งวดสาม เลขเด็ดงวดนี้ณ บริเวณ ศาลาท่าน้ำหน้าวัด คืนนี้ ผู้คนคึกคัก อย่างกับว่ามีงานวัด ผู้คนมากมายมารวมกันอยู่ที่แห่งนี้ แต่เป้าหมายของเหล่าผู้มาชุมนุมในวันนี้คือการหาเลขเด็ด
"ไอ้น้ำ คืนนี้เห็นเลขอะไรบอกพวกข้าด้วยนะโว้ย งวดก่อนเลขเอ็งเข้า พวกข้าไม่ได้ตาม คิดแล้วมันเสียดายจริง รู้อย่างนี้ ตามสัก สิบ ยี่สิบ ก็ยังดี เนอะ นางสาย นางแช่ม" นางเล็กเต็มไปด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่าเสียดายเลขเด็ดงวดก่อน จึงพูดดักทางเอาไว้เพราะกลัวไอ้น้ำงุบงิบ
“ใช่ คิดแล้วเสียดาย” นางแช่ม นางเล็กตอบโดยพร้อมเพรียงกัน
“ถ้าฉันเห็นฉันบอกแน่จ้ะ” ไอ้น้ำที่ยืนรั้งท้ายป้าเช่นเคยส่งยิ้มและตอบข้ามหัวสามป้าออกไป
"ว่าแต่ เอ็งไม่เข้ามาลูบบ้างล่ะ เผื่อแม่ตะเคียน อยากได้สัมผัสจาก หนุ่มๆ บ้าง" นางแช่มแกล้งเย้าไอ้น้ำ
"ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันดูอยู่ตรงนี้ก็ดีแล้ว" ไอ้น้ำทำท่าจะเข้าไปลูบแต่พอป้าแช่มพูดประโยคต่อท้ายตามมา เขาเลยเริ่มกลัว หากเจ้าแม่ตะเคียนอยากตามเขาไปที่บ้านด้วยจะทำอย่างไร คิดแล้วไอ้น้ำก็ลูบแขนตัวเองเบาๆ ขนลุกชูชันไปหมดแล้ว
"เออ ตามใจเอ็ง ข้าถูต่อก่อน"
"ป้า เห็นยัง เร็วๆ สิ ยุงจะหามฉันอยู่แล้ว" ไม่ถึงนาที ไอ้น้ำก็ถามขึ้น
"ยังไม่เห็นเลยว่ะ หรือคืนนี้จะไม่มีดวง" นางแช่มหันมาบอกไอ้น้ำ
"ไม่มีดวงได้อย่างไร ไม่ได้ๆ เปลี่ยนที่หาไหม ป้า" ไอ้น้ำไม่ยอม คืนนี้เขาจะกลับไปมือเปล่าไม่ได้ น้ำพูดพลาง เกา
แขนขาที่คันจากยุงกัดไปด้วย จะตบยุงให้ตายก็ไม่กล้า ไม่อยากทำบาป ก่อนวันหวยออก เขาต้องสั่งสมบุญไว้ให้มากเข้าไว้
“เออ ก็ดี” นางแช่มขยับหาที่ใหม่แล้วเริ่มลงมืออีกครั้ง
ผ่านไปอีกสักพัก ไอ้น้ำคิดคืนนี้สงสัยจะชวดแล้วล่ะมั้ง บรรดาสามป้า ยังไม่ได้เลขสักตัวเลย น้ำชะโงกหน้ามองแป้งขาวๆ พลางทอดถอนใจ หรือว่าวันนี้ต้องกลับบ้านมือเปล่าแล้ววะ
ทันใดนั้น เสียงป้าแช่มก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความดีใจ ที่มโนภาพจนเห็นเป็นตัวเลข
"ไอ้น้ำโว้ย มาดูตรงนี้ซิ ว่าเลขอะไร ป้าเห็นเลขหนึ่งกับสองว่ะ มา เข้ามาใกล้ๆ" สามป้ากวักมือเรียกไอ้น้ำ พร้อมใจกันแหวกพื้นที่ตรงกลางว่างเอาไว้ให้ไอ้น้ำเข้าไปเห็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน
"เลข! เลขมาแล้วนี่จ๊ะ ป้า" น้ำรีบดิ่งเข้าไปตรงที่ป้าเรียก ชายหนุ่ม เพ่งดูเลขตรงที่ป้าบอก พร้อมกับพูดขึ้นว่า
"ป้า ฉันเห็นเลขหนึ่งกับห้าอะ" น้ำพูดพลางขมวดคิ้ว สองกลับข้างเปล่าวะ แต่ก็ห้าชัดๆ อยู่นา
"โอ้ย หนึ่งห้า มานเพิ่งออกไปงวดที่แล้ว จะมาออกอะไรอีก แต่เอาเถอะ เดี๋ยวซื้อติดไว้สิบบาทละกัน" นางสายพูดด้วยความเซ็งคิดว่าจะได้เลขดีๆ แต่กลับได้เลขงวดที่เพิ่งออกไปงวดก่อน โอกาสจะออกอีกครั้งมันยากเต็มทน
"ตามใจป้าเลย”
“แล้วนี่เอ็งจะเดินดูของอะไรก่อนไหม หรือจะกลับเลย” นางเล็กถามขึ้นหลังจากกลุ่มทะลวงหาเลขเด็ดกำลังจะสลายตัว
“ฉันว่าจะเดินดูของแถวนี้ก่อน” ไอ้น้ำตอบสามป้ากลับไปตั้งใจจะหาอะไรกินเล่น แต่จู่ๆ หน้าตาที่กำลังยิ้มแย้มก็หุบยิ้มลงทันควัน
“ฉันให้เลขห้านะจ๊ะ พ่อน้ำ....” เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นข้างหูไอ้น้ำ
“ป้า..” น้ำตะโกนเรียกสามป้าได้ทันก่อนที่ป้าจะเดินหายไป
“อะไรวะ” นางแช่มหยุดเดินแล้วหันมาถามตามเสียง
“ฉันเปลี่ยนใจ ขอกลับพร้อมกับป้าๆ นะจ๊ะ”
“ไม่ดูของแล้วหรือ” นางเล็กถามบ้าง
“จ๊ะ ดึกแล้วเดี๋ยวแม่ฉันปิดบ้านหนีฉันเสียก่อน”
“เออ ไปสิ”
“จ้ะๆ” ไอ้น้ำรีบตอบรับคำแล้วเดินแทรกกลางระหว่างสามป้าทันที โดนป้าสายบ่นนิดหน่อยแต่ก็ยอมให้ไอ้น้ำเดินตรงกลาง
“ฮ่าๆ พ่อน้ำ พ่อรูปหล่อ กลับแล้วเหรอ งวดนี้ฉันให้สามตัวตรง ศูนย์ หนึ่ง ห้า เลยนะจ๊ะ พ่ออย่าลืมซื้อ แล้วงวดหน้ามาหาฉันอีกนะ”
ไอ้น้ำได้ยินเสียงดังขึ้นไล่หลังก็ขนลุกซู่หนักไปกว่าเดิม ในใจสวดภาวนา นะโมตัสสะ อย่างรวดเร็ว ไม่ลืมแผ่เมตตาต่อท้ายอีกสักบท
เห็นทีงวดหน้าต่อให้แม่นขนาดไหน เขาคงจะไม่กล้ามาอีกแล้ว
ยกโทษให้ฉันเถอะนะจ๊ะ แม่ตะเคียน ฉันกลัวแล้วจ้า
เช้าวันรุ่งขึ้น ไอ้น้ำรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำภารกิจสำคัญของวันนี้ วันที่ยิ่งใหญ่ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเก็บหวยในตลาด น้ำก็ตะโกนถามแม่น้อยที่เพิ่งกลับมาจากสวนว่างวดนี้จะซื้ออะไร
“หน้าตาเอ็งเป็นอะไร ซีดเซียวอย่างกับโดนผีหลอก ตาก็คล้ำเชียว นอนไม่พอเหรอ” แม่น้อยถามเพราะลูกชายมีสีหน้าอิดโรยอย่างกับคนอดนอน
“ฉะ..ฉันก็แค่นอนดึกไปหน่อยเอง” น้ำติดอ่างตอบ แม่พูดอย่างกับตาเห็นแน่ะ รู้ได้ไงว่าเขาเจอผีหลอก
"เออ เข้านอนให้มันแต่หัวค่ำ เอ็งอะเอาแต่ตะลอนไปวันๆ เอ้านี่ เอาไป แล้วซื้อตามเอ็ง ตัวละร้อย" แม่น้อยบอกอย่างใจป้ำเช่นเคย พร้อมยื่นกระดาษใบเล็กให้บุตรชาย
“ตัวละร้อยเลยเหรอแม่ งวดที่แล้วแม่ซื้อแค่ห้าสิบบาทเอง” ไอ้น้ำพูดด้วยความเป็นห่วง เขาไม่อยากให้แม่ติดหวย ทุ่มทุนเล่นจนเกินไปนัก น้ำรับกระดาษใบนั้นมาพับให้เล็กลงไปอีกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงช่องที่ไว้เก็บเศษเหรียญ
“อะไรกันเล่า นิดหน่อยน่า ก็ถือว่าข้าเอาจากงวดที่แล้วมาเล่นไง” แม่โบกมือประมาณว่านิดๆ หน่อยๆ
“มันจะดีเหรอแม่” ไอ้น้ำถามย้ำ
“ไม่เป็นไร งวดเดียวเท่านั้นแหละ”
"แม่” อยู่ๆ ไอ้น้ำก็กระซิบเสียงเบา จนแม่น้อยต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“อะไรวะ” แม่น้อยกระซิบถาม
“งวดนี้ฉันได้มาสามตัวตรง แม่จะเอาด้วยไหม"
“พูดอะไรของเอ็งวะ ใส่เข้าไปเลย อย่าลืม” แม่น้อยรีบบอก
“ได้เลยจ้ะ แม่” ไอ้น้ำยิ้มตอบ ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบันไดขั้นล่างสุดของบ้านเพื่อใส่รองเท้าผ้าใบ วันนี้เขานึกครึ้มอยากใส่รองเท้าผ้าใบคู่โปรดบ้าง ไม่ได้ใส่นานแล้ว กลัวมันจะน้อยใจไปเสียก่อน
“นี่ ไอ้น้ำ เอ็งเล่นหวยหนักหรือเปล่า อย่าให้มันเยอะเกินไปล่ะ ข้าเป็นห่วง”
"ไม่เยอะ ไม่กี่สิบเอง แม่ไม่ต้องห่วงฉันว่าจะเล่นจนหมดตัวหรอกนะเพราะฉันเอาเงินที่ได้จากการเดินหวยมาเล่นแค่นั้นเอง"
"อืม แล้วไปส่งหวยก็ระวังไว้บ้างนะ แม่ไม่อยากไปประกันตัว รู้ไหม"
"อวยพรฉันแต่เช้าเลยนะ ขอบใจจ้ะ ฉันจะระวัง ฉันไปก่อนนะ”
“ไปดีมาดี”
ไอ้น้ำเดินลัดเลาะจากบ้านตรงมาถึงทางเข้าตลาด บ้านไอ้น้ำกับตลาดนั้นอยู่กันคนละฝั่ง อาศัยสะพานข้ามคลองนี้เดินทางอยู่เป็นประจำ ในฝั่งทางบ้านของเขาจะค่อนข้างเงียบไม่ครึกครื้นเพราะชาวบ้านมักจะทำสวนไร่นากัน แต่ฝั่งตรงข้ามหรือฝั่งตลาดจะมีร้านค้ามากมาย เป็นศูนย์กลางการเงินของหมู่บ้านนี้เลยก็ว่าได้
ชายหนุ่มเดินมาถึงสะพานข้ามไปตลาดก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบตำรวจสีกากี กำลังยืนมองสายน้ำด้านล่างอยู่ น้ำประเมินจากสายตา ตำรวจคนนี้เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย ทั้งอายุก็ดูยังไม่ค่อยมากเท่าไหร่ อาจจะพอๆ กับเขาหรือไม่ก็มากกว่าเขาไม่กี่ปี
น้ำรีบเดินผ่านเลยตั้งใจไม่หยุดทักทายอะไรตำรวจผู้นี้ทั้งสิ้น เพราะเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาเรื่องใส่ตัวเอง ของกลางโพยหวยยังอยู่ในกระเป๋า พอดีพอร้ายคืนนี้นอนซังเต ได้สมพรปากของแม่แน่
“เดี๋ยว ไอ้หนู” แต่จังหวะที่สวนกลางน้ำก็ถูกอีกฝ่ายเรียกไว้ เขาเลยหยุดชะงักลง ข่มอาการตื่นกลัวเพราะกลัวจะเป็นพิรุธให้อีกฝ่ายจับได้
“หือ? เรียกฉันเหรอ....ลุง” ไอ้น้ำฉุน นี่เขาอายุไม่ใช่เด็กแล้ว มาเรียกไอ้นง ไอ้หนู ดูถูกหน้าหล่อๆ นี้ชะมัด แล้วดูตัวคนเรียก เหอะ อายุก็คงไม่ได้มากกว่าเขาเท่าไหร่นัก ลดอายุให้เขาใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเขาจะเพิ่มอายุให้อีกฝ่ายเอง
“ใช่” ฝ่ายนั้นตอบห้วนสั้น คงสะดุดกับคำว่า ลุง ที่เด็กหนุ่มเรียกเหมือนกัน ไอ้น้ำมองคนตรงหน้าแล้วคิดว่าทำไมตำรวจต้องขี้เก๊กด้วยวะ
“จะไปไหน”
“จะไปไหนแล้วทำไมต้องตอบลุงด้วยล่ะ ประชาชนที่หมู่บ้านนี้ก็มีสิทธิ์เสรีภาพไปไหนมาไหนได้ทั้งนั้น” เพราะตั้งใจจะกลบเกลื่อนความผิดในตัว ไอ้น้ำเลยตอบโต้คุณตำรวจไปแบบนั้น แต่เขาไม่คิดเลยว่าคำตอบนั้นมันจะนำภัยสู่ตัวเอง
“ตอบเฉไฉ ไม่ตรงประเด็น มีอะไรปิดบังเจ้าหน้าที่ตำรวจใช่หรือเปล่า” ตำรวจหนุ่มพูดลอยๆ ขึ้นมา ไอ้น้ำก็เป็นเหมือนชาวบ้านคนอื่น เวลาอยู่ต่อหน้าตำรวจก็มักจะทำตัวไม่ถูก ยิ่งทำเรื่องผิดกฎหมายอยู่ มือไม้ยิ่งอยู่ไม่สุข
ทางด้านตำรวจหนุ่ม ด้วยความที่เขาเพิ่งย้ายมาใหม่ เลยออกเดินลัดเลาะจากสถานีตำรวจเรื่อยมา เพื่อดูสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านนี้ ระหว่างนั้นก็เฝ้าสังเกตพฤติกรรมหรือชีวิตความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านนี้ไปด้วย เขาต้องเริ่มศึกษาชาวบ้านตั้งแต่ต้น มิเช่นนั้นเขาอาจจะเข้าไม่ถึงประชาชนเลยก็เป็นได้
“มะ....ไม่....ไม่มี” ไอ้น้ำตอบตะกุกตะกัก เอามือไพล่หลังราวกับมีของซุกซ่อน กิริยาทำไปโดยอัตโนมัติทั้งที่ในมือของเขาไม่มีของอะไรเลยแม้แต่น้อย คุณตำรวจเห็นก็ยิ่งสงสัยในพฤติกรรม
“ท่าทางแบบนี้ มีของผิดกฎหมายอยู่กับตัวหรือไง” ตำรวจหนุ่มถามชี้เปิดทาง ในทีแรกที่เขาเรียกเด็กคนนี้ก็แค่เพียงเพื่อจะพูดคุยเรื่องทั่วไป สอบถามเรื่องราวในหมู่บ้านจึงเปิดคำถามไปว่า อีกฝ่ายจะไปไหน แต่ไม่นึกเลยว่า พิรุธของเด็กหนุ่มจะเด่นชัดขนาดนี้
“เปล่า ฉันไปก่อนนะ พอดีรีบ เดี๋ยวจะสาย ไว้คุยกันวันหลังนะลุง”
“สาย? มีนัดอะไรตั้งแต่เช้า” ตำรวจหนุ่มยังไม่รามือจากเด็กหนุ่มตรงหน้าไปง่ายๆ เขาสัมผัสได้ว่าคนคนนี้มีอะไรปิดบังเขาอยู่
“ก็จะไปหาข้าวกินในตลาด หิว” ไอ้น้ำรีบตอบส่งๆ ไป เขาอยากไปให้พ้นจากตรงนี้แล้ว
“ร้อนรนแบบนี้ ทำยังไงก็ปล่อยไปไม่ได้จริงๆ ถ้าไอ้หนู บริสุทธิ์ใจจริง ขอฉันค้นตัวหน่อยได้ไหม” ตำรวจหนุ่มเดินเข้ามาหาผู้ต้องสงสัย ไอ้น้ำรีบถอยเท้าโดยอัตโนมัติ
“เดี๋ยวก่อน ลุง...นี่คุณตำรวจ ไม่มีสิทธิ์มาตรวจค้นฉันในที่สาธารณะนะ มันผิดกฎหมาย ไม่รู้หรือไง” ไอ้น้ำโต้ตอบกลับไปด้วยความหัวหมอ
“รู้กฎหมายด้วยหรือเรา” ตำรวจเลิกคิ้วแล้วถามคนตรงหน้า
“เห็นว่าอยู่บ้านนอก อย่าคิดว่าไม่มีความรู้” ไอ้น้ำได้ที ถือไพ่เหนือกว่า จึงรีบพูดต่อ
“แล้วรู้ด้วยหรือไม่ว่า ถ้าบุคคลนั้นมีเหตุให้น่าสงสัยหรือมีพิรุธนั้นย่อมทำได้” ตำรวจหนุ่มอธิบายไอ้น้ำด้วยความใจเย็นและพลิกกลับมาถือไพ่อย่างเป็นต่อ
“ฉะ...ฉันมีอะไรน่าสงสัย ตรงไหน” ไอ้น้ำยังตะแบงต่อไม่หยุด
“เอางี้ ฉันจะบอกให้คุณประชาชนทราบ พอดีทางตำรวจได้รับรายงานมาว่าที่หมู่บ้านนี้มีเจ้ามือหวยใต้ดินอยู่ และวันหวยออก จะมีเด็กเดินโพยหวยไปส่งเจ้ามือ และฉันสงสัยว่า นายกำลังเข้าข่ายนั้น”
“ลุงพูดแบบนี้ จะกล่าวหาว่าฉันมีส่วนร่วมกับเจ้ามือหวยเหรอ ฉันฟ้องหมิ่นประมาทลุงได้นะ” ไอ้น้ำทำใจดีสู้เสือ พูดๆ ไปเถอะ เดี๋ยวนี้ใครก็ชอบขู่ว่าจะฟ้องหมิ่นประมาททั้งนั้น
“ฉันเชื่อแล้วว่าคุณประชาชนมีความรู้ด้านกฎหมาย แต่ด้วยเกียรติของอาชีพที่ฉันทำอยู่ ถ้าหากว่าฉันค้นตัวนายแล้วไม่พบหลักฐานอะไร ฉันจะยอมให้นายฟ้องกลับทุกข้อกล่าวหา ข้อตกลงแบบนี้ โอเคไหม...ครับ” นายตำรวจหนุ่มยิ้มให้คนตรงหน้าพร้อมประกาศข้อตกลงระหว่างกันออกมาอย่างชัดเจน เขายอมแลกเพราะมั่นใจและเชื่อในสายตาตนเองเหลือเกินว่า เด็กหนุ่มต้องมีอะไรซุกซ่อนอยู่แน่ๆ
“เอ่อ...คือ..” ไอ้น้ำตะกุกตะกัก จะให้เขาตอบอย่างไรได้ล่ะ ปฏิเสธก็ไม่ได้ ยอมรับก็ไม่ได้ หรือว่าจะถึงคราวซวยของเขาแล้วจริงๆ
“ผู้กองปรานต์ครับ ได้รับแจ้งความว่ามีคนตายครับ” เสียงจ่าสมคิดและจ่าชอบดังขึ้นพร้อมกันด้านหลังผู้กอง
“คนตาย? ที่ไหนหรือจ่า” ผู้กองหันไปถามจ่าทั้งสองคน
“บ้านนางสอนที่อยู่ท้ายตลาดครับ” จ่าสมคิดตอบ แต่กระนั้นนายตำรวจยศใหญ่กว่าก็ไม่รู้จักอยู่ดี
“อืม รีบไปกันเถอะ” ผู้กองบอกจ่าทิ้งท้ายก่อนจะหันกลับมายังผู้ต้องสงสัย
“วันนี้ถือว่าดวงของนายยังโชคดี รอดไปได้” ผู้กองพูดจบก็รีบตามจ่าไปทันที ในใจก็พลันคิดว่าเด็กหนุ่มเมื่อสักครู่นี้ พูดจาไม่เหมือนชาวบ้านที่นี่ ซ้ำดูมีความรู้อยู่ไม่เบา หรือจะหัวหมอก็ไม่รู้เหมือนกัน
“เฮ้อ..เกือบซวยแล้วไหมล่ะ ไอ้น้ำ ตำรวจใหม่นี่มันฉลาดชะมัด” ไอ้น้ำที่ยังยืนอยู่บนสะพานข้ามคลองถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะถ้าโดนค้นตัวล่ะก็ ไม่พ้นวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเข้าไปนอนในห้องขังแน่นอน พอดีพอร้ายหวยก็ไม่ได้ส่ง
พอนึกถึงหวย ชายหนุ่มก็นึกขึ้นได้ เขารีบวิ่งไปบ้านเจ๊แสงราวกับติดจรวจเพราะใกล้หมดเวลาปิดรับหวยแล้ว
“เจ๊แสง เจ๊แสง อย่าเพิ่งปิดนะเจ๊ ฉันมาแล้วจ้ะ” ไอ้น้ำกระหืดกระหอบวิ่งร้อยเมตรมาบ้านเจ๊แสง
“เอ้อ อีกนาทีเดียวข้าจะปิดแล้ว ไหนๆ เอามาให้ข้าดู ทำไมรอบนี้เป็นลายมือวะ” น้ำรีบส่งกระดาษให้ พร้อมกับหวยของตัวเองที่เพิ่งจะเขียนเพิ่มในใบของแม่น้อย เจ๊แสงรับไปอ่าน จดอะไรยิกๆ ลงสมุดเล่มใหญ่เช่นเดิม ทิ้งให้ไอ้น้ำได้ปรับการหายใจ
“ก็ฉันไม่มีเวลา แค่นี้ก็เกือบจะเก็บมาส่งเจ๊ไม่ทันแล้วเนี่ย” ไอ้น้ำพูดทั้งที่ยังกระหืดกระหอบอยู่
“อะไรของเอ็ง เวลาตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมถึงจะไม่ทัน มัวแต่เถลไถลที่ไหนมาล่ะ” เจ๊แสงบ่นไม่จริงจังนัก ไอ้น้ำก็ไม่ได้คิดจะแก้ตัวอะไร
“เออ นี่เจ๊” ไอ้น้ำพูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากหายเหนื่อย
“อะไรวะ”
“ตำรวจที่เพิ่งย้ายมาใหม่อะ เจ๊รู้จักปะ” ไอ้น้ำเริ่มเลียบเรียงเคียงถาม
“รู้จัก ได้ยินมาว่าชื่อผู้กองปรานต์ ทำไมวะ”
ไอ้น้ำหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสิร์ชว่า ผู้กองนี่ยศอะไร แล้วเขาก็ถึงบางอ้อ
อ่อ... ร้อยตำรวจเอก
“ฉันเจอเขามาตะกี้จ้ะ”
“อืม แล้วมาบอกข้าทำไม” เจ๊แสงย้อนถามด้วยความไม่เข้าใจ ก็แค่ตำรวจ จะมาถามนางทำไม
“จะไม่ให้ฉันบอกได้อย่างไรล่ะเจ๊ ก็ตำรวจใหม่นั่นน่ะ สงสัยว่าฉันจะเดินโพยหวยให้เจ๊ วันนี้ก็เกือบจะค้นตัวฉันแล้ว”
“หา!! จริงเหรอวะ เป็นไปได้อย่างไร ข้าจ่ายเงินไปงวดๆ หนึ่ง ตั้งเยอะตั้งแยะ ไฮ้ อะไรวะ แบบนี้ก็เท่ากับหลอกเงินข้าไปฟรีๆ น่ะสิ”
“เจ๊จ่ายให้ใคร ตำรวจเพิ่งย้ายมาใหม่ เขาจะรู้ด้วยไหมล่ะ” ไอ้น้ำถาม
“เออว่ะ ไม่ได้การแล้ว เดี๋ยวข้าจะต้องไปถามให้รู้เรื่อง จ่ายไปแล้วยังจะมาจับเอ็งได้อย่างไร”
“เจ๊จำที่ฉันบอกได้ไหมว่าให้เปลี่ยนการส่งหวยอะ”
“เออ” เจ๊แสงตอบแล้วนิ่ง
“เจ๊แสงจ๊ะ” ไอ้น้ำเรียกเพราะเห็นเจ๊แสงเงียบไป
“เออๆ ข้ารู้แล้ว นี่กำลังใช้ความคิดอยู่ ว่าจะเอาอย่างไรดี ถ้าเอ็งหรือคนอื่นโดนจับไปล่ะ เรื่องใหญ่เลย วงการหวยในหมู่บ้านเราต้องสั่นสะเทือนแน่”
“ถ้าเปลี่ยนได้ก็ดีนะเจ๊ เพราะมันทำลายหลักฐานได้ง่าย แค่ลบทิ้งเอง” ไอ้น้ำเสนอความคิดเห็นออกไป จริงๆ แล้วการใช้ระบบส่งข้อความผ่านอินเทอร์เน็ต ถ้าตำรวจต้องการตรวจสอบย้อนหลังก็อาจจะทำได้ไม่ยาก แต่เบื้องต้นมันก็ง่ายมากที่จะลบข้อมูลทิ้ง ไม่ต้องมาเผาทำลายหลักฐาน ไหนจะเตรียมฟืน ก่อไฟ ตำรวจก็แจ้นมาไหนถึงไหนแล้ว
“อืม เดี๋ยวข้าไปคุยกับตำรวจที่ข้าจ่ายไปก่อน ถ้าได้เรื่องอย่างไรข้าจะบอกเองให้รู้ก็แล้วกัน เร็วๆ นี้แหละ วันสองวัน”
“จ้ะ”
“เอ้อ แล้วทำไมผู้กองเขาถึงยอมปล่อยเอ็งมาล่ะ” เจ๊แสงถามด้วยความสงสัย
“โชคช่วยฉันไว้นะสิ จ่าสมคิดกับจ่าชอบบอกว่ามีคนมาแจ้งความว่ามีคนตาย”
“อ้อ ใช่ ข้าก็เพิ่งรู้เหมือนกัน บ้านนางสอนน่ะ ลูกสะใภ้มันตายเมื่อเช้ามืดวันนี้เอง”
“จริงเหรอจ๊ะ” ไอ้น้ำถามด้วยความตกใจเพราะเขาเพิ่งได้ยินชื่อนี้จากแม่เมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะมีจุดจบที่รวดเร็วเช่นนี้
“เออสิวะ”
“เจ๊รู้ไหมว่าทำไมเขาถึงตาย ป่วยตายเหรอจ๊ะ” ไอ้น้ำไม่กล้าคิดเป็นอื่นว่าอีกฝ่ายตายเพราะช้ำในตายหรือเปล่า
“ไหลตาย เอ็งรู้จักไหม ไอ้น้ำ”
“ไอ้ที่ นอนหลับแล้วตายไปเสียเฉยๆ น่ะหรือ”
“นั่นแหละ”
“น่าสงสารเขาน่ะเจ๊ เห็นแม่ฉันบอกว่า อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน ไม่น่าตายเร็วเลย”
“โอ๊ย ข้าว่า นางพัดมันตายไปเสียได้จะดีกว่าอยู่นะไอ้น้ำ โดนไอ้สินซ้อมเช้าซ้อมเย็น ใครมันจะไปทนไหว”
“แล้วคุณพัด เอ่อ เมียพี่สินน่ะ ทำไมไม่เลิกกับพี่สินไปให้รู้แล้วรู้รอดล่ะเจ๊ จะทนทำไม” ไอ้น้ำไม่รู้จะเรียกคำนำหน้าพัดว่าอย่างไร เพราะเขาไม่เคยคุยหรือพบหน้าอีกฝ่ายมาก่อน
“ใครว่ามันทน มันหนีไปตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็โดนไอ้สินตามตัวกลับมาได้ทุกครั้งไป เอาตัวกลับมาได้ก็จับซ้อมจนแทบจะหยอดน้ำข้าวต้ม”
“แล้วไม่มีใครแจ้งตำรวจเหรอ” ไอ้น้ำไม่เข้าใจ เพื่อนบ้านก็ปล่อยให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
“เรื่องของผัวเมีย ใครเขาจะอยากยุ่ง ถ้าพวกมันดีกัน คนที่แส่เข้าไปก็หมาน่ะสิวะ”
“แต่มันไม่ถูกนะเจ๊ นี่มันทำร้ายร่างกายชัดๆ”
“เออ ก็อย่างว่าเรื่องผัวเมีย แล้วไอ้สินก็ดุอย่างกับหมาใครจะกล้าเสี่ยง แล้วนี่เอ็งจะกลับแล้วรึ นึกว่าจะอยู่ลุ้นหวยกับข้าก่อน” เจ๊แสงถามเพราะเห็นไอ้น้ำเดินไปหน้าประตูเตรียมจะกลับออกไป
“ไม่ล่ะเจ๊ ฉันขอไปเผือกเรื่องบ้านนั้นก่อน”
“เอ็งจะไปทำไม คนตายไม่มีอะไรน่าดู”
“ช่างฉันเถอะเจ๊ ไปล่ะนะ”
“เออ ไปดีมาดี”
ไอ้น้ำออกจากบ้านเจ๊แสงตรงดิ่งไปไปท้ายตลาด เขาไม่คุ้นบ้านป้าสอน พี่สินเท่าไหร่นักเพราะไม่ค่อยได้รู้จักมักจี่กันบ่อย แต่เมื่อมาถึงก็สังเกตเห็นบ้านที่เกิดเหตุได้ไม่ยากเลยเพราะชาวบ้านในละแวกนั้นต่างพากันมุงอออยู่บริเวณหน้าบ้านของป้าสอน
=======================
คุณพระเอกของเรามาแล้ววววววววววว น้ำตาจะไหล
ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018
เฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/akanae14/ และ ทวิตเตอร์ค่ะ
https://twitter.com/khemmakan REF : https://www.lawphin.com/detail/law/criminal_procedure_code-93
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 93 ห้ามมิให้ทำการค้นบุคคลใดในที่สาธารณสถาน เว้นแต่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้น ในเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่า บุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรือซึ่งได้มาโดยการกระทำความผิดหรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด