็นคนคุมเกมส์ที่ทั้งเร่าร้อนและอ่อนหวานผสมกันในเวลานานจนความต้องการของกันและกันถูกเติมเต็มและอบอวลไปด้วยความรัก



***************************************************




สั้นมากเลยเนาของเอกกับนิคแต่คิดว่าก็น่าจะพอไปได้อะเนาะ เพราตัวคนแต่งเองล้างลาไปนาน คือไม่ได้แต่งนานนั่นเองดังนั้นเรื่องอารมณ์ก็เลยต่อติดยากนิดนึงและด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทั้งไม่ว่าง ไม่สบาย อารมณ์ต่อไม่ติด จึงทำให้ตอนต่อมาออกมาช้าเอามากๆ ยังไงก็ขออภัยคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้ทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ zatamare

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
 พิสูจน์รักวัดใจ นายเทพบุตรคลาสโนว่า ตอน บทพิสูจน์สุดท้าย 1
 
 
 
[โหมด:พี่ภูมิ]
 
 
 
 
หลังจากที่ผมกับน้องเพลงแต่งงานกันและฮันนีมูนอันแสนสุขและวุ่นวายจบลงด้วยความสุขของทุกๆคน และกลับไปเรียนและทำกิจกรรมอย่างหนัก และการสอบสุดโหดของหลายๆคนแล้วนั้น ตอนนี้ก็เป็นช่วงปิดเทอมสั้นเวลา1เดือนซึ่งผมจะดีใจมากถ้าหากมันทำให้ผมได้อยู่กับที่รักสองคน ถ้าไม่ใช่เพราะมีโทรศัพท์โดยตรงถึงผมด้วยเบอร์แปลกๆซึ่งปกติผมจะไม่รับ แต่วันนี้ไม่รู้เพราะอะไรเลยกดรับและแล้วงานก็เข้าผมจนได้ เมื่อคนที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พ่อตาของผมเองนั่นแหละ แล้วเมื่อคุยเสร็จมันก็แทบจะทำให้โลกสีชมพูที่วาดหวังไว้อาบไปด้วยสีดำสนิททันที เมื่อท่านบอกว่าแม้คุณแม่ยายจะยินยอมให้แต่งงานและผมกับน้องเพลงก็แต่งงานกันแล้ว แต่ท่านไม่ยอมยกลูกชายคนเล็กให้ผม และเมื่อท่านไม่ยอมถึงครอบครัวน้องเพลงทุกคนยกเว้นคุณพ่อตาจะยอมรับผม และน้องเพลงกับผมมีอะไรกันและแต่งงานกันแล้วตามพิธีที่ถูกต้อง แต่คนที่เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านคือท่านไม่ยอม เรื่องทุกอย่างก็สามารถกลายเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นได้ทันที และน้ำเสียงของท่านจริงจังไม่ได้พูดเล่น เรื่องนี้ทำให้ผมช็อค เนื่องจากผมคิดไว้แล้วว่าคุณพ่อตาไม่น่าเป็นปัญหาจากที่คุยๆกับครอบครัวของน้องเพลงและน้องเพลงเรียบร้อยแล้ว แต่นี่มันอะไรกัน ทำไม่ท่านถึงโทรมาหาผมแล้วพูดให้ผมคิดว่าท่านจะกรีดกันผมอย่างจริงจัง แต่แล้วสักพัก สีดำสนิทที่ทาบทาบลงมานั้นเหมือนจะมีแสงสว่างริบหรี่เมื่อผมได้ฟังประโคต่อไปนี้
“ฉันไม่เชื่อว่าคาสโนว่าอย่างนายจะมารักลูกชายฉันจริง อีกอย่างผู้ชายกับผู้ชายที่ไม่ได้ชอบเพศเดียวกันตั้งแต่แรกจะมารักกันจริงจังฉันไม่เชื่อ ลูกชายฉันเป็นยังไงฉันรู้ดีว่าก็ไม่ได้ต่างจากนายเท่าไหร่เรื่องผู้หญิง ดังนั้นมันคงจะเป็นแค่ความแปลกใหม่ที่ท้าทายจนเผลอตัวไปกับมัน ดังนั้นฉันจะให้โอกาสนายได้ทบทวนความรู้สึกตัวอีกที ระหว่างนี้นายจะไม่ได้เจอเจ้าเพลงอีก แล้วหากจะบอกว่านี่คือรักจริงก็จงผ่านบทพิสูจน์ของฉันให้ได้ อ่อ รีบหน่อยแล้วกัน อีก5นาทีหลังจากฉันวางสายจะให้ลูกน้องนำแผนที่ไปให้ ตัดสินใจได้เมื่อไหร่ก็มาหาฉันตามแผนที่นี้ แล้วก็เตรียมตัวมาดีๆหละ ฉันคิดว่านายคงพอรู้มาบ้างแล้วว่าเบื้องหลังตระกูลฉันทำอะไร เอาหละเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีหละ หึหึ”ที่คุณอ่านๆอยู่อาจจะรู้สึกว่าท่านพูดสบายๆแต่ไม่เลยน้ำเสียงที่ท่านใช้ กดดันผมจนพูดอะไรไม่ออกจนท่านวางสายไปผมก็ยังนั่งนิ่งอยู่กับที่จนถึงตอนนี้


“นี่เป็นอะไร นั่งเหม่ออยู่ได้ตั้งนาน แล้วเมื่อกี้นี้คุยกับใคร”
“อ่ะ เอ่อ ขอโทษครับ พี่คุยกับพ่อน้องเพลงน่ะ”ผมละล่ำละลักตอบที่รักไปเพราะน้ำเสียงของน้องเพลงที่ถามเมื่อกี้ดุอ่ะครับ
“หะ พ่อนี่นะ โทรหาพี่ภูมิ แล้วคุยอะไรกันทำไมนั่งอยู่ท่านั้น”น้องเพลงซักถามผมก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“หึหึ งั้นพี่ก็ต้องทำตามพ่อแล้วหละ เอหรือจะไม่ทำ แล้วเราเลิกกันก็ได้นะเพราะพี่ภูมิคงไม่ได้รักเพลงจริงๆ รึว่าไงครับ”น้ำเสียงน้องเพลงถามเย้าแต่ทว่าสายตานั้นจริงจัง
“พี่ต้องตกลงอยู่แล้ว เพราะพี่รักน้องเพลงมาก แต่ที่คิดหนักเพราะเราจะไม่ได้เจอกันตั้งเดือนเชียวนะ เพลงไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ”ผมเอ่ยน้ำเสียงน้อยใจ
“พี่ภูมิน้อยใจอะไรไม่เข้าเรื่อง เพลงก็แค่คิด ว่าบางทีเราอาจจะตัวติดกันมากจนเกินไป ไม่เคยได้ห่างกันเลยแล้ววันนึงถ้าต้องห่างกันด้วยเหตุจำเป็นจะเป็นยังไง เราจะเปลี่ยนใจไปจากกันรึเปล่าในวันข้างหน้า ไม่มีใครรู้ได้ เราสู้พิสูจน์มันเสียตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ”น้องเพลงเอ่ยน้ำเสียงที่ฟังแล้วสบายใจแต่เนื้อความทำให้อารมณ์ของผมเปลี่ยนไปมา
“เฮ้อ ถ้างั้นพี่ก็จะรับข้อเสนอแล้วก็จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ทันทีแต่วันนี้พี่มีเวลาอยู่กับเพลงทั้งวันเพราะฉะนั้นขอพี่ตักตวงความสุขไว้เป็นกำลังใจก่อนจะครบ1เดือนแล้วกันนะ”พูดจบผมก็พุ่งเข้าฟัดน้องเพลงทันที
“อื้อ แล้วไม่ไปเอาแผนที่รึไงเล่า”น้องเพลงท้วงเมื่อผมผละจูบออก
“ไว้พรุ่งนี้ทีเดียวแล้วกัน แต่ตอนนี้พี่ไม่ไหวแล้ว” อ่าน้องเพลงก็ไม่ยอมผมนิดหน่อยแต่ไม่นานก็ยอมแต่โดยดี แต่ผมขอไม่เล่ารายระเอียดอะไรนะเพราะอยากเก็บไว้มีความสุขคนเดียว อ่ะบอกนิดนึงแล้วกันว่าผมจะมีความทรงจำดีๆกับน้องเพลงให้ไว้คิดถึงในเวลา1เดือนเนี่ยในทุกๆส่วนของห้องเลยทีเดียว แต่อย่าคิดนะว่าจะเป็นผมแค่ฝ่ายเดียวที่ตักตวงความสุขเอาจากน้องเพลงฝ่ายเดียว เพราะน้องเพลงเองก็ตักตวงเอาจากผมเหมือนกัน ไม่มียอมกันจริงๆ แต่ไอเรื่องตักตวงกันยังไงพวกคุณคงต้องจิ้นกันเอาเองแล้วหละ แต่บอกได้คำเดียวว่าทำให้ผมมีแรงใจสุดๆ แต่แรงกายดูเหมือนจะไม่ค่อยพร้อมยังไงไม่รู้สิ แต่เอาเถอะ ผมสู้เต็มที่ เพื่อรักของเราอยู่แล้ว ยังไงก็ขอกำลังใจกันด้วยนะ




จูบแสนหวานล้ำยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากของผมไม่นาน ตอนนี้ผมกำลังขับรถไปตมเส้นทางในแผนที่ๆรับมา คุณพ่อตาเตรียมทุกอย่างไว้พร้อม ทั้งแผนที่และกุญแจรถซึ่งแน่นอนไม่ใช่รถของผมแน่ แต่เป็นรถที่ท่านเตรียมไว้ให้ รถที่ที่โดดเด่นและสะดุตาตั้งแต่แรกเห็นและถ้าเป็นคนที่เล่นรถละก็คงไม่มีใครไม่รู้จักรถที่มีการผลิตออกมาเพียงแค่10คันในโลกคันนี้แน่ๆ ผมไม่บอกว่ารุ่นไหนแล้วกัน คิดว่าคุณๆคงหาคำตอนนี้ได้ไม่อยาก นี่ทำให้ผมอดคิดแปลกใจไม่ได้ว่า ท่านลงทุนในการทดสอบผมมากไปรึเปล่าราคารถคันนี้ซื้อบ้านได้เป็นหลังๆเลยนะครับ  ผมขับตามเส้นทางที่มีในแผนที่จากตัวเมืองออกสู่ชาญเมืองและตัดเข้าสู่เส้นทางสายตรงที่รอบด้านเต็มไปด้วยนาข้าวจำนวนมาก ผมเร่งความเร็วขึ้นเพื่อให้ถึงจุดมุ่งหมายเร็วขึ้นเมื่อสังเกตได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตในอาณาบริเวณที่ผมต้องมุ่งผ่านไปแน่  ไม่นานนักก็ปรากฏสิ่งปลูกสร้างที่กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างโอบล้อมด้วยภูเขา สิ่งนี้ผมไม่อาจระบุได้ว่า คือบ้านหรือโรงาน หรือเป็นโกดัง แต่ในแผนที่สิ้นสุดอยู่เพียงสถานที่แห่งนี้ เมื่อรถของผมมุงตรงเข้าไปประตูเหล็กบานหนาก็เปิดออกให้รถของผมวิ่งผ่านเข้าไปและหยุดลงเมื่อมีชายชุดดำล้อมรอบไว้ด้วยอาวุธครบมือ


“ท่านประธาน รอคุณอยู่ที่ห้องแต่การที่คุณจะไปพบท่านได้นั้นต้องผ่านพวกเราให้ได้ก่อน กรุณาลงจากรถด้วยครับ”หนึ่งในคนชุดดำกล่าวขึ้น และนั่นทำให้ผมต้องทำตาม เพราะถึงยังไงนี่ก็คงเป็นคำสั่งของคุณพ่อตาแน่

“คุณเพลงเป็นคนมีความสามารถหลายๆด้าน และถูกฝึกการต่อสู้มาเป็นอย่างดี และฝีมือยอดเยี่ยม เนื่องจากภาระหน้าที่ ที่ต้องดูแลกิจการต่อจากท่านประธาน ซึ่งคุณคงพอรู้ตื้นลึกหนาบางมาบ้างดังนั้นคนที่จะมาเคียงคู่คุณเพลงต้องมีความสามรถที่จะปกป้องได้คุณเพลงได้หรือมีความสามรถที่ทัดเทียม เอาหละ กรุณาเตรียมอาวุธด้วยครับ คุณต้องต่อสู้และผ่านพวกเราไปให้ได้ยังมีอีกหลายอย่างรอคุณอยู่ และสิ่งที่ผมอยากบอกคุณส่งท้ายคือคุณเพลงสามารถล้มพวกเราได้ภายใน1ชั่วโมง ดังนั้นคุณควรทำเวลาไม่เกินจากนี้ ขอให้โชคดี”สิ้นสุดคำพูดคนชุดดำที่ปิดล้อมอยู่ก็กระจายตัวออกไป และสิ่งปืนก็ดังขึ้นกระสุนเฉียดเท้าของผมไปนิดเดียว นั่นทำให้ประสาทการต่อสู้ของผมตื่นตัว วิถีกระสุนบงบอกว่านี่เป็นแค่การยิงเพื่อเป็นการเตือนว่าการทดสอบเริ่มขึ้นแล้ว
“การทดสอบเริ่มขึ้นแล้วครับ จะมีการต่อสู้ในทุกรูปแบบกับคุณ ขอให้รักษาตัวรอดให้ได้”พอสิ้นเสียงประกาศก็มีการสาดกระสุนเข้ามาจนผมต้องใช้ความเร็วในการหลบ ผมเป็นนักกีฬา เรื่องไหวพริบและความไวไม่น้อยหน้าใครแน่ๆ แต่ก็ยังมีบางนัดที่เฉียดจนเรียกเลือดจากผิวเนื้อของผมได้ เสร็จจากห่ากระสุนชุดใหญ่ ก็เป็น กลุ่มคนที่มีอาวุธหลายๆแบบพุ่งตรงเข้ามาหมายจะทำร้ายผม นั่นทำให้ผมไม่มีเวลาสนใจบาดแผลของตนเอง ที่ทำได้ต้องนี้มีเพียงพยายามตั้งสมาธิให้ได้แล้วรับมือต่อการต่อสู้ในหลายรูปแบบที่มาพร้อมกัน  โชคดีที่ผมชอบกีฬาทุกประเภทรวมไปถึงศิลปะป้องกันตัวในทุกแขนง ซึ่งนั่นทำให้ผมวิเคราะห์คู่ต่อสู้ออก ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนที่พุ่งเข้ามาหมายจะทำร้ายผมก็ตาม แต่ผมก็มองออกอย่างหนึ่งว่าคนพวกนี้ไม่ได้คิดถึงขั้นจะเอาชีวิตผมเนื่องจากแต่ละจุดที่พวกเขาโจมตีผมนั้นเป็นเพียงเพื่อให้ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ทำอันตรายถึงชีวิตรวมไปถึงห่ากระสุนที่ยังคงสาดมาไม่หยุดนั้นคงเพียงแค่ขัดขวางการต่อสู้ของผมให้ช้าลงเท่านั้นเอง ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำต่อไปก็คือการทำให้คนพวกนี้สลบเพื่อตัดกำลังและออมพลังของผมไว้ ในการต่อสู้ เราต้องรู้จักหลบหลีกและหาจังหวะหรือช่องโหว่ของศัตรูให้ได้ และต้องไม่ประมาทเด็ดขาด และการที่พวกเขาไม่คิดที่จะโจมตีจุดสำคัญตามร่างกายของผมนั้นทำให้โอกาสของผมมีเยอะขึ้น ก็ในเมื่อพวกเขาระวังไม่ให้โดนในจุดสำคัญที่เป็นอันตรายต่อชีวิตผม ผมก็จะใช้จุดสำคัญๆเหล่านั้นรับอาวุธ และนั่นทำให้คู่ต่อสู้ชะงักและผมมีโอกาสทำให้อีกฝ่ายสลบไปได้เพียงแต่ว่าห่ากระสุนที่สาดเข้ามานั้นทำให้ผมใช้พลังงานมากมายในการหลบ ทำให้เหนื่อย และที่นี่ก็ร้อนจนผมเริ่มเบลอ และตัดสินใจที่จะฝ่าห่ากระสุนเพื่อเข้าไปในตัวอาคารเป้าหมายให้ไวที่สุด ในเมื่อผมไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงมากมายในการต่อสู้กับพวกนี้ให้ครบทุกคนนี่ เพราะเป้าหมายจริงๆคือการไปพบพ่อตาของผมให้ได้โดยต้องผ่านด่านพวกเขาไปแต่ไม่ได้กำหนดว่าผมต้องล้มพวกเขาให้หมดไม่ใช่หรือ คิดได้ดังนั้นผมจึงออกแรงวิ่งเต็มฝีเท้า และนั่นทำให้ทุกคนตกใจชะงักการต่อสู้จนผมวิ่งมาใกล้ตัวอาคาร และนี่ทำให้ผมได้พักเหนื่อย
“เนื่องจากคุณสามารถฝ่าเข้ามาจนถึงจุดนี้ได้ ด้วยไหวพริบและความสามารถ ท่านประธานจึงให้คุณได้พักได้ เพราะถือว่าคุณผ่านบททดสอบขั้นแรกแล้ว และนี่เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับคุณหากต้องการเข้าไปด้านใน”ชายร่างสูงใหญ่สวมสูทสีดำรีบกริบพูดขึ้นพร้อมกับยื่นกล่อง ซึ่งน่าจะเป็นกล่องเครื่องมือซึ่งมีขนาดใหญ่พอดูให้ผม เหมือนว่าเขายืนรออยู่นานแล้ว
“ขอบคุณ แต่ทำไมผมต้องใช้ของพวกนี้ในการเข้าไปด้วย”ผมถามด้วยความสงสัยเต็มเปี่ยม เรื่องทดสอบความสามารถด้านกานต่อสู้ผมเข้าใจ แต่เรื่องใช้อุปกรณ์นี่เพื่อเข้าไป ท่านต้องการอะไรแล้วมันจำเป็นยังไงกันแน่

“ตอนนี้คุณยังไม่จำเป็นต้องรู้ เอาไว้เดี๋ยวคุณเข้าไปได้ ท่านจะบอกคุณเองว่าทำไม”เขาตอบและเดินจากผมไปทันที นั่นทำให้ผมไม่มีทางเลือก นอกจากใช้อุปกรณ์ทั้งหมดที่ได้มาเป็นตัวช่วยเพื่อให้เข้าไปด้านในได้ และตรงหน้าผมตอนนี้ก็คือประตูใหญ่ซึ่งเป็นแบบเข้ารหัส อ่าผมไม่ชอบการถอดรหัสเท่าไหร่นะ เอาเป็นว่า ข้อตรวจกล่องอุปกรณ์หน่อยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งมันประกอบไปด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ ทุบ ตัด งัด แงะ อ่าแล้วก็มีกระดาษอีก5แผ่น ซึ่ง3แผ่นเป็นกระดาษที่มีข้อความส่วนอีก2แผ่นว่างเปล่า และผมก็เลือกอ่านแผ่นกระดาษที่มีข้อความอยู่ก่อน
ประตู1
ท่วงทำนองแรกขับขาน เป็นพยานสุดท้ายแห่งรัก ผูกใจให้คงมั่น ยั่งยืนมิรู้จบ
น่าจะเป็นคำใบ้ของรหัสประตูนี้ เพราะจากที่อ่าน ไม่ใช่กลอนแต่น่าจะเป็นข้อความทีสื่อถึงอะไรบางอย่างซึ่งน่าจะถอดออกมาเป็นตัวเลขได้ และผมก็เลิกที่จะใช้วันและเดินเกิดของน้องเพลง ไขรหัส แม้จะคิดว่ามันง่ายเกินไปก็ตอน และเมื่อผมลอง มันก็ง่ายเกินไปจริงๆสิถึงได้เปิดไม่ออก ผมคิดต่อมันต้องเกี่ยวกับน้องเพลงแน่ๆเพราะลูกถือเป็นพยานรักและน้องเพลงเป็นลูกคนสุดท้อง อ่า..ท่วงทำนองแรก วันเดินปีเกิดไม่ใช่ งั้นก็ เอาหละ เวลาเกิด คิดได้ดังนั้นผมก็ลงมือไขรหัสทันที และแล้วประตูก็เปิดออกจนได้  อ่า สงสัยว่าผมรู้เวลาเกิดของน้องเพลงได้ยังไงงั้นหรอ ไม่อยากหรอก ทั้งผมและน้องเพลงรู้เรื่องวันเดือนปีเกิดรวมถึงเวลาเกิดของกันและกันดี เพราะเราทั้งคู่ชอบที่จะรู้ในสิ่งที่ทำให้เราได้มีกันและกันในตอนนี้เหมือนกันหน่ะสิ เอาหละผมอธิบายไปแล้วเราก็มาเดินทางสู่ประตูต่อไปกันเถอะ แต่จากที่ผมอ่าน ประตูไม่ได้มีคำใบ้ไปซะทุกบานหรอก แล้วก็ไม่ได้เป็นแบบถอดรหัสหมดด้วย ดังนั้นในประตูบานต่อๆมาผมต้องใช้หัวคิดอุปกรณ์และพึงทริคจากนิยายสืบสวนที่ผมชอบอ่านมาช่วย จนตอนนี้ผมมาถึงประตูบานสุดท้ายด้วยความล้า กับเวลาที่ใช้ไปนานถึง12ชั่วโมงด้วยกัน และแน่นอนผมยังไม่ได้ทานอะไรเลยรวมๆเวลาแล้วก็18ชั่วโมง นั่นทำให้ผมต้องนักพักเอาแรงก่อนจะหาทางเปิดประตูบานสุดท้ายเพื่อพบหน้าพ่อตา และสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อประตูห้องนั้นเปิดออกผมพร้อมชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวเนี้ยบออกมา
“เชิญคุณภูมิด้านในเลยครับ ท่านประธานรออยู่”ชายหนุ่มทั้งสองพูดพร้อมกันและผายมือเชิญผมเข้าข้างใน แล้วผมที่ทำทุกอย่างเพื่อจะพบท่านจะรออะไรอยู่หละ
พายในห้องนั้นแตกต่างจากที่ผมคิดไว้มากเนื่องจากมีหารจัดดอกไม้ไว้มากมายหลายพันธุ์ดูสดสาด้วยโทนสว่างของสีต่างๆที่เข้ากันอย่างลงตัว ไม่เหมือนที่ผมคิดไว้ว่ามันจะตกแต่งแบบเรียบๆแต่แสดงถึงอำนาจและความกดดัน แต่มันกับทำให้รู้สึกสดชื่อและสดใสจนผมเผลอยิ้มออกกมา
“เชิญนั่ง”เสียงหนึ่งดังขึ้นดึงความสนใจของผมให้หันไปหาที่มาขึ้นเสียง ซึ่งเห็นคุณพ่อตาของผมยืนผายมือไปยังที่หนึ่งของโต๊ะอาหารที่จัดไว้เป็นอย่างดี ผมจึงยกมือไหว้และท่านก็รับไหว้ผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผมจึงเดินไปนั่งยังที่ๆท่านเชิญ
“คงเหนื่อยและไม่ได้กินอะไรมากทั้งวัน จิบน้ำเย็นๆก่อนจะได้สดชื่นแล้วค่อยทานอาหารที่พ่อเตรียมไว้”ท่านยื่นขันน้ำสีเงินฉลุรวดลายสวยให้ผมรับมาดื่ม มันเย็นชื่นใจจากธรรมชาติไม่ใช่น้ำที่เกิดจากการแช่แลละหอมกลิ่นมะลิที่โรยไว้ทำให้ผมยิ้มยินดีกับความใส่ใจนี้มันสดชื่นมากกว่าน้ำเย็นๆจากการแช่อีกนะ แต่ที่ยินดีมากกว่าคือท่านแทนตัวเองว่าพ่ออย่างอ่อนโยนกับผม


“ขอบคุณครับ แต่...”ผมเอ่ยขอบคุณสำหรับบริการที่ได้รับและจะเอ่ยถามต่อแต่ยังเรียบแรงคำพูดไม่ถูก
“เอาหละ ภูมิคงอยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงได้ให้เข้ามาพบได้ทั้งที่จริงๆแล้วต้องผ่านประตูหน้าห้องมาให้ได้รวมถึงต้องสู้กับการ์ดของพ่อก่อน  ที่จริงมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นล่ะ แต่พ่อเห็นในความตั้งใจ มุ่งมั่น และความพยายามของเรา แล้วภูมิก็ใช้เวลาน้อยกว่าที่พ่อคิดไว้มาก อีกทั้งเจ้าลูกชายยังโทรมาขู่ไม่ให้ทำอะไรรุนแรงอีกเพราะพี่ภูมิยังไม่ได้ทานอะไร เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ไม่มีพลังงานกักตุนไว้ผ่านด่านต่างๆมาได้ด้วยเวลาเพียงเท่านี้ พ่อคงไม่ใจร้ายให้ต้องมาสู้ต่ออีกหรอก ยังไงก็ถือว่าภูมิผ่านล่ะนะ” ท่านพูดด้วยใบหน้าที่แสดงการยอมรับจากใจจริง และก็ทำให้ผมยิ้มกับสิ่งที่น้องเพลงทำ
“งั้นแสดงว่าคุณพ่อยอมให้ผมคบกับน้องเพลงแล้วใช่ไหมครับ”ผมรีบถามด้วยความดีใจ
“ทานไปคุยไปเถอะ เดี๋ยวอดข้าวจนเป็นอะไรไปพ่อคงปวดหัวเพราะเจ้าเพลงอาระวาดแน่ๆ”ท่านพูดยิ้มๆและทำหน้าปวดหัวเมื่อพูดถึงเรื่องที่น้องเพลงอาระวาด
“ครับ” ผมตอบรับและเริ่มทานอาหารทันที ทุกอย่างเป็นของที่ผมชอบ รสชาติที่ผมชอบ อร่อย และช่วยฟื้นฟูพลังงาน ท่านเอาใจใส่กับอาหารมื้อนี้จริงๆครับ
“พ่อยอมรับในตัวภูมิแล้วในระดับหนึ่งว่ารักน้องเพลงจริง เพราะหากไม่รักคงไม่ยอมทำถึงเพียงนี้ เพราะต่อให้ไม่เร็งจุดตายยังไง การสาดกระสุน และการต่อสู้โดยใช้อาวุธย่อมมีโอกาสพลาดพลั้งถึงชีวิตได้ แต่ภูมิก็ไม่ถอย และก้าวมาถึงหน้าห้องของพ่อได้ เพียงแต่ว่าแค่รักอย่างเดียวมันคงไม่พอ ช่วงเวลาที่เหลือจนกว่าจะครบ1เดือนพ่ออยากรู้ว่าภูมิกับเพลงพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน และสิ่งที่มีให้กันมากกว่ารักรึเปล่า” น้ำเสียงเรียบเรื่อย เข้าอกเข้าใจ บอกและสอนผมไปด้วย
“แล้วผมจะต้องทำยังไงครับ”
“ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่ใช้ชีวิตใน1เดือนนี้โดยที่ไม่มีเจ้าเพลงข้างกายดูบ้าง มันคงไม่ยากอะไรเพราะก่อนหน้านั้นภูมิเองก็ไม่ได้มีน้องเพลงอยู่ข้างกาย”
“แต่ว่ามันไม่เหมือนกันนะครับ” ใช่ไม่เหมือนเลยก่อนหน้านั้นผมยังไม่รู้จักรักต่อให้มีหรือไม่ก็ไม่ต่างกัน แต่ตอนนี้รู้และมีอยู่จะให้ทิ้งไปเหมือนไม่มี มัน.....เกินกว่าจะอธิบายครับ
“จะเหมือนหรือไม่เหมือน และอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองคนนะ แต่ระหว่างที่ห่างกันพ่อก็เปลี่ยนเบอร์ใหม่ให้เจ้าเพลงแล้วก็ให้กลับไปบริหารงานที่เจ้าเพลงทิ้งไปเพื่อที่จะเรียนที่นี่ต่อ แต่พ่อคงบอกรายละเอียดไม่ได้”



หลังจากจบการทดสอบไหวพริบและกำลังรวมทั้งคุยเปิดใจกับคุณพ่อตาแล้ว นี่ก็ผ่านมา3วันที่ผมต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีน้องเพลง ผมต้องเข้าไปช่วยงานที่บริษัทของตัวเอง และทำให้ตัวเองมีงานอยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งก็ลืมทานข้าว จนเลขาผมถึงกับต้องถอนหายใจวันละหลายๆครั้ง ไม่รู้ที่ผมทำแบบนี้ทำให้ใครเดือดร้อนต้องรีบเร่งงานทุกอย่างให้ทันกับความต้องการจนไม่ได้หยุดพักตามผมไปด้วยรึเปล่า แต่ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ผมก็จะ จิตตกน่ะสิ
“ก็อกๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับร่างของเลขาสาวสวยที่เข้ามายืนในห้องพร้อมน้อมตัวลงเป็นการขออนุญาตอีกที ผมจึงผายมือเชิญให้เธอเข้ามา
“เอ่อ ขอโทษที่รีบร้อนเข้ามาค่ะ แต่ว่าคุณภูมิคะ...”
“นี่ไอภูมิ แกจะทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่พักไม่ผ่อนบ้างเลยรึไง เพื่อนฝูงชวนไปไหนก็ไม่ว่างๆเนี่ยห๊ะ”เลขาผมยังพูดไม่ทันจบก็มีน้ำเสียงใส่อารมณ์ดังขึ้นมาขัดพร้อมการปรากฏตัวของไอตาร์ครับ
“เอ่อคุณ โรสออกไปก่อนนะครับเดี๋ยวผมคุยกับมันเอง ขอบคุณมากครับ”
“เข้ามาที่ทำเลขากุตกอกตกใจหมด แล้วมาถึงนี่มีอะไร”ผมถามมันแล้วก็เดินนำมันไปนั่งที่ชุดรับแขกครับ ส่วนที่เลขาผมตกในเนี่ยเพราะไอตาร์มันไม่เคยมา แล้วพอมันมาแล้วหาเรื่องจะพบผมให้ได้แล้วด้วยอารมณ์แบบนี้ไม่แปลกหรอกครับที่เธอจะตกใจ
“เออ ก็กุอารมณ์เสีย จะเจอมึงทั้งทีถามนู่นนี่กุอยู่ได้ บอกว่าเป็นเพื่อนมึงก็ไม่ฟัง”ดูมันครับไม่สำนึก
“เชี้ยตาร์ ก็มึงมาอารมณ์แบบนี้แล้วเลขากุเค้าไม่รู้จะแปลกอะไรที่เค้าทำตามหน้าที่”
“ช่างมันเถอะเรื่องนั้น แต่มึง ไอภูมิเป็นบ้าไรวะทำงานไม่ลืมหูลืมตา แม่งทำพวกกูเป็นห่วง จนฟ้าเฉดหัวกุมาถามมึงเนี่ย”
“อ่อ เพราะเจ้าแม่นี่เองมึงถึงได้อารมณ์เสีย”
“ไม่ใช่แค่เพราะฟ้าหรอกแต่ทุกคนแม่มโยนมาให้กุ”
“แล้วมึงก็ทำบ่ายเบี่ยงเลยโดนฟ้าขู่เอาอะดิเลยอารมณ์เสียมา”
“เออ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยไอภูมิ บอกมาว่าเป็นเชี้ยไร”
“เหอะๆ พ่อตาให้กุกับน้องเพลงห่างกันเดือนนึง”
“ห๊ะ~~~”
“ไม่ต้องห๊ะเห๊อะไรเลยมึงกุรู้ว่ามึงได้ยินชัดแล้ว”
“เออแล้วมึงก็เลยบ้างานเนี่ยนะ”
“โธ่ ตาร์ มึงก็ลองห่างกับฟ้าเดือนนึงบ้างดิ”
“ไม่อ่ะถึงเจอกันบ่อยแล้วจะทำให้เบื่อให้ทะเลาะกันบ้าง แต่ถ้าให้นานถึงเดือนนึงกุคงไม่อ่ะ”
“เออ กุก็ไม่อยากแต่ถ้าพ่อตายื่นคำขาดกุก็ต้องยอม แล้วมึง กุกับน้องเพลงพึ่งจะเข้าใจกันแล้วหวานๆกันได้ไม่นานเองต้องมาโดนจับแยกแบบนี้ แล้วไม่รู้ว่าพ่อตากุคิดจะทำไรอีก มันฟุ้งซ่าน เลยต้องทำงานจนไม่เวลาว่างให้คิดไง”
“อาการหนักนะมึง แล้วนี่พนักงานไม่หัวปั่นกันหมดหรอมึง”
“ก็คงจะหัวปั่นหวะ เพราะกุกวาดงานทุกอย่างมาตรวจดูเองหมด”
“งั้นมึงเรียกเลขามึงเข้ามาหน่อยกุมีอะไรจะถามเค้า” ผมก็ไม่อยากถามอะไรมากเลยกดปุ่มที่ทำไว้บนโต๊ะรับแขกเพื่อเรียกเลขาเข้ามา
“คือคุณโรสครับ เพื่อนผมเค้าอยากถามอะไรคุณน่ะ”ผมบอกเมื่อเธอเข้ามาตามคำสั่ง
“มีเรื่องอะไรจะถามดิฉันค่ะ”
“ครับผมอยากทราบว่าเพื่อนผมมันบ้ากวาดงานมาทำหมดรึยังน่ะครับ”
“เอ่อก็เกือบหมดแล้วค่ะ เชื่อว่าอีกสองวันพวกเราคงไม่เหลืองานให้ทำแน่ๆ”
“งั้นถ้าผมจะพาตัวมันไปสัก2-3วันจะเป็นไรไหมครับ”
“ไม่ค่ะ จะดีมากถ้าคุณภูมิไม่อยู่ พวกเราจะได้พักบ้าง”
“ครับงั้นผมขอเอาตัวมันไปเลยแล้วกันนะครับ”พูดจบมันก็ลากผมออกมาเลยเล่นเอาพนักงานแตกตื่นกันหมด แต่เดี๋ยวคุณโรสคงมาอธิบายให้ฟังเองแหละมั้ง
“มึงจะลากกุไปไหนเนี่ย”
“ไปเที่ยว จะลากมึงไปจัดกระเป๋าพวกกุเตรียมตัวกันหมดแล้ว”
“แล้วกุบอกตอนไหนว่าจะไปกับมึง”
“กุต้องการความเห็นจากมึงไหม มึงต้องไปอย่างเดียวไม่งั้นตัดเพื่อน ทำพวกกุปั่นป่วนแล้วไม่สำนึก”มันบนจบก็ไม่ตอบอะไรผมอีกเลย จนในที่สุดผมก็ต้องนั่งรถไปต่างจังหวัดกับพวกมัน แล้วพอถึงมันก็สั่งให้ผมนอนแล้วพอ4ทุ่มมันก็มาปลุกให้แต่งตัวจะไปเที่ยวผับ จะขัดก็ไม่ได้บอกผับรุ่นพี่เพิ่งเปิดเค้าเชิญมาต้องไปแล้วแม่มก็ยืนกดดันกัน จนตอนนี้ผมมาอยู่ที่ผับแล้วหละครับ ผับนี้จัดอย่างหรูหราจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ต่างจังหวัดเลยแหละ พื้นที่ถูกจัดเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนและพวกผมก็อยู่ในโซนวีไอพี ที่จัดโซฟาอย่างดีให้นั่ง
“ร้านสวยถูกใจไหม พวกเรา”ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม
“ครับ พี่นาย แล้วก็ขอบคุณมากที่เชิญเรามาไม่ได้เจอะกันนานนะครับ แล้วก็นู่นครับไอภูมิ”
“ไงเจ้าภูมิ โดนลากมาจนได้สินะ จำพี่ได้ไหม”ชายคนนั้นเอ่ยถาม
“อืม...พี่นาย พี่นาย โหพี่หายไปเลยนะแล้วทำไมถึงมาอยู่นี่ได้ครับ”
“กว่าจะนึกออก ก็ร้านนี้ร้านพี่แล้วพี่ก็เชิญพวกเรามาแถมยังให้ลากแกมาด้วยเนี่ย”พี่นายบอกยิ้มๆ สงสัยใช่ไหมครับ พี่นายเนี่ยใคร รุ่นพี่หัวหน้าว๊ากปีที่ผมรับน้องเองครับ สนิทกันมากเพราะสร้างวีรกรรมด้วยกันไว้เยอะ แต่แกเรียนจบแล้วและก็หายไปเลยครับไม่ติดต่อใคร แล้วหน้าพี่แกก็เปลี่ยนๆไปด้วย ผมก็เลยต้องนึกนิดนึงอ่ะครับ
“โหยพี่ ก็พี่เล่นหายไปเลยแถมหน้ายังเปลี่ยนๆไปอีก มันก็ต้องนึกกันบ้าง แล้วนี่ติดต่อพวกผมได้ไงเนี่ย”
“เออ เจอไอตาร์โดยบังเอิญก็เลยเข้าไปทัก กว่ามันจะจำพี่ได้ก็นานเหมือนกัน แล้วพี่ก็เลยถือโอกาสชวนมาเที่ยวที่นี่เลย”
“งั้นร้านนี้ก็ร้านพี่นายสิ”
“อืมร้านพี่เอง พอเรียนจบพี่ก็ทำงานแล้วก็วางโครงการเปิดร้านนี้จนสำเร็จกว่าจะทำให้สำเร็จได้ก็เหนื่ออยหลายเรื่องอยู่ ก็เลยไม่ได้กลับไปดูน้องๆเลย แล้วเป็นไงรุ่นน้องปีนี้ มีเจ๋งๆบ้างไหม แล้วสาวๆเนี่ยเสร็จแกไปกี่คนว่ะพ่อคาสโนว่า”
“โหยพี่นาย รุ่นน้องเจ๋งๆเยอะพี่ ปีนี้ แต่ไม่มีสาวไหนเสร็จไอภูมิหรอกปีนี้เพราะคาสโนว่าสิ้นลายแล้วครับ”ไอตาร์มันตอบแทนผมครับ
“เห้ย ไรวะเล่ามาๆ สาวไหนทำมันสิ้นลาย”
“ไม่ใช่สาวพี่ แต่สวยแล้วก็เก่งมากๆ พวกผมยอมรับเลย เหมาะกับมันสุดๆอ่ะพี่ เพราะเอามันอยู่ด้วย” แม่งมันทำให้ผมคิดถึงน้องเพลง สัดตาร์นี่  ทำผมเห็นภาพหลอนเลยไง ก็โต๊ะที่อยู่ในสายตาผมตอนนี้มีผู้ชายร่างสูงหุ่นเพรียวนั่งดื่มรายล้อมไปด้วยผู้หญิงแล้วก็เหมือนน้องเพลงเอามากๆ แต่น้องเพลงจะมาที่แบบนี้ได้ยังไง แถมพวกผู้หญิงที่คอยนัวเนียนั่นอีก
“ไม่สาวหรอวะ งั้นก็อายุมากกว่าดิ สิ้นรายเพราะคนมีอายุหรอวะภูมิ”พี่ภูมิแกถามผมแบบเยาะๆ
“ไม่ใช่แล้วพี่ไอที่มันว่าไม่สาวอ่ะ เพราะที่รักผมเป็นหนุ่ม”ผมบอกออกไปแล้วดูพี่แกจะอึ้งๆ แต่ผมไม่มีเวลาสนใจจะอธิบายพี่นายหรอก เพราะผู้ชายที่ผมมองอยู่แล้วคิดว่าเป็นภาพหลอนน่ะ มันน่าจะใช่น้องเพลงแล้วหละ เพราะต่อให้ที่ๆนั่งอยู่ไกลกันพอควรแต่ผมจำทุกท่วงท่าของน้องเพลงได้ดีและคงไม่มีใครเหมือนกันไปหมดขนาดนี้ ถึงตอนนี้น้องเพลงที่สวยหวานจะดูคมและดูเป็นเพลย์บอยแต่ผมก็จำได้
“พวกเอ็งบอกพี่สิ ว่าได้ยินไม่ผิด แฟนไอภูมิไม่สาว แต่หนุ่ม แล้วไหนพวกเอ็งบอกสวยไงวะ”เสียงพี่นายเอ่ยถามพวกนั้นอย่างต้องการคำตอบไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่ากับภาพตรงหน้าที่ทำผมปวดใจจนแทบจะหายใจไม่ออก แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมอยู่ในผับคุยกันแล้วถึงได้ยินทั้งที่เสียงเพลงน่าจะดัง ผมก็ไม่รู้อะไรหรอก แต่ตอนนี้มันเหมือนร้านอาหารที่เปิดเพลงเบาๆให้ลูกค้ามากกว่าคุยอะไรกันก็ได้ยินหมดแหละครับ
“ครับพี่ หนุ่มจริงๆ แต่สวยมากๆ ถ้าพี่เห็นแล้วจะรู้เองว่าสวยยังไง แต่น้องเค้าไม่ได้เป็นเกย์นะพี่ ถึงจะสวยจะเหมือนผู้หญิงยังไงแต่น้องเค้าแมนมากพวกผมสัมผัสและเจอกะตัวมาแล้ว ไอที่จะเป็นเกย์ก็เพราะไอภูมินี่ล่ะ เฮ้อชายแท้แต่ได้กันเอง คนนึงสวยสุดยอดแต่แมนสุดตีน ส่วนอีกคนก็ใช้ผู้หญิงเปลืองโคตรใครก็รู้ว่าไม่เกย์แน่ๆอ่ะ แต่ผู้ชายกับผู้ชายอะน่ะพอคบกันจะแมนขนาดไหนคนก็ต้องว่าเป็นเกย์แหละ”ไอตาร์มันพูดไล่ยาวไรของมันไม่รู้ตั้งแต่มาคนอื่นยังไม่พูดเลยมีแต่มันนี่แหละคุยกับพี่นาย แต่ผมไม่สนใจแล้วหละ ขอเข้าไปดูใกล้ๆให้ชัดๆว่านั่นเป็นน้องเพลงจริงๆตอกย้ำให้มันเจ็บกว่าเดิม ว่าผมทำทุกอย่างเพื่อเค้า ทำงานหนักเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน แต่ดันมาเจอเค้าเที่ยวกับผู้หญิงนัวเนียกันขนาดนั้น ยังรักผมยังมีหัวใจอยู่ไหม
“เฮ้ยไปภูมิไปไหนวะ”เป็นไอคินที่นั่งข้างผมทักจนทำให้คนทั้งโต๊ะหันมาสนใจผม แต่ใครจะสน ผมเดินเข้าไปหาเป้าหมายอย่างเดียว ยิ่งระยะห่างใกล้ขึ้น หัวใจก็ยิ่งบีบจนปวดหนึบไปทั้งอก กับภาพความจริงที่เห็นว่าเค้านัวเนียกันไม่ได้สนใจผมเลย
“เพลง....”เสียงผมแตกพร่าและสั่นเทา มันเจ็บปวดจนน้ำตาจะหลั่งรินแต่ต้องกั้นไว้ มัน..ทรมาน



**********************************************








 





DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
เพลง
เพลง
เพลง
เพลง
เพลง
รอเพลงอยู่

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
แผนคุณพ่อตาแน่ๆเลย อ่ะ ใจร้าย โคตรๆ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คิดถึงจังเลยยยยยยยยยยยยยยย
รออยู่นะค๊า

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คิดถึงคิดถึงคิดถึง :กอด1:
คนเขียนยังสบายดีมั๊ย
 :z13:รออยู่นะค๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คนเขียนหายไปหนายยยยยยย :z12:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เข้ามากด เข้ามาดัน
ยังรออยู่น๊า :t4:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4

ออฟไลน์ zatamare

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
ด้วยความเคารพ เมื่อมีคนดัน และวันนี้คนเขียนว่าง ฉะนั้น วันนี้จะนั่งพิมพ์ต่อ  แต่ไม่รับรองผลนะว่าจะได้อัพไหม =^~^=


ปล.จะมีใครเห็นข้อความเราไหมน้อ  แอบมาส่งข้อความ

ออฟไลน์ zatamare

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
พิสูจน์รักวัดใจนายเทพบุตรคลาสโนว่า ตอน บทพิสูจน์สุดท้าย2

[โหมด : เพลง]

      “เพลง...”น้ำเสียงแสนเจ็บปวดทว่าคุ้นเคยดังขึ้นด้วยชื่อของผม และแม้ภายในผับแห่งนี้ตรงส่วนที่ผมอยู่จะมีผู้หญิงรายล้อมและเสียงเพลงสบายๆคลอไปเบาๆแต่เสียงนั้นก็ดังพอจะทำให้ผมหันไปพบกับภาพที่ทำให้ผมแสนเจ็บปวด คนที่ผมรักกำลังยืนมองผมด้วยสายตาเจ็บปวด ผิดหวัง และปวดร้าว ไม่แพ้กับที่ผมรู้สึกแน่นอน แต่ทำไมจะต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้น ทำไม  ทำไมคนที่ควรจะพิสูจน์ความรักของเราให้พ่อเห็น ถึงมาอยู่ในผับแห่งนี้ได้ ทำไมกัน ไอพี่ภูมิมันควรจะอยู่กับพ่อผมเพื่อพิสูจน์ใจมันเองไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงได้มาเที่ยวอยู่ในผับแห่งนี้ได้ แล้วยังสายตานั่นอีก มันทำให้ผมเจ็บปวดจนทรุดแต่ทว่า
      “เพลง!!!”น้ำเสียงโกรธจัดดังขึ้นพร้อมกับความเจ็บที่แขนซึ่งยังไม่เท่ากับหัวใจที่ทวีความเจ็บปวดมากขึ้นจนหลั่งริน หยดตามทางที่ถูกฉุดไปพร้อมกับร่างไร้เรี่ยวแรงของผมที่ถลาไปตามแรงกระชาก
      “ขึ้นไปเรามีเรื่องต้องคุยกัน”น้ำเสียงโกรธจัดดังขึ้นพร้อมกับที่ร่างผมถูกเหวี่ยงเข้ามาในรถอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับหลายอย่างในรถจนรู้สึกเจ็บตามร่างกายหลายจุด แต่ความเจ็บเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำอะไรผมได้ มันก็แค่ความเจ็บทางกายอย่างผมแค่นี้รับได้สบายๆแต่ความเจ็บที่ใจต่างหากที่ทำให้ผมอ่อนแอ รถกระชากตัวออกไปด้วยความเร็วราวพายุ มุ่งตรงสู่ที่ไหนสักแห่งที่ผมมิได้สนใจอยากรู้ ตอนนี้ทำได้เพียงหลับตาปล่อยให้หยาดน้ำไหลรินลดแก้มต่อไปในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดผมก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดเช่นกัน
      รถหยุดตัวอย่างกะทันหันผมกับเสียงเปิดปิดประตูเสียงดังและรุนแรงสองครั้งและร่างของผมที่ถูกกระชากอย่างแรงให้เดินตาม เพียงไม่นานตัวผมก็ถูกพลักเข้าห้อง ตามด้วยร่างสูงของอีกฝ่ายที่มีใบหน้าโกรธจัด พร้อมกับจูบจาบจ้วงรุนแรงซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเรา มือแข็งแรงสัมผัสรุนแรงไปตามร่างกายของผมที่ไม่อาจขัดขืนได้ในเวลาที่จิตใจบอบช้ำเช่นนี้ เสื้อผ้าถูกกระชากรุนแรงด้วยโทสะของอีกคนและแขนแข็งแรงที่พันธนาการร่างของผมไว้ไม่ให้หนีได้ และไม่คิดที่จะหนี หากว่าเรื่องมันจะจบลงโดยที่อีกฝ่ายใช้กำลังราวกับขืนใจกันแบบนี้ ภายหลังทุกอย่างสงบลงเรื่องของเราก็คงจบและจากกันด้วยการลาขาด ผมเชื่อว่าตัวเองใจเด็ดพอ เพราะตอนนี้ผมก็โกรธอีกฝ่ายเช่นกันและจะไม่ยอมฟังความใดๆหากเรื่องเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้นั้นเกิดขึ้นกับผม

“ทำไม ทำไมเพลงถึงไปอยู่ที่นั่น มีความสุขมากสินะ ที่เห็นพี่เป็นไอ้โง่ไปพิสูจน์หัวใจตัวเองเพื่อคนที่รัก แล้วก็มาเที่ยวมีความสุขอยู่กับพวกผู้หญิงนั่น”ความรุนแรงจากสัมผัสของอีกฝ่ายหยุดลงแล้วพร้อมกับน้ำเสียงเจ็บปวดที่เอ่ยถามกับหยาดน้ำใสที่ไหลอาบแก้มของอีกฝ่ายเช่นกัน
“หึ กูสิที่ต้องถามมึง ว่ามึงไปโผล่หัวที่นั่นได้ไง ทั้งๆที่มึงควรจะอยู่กับพ่อกู”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง พี่พิสูจน์ตัวเองจนร่างกายเหนื่อยล้า จนทำให้พ่อเพลงยอมรับได้ หึ แต่เพลงกับไปนั่งกินเหล้ามีความสุขกับใครต่อใคร”น้ำเสียงคาดคั้นประชดประชันเอ่ย
“กูไปทำงาน กูเป็นผู้บริหารมึงก็รู้ ว่าต้องมีเทคแคร์ลูกค้าบ้าง”ผมบอกความจริงไปด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าและยังไม่เชื่อในสิ่งที่มันบอก หากเหนื่อยล้าจะมาโผล่อยู่นี่ทำไม
“ด้วยการไปคั่วผู้หญิงดื่มเหล้าอยู่ที่นั้นงั้นหรือ”
“ทำไม ในเมื่อลูกค้าชอบและรายการนี้กูปฎิเสธไม่ได้ในเมื่อเค้าระบุมาว่าต้องเป็นกุที่ไปรับรองเค้า ถึงจะยอมลงทุนด้วย แต่มึง มึงที่บอกว่าเหนื่อล้าน่ะ ไหนหละทำไมไอความเหนื่อยล้านั่นกูไม่เห็น แล้วคนเหนื่อยล้าที่ไหนมันท่อไปเที่ยวกันถึงนั่นได้วะภูมิ”
“ไอตาร์มันลากพี่ไปเพราะบ้างานด้วยเรื่องของเพลงไง โดนพ่อตาตัดขาดการติดต่อจากคนที่รัก จนบ้าเอางานมาทำจะได้ไม่มานั่งฟุ้งซ่านจนเพื่อนต้องไปลากถึงที่ให้มาเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่ดันมาเจอภาพบาดใจแทน ตลกสิ้นดี”
“มึงว่าไงนะ พ่อกุตัดขาดการติดต่อของกุกับมึงหรอ”ผมเอ่ยอย่างตกใจแล้วเข้าไปเขย่ามันอย่างแรง ก่อนจะรวบรวมข้อมูลแล้วประมวลผลในหัวอย่างไวแล้วเป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปจูบอีกฝ่ายจนมันตกใจ
“ทำอะไร!!”มันตะคอกผมเสียงดัง แล้วบีบแขนผมจับเขย่าอย่างแรง
“หึหึ ให้รางวัลมึงไง แม่งต่างฝ่ายต่างคิดไปเอง พ่อกุนี่ก็แสบจริงๆ” ผมพูดเสร็จก็เริ่มจูบปิดปากมันอีกครั้ง ถึงแม้ตอนแรกมันจะไม่ยอมแต่เพียงไม่นานมันก็ตอบสนองผมกับมาอย่างไม่มีใครยอมใคร
“เพลง!! ทำอะไร”มันตวาดถามหลังเราพละจูบออกจากกัน
“หึหึ.. พี่ภูมิ เพลงมีอะไรจะบอก”ผมกันยิ้มกั้นเสียงหัวเราะด้วยความสุขของตัวเองไว้แทบไม่อยู่จะเสียงที่หลุดออกไปดูเหมือนเจ้าเล่ห์ ทำให้สีหน้าอีกฝ่ายดูระแวงสงสัยกับการที่ผมเรียกมันว่าพี่เหมือนเดิม มากกว่าที่จะดีใจ
“อะ..อะไร”สายตามันมีแต่ความระแวงสงสัยและทำอะไรไม่ถูก แต่ มันก็น่ารักไปอีกแบบนะ
“โธ่ พี่ภูมิอย่าทำหน้านะแวงสงสัยอย่างนั้นดิ เพลงแค่ดีใจที่พี่ภูมิพิสูจน์ตัวเองกับพ่อสำเร็จแล้วตังหาก ไหนมาให้เพลงตรวจดูหน่อยว่าบากเจ็บมีร่องรอยขีดข่วนตรงไหนรึเปล่า”พูดจบผมก็ดึงเขียนมันแล้วดึงมันที่ยังไม่ทันตั้งตัวมาโอบไว้ในอ้อมแขนแล้วเริ่มต้นไล่สำสรวจตัวมันที่ยังขืนตัวนิดๆ
“พะ.เพลง อือ ทำอะไร อธิ..บายมาก่อน”เสียงมาขาดๆหายๆคงเพราะหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะผมไม่ได้สำรวจมันแบบธรรมดา
“หือ..ไม่มีอะไรมาก ก็แค่แผนของพ่อ ที่จัดฉากทำให้เราเข้าใจผิดกัน เพื่อทดสอบความอดทนและความเข้าใจกัน ว่าถ้าหากมีเรื่องให้ผิดใจกันเราทั้งคู่จะผ่านมันไปได้ด้วยดีไหม เพลงบอกตามตรงนะ ถ้าเมื่อกี้พี่ภูมิไม่หยุด เพลงก็ยอมและไม่ขัดขืน แต่หลังจากนั้นเรื่องของเราคงจบลงจริงๆ เพราะต่อให้เรารักกันแค่ไหน แต่เราไม่เข้าใจกัน ลงไม้ลงมือ หรือขืนใจอีกฝ่าย ไม่มีสติยั้งคิดที่จะไม่ทำร้ายกัน คงอยู่กันไม่ยืด”ผมอธิบายพร้อมกับที่ไล้สำรวจตามร่างกายของอีกฝ่ายว่ามีร่องรอยบาดแผลไหม
“พี่หยุด เพราะแววตาเจ็บปวดของเพลง พี่หยุดเพราะพี่ไม่อาจทำร้ายหัวใจของพี่ได้ พี่หยุดเพราะในส่วนลึกของจิตใจยังคงเชื่อมั่นว่า เพลงไม่ทำแบบนั้น  แต่หัวใจก็ยังเจ็บและไม่อยากรับฟัง เพราะกลัวว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง”มันพูดทั้งน้ำตา
“อย่าร้องเลย ถึงยังไงพี่ภูมิก็ยังไม่ได้ทำร้ายเพลง พี่ภูมิยังหยุดยังถามเอาความจริงจากเพลง ยังเปิดโอกาสให้เพลงได้อธิบาย แววตาเจ็บปวดนั่น เพลงรู้ว่าเพรารักมากถึงได้เจ็บปวดขนาดนั้น แต่พี่ภูมิรู้ไหมแววตาที่เจ็บปวดนั้นยังแฝงไปด้วยแววตาที่ต้องการคำอธิบาย ถ้าพี่ภูมิปักใจเชื่อไปแล้วคงไม่มีแววตาแบบนั้น” ผมบอกในสิ่งที่เห็น และตอนนี้ผมก็สำรวจมันครบแล้ว ไม่มีร่องรอยที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บหนักมีเพียงรอยขีดข่วนเท่านั้น มันเก่งสมกับที่ผมเชื่อใจ จริงๆ
“พี่คงต้องขอบคุณบทพิสูจน์นี้สินะที่ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ทำให้รู้ว่าแค่รักไม่พอสำหรับการใช้ชีวิตคู่ การที่เราจะอยู่ด้วยกันได้ ต้องรัก เข้าใจ มีสติ ห่วงใย รักสาน้ำใจและดูแลหัวใจของกันและกันให้เท่ากับหัวใจตัวเอง เรียนรู้ที่จะรับฟังเหตุผลและคำอธิบายของอีกฝ่ายเสมอ”มันพูดด้วยร้อยยิ้มและเริ่มไล้ตามร่างกายของผมเช่นเดียวกัน
“ครับ ขอบคุณที่รักกัน ห่วงใยกัน เข้าใจกัน และไม่ทำร้ายหัวใจดวงนี้ เพลงรักพี่ภูมิมากเช่นกัน”
“ครับพี่รักเพลงมากและขอบคุณที่เพลงรักพี่ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อพิสูจน์หัวใจรักของคนที่เคยเป็นคาสโนว่าอย่างพี่ ทำให้พี่เชื่อว่าเราจะใช้ชีวิตคู่ต่อไปได้อย่ามีสติ เข้าใจ และเป็นที่พักพิงให้อีกฝ่ายได้”เรายิ้มให้กันจูบกันมอบความอบอุ่นและสื่อความรักความห่วงใยให้กันจนอบอวลไปด้วยความสุขและไอรักที่จบลบเลือนรอยเศร้าหมองเจ็บปวดที่เกินขึ้นก่อนหน้านี้


     จากผู้ชายคนหนึ่งซึ่งไม่เชื่อในรักเปลี่ยนคู่ควงคู่นอนบ่อยจนได้ฉายาว่าเทพบุตรคลาสโนว่า หากถามว่า ทำไมไม่เป็นคาสโนว่า  เพราะคลาสโนว่าบ่งบอกว่านี่คือที่สุดและไม่มีวันจะมีรักจริงได้ คือคำที่แสดงว่า สุดท้ายแล้วคนๆนี้ก็ยังคงเป็นคาสโนว่า 
     เกิดรักแรกพบที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เชื่อกับสาวสายหุ่นนางแบบที่สุดท้ายแล้ว เป็นชายหนุ่ม ซึ่งตัวเองไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชอบผู้ชายได้ สุดท้ายก็ยอมรับตัวเองและตามจีบจนเกิดเรื่องราววัดใจและบทพิสูจน์หลายๆอย่างจนทำให้ได้รักกัน จนโดนถอดออกจากตำแหน่งเทพบุตรคลาสโนว่า

      จากผู้ชายหน้าสวยเกินชายคนหนึ่งที่มีความเป็นผู้ชายอยู่เต็มเปรี่ยมไม่แพ้ใคร พยายามทำตัวเป็นอากาศธาตุเพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายเพราะหน้าตาของตัวเอง สุดท้ายก็ดันมีคนมองเห็น และทำให้เกิดความรู้สึกถูกใจและรักได้ แม้คนๆนั้นจะเป็นผู้ชายที่ใครๆหลายคนแม้แต่คนในครอบครัวต่างมั่นใจว่า หน้าตาแบบนี้ยังไงก็ต้องมีแฟนเป็นผู้ชาย จนคบผู้หญิงมากหน้าหลายตาให้รู้กันไปเลยว่าเราน่ะแมนเต็ม100 สุดท้ายก็ดันมาตกหลุมรักผู้ชายที่มีนิสัยเหมือนตัวเอง แถมอีกฝ่ายยังเข้ามาจีบก่อน แล้วคนที่รู้อยู่แล้วว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคาสโนว่าไม่เคยจริงใจกับใคร มีหรือจะไม่ทำอะไรเพื่อพิสูจน์ว่าอีกฝ่ายจริงใจ สุดท้ายเราก็ได้รักกันและยอมรับคำทุกคนให้ความมั่นใจว่าจะมีแฟนเป็นผู้ชายอย่างภาคภูมิ เพราะนี่ไม่ใช่แค่แฟนแต่เป็นคู่ชีวิต


แล้วคุณๆทั้งหลายล่ะ เจอรักแรกพบ มีคนที่รัก และคู่ชีวิตแล้วหรือยัง  ถ้ายังขอให้คุณได้พบไวๆ แต่ถ้ามีแล้ว ก็ขอให้รักและเข้าใจกันและอยู่ด้วยกันไปนานๆ



**************************************

  ตอนหน้าจะเป็นบทส่งท้าย แล้วนะค่ะ

ขอโทษที่ลงให้ช้า เป็นความผิดของคนเขียนเองที่ทำอย่างอื่นจนไม่ได้แต่งต่อ และขอบคุณที่ยังคงติดตามกันจนมาถึงตอนนี้ค่ะ ขอบคุณจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2012 14:07:05 โดย zatamare »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
รอบทสรุปจร้า
กด+เป็ดกิ๊บก๊าบ



ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
^-^ มารอตอนสุดท้าย ของเพลงกับภูมิด้วยคนนะค๊า

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ตามอ่านจนถึงตอนนี้ขอบอกว่าปวดตามากตัวหนังสือเยอะมาก
เนื้อเรื่องก็สนุกดี แต่จะสนุกมากกว่านี้ถ้าคำผิดมันไม่เยอะจนเกินไป
บางทีอ่านเจอคำผิดเยอะมันก็ทำให้การอ่านไม่สนุกนะ
แต่จะรอตอนหน้านะ

ออฟไลน์ Orange151987

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
รอรอรอรอรอรอรอรอรอ  ยังรอ   :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
เพลง หึง+อารมณ์ขึ้นแล้ว หื่นได้อีกอะ น่ากลัววว- -

pleng085

  • บุคคลทั่วไป
รอตอนสุดท้ายอยู่นะคะ ทำไรไม่มาต่อซักที :monkeysad: :sad4: :o12:

รีบมาต่อนะค่ะ จะรอต่อไปค่ะ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :L1: :L1: ไรเตอร์ที่รัก :L1: :L1:

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกดี แต่เสียดายยังไม่จบ คิดว่าคงเป็นอีกเรื่องที่ไม่จบแน่เลย

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ขึ้นปีใหม่แล้วจ้า
 :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ zatamare

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
พิสูจน์รักวัดใจนายเทพบุตรคลาสโนว่า

บทส่งท้าย
-เพลง-

          “ช็อค วงการธุรกิจ 2เครือบริษัทยักษ์ใหญ่ร่วมทุนกัน ลือเกี่ยวดองกันอย่างลับๆระหว่างทายาท”


          ข่าวใหญ่ที่สุดในขณะนี้ที่ไม่ว่าหนังสือพิมพ์หรือทีวีช่องไหนก็ต่างประโครมข่าวและสืบหาความจริงถึงสาเหตุว่าทั้งสองบริษัทร่วมทุนกันเนื่องจากมีการเกี่ยวดองทางเครือญาติกันจริงหรือไม่ และคำตอบที่ได้รับมาเหมือนๆกันคือ จริง และไม่บอกว่าเป็นใครเนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว และกระแสข่าวต่อเนื่องให้ได้สงสัยและจับตามองกันอีกเนื่องจากทั้งสองนั้นพลัดผู้บริหารใหม่เป็นผู้บริหารที่ยังหนุ่ม อายุน้อยด้วยกันทั้งคู่ ทำให้วงการธุรกิจจับตามองเป็นพิเศษและยังคงต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวสถานที่พักพิงสำหรับคนยากไร้และไม่มีที่อยู่โดยการให้ทีพักอาศัยและการสอนอาชีพให้ ซึ่งไม่มีการบังคับว่าต้องทำงานให้กับภายในบริษัทเท่านั้น ทุกคนสามารถเลือกทำในสิ่งที่ตนต้องการได้ ซึ่งเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากจนบริษัทได้รับรางวัลมากมายและการยอมรับจากทุกฝ่าย


          จากเรื่องราวข้างต้นก็คงจะพอเดาได้ว่าเป็นเรื่องราวของผมกับไอพี่ภูมิ(รึเปล่า) ใช่แล้วล่ะหลังจากผ่านเรื่องราวการทดสอบพิสูจน์รักมานี่ก็ผ่านมาได้ปีกว่าแล้ว ผมสองคนเรียนจบและเข้ามาเป็นผู้บริหารโดยนั่งในตำแหน่งประธานอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้ชีวิตพวกเราวุ่นวายอยู่พอสมควรจากการตามสัมภาษณ์ของนักข่าวทั้งในสายธุรกิจและในสายบันเทิง อ่อที่มีสายบันเทิงด้วยเพราะว่าเวลาบริษัทของเรามีโปรเจ็คโฆษณากับนักแสดงสาวชื่อดังหรือหน้าใหม่ของวงการก็จะชอบมีข่าวซุบซิปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกผมและเธอทั้งหลายน่ะสิไม่รู้ว่าใครชั่งเขียนข่าวนัก แค่ร่วมงานกันในโฆษณาหลายตัวและพวกผมชอบไปดูงานด้วยตัวเองก็ชอบมีคนเอาไปลงข่าว สงสัยต้องใช้นักแสดงไม่ซ้ำหน้าซะแล้วมั้ง แต่ถึงทำอย่างนั้นก็คงเป็นข่าวอยู่ดีนั่นล่ะคนจะเอาไปลงข่างซะอย่าง เฮ้อเหนื่อยใจจริงๆ บ่นมาซะยืดยาวกับเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนอยากรู้ผมเข้าเรื่องเลยดีกว่า เอาหละตอนนี้ผมเบื่อและเหนื่อยมากๆช่วงอาทิตย์นี้ทำงานหนักมากๆไม่ใช่แค่ผมแต่ไอพี่ภูมิก็ด้วย ทำไมน่ะหรอ ก็พวกเรามีแผนจะลาไปพักร้อนกันสักอาทิตย์นึงยังไงล่ะ อ่อพวกเราในที่นี้รวมพวกเพื่อนๆพี่ๆสมัยเรียนด้วยนะ พวกนั้นกำลังอยู่ในช่วงปิดเทอมและก็รบเร้าอยากจะไปเที่ยวทะเลกันโดยมีผมสองคนที่ในช่วงหลายเดือนมานี้งานยุ่งจนไม่มีเวลาไปพบปะเพื่อนฝูงไปด้วย แล้วการที่ผู้นำบริษัทจะหายไปสองคนพร้อมกันเป็นอาทิตย์เนี่ยมันก็ต้องยุ่งยากเป็นธรรมดาแถมยังต้องไปแบบเงียบที่สุดไม่ให้แม้แต่ภายในรู้ด้วยสิว่าพวกผมสองคนไปไหนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน นี่ผมก็กำลังจัดของอยู่ส่วนไอพี่ภูมิ.....

          “ที่รัก.... พ่อเพลง..”เสียงมาก่อนตัวอีกบ่นถึงไม่ได้เลย
          “มีอะไรครับ ทั้งพ่อทั้งลูกเลยรีบอะไรกันขนาดนั้น มานั่งดีๆก่อนเร็ว นาวา”ผมเอ่ยถามสองคนพ่อลูกที่แย่งกันวิ่งเข้ามาหาผม ก่อนจะเรียกบอกให้คนลูกนั่งที่โซฟาดีๆ
          “ก็พ่อน่ะสิบอกว่า ถ้าวิ่งมาถึงทีหลังจะไม่ให้ วาไปด้วย” นาวารีบฟ้อง
          “พี่ภูมิ แกล้งอะไรลูกอีกล่ะ”ผมหันไปถามตัวต้นเรื่องที่นั่งยิ้มอารมณ์ดีอยู่
           “แหย่เล่นหน่อยเดียวเอง”
          “หน่อยเดียวที่ไหนพ่อ กว่า วาจะได้ไปเที่ยวกับพ่อแล้วก็เพื่อนๆพ่อทีนะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พ่องานยุ่งกันจะตาย” คนลูกเถียง
          “พอกันทั้งคู่แหละ ส่วนวาเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วหรือยัง พี่ภูมิด้วย”
          “เสร็จแล้ว”ทีงี้ล่ะตอบพร้อมกันเชียว
          “งั้นก็ช่วยกันขนไปใส่รถ แล้วจะได้เดินทางกันสักที แล้วก็ นาวา เราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะโดนพ่อแหย่แค่นั้นไม่ต้องทำงอนขนาดนี้นะ เดี๋ยวสาวๆก็หนีหมด”น่ะยิ่งพองลมที่แก้มใหญ่เลย
          “พ่อเพลงอ่ะ”เอ่ย งอนๆแล้วก็เดินลงส้นไปขนของ เฮ้อ งอนกว่าเดิมอีก ผมหันไปมองพี่ภูมิ
          “สงสัยจะเจริญรอยตามพ่อในไม่ช้า”ดูไอพี่ภูมิมันครับไม่ได้มีความสำนึกแถมยังยิ้มชอบใจอีกตังหาก
          “พ่อคนไหนล่ะ มีพ่อตั้งสองคน”ผมยิ้มถามไม่ได้คิดจะว่าอะไรเพราะผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

          “ก็พ่อเพลงน่ะสิ น่ารักออกอย่างนั้น”แล้วทำไมมันต้องทำหน้าภูมิใจด้วย
          “นี่ๆยิ้มภูมิใจเลยนะ ลูกเหมือนเพลงน่าดีใจตรงไหน”ผมถาม
          “เหมือนใครก็น่าดีใจทั้งนั้นแหละ น่าตาดีแล้วก็เก่งทั้งคู่”
          “เอาดีๆสิ”
          “ก็เพลงเป็นคนที่ยอมรับหัวใจตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ยอมปล่อยใจรักให้ง่ายๆ พี่ถึงได้พิสูจน์ตัวเองโดยไม่รู้ตัวว่าเพลงเองก็รักพี่ พี่เชื่อ ถ้าลูกจะเป็นแบบเรา เขาจะไม่ทำให้ใครหรือแม้แต่ตัวเองผิดหวัง”
          “หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”เรายิ้มให้กัน
           “พ่อ...ทำอะไรกันอ่ะปล่อยให้วาขนของอยู่คนเดียว”โวยมาแต่ไกลเชียว
          “555 “ผมกับพี่ภูมิขำออกมาพร้อมกัน
          “ขำอะไรกันอะ”เจ้าตัวงอนแก้มป่อง
          “ป่าวครับ ไปกันเถอะอยากรู้จะแย่แล้วว่าพวกนั้นเห็นวาแล้วจะรู้สึกยังไง”ผมบอกแล้วพากันออกจากบ้าน
          “ วาก็อยากรู้ ต้องงงกันแน่ว่าวาเป็นใคร แล้วพอวาบอกว่าเป็นลูกพ่อนะ ต้องตกใจกันแน่”คิดไปไกลแล้วครับลูกผม
          “เดี๋ยวถึงก็รู้เอง แหละครับ”ผมบอก เราออกเดินทางกันอย่างไม่รีบร้อนขับรถเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงที่หมาย ที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศริมทะเลของไอพี่ภูมิมันครับ ที่เลือกมาพักที่นี่เพราะมีคนดูแลตลอดและมีห้องให้เราพักหลายห้องแล้วยังมีพื้นที่หน้าบ้านไว้จัดปาร์ตี้กินบรรยากาศได้ด้วย

         “สวยจังเลยพ่อเพลง พ่อภูมิ วาลงไปเล่นน้ำเลยได้เปล่า”ไอตัวดีพอถึงก็วิ่งเข้าใส่ทะเลแล้วป้องปากตะโกนถามเลยครับ ดีนะที่ให้เจ้าตัวทาครีมกันแดดก่อนจะถึงสักพัก
         “ครับๆ อย่าเล่นนานนะ อย่าไปไกลด้วย พ่อเป็นห่วง”ผมตะโกนบอกเจ้าตัวพยักหน้ารับแล้ววิ่งลงทะเลไปส่วนผมเดินเข้าบ้านเอาของไปเก็บ



          “ ไง ไอภูมิ น้องเพลงสบายดีไหม ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” พี่ตาร์ทักเมื่อผมกับพี่ภูมิเดินไปเปิดบ้านให้ ส่วนคนอื่นก็ทักทายกันนิดหน่อยแล้วเอาของเข้าไปเก็บตามห้องที่จัดไว้ให้แล้ว
          “สบายดีครับ แล้วพี่ตาร์ล่ะวางแผนจะแต่งงานมีลูกรึยัง”
          “โหน้องเพลงครับ พี่ยังเรียนไม่จบนะครับจะให้คิดไปถึงขั้นนั้นก็เร็วไป เอาให้จบก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า”
           “ครับๆ”ผมตอบรับ แต่ไอ้ที่พี่ตาร์พูดมาคงเป็นเรื่องมีลูกที่ยังไม่คิดแต่เรื่องแต่งงานเนี่ยพี่แกคิดนานแล้ว
          “ไงไอภูมิหน้าตาสดใสเชียวนะมึงได้มาเที่ยว”พี่ตาร์หันไปทักพี่ภูมิครับ
          “ช่วงนี้พวกกูยุ่งจนแทบไม่มีเวลาว่าง พอได้มาเที่ยวมาพักผ่อน แถมยังได้เจอเพื่อนอีก จะไม่ให้สดชื่นได้ไงวะ เออแล้วตกลงเย็นนี้จะเอาไงออกไปหาร้านกินข้างนอกหรือจะไปหาซื้อของมาทำ”
         “ วันนี้เพิ่งเดินทางกันมาคงเหนื่อยๆกัน ไปหาร้านนั่งกินกันน่าจะโอเคกว่านะ” ผมออกความเห็น
         “ตกลงตามนี้เลยแล้วกัน งั้นกูขอขึ้นไปเก็บของแล้วนอนเอาแรงก่อน สัก6โมงเย็นเจอกันห้องรับแขกนะเดี๋ยวกูขึ้นไปบอกพวกนั้นเอง”พี่ตาร์พูดแล้วเอาของขึ้นไปเก็บ ผมกับพี่ภูมิเลยได้ออกไปเดินเล่นกันดีที่วันนี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ก็เลยเดินเล่นกันสบายเพราะไม่ร้อนมาก ส่วนเจ้านาวาหลังจากได้เล่นน้ำจนพอในก็หลับสบายไปแล้วไม่รู้ถ้าตื่นมาเจอพวกนั้นก่อนที่ผมจะกลับกัน จะแตกตื่นกันแค่ไหน


          “ไอ้ภูมิ...น้องเพลง”เสียงตะโกนเรียกชื่อผมสองคนลั่นมาจากสมาชิกภายในบ้านแทบจะทุกคนจนผมสองคนสะดุ้งกับเสียงที่ดังมาก หึหึ สภาพนี้คงเจอไอแสบกันแล้วแน่
          “มีอะไรกันหรอครับ เรียกซะตกใจเชียว”ผมถาม ทุกคนมมองหน้ากันก่อนที่ทุกสายตาจะไปกดดันให้พี่ตาร์เป็นคนตอบ
          “คือมีเด็กที่ไหนไม่รู้อยู่ในบ้านแล้วพอถามว่าเข้ามาได้ไง น้องเขาก็บอกว่า เป็นลูกชายน้องเพลงอ่ะครับ คือน้องเขาพูดอย่างนี้จริงๆนะเว้ยภูมิ” พี่ตาร์น่าสงสารนะครับก็พี่ภูมิเล่นแกล้งทำหน้ายักษ์ใส่ตอนจบคำว่า ลูกชายน้องเพลง ผมกลั้นขำเต็มที่เลยล่ะ(เอ๊ะ?ยังไง)
          “ไหนเด็กที่ไหนมาอ้างเป็นลูกชายที่รักกูมึงพากูไปดูสิไอตาร์”พี่ภูมิมันตีเนียนเลยครับ ทุกคนถึงกับแหวกทางออก เผยให้เห็นไอตัวแสบนั่งยิ้มหน้าเป็นอยู่บนโซฟา เราสองคนแอบสบตาขยิบตาให้กันแล้วดูละครของพี่ภูมิต่อ
          “เด็กนี่หรอมึงที่บอกว่าเป็นลูกชายที่รักกู แล้วพวกมึงก็เชื่อเนี่ยนะ ที่รักกูจะมีลูกโตขนาดนี้ได้ไงวะ ดูยังไง เด็กนี่ก็ไม่ตำกว่า10ขวบถ้าเป็นลูกที่รักกูจริง มึงจะบอกว่าที่รักกูใจแตกตั้งแต่10ขวบหรือไง”พี่ภูมิแกล้งใส่อารมณ์ครับ ทุกคนทำหน้าทำตาตกใจทำอะไรไม่ถูก
          “ใจเย็นดิวะไอภูมิ พวกกูไม่แน่ใจเลยรอพวกมึงเนี่ยอีกอย่างน้องเขาอาจจะมาผิดบ้านก็ได้ไง”
          “ผิดบ้านหรอวะ นี่ไอน้องไหนพ่อเอ็งล่ะ โตป่านนี้แล้วไม่น่าเข้าบ้านผิดได้นะ”ก็นะอายุเท่านี้การจะเข้าผิดบ้านคงเป็นเรื่องยากพอควร(คิดว่าคนอ่านคงเริ่มเดาอายุของนาวากันแล้ว แต่ใครจะทายถูกบ้าง?:คนแต่ง)
          “ครับ ไม่ผิดบ้านหรอกพ่อผมก็ยืนอยู่นั่นไง”นาวาตอบแล้วยิ้มจนแก้มจะฉีก ก่อนจะเดินมากอดผมไว้ทั้งตัว
          “เฮ้ยย...”ร้องกันลั่นเลยครับมองมาทางผมทีพี่ภูมิที
          “ไอ้ภูมิใจเย็นอย่าทำอะไรน้องเค้าะมึง น้องเพลงกันน้องเค้าไว้นะ”แหมปากห้ามแต่ไม่มีใครกันเลยสักคนนะครับ พี่ภูมิมันก็แกล้งเดินโกรธๆมาทางผม
          “ไงตัวแสบ เป็นลูกพ่อเพลงคนเดียวหรือไงหึ สงสัยวันนี้จะมีคนอดกินปูเผาตัวโตๆแล้วล่ะ”
          “โหย..พ่อภูมิอ่ะอย่าเล่นแบบนี้สิ วาก็เป็นลูกพ่อภูมิเหมือกันอย่างอนน้า”รีบอ้อนพี่ภูมิทันทีเลยนะไอ้ตัวแสบ ผมขยี้ผมเจ้าตัวแสบอย่างหมั่นเขี้ยว แต่ทุกคนดูจะอึ้งๆและงงๆกันนะ
           “มีใครตอบพวกกูได้ไหมว่านี่มันอะไร”พี่ตาร์ถามแล้วทกสายตาก็มองมาที่ผมสามคนอย่างหาคำตอบครับ
          “ไม่มีอะไร เว้ย นี่นาวา ลูกชายกูกับน้องเพลง นาวาสวัสดีลุงๆป้าๆรึยัง”พี่ภูมิอมยิ้มก่อนจะดันนาวาให้เผชิญหน้ากับทุกคน
          “สวัสดีครับ คุณลุง คุณป้าทุกคน ผมนาวาครับ เป็นลูกชายสุดรักของพ่อเพลงกับพ่อภูมิ ยินดีที่ได้พบกันนะครับ” นาวาเอ่ยเสียงใสแล้วไหว้อย่างงามจนทุกคนรับไว้แทบไม่ทัน
          “เดี๋ยวนะ คุณลุง คุณป้าเลยหรอวะ แล้วที่ว่าลูกชายนี่มันยังไง ดูยังไงๆนาวาก็ไม่หน้าจะเป็นลูกพวกแกสองคนได้ อีกอย่างผู้ชายสองคนมันจะไปมีลูกด้วยกันได้ไงวะ”อันนี้พี่คินเป็นคนถาม ท่าทางจะรับไมได้กับคำว่าคุณลุง คุณป้าสุดๆ
          “ก็วาเป็นลูกพ่อเพลงกับพ่อภูมินี่ครับ แล้วเพื่อกับพี่ของพ่อก็ต้องเป็นลุงๆป้าๆสิ ใช่ไหมครับ อีกอย่างเพราะเป็นพ่อสองคนนี้เลยมีวาเป็นลูกได้”เจ้าตัวแสบตอบพร้อมกับยิ้มตาพราวระยิบเชียวครับ
          “เฮ้ยแล้วมันจะได้รู้เรื่องกันไหมวะเนี่ยวันนี้คำตอบไม่กระจ่างแล้วยังงงหนักกว่าเดิมอีก เอาเป็นว่าน้องเพลงช่วยเล่าหรืออธิบายให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมครับว่าเป็นไงมาไงเรื่องของเด็กคนนี้”พี่ตาเลือกผมเป็นตัวช่วยครับ
          “นาวาครับ ไม่ใช่เด็กคนนี้”นั่นไง ยังไม่วายแถมทำหน้างอนพี่ตาร์อีก
          “ครับๆ คือนาวาเนี่ยพวกผมไปเจอตอนเป็นตัวแทนของคุณพ่อเพลงไปเป็นเจ้าภาพงานศพของยายเจ้านาวาที่เป็นคนที่อยู่ในความดูแลของบริษัทน่ะครับ แล้วญาติเพียงคนเดียวของคุณยายมีมีนาวาแค่คนเดียว แล้วพี่คิดดูนะเด็กอายุเท่านี้ต้องเป็นคนจัดการเรื่องงานเองทุกอย่าง ถึงจะมีคนของบริษัทช่วยแต่ก็ถือว่าเก่งมากเลยล่ะ อีกอย่างตอนทที่นาวามาต้อนรับพวกผมน่ะ เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะไม่ร้องไห้ทั้งที่มันคงเป็นเรื่องที่เสียใจที่สุดในชีวิตและคงเหมือนเสียหลักยึดไปเลยนะครับ เพราะมีกันแค่สองคน แล้วนาวาก็ยังเด็กมาสำหรับอายุแค่นี้ ก็เลยถูกชะตา พอจบงานผมก็คุยกับพี่ภูมิว่าจะให้พ่อกับแม่ผมรับเป็นลูกบุญธรรม พวกท่านตกลงทันทีเลย บอกว่านาวาน่ารัก แต่พี่คิดดูนะ เขาเข้มแข็งขนาดที่บอกผมว่าสามารถอยู่คนเดียวและดูแลตัวเองได้ ซึงก็ทำได้จริงๆนั่นแหละครับเพราะนาวาทำงานพิเศษอยู่แล้วและก็ได้ทุนเรียนฟรีด้วยเก่และแกร่งด้วยใช่ไหมพี่ตาร์ กลายเป็นผมกับพี่ภูมิต้องเข้าไปคุยให้เคลียร์ว่าไม่ได้ทำไปเพราะสงสารแต่ว่าถูกชะตา ไปๆมาๆกลายเป็นว่าเรียกผมสองคนว่าพ่อแถมยังติดแจแล้วนิสัยยังกลายเป็นเด็กอีก แต่ผมก็ชอบนะที่นาวาเป็นแบบนี้ได้ดูสมไวไม่ต้องพยายามเป็นผู้ใหญ่มากไป” ทุกคนทำสีหน้าเข้าใจ
          “แล้วนาวาอายุเท่าไหร่ครับ”
          “13ครับพี่ตาร์”เจ้านาวาตอบแทนพร้อมเปลี่ยนคำเรียกพี่ตาร์จากลุงเป็นพี่แทน คงได้แกล้งจนสมใจแล้วมั้งนั่น
          “ไงเราเปลี่ยนคำเรียกพวกพี่แล้วหรอ””พี่ตาร์ถามพร้อมกับขยี้หัวนาวาด้วยความเอ็นดู
          “โหยพี่ตาร์ ผมวาเสียทรงผม ว่าแค่แกล้งหน่อยเดียวเอง แต่ทำไมใครๆก็ชอบขยี้หัววาจัง”
          “555กันมันน่าขยี้”พี่ตาร์ตอบแล้วทำเอาทุกคนในบ้านหัวเราะกันหมด นาวาพองลมที่แก้มไปแล้ว
          “เอาล่ะครับ ทีนี้ทุกคนก็เข้าใจเรื่องนาวากันแล้วนะครับ ว่าแต่ ไอ้เอกกับนิกอยู่ไหนรับเนี้ยไม่เห็นเลยนี่ขนาดเสียงดังขนาดนี้นะ”
          “แหมน้องเพลงครับได้ห้องส่วนตัวแถมบรรยากาศดีแบบนี้คงไม่ลงมาง่ายหรอก พี่ยังไม่อยากลงเลยถ้าคินไม่งอแง”พี่ยังตอบพร้อมทำหน้าเสียดาย พี่คินทำหน้างอน ส่วนคนอื่นก็โห่แซวไปครับ
          "งั้นพวกเราไปทานข้าวกันเลยนะครับ ส่วนคู่ไหนที่ยังไม่ไปตอนนี้เอาไว้ถ้าจะไปก็ตามไปได้เดี๋ยวเพลงให้พี่ภูมิบอกคนดูแลบ้านไว้ให้ครับ" ทุกคนตกลงกันแล้วก็เตรียมตัวเดินทางกันไปกินข้าวที่ร้านอาหารที่ผมกับพี่ภูมิโทรไปจองไว้ พอดีนึกได้ว่าแถวนี้มีร้านอร่อยบรรยากาศดีอยู่ก็เลยไม่ต้องตะเวนหาร้านกัน

          พอถึงร้านพวกเราก็เป็นจุดสนใจทันทีเพราะกลุ่มใหญ่มากแล้วผู้ที่ได้รับความสนใจสูงสุดก็คงต้องเป็นนาวาเพราะเด็กสุดแล้วดูไม่หน้าจะมากับพวกผมได้ คือนาวาอายุ13ก็จริงนะครับแต่ดูเหมือประมาณ10ขวบ แล้วยิ่งเวลาอยู่กับพวกผมนาวาก็จะทำตัวเป็นเด็กๆเลยครับ เพราะตอนที่อยู่กับยายสองคนนาวาต้องเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่จะสามารถแบ่งเบาภาระของยายได้ พอได้เจอพวกผมนาวาก็เลยสามารถที่จะทำตัวเป็นเด็ก อย่างที่เคยอยากทำเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นโดยไม่มีพวกผมหรือคนในครอบครัวผมกับพี่ภูมิอยู่ด้วยนาวาก็จะเป็นผู้ใหญ่เกินไวเลยล่ะครับ
          พอพูดถึงนาวาพอพนักงานมารับออเดอร์เจ้าตัวรีบพูดเลยครับว่าเอาปูเผาตัวโตที่สุดมาเลย ครับ นาวาชอบกินปูเผามาก พอถามก็ตอบว่าตอนเด็กๆ(เด็กกว่านี้)เคยไปเห็นที่ร้้านอาหารเขาเผาปูตัวใหญ่น่ากินมากเลยขอให้ยายซื้อ แต่ยาก็บอกว่ามันแพงไม่มีเงินซื้อ แต่พออีกวันยายก็มีปูเผามาให้กิน แล้วบอกกับนาวาว่าปูตัวนี้ยาให้กินเพราะนาวาเป็นเด็กดี ถึงมันจะตัวไม่ใหญ่แต่ยายก็หาให้หลานกินได้นะจะได้รู้ว่ามันรสชาติเป็นยังไง ต่อไปจะได้ไม่ต้องไปยืนดูเขาเผาปูแล้วทำท่าอยากรู้รสชาติแบบนั้นอีกยายกลัวเขามองหลานไม่ดี นั่นล่ะนาวาเลยชอบปูเผาเอามากๆเพราะถึงมันจะมีเนื้อน้อยแต่มันก็หิมมากเวลาอยู่ในปากยิ่งคิดถึงที่ยายเคยให้กินปูเผาตอนเด็กยิ่งมีความสุข นาวาเล่าว่าพอโตมาหน่อยก็รู้ว่าความจริงแล้วยายจะซื้อปูให้มากกว่า1ตัวก็ได้แต่ยายแค่อยากให้นาวารู้รสชาติของมันเท่านั้น ยิ่งมาคิดแล้วว่าซื้อปูตัวเดียวแม่ค้าจะมองยายยังไงยิ่งอุ่นในหัวใจทุกครั้งที่ยายทำเพื่อตัวเองขนาดนั้น ผมก็ได้แต่ยิ้มกับความน่ารักของยายหลานคู่นี้แล้วบอกว่ายายสอนมาดี นาวาถึงน่ารักแล้วก็เป็นที่รักของทุกคนแบบนี้
         
          เอาล่ะนี่มันบทส่งท้ายใช่ไหม ผมรู้ ไม่ต้องแอบนินทาผมกันก็ได้ ว่าบทส่งท้ายอะไรยังไม่สรุปเนื้อหาแถมมีตัวละครเพิ่ม แล้วยังบ่นอะไรยืดยาวอีก เอาน่าผมก็แค่อยากให้คุณๆรู้จักแล้วก็รักนาวาเหมือนอย่างที่พวกผมรัก เพราะจากนี้ไปนาวาก็จะเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวผม เพราะพวกผมหลงรักเด็กคนนี้เข้าให้แล้วล่ะ นาวาน่ารักแล้วก็ฉลาด แหมก็สนิทกันไม่เท่าไหลร่เจ้าตัวก็เรียกผมกับพี่ภูมิว่าพ่อแล้ว บอกว่าดูออกว่าผมสองคนรักกันแล้วก็อยากมีผมสองคนเป็นพ่อแบบนี้ ก็เลยกลายเป็นเรียกแบบนี้ไปน่ะครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร อีกอย่างมีลูกอย่างนาวาใครก็อยากมีครับ น่ารักขนาดนี้ แต่เวลาไปออกงานสังคมนาวาเรียกผมสองคนว่าพี่นะครับ เพราะคุณปู่กับคุณตาชอบพาไปออกงาน(เจ้าเด็กนี่เวลาอยู่ในครอบครัวพ่อผมกับพ่อพี่ภูมิเป็นคุณตากับคุณปู่ครับ แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะเรียกคุณลุงกับคุณพ่อ ก็นะนาวาเป็นลูกบุญธรรมของพ่อผมนี่)
คุยเรื่องนาวากันไปแล้วมาพูดถึงคนอื่นกันบ้าง ส่วนผมกับพี่ภูมิคงรู้กันแล้วล่ะว่าเป็นไง งั้นเริ่มที่
         เอกกับนิคก่อนเลยแล้วกัน สองคนนี้หวานกันตลอดจะมีงอนกันบ้างนิดหน่อยแต่ไอเอกมันก็ง้อสำเร็จทุกครั้งแหละครับ อ่อช่วงนี้นิคฮอตมาครับมีทั้งหญิงและชายมาชอบ ทั้งที่ไอเอกมันก็เกาะติดแสดงความเป็นเจ้าของออกอย่างนี้แต่ก็ไม่วายมีพวกอยากลองของ เลยโดนของเข้าให้ เวลาไอเอกฟิวขาดน่ากลัวไม่แพ้ผมหรอกนะครับ ก็เพื่อนกันนี่ เอาเป็นคู่นี้ก็ยังรักกันและยังชอบสร้างโลกส่วนตัวกันสองคนเหมือนเดิม
        พี่กันกับนัทในตอนนี้ยังไม่ได้พูดถึงเลยใช่ไหม สองคนนี้ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับแต่ว่าจะตามาพรุ่งนี้เพราะนัทเพิ่งหายป่วย ไม่ต้องห่วงนะครับ พี่กันดูแลเป็นอย่างดี ก็เป็นคนทำให้นัทป่วยเองนี่ครับ โอย...อย่างเพิ่งคิดลึกกันครับไม่ใช่เพราะเรื่องอย่างว่าหรอกแต่พี่กันพานัทไปหาซื้อของมาแต่งบ้านแล้วทีนี้ฝนดันตกหนักที่ให้หลบก็ไม่มีนัทก็เลยไม่สบาย ส่วนพี่กันถึกครับไม่เป็นไรเลย แล้วที่ว่าซื้อของมาแต่งบ้านก็เป็นบ้านของสองคนนี้แหละครับ พอพ่อแม่สองฝ่ายเข้าใจและตกลงกันเลยกลายเป็นว่าซื้อบ้านให้อยู่ด้วยกันสองคน ก็อยู่ใกล้ๆกันแหละครับ ที่นี้พอพี่กันรู้ก็เลยดีใจจัดหนักเลยครับ อ่า...เอาเป็นว่าที่นัทไม่สบายเรื่องอย่างว่าก็มีส่วนอยู่เหมือนกัน ทีนี้พี่กันเลยดูแลไม่ห่างเลยจริงๆนัทก็หายป่วยแล้วนะครับ แต่พี่กันอยากให้พักอีกวันก่อนเพราะกลัวไข้จะกลับ ทีนี้ก็รู้กันแล้วนะว่าคู่นี้ก็หวานชื่อและมีความสุขดีแถมยังได้อยู่ด้วยกันและมีครอบครัวที่เข้าใจอีก ส่วนใครจะถามว่าผมงานยุ่งขนาดนี้ยังรู้เรื่องชาวบ้านอีกหรอ ขอตอบเลยว่า ครับ ถึงผมจะงานยุ่งแต่ผมอัพเดทข่าวสารนะครับ อีกอย่างผมเป็นตัวเอกและนี่เป็นบทส่งท้าย ผมทำอะไรก็ไม่ผิดหรอกครับ(มั่นมากที่รักฉัน:zatamare')
           มาถึงคู่สุดท้ายที่ผมจะอัพเดทคงไม่พ้น
           พี่คินกับพี่ยังถึงตอนนี้จะออกมานิดหน่อยแต่ก็คงทำให้รู้ว่ายังรักกันดีอยู่ พี่คินก็ยังเป็นพ่อเสือสำหรับสาวๆแ่กลายเป็นแมวสำหรับพี่ยังเสมอไม่ยอมทิ้งลาย แต่เพราะแบบนี้พี่ยังเลยบอกว่ามันเป็นสเน่ห์ของพี่คน อีกอย่างมันทำให้มีข้ออ้างที่จะลงโทษพี่คินด้วยเลยกลายเป็นว่าพี่ยังไม่ห้ามเรื่องนี้แต่พี่คินก็โดนลงโทษทุกครั้ง ไม่รู้ทำไมไม่เข็ดสักทีคู่นีเเขารักกันแปลกๆครับ แต่ก็รักกันจริงๆนะครับเพราะพี่ยังยอมให้พี่คินเจ้าชู้ได้กับผู้หญิงแต่ถ้ามีผู้ชายมาจีบละก็เรื่องใหญ่เลยครับหึงโหดมาก แต่ถ้าจะให้พูดตามจริงแล้วพี่คินแกชอบจีบสาวยั่วพี่ยังมากกว่าไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ คาสโนว่าตัวร้ายกลายเป็นคนชั่งยั่วไปแล้ว


           "พ่อเพลงครับ....พ่อเพลง.."
          "หือ...ว่าไงมีอะไรครับวา"
          "ก็วาเรียกพ่อเพลงตั้งนานแล้วแต่ไม่ยอมตอบสักทีเหม่ออะไรอยู่ครับเนี่ยเนอะพ่อภูมิเนอะ"
          "ครับ พี่ให้นาวาเรียกที่รักตั้งนานแล้วไม่ยอมตอบสักที เอกบอกให้ที่รักออกไปรับหน้าร้านน่ะครับเจ้าตัวดีก็อยากเจอเลยจะไปด้วยกัน"
          "คิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะครับ ว่าแต่ทำไมมันไม่เข้ามาเองล่ะครับ"
          "คือน้องนิคไม่ยอมให้น้องเอกอุ้มเข้ามาอะครับเลยจะให้ที่รักไปช่วยพยุง"
          "ครับๆ ป่ะวาไปกัน"
          "ไงถึงกับเดินไม่ไหวเลยหรอ มึงก็เห็นใจนิคบ้างสิเอกมึงก็รู้ว่าถ้ามากันเป็นกลุ่มแบบนี้นิคไม่ยอมพลาดที่จะได้มาอยู่แล้ว ส่วนนี่นาวาลูกชายกู ที่เล่าให้ฟัง เดี๋ยวกูช่วยพยุงนิคเอง"ผมร่ายยาวแล้วเข้าไปช่วยพยุงนิคครับ นิคก็อายหน้าแดงนิดหน่อยแต่ไม่พูดอะไรยอมให้ผมช่วยโดยดี แต่พอหันไเห็นนาวามองมายิ้มๆก็อายม้วนเลยครับทีนี้ผมเลยมองนาวาดุๆหน่อย เฮ้อเด็กสมัยนี้เรียนรู้ไวจริงๆนะครับดีที่นาวาถูกเลี้ยงและสอนมาดี
          พอเข้าร้านมาทุกคนก็แซวกันครับไอ้เอกยืดอกรับภูมิใจส่วนนิกก็เขินไปตามระเบียบ ทีนี้เลยคุยกันไปกินกันไปสนุกสนาน นาวาก็เข้ากับคนอื่นได้ดีแล้วดูเหมือนทุกคนจะเอ็นดูนาวาไม่น้อยเลยนั่นทำให้ผมมีความสุขมาก ทริปนี้เป็นทริปที่ได้พักผ่อนแล้วก็เป็นทริปที่มีความสุขมากสำหรับทุกคนผมเชื่ออย่างนั้น ไม่รู้ว่าผมจะหาเวลาว่างได้มาเที่ยวแบบนี้อีกไหม แต่ผมก็จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในทุกๆวัน



          “รักนะครับ รักที่สุด”ในทุกคืนก่อนที่จะหลับเราสองคนพูดคำนี้อกจากหัวใจให้กันและกันไม่มีเบื่อและหลับลงอย่างมีความสุขพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกอย่างในวันต่อไปเสมอ
           “วารักพ่อสงคนนะครับ เพราะมีพ่อถึงมีนาวาที่สดใสได้อย่างทุกวันนี้ ขอบคุณที่พ่อทั้งสองคนรักผมนะครับ” ก่อนเข้านอนนาวามักจะพูดคำนี้กับพวกผมเสมอเมื่อมีโอกาส

          ความรักเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีในการใช้ชีวิตครอบครัว เพราะมีความรักให้แก่กันเราจึงมีความสุขและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกอย่าง
          ความเข้าใจและเห็นใจกัน เพราะมีมันครอบครัวของเราจึงอบอุ่นเสมอ
          เพราะความเชื่อใจกันทำให้เรามีวันนี้ ไม่ว่าจะเพราะโชคชะตาหรือพรมลิขิตหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราได้เจอกัน พวกเราขอบคุณที่มีส่วนให้เราได้มีวันนี้จริงๆ
             ขอบคุณ




-------------------------------------------------จบ--------------------------------------------------





ในที่สุดนิยายเรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอนจบแล้วเป็นเวลานานมากเหมือนกันนะกับการแต่งนิยายเรื่องนี้ให้จบ(เพราะคนแต่งอู้ งานยุ่ง และไม่มีฟิล) แต่สุดท้ายมันก็สามารถจบได้

เราอยากกขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ทำให้มีกำลังใจที่จะเขียน ขอบคุณคๆนึงที่ทำเกิดอาการอยากแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาจับใน สุดท้ายขอบคุณรุ่นพี่เตย ที่รับไปแก้คำผิดให้

ต่อไปคงต้องเป็นหารเอาเนื้อหาส่วนที่แก้ไขและปรับปรุงแล้ว มาลงในนี้ละน้า





และตอนพิเศษคงมีให้ได้ติดตามกันบ้าง อาจจะเป็นช่วงวันสำคัญต่างๆหรือเท่าที่คนแต่คึกแหละนะ



สุดท้าย ขอบคุณ ทุกคนจริงๆค่ะที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันมาตลอด

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

fernza2536

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าได้ตอนพิเศษ จะเป็นกรุณามากกกก


นะ ๆๆๆ ขอสักนิด ><

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
อ่านรวดเดียวจบเลย รอตอนพิเศษ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ครอบครัวสุขสันต์กันทีเดียว :L1:
รอตอนพิเศษจ้า
ปูลู.เรื่อง badguys หนุ่มหล่อร้ายฯ
อยู่ในห้องนิยายไม่มาต่อเน้อกลับมาต่อด่วน
ดันดันให้แล้ว

+1และเป็ด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2013 11:22:38 โดย CarToonMiZa »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด