Imprison 31: ไม่มีคำตอบ
“..แล้วทำไมไม่ยอมพูดเอง.. “ ผมถามคนตรงหน้าที่เดินเข้ามานั่งพิงลูกกรงอยู่ตรงข้าม พี่เบิร์ดทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วเกาหัวแกรกๆ..
“..ไม่รู้..ท่าจะคิดว่าคุยเองไม่รู้เรื่องมั้ง.. “ตอบมาอย่างนั้น..แต่ไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นเลยและยังทำให้หงุดหงิดขึ้นอีกต่างหาก
“..ทำไมไม่รู้เรื่อง..ผมก็ฟังภาษาคนออก “ ถอนหายใจแรง ขณะที่พี่เบิร์ดหันมามองหน้า ยิ้มมุมปาก..
“..ก็แค่แปปเดียว จะหงุดหงิดอะไรนัก.. “
“..แล้ว..ตกลงมีอะไรงั้นเหรอ “ ขี้คร้านจะต่อความยาวสาวความยืด และยิ่งไอ้เรื่องที่พี่โตพูดไปเมื่อกี้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก..และยิ่งมันสำคัญขนาดให้คนอื่นมาพูดแทนตัวเอง ผมก็อยากรู้ ว่ามันจะอะไรกันนัก..
“..อืม...ก็ที่พูดไปเมื่อกี้.. “ ว่าพลางหันมามองหน้าด้วยรอยยิ้มบางๆชนิดไม่รู้สึกรู้สา... “..ไม่ว่ามึงจะเข้าใจไอ้ที่ผ่านมารึเปล่า...ไม่สิ...คงต้องบอกว่าไม่เข้าใจอยู่แล้ว..”
“..อะไร?.. “ ผมถามกลับเสียงห้วน ไม่ค่อยพอใจกับท่าทีที่มองผมเหมือนคนไม่ได้ความนั่น พี่เบิร์ดร้องหึ..ออกมาเบาๆพร้อมกับมุมปากที่กระตุกขึ้น..
“...โถ...แค่รู้ว่าจะโดนทิ้ง ก็ดิ้นจะเป็นจะตายเลยเหรอเนี่ย..” คำพูดนั้นทำให้ผมชะงัก ความหงุดหงิดที่พุ่งริ้วๆตั้งแต่ที่พี่โตเดินออกไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรเพิ่มเติม ยิ่งทวีมากขึ้นกับคำพูดของคนตรงหน้าผมขมวดคิ้วจ้องมองพี่เบิร์ดตรงๆ..
“..หาเรื่องผมทำไม?... “ ผมถามกลับอย่างไม่ยอมคาใจ “ ไม่ได้ทำอะไรให้พี่ซักหน่อย..จู่ๆก็มาหาเรื่อง..”
ปัง !!
เท้าที่เตะประตูลูกกรงทำให้ผมสะดุ้งเฮือก หันไปมองหน้าที่ยังยิ้มแย้ม แต่ดวงตากลับฉายแววโกรธเคืองอย่างปิดไม่มิด และปลายเท้าที่เพิ่งแกว่งไปโดนประตูลูกกรงเหล็กของคนตรงหน้า มันเฉียดตัวผมไปไม่มาก มองแล้วรู้สึกขนลุกขึ้นมาเฉยๆแม้จะชักเท้ากลับมาอยู่ที่เดิม แต่กลับชวนคิดจริงๆว่าถ้ามันเกิดเหวี่ยงมาถูกผม จะเกิดอะไรขึ้น..
“..มึงต่างหาก...” น้ำเสียงของคนตรงหน้าเรียบเรื่อย “..ที่หาเรื่องให้พวกกู..”
“ห๊ะ??.. “ ผมร้องออกมาอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้ายิ้มๆของพี่เบิร์ดหายไปแล้วมีเพียงใบหน้าถมึงทึง ที่มองมาเท่านั้น..
“..คิดอยู่ได้ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์..ถูกคนอื่นเขารังแกตลอด ถุย... “ สีหน้ารังเกียจนั่นมองตรงมาอย่างไม่ยอมลดละ..
“..นับตั้งแต่มึงก้าวเข้ามาที่นี่..มึงก็ทำให้พวกกูซวย..รู้ตัวบ้างไหม?.. “ มุมปากแสยะยิ้มขึ้นมาบางๆคล้ายประชดประชันในที..
“..มึงไม่เคยเข้าใจไอ้”สถานะ” ที่แท้จริงของตัวเองเลย..สักนิด.. “ พี่เบิร์ดหัวเราะเบาๆในลำคอ แล้วจับไหล่ข้างหนึ่งของผมไว้ “..รู้บ้างไหม? นับแต่มึงเข้ามาเหยียบที่เรือนจำนี่..มึงก็คือนักโทษ มึงก็คือคนทำผิด มีสถานะเป็นเดนสังคมแบบเดียวกับพวกกู ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง สิ่งที่มึงต้องทำ คือก้มหน้ารับกรรม รับโทษที่ตัวเองก่อไว้..ถูกมั้ย?... “
“........ “ ผมพยักหน้ารับเบาๆ เม้มปากเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่ไหล่ซึ่งมากขึ้นมาอีกนิด..
“..แล้วทำไมวันนี้...กูถึงต้องมาคุยกับมึง ถึงไอ้เรื่องทุกอย่างที่มึงควรรู้ ถึงสถานะของตัวมึง รู้ไหม?.. “
“......... “ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน
“..เพราะ..มึง...มันไม่เคยเข้าใจอะไรสักนิดน่ะสิ.. “ น้ำเสียงแผ่วต่ำบอกออกมาไม่ดังนัก แต่ชัดเจนในสมองของผมยิ่งกว่าอะไร..
“..ไม่เคยเข้าใจว่าตัวเองเป็นนักโทษ..ไม่เข้าใจ ไม่ว่าใครต่อใครเขาพยายามบอก ให้มึงรู้และยอมรับกับสถานะของตัวเอง..ไม่ว่าจะเป็นใคร..ไอ้โตมันบอกมึงมากี่ครั้งแล้ว แต่มึงไม่เคยจำ ที่กูเห็นคือมึงยังพยายามปฎิเสธความจริง ทุกอย่าง..ทุกอย่างเลย...แถมยังทำลืมไปหน้าตาเฉย..”
“..บอกอะไร...” ผมแค่นหัวเราะถามคนตรงหน้า “..ไม่เห็นว่าใครจะบอกอะไรผมตอนไหน มีแต่คนบอกว่าผมโง่..มีแต่คนพุดจาเยาะเย้ยว่าควายอย่างโน้นอย่างนี้..หรือที่บอกให้รู้สถานะของตัวเอง มันเป็นสถาน่ะที่เรียกว่า “ควายตัวนึง” กันแน่..”
“..ถ้ามึงเป็นควายตัวนึง แบบที่ว่าก็ดีน่ะสิ..กูจะจับมันมาล่ามโซ่ ลากไปลากมาได้ตามใจชอบ ไม่ใช่มึงที่ไม่รู้จัก..ไม่เคยรู้ว่ามึงคือลูกน้องพวกกู และต้องทำตามที่พวกกูสั่ง ไม่มีสิทธิ์คัดค้านอะไรทั้งนั้น !!
“..ไอ้เรื่องที่เคย..ทำร้ายผม...น่ะเหรอ...... “ ผมได้ยินเสียงตัวเองถามไปแบบนั้น..
“..ก็เออน่ะสิ...พยายามบอกให้มึงรู้ ว่าตัวมึงอยู่ในฐานะนักโทษ และที่สำคัญ คือมึงเลือกเอง..เลือกมาอยู่กับพวกกู..เลือกมาอยู่ใต้เงาของ”ขาใหญ่”ในคุก....คิดว่าการมาเข้าพวกกับใครสักคน สิ่งที่มึงต้องทำ คือการเดินตามต้อยๆและคอยให้ทุกคนเขาคุ้มครองเวลาเกิดเรื่องอะไร..แค่นั้นเหรอ?.. “
“...................... “
“..การจะได้อะไรมาซักอย่าง ก็ต้องเสียบางอย่างตอบแทนทั้งนั้น..หรือคิดว่ามันจะเหมือนกลุ่มเพื่อนตอนมัธยม ที่คบกับเพราะถูกใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน..เหอะ... “
“........... “ ผมผลักคนตรงหน้าที่บีบไหล่ตัวเองแน่นออกห่างไป พ่นลมหายใจแรง..เมื่อรู้สึก..ว่าความอึดอัดมันโผล่จากไหนไม่รู้เล่นงานเสียจนหายใจลำบาก..
“..ทุกสิ่ง..ที่ทำก็หวังผลตอบแทนทั้งนั้น..เพราะอย่างนี้ กูเลยต้องมาเล่าให้ฟังแต่แรกไง.. “ พี่เบิร์ดว่าแล้วยกมือเสยผมแรงๆพลางหันมามองหน้าผม..
“..อย่าเพิ่งทำหน้าเหมือนจะตาย..รอกูพูดจบก่อน แล้วก็จำไว้ด้วยน่ะ จำไว้อย่าลืมไปง่ายๆอีก...จำไว้ เพราะกูไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก..แล้ว....... “
“..เอาล่ะ...ฟังน่ะ.. “ เหมือนคนตรงหน้าจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการเรียบเรียงคำพูดมาบอกผม..ขณะที่ในหัวผมมึนตื้อ เฝ้ามองภาพนั้นด้วยความสมเพชตัวเองที่กลายเป็นคนโง่...เสียจนต้องคิด ต้องพยายามอย่างหนัก..ที่จะทำให้ผมเข้าใจเรื่องอะไร..สักอย่าง...
...ไม่สิ....คงพยายามบอก...เรื่องที่ผมรู้ดีอยู่แก่ใจ...แต่ไม่อยากยอมรับมันมากกว่า...
“..ในวันที่มึงเข้ามา...ไม่สิ...เขาก็บอกไว้แล้วล่ะ..ว่าเป็นมึง.. “ คิ้วของผมขมวดน้อยๆเมื่อได้ฟังเรื่องที่ไม่รู้มาก่อน “..มี..คนใหญ่คนโตที่เป็นเจ้านายพวกกู..สักคนสองคนที่เขาไม่ถูกกันอยู่..เริ่มพนันกันอีกรอบ..ว่าไอ้เด็กใหม่ที่เข้ามา มันจะเป็นใครน่ะ มันจะอยู่ฝ่ายไหน..ถ้ามันอยู่ฝ่ายใคร คนนั้นก็ชนะพนันแล้วกัน..เห็นมั้ยว่ามันเป็นเกมส์ง่ายๆ..เล่นไม่ยาก..แต่สนุกเป็นบ้า ที่ได้เห็นพวกลูกน้องพยายามแทบตายที่จะดึงมันมาเป็นพวก..แล้วดูซิ..ว่าไอ้เด็กใหม่นั่น มันจะเลือกฝ่ายไหน หรือมันจะทนไม่ได้แล้วผูกคอตายคาห้องขังซะ...”
“.................”
“..แล้วพอมึงเข้ามาปุ๊บ..มาอยู่ในแดนไอ้โตนี่..มันก็รู้มา มันถูกสั่งมา เลยมาหามึง เลยเอามึงมาเป็นพวก ทั้งที่ความจริง”ขาใหญ่”อย่างมันไม่จำเป็นจะต้องสนใจเด็กใหม่ที่เข้ามาด้วยซ้ำ ก็คุกน่ะมันมีคนเข้ามาทุกวันจนจะล้นอยู่แล้ว..เห็นมั้ย..รู้รึยัง ว่าทำไมพี่โตของมึงถึงต้องมาสนอกสนใจมึงตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในนี้..รวมทั้งไอ้กันย์แสนดีของมึงนั่น ทำไมต้องมาคอยดูแลประคบประหงม คอยใส่ใจมึงขนาดนี้ด้วย.. “
“...เพราะ..อย่างนี้... “ ผมได้ยินเสียงตัวเองถามออกไปแบบนั้น..ขณะที่ยกแขนข้างหนึ่ง พาดลงบนหน้าผากตัวเองแรงๆสักที และพยายามเรียกสติที่มึนงงให้กลับมา..
“..แต่พอเข้ามาแล้วแทนที่มึงจะรู้ที่ไหนได้ ดันคิดว่าเขาทำไปเพราะใจดีด้วย เพราะหวังดี..กูคิดแล้วยังขำ..แถมมึงยังไม่เป็นแบบที่คนอื่นเขาเป็นอีก...ทั้งโง่ ทั้งงี่เง่า...ไอ้โตมันก็พยายามเหลือเกินที่จะบอกมึง ทั้งบอกดีๆ..ทั้งขู่มึง..หรือกระทั่งลงมือลงไม้ ...แต่ก็ไม่เห็นว่าจะได้อะไร...แถมมึงยังทำท่าจะกับไอ้กันย์ง่ายๆ..มันเลยต้องกลับมาใจดีด้วย...แล้วมึงก็ดันลืมไป..ลืมทุกอย่างที่เคยเจอ...จนกระทั่งตอนนี้...”
พี่เบิร์ดที่พล่ามอะไรออกมายาวเหยียดหันมาสบตาผมตรงๆอีกรอบ แล้วเหยียดรอยยิ้มมุมปาก
“..ตอนนี้ที่ไม่เหลือเวลาอะไรแล้ว... “
“..อะไร?...ที่บอกว่าสามสัปดาห์นั่นน่ะเหรอ..ที่บอกว่าผมต้องเลือกน่ะเหรอ ไม่เลือกไม่ได้รึไง..ไม่ทำไม่ได้เหรอ.... “ ผมได้ยินเสียงตัวเองร้องถามไปแบบนั้น ถามไปทั้งที่รู้ดี...รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้..
“...ถ้ามึงไม่เลือก...ก็จะมีคนเลือกให้มึงเอง... “ พี่เบิร์ดตอบมาเบาๆ.. “..กูบอกแล้วไง...ว่าไม่มีใครช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน..ถ้ามึงทำ...มึงก็รอด มึงก็ได้อยู่ที่นี่ต่อ ได้อยู่ทำพวกกูซวยแบบนี้ไปเรื่อยๆ... “
“..ถ้าไม่..ก็ต้องไป.. “ ผมยังจำได้ที่พี่โตบอก
“....แถมไปลงนรกด้วยน่ะ...นรกกว่าที่มึงต้องเจอตอนนี้ นรกยิ่งกว่าพรรคพวกที่ไม่จริงใจ..เอาแต่ประโยชน์เข้าตัวเอง และไม่หวังดีกับมึงซักคนแบบนี้ซะอีก...”บอกผมแล้วก็หัวเราะเบาๆ..
....ไม่จริงใจ..
ไม่หวังดี.. เอาแต่ประโยชน์...
ผมมองหน้าคนที่พูดประโยคนี้ออกมา อยากรู้ว่าเขาจะทันคิดรึเปล่า ว่ามันหมายถึงตัวเอง แต่พอเห็นใบหน้าเยาะหยันนั่นแล้ว ความรู้สึกไม่แน่ใจก็หายไปทันที..
“...ไม่หวังดีงั้นเหรอ...”ผมมองหน้าคนพูด “..งั้นมาบอกผมทำไม..ปล่อยๆให้ผมซวยไปก็น่าจะดีแล้วนี่..”
“...ก็ลองถามไอ้โตดูสิ..ว่ามันคิดยังไง...ปรกติมันสนุกจะตาย ที่เห็นคนแบบมึงต้องตายทั้งเป็น...” ตอบแล้วไพล่ไปหาคนที่ไม่อยู่ตรงนี้ ทำหน้าเหมือนรายนั้นกำลังหาเหาใส่หัวอยู่..
...ผมเบือนหน้าหนี ถอนใจเบาๆ..เมื่อนึกถึงคนที่ถูกกล่าวถึง..
มีความสุข ที่เห็นคนอย่างผมต้องตกนรกทั้งเป็นงั้นเหรอ?
ทั้งที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แล้วปล่อยให้ผมเจอดีซะให้รู้แล้วรู้รอด..แล้วจะมาช่วย มาบอก ให้คนอื่นมาลำบากคุยกับ”คนโง่”อย่างผมให้รู้เรื่องไปทำไม?..
...ก็น่าจะเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง..แบบที่พี่เบิร์ดว่าไม่ใช่รึไง?
เพราะอะไรล่ะ..ถึงต้องทำแบบนี้...
“..แล้วต้องทำอะไร?... “ ผมถามออกมาอย่างอับจนปัญญา รู้สึกถึงลมหายใจที่ไม่มั่นคงของตัวเอง..และน้ำเสียงที่สั่นไหว..
“..ไม่ยาก....”คนบอกยักไหล่ “..แค่เอาของไปส่ง..ให้พวกที่อยู่อีกแดน..และ...”กำจัด”...เสี้ยนหนามของพวกกูไปซะ...แค่นั้น...”
“...หมายถึง....”
“..ใช่...ส่งยา...และ ฆ่าคน...ให้พวกกูเห็นไงล่ะ.. “
ผมกลั้นหายใจ..เมื่อได้ยินคำตอบนั่น..
“...........”
“..มือนี่น่ะ...เคย”ฆ่า”ใครสักคนมาแล้ว.. “ พี่เบิร์ดกำแขนผมแน่นพร้อมทั้งมองหน้า จ้องสบตาอย่างเยือกเย็น “...มือนี้น่ะ มันเปื้อนเลือดไปจนล้างไม่ออกแล้ว..แค่เดินไป...ง่ายๆแค่นั้น...เดินไปเรื่อยๆ...แล้วเอาของไปให้...เสร็จแล้วก็....ฆ่ามัน...แค่นั้น...แค่นั้นเอง...”
เดินไป...แล้วฆ่ามันซะ..งั้นเหรอ..
...ทำเหมือนที่เมฆเคยทำงั้นสิ..
ทำทุกอย่าง..ให้คนๆนั้นยอมไว้ใจ..เผลอเรอ....แล้วก็..ฆ่า...มันซะ...
“..มะ....ไม่..น่ะ....ผม..... “ ผมดึงแขนออกจากมือที่บีบแน่น สีหน้าของตัวเองเป็นอย่างไรไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้ภาพความทรงจำของตัวเองมันหมุนวนมาอีกรอบ ภาพของมือเปื้อนเลือด...ภาพของร่างไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่ง...ภาพพวกนั้น...ที่ผมไม่อยากพบเห็นมันอีกแล้ว...
“...ทำไม...” ผมได้ยินตัวเองถามออกไปแบบนั้น...” ทำไม...ต้องเป็นผม... “
..ทำไมล่ะ ทำไมไม่ใช่คนอื่น..
คนไหนก็ได้ คนที่โหดร้ายกว่านี้ คนที่ฉลาดกว่านี้ คนที่สามารถเข้าใจอะไรได้ง่ายๆและทำตามคำสั่งของทุกคนได้ง่ายกว่านี้ คนแบบนั่น..แบบนั้นน่ะมีมากมาย
..แล้วทำไม..ทำไมต้องเป็นผม..
“...เพราะมันน่าสนุกไงล่ะ...” เสียงที่ได้ยินทำให้ผมชะงัก...หันไปมองหน้าคนพูดทันที..
“..การเล่นกับชีวิตของคน ความรู้สึกของคนน่ะ...มันสนุกแค่ไหนรู้มั้ย?.. “ เสียงหัวเราะแหบพร่าดังมาพร้อมกับร่างของคนตรงหน้าที่ทรุดลงข้างตัว “...ยิ่งดีเท่าไหร่...ยิ่งใสซื่อ..ยิ่งบริสุทธิ์แค่ไหน...ถ้าทำให้มันเปื้อนได้...ทำให้มันเปลี่ยนไป..กลายเป็นแบบที่ตัวเองต้องการ...มันสนุก...ใช่มั้ยล่ะ....”
“............”
“..และยิ่งมึง..ต่อต้าน ขัดขืนมากแค่ไหน..คนพวกนั้น..คนข้างบนนั่น ก็จะยิ่งกด..ให้มึงต่ำลงไป..ให้จมลงไป..เรื่อยๆ...โดยที่พวกกูไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลย..”
“.............”
“ ..กระทั่งไอ้พี่โตที่คอยคุมกะลาหัวเน่าๆแบบนี้...ก็ต้องยืนนิ่ง..ได้แต่ยืนมอง..โดยไม่มีสิทธิ์...จะช่วยเหลือหรือทำอะไรให้มึง..ได้อีกแล้ว...”
“....เขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้ผมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่.. “ ไม่รู้ว่าเพราะความน้อยใจ หรือความผิดหวังงี่เง่าอะไรที่ทำให้ผมพูดแบบนั้นไป.. แต่พี่เบิร์ดก็หัวเราะเบาๆรับ
“..อืม..นั่นสิน่ะ..ไม่เคยทำอะไรหรอก..”
“..ทุกคนก็ด้วย ไม่เห็นมีใครจะทำอะไรให้ผม ไม่มีใครใจดีด้วยซักคน..” แต่ผมกลับไพล่ไปคิดถึงเรื่องที่เคยเจอะเจอกันมา และคำพูดของคนตรงหน้า ที่บอกว่าผมมันตัวซวย..ผมที่ทำร้ายพวกเขาโดยไม่รู้ตัว..
“..อือ...ใช่ๆ...”
...แต่พอคิดว่าจะต้องไปอยู่ที่ไหน..กับใครไม่รู้..และ...จะเจออะไรไม่รู้
“....แต่ผมก็ไม่อยากไปนี่...”
“...งั้นก็เลือกซะสิ..ว่าจะทำหรือไม่ทำ..” พี่เบิร์ดถาม แล้วมองหน้าผมที่นิ่งเงียบ..เขาทอดสายตาออกไปมองรอบๆห้องขังสี่เหลี่ยมอย่างเลื่อนลอย..แล้วถอนใจเบาๆ...
“..ยอมรับซะเถอะ..ว่ามึงน่ะ...กลายเป็นของเล่นให้คนอื่นไปแล้ว..”
“...น่าสมเพชตัวเองชะมัด...” ผมหัวเราะขื่นๆออกมา..
“..อืม...”
“.................”
“..แล้วจะเอายังไง..มึงจะเลือกทางไหน?..”
...ผมมองหน้าคนพูด..ในสมองกำลังครุ่นคิดอย่างจริงจังกับคำถามนั้น....
..จะยอมทำตามไหม?..
“..แค่ให้รู้ว่ายอมอยู่กลุ่มเดียวกัน..ทำไม..ต้องให้ทำถึงขนาดนั้น..” ผมถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ หัวสมองปวดหนึบกับทางเลือกที่ไร้เหตุผล “..แค่ให้รู้ว่าอยู่ฝ่ายไหน..ทำไมต้องทำ...ไม่เข้าใจ..”
“..กูบอกแล้วไง..ว่าเป็นแบบนี้...เพราะอะไร” พี่เบิร์ดลุกขึ้นช้าๆ แล้วหันมามองหน้าผม “..ที่กูจะพูดก็มีแค่นี้... ตอนนี้มึงก็รู้แล้วมั้ง ว่าตัวเองอยู่ในฐานะไหน..”
“...ตัวพนัน..ตัวหาผลประโยชน์...”..ผมแสยะยิ้มหยัน..อย่างนึกสมเพช...
“...รู้ตัวก็ดี...”
“..ถ้าผมไม่ทำ...ทุกคนจะเดือดร้อนไหม.?.. “ คนฟังขมวดคิ้ว หันมามองหน้าผม ด้วยสีหน้าครุ่นคิด..
“..ก็แค่ไอ้โตล่ะมั้ง..ที่ต้องเจอดี..แต่มึงจะสนใจอะไรล่ะ ยังไงมันก็ทำมึงซวยไม่ใช่เหรอ..”
“..แล้วคนอื่น... “ ผมปัดความตกใจของตัวเองออกไป ถามหาคนอื่นๆ..คนอื่น..ที่ไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้น..
“..ไม่...ถ้าตราบใดที่มึงไม่ไปอยู่กับไอ้กันย์..”พี่เบิร์ดว่า ก่อนจะถลึงตาใส่ทันที “..แต่อย่าคิดน่ะ ว่าไปอยู่กับไอ้กันย์แล้วจะรอด..ไม่ว่าอยู่กับใคร ยังไง สิ่งที่มึงต้องทำก็คือแบบนี้นั่นแหละ..”
“..ผมรู้...”..ได้แต่ยิ้มเยาะหยันตัวเองไปพลางๆ..
“...แล้วจะเอาไง...”
...ผมมองหน้าคนถาม..คิดทบทวนถึงสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา..
..นับแต่ที่เขาบอกว่า..ทุกคนเข่ามาหาผมและทำดีกับผมเพื่อประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับ..
..บอกว่าคนๆหนึ่งที่ผมตามต้อยๆอยู่ทุกวัน ยอมให้ผมอยู่ข้างๆเพราะคำสั่งของใครอีกคน..ที่ผมไม่รู้จัก...
....และทางเลือก..ที่ผมต้องเลือก..ระหว่างฆ่าคนที่ผมไม่รู้จัก...ไม่มีความแค้น...ไม่ได้มีอะไรต่อกันเพื่อให้ตัวเองได้รับการยอมรับ และได้อยู่ที่นี่...ที่เดิม กับคนกลุ่มเดิม..
..กับการไม่ยอมกระทำ..และต้องเจอกับสิ่งที่แย่กว่า..ที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร..
“.ถ้าอีกสามอาทิตย์..มึงยังทำงานให้กูไม่ได้..มึง...ก็อยู่กับกูไม่ได้.. “
“หา...?... “
“..ถ้ามึงทำงานให้กูไม่ได้...ทำ “เลว”ให้กูเห็นไม่ได้..มึงจะโดนย้ายไปอยู่แดนอื่น..กับ...”
“ กับคนอื่น..ที่...จะทำกับมึง ไม่ต่างกับ..ที่ไอ้เมฆเคยเจอ..”
“..มึงต้องออกไป..จากที่นี่...ไปอยู่กับคนอื่น ที่เขาจะเอามึงอยู่.. “ “..มึงไม่ใช่เด็กแล้ว..อย่าให้กูพูดหลายรอบ..ถ้ามึงทำได้ มึงก็ได้อยู่..ไม่ใช่กับกูก็ได้ จะกับไอ้ทินไอ้แม้กไอ้วิทย์หรือไอ้กันย์ก็แล้วแต่..ถ้ามึงทำ มึงก็ได้อยู่ตรงนี้..แต่ถ้าทำไม่ได้..มึงก็จะได้ไปอยู่กับคนที่ ไม่บังคับมึง คอยดูแลมึง เอาใจใส่..มันก็อาจจะดีกับมึงก็ได้นี่.......คำพูดของคนบางคนดังขึ้นมาในสมองของผม..อาจจะดีกับผม..งั้นเหรอ?..
คนที่พี่เบิร์ดบอกว่าไม่ได้หวังดีกับผมจริงๆ บอกว่าถ้าผมทำไม่ได้..ก็ต้องไปอยู่กับคนอื่น..คนอื่น..ที่ไม่บังคับผม..ที่ดีกับผม..ที่ไม่ทำร้ายผม..
...มันจะมีจริงเหรอ?..คนแบบนั้น...
“..ถ้าทำไม่ได้..ต้องไปอยู่กับใครน่ะ..?..”
คนฟังทำหน้าตาประหลาดๆใส่ทันที่ที่ได้ยินคำถามนั้น สีหน้าแหยงๆของพี่เบิร์ดทำให้ผมคิดว่าคน”ดีๆ”ที่พี่โตพูดถึง..มันคงไม่ได้ดีอะไรนักหรอก
“...เอ่อ...ผู้พัน...”
“..ใครล่ะ?..ชื่อผู้พัน..หรือเป็น...ผู้พัน..” ประโยคหลังผมก็ถามประชดประชันไปแบบนั้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้..
“..ผู้พันเป็น...” พี่เบิร์ดยังมีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อเหลือจะกล่าว “..เป็นมือขวาของเจ้านายไอ้โต..ก็เจ้านายกูและมึงด้วยนั่นล่ะ..เป็นนักโทษในเรือนจำพิเศษ..”
“..คิดว่าถ้าผมไปอยู่กับคนๆนั้น...อยู่กับผู้พัน..จะดีมั้ยล่ะ??..” ผมถามออกไป
“...ไม่รู้สิ...บางทีมึงอาจจะชอบก็ได้...”
อาจจะชอบ...งั้นเหรอ?..
แต่พอเห็นสีหน้าพี่เบิร์ดที่อาจจะเคยเจอมาแล้ว..คงบอกได้ว่า...ที่ผ่านมาไม่มีใครชอบเลยงั้นสิ...
..แล้วผมจะชอบ...งั้นเหรอ?..
เป็นไปได้รึเปล่า?...
ผมอาจจะมีอิสระ ไม่ต้องฟังคำสั่งใคร ไม่ต้องถูกทารุณ ไม่ต้องถุกดุด่า..
...แต่จะเป็นไปได้เหรอ?..เขาจะดีกับผมจริงๆงั้นเหรอ?..
แต่ถ้าอยากอยู่ตรงนี้ต่อไป...ก็ต้องแลกกับการทำลายชีวิตคนอีก..ใช่ไหม?..
...ต้องเสียอะไรไป..เพื่อแลกกับสิ่งที่อยากได้อีกเหรอ?..
ผมเม้มปากแน่น..ในอกปวดหนึบจนทรมาร ในสมองก็ปั่นป่วนจนคิดอะไรไม่ออก..
การหนีจากเรื่องที่เจอไปตายเอาดาบหน้า กับการยอมทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการเพื่อรักษาสิ่งที่มีอยู่..ผมไม่รู้เลย ว่าจะเลือกอย่างไหน..
..ผมไม่อยากฆ่าคน....ผมไม่อยากทำร้ายใคร..
..แต่ผมก็ไม่อยากไปจากที่นี่..ไปจากคนที่คุ้นเคย อีกเหมือนกัน..
แล้วจะทำยังไง???
“..บอกมาได้แล้ว...เขาเรียกอาบน้ำ..”
น้ำเสียงเร่งเร้ายิ่งทำให้ผมปวดหัว..เม้มปากแน่น..อย่างอับจนหนทาง..
....ที่สุดแล้ว......ผมลุกขึ้นช้าๆแล้วเดินออกไปจากห้องขัง...
“...ไม่มีคำตอบ...”
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (ไม่มีไร แค่ลองเสียง)
ปวดหัวกับตัวเลือกนี้จริงๆ..เฮ้อ...
เป็นเราก็เลือกยากน่ะนั่น..
ตอนนี้ก็พยายามเขียนเต็มที่น่ะค่ะกลัวว่าจะออกมาไม่ดีเท่าที่คาดหวังไว้ รู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่แฮะ
แล้วที่หายไปหลายวัน..เอิ่ม...คือ เฟลเรื่องไม่เป็นเรื่องจนทำไรไม่ได้..ถ้าช่วงนี้คนรู้จักที่ได้คุยกันคงรู้ว่าเครียดเรื่องอะไร..อารมณ์ไม่ค่อยคงที่อย่างแรง รู้สึกผิดหวังกับมนุษย์บางรายอย่างที่สุดจนไม่มีสมาธิทำอะไรเลย ให้อภัยอิชั้นเถิดค่ะ ที่ไร้ความสามารถในการขจัดปัดเป่าเรื่องแบบนี้ ก็หวังแต่ว่าจะได้ย้ายหอ(อีกแล้ว) และจะไปพ้นหูพ้นตากันซักที เฮ้อ...
..แล้วใครที่บอกว่าผู้พันเหมือนอาเบะน่ะ ไม่ใช่น่ะผู้พันน่ะ
ยิ่งกว่า จ๊ะ (กร้ากกกก)