[ระบบ] ถ้าโฮสต์โง่ เราจะตายกันหมด [บทส่งท้าย-จบ คห.96 22.5.2020]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ระบบ] ถ้าโฮสต์โง่ เราจะตายกันหมด [บทส่งท้าย-จบ คห.96 22.5.2020]  (อ่าน 14292 ครั้ง)

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
รอค่ะ สนุกมาก ระบบน่ารัก

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮ่าๆๆๆๆๆ That was I like, guys!! LOL

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แต่ละโลกที่ไปเกิด แหวกๆ ทั้งนั้น 555
คราวนี้นนทเรศจะเป็นตัวอะไรหนอ ผีหรือคน ถ้าเป็นผีนี่คงสนุกน่าดู  โฮสต์ยิ่งกลัวผีอยู่ :hao7:

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 4 อย่ากลับดึก ถ้าอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว (1)



ที่ระบบบอกว่าโฮสต์งานงอก จะไม่งอกได้ยังไงในเมื่อโลกใบนี้เป็นเรื่องราวของโลกที่เต็มไปด้วยอาคมไสยศาสตร์ ภูตผีวิญญาณทั้งตายดีตายโหงลอยว่อนวนเวียนพอๆ กับถุงพลาสติกที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก แถมประเด็นหลักคือศึกระหว่างจอมขมังเวทไสย์ขาวและไสย์ดำที่ต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่ง



พระเอกของเรื่องคือพันแสง หมออาคมสายขาวที่เคยร่ำเรียนวิชามาจากหลวงปู่ช่วงวัดป่าเรไรสมัยที่ยังบวชเรียนตั้งแต่เป็นเณรยันพระหนุ่ม หลวงพี่แสงนิสัยดีโอบอ้อมอารี เวลาชาวบ้านเดือดร้อนก็เข้าไปช่วยเหลือโดยไม่เกี่ยงงอน ซ้ำยังความสามารถโดดเด่นกว่าครู หนักเข้าก็มีชื่อเสียงไปทั้งอำเภอทั้งจังหวัด มีคนเข้ามาหามากมายจนวัดป่าเรไรอยู่ไม่เป็นสุข สุดท้ายพออายุได้ยี่สิบปีจึงขอลาสิกขาออกไปเพื่อไม่ให้กิจของฆราวาสมาวุ่นวายจนพระสงฆ์ไม่ได้รับความสงบ



ทิดแสงในตอนนั้นออกเดินทางไปปราบผีถอนอาคมตามที่มีคนขอความช่วยเหลือ โดยมีเพื่อนร่วมเดินทางเป็นเด็กวัดชื่อจ่อยซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเอามาทิ้งไว้ที่วัดตั้งแต่แรกเกิด ด้วยผิวขาวผมหยิกแดงทำให้คนคาดเดาปูมหลังได้ว่าคงเป็นมารหัวขนของพวกผู้หญิงตาคลีกับทหารอเมริกันสักคน หลวงปู่ช่วงเห็นเด็กตัวกระจิริดแล้วสงสารเลยเอามาเลี้ยงดูไว้พร้อมตั้งชื่อให้ว่าจ่อย



จ่อยสนิทกับหลวงพี่แสงที่แก่กว่าเจ็ดปีมาตั้งแต่เด็กๆ พอเห็นเขาสึกออกจากการเป็นพระจึงตัดสินใจออกจากวัดติดตามอีกฝ่ายไปด้วย ทิดแสงและจ่อยได้พบเจอช่วยเหลือกับคนมากมาย ทั้งถูกหลอกลวงปั่นหัวจนทำให้คนที่เคยอยู่แต่ใต้ร่มกาสาวพักตร์กลายเป็นคนแข็งกร้าวขึ้นมา พันแสงได้ไปช่วยเหลือถอนคุณไสยให้กับผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในบางกอก ดันไปขวางทางขวางหูขวางตาอาจารย์เอก หมอผีไสยดำที่ร่ำเรียนวิชามาจากเขมร



อาจารย์เอกใช้อวิชชาผีร้ายเล่นงานพันแสงอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยความดวงแข็งสมกับพระเอกจึงทำให้เอาชีวิตรอดแถมยังทำให้วิชาสายขาวของพระเอกแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งสองห้ำหั่นกันด้วยวิชาอาคมอยู่หลายปี หมอผีไสยดำก็ยังไม่สามารถเอาชีวิตของอีกฝ่ายได้สักที เอกจึงหันไปเล่นงานคนสนิทที่อยู่ข้างกายพระเอกมาหลายปีแทน



จ่อยเป็นแค่ตัวละครสมทบไม่ได้ดวงแข็งเท่าพระเอก แค่ตายโหงศพไม่สวยยังไม่พอ ดันกลายเป็นวิญญาณโหงพรายภายใต้การควบคุมของอาจารย์เอกไปอีก พันแสงตามหาคนที่ตัวเองสนิทสนมเลี้ยงดูอยู่หลายเดือนก็ไม่พบตัว มาเจออีกครั้งในศึกใหญ่ระหว่างเขาและหมอผีไสยดำ กลับพบว่าจ่อยกลายเป็นผีร้ายไปเสียแล้ว



การตายของจ่อยส่งผลกระทบต่อพระเอกโดยตรง เขาเชื่อเรื่องบุญกรรม คิดมาตลอดว่าทั้งตนและทั้งจ่อยต่างเป็นคนดีช่วยเหลือคนอื่นมาโดยตลอด แม้ชีวิตไม่เลิศหรู แต่ก็ไม่ตกต่ำจนถึงขีดสุดอย่างแน่นอน มาครั้งนี้กลายเป็นว่าเด็กที่เขาเลี้ยงดูให้ความสำคัญกลับตายตกกลายเป็นโหงพราย ความโกรธเคืองกลายเป็นความแค้นที่เข้าครอบคลุมจิตใจ ในเมื่อทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วได้ดีมีถมไป พันแสงจึงตัดสินใจเทิร์นดาร์กเลือกเส้นทางสายมืดแทน



เมื่อเลือกเส้นทางอวิชชา ความสามารถของพระเอกก็ยิ่งพุ่งพรวดกว่าเดิม เขาเอาชนะอาจารย์เอกและสยบเอาภูตผีพรายที่อีกฝ่ายเลี้ยงเอาไว้มาเป็นของตน จากทิดแสงกลายเป็นอาจารย์พันแสง จอมขมังเวทชื่อดังที่สร้างความหวั่นเกรงให้กับทั้งไสยขาวไสยดำ เขายังเข้าไปมีส่วนร่วมกับเกมการเมือง ใช้ไสยเวทกำจัดศัตรูทุกคนที่ขวางหน้า คร่าผลาญชีวิตไปนับร้อยนับพัน โหดเหี้ยมกว่าที่อาจารย์เอกเคยเป็นมาเสียอีก



โลกมนุษย์ที่มีอาจารย์พันแสงกลายเป็นนรกบนดิน ส่วนนรกก็ยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่



เล่ามาตั้งยาว ระบบสรุปได้ว่าภารกิจในโลกนี้ก็ไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้น เพียงแค่โฮสต์รักษาชีวิตเอาตัวรอดได้ไปจนถึงตอนศึกใหญ่ระหว่างพระเอกและตัวร้าย คอยให้กำลังใจ ดึงพระเอกออกมาจากด้านมืดบ้างเป็นครั้งคราวก็น่าจะผ่านถูไถไปได้อยู่หรอก



แต่ปัญหาอย่างหนึ่งคือบทบาทจ่อยของโฮสต์มีความสำคัญกับพระเอกเอามากๆ เพราะเป็นตัวละครที่พระเอกให้ความผูกพัน มีความสำคัญต่อจิตใจของพระเอกมากยิ่งกว่านางเอกของเรื่องเสียอีก ถ้าโฮสต์ตัดสินใจเลือกหนทางผิด เซ่อซ่าเด๋อด๋านิดหน่อย อาจทำให้ชีวิตบัดซบกันได้หมดโขยง



“โฮ..” โฮสต์ที่แอบหนีมาร้องไห้โฮๆ หลังกุฏิพลางกอดกระต่ายที่เป็นร่างของระบบ ภาพผีสาวตาถลนลิ้นจุกปากหนอนเต็มพุงเมื่อคืนยังคงจำฝังตา “โลกนี่คือต้องอยู่กับผีตลอดเวลาเลยเหรอแม่สองแล้วยังมีไสยศาสตร์มนต์ดำอีก ไหนเขาว่าผีไม่มีจริงไง ไม่เป็นวิทยาศาสตร์”



จากบูชาความรักกลายเป็นนับถือวิทยาศาสตร์นิยมไปแล้ว ทีโลกก่อนๆ ตอนมีเวทมนตร์ มีพลังจิต มีพลังพิเศษเอฟเฟ็กต์ตูมตามยังไม่เห็นจะโอดครวญ มาตอนนี้รีบแปรพักตร์เร็วเชียวนะ



[พี่จ๋าเคยมีประสบการณ์เป็นน้าผีมาแล้ว ผีอื่นๆ ไม่น่ากลัวหรอกฮะ~♥]



“อุแง! ” จ่อยในวัยสิบสองปียิ่งร้องไห้โฮกว่าเดิม มือที่จับระบบอยู่ชักจะจับแรงขึ้นจนระบบเริ่มเจ็บแล้ว “น้าผีมีแต่กระดูกก็เหมือนหุ่นกายวิภาคนั่นแหละ แต่ผีที่นี่มันเฟะเลยนะแม่สอง เฟะแบบเละเทะมาทั้งน้ำหนองมาทั้งกลิ่น ผีตัวเมื่อวานยังมีหนอนขาวๆ ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่กลางพุงอยู่เลยนะ!! ”



ระบบเห็นใจโฮสต์เหมือนกันนะ สกิลความกล้าไม่กลัวผีเป็นสกิลที่ไม่สามารถหาซื้อในแค็ตตาล็อกของร้านค้าได้ แต่เป็นสกิลของใครของมันอยู่ที่ความจิตแข็งกันล้วนๆ ระบบชักจะหนักใจขึ้นมาแล้ว โฮสต์กลัวผีจนหงอขนาดนี้ จิตอ่อนเสียยิ่งกว่าจ่อยตัวจริง อนาคตข้างหน้าบอกเลยว่ามืดมนยิ่งกว่าเวลาหลับตาอีก ยังไม่ทันเจออาจารย์เอกลาสต์บอสก็คงโดนสอยไปก่อนแน่ๆ



“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงนุ่มทุ้มเรียกขึ้นจากด้านบน เมื่อโฮสต์เงยหน้าขึ้นมองก็พบกับใบหน้าชวนมองของหลวงพี่แสงที่ยืนมองอยู่ จ่อยไม่ทันได้เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ดวงหน้าขาวที่ขึ้นสีแดงก่ำ ขอบตาแดงเรื่อและหยาดน้ำตาที่เกาะพราวบนขนตา เสริมทัพด้วยสกิลแสดงออกทางสีหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้จ่อยที่เป็นลูกครึ่งหน้าตาน่ารักอยู่แล้วดูน่าสงสารยิ่งกว่าเดิม ชั่วครู่หนึ่งสายตาที่มองลงมาคล้ายเจือสีเข้มขึ้นเล็กน้อยก่อนหลวงพี่จะเสมองอย่างอื่นแทน “หนีมาร้องไห้หรือจ่อย แล้วทำไมไปกอดเจ้าขาวแน่นขนาดนั้น เดี๋ยวมันก็ตายหรอก”



“ฮึก..จ่อยไม่ได้ร้อง” โฮสต์คลายแขนที่กอดระบบจนแทบหายใจไม่ออก เขารีบยกมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ แต่ยิ่งเช็ดเท่าไรแก้มก็ยิ่งแดงกว่าเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำไปทำไม เพราะทำแล้วเหมือนเขียนกระดาษแปะไว้บนหน้าผากไว้ว่าเพิ่งร้องไห้มาหมาดๆ



“ร้องทำไม? ใครแกล้งอีกล่ะ” ตำแหน่งหัวคิ้วของหลวงพี่แสงกระตุกเข้าหากัน ในวัดป่าเรไรยังมีเด็กวัดที่อยู่ประจำอีกสองคนและเด็กในหมู่บ้านที่ชอบเข้ามาวิ่งเล่นในลานวัด พอเห็นจ่อยหน้าตาผิวพรรณสะอาดสะอ้านผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนไม่เหมือนกับตนเองก็เริ่มให้ความสนใจขึ้นมา พอรู้ความจากพ่อแม่ว่าเด็กชายคงเป็นลูกของเมียเช่ากับพวกไอ้กันสักคน จากที่สนใจก็กลายเป็นการกลั่นแกล้งทั้งด่าทอทั้งชกต่อยกันแทน ทำให้จ่อยไม่ค่อยชอบสุงสิงกับเด็กวัยเดียวกัน แต่มาขลุกอยู่กับหลวงพี่แทน



“ไม่มีใครแกล้ง” โฮสต์ยังคงตีหน้าเศร้า แต่ตีไปก็เท่านั้น ตามหน้าที่แล้วยังไงโฮสต์ก็ต้องผูกติดอยู่กับพระเอกอยู่ดี



“แสดงว่ายังกลัวผีจากเมื่อคืนล่ะสิ” มือหนาของหลวงพี่วางบนเรือนผมสีอ่อนแล้วขยับโยกศีรษะเด็กชายไปมา หลวงพี่แสงหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี “อยู่ด้วยกันแล้วจ่อยจะกลัวอะไรอีก อาตมาไม่ปล่อยให้จ่อยโดนผีหักคอหรอก”



“ผีมันไม่ได้หักคอ แต่มันหลอกกันนะหลวงพี่” โฮสต์บ่นกระปอดกระแปดทำแก้มป่องเรียกเรตติ้ง พอพูดถึงผีหลอกภาพของผีนางเพ็ญเมื่อคืนก็กลับเข้ามาในสมองน้อยๆ ของโฮสต์อีกครั้ง ทำเอาเส้นขนตามแขนและสันหลังตั้งพรึบพร้อมกับโดยไม่ได้นัดหมาย



“ผีโยมเพ็ญเมื่อคืนเขาตั้งใจหลอกจ่อยที่ไหน เขาหลอกคนอื่นต่างหาก” หลวงพี่แสงส่ายหน้าไปมาแล้วลูบหัวเด็กชายด้วยความเอ็นดู คำพูดประโยคต่อมาทำให้ใบหูยาวของระบบถึงกลับกระตุก “มีอาตมาอยู่ข้างๆ ทั้งคน จ่อยจะกลัวอะไรอีก”



“แน่นะ?” โฮสต์เองที่ได้ยินประโยคนั้นก็ตาลุกวาวเป็นประกายขึ้นมาเหมือนกัน สองชาติก่อนทั้งแทนไทและนนทเรศเคยพูดถึงเรื่องอยู่เคียงข้างกันมาก่อน จิตใจของโฮสต์เลยเริ่มเอนเอียงคิดถึงคนรักในชาตินี้ขึ้นมา มือเอื้อมไปจับจีวรสีแก่นขนุนไว้แน่น “หลวงพี่จะไม่ทิ้งจ่อยจริงๆ นะ ต่อให้จ่อยกลัวผี ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ก็ไม่ทิ้งกันนะ”



“ใครจะไปทิ้งจ่อยลง จ่อยเองนั่นแหละที่พอเบื่อแล้วอยากจะไปเล่นซนมากกว่า”



“จ่อยไม่ซนอยู่แล้ว” โฮสต์ตอบขึ้นทันควัน มือเล็กเอื้อมไปคว้ากอดขาทองคำของพระเอกเป็นที่เรียบร้อย “หลวงพี่ไปที่ไหนจ่อยก็ไปที่นั่นแหละ อยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นไง”



“เอ้า ถ้าว่าแบบนั้นก็ดี” หลวงพี่ขยับยิ้มบางพร้อมกับใช้ปลายนิ้วสางเรือนผมให้อีกฝ่ายจนดูไม่ยุ่งเหยิงเท่าตอนแรก เขามองเด็กชายด้วยสายตาเมตตาที่แฝงด้วยความรู้สึกล้ำลึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก “คืนนี้ก็เก็บข้าวของให้เรียบร้อย พรุ่งนี้โยมลพเขาจะเอาสองแถวมารับให้อาตมาไปดูหลานเขาที่หนองพะยอมเสียหน่อย เหมือนจะโดนใครทำของใส่ จ่อยก็ไปด้วยกันเถอะ”



หลวงพี่สั่งการเสร็จก็แกะแขนเด็กชายออกแล้วเดินกลับเข้ากุฏิไป เหลือแต่โฮสต์ที่หยิบระบบขึ้นมาเขย่ารัวๆ เขย่าขนาดนี้ถ้าเป็นกระต่ายจริงก็คงตายไปแล้วมั้งโฮสต์ เบามือหน่อยสิเฮ้ย “แม่สอง! ต้องเป็นเขาแน่ๆ เลย ใช่เขาใช่ไหม?”



นิสัยคลั่งรักกลับมาอีกแล้วสินะโฮสต์ พอเป็นเรื่องแฟนหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ ระริกระรี้เป็นปลากระดี่ได้น้ำเชียว ถ้าระบบเป็นแม่โฮสต์ก็อยากจะเอาไม้เรียวฟาดก้นสักสามสี่ทีนะเนี่ย



“ดีใจจังที่ชาตินี้เจอกันเร็ว แต่ตอนนี้เขายังบวชเป็นพระอยู่เลย เราเองก็ยังเป็นเด็กน้อย นี่มันทั้งบาปทั้งพรากผู้เยาว์เลยอ่ะแม่สอง” โฮสต์จับกระต่ายขาวขึ้นมาชูเหนือแขนแล้วหมุนตัวเป็นวงกลม ระบบมึนหัวจนอยากจะอ้วกแล้ว ช่วยปล่อยลงไปสักทีเถอะ นี่ซื้อร่างมารังแกกันหรือไง



อันที่จริงเรื่องคนรักของโฮสต์ ตอนนี้ระบบยังไม่มีความคิดเห็น ข้อมูลไม่แน่นพอเลยยังไม่กล้าฟันธง จะเรียกดูข้อมูลภูมิหลังของอีกฝ่าย ก็ไม่มีอะไรนอกจากเนื้อเรื่องเดิมจากเครือข่าย จะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่เลยต้องสังเกตเอาเองล้วนๆ ตอนนี้ระบบเลยยังไม่ชัวร์เพราะดูแล้วก้ำกึ่งแปลกๆ ไม่เหมือนโฮสต์ที่มโนเก่งชอบคิดว่าคนนั้นคนนี้เป็นคนรักตัวเองอยู่แล้ว



คืนนั้นพอตะวันตกดิน โฮสต์ก็เก็บข้าวของเสร็จก็ไปนอนรวมกับเด็กวัดที่เหลืออย่างว่าง่าย ด้วยสภาพตอนนี้ความเจริญยังไม่ได้เข้าถึงทุกหมู่บ้าน ฉะนั้นอย่าคิดว่าวัดป่าเรไรจะมีไฟฟ้าใช้ มีแต่ตะเกียงเจ้าพายุจุดไต้กันในยามค่ำคืนเท่านั้น โฮสต์ที่กลัวผีอยู่เป็นทุนเดิม พอได้ยินเสียงหมาเห่าหอนนิดหน่อยก็ตัวสั่นระริกจนต้องคว้าเอาระบบมานอนกอด ระบบได้แต่ถอนหายใจยาว อยากบอกโฮสต์เหลือเกินว่าโลกนี้ไม่มีอะไรหรอก...นอกจากผี จะกลัวไปทำไม



อันที่จริงระบบชักเริ่มรู้สึกขึ้นมาว่าการซื้อร่างกระต่ายให้ระบบถือเป็นนิสัยสุรุ่ยสุร่ายที่บังเอิญมีประโยชน์อยู่เหมือนกัน อย่างน้อยเวลาโฮสต์กลัวก็ยังเอาระบบมากอดไว้ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจ...ใช่เหรอ? ใช่จริงๆ เหรอ? ระบบมีหน้าที่เอาไว้คิดวิเคราะห์ควบคุมดูแลแจ้งเตือนสถานการณ์ แต่ดันเอาระบบมานอนกอดแทนตุ๊กตานี่มันใช่จริงๆ เหรอ???



เช้าวันต่อมานายลพรีบเอารถสองแถวมารับหลวงพี่แสงและเด็กวัดผู้ติดตามตั้งแต่เช้า ลุงลพรีบเล่าเรื่องหลานชายที่น่าจะถูกของว่าหน้าตาดำคล้ำ ซ้ำจากคนนิสัยดีรู้จักกตัญญูรู้คุณยังหงุดหงิดงุ่นง่านจนอาละวาดใส่แม่พ่อ ชอบกินเลือดดิบ โฮสต์ที่เริ่มประสาทเสียเริ่มเกิดอาการวิตกกังวลขึ้นมา เขาคว้าผ้าเหลืองเอาไว้แล้วกระตุกไม่หยุด กระตุกเสียจนสบงของหลวงพี่แสงจะหลุดออกมาอยู่แล้ว



“กลัวอีกแล้ว?” หลวงพี่รอให้นายลพกับเมียขับรถออกไป เหลือตนเองกับจ่อยนั่งอยู่คอกสองแถวด้านหลังแล้วค่อยเอ่ยถามเด็กชายด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ พอเห็นจ่อยพยักหน้ารัวๆ จนดูตลก เขาก็ล้วงมือเข้าไปในยามหยิบของออกมาให้อีกฝ่าย “หลวงปู่ช่วงให้ตะกรุดมาอันหนึ่ง จ่อยเอาไปคล้องแล้วกันจะได้มีอะไรป้องกันภัย”



หลวงพี่สวมตะกรุดเข้าให้ที่คอของโฮสต์ด้วยตัวเอง โฮสต์ที่ไม่ใช่คนงมงายเลยแม้แต่น้อย พอได้ของที่คิดว่าดีเข้าไปก็จิตใจสงบขึ้นมาบ้าง เขาเปลี่ยนมาลูบขนสีขาวนุ่มฟูของระบบแทน อาการหลังเท้าเป็นหน้ามือทำให้พระหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ “ดูเข้าเถอะ ติดกระต่ายเสียจริง จะไปไหนก็ต้องเอามันไปด้วย พอกลัวก็รัดมัน พอเลิกกลัวก็ลูบมัน จ่อยเบามือกับมันบ้าง เดี๋ยวเฉามือตายกันพอดี”



ขอบคุณที่ช่วยเหลือนะพระเอก แต่ระบบไม่ตายด้วยแค่เฉามือตายหรอก นี่ร่างจากแม่ข่ายเลยนะ ไม่ใช่ลูกหมาน้อยใกล้หมดลม อย่ามาดูถูกกันให้มากเลย



โฮสต์นั่งรถที่คลอนแคลนไปสักพักจึงเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมา จากนั่งสัปหงกก็กลายเป็นไปนั่งเอนพิงหลวงพี่ จนสุดท้ายกลายเป็นเอนตัวนอนตักทั้งที่ยังกอดระบบเอาไว้ พระเอกได้แต่ส่ายหน้าพลางมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เขาวางมือบนเรือนผมหยักศกช้าๆ



ฝ่ามือสางไปตามเส้นผมนุ่มสลวยของโฮสต์อย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วลากไล่จนมาถึงเปลือกตาที่ปิดสนิท แววตาเป็นสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พระหนุ่มขยับปลายนิ้วไปจนถึงกลีบปากบางแดงระเรื่อที่ปิดสนิทของจ่อย ริมฝีปากยิ่งหยัดออกเป็นรอยยิ้มแปลกประหลาด สักพักหนึ่งเขาก็ดึงมือกลับไปวางบนศีรษะของโฮสต์แทน สายตามืดมิดมองลอดคอกของรถสองแถวออกไปไกลจนไม่มีจุดหมาย



อากัปกิริยาทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่ระบบเคยเห็นแล้วมาก่อนทั้งนั้น



ระบบตรวจพบความมืดในจิตใจของพระเอกถึง 16.67% แต่ลังเลไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจยังไงดี ความมืดระดับนี้จะว่าสูงก็สูงอยู่ แต่ด้วยสถานะพระสงฆ์ของหลวงพี่แสงและความรู้สึกที่มีให้โฮสต์ ทำให้อาจตีความได้ว่าการที่สมภารอยากกินลูกเจี๊ยบในวัดอาจนับเป็นความมืดในจิตใจได้



ระบบในร่างกระต่ายได้แต่เหลือบตามองหลวงพี่แสงในจีวรสีแก่นขนุน...เรื่องใช่คนรักไม่ใช่คนรักอาจไม่ใช่เรื่องของระบบ แต่ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนกันที่ตัวเองตัดสินใจฟันธงไม่ได้สักทีจนต้องจบเท้าหลังตามสัญชาตญาณกระต่าย ระบบกำลังตกอยู่ในกับดักคนฉลาดหรือยังไงกันนี่



ใช่หรือไม่ใช่?



ขี้เกียจวิเคราะห์แล้ว มีคุกกี้ไหมจะได้เอามาทำนายกัน



โปรดติดตามตอนต่อไป...





ซินเอ๋อร์:

โลกนี้ทำเอาระบบตกอยู่วิกฤติซะแล้วค่าา 5555 เขียนไปเขียนมาก็อยากรังแกระบบบ้าง ไม่ใช่รังแกแค่โฮสต์อย่างเดียว ถือว่าแบ่งๆ ความซวยไปให้กันและกันนะคะ เขียนไปก็รู้สึกว่าบาปท้านรกมาก นี่ทำอะไรลงไปเนี่ยยยย

Arc นี้จะแอบมีเนื้อเรื่องหน่อยนะคะ จะเล่าละเอียดกว่า Arc อื่นๆ หน่อย ทำให้ยาวกว่าปรกติที่มีแต่ครึ่งแรกกับครึ่งหลังค่ะ เรื่องราวจะเป็นยังไง ต้องติดตามกันต่อไปนะคะ ไม่รู้ว่าจะเบื่อกันหรือเปล่า เรื่องราวบางทีวุ่นวาย ระบบอาจไม่ค่อยได้ตบมุกเรี่ยราดเท่าไร ยังไงอยู่ด้วยกันก่อนน้า ซินเอ๋อร์เหงาค่ะ TwT

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ หนีไปเรียนก่อนน้า เจอกันตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบจ่อยอ่ะ นึกภาพลูกครึ่งตัวน้อยๆ กะวิถีชีวิตแบบไทยแท้แล้วมันน่ารักน่าเอ็นดูบอกไม่ถูก

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 4อย่ากลับดึก ถ้าอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว (2)



จากวันนั้นความรู้สึกลังเลว่าจะใช่หรือไม่ใช่ที่ระบบมีกับพระเอกก็ยังคงไม่สามารถลบล้างออกไปได้ ปรกติแล้วถ้าระบบพบเจอคนรักของโฮสต์ก็มักจะฟันธงได้อย่างมั่นใจทุกครั้งว่าเป็นคนเดียวกันแน่ๆ หลวงพี่แสงถึงจะมีความรู้สึกบางอย่างว่าใช่ โดยเฉพาะแววตาที่มองโฮสต์และกิริยาแสดงความรักแบบเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่รู้ทำไมระบบกลับไม่สบายใจเสียเลย คงเพราะเช็คข้อมูลดูแล้วไม่พบอะไรล่ะมั้ง



“คิดมากน่าแม่สอง” โฮสต์พูดงุ้งงิ้งพลางนวดขานวดพุงให้ระบบเหมือนคนกำลังปรนเปรอกระต่ายตามประสาทาสผู้ภักดี “เราว่าใช่ก็ใช่ซี่ นี่แฟนเรานะ เราจะแยกไม่ออกได้ยังไง?”



ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอโฮสต์...เพราะเป็นโฮสต์ไงล่ะถึงได้แยกไม่ออก ขนาดสี่ห้าชาติแรกยังหลงคิดไปเลยว่าพระเอกของโลกเป็นคนเดิมที่ตามตัวเองมาทุกชาติ กว่าจะรู้ว่านนทเรศรักก็ใช้เวลาชาติหนึ่ง กว่าจะรู้ว่าเขาตามมาก็ใช่เวลาตั้งสามชาติ นี่ยังไม่นับนิสัยขี้มโน และนิสัยชอบหวั่นไหวกับพระเอกอีก ถ้าระบบมีไม้เรียว ระบบก็อยากจะฟาดโฮสต์สักหลายๆ ทีแหละ



ตอนนี้ระบบเป็นกระต่าย ถึงจะไม่มีไม้เรียวก็ยังสามารถฟาดโฮสต์ได้ ระบบตบเท้าปุกปุยของตัวเองกับหน้าตักของโฮสต์แรงๆ จนดังตุ้บๆ หลายตุ้บ แต่ดูท่าโฮสต์จะชอบใจมากกว่าจนถึงขั้นหลุดหัวเราะออกมา แน่จริงซื้อร่างแมวให้ระบบสิ รับรองว่าจะข่วนให้หน้ายับจะได้ตื่นฟื้นขึ้นมาจากการมโนซะบ้าง



[ถึงพี่จ๋าจะมั่นใจ แต่โปรดรักษาระยะห่างในความสัมพันธ์กับพระเอกเพื่อความเหมาะสม~♥]



“ฮื่อ...ก็ตอนนี้เขายังเป็นพระอยู่นี่เนอะ” โฮสต์คอตกจนจมูกโด่งฝังลงกับขนนุ่มของกระต่าย ท่าทางหงอยเหงาซึมเศร้า น่าสงสารซะเหลือเกิน แต่เอาเถอะ อย่างน้อยระบบก็พอโล่งใจที่เขายังพอรู้เรื่องอยู่บ้าง รักกันปานจะกลืนกินยังไงก็ช่วยดูความเหมาะสมด้วย ถึงระบบจะไม่ได้กลัวบาปกลัวนรกเท่าไร แต่เล่นถึงพระสงฆ์องค์เจ้ามันจะปลิวกันหมดอาจโดนลบออกจากโครงข่ายข่ายได้ทั้งคู่นะโฮสต์



อีกอย่างตอนนี้เพิ่งผ่านมาได้แค่เกือบปี จ่อยอายุแค่สิบสามเอง ตามบทกว่าจะตายเป็นผีพรายก็ปาเข้าไปยี่สิบห้าโน่น โฮสต์ยังมีเวลาในโลกนี้อีกหลายปีให้ได้คิดให้ได้เรียนรู้ ถ้าเกิดพลาดพลั้งไปฟีทเจอริ่งกับหลวงพี่แสงแล้วเขาไม่ใช่แฟนตัวเองขึ้นมา ถึงเวลานั้นมาร้องไห้แงๆ ระบบจะ mute เสียง ไม่ฟังโฮสต์โวยวายด้วยคนหรอกนะ



โฮสต์ใช้ขนของระบบเช็ดน้ำมูกน้ำตาเสร็จ พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าดันถึงเวลาโพล้เพล้หรือที่เรียกกันว่าผีตากผ้าอ้อมกันพอดี เสียงลมกรรโชกพัดแรงเสียงจนใบมะพร้าวจากรอบข้างเสียดสีกันดังชวนขนลุก โฮสต์ที่ชอบมาแอบตรงหลังศาลารู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงรีบคว้ากระต่ายมากอดไว้เหมือนเป็นยันต์คุ้มครองแล้ววิ่งเผ่นกลับไปที่เก็บของของพวกเด็กวัดทันที พอไปถึงก็รีบกวาดข้าวกวาดของตั้งท่าเหมือนเตรียมหนี



[พี่จ๋าจะไปไหน~♥]



“เรากลัวผี ที่หลวงพี่แสงปราบผีเปรตเมื่อคืนนี้ยังติดตาอยู่เลย คืนนี้นอนไม่ได้แน่ๆ เราจะไปนอนกุฏิเดียวกับหลวงพี่” โฮสต์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อหันมาเห็นกระต่ายตัวขาวกำลังมองด้วยสีหน้าเอาแรง แต่พอเหลือบไปเห็นท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี หน้าตาก็ยิ่งแตกตื่นกระวนกระวายยิ่งกว่าเดิม “ขอร้องเถอะแม่สอง เราจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน เรากลัวจริงๆ นะ ถ้าเกิดกลางคืนมีเสียงวี๊ดๆ ขึ้นมาอีกล่ะ”



โฮสต์พูดจบก็มีเสียงอะไรสักอย่างกระแทกกับหลังคาดังตุ้บ! ร่างเล็กของเด็กชายในชุดสีมอซอถึงกับสะดุ้งโหยงพร้อมร้องว๊ากออกมาคำหนึ่ง เขารีบคว้าระบบไปกอดในอ้อมแขนที่สั่นระริก ส่วนระบบก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับความป๊อดของโฮสต์ เลยเอาขาหน้าทั้งสองข้างตะปบแก้มซ้ายขวาแรงๆ แค่ลูกมะพร้าวเอง จะกลัวอะไรนักหนา



“ฮือ...ปล่อยเราไปเถอะแม่สอง เราจะไม่ทำตัวรุ่มร่ามจริงๆ นะ” อีกฝ่ายยอมให้ระบบทุบตีอย่างว่าง่าย ระบบตบตีโฮสต์จนเหนื่อยก็ได้แต่นอนขดตัวด้วยความเซ็ง สุดท้ายก็โดนหอบไปกุฏิของหลวงพี่แสงพร้อมกับข้าวของในมือโฮสต์ พอไปถึงเป็นจังหวะที่พระหนุ่มออกไปทำวัตรเย็นพอดี กว่าจะกลับมาก็คงอีกพักหนึ่ง



ตอนหลวงพี่กลับมา จ่อยก็ปูที่นอนจัดการข้าวของแถมยังกางมุงจนเรียบร้อย หลวงพี่แสงเลิกคิ้วมองเล็กน้อย แต่พอเห็นขอบตาแดงเรื่อและสองแก้มแดงก่ำคล้ายผ่านการร้องไห้มาก็พอจะเดาเหตุการณ์ได้ พระหนุ่มหัวเราะเสียงเบาแล้วเดินไปขยี้เส้นผมหยักศกนุ่มฟูของเด็กวัดที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นอย่างว่าง่ายเชื่อฟัง



“กลัวผีอีกแล้วล่ะสิ” นัยน์ตาทั้งคู่ของหลวงพี่เต็มไปด้วยความเมตตาและความอ่อนโยน “มีกระต่ายก็แล้ว มีตะกรุดก็แล้ว จ่อยยังกลัวอีกเหรอ”



“อยู่กับหลวงพี่ถึงจะไม่กลัว” จ่อยตอบกลับทันควัน ขนตาแพหนาที่ยังมีหยดน้ำตาทำให้ดูน่าสงสารกว่าเดิม ส่วนระบบก็นึกอยากจะกระโจนสกายคิกโฮสต์ด้วยลูกเตะกระต่าย เพิ่งบอกไปว่าให้รักษาระยะความสัมพันธ์ ทำไมมาทรงอ่อยได้ล่ะโฮสต์...แต่ไม่หรอก ด้วยสติปัญญาของโฮสต์นี่ไม่ใช่การอ่อย แต่เป็นการออดอ้อนคนรักตามนิสัยคลั่งรักดั่งเดิมต่างหาก ทำนองว่าขอแค่มีแฟนอยู่ด้วย ต่อให้ยกผีมาทั้งหมู่บ้านก็ไม่กลัว



ว่าไปนั่น มีหรือที่คนอย่างโฮสต์จะไม่กลัว ถ้ามากันเยอะขนาดนั้น รับรองว่าโฮสต์ได้ร้องไห้แงๆ โดนผีหลอกจนหัวโกร๋นแน่ๆ



ส่วนหลวงพี่แสงคงจะไม่ได้คิดเหมือนโฮสต์และระบบล่ะมั้ง มือที่ลูบศีรษะโฮสต์อยู่จึงชะงักลงไปเล็กน้อยพร้อมกับดวงตาที่หลุบลงต่ำเหมือนไม่อยากให้ใครเห็นแววตา แต่น้ำเสียงของพระภิกษุยังคงสงบนิ่งน่าเคารพนับถือเหมือนเคย “จะนอนก็นอนได้ แต่อาตมานอนหัวค่ำ จ่อยจะทนได้หรือ”



โฮสต์พยักหน้าหงึกๆ เหมือนเขียนบอกไว้กลางหน้าผากว่าจ่อยว่าง่าย จ่อยเป็นเด็กดี เลยได้นอนลงบนเสื่อผืนข้างๆ ของหลวงพี่แสงจนได้ ถึงเขาจะพยายามนอนนิ่งๆ ไม่ดิ้นไม่ซนยังไง สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นว่าขยับไปนอนเบียดพระหนุ่มอยู่ดี



ชีวิตการบวชเรียนของหลวงพี่แสงเรียกได้ว่ามาถึงกาลวิบัติแล้ว ตามเนื้อเรื่องยังเหลือการปราบผีครั้งใหญ่ในป่าช้าวัดแคม่วงอีกครั้งหนึ่งให้พระเอกได้สร้างชื่อเสียง หลังจากนั้นจะมีชาวบ้านจากทั่วสารทิศทั้งอำเภอนี้ทั้งจังหวัดอื่นเข้ามาขอความช่วยเหลือ พอวัดวุ่นวายหนักเขาถึงได้ขอลาสิกลาจากการเป็นพระสงฆ์ นับเวลาแล้วก็น่าจะอีกราวๆ สองสามเดือน แต่ตอนนี้หลังจากโฮสต์ทำเนียนมาอาศัยกุฏินอนข้างๆ หลวงพี่แสงก็หวิดผิดพระวินัยเกือบจะต้องปลงอาบัติหนักอยู่ทุกวัน



ถึงปลงผมอยู่ภายใต้ร่มกาสาวพักตร์ยังไง ร่างกายของหลวงพี่แสงก็ยังเป็นชายหนุ่มเต็มตัวที่มีสุขภาพดี จะมีฝันหวานตอนกลางคืนกันบ้างคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เพราะมันเป็นสังฆาทิเสสหรืออาบัติรุนแรงที่รองจากการปาราชิก สุดท้ายจึงได้แต่ฝืนทนข่มความต้องการของร่างกายเอาไว้ ถ้าเป็นหลวงจีนในนิยายกำลังภายในคงเกิดจิตมารไปแล้ว



ค่าความมืดในจิตใจของพระเอกเพิ่มขึ้นทุกวันจาก 16.67% ตอนนี้ปาเข้าไป 18.94% แล้ว ระบบตบตีให้โฮสต์ไสหัวกลับไปนอนรวมกับเด็กวัดเหมือนเดิม แต่กลายเป็นว่าอยู่ดีไม่ว่าดี ดันมีผีตายโหงมากหน้าหลายตามายืนปลายเท้าจ่อยอยู่แทบทุกคืน ผีสภาพดูไม่จืดล้วนแต่มาขอร้องให้จ่อยช่วยพูดกับหลวงพี่แสงให้ช่วยเหลือพวกเขาที โฮสต์กินไม่ได้ นอนไม่หลับ สภาพโทรมจัดผอมแห้งจนดูไม่ได้ ก็เลยต้องกลับไปนอนค้างในกุฏิของหลวงพี่จนได้



และในที่สุดสิ่งที่ระบบกลัวที่สุดก็มาถึงจนได้...



โฮสต์ยังคงนอนหลับใหลไม่ได้สติเหมือนเคย แต่ภิกษุหนุ่มที่อยู่ข้างกายกลับไม่อาจข่มตาให้หลับได้ หลวงพี่แสงต้องทนข่มอารมณ์ข่มร่างกายมาเป็นเดือนคล้ายจะหมดความอดทนทุกที เขาผุดลุกขึ้นนั่งท่ามกลางความมืดมืดในยามดึกสงัด แสงจันทร์เพ็ญในคืนวันพระโกนที่ส่องผ่านหน้าตามาทำให้เห็นดวงหน้าที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออกได้อย่างพอดิบพอดีของจ่อย หลวงพี่แสงเริ่มจากขยับนิ้วเกลี่ยไปตามเส้นผมนุ่มสลวย



ปลายนิ้วเลื่อนลงไปถึงหน้าผากมนของเด็กชาย พระเอกแตะนิ้วกับหางตาและเขี่ยแพขนตาของโฮสต์เล่นอย่างเชื่องช้า เขาไล่นิ้วไปตามพวงแก้มขาวที่ไม่ได้กลมป่องน่าเอ็นดูเหมือนตอนเด็กๆ แต่เริ่มมีเค้าโครงคมชัดขึ้นมาจางๆ พระภิกษุแตะปลายนิ้วกับกลีบปากแดงระเรื่อของจ่อย นัยน์ตากลายเป็นสีมืดเข้มดำมืดเสียจนไม่เหลือภาพลักษณ์ของหลวงพี่แสงผู้ใจดีอีกต่อไป



เขาโน้มตัวลงช้าๆ ก่อนจะแนบจูบลงบนริมฝีปากอิ่มของเด็กชายที่ยังคงไม่ได้สติก่อนจะเริ่มแทะเล็มอย่างแผ่วเบา ณ วินาทีนี้ระบบไม่ได้สนใจอะไรแล้วนอกจากค่าความมืดมิดในจิตใจที่พุ่งขึ้นสูงจัดจนเข้าขั้นวิกฤติ จาก 18.94% มันพุ่งไปจนถึง 25% แล้ว แถมยังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนหยุดไม่อยู่ ถ้าสมภารตัดสินใจกินลูกเจี๊ยบ รับรองว่าคราวนี้แค่ปลงอาบัติคงยังไม่พอ แต่ถึงขั้นปราราชิกเพราะเสพเมถุนแน่ๆ ระบบได้แต่ภาวนาให้พระเอกยับยั้งตัวเองได้ก่อนที่ค่าที่อ่านได้จะสูงมากกว่านี้



หลวงพี่แสงผละออกไปเมื่อค่าพุ่งไปถึง 32% แล้วล้มตัวนอนนิ่งเหมือนเคย ระบบถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเหลือบมองโฮสต์ที่หลับเป็นตาย รอจนพระเอกลุกไปทำวัตรเช้า รอจนโฮสต์ตื่นตอนรุ่งสางค่อยยกอุ้งเท้ากระต่ายตะปบเข้าไปที่กลางแก้มของโฮสต์แรงๆ หลายๆ ที



โฮสต์กุมแก้มตนเองแล้วหันมามองระบบน้ำตาคลอเหมือนเจ็บช้ำน้ำใจเพราะถูกกระต่ายรังแก แต่ ณ จุดนี้ระบบไม่สนใจแล้ว อยากจะร้องก็ร้องให้ตายไป ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้หลวงพี่แสงลาสิกขาสึกออกจากการเป็นพระก่อนที่เขาจะยิ่งถลำลึกจนกลายเป็นแอบลักหลับโฮสต์ตอนนอนเข้าสักวัน ปราบผีล้างป่าช้าครั้งใหญ่ที่วัดแคม่วงอะไรก็ช่างมันเอาไว้ก่อนเถอะ ถ้าพระเอกเข้าดาร์กไซด์จริง นอกจากภารกิจล่มโฮสต์โดนตัดคะแนน ระบบเองก็จะโดนตัดคะแนนด้วยเหมือนกัน



ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ระบบกระโจนขึ้นใช้ขาหลังเตะเข้าที่หน้าของโฮสต์จนเต็มแรง เจ้าโฮสต์ไม่รักดี! หน้าที่มีให้มาเป็นแสงเทียนนำใจพระเอก นี่ดันพาพระเอกเข้าด้านมืดซะเอง! ระบบถึงไม่อยากมีโฮสต์โง่ก็เพราะแบบนี้ เพราะถ้าโฮสต์โง่ เราจะได้ตายกันหมดแน่ๆ



“โอ๊ยๆๆๆ ใจเย็นๆ ก่อนแม่สอง! นายเป็นอะไร หงุดหงิดเหรอ?”



[เพราะคุณไม่ตั้งใจทำภารกิจให้ดี ตอนนี้พระเอกเข้าด้านมืดไปแล้วถึง 32%]



จุดที่เลือดขึ้นหน้าทำให้ระบบปิดการใช้งานเสียงน้องชายตัวน้อยโดยอัตโนมัติและเปลี่ยนกลับไปเป็นเสียงโปรแกรมสงเคราะห์ที่เป็นเสียงแรกสุดแทน โฮสต์เบิกตาขึ้นอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาคว้าตัวระบบเอาไว้แล้วรีบเอามือลูบหัว ขณะที่กำลังพยายามใช้สมองน้อยๆ ที่ไม่ค่อยจะมีคิดวิเคราะห์แยกแยะอย่างเร่งด่วน



“เดี๋ยวนะแม่สอง พระเอกเข้าด้านมืดไปได้ยังไงขนาดนั้นอ่ะ ตอนแรกก็ยังเห็นดีๆ อยู่เลย ทุกวันก็เป็นหลวงพี่ที่ใจดีอ่อนโยนมีเมตตา คอยช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ดีกว่าพระเอกคนอื่นๆ อีก นายตรวจสอบอะไรผิดหรือเปล่า” โฮสต์รีบอธิบายด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ ระบบเลยตะปบหน้าโฮสต์ไปอีกที



[ค่าความมืดที่ระบบตรวจวัดได้ไม่มีวันผิดพลาด!!]



ระบบโยนเครื่องหมายอัศเจรีย์สีแดงสดใส่โฮสต์ไปหกสิบกว่าอัน เรื่องอะไรมาโยนให้เป็นความผิดของระบบล่ะ โฮสต์เห็นก็รีบขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่



[โฮสต์โปรดดำเนินการเพื่อยับยั้งความมืดในจิตใจของพระเอก! ]



เมื่อคืนนี้ระบบได้ทำเรื่องของแก้ไขรูปแบบการทำงานร่วมกับโฮสต์จากโครงข่ายมาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากพฤติกรรมชิลจนเกินไปและความโง่ที่สูงกกว่าค่าความฉลาด ทำให้โฮสต์มีแนวโน้มว่าจะทำภารกิจได้ไม่รอดในโลกที่ระดับความยากเพิ่มมากขึ้น แต่เพราะโฮสต์ไม่ใช่คนหัวดื้นกับระบบเท่าไรนัก โครงข่ายจึงอนุมัติให้ระบบสามารถควบคุมโฮสต์ได้ 25% และสามารถส่งภารกิจย่อยเพื่อทำให้เรื่องราวดำเนินไปราบรื่นตามที่มันควรจะเป็น



ก่อนที่โฮสต์จะมอบภารกิจจูงใจให้พระเอกลาสิกขาจากการเป็นสมณเพศกลับไปเป็นผู้ครองเรือนตามเดิม ประตูกุฎิของหลวงพี่แสงก็เปิดออกมาเสียก่อน หน้าตาของหลวงพี่ยังคงสงบเรียบร้อยเหมือนเดิม แต่แววตากลับมีความมุ่งมั่นเหมือนได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว เขาขยับมานั่งบนเสื่อผืนเดียวกับจ่อย ริมฝีปากหยัดออกเป็นรอยยิ้มบาง



“พรุ่งนี้อาตมาจะลาสิกขากลับบ้านในตัวอำเภอ จ่อยจะไปกับอาตมาไหม” น้ำเสียงของหลวงพี่แสงราบเรียบเหมือนพูดคุยเรื่องทั่วไปไม่ได้พูดถึงเรื่องอะไรใหญ่โต ทั้งที่จริงๆ เขาบวชเรียนไม่ได้กลับบ้านมาเกือบสิบปี มาถึงวันหนึ่งก็ตัดสินใจลาสึกจากการเป็นพระภิกษุอย่างง่ายดายเช่นนี้เอง



โฮสต์ไม่ค่อยเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับไวเท่าไรนักเลยมองหลวงพี่สลับกับกระต่ายขาวด้วยความงุนงง ด้วยสติปัญญาของโฮสต์อาจจะต้องใช้เวลาอธิบายและเรียบเรียงความคิดมากเสียหน่อย เพราะฉะนั้นระบบจะเคลียร์กับโฮสต์เองในโอกาสหน้า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ระบบสบายใจขึ้นมากแล้ว



[คำเตือน ตรวจพบโอกาสที่การตัดสินใจของคุณอาจส่งผลต่อเนื้อเรื่องทั้งหมดถึง 100%]



“โอ้โห 100% เลยเหรอ” โฮสต์ที่ยังคงงงๆ พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะตื่นตาตื่นใจ มันจะไม่ 100% ได้ยังไงล่ะโฮสต์ ถ้าโฮสต์ไม่ไปด้วยแล้วเรื่องมันจะดำเนินต่อไปยังไง ตามเนื้อเรื่องแล้วจ่อยมันต้องไปเป็นลูกมือคนสนิทของพระเอกจนกระทั่งโดนอาจารย์เอกฆ่านั่นแหละ



“ไปสิหลวงพี่ จ่อยยังไม่เคยเข้าไปในอำเภอเลย...หลวงพี่เลี้ยงจ่อยไหวแน่นะ” เด็กชายเกาะชายผ้าเหลืองของหลวงพี่แล้วเขย่าเบาๆ ท่าทางบริสุทธิ์สดใสเหมือนเคย



“เลี้ยงไหวสิ โยมแม่ทำข้าวแกงขาย ถึงไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่จ่อยก็มีข้าวกินทุกมื้อแน่”



เอาเถอะ จะงุ้งงิ้งอะไรก็งุ้งงิ้งกันไปเถอะ ตอนนี้ถือว่าแก้ไขปัญหาขายผ้าเอาหน้ารอดไปได้ก็พอ โชคดีที่ว่าพอเปลี่ยนสถานะจากหลวงพี่แสงไปเป็นทิดแสงก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ค่าความมืดมิดในจิตใจลดน้อยลง จนตอนนี้ลงมาอยู่ที่ 11.29% เพียงเท่านั้น ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่อันตรายเท่าไรนัก



หลังจากที่พระเอกสึกออกจากวัดป่าเรไรกลับไปอยู่บ้านช่วยแม่ทำร้านขายข้าวแกงในตัวอำเภอ เนื้อเรื่องที่เหลือก็ยังคงดำเนินไปเหมือนเดิมตามที่โครงข่ายกำหนดเอาไว้แล้ว ต่อให้ไม่ได้เป็นพระแต่ก็มีชาวบ้านมาขอร้องให้ทิดแสงไปช่วยปราบผีที่ป่าช้าวัดแคม่วงอยู่ดี ชื่อเสียงของเขาจึงยิ่งขจรไกลข้ามจังหวัด



หลายปีผ่านไปพระเอกก็ยังคงเก็บเลเวลอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเลเวลอาคมสายขาวและเลเวลความกร้านโลก สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นไปแล้ว ที่โดนหลอกก็โดนหลอก ที่ควรจะช่วยใครก็ช่วยเอาไว้ แต่ดีที่ว่ายังมีโฮสต์ผู้สดใสแก่นเซี้ยวแสนซนอยู่ข้างกาย ทำให้ทิดแสงยังอยู่ในลู่ทางความดี ไม่หลุดโผไปไกลเข้าสายมืดมากนัก...



โฮสต์ยังคงให้ความสนิทสนมกับทิดแสงมากกว่าใครๆ อยู่เหมือนเคย ตามบทจ่อยติดพระเอกเพราะรู้สึกว่าตนเองแปลกแยกจากคนอื่น เป็นลูกครึ่งหัวแดงลูกโสเภณีที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน มีแต่พันแสงที่ดีกับเขามาโดยตลอด ส่วนโฮสต์ที่มารับบทแทนก็โง่เกินกว่าจะรู้สึกอะไรแบบนั้นได้ เขาแค่ติดแฟนเฉยๆ ยิ่งตอนนี้อายุสิบหกแล้วไม่ใช่เด็กน้อยตัวกระเปี๊ยก แต่เป็นไอ้หนุ่มหน้าขาวปากแดงหน้าตาน่ารักเลยยิ่งทำตัวให้พระเอกอยากฟัดกว่าเดิม



เนื้อเรื่องตอนนี้ดำเนินมาได้พอสมควรแล้ว พระเอกได้ช่วยชีวิตถอนของให้กับท่านเกรียงไกร ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของจังหวัดและประเทศ จนได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก และได้เข้าไปขวางหนทางทำมาหากินของอาจารย์เอกเข้าแล้ว อีกไม่นานคงจะได้พบเจอเปิดตัวตัวร้ายกันได้เร็วๆ นี้แน่



ตามเหตุการณ์การพบกันดั้งเดิมคือทิดแสงและจ่อยในชุดขาวถูกชวนไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพลินพิศลูกสาวท่านเกรียงไกรหรือผู้เป็นนางเอกของโลกนี้ ส่วนอาจารย์เอกก็ติดตามคู่แข่งของท่านเกรียงไกรมาในงานเลี้ยงเช่นกัน อาจารย์เอกใช้อาคมสูงกว่าเล่นงานทิดแสงเสียจนบาดเจ็บ ก่อนจะถูกคุณไสยหนักเพลินพิศกลับมาขวางเอาไว้ คุณไสยจึงย้อนเข้าตัวโกงจนกลายเป็นความแค้นในภายหลังแทน ส่วนนางเอกก็พาพระเอกไปรักษาตัวช่วยดูแล เกิดเป็นความรักที่สุด



เสียแต่ว่าวันงานจริงที่ทิดแสงควรจะสนใจคุณหนูคนสวยราวดาวล้อมเดือน กลับยิ้มให้เธอเพียงครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป ความสนใจของเขาทั้งหมดมอบให้กับจ่อยที่ยังคงเด่อด๋า วิ่งไปทางนั้นทีทางนี้ทีหัวเราะคิกคักเหมือนคนสมองไม่ค่อยจะเต็ม ระบบทนดูไม่ได้เลยขอโอกาสกระโดดหนีก็แล้วกัน



โฮสต์วิ่งไล่จับระบบจนมาถึงสวนของท่านเกรียงไกร เบื้องหลงมีทิดแสงเดินตามมาติดๆ ไม่รู้ว่ามีแขกแปลกหน้ายืนอยู่ตั้งแต่ในสวนเมื่อไร อาจารย์เอกผู้เป็นหมออาคมมือฉมังแห่งยุคใส่ชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า ยืนเหม่อด้วยท่าทางผึ่งผายราวทหารโบราณ แม้หน้าตาคมคายหล่อเหลาแต่ก็ท่าทางน่ายำเกรงด้วยเรือนร่างสูงใหญ่และผิวสีเข้มราวทองแดง นัยน์ตาดำมืดจับจ้องมายังพระเอกไม่วางตา...



ไม่สิ สายตาส่องตรงไปหาโฮสต์มากกว่า ชั่ววูบหนึ่งคล้ายประกายความอ่อนโยนจะปรากฏขึ้นในดวงตา ก่อนมันจะเลือนหายไปเหลือเพียงความมืดมิดอนธการเมื่อเห็นว่ามือขาวของโฮสต์กำลังสั่นเล็กน้อยจนต้องคว้าจับมือของพันแสงเอาไว้แน่นเหมือนต้องการที่พึ่งพิง



ระบบที่อยู่บนพื้นรู้สึกว่าหัวใจกระต่ายเต้นตึ้กๆ ราวกับจังหวะบีทบ็อกส์...



พัง! พังกันหมดแน่คราวนี้!!





โปรดติดตามตอนต่อไป...





ซินเอ๋อร์:

ย่องมาลงค่ะ บาปมากตอนนี้ แต่แค่หอมปากหอมคอพอนะคะะ มากกว่านี้มันจะบาปไปน้าาา อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลย (แงงง)

Arc นี้เป็น Arc ที่วุ่นวายมากทั้งโฮสต์ ทั้งระบบ ทั้งพระเอก 55555 น่าจะอีก 1-2 ตอนก็คงจะจบ Arc ค่ะะ จะจบยังไงก็ต้องดูกันต่อไปค่ะ นอกจากวุ่นวายแล้ว Arc นี้ยังรีเสิร์ชเยอะมาก เพราะไม่ค่อยแม่นเรื่องศาสนา ของขลัง ไสยศาสตร์เท่าไรด้วย ตรงไหนแปลกๆ ท้วงได้นะคะะ ซินเอ๋อร์รีเสิร์ชจนในเฟซเริ่มมีโฆษณาแปลกๆ ขึ้นมาแล้ว ลิปมันสาลิกาลิ้นทองอะไรไม่รู้ ยังไม่ได้จะทำของใส่ใครน้า เฟซบุ๊กแนะนำอะไรเนี่ย แงงงงง

พบกันใหม่ตอนหน้า ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะะะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอาล่ะสิ เราว่าระบบต้องมั่นใจว่าคนรักของโฮสต์มาอยู่ในร่างลาสบอสแน่เลย รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ FiZZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
เจ้าของตัวจริงมาแล้ว!!! สงสารระบบมากกกก 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 4 อย่ากลับดึก ถ้าอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว (3)

หลายโลกที่ผ่านมาระบบมักมีความแม่นยำในการฟันธงว่าใครใช่ใครไม่ใช่คนรักของโฮสต์มาโดยตลอด ขอเพียงได้ใกล้ชิดในรัศมีสักสิบเมตร สัมผัสได้ถึงสายตาและนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถบอกได้ทันทีว่าใช่หรือไม่ใช่ ตามค่าสถิติแล้วเขามักจะเกิดมาเป็นตัวร้าย แต่ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่อาจได้รับบทอื่น พันแสงมีนิสัยและท่าทางบางส่วนที่เหมือนจนเกินพอดี ระบบเลยอ๊องๆ เบลอๆ ตัดสินใจไม่ขาดสักที

แต่มาวันนี้ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เช็กลิสต์ข้อแรกคือบทตัวโกงอันดับหนึ่งของเรื่อง ข้อที่สองคือสายตาดำมืดมิดเหมือนหลุมดำที่จะอ่อนโยนเฉพาะเวลามองโฮสต์เท่านั้น ข้อที่สามคือบรรยากาศคุกคามที่แผ่พุ่งออกมาจากตัว ส่วนข้อที่สี่คือนิสัยขี้หึงอย่างร้ายกาจ สี่ข้อตรงเผงยิ่งกว่าเก็งข้อสอบ

อาจารย์เอกจอมขมังเวทสายดำคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนรักของโฮสต์ที่เพิ่งรักกันหวานชื่นเมื่อชาติที่แล้วนี่เอง

ระบบที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วแบบกระต่ายถึงกับหยุดชะงักจนกลิ้งขลุกๆ ม้วนหน้าไปกองที่ข้อเท้าตัวร้ายของเรื่องแบบหมดสภาพ เอกหลุบตามองด้วยสายตาเย็นเหยียบแบบชนิดที่ว่าเอาแท่งน้ำแข็งมาแทงกันเลยดีกว่า เขาหิ้วหลังคอกระต่ายตัวขาวขึ้นมาแบบไม่ถนอมแรงแล้วส่งคืนให้จ่อยในวัยสิบหกปี

“ขอบคุณครับ” พระเอกเข้ามาขวางก่อนที่ชายในผมสั้นเกรียนในชุดดำท่าทางไม่เป็นมิตรจะเข้ามาประชิดตัวคนสนิทของเขา ระบบถูกย้ายไปอยู่ในอ้อมแขนของทิดแสง แต่กลับไม่รู้สึกสบายใจเลยสักนิด อุ้งเท้าหน้าเลยตะปบแขนพระเอกไปหลายทีจนดังตุ้บๆ

“พันแสงสินะ” ถึงจะเรียกชื่อพระเอก แต่ดวงตาคู่สีดำคมกริบจับจ้องไปยังดวงหน้าขาวของหนุ่มน้อยลูกครึ่งไม่วางตา โฮสต์ที่สัมผัสได้ถึงสายตาดุดันที่มากกว่าเดิมก็ถึงกลับตัวสั่นระริก รีบเบียดเข้าไปใกล้ร่างสูงโปร่งด้านข้างพร้อมกับกระชับมือหนาเอาไว้แน่นกว่าเดิม

วอนตายแล้วโฮสต์ ปัญหาครอบครัวรอบนี้ระบบขอไม่เกี่ยวได้ไหม

เจ้าของชื่อไม่ได้ตอบคำถามจากอีกฝ่าย แต่มีท่าทางคล้ายจะดึกเด็กหนุ่มด้านข้างเข้ามาในอ้อมกอดแทน สายตาของหมอคุณไสยเขมรตอนนี้เรียกได้ว่าพร้อมจะฆ่าหั่นศพคนแล้ว มุมปากหยักของอาจารย์เอกกระตุกเป็นรอยยิ้มคล้ายหยัน แต่ไม่รู้ว่ากำลังหยันใครอยู่กันแน่ “ได้ยินชื่อเสียงมานาน เพิ่งรู้ว่าตัวจริงยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย”

เปิดมาแบบนี้พระเอกจะหลีกเลี่ยงก็ไม่ได้ ด้วยความเป็นคนมารยาทดีไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป เขาเลยฝืนยิ้มให้กับอาจารย์เอกแกนๆ “ผมแค่คนธรรมดา ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย ไม่เหมือนกับอาจารย์เอกหรอกครับ”

ถึงไม่เคยตัวจริง แต่เขาพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร จากบุคลิกเงียบขรึมลึกลับบรรยากาศรอบข้างขมุกขมัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายคนตาย หมออาคมไสยดำที่ชื่อดังที่สุดในแวดวงเดียวกันคงไม่พ้นคนตรงหน้า ตามเนื้อเรื่องถึงตอนนี้แล้วพันแสงแก้ไขของที่อีกฝ่ายทำใส่ผู้คนมาแล้วหลายครั้ง อาจารย์เอกถือว่ามีคติประจำใจที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก เขารับทำคุณไสยไม่เลือกหน้าไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะดีหรือเลวขอเพียงเงินถึงก็สามารถใช้บริการได้หมด

“ฉันแค่อยู่ในวงการนี้มานานกว่าจะไปสู้คลื่นลูกใหม่อย่างเธอได้ยังไง” เทียบกับพระเอกที่อายุยี่สิบสอง ปีนี้อาจารย์เอกปาเข้าไปสามสิบเอ็ดเข้าไปแล้ว เขาเริ่มมีชื่อเสียงมาตั้งแต่อายุได้สิบแปดสิบเก้า ตัวเขามีเชื้อสายเขมรอยู่ครึ่งหนึ่งและร่ำเรียนวิชาความรู้มาจากตาของตนเอง เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ไทยก็ก่อนยุคเขมรแดงได้ไม่กี่ปีเท่านั้น

“ผมคงเทียบกับอาจารย์เอกไม่ได้ เพราะวิชาของเราคนละสายกัน” พันแสงแสดงความเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจน สำหรับเขาที่ใช้วิชาคุณไสยเพื่อป้องกันและรักษาย่อมเกลียดอวิชชาที่หวังทำลายผู้คนอย่างไสยดำเป็นที่สุด โดยเฉพาะคนที่ใช้วิชาอาคมใช้ภูตผีโหงพรายทำร้ายคน เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งอย่างเอก คนประเภทนี้สุดท้ายแล้วก็มีแต่ของเข้าตัว ตายไม่ดีกันทั้งนั้น

อันที่จริงพระเอกก็เดาได้ถูกอยู่หรอก จุดจบตามเนื้อเรื่องเดิมของอาจารย์เอกคือถูกคุณไสยที่ใช้เล่นงานพระเอกย้อนเข้าตัวเอง สภาพศพตอนตายเรียกได้ว่าเละเทะชนิดว่าไม่ผ่านเซนเซอร์ เพราะเขาถูกภูตโหงพรายของตนกัดกินเพื่อเพิ่มพลังจนไส้พุงทะลัก แขนขาขาดกระเด็นไปคนละข้าง แม้แต่ลิ้นและลูกตายังถูกควักออกมากินเป็นอันดับแรก วิญญาณผีตายโหงของอาจารย์เอกที่อยู่ใต้อาณัติของพระเอกเรียกได้ว่าเห็นแล้วอนาถใจอยากจะทำบุญทำทานไปให้เหลือเกิน

“คนเราก็มีหนทางต่างกัน เรื่องนี้คนที่บวชเรียนมามากอย่างเธอคงจะเข้าใจดี” ตัวโกงหัวเราะในลำคอคล้ายมีเลศนัยบางอย่าง นัยน์ตาคมกล้าจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพันแสง กลิ่นอายแห่งความตายจากร่างแผ่พุ่งรอบตัวของคนที่บวชเรียนมานานเกือบสิบปี ความกดดันไปจนถึงจิตวิญญาณแบบนี้ถ้าจิตไม่แข็งจริง อาจทำให้อีกฝ่ายถึงขั้นสติฟั่นเฟือนได้

“ผมเข้าใจดีว่ากรรมคือผลของการกระทำ สุดท้ายแล้วจุดจบจะได้รับอะไร ก็ขึ้นอยู่ที่ทำเอาไว้ในตอนแรก” ริมฝีปากของทิดแสงขยับออกเป็นรอยยิ้มแน่วแน่ของพระเอก ไอหมอกดำมืดค่อยจางหายไปจนหมดสิ้น เขาหมายหัวเอาไว้แล้วคนอย่างอาจารย์เอกไว้ใจไม่ได้จริงๆ เพราะเจอหน้าครั้งแรกก็หวังจะเล่นงานกันเสียหนัก แต่สิ่งที่พระเอกไม่ได้ทันสังเกตเห็นคือความชั่วร้ายนั้นไม่เข้าใกล้จ่อยที่อยู่ข้างกายเลยแม้แต่น้อย คล้ายว่ามันเว้นพื้นที่เอาไว้ให้โฮสต์โดยเฉพาะ

“คนหนุ่มคิดได้แบบนั้นก็ดีแล้ว” รอยยิ้มของเอกไปไม่ถึงดวงตา “เอาเป็นว่าฉันไม่กวนพันแสงแล้วกัน เห็นว่าท่านเกรียงไกรกำลังตามหาตัวอยู่ ให้เจ้าของงานรอคงไม่ดี” เขาหลุบตาลงมองโฮสต์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย “น้องชายพันแสงหน้าตาดีเชียวนะ อยู่คุยกับฉันสักเดี๋ยวสิ”

พันแสงอ้าปากหวังตอบปฏิเสธ ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็มีชายในชุดซาฟารีสีครามที่เป็นคนของท่านเกรียงไกรมาตามตัวเขาอย่างที่อีกฝ่ายว่าไว้จริงๆ ชายหนุ่มหรี่ตามองเพ่งจิตดูว่าเอกได้ใช้กุมารหรือโหงพรายมากระซิบบอกหรือเปล่า แต่กลับมองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง เขาอยากจะดึงให้จ่อยตามไปด้วย แต่คนของท่านเกรียงไกรกลับบอกเพียงว่าต้องการพบเขาคนเดียวเท่านั้น คนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามยุ่มย่ามเป็นอันขาด

พระเอกมองกวาดสายตามองหวังว่าจะหาใครช่วยดูแลจ่อยในระหว่างที่เขาต้องไปคุยธุระกับท่านเกรียงไกร แต่รอบข้างกลับไม่มีใครคุ้นตาสักคน เมื่อโดนเร่งมากเข้าเขาก็ส่งระบบในร่างกระต่ายให้กับโฮสต์ก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะปลอบเบาๆ เขากระซิบแผ่วเบาข้างหูจ่อยว่า “อย่ากินน้ำกับอาหารในงานเด็ดขาด ระวังโดนของ” พันแสงเดินจากไปอย่างเสียไม่ได้ แถมกว่าจะเข้าบ้านไปยังหันกลับมามองอาจารย์เอกและโฮสต์อยู่หลายครั้ง

“เป็นยังไงบ้าง” พระเอกเดินพ้นไปแล้ว ดวงตาของตัวร้ายอ่อนแสงลงอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่เห็นโฮสต์สนิทกับพันแสงจนเกินพอดี แต่เขาก็เก็บอาการได้ดีเยี่ยมจนระบบอยากจะยกนิ้วให้ ท่าทางที่แสดงออกมาเลยมีแต่การเอาใจโฮสต์แทน “งานเลี้ยงนี้มีแต่อาหารฝรั่ง ไก่อบ ขนมเค้ก สารพัดอย่าง ไม่รู้ว่าจะถูกปากไหม อยากกินอะไรหรือเปล่า ฉันจะให้คนไปดูให้”

โฮสต์ที่เชื่อฟังพระเอกอย่างว่าง่ายได้แต่ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ มือเริ่มลูบหัวระบบเหมือนขอความช่วยเหลือ “เมื่อไรพี่แสงจะมาอ่ะแม่สอง เราไม่อยากอยู่กับตาลุงนี่แล้วอ่า เดี๋ยวเขาทำของใส่เราจะแย่นะ เราว่าเขาต้องผสมยาอะไรให้กินแน่เลย ยาสั่งหรือเปล่าก็ไม่รู้”

ลืมตามองให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจไหมโฮสต์ นี่แฟนคุณนะ ไม่ใช่ใครอื่น ถึงเขาจะเป็นหมอผียังไงก็คงไม่ถึงขั้นเอาน้ำมันพรายผสมข้าวให้คุณกินหรอก

[โฮสต์คิดมากจนเกินไป ตอนนี้อาจารย์เอกไม่ได้มีความรู้สึกลบกับโฮสต์] นอกจากความรู้สึกหึงน่ะนะ เป็นระบบก็ลำบากแบบนี้ อยากจะสปอยล์หรอกว่าจริงๆ แล้วผู้ชายคนนี้คือนนทเรศและแทนไทของโฮสต์ แต่ทำไม่ได้เพราะจะเป็นการไปแทรกแซงการตัดสินใจเรื่องส่วนตัวของโฮสต์เอาได้

“ดื่มอะไรหน่อยดีไหม น้ำหวานสักแก้ว” น้ำเสียงที่ดุดันห้วนสั้นในตอนแรกกลายเป็นน้ำเสียงเหมือนที่เขาเคยใช้พูดคุยกับโฮสต์ตอนที่ยังรักกันดี อาจารย์เอกเอื้อมมือมาจัดเส้นผมหยักศกที่ยุ่งเหยิงของโฮสต์ให้เข้าที่เข้าทาง จ่อยขยับตัวออกเหมือนจะหลบจากฝ่ามือหนา แต่ความคุ้นชินจากจิตวิญญาณกลับทำให้เขาคล้ายถูกตรึงอยู่ที่เดิม “เธอผอมจะแย่ พันแสงเลี้ยงไม่ได้หรือ”

“พี่แสงดูแลผมดีแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วง” จ่อยตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาหวิว หัวใจเต้นโครมใหญ่ผิดจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปลายนิ้วบีบระบบเบาๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “มะ...แม่สอง ทำไมคนนี้ก็เหมือนเขาล่ะ ทำไมเราใจเต้นตุ้บๆๆๆ แบบนี้ กับพี่แสงยังไม่เคยเป็นเลย คงเพราะว่าตาลุงนี่น่ากลัวแน่ๆ เลยใช่ไหม”

ไม่ใช่หรอกโฮสต์ แค่มันเป็นปฏิกิริยาตอบกลับอัตโนมัติชนิดที่เรียกว่าจิตวิญญาณโฮสต์รู้ว่าคนไหนคือคนรักที่แท้จริง แต่สมองโฮสต์มันดันโง่จนรับไม่ทันน่ะ

[ระบบแนะนำให้คุณใช้หัวใจตัดสินแทนสมองที่ใช้การไม่ค่อยได้ของคุณ]

โฮสต์ทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจที่โดนระบบด่า เขาเสตามองทางอื่นไม่กล้ามองใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่าย ความรู้สึกสับสนลังเลแบบสุดขีดที่โจมตีอย่างกะทันหันจนเกินไปทำให้กระบวนการคิดของโฮสต์เหมือนจะเออเร่อขึ้นมา เด็กหนุ่มก้าวถอยหลังอย่างไม่มั่นใจ ซวนเซจนเกือบจะล้มลงจนอีกฝ่ายต้องคว้าเอวเอาไว้ก่อน

“ปล่อยผม” จ่อยรีบผลักอีกฝ่ายอออกราวกับว่าอ้อมแขนของเอกเป็นถ่านไฟที่ร้อนจนลวกมือ แก้มขาวทั้งสองข้างของเขาขึ้นสีแดงก่ำ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก “ผมจะไปหาพี่แสงแล้ว”

หน้าตาน่ารักน่าสงสารอาจทำให้ตัวโกงที่อัพเกรดความโหดมาแล้วรู้สึกใจอ่อนกับเขาได้บ้าง แต่ใครใช้ให้โฮสต์โง่พูดถึงพระเอกขึ้นมาได้ จากอารมณ์หวานๆ กลายเป็นอารมณ์เฝื่อนฝาดขึ้นมาในทันที เพราะมือของโฮสต์อุ้มกระต่ายเอาไว้ ทำให้เอกเปลี่ยนไปคว้าบ่าทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มแทน เขาออกแรงบีบหนักจนโฮสต์น้ำตาแทบไหล

“คลาดสายตาไปจากเธอไม่ได้เลยจริงๆ ทำไมต้องสนิทกับคนอื่นไปทั่ว รอฉันบ้างไม่ได้หรือไง” อาจารย์เอกพูดด้วยน้ำเสียงที่ปนเปไปด้วยอารมณ์หลายอย่าง ทั้งโมโห ทั้งแค้นใจ ทั้งเสียใจ ทั้งตัดพ้อต่อว่า เป็นการมิกซ์อารมณ์ด้านลบที่สมควรได้รับรางวัลนักแสดงสมทบดีเด่นจริงๆ เปิดมาถึงขนาดนี้ เขาเรียกว่าเฉลยให้เห็นกันแบบไม่กั๊ก ถ้าโฮสต์ยังไม่รู้อีก ก็สมควรถอดสมองออกมาโยนลงเครื่องซักผ้าแล้วปั่นแห้งได้แล้ว

ใบหน้าของจ่อยซีดขาวจนแทบไม่มีสีเลือด แต่ดวงตากลมโตและขนตายาวหนาเป็นแพตอนนี้คลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำตาแล้ว ชายวัยสามสิบเอ็ดถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะโน้มลำตัวสูงใหญ่เข้ามาจนแนบชิด ริมฝีปากหยักได้รูปของเขาแนบทาบทับกับกลีบปากอิ่มสีแดงระเรื่อของโฮสต์อย่างแผ่วเบา

“ตอนนี้จะไปก็ไปเถอะ” เขาผละออกมาแล้วกดจูบซับหยดน้ำที่หางตาข้างหนึ่งของจ่อย “ต่อให้เธอหนีไปไกลแค่ไหน ฉันก็จะไปตามเธอกลับมาอยู่ดี”

สองแก้มขาวของจ่อยกลับมาเป็นสีแดงอีกครั้งหนึ่ง โฮสต์ก้าวถอยหลังไปด้วยฝีเท้าไม่มั่นคง ก่อนจะหมุนตัววิ่งก่อนกระต่ายสีขาวในมือ

“ว๊ากกกฯ” โฮสต์ร้องกรีดร้องในใจชนิดว่าเติมก.ไก่ไปสามสิบตัว พอหามุมสงบไม่มีใครรบกวนได้เขาก็จับระบบมาเขย่าๆๆๆๆๆๆ เขย่าจนชนิดว่าระบบคิดว่าตัวเองเป็นกาแฟกระป๋องที่ต้องเขย่าก่อนดื่ม คุณต้องเข้าใจด้วยว่าตอนไม่มีร่างจะเขย่าแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้ามีร่างแล้วมาทำแบบเดิมอีกมันก็ไม่ใช่แล้ว โฮสต์อยากเห็นกระต่ายอ้วกใส่หน้าไหม ระบบจะได้อ้วกให้ดู

[พอได้แล้ว!]

ในที่สุดโฮสต์ก็หยุดเขย่ากระต่ายและวางระบบลงบนพื้นได้สักที เขานั่งยองๆ ยกมือกุมหน้าด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก “เอาไงดีเนี่ยแม่สอง... อยู่กันมาตั้งหลายปีเราคิดว่าพี่แสงเป็นเขาซะอีก จู่ๆ จารย์เอกโผล่มาเหมือนจะเป็นเขาแทน สรุปใครเป็นใครกันแน่ฟะ”

โอ้โห นี่ยังไม่รู้อีกเหรอ ไอคิวเท่าไรเนี่ย ถึงหกสิบหรือเปล่า ต้องการของเล่นเสริมพัฒนาการสมองไหม ระบบจะช่วยซื้อให้

[ในเมื่อตอนนั้นคุณไม่แน่ใจแล้วคุณจะไปปักธงพระเอกทำไม]

“ม่ายยย ใครบอกว่าตอนนั้นไม่มั่นใจ ตอนที่ปักธงอ่ะเรามั่นใจ แต่ตอนนี้ไม่มั่นใจแล้ว” โฮสต์เถียงจนคอเป็นเอ็นก่อนจะมาน้ำเสียงอ่อยในตอนท้าย ระบบหมั่นไส้เลยกระโดดเตะขาโฮสต์สักที “ถ้าจารย์เอกเป็นเขาจริงๆ อย่างน้อยเราก็เสียจูบแรกในชาตินี้ให้เขานะแม่สอง กับพี่แสงเราแค่กอดเอง คงไม่เลวร้ายหรอกมั้ง”

เหอะๆ จูบแรกบ้าบออะไรล่ะ ระบบเปิดภาพย้อนเมื่อตอนที่พันแสงยังบวชที่วัดป่าเรไร ตอนกลางคืนที่โฮสต์ไปอาศัยนอนด้วยชายในผ้าสีแก่นขนุนกลับโน้มตัวลงไปขบเม้มริมฝีปากของจ่อยที่กำลังนอนหลับอยู่

“ชิบ!!!!!”

โฮสต์ร้องลั่นเสียงหลงชนิดว่าหลุดร้องออกมาในชีวิตจริงด้วย เขาจับระบบขึ้นมาชูไว้ด้านหน้าแล้วเริ่มเขย่าเบาๆ อีกรอบ “นี่มันบาปโคตรๆ เลยนี่หว่า เราทำผ้าเหลืองแปดเปื้อนไปขนาดนั้นเลยเรอะ ทำไงดีเนี่ยแม่สอง...ฮืออออ”

[ชีวิตส่วนตัวของโฮสต์ระบบไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ แต่คุณต้องจัดการน้ำหนักให้ดีระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว]

เรียวคิ้วสีน้ำตาลอ่อนของจ่อยกระตุกเข้าหากันราวกับว่าเขาพยายามรีดเค้นสมองทั้งหมดออกมาคิดหาทางออก สุดท้ายโฮสต์ก็ได้ข้อสรุปที่บอกกับระบบว่า “หนีไปตั้งหลักก่อนก็แล้วกัน”

ระบบไม่อยากสนใจคนโง่อย่างโฮสต์แล้วเลยเปิดเรียกขอดูข้อมูลของอาจารย์เอกแทน ถึงจะต้องยอมเสียสละคะแนนบางส่วนของตัวเองเพื่อดูแบบเรียลไทม์ แต่ก็ถือว่าคุ้มที่จะดูอยู่หรอกมั้ง

ด้านข้างของร่างสูงใหญ่มีควันดำมืดขมุกขมัวดูแล้วคล้ายเป็นชายในชุดนักรบโบราณ หน้าตามองแล้วก็คมสันหล่อเหลาในแบบของคนในยุคก่อนดีหรอก เสียแต่ว่าดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีขาวจัดไม่มีนัยน์ตาดำ แถมบนลำคอมีรอยตะเข็บสีดำเย็บตรึงหัวกับตัวเอาไว้ ไอวิญญาณมหาศาลที่รอบกายมันดูยังไงก็รู้ว่าเป็นโหงพรายชนิดมีพลังสูง

ภาพจากแม่ข่ายยังมีเสียงให้ได้รับฟัง “ตามเด็กคนนั้นไปอย่าให้คลาดสายตา เอ็งอย่าให้ไอ้แสงมันรู้ตัว ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเมื่อไรที่มันคิดจะแตะต้องคนของข้า ให้เอ็งกลับมารายงานข้าทันที”

งามไส้ล่ะทีนี้



โปรดติดตามตอนต่อไป...





ซินเอ๋อร์:

ตอนแรกคิดว่าจะเขียนบทสรุปของ Arc นี้ในตอนนี้เลยค่ะ แต่มันรวบรัดเกินไป เลยขอเขียนแบบขยายความดีกว่า เรื่องราวความวุ่นวายจะจบยังไง ตอนหน้าก็รู้เรื่องแล้วค่ะะ

เรื่องนี้กระแสตอบรับดีกว่าที่คิดมากเลย ขอบคุณทุกคนที่ชอบนะคะะะ ถ้าชอบกันก็อาจจะเขียนต่อมากกว่า 4 Arc ค่ะ แต่อาจจะช้าหน่อย ดีเลย์บ้าง เพราะว่ายังมีผีลามกฯ เป็นเรื่องหลักอยู่ อาจจะขอเทน้ำหนักไปทางฝั่งนั้นหน่อยคะ่

จริงๆ อยากทำเรื่องนี้เป็น e-book นะคะ อาจจะเขียนเพิ่มสัก 2-3 Arc เพิ่มเนื้อเรื่องเข้าไปหน่อย บาง Arc ที่เล่ารวบรัดไปก็อาจจะรีไรท์แก้เนื้อเรื่อง อยากขายราคาสักประมาณร้อยกว่าบาท แต่ไม่รู้จะมีคนซื้อหรือเปล่า ถ้าซื้อสัก 50 คน ก็น่าทำอยู่ค่ะ ไม่เอากำไรอะไร ขอแค่ไม่ขาดทุนก็พอ 55555

เจอกันใหม่ตอนหน้า ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ลำไย host มากกระบบน่าจะด่าหน่อยหนักใจมากแม่

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
*ไสยศาสตร์ต่างๆ ในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ความเชื่อส่วนบุคคลแต่อย่างใด*

Arc 4 อย่ากลับดึก ถ้าอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว (4)

หลังจากสำเหนียกได้แล้วว่าตัวเองปักธงผิดเผลอไปให้ท่าพระเอกจนเกือบจะต้องเสียตัวเสียใจ โฮสต์ก็พยายามปลีกตัวออกห่างไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาอยู่ใกล้จนเกินไป ใจจริงเขาอยากจะย้ายออกหนีหน้าไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทางเลือกในชีวิตของจ่อยตอนนี้ไม่ได้มีมากมายอะไร เขาไม่ได้มีญาติพี่น้องที่ไหน เป็นแค่เด็กกำพร้าที่อาศัยคนอื่นอยู่ แถมคนอื่นที่ว่านอกจากจะให้อาหารและที่พักอาศัย พันแสงยังส่งจ่อยเรียนช่างกลในวิทยาลัยอาชีวะในตัวจังหวัด แถมถ้าหนีไปตอนนี้ ภารกิจแสงเทียนนำใจอะไรก็ไม่ต้องทำมันแล้ว

เพราะเดาได้ว่าจากระดับสติปัญญาของโฮสต์ เขาจะไปต่อไม่เป็นแน่ๆ ระบบเลยพอมีแผนการรับมืออยู่แล้วด้วยการหยอดภารกิจย่อยเล็กๆ ให้เขาทำเพื่อยังคงสถานะเป็นแสงเทียนนำใจของพระเอกต่อไป พวกเรื่องความใกล้ชิดอะไรก็พยายามเพลาๆ ออกไปบ้าง แต่มันจะเพลาได้แค่ไหนมันก็คงไม่เนียน พระเอกมีหรือจะไม่รู้ว่าจ่อยตัวน้อยที่ชอบไปพันแข้งพันขาขอนอนกอดเขากำลังเอาใจออกห่าง วันๆ ถึงได้กลับบ้านช้า ถึงกลับมาก็ขลุกอยู่แต่ในห้องกับกระต่ายตัวขาว

ท่ามกลางสายตาจ้องจับผิดและท่าทางร้อนรนเล็กๆ ของพระเอก ยังมีดวงตาไร้นัยน์ตาอีกคู่หนึ่งจับจ้องโฮสต์อยู่ไม่ต่างกัน คนรักของโฮสต์เขาไม่รู้เหรอว่าแฟนตัวเองขี้ป๊อด กลัวผียิ่งกว่าอะไร ถึงได้ส่งโหงพรายนักรบที่มีชื่อว่านายมิ่งมาคอยเฝ้าติดตามโฮสต์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แถมยังไม่โดนพันแสงจับได้อีก นี่เป็นหน่วยสอดแนมชั้นดีที่หน่วยงานความมั่นคงของทั่วโลกต้องการตัว ใครจะไปรู้ว่าผีสางนางไม้จะมีประโยชน์ขนาดนี้

“มันหนาวเยือกๆ แปลกๆ ไงก็ไม่รู้เนอะแม่สอง” โฮสต์ห่อไหล่เข้าหากันท่าทางน่ารักน่าสงสารคงอ้อนพ่อยกได้หลายคน ขณะที่ด้านข้างคือวิญญาณที่จ้องมองด้วยความสนใจจนหน้าแทบจะแนบข้างแก้มโฮสต์ จะไม่หนาวก็แปลกแล้ว เด็กหนุ่มอุ้มระบบขึ้นมากอดไว้เหมือนใช้ระบบเป็นกระเป๋าน้ำร้อน เจริญดีมาก ระบบช่างสารพัดประโยชน์จริงๆ “หรือว่าแถวนี้มีผีอ่ะ? ทำไงดีแม่สอง...ถ้าจะไปวอแวกับพี่แสงอีก เราผิดต่อเขาตายเลย”

ดีมากที่รู้จักจงรักภักดีต่อแฟนของตัวเอง แต่ระบบไม่มีคะแนนบวกให้หรอกนะ ไอ้ที่ปักธงพระเอกไว้ยังไม่ได้สะสางคดีความกันเลย โฮสต์กลัวว่าแค่โฮสต์คนเดียวจะทำให้ระบบเหนื่อยไม่มากพอใช่ไหม ถึงได้ขยันก่อเรื่องแบบนี้

[ไม่มีอะไรหรอก นอกจากผี]

ระบบไม่สนใจโฮสต์ที่งอแงบีบๆ ร่างกระต่ายในมืออีกต่อไป นี่ระบบไม่ได้แกล้งเลยแม้แต่น้อย เพราะมันไม่มีอะไรนอกจากผีจริงๆ

“เอ็งมองเห็นข้าสินะ” โหงพรายตนนั้นก้มตัวคงมาเสียจนใบหน้าซีดเซียวและดวงตาสีขาวไร้นัยน์ตาดำแทบจะแนบชิดกับขนปุกปุยของระบบ มันแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมจนเห็นฟันสีดำขลับวาววับจากหมากปูน “ขนาดไอ้พันแสงยังมองไม่เห็นข้า ไม่นึกว่ากลับมีสัตว์หน้าขนมองเห็นเสียได้ ถ้าเอ็งกระโตกกระตากไป ข้าจะถลกหนังชำแหละเนื้อเอ็งออกมา เลือดเนื้อกระต่ายสดคงอร่อยน่าดู”

พูดจบโหงพรายนักรบก็แลบลิ้นยาวแดงเลียปลายจมูกกระต่ายเบาๆ ฟันดำแปรเปลี่ยนเป็นเขี้ยวแหลมคมที่พร้อมกัดทึ้งกันเหมือนตามที่พูด แต่ขู่กันไปเถอะพี่ชาย ระบบกลัวตายล่ะ คิดเหรอว่าผีจะทำอะไรระบบได้ เรื่องแค่นี้มันจิ๊บๆ ระบบไม่เคยกลัวอะไรหรอก กลัวอย่างเดียวก็แค่มีโฮสต์โง่แค่นั้นแหละ แล้วตอนนี้ก็มีโฮสต์โง่เป็นของตัวเองเรียบร้อย สยองขวัญกว่านี้ยังจะมีอีกไหม

อาจารย์เอกให้ผีโหงพรายคู่ใจมาคอยเฝ้าดูแลโฮสต์ แต่ที่แปลกคือเจ้าตัวกลับไม่เคยโผล่มาสักครั้ง สงสัยคงเพราะยังงอนผสมเคืองที่เห็นโฮสต์ไปใกล้ชิดกับพันแสงจนเกินพอดีแน่ๆ เรื่องนี้พวกคุณต้องไปเคลียร์กันเองนะ เพราะอยู่นอกเหนือการทำงานของระบบ ระบบทำได้ก็แค่ปลอบใจโฮสต์บ้างสักครึ่งประโยคอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก อย่างน้อยชีวิตของจ่อยในโลกนี้ก็คงไม่ตายด้วยน้ำมือของตัวร้ายหรอก จริงไหม?

ที่ระบบสนใจตอนนี้คือจิตใจภายในของพระเอกมากกว่า แม้ว่าค่าความมืดในจิตใจของพระเอกในตอนนี้จะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยที่ 19.17% แต่เมื่อเห็นท่าทางเหมือนอยากดึงโฮสต์เข้ามากอดและสายตาสับสนในใจทุกครั้งที่มองมา ระบบกลับรู้สึกว่าค่าความมืดที่เป็นหน่วยวัดที่สำคัญที่สุดและเที่ยงตรงที่สุดของโครงข่ายอาจมีปัญหาบางอย่าง แต่เมื่อส่งคำร้องขอตรวจสอบไปก็ได้รับคำตอบแค่ว่าทุกอย่างทำงานปรกติ ปรกติกับผีน่ะสิ

“ช่วงนี้จ่อยมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” พันแสงที่อดทนไม่ไหวอีกต่อไปเอ่ยถามขึ้นในวันหนึ่ง โฮสต์ที่เพิ่งกลับมาจากเรียนหนังสือถึงกับชะงักไปบ้าง เขาวางกระเป๋าลงแล้วพยายามมองหาร่างกระต่ายของระบบที่เดินไปเดินมาอยู่ในบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้พระเอกอารมณ์คุกรุ่นยิ่งกว่าเดิม “จ่อยเป็นอะไรทำไมไม่บอกพี่ พี่รู้นะว่าเดี๋ยวนี้จ่อยไม่อยากสนิทกับพี่เหมือนเดิม”

“จ่อยไม่ได้เป็นอะไร” โฮสต์พยายามยิ้มเอาใจอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มสดใสเป็นประกาย สกิลแสดงออกทางสีหน้าทำให้ยิ่งดูอบอุ่นมากขึ้น นัยน์ตาทั้งคู่ของพันแสงยิ่งวูบไหวกว่าเดิม จ่อยขยับเข้าไปใกล้แล้วตบลงบนหลังมืออีกฝ่ายเบาๆ “พี่แสงคิดมากเกินไปแล้ว”

“พี่ไม่ได้คิดมาก” หัวคิ้วของพระเอกกระตุกเข้ากันคล้ายว่ากำลังคิดถึงพฤติกรรมที่แปลกไปของอีกฝ่ายเหมือนสามีขี้หึงจ้องจับผิดภรรยา เขาคว้ามือจ่อยเอาไว้แน่น “จ่อยบอกพี่มาเถอะว่าช่วงนี้จ่อยเป็นอะไร ทำไมจ่อยถึงไม่มานอนกับพี่เหมือนเดิม จ่อยไม่ได้รักพี่แล้วใช่ไหม”

โฮสต์นิ่งเงียบไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้ยังไงดี ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเขาไม่หวั่นไหว แต่เพราะรับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนรักตัวจริงเลยถอนใจกลับออกมาได้ ทำใจได้เร็วสไตล์คนโง่ที่ไม่คิดอะไรมาก จนตอนนี้เหลือไว้แต่ความผูกพันจากการที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี เลยยังไม่มีความคิดทำนองว่าจะทอดทิ้งพระเอกไปซบอกตัวร้าย...ไม่สิ โฮสต์โง่เกินไปจนคิดไม่ถึงมากกว่า อีกอย่างมีภารกิจค้ำคออยู่ ทำแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะ

[เลือกคำตอบที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ทำให้พระเอกรู้ว่าเขามีคุณค่าในใจของคุณ] ไม่ต้องรอให้โฮสต์ร้องขอความช่วยเหลือ ในสถานการณ์วิกฤติที่อาจทำให้พระเอกเข้าสู่ดาร์กไซด์แบบนี้ ระบบก็ต้องยินดีให้บริการอยู่ดี แต่สงสัยระบบจะคาดหวังในสติปัญญาของโฮสต์มากเกินไปหน่อยมั้ง

“ไม่ใช่แบบนั้น จ่อยก็คิดว่าพี่แสงเป็นพี่ที่แสนดีของจ่อยมาตลอด” ถ้าจะตอบไปแบบนั้น ทำไมโฮสต์ไม่เอาน้ำกรดสาดหน้าพระเอกไปเลยล่ะ ดูสีหน้าหน่อยไหมว่าตอนนี้พระเอกตาแดงก่ำเจียนจะคลั่งแล้ว ค่าความมืดในจิตใจพุ่งมา 22.45% แล้ว (ว้อย) โฮสต์!

“ที่ผ่านมาระหว่างเราเป็นแค่พี่น้องเท่านั้นเหรอจ่อย” พระเอกกระชากข้อมือร่างของเด็กหนุ่มลูกครึ่งเข้ามาหาตัวจนร่างกายแนบชิด นัยน์ตาสะท้อนภาพหน้าตาน่ารักน่าสงสารชวนทะนุถนอม แต่เวลานี้เขากลับรู้สึกอยากทำลายอีกฝ่ายให้แหลกสลายคามือ “พี่รักจ่อยนะ รักจ่อยมากด้วย”

พูดจบพันแสงก็ประกบริมฝีปากจูบโฮสต์อย่างรุนแรง บดเบียดกลีบปากอิ่มซ้ำไปมาด้วยความกระหายหิวจนแทบจะกลืนกินอีกฝ่ายไปทั้งตัว โฮสต์พยายามสะบัดหน้าหนีแต่กลับถูกบีบคางบังคับจนต้องเปิดริมฝีปากออกให้พระเอกสอดปลายลิ้นรุกล้ำเข้ามาภายใน ความเจ็บปวดและความรู้สึกด้านลบหลายอย่างปรากฏเป็นหยดน้ำที่เอ่อคลออยู่ในดวงตากลมโต

พระเอกปล้ำจูบแสงเทียนนำใจจนหนำใจแล้วค่อยถอนจูบที่ไม่มีความอ่อนโยนจนแทบจะหยาบกระด้างออกม สองตาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของโฮสต์ที่ยังคงตื่นตระหนกตกใจด้วยความพึงพอใจ ปลายนิ้วลากไล้ไปตามแก้มขาวที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากขยับเล็กน้อยคล้ายพึมพำอะไรบางอย่าง อะไรที่ไม่เข้าท่าแน่ๆ “จ่อยเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าพี่รักจ่อย จ่อยเองก็รักพี่เหมือนกัน...ใช่ไหม?”

จ่อยพยักหน้าตอบกลับช้าๆ สายตาเลื่อนลอยเหมือนไม่มีจุดหมาย ส่วนตอนนี้ระบบแทบจะร้องกรี๊ดแล้ว ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยมนต์ ไม่ได้ด้วยกล พี่แกเล่นด้วยไสยศาสตร์ไปแล้ว สภาพแบบนี้จ่อยโดนของไปแล้วเรียบร้อย

[โฮสต์!! คุณยังมีสติอยู่ไหม?]

“ฮื่อ...แม่สอง” เสียงที่ตอบในใจเลื่อนลอยเหมือนกับสายตา โฮสต์ที่โง่อยู่แล้วยิ่งทวีคูณความโง่ไปมากกว่าเดิมอีกสามสิบหกเท่า เขาหลุบตาก้มมองกระต่ายบนพื้นก่อนจะยิ้มโง่ๆ ออกมา ปรกติที่เคยพูดคุยกับระบบในใจกลายเป็นหลุดพูดออกมาจริงๆ เข้าแล้ว “เรา...รักพี่แสง รักที่สุดเลย”

ตายห่า! คราวนี้ไม่รู้ว่าอะไรจะสยองขวัญกว่ากันระหว่างโหงพรายนักรบที่จ้องเขม็งแผ่แรงอาฆาตออกมาอย่างชัดเจน หรือพระเอกที่ใช้อวิชชาทำเสน่ห์ให้โฮสต์ตกหลุมรักชนิดหน้ามืดตามัว แต่สิ่งที่สยองขวัญที่สุดคงจะเป็นค่าความมืดในจิตใจที่ยังอยู่แค่ระดับ 22.46% เท่านั้น จากพฤติกรรมของพระเอกมันควรจะพุ่งปรี๊ดมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ? หรือโครงข่ายจะบอกว่าแค่นี้มันยังดาร์กไม่มากพอวะ?

ฟากหนึ่งจ่อยโดนของไปเต็มตัว อีกฟากโหงพรายนักรบก็ปรากฏตัวถือดาบจ่อหน้าพระเอกเตรียมตัวฟาดฟันกันแล้ว ดูท่าอีกไม่นานคนรักของโฮสต์คงจะรีบมาถึงตามคำรายงานจากภูตผีรับใช้แน่นอน ระบบอยากสนใจฝั่งนั้นอยู่หรอกนะ แต่สิ่งสำคัญตอนนี้คือตัวภาระที่ผูกติดอยู่กับระบบมากกว่า ถ้าเขาอยู่ภายใต้มนต์สะกดแบบนี้ต่อไปคงไม่สามารถดำเนินภารกิจได้แน่ๆ แค่พูดภาษาคนยังพูดไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ

ถึงพันแสงจะมีรัศมีและสกิลพระเอกที่โหดสุดในโลกนี้ แต่ระบบที่สามารถยืมพลังจากแม่ข่ายได้ชั่วคราวคงต้องเรียกว่าโหดจัดได้ระดับหนึ่งเหมือนกัน โดยเสน่ห์ให้หลงรักหลงใหลแบบโฮสต์ ปรกติคนอื่นเขาต้องทำพิธีถอนของอะไรกันวุ่นวาย แต่ช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ใครจะมานั่งเตรียมพิธีอะไรอีก ระบบจึงตัดสินใจใช้วิธีที่เด็ดขาดและได้ผลรวดเร็วที่สุดด้วยการใช้พลังไฟฟ้าแรงสูงช็อตเข้าไปในจิตวิญญาณของโฮสต์โดยตรง หวังว่าความเจ็บปวดนี้นอกจากจะทำให้โฮสต์ได้สติ จะทำให้ไอคิวของโฮสต์เพิ่มขึ้นด้วย

[กลับมามีสติหรือยัง? ]

“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น” ตัวภาระมีท่าทางงุนงง พอหันมองซ้ายมองขวาเห็นพันแสงกำลังใช้อาคมสายขาวและรักยมผมจุกสองตนต่อสู้กับผีนักรบท่าทางแข็งแกร่งก็ยิ่งตกใจกว่าเดิม แต่เวลานี้ถ้าจะมาร้องกลัวผีก็คงจะผิดจุดกันแล้ว ระบบก็อยากจะอธิบายหรอกนะ แต่ยังไม่ทันที่โฮสต์จะได้ขยับตัวประตูบ้านพลันเปิดผางออกมาเสียก่อน ชายร่างสูงกำยำผมสั้นเกรียนในชุดสีดำเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเครียดขึ้ง รอบกายของเขาเต็มไปด้วยไอทะมึนจากวิญญาณอาฆาต

“นึกไม่ถึงว่าหมออาคมสายขาวจะใช้อาคมเสน่ห์ให้คนหลงรักแบบนี้” น้ำเสียงของเอกเรียกได้ว่าแทบกัดฟันพูด เขาเหลือบมองโฮสต์ที่นอนกองอยู่มุมหนึ่งของห้องด้วยสายตาเป็นห่วง ริมฝีปากขยับมุบมิบใช้ให้ผีตนหนึ่งด้านหลังไปจัดการถอนอวิชชาเสน่ห์ให้ แต่เมื่อเห็นว่าตอนนี้จ่อยไม่ได้ตกอยู่ภายใต้อาคมของพันแสงออกต่อไปแล้วสีหน้าจึงค่อยดีขึ้นมาบ้าง

“นึกไม่ถึงเหมือนว่ามึงจะมาถึงที่นี่ได้” พระเอกเหลือบมองโฮสต์สลับกับตัวร้ายอันดับหนึ่งด้วยสายตาเหมือนผัวหึงโหดจับได้ว่าเมียพาชู้เข้าบ้าน พันแสงหัวเราะในลำคอคล้ายเย้ยหยัน ความสุภาพเรียบร้อยตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นสมณเพศตอนนี้ไม่เหลือหลออีกต่อไป “มาเพราะไอ้จ่อยสินะ หลังจากวันนั้นพวกมึงมีอะไรกันใช่ไหม ถึงได้ส่งพรายมาคอยดูแลมันขนาดนี้”

เอกไม่ตอบคำถามนั้นแต่กลับขยับยิ้มเยาะเย้ยฝ่าย รอยยิ้มแบบนี้เหมือนเป็นคำตอบรับกลายๆ ไปแล้ว ท่าทางของเขายิ่งทำให้พระเอกโมโหเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม พันแสงชี้ปลายนิ้วไปทีเขาก่อนตะคอกเสียงดังคล้ายสั่งวิญญาณภายใต้อาณัติให้พุ่งตรงไปยังอีกฝ่าย “ดี! ในเมื่อมึงมาถึงที่นี่ก็ตายมันที่นี่แล้วกัน”

บรรยากาศในบ้านของพันแสงหนักอึ้งเสียจนคนธรรมดาหายใจไม่ออก ทั้งสองฝ่ายต่างท่องอาคมใส่กันจนกลายเป็นภาพภูตผีโหงพรายเข้าสู้ฟาดฟัน อาคมมนตราต่างๆ ที่เคยได้ร่ำเรียนมาถูกนำมาใช้ในวันนี้เสียจนหมดสิ้น ส่วนโฮสต์กลายเป็นอะไรที่ไม่เข้าพวกที่สุด เขาได้แต่นั่งมองทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นกันโดยไม่สามารถปริปากได้สักคำ ซึ่งก็ทำถูกแล้วแหละ โฮสต์เชียร์ใครไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าเชียร์คนรักก็ผลักพระเอกเข้าดาร์กไซต์ ถ้าเชียร์พระเอกคราวนี้ได้โดนงอนไปอีกหลายชาติแน่

ระบบดูสองฝ่ายสู้กันด้วยอาคมมนตราและภูตผีก็วิเคราะห์ได้ว่าอาจารย์เอกได้เปรียบพันแสงอยู่มากทีเดียว เพราะวิชาแกร่งกล้าบวกกับแก่ประสบการณ์มากกว่า ด้วยเหตุนี้เขาเลยกล้าบุกมาช่วยโฮสต์จนถึงบ้านพระเอกกระมัง แต่ระบบชะล่าใจไปเลยไม่ทันได้คิดในถี่ถ้วนดี จู่ๆ ท้องฟ้าที่มืดครึ้มจากการที่ผู้มีอาคมสองฝ่ายต่อสู้กันกลับมืดมิดไร้ซึ่งแสงตะวัน ปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่ไม่เคยมีอยู่ในเนื้อเรื่องกลับเป็นบัฟส่งให้พลังของพระเอกแข็งแกร่งขึ้น และเป็นดีบัฟที่ทำให้ตัวร้ายอ่อนแรงลง

ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่เอกยังคงมีความมั่นใจว่าเขาจะเอาชนะพันแสงและพาตัวโฮสต์กลับไปได้ ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็แปลกแล้ว จู่ๆ พระเอกก็แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม รักยมทั้งสองที่อยู่เคียงข้างมาตั้งแต่สมัยยังเป็นหลวงพี่แสงกลับหัวเราะเสียงแหลม มือของพวกมันมีเล็บงอกยาวเช่นเดียวกับฟันคมราวเขี้ยวสัตว์ วิญญาณเด็กสองตนพุ่งตรงมายังโฮสต์ก่อนจะตวัดปลายเล็บหวังปลิดชีวิตของเด็กหนุ่มลูกครึ่ง

ถ้าเป็นละครน้ำเน่า อาจารย์เอกต้องพุ่งเข้ามาช่วยอย่างแน่นอน และนี่ก็เป็นละครน้ำเน่าจริงๆ ด้วย แต่น้ำเน่ายิ่งกว่าที่ระบบในร่างกระต่ายดันเอาตัวไปขวางเพื่อปกป้องโฮสต์ไม่ให้ภารกิจล้มเหลว ค่าความมืดในจิตใจของพระเอกยังไม่สูงมาก ถ้าโฮสต์ยังไม่ตายก็อาจจะสามารถแก้ไขอะไรได้ กระต่ายขาวปุกปุยเลยโดนผีฉีกทึ้งจนกลายเป็นแค่เศษเลือดเศษเนื้ออยู่กับพื้น ร่างกระต่ายที่โครงข่ายให้มาถึงจะอึดถึกบึกบึนแค่ไหน เจอขนาดนี้ถ้ายังรอดอยู่ก็คงเป็นกระต่ายซอมบี้แล้วมั้ง

“แม่สอง! ! ” โฮสต์ตะโกนออกมาดังลั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า โฮสต์จะตกใจไปทำไม ระบบแค่สละร่าง โดนแค่นี้ไม่ใช่ว่าจะม่องเท่งจริงๆ เสียเมื่อไรล่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว เพราะรักยมสองตนนั้นเตรียมลงมือกับจ่อยเป็นรายต่อไป คราวนี้ซีนน้ำเน่าของจริงมาถึงแล้ว อาจารย์เอกพุ่งเข้ามาขวางเอาไว้แล้วถูกเล็บคมเหมือนใบมีดเสียบเข้าที่กลางท้อง ทันทีที่เลือดสีแดงเข้มหยดลงกับพื้นห้อง กลิ่นอายเยือกเย็นจากความตายก็คละคลุ้งไปทั่วคล้ายเป็นการปลุกมนต์อาคมไสยมืดบางอย่าง ส่วนพันแสงกลับแสยะยิ้มด้วยความพึงพอใจ

กับดัก ทั้งหมดเป็นกับดักทั้งนั้น!

มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ พระเอกไปแอบวางแผนตั้งแต่เมื่อไร ระบบถึงไม่สามารถตรวจจับอะไรได้สักอย่าง วิกฤติการณ์แบบนี้ระบบเลยต้องขอยืมพลังจากโครงข่ายอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะถูกหักคะแนนไปมากแค่ไหน จากนั้นค่อยวัดค่าความมืดในจิตใจของพันแสงอีกครั้งหนึ่ง อีกครั้งหนึ่ง และอีกครั้งหนึ่งอย่างไม่ย่อท้อ จนความรู้สึกของระบบคล้ายได้ยินเสียงแก้วแตกดังเพล้ง ก่อนที่ตัวเลขจาก 22.46% ขยับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน

87%!! ความมืดในจิตใจของพระเอกคือ 87%! ไอ้ตัวเลขแค่ยี่สิบกว่าๆ มันก็เป็นแค่เพียงภาพลวงหลอกตา มันคือปัญหาเวรตะไลที่ระบบพยายามส่งขอความช่วยเหลือจากโครงข่ายแต่ดันตรวจสอบไม่เจอต่างหาก! ถ้ามีร่างระบบก็อยากจะทึ้งหัวตัวเองแล้วร้องกรี๊ดๆ บ้างแล้ว

[ความมืดในจิตใจเพิ่มเป็น 87% โปรดดำเนินการ!]

แม่งเอ๊ย มาถึงจุดนี้มันจะมาดำเนินการอะไรกันได้อีกวะ? ขออภัยในความไม่สุภาพของระบบด้วยแล้วกัน แต่ตอนนี้จะให้มาพูดดีๆ คงไม่ได้เรื่องแล้ว

ริมฝีปากซีดเผือดของพันแสงขยับสวดท่องมนต์อาคมหนึ่งในอาถรรพเวทย์อันเป็นเดรัจฉานวิชชา อาคมที่แข็งแกร่งกว่าใครของอาจารย์เอกเริ่มไหลทะลักออกมาจากทั้งกายหยาบและกายละเอียด เรือนร่างกำยำดั่งราวนักรบโบราณของเขาดูซูบผอมในพริบตา พลังวิญญาณและกลิ่นอายความตายมหาศาลไหลวนอยู่รอบกายพระเอกคล้ายหมอกดำที่พร้อมฉุดคร่าชีวิตของทุกคนให้ลงสู่ห้วงนรก จิตใจบริสุทธิ์ของคนที่เคยอยู่ใต้ร่มกาวสาวพักตร์กลายเป็นมืดมิดอนธการ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำราวสีเลือด หากนัยน์ตามืดมนกลับมีประกายเพลิงร้อนแรงราวไฟนรกที่พร้อมเผาผลาญให้ตายตกไปด้วยกัน

“พี่แสง พอเถอะ” โฮสต์น้ำตาอาบไหลนองหน้า เขาค่อยๆ ตะเกียกตะกายไปกอดข้อเท้าของพระเอกเอาไว้ เด็กหนุ่มเหลือบมองชายคนรักที่อยู่ในวงอาคมพิธีด้วยสายตารวดร้าวใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องพยายามดึงพันแสงกลับมาจากความมืดให้ได้

[ความมืดในจิตใจเพิ่มเป็น 98% โปรดดำเนินการ!!]

“หึ” พันแสงแค่นหัวเราะเสียงเบาก่อนจะรวบมือกับลำคอของจ่อยและยกร่างผอมเพรียวของจ่อยขึ้นมาด้วยแรงมหาศาลจากอาคมที่ทำให้เรี่ยวแรงแข็งแกร่งขึ้นกว่าทุกที ดวงตาที่จับจ้องตรงมายังโฮสต์เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้นอาฆาต “มึงบอกเองไม่ใช่เหรอว่ามึงจะไม่ทิ้งกู กูเคยคิดว่าจะรักจะทะนุถนอมมึงตลอดไป แต่มึงเป็นคนเลือกเองนะไอ้จ่อย”

ชายหนุ่มกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มและขบกัดอย่างรุนแรงเสียจนกลีบปากแตกเลือดซิบ ปลายลิ้นแทรกแซะเข้ารุกล้ำภายในกวาดเลียจาบจ้วงจนแทบทุกหยาดหยดไปจนถึงดวงวิญญาณ หยาบกระด้างไร้ความอ่อนโยนยิ่งกว่าที่ปล้ำจูบรอบแรกเสียอีก ปลายนิ้วกระชับรอบลำคอบีบรัดปิดกั้นอากาศหายใจของอีกฝ่ายเอาไว้ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งใกล้หมดลมหายใจก็ปล่อยมือเขวี้ยงไปทางหนึ่งโดยไม่สนใจอีกต่อไป เวลาของสุริยุปราคากำลังใกล้จะหมดลงแล้ว พันแสงรีบท่องมนต์คาถาปลดปล่อยให้เหล่าวิญญาณอาฆาตใต้อาณัติไปฆ่าฟันแย่งชิงพลังของผู้คนที่มีอาคมและพลังวิญญาณแข็งแกร่ง

[ความมืดในจิตใจของพระเอกขึ้นสู่ระดับสูงสุด!!!]

ระบบแจ้งเตือนไปอย่างนั้นแหละ มาถึงตอนนี้โฮสต์ก็คงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ทัน จ่อยไม่ใช่แสงเทียนนำใจของพันแสงอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นคนที่สอนให้เขาได้รู้จักใช้กำลังแย่งชิงในสิ่งที่ต้องการ จนกลายเป็นการผลักเขาเข้าสู่ด้านมืดไปเรียบร้อย

โฮสต์คงรู้เหมือนกันว่าตอนนี้คงสายจนเกินไปแล้ว เขาใช้ช่วงเวลาที่พันแสงปลดปล่อยวิญญาณร้าย ค่อยๆ ขยับตัวคืบคลานด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดที่ยังเหลืออยู่ขยับไปหาร่างที่นอนลมหายใจรวยรินอยู่กลางวงอาคม ปลายนิ้วขาวซีดของจ่อยเกือบจะแตะกับใบหน้าคนรักอยู่แล้ว หากวิญญาณสาวอาฆาตนางหนึ่งกลับใช้ปลายเล็บแหลมคมตวัดวูบผ่านลำคอของอาจารย์เอกเสียก่อน เสียงหัวเราะหวีดแหลมด้วยความสะใจดังก้องอยู่เต็มสองหู ก่อนเล็บแหลมจะพุ่งเป้ามาที่จ่อยแทน

[แจ้งเตือน! ภารกิจล้มเหลว!!]

โฮสต์กัดฟันไม่ให้ตัวเองหลุดร้องออกไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดเอื้อมมือไปแตะผิวแก้มสีทองแดงที่เริ่มแห้งตอบจนเกิดรอยเลือดเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด เอกที่น่าจะหมดหายใจไปแล้วกลับลืมตาขึ้นมองเด็กหนุ่ม ดวงตาทั้งคู่เปล่งประกายพราวระยับคล้ายกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่าง

“ผมขอโทษจริงๆ ถ้าชาติหน้าได้เจอกันอีก ผมจะไม่สร้างปัญหาแบบนี้อีก ผมจะรอแค่คุณ ผมจะหาคุณให้เจอ” ปลายนิ้วของจ่อยตกลงข้างตัว พลังชีวิตเฮือกสุดท้ายถูกรีดเคล้นออกมาใช้เป็นประโยคที่เขาอยากจะบอกอีกฝ่ายมากที่สุด

[โฮสต์จะถูกส่งกลับไปยังพื้นที่ส่วนกลางภายใน

5

4

3

2

1]

“แล้วผมจะรักคุณแค่คนเดียว”

เมื่อโฮสต์พูดได้จบประโยค ภาพทั้งหมดก็ดับวูบไปทันที

[...]

[...]

[…]

[...]

เฮ้อ...

แล้วเราก็ตายกันหมดเกลี้ยงจริงๆ



โปรดติดตามตอนต่อไป...



ซินเอ๋อร์:

ขอโทษที่มาช้าค่ะ งานเดือดมาก+มีปัญหาชีวิตหลายๆ อย่างถาโถมมาพร้อมกันเลยเขียนไม่ไหว ได้วันละนิดวันละหน่อย ตอนนี้ปัญหาชีวิตเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว หวังว่าจะกลับมาเขียนนิยายได้เหมือนเดิมค่ะะ

สำหรับ Arc นี้ ตั้งใจเอาไว้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วค่ะว่าจะ Bad End จบไม่สวยสักอย่าง ตอนแรกจะเอาแค่เบาๆ เป็นอ.เอกฉุดโฮสต์ไป พอพี่แสงไปตามดันเจอว่าโฮสต์ระเริงรักอยู่กับอ.เอกเลยเทิร์นดาร์ก แต่ไปๆ มาๆ ตอนจบอันนี้เข้ามาในหัวก่อน พอลองเขียนดูก็คิดว่าไม่ได้เลวร้ายแฮะ ไหนๆ ก็จะ Bad End แล้วก็ไปให้สุดค่ะ

ตอนหน้ายังอยู่กับ Arc นี้อีกตอนนะคะ เป็นการสรุปท้ายเควสในพื้นที่ส่วนกลางก่อนขึ้น Arc ใหม่เหมือนเดิมค่ะะ ใครโกรธโฮสต์ก็ใจเย็นๆ ก่อนน้า น้องยังคงเด๋อด๋า โง่ๆ เซ่อๆ เหมือนเดิม Arc นี้เลยหนักหน่วงสำหรับน้องแน่นอนค่ะ ส่วน Arc หน้าสัญญาว่าจะไม่ดราม่าแล้วค่ะะ

อยากสอบถามเล็กน้อยว่า Arc ใหม่ มีธีมโลกแบบไหนที่อยากอ่านกันไหมคะ? จริงๆ 4 Arc นี้คือครบที่ตั้งใจอยากเขียนเอาไว้ในตอนแรกแล้วค่ะ ความตั้งใจเดิมคือต้องจบเรื่องใน Arc นี้แล้ว แต่มันมีอะไรที่พัฒนาให้เขียนต่อได้ ใส่ปมใส่พล็อตไปหน่อยก็น่าจะได้อยู่ด้วยกันอีกหลายตอน แต่ตอนนี้ชักจะแอบคิดไม่ออกนิดหน่อยว่าจะเอาธีมไหนดี รีเควสมาได้นะคะว่าอยากอ่านแนวโลกไหน ขอแชร์ไอเดียหน่อย แต่อาจไม่เขียนจีนโบราณน้าาา เพราะปรกติก็เขียนจีนโบราณอยู่แล้วค่ะ (ฮาาา)

พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2019 22:51:23 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
สถานีต่อไปเลยค่ะโฮสต์แบบหงุดมาก 

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
คุณซินเอ๋อร์ทำอะไรให้ผมแปลกใจได้ตลอดสิน่า ซึ่งก็แปลกแบบประทับใจด้วยนะครับ

ตอนแรกไม่คิดเหมือนกันว่าจะ Bad End (ผมสงสัยติด Stereotype ของนวนิยายสุขนิยมมากไปหน่อย) แต่การเขียนบาง arc ให้เป็น bad end มันดีนะครับ ยิ่งในเรื่องนี้ที่เดิมผมเคยเขียนไว้แล้วว่าโทนเรื่องมันช่วยฝึกสกิลของคนแต่งได้มาก การที่คุณซินเอ๋อร์ทำ bad end ออกมามันก็ช่วยเพิ่มความสดใหม่ให้เรื่อง เพิ่มความหลากหลายและทำให้เนื้อเรื่องมีความแปลกใหม่น่าติดตามมากขึ้น (ถ้าแบดเอนด์แล้วคะแนนถูกหักขนาดไหน? จะเป็นยังไง? พวกนี้เราเจอแต่จบแบบภารกิจสำเร็จหรือคะแนนบวกมาตลอด เจอแบบใหม่บ้างก็น่าติดตามครับ)

Arc ที่อยากเห็น คงจะเป็นแนว Medieval Fantasy น่ะครับ ยุคกลางอังกฤษ ลอร์ด อัศวิน เอล์ฟ มังกร (อารยธรรมเคลติก) หรือไม่ก็แนว Mesopotamia Fantasy (อารยธรรมเมโสโปเตเมีย เปอร์เซียยุครุ่งเรืองที่มีแฟนตาซี) หรือแนวโรมันก็ดีนะครับ น่าสนใจ แต่ถ้าจะเอาฉีกแนวไปจริงๆก็พวก ชีวิตวัยรุ่นในโรงเรียนประจำเวทมนตร์ (แบบคล้ายๆแฮร์รี่) หรือผจญภัยในป่า (แนว The Witcher)

ซึ่งพวกนี้อย่างที่แนะนำไปน่ะครับ ถ้าจะหา Reference ให้ดูพวก CYOA เลย มีดีเทลให้พร้อมสรรพครับ เติมพล็อตเพิ่มนิดเดียว เขียนไหลได้ยาวๆ

เขียนได้สนุกน่าสนใจมากครับ ผมอ่านก็รู้สึกคลายเครียดไปด้วยเลย ระบบน่ารักจริงๆ (ฮา) คิดไปคิดมา ระบบจะมีเจอระบบหมายเลขอื่นที่คอยดูแลโฮสต์คนอื่นที่มีภารกิจแบบอื่นด้วยไหมน่ะ น่าคิดเหมือนกัน

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 4อย่ากลับดึก ถ้าอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว (บทจบ)



หลังจากภารกิจล้มเหลวทั้งระบบและโฮสต์ก็กลับมาพื้นที่ส่วนกลางอีกครั้ง แต่คราวนี้ความว่างเปล่าไม่ใช่สีขาวเหมือนทุกที แต่มันเป็นสีแดง...แดงเหมือนกับความโกรธของระบบนี้แหละ เจ้าโฮสต์ไม่รักดี! เด็กไม่ดีจะต้องถูกตีเข้าใจไหม! ?



โฮสต์ในชุดขาวนั่งคุกเข่ากับพื้นร้องไห้กระซิกกระซี้สนิทว่าถ้าพระเอกและตัวร้ายชาติก่อนมาเห็นจะต้องมาช่วยเช็ดน้ำตาคนละทีสองที แต่โฮสต์อยู่กับระบบที่เกรี้ยวกราดยิ่งกว่าผู้หญิงในวันมามากเลยไม่มีการปลอบใจอะไรทั้งนั้น เบื้องหน้าของโฮสต์คือจอมอนิเตอร์สรุปคะแนนที่เห็นแล้วปวดใจชนิดที่ว่านัดหมอทำบอลลูนหัวใจพรุ่งนี้ได้เลย



[ภารกิจล้มเหลว!! หลังจากหักคะแนนต่างๆ แล้ว โฮสต์ได้รับคะแนนรวม -79,999 คะแนน]



โลกที่ผ่านมาถือเป็นโลกที่มีความยากระดับ AAA เพราะมีพลังพิเศษ ภูตผี ปีศาจ อาคมมนต์ดำ ภารกิจล้มเหลว พันแสงเทิร์นดาร์กเข้าด้านมืดเต็มตัว แถมเทิร์นได้โหดกว่าเดิมอีก เท่ากับโลกนั้นถึงกาลวิบัติมีแต่วิญญาณร้ายวิญญาณอาฆาตออกอาละวาดฆ่าชิงชีวิตผู้คน โลกบนดินสับสนวุ่นวาย ส่วนโลกความตายต้องเดือดเป็นไฟ โดนติดลบไป 79,999 คะแนนนี่ถือว่าโครงข่ายใจดีสุดๆ แล้ว แต่ 79,999 คะแนนก็ยังมากเกินไปสำหรับคนที่มีคะแนนสะสมไม่กี่หมื่นอย่างโฮสต์อยู่ดี



“ฮึก...ถ้าเอาคะแนนที่เรามีอยู่ไปหัก จะเหลือเท่าไรนะแม่สอง” โฮสต์สูดน้ำมูกแล้วนั่งก้มหน้าคอตก ดูเหมือนจะสำนึกผิดอยู่พอควร



[คะแนนคงเหลือ 4,781 คะแนน หักคะแนนจากการขายคืนสินค้าบางส่วนแล้ว คงเหลือ -67,218 คะแนน]



“โฮ” โฮสต์ฟังแล้วทรุดตัวลงไปร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม คะแนนติดลบขนาดนั้นจุดจบจะเป็นยังไงเขาคงเดาได้ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองความว่างเปล่าสีแดงด้วยน้ำตานองหน้า “เราขอโทษจริงๆ แม่สอง เราไม่ได้ตั้งใจให้ภารกิจล้มเหลวแบบนี้ เราผิดเองจริงๆ”



ระบบอยากจะถอนหายใจสักที เอาเถอะ อย่างน้อยเจ้าตัวงี่เง่าก็ยังรู้จักความผิดของตัวเอง รู้จักขอโทษ ไม่ใช่คนโง่ที่อีโก้สูงจนเอาแต่โทษคนอื่น โทษโลก โทษระบบ แต่ไม่เคยโทษตัวเองเพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองทำผิด ระบบน่ะเจอโฮสต์แบบนั้นมานักต่อนักแล้ว ถือว่านี่เป็นข้อดีอันน้อยนิดที่โฮสต์มีก็แล้วกัน แต่คนเราต้องเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไปในวันข้างหน้า จะให้ระบบไม่ดุอะไรโฮสต์เลยคงไม่ใช่ โฮสต์สมควรจะต้องได้รับบทเรียนอะไรได้บ้างแล้ว



[โฮสต์รู้ตัวก็ดีแล้วว่าภารกิจล้มเหลวครั้งนี้เป็นเพราะการตัดสินใจของคุณ ถึงเรื่องหัวใจของโฮสต์จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ลืมไม่ได้เป็นอันขาดว่าหน้าที่หลักคือการทำภารกิจเก็บคะแนนสะสมเพื่อให้ได้มีชีวิตเป็นของตัวเองอีกครั้ง ไม่ต้องผูกติดกับระบบอีกต่อไป]



โฮสต์พยักหน้าหงึกหงัก แต่ก็ยังมิวายโอดครวญเบาๆ “เราไม่รู้จริงๆ แม่สอง ตอนแรกเราคิดว่าพี่แสงคือเขา...เราถึงได้ใกล้ชิดกับพี่แสงขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะทำให้เรื่องมันเลวร้ายขนาดนี้”



[ถ้าโฮสต์ไม่รู้หรือไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งตัดสินใจ] เหมือนกับที่ระบบไม่กล้าฟันธง เรื่องนี้จะโทษโฮสต์อย่างเดียวก็ไม่ได้ พันแสงมีความคล้ายคลึงกับคนรักของโฮสต์มากเกินไปจริงๆ [ถ้าไปทำให้เขารักแล้วเปลี่ยนใจขึ้นมา คุณเลิกรักเขาได้ แต่เขาเลิกรักคุณไม่ได้ คนรักของคุณก็โกรธ ทุกอย่างมันมีเหตุมีผลและส่งผลกระทบถึงกันทั้งนั้น มันเหมือนกับการต่อโดมิโน่แล้วโดมิโน่ตัวแรกล้ม ถ้าคุณไม่อยากให้โดมิโน่ที่เหลือล้มทั้งหมด ก็ต้องรีบหยิบตัวที่ล้มออกให้ไวที่สุด อย่าปล่อยให้มันค้างคา]



“เราเข้าใจแล้วแม่สอง...เราขอโทษจริงๆ นะ ขอโทษที่เป็นภาระของนาย จากนี้ไปเราจะตั้งใจทำภารกิจให้ดีกว่าเดิม ไม่ปักธงพระเอกมั่วซั่ว พอภารกิจสำเร็จแล้วค่อยตามหาคนรักก็ได้ เนอะ?”



ระบบรับรู้แล้ว และหวังว่าโฮสต์จะทำตามที่ปากพูดได้ ถึงระบบจะให้อภัยยังไง แต่เรื่องที่จะต้องลงโทษโฮสต์เพราะภารกิจไม่สำเร็จ ยังไงก็ต้องลงโทษอยู่ดี



[เมื่อภารกิจล้มเหลว โฮสต์จะต้องถูกลงโทษจากระบบ นอกจากนี้คะแนนของโฮสต์ยังติดลบมากกว่า 50,000 คะแนน เข้าข่ายก่อความผิดสูงสุด โทษที่ได้รับคือการทำลายวิญญาณ]



โฮสต์นิ่งชะงักอ้าริมฝีปากค้างเหมือนพูดไม่ออก เขาคงไม่คิดว่าภารกิจล้มเหลวครั้งแรกจะนำมาสู่โทษร้ายแรงสูงสุดขนาดนี้ แต่ระบบไม่ใช่ระบบที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมขนาดนั้น อีกอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นคราวนี้ก็ไม่ใช่แค่เพราะโฮสต์เลือกเส้นทางผิดๆ อยู่ฝ่ายเดียว แต่เป็นเพราะระบบไม่สามารถอ่านค่าความมืดในจิตใจของพระเอกได้ถูกต้อง จนทำให้ปัญหามันสายเกินแก้ เรื่องนี้ถือว่าระบบและโครงข่ายมีส่วนต้องรับผิดชอบอยู่เหมือนกัน



ระหว่างที่โฮสต์ร้องไห้ตอนแรกระบบได้ส่งคำร้องเรียนพร้อมคลิปวิดีโอประกอบไปยังเครือข่ายแล้ว เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนที่เครือข่ายต้องจัดการบั๊กที่เกิดขึ้น ทำให้ระบบสามารถร้องยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษทำลายวิญญาณให้โฮสต์ได้ และเปลี่ยนเป็นการลงโทษตามวิจารณญาณของตนเอง แต่ต้องแลกกับการเสียคะแนนไป 79,999 คะแนน เทียบเท่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นในโลกนั้น ส่วนหลังจัดการบั๊กแล้วระบบจะได้คะแนนคืนยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที



นี่ยังไม่นับที่ว่าใช้คะแนนแลกไลฟ์เรียลไทม์กับยืมพลังจากเครือข่ายมาอีกนะ โฮสต์ทำภารกิจไม่สำเร็จแค่ภารกิจเดียว ระบบก็ขาดทุนย่อยยับจนไม่รู้จะยังไงแล้ว ถ้าเป็นระบบอื่นป่านนี้เขาเทโฮสต์ไปแล้วมั้ง



[เนื่องจากในโลกที่ผ่านมาระบบไม่สามารถอ่านค่าความมืดในจิตใจของพระเอกได้ถูกต้องทำให้โฮสต์ไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลา ถือว่าระบบมีความผิดเช่นเดียวกัน ฉะนั้นความผิดของโฮสต์จะถูกลดโทษจากการทำลายวิญญาณเป็นการลงโทษแบบอื่นแทน]



“นายจะไม่ทำลายวิญญาณกันจริงๆ นะแม่สอง” โฮสต์เช็ดน้ำตาป้อยๆ หน้าตาเศร้าโศกค่อยดูดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย



[บทลงโทษของโฮสต์คือการได้สัมผัสจุดจบที่แท้จริงของบทในโลกก่อนๆ ตามผลทอยจากลูกเต๋าสีดำและจำนวนครั้งตามผลทอยจากลูกเต๋าสีขาว]



เบื้องหน้าของโฮสต์ปรากฏลูกเต๋าสีดำหนึ่งลูกและสีขาวสองลูกให้โฮสต์ได้สุ่มดวง เด็กหนุ่มเอื้อมมือที่สั่นระริกไปหยิบลูกเต๋าทั้งสามลูกออกมาทอย นี่เป็นบทลงโทษที่ใจดีที่สุดแล้ว ถ้าเขาโชคดีก็อาจจะโดนแค่สองครั้ง แต่ถ้าโชคร้ายก็แค่สิบสองครั้ง ส่วนวิธีการลงโทษระบบก็ขอให้โฮสต์โชคดีไม่ซวยทอยเจอจุดจบของไคล์ที่ต้องวางไข่เผ่าพันธุ์มาร์กเป็นล้านๆ ฟองก็แล้วกัน



ลูกเต๋าทั้งสามกลิ้งไปกลิ้งมาแบบชวนอกสั่นขวัญแขวน ก่อนจะลูกหยุดลงพร้อมกับเลขที่หงายขึ้นมาโชคของโฮสต์ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ไม่เลวร้ายเท่าไรนัก เขาต้องถูกทำโทษทั้งหมดห้าครั้ง และจุดจบที่ได้รับคือจุดจบของหยวนเจิ้งในชาติที่เขาเป็นผู้บำเพ็ญเพียร ความตายในบทดั้งเดิมคือเขาถูกพระเอกใช้มือควักจุดตันเถียนดึงลูกกลอนปราณธาตุไฟบริสุทธิ์ออกมาเพื่อนำไปใช้รักษาหนึ่งในฮาเร็มของพระเอก



นี่ระบบไม่ได้เป็นคนเลือกให้นะ ระบบไม่ได้มีความแค้น ระบบไม่ได้จงใจกลั่นแกล้งโฮสต์เลยจริงจริ๊ง



[การลงโทษเริ่มต้น ขอให้โฮสต์สนุกกับการสัมผัสประสบการณ์ใหม่]



โฮสต์ถูกส่งไปลงโทษเป็นอันเรียบร้อย ระบบจัดการตั้งเวลาแจ้งเตือนเมื่อการลงโทษสำเร็จและ mute เสียงของโฮสต์เพื่อไม่ให้เสียงกรีดร้องมารบกวนเวลาสำคัญ...เวลาที่ระบบต้องสะสางเรื่องค้างคากับโครงข่ายบ้างแล้ว



โลกที่ผ่านมามันมีอะไรที่แปลกประหลาดชวนติดใจอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของพระเอก พฤติกรรมของตัวร้าย และบั๊กที่โผล่มาได้ถูกเวลาเหลือเกิน ระบบเปิดภาพย้อนดูแล้วพยายามประมวลผลอีกครั้งก็ยิ่งเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากล คะแนน 79,999 คะแนนที่ระบบถูกหักไปแลกกับวิญญาณของโฮสต์ถูกนำไปใช้ชดเชยความเสียหายในโลกนั้น แต่คะแนนที่ติดลบของโฮสต์กลับไม่ได้ถูกลบล้างออกไป คะแนนพวกนั้นหายไปไหนกันแน่?



ระบบติดต่อหาโครงข่ายอีกครั้ง ก่อนยื่นคำร้องขอการเข้าถึงข้อมูลของโลกก่อนหน้านี้



-ระดับของระบบ 212224 ไม่เพียงพอ ปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูล-



ระดับไม่เพียงพอกับผีน่ะสิ ระบบเป็นระบบไฮคลาสที่อัพเกรดมาสูงสุด เป็นระบบขั้น SS แล้วด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาเรียกดูข้อมูลอะไรก็ไม่เคยมีปัญหา ถ้าข้อมูลของโลกที่แล้วต้องให้ระดับ SSS เข้าถึง แสดงว่ามันต้องเกินระดับ AAA ไปแล้วไม่ใช่หรือไง



ทุกปัญหามันต้องมีทางแก้อยู่แล้ว ในเมื่อโครงข่ายจะมาไม้นี้ ระบบก็จะเล่นด้วยสักหน่อยก็ได้ ระบบกดเข้าร้านค้าที่ไม่ได้เข้ามานานเป็นชาติแล้วเลือกอัพเกรดตัวเองเป็นระบบระดับ SSS แถมยังซื้อกุญแจสีทองสำหรับเข้ารหัสพิเศษมาอีก 3 อัน โดยไม่สนใจคะแนนที่เสียไปสิบกว่าล้าน คะแนนมันยังหาใหม่ได้ แต่ให้ค้างคาแบบนี้ถือว่ายอมไม่ได้



-ยืนยันการเข้าถึงข้อมูล โลก ‘ศึกจอมขมังเวท’ -



-ระบบ 212224 ถูกจำกัดการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน-



บางส่วนก็บางส่วนสิ ถ้าบางส่วนมันตอบคำถามได้ก็พอใจแล้ว



ระบบเรียกดูข้อมูลของพระเอกหลังจากที่ภารกิจล้มเหลว เขายิ่งคลั่งกว่าเดิมที่ไม่สามารถนำจ่อยและเอกมาเป็นวิญญาณโหงพรายผีอาฆาตใต้อาณัติได้ สุดท้ายพันแสงเลยทำโลกนั้นพังพินาศไปจริงๆ จุดจบดาร์กยิ่งกว่าเวอร์ชันแรกเสียอีก ถือว่าไม่ได้เหนือความคาดหมายเท่าไร ระบบเลยเปลี่ยนไปเรียกดูข้อมูลคะแนนของโลกนั้นแทน ปรกติแล้วในแต่ละภารกิจจะมีให้ดูว่าคะแนนจากโลกต่างๆ กระจายไปที่ไหนบ้าง



-ข้อมูลปกปิด ปฏิเสธการเข้าถึง-



มีลับลมคมในเหลือเกินนะแม่ข่าย



[เปิดข้อมูลการทำงานของระบบในโลก ‘ศึกจอมขมังเวท’]



-ข้อมูลปกปิด ปฏิเสธการเข้าถึง-



ได้! จะกั๊กกันขนาดนี้ใช่ไหม? อย่าคิดว่าเข้าถึงไม่ได้แล้วระบบจะไม่มีทางแก้นะ บนโลกนี้เงินแก้ปัญหาได้ทุกอย่างนั่นแหละ



[ตรวจสอบจำนวนการเปิดใช้งานระบบในโลก ‘ศึกจอมขมังเวท’]



ส่งคำร้องเสร็จระบบก็โยนกุญแจสีทองให้แม่ข่าย ดอกแรกก็ยังไม่ตอบ ดอกที่สองก็ยังไม่ตอบ พอครบกุญแจดอกที่สามหลังจากเงียบไปพักใหญ่ก็มีคำตอบกลับมาจนได้



-พบการทำงานของระบบจำนวน 2 ระบบ ในโลก ‘ศึกจอมขมังเวท’ -



แม่งเอ๊ย โดนเข้าแล้วไง ระบบทำงานพร้อมกันสองระบบคะแนนมันก็ต้องช็อตอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? เครือข่ายเล่นบ้าอะไรอยู่ถึงได้ทำแบบนั้น จะสืบไปว่าระบบไหนกำลังทำงานอยู่ก็ไม่ได้แล้ว เพราะคำตอบที่ได้รับกลับมามีแค่ ‘ข้อมูลปกปิด ปฏิเสธการเข้าถึง’



จากการวิเคราะห์ของระบบแล้วคนที่มีพิรุธมีแค่พระเอกที่มีพฤติกรรมแปลกๆ และตัวโกงที่ตามมาทุกชาติ สองคนนี้ไม่ใครก็ใครสักคนที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของระบบอีกระบบหนึ่งอยู่แน่ๆ แค่จะเป็นระบบตัวเอกหรือระบบตัวร้ายเท่านั้น แต่ถ้าปัญหามันอยู่ที่คนรักของโฮสต์ มันก็ควรจะเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่โลกแรกๆ แล้วไม่ใช่หรือไง?



ข้อมูลแค่นี้ยังไม่เพียงพอที่ระบบจะสามารถฟันธงอะไรได้ บวกกับโฮสต์กลับมาจากการลงโทษเป็นอันเรียบร้อยแล้ว ได้เวลามูฟออนไปโลกหน้ากันสักที ถ้ายังมีอะไรไม่ชอบมาพากลอีกครั้งหนึ่งก็แปลว่าทั้งโฮสต์และระบบตกเป็นเหยื่อของใครเข้าแล้ว



“แม่สอง...” โฮสต์เรียกเสียงอ่อย ดวงตากลมโตแดงก่ำคล้ายผ่านการร้องไห้อย่างหนัก ในโลกนั้นเขาเป็นศิษย์น้องคนสนิทของเว่ยเสียงที่เคารพเทิดทูนพระเอกจนถึงขีดสุด แต่กลับถูกฆ่าตายเพียงเพราะอีกฝ่ายต้องการช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจซ้ำซากถึงห้าครั้ง จิตใจของโฮสต์เลยเรียกได้ว่าทั้งอ่อนไหวทั้งอ่อนแอ“เราขอโทษจริงๆ ที่ทำตัวไม่ดี...แม่สองจะยังอยู่กับเราใช่ไหม”



[ระบบพร้อมอยู่เคียงข้างคุณตลอด 24 ชั่วโมง]



ไม่ว่าโฮสต์จะโง่ จะสร้างภาระให้กับระบบอยู่มากพอตัวระบบก็จะไม่ทิ้งโฮสต์เวลาที่โฮสต์มีปัญหา โฮสต์แค่โง่เท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่าจะถูกคนอื่นเอาเปรียบ คนโง่ก็มีสิทธิ์ของคนโง่ไม่ใช่หรือไง คุณโชคดีแล้วโฮสต์ที่มีระบบฉลาดอยู่เคียงข้าง



เพราะระบบจะไม่มีวันยอมให้ใครใช้พวกเราเป็นเครื่องมือแน่ๆ



ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม





โปรดติดตามตอนต่อไป...



ซินเอ๋อร์:

มาด้วยความรวดเร็วเพราะเขียนเพลินค่ะ 5555จบ Arc แบบค้างคาเปิดปมใหม่ เพราะถ้าไม่ใส่ปมสักหน่อยเดี๋ยวจะไม่มีอะไรให้ติดตามต่อค่ะะ ยังไงแล้วเรื่องนี้คอนเซ็ปต์คือโฮสต์โง่ ระบบฉลาด เพราะฉะนั้นเราต้องโชว์ความฉลาดของระบบสักหน่อยค่ะ ซึ่งจะดูฉลาดไหมนั้น... แฮะๆ ก็จะพยายามเขียนให้ดูฉลาดนะคะ แต่ยังจะคงธีมป่วงๆ ป่วนประสาทเหมือนเดิมนะคะ โฮสต์ถึงจะได้บทเรียนแล้ว แต่ก็ยังเป็นโฮสต์โง่เหมือนเดิม ซึ่งจะโชว์เด๋อด๋าอะไรให้ระบบปวดหัวอีก ก็ต้องดูกันต่อไปค่ะะ

ขอบคุณคุณเกรย์ที่ช่วยแชร์ไอเดีย จริงๆ แนวเปอร์เซียก็น่าสนใจ แต่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้เลย แบบเป็น 0 มาก ขอไปหาข้อมูลก่อนเพื่อใช้ในโอกาสหน้าค่ะะ ส่วนไอเดียอื่นๆ ก็มีหลายอย่างที่เล่นได้ ไม่ได้เขียนนิยายแฟนตาซีมานานแล้วด้วย เอาสัก Arc ก็คงจะดี 55555 อีกเรื่องคือคุณเกรย์วิเคราะห์เก่งมากกก เหมือนเดาได้เลยว่ามันจะต้องมีระบบอื่นในเรื่อง แต่เรื่องนี้ยังไม่เท่าไรค่ะ ในผีลามกนี่แอบร้อนๆ หนาวๆ เลยทีเดียว จุดไหนคนอื่นไม่เจอ คุณเกรย์เก็บเรียบ ซินกลัวแล้วววว (แง)

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ระบบเท่มากค่าาา จิกกัดตลอดแต่ไม่เทในยามลำบาก รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ระบบเท่จริงๆด้วยครับ หวีดมากกกก สุดยอด! /หัวเราะ เออ แก้ปัญหาไม่ได้ใช่มั๊ย กีดกันนักใช่มั๊ย ในโลกแห่งคะแนนแลกแต้ม ไม่มีอะไรแก้ไม่ได้ด้วยเงิน ระบบทุ่มมาก ไม่สนว่าจะเสียไปเท่าไหร่ ก็กูจะแก้อะ แล้วจุดประสงค์ก็เพื่อช่วยเหลือโฮสต์ ไม่เทในยามลำบาก เท่จริงครับ เวลาโฮสต์ทำผิดก็ดุจริงเฆี่ยนจริง (ฮา) เจ๋งครับคาแรกเตอร์ระบบ

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ลบเนื้อหานิยายออก เนื่องจากมีผู้มีความประสงค์จะทำเนื้อหาในนิยายไปทำการศึกษาวิจัยในระดับดุษฎีโดยไม่ได้รับการอนุญาตและไม่แจ้งขอบเขตเนื้อหาในการวิจัย ซึ่งผู้แต่งเล็งเห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของนิยายวายได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2020 22:33:36 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ระบ๊บบบ แซะโฮสต์อีกแล้ว ฮา
ถ้าบทไหนระบบไม่แซะคงต้องสงสัยไว้ก่อนว่าไวรัสเข้าแน่ ๆ ฮา
นึกไปก็ฮาตามระบบเหมือนกัน ล้างตารอคนรักของโฮสต์เลย 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ลบเนื้อหานิยายออก เนื่องจากมีผู้มีความประสงค์จะทำเนื้อหาในนิยายไปทำการศึกษาวิจัยในระดับดุษฎีโดยไม่ได้รับการอนุญาตและไม่แจ้งขอบเขตเนื้อหาในการวิจัย ซึ่งผู้แต่งเล็งเห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของนิยายวายได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2020 22:36:05 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ลบเนื้อหานิยายออก เนื่องจากมีผู้มีความประสงค์จะทำเนื้อหาในนิยายไปทำการศึกษาวิจัยในระดับดุษฎีโดยไม่ได้รับการอนุญาตและไม่แจ้งขอบเขตเนื้อหาในการวิจัย ซึ่งผู้แต่งเล็งเห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของนิยายวายได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2020 22:36:40 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
โฮสต์ตอนนี้สมองใสนะใสแบบว่างเปล่า.. :เฮ้อ:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
บทนี้เข้ากับโฮสต์มาก รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ลบเนื้อหานิยายออก เนื่องจากมีผู้มีความประสงค์จะทำเนื้อหาในนิยายไปทำการศึกษาวิจัยในระดับดุษฎีโดยไม่ได้รับการอนุญาตและไม่แจ้งขอบเขตเนื้อหาในการวิจัย ซึ่งผู้แต่งเล็งเห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของนิยายวายได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2020 22:36:24 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ pand4444

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตามอ่านอยู่ตลอด​ ไม่รู้ทำไมชอบเรื่องนี้มาก​

สิงบอดมา7​ 8​ ปี​ นี่เป็นเรื่องแรกที่รู้สึกว่าต้องเข้ามาให้กำลังใจ

ในฐานะคอแฟนตาซีไซฟายและคอนิทาน​ ที่หาได้ยากยิ่งในบอร์ดนี้​รู้สึกขอบคุณที่เขียนยำสารพัดนี้มาให้อ่าน

ถึงปมตอนนี้จะยังซอฟและไม่ได้รู้สึกลึกล้ำมาก​ แต่ทางนี้อ่านเพลิน​และรู้สึกลงตัวมาก

จะรอดูบทสรุปของแม่สองและโฮสต์​  :mew2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชอบมากค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ลบเนื้อหานิยายออก เนื่องจากมีผู้มีความประสงค์จะทำเนื้อหาในนิยายไปทำการศึกษาวิจัยในระดับดุษฎีโดยไม่ได้รับการอนุญาตและไม่แจ้งขอบเขตเนื้อหาในการวิจัย ซึ่งผู้แต่งเล็งเห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของนิยายวายได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2020 22:33:58 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ pepperpro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
องก์นี้ โฮสต์น่ารักมากเลย ระบบเองก็เช่นกัน เข้าขากันสุด ระบบน่าจะเริ่มรักในความเปิ้นๆของโฮสต์ด้วยสินะ

รอติดตามไปเรื่อยๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนนะครับ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด