////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ชีวิตผมอยู่รอดปลอดภัยมาอีกวันหนึ่ง เมื่อตื่นมายังเห็นว่าสังขารตัวเองยังอยู่ดี แต่ว่าที่นี่ที่ไหน...............ทำไมมันเหม็น
อับ กลิ่น ตุ ๆ อย่านี้ ลืมตามองรอบข้าง มันไม่ได้คุ้นตาเท่าไหร่กับไอห้องรกรุงรัง เจ้าของห้องคงซกม๊กสิ้นดี หันมอง
คนที่นอนข้าง ๆ ก็ถึงบางอ้อ แหละครับ จะใครหล่ะก็ไอทักษ์ครับ เมื่อคืนผมมานอนห้องมันนี่แล้วนี่ก็พี่สอ ผมงัวเงีย
มองดุนาฬิกาบนฝาผนังข้างตู้เสื้อผ้า ตายห่าละ นี่มันจะหกโมงแล้ว ก็ต้องปลุกสารถีสิครับ เรียกไม่ได้ยินมันก็ต้องใช้
กำลังกันหน่อย ทั้งลากทั้งเขย่าได้ผลครับแถมได้เกินคาดนอกจากพี่สอจะตื่นแล้วยังด่ามาอีกเป็นชุด แต่สุดท้ายก็ต้อง
ตามใจผมอยู่ดี โดยเหตุผลง่าย ๆ วันนี้ต้องไปทำงานนี่เป็นคำสั่งของหัวหน้านะโว้ย
การงานวันนี้เรียบร้อยไม่มีปัญหา แถมเรื่องของผมถูกเล่าขานกันไปใหญ่เมื่อกุ้งโทรมาหาและคุยกับผมอยู่นาน กุ้งโทร
มาขอโทษและเล่าเรื่องเด็กถิ่นพวกนั้นให้ฟัง จากเรื่องที่ผมจะมีแฟนเป็นผู้ชาย เรื่องของเด็ก ๆในสังกัด และเรื่องที่
ว่าผมเป็นเด็กพี่เปาะตอนนี้ กลายเป็นเรื่องกุ้งกับผมแทน ข่าวแพร่ไปอีกไกลจากเรื่องเล่าสนุก ๆ จนกลายเป็นเรื่อง
ซีเรียสเมื่อพลอยได้ข่าวและมาซักถามผมอย่างจริงจัง ถึงแม้ไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผม แต่อาการของ
พลอยก็ทำให้คนอื่น เดากันไปได้ไกลกว่านั้น ส่วนอั้มไมได้มาวุ่นวายกับผมแล้วเพราะเธอมีเหยื่อใหม่มาให้หยอกล้อ
ใกล้ ๆ มือ จะมีบ้างก็เพียงมาแซวตอนที่ผมต้องเข้าไปเช็คสต็อกในไลน์เท่านั้น
หลายอาทิตย์ผ่านไป ไม่มีอะไรพิเศษ ทำงานแล้วกับห้องนอนอย่างเดียว ไม่ได้กินยาดองเท่าไหร่ ก็ช่วงกลางเดือนแล้ว
นี่ครับและอีกอย่างตอนนี้น้องชายผมลงมาหางานทำและพักที่เดียวกับผมแล้ว จะทำอะไรก็ต้องเกรงใจมัน กลัวมันจะ
โทรไปฟ้องแม่แหละ ที่สำคัญผมจะต้องเลี้ยงมันจนกว่ามันจะหางานทำได้ แรก ๆ มันก็เข้ามาทำงานที่เดียวกับผม
เพราะยังไงก็ต้องเอาไว้ก่อน
เลิกงานวันนี้ผมควักตังค์ให้น้องชายไว้ซื้อข้าวกิน ส่วนผมนะเหรอ หุหุ มีงานเลี้ยงจำเป็นอีกแล้วครับ ก็ไอทักษ์มัน
ชวนผมไปที่ห้องพี่ลม พรุ่งนี้มันจะไปสมัครเรียนต่อปริญญาตรีที่เทคโน ฯ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับไอพี่ลมสัก
นิด
“เหอะนา พาไปหน่อยดิ แค่แป้บเดียวเอง” อะไรของเมิงฟะ วุ่นวายจริง
“แล้วเมิงจะไปทำอะไรที่นั้นเล่า” หงุดหงิด ๆ
“จะไปเอาเสื้อเชิ้ตสีขาว จะไปสมัครเรียน” มันพูดเสียงอ่อย ๆ เหมือนกลัวใครได้ยิน
“ไอบ้าทักษ์ เสื้อเชิ้ตกรูก็มีเยอะแยะเอาของกรูก็ได้”
“จะไปเอาตังค์ด้วย” อ๋อ เข้าใจแล้ว ไอทักษ์มันสนิทกันถึงขั้นฝากให้เก็บเงินให้ ไม่งั้นมันจะเอาไปกินเหล้าหมด
“ก็ได้............แต่ทำไมเมิงจะต้องเอาเหล้าไปด้วย”
“ เอ่อ จะฉลองที่เรียนใหม่นิดหน่อย” ไอบ้า ยังไม่ได้สมัครเลยจะฉลองซะแล้ว ขี้เหล้าแบบนี่ที่ไหนจะรับเมิงเข้าเรียนว่ะเนี้ยะ
เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว ท้องฟ้าหน้าร้อนยังโพล่เผล้ สีแดงสลับกับแสงไฟตามท้องถนน รถมอไซ
ค์ แดชร้าย ๆ ของไอทักษ์มุ่งผ่านป่ายูคาลิปตัสที่แสนจะวังเวง ออลืมบอกครับไอทักษ์เป็นคนที่กลัวผีจนขึ้นสมอง มันจะ
ไม่ยอมนอนในห้องคนเดียวเป็นอันขาด พอเจอบรรยากาศของป่าข้างทางมันก็รีบบิดคันเร่งจนแทบจะไม่ทันใจ ไม่นาน
ก็มาถึงห้องไอพี่ลม
ประตูห้องเปิดทิ้งไว้ ข้างในมองเห็นร่างใครบางคนกำลังนอนอยู่บนเตียง ตาจ้องมองทีวีอยู่ ไม่
ได้สนใจว่าใครจะมาเลยผมไม่กล้าจะเดินเข้าไป เพราะมันไม่คุ้นเคยมีแต่เสียงไอทักษ์ที่โวกเวกโว้ยวาย เดินเข้าไปยังกะ
ห้องตัวเองไอพี่ลมเมื่อเห็นเราก็ลุกจากเตียง มีเพียงบ๊อกเซอร์ ตัวเดียวปิดกั้นร่างกายอยู่ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะ
หน้ามืด เลือดพุ่งขึ้นหน้าปิ้ด ๆ ร่างกายบาง ๆ ที่มีกล้ามเนื้อ พองาม เอวที่คอดกิ่ว ประมาณ 29 นิ้ว หน้าอกกว้าง ๆ และ
เรียวขายาว ๆ “สะดือสวยจัง” ผมพึมพำเบา ๆ นั้น ทำให้ผมต้องถอยห่างออกมานอกประตู ก่อนที่ไอพี่ลมจะสังเกตเห็น
พฤติกรรมแปลก ๆ ของผม แล้วมันก็เดินไปหยิบเสื้อมาใส่
ไอทักษ์จัดการเอาเสื่อมาปูด้านหน้าห้องจัดการเตรียมน้ำเตรียมแก้วไว้เสร็จสัพเรียบร้อยแล้วมันก็
ลากผมมานั่งลงข้าง ๆ มัน วันนี้งดยาดองมาเป็นเหล้าสี่สิบดีกรีแทน รสชาติมันไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ผมคงสู้ไม่ไหว
ขอเพียงจิบ ๆ แล้วกันผมต้องรักษาสุขภาพไว้หาสมัครงานทำดีกว่า ผมกับไอทักษ์นั่งกันอยู่แค่สองคน เจ้าของห้อง
หายหัวไปไหนไม่รู้ ได้ยินแต่เสียงก๊องแก๊ง ๆ ดังมาจากข้างหลังห้อง
“พี่ลมทำอะไรอยู่ทักษ์” ผมอดถามไม่ได้
“ไม่รู้ว่ะสงสัยกับแกล้มมั่ง” เออ ท่าจะจริงก็เสียงครกเสียงสากทั้งนั้นนิ
“แล้วพี่แดงหล่ะ ไปไหน”
“พี่แดงเข้ากะดึกตอนนี้คงอยู่ที่โรงงานล่ะมั้ง” อืม งั้นอยู่คนเดียวหรอกเหรอ
ไม่นานพี่ลมก็เดินออกมา พร้อมกับจานใบใหญ่ พระเจ้า.........นั้นมัน หอยแมลงภู่นี่ จัดการลวกมา
แล้วเรียบร้อยพร้อมถ้วยน้ำจิ้ม อีกจานหนึ่งเป็นลูกชิ้นหมูทอด โห ๆ ถูกใจซะเหลือเกิน ผมเป็นโรคอย่างหนึ่งคือ
เห็นลูกชิ้นไม่ได้จะต้องแถไปซื้อไว้กินตลอด ชนิดที่ว่าผมกินแทนข้าวได้เลยละกัน (อันนี้ไม่ดีครับ กินอาหารต้องครบ 5
หมู่น๊า) ผมเจอของกินก็ได้แต่นั่งยิ้มดีใจ
“นี่ของเมิงนะ มาช่วยยกหน่อยดิ” เสียงนั้นทำให้ผมตื่นจากภวังค์ แล้วหันมองหน้าคนเรียก
“เหรอ ไม่ได้อยากกินซะหน่อย” น้าน.....เอาอีกแล้วปากไม่ตรงกับใจ แล้วผมก็ลุกเดินไปหยิบถ้วยน้ำ
จิ้มข้างในกับช้อนจานชามอีกสองใบออกมานั่งลงที่เดิม
“ของเมิง เมิงต้องกินให้หมด” นั้นเป็นคำสั่งเหรอ
“โห ใครจะกินหมด แล้วก็ไม่ได้อยากกินขนาดนั้นด้วย” ประโยคหน้านะใช่ แต่ประโยคหลังนี่ โกหกครับ
“เออ งั้นก็ไม่ต้องกินแล้วเดี๋ยวเอาไปให้หมามันกินแทน” มันพูดทำท่าจะยกจานหนี แต่..
“เอ๋า กินก็ได้ ขี้ใจน้อยเจรง ๆ” ผมแกล้งลากเสียงยาว ๆ มองดูหน้ามันแอบยิ้ม ๆ เชอะ
“ คนเขาอุตส่าตั้งใจทำ” ไอพี่ลมมันพูดแบบลอย ๆ ไม่ได้เจาะจงให้ไปลงที่หูใคร
“ไอทักษ์ เมิงกินช่วยกรูเลย มา เอา จานเมิงมา” แก้เขิลครับ ปัดให้ไอทักษ์ไป ไม่ว่ามันจะพูด
จริงพูดเล่นก็ตาม ในวงสนทนาก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ไอทักษ์จะสมัครเรียนต่อ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่ไม่ยักกะถามเรื่อง
เสื้อเชิ้ตมันเลยสักนิด คิดว่ามันก็คงจะไปเอาของผมนั้นแหละ เวลาเลยเข้าห้าทุ่ม สองคนก็เริ่มกรึ่ม ๆ เหล้าหมดแล้ว
ก็คงจะกลับกัน แต่ไอทักษมันไม่ยอมกลับกับผมแค่สองคนไม่ใช่ว่ามันกลัวผมน๊า ผมน่ารักจะตาย แต่มันกลัวจะต้อง
ผ่านป่ายูคานี่สิ และจะไม่ยอมนอนห้องไอพี่ลมแน่ เพราะประวัติห้องพักแถวนี่ก็โชคโชนเรื่องผี ๆ เหลือเกิน สรุปก็คือ
ต้องให้พี่ลมออกไปส่ง แต่คราวนี่ไม่ใช่แค่ปากซอยพี่ลมมาส่งถึงห้องไอทักษ์พร้อมกับเหล้าขวดเล็กอีกขวดหนึ่ง
วงเหล้าเกิดขึ้นอีกครั้งที่ห้องไอทักษ์ มือถือแก้ว ตาดูบอลที่มีการถ่ายทอด ส่วนผมงัวเงียเพราะ
ฤทธิ์เหล้าบวกกับง่วง จึงขอตัวมุดหัวนอนก่อน สักพักเสียงต่าง ๆ รอบบริเวณรอบ ก็ค่อย ๆ
ค่อย ๆ ๆ
ค่อย ๆ..............
ค่อ......................
คร่อก กกกก ฟี้..........................
ผมสะดุ้งตื่นในความมืดอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่ากำลังมีมือใครบางคนกำลัง โอบกอดผมเข้ามา
จากทางด้านหลัง ผมนอนหลับตานิ่งอย่างนั้น สักพัก ร่างของผมก็โดนโอบกระชับให้แน่นขึ้น อากาศที่อบอ้าว ทำให้
เหงื่อไหลจากแก้มลงมาสู่ต้นคอสัมผัสอุ่น ๆ ของลมหายใจ กำลังรดรินที่ต้นคอผม ริมฝีปากฝังลงมาเบา ๆ และค่อย ๆ
เลื่อนไปมา มือหนา ๆ แทรกซอนเข้ามาใต้ชายเสื้อ ลูบไล้ขึ้นมาจนถึงหัวนม
ใครกันนะ ช่างบังอาจ ทำจาบจ่วงได้อย่างนี่ จำได้ว่าผมไม่ได้อยู่ลำพังกับใครเพียงสองคน แต่
เราอยู่สามคนต่างหาก ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองอย่างปรือ ๆ กว่าจะปรับแสงให้เข้าที่ได้ อารมณ์ผมก็คงกำลังกระเจิงจาก
ใครคนหนึ่งที่ซุกไซร้ผมอยู่ และภาพใครอีกคนที่กำลังนอนหลับอย่างสนิท ข้างหน้าผม......นั้น
นั้น...........
นั้น .........มัน......ไอ................................
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
ปล. รีบมากเขียนต่อไม่ทัน ไปฉี่ก่อนนะครับ