อั ค นี ก ช ก ร
อัลฟ่า x โอเมก้า
8
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในสวนผลไม้ ผมไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่
พอมองไปรอบ ๆ ท้องผมก็ดันร้องมันซะอย่างนั้น 'ไอ้กชมันใช่เวลาไหมเนี่ย' บ่นอุบอิบในใจเสร็จ ผมก็เริ่มเดินหาทางออก แต่ทว่าเท้าผมก็ต้องหยุดชะงัก
งูตัวใหญ่กำลังเลื่อยเข้ามาหาผม เกร็ดของมีสีดำนิลมันเงา ยามที่มันเคลื่อนไหว ผิวของมันจะกระทบกับแสงแดดระยิบระยับสวยงามอย่างน่าประหลาด ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงไม่ยอมวิ่งหนี ทั้งที่กลัวมาก
“เธอหิวงั้นเหรอ” เสียงทุ้มนุ่มดังก้อง หากแต่มองไปรอบ ๆ กลับไม่เห็นใคร นอกจากงูตัวใหญ่ ที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้
“ง...งู...งูพูดเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ...” มันน่าประหลาดจังจู่ ๆ งูตัวนี้ก็โผล่มา แถมยังพูดได้ “ตามฉันมา ฉันจะพาไปหาอะไรกิน” งูเลื่อยนำหน้าไปไม่ไกลมาก เท้าผมก็เริ่มก้าวตามไปติด ๆ
“คุณอยู่ที่นี่เหรอครับ” ผมถามระหว่างที่กำลังเดินตามไปด้วย
“ใช่...เดินตามมาเงียบ ๆ เถอะนา อย่าถามมาก” ผมหันไปจิปากใส่หนึ่งครั้ง หุบปากฉับเดินตามต่อ
ระหว่างทางมีต้นส้มอยู่หลายต้น ผลของมันดกมาก เดินถัดมาอีกหน่อยมีต้นเงาะ และมังคุด แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกพิศวาสอยากทานมันเลย จนกระทั่งเราเดินมาถึงต้นแอปเปิลเขียวต้นใหญ่ ที่มีเพียงต้นเดียวทั้งสวน
“กินสิ”
“...” ผมพยักหน้าก่อนจะเอื้อมมือเด็ดออกมาหนึ่งลูก จังหวะที่กำลังจะกัดผมก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างได้
นี้มันนังงูร้ายที่หลอกให้กินแอปเปิลในสวนเอเดนหรือเปล่าวะ
“ทำไมไม่กินล่ะ หิวไม่ใช่เหรอ” งูว่าต่อ “กินได้ไม่ตายหรอก”
“ผมว่าผมไม่หิว”
จ๊อกกกก~
เฮอะ! ไอ้ท้องไม่รักดี ขายขี้หน้าชะมัด
“กินเถอะ นี่เป็นสวนของข้าเอง”
“เอางั้นก็ได้ แต่ผมไม่ได้หิวหรอกนะ แค่กินเพราะคุณอยากให้ผมกิน”
ผมอ้าปากกว้างกัดแอปเปิลสีเขียวคำใหญ่ดังกรอบ รสชาติของมันทั้งหวาน ทั้งหอมจนผมไม่สามารถหยุดกินมันได้
ผมเด็ดแอปเปิลมาอีกสองสามลูกใส่กระเป๋ากางเกงเอาไว้ เผื่อว่าระหว่างที่ออกไปจากที่นี่ผมจะหิว
“อร่อยใช่ไหม”
“อืม ๆ อร่อยมากเลย”
“หึ หึ เสร็จข้าล่ะ” สิ้นสุดประโยคงูก็พุ่งตัวเข้ามารัดตัวผมอย่างไม่ทันตั้งตัว และผมก็
ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่!
ผมดีดตัวขึ้นมาพลางร้องโวยวายใหญ่โต งูมันจะกัดคอผม ฝ่ามือถูไปรอบ ๆ คอตัวเอง ก่อนจะรู้ตัวว่าผมแค่ฝันไป
“เฮ้อ...ฝันนี่หว่า” บ่นกับตัวเองจบก็ทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ผ้าห่มถูกโกยขึ้นมากอดเอาไว้แน่น แล้วซุกหน้าลงอย่างสบายใจ
นุ่มจังเลยนา... แล้วนั่นกลิ่นอะไร มันทำให้ผมรู้สึกไม่อยากตื่นเลย มันหอมเหมือนอะไรนะ
อ๋อ...เปลือกไม้…
หลังจากที่นึกขึ้นได้ว่าไอ้กลิ่นแปลก ๆ นี่คือกลิ่นอะไร ผมก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ห้องผมนี่นา
ผมเริ่มทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานและปิ้งป่อง! ให้ตายเถอะ เพราะไอ้อัลฟ่าเฮงซวยนั่นอีกแล้ว!
แล้วทำไมผมต้องมีอะไรกับเขาเป็นครั้งที่สองเนี่ย...
ผมก้มมองตัวเองที่อยู่ในสภาพที่สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียว และเมื่อกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก็พบว่าในห้องไม่มีใครอยู่นอกจากผมเพียงคนเดียว
ก็ดี...
ผมมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง เพราะตั้งใจว่าจะออกจากที่นี่เงียบ ๆ โดยไม่บอกใคร
แกร๊ก!
“ตื่นสักที” ยังไม่ทันสิ้นสุดความคิด อัลฟ่าตัวใหญ่ก็เดินเข้ามา กลิ่นที่เคยหอมจาง ๆ ก็ชัดขึ้น
อัคนีไม่ได้เดินมาตัวเปล่า เขามาพร้อมกับแก้วนมที่เพิ่งสั่งให้แม่บ้านอุ่นไว้ให้
“ดื่มนี้ก่อนสิ จะได้สบายท้อง”
“ผมไม่ดื่ม ผมจะกลับบ้าน” ว่าจบผมก็หย่อนปลายเท้าลงจากเตียง
“ใครอนุญาตให้ลุก” ผมชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะน้ำเสียงของเขานิ่งเรียบ และดุดัน แววตาที่เขาใช้มองมาคมกริบ
“ผ...ผมอยากกลับนี่”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน ตอนนี้ดื่มนมนี่ก่อน มันอุ่นกำลังดีเลยนะ”
ผมรับแก้วนมไว้แล้วค่อย ๆ ละเลียดจิบลงคออย่างเชื่องช้า ท้องผมรู้สึกอุ่นวาบ มันรู้สึกดีจริงอย่างเขาว่านั่นแหละ
เขาเดินไปหยิบชุดในตู้เพื่อให้ผมเปลี่ยน แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
ผมจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำในเวลาต่อมา ตอนนี้หน้าห้องมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังยื่นรออยู่ เขาสวมชุดสูทสีเทาเข้ารูป
“คุณกชกรสินะครับ คุณชายรออยู่ที่ห้องทำงานแล้ว”
“...” ผมพยักหน้ารับแล้วเดินตามคนตรงหน้าไปยังห้องทำงาน มันอยู่ไม่ไกลจากห้องนอนเท่าไหร่นัก ผู้ชายคนนั้นเคาะห้องสามครั้ง ก็มีเสียงตอบกลับมาจากด้านใน
เขาเปิดประตูให้ผมเข้าไปเพียงคนเดียว แล้วประตูก็ปิดลง ผมสาวเท้าเข้าไปใกล้คนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ตรงนั้นมีอัลฟ่าตัวโตสวมแว่นตานั่งอ่านเอกสารบางอย่างอยู่ บนโต๊ะเองก็มีแฟ้มกับอะไรไม่รู้รกเต็มไปหมด
“นั่งก่อนสิ” เขาว่าทั้งที่ยังสายตายังจดจ่อกับการอ่านเอกสาร
“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมก็รีบพูดมา” ฝ่ามือที่กำลังจับปากกาอยู่ว่างลง แล้วหันไปเปิดลิ้นชักแทน
เขายืนซองเอกสารส่งมาให้ผม “อ่าน...” ผมหยิบมันขึ้นมา แล้วค่อย ๆ เปิดซองออก ในนั้นมีกระดาษเอสี่หนึ่งแผ่น เป็นเอกสารรับรองจากโรงพยาบาล
‘ตั้งครรภ์สิบห้าสัปดาห์’ ให้ผมอ่านทำไมวะ จะอวดว่าเมียท้องเหรอ ผมต้องแสดงความยินดีหรือเปล่าเนี่ย
“...” ผมเงยหน้าขึ้นมองหลังจากอ่านจบ แต่ทว่าคนตรงหน้ากับนิ่งเงียบ ผมไม่เข้าใจภาษากายของเขาเลย
“ดีใจด้วยนะคุณ” ผมฉีกยิ้มกว้าง แบบปลอม ๆ ส่งไป “ส่วนเรื่องเมื่อคืนคุณไม่ต้องห่วงผมจะไม่บอกเมียคุณ หมดเรื่องแล้วใช่ไหม”
“ให้ตายเถอะ เธอเข้าใจหรือเปล่า” ว่าจบแว่นตาที่เขาสวมอยู่ก็ถูกดึกออก
อัคนีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนนี้เขากำลังนวดสันจมูกตัวเองเบา ๆ เพราะโอเมก้าตรงหน้าดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเสียเลย นอกจากนั่งทำตาแป่ว
“อะไร อยู่ ๆ คุณก็ให้ผมอ่าน ผมจะรู้เหรอ”
“เธอท้อง...”
กชกรรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังกลั้นหายใจชั่วขณะ ตอนที่อัคนีบอกกับเขาว่า เขาท้อง
บ้าไม่จริง! ก็ผมตรวจไปแล้วนี่ จะท้องได้ไงกัน
“ฮันแน่ มีกล้องปะเนี่ย” สายตาสอดสายมองออกไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจว่าเป็นการแกล้งกันเล่นหรือเปล่า “ผมไม่ตลกนะ...” ผมเริ่มรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
อัลฟ่าตัวใหญ่เอาแต่นั่งจ้องเขม็ง ไม่พูดไม่จา บรรยากาศในห้องเหมือนมีคนกำลังลดอุณหภูมิให้เย็นลง ตัวผมชาวาบไปทั้งตัว ก่อนจะหยิบเอกสารที่วางอยู่ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
สิบห้าสัปดาห์...
“ไม่จริงอะ ผมตรวจแล้วมันขึ้นขีดเดียว จะท้องได้ไง”
“เธอ...ท้อง...” เขาพูดเสียงเรียบเน้นคำช้า ๆ ชัด ๆ
ผมรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้อำผมเล่นแล้ว
“...” ผมก้มมองหน้าท้องของตัวเอง แล้วลองเอาฝ่ามือติดสั่นวางทาบ แต่ผมก็ต้องรีบดึงมือออกทันที “มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ผมจะเอามันออก”
ผมไม่พร้อม คนทั้งคนจะเกิดมาแบบนี้ไม่ได้
“ฉันไม่อนุญาต”
“แต่ผมเป็นคนท้องนะ ทำไมผมต้องขออนุญาตคุณด้วย”
“นั่นก็ลูกฉันเหมือนกัน”
“...” ผมสะอึกกับคำพูดของเขา ใช่มันคือลูกของเขาเหมือนกัน เพราะอัลฟ่าคนเดียวที่ผมมีอะไรด้วยคือเขา “แต่ผมยังไม่พร้อม จะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันไม่ใช่แค่ทำให้เขาเกิดมานะคุณ” ผมพยายามหาเหตุผลที่ดี
“แต่ฉันพร้อม...ถ้าเธอไม่โอเค ก็แค่คลอดเขาออกมา ฉันเลี้ยงเอง”
ฟังดูเหมือนผมเป็นคนเห็นแก่ตัวยังไงก็ไม่รู้ แต่ผมจะให้เด็กหนึ่งคนคลอดออกเพราะความผิดพลาดแบบนี้ไม่ได้
“ไม่รู้ล่ะ ผมจะเอาเด็กออก” ผมยังยืนยันคำเดิมหนักแน่น
“ห้าสิบล้าน”
“...?”
“คลอดเด็กคนนี้ให้ฉัน”
ห้าสิบล้าน! ผมชะงักกับจำนวนเงินที่ถูกเสนอมา นี่ผมต้องทำงานกับพี่กรรณกี่ชาติถึงจะได้เนี่ย... เอายังไงดีวะ เงินก็อยากได้ อนาคตเด็กก็เป็นห่วง
เหมือนในหัวผมตอนนี้มีตัวดีกับตัวร้ายโผล่มายังไงก็ไม่รู้
‘เฮ! กชพ่อเด็กก็บอกแล้วนี่เขาพร้อมเลี้ยงจะกลัวอะไร’
‘ไม่ได้นะกช เด็กที่เกิดมาจากความผิดพลาด จะได้ความรักอย่างแท้จริงได้อย่างไรกัน’
‘พูดมากนังตัวดี เขารวยขนาดนั้น ชีวิตเด็กที่เกิดมายังไงก็ดีอยู่แล้ว’
‘เธอต้องอุ้มท้องเขาตั้งเก้าเดือน เธอไม่รักเขาบ้างหรือไง’
‘เอ๊ะนังนี้ ไปตายซะเถอะ! ย๊ากกกกกกกกกกกกกกก’
โอเค! ผมตัดสินใจได้ล่ะ - -”
“คุณจะเอากลับไปคิดก่อนก็ได้ แต่ฉันอยากให้เธอเก็บเขาไว้นะ”
“แล้วถ้าเกิดว่าผมแท้งขึ้นมาล่ะ”
“ถ้าเกิดจากความผิดปกติ ฉันจะจ่ายให้ยี่สิบล้าน แต่ถ้าเธอจงแล้วล่ะก็ ฉันจะคิดกับเธอเป็นสิบเท่า”
ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ ถ้าผมจะตอบ “...ตกลง” ไม่เพียงแค่คิด แต่ผมตัดสินใจพูดมันออกมา
ไหน ๆ พ่อเด็กก็บอกว่าพร้อมแล้วนี่นะ เงินห้าสิบล้านไม่รู้ว่าผมจะได้สัมผัสตอนไหนถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แค่เก้าเดือนเองกชกรก็จะกลายเป็นเศรษฐี
“งั้นก็รอแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวฉันจะให้เลขร่างสัญญาไปให้เธอเซ็น”
เขาคุยกับเลขาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเราก็เดินลงมายังชั้นล่างของบ้าน โต๊ะอาหารตัวยาวมีอาหารวางรออยู่หลายอย่าง แต่มันก็ยังไม่ทำให้ผมรู้สึกอยากอาหารแม้แต่น้อย
ผมนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง ส่วนเขาเองก็เลือกนั่งหัวโต๊ะ เมื่อนั่งประจำที่แล้ว แม่บ้านก็เดินมาตักข้าวใส่จานของผมแล้วเดินออกไป
“คุณไม่ทานข้าวเหรอ?” ผมว่า ก็เห็นเขาชวนผมลงมาทานข้าว คิดว่าหิวซะอีก
“ฉันไม่หิว” ว่าจบเลขาคนเดิมก็เดินเอากล่องสีใสวางไว้ตรงหน้าเขา
“...” มันเป็นกล่องแอปเปิลเขียวหันเป็นชิ้นพอดีคำ หรือจะเป็นเพราะผมฝันเหรอ เลยรู้สึกว่าอยากกินมันมาก “คุณ...ผมอยากกิน” ผมว่าพลางใช้สายตามองไปที่แอปเปิลในกล่อง
“เอาสิ” ได้ยินคำอนุญาตแล้วผมก็ใช้ส้อมจิ้มแอปเปิลในกล่องกินหนึ่งชิ้น
อืม...อร่อย~
ผมไม่เคยกินแอปเปิลครั้งไหนแล้วรู้สึกฟินขนาดนี้มาก่อนเลยอ่า... ผมจิ้มอีกชิ้นใส่ปากเคี้ยว
“คุณกชเองก็ทานได้แต่แอปเปิลเหรอครับ” เลขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า
“เปล่าครับ แค่วันนี้รู้สึกอยากทานน่ะครับ”
“ดีจังเลยนะ คุณชายแพ้ท้องแทนคุณหนักมาก ทานได้แต่แอปเปิลเขียว ก่อนหน้านี้ทานแต่ดอกไม้”
“ฮ่า ๆ จริงเหรอครับเนี่ย” ผมว่าพลางกลั้วหัวเราะ นี่เขาแพ้ท้องแทนผมเหรอ ถึงว่าผมไม่มีอาการอะไรเลย นอกจากกินเก่งขึ้น
ผมหยุดหัวเราะทันทีเมื่อถูกดวงตาคู่คมจ้องเขม็ง
“คิม...ถ้าคุณว่างมาก ก็ขึ้นไปทำเอกสารสัญญามาให้ฉัน”
“ครับคุณชาย” เลขาว่าก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
“เดี๋ยวสิ” เขาเรียกเลขาอีกครั้ง เหมือนกำลังจะนึกอะไรบางอย่างได้ “สั่งให้แม่บ้านเอาแอปเปิลมาให้คุณกชด้วย” เลขาโค้งตัวลงแล้วเดินออกไปทันที
“คุณเอามาให้ผมเหรอ?” ผมถามออกไปอย่างไม่คิดอะไร
“ก็ใช่น่ะสิ เธอกินของฉันจะหมดอยู่แล้ว แค่นี้ใครจะไปอิ่มกัน”
“...ชู่ว์~ ผมไม่ได้อยากกินสักหน่อย เจ้าตัวอ่อนในท้องผมต่างหากล่ะที่อยากกิน” ว่าจบผมก็เบะปากใส่ไปหนึ่งที
หมั่นไส้นัก...
“ทารก ไม่ใช่ตัวอ่อน”
“โอ๊ย~ คุณ...ลูกคุณขายังไม่งอกเลยมั้งน่ะ”
“...” อัคนีไม่ตอบอะไรนอกจากส่ายหัวเบา ๆ แล้วหยิบไอเพดขึ้นมาอ่านข่าวออนไลน์
มีแต่ภาษาปะกิดเลยแฮะ อ่านอยู่หรือดูแค่ภาพกันละเนี่ย...
ไม่นานแม่บ้านก็เดินเอาจากแอปเปิลเขียวมาวางไว้ ผมตักในจานของตัวเองแบ่งใส่กล่องคืนให้อัลฟ่าตัวใหญ่ เขาหันชำเลืองตามองผมแวบหนึ่ง “ก็คืนไง ที่ผมกินของคุณ”
อัคนีกลั้นหัวเราะไว้ได้แต่ก็หลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจะคืนทำไมกัน ในเมื่อแอปเปิลในจานเขาก็เป็นของผม
บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง มีเพียงเสียงผมกัดแอปเปิลดังกรอบจนรู้สึกเขินที่จะเคี้ยวเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน
ก็มันเงียบมากเลยนี่นา -..-”
“นี่ ๆ คุณชื่อเพลิงใช่ไหม” บรรยากาศมันเงียบเกินไปจนผมต้องเป็นฝ่ายชวนเขาคุยอีกครั้ง
“อืม” เขาพยักหน้าลงเล็กน้อย
“แล้วชื่อจริงล่ะ”
“...จะรู้ไปทำไม”
นี่เขาไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกับผมเลยเหรอ - -
“ก็เราเป็นหุ้นส่วนกันนี่นา คุณยังรู้ชื่อผมได้เลย” เขาพรูดลมหายใจยาว ๆ แล้วละสายตาจากไอเพดหันมาตอบ
“อัคนี มีอะไรจะถามอีกไหม?”
หึ้ย! โคตรนิสัยไม่ดีเลย คนแค่ถามเอง จะทำท่ารำคาญอะไรขนาดนั้น
“มี...” ผมเงียบเว้นวรรคแล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง “...คุณแพ้ท้องแทนผมจริงดิ ฮ่า ๆ” ผมเอ่ยปากแซว เพราะต้องการกวนประสาทคนตัวโตที่นั่งทำหน้านิ่ง
“กิน ๆ เข้าไปพูดมาก” ว่าจบอัคนีก็ใช้มือหยิบแอปเปิลในจานยัดใส่ปากผม
“อื้อออ...อุน!”
ผมตั้งท่าเอาคืนบ้าง แต่แล้วเสียงรถที่วิ่งเข้ามาจอดอยู่หน้าบ้านก็ทำให้เราหันไปสนใจ ชายชุดดำเดินเข้ามาข้างใน คนที่เดินตามหลังมาเป็นสิงห์ เพื่อนผมเอง
มันมากับใครวะนั่น คงไม่ได้เป็นหนี้นอกระบบแล้วโดนจับหรอกใช่ไหม
“สิงห์มาได้ไง” ผมว่า
“เรื่องมันยาว” ว่าจบมันก็หันไปทักทายเจ้าของบ้าน “สวัสดีครับคุณเพลิง”
“สวัสดีครับ” อัคนีตอบกลับ “พวกเธอไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นก่อนก็ได้ เดี๋ยวให้แม่บ้านยกผลไม้เข้าไปให้”
“ครับ” ผมตอบรับแล้วลุกออกมาจากโต๊ะทานข้าว แม่บ้านคนหนึ่งเดินนำ พาพวกเราไปยังห้องนั่งเล่น ก่อนจะเดินออกไปเตรียมผลไม้กับเครื่องดื่มมาวางไว้
“สรุปมึงท้องจริง ๆ เหรอ” สิงห์ถามทันทีที่ผมทิ้งตัวลงนั่ง
“เออกูท้อง” ผมตอบสั้น ๆ ก่อนจะหยิบแอปเปิลในจานมากินต่อ
“ฮะ!” สิงห์หน้าซีดทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น “มึงไม่ตกใจหน่อยเหรอ นั่งแดกชิลเลยนะ” ว่าจบสิงห์ก็ดึงมือผมเอาไว้ให้หยุดกิน
ห้ามคนท้องกินมันบาปนะเว้ย!
“กูคุยกับพ่อเด็กแล้ว พ่อเด็กให้กูเอาเด็กไว้ แลกกับห้าสิบล้าน”
“เชี่ยยยยยยย!” อาการของสิงห์ที่แสดงออกมาไม่ทำให้ผมตกใจเท่าไหร่นัก เพราะผมตกใจมาก่อนหน้ามันไปหมดแล้ว “แต่เดี๋ยวนะ แบบนี้เฮียกรรณก็รู้ดิว่ามึงท้อง”
เหมือนโลกของผมหยุดหมุนอีกครั้ง แอปเปิลในมือร่วงลงพื้น ผมลืมคิดเรื่องของพี่ชายไปสนิทเลย
“สิงห์... ทำยังไงดีวะมึง กูลืมเรื่องเฮียไปเลย” ผมว่าหน้าตื่นเขย่าตัวสิงห์จนร่างกายสั่นคลอน
“หยุดเขย่ากูก๊อนน กูปวดไปทั้งตัวแล้วเนี่ย” ผมหยุดตามที่สิงห์ร้องห้าม “กูว่ามึงบอกเฮียไปเลยดีไหม”
“ไม่ได้ดิ ถ้าเด็กคลอดออกมากูต้องยกลูกให้เขา แบบนี้จะไม่ดูแปลกเหรอ”
“เหี้ยล่ะ กูขอคิดแป๊บ” สิงห์นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นหลายนาที และในที่สุดมันก็พูดขึ้น “กูก็ไม่รู้วะ คิดไม่ออก”
เออดีจริง ๆ แล้วมันจะนั่งนิ่งให้ลุ้นทำไมกัน...
“โอ้ยเครียดโวยยยยย เฮียฆ่ากูแน่” ว่าจบผมก็ดึงทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
“เอาแบบนี้ไหม มึงก็บอกเฮียว่ามึงจะเรียนต่อ”
“...” ผมหยุดทุกการกระทำ แล้วนั่งมองสิงห์ด้วยความหวังครั้งใหม่ “เฮียจับได้แน่ กูท้องแค่เก้าเดือนเองนะเว้ย อีกอย่างยังไงเฮียก็ต้องให้กูกลับมาช่วยงานที่ร้านอยู่ดี”
“เรียนต่อเมืองนอกไง ระหว่างนั้นก็ไปอยู่บ้านป๊ากูที่แอลเอก่อนก็ได้ คลอดเด็กแล้วค่อยกลับมาไทย”
“เฮียจะให้เหรอวะ กูโง่มากเลยนะสิงห์ แล้วจู่ ๆ จะไปเรียนเมืองนอก มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”
“เฮียอยากให้มึงเรียนจะตาย เดี๋ยวยังไงกูช่วยพูดอีกที”
จริง ๆ บ้านสิงห์อยู่เมืองไทย แต่หลังจากที่สิงห์จบมอหก พ่อกับแม่มันก็ไปรับช่วงต่อธุรกิจของคุณปู่ เป็นขนส่งอะไรสักอย่างนี้แหละผมก็จำไม่ได้ จำได้แค่ว่าอยู่ที่แอลเอ
สิงห์ไม่ยอมย้ายตามพ่อกับแม่ไป หลังจบปริญญาตรีเขาก็ถูกตามตัวให้กลับไป แต่ทว่าเขาดันขอเรียนต่อโท ไม่รู้ว่ามันจะยื้อเวลาแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ลองถ้าเป็นผมสิ ไปตั้งแต่จบมอหกแล้ว
หลังจากคิดหาวิธีเรียบร้อย ผมไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเลย เพราะแผนที่คิดไว้มันยังไม่สำเร็จ เรานั่งคุยกันต่ออีกนิดหน่อยเลขาก็เดินเข้ามาตาม
ผมสาวเท้ามายังห้องทำงานที่มีอัลฟ่าตัวโตนั่งอยู่ประจำที่ เขายังคงสวมแว่นตานั่งอ่านเอกสารเหมือนเมื่อเช้าในท่าเดิมเป๊ะ ส่วนผมก็เดินไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่
อัคนีเอาซองเอกสารสัญญาออกมาวางให้ผมอ่าน มันมีทั้งหมดห้าหน้ากระดาษ สิ่งแรกที่ผมดูเลยคือจำนวนเงินถูกหรือเปล่า แล้วจึงเซ็นเอกสารทันที
“เธอไม่อ่านก่อนเหรอ”
“ตัวหนังสือเยอะเกิน อ่านแล้วผมง่วง” ผมส่งเอกสารส่งกลับไป
“ก็ดี งั้นพรุ่งนี้ก็เก็บข้าวของย้ายไปที่คอนโดฯ ฉันได้เลย อยู่นั้นน่าจะสะดวกกับคนท้องมากกว่า”
อัคนีคิดเอาไว้หมดแล้ว บ้านหลังที่เขาอยู่มันเป็นสองชั้น คิดดูแล้วมันจะไม่สะดวกกับกชกรแน่ ยิ่งนานวันท้องเขาจะต้องใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ การเดินเหินจะยิ่งลำบาก อีกอย่างที่คอนโดฯ เขาก็สะดวกสบายไม่ต่างจากบ้านนักหรอก แถมไม่มีบันไดอีกต่างหาก...
“เดี๋ยว ๆ ไปไหน ผมไม่ไป”
“เธอเซ็นสัญญาแล้วนี่ เรื่องที่ต้องย้ายมาอยู่กับฉัน มันข้อหนึ่งเลยนะ กชกรต้องอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับนายอัคนีจนกว่าจะคลอดบุตร จึงจะสามารถออกจากบ้านหลังนี้ได้”
“...” เชี่ยละ! ไม่ได้อ่านเอกสารสักตัว มันมีอะไรอีกบ้างล่ะเนี่ย “...มันเร็วไป ผมต้องขอเวลาเคลียร์กับที่บ้านด้วย”
“ฉันให้เวลาสามวันเท่านั้น ฉันต้องการดูแลลูกของฉันอย่างใกล้ชิด” นี่ขนาดยังไม่คลอดออกมายังหวงขนาดนี้ ไม่อยากคิด ถ้าลูกเกิดเป็นโอเมก้าขึ้นมา เขาคงจะสะพายปืนกลไปส่งลูกที่โรงเรียนแหง่
เวลาสามวันมันน้อยมากจริง ๆ จะคุยกับพี่ชายได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ คงต้องไปเสี่ยงเอาข้างหน้า ยังไงสิงห์ก็รับปากว่าจะช่วยพูด สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวสินา...
"ก็ได้ แต่ผมเองก็มีเรื่องที่อยากขอเหมือนกัน"
มาแล้วค่าบบบบบ >0<
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
แท็กนิยายที่ใช้ในทวิตเตอร์ค่าบ #ใครอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
**กำลังทยอยแก้คำผิด**