Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2277922 ครั้ง)

maii

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ฮามากกกกกกก

ชอบเนียร์อ่ะ :m1:

ออฟไลน์ slurpee04

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-1
ด่าแบบนี้มันเจ็บกว่าด่าแบบหยาบคายอีกค่ะ อาร์ท !

 :laugh:

ออฟไลน์ Raccoooon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-2
FC ลูกเมียน้อยย *ชูป้ายไฟ*
55555555555555

ชอบๆ สนุกมากเลยเรื่องนี้ อ่านมานานแต่ไม่ยอมเม้นซะที เลวมาก
ชอบคู่หลักด้วยนะ
แต่ก็ชอบคู่รองไม่แพ้กันนนน ฮิ

เอาตอนหน้ามาเร็วๆนะคะ
*จ่อปืนฉีดน้ำ*

ออฟไลน์ full

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกที่สุดเลยยยย ชอบคู่นี้อ่า

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ไอ่อาร์ทแกมันหลอน!!!
แต่ก็โ ค ต ร ฮาอ่ะค่ะ
แต่ก็แอบกลัวเบาๆ อยู่ตลอดเวลา
เข้าใจอยู่นะว่าใครเข้าฉากด้วยต้องมีสะุดุ้งกันบ้าง
เพราะเราอ่านไปก็แอบสะดุ้งไปเช่นกัน

ice_painful

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่าน  :z2: :z2:
เรื่องมันยุ่งเนอะ
สสว สงกรานต์ (ย่อไปไหน) ถถถถถถถ

ออฟไลน์ OitJi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1012
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
อืมคิดถึงเหมือนกัน
ไม่เข็ญตอนพิเศษวันสงกรานต์ฮาเฮมาให้อ่านกันหรือจ๊ะปีนี้

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
อาร์ทใจนายหล่อมาก :L1:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ comics_boy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
น้องเนียร์น่ารักกกกกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
 :m20: โอ้ยขำมาก ฮากระจายอีกแหละ พอถึงคิวไปป์คินเป็นอย่างนี้ทุกที
ว่าแต่คินนี่ไม่คิดจะให้ไปป์แต่งเสริมเลยน่ะ มาทั้งๆใส่ชุดอยู่บ้านมันเลย
อย่างว่าแค่นี้ก็รู้จักกันทั้งคณะแหละ ดังมากกกกก  :laugh:
ไปป์นี่หลอนทั้งอาร์ทและพี่รหัสคินเนอะ  o22

แฮปปี้สงกรานต์ สุขสันต์ปีใหม่นะคะ
มีความสุข สุขภาพแข็งแรง  :mc4:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
อาร์ทเนี่ยไม่น่าเป็นศรัตรูด้วยอย่างที่ภคินเคยบอกจริง
รับมือยากมาก คาดว่าใครที่อยากเป็นศรัตรูด้วยคงได้ปวดประสาทตาย :m31:

ice_painful

  • บุคคลทั่วไป

ตอนนี้ฮาอ่ะ  :m20:

เมื่อไหร่ เพ่คิณ จะอยากเตะบอล

ใสใส ไปไหนเนี้ยะ  :z2:

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
จะเป็นอย่างไรต่อไปอยากรู้อ่ะ  (รอนะครับ)

วันนั้น (จำไม่ได้ว่าวันใหน) เข้าเล้าไม่ได้เซ็งสุดๆเลย  แต่แอบไปอ่านอีกที่นึงมาแล้ว

สวัสดีปีใหม่ไทยคนแต่งและทุกคนเช่นกันนะครับ

ออฟไลน์ BiGgYDrIb

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ชอบคู่นี้จัง พระรองแบบนี้ หาไม่ได้อีกแล้วจริงๆ

ออฟไลน์ lazat.mchub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ชอบอาร์ทอะ ดูเย็นๆหลอนๆดิ 55555555

ice_painful

  • บุคคลทั่วไป
มุขพี่แบคกรานด์แมนกะน้องหนูดี ลึกล้ำมากกกกกกกกกกกกกก  :z3:

ฟาร์ จะทันเขาไหมเนี้ยะ

เหมือนจะโดดตัวหายนะของมวลมนุษยชาติ !! ตาม  :impress2:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
อาร์ทบ้าดี

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ไม่มีตอนพิเศษวันสงกรานต์บ้างเหรอคะ คิดว่าสงกรานต์ของพวกนี้ต้องฮามากแน่ๆ 555

tw.smile

  • บุคคลทั่วไป
รวดเดียวจบห้าสิบกว่าตอน ,,, หึหึ

สามวันค่ะ ๕๕๕


อ่านแบบจิ้มมามั่วๆแล้วมาพบปะเรื่องนี้พอดี
โอ่วววววว ติดค่ะ

รออ่านตอนต่อไป ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ferika

  • บุคคลทั่วไป
เออะ ช็อกกับคนเมา ฟาร์เมานี่โคตรต่างจากตอนปกติจริงๆ
แต่คนที่เวลาปกติก็เหมือนเมาๆ มึนๆ แบบอาร์ทนี่ ขอบอกตรงๆ ว่าไม่กล้าคุยด้วยเลย
พี่แกเชือดนิ่มๆ แบบปากแผลเล็กๆ แต่แทงโคตรลึก =_____=
หลายๆ คำพูดของพี่แกเล่นเอาสะอึกกันเป็นแถบ แล้วไอบรรยากาศเย็นยะเยือกรอบๆ ตัวแกอีก
แล้วก็นะ คนอะไรกวนประสาทโคตรๆ กวนหน้าตาย กวนบริสุทธิ์ กวนๆๆๆ!!!
ถึงมันจะไม่คิดว่านี่เป็นการกวนประสาทก็เหอะ ทางบ้านสอนมาดี ไม่ให้โกหก ไม่ให้พูดคำหยาบ ไม่รู้รึไงว่าคนจะปสด.ไปตามๆ กันอยู่แล้ว >[]<!!!!!!!!
ขอสาบานว่าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ เราก็ไม่ขอเป็นศัตรูกับอาร์ท << อาการหนัก 5555+
ตกลงนี่เราเข้ามาด่าอาร์ท? 55555+ อาร์ททำหลอน ปสด.เลย =_=
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่คิดเหมือนกันว่าอาร์ทจะร้องเพลง แผนเรียกความสนใจได้ผลดีเยี่ยม!
ปล.ชอบน้องเนียร์จัง ตอนหวงพี่ชายนี่น่ารักมากๆ ><~~~~~

อากาศใต้ผ้าห่ม

  • บุคคลทั่วไป
อาร์ท ยิ่งอ่านฉันยิ่งหลอนนายยยย
ตูจะเป็นบ้า เพราะพยายามเข้าใจอาร์ทนี่แหละ

ออฟไลน์ littlepink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ๊ยยยยย ตอนนี้. .. หัวเราะจนท้องแข็งเลย
ฮ่า ๆ ฮาไม่ไหวแล้วจ้า. ..
รอตอนต่อไปน๊าาาาา

ice_painful

  • บุคคลทั่วไป
เป็ด สามสิบแปดตัวนะ ตอนนี้
อีกตัวเดียวจะครบ สามสิบเก้า

ที่ทำให้ช็อคโลกก็คือ  .......อิไปป์มันรอด........ อิไปป์มันร้ายกาจมาก    :monkeysad:

 :m16: :m16: :m16: รู้สึกโดนคนเขียนปั่นหัวได้ตลอด ทำไมมมมมมมมมม  :z3:

แต่ก็น่ารักดีอ่ะ

ice_painful

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุด......ลุ้นสุดติ่งนะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
อาร์ทมั่นมาก o13

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Special Room  08 [Far’s chapter]

   หลอดตะเกียบที่คุ้นตาเป็นสิ่งแรกที่ผมรับรู้  หลังจากค่อย ๆ พยายามเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน  ภาพเดิมที่ผมเห็นทุกครั้งที่ลืมตาตื่น...  ห้องนอนผมเอง

   พอได้รู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องที่คุ้นเคยก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเยอะ  เมื่อรู้สึกปลอดภัยผมก็หลับตาลงอีกครั้ง  หายใจเข้าออกช้า ๆ  รู้สึกได้เลยว่าลมหายใจตัวเองร้อนผ่าวแถมยังเจือกลิ่นแอลกอฮอล์อีกต่างหาก  แหวะ...  เหม็นชะมัดเลย  จะลุกไปบ้วนปากก็ขี้เกียจ  หลับต่อมันทั้งแบบนี้เลยละกัน...  มีเรียนคาบบ่ายนู่น  เหลือเวลาให้ฟื้นตัวอีกสักพัก

   จะว่าไปแล้ว...  เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นนะ?  ผมกลับมาอยู่ที่บ้านตอนไหนเนี่ย?  แล้วลูกรักของผมอยู่ที่ไหน  ถ้าผมไม่ได้เป็นคนขับมันกลับมาเอง  ตายห่า!  รถกูหายรึเปล่าเนี่ย!?  พอนึกเรื่องนี้ผมก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งทันที  ขยับตัวเร็วเกินไปเล่นเอามึนหัวแทบน็อกเลยครับ  ต้องมาหลับตานิ่ง ๆ สักพักเพื่อตั้งสติ

   “อืออออ  เฮีย...  จะลุกไปไหน?” ไอ้น้องชายตัวแสบที่ไม่รู้มันโผล่มานอนเตียงเดียวกับผมได้ยังไง  งัวเงียตื่นขึ้นมาสะกิดเบา ๆ
   “เนียร์...” ผมเรียก “รถเฮียอยู่ไหน?”
   “รถเฮียก็อยู่หน้าบ้านดิ  จะให้ไปอยู่ไหน” คำตอบมันกวนประสาทก็จริงนะ...  แต่ก็ชวนให้ถอนหายใจอย่างโล่งอก  เฮ้อออออออ  ถ้าลูกผมหายขึ้นมานี่  ผมต้องอกแตกตายแน่ ๆ
   “เนียร์...” เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องลุกออกไปดูรถแล้ว  ผมจึงเปลี่ยนมาสอบถามจากคนใกล้ตัวแทน “แล้วรถเฮียเป็นรอยรึเปล่า?”
   “อื้อออ  ไม่เป็น  กลับมาเหมือนเพิ่งออกจากศูนย์” มันดูจะหงุดหงิดที่ผมมาขัดจังหวะเวลานอนพอตัวนะ...
   “กุญแจล่ะ  เห็นกุญแจเฮียรึเปล่า?”
   “วางอยู่บนโต๊ะนู่นแล้ว  อื้อออออออ  ผมจะนอนแล้วเฮีย”
   “แล้วเฮียมาอยู่นี่ได้ไงวะ?”

   เท่านั้นแหละ  ไอ้ที่บ่นจะนอนอยู่เมื่อกี้มันรีบเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง  เนียร์โผเข้ามาเขย่าไหล่ผม “เฮียมีแฟนแล้วไม่บอกผม  อ๊ากกกกกกกกกกกกก”
   “เฮ้ย...  พอก่อน  หยุดเขย่า!  อะไรของมึงเนี่ย?”
   “ไม่ต้องมาตีเบลอเลย  เมื่อคืนไอ้หน้าจืดนั่นขับรถเอาเฮียมาส่ง!  หมายความว่าไง...  เฮียถึงขนาดให้มันขับรถเลยเหรอ  ทีผมขอยืมบ้างทำไมไม่ได้”
   “เนียร์...  เฮียว่ามึงผิดประเด็นนะ”
   “เออว่ะ” มันเขย่าผม “ไหนเฮียบอกว่าไม่มีอะไรไง  แต่เมื่อวานมันมีอะไรชัด ๆ เลย!”
   “เฮียจำอะไรไม่ได้เลยว่ะ  แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะวะ  ตกลงใครมาส่งเฮีย”
   “ไอ้หน้าจืดที่มันปากหมา ๆ แผ่รังสีศพออกมาจากร่าง”
   “อ๊อ...  ไอ้อาร์ท” ชัดเจนครับ  ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม “แล้วเฮียหลับไปเหรอ  ทำไมมันต้องมาส่งเฮียวะ?”
   “เฮียเมา!  ไม่เมาธรรมดานะ  เมาเหมือนหมา!  เดี๋ยวหัวเราะ  เดี๋ยวร้องไห้...  แม่งงงงงงงง  ผมจะประสาทแดก  กว่าจะได้นอน!”
   “ตลก!  เฮียเนี่ยนะเมา  อย่ามาอำนะเว่ย”
   “อำอะไรเล่า  เฮียไปคุ้ยตะกร้าแล้วเอาเสื้อที่มีคราบอ้วกกับคราบน้ำตาเฮียมานั่งดมเล่นละกัน”
   “ชิบหาย  กูก็ว่าทำไมตื่นมาแล้วมันเจ็บกระบังลมจังวะ” ความรู้สึกแรกที่ได้รู้ความจริงคือ ‘ขายขี้หน้า’ ครับ  บอกตรง ๆ  ปกติผมไม่ใช่คนทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนั้นเลยนะ  จะทำอะไรก็เก็บอาการมาตลอด...  มาเจอแบบนี้คนอื่นที่ได้เห็นคง...  นี่ผมคงไม่ได้ไปเต้นรูดเสาเหมือนป๊าใช่มั้ยเนี่ย  แย่แล้ว! “เฮียเครียดว่ะเนียร์” ผมว่าแล้วล้มตัวลงนอน...  หมดแรงจะลุกไปไหนแล้ว
   “ผมเครียดกว่าเฮียอีกว่ะ  นั่งเล่นอยู่ดี ๆ  แม่งโดนไอ้หน้าจืดนั่นด่าเฉย” มันโวยเสียงดัง “ถ้าเฮียไม่มีปัญญาหาแฟนดี ๆ  เฮียก็ไม่ต้องมีนะ  ไอ้เหี้ยนี่แม่งไม่ใช่คนอะ  นี่ด่ามันไปผมยังขนลุกไปเลยเนี่ย”
   “เอ่อ...  เฮียว่า  เฮียเข้าใจมึงอยู่นะ” ผมเองอยู่กับมันบางทียังขนลุกเลยครับ  แต่พอนาน ๆ ไปก็เริ่มมีภูมิคุ้นกันขึ้นมาบ้าง  แต่กับคนอื่นนี่คงยากเสียหน่อย  ขนาดไปป์มันยังหลอนอยู่เลย
   “เลิกกับมันเหอะเฮีย  ผมไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรดีเลย”

   คำพูดนั้นของเนียร์ทำเอาผมชะงักไป...  จริงด้วยสินะ  ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย  ว่าตัวเองยอมเปิดใจเพื่ออะไร?  ทำไมถึงยอมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง  ว่าจะไม่เปิดใจรับใครเข้ามาให้มันเจ็บหัวใจอีกแล้ว...

   อาร์ทมันมีอะไรดี?

   นั่นสิ  น่าแปลกที่พอถามตัวเองแบบนี้กลับตอบไม่ได้  ทั้ง ๆ ที่มันก็เหมือนกับคำถามประเภทว่า  ทำไมชอบใส่เสื้อตัวนี้  แต่ดันตอบคำถามนี้ไม่ได้...  ทำไมนะ  จะว่ามันทำดีกับผมนักหนาก็คงไม่ใช่  บางทียังชอบมากวนประสาทให้อารมณ์เสียด้วยซ้ำไป  แล้วทำไมผมถึงยอมเปิดใจรับมันเข้ามาในชีวิตอีกนะ...  ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ

   “เอ้า!  คิ้วจะผูกกันแล้ว” เนียร์ว่าพลางเอานิ้วมาแยกคิ้วผมออกจากกัน “เอางี้...  ถ้าเฮียชอบผู้ชาย  เดี๋ยวผมแนะนำเพื่อนที่โรงเรียนให้เลย  รับรองว่ารวย  มีมันไว้ไม่จน  บ้านเราจะได้สุขสบาย  นอนผลาญสมบัติมัน”
   “ไอ้เนียร์!  กูถีบกระเด็นซะดีมั้ย”
   “โธ่...  ล้อเล่นน่า  เฮีย  แค่นี้ทำอารมณ์เสียไปได้”
   “ไม่ตลกนะเว่ย  มึงอย่าพูดเหมือนล้อเฮีย...  เฮียไม่ชอบ”
   “ครับ ๆ  ขอโทษครับเฮีย” ว่าแล้วไอ้เด็กตัวสูงมันก็ทำท่าหงอลง “ที่พูดเพราะผมเป็นห่วงเฮียหรอก  คราวก่อนเฮียก็เป็นบ้า  กลับบ้านมานั่งซึมทั้งวัน  ผมไม่อยากเห็นเฮียเป็นแบบนั้นอีก  แล้วจากที่ผมดู  ไอ้หน้าจืดนั่นก็ดูไม่มีอะไรดีพอเลย”
   “เอาจริง ๆ นะ...  เฮียไม่รู้ว่ามันมีข้อดีตรงไหน  เฮียรู้แต่ว่า...”
 “........”
   “อยู่ใกล้มันแล้วเฮียมีความสุข  แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง”

   เนียร์ล้มตัวนอนลงข้าง ๆ ผมเหมือนเดิมโดยไม่ตอบอะไร  ผมรู้ว่าน้องชายเป็นห่วงผมขนาดไหน  ผมมันพี่ชายที่ไม่ได้ความ...  นอกจากเรื่องเรียนแล้ว  เรื่องอื่นผมไม่มีอะไรดีไปกว่าเนียร์เลย  บางครั้งก็ยังนึกอยากจะทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง  จำพวกปีนรั้วหนีโรงเรียน  หรือแกล้งอาจารย์แบบมันดูบ้าง...  แต่ก็กลัวป๊าจะโกรธ  เนียร์น่ะมันกลัวป๊าก็จริง  แต่มันก็กล้าทำอะไรตามใจตัวเอง  ตรงข้ามกับผมที่เกรงใจป๊าตลอดเวลา  ผมมันผู้ชายขี้ขลาด...  ดังนั้นผมเลยเข้าใจดีว่า  ทำไมมันถึงได้คอยมาวุ่นวายเรื่องผมจะไปคบกับใครตลอด  ก็พี่ชายมันไม่เอาไหนขนาดนี้น่ะสิ

   ผมหลับตาลงอีกครั้ง...  คิดว่าเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงก็ขอนอนให้หายปวดหัวเสียหน่อย

   “เฮีย...” มันเรียกผมเสียงอ่อย
   “อะไร?”
   “เย็นนี้ผมจะ...”
   “เนียร์!  จะเจ็ดโมงครึ่งแล้วทำไมยังไม่อาบน้ำอีก!  หา!  เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดี!”

   ไม่ต้องรอให้ป๊าออกโรงครับ...  แค่เสียงม้าก็เล่นเอาไอ้คนที่นอนอยู่เด้งตัวขึ้นมาสุดแรงเกิด  เนียร์คว้าผ้าเช็ดตัวผมแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที “แป๊บเดียวม้า!  เนียร์อาบน้ำแปรงฟันเสร็จภายในสองนาที”

   มึงอย่าหลอกเลย...  กูรู้ว่ามึงไม่อาบน้ำหรอก

.............................................................
.........................................
........................
............

   หลังจากม้าต้อนไอ้เนียร์ไปโรงเรียนได้สำเร็จ  แม้ว่ากว่ามันจะออกบ้านไปได้ก็ล่อไปเจ็ดโมงห้าสิบก็เถอะ  พอมันออกไปปุ๊บ  บ้านก็ตกอยู่ในความสงบอีกครั้ง  ผมเลยหลับยาวไปเลยถึงบ่ายโมง  ตื่นมารอบนี้ค่อยปวดหัวน้อยลงหน่อย...  ไม่รู้ว่าอาการพวกนี้เค้าเรียกว่าแฮงค์เหล้าหรือเปล่า  เพราะไม่เคยเป็นซะด้วยสิ  แต่แฮงค์เหล้ามันน่าจะอาการหนักกว่านี้นะ

   จะเป็นอะไรก็ช่าง  อย่างน้อยก็ยังมีแรงลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว  และลงไปนั่งกินข้าวเช้าควบกลางวันคนเดียวได้  ป๊ากับม้าออกไปทำงานแล้ว  เหลือผมคนเดียวโดดเดี่ยวในบ้าน  กิน ๆ อยู่ไปป์ก็โทรมาถามว่าไปเรียนไหวมั้ย  ผมก็หลงดีใจว่ามันเป็นห่วง  ที่ไหนได้เสือกบอกว่า  ถ้าผมโดดมันจะโดดตามด้วย  เออ...  ดีจริง ๆ เพื่อนกู

   สุดท้ายก็ต้องฝืนสังขารขับรถไปเรียนจนได้  ก่อนจะขึ้นรถผมเดินวนสำรวจอยู่นาน  เพื่อตรวจสอบว่าลูกรักของผมไม่มีรอยขีดข่วนใด ๆ จริง ๆ  ซึ่งผลก็เป็นที่น่าพอใจครับ  ยังเช้งเหมือนเดิม  ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีก็เดินทางมาถึงมอแล้ว  ผมวนหาที่จอดรถ  ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าเพราะคณะผมรถเยอะ  ใครได้ที่จอดเป็นยอดดี  บางทีไม่มีก็ต้องไปจอดไกล ๆ แล้วเดินมาเลยครับ  วันนี้โชคดีหน่อยเจอรถถอยออกพอดี  ผมเลยเสียบต่อเลย  โอ๊ย...  การได้ที่จอดรถนี่มันคือชัยชนะจริง ๆ  เล่นเอาผมแอบยิ้มภูมิใจอยู่คนเดียว  จากนั้นก็เดินไปลานม้าหินอ่อนใต้คณะ  ซึ่งแน่นอนว่าผมเห็นไอ้ไปป์หัวยุ่งมาแต่ไกล  คาดว่าพอบิดไอ้เน่ามาเองเลยทำให้ผมมันเสียทรงหนักว่าเดิมจากที่ไม่เป็นทรงอยู่แล้ว

   “มาเร็วว่ะ” ผมเอ่ยทักพลางนั่งลงฝั่งตรงข้าม
   “ภคินแม่งเรียนบ่าย  กูเลยถ่อไปส่งมันแล้วรวดมานั่งเล่นเลย”
   “ภรรยาที่ดีสินะ” นั่น...  หน้าแดงอีกแล้วเพื่อนผม  มันก็ดูอาการง่ายซะขนาดนี้  แล้วใครจะไม่อยากแกล้งมันล่ะครับ  ผมไม่แปลกใจเลยที่คู่หูโจ้กันชอบรุมทึ้งมันอยู่เรื่อย  เวลามันโวยวายนี่ตลกดีชะมัด  ต่างกับผมที่เวลาโดนแซวแล้วจะเงียบตอบ
   “สู้มึงได้ป่ะล่ะ  ไอ้ฟาร์เป๊กเดียว  กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
   “หัวเราะเบา ๆ หน่อย  กูเหม็นเหล้าตกค้าง”
   “หูยยยยยยยยยยยยยยยยยย  ไอ้ลูกคุณหนู!” มันผลักหัวผม “เมื่อวานแม่งเมาโคตรตลกอะ  คิดแล้วกูยังขำไม่หายเลยเนี่ย  ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ว่าแล้วมันก็ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างน่าเกลียด
   “พอเลยมึง  อย่าได้รื้อฟื้น  กูจะถือว่ามันตายไปกับอ้วกที่กูพ่นออกมา”
   “ไม่พอนะมึง  ยังมีคนเสพกัญชาขึ้นมาร้องเพลงให้  ขอเป็นพระเอกในหัวใจเธอ  ได้ไหมเล่าเออ  หากเธอหัวใจยังว่าง...  เค้าพัฒนานะเพื่อนกู  กิ๊ว ๆ ๆ ๆ”
   “ดีกว่าเพลงรักเหมือนสาปกลิ่นโคลนของมึงกับไอ้คินละกันวะ”
   “เดี๋ยวนี้มึงหัดด่ากูเหรอ  ไอ้เห็ด  ตั้งแต่มีแบ็คอัพนี่ปีกกล้าขาแข็งขึ้นเรอะ  ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก” มันขยี้จนหัวเห็ดเรียบแปล้ของผมฟุ้งกระจาย  เท่านั้นแหละครับ  ไล่เตะกันทันที  น้อง ๆ มันอาจจะงงในช่วงแรก ๆ  ว่าทำไมไอ้พี่สองคนนี้มันเตะกันบ่อยจังวะ  หลัง ๆ มันคงชินกันแล้วครับ  ไม่มีใครสนใจพวกผมแล้วล่ะ

   “มึงสองคนนี่อยู่กันแบบปกติไม่ได้รึไงวะ” ไอ้กล้วยที่กำลังจะเดินขึ้นตึกหันมาด่าแล้วเดินขึ้นไปเลยครับ  ไม่รอให้ปากกรรไกรของไอ้ไปป์ได้ง้างเลยทีเดียว  พอเจอมันด่า  ไอ้ไปป์เลยต้องวิ่งตามไปเอาคืน  สุดท้ายเลยได้เข้าไปนั่งรอเรียนในห้องนั่นแหละครับ

   บรรยากาศการเรียนเต็มไปด้วยความมึนงงท่ามกลางเวลาบ่ายที่ชวนง่วง  ขนาดเพิ่งตื่นได้แป๊บเดียว  ผมยังพลอยง่วงไปด้วยเลยครับ  แต่ก็ต้องถ่างตาเรียนจนจบชั่วโมง  ที่แย่กว่าคือ  พอหมดคาบแล้วต้องเดินไปเรียนวิชาต่อไปทันทีนี่สิ  เล่นเอาพวกผมต้องแวะไปล้างหน้าในห้องน้ำเลยครับ...  สภาพใกล้ตายเต็มทน

   ระหว่างเรียนวิชาต่อมา  หนังตาข้างขวาผมกระตุกไม่หยุดเลย  ไม่รู้ทำไม  ไม่ได้จะเชื่อคำโบราณอะไรหรอก  เพราะผมไม่คิดว่าชีวิตตัวเองจะเจออะไรเลวร้ายไปกว่านี้ได้อีกแล้ว  แต่เวลาตากระตุกแล้วมันน่ารำคาญจนต้องเอามือจับไว้  ดูผมโง่ ๆ ที่มานั่งจับเปลือกตาตัวเองเวลานั่งเรียนเนี่ย  เฮ้ออออออออออออออออ

   ระหว่างที่กำลังเปลี่ยนสไลด์นั้น  เสียงโทรศัพท์ไอ้ไปป์ก็ดังขึ้น  เล่นเอาประชากรทั้งห้องหันควับมามองมันเลยครับ...  ไปป์เอ๊ย  ทำไมไม่รู้จักตั้งระบบสั่นตอนเรียนวะ

   “นายวิรัล  ถ้าจะคุยโทรศัพท์ก็เชิญข้างนอกค่ะ”
   “ไม่คุยคร้าบบบบบบบ  ผมไม่คุยยยยย” มันตอบซะแอ๊บแบ๊ว  จนอาจารย์หลุดยิ้มออกมา  อย่างที่ผมบอกแหละ...  ไปป์มันพวกพูดเก่ง  เวลาพรีเซนท์งานยังผ่านได้ไม่ยากเลย  แล้วนับภาษาอะไรกับเรื่องประจบอาจารย์ในชั้นเรียนเล่า
   “ไอ้ภคินมันจะโทรมาทำเชี่ยไรวะ” มันบ่นพึมพำพลางคว้ามือถือมาตัดสายแถมด้วยการตั้งระบบสั่น
   “คิดถึงยาหยีมั้ง”
   “เรียกกูไปรับล่ะสิไม่ว่า  ตั้งแต่เดี้ยงนี่เป็นคุณชายไปเลยนะมึง  จะนั่งจะนอนพี่ท่านเรียกกูหมด  เหมือนจ้างพยาบาลมาแล้วต้องจิกหนังหัวใช้ให้คุ้มอะ”
   “เอ้า...  โทรมาอีกแล้วนั่น” โชคดีที่มันตั้งระบบสั่นเอาไว้แล้วครับ  งานนี้ไปป์เลยไม่ต้องขายหน้า  และมันยังไม่จบแค่นั้น!  เพราะมันโทรมาต่อเนื่องเป็นคอมโบเซ็ทเลยครับ  แถมยังสลับกันมาทั้งไอ้คิน  ไอ้โจ้  และไอ้กัน
   “ว้อยยยยยยยยยยยย!” ไอ้ไปป์คว้ามือถือโนเกียของมันขึ้นมาแนบบนบ่า “โทรได้โทรไปนะพวกมึง  กูจะเอามือถือนวดไหล่เนี่ยแหละโว้ย”

   เกรียนสัตว์...  กูรับไม่ได้

   ผมอยากจะเขยิบตูดถอยห่างแกล้งไม่รู้จักมันซะเลย  มันทำจริงไม่มีพูดเล่นนะครับ  เอามือถือสั่น ๆ มานวดไหล่เฉย  ทุเรศอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ  ไอ้กล้วยที่นั่งอีกข้างถึงกับเบือนหน้าหนีแกล้งไม่รู้จัก

   โทรศัพท์ไปป์ยังคงสั่นไม่หยุด  จนผมเริ่มรู้สึกนับถือไอ้คนที่โทรมาซะแล้ว  รอจนหมดคาบมันถึงได้กดรับ  แล้วนั่นก็ทำให้ผมค้นพบว่า  มันน่าจะกดรับตั้งนานแล้ว  เสียงโหวกเหวกของปลายสายดังออกมาจนผมได้ยิน

   “โทรมาทำเหี้ยไรนักหนาวะ”
   “รับแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยย  ฮิ้วววววววววววววววววววววววววว”
   “ฮิ้วหาพ่อมึงเหรอ  ไอ้กัน”
   “คิน  เมียมึงดุกูอะ”
   “น้องไปป์ใจร้ายว่ะ  พี่โจ้เสียใจ  กระซิก ๆ”
   “พ่อมึงเหอะ  ไม่มีอะไรใช่มั้ย  กูจะวางแล้ว”
   “เดี๋ยว!” คราวนี้เป็นเสียงไอ้คิน  ผัวผู้มีอิทธิพลของไอ้ไปป์มัน “มึงมาที่คณะกูตอนนี้เลย”
   “สรุปมึงโทรหากูด้วยเรื่องกะโหลกกะลาแค่นี้เองเหรอ?” เพื่อนผม...  อินไปครับ  อินไป
   “เออ!  เอาไอ้ฟาร์มาด้วย  แล้วก็บอกมันนะว่า  มือถือมึงมีไว้นวดไหล่หรือไงวะ?” เฮ้ย!  แม่นอย่างกับตาเห็น  สมแล้วที่มันเป็นคู่รักประหลาด  พอได้ยินแบบนั้นผมเลยรีบล้วงมือถือในกระเป๋าเป้ออกมาดู  ชิบหาย...  23 สายที่ไม่ได้รับ “อ๊อ  แล้วก็บอกมันด้วย...”
 “.........”
   “น้องมันอยู่ที่คณะกู”

   หัวสมองผมตื้อไปหมด  เนียร์เนี่ยนะ?  ไปทำอะไรที่คณะสถาปัตย์...  หรือว่ามันจะไปท้าตีไอ้อาร์ทจริง ๆ  ขณะที่ผมกำลังยืนอึ้งอยู่  ไอ้ไปป์ก็เข็นไอ้เน่าออกมาจากซองแล้วตะโกนเรียกผม “ขึ้นมาเลย  เดี๋ยวกูไปส่ง”

   งานนี้ไม่รู้ผมกับไอ้เนียร์... ใครจะตายก่อนกัน

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7

   ไปป์มันบิดมอเตอร์ไซด์ในตำนานจนข้อมือขึ้นเอ็น  ผมเข้าใจนะ  ว่ามันอยากช่วยผม  แต่ไอ้ความเร็วระดับจักรยานนี่  มันโหดร้ายเกินไปสำหรับจิตใจที่ว้าวุ่นของผม  เราใช้เวลานานพอควรกว่าจะประคับประคองกันมาถึงคณะนี้ได้  บอกตรง ๆ นะ  ผมไม่อยากมาเหยียบที่นี่อีกเลย  ตั้งแต่อ้วกกระจายเมื่อวาน  ช่างเป็นวีรกรรมที่ทุเรศสิ้นดี

   ผมกับมันรีบวิ่งเข้าไปใต้ตึกทันทีที่จอดรถเสร็จ  ผมล้วงมือถือเพื่อจะโทรหาเนียร์  แต่ไม่ทันได้กดปุ่มอะไร  เพราะตอนนี้มันมีจุดสนใจอยู่ที่เดียวซะแล้วสิ  แล้วน้องชายผมก็อยู่ตรงกลางวงเสียด้วย

   “เนียร์!” ผมตะโกนเรียก  ไอ้เด็กหัวเกรียนในชุดนักเรียนหันมาฉีกยิ้มให้หน้าตาเฉย  เฮียรู้ว่ามึงชอบมีเรื่องต่อยตี   แต่นี่มันน่ากลัวเกินไปนะโว้ย!  ทุกสายตาเลยเปลี่ยนจุดโฟกัสมาที่ผมแทน  แต่เวลาแบบนี้ผมต้องปกป้องน้องชายก่อน “อย่ามายุ่งกับน้องกูนะเว่ย!”
   “เฮียมึงนี่เท่ดีนะ” หนึ่งในไอ้พวกนั้นเอ่ยแซว
   “กูอยากได้พี่ชายแบบนี้มั่งว่ะ  ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
   ผมเกลียดไอ้พวกพูดล้อเลียนแบบนี่ที่สุด!  คิดว่าถ่อยมาแกล้งเด็กแล้วเท่ใช่มั้ย  คิดแล้วก็เลือดขึ้นหน้า  ผมเดินเอาไหล่เตี้ย ๆ ชนพวกมันที่ตีวงล้อมจนเข้าไปอยู่ด้านในกับเนียร์  ส่วนไปป์ที่วิ่งตามมายังทำหน้ามึนงงเหมือนทำอะไรไม่ถูก  ส่วนผมน่ะฟิวส์ขาดไปแล้ว  เลือดในกายเดือดพล่านเสียจนร้อนไปทั้งตัว

   “มึงมาทำอะไรที่คณะคนอื่นเขาวะเนี่ย!?” ผมหมดความอดทนจนเผลอตะคอกใส่มัน
   “ผมมาเคลียร์เรื่องเฮียนั่นแหละ”
   “เคลียร์เหี้ยอะไรจะโดนยำตีนอยู่รอมร่อแล้ว” ผมตะโกน “แล้วพวกมึงจะมุงกันหาพ่อมึงเหรอ!?  งานการไม่มีทำรึไง  มารุมแกล้งเด็กเนี่ย”

ไม่ไหวแล้วนะ...

   “เฮีย...”
   “ไปสิวะ  ไอ้สัตว์  มองหน้าหาพ่อมึงเหรอ!?”

   เมื่อสิ้นประโยคฝูงชนที่รายล้อมอยู่ก็แตกฮือกระจายกันไปคนละทิศละทาง  และนั่นทำให้ผมได้เห็นบางอย่างที่มองข้ามไป...  ไอ้คิน  ไอ้กัน  ไอ้โจ้  ที่กำลังอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง  และถัดมาก็คือ  ไอ้อาร์ท  ที่กำลังนั่งลูบรอยช้ำตรงมุมปาก  หรือว่า...

   “แฮะ ๆ  ผมเลือดร้อนไปหน่อยน่ะเฮีย  โอ๊ย!” มันร้องเพราะถูกผมตบหัวเข้าไปเต็มแรง
   “ทำไมมึงต้องทำแบบนี้วะ?”
   “กะ... ก็ผมเป็นห่วงเฮีย”
   “เลยมาซัดหน้าคนอื่นเล่นงั้นสิ?  ม้าไม่ได้แบ่งสมองให้มึงตอนเกิดรึไงเนียร์”

   ตอนนี้ไอ้กลุ่มที่นั่งกันหน้าสลอนอ้าปากค้างหนักกว่าเดิม  ไอ้ไปป์รีบวิ่งมาช่วยกล่อมเราก่อนที่จะเกิดศึกสายเลือด “สองศรีพี่น้องใจเย็นกันก่อน  อย่าเพิ่งตีกัน”
   “อ้าว  พี่ไปป์  หวัดดีครับ” ไอ้เนียร์ยกมือไหว้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  นั่นยิ่งทำให้ผมเดือดกว่าเดิม  ผมไม่ชอบเวลามันทำตัวกุ๊ยแบบนี้...  แล้วยิ่งมาลงมือกับ...

   “ผมไม่เป็นไรครับ  เราคุยกันรู้เรื่องแล้วใช่มั้ยครับ...  น้องแฟน?” ไอ้อาร์ทที่นั่งอยู่บนพื้นส่งยิ้มเย็น ๆ มาให้  ผมคิดว่าเนียร์ต้องกระโจนต่อยปากมันซ้ำแน่ ๆ หลังได้ยิน...
   “เออ!  อย่าพูดเยอะ  เฮียอาร์ท  เดี๋ยวปากบวมกว่าเดิมหรอก”

   เชี่ย...  ผมอึ้ง...  ช็อกจนไม่รู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้ควรจะพูดอะไรออกมาดี  ก็ไอ้เนียร์มันถ่อมาเพื่อต่อยไอ้อาร์ทนี่  แล้วมัน...  มันไปญาติดีกันตอนไหนวะ

   “เนียร์!  มึงอธิบายกับเฮียมาเดี๋ยวนี้”
   “เฮียไปถามกับเฮียอาร์ทเองเหอะ  ผมถือว่าเราทำข้อตกลงกันแล้ว  เจอกันที่บ้านนะเฮีย...  ผมโดดอาจารย์ปิงวันนี้ไม่ได้  เดี๋ยวสาวที่นั่งข้าง ๆ จะคิดถึง”
   “เดี๋ยวก่อนสิ  กลับมาอธิบายให้รู้เรื่องก่อนนะเว่ย!  เนียร์!  เนียร์!”

   สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงแผ่นหลังของน้องชายที่ค่อย ๆ ไกลออกไปเท่านั้น  เนียร์มันขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์เพื่อนก่อนจะบิดออกไปไม่ยอมปริปากพูดอะไรทั้งนั้น...  ผมยังคงมองค้างอยู่อย่างนั้นจนมันหายไปลับตา  และตอนนี้สิ่งที่หลงเหลือคือ  สายตาหลายคู่ที่กำลังทิ่มแทงผมอยู่เบื้องหลัง

   “ฟาร์พันธุ์ดุ!” ไอ้โจ้พูด
   “หัวใจกูจะวาย” ตามมาด้วยคู่หู  ไอ้กัน
   “มึงเท่นะเนี่ย  ฟาร์” จากผัวไอ้ไปป์
   “กูไม่เห็นมึงระเบิดมานานแล้ว  ตั้งแต่งานกลุ่มตอนปีหนึ่ง  พลังทำลายล้างแม่งรุนแรงเหมือนเคย” ไปป์ว่าพลางปรบมือให้  กูไม่ภูมิใจหรอกนะ...

   ผมหันไปมองไอ้ผู้ชายคนเดิมที่ยังมีรอยยิ้มเย็น ๆ อยู่บนใบหน้า  อาร์ทหัวเราะเบา ๆ กับท่าทีของผม “น่ารักดีนะครับ”

   ประสาทแล้ว!!  มองยังไงว่ามันน่ารักวะ!!  ผม...ผม...โธ่เว้ย!  ทำอะไรไม่ถูกทุกทีเวลาอยู่ต่อหน้ามัน แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องต้องคุยกับมันให้รู้เรื่องก่อนซะแล้ว “อาร์ท...  กูมีเรื่องต้องคุยกับมึง”

ขอโทษว่ะ  ไปป์  กูรู้ว่ามึงอยากเสือก...  ไปถามไอ้คินทีหลังแล้วกันนะ

   อาร์ทพยักหน้ารับ  มันบอกว่าจะพาผมไปเอารถที่คณะเอง  ถึงจะมีสายตาว้าวอนอยากสอดรู้จากไอ้ไปป์  แต่ผมก็ยังคงหันหลังให้มันอย่างเลือดเย็น  แล้วเดินตามไอ้อาร์ทไปยังรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรี่ส์ 3 ซีดาน สีดำมันวาวของมัน...  ทุกครั้งที่เห็นรถเท่ ๆ แบบนี้  ผมก็อดอิจฉาไม่ได้ทุกที  เฮ้ย!  นี่มันไม่ใช่เวลามาสนใจรถซะหน่อย

   ผมรีบเข้าไปทิ้งตัวนั่งในรถแล้วถาม “บอกมาได้รึยัง  ว่าเกิดอะไรขึ้น”
   “ใจเย็น ๆ สิครับ  มีเวลาให้คุยกันอีกเยอะเลยล่ะ”
   “อาร์ท...  กูกำลังเครียดนะ”
   “อย่าเครียดสิครับ  มันไม่มีอะไรแย่เลยนะ” มันว่าพลางค่อย ๆ ถอยรถออกมา
   “ตะ... แต่มึงโดนน้องกูต่อย”
   “แค่ฟาร์เป็นห่วง  ผมก็หายเจ็บแล้วล่ะครับ” มันยิ้มบาง ๆ ให้ผม  ก่อนจะกดเร่งแอร์...  ผมคงขนลุกเพราะแอร์เย็นสินะ...  ใช่  ต้องใช่แน่ ๆ “น้องเขาบุกเข้ามาไล่ถามคนในคณะ  ว่าผมอยู่ที่ไหน  แล้วก็บังเอิญว่า  เราคุยกันไม่ค่อยถูกคอกันน่ะครับ  ผมเลยโดนเข้าไปนิดหน่อย”
   “คนอย่างมึงไม่น่าโดนต่อยได้เลย” ผมพูดไปตามที่คิด  นี่มันผิดวิสัยไอ้อาร์ทที่มีวิชาแกร่งกล้ามากเลยนะ...
   พอได้ยินแบบนั้นมันกลับหัวเราะเบา ๆ  ก่อนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ผมจะโดนต่อย  ต่อเมื่อผมอยากโดนต่อยครับ”

   ทำไมผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบวะ  เป็นประโยคธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ


   “ขอโทษแทนเนียร์มันด้วย  มันก้าวร้าวแบบนี้ทุกที  แต่ครั้งนี้กูว่ามันมากไป”
   “ไม่เป็นไรหรอกครับ  เขาแค่เป็นห่วงฟาร์มาก”
   “กูไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ต้องให้น้องชายมาคอยปกป้องนะ!  กูก็ยืนด้วยขาของตัวเองได้  ทำไมมันไม่เข้าใจวะ!?”

   รู้สึกแย่...  ผมไม่น่าตะโกนระบายอารมณ์ใส่คนอื่นแบบนี้เลย  อาร์ทมันไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย  มันต่างหากที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะเรื่องไร้สาระของผม  คิดได้แบบนั้นผมก็เบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง  อีกไม่นานก็ถึงคณะผมแล้วสินะ  ผมต้องรีบพูดก่อนที่มันจะค้างคาใจ

   “ขอโทษนะ...”
   “เขาบอกผมว่า  หมัดนี้แทนคำสัญญา” มันพูดสวนขึ้นมา “สัญญาว่าผมจะไม่ทำให้พี่ชายเขาเสียใจ  ถ้าผมทำให้ฟาร์ร้องไห้  ผมจะโดนเพื่อนเขารุมกระทืบด้วย”
   “กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น!”
   “ผมรู้...” มันยิ้ม “ความเข้มแข็งเป็นสิ่งที่ดีครับ  แต่การได้รับความห่วงใยจากคนอื่น  ก็ไม่ได้ถือว่าเราอ่อนแอเสียหน่อยนี่ครับ”
   “.......”
   “อีกอย่าง  เพื่อนในคณะผมเขาไม่ได้รุมหาเรื่องเนียร์หรอกครับ  เขากำลังชวนเข้าแก๊งต่างหาก  คณะผมเป็นพวกชอบผู้ชายที่มีลูกบ้าแบบนี้แหละ ฮะ ๆ ๆ”
   “บ้าเอ๊ย...” ผมสบถ “มึงยังไม่ได้บอกเลย  ว่าคุยอะไรกับมันบ้าง”
   “เขาก็แค่ฝากฝังพี่ชายปนข่มขู่น่ะครับ...  รถฟาร์คันด้านในใช่มั้ยครับ?”
   “ไม่ใช่  มึงขับเลยมาแล้ว  คันเมื่อกี้ต่างหาก”
   “ว้า...  แย่จังนะครับ”
   “อย่ามานอกเรื่องนะ  อาร์ท!  กูอยากรู้รายละเอียด...  เฮ้ย!  ไอ้ซิตี้คันนั้นมันถอยออกอะไรของมันน่ะ  แม่งเอ๊ย!  จะชนลูกกูแล้ว!”

   ผมนั่งไม่ติดเมื่อเห็นการถอยรถของมือใหม่  ที่ตูดรถมันกำลังไหลเข้าไปใกล้ลูกรักของผมเรื่อย ๆ  ผมลนลานปลดเข็มขัดนิรภัย  พร้อมจะกระโดดออกจากรถเพื่อไปหยุดมัน  แต่จากระยะทางตอนนี้มันไม่ทันแล้ว  ผมได้แต่หลับตาปี๋...

   โครมมมมมมมม

   เสียงเหล็กบดเข้าหากันจนผมไม่กล้าลืมตาขึ้น...  ไม่จริง!  ลูกรักที่อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาหลายปี  ดันมาถูกไอ้หน้าโง่ถอยมาชนแบบนี้มัน...  ผมกระชากประตูรถเปิดออก  แล้วเดินเข้าไปหาคนขับหน้าโง่ทันที  แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาพูดอะไรไม่ออก

   รถฮอนด้าแจ๊สลูกรักของผมยังคงจอดแน่นิ่ง  ปลอดภัย  ไร้รอยขีดข่วนใด ๆ  ตรงกันข้ามกับบีเอ็มคันงามที่ผมโดยสารมา  ที่ตอนนี้ตูดยับบุบเข้าไปนิดนึงเพราะถูกไอ้รถนั่นชน...  ไม่สิ...  เพราะไอ้อาร์ทถอยมาบังรถผมต่างหาก

   มันเอาบีเอ็มมาบังฮอนด้า...  ไอ้ควาย!

   “ว้า...  แย่จังเลยนะครับ  เท้าผมคงกระตุกไปเหยียบผิดที่น่ะครับ” ไอ้คู่กรณีหน้าโง่ที่เปิดประตุรถออกมายังยืนเอ๋อไม่เลิก  อย่าถามถึงใบขับขี่เลย  ผมว่าถามหาบัตรผู้มีอาการทางจิตน่าจะเจอง่ายกว่านะ  ขอโทษครับ...  พอเป็นเรื่องรถผมเลยเดือดเป็นพิเศษ
   “อ่า...  ผะ... ผม...” มันคงไม่กล้าพูดสินะ  ว่าตัวเองก็ผิด  ที่ไอ้อาร์ทถอยไปชนมันแล้วผิดก็จริงอยู่  แต่ถ้าอาร์ทไม่ถอย  ป่านนี้มันสอยรถผมไปแล้วนะ...  มึง...
   “รอประกันผมมาแล้วกันครับ” ไอ้อาร์ทพูดนิ่ง ๆ  แต่ผมกลับเป็นฝ่ายที่เดือดดาลแทน  มันคว้าแขนผมไว้ “อย่าอารมณ์เสียเลยครับฟาร์  น้องหนูดีบอกผมว่า  ความโกรธเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิตนะครับ”
   “แต่...  มัน...”
   “ไม่เป็นไรครับ  รถผมประกันชั้นหนึ่ง”

   อื้อหือ...  ประโยคอวดรวยแบบพระเอกนี่มันอะไรกัน?  เหมือนรังสีความเย็นจากตัวมันแผ่มาทำให้อารมณ์ร้อน ๆ ของผมสงบลงได้  วันนี้ผมเดือดมาหลายเรื่องแล้ว...  ไม่แปลกใจว่าทำไมตาขวากระตุกทั้งวัน...

   พวกผมเปิดประตูรถค้างไว้แล้วนั่งกันเงียบ ๆ โดยไม่ปริปากอะไร  ผมมีเรื่องให้คิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัว  แม้ในตอนที่พนักงานจากบริษัทประกันภัยมา  ผมก็ยังหยุดคิดไม่ได้เลย...

   ผมรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ...  ทำไมทุกคนต้องพยายามปกป้องผมมากขนาดนั้นด้วยนะ  แม้แต่ไอ้อาร์ทก็เหมือนกัน  ทั้ง ๆ ที่บีเอ็มมันก็หลักล้าน  แต่กลับยอมเอามาบังรถกระจอก ๆ อย่างลูกผม...  แบบนี้มันน่าเจ็บใจมั้ยล่ะ

   เรื่องนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว  แม้ว่าตอนนี้ผมจะกลายเป็นสารถีแล้วก็ตาม  ผมต้องขับรถไปส่งอาร์ทที่บ้านเพราะรถมันส่งศูนย์ซ่อมอยู่  ลูกรักของผมที่ผมภูมิใจนักหนากลับไม่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด

   “อาร์ท...  มึงไม่ต้องทำเพื่อกูขนาดนั้นเลย” ผมเป็นคนเปิดบทสนทนาที่แสนจะน่าอึดอัดนี้  แม้แต่แอร์เย็น ๆ ยังไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด “ถึงกูจะหวงรถกูมาก...  แต่มึงก็หัดห่วงรถตัวเองบ้างสิวะ”
   “ผิดด้วยเหรอครับ?”
   “ผิดสิวะ”
   “ที่ผมห่วงฟาร์มากกว่ารถตัวเองน่ะ...”

   ผมนิ่งชะงักไปพร้อมกับสมองที่ว่างเปล่า...  น่าแปลกมากที่เรื่องราวบ้าบอเหล่านั้นมันกลับสลายไปหมดด้วยคำพูดเลี่ยน ๆ พรรค์นั้น...  ผมได้แต่ก้มหน้าลงซ่อนแก้มที่เริ่มร้อนผ่าวของตัวเอง

   “บางทีกูก็คิดนะ...  ว่ากูเป็นคนที่ไม่มีความกล้าเอาซะเลย”
   “อย่างนั้นเหรอครับ”
   “ดูอย่างเนียร์มันสิ  อยากทำอะไรมันก็ทำ  ถึงขนาดบุกมาหาเรื่องมึงถึงคณะ  มันยังกล้าเลย” ผมค่อย ๆ แตะเบรกเพื่อชะลอรถ  เมื่อเห็นสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเหลือง “กูอยากเป็นแบบนั้นบ้าง  อยากทำอะไรก็ทำ  อยากพูดอะไรก็พูด...  เมื่อไหร่กูจะมีความกล้าวะ?”
   “นี่ก็กล้าแล้วไง...” ผมขมวดคิ้ว “กล้าเปิดใจให้ผม”

   ผมตกใจเล็กน้อยที่มืออุ่น ๆ นั่นช้อนที่คางให้เงยหน้าขึ้น  อาร์ทจ้องเข้ามาในตาผม  น่าแปลก...  ผมรู้สึกว่าแววตาที่เคยเลื่อนลอยของมันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายในตอนนี้

   “ผมจะจูบ... นะครับ” ถ้าผมถามว่า ’ถามทำไม’  มันก็คงจะตอบกลับมาแบบเจ็บแสบว่า ‘ที่บ้านผมสอนมาดี’ สินะ  คิดแล้วผมก็หลุดขำออกมา  และไม่น่าเชื่อว่า...  ผมจะพยักหน้าแทนคำตอบอย่างไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำไป

   ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน  ในขณะเดียวกับที่ 120 วินาทีของไฟแดงเริ่มนับถอยหลัง  นี่เป็นจูบแรกของผม...  ทำเอารู้สึกวูบโหวงในใจไปหมด  ผมตื่นเต้นเสียจนสัมผัสได้ถึงหัวใจที่สูบฉีดเลือดแรงขึ้นเรื่อย ๆ  ความรู้สึกนี้มัน...  ราวกับลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ...  อ่อนโยน...  และอบอุ่นอย่างที่สุด  ผมหลับตาลงช้า ๆ  ค่อย ๆ ตอบรับสัมผัสที่ติดปลายลิ้นนั่นเบา ๆ อย่างเผลอไผล...

   และแล้วสัมผัสนั้นก็สิ้นสุดลง...  เมื่อไฟแดงนับถอยหลังมาถึงเลข 0

   "เจ็บปากแต่ก็คุ้มนะครับ..."

   เรายิ้มให้กันกับจูบแรกในเวลา 120 วินาทีนี้...  ใครบอกว่าอาร์ทมันน่ากลัวกันล่ะ  ใครจะเคยเห็นแววตาอบอุ่นที่มันมอบให้ผมบ้างล่ะ

บางทีผมอาจไม่ต้องการคนสติดี ๆ  แต่เป็นมัน...  คนที่เห็นค่าของผมที่สุดก็ได้

อ่า...  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่ชอบไฟเขียวเอาซะเลย


TBC



ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า //หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง//
ข้าขอตั้งชื่อท่านี้ว่า "จูบติดไฟแดง" แต่จะ "ติดใจ" รึเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้นะ  //เรียกลูกกรอกมา 'ฮิ้ววววววววววววววววววววววววว'//

อย่างที่เคยบอกนะจ๊ะว่าน้องฟาร์ไม่ได้เป็นซึนเดเระแบบที่หลายๆคนเข้าใจ(แต่ไปป์มันเป็นนะ555)  ขอย้ำอีกครั้งว่าฟาร์เป็นยันเดเระต่างหาก
คนเขียนขออธิบายให้เห็นภาพ//หยิบแว่นขึ้นมาสวม// เพราะยังมีหลายๆคนเข้าใจผิดว่าสองอย่างนี้มันแตกต่างกันอย่างไร
ซึนเดเระ คือ คนประเภทแข็งนอกอ่อนใน ที่สำคัญคือปากไม่ตรงกับใจ  รักนะแต่ไม่แสดงออก(โปรดร้องใส่ทำนองแบบเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ )
ยันเดเระ คือ คนประเภทอ่อนนอกแข็งใน  นึกถึงตัวละครประเภทหน้าตาแบ๊วๆ แต่ในใจเอามีดเชือดคออีกฝ่ายเลือดกระฉูดมาติดหน้า  และจะสั่งสมในใจรอวันระเบิดออกมา
จากที่กล่าวมานี้  บวกกับเหตุการณ์เกรียนแตกในคณะถาปัต  จึงของสรุปว่าฟาร์เป็นยันเดเระนะคะ  ฟันธง!!
นอกจากตอนนี้จะโชว์การระเบิดพลังคอสโม่ของฟาร์แล้ว  ยังโชว์ความเป็นผู้ชายอบอุ่นของคุณอาร์ทด้วยนะคะ  ใครว่าคุณอาร์ทเป็นผู้ชายเยือกแข็ง  น้องฟาร์ขอเถียงนะ (แต่คนเขียนไม่เถียง เพราะคิดว่ามันเยือกแข็งจริงๆ....)

ตอนหน้าเราจะกลับมาพบกับพ่อพระเอกของคนเขียนอีกครั้ง  อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ใกล้จบเต็มที่แล้วค่ะ  ใครที่บ่นว่ามันยาวๆ  ยืดเรื่องก็ทนเอานะคะ  อีกนิดๆ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ//กอดดดดดดดด// :กอด1:
ปล.คุยกับผู้จัดการขำๆว่าไอ้คนขับซิตี้นั่นชะตาขาดอย่างแรง  แทนที่ชนฮอนด้าแจ๊ส พี่ล่อบีเอ็มเลย แต่จะซวยกว่านี้ถ้ามันชนไอ้เน่า เพราะไม่มีประกัน  แถมเจ้าของมันทั้งสองยังพร้อมจะกระทืบไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีกต่างหาก ฮ่าๆๆๆ
ปล.น้องเนียร์ของคนเขียน  ห้ามแย่งค่ะ!!

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
สงสัยเนียร์มันไปเคลียกะพี่เขยแหงๆ
ว่าแล้วคนเขียนจัดตอนน้องหนูดีหน่อยสิ
 :laugh: :laugh: :laugh:
อยากอ่านมว๊ากกกก
ปล.คู่นี้มันจูบกันแล้ว รอตอนมันได้กัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2012 02:03:23 โดย gupalz »

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย

คู่นี้จะมาแรงไปแล้วน๊าาาาาาา

ว๊ายๆๆๆๆ

เค้าเขินนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด