- โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12  (อ่าน 47710 ครั้ง)

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
แค่เห็นหน้าภูมิก็รู้เลยเหรอ

ออฟไลน์ shinyface

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
 :katai2-1:

เราไม่คิดว่าภูมิจะเป็นคนแบบนี้เลยอะ อย่าไปให้เพิ่มแล้ว ยิ่งให้ยิ่งไม่มีอะไรเหลือเลย แล้วหนี้จะมากขึ้นทุกๆวัน  :mew5:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ภูมิ ไมทำอย่างงี้ล่ะ
แล้วคุณคนแรกเมื่อไหร่เราจะได้รู้จักกัน ลูกพ่อจ่อยเอ้ย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ไม่คิดว่าภูมิจะทำเพื่อนแบบนี้ เฮ้อ หวังว่าภูมิจะไม่มาสร้างความลำบากให้นะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ลบภาพของภูมิตอนต้นเรื่องไปไกลเลย หึ!!!

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
         ภูมิ คือ เพื่อน หรือ?

ในมุมของคุณคนแรกเราว่าน่ารักมาก

ค่อยเข้าหา คอยให้กำลังใจ รอเวลาที่ใช่ค่อย

เดินหน้าเต็มรูปแบบ

#ทีมอยากกินสุกี้

ออฟไลน์ LoveAlone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
คนแบบภูมิยังเรียกว่าเพื่อนได้อีกเร้อ

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 8 : สะสมแต้ม



   แผนโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ซื้อสองแถมหนึ่ง ซื้อสามแถมหนึ่ง ไม่ค่อยจะได้ผลนักกับกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างมีกำลังทรัพย์ พวกเขาเน้นที่รสชาติและคุณภาพ ความน่าเชื่อถือของร้านค้าและความชื่นชอบส่วนตัว ฉะนั้นสิ่งที่ผมทำได้ จึงเป็นการหลอกล่อเด็กตามเดิมเพิ่มเติมคืออกแบบบัตรสะสมแต้มลายใหม่

   ผมตัดสินใจจะสร้างสตอรี่ให้ฮีโร่พิชพิช

   แน่นอนว่าลงรายละเอียดมากไม่ได้กันงง จึงเลือกทำบัตรสะสมแต้มเป็นเลเวลต่างๆ

   เช่นสิบดวงแรก จะได้บัตรลายอวกาศสีน้ำเงิน ฮีโร่พิชพิชยังเลเวลหนึ่ง ถือชานมเหาะเหิน

   ส่วนเลเวลสอง จะได้บัตรลายสัตว์ประหลาดสีแดง ถ้าอยากให้สัตว์ประหลาดหายไปก็ต้องซื้อชานมจนครบสิบดวง ฮีโร่พิชพิชผู้มีชานมเป็นอาวุธทั้งสิบจะประทับลายทับหน้าสัตว์ประหลาดประหนึ่งโค่นล้มสำเร็จ

   เลเวลสาม เป็นบ่อชานมไข่มุกสีเหลือง ฮีโร่พิชพิชต้องการอัพเกรดตัวเอง ซึ่งกว่าจะไปถึงบ่อชานมทองคำซึ่งวาดซะริมขอบบัตรได้ ก็คือตอนประทับแสตมป์ดวงที่สิบนั่นเอง เวลาเรียงแล้วจะเหมือนฮีโร่พิชพิชค่อยๆ เดินมาทีละช่องจนกว่าจะถึงที่หมาย

   เลเวลสี่ เป็นบัตรสัตว์ประหลาดสองตัวสีส้ม ฮีโร่พิชพิชจะเปลี่ยนเป็นถือชานมสองแก้ว! ต้นทุนแกะตัวปั๊มนั้นไม่แพงเลย ส่วนค่าจ้างวาดก็ไม่มากเพราะใช้แบบเดิมเพิ่มเติมคือชานมอีกแก้วแค่นั้นเอง แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยนี้ก็ทำให้เด็กๆ ตื่นเต้นอยากได้ จะเอาฮีโร่พิชพิชเวอร์ชั่นอัพเกรด!

   เลเวลห้า เป็นบัตรลายประตูตรงสุดขอบสีม่วง แบ่งระหว่างโลกทูดีกับโลกทรีดี ซึ่งถ้าครบสิบดวงเมื่อไหร่ นอกจากจะได้สิทธิ์ชานมฟรีหนึ่งแก้วยังได้พวงกุญแจลายฮีโรพิชพิช เปรียบเสมือนว่าฮีโร่นั้นเดินออกประตูมาเจอกับเด็กๆ ด้วยตัวเอง!!

   ถ้าจบเลเวลห้าแล้ว ลูกค้าก็จะเริ่มต้นที่ฮีโร่เลเวลหนึ่งอีกครั้ง ไต่ระดับจนครบก็จะได้พวงกุญแจฮีโร่พิชพิชลายที่สอง ผมทำพวงกุญแจทั้งหมดห้าลาย มีจุดแตกต่างนิดๆ หน่อยๆ กับเปลี่ยนสีพื้นหลัง ต้นทุนทำนั้น...ผมว่าคุ้มกว่าจัดโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งอีก

   แถมเด็กๆ ก็ชอบมากด้วย

   หน้าเคาน์เตอร์ของผมตอนนี้มีกรอบกระจกตั้งเพิ่ม เรียงบัตรสะสมแต้มตามเลเวลของฮีโร่พิชพิชโดยไม่ปั๊มแสตมป์ ด้านบนสุดคือพวงกุญแจทั้งห้าลาย สร้างความดึงดูดใจให้เหล่าลูกค้าตัวน้อย

   แม้คนจ่ายจะเป็นผู้ปกครองก็เถอะ

   ชานมอร่อย ไม่ต้องรอคิวนาน แถมลูกยังปลื้มเอาบัตรสะสมแต้มไปอวดเพื่อนว่าใครได้ถึงเลเวลไหน โค่นสัตว์ประหลาดได้รึยัง ก็นับว่าวิน-วินทั้งสองฝ่าย

   “ไอเดียน่ารักดีนะคะ ฉันยังไม่เคยเจอร้านชานมที่ไหนทำเป็นสตอรี่ฮีโร่แบบนี้เลย”

   “ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบคุณลูกค้าหญิงวัยสามสิบต้นๆ ซึ่งจูงมือลูกชายวัยสิบขวบที่บอกว่าจะอัพเกรดฮีโร่พิชพิชเป็นเลเวลสองให้ได้ เขาอยากสู้กับสัตว์ประหลาดใจจะขาดแล้ว!

   ผลตอบรับออกมาดี ไม่ปลื้มได้ไงละเออ ผมชงชานมยิ้มแก้มปริ ความรักที่ใส่ใจลงไปนั้นทำให้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ใครได้ชิมเป็นต้องชม

   ต้องขอบคุณโรงเรียนประถมน่ะนะที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก

   เพราะถ้าเป็นวัยทำงาน เจอกลยุทธ์เด็กๆ แบบนี้คงได้ผลตอบรับตรงกันข้าม โตป่านนี้แล้วถือแก้วชานมลายฮีโร่ น่าขวยเขินไม่น้อย เห็นได้ชัดจากคุณยายร้านปักเสื้อที่ดูจะงุนงงกับบัตรสะสมแต้มแบบไล่เป็นเลเวล บอกว่าปวดหัว ด้านกลุ่มคุณครูเองก็เห็นว่าไร้สาระ ยังคงยืนหยัดที่ร้านชานมเจ้าดัง

   ยังไงก็ตาม มีลูกค้าเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่มาเป็นประจำเพื่อสะสมแต้มอัพเลเวลให้ฮีโร่พิชพิช ก็นับว่าประสบความสำเร็จ ผมเองก็สนุกกับการคิดอะไรพรรค์นี้ด้วย เด็กผู้ชายยังไงก็ต้องชอบพวกการ์ตูนฮีโร่ใช่มั้ยละครับ

   แม้ผมจะอายุยี่สิบสองแล้วก็เถอะ

   แต่กับคนที่...อืม อายุมากกว่ายี่สิบสอง ถือแก้วชานมลายฮีโร่ทุกวัน ทำหน้าตาย คงจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเท่าไหร่

   “สามสิบบาทครับ”

   “อย่าลืมปั๊มแสตมป์ให้ด้วย ใกล้จะได้เลเวลสามแล้ว”

   “ครับๆ” ผมรับบัตรสะสมแต้มสีแดงของคุณคนแรกมาปั๊มแสตมป์ดวงที่เก้า อีกนิดฮีโร่พิชพิชจะโค่นล้มสัตว์ประหลาดแล้ว!

   “แถมหนึ่งดวงไม่ได้เหรอ”

   “จะไปได้ได้ยังไงล่ะครับ” ผมตอบกลับคนที่ถามหน้าตาย อยากจะอัพเป็นเลเวลสามใจจะขาด อยากถามนักว่าอายุเท่าไหร่ ใกล้สามสิบแล้วแต่ยังตื่นเต้นกับบัตรสะสมแต้มเป็นเด็กๆ ไม่อายตัวเองก็อายผมบ้างเถอะ

   คุณคนแรกรับบัตรคืนแบบเสียดายหน่อยๆ ก่อนจะยืนนับเหรียญให้ผมไม่ลืมตบท้ายด้วยเหรียญสองบาท

   ผมแยกเหรียญสีทองนั้นหยอดใส่กระปุกใสอย่างคุ้นชิน เสียงของเหรียญที่ตกกระทบกัน กรุ๊งกริ๊งน่าฟังไม่ต่างกับกำลังใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวลานั่งตบยุงรอลูกค้า คำนวณค่าเช่าที่ช่วงสิ้นเดือนว่าจะเหลือกำไรเท่าไหร่ ก็มีเจ้ากระปุกนี้แหละที่คอยเตือนผมเสมอว่าต้องเปิดร้านต่อไป เพื่อหยอดเหรียญสองบาทให้เต็ม เพื่อคุณคนแรกที่รออยู่

   จะว่าไงดีล่ะ ตอนนี้ผมค่อนข้างโหวง

   ใกล้จะครบสามเดือนแล้ว ผมยังรักชานม อยากจะเปิดร้านนี้ต่อไป แต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าจะทำได้นานสักแค่ไหนกันเชียว

   แม่ชนะพนันพ่อแล้วยังไงต่อ อีกกี่เดือนที่จากเรื่องขำขันกลายเป็นไม่ขำ ถึงตอนนั้นผมจะยัง...

   เฮ้อ ปวดหัว

   “ชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว”

   “ดูดที่ถืออยู่ในมือให้หมดก่อนมั้ยครับ” ผมเอ่ยกับคุณคนแรกอย่างสุภาพ ไม่วายเหล่ตามองแก้วชานมที่ยังเหลือเกินครึ่งในมือเขา

   “ไม่ได้จะกินเอง”

   “แล้ว...”

   “ให้คุณ”

   วูบหนึ่ง ความสับสนโลเลของผมคล้ายจะกับโดนเขาสะกิดเบาๆ จนชวนให้สั่นสะท้านไปทั้งตัว เป็นความรู้สึกที่ยากอธิบาย แต่ก็คล้ายจะย้ำเตือนว่าแม้ผมจะไม่มีไอ้ภูมิคอยตามแล้วก็ยังมีคุณคนแรกอยู่ตรงนี้เสมอ

   เป็นความตื้นตันแกมซาบซึ้งกับการกระทำเล็กน้อยที่มีคุณค่าทางใจ ผมชงชานมให้ตัวเอง เพียงลิ้มรสสัมผัส ความหนักอึ้งในใจก็เบาขึ้นทันตา ผมสดชื่น ตาสว่าง อารมณ์ดีดนิดๆ เป็นเหมือนทุกครั้งที่กินชานมไข่มุก จนบางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าใส่กัญชารึเปล่า แต่ผมชงเองกับมือ จะไปมีได้ยังไงล่ะเอ้อ

   “สามสิบบาทครับ” ผมถือชานมดูดตาใส ไม่วายแบมือรอเก็บเงินคุณคนแรกที่ออกปากจะซื้อให้ทั้งที่ตัวผมเองเป็นเจ้าของร้าน ไม่มีการยกยอดให้หรอกนะ และคุณคนแรกก็ไม่คิดจะชักดาบ เพราะเขาวางแบงก์ยี่สิบสองใบให้อย่างบรรจง พร้อมกับบัตรสะสมแต้มสีแดง

   “ปั๊มช่องที่สิบให้ด้วย”

   ...ที่แท้ก็อยากจะอัพเกรดเลเวลไวๆ

   รสชาติชานมที่ออกหวาน พริบตาคล้ายจะจืดจางชอบกล ผมแทบจะสำลักน้ำ รับบัตรสะสมแต้มมาปั๊มจนเต็ม ก่อนจะนับเหรียญบาทถอนคืนเขาไปสิบเหรียญ เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ผมได้ถอนเงินคุณคนแรก

   “บัตรเลเวลสามจะได้ตอนซื้อชานมแก้วต่อไปนะครับ ขอย้ำว่าซื้อนะไม่ใช่ใช้สิทธิ์ฟรี” เห็นท่าทางกระตือรือร้นดีใจนั่นแล้วก็อดปรามไม่ได้ บัตรหนึ่งใบถ้าครบสิบดวงแลกซื้อสิทธิ์ชานมฟรีหนึ่งแก้ว ถ้าพรุ่งนี้เขาใช้สิทธิ์นั้น ก็จะชวดบัตรเลเวลสามไปอีกวัน

   “ไม่เป็นไร ไม่รีบ”

   เป็นคำตอบที่...กวนประสาทจนชวนมือไม้กระตุก ไม่รีบ แต่กระเหี้ยนกระหือรือให้ผมปั๊มแสตมป์จนครบสิบดวง นี่เรียกว่าไม่รีบเหรอ ผมดูดชานมอึกๆ ขณะมองหน้าคุณคนแรกที่เก็บบัตรสะสมไปอย่างไม่ใส่ใจ ช่างเป็นผู้ชายที่เดาอารมณ์ยากจริงๆ

   หรือไม่ก็เดาง่ายกว่าที่คิด

   มองสายตากับรอยยิ้มมุมปากที่ส่งให้กัน ไอ้สิ่งที่เขากระตือรือร้นอยากจะเอานั้นไม่ใช่บัตรเลเวลสาม แต่เป็นผมที่ก้มหน้าหลุบตาด้วยแก้มแดงๆ ต่างหาก

   ขยันหยอกหัวใจเล่นได้เก่งจริงๆ

   ฮึ่ย เดี๋ยวก็เคี้ยวหลอดละเอียดซะเลยนี่

   ความเงียบระหว่างเราเป็นบรรยากาศที่อุ่นอวลท้าแสงอาทิตย์ ไม่ทันให้ผมเอาความเขินไปลงกับหลอดที่น่าสงสาร บุคคลไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏตัวในสภาพหล่อเท่เหมือนเพิ่งกลับจากการถ่ายแบบ

   “พิชญ์จ๋า เรามารับแล้ว!”

   ฉิบหาย! แก้วแทบร่วง

   ผมตั้งสติดีๆ ขณะเงยมอง ‘แฟนเก่า’ ที่แทบจะกลบรัศมีคุณคนแรกมิด

   “มารับทำไม” ผมถามเพราะสงสัย ไม่ได้ประชดนะขอบอก

   “พิชญ์...” กฤตถอดแว่นตาดำสำหรับปลอมตัว เดินหน้าระรื่นมาหา สงสัยจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น เขาถึงยิ้มแย้มดอกไม้บาน เห็นแล้วก็เผลอหลุดยิ้มตามไปด้วย

   ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง กฤตหน้าตาดีมากจริงๆ และการเห็นคนหน้าตาดีส่งยิ้มระยะประชิด ใครบ้างจะไม่คึก

   “ขอโทษที่หายไปหลายวันนะ เรามีถ่ายแบบที่ต่างประเทศน่ะ” กฤตอธิบาย ก่อนจะทำหน้ากรุ้มกริ่ม ล้วงมือเข้าไปในเสื้อโค้ตตัวยาว และเมื่อชักออกมา... “แต่นแต้น ดอกไม้สำหรับพิชญ์”

   กฤตก็ส่งดอกกุหลาบแดงให้ผม

   “เนื่องในโอกาสอะไร”

   แต่ผมไม่รับ

   “เนื่องในโอกาสไม่เจอกันหลายวัน ทั้งที่บอกจะมาหา แต่ก็ไม่ได้มา พิชญ์รออยู่ใช่มั้ย ขอโทษนะ แต่เราติดต่อพิชญ์ไม่ได้เลย”

   เกือบลืมว่ากฤตเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่าผมขายโทรศัพท์เครื่องเก่าทิ้งไปแล้ว เพราะนับตั้งแต่ได้เบอร์จากคุณคนแรก ผมก็เปิดเครื่องตลอด และเคยโทรออกแค่ครั้งเดียวคือตอนคุยกับแม่

   “ฉันจะรอนายทำไม เราเลิกกันไปแล้ว” ผมเอ่ยเสียงช้า ชัด

   “พิชญ์...” กฤตสลดในทันที สำหรับผู้ชายที่มักมีรอยยิ้มประดับบนหน้า เฉิดฉายสดใสเหมือนแสงตะวันอย่างเขา ไม่ควรทำหน้าหมองคอตก แม้จะทำแล้วน่าเอ็นดูเอามากๆ ก็เถอะ

   นี่ละนะ คนหน้าตาดีทำอะไรก็ดูดีไปหมด

   ไอ้ความชื่นชมน่ะมี แต่ความรักน่ะไม่ ใครบ้างจะไม่ชอบของสวยงามน่ามอง และผมเองก็รู้สึกกับกฤตแค่นั้น

   มองแต่ตา มือไม่ต้อง แถมไม่คิดจะหวนกลับไปคบด้วย

   “ผ่านมาสามเดือนแล้ว ยังไม่ให้อภัยกันอีกเหรอ”

   “นายคงไม่คิดว่า...” ผมมองกฤตที่ยังถือกุหลาบแดง ไล่สายตาตามใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่งดูดี แล้วอดหวนนึกถึงอดีตที่แสนสุข แม้ตอนนี้จะกลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง “โผล่มาขอโทษหนึ่งครั้ง เมาเหมือนหมาให้เห็นหนึ่งครั้ง หายหัวไปหลายวัน แล้วโผล่มาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะทำให้ฉันเออออยอมคืนดีหรอกนะ”

   “ไม่เหรอ”

   “ไม่”

   กฤตเงียบไปอึดใจหนึ่ง พวกเราคบกันมาสองปีเต็ม เขาคิดอะไรอยู่ทำไมผมจะไม่รู้

   เขาเป็นพวกไม่ชอบคิดเยอะ คิดมาก หรือให้ถูกคือเขาไม่ถนัดคิดอะไรที่มันซับซ้อน กฤตเป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์กับตัวเอง และนั่นก็ทำให้ผมชอบที่จะอยู่กับเขา แต่นิสัยนี้ของเขาก็นำมาซึ่งความมักง่ายในหลายครั้ง อย่างไอ้เจอผมครั้งแรกหลังหายหัวไปสองเดือน เจอปุ๊บก็หาเรื่องคุณคนแรกปั๊บเพราะผมมีกิ๊กก็ดี และที่คิดในหัวตอนนี้ คงไม่พ้นคิดว่าก็ขอโทษไปแล้ว ทำตัวให้เห็นว่าเสียใจสุดๆ ด้วยการเมาเป็นหมาไปแล้ว แต่ผมไม่ยอมคืนดีสักที สงสัยจะโกรธมาก งั้นรอให้ใจเย็นหน่อยแล้วกัน นี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนพอดี ผมน่าจะเบื่อการหนีออกจากบ้านแล้วมั้ง งั้นตีเนียนมารับเลยดีกว่า เผื่อผมจะยอมกลับด้วยกัน แล้วถือโอกาสคืนดีซะเลย

   กฤตหนอกฤต

   ถ้ายังคบกันอยู่ ผมคงทั้งฉุนทั้งขันทั้งเอ็นดู อยากจะจับเขามากอดแล้วฟัดแก้มสักทีสองทีแก้มันเขี้ยว

   แต่ในเมื่อเลิกกันไปแล้ว...

   “นายกลับไปเถอะ ฉันไม่กลับ”

   เย็นชาสักหน่อยน่าจะพอทำให้เขาตระหนักได้ว่าผมไม่ใจอ่อนง่ายๆ เหมือนเวลาเขาทำผิดแล้วอ้อนขอโทษ

   “...ตัวอะไรน่ารักจัง” กฤตแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน หันมาจดจ่อกับบัตรสะสมแต้มที่เรียงสีอยู่ในกรอบกระจก “พิชญ์เป็นคนคิดใช่มั้ย ทำเป็นเลเวลด้วยเหรอ ถือชานมอีกต่างหาก น่ารักนะเนี่ย”

   ความแตกต่างของภูมิกับกฤตคือ ไอ้ภูมิมันไม่มีศิลปะในหัวใจ และที่ตามผมไปซะทุกเรื่องนั้นก็เพราะเห็นเพื่อนเป็นตู้เอทีเอ็ม ขณะที่กฤตนั้นมีความสุขที่จะเอาอกเอาใจผม โดยไม่คิดเล็กคิดน้อยแม้ว่าบางเรื่องจะบ้าบอไปสักนิดหรือเด็กไปหน่อย

   “ถ้าพิชญ์อยากเปิดชานม ไม่กลับบ้านจริงๆ งั้นเราช่วย”

   “จะทำอะไรน่ะ!”

   “เซลฟี่กับร้านพิชญ์ไง ไอจีเรามีคนตามเยอะ ช่วยโปรโมตให้ ไม่ดีเหรอ”

   ก็ใช่ว่าจะไม่ดี แต่ผมไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากแฟนเก่า เพราะต้องมีปัญหาตามมาอีกพะเรอเกวียนแน่นอน

   “ห้ามถ่าย” ผมทำตาดุ “นายคงไม่คิดว่าตอนนี้ที่ฉันไม่ยอมกลับ เพราะสนุกกับการทำร้านชานมให้รุ่ง ถ้าช่วยลัดขั้นตอนให้ขายดีจนลูกค้าเต็มร้าน ฉันก็คงจะเหนื่อยและเบื่อ ยอมกลับเองใช่มั้ย”

   “ไม่ใช่เหรอ”

   “ไม่”

   กฤตเงียบไปอีกครั้ง ลูบคางอย่างจริงจังว่าควรจะเริ่มแผนไหนต่อดี

   “เกะกะหน้าร้านน่ากฤต”

   “งั้นถ้ารับดอกไม้ เราจะกลับ” กฤตหันมายิ้มหวาน ออดอ้อนจนชวนให้ใจอ่อน ซึ่งผมค่อนไปทางอ่อนใจมากกว่า ยอมเพราะอยากตัดปัญหาล้วนๆ

   พอเห็นผมรับดอกไม้ กฤตก็ดีใจ เขามักดีใจกับเรื่องเล็กน้อยเสมอ และเข้าข้างตัวเองมากๆ

   อย่างตอนนี้คงไม่วายคิดว่าผมรับดอกไม้เพราะใกล้จะหายโกรธแล้ว

   อยู่กับคนอย่างกฤต เข้าใจง่ายดี แต่ก็ชวนหน่ายใจเหมือนกัน

   “งั้นเรากลับแล้วนะ”

   “เออ” ผมเอ่ยเสียงเพลีย หยิบชานมขึ้นมากินขณะมองส่งกฤตสวมแว่นดำเดินออกไปจากซอย ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่แม้แต่จะชายตามองคุณคนแรก

   เพราะคุณคนแรกทำตัวเป็นรูปปั้นได้ชนะเลิศ

   แม้จะไม่เคยถาม แต่ไอ้การนั่งฟังเก็บข้อมูลนั้นก็ชวนหนาวๆ ร้อนๆ อยู่เหมือนกัน เขาต่างกับกฤต ผมเดาทางแทบไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรและจะทำยังไงต่อไป

   เพราะถ้าถามผม หากกำลังรู้สึกดีกับใครสักคน และคนนั้นมีทั้งเพื่อน ทั้งแฟนเก่าพัวพันวุ่นวาย ต้องมีถอยบ้างละ

   “ดอกไม้สวยดีนะ”

   ...งวดนี้ชมดอกไม้เหรอ

   “อยากได้มั้ยล่ะ” ผมยื่นให้คุณคนแรกแบบตั้งใจจะหยอก แต่คิดไม่ถึงว่าเขาเอาจริง

   “ขอบใจ” รับไปไม่พอยังขอบคุณกันอีกต่างหาก ผมมองเขาอึ้งๆ ก่อนจะอึ้งยิ่งกว่าเดิมเมื่อคุณคนแรกเดินเอาดอกไม้ไปทิ้งถังขยะตรงเสาไฟฟ้า

   “ฝากทิ้งหน่อย” ก่อนจะเดินย้อนกลับมา แล้วส่งแก้วชานมว่างเปล่าให้

   ผมต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ

   “ทำไมไม่ทิ้งถังขยะตรงนู้นเลยล่ะ” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็รับแก้วมาทิ้งในร้านเพราะอย่างน้อยก็ได้แยกขยะซีไซเคิลช่วยลดโลกร้อน แม้จะยังเหวอไม่หายที่เขาขอดอกไม้ไปทิ้งกันต่อหน้าต่อตา

   “รังเกียจ?”

   “ก็ไม่” ผมตอบทันที รังเกียจกับแค่ฝากทิ้งขยะ ผมไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น

   “อืม ไม่รังเกียจเหมือนกัน”

   ผมเอ๊ะขึ้นมาวูบหนึ่ง

   เอ๊ะกับประโยคที่งงว่าเข้าใจตรงกันมั้ยนะ เอ๊ะกับสีหน้าตายๆ และน้ำเสียงราบเรียบของเขา เอ๊ะในใจอยู่อย่างนั้น และเอ๊ะวนไปจนคุณคนแรกเดินออกจากซอย

   ...สรุปเขาไม่ได้ถามถึงเรื่องฝากทิ้งขยะใช่มั้ย

   ตั้งใจจะสื่อว่าแม้ผมจะมีแฟนเก่าพัวพันก็ไม่รังเกียจที่จะสานสัมพันธ์ต่องั้นเหรอ

   ผมนิ่งไปครู่ใหญ่ ลูบหน้าตัวเอง และพบว่ากำลังยิ้ม

   ให้ตาย น่าส่งกฤตไปเรียนวิชากับคุณคนแรกจริงๆ อยากจะเนียนต้องให้เนียนถึงขั้นนี้! นี่สิ คนเนียน 2019!!


   

   -----------------------

   จบเคสภูมิแล้ว มาต่อกันที่เคสของกฤตกันค่ะ

   ค่อยๆ ปิดจ็อบกันไปทีละราย เพื่อให้น้องได้เปิดร้านชานมไข่มุกอย่างราบรื่นไม่โดนระราน

   โดยมีคุณคนแรกคอยเอาใจช่วยอยู่ไม่ห่างและสม่ำเสมอในทุกๆ วัน บางที...คนเราก็ไม่ต้องการอะไรมากนอกจากกำลังใจจากคนที่เข้าใจและพร้อมจะยอมรับทุกอย่างที่เป็นเรา ถูกมั้ยคะ


    #ผมกับชานมไข่มุก


เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อยากไปอุดหนุนร้านชาไข่มุกร้านนี้จังค่ะ
ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
อยากไปให้กำลังใจคุณเจ้าของร้าน

  :L2: :L2:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มุกจีบของคุณคนแรกนี่เนียนตลอด แต่นะจีบกันไปอย่างดีเป็นกันต้องพากันไปรพ.ก่อนตรวจเบาหวานกินชากันทุกวันเลย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ณ ตอนนี้เราเองก็ยังไม่รู้จักชื่อของพระเอก ที่มีพ่อชื่อจ่อยเลยครับ :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยังคงเป็นปริศนา​อยู่​สำหรับ​คุณ​คน​แรก​

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ aishiteru.

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
คุณคนแรก เป็นเจ้าของร้านชานมหน้าปากซอยร้านดังใช่มั้ย!!
ตอบสิคะ ลูกพ่อจ่อย !!

แวะมาเนียนจีบได้ทุ๊กกกกวัน หึ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ night-nnc

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบคนเนียน2019
ชอบร้านชานม
ชอบพิช
ติดตามต่อไปจร้าา
 :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
คุณคนแรกเนียนมากกก มันแบบเอ๊ะๆที่ถามนี่ยังไงกันนะ
 :hao3:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
คุณคนแรกคืนคนที่น่ารักมากกก

คอยอยู่เคียงข้างกันตลอดในช่วงที่มีปัญญาหาก็ให้

กำลังใจ

....คุณคนเเรกผู้ไม่มีชื่อ อิอิ

ออฟไลน์ pranliew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบคุณคนแรกมากอ่ะ น่ารักเป็นกำลังใจให้น้องแบบซึนๆ 555 อยากเห็นตอนที่รุกจีบเยอะๆแล้วอ่ะ น้องทำเป็นรู้ทันพี่เขานะ อิอิ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
พิกัดต้องมาละนะ ชานมไข่มุกร้านนี้ 5555

ออฟไลน์ Stiiiii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ยังไม่รู้ชื่อคุณคนเเรกเลย ติดตามงับ  :katai2-1:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 9 : ความรักของกฤต



   ความรักของผมกับกฤต เหมือนกับซีรีส์เกาหลีพ่วงการ์ตูนญี่ปุ่นตาหวาน

   วันนั้น...ผมยังจำได้ดี ผมปีนต้นไม้ ขึ้นไปช่วยเจ้าแมวอ้วนตัวหนึ่งที่ปีนขึ้นไปแล้วลงมาไม่ได้ มันเป็นแมวประจำคณะ ไม่ได้ใส่ปลอกคอ แต่ทุกคนชอบเล่นกับมันประหนึ่งตกเป็นทาส แค่ร้องเมี้ยวหนึ่งทีก็แทบจะถวายอาหารกลางวันให้หมดตัว ผมไม่ใช่หนึ่งในทาสรักของมันหรอก แต่เดินผ่านเห็นกลุ่มผู้หญิงยืนมุงเลยอาสา ตอนนั้นกำลังคึก นึกอยากลองปีนต้นไม้ที่คณะอยู่พอดี

   ตอนปีนขึ้นราบรื่นแม้จะเก้ๆ กังๆ บ้าง

   แต่ตอนไปถึงไอ้แมวอ้วน

   ไหนกันแมวที่กลัวตัวสั่นจนสาวๆ สงสารน้ำตาจะไหล พอผมเอื้อมมือจะคว้าปุ๊บ มันก็แยกเขี้ยว กระโดดพลิ้วลงไปอย่างสวยงาม

   กระโดดอย่างเดียวไม่ว่าดันทำกิ่งไม้หักกระเด็นใส่หน้าผมด้วย

   อารามตกใจ ผมยกมือบังหน้าตัวเอง และก็ตกพรวดจากต้นไม้สูง เสียงกรีดร้องดังขึ้น แต่ผมไม่ยักจะเจ็บตัว

   เพราะมีผู้ชายใจดีคนหนึ่งอุทิศตัวเป็นเบาะรองรับ พวกเราไม่รู้จักกันมาก่อน เพราะผมอยู่คณะการเงิน ส่วนกฤตอยู่คณะนิเทศ แต่เขามีเพื่อนเยอะเป็นพิเศษทั้งชายและหญิง จึงเป็นหนึ่งในหนึ่งคนที่ถูกขอร้องมาช่วยแมวอ้วน แน่นอนว่าโดนผมตัดหน้าไปก่อน และในเมื่อช่วยแมวอ้วนไม่ได้ เขาเลยอ้าแขนกว้าง ช่วยรับผมแทนโดยที่ไอ้ภูมิเอาแต่ยืนทื่อ

   ถ้ากำลังคิดภาพผมตกลงนอ้อมกอดของกฤตอย่างเหมาะเจาะ ถูกอุ้มประหนึ่งเจ้าหญิง คุณก็คิดผิดแล้ว แม้กฤตจะตัวสูง แต่เขาออกแนวสูงโปร่ง ส่วนผมก็เป็นผู้ชายออกกำลังกายชอบทำกิจกรรมบ้าๆ บอๆ คนหนึ่ง เลยมีกล้ามเนื้อพอประมาณ

   เอาล่ะ จากนี้ไปจะเป็นคำถามวิชาวิทยาศาสตร์

   แรงโน้มถ่วงของผมที่ร่วงตกมาจากต้นไม้สูงสามเมตรนั้นควรจะหนักสักเท่าไหร่

   ผล...คือกฤตที่โดนผมล้มทับจนนอนหงายกับพื้น

   มีเบาะรองนุ่มๆ ผมแทบไม่เจ็บไม่คัน แม้จั๊กจี้นิดหน่อยเพราะเขาใช้มือประคองเอวกันกระแทก กฤตเป็นพวกเฮฮาเพื่อนเยอะ ชอบปาร์ตี้สังสรรค์ ดูเหลวไหลเหยาะแหยะ แต่เป็นคนมีน้ำใจ ในเมื่อคิดจะช่วยผมแล้วก็ช่วยเต็มที่ เอาตัวรองรับแม้หัวจะกระแทกพื้นจนเลือดอาบ...

   ครับ กฤตหัวแตกเลือดอาบนอนจมกองเลือด

   จากช่วยแมวอ้วน กลายเป็นต้องช่วยชีวิตคนแทน ตอนนั้นผมตกใจ โมโหแมวอ้วนก็ใช่ ช็อกที่มีคนสละตัวเป็นเบาะก็ใช่ แต่ที่จดจำไม่ลืมจนวันนี้ คือหน้าเพ้อๆ ของกฤตตอนมองผมด้วยสภาพตาลอยใกล้สลบเหมือด

   “หรือจะเป็นนางฟ้าตกสวรรค์”

   ประโยคที่เล่าให้ใครฟังเป็นขนลุกซู่ แต่น่าแปลก เพราะตอนนั้นผมไม่ยักจะขนลุก ค่อนไปทางกังวลกลัวเขาหัวกระแทกจนสติฟั่นเฟือนมากกว่า

   ทุกคนไม่กล้าขยับตัวกฤตกลัวจะกระทบสมอง ผมเลยพลอยนอนทับอยู่อย่างนั้นไม่กล้าขยับเหมือนกัน เพราะกฤตเกาะไม่ปล่อย สถานการณ์ออกแนวอะไรวะเนี่ย และรถพยาบาลก็มาถึงพอดีกับกฤตที่สลบไป ผมถือโอกาสลุกจากตัวผู้ชายสักที ยืนมองส่งกฤตโดนหามด้วยความรู้สึกมึนงง

   จากนั้นข่าวเรื่องนางฟ้าตกสวรรค์ก็เป็นที่เลื่องลือไปทั้งคณะ

   ผมกำลังถูกบูลลี่รึเปล่านะ เพราะมองยังไงผู้ชายสูงร้อยเจ็ดสิบสอง หน้าตาธรรมดา ไว้ผมยาวระบ่ารวบครึ่งหัวเพราะขี้เกียจไปร้านตัดผมก็ไม่เหมือนนางฟ้าสักนิดเดียว จะเอาอะไรกับกฤตที่หัวกระแทกจนเลอะเลือนกันล่ะ ไอ้ภูมิก็หยอกแซวผมด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดมากอะไร แค่รำคาญหน่อยๆ

   เรื่องมันเริ่มพีคเมื่อกฤตออกจากโรงพยาบาล

   แล้วตามจีบผม

   ไม่รู้ว่าฟ้าฝนบันดาลโชคชะตาอะไรให้ ผมตกจากต้นไม้ทับกฤต ส่วนกฤตตกหลุมรักผมซะงั้น ทุกคนเห็นเป็นเรื่องขำขัน พ่อกับแม่ผมเองก็คิดว่าเป็นเรื่องตลก เพราะร้อยวันพันปี ผมไม่เคยพูดถึงเรื่องความรักเลย

   จะพูดได้ไงล่ะ...ก็ผมเป็นเกย์

   ความลับข้อนี้ขนาดไอ้ภูมิยังไม่รู้ และผมไม่คิดจะเปิดตัวเพราะยังไม่เจอคนถูกใจ พอกฤตตามจีบยอมรับตรงๆ ว่าแอบหวั่นไหว กฤตเป็นคนน่ารัก ขี้อ้อน ชอบเอาใจ เป็นผู้ชายที่ถ้าสาวๆ อยู่ด้วยมีหวังใจละลายไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แม้เขาจะดูสำเริงสำราญไปบ้าง แต่ก็เพราะกฤตเป็นคนที่รู้ว่าอะไรทำแล้วมีความสุข เขาชอบปาร์ตี้ ชอบอยู่กับเพื่อนเยอะๆ เขาก็ทำ เขาชอบผม เขาก็จีบ นั่นคือที่มาของฉายากฤตจอมเจ้าชู้ ถูกตาต้องใจใครสักนิด ไม่ว่าจะแค่เดินผ่าน เดินชน หรือโดนล้มทับ เขาก็พร้อมจะลุยจีบดะ ด้วยหน้าตาหล่อเหลาและเสน่ห์แพรวพราว ส่วนใหญ่มักทำเวลาได้ไว

   ใช่ว่ากฤตจะไม่มีข้อเสีย เขาเป็นพวกมองแต่ปัจจุบัน ทำวันนี้ตามใจสั่งมา ทำให้ไม่ค่อยรักษาคำพูด วันนี้พูดอีกอย่าง พรุ่งนี้ก็อาจพูดอีกอย่าง แถมดูเหมือนคนไร้อนาคต ไม่มีความมั่นคง ล่องลอยไปวันๆ แล้วยังขี้หึงมาก คนที่มักมีรอยยิ้มประดับ สามารถกระชากคอเสื้อต่อยคนได้แค่เพราะความหึงหวง นี่ละน้าคนร้อนตัว เพราะเขาชอบคุยเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น เลยกลัวกรรมจะตามสนอง ทำให้แม้จะเป็นฝ่ายตามจีบ แต่ก็เป็นฝ่ายที่โดนบอกเลิกเป็นประจำ ตอนแรกผมไม่สนใจเขาหรอก แต่คุณๆ ครับ การใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ของกฤต ทำให้ทุกวันมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ และนั่นก็ทำให้คนที่อยู่รอบตัวเขาพลอยมีความสุขไปด้วย

   กฤตตามจีบผมครึ่งปี

   แล้วผมก็ตอบตกลง

   เรื่องมาพลิกตรงนี้ เพราะพอผมเปิดตัวกฤต ภูมิก็ช็อก พ่อแม่ก็อ้าปากค้าง พี่พจน์รับไม่ได้ ทุกคนคิดว่าผมแค่คุยเล่นกับกฤต ไม่นานเดี๋ยวก็เบื่อ เหมือนที่เปลี่ยนกิจกรรมทำนู่นนี่นั่นได้ไม่เว้นวัน

   หนักสุดคือพ่อกับแม่หาว่ากฤตทำให้ผมเป็นเกย์

   อืม...พูดยากเนอะ หมายถึงเปลี่ยนความเชื่อพ่อกับแม่ที่เข้าข้างลูกตัวเองแบบผมไม่ผิด กฤตผิดเนี่ย พูดยากจริงๆ

   สรุปแล้วความสัมพันธ์ของเราเลยโดนคัดค้านสุดพลัง

   แล้วผมสนมั้ย

   แน่นอนว่าไม่

   ถ้ามีเหตุผลอย่างอื่นที่น่าฟัง ผมคงยอมฟังบ้าง แต่พออ้างเรื่องเกย์ไม่เกย์เนี่ย ตะแคงหูฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้น สุดท้ายพวกเราก็ดื้อคบกันได้สองปี ส่วนหนึ่ง เพราะผมเป็นพวกไม่ชอบตามจิกตามเฝ้า แม้กฤตจะนอกลู่นอกทาง แอบคุยกับคนอื่นบ้าง ก็เข้าใจว่าเขารักสนุก ซึ่งกฤตก็แค่คุยจริงๆ ในเมื่อเวลาผมออกไปไหน เขาเป็นฝ่ายที่ตามติดเสมอด้วยความขี้หึง ส่วนเวลาผมอยู่บ้าน เขาก็โทรรายงานเสมอตอนไปเที่ยว และชอบมากเวลาโดนผมดึงหูตอนเมาปลิ้น

   สรุปแล้วพวกเราเข้ากันได้ดีแบบน่าเหลือเชื่อ

   จนกระทั่ง...วันนั้น...

   




   “พิชญ์”

   กฤตมาหาผมตอนใกล้ปิดร้าน

   “ไม่ยกโทษให้จริงๆ เหรอ”

   “หากกลับกัน ถ้าฉันทำแบบนั้นบ้าง นายจะยกโทษให้มั้ยล่ะ”

   “ยกโทษให้สิ เพราะเรารักพิชญ์!”

   “ใช่ และเพราะฉันรักนาย ฉันถึงไม่ทำ” ผมสวนกลับ ยิ้มเย็น “สงสัยความรักของเราจะไม่เหมือนกันนะ นายพร้อมจะยกโทษให้เมื่อฉันทำผิด แต่โทษที เพราะฉันไม่แม้แต่คิดจะทำผิดด้วยซ้ำ ในเมื่อฉันรักนายจนไม่กล้าทำให้เสียใจ”

   “พิชญ์...” กฤตจนคำพูด

   ผมเงยหน้ามองฟ้า ถอนหายใจเฮือก

   เรื่องในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นน่ะเหรอ

   หากผมกับกฤตเริ่มต้นเหมือนซีรีส์รัก จุดจบก็ไม่ต่างกับละครหลังข่าว

   คำถาม : คุณจะทำหน้ายังไงหากเปิดห้องเข้าไปเจอแฟนกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับผู้ชายคนอื่น

   ผมไม่รู้นะว่าแต่ละคนแสดงออกแบบไหน อาจจะกรีดร้อง ร้องไห้ วิ่งหนี

   แต่สำหรับผม ซึ่งไม่แม้แค่จะคิดว่าจะเจอกับตัวเอง เลือกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน

   หัวใจด้านชาจนไม่มีน้ำตา ผมถ่ายจนพวกเขาเสร็จกิจจึงค่อยเดินออกมา จากนั้นก็ส่งคลิปนั้นให้กฤต พร้อมกับประโยคบอกเลิก

   หากจะอ้างว่าผมเข้าใจผิด ก็จงกลับไปดูคลิปซะ ว่าเข้าใจผิดตรงไหน

   หากจะอ้างว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ก็จงกลับไปดูคลิปซะ ว่าตั้งใจทำขนาดไหน

   หากจะอ้างว่าโดนมอมยา ก็จงกลับไปดูคลิปซะ ว่าสติดีเลิศแค่ไหน

   กฤตติดค้างคำอธิบาย ซึ่งผมไม่อยากฟัง ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ต่อหน้า ต่อตา ยังไงความจริงที่ว่าเขานอกกายก็ไม่เปลี่ยน ไม่ว่าใจเขาจะบอกว่ารักกันยังไง ผมก็หมดแรงจะรักเขาแล้ว

   และนั่นคือสาเหตุที่ผมไม่แตะโทรศัพท์ตัวเองอีกเลย

   หลังบอกเลิกผมก็ลบคลิป แล้วขายโทรศัพท์ทิ้ง ขยะแขยงไม่อยากจะหยิบจับ

   “เรื่องในวันนั้น จริงๆ แล้ว...”

   “ยังมีอะไรจริงไปกว่าภาพในคลิปอีกเหรอ” ผมแค่นยิ้มประชด “ให้มันจบแค่นี้เถอะกฤต”

   แฟนเก่าของผมน้ำท่วมปาก เขาคงอยากแก้ตัว ว่าแม้จะไปนอนกับคนอื่น แต่ก็แค่วันไนต์แสตน เทียบกับความรู้สึกที่เขามีกับผมไม่ได้ แต่โทษทีเถอะ ใครยอมรับได้ก็ยอมรับไป ซึ่งไม่ใช่กับผมแน่นอน

   ความเงียบเข้าแทรก อึดอัดและแสนจะกดดัน ผมจ้องตากฤต ยืนยันว่าไม่มีวันเปลี่ยนความคิด สายตาที่มองนั้นไม่เหลือความอ่อนโยนรักใคร่หรือยอมให้อภัยเวลาเขาไม่รักษาคำพูดหรือเมาปลิ้นจนลืมนัดของเรา กฤตคล้ายพยายามจะอธิบายอีกครั้ง อยากจะบอกว่ารักผมเหมือนที่เคยพร่ำบอกมาตลอด แต่สุดท้าย เขาก็ปิดปาก

   เพราะมันไม่มีประโยชน์

   และนั่นเป็นก็ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาร้องไห้

   เริ่มจากสีหน้าตกใจ กระวนกระวาย จากนั้นก็กลายเป็นสิ้นหวัง กฤตยกมือปิดปาก ก่อนจะปิดตา จากนั้นร่างกายก็ค่อยๆ สั่นสะท้าน พร้อมเสียงสะอื้นแผ่วเบา

   และเมื่อเขาเปิดหน้า น้ำตาก็ทะลักล้น เหมือนกลั้นมานาน ฝืนทนมานาน อาจเพราะก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าตัวเองมีหวัง หรือไม่ก็กำลังหลอกตัวเอง ว่าสุดท้ายแล้วเราจะกลับเป็นเหมือนเดิม

   กฤตเป็นคนแบบนี้ เขามักคิดในแง่ดี ในแง่ที่เข้าข้างตัวเอง

   และเมื่อไอ้สิ่งที่พยายามคิดนั้นไม่เป็นจริง กฤตก็รู้ตัวสักทีว่าผมไม่มีวันกลับไป

   เห็นผู้ชายที่เคยรักร้องไห้จะจนตัวโยนตรงหน้า แสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาว่าเสียใจ ผมเองก็ปวดใจไม่ต่างกัน เพราะผมไม่ได้เกลียดเขา แม้เราจะเลิกกัน แต่ไม่ถึงขึ้นสาปแช่งเผาผี ผมก็แค่...หมดรัก และไม่คิดที่จะกลับไปรัก

   ผมกอดกฤต

   ตบบ่าเขาเบาๆ ปลอบโยนเขา เพราะคนที่มักยิ้มแย้มคนนี้ ร้องไห้ได้น่าสงสารมากเหลือเกิน

   แต่กฤตก็คือกฤต

   ผมเชื่อว่าพอเขาทำใจได้ เจอเป้าหมายใหม่ ก็คงวิ่งตามจีบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   ผู้ชายที่หาความสุขให้ตัวเองเก่งอย่างเขา ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเอง บางทีก็น่าอิจฉาแกมหมั่นไส้

   “โอ๊ยๆๆ”

   พลันคนที่ซบหน้าอ้อนผมตัวบิดตามแรงบิดหู เพราะจู่ๆ ผมก็นึกอยากแก้เผ็ดขึ้นมา แม้จะโล่งใจที่เขาคงไม่เศร้านาน แต่ไอ้ภาพวิ่งร่ากระดิกหางเข้าหาคนอื่นก็น่าหงุดหงิด

   “พิชญ์จ๋า...” กฤตน้ำตาร่วงอีกหลายเผาะ ครั้งนี้น่าจะเพราะความเจ็บล้วนๆ

   ผมถอนหายใจเฮือก

   “ขอโทษนะกฤต”

   พลันแฟนเก่าผมทำหน้าแอ๊บแบ๊วได้น่าถีบ

   “ขอโทษอะไร เราต่างหากที่ต้องขอโทษ”

   “ฉันขอโทษ” ผมยืนยันคำนั้น มองหน้ากฤต ลูบใบหน้าหล่อเหลาที่มองไม่เคยเบื่อ ก่อนจะผลักออกจนอีกฝ่ายแทบล้มหงาย

   “เดี๋ยวก่อนพิชญ์ ขอถามคำถามสุดท้าย”

   “อะไรอีกล่ะ” ผมกอดอกแบบจะพูดอะไรก็พูดมา

   “ที่หนีออกจากบ้านมาเปิดร้านชานม เป็นเพราะเรารึเปล่า”

   “ไม่ใช่” ผมตอบชัดถ้อยชัดคำ “และที่ฉันเปิดร้านชานมก็เพราะรักชานม ไม่ได้เกี่ยวกับใครเลยด้วย”

   กฤตทำหน้างง แต่สุดท้ายก็ยิ้มออก เป็นรอยยิ้มที่เคยทำให้ผมยิ้มตามนับครั้งไม่ถ้วน

   “งั้นขอให้โชคดีกับร้านชานมนะ”

   เขาเป็นคนแรกที่เชื่อว่าผมรักชานม ในที่สุด! ขอบคุณพระเจ้า!

   แล้วผมกับกฤตก็จบกันเพียงเท่านี้

   .........

   .....

   ทุกคนครับ ผมจับคนแอบฟังได้ ควรจะจัดการยังไงกับเขาดี

   “อยากซ้อนมอ’ไซค์มั้ย”

   ใครสั่งใครสอนให้ชวนไปเลี้ยงข้าวด้วยประโยคแกมหาเรื่องอย่างนี้

   “เอาสิ”

   ...แล้วใครสั่งใครสอนให้ผมใจง่ายขนาดนี้เนี่ย

   เอาเถอะ วันนี้ผมเหนื่อยจนไม่อยากปั่นจักรยาน ซ้อนมอเตอร์ไซค์คุณคนแรกก็ดี แถมลาภปากด้วย

   ว่าแต่เขามายืนรอทำไม เราไม่ได้นัดกันสักหน่อย แถมยังยืนแอบอยู่ตั้งนาน รอจนกฤตกลับออกจากซอยแล้วถึงค่อยเผยตัว

   คำถามที่ไม่ได้ถามออกไป ผมสวมหมวกกันน็อก มองแผ่นหลังตรงหน้าอย่างลังเลนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆ...โอบเอวเขาทั้งที่ปกติจะจับผ่านชายเสื้อ

   คุณคนแรกสะดุ้ง

   “จับดีๆ” ก่อนจะตีเนียนย้ำเสียงดุ ให้ผมโอบเอวแน่นขึ้น ก่อนจะเริ่มสตาร์ทรถ

   และขับด้วยความเร็วเต่าคลาน

   ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไร ผมรักความเงียบเวลาอยู่กับเขาเสมอ แม้จะเกลียดความเงียบเวลาอยู่คนเดียวก็ตาม

   การมีใครสักคนในวันแบบนี้ย่อมดีกว่าอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย

   จริงมั้ยล่ะ

   

   ----------------

   และแล้วก็จบเคสของกฤตค่ะ

   เรื่องราวของพิชญ์กับกฤตนั้นเหมือนนิยายรักหวานแหววเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องราวไม่จบแค่ตอบตกลงคบหากัน แต่มีต่อจากนั้นและเป็นเรื่องยากจะทำใจ

   แน่นอนว่ายังมีรายละเอียดแอบแฝงอีกว่าทำไมกฤตถึงนอกกาย ซึ่งสาเหตุนั้นจะค่อยๆ เฉลยไปกับเคสของพี่พจน์ค่ะ

   ทุกอย่างร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ส่งผลให้พิชญ์มาเปิดร้านชานมไข่มุก

   ถ้าเกิดพิชญ์เจอกับคุณคนแรกสมัยเรียน ตอนที่ยังคึกคะนองทำตามใจตัวเองอยู่ เชื่อได้เลยว่าน้องไม่มีวันสนใจ แต่เมื่อเป็นตอนนี้ เวลานี้

   กลับกลายเป็นคนที่ใช่

   คนที่ใช่...บางครั้งก็ต้องเจอในจังหวะและเวลาที่ใช่เนอะคะ

   

    #ผมกับชานมไข่มุก

   

เพจ : [ur=https://www.facebook.com/MajaYnaja/l]มาจะกล่าวบทไป[/url]
Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
พิชญ์ เด็ดขาดมากกับกฤต
แต่ใจอ่อนกับภูมิ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 เมื่อไหร่จะรุ้ชื่อคุนคนแรก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด