แว่นดุ 3
แว่นอย่าดูถูกพี่กัสนะครับ
ผมลุกขึ้นและกำมือถือที่อยู่ในมือแน่น พร้อมกับเดินลงไปรับบุคคลที่ไม่อยากต้อนรับคนหนึ่งขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเอง...
...และตอนนี้มันมาอยู่ในห้องนอนของผมแล้ว หลังจากที่ผมลงไปรับเข้ามา...
“ลบคลิปบ้านั่นซะ”
“รู้สึกยังไงเวลาที่พี่เห็นคลิปตัวเอง...”
มันพูดพร้อมกับขยับตัวลงไปนั่งบนเตียงนอนของผมอย่างถือวิสาสะ และเลือกไม่ตอบรับคำขอของผม
“ขอโทษ...ถ้าเรื่องตอนเด็กนั่นมันทำให้นายฝังใจขนาดนี้ ขอโทษด้วยจริงๆ”
ใช่ผมขอโทษ บอกตามตรงว่าผมอยากขอโทษกับเด็กแว่นนี่ตั้งแต่ตอนอยู่ ป.6 แล้ว แต่ผมไม่มีโอกาสที่จะได้ทำ พอผมไปเรียนในวันถัดมาก็ไม่พบเด็กนี่อีกแล้ว
“ช้าไปหน่อย...แต่รับไว้ก็ได้”
“หมายความว่า...”
“ก็แค่รับไว้ ผมถามอะไรหน่อย...ถ้าเป็นพี่โดนแบบนั้นและขอให้ผมช่วย แต่ผมไม่ช่วย พี่จะรู้สึกยังไง”
มันเป็นคำถามที่ทำให้ผมพูดไม่ออก...ผมยืนนิ่งไม่สามารถขุดคำพูดมากมายในสมองของตัวเองมาเรียบเรียงและพูดออกไปได้ มันจริงอย่างที่ว่า ถ้าเป็นผมจะรู้สึกยังไง...
...แค่คำว่าขอโทษมันคงใช้ไม่ได้จริงๆ...
“เอาเถอะ...ไม่ต้องตอบคำถามนี้ก็ได้ ผมไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่”
“แล้วนายต้องการอะไร”
“หึ...อันนี้น่าสนใจแฮะ....พี่โดนเหมือนผมตอนนั้นได้ไหมละ”
...ทุกอย่างหยุดนิ่ง...
ผมถอยหลังไปสองสามก้าว แผ่นหลังชิดกับผนังห้องสีขาวพอดี เหตุผลที่ผมถอยหลังเพราะเจ้าแว่นมันลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาประชิดตัวผม
“ถ้ามันจะทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น ฉันทำให้ได้”
“พี่นี่ใจกล้าดีจัง...แต่เสียดายตอนนั้น ทำไมพี่ถึงไม่กล้าแบบนี้ เสียดายจริงๆ”
“ขอโทษ ได้ยินไหมว่าขอโทษ ตอนนั้น...ตอนนั้นพี่กลัว”
หมับ!
แรงบีบที่ต้นแขนจากน้ำมือของคนตรงหน้า มันเพิ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นจนต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ มันมองมาที่ผมพร้อมกับดวงตาวาวโรจน์
“แล้วพี่คิดว่าผมไม่กลัวหรอ?”ผมนึกถึงเหตุการณ์ในคืนวันนั้นอีกครั้ง เด็กนี่นอนร้องไห้ตัวสั่นเทิ้ม ร่างกายเปลือยเปล่าน่าเวทนา ดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำตามองมาทางผมเพื่อขอความช่วยเหลือ เปล่งเสียงแหบแห้งร้องเรียกชื่อผมให้เข้าไปช่วย
แต่.....ผมกลับวิ่งหนีออกมา....
“พี่รู้....พี่รู้ว่านายกลัว”
“แต่พี่ก็หนีไป...”
ผมรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่สั่นเทาของคนตรงหน้า ผมรู้ว่าน้องมันก็กลัว ผมจึงก้มหน้าเงียบไม่พูดตอบโต้อะไรออกไป ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว ผมได้พูดในสิ่งที่ผมไม่กล้าพูดมาตลอดตั้งแต่คืนวันนั้น ตอนนี้ผมพูดมันออกมาจนหมด ไม่เหลือ...
.
.
“ผมชื่อเซน”
ผมเงยหน้ามองเด็กแว่นตรงหน้า ที่จู่ก็พูดชื่อของตัวเองออกมาเสียดื้อๆ มันคลายมือจากแขนของผม ตอนนี้แขนของผมถูกปล่อยให้ได้รับความเป็นอิสระ หลังจากที่ถูกบีบอยู่นาน
“ตั้งแต่วันนี้....ช่วยทำตัวเป็นคู่นอนที่ดีของผมด้วย”
“อะไรนะ?”
“คู่นอน”
“ตลกหรือไง”
“หรืออยากให้เป็นอย่างอื่น....เมีย?”
“คู่นอน...ก็ได้”
เอาเถอะจะเป็นอะไรก็เป็นไป พอหมอนี่เบื่อเดี๋ยวก็คงจะปล่อยผมไปเอง
ผมจนใจจะเถียงต่อ จึงขยับตัวออกห่างและเดินไปนั่งที่โต๊ะหนังสือเพื่อเริ่มทำงานของตัวเองต่อ อยากอยู่ที่นี่ก็อยู่ไป อย่ารบกวนเป็นพอ ผมเหลือบสายตาไปมองเจ้าเด็กนั่น ตอนนี้มันขยับตัวมานั่งบนเตียงข้างผมพร้อมกับมองผมทำงาน
“จะกลับตอนไหนก็บอก จะลงไปส่ง”
เพราะความขี้รำคาญขี้หงุดหงิดที่มีเป็นทุนเดิมของผม มันทำให้ผมไม่มีสมาธิในการแปลงานวิจัย ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเวลาคนมองผมทำอะไรเสียด้วยสิ อย่างไอ้ทีตอนมองผมกินข้าวยังทำให้ผมรำคาญเลย และนี่ยิ่งแล้วใหญ่เด็กนั่นเอาแต่มองผมทำงาน แล้วใครจะไปมีสมาธิกันละ เล่นเอาแต่จ้องผมทำงานแบบนี้ผมก็คิดงานไม่ออกแล้ว
“เหมือนไล่ผมเลย”
“อืม....ไล่”
หลังจากที่ผมพูดจบ เด็กนั่นมันชันตัวลุกขึ้นยืนค้ำหัวผม จนผมต้องเงยหน้ามอง....ไม่คิดเลยว่าโตมาจะก้าวร้าวแบบนี้ได้ ตอนเด็กดูหยิมๆขนาดนั้น ไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน
“ผมเอาหนังสือที่วันนี้ไปยืมมาด้วย ผมให้และตอนนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว นอนกันเถอะ”
“ไหนตอนแรกบอกว่าไม่ให้”
“ก็ตอนนี้ให้”
“ขอบใจ....แต่ขอทำงานอย่างอื่นก่อนแล้วกัน อยากนอนก็นอนไปก่อนเลย พี่ยังไม่ง่วง”
ผมขี้เกียจเถียงเลยพูดออกไปแบบส่งๆ ตอนนี้อยากทำงานมากกว่า วันนี้ทั้งวันมัวแต่เอาเวลาไปตามหาหนังสือที่ตามหายังไงก็ไม่ได้ จนไม่มีเวลามานั่งทำงาน แถมตอนนี้ดันมีไอ้เด็กแว่นมาอยู่ด้วยอีก
อันที่จริงตอนนี้ผมทำใจไปแล้วละ เรื่องที่จะโดนทำให้อับอายอะไรนั่นและก็ให้ผมไปเป็นคู่นอนของมันอีก ผมคิดว่าพอเด็กนี่มันพอใจ เดี๋ยวมันก็เลิกราไปเอง
ปึง!“ไอ้แว่น!”
ผมตะโกนเสียงดังใส่เด็กนั่นทันที มันเล่นปิดหน้าจอโน้ตบุกของผมซะดังลั่น ผมเพิ่งซื้อมันมาด้วยเงินเก็บของผมนะ มาทำแบบนี้ได้ไง ผมรีบหันหน้าไปมองโน้ตบุกของตัวเองทันที พร้อมกับจับๆลูบๆมันอยู่อย่างนั้น จะพังหรือเปล่านะ แถมข้อมูลก็อยู่ในนั้นเต็มเลยด้วย
ตอนนี้ผมกำลังหายใจเข้าลึกๆเพื่อทำให้อารมณ์เย็นขึ้น พร้อมกับหันหน้าไปมองมันอีกครั้ง
“ก็บอกให้นอนไง”
“ถ้าจะมานอนที่นี่ ก็อย่าก่อกวน ไม่งั้นจะเรียกรปภข้างล่างให้มาเอาตัวนายไป”
“ก็ถ้าเรียกรปภ ผมจะให้มันดูคลิปพี่ด้วยเลย”
“ไอ้แว่น!”
“นอน”
ไอ้แว่นนั่นขยับตัวไปนอนอีกฝั่งพร้อมกับตบที่นอนปุๆ ให้ตายสิ นี่ผมต้องรับมือกับอะไรกัน...
จากนั้นผมจึงตัดสินใจลุกขึ้นยืนและเดินไปปิดไฟเพื่อจะล้มตัวนอนบนเตียงเหมือนกัน ทำไงได้ละ คลิปบ้านั่นยังอยู่กับมันเป็นไฟล์ ถ้ามันหลุดออกไปมีหวังผมตายแน่ๆ
ผมขยับตัวลงนอนบนเตียงและหันหน้าหนีเด็กนั่นทันที แต่โดนมันจับให้หันกลับไป จะวุ่นวายอะไรกับผมนักหนา!
“อะไร ไหนเมื่อกี้บอกให้นอน”
“ก็อยากให้หันมาทางนี้”
“ไม่ถนัด”
ผมรำคาญจนขยับหันหน้าหนีอีกครั้ง แต่ถูกกอดจากด้านหลังเต็มแรง แต่มันไม่ได้ทำแค่กอดนี่สิ...
เด็กนั่นขยับมือลากผ่านช่วงตัวของผมที่อยู่ในท่านอนตะแคงหันหลังให้ และมันก็เอื้อมมือสอดเข้ามาในเสื้อ ผมตัวเกร็งไม่กล้าขยับ มืออุ่นๆของมันลูบไล้ไปมาทั่วแผ่นอกของผม และใช้นิ้วสะกิดเน้นย้ำตุ่มไตที่เริ่มแข็งตัวขึ้นลงไปมา
“อื้อ....อย่า”
“พี่คิดว่าผมมาหาพี่ทำไม....”
เด็กนั่นกระซิบถามผมแผ่วเบาที่หลังใบหู ลมหายใจร้อนๆเป่ารดไปทั่วทำให้ผมรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก แผ่นหลังของผมแนบไปกับหน้าอกร้อนของมัน มือของมันก็ไม่หยุดสะกิดตุ่มไตของผมสักที จนตอนนี้อารมณ์ของผมเริ่มแตกกระเจิง
“อา...อย่าทำ”
“ทำไม.....หรือว่าเพราะผมเป็นไอ้แว่น พี่รังเกียจผมหรอ”
เด็กนั่นมันพูดอะไรของมัน...ผมไม่เข้าใจที่มันพูดออกมาสักเท่าไหร่ แล้วจะรังเกียจทำไม...
และตอนนี้มันยังคงเอามือมาสะกิดผมไม่เลิกด้วย ตอนแรกคิดว่ามันจะหยุดมือกระตุ้นความต้องการของผม แต่ผมคิดผิด มันผลักให้ผมนอนหงายและก็ขยับตัวขึ้นมานั่งทาบทับบนตัวของผมทันที
“จะทำอะไร”
ผมถามออกไปผ่านความมืดสลัว และเห็นเด็กนั่นชัดเจนในความมืด ตอนนี้มันยังไม่ถอดแว่นของตัวเองออกเลยด้วยซ้ำทั้งที่กำลังจะนอนแท้ๆ ผมยาวของมันที่ผมคิดว่ามันดูรกรุงรังในตอนแรกกลับดูยาวสลวยปกปิดใบหน้าด้านบนจนแทบไม่เห็นตา รวมไปถึงผิวสีเข้มที่ออกไปทางสีน้ำตาลของเจ้าตัวทำให้ผมรู้สึกว่าเจ้าแว่นมันน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก
ในตอนเด็กที่ผมจำได้....มันทั้งอ้วนทั้งตัวดำ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่...มันผอมแถมยังหุ่นดีมีกล้ามหน้าท้องแบบที่ผมชอบ และแถมสีผิวตอนนี้ของมันอีก ผมเผลอจ้องมองเด็กนั่นอยู่นาน...
“ผมว่าพี่รู้อยู่แล้ว....ว่าผมจะทำอะไร”
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่า พรุ่งนี้มีเรียน”
“เบาๆก็ได้ ไม่หนักเหมือนครั้งแรกหรอก”
ทำไมมันดื้อด้านแบบนี้นะ บอกว่าไม่ทำยังจะมาพูดจาเอาแต่ใจอีก อยากทำก็ไปช่วยตัวเองสิโว่ย! ผมทำได้แค่ด่ามันในใจเท่านั้น เพราะไม่กล้าด่าออกไปจริงๆ กลัวมันนึกบ้าปล่อยคลิปผมไปทั่วนี่สิ
มันเห็นผมไม่ตอบโต้อะไร คงคิดว่าผมยอมมันละมั้ง ก็เพราะตอนนี้มันเล่นจับมือผมไปลูบคลำที่กลางกายผ่านเนื้อผ้าของมันซะอย่างนั้น ไอ้เด็กบ้านี่มันโรคจิตขนาดนี้เลยหรอ
“...ไม่สอดใส่ก็ได้ แต่ทำแบบคืนนั้นให้หน่อย เห็นปะพี่...ว่ามันโตแล้ว”
ไอ้คนหน้าไม่อาย!
ลืมไปได้เลย ไอ้แว่นโหดเมื่อตอนบ่าย ความจริงมันก็เป็นแค่ไอ้แว่นดำจอมหื่นเท่านั้นแหล่ะ
มันยังคงคร่อมทับผมอยู่พร้อมกับจับมือของผมให้ไปลูบคลำที่กลางกายของมันไปมา แถมยังทำหน้าตามีความสุขหลับตาพริ้มใส่ผมอีก ส่วนเจ้าแว่นน้อยก็ชูคอสู้มือผมก็ดันใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆซะอย่างนั้น ให้ตายสิหื่นทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะพวกแก!
“ว่าไง...จะทำให้ไหม”
มันถามย้ำผมอีกครั้ง ผมไม่ได้ตอบได้แต่เอื้อมมือล้วงเข้าไปในกางเกงยางยืดขาสั้นและจับเอาแกนกายร้อนระอุที่แข็งชูชันอยู่ก่อนแล้วออกมาด้านนอก ผมลอบมองหน้าของไอ้แว่นที่อยู่บนตัวผมเป็นระยะ จนผมเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาซะเองเลยใช้มือสาวรูดกลางกายของมันขึ้นลงไปมาในจังหวะเนิบนาบไม่เร่งรีบ
ผมได้ยินเสียงลมหายใจและเสียงครางกระเส่าของคนมัน ที่ตอนนี้คร่อมทับตัวของผมอยู่ โดยใช้ข้อศอกและหัวเข่ายันพื้นเอาไว้ แถมมันยังจ้องหน้าผมไม่ละสายตาไปไหนเลยด้วย
...มองทำไมนักหนาไอ้โรคจิต...
ผมหงุดหงิดเพราะไม่ชอบให้คนมองหน้านานๆ เลยใช้มือบีบเข้าที่ส่วนโคนของมันอย่างแรง จนมันกัดฟันกรอดพร้อมกับหลับตาปี๋
สมน้ำหน้าไอ้เด็กโรคจิต!
แต่ผมเอาชนะมันไม่ได้นานนักหรอก เพราะหลังจากนั้นผมก็โดนเจ้าแว่นจับปลดกระดุมชุดนอนลายทางออกจนเกือบถึงสะดือ มันปลดกระดุมของผมไม่หมดไปซะทีเดียว คงจะไม่ทันใจ เพราะตอนนี้เจ้าแว่นมันก้มหน้าลงมาขบกัดผิวเนื้อของผมแถวหน้าอก จนผมต้องร้องออกมาเพราะความรู้สึกเจ็บและแสบ
“โอ๊ย...เจ็บนะ!”
“ก็พี่แกล้งผม”
เจ้าแว่นเงยหน้าขึ้นจากอกของผมและมองผลงานของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาด้วย ส่วนมือของผมยังไม่หยุดสาวรูดแกนกายของมันหรอกนะ ก็ยังคงสาวรูดให้มันแบบนั้นไปเรื่อยๆ แต่มันดูไม่มีทีท่าว่าจะปลดปล่อยออกมาเลยนี่สิ มือของผมก็เริ่มจะชาเพราะความเมื่อยแล้วด้วย
“เมื่อไหร่จะปล่อยออกมาสักที”
“พอดีว่าผมอึด....โทษทีนะ”
ผมรู้สึกหมั่นไส้มันอีกรอบ เพราะความมั่นหน้าของมันนี่แหล่ะ พูดเฉยๆไม่พอยังยักคิ้วหลิ่วตามาให้ด้วย ผมจึงผลักมันให้นอนราบลงกับเตียงทันที พร้อมกับขยับกายมานั่งตรงระหว่างขาของเจ้าเด็กอวดดีนั่น
ผมเห็นเจ้าตัวทำหน้าตาเหลอหลาคงจะตกใจอยู่เหมือนกัน จึงเริ่มใช้มือกับกลางกายแข็งขืนตรงหน้าต่อ โดยการขยับมือสาวขึ้นลงไปมา จนส่วนปลายบานใหญ่สีเข้มเริ่มมีน้ำสีใสไหลซึมออกมาเป็นระลอก
“ใช้ปากด้วยได้ไหม...นะครับพี่กัส...”
จู่ๆเจ้าเด็กแว่นมันก็ขยับตัวขึ้นนั่งและทำหน้าอ้อน ให้ตายเถอะ!! คิดว่าตัวเองน่ารักมากสินะ ไอ้แว่นตัวดำเอ๊ย!
ด้วยความที่ผมผ่านเรื่องแบบนี้มาก็เยอะแล้ว แถมยังเคยใช้ปากให้กับเด็กนี่มาแล้วรอบหนึ่ง ถ้าทำอีกก็คงไม่เสียหายอะไร...
ผมก้มหน้าลงพร้อมกับอ้าปากครอบเจ้าแว่นน้อยแต่ขนาดไม่น้อยตรงหน้าทันที ผมเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับดูดเลียส่วนปลายไปด้วย แว่นมันมองหน้าผมอยู่ก่อนแล้วและตอนนี้มันก็กำลังขบกรามแน่นจนขึ้นรอยสันกรามบริเวณกรอบหน้า ผมเห็นท่าทางแบบนั้นของมันก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ ยิ่งใช้ลิ้นเลียละเลียดชิมน้ำสีใสบริเวณปลายยอดเหมือนมันเป็นอาหารอันโอชะก็ไม่ปาน
“เลียเก่งเป็นบ้าเลย....พี่กัส ซี้ด”
ผมมองมันพูดไปด้วยพร้อมกับดูดเลียไปด้วย เห็นมันเชิดหน้าขึ้นหลับตาไปทางเพดานห้อง พร้อมกับใช้มือยันเตียงไปด้านหลังและกระทุ้งเอวเข้ามาที่ปากของผมเป็นจังหวะเนิบนาบ แต่มันเข้ามาลึกจนผมแทบสำลัก
“อ่า....พี่...ผ...ผมไม่ไหว...แล้ว”
ตอนนี้ผมกำลังจะสำลักท่อนกายร้อนของมัน เลยพยายามจะถอนปากออกแต่กลับถูกมือของเจ้าแว่นกดหัวผมเอาไว้และกระทุ้งเอวใส่ปากของผมอย่างรุนแรง จนส่วนหัวของมันอยู่แถวคอของผม มันลึกมาก ลึกจนผมแทบอ้วกออกมา มันทำแบบเดิมอยู่สามสี่ครั้งและกระชากเอวออกอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง น้ำลายของผมก็ไหลยืดติดตามท่อนกายร้อนระอุของเจ้าแว่นไปเป็นทางยาว
ผมเห็นมันขยับตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและใช้มือสาวรูดกายร้อนของตัวเองอย่างเร่งรีบและจับส่วนกลางกายของมันมาจ่อที่ปากของผมอีกครั้ง
“พี่กัสอ้าปากออก....อืม...”
“อ่ะ...อึก...แค่ก”
ผมอ้าปากออกตามคำร้องขอของเจ้าแว่นและทันทีที่ผมอ้าปากมันก็ยัดแท่งร้อนเข้าสู่ปากของผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับปลดปล่อยธารน้ำสีขาวขุ่นเข้ามาเต็มปากผมไปหมด ผมจำเป็นต้องกลืนกินมันเข้าไปเพราะมันสอดเข้ามาลึกมาก น้ำสีขุ่นบางส่วนไหลทะลักออกมาตามมุมปากของผมเพราะมันไม่สามารถรับทั้งหมดไม่ไหว
หลังจากนั้นเจ้าแว่นมันก็ถอนส่วนนั้นออกจากปากผมและทรุดตัวนั่งลงกับเตียงนอนพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบ ผมแทบไม่ได้มองหน้าเจ้านั่นเลย เพราะผมเอาแต่มองกลางกายขนาดใหญ่ยังไม่หดตัวที่มีคราบน้ำขาวขุ่นกำลังไหลออกมาบางส่วนจากปลายยอดสีคล้ำ
....มันยังไม่หมด....
ผมไม่รอช้ารีบคลานเข่าเข้าไปหาพร้อมกับใช้ปากดูดเลียส่วนปลายของมันด้วยความเสียดาย...
“อ่า....ให้ตายเถอะ พี่กัสโคตรยั่วเลย”
ผมไม่ได้สนใจคำพูดนั้นเพราะเอาแต่สนใจเจ้าแว่นน้อยที่ผงกหัวไปมาตรงหน้าของผมอย่างเดียว
“อ๊ะ! พี่กัส...พอเถอะ ไม่ไหวแล้ว!”
เจ้าแว่นน้อยปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาอีกระลอกหลังจากที่ผมดูดเลียมันไปเมื่อครู่ ผมละเลียดกินน้ำสีขุ่นระลอกสุดท้ายของมันจนหมดไม่มีเหลือสักหยด และเห็นมันนั่งพิงหัวเตียงพร้องกับหอบจนตัวโยน หน้าของมันแดงก่ำ เหงื่อผุดซึมตามเสื้อผ้าเต็มไปหมด เพราะมันไม่ได้ถอดเสื้อออกทำเพียงแค่ร่นขอบกางเกงยางยืดลงมาเท่านั้น ผมขยับตัวออกมาจากขาคนตรงหน้าและล้มตัวลงไปนอนข้างๆ
.
.
ผ่านไปสักพัก ผมเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้นมาก่อนเป็นคนแรก...
“ขอโทษ....”
“พี่หมายถึงอะไร?”
“เรื่องคืนนั้น...ที่ตรอกมืดในซอยตลาด”
“เห็นพี่บอกว่าพี่กลัว”
“ใช่ แต่ถ้าพี่เอาความกล้าที่ตัวเองมีสักนิด ก็คงเข้าไปช่วยนายออกมาได้”
“อยากรู้เรื่องหลังจากนั้นไหม?”
ผมละสายตาจากเพดานห้องและหันหน้าไปมองเจ้าแว่นที่ตอนนี้มันถอดแว่นออกไปแล้ว..
มันไม่ได้มองผมแต่กำลังมองออกไปทางอื่น
“ถ้าไม่อยากเล่า ก็อย่าเล่าเลย...”
“งั้นผมเล่าเท่าที่อยากเล่าแล้วกัน”
ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกเพราะกำลังนอนฟังสิ่งที่เจ้าแว่นมันกำลังจะพูด ถึงแม้ว่าผมจะไม่อยากให้มันพูดก็ตาม ถ้าหากเป็นผมคงจะไม่พูดแน่ๆ มันคงเป็นความทรงจำที่น่ากลัวมากเลยละนะ
“ตอนที่พี่หนีไปแล้ว...พวกมันไม่ได้ทำอะไรผมต่อ โชคดีที่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาทางผมพอดี เขาท่าทางตกใจมากเลยละ เพราะเขารีบเข้ามาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นและโทรหาตำรวจ พอตำรวจมาพวกเขามาพร้อมกับครอบครัวของผม และผมถูกสั่งให้ย้ายโรงเรียนไปเรียนอยู่กับพี่ชาย หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ไปเหยียบที่โรงเรียนนั้นอีกเลย”
“โชคดีแล้วที่ไม่เป็นอะไร...”
“ไม่ต้องขอโทษแล้วนะ ไอ้เรื่องที่ไม่ได้เข้ามาช่วย”
ผมหันหน้าไปมองเจ้าแว่นที่ขยับตัวลงมานอนบนหมอน มันไม่ได้พูดอะไรต่อ ถึงแม้ว่าผมจะรอให้พูดต่อก็ตาม ผมอยากจะถามว่าทำไม แต่ในใจของผมกลับแย้งขึ้นมาว่า ขอโทษไปแล้วมันกลับไปแก้ไขอะไรได้ด้วยเหรอ
บางทีเจ้าแว่นมันอาจจะคิดแบบนี้อยู่ก็ได้...
มีหื่นนิดหน่อย(หรอ)
บะบาย ขอให้สนุกนะคะ