เกิดใหม่ทั้งทีดันมีคู่หมั้นเป็นสไลม์ ตอนพิเศษ p4 27/10/59 ย้ายได้ค่าจบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกิดใหม่ทั้งทีดันมีคู่หมั้นเป็นสไลม์ ตอนพิเศษ p4 27/10/59 ย้ายได้ค่าจบแล้ว  (อ่าน 43559 ครั้ง)

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ฉาก NC น่ารักดีค่ะ ชอบ แหวกแนวด้วย :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3

ตอนที่24

หลังจากผ่านคืนแรกไปเวลาก็ผ่านไปได้หนึ่งเดือนแล้ว ผมกับเจ้าชายนาดีลนั้นเอาแต่วุ่นวุ่นอยู่กับการแวงแผนและการจัดทัพเพื่อการแย่งอาณาจักรคืนมาจากคาลอส ตามข่าวที่ได้ยินมาสองเดือนมานี้คาลอสแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้สำเร็จราชการ แล้วจัดการมอบตำแหน่งให้ญาติของพวกผมตีต้าที่เพิ่งอายุได้สิบขวบขึ้นเป็นราชาหุ่นเชิด

บอกตามตรงว่าผมเป็นห่วงตีต้ามาก ตีต้าเป็นญาติตัวน้อยที่น่ารักและสนิทกับผมมากรองมาจากท่านพี่ ผมมักจะไปเล่นกับตีต้าประจำ ท่านพ่อท่านแม่ของตีต้าที่เป็นญาติของเราก็เป็นชาวมังกรที่ดีและพวกเขาไม่ชอบยุ่งเรื่องการเมือง เห็นทีว่าคาลอสคงจะไปหว่านล้อมอะไรบางอย่างกับพวกเขาแน่ๆ วันนี้ทั้งวันหลังจากได้ยินข่าวเรื่องของตีต้า ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็
ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีผมก็ถูกเจ้าชายชายนาดีลในร่างสไลม์รัดพันเอาไว้ทั้งตัว

“ไม่เอานะ นาดีล วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์” ผมพยายามทำเสียงแข็งบอกเขา แต่เจ้าชายนาดีลหัวเราะอิอิอย่างเจ้าเล่ห์แล้วสอดรยางค์นุ่มนิ่มของเขาเข้าภายในร่มผ้าเพื่อหยอกเย้ายอดอกของผม

“อ๊ะ……นาดีล……ก็บอก…แล้วว่า……” ห้ามไปก็เท่านั้นตอนนี้รยางค์นุ่มนิ่มมากมายสอดเข้ามาตามช่องว่างของเสื้อผ้า ผมได้แต่ร้องครวญครางเมื่อเจ้าชายนาดีลเริ่มเล้าโลมส่วนต่างๆของร่างกายผมโดยเฉพาะตรงเครื่องเพศ

“อึก….เจ้าสไลม์จอมหื่น……อ้า…..”

“ไม่ใช่แค่สไลม์จอมหื่นน้า…..แต่ข้าคือสามีของเจ้าไม่ใช่หรือ….คุณภรรยาก็ต้องยอมให้คุณสามีจิ๊จ๊ะได้ตามใจชอบสิ”

“แต่ต้องไม่ใช่จิ๊จ๊ะกันทุกวันแถมวันละหลายชั่วโมงแบบนี้……เจ้าไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ……อื้อ……” ผมบิดกายพล่านตอนนี้เสื้อผ้าของผมถูกเจ้าชายนาดีลละลายทิ้งอีกแล้ว นึกๆดูแล้วตั้งแต่เราแต่งงานกันมา เฉพาะผมเพียงคนเดียวใช้ปริมาณเสื้อผ้าเปลืองมาก เพราะเจ้าชายนาดีลเล่นละลายมันทิ้งทุกครั้งที่รุกเข้าหาผม

“จะเบื่อได้อย่างไร ในเมื่อข้ามีภรรยาที่น่ารักเย้ายวนขนาดนี้ น่ารักจนอยากจะหยุดเวลาน้ำผึ้งพระจันทร์ของเราเอาไว้แบบนี้ วันนี้ท่านพ่อท่านแม่พูดถึงเรื่องทายาทของเราอีกแล้วนะ” ผมสะดุ้งเฮือกไม่ใช่เพราะตกใจเรื่องคำพูดของท่านพ่อท่านแม่ แต่เป็นเพราะเจ้าชายนาดีลสอดรยางค์ขนาดเท้านิ้วกลางเข้ามาสำรวจในจุดลับบริเวณบั้นท้ายของผมต่างหาก

“อา…..อื้อ…….ไม่เร็ว…..เกินไป….หรือ……อื้อ…..ใน….อา……สงครามแบบ….นี้……” รยางค์นุ่มนิ่มที่สอดแทรกเข้ามาเล่นงานผมไม่หยุด ขณะเดียวกันรยางค์อื่นๆก็จู่โจมหยอกเย้าทั้งแก่นกายและยอดอกจนผมพูดออกมาไม่เป็นคำพูด

 บ๊าเอ๊ย!!!สมองของผมเยิ้มไปหมดด้วยไฟราคะเพราะเขาแท้ๆยังจะมาชวนพูดเรื่องจริงจังแบบนี้ได้อีก แถมยังเป็นเรื่องสำคัญมากอีกต่างหาก เรื่องของทายาทเลยเชียวนะ ทำไมต้องมาปรึกษาในระหว่างตอนทำอย่างว่าด้วย

“ข้าก็คิดอยู่เหมือนกันนะว่ามันยังไม่เหมาะ แต่ท่านพ่อท่านแม่นี่สิอยากจะอุ้มหลานกันน่าดู เจ้าคิดเห็นเป็นอย่างไรฟีล่า” ตอนนี้รยางค์ในร่างกายของผมขยายใหญ่และเปลี่ยนรูปร่างไปแล้ว ผมไม่ตกใจเพราะคุ้นชินกับสถานการณ์นี้ดี ผมจึงปล่อยกายใจเพื่อเตรียมตัวรับความสุขที่จะรุนแรงมากกว่าเดิมแต่ก็ไม่ลืมตอบคำถามของเจ้าชายนาดีลทั้งๆที่จมอยู่กับความเสียวซ่านจนยากที่จะเอ่ย

“ข้า…..อื้อยัง……ไม่อยาก….อึก…,มีทายาท…ตอนนี้……”

“ทำไมล่ะ” เจ้าชายนาดีลทำเสียงขุ่นมัว รยางค์ที่สอดแทรกร่างกายของผมกระแทกเข้าออกหนักหน่วงมากกว่าปกติจนเรียกได้ว่าเกือบจะเป็นการลงโทษ

“อึก…..เบาๆ….หน่อย…..เจ้า…..อ้า…..เกินไปแล้ว….อื้อ”

“มันดีจนเกินจะทนเลยใช่ไหมล่ะ” เจ้าชายนาดีลทำเสียงเหี้ยม เขาไม่ชะลอหรือลดความรุนแรงของการสอดแทรกให้ผมเลย การทำรุนแรงแบบนี้มันทั้งเจ็บและดีไปพร้อมๆกัน มันทำให้ผมปั่นป่วนระหว่างความคิดที่ว่าต้องการให้หยุดหรือให้เขาทำต่อกันแน่

“บอกมานะฟีล่าทำไมเจ้าไม่อยากมีทายาทของข้าตอนนี้”
เสียงที่ดูจะดุดันของเขาทำให้ผมรู้ว่าเขาโกรธ โธ่เอ๊ยเจ้าสไลม์จอมเอาแต่ใจ หนึ่งเดือนมานี้นับแต่ผมแต่งงานกับเขามาการใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาทำผมให้รู้จักเจ้าชายนาดีลเพิ่มขึ้น ปกติเขาจะใจดีขี้อ้อนเวลาอยู่ต่อหน้าผม แต่อีกโฉมหน้าหนึ่งเขาเป็นจอมหึงหวงและช่างเผด็จการแบบที่ผมคาดไม่ถึง จนบางครั้งเขาก็รังแกผมบนเตียงเป็นการลงโทษอยู่บ่อยๆ ตอนนี้ก็เหมือนกันผมถูกลงโทษในแบบของเขาอยู่

สไลม์ทุเรศเอ๊ยไหนว่าตอนแรกก็ยังไม่อยากมีทายาทตอนนี้เหมือนกันไงเล่า แล้วทำไมพอผมบอกความในใจถึงได้ต้องมาโกรธมารังแกผมแบบนี้ด้วย

“อึก…..ข้า….มีเหตุผล……อื้อ……”

“ไหนลองบอกเหตุผลมาสิ”
ถ้าอยากจะให้บอกเหตุผลก็ช่วยหยุดรังแกกันเสียทีสิ อยากจะร้องตะโกนบอกเขาออกไป แต่ที่ผมทำได้คือการส่งเสียงครวญครางเพราะเจ้าชายนาดีลไม่ออมมือให้ผมเลยเขากระตุ้นร่างกายของผมไปทุกสัดส่วน ทั้งยังสอดแทรกเข้ามาถี่กระชั้นจนสติสตางค์ของผมวูบไปกะทันหันเพราะการร่วมรักอันรุนแรงและยาวนาน เมื่อตื่นขึ้นมาอีกที เจ้าชายนาดีลในร่างสไลม์ก็ทำสีหน้าเศร้าอยู่ข้างกายผม

“ขอโทษนะที่รุนแรงกับเจ้าไปหน่อย”

“รู้ตัวก็ดีแล้ว” ผมบอกเขาด้วยเสียงที่แหบแห้งจนน่าตกใจ คงเพราะเมือคืนผมส่งเสียงครางไม่หยุดมาตลอดทั้งคืน

“นาดีล” ผมยังไม่ทันจะพูดเขาก็เข้ามาขอโทษพร้อมกับเอาร่างกายมาถูไถ มันน่ารักก็จริงแต่อดที่จะงอนไม่ได้ เพราะเขาไม่ยอมฟังเหตุผลของผมเลย ทำรุนแรงเสียขนาดนี้อยากจะทุบๆๆเขาให้บี้แบนเสียให้เข็ด แต่พอเห็นเจ้าชายนาดีลตีหน้าเศร้าแล้วเปลี่ยนสีร่างกายเป็นสีซีดๆ ผมก็อดให้อภัยเขาไม่ได้

“ที่ข้าไม่อยากมีทายาทตอนนี้ เพราะไม่อยากให้เจ้าไปสนามรบคนเดียว ข้าอยากไปกับเจ้า”

“อา….ข้าน่าจะคิดได้….ฟีล่าข้าขอโทษนะ”

“ถ้าเจ้าสำนึกผิดจริงๆละก็ข้าจะให้อภัย” ตอนนี้เองที่เจ้าชายนาดีลฉีกยิ้มกว้าง เขาเปลี่ยนจากสไลม์สีซีดๆมาเป็นสีทองสีเดิมของเขา

“ฟีล่าฟีล่าเจ้าไม่อยากรู้หรือว่าเราจะมีลูกกันได้อย่างไร” เจ้าชายนาดีลทำเสียงระริกระรื่น ผมตื่นตัวและขนลุกขึ้นมาทันที หมดแรงจนไม่มีเรี่ยวแรงขยับนิ้วเสียด้วยซ้ำคงไม่แปลกใช่ไหมที่ผมจะกลัวเขารุกเข้าหาอีก

“เจ้าคงจะไม่สาธิตวิธีการทำเดี๋ยวนี้หรอกใช่ไหม” ผมทำเสียงพรั่นพรึง

“ไม่หรอกน่า ข้าสำนึกผิดอยู่นะ จะไม่รังแกเจ้าซ้ำในวันนี้แน่ๆ” นั่นค่อยทำให้โล่งใจหน่อย ผมพยักหน้าบอกเขาให้รับรู้ว่าพร้อมที่จะฟังแล้ว

“คืองี้นะตามปกติสไลม์อย่างเราจะมีทายาทด้วยการแบ่งตัวใช่ไหม แถมพวกเรายังไม่มีสิ่งที่เรียกว่าน้ำเชื้อเหมือนพวกมนุษย์ดังนั้นการจะมีทายาทข้ามเผ่าพันธุ์ได้จึงมีแต่ให้พวกเรากลายร่างเป็นมนุษย์” ผมพยักหน้าเบาๆ สิ่งที่เขาเล่ามาไม่ต่างกับสมมุติฐานของผมเท่าไหร่

“ที่นี้สำหรับภรรยาต่างเผ่าที่เป็นผู้ชาย เรามียาลับพิเศษที่เมื่อกินเข้าไปแล้วจะไปสร้างมดลูกเทียมในร่างเพื่อใช้เป็นที่อยู่ของทารก โดยปกติถ้าเป็นสไลม์ตั้งท้องเองเราจะมีลูกกันเป็นโขยง แต่กับพวกเป็นเผ่าอื่นเราสามารถทำให้ตั้งท้องได้เพียงครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น แต่ไม่น่าห่วงหรอกนะเพราะการตั้งท้องของเรากินระยะเวลาแค่สามเดือนเท่านั้นแล้วท้องของเจ้าจะไม่ป่องออกมาเหมือนท้องของเผ่าอื่นหรอก เจ้าแค่จะดูเหมือนอวบๆดูมีน้ำมีนวลแล้วก็จะกินเก่งมากเท่านั้น”

“แล้วตอนคลอดข้าจะเจ็บท้องเหมือนพวกผู้หญิงตอนคลอดหรือเปล่า”

“ตอนที่ท่านแม่คลอดข้า ท่านบอกว่าข้าว่าตอนจะคลอดนี้ไม่ปวดหรอก แต่จู่ๆก็รู้สึกเหมือนอยากถ่ายท้องนิดๆ แต่แทนที่จะออกมาเป็นไอ้สิ่งที่แม่คิดกับเป็นตัวข้าที่ไหลย้วยออกมาเป็นน้ำก่อนจะค่อยๆรวมตัวกันเป็นก้อนอีกครั้งหลังจากย้วยออกมาจากตรงนั้นของท่านแม่”

ประหลาดมากกกกกกกก!!! เป็นการคลอดที่พิศดาลจนผมอึ้ง เจ้าชายนาดีลเอาแต่หัวเราะฮาฮา แต่ผมคิดนะมันออกไปในแนวทางอุจาดชอบกล นี่ผมต้องคลอดลูกออกมาในรูปแบบนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้สินะ

“แต่ก็มีบางกรณีนะที่เด็กได้รับเชื้อพันธุ์ของทางฝั่งแม่มามากกว่าดังนั้นเด็กอาจจะอยู่ในท้องนานถึงเก้าเดือนแล้วคลอดออกมาตามแบบปกติ แบบนั้นจะเจ็บปวดมาก ข้าล่ะไม่อยากให้เจ้าได้รับความเจ็บปวดเช่นนั้นเลยจริงๆ” ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ ถ้าให้ผมเลือกผมเองก็เลือกแบบที่น่าจะไม่เจ็บน่าจะดีกว่าแฮะ

“นาดีลเจ้าหากเราจะมีลูกเจ้าอยากให้เด็กที่เกิดมาเป็นมังกรหรือสไลม์มากกว่ากัน”

“จะเป็นแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ทางที่ดีเป็นสไลม์น่าจะดีกว่าเพราะหากเป็นมังกรตอนคลอดออกมาเจ้าคงเจ็บน่าดู เพราะมังกรออกลูกเป็นไข่สินะ”พอเข้าทำหน้าจริงจังปนสงสัยผมก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ผมรีบบอกวิธีการคลอดบุตรของเผ่ามังกรให้เจ้าชายนาดีลฟัง

“เผ่ามังกรของเราเวลาจะคลอดจะกลับร่างเป็นมังกรล่ะ อาจจะเจ็บนิดหน่อย แต่ในร่างมังกรพวกเราจะแข็งแรงพอที่จะก้าวข้าวความเจ็บปวดในตอนที่คลอดบุตรได้ ท่านแม่ของข้าบอกว่าท่านใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นในการคลอดข้าออกมา แล้วก็นะมังกรมีลูกอย่างมากสูงสุดก็แค่หนึ่งคนต่อครั้งเท่านั้นคิดว่าถึงข้าจะคลอดออกมาเป็นมังกรก็ไม่น่าจะเจ็บหรอก”

“อย่างนั้นก็ดีเลย แค่เจ้าไม่เจ็บข้าก็พอใจมากแล้ว” เจ้าชายนาดีลยิ้มกว้างพร้อมกับเด้งตัวขึ้นๆลง

“ฟีล่าเจ้าตัดสินใจที่จะไปยังสนามรบพร้อมกับข้าแล้วสินะ”

“แน่นอน ข้าย่อมไม่มีทางปล่อยเจ้าไปคนเดียว อีกอย่างข้าเป็นห่วงทั้งท่านพี่และท่านพ่อท่านแม่ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้านะนาดีลข้าดูแลตัวเองท่ามกลางสนามรบได้ ข้าเองก็ถูกสอนมาให้เป็นนักรบเหมือนกันนะ”

“ข้ารู้น่าว่าเจ้าเก่งฟีล่า แต่เจ้าต้องสัญญานะว่าจะไม่อยู่ห่างกายข้าเวลาอยู่ในสนามรบ ถึงจะรู้ว่าเจ้าเก่งแต่ข้าก็เป็นห่วงเจ้ามากนะ”

“ได้ข้าสัญญาว่าจะไม่ออกห่างจากเจ้าเมื่อถึงเวลานั้น มีอะไรที่อยากจะบอกข้าอีกไหมนาดีล”

“ไม่มีแล้วที่รัก เจ้ารอข้าอยู่นี่นะ ขยับไม่ไหวใช่ไหม เดี๋ยวข้าจะไปนำอาหารเช้ามาให้เจ้าทานบนเตียง” ผมพยักหน้าเบาๆ ไม่รอช้าเจ้าชายนาดีลกระพือปีกบินพับๆไปยังประตู เขาใช้มือจำลองเปิดประตูห้องก่อนจะหายไปทิ้งให้ผมนอนพักเอาแรงอยู่บนเตียงรอคอยให้เขากลับมา
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3

ตอนที่25

ในที่สุดกองทัพสไลม์ก็พร้อมรบ เจ้าชายนาดีลและราอูลออกเดินทางในฐานะแม่ทัพและรองแม่ทัพ ส่วนผมกับท่านพี่ก็ตามไปในกองทัพเช่นกัน ท่านพี่เอียนมาในฐานะที่ปรึกษาทางด้านกลยุทธ ส่วนผมนั้นมาในฐานะผู้ติดตามของเจ้าชายนาดีล ไม่ได้มียศทางทหารอะไรที่จะสั่งการใครได้ แต่กระนั้นผมก็ยังดันทุรังที่จะมา ท่านมาริกเองเมื่อรู้ว่าผมจะมาก็ได้เมตตามอบทหารองค์รักษ์ให้ถึงห้าร้อยนายคอยติดตามดูแล

การเดินทางข้ามผ่านดินแดนของเราเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่นานนักเราก็มาถึงเขตชายแดนของอาณาจักรสไลม์และรุกคืบหน้าเข้าสู้ดินแดนซึ่งอยู่ใต้อาณัติของเผ่ามังกร พวกมนุษย์ที่อาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆปล่อยให้กองทัพสไลม์เดินทางผ่านเมืองของตัวเองไปง่ายๆ จวบจนถึงหุบเขามังกรซึ่งเป็นปราการด่านแรกก่อนถึงเขตกำแพงเมืองของอาณาจักรมังกร พวกเราก็พบกับกองทัพพร้อมรบจำนวนมากของทหารลูกครึ่งมนุษย์ที่มีสายเลือดมังกรปะปนอยู่

เสียงแตรเขาเป็นสัญญาณบอกว่าพร้อมรบดังมาจากฝั่งของทหารมังกร ตอนนี้กองทัพสไลม์กับกองทัพมังกรประจันหน้ากันอยู่ ในตอนนั้นผมก็ได้ยินเสียงแหบห้าวดังมาจากผู้ที่น่าจะเป็นผู้นำทัพของเผ่ามังกร ผู้นำคนนั้นอยู่ในชุดเกราะเต็มยศ

“เจ้าพวกสไลม์ คิดอะไรอยู่กันแน่วันนี้ถึงยกกองทัพมารุกรานพวกเรา” คนพูดน่าจะใช้เวทย์มนต์ในการกระจายเสียงเพราะพวกเราอยู่ห่างกันพอสมควรแต่ผมได้ยินชัด

“ข้าเจ้าชายนาดีลรัชทายาทเพียงผู้เดียวแห่งเผ่าสไลม์ที่ยกทัพมาวันนี้ก็เพื่อปราบกบฏช่วยเหลือเผ่ามังกรที่เป็นพันธมิตรของเราให้ปลอดภัย” เจ้าชายนาดีลเปล่งเสียงกังวานดังตอบโต้ ผมกับท่านพี่ได้แต่เฝ้าดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ

“น่าขำ ท่านไม่รู้หรือ เจ้าชายนาดีลว่าราชาองค์ใหม่ของเราท่านตีต้ายกเลิกพันธสัญญาระหว่างเผ่าเรากับสไลม์แล้ว ข้ามาร์ค เอ็นเดอร์จะบอกท่านให้เอาบุญ” เมื่อได้ยินชื่อของแม่ทัพผมก็จำได้ทันที ท่านมาร์คเอ็นเดอร์เป็นพ่อของตีต้า ผมสนิทกับท่านผู้นี้มากผมตั้งใจจะแสดงตัวแต่ท่านพี่กับกลายร่างเป็นมังกรแล้วโผบินไปยังท้องฟ้าเหนือศีรษะของพวกเรา

“เจ้าจำข้าได้หรือไม่ มาร์คเอ็นเดอร์”

“ท่าน…..ไม่น่าเชื่อไหนว่าคาลอสบอกว่าท่านตายแล้ว” ท่านพี่เริ่มอธิบายเรื่องทั้งหมดอย่างคราวๆให้ท่านมาร์คฟังอย่างคร่าวๆ

“ท่านจะบอกว่าคาลอสเป็นกบฏลอบสังหารท่านอย่างนั้นหรือ เฮอะน่าขำท่านคิดหรือว่าข้าจะช่วยท่านในเมื่อท่านเองก็เป็นกบฏไม่เห็นต่างกัน” ท่านมาร์คทำเสียงเยาะหยัน ผมจึงตัดสินใจกลายร่างเป็นมังกรโผบินไปบนฟ้าเคียงข้างท่านพี่

“เจ้าชายฟีล่า โอ…..ท่านยังอยู่หรือนี่” ผมไม่ได้ประเมินความภักดีของท่านมาร์คผิดไปจริงๆเมื่อเขาเห็นผม เขาก็จัดโต๊ะเจรจาระหว่างเผ่าทันที ตอนนี้พวกทหารต่างฝ่ายต่างถอยร่นและอยู่ในสภาพเฝ้ารอ ตรงกึ่งกลางระหว่างการประจันหน้า เราตั้งกระโจมเอาไว้เพื่อให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พูดคุย

“เจ้าชายฟีล่า ดีใจเหลือเกินที่ได้พบ” ท่านมาร์คแสดงความเคารพผมอย่างนอบน้อม โดยทำเมินท่านพี่เอียนไปเสียสนิท แต่ไหนแต่ไรท่านมาร์คก็จงรักภักดีต่อท่านพ่อท่านแม่มาก ตอนที่ท่านพี่ก่อกบฏท่านกับครอบครัวก็ถูกจับขังคุกโดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว

“ข้านึกว่าท่านยังอยู่ในคุกกับครอบครัว ท่านเล่าให้ข้าฟังหน่อยสิครับว่าเกิดอะไรขึ้น”

“มันเป็นเรื่องที่น่าอดสูอย่างต่อเนื่องของครอบครัวข้าครับท่านฟีล่า” ท่านมาร์คทำหน้าเหมือนกลืนยาขม

“ท่านก็รู้ว่าตอนที่ท่านเอียนก่อกบฏพวกเราทั้งครอบครัวถูกจับขังให้รอวันตายเพราะว่าข้านั้นเป็นจอมทัพของเผ่ามังกรแต่ไม่เข้าร่วมการก่อกบฏ หลังจากนั้นไม่นานคาลอสก็มาหาพวกเราในคุกบอกว่าจะตั้งตีต้าลูกข้าเป็นราชา แถมยังบอกอีกว่าท่านเอียนกับท่านฟีล่าเสียชีวิตไปแล้ว ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆเพราะหากว่าข้าไม่ทำตามคงไม่มีวันได้ออกมาอยู่โลกภายนอกดังเช่นทุกวันนี้”

“ท่านพูดแบบนี้คงจะตั้งใจรบกับเราเสียละมั้ง ในเมื่อลูกชายท่านได้เป็นราชาแล้วนี่นะ” ราอูลเหน็บท่านมาร์คเบาๆ แต่ทั้งผมท่านพี่และเจ้าชายนาดีลลึกๆแล้วก็คงเห็นด้วยตอนนี้ผมกังวลกลัวท่านมาร์คจะกลายเป็นศัตรูไป

“เจ้าชายฟีล่า ข้าจะลืมบุญคุณที่ท่านเคยช่วยชีวิตตีต้าได้อย่างไร ตอนที่ตีต้าป่วยหนักขณะที่ข้าไม่อยู่มีเพียงท่านเท่านั้นที่คอยดูแล ไม่อย่างนั้นตีต้าคงไม่อยู่จนกลายมาเป็นราชาหุ่นเชิดให้คาลอสได้ หากว่าท่านจะกลับมาเพื่อทวงสิทธิของท่านข้าก็ยินดีเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านราชาและราชินียังมีชีวิตอยู่ ข้าไม่กล้าลืมบุญคุณอย่างแน่นอน”

“สรุปว่าท่านจะช่วยเราสินะ ท่านมาร์ค” เจ้าชายนาดีลถาม

“แน่นอนครับ ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อเรื่องที่ท่านฟีล่ายังมีชีวิตอยู่และแต่งงานกับเจ้าชายวของเผ่าสไลม์ แต่พอเห็นท่านฟีล่าตัวเป็นๆเช่นนี้ทำให้ข้าโล่งใจจริงๆ เจ้าคาลอสพยายามสร้างข่าวบิดเบือนอยู่ตลอดถึงแม้ข้าจะได้ตำแหน่งคืนมาแต่ก็อยู่ในความควบคุมของเจ้าคาลอสทุกฝีก้าว”

“แล้วอย่างนี้การที่ท่านมาพบปะกับพวกเราไม่รู้ไปถึงคาลอสแล้วหรือครับ” ผมตั้งข้อสังเกต

“จะรู้ก็ช่างปะไรท่านฟีล่า ตอนนี้ข้าจะส่งสารไปบอกคนสนิทของข้าให้พาตัวตีต้าหลบหนีไปยังจุดนัดพบ แล้วพรุ่งนี้ข้าจะนำกองทัพของข้าเข้าร่วมกับท่านบุกเข้าโจมตีจัดการกับเจ้าคาลอสให้สาสม”

“โจมตีเร็วแบบนี้ คาลอสน่าจะไม่ทันตั้งตัวแน่ๆ” เจ้าชายนาดีลเด้งตัวขึ้นๆลงๆ เขาดูมีสีหน้าพึงพอใจ

“ถ้าอย่างนั้นเอาตามนี้วันนี้เราจะตั้งกระโจมพักกันที่นี่คืนหนึ่ง ราอูลเอาคำข้าไปบอกกับพวกทหาร” สิ้นคำสั่งราอูลก็เด้งดึ๋งออกจากกระโจมไป พวกผมอยู่คุยกับท่านมาร์คเรื่องแผนการอีกพักใหญ่ก่อนที่จะแยกย้ายไปพักผ่อนเพื่อเอาแรงให้พร้อมต่อการเดินทางบุกเข้าโจมตีอาณาจักรมังกรในวันพรุ่งนี้

“ฟีล่า เจ้าคิดว่ามาร์คเอ็นเดอร์มีความจริงใจให้เราแค่ไหน” ค่ำคืนนั้นจู่ๆเจ้าชายนาดีลก็เปิดประเด็นเกี่ยวกับท่านมาร์ค ถูกถามอย่างนี้ผมเองก็เริ่มจะกังวล เพราะไม่รู้ว่าระหว่างที่การเมืองของเผ่าเราผกผัน ท่านมาร์คจะมีความคิดอ่านเปลี่ยนแปลงไปเท่าใด

“ข้าเองก็ไม่กล้าคาดเดา บอกตามตรงข้าเองก็ไม่กล้ารับรองกับเจ้าว่าท่านมาร์คอาจจะไม่ทรยศ”

“อย่างนั้นความน่าเชื่อถือก็อยู่ที่ครึ่งๆสินะ” เจ้าชายนาดีลทำเสียงเคร่งเครียด

“แต่เดิมคืนนี้ข้าตั้งใจว่าจะให้พวกทหารเผ่าเราได้พักผ่อนอย่างสบายๆแต่ข้าก็บอกให้ราอูลบอกพวกเขาให้จัดเวรยามอย่างแน่นหนาเอาไว้เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน…….ฟีล่า เจ้าอย่าทำหน้าเศร้าเช่นนั้นสิ การเมืองก็แบบนี้ มีการระแวงหรือทรยศเป็นเรื่องปกติ” ผมคงทำสีหน้าแบบนั้นออกไปจริงๆ แต่มันก็อดไม่ได้ แค่คิดว่าท่านมาร์คกับตีต้าที่แสนดีจะเปลี่ยนไปเพราะผลประโยชน์ผมก็รู้สึกแย่และอึดอัดใจขึ้นมา

“ฟีล่า มันมีความเป็นไปได้อยู่นะที่เราอาจจะถูกหลอกให้ไปติดกับ อาจจะถูกกองทัพของมาร์คกับคาลอสซึ่งอยู่ในเมืองหลวงตีกระหนาบ อันที่จริงข้าไม่ได้ให้ความไว้วางใจมาร์คเอ็นเดอร์คนนี้เลยเจ้าคงเข้าใจนะ”

“ข้าเข้าใจ” คำพูดของเจ้าชายนาดีลทำให้อดนึกถึงคำพูดของท่านพี่เมื่อตอนกลางวันไม่ได้ ท่านพี่เองก็เตือนผมเหมือนกันว่าอย่าไว้ใจมาร์คกับตีต้าจนเกินไปให้เผื่อใจเอาไว้บ้าง ตอนนี้ผมถอนหายใจออกมาโดยแรง

“ดังนั้นข้าขอเตือนนะฟีล่า ระหว่างอยู่ในสนามรบหรือระหว่างเดินทางอย่าอยู่ห่างจากข้า และอย่าไปอยู่ตามลำพังหรือไปตามคำเชิญของมาร์คเอ็นเดอร์ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ที่ข้าเตือนนี้เพราะกลัวว่าเจ้านั้นจะฉวยโอกาสเรียกเจ้าไปพูดคุยตามลำพังตามประสาคนเคยสนิทกัน เจ้าเข้าใจนะ”

“เข้าใจแล้ว” ผมบอกเขาเสียงอ่อย ตอนนั้นที่หน้ากระโจมก็ได้ยินเสียงเรียกจากพวกทหาร

“เข้ามารายงานได้” พอได้รับอนุญาตทหารสไลม์ก็เด้งดึ๋งดั๋งเข้ามาในกระโจมของผมกับเจ้าชายนาดีล

“ท่านมาร์คเอ็นเดอร์ให้ทหารมาแจ้งข่าวว่า ได้นำตัวท่านตีต้าออกนอกปราสาทเป็นผลสำเร็จแล้วครับ”

“อ้อ…..แล้วข่าวจากสายเราล่ะ” เจ้าชายนาดีลถามต่อ

“สายของเรารายงานว่า คาลอสกระวนกระวายอย่างหนักและเริ่มส่งคนออกตามหาท่านตีต้าแล้วครับ”

“ให้สายของเราตามสืบต่อว่าตีต้าเดินทางไปที่ไหนแล้ว”

“รับทราบครับ” พอได้รับคำสั่งทหารสไลม์ก็ล่าถอยไป เจ้าชายนาดีลหันมาพูดกับผมด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“เรื่องแค่นี้เจ้าก็อย่าวางใจเชียวว่ามาร์คจะไม่สร้างเรื่องหลอกเรา อย่าลืมนะฟีล่าคาลอสกับมาร์คอาจจะวางแผนหลอกล่อเราคิดอย่างนี้ก็ได้เหมือนกัน”

“นาดีลหากว่าพวกเราถูกหลอกให้ไปติดกับจริงจะทำอย่างไร” ผมเริ่มจะจินตนาการถึงรูปแบบอนาคตอันเลวร้ายต่างๆ ตอนนี้อยากได้คำยืนยันหรือแผนการแก้ปัญหาทุกรูปแบบจากเจ้าชายนาดีลเพื่อให้รู้สึกสบายใจ

“ฟีล่า เจ้าอย่าได้ดูถูกทหารเผ่าสไลม์เกินไปนัก อย่าลืมสิว่าพวกเราเป็นศัตรูตามธรรมชาติของเผ่ามังกรเชียวนะ เรื่องจัดการกับมังกรน่ะพวกเราถนัดนักล่ะ”
เจ้าชายนาดีลหัวเราะอิอิดูแล้วช่างร้ายกาจ ตอนนี้ผมอดนึกถึงเหตุการณ์ที่เจ้าชายนาดีลกลืนเจ้ามังกรแดงเข้าไปทั้งร่างไม่ได้

“นาดีล สไลม์ทุกตัว เขมือบมังกรเป็นอาหารได้เหมือนเจ้าหรือเปล่า”

“เดี๋ยวถึงเวลาแล้วเจ้าจะรู้เองนะที่รักของข้า” เจ้าชายนาดีลหัวเราะเสียงใส

อา……หากว่าเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆผมรู้สึกสงสารพวกทหารเผ่ามังกรขึ้นมาตงิดๆ ยังไงพวกเขาก็เป็นเผ่าเดียวกันกับผมนะมันทำให้ผมอดกังวลแทนพวกเขาไม่ได้เลย ค่ำคืนนั้นถึงแม้จะนอนไม่ค่อยหลับแต่ก็ต้องข่มตานอนให้หลับ หากไม่หลับเจ้าชายนาดีลเขาขู่ว่าจะรุกเข้าหาผมจนกว่าผมจะหลับสนิท จะยอมให้เป็นอย่างนั้นได้ยังไงล่ะครับ เรามารบนะ จะให้เอาแต่ทำเรื่องบัดสีอย่างนั้นจนหมดเรี่ยวหมดแรงได้ไง ดังนั้นผมจึงหลับลึกได้อย่างรวดเร็วหลังจากโดนขู่ภายในไม่กี่นาที พรุ่งนี้เช้ายังมีเรื่องให้ต้องทำอีกมาก ผมจึงต้องพักผ่อนเผื่อให้พร้อมสำหรับวันต่อไป

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่26

ตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมาก็รู้ตัวว่าผมตื่นสายเสียแล้ว ได้แต่มองหาเจ้าชายนาดีลไปรอบๆกระโจมปรากฏว่าไม่เห็นร่างนุ่มนิ่มของเขาแม้แต่เงา ดังนั้นผมจึงตัดสินใจไปล้างหน้าล้างตาเสียก่อนแล้วถามถึงนาดีลกับพวกทหารสไลม์

"ฝ่าบาทนาดีลเข้าประชุมกับแม่ทัพของเผ่ามังกรตั้งแต่เมื่อตอนตีสามแล้วครับ"

"อย่างนั้นช่วยบอกทีว่าเขาประชุมกันที่ไหน"

"ข้าจะนำทางไปครับ แต่ฝ่าบาทนาดีลบอกว่าถ้าท่านตื่นแล้วให้ไปพบกับคนผู้หนึ่งเสียก่อน"

"ใคร" ผมสงสัยว่าเจ้าชายนาดีลต้องการให้ผมไปพบกับใคร แต่คงจะเป็นคนสำคัญมากแน่ๆถึงต้องการให้ผมพบ

"ท่านตีต้าขอรับ ฝ่าบาทนาดีลบอกว่าได้รับการขอร้องจากท่านผู้นั้นว่าอยากจะพบท่าน"

"ตีต้านะหรือ" ผมเอ่ยเสียงดัง เด็กคนนั้นมาถึงที่นี่แล้วหรือ ช่างเร็วอะไรอย่างนี้ เมื่อวานนี้ยังแทบไม่ได้ยินข่าวคราวอยู่เลย ผมรีบรุดหน้าไปพบตีต้าในทันที

"ท่านพี่ฟีล่า" ถูกโถมเข้ากอดทันทีที่ได้พบหน้ากัน ผมทั้งดีใจทั้งโล่งใจที่ได้พบกับน้องชายที่สนิทสนมกันอีกครั้ง

"คิดถึงท่านพี่ฟีล่าเหลือเกินครับ"

"พี่ก็คิดถึงเจ้าเหมือนกันตีต้า"

"ข้านึกว่าท่านพี่ฟีล่าตายแล้ว คาลอสบอกทุกคนว่าท่านพี่ฟีล่ากับท่านพี่เอียนตายเพราะถูกพวกทหารสไลม์ฆ่าเพื่อล้างแค้นให้เจ้าชายนาดีล"

"เจ้าไม่ได้ยินข่าวเรื่องการแต่งงานของข้าบ้างหรือตีต้า" ตีต้าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ

"ท่านพี่ ตั้งแต่ข้าขึ้นครองราชอย่างปัจจุบันทันด่วน ข้าก็ถูกควบคุมความประพฤติตลอด ข้าแทบไม่ได้ออกไปไหนและได้ยินข่าวคราวจากใคร เวลาว่างานราชการข้าก็ได้แต่นั่งนิ่งๆทำตามที่คาลอสบอกให้ทำเท่านั้น" พูดถึงตรงนี้ตีต้าก็เริ่มร้องไห้ออกมา ผมได้แต่ลูบหลังปลอบใจน้องชายคนนี้แล้วคอยฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อไป

"ข้าอึดอัดใจนักท่านพี่ฟีล่า ข้าถูกคาลอสขู่ว่าหากข้าไม่ทำตามที่เขาสั่งเขาจะฆ่าท่านพ่อของข้า ถึงแม้ท่านพ่อจะได้อำนาจคืนมา แต่ก็ไม่ได้อิสระดังเช่นที่ทุกคนคิด"

"แปลก ทำไมคนอย่างคาลอสถึงได้คืนตำแหน่งให้ท่านมาร์คง่ายๆ" ผมตั้งข้อสงสัย ตีต้าปาดน้ำตาบนหน้าแล้วเฉลยข้อข้องใจของผม

"เหมือนว่าจะมีขุนนางกับพวกทหารมากมายคลางแคลงในตัวของคาลอสครับท่านพี่ เนื่องจากเพราะสงสัยเกี่ยวกับการตายของท่านพี่เอียนกับท่าน ดังนั้นจึงมีหลายคนที่เริ่มไม่ไว้ใจคาลอส การที่คืนอำนาจให้ท่านพ่อ อาจเป็นเพราะต้องการคนถ่วงสมดุลทางการเมืองเพื่อไม่ให้พวกคนที่คลางแคลงกระด้างกระเดื่องก็เป็นได้ ข้าคิดว่าเป็นเช่นนั้น"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนหนึ่งที่พวกทหารและขุนนางเห็นด้วยกับการกบฏของท่านพี่เอียน อย่างแรกเพราะไม่พอใจการเป็นพันธมิตรกับพวกสไลม์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท่านพ่อท่านแม่พยายามแก้ไขมานานแต่ยังไม่สามารถกำจัดความไม่ชอบใจพวกสไลม์ในเผ่ามังกรของเราได้หมด อย่างที่สองที่ยอมช่วยท่านพี่ก่อกบฏผมรู้ดีว่าท่านพี่นั้นเป็นที่ชอบพอและได้รับการสนับสนุนจากพวกขุนนางและทหาร การที่ท่านพ่อท่านแม่จะยกบัลลังค์ให้ผมกับเจ้าชายนาดีลจึงเป็นที่ไม่พอใจของพวกเขา

ดังนั้นการตายอย่างเป็นปริศนาของท่านพี่ตามที่คาลอสประกาศ ผมจึงไม่แปลกใจที่คนในเผ่าจะเกิดความไม่ไว้วางใจในตัวคาลอส โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อ้างว่าท่านพี่ตายด้วยฝีมือทหารสไลม์ ใครจะเชื่อล่ะว่าท่านพี่ที่แสนเก่งกาจจะตายง่ายๆในเขตการปกครองของเผ่ามังกร แถมยังตายทั้งที่มีคาลอสติดตามไปด้วย

"แล้วคาลอสพูดเกี่ยวกับศพของท่านพี่เอียนอย่างไร พวกเขาไม่ได้จัดงานศพให้ท่านพี่หรอกหรือ"

"นี่แหละครับที่ทำให้พวกขุนนางหลายคนสงสัย คาลอสบอกว่าพวกสไลม์วางยาพิษร้ายแรงจนท่านพี่เอียนตาย ดังนั้นเพื่อไม่ให้พิษร้ายแรงจากศพของท่านพี่เอียนกระจายไปในอากาศจึงต้องเผาศพเสียตั้งแต่นอกอาณาเขตเมืองหลวงของเผ่าเรา"

"โกหกแบบโง่ๆ ไม่แปลกที่จะถูกสงสัย" ผมอดยิ้มไม่ได้ รู้สึกดีที่คาลอสไม่สามารถทำตามที่ใจคิดได้

"แล้วนี่ตีต้ามาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่" ผมถามขณะจูงตีต้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ภายในกระโจมที่พัก

"มาถึงตอนตีสามครับ ต้องขอบคุณหน่วยสอดแนมที่ท่านนาดีลส่งไปพวกเขาเข้าช่วยเหลือพวกเราระหว่างหลบหนีและพามาที่นี่ครับ"

"โชคดีจริงๆเลยนะ" ผมพึมพำ

"ใช่ครับโชคดี ข้าคิดอยู่ว่าหากหนีไม่พ้นข้าอาจจะถูกคาลอสลงโทษหรืออาจจะฆ่าข้าทิ้งแล้วตั้งราชาใหม่ก็ได้"

"ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกตีต้า" ผมส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

"คาลอสทำพลาดเรื่องท่านพี่เอียนแล้ว เขาไม่ยอมเสียเจ้าไปง่ายๆอีกคนแน่"

"ท่านพี่ฟีล่าข้าอยากพบท่านพ่อเหลือเกินครับ แต่ท่านนาดีลบอกว่าข้าจะพบท่านพ่อได้ต่อเมื่อหารือกับท่านพ่อเรียบร้อย" ผมฟังแล้วยิ้มเจื่อนๆ เจ้าชายนาดีลคงหาเรื่องกักตัวตีต้าเอาไว้จนถึงที่สุดจนกว่าจะแน่ใจว่าท่านมาร์คจะไม่หักหลัง

"ท่านพี่ฟีล่าข้ายินดีด้วยกับการแต่งงานของท่านนะครับ" ผมหลุดจากห้วงความคิดเพราะคำอวยพรของตีต้า เด็กน้อยส่งยิ้มยินดีจากใจจริงมาให้ผม ผมใช้มือขยี้หัวตีต้าอย่างหมั่นเขี้ยว

"ข้าจะพูดเรื่องที่เจ้าอยากจะพบกับท่านมาร์คให้เจ้าชายนาดีลฟังเอง คิดว่าอีกไม่นานคงได้รับอนุญาต"

"ขอบคุณมากครับท่านพี่ฟีล่า" ถูกหอมแก้มเข้าให้ ผมได้แต่หัวเราะคิกคักกับความฉอเหลาะของเด็กน้อย เนื่องจากเพราะตีต้าดูจะเหงาและตระหนกกับเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาอย่างกระทันหัน ผมจึงต้องอยู่พูดคุยกับตีต้าเพื่อปลอบขวัญแทนที่จะไปหาเจ้าชายนาดีล

"มาอยู่ที่นี่นี่เอง" เจ้าชายนาดีลกระพือปีกบินพั่บๆเข้ามาในกระโจม ตีต้าดูตกใจ แต่พอเห็นเจ้าชายนาดีลชัดๆ เด็กน้อยก็แสดงความสนอกสนใจ

 "ตีต้านี่เจ้าชายนาดีลสวามีของพี่" ผมเริ่มแนะนำ

"ส่วนนี่ตีต้าญาติสนิทของข้าเอง" ผมแนะนำให้เจ้าชายนาดีลรู้จักกับตีต้า

"ขอโทษด้วยนะท่านตีต้าที่ก่อนหน้านี้เราได้พบกันครู่เดียวแถมไม่ได้แนะนำตัว" เจ้าชายนาดีลฉีกยิ้มกว้างเขาบินโผเข้ามาหาผม ผมรับร่างเขาเอาไว้ในอ้อมแขน

"ไม่เป็นไรครับท่านนาดีล ทางข้าเสียอีกที่ต้องขอบคุณท่านที่ส่งคนไปช่วยข้าเอาไว้" ตีต้าพูดพร้อมกับค้อมตัวแสดงความเคารพ

"ท่านตีต้าคงอย่างพบท่านมาร์คเอ็นเดอร์ อีกเดี๋ยวท่านพ่อของท่านจะมาหาท่านที่นี่" ตีต้ายิ้มกว้างด้วยความดีใจผมดีใจเช่นกันที่พวกเขาพ่อลูกจะได้พบกัน

"ถ้าอย่างนั้นระหว่างนี้ท่านตีต้าพักผ่อน ข้ากับชายาของข้ามีธุระที่ต้องคุยกันนิดหน่อยครับ"

"เชิญ เชิญเลยครับ ข้าเองต่างหากที่ต้องขอบคุณท่านพี่ฟีล่าที่มาอยู่เป็นเพื่อน" หลังจากนั้นเราสองคนก็ร่ำลาตีต้าแล้วออกมาจากกระโจม เจ้าชายนาดีลเงียบไม่พูดไม่จาจนเรากลับเข้าไปในกระโจมส่วนตัวของเราอีกครั้ง เมื่อกลับไปถึงผมพบว่ามีอาหารเช้าจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว

"กินไปพูดกันไปนะฟีล่า" ผมพยักหน้าแล้วนั่งปุลงตรงหน้าสำรับอาหาร

"ท่านมาร์คเอ็นเดอร์ยินดีจะให้เราคุมตัวตีต้าเอาไว้จนกว่าสงครามจะจบเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณเจ้านะฟีล่า"

"เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ" ผมกระพริบตาปริบๆ

"เพราะว่ามีเจ้าอยู่ท่านมาร์คจึงยอมทำตามข้อเสนอที่ดูเห็นแก่ตัวของข้ากับเอียน ท่านบอกว่าเพี่อแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้าและราชาราชินีองค์ก่อน ท่านจริงใจจนไม่มีอาการน้อยใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนะ"

"ถึงอย่างนั้นเจ้ากับท่านพี่ก็ทำเกินไปนะ ไม่รู้ว่าจะระแวงอะไรหนักหนา"

"ฟีล่าจอมโง่เง่า หากข้ากับเอียนไม่ทำแบบนี้ มีหรือพวกทหารสไลม์ที่ร่วมเป็นร่วมตายกับเราจะยอม แค่การยอมเชื่อและทำตามแผนการณ์ร่วมของท่านมาร์คง่ายๆ เราก็พาทหารของเราไปเสี่ยงมากแล้ว เรื่องนี้ท่านมาร์คก็เข้าใจ"

"เฮ้อ ถ้าพวกเจ้าหารือตัดสินใจกันเรียบร้อยแล้วข้าก็ไม่มีอะไรจะค้านหรอก แต่ว่านะจากที่ข้าได้ฟังจากตีต้าแล้วข้าไม่คิดว่าตีต้าจะโกหกหรอก" จากนั้นผมก็เล่าเรื่องที่คุยกับตีต้าให้เจ้าชายนาดีลฟัง

"นับว่าข่าวสารเราตรงกัน จากที่ท่านมาร์คเอ็นเดอร์เล่าและสายสืบเราได้ข่าวมา ผู้คนในเผ่าและขุนนางไม่พอใจกับการตายอย่างปริศนาของเจ้ากับเอียนมากมาย ดังนั้นการร่วมสงครามของเจ้ากับเอียนในครั้งนี้ข้าก็หวังเอาไว้มากว่าพวกทหารหรือพวกขุนนางจะมีปฏิกริยาในทางใดทางหนึ่ง ข้าหมายถึงในทางที่ดีนะ"

"ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น"

"เจ้าไม่ทานอาหารเลยคงไม่ได้เครียดหรอกใช่ไหม" เจ้าชายนาดีลเด๋งดึ๋งๆบนตักของผมเขาส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ผม

"เฮ้อ ก็หลายอย่างมันทำให้ข้าทานไม่ลงเลย" ผมถอนหายใจ

"ถ้าอย่างนั้นข้าป้อนให้น้า" เจ้าชายนาดีลเด้งดึ๋งไปยังจานอาหาร เข้าใช้ปากฉีกเอาเนื้อไก่ปรุงสุกเป็นชิ้นเล็กๆคาบเอาไว้ในปากก่อนจะกระพือปีกบินมาตรงหน้าผม ยื่นปากที่คาบเอาชิ้นไก่เอาไว้
โอ๊ยยยย ตายจริง!!! อย่าบอกนะว่าเข้าจะป้อนอาหารผมด้วยปาก

"อื้อ....อินอิ" เจ้าชายนาดีลบินเข้ามาใกล้ๆปากผม เขาคะยั้นคะยอด้วยเสียงที่พูดไม่ชัด

"เข้าใจแล้ว" ผมยอมตายอย่างเสียไม่ได้ ผมทานอาหารจากปากต่อปากกับเจ้าชายนาดีลในร่างสไลม์ เจ้าชายนาดีลพอได้สมใจก็หัวเราะคิกคัก

"ที่นี้เจ้าป้อนข้าบ้าง....เอ๋...เอาอย่างนี้ดีกว่าข้ากลายร่างเป็นมนุษย์น่าจะสนุกตื่นเต้นกว่าสำหรับมื้อนี้นะ" เสียงระเบิดดังปังพร้อมกับควันจำนวนมากกระจายไปรอบกระโจมพอควันจางหายไปเจ้าชายนาดีลก็อยู่ในร่างมนุษย์แล้ว

"รีบป้อนเร็วๆสิ" เจ้าชายนาดีลอ้าปากรอ อยากจะทุบให้เนื้อเขียวจริงๆ ผมฉีกเนื้อไก่ส่งยื่นไปที่ปากของเขา

"ไม่เอาอ่า ใช้ปากป้อนสิ" ถูกเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจ แถมยังไม่ยอมง่ายๆเจ้าชายนาดีลเอาแต่งอแงเหมือนเด็กเซ้าซี้จนสุดท้ายผมต้องยอมทำตาม วินาทีที่ผมยื่นปากที่คาบเนื้อไก่เอาไว้เจ้าชายนาดีลก็ประกบปากลงมา
จูบ กลายเป็นจูบไปเสียแล้วหลังจากที่เจ้าชายกลืนกินอาหารผ่านทางปากผม ปลายลิ้นร้อนเข้ามาผัวพันลิ้นของผมทั้งยังชอนไชไปทั่วโพรงปาก

"อึก...อื้อ...พอ..." แทนคำตอบเจ้าชายนาดีลเปลี่ยนมุมประกบจูบกับผมระหว่างจูบก็ใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปตามร่างกายจนผมเริ่มจะรู้สึกร้อนขึ้นมาเสียแล้ว

"นี่มันเวลาทานอาหารเช้านะ" ผมเตือนเขา แต่ฟังเสียที่ไหน เขาจับผมเปลื้องผ้าแล้วระดมจูบไปตามร่างกายเปลือยเปล่าของผม

"อึก....เบาๆหน่อย" ผมเตือนเขาเพราะถูกกัดและจูบเน้นๆไปตามร่างกาย พอถูกดุหลายๆครั้งเพราะเขาไม่เชี่อฟัง เจ้าชายนาดีลก็เปลี่ยนมาใช้ปลายลิ้นลากไล่ไปตามเนินเนื้อของผม

"อึก....อา" เจ้าชายนาดีลหมกหมุ่นอยู่กับยอดอกของผมจนบริเวณนั้นทั้งเปียกชุ่มและบวมเป่ง โดยไม่ทันคาดคิดเข้าเลื่อนริมฝีปากลากปลายลิ้นละเลงลงไปบริเวณจุดเร้นลับบริเวณบั้นท้ายของผม ผมดิ้นพล่านด้วยความสุขสม

"อื้อ....อ๊า" ถูกเลียตรงจุดนั้นซ้ำๆพร้อมทั้งถูกรูดรั้งเครื่องเพศด้านหน้าด้วยมือที่ใช้จับอาวุธอยู่เป็นเนืองนิจ รู้สึกดีราวกับจะขึ้นสวรรค์เสียให้ได้ ยิ่งเจ้าชายนาดีลสอดปลายนิ้วเข้ามาสำรวจและเพิ่มจำนวนนิ้วขึ้นมาถึงสามยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีจนตาพร่า

"พร้อมรับข้าเข้าไปหรือยังที่รัก" เจ้าชายนาดีลกระซิบถามพร้อมกับหัวเราะคิกคัก

"ข...เข้ามาสิ" เมื่อผมอนุญาติเขาก็สอดร่างเข้ามาในส่วนลึกของผม เราสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว

"ถึงแม้ว่าอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่เรามาหาความสุขในสถานะการณ์อย่างนี้ แต่เจ้าก็เย้ายวนจนข้าอดทนไม่ไหวจริงๆ" ผมถลึงตามองค้อนเขา เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าชายนาดีลเริ่มขยับโยกกาย

อา.....หากบอกว่าผมไม่มีความสุขเวลาถูกเขาโอบกอดก็นับว่าผมโกหก ไม่ว่าจะอยู่ในร่างไหนเจ้าชายนาดีลก็ทำให้ผมอบอุ่นและรู้สึกเป็นสุขยามถูกกกกอด ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะต้องเสียน้ำตาเพราะถูกกลั่นแกล้งบนเตียง

"ข้ารักเจ้านะฟีล่า"

"อึก.....อื้อ....ข้าก็เหมือนกัน" ถึงแม้เราสองคนจะรู้ว่าไม่สามารถจมจ่อมอยู่กับกิจกรรมอันเร่าร้อนได้ทั้งวัน แต่ผมกับเจ้าชายนาดีลก็พยายามกอบโกยความสุขเล็กๆน้อยๆของพวกเราอย่างเต็มที่ก่อนที่การเดินทัพของพวกเราเพื่อบุกโจมตีอีกครั้งจะมาถึง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อื้มม....เอ้อ....ในสถานการณ์แบบนี้
เจ้าชายนาดีล ยังหื่น เสมอต้นเสมอปลาย
เหมือนมาฮันนีมูน ไม่ใช่มารบลย
อ้อ...เป็นรักระหว่างรบนี่เอง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่27

หลังจากวางแผนการรบอย่างคร่ำเคร่งกองทัพร่วมระหว่างสไลม์และมังกรก็เดินทางมาถึงหน้าเมืองหลวงของอาณาจักรมังกร เจ้าชายนาดีลไม่รอช้าสั่งให้พวกทหารพังประตูเมืองซึ่งขวางกั้นพวกเราและเหล่ามังกรที่อาศัยอยู่ด้านใน
   
พวกทหารมังกรที่เฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูค่อยๆออกมาต้านการจู่โจมของพวกสไลม์ ผมแค่มองยังทึ่งในความแข็งแกร่งของเหล่าสไลม์ เพราะถึงแม้ว่าจะต้องต่อกรกับพวกทหารมังกรที่กลายร่างเป็นมังกรไปก็ยังสามารถสู้กับเผ่าของเราได้อย่างสบายๆจนเหล่าทหารเผ่ามังกรที่อยู่ใต้อาณัติของท่านมาร์คเอ็นเดอร์ไม่จำเป็นต้องออกแรงด้วยซ้ำ
   
“เป็นภาพที่น่าตื่นตาไม่เปลี่ยน” ท่านมาร์คเอ็นเดอร์พูดกับผมและท่านพี่

   “ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าพวกสไลม์แข็งแกร่งแต่ไม่คิดว่าจะจัดการกับพวกทหารมังกรที่สามารถกลายร่างเป็นมังกรได้อย่างง่ายๆ”
ผมได้แต่ยิ้มแหยๆให้ท่านมาร์ค ยิ่งมองดูสภาพของเหล่ามังกรซึ่งถูกไล่ต้อนด้วยทหารสไลม์ก็ยิ่งนึกสงสาร พวกทหารสไลม์บางตัวก็ดีดตัวเข้าใส่มังกรที่บินอยู่บนท้องฟ้าจนร่วงลงมา บางตัวก็พ่นกรดพิษเข้าใส่พวกมังกรจนบาดเจ็บกันระนาว ด้วยร่างที่ยืดย้วยและเหนียวหนืดเหมือนเยลลี่ทำให้บางครั้งการโจมตีด้วยเปลวไฟหรือเวทย์มนต์ก็ไม่สามารถทำอะไรทหารสไลม์ได้เลย

“ไม่นึกว่าจะน่าขยะแขยงกันทั้งเผ่าพันธุ์” ท่านพี่เอียนเอ่ยเสียงเย็นชา จังหวะนั้นการปรากฏตัวของเหล่ามังกรทั้งสามผู้เป็นขุนนางชั้นสูงแห่งสภาขุนนางก็ดูเหมือนว่าจะทำให้รูปการของสงครามดูเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

มังกรทั้งสามขุนนางชั้นสูงซึ่งอยู่มาแต่เดิมประกอบด้วย เอลล่า ลูซิโอ และคาลอส การปรากฏตัวพร้อมกับการโจมตีด้วยท่าไม้ตายที่พวกเขามีทำให้พวกทหารสไลม์ถอยร่นลงมาจากหน้าประตูเมืองที่ใกล้พังทลาย

“กล้าดีนี่พวกสไลม์หลังจากฆ่าราชาคนก่อนของเราไปก็รีบยกทัพมาบุกเราเลยเชียวเรอะ” เอลล่าในร่างมังกรสีแดงเพลิง บินฉวัดเฉวียนไปมาในอากาศ มังกรสาวประกาศศักดาด้วยการพ่นไฟร้อนแรงรุกไล่เหล่าทหารสไลม์ให้ถอยห่างกลับออกมา

“เอ๋…..ข้าคงได้ตาฝาดใช่ไหมนี่ข้าเห็นพวกทหารของเราเข้าร่วมกับพวกสไลม์ด้วยสีธงแบบนี้สังกัดของท่านเอ็นเดอร์ใช่หรือไม่” มังกรสีน้ำเงินนามลูซิโอโผบินอยู่ในอากาศ เสียงของพวกขุนนางทั้งสองดังกังวานมากถึงผมจะอยู่ห่างออกมาก็ได้ยินชัดเจน

“พวกทรยศต้องกำจัดให้สิ้นซากก่อนจะเฟ้นหาราชาองค์ใหม่” คาลอสในร่างมังกรสีเขียวบินอยู่ในอากาศเคียงข้างลูซิโอ พริบตานั้นเพียงชั่วเสี้ยวด้วยความเร็วมังกรขุนนางชั้นสูงทั้งสามก็พุ่งพรวดมายังเหนือศีรษะของพวกผม

“ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะเอลล่า ลูซิโอ” มังกรขุนนางชั้นสูงมีสีหน้าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาลอสผมรู้สึกได้ว่าร่างของเจ้ามังกรเขียวสั่นเทาด้วยความตระหนก

“นี่คาลอสไหนเจ้าว่าราชาเอียนถูกสไลม์วางยาพิษไปแล้วอย่างไร” เอลล่าเปิดประเด็นถามได้ตรงใจผมอย่างมาก ในตอนนั้นท่านพี่ก็เป็นฝ่ายพูดแทนคาลอส

“ข้าตายหรือไม่พวกเจ้าย่อมสามารถพิสูทธิได้ เจ้าก็เห็นแล้วว่าข้ายังอยู่ตรงนี้”

“อาจจะเป็นพวกสไลม์ปลอมตัวมาก็ได้นี่นา พวกสไลม์ชั้นสูงบางตัวสามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้” ลูซิโอตั้งข้อสังเกต

“ใช่...ใช่แล้วมันเป็นตัวปลอม” คาลอสรีบเห็นด้วยทันที แต่ด้วยท่าทางที่ลนลานของเจ้ามังกรเลวผู้นี้ ผมรู้สึกว่าท่านเอลล่ากับลูซิโอคงเริ่มสงสัยแล้ว

"อ้าวๆถ้าดูให้ดีตรงนี้มีทั้งราชาเอียน ท่านเอ็นเดอร์และเจ้าชายฟีล่าเสียด้วยนะ” เอลล่าหรี่ดวงตาสีแดงของเธอขณะมองดูพวกผม

“แล้วก็ยังมีข้าเจ้าชายนาดี่ลด้วยอีกคนน้า” เจ้าชายนาดีลเรียกร้องให้ขุนนางทั้งสามหันมาสนใจ

“พวกท่านอาจจะไม่เชื่อว่าเป็นตัวจริงเพราะว่ามีเผ่าสไลม์ชั้นสูงที่กลายร่างเป็นอะไรก็ได้ แต่ข้าสามารถหาข้อพิสูทธ์ให้พวกท่านได้น้า พวกท่านก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าพวกสไลม์ไม่สามารถเลียนแบบสีของหยาดโลหิตของเผ่าพันธ์อื่นได้ เพราะสไลม์อย่างพวกเรานั้นหากแปลงร่างไปเหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่นเวลาได้แผลหยาดเลือดของเราจะมีสีขาวเหมือนน้ำนม”

“อา…..เป็นเรื่องที่มีแต่ชนชั้นสูงของเผ่ามังกรเท่านั้นที่รู้” ลูซิโอหัวเราะหึหึ ตอนนี้ท่านพี่เอียนชักดาบออกจากฝักคงตั้งใจจะกรีดแผลที่ร่างของตัวเองเพื่อพิสูทธิความจริง แต่จังหวะที่ไม่มีใครคาดคิด เจ้าคาลอสพ่นควันพิษออกมาจำนวนมาก แผนเดิมๆแต่มักจะได้ผล ท่านเอลล่ากับลูซิโอโดนควันเข้าไปเต็มๆ
ส่วนผมยังได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าชายนาดีลเช่นเดิม เว้นแต่ท่านพี่กับท่านมาร์คที่จมหายไปกับควันเหมือนกับพวกทหารสไลม์อื่นๆที่ไม่ทันได้ระวังตัว

“ท่านพี่เอียน” ผมกระวนกระวายหนักเมื่อมองไม่เห็นท่านพี่ ตอนนี้ผมถูกเจ้าชายนาดีลอมเข้ามาในร่างที่โปร่งใส

“นาดีลช่วยท่านพี่ด้วยสิ”

“ไม่ต้องห่วงน่า พี่ของเจ้าไม่เป็นอะไรหรอก” เจ้าชายนาดีลพูดด้วยเสียงที่ดูมั่นอกมั่นใจ ผมอยากจะเชื่อเขานะ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสับสนไปหมด ผมได้ยินเสียงหัวเราะของคาลอส เกลียดมันเสียจนแทบทนฟังไม่ได้

“อ๊ากกกกกกก” ผมได้ยินเสียงร้องโหยหวนของคาลอส พอควันจางหายก็พบว่าแขนข้างหนึ่งของเจ้ามังกรเขียวคาลอสถูกบั่นจนขาด ที่ตรงหน้าของมันตอนนี้ท่านพี่ยืนตระหง่านพร้อมกับดาบที่เปื้อนเลือด


“ท่านพี่เอียน” ท่านพี่หันมาส่งยิ้มบางๆให้ผม ผมโล่งใจที่ท่านพี่ปลอดภัย แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าท่านพี่ต้านทานพิษของคาลอสได้อย่างไร

“ข้าเป็นคนให้คริสตัลวิเศษกับเอียนไป เจ้าสิ่งนี้ถ้าอมเอาไว้ในปากจะสามารถต้านพิษได้ทุกชนิด เจ้าไม่รู้หรอกหรือ” สารภาพตามตรงว่าผมไม่รู้เลย อาจจะเป็นเพราะว่าเวลาเรียนกับท่านครูไม่ได้ตั้งใจเรียนก็เป็นได้

“เอาเถอะถ้าเป็นคนปกติคงจะคิดวิธีนี้ไม่ออก ก็คริสตัลวิเศษเป็นของหายากเป็นพิเศษการจะหาติดตัวไว้ซักอันไม่ใช่จะมีง่ายๆ” ผมพยักหน้าถี่รัวเป็นเชิงเห็นด้วยกับเจ้าชายนาดีล ตอนนี้ผมรู้สึกฮึกเหิมมาก ศัตรูของพวกเราอยู่ตรงหน้าและท่านพี่เอียนก็จะกำลังจะสำเร็จโทษมัน

“ท่านพี่จัดการเจ้าสารเลวนั่นเลย” ท่านพี่กระตุกยิ้มก่อนพุ่งเข้าหาคาลอสอีกครั้งด้วยความเร็วจนมังกรผู้เฒ่าอย่างคาลอสเคลื่อนหลบไม่ทัน เสียงแหวกอากาศกับเสียงของคมดาบตัดเฉือนชิ้นเนื้อดังฉับ หัวมังกรของคาลอสกระเด็นหล่นปุลงบนพื้น

“เยี่ยม” ผมกับเจ้าชายนาดีลโห่ร้องขึ้นพร้อมกัน ตอนนี้ควันพิษจากคาลอสยังไม่ระเหยดี เจ้าชายนาดีลจึงไม่ยอมปล่อยผมออกไปด้านนอก ท่านพี่เดินตรงไปหาท่านเอลล่ากับท่านลูซิโอที่นอนหายใจหอบ

“พวกท่านกลายร่างเป็นมนุษย์เถอะ ข้าจะได้ช่วยถอนพิษให้” หลังจากสิ้นคำพูดของท่านพี่เอียน ท่านเอลล่ากับลูซิโอก็ค่อยๆกลายร่างเป็นมนุษย์ ในตอนนั้นราอูลที่อยู่ใกล้ๆก็คายคริสตัลวิเศษออกมาจากร่างนุ่มนิ่มสีแดงของเขาสองชิ้น ท่านพี่รับไปแล้วนำไปป้อนให้ท่านเอลล่าและลูซิโอ

“แล้วท่านมาร์คล่ะ” ผมสอดส่ายสายตามองหา พบว่าท่านมาร์คยังยืนอยู่ได้โดยไม่ถูกพิษ ผมสันนิษฐานว่าท่านมาร์คคงได้รับคริสตัลวิเศษไปจากเจ้าชายนาดีลด้วยเหมือนกัน

“นาดีลเจ้าไปหาคริสตัลจำนวนมากอย่างนี้ได้จากที่ไหน”

“จำไม่ได้หรือ ตอนที่เราเจอมันตอนที่เจ้ายังเด็กเจ้าคริสตัลอันนั้นมันใหญ่มากเป็นพิเศษ หลังจากได้มาข้าก็เอามาแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆแล้วเก็บเอาไว้ ก็นั่นแหละน้ามันเป็นของมีค่านี่นา” เจ้าชายนาดีลทำเสียงระรื่น ผมรู้สึกว่าพวกเราช่างโชคดีจริงๆที่บังเอิญได้พบกับเจ้าคริสตัลวิเศษนี้ในตอนที่เรายังเป็นเด็ก

หลังจากพวกเราจัดการเรื่องคาลอสกับเรื่องแก้พิษได้สำเร็จ ท่านมาร์คผมกับท่านพี่ก็แสดงตัวต่อหน้าพวกแม่ทัพและทหารที่เหลืออยู่ พวกคนที่เหลืออยู่ต่างยอมแพ้ทำให้พวกเราไม่ต้องเสียเวลาสู้และสามารถยกกองทัพเข้ายึดเมืองหลวงของเผ่ามังกรได้อย่างง่ายดาย

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ยาวดีจัง ชนเผ่าสไลม์ดูจะเก่งกว่าเผ่ามังกรเยอะเลยนะเนี่ย นาดีลนี่ดูแลฟีล่าดีมากตลอดเลย ^^

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่28

“ท่านพ่อท่านแม่” ตอนนี้ผมกับท่านพี่อยู่ในท้องพระโรงต่อหน้าท่านพ่อท่านแม่ที่กลายเป็นคริสตัลด้วยเวทย์มนต์พิเศษ

“ท่านพ่อครับท่านแม่ครับทุกอย่างสงบลงแล้วพวกเราปราบกบฏได้แล้วครับได้โปรดคืนร่างเดิมเถอะ” ผมเฝ้าวอนขอคำคำนี้อยู่นานนับหลายนาที จนในที่สุดแม้แต่ท่านพี่ที่ยังนิ่งเฉยมาตลอดก็อดเข้ามาช่วยผมไม่ได้

“ท่านพ่อท่านแม่ ข้ารู้ว่าข้าทำผิดมาก ข้าสำนึกผิดแล้วและรอพวกท่านมาสำเร็จโทษได้โปรดเถอะถ้าไม่เห็นแก่ฟีล่าที่คิดถึงท่านก็เห็นแก่ชาวเผ่าเรากลับมาครองบัลลังค์มังกรอย่างเคยเถอะครับ”
เกิดความนิ่งเงียบอยู่หลายนาที ผมกับท่านพี่ได้แต่สบตากัน ผมเริ่มจะกังวลจากสีหน้าของท่านพี่ท่านพี่เองก็คงจะกังวลเช่นกัน ตอนนี้พวกเราพี่น้องจับมือกันแน่นปลอบโยนกันและกันด้วยเกรงว่าท่านพ่อท่านแม่จะเป็นคริสตัลอยู่อย่างนี้ตลอดไป

“ข้าผิดเองฟีล่า หากพี่ไม่บีบคั้นท่านพ่อท่านแม่พวกท่านคงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้”

“ท่านพี่อย่าได้ลงโทษตัวเองถึงเพียงนั้นถึงแม้ว่าท่านจะทำผิดแต่ท่านได้สำนึกผิดแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ต้องให้อภัยท่านพี่แน่ๆ” ผมพยายามปลอบโยนท่านพี่ ตอนนี้ท่านพี่ดูทรมานใจและหดหู่ ผมเดาว่านับตั้งแต่รู้ความจริงทั้งหมดท่านพี่คงอยู่กับความทุกข์และเฝ้าแต่สำนึกผิดมาโดยตลอด ที่ผมคิดเช่นนั้นเพราะท่านพี่เปลี่ยนไปเป็นคนที่เงียบขรึมอย่างมาก

“ท่านพ่อท่านแม่กลับมาเถอะครับ กลับมาลงโทษลูกทรพีคนนี้ ท่านอย่าได้ทอดทิ้งฟีล่าที่ไม่มีความผิดอีกต่อไปเลย” ท่านพี่หลั่งน้ำตาออกมาผมตกใจมากและไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่นิ่งเงียบปล่อยให้ท่านพี่อ้อนวอนท่านพ่อท่านแม่ต่อไปเพียงลำพัง

เราสองคนพี่น้องได้แต่รอให้ท่านพ่อท่านแม่กลับคืนร่างเดิมนานนับชั่วโมง ท่านพี่เลิกร้องไห้แล้วแต่ก็ยังมีแววของความเสียใจอยู่ ขณะที่พวกเราหันหลังกลับเพราะไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ ลำแสงสีทองที่ส่องสว่างจากเบื้องหลังของพวกเราทำให้เราต้องหันกลับไปมอง ที่ตรงนั้นท่านพ่อท่านแม่ส่งยิ้มมาให้เรา

“ท่านพ่อท่านแม่” ผมโผเข้ากอดท่านพ่อท่านแม่ที่คืนร่างเดิมแล้วแนบแน่น ท่านพ่อท่านแม่จูบผมลูบหลังผมทำให้ผมมีความสุขอย่างที่สุด

“เอียนมาหาแม่สิลูก” ท่านแม่เรียกท่านพี่เอียนที่ได้แต่ยืนมอง ท่านพี่สะดุ้งตัวเบาๆและไม่ยอมทำตามคำขอของท่านแม่

“เอียนมาให้พ่อกับแม่กอดหน่อยสิลูก” ท่านพ่อพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความปรานีท่านพี่เดินเข้ามาหาท่านพ่อท่านแม่ด้วยท่าทีเซื่องซึม เมื่อเข้ามาใกล้ท่านพ่อก็สวมกอดท่านพี่ ผมกับท่านแม่ทำตามท่านพ่อสวมกอดท่านพี่เอาไว้ ครอบครัวของเรากอดกันกลมท่านพี่เอียนร้องไห้อีกครั้ง

“ลงโทษข้าเถอะครับท่านพ่อท่านแม่ข้าพร้อมที่จะรับโทษแล้ว” ท่านพี่ร้องขอขณะที่ถูกสวมกอดแน่น ผมสงสารท่านพี่เหลือเกินเพราะไม่เคยเห็นท่านพี่ร้องไห้มากขนาดนี้มาก่อน ท่านพี่ในความคิดของผมท่านเข้มแข็งและหยิ่งทระนงเกินกว่าที่จะร้องไห้ให้ใครเห็น

“พ่อกับแม่จะลงโทษเจ้าได้อย่างไรล่ะเอียน มันเป็นความผิดของพ่อกับแม่ต่างหากที่ไม่เคยรับรู้ความทุกข์ของเจ้าแถมยังกดดันให้เจ้าทำเรื่องแย่ๆลงไป” ท่านพ่อพูดกับท่านพี่เอียนตอนนี้เราไม่ได้สวมกอดกันอีกแล้ว ท่านพี่เอียนมองดูท่านพ่อท่านแม่ด้วยแววตาแปลกใจผ่านม่านน้ำตาที่เอ่อล้นทั่วดวงตา

“ในเมื่อเจ้าได้มีโอกาสเป็นราชาแล้วก็จงเป็นราชาที่ดีต่อไป พ่อกับแม่เห็นแล้วว่าลูกได้ทำอะไรบ้างเพื่อเผ่ามังกร การขึ้นครองราชย์ของเจ้าทำให้พวกขุนนางเป็นปึกแผ่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่ข้อแม้ที่จะให้เจ้าขึ้นครองราชมีเพียงอย่างเดียวก็อย่าทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างเราที่มีต่อเผ่าสไลม์”

“ท่านพ่อ ท่านคิดดีแล้วหรือครับกับลูกที่เลวอย่างข้า.....”

“อย่าได้พูดเรื่องเก่า สาบานมาสิว่าจะไม่ทำลายสิ่งที่พ่อกับแม่เพียรพยายามสร้างเอาไว้ลงไป”

“ท่านพี่” ผมเรียกท่านพี่ที่ตกอยู่ในภวังค์ ท่านพี่คงกำลังสับสนกับการที่ท่านพ่อท่านแม่ให้อภัยง่ายๆแถมยังยอมให้ท่านพี่เป็นราชาต่อไป สถานการณ์ที่ไปในทางที่ดีมากๆแบบนี้อย่าว่าแต่ท่านพี่เลยแม้แต่ผมก็ยังคาดไม่ถึง

“ท่านพ่อท่านแม่ ตัวข้านั้นบอกตามตรงหากไม่ได้เจ้าชายเผ่าสไลม์ช่วยเอาไว้คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงหน้าพวกท่าน มีหรือที่ข้าจะกล้าทำลายไมตรีอันดีระหว่างเผ่าเรากับสไลม์ ข้าไม่ใช่คนเลวขนาดจะลืมบุญคุณของใครได้” ตอนนี้ผมกับท่านพ่อท่านแม่ยิ้มกว้าง ท่านพ่อท่านแม่ดูพออกพอใจต่อคำตอบของท่านพี่

“ข้าสาบานครับท่านพ่อท่านแม่ว่าจะรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างมังกรและสไลม์ต่อไป”

“ดี ดีมาก เท่านี้สงครามนับพันๆปีระหว่างเผ่าเราจะสิ้นสุดลงจริงๆเสียที” ท่านพ่อตบบ่าท่านพี่เบาๆ ท่านแม่ยิ้มแล้วลูบหัวลูบหลังท่านพี่ด้วยความรัก

“เอาล่ะใครก็ได้ช่วยเรียกเหล่าขุนนางมาพบข้าหน่อยเถอะ” ท่านพ่อท่านแม่ตะโกนเรียกไม่นานนักทหารยามก็เข้ามารับคำสั่งของท่านพ่อท่านแม่

การเรียกประชุมขุนนางเพื่อจัดการกับราชบัลลังค์อีกครั้งผ่านไปได้ด้วยดี มีขุนนางจำนวนมากเห็นด้วยกับคำพูดของท่านพ่อที่จะให้ท่านพี่เป็นราชาต่อไป นานนับเดือนที่ท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ช่วยกันวางรากฐานใหม่อีกครั้ง

พวกประชาชนและขุนนางได้รับการบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับการกบฏซ้ำซ้อนเสียใหม่ ความผิดของท่านพี่ถูกโยนไปให้คาลอสทั้งหมด ที่ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้มีผู้สงสัยความชอบธรรมในการขึ้นเป็นราชาของท่านพี่

ในตอนแรกก็มีผู้ไม่พอใจอยู่บ้าง คนพวกนั้นล้วนเป็นผู้ที่มีความภักดีต่อท่านพ่อท่านแม่อย่างล้ำลึก แต่เพียงท่านพ่อท่านแม่เอ่ยปากเท่านั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูจะง่ายดายไปหมด ผ่านมาได้สามเดือนแล้วที่ผมกับเจ้าชายวนาดีลยังคงอาศัยอยู่ที่อาณาจักรมังกรเพื่อช่วยเหลือท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ ใจจริงของผมแล้วหากเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่กับพวกท่านอย่างนี้ไปเรื่อยๆให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

“ข้ากลับมาแล้วเจ้าอยู่ในห้องหรือเปล่านาดีล” ผมร้องถามก่อนหน้านั้นผมเอาแต่ขลุกอยู่กับท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่จนลืมเวลาไปเลย อันที่จริงตั้งแต่มาอยู่ที่อาณาจักรสไลม์ได้สามเดือนผมทำอย่างนี้ทุกวันเพราะมีความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้า

“อ้าว ทำอะไรอยู่นาดีล” ผมถามเพราะทั้งที่ผมกลับมาหาเขาแล้วแต่เจ้าชายนาดีลยังนั่งหันหลังให้ผมไม่ยอมพูดไม่ยอมจา เห็นได้ชัดว่ามีอะไรผิดปกติ

“นาดีลเกิดอะไรขึ้นหรือ” ผมเดินเข้าไปอุ้มเจ้าชายสไลม์ขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดแล้วนั่งลง ตอนนี้ผมเห็นชัดแล้วเจ้าชายนาดีลพองลมในปากจนแก้มป่องส่งเสียงฮึดฮัดๆดูแล้วท่าทางจะงอนผมอยู่

“เจ้าเป็นชายาของข้าใช่ไหมฟีล่า” เขายังคงงอนจนแก้มป่องไม่เลิก

“ก็ใช่สิ”

“แต่เจ้าทำเหมือนกับว่าเจ้าไม่มีข้าอยู่อย่างไรอย่างนั้น เจ้ายังอยากจะกลับไปอยู่กับข้าที่เผ่าสไลม์อยู่ไหม”
คำพูดของเขาทำให้ผมงง แต่นึกอีกทีคำตัดพ้อของเขาก็สมเหตุสมผมอยู่ ลืมไปเลยว่าสามเดือนมานี้ผมเอาแต่ทำตัวติดกันกับครอบครัวจนเอาใจใส่เจ้าชายนาดีลน้อยลง นอกจากนั้น อ๋อ.....จริงสิผมพูดจาไม่คิดประมาณว่าไม่อยากจากท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ไป อยากอยู่เสียที่อาณาจักรมังกรนี้ไปตลอดชีวิตถ้าทำได้ คิดว่าคงเป็นเพราะแบบนี้เจ้าชายนาดีลถึงได้ระเบิดความแค้นด้วยการทำตัวแง่งอนแบบนี้

“นาดีล....ที่รัก...สวามีของข้าข้ารักเจ้านะ”

“เชอะ” เจ้าชายนาดีลยังคงงอนตุบป่องและสะบัดตามองเมินไปอีกทางผมได้แต่อมยิ้มนึกเอ็นดูท่าทางอันน่ารักของเจ้าของร่างกลมๆนุ่มนิ่มนั่น

“ยอดรักของข้า ทูนหัว จะให้ข้าทำอย่างไรเจ้าถึงจะเชื่อคำพูดของข้ากัน” ผมง้องอนเขาสุดฤทธิ์คำพูดที่ตลอดชีวิตไม่เคยคิดว่าจะพูดกับใครเพราะกระดากอายผมขนเอามาใช้กับเขาจนหมด
ตอนนี้เจ้าชายนาดีลปลายตามองผมเป็นระยะระยะ ผมคิดนะว่าคำพูดเลี่ยนๆของผมน่าจะมีผลกับเขาอยู่ แล้วก็ใช่จริงๆเสียด้วย

“เจ้าจะทำตามที่ข้าร้องขอทุกอย่างหรือเปล่าล่ะ” ผมชะงักนิดๆทำตามทุกอย่างนี่มันกว้างมากเกินไปเกินกว่าที่จะจินตนาการหมด หากว่าเขาขอเรื่องที่ผมทำไม่ได้ขึ้นมาล่ะ

“บู้ๆๆๆๆฟีล่าคนงี่เง่า เจ้าทำหน้าลังเลใส่ข้าอยู่นะ เจ้าเป็นชายาของข้าแท้ๆต้องยอมตามใจข้าบ้างสิ” เจ้าชายนาดีลปลิ้นปากและโดดเด้งดึ๋งๆไปรอบๆตัวผมส่งเสียงงอแงอย่างเด็กพยายามให้ผมรับปากเขาให้ได้ เวียนหัวไปหมดแล้วนะเฟ้ย!!!!

“เข้าใจแล้วน่า อยากได้อะไรก็บอกมาเถอะ ข้ายอมแล้ว”

“จริงนะ” เจ้าชายนาดีลทำตาเป็นประกาย เขาขึ้นมาบนตักแล้วถูกไถร่างของเขากับตัวผมออดอ้อนได้น่าหยิกชะมัด

“ข้าอยากมีลูกกับเจ้าซักคน” พอได้ยินคำขอของเขาผมก็ระบายยิ้มออกมา

“ก็ได้นี่นา”

“จริงรึ” เจ้าชายนาดีลทำตาโต

“ก่อนหน้านั้นพอข้าพูดถึงเรื่องนี้เจ้ายังทำเมินอยู่เลยนี่นา”

“ใครว่าข้าเมินเจ้ากันล่ะ” ผมชักจะงง

“ก็เดือนที่แล้วไงข้าพยายามชวนให้มาทำลูกกันเถอะ เจ้ายังไม่สนใจที่ข้าพูดเลย”

“ก็มันตอนไหนกันเล่า”ผมชักหงุดหงิดละ ผมจำไม่ได้เลยว่าเจ้าชายนาดีลพูดเรื่องนี้กับผมตอนไหน

“ก็ตอนที่เราทำรักกันหลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงฉลองคราวก่อนไง” พอถูกเตือนความจำผมก็นึกขึ้นได้ คืนนั้นเป็นงานฉลองครั้งใหญ่จัดกันทั่วอาณาจักร ภายในปราสาทก็มีงานเลี้ยง ในตอนนั้นผมถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มหนักจากทั้งท่านพ่อท่านแม่และพวกขุนนาง ความทรงจำในตอนนั้นมีครึ่งๆกลางๆเพราะตอนนั้นค่อนข้างเมาหนัก แต่ที่จำได้แม่นคือถูกบังคับให้ทำรักระหว่างที่สติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วนดี

“มาถามตอนเอาสติไม่ครบถ้วนแบบนั้นใครเขาจะพูดรู้เรื่องเล่า เหตุการณ์คืนนั้นเราทำกันท่าไหนข้ายังจำไม่ได้เลย”

“ใจร้าย คืนนั้นเราสองคนออกจะเร่าร้อนจะตายไป”

“กับคนเมานี่นะ ข้าจำเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้หรอก ที่สำคัญคิดเล็กคิดน้อยเก็บความแค้นเอาไว้แบบนี้ต้องไม่ใช่แค่เรื่องนี้แน่ๆ บอกมานะว่าเรื่องอะไรกันแน่”

“ก็เจ้าทำท่าเหมือนไม่อยากจากพ่อแม่ไปนี่นา” เจ้าชายนาดีลทำเสียงกระเง้ากระงอด ไม่ผิดไปจากที่ผมคิดเอาไว้เลย

“การที่เจ้าเอาแต่พูดว่าอยากจะอยู่กับพ่อแม่พี่น้องของเจ้าตลอดไป มันทำให้ข้าน้อยใจ เจ้าเป็นชายาของข้าแล้วเจ้าต้องนึกถึงข้าเป็นอันดับแรกสิ อยากอยู่ที่นี่กับพ่อแม่ก็ได้อยู่แต่อย่าลืมสิว่าเจ้าเป็นว่าที่ราชินีของอาณาจักรสไลม์นะ เจ้าไม่สามารถอยู่กับญาติพี่น้องได้ตลอดไปหรอก” ผมดีดนิ้วใส่เจ้าชายนาดีลทันทีที่เข้าพูดจบ

“ข้ารู้อยู่แล้วล่ะน่าเรื่องนั้นน่ะ เจ้าอย่ามาตอกย้ำหน่อยเลย” ผมแสร้งทำตีหน้ายักษ์ ตอนนี้เจ้าชายนาดีลเปลี่ยนสีเป็นสีซีดๆ แล้วหดตัวเล็กลงกว่าปกติ

“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว ข้าแค่กลัวว่าเจ้าจะลืม” ยังไม่วายพูดจางอแงไม่เข้าท่า แต่จะโทษเขาฝ่ายเดียวไม่ได้ก็ผมเล่นพูดจาเอาแต่ใจทำนองนี้ให้เขาฟังอยู่บ่อยๆ ช่วยไม่ได้นี่นาที่ผมจะเกิดความอาลัยต่อพวกท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ก็เราเคยอยู่ด้วยกันมานาน

“นาดีล” ผมเรียกเขาพอเขาสบตากับผมผมก็จุ๊บๆลงไปทั่วตัวของเจ้าชายวนาดีลหลายครั้ง

“เรากลับบ้านของเรากันเถอะนะ หากเจ้าบอกว่าอยากมีลูกข้าก็จะมีให้เจ้า ให้ลูกของเราเป็นเสมือนคำมั่นสัญญารักของเราแบบนั้นดีไหม”

“ฟีล่าพูดเหมือนข้าเป็นชายขี้ใจน้อยที่คอยเอาแต่ระแวงไม่เชื่อถือในความรักของเจ้าอย่างนั้นแหละ” เจ้าชายนาดีลยังคงหดตัวอยู่สีตัวของเขายังคงซีดๆอยู่เช่นกัน ท่าทางจะไม่หายตกใจหายงอนง่ายๆ

“จะว่ายังไงดีน้า….ข้าลำบากใจที่เจ้าคอยแต่ระแวงอยู่หรอก แต่ก็โล่งใจนะเพราะมันหมายถึงเจ้ายังเอาใจใส่ข้าอยู่ไงล่ะ ไม่รู้ว่าอีกหลายปีผ่านไปเจ้ายังจะสนใจข้าอยู่อย่างนี้หรือเปล่าน้า” ผมทำเสียงเล็กเสียงน้อย

“ของอย่างนี้ไม่น่าถาม ข้าออกจะรักเจ้าถึงเพียงนี้ ที่สำคัญข้าเป็นฝ่ายตกหลุมรักเจ้าก่อนนะ อย่าดูถูกความรักของข้าเชียว” ตอนนี้เจ้าชายนาดีลพองลมจนกลับมาเป็นขนาดและสีปกติแล้ว ถึงแม้จะงอนที่ผมพูดจาไม่เข้าหูอยู่บ้างแต่เขาก็บินมาจุ๊บๆที่ปากผม

“ฝากตัวด้วยนะฟีล่าจากนี้และตลอดไปอยากให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้า”

“ข้าเองก็เหมือนกันนาดีล คอยดูแลและอยู่ข้างๆข้าตลอดไปนะ” เราสองคนต่างแลกคำสาบานรักแก่กันคืนนั้นเราไม่ได้ทำรักกันแต่ก็นอนกอดกันกลมด้วยความรักและสนิทสนม ในความฝันอันแสนหวานผมฝันว่าเราสองคนยิ้มและหัวเราะอยู่ท่ามกลางทายาทตัวน้อยที่มีทั้งสไลม์และมังกรตัวจิ๋วเยอะแยะจนผมตกใจ แต่ก็นั่นแหละผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างที่สุดถึงแม้ว่ามันจะเป็นความฝันก็ตาม




ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รอวันที่ฟีล่า มีลูกกับเจ้าชายนาดีล :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
น่ารักมุ้งมิ้งเชียว  :กอด1:

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
เปิดอ่านเพราะเห็นว่าพระเอกเป็นสไลม์เนี่ยแหละ 555 ไม่เคยเจอมาก่อน
น่ารักดี  :mew1:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พล้อตเรื่องแปลกดีค่ะ
รอวันที่จะมีลูกกันนะคะะะ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนพิเศษที่   
   
ตอนที่เจ้าชายนาดีลรู้ว่าจะต้องหมั้นกับเจ้าชายของเผ่ามังกรก็เป็นตอนที่เขาอายุได้สิบสี่ปีพอดี ที่เบื้องหน้าของเขาตอนนี้มีรูปวาดของเจ้าชายที่จะกลายเป็นคู่หมั้นซึ่งเผ่ามังกรส่งมาให้เขาได้ดูก่อนที่จะได้พบกับตัวจริง
   
“อ้าวๆๆๆ นี่มันเด็กตัวเล็กๆเลยนี่นา” เจ้าชายนาดีลไม่ได้สนใจต่อคำพูดของราอูลซึ่งเป็นเพื่อนสนิท เขาเอาแต่มองดูเด็กชายในรูปภาพ เส้นผมสีฟ้าดวงตาสีเขียว ปากและพวงแก้มเป็นสีชมพูกับผิวที่ขาวรามกับน้ำนม งดงามและน่ารัก นี่นะหรือเด็กที่จะมาเป็นคู่หมั้นของเขา แต่กระนั้นก็อดคิดไม่ได้ว่าช่างภาพของเผ่ามังกรจะวาดภาพออกมาให้งดงามเกินจริง
   
“ยังไงก็คงจะวาดออกมาให้สวยงามเกินจริงนั้นแหละ” เพื่อนสนิทพูดออกมาได้ตรงกับใจของเขามาก เจ้าชายนาดีลนั้นมีความประทับใจในรูปร่างหน้าตาของว่าที่คู่หมั้นเป็นอันดับแรก ดันนั้นจึงคาดหวังไว้สูงต่อรูปลักษณ์อันแท้จริงของว่าที่คู่หมั้นที่จะได้พบกันในอนาคต
   
“มันก็ต้องไม่เหมือนกับในภาพวาดอยู่แล้ว” พอบอกความประทับใจออกไป ราอูลก็พูดจาเยาะหยันหาว่าเขาช่างมีความคิดเป็นเด็กๆ เจ้าชายนาดีลถูกล้อเลียนว่าช่างเป็นคนที่ตกหลุมรักได้ง่ายกับเพียงแค่รูปภาพเพียงรูปเดียว
   
“หน้าตาอาจจะน่ารักจริงๆก็ได้แต่นิสัยอีกเล่าหากเป็นเด็กที่นิสัยไม่ดีล่ะจะว่ายังไง อย่าลืมสิว่าพวกมังกรเกลียดพวกเราอย่างกับอะไรดี”

   ข้อเท็จจริงที่ราอูลพูดมาเขาก็คิดถึงอยู่เช่นกัน เจ้าชายนาดีลพยายามจินตนาการถึงนิสัยใจคอของเจ้าชายผู้น่ารักในรูปวาด ฟีล่า แอสเทียร์ ไอเซ็นการ์ด นามก็แสนจะไพเราะเพราะพริ้ง ด้วยรูปโฉมและรูปนามเขาจินตนาการถึงนิสัยใจคอของคนในรูปภาพด้วยความสนุกสนาน
   
อาจะเป็นเด็กที่มีนิสัยเอาแต่ใจก็เป็นได้
   
เจ้าชายนาดีลเดาเอาจากจมูกที่เชิดรันขึ้นนิดๆ กับดวงตาคมที่ดูโฉบเฉี่ยวของฟีล่า หากว่าเป็นเด็กเอาแต่ใจนิดๆแบบพวกเจ้าหญิงหรือพวกราชินีก็ดีเหมือนกันน้า ตัวเขาเองก็มีความคิดที่ว่าอยากจะให้คนในภาพมาคอยทำตัวเอาแต่ใจให้เขาต้องคอยตามเอาใจด้วยอยู่เหมือนกัน
   
พอบอกความคิดแบบนี้ของตนออกไปให้ราอูลฟังก็ถูกมองด้วยสายตาเวทนาแล้วกล่าวหาว่าตนเองนั้นเป็นพวกชอบความเจ็บปวดซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ซักนิด เกี่ยวกับเรื่องลักษณะที่นิสัยของตนเองนั้นเขากับคิดเห็นว่าตัวเรานั้นช่างเป็นคนที่ขี้แกล้งและชอบรังแกคนเสียมากกว่า
   
“นิสัยร้ายๆอย่างท่านจะทนให้ว่าที่คู่หมั้นนิสัยร้ายกาจโขกสับได้เสียเท่าไหร่กันเชียว” นาดีลได้แต่อมยิ้มถูกโขกสับบ้างจะเป็นไรไปนับว่าเป็นรสชาติใหม่ที่น่าลิ้มลองไม่ใช่หรือ สำหรับนาดีลแล้วหากไม่ใช่ว่าถูกใจหน้าตาของฟีล่าอย่างมากแล้วล่ะก็ เห็นทีว่าชีวิตแต่งงานคงเหมือนกินยาขม เพราะอาจจะต้องทนมีชายาที่ได้มาจากการแต่งงานทางการเมืองแล้วยังจะต้องทนอยู่กับภรรยาขี้ริ้วอีกด้วย หากเป็นเช่นนั้นจริงคงทรมานใจน่าดู

   “เห็นท่านระริกระรี้เช่นนี้แล้ว ข้าละอดหมั่นไส้ไม่ได้จริงๆ ว่าที่คู่หมั้นอะไรนี่คงไม่พ้นนิสัยเอาแต่ใจและเหย่อหยิ่งตามแบบอย่างพวกมังกรแน่ๆเลยเชียว”
   
เจ้าชายนาดีลได้แต่ปล่อยให้คำขู่ของราอูลลอยตามลมไป ด้วยความที่รู้ดีว่าตนเองนั้นเป็นคนเอาแต่ใจเช่นไรและเมื่อตัดสินใจว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ นาดีลจึงไม่นำพาต่อคำพูดขู่ของเพื่อนสนิท
   
“ตื่นเต้นจังเลยน้าอยากจะพบหน้าเร็วๆจริงๆ” พูดในสิ่งที่คิดด้วยอารมณ์ที่ดีอย่างผิดปกติ ได้แต่ยิ้มเมื่อเห็นราอูลเบะปากเป็นสระอิ นับจากวันนั้นเขาก็นับวันรอที่จะได้พบหน้ากับว่าที่คู่หมั้น

   สวยและน่ารักยิ่งกว่าในรูปเสียอีก
   
วินาทีแรกที่ได้พบกับฟีล่าเจ้าชายนาดีลพึงพอใจยิ่ง และถึงแม้ว่าจะถูกฟีล่ามองดูด้วยสายตาไม่ชอบใจเขาก็ไม่ใส่ใจ เพราะได้หมายหมั้นเอาไว้แล้วว่าเด็กตรงหน้าคือสมบัติของเขา ถึงแม้ว่าจะได้มาด้วยความบังเอิญจากเรื่องทางการเมืองก็ตาม

   เจ้าชายนาดีลรู้ตัวว่าตนเองนั้นไม่เป็นที่ชอบพอของว่าที่คู่หมั้น การได้รับสายตาอันไม่เป็นมิตรหรือดูถูกจากฟีล่าไม่ได้ทำให้นาดีลหดหู่หรือไม่ชอบใจ เขากลับรู้สึกสนุกที่อีกฝ่ายพยายามขัดขืนและพยายามวิ่งหนีความเป็นจริงทั้งที่รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็นั่นไงท่าทางโวยวายหัวเสียแต่ไม่สามารถจัดการอะไรกับเขาได้ ใบหน้าที่เหมือนอยากจะร้องไห้ยามถูกเขารังแกมันช่างน่ารักชวนให้เข้าไปกลั่นแกล้งเสียจริง
   
น่ารักจนอยากจะอมเข้ามาไว้ในร่างปกป้องเอาไว้ไม่ให้ใครมาแตะต้องหรือทำให้บาดเจ็บ พอลองทำอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆปรากฏว่าเจ้าตัวต่อต้านเขาน่าดู แต่เจ้าชายวนาดีลกลับชอบอาการกระฟัดกระเฟียดเช่นนั้น มันดูน่ารักดีไม่ใช่หรือ การได้ปั่นหัวคู่หมั้นตัวน้อยทุกๆวันมันทำให้เขาสนุกและเหมือนได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับฟีล่ามากขึ้น
   
แต่ดูเหมือนฟีล่าจะไม่คิดอย่างนั้น ช่างมันปะไร
   
เจ้าชายนาดีลกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ถึงไม่ชอบใจข้าหรืออยากหนี แต่เชื่อเถอะฟีล่าเจ้าไม่มีทางเลือกมากมายนักหรอก เพราะราชาไอดริทและราชินีอลันน่าท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าไม่มีทางยกเลิกการหมั้นของพวกเรา เพราะนั้นเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เผ่ามังกรกับเผ่าสไลม์มีความแน่นแฟ้นกันประหนึ่งเป็นสายเลือดเดียวกัน
   
เจ้าชายนาดีลนั้นรู้ตัวดีอยู่ว่านิสัยเสียอีกประการหนึ่งของตนคือการช่างเป็นผู้เอาชนะ นอกจากจะชอบพอรูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอของฟีล่า การที่มีอุปสรรคขวากหนามด้วยผู้คนในเผ่ามังกรที่ไม่เห็นชอบมากมายทำให้เขามีความฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น
   
ยิ่งหนีก็ยิ่งต้องการ ยิ่งทำท่าไม่ชอบก็ยิ่งสนุก แถมยังมีอุปสรรคชิ้นโตอย่างความเกลียดชังที่มีต่อเผ่าพันธุ์ของเขาก็ยิ่งเร้าใจไม่ใช่หรือ เรื่องสนุกแบบนี้ยังหาได้จากที่ไหนอีกล่ะ รู้อยู่ว่าตัวเองนั้นเป็นสไลม์นิสัยประหลาดแต่หาได้คิดว่าต้องแก้ไขใหม่แต่อย่างไร
   
แต่ก็มีความคิดที่ว่าหากเกิดวันใดวันหนึ่งเกิดเบื่อฟีล่าขึ้นมาล่ะ อืม.......น่าคิดนะ เจ้าชายนาดีลคิดว่าบางทีความตื่นเต้นในการตามเอาใจหรือไล่ตื้อคนที่เกลียดตนเองอาจจะหมดลงในซักวันหนึ่ง ก็นะมันช่วยไม่ได้นี่ หากมีวันนั้นจริงคนที่ต้องเสียใจย่อมไม่ใช่เขาแน่ คงต้องเป็นฟีล่า แต่เด็กน้อยจอมเอาแต่ใจนี่คงไม่เสียใจหรอกมั้งเพราะท่าทางรังเกียจเขาเสียเต็มประดา
   
กระนั้นเพราะข้าชอบรูปลักษณ์หน้าตาและนิสัยบางส่วนของเจ้าน้าในอนาคตถึงข้าจะหมดรักเจ้า ข้าก็จะดูแลเจ้าอย่างดีน่า คิดถึงอนาคตเอาไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี ตอนนี้เจ้าชายนาดีลนั่งยิ้มและหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่ข้างกายของฟีล่าว่าที่คู่หมั้น
   
“เจ้าไม่เบื่อหรือไง ที่ต้องมาคอยตามข้าอยู่แบบนี้” ถูกถามด้วยใบหน้าที่ไม่เป็นมิตร เจ้าชายนาดีลได้แต่หัวเราะอิอิ บอกตามตรงแต่เป็นในใจนะ ยิ่งเจ้าทำหน้าไม่ชอบใจแบบนี้การยิ่งได้ทำเพื่อเอาชนะเจ้ามันยิ่งทำให้ข้ามีความสุขนะสิ
   
“ฮึ่ม......ท่านพ่อท่านแม่บ้าที่สุด ทำไมต้องจับข้าหมั้นกับพวกสไลม์แบบนี้ด้วยนะ”
   
ถึงจะทำหน้าเคียดแค้นแต่เจ้าก็หนีข้าไม่พ้นอยู่ดี เพราะอย่างนั้นทำใจยอมรับเสีบเถอะน่า ข้ารับรองเลยว่าจะเอ็นดูเจ้าที่น่ารักไปตลอดชีวิตเป็นอย่างดีเชียวล่ะ ไม่ได้พูดออกไปแต่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากหนักกว่าเดิม
   
ฟีล่าไม่ปิดบังความไม่ชอบใจที่มีต่อเขา นั่นเป็นเพราะว่าพวกเราอยู่กันตามลำพังในสวน จังหวะนั้นนางกำนัลผู้หนึ่งก็เดินตรงเข้ามาหา
   
“ท่านฟีล่าองค์ราชินีให้ข้านำขนมมาให้เจ้าค่ะ” นางกำนัลวางขนมลงตรงหน้า เจ้าชายนาดีลอมยิ้มชอบอกชอบใจที่เห็นฟีล่ายิ้มจนแก้มปริ การที่เจ้ายิ้มได้น่ารักน่าชังถือเป็นข้อดีของเจ้านะนี่ น่ารักจริงๆให้ตายสิ
   
แต่ด้วยไม่คาดคิดขณะที่เขาเอาแต่เผลอไผล นางกำนัลที่ไม่น่ามีพิษมีภัยกลับชักมีดสั้นออกมาแล้วหมายจะเข้าทำร้าย มันเกิดขึ้นไวมากและใช่ว่าเขาจะจัดการกับคนร้ายไม่ได้ แต่สิ่งที่ผิดคาดเหนือไปกว่านั้นฟีล่ากลับฉวยจับเอามีดอันคมกริบนั้นไว้หยุดการโจมตีของคนร้ายเอาไว้ได้ชั่วครู่ เจ้าชายนาดีลไม่รอช้าดีดตัวเองเข้าจัดการกับนางกำนัลคนนั้นจนหงายหลังล้มไม่เป็นท่า
   
“อึก.....” พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เปล่งเสียงร้องออกมา ดังนั้นจึงทำให้รู้ว่าฟีล่าเป็นคนที่ช่างมีความอดทนอย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าชายนาดีลปรี่เข้าหาเพื่อดูแผลที่มือของฟีล่าด้วยทั้งเป็นห่วงทั้งประหลาดใจ
   
“ฟีล่าเป็นอย่างไรบ้าง”
   
“เจ็บนะสิถามได้” ฟีล่าถลึงตาใส่เขา รู้อยู่แล้วว่าต้องเจ็บเพราะบาดแผลที่มือเป็นรอยแผลเหวอะหวะน่ากลัวอย่างยิ่ง ในตอนนั้นราชาไอดริทกับราชินีอลันน่าก็โผล่หน้ามา
   
เมื่อทั้งคู่เห็นบาดแผลที่มือของฟีล่าราชินีก็ร่ายเวทย์มนต์รักษาบาดแผลให้ในทันที เจ้าชายนาดีลโล่งใจอย่างที่สุด ยิ่งความกังวลลดลงไปทีละนิด ความรู้สึกอย่างหนึ่งก็เข้ามาแทนทีและเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
   
ทั้งๆที่เกลียดข้าถึงเพียงนั้น แต่กลับเอาตัวเข้าปกป้องข้าโดยไม่ต้องคิดอะไรเลยหรือ?
   
คิดอย่างนี้ความรู้สึกบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่ในใจแต่ยังไม่รวมตัวเข้ากันดีก็ตกตะกอนทันที รู้สึกร้อนระอุในอก เจ้าชายนาดีลอยากจะรู้จากปากของฟีล่าจริงๆว่าทำไมถึงปกป้องเขาทั้งๆที่เกลียดกันมากจนแสดงออกอยู่บ่อยครั้ง แล้วโอกาสที่จะได้ถามก็ไม่ยากเสียด้วย
   
“เจ้าอยากรู้หรือว่าทำไมข้าถึงปกป้องเจ้า”
   
ใช่ข้าอยากรู้มาก รู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าเกลียดข้า แต่การที่เจ้ามาปกป้องข้ามันทำให้ข้าเกิดความรู้สึกอันไม่คาดคิดกับเจ้ามากมายจนข้าสับสน
   
ใช่แล้วมันมากเกินว่าแค่จะพึงพอใจรูปลักษณ์ของเจ้า ยอมรับกับตนเองว่าวินาทีที่เจ้าเอาตัวเข้าปกป้องข้า ข้าเกิดความปลาบปลื้มจนยากจะอธิบาย
   
“ก็เราเป็นคู่หมั้นกันไม่ใช่หรือ อะไรกันเจ้าคิดว่าข้าจะใจร้ายปล่อยให้เจ้าโดนทำร้ายต่อหน้าอย่างนั้นหรือ ข้าไม่ได้เกลียดเจ้าซักหน่อย”
   
หลังจากพูดได้ไม่ทันขาดคำฟีล่าก็อุทานดังอ๊ะ คงจะเสียหน้าที่ต้องพูดความจริงในใจออกมา คู่หมั้นของเขาหน้าแดงไปทั้งใบหน้า ดวงตากลมโตปลายมองมาที่เขาเป็นระยะๆเพื่อสังเกตสีหน้าของเขาด้วยท่าทางที่ประหม่าที่สุด
   
น่ารัก
   
ตอนแรกนั้นคิดว่าจะมีดีเพียงหน้าตาเสียอีก ความพึงพอใจแบบผิวเผินในตอนแรกถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยการถูกปกป้องจากคนร้ายเพียงครั้งเดียว
   
เจ้าชายนาดีลไม่ได้ชอบแค่รูปลักษณ์อันงดงามหรือท่าทางกวนประสาทชวนให้กลั่นแกล้งอีกต่อไป หากยังพึงพอใจในความโอบอ้อมอารีที่นับวันจะยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
   
ฟีล่านั้นไม่ใช่คนถือตัวตามแบบมังกรทั่วไป เขามักจะมอบความเมตตาให้แก่ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าและใจดีต่อคนอื่นๆเสมอ นอกจากนั้นยังไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมใดใด นิสัยแบบนี้ชวนให้นึกรักใคร่และอยากปกป้อง
   
ยิ่งวันคืนผ่านไปความรักที่นาดีลมีให้แก่ฟีล่าก็เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย ความรักที่เริ่มต้นจากความพึงพอใจต่อรูปลักษณ์เมื่อแรกเห็น แต่เพิ่งมาสุกงอมดีตอนที่รู้ว่าอีกฝ่ายก็ห่วงใยเขาเช่นกัน นานนับปีที่เฝ้ามองความแก่นแก้วและน่ารักของฟีล่ายิ่งกาลเวลาผ่านไปยิ่งมีแต่จะชอบเพิ่มมากขึ้นทุกๆครั้งที่ได้เจอ
   
ความรู้สึกสดใหม่ของความรักและอบอุ่นนี้ไม่จางหายไป ถึงแม้ว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในฐานะสามีภรรยาแล้วก็ตาม ฟีล่าก็ไม่เปลี่ยนแปลงยังเป็นคนสร้างความสุขและความสนุกให้เขาได้เสมอ
   
“ยิ้มคนเดียวอะไรของเจ้า” เจ้าชายนาดีลเปลี่ยนจากยิ้มเป็นหัวเราะอิอิทันทีที่ถูกฟีล่าถาม ใบหน้างดงามของภรรยาที่ส่อชัดว่าตื่นกลัวและหวาดระแวงทำให้สไลม์หนุ่มรู้สึกฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก
   
“แนะยังไม่หยุดหัวเราะน่าขนลุกนั่นอีก” ยิ่งถูกทักก็ยิ่งอยากแกล้งตอนนี้เขาหัวเราะเอิ๊กอ๊าก จงใจหัวเราะให้หนักๆเพราะว่าชอบมากตอนที่เห็นสีหน้าหวาดผวาของภรรยา
   
“หากเจ้ายังไม่เลิกหัวเราะบ้าๆข้าจะโกรธแล้วนะ” เสียดายที่ต้องหยุดแกล้งเสียแล้ว ตอนนี้ต้องง้องอนเสียหน่อยด้วยการบินเข้าไปนั่งบนตักแล้วถูร่างนุ่มนิ่มของตนเพื่อออดอ้อน ได้ผลเสมอๆล่ะ ไม่อยากจะอวด
   
“ไหนบอกข้าสิว่าเจ้ายิ้มอะไร”
   
“ข้านึกถึงเรื่องน่ารักๆของเจ้าเมื่อสมัยก่อนนะสิ”
   
“อ๋อ…..อื้อ……ข้านึกว่าเจ้าจะ…….”
   
“นึกว่าอะไรหรือ” เจ้าชายนาดีลอยากรู้ขึ้นมาติดหมัด ท่าทางอึกอักมีพิรุธแบบนี้ใครก็สงสัยทั้งนั้นล่ะไม่ใช่แค่เขาคนเดียวแน่ๆ
   
“เอ่อ……” ฟีล่าทำท่าจะบ่ายเบี่ยงแต่สไลม์อย่างนาดีลหรือจะยอมง่าย เขาแสร้งทำเป็นโกรธด้วยการเปลี่ยนสีแล้วพ่นควันออกดังปู๊นๆข่มขวัญผู้เป็นภรรยา
   
“หากเจ้าไม่บอกคืนนี้ข้าจะลงโทษเจ้าให้หนักแน่นอนว่าบนเตียงนะน้า” ท้ายประโยคนั้นดัดจริตทำเสียงลั๊นลาเสียหน่อย มันดูน่ารักดีไม่ใช่หรือ นอกจากนั้นการทำเสียงแบบนี้ก็เพราะรู้ว่ามันจะทำให้ภรรยาของเขาทำหน้าพรั่นพรึงชวนยั่วยวนแบบไหนออกมา
   
“ก็ได้ก็ได้ข้าบอกแล้ว…….ข้าแค่นึกว่าเจ้าวางแผนจะทำลูกกับข้าคืนนี้ต่างหาก”
   
ได้ฟังแล้วก็หัวเราะฮาฮา เขาลืมไปเลยว่าเกริ่นกับฟีล่าเอาไว้ว่าพร้อมจะทำลูกกับภรรยาเร็วๆนี้
   
“เจ้าพร้อมแล้วหรือฟีล่า” ทำเสียงส่อกระเส่าข่มขู่อีกฝ่าย ยิ่งเห็นใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความอายกับท่าทางกระอักกระอ่วนก็ยิ่งชอบใจ
   
“จะว่าพร้อมก็…..มันก็ใช่ ก็เตรียมใจมานานแล้วนี่นา”
   
เขารู้ดีว่าฟีล่านั้นมีความกังวลหลายอย่างเกี่ยวกับการตั้งท้อง ภรรยาของเขากลัวการเปลี่ยนแปลงของสรีระร่างกายที่จะเกิดกับคนท้องเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปที่ไม่เคยตั้งท้อง
   
‘หากว่าข้าท้องป่องออกมาเหมือนคนอ้วนคงจะน่าเกลียดน่าดูนะ’
   
พอเขาถามว่าทำไมคิดเช่นนั้น ฟีล่าก็ตอบว่าเพราะผู้ชายปกติไม่ตั้งท้องนะสิ ถามไปถามมาก็พบว่าที่แท้แล้วก็อายที่จะต้องเดินท้องโย้ไปโย้มาตอนที่อุ้มท้อง แต่เจ้าชายนาดีลกลับคิดว่าหากท้องโย้แบบนั้นจริงๆคงจะดูน่ารักไปอีกแบบแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องน่ารักเพราะว่าอีกฝ่ายอุ้มท้องลูกของเขาเอาไว้นั่นเอง
   
“คืนนี้เรามาเริ่มกันเลยดีไหม”
   
“ก็….ถ้าเจ้าต้องการล่ะก็”
   
มันใช่อยู่แล้วว่าเขาต้องการนาดีลกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วกลายร่างเป็นมนุษย์โดยไม่รอช้า

มีต่อ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
หลังจากกลายร่างเป็นมนุษย์แล้วเจ้าชายนาดีลหยิบกล่องกำมะหยี่จากด้านในลิ้นชักของโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างหัวเตียงออกมา ความจริงให้หมอผีของเผ่าปรุงยาชนิดนี้เอาไว้นานแล้วไม่นึกว่าจะเอามาใช้ได้เร็วถึงเพียงนี้
   
“นี่คือยาที่ใช้สร้างมดลูกเทียมอย่างนั้นหรือ”
   
“ใช่แล้ว” เจ้าชายนาดีลยิ้มกว้างพลางยื่นยาในกล่องกำมะหยี่ให้ภรรยารับไป จากนั้นจึงเทน้ำจากเหยือกลงแก้วยื่นส่งให้ฟีล่า
   
“เป็นอะไรไป” เจ้าชายนาดีลถามเมื่อเห็นภรรยาเอาแต่จดจ้องมองดูยาในมืออย่างลังเล ได้แต่แอบหัวเราะท่าทางประหม่าของภรรยาอยู่ในใจ ท่าทางหวาดระแวงทั้งยังลังเลของเจ้ามันกระตุ้นให้ข้าอยากแกล้งเจ้าน้า เอารีบๆกินเข้าไปสิก่อนที่ข้าจะอดใจไม่อยู่ เจ้าชายนาดีลปั้นหน้ายิ้มแย้มใส่ภรรยาที่มีท่าทางลังเลไม่เลิก เหมือนจะไม่ยอมกลืนลงไปง่ายๆเสียที สงสัยต้องขู่กันเสียหน่อย

   “ถ้าเจ้าทานยาเองไม่เป็น เอาอย่างนี้ไหมให้ข้าป้อนทางปากก็ได้น้า” ไม่พูดเปล่ายังแสดงท่าที่คุกคามอย่างต่อเนื่องจนภรรยาสะดุ้งกาย พอขยับมือไปจะไขว่คว้าฟีล่าก็รีบกินยาเข้าไปอย่างรวดเร็ว เจ้าชายนาดีลแสยะยิ้มพึงพอใจ

   “กินเข้าไปแล้วนะ” ฟีล่ามองมาที่เขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังขา

   “แล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น” นาดีลลอบหัวเราะในใจดังอิอิ แต่แสร้งปั้นหน้าอ่อนโยนจริงจัง นึกสงสารภรรยาอยู่เล็กน้อยจึงไม่อยากแกล้งให้หวาดผวาไปมากกว่านี้

   “ก็รอเวลาซักหน่อยเมื่อตัวยาเข้าไปในร่างมันจะเริ่มสร้างมดลูกเทียมให้เจ้า ใช้เวลาไม่นานหรอก”
   
“แล้วมันจะเจ็บไหม” ท่าทางเป็นกังวลของภรรยาทำให้เขาเกิดความสงสาร ด้วยความที่ยังเยาว์นักแถมยังเป็นผู้ชาย เจ้าชายนาดีลจึงไม่แปลกใจที่ฟีล่าจะกังวลและหวาดกลัว
   
“ไม่เจ็บหรอกฟีล่า เจ้าจะไม่รู้สึกอะไร หลังจากสร้างมดลูกเทียมเสร็จเจ้าแค่จะรู้สึกร้อนตามเนื้อตัวเท่านั้น” เอ่ยปลอบโยนด้วยเสียงอ่อนหวาน ภรรยาของเขาพยักหน้าหงึกๆสีหน้าผ่อนคลายความกังวลลงไปมาก ว่าแล้วก็พยายามชวนคุยให้ฟีล่าสบายใจขึ้นหน่อย
   
“ฟีล่าที่รัก เจ้าอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว” ภรรยากระพริบตาปริบๆ แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแล้วเริ่มต้นครุ่นคิด สำหรับนาดีลไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวเขาก็พอใจทั้งนั้น หากเป็นไปได้อยากจะมีทั้งชายทั้งหญิง หากเป็นลูกแฝดคงจะดีไม่น้อย

   “เอ่อ......นั่นสินะ......ถ้าเป็นไปได้.....ก็.......” เจ้าชายนาดีลได้แต่อมยิ้มมองดูอาการลังเลของภรรยา น่าแกล้งเสียเหลือเกิน ในที่สุดก็ลงมือแกล้งลงไปจนได้
   
“ข้าอยากมีลูกซักสิบสองคน”
   
“เอ๊ะ” ภรรยาของเขาอุทานเสียงดังด้วยใบหน้าที่ทั้งตกใจทั้งพรั่นพรึง น่ารัก นาดีลอดกระหยิ่มในใจไม่ได้

   “แต่...แต่ว่ามันไม่มากไปหน่อยหรือ....” เสียงสั่นเทาของภรรยากระตุ้นเร้าให้รู้สึกดี นาดีลไม่ปิดบังความใจร้ายของตนอีกต่อไปเขาหัวเราะอิอิและปั้นหน้าเจ้าเล่ห์เกินจริงให้ฟีล่าเห็น

   “ปกติออก เจ้ารู้ใช่ไหมฟีล่าว่าข้าเป็นลูกคนเดียว นั่นก็เพราะท่านแม่เป็นมนุษย์จึงคลอดออกมาได้ที่ละหนึ่ง หลายปีที่ผ่านมาข้าพบว่าการไม่มีพี่น้องนั้นมันทำให้ข้าเหงามาก บอกตามตรงข้าล่ะอิจฉาเจ้ากับพี่ชายเจ้าที่รักใคร่กลมเกลียวกันดี”

   พอกล่าวจบภรรยาก็เปลี่ยนสีหน้าจากพรั่นพรึงเป็นเห็นอกเห็นใจ แต่เสียงที่เปล่งออกมาก็ยังคงดูสั่นสะท้าน ฮ่าฮ่าฮ่า ท่าทางหวาดกลัวของเจ้าช่างน่ารัก

   “ข้า….ข้าก็คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้ามีคนเดียวลูกของเราอาจจะเหงา แต่สิบสองคนมันมากเกินไป เอาซักสองคนไม่ได้หรือ” ภรรยาพยายามต่อรองด้วยใบหน้าแสนอ่อนโยน สำหรับนาดีลจะมีซักกี่คนไม่ใช่ปัญหา หากฟีล่าไม่อยากมีลูกเยอะๆเขาก็ไม่คิดที่จะขัดใจ แต่แค่ซักนิดขอแกล้งเจ้าให้ทำท่าทางน่ารักน่ารักให้มากมากก่อน

   “ไม่ได้หรือฟีล่า......ความสุขความฝันของข้าคือการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางลูกๆมากมายมันดูอบอุ่นมากเลยนะ” แสร้งตีหน้าเศร้า ไม่อยากจะบอกว่าเขานั้นเป็นสุดยอดนักแสดงคนหนึ่ง สามารถบีบน้ำตาให้ไหลออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ เห็นไหมล่ะน้ำตาของเขากำลังคลอเบ้าอยู่ รีบปาดน้ำตาให้ฟีล่าดูในทันใด

   “เอ่อ.......” ภรรยาอึกอักลำบากใจแต่พอเขาตั้งอกตั้งใจบีบน้ำตาให้มากกว่าเก่า ฟีล่าก็ลนลานเข้ามาปลอบ พึงพอใจกับการแสดงอันเก่งกาจของตัวเองจริงจริ๊ง

   “อย่าร้องไห้สิ.....นี่คงไม่ได้เล่นละครอยู่ใช่ไหม” ภรรยาของเขาพยายามแบ่งรับแบ่งสู้ นับว่ายังมีความฉลาดอยู่บ้างที่รู้ว่าเขาเล่นละคร แต่ในเมื่อทุ่มเทถึงขนาดนี้แล้วต้องเอาให้ถึงที่สุด

   “ฟีล่าคนใจร้าย เจ้าคิดว่าข้าเล่นละครหรือ” ทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่ เลิกร้องไห้แล้ว พอไม่ร้องไห้ภรรยาก็ดูจะโล่งใจขึ้น

“เอาล่ะๆ ข้าไม่หาว่าเจ้าเล่นละครก็ได้ เอาอย่างนี้ไหมลดลงซักครึ่งหนึ่งก็ยังดี หกคนก็ถือว่ามากอยู่นะ รับรองว่าเจ้าต้องอบอุ่นจนร้อนแน่” พยายามไม่ฉีกยิ้มออกไปเพราะรู้สึกขัน ภรรยาที่ตั้งอกตั้งใจหว่านล้อมสุดกำลังช่างดูน่ารักและน่าสงสาร
   
“นี่จริงๆนะ มีลูกมากจะยากจนไม่เคยได้ยินหรือ แล้วอีกอย่างนะตั้งสิบสองคน เจ้าจะใจร้ายให้ข้าตั้งท้องติดต่อกันไปอีกกี่ปีกี่เดือนล่ะ นี่แล้วตอนเลี้ยงอีกล่ะถึงแม้ว่าเราจะมีนางกำนัลมากมาย แต่ข้าก็อยากจะเลี้ยงลูกเองนะ จริงๆแล้วซักสามคนกำลังดี แต่หากว่าเจ้าอยากมีเยอะๆข้าคิดว่าหกคนน่าจะเหมาะ”
   
“อื้อ........นั่นสินะ........” แสร้งทำเป็นครุ่นคิดให้ภรรยาลุ้นซักเล็กน้อย ท่าทางตื่นระทึกราวกับกำลังวางพนันในสนามประลองฝีมือชวนให้รู้สึกดี
   
“เอ๋......เอาไงดีน้า..........” ทำเสียงระรื่นพร้อมกับส่งสายตาพราวระยับไปให้ เหมือนว่าภรรยาจะรู้ตัวแล้วว่าเขากลั่นแกล้ง ใบหน้างดงามบึ้งตึงแทบจะในทันที ฟีล่าหยิบหมอนมาทุบๆบนศีรษะของเขา
   
“เจ้าบ้าๆๆๆๆ แกล้งข้าหรือ” หัวเราะเสียงดังต่อความโกรธเกรี้ยวของภรรยา ถูกทุบตีด้วยหมอนไม่มีทางเจ็บแต่ก็ฉวยโอกาสคว้าเอาร่างของฟีล่าเข้ามากอดรัดแล้วโยนหมอนทิ้งไป
   
“ก็เจ้าน่ารัก ข้าถึงได้แกล้งหยอกเจ้าเล่น” ภรรยาในอ้อมกอดถลึงตาใส่

   “เอ.....แต่มีลูกซักสิบสองคนก็น่าสนใจอยู่น้า......”

   “เลิกแกล้งเสียทีเถอะน่า” ภรรยาถอนหายใจด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย เจ้าชายนาดีลง้องอนด้วยการจุ๊บเบาๆไปบนหน้าผาก

   “อย่ามาง้อเสียให้ยาก” อมยิ้มให้ภรรยาที่สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ไม่รอช้าประทับจูบฟอดใหญ่ไปที่แก้มทั้งสองข้างหลังจากจูบก็ถูไถใบหน้าของตนเข้ากับแก้มนิ่มของฟีล่า ได้ผลคนในอ้อมกอดหัวเราะคิกคัก
   
“อย่าน่ามันจั๊กกะจี้นะ” เจ้าชายนาดีลไม่หยุดอยู่แค่นั้นเขาคลายคอเสื้อของภรรยาออกแล้วจุมพิตลงไป ร่างในอ้อมกอดสะดุ้ง แต่ถึงจะตกใจก็ไม่ได้ต่อต้านเขาแต่อย่างใด ดังนั้นจึงได้ใจเลิกเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแผ่นอกนวลเนียน

   “คนลามก” ใบหน้าของคนต่อว่าแดงก่ำ การที่ต่อว่าแต่ไม่ห้ามอย่างนี้ มันก็เหมือนเป็นการเชิญชวนกันอย่างหนึ่ง เจ้าชายนาดีลหัวเราะฮิฮิ ส่งสายตาพิฆาตบอกให้รู้เป็นนัยว่าจะเผด็จศึก
   
“ข้าลามกแบบนี้กับเจ้าคนเดียวน้า”
   
“คนโกหก ข้ารู้พฤติกรรมเจ้ามาจากราอูลแล้วหรอกน่า เจ้ามีทั้งผู้หญิงผู้ชายออกจะเยอะแยะไปหมด” ภรรยาเบ้ปาก ท่าทางแบบนี้คงจะแอบงอนแน่ๆ ดังนั้นจึงรีบง้อแต่เนิ่นๆ
   
“อย่าเอาเรื่องเมื่อก่อนมาพูดสิเดี๋ยวนี้ข้ามีแต่เจ้านะ คนอื่นไม่มีทางอยู่ในสายตาของข้า....เจ้าไม่เชื่อใจข้าหรือ.....”
   
“ข้ารู้หรอกนะ ก็เราทำตัวติดกันไปทุกทีเสียขนาดนี้” ฟีล่าท่าทางเขินอายยามเมื่อพูดถึงความเป็นจริง

   “นาดีลข้ารู้สึกร้อนแบบแปลกๆ....คือข้า.........” ท่าทางภรรยาดูกระอักกระอ่วน ฟีล่านั้นเป็นคนขี้อายอย่างหนัก เวลาที่ต้องการตัวเขามักจะอดทนแล้วเก็บความต้องการเอาไว้อยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้เองก็เหมือนกันร่างกายคงร้อนผ่าวด้วยความต้องการแต่ไม่กล้าที่จะบอกความต้องการออกมา ตอนที่มีความต้องการในยามปกติก็นับว่ายากแล้วที่จะพูด แต่นี่เขารู้ดีว่าเกิดอารมณ์ใคร่เนื่องจากยาสั่งที่เข้าไปทำปฏิกริยากระตุ้นและมันจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับน้ำเชื้อของบุรุษเพศเข้าไป

   “นาดีล.......” ภรรยาส่งสายตาแฝงความหวั่นใจมาให้ ท่าทางจะรอให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน หากถูกมองด้วยสายตาแบบนี้ถ้าเป็นตามปกติก็จะกลั่นแกล้งนิดหน่อยให้หายหมันเขี้ยว แต่นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ อาการแบบนี้เป็นอาการแสดงชัดว่าภรรยาของเขามีร่างกายพร้อมที่จะสร้างทายาทแล้ว

   “ไม่ต้องกลัวนะฟีล่า เจ้าไม่ได้ผิดปกติอะไร แค่ยาที่กินเข้าไปมันกระตุ้นเจ้าให้เกิดความต้องการเกินปกติก็เท่านั้น” พอบอกออกไปฟีล่าก็คลายความหวาดหวั่น สองแขนเรียวคล้องคอของเขาโน้มให้ลงไปจูบ นาดีลสนองตอบการนำเสนอของฟีล่าอย่างเร้าร้อน
   
ลิ้นร้อนๆของพวกเขาพัวพันกันอย่างไม่รู้จักเบื่อ เจ้าชายนาดีลบ้างครั้งก็ถอนจูบเปลี่ยนมุมประกบปาก การไล่ตามเรียวลิ้นของฟีล่าและทั้งดูดดึงทำให้เกิดเสียงจ๊วบๆกระตุ้นให้เกิดความกระสันอยากมากว่าเดิม
   
“อึก....อื้อ......” ขณะที่จูบอย่างมัวเมาเจ้าชายนาดีลก็ถอดเสื้อของฟีล่าออกทีละชิ้นจนเปลือยเปล่า เมื่ออีกฝ่ายอยู่ในสภาพแรกเกิด เขาก็จัดการลากปลายลิ้นไล้เลียไปตามร่างขาวเนียน ฟีล่าแอ่นกายตามการลากลิ้นของเขาด้วยความพึงพอใจ

   “อึก.....เพราะยาหรือ....ข้าถึงมีความต้องการมากจนเกินปกติแบบนี้.......” เจ้าชายนาดีลไม่ตอบคำถามเขาได้แต่ยิ้ม สไลม์หนุ่มปรนเปรอเครื่องเพศของภรรยาด้วยมือและปาก ทั้งชักรูดและไล้เลียจนคนใต้ร่างปลดปล่อยออกมาถึงสองครั้ง
   
อยากจะแทรกกายเข้าไปในร่างของภรรยาโดยไว โชคดีที่ฤทธิยามีผลกระตุ้นให้ช่องทางอันอบอุ่นฉ่ำเยิ้มและอ่อนนุ่มโดยไม่ต้องเตรียมการมากมาย ดังนั้นเจ้าชายนาดีลจึงไม่รีรอสอดความเป็นชายเข้าไปอย่างช้าๆ
   
“อา..........” รู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดจากช่องทางคับแคบมันดีเสียจนต้องครางออกมายาวๆ ฟีล่าเองก็เช่นกัน

   “จะขยับแล้วนะ” ภรรยาของเขาพยักหน้าถี่รัว ดูเหมือนจะต้องการจนทนไม่ไหวแล้ว นาดีลคำรามในลำคอเมื่อเข้าไปจนลึกสุด

   “อ้า.......อึก......อื้อ........” ฟีล่าร้องครางไม่หยุดเมื่อเจ้าชายนาดีลขยับถี่รัว ขณะที่ขับกายกระแทกกระทั้นเขาก็ประกบปากจูบฟีล่าอยู่หลายครั้ง การทำไปด้วยจูบไปด้วยสร้างความเสียวซ่านให้อย่างที่สุด
   
“ดีไหมฟีล่า.....อา........”
   
“อึก......ดี......อ๊า.........” เมื่อได้รับคำตอบที่น่าฟังนาดีลก็ขยับหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น คิดอยู่ในหัวว่าคืนนี้คงอีกยาวนานเพราะฟีล่าช่างเย้ายวนกวนราคะเสียจนอดใจไม่กลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้
   
“มีความสุขจริงๆ” เจ้าชายนาดีลพึมพำออกมา
   
“ข้าก็มีความสุขเหมือนกัน” ฟีล่าตอบสนองคำพูดของเขาแทบจะในทันที เจ้าชายนาดีลยิ้มกว้างจากนั้นเขาจึงบรรจงมอบความสุขอันเปี่ยมรักให้กับภรรยายาวนานจนต่างคนต่างหมดแรงไปด้วยกัน

มีต่อ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
“ฟีล่าข้ามาแล้ว”
   
เจ้าชายนาดีลตะโกนบอกภรรยา ตอนนี้เขากับภรรยามาอาศัยอยู่ในป่านอกเมืองด้วยกันเพียงลำพัง เหตุผลนะหรือ เพราะฟีล่านี่สิ นับตั้งแต่ตั้งท้องก็กลายเป็นจอมเอาแต่ใจขึ้นมาเสียดื้อๆ
   
“ฟีล่าข้าเอาปลามาให้เจ้ามากมายเลยน้า”
   
เจ้าชายนาดีลในร่างสไลม์ตัวมหึมาคายปลาที่ยังไม่ตายจำนวนมากออกมาตรงหน้าภรรยา ฟีล่าสวาปามปลาเป็นๆจำนวนมหาศาลเข้าไปในคำเดียว
   
“เป็นไงบ้างที่รัก”

   “อยากได้อีก” ฟีล่าในร่างมังกรน้ำตัวขนาดใหญ่ร้องขอ นับตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งท้องภรรยาของเขาก็กลายร่างเป็นมังกรและหนีออกจากเมืองมาปลีกวิเวกอยู่ภายในป่า การหายหน้าไปอย่างกระทันหันสร้างความวุ่นวายให้แกชาวเผ่าสไลม์เป็นอย่างมาก เจ้าชายนาดีลใช้เวลาถึงหนึ่งอาทิตย์กว่าจะตามหาฟีล่าเจอในป่า เพราะเจ้าตัวดีพยายามหลบหลีกการตามหาอยู่ตลอด
   
“ท้องมันนับวันเอาแต่จะโตขึ้นข้าไม่สบายในเลยที่อยู่ในร่างของมนุษย์ อีกอย่างข้าอยากอยู่เพียงลำพังไปจนกว่าจะคลอดหวังว่าเจ้าคงจะเข้าใจข้านะ”
   
ให้ตายสิฟีล่า เจ้านี่มันช่างทำให้ข้าเป็นห่วงได้ตลอด อยากจะดุด่าออกไปเช่นนี้ในวันที่ตามหาฟีล่าพบ แต่พอปะเข้ากับท้องป่องๆของภรรยาในร่างมังกรก็ให้นึกสงสารจับใจ ก็เพิ่งท้องเป็นครั้งแรกนี่นะ คงจะทั้งสับสนและหวาดกลัว
เอาเถอะข้าจะยอมตามความเอาแต่ใจของเจ้า
   
ถึงแม้จะยอมตามที่ภรรยาต้องการ แต่จะไม่ยอมปล่อยให้ฟีล่าอยู่ตามลำพังอย่างเด็ดขาด หลายเดือนมานี้เจ้าชายนาดีลมาคอยเฝ้าภรรยาที่เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ทุกหนึ่งอาทิตย์ภายในป่า
   
ถามว่าทำไมต้องเปลี่ยนที่อยู่บ่อยๆ ก็ได้คำตอบกลับมาว่า รู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้ ปกติภรรยาก็เป็นคนอ่อนไหวมากอยู่แล้ว ยิ่งพอตั้งท้องแบบนี้ด้วยยิ่งอาการหนักมากกว่าเก่า ทำให้เจ้าชายนาดีลต้องคอยประคบประหงมมากกว่าเดิม เรื่องแกล้งภรรยาที่น่ารักซึ่งเป็นของโปรดก็งดและเลิกไปชั่วระยะหนึ่ง
   
“ฟีล่า เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง” ที่ถามนี่เพราะว่าเห็นท้องของภรรยาพองโตจนน่าใจหาย ถึงแม้จะอยู่ในร่างมังกรก็ตามแต่ก็เดาว่าอีกไม่นานน่าจะคลอดออกมาเป็นแน่แท้
   
“นี่เจ้าก็อยู่ในร่างมังกรและตั้งท้องจนจะครบเก้าเดือนแล้วนะ การที่เจ้าไม่ยอมพบหน้าใครแบบนี้มันทำให้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้าจะคลอดลูกออกมาตอนไหน ยิ่งนี่เป็นการตั้งท้องระหว่างมังกรกับสไลม์ครั้งแรกเสียด้วย ข้าเป็นห่วงเจ้านะ”
   
เพราะรู้ดีว่ากำหนดการคลอดน่าจะอีกไม่นานจึงพยายามตะล่อมให้ภรรยายอมเชื่อฟังให้หมอตรวจ แต่จอมเอาแต่ใจกลับส่ายหน้าไปมาแล้วงีบหลับทันที หลายเดือนมานี้นอกจากกินกับนอนภรรยาของเขาไม่ยอมทำอะไรเลย
   
เฮ้อ.....เจ้าทำให้ข้าเป็นห่วงมากนะเจ้ารู้ไหมฟีล่า

   ก็ได้แต่บ่นในใจ ตอนนี้นอกจากเป็นห่วงนาดีลยังรู้สึกเหงาๆ เพราะตั้งแต่ตั้งท้องมาฟีล่าดูจะเงียบขรึมกว่าปกติ ทั้งยังแสดงอาการดุดันทุกครั้งที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาเยี่ยมใกล้กับรังนอนของพวกเขา
   
กลายเป็นมังกรขี้ยัวะไปเสียแล้ว
   
ตอนนี้ภรรยาไม่ใช่บุคคลที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ที่น่าเป็นห่วงกลับเป็นเผ่าพันธุ์อื่นซึ่งเข้ามาใกล้โดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต่างหากที่เจ้าชายนาดีลต้องปกป้องจากกรอาละวาดทำร้ายของฟีล่า
   
เหนื่อยใจจริงจริ๊ง
   
เจ้าชายนาดีลได้แต่บ่นกับตัวเอง เพราะหลายครั้งที่ต้องคอยขับไล่พวกอยากรู้อยากเห็นจนบางทีก็กลายเป็นการจู่โจมอย่างโหดร้าย เขาค่อยๆกลายเป็นคนโมโหร้ายตามอย่างภรรยาไปเสียแล้ว
   
ให้ตายสิ ไม่อยากให้มันกลายเป็นอย่างนี้เล๊ย.........
   
นี่ก็เริ่มจะมืดแล้ว เจ้าชายนาดีลค่อยๆขยับเข้าไปนอนอยู่ใกล้ๆมังกรฟีล่าเขาหลับลึกแทบจะในทันที เพราะรู้ดีว่าภรรยาอาจโมโหได้ถ้าเขารบกวนเวลาผักผ่อน
   
เช้าตรู่วันถัดมานาดีลลืมตาตื่นเพราะได้ยินเสียงนกขับขาน ว่าจะกล่าวอรุณสวัสดิ์กับภรรยาก่อนไปหาอาหาร แต่เสียงครางเบาๆของภรรยาทำให้เกิดความเป็นห่วง
   
“ฟีล่าเจ้าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” สังเกตได้ว่าร่างของภรรยาสั่นเทา และครางออกมาเป็นระยะระยะ พอมองสำรวจดูตามเนื้อตัวของมังกรฟีล่าก็พบว่ากำลังพยายามเบ่งคลอดอย่างสุดกำลัง
   
ให้ตายเถอะ ภรรยาของเขากำลังคลอดลูก บ้าเอ๊ยหากตื่นช้ากว่านี้เขาคงจะไม่ทันได้เอาใจช่วยในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้แน่”
   
“ฟีล่าเจ้าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า เจ้าเจ็บใช่หรือไม่” มังกรสีฟ้าส่ายหัวไปมาเบาๆ สบายอย่างที่คิด ชั่วจังหวะที่กระวนกระวายนั้นเยลลี่สีดำซึ่งมีปีกมังกรสีทองก็หลุดผัวะออกมาจากร่างตามด้วยเยลลี่สีเงินซึ่งมีปีกขนนกสีขาวพิสุทธิในเวลาถัดมา
   
ฟีล่ากระพริบตาปริบๆมองดูสไลม์ตัวน้อยทั้งสอง ทันทีที่คลอดออกมาอย่างปลอดภัยเจ้าตัวน้อยก็ลืมตาใสปิ๊งร้องเสียงเจื้อยแจ้วสร้างความโกลาหลแทบจะในทันที
   
“ท่านแม่ ท่านแม่ข้าหิว” สไลม์สีดำและสไลม์น้อยสีขาวเด้งตัวขึ้นๆลงๆตรงหน้าภรรยา เจ้าชายนาดีลไม่แปลกใจซักนิดที่ลูกๆของเขาจะพูดจาได้คล่องปร๋อ เพราะเด็กเผ่าสไลม์นั้นจะสืบทอดความทรงจำและทักษะผ่านทางสายเลือดของผู้เป็นมารดา ดังนั้นจึงรู้ความตั้งแต่เกิดไม่เหมือนกับเผ่าพันธุ์อื่น
   
“อา.....เอ้อ......” ฟีล่าครางเสียงอู้อี้ ท่าทางสับสนงุนงงของภรรยาดูแล้วช่างน่าขบขันและน่าสงสาร จะตกใจในพัฒนาการของลูกน้อยก็ไม่แปลก ยังไงภรรยาของเขาก็ไม่เคยเลี้ยงดูเด็กเผ่าสไลม์มาก่อนอยู่แล้ว นาดีลขยับกายดึ๋งดั๋งเข้าหาภรรยาและบุตรทั้งสองพร้อมกับยิ้มกว้าง
   
“เอาล่ะอิซาค อัสรัน มาหาพ่อมาพ่อจะพาเจ้าไปออกล่า” เขาตั้งชื่อให้ลูกตัวน้อยเสร็จสรรพ ฟีล่าที่ได้แต่มองยังคงมึนงงไม่หาย เพราะตอนนี้ลูกสไลม์ทั้งสองเด๋งดึ๋งๆไปรอบๆผู้เป็นแม่พลางร้องขออาหารไม่เลิก แต่ก็นั่นแหละพอพ่ออย่างเจ้าชายนาดีลเสนอจะพาไปหาอาหารปุ๊บด้วยความหิวตามสัญชาติญาณเจ้าลูกตัวแสบทั้งสองก็ปรี่เข้ามาหาเขาทันที
   
“ท่านพ่อท่านพ่อ ใครชื่ออัสรันใครชื่ออิซาคฮะ” สไลม์สีขาวซึ่งมีปีกขนนกตัวจ้อยร้องถามเจ้าตัวนี้ดูกระตือรือร้นและดูวุ่นวายมากกว่าเจ้าสไลม์สีดำปีกทองคนพี่ที่ดูนิ่งมากกว่า ตอนนี้เจ้าสไลม์แสนขาวโดดไปรอบๆตัวเจ้าชายนาดีล
   
“อิซาคคือชื่อของเจ้า” นาดีลตัดสินใจได้ในทันที เขาเรียกขานสไลม์สีขาวว่าอิซาค

“ส่วนเจ้าชื่ออัสรัน” หลังจากรับรู้ชื่อเสียงเรียงนามกันเป็นที่เรียบร้อย เจ้าชายนาดีลก็เริ่มสอนวิธีล่าให้กับลูกทั้งสอง สามพ่อลูกหายไปด้วยกันจนเกือบบ่ายคล้อยจึงกลับมา เมื่อกลับมาถึงเจ้าลูกสไลม์ทั้งสองบินรี่เข้าไปนอนใกล้ๆกับฟีล่าผู้เป็นมารดาแล้วงีบหลับ
   
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างฟีล่า” นาดีลเริ่มบทสนทนาหลังจากพวกลูกๆนอนหลับเรียบร้อยแล้ว
   
“ถ้าหมายถึงร่างกายข้าแข็งแรงดีแล้ว....แต่ว่า” ฟีล่ากระพริบตาปริบๆพลางมองดูลูกน้อยทั้งสอง ดูก็รู้แล้วว่ามีเรื่องอะไรติดอยู่ในใจ โธ่ที่รักหน้าของเจ้ามันอ่านง่ายถึงเพียงนั้น
   
“เจ้ากังวลเรื่องลูกหรือ” เจ้าชายนาดีลถาม
   
“ข้าแค่คิดว่าอิซาคกับอัสรันเขาเหมือนเจ้ามาก....”
   
“เจ้าน้อยใจหรือที่ลูกไม่เหมือนเจ้าเลยซักตัว” เจ้าชายนาดีลถามยิ้มๆ ภรรยาส่ายหน้าไปมาปฏิเสธทันที

   “อย่างนั้นยังมีอะไรให้ติดใจอีก หากว่าเจ้าอยากได้ลูก ที่เหมือนเจ้าซักตัว เอาอย่างนี้ไหมเรามาทำลูกอีกหน ทำกันไปจนกว่าจะได้ลูกที่เหมือนเจ้าซักตัวดีหรือไม่” กล่าวจบภรรยาของเขาก็ทำหน้าพรั่นพรึง ดูแล้วช่างน่าขบขัน รู้สึกว่าฟีล่าของเขาช่างน่ารักมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ
   
“ข้าว่าเราเว้นระยะซักพักจะดีกว่า แค่เจ้าตัวจ้อยสองตัวที่ซุกซนข้าก็คิดว่าข้าต้องเหนื่อยมากแน่ๆ” เจ้าชายนาดีลหัวเราะอิอิอย่างเจ้าเล่ห์ อดจะหยอกเย้าไม่ได้เลยจริงๆ แต่ก็ขอหยอกแค่พอหอมปากหอมคอเท่านั้นแล้วเริ่มกล่าวต่อไปอย่างจริงจัง
   
“ฟีล่าตอนนี้เจ้าก็คลอดออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว เรากลับอาณาจักรของเรากันดีกว่าไหม”
   
“อื้อ” ฟีล่าตอบกลับมาแทบจะในทันที วันถัดมาเจ้าชายนาดีลจึงพาภรรยาและลูกๆกลับคืนสู่บ้านเมืองของเขา


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

จบแล้วตอนนี้กำลังเขียนเรื่องใหม่อยู่ค่า ขอเวลาซักพักจะเอามาลงอีกแน่นอนค่า

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

   
   


ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
นึกว่าจะมีตอนเลี้ยงลูกอีกซักตอน  :impress2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
อาา...จบแล้วว
ท้องตั้ง9เดือนแต่ดันเกิดออกมาเป็นสไลม์
ลูกน่าจะมีอะไรที่พิเศษกว่าสไลม์ทั่วไปรึป่าวนะ
แบบมีร่างคนตามปกติและอาจจะมีร่างมังกรงี้
ก้อุส่าท้องตั้ง9เดือนนี่นาาา
แต่ก้สนุกมากกกเลยค่ะ พล้อตไม่ซ้ำใครดี
เดินเรื่องก้ลื่นมาก เดินเรื่องน่ารักค่ะ น่ารักด้วยบุคลิกตัวละคร
น่าสนใจน่าริดตามด้วยปมต่างๆในเรื่อง
อ่านเพลินๆ ไม่ถึงกับอดหลับอดนอนวางไม่ลง
แต่ก้เป็นแบบที่ว่าอ่านเพลินๆเผลอแปปเดียวก้แบบ อ้าววจบแล้ว555
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ จะรอติดตามเรื่องต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่าร๊ากกกกกกก  :ling1: นาดีลลลล ฟีล่าาาา ชอบมากๆเลยค่ะ  o13 ฟินมาก nc นั้น ยังแรงได้อีกนะค่าาา (สายหื่น) ขอบคุณมากค่ะ รอตอนพิเศษค่าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

ไอเดียดีมากเลยขอรับ

เป็นแนวที่แหวกแนวจริงๆ


ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
น่ารัก มีแค่สองหรอ เอาอีกดิ 5555 :hao3:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ไม่รู้จักสไลม์ อ่านตอนแรกนึกว่าเป็นสัตว์แฟนตาซีพื้นฐานชนิดหนึ่ง 555 ไอเดียแปลกแหวกแนวดีจ้า เวลาเจ้าชายอารมณ์ดีโดดดึ๋งๆ นึกภาพตามแล้วน่ารักมากเลย

ยังอยากต่ออยู่เลยอ่า  :hao3:  แบบว่าให้มีลูกอีกหนึ่ง แล้วเด็กๆก็พากันหนีไปป่วนแดนมังกร เป็นแก๊งค์ 3 ช่าซนๆไรงี้  /คนเขียนงง เจอคนอ่านพูดเองเออเอง 555

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
ปกติก็ไม่ได้ชอบอ่านนิยายแปลกแหวกแนวอะไร แต่เรื่องนี้ทำไมชอบจัง :-[

แอบงงๆ ตรงมีระลึกถึงชาติก่อนตอนเป็นมนุษย์ คือไปเอี่ยวกับเรื่องไหนหรือเปล่าคะ

ขอบคุณคนเขียนค่ะ สนุกมากกกก o13 o13

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ชอบตอนพิเศษ ^^ มีลูกแล้วตัดจบเร็วจัง ถ้านิสัยเหมือนพ่อ ฟีล่าโดนแกล้งอ่วมแน่  :laugh:

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คู่นี้น่ารัก #มารอตอนพิเศษ คริคริ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชอบอ่ะ น่ารักมาก
ปล.ถ้าไม่รบกวนเกินไป อยากจะขอตอนพิเศษตอนเลี้ยงลูกอีกสักนิดเถอะนะคะ  :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด