ตอนที่12
“ กอล์ฟ..พี่ขอถามอะไรหน่อย ? ” เสียงพี่แป้งดังขึ้นมาจากข้างในบ้านทำให้กอล์ฟต้องหันกลับไปดู
“ พี่แป้ง!! พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ” กอล์ฟถามด้วยความแปลกใจเขาไม่คิดว่าแป้งจะกลับมาบ้านเร็วขนาดนี้
“ ถ้ากลับมาช้ากว่านี้ก็อดเห็นอะไรดีๆน่ะสิ.. ” แป้งพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
“ พี่อยากรู้ว่ากอล์ฟกับแบงค์..เป็นอะไรกันแน่..? ” แป้งถามพร้อมกับยืนกอดอกจ้องมายังใบหน้าของกอล์ฟ
“ ทำไม...ทำไมพี่แป้งถึงถามอย่างนั้นล่ะครับ..? ” กอล์ฟหน้าซีดพูดตะกุกตะกัก
“ ก็พี่สังเกตว่าเรา..จะเป็นห่วงเป็นใยเจ้าแบงค์มันมากเป็นพิเศษ ” แป้งพูดจบก็เดินมาตบไหล่กอล์ฟเบาๆ
“ ยอมรับมาซะเถอะนะ...ยังไงก็ปิดบังพี่ไม่ได้หรอก ” แป้งพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ เพื่อให้กอล์ฟลดความประหม่าลง
“ ครับ...เราสองคนเป็นแฟนกันครับ ” กอล์ฟตอบกับพี่สาว
“ เห็นมั๊ย...พี่คิดแล้ว..ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ ด้วย ” แป้งร้องออกมาด้วยความดีใจที่สิ่งที่ตนได้คาดคิดเอาไว้มันเป็นความจริง
“ ยังไงก็อย่าให้แม่พี่รู้ก็แล้วกันนะ...ที่แม่เลิกกับพ่อก็เพราะสาเหตุนี้เนี่ยแหละ ” แป้งพูดน้ำเสียงเศร้า
“ พ่อของพี่...เค้าไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับแม่ เพราะว่าเค้ามีคนที่เค้ารักอยู่แล้ว และคนๆ นั้นก็เป็นผู้ชาย... ” แป้งพูดเสียงสั่นๆเพราะพยามกลั้นน้ำตาเอาไว้
กอล์ฟยืนนิ่ง..อึ้งไปชั่วขณะเขาไม่เคยคิดเลยว่าที่ป้าของเขาเลิกกับลุง จะเป็นเพราะสาเหตุนี้
“ ไม่น่าหล่ะ...ป้าถึงไม่ชอบให้เราอยู่ใกล้ๆกับแบงค์ ” กอล์ฟคิดในใจ
“ พี่ขอให้เราสองคนรักกันนานๆ นะ...มีอะไรก็ใช้เหตุผลคุยกัน ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพี่ได้นะ.. ” แป้งบอกน้องชายพร้อมรอยยิ้ม แล้วก็เดินหายเข้าไปในบ้าน
“ ครับพี่แป้ง..กอล์ฟจะดูแลคนที่กอล์ฟรักให้ดีที่สุด.. ” กอล์ฟเปรยกับตัวเองเบาๆ
ใกล้ช่วงสอบปลายภาคแล้ว กอล์ฟกับแบงค์และก็เพื่อนๆทุกคนยังคงตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือ เพื่อที่จะเตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบที่ใกล้จะมาถึงในไม่ช้านี้
“ อ้าวๆๆ เงียบๆ ครูมีข่าวดีจะมาบอก... ” อาจารย์ฉวีวรรนพูดเสียงดัง เพื่อให้พวกลิงทโมนทุกตัวที่อยู่ในห้องเงียบเสียงลง
“ ห้องของเรา..ได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการแสดงและเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมนะ... ” พออาจารย์พูดจบ เสียงปรบมือแล้วก็เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของนักเรียนในห้องก็ดังขึ้นโดยที่เจี๊ยบ แบงค์ และก็ป่าน ยังนั่งยิ้มไม่หุบกับความสำเร็จที่ได้รับจากการทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจของตน
“ เอ่อ...แล้วไหนละคะรางวัล ? ” เจี๊ยบถามขึ้นเมื่อไม่เห็นอาจารย์มีอะไรติดไม้ติดมือมาด้วยเลย
“ รางวัล..คือเงินสดห้าพันบาทจ๊ะ ”
“ โห...ตั้งห้าพันแน่ะ! ! ” ป่านร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ อาจารย์จะเอาเงินนี้ไปช่วยสมทบทุนเลี้ยงอาหารกลางวันน้องๆ ที่โรงเรียนแถวนอกเมืองพวกเธอเห็นด้วยมั๊ย... ”
“ โห...อาจารย์..เอามาสมทบทุนให้หนูดีกว่าค่ะเงินตั้งห้าพัน.. ” พอเจี๊ยบพูดจบเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ทุกคนในห้องก็ดังตามมา
“ นี่..ยัยสุรัตนาวี เธอนี่งกจริงๆ เลยนะ ” อาจารย์ต่อว่าเจี๊ยบพร้อมกับรอยยิ้ม
ฝ่ายต้อมก็ยังคงนั่งซึมอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างอาคารเรียน เพราะมัวแต่คิดกังวลเกี่ยวกับเรื่องของแบงค์..
“ เฮ้ย...ไอ้ต้อม..เป็นอะไรไปว่ะนั่งหน้าหงอยเชียวนะมรึง ” โก้เดินมานั่งลงข้างๆเพื่อนแล้วถามด้วยความห่วงใย
“ ก็น้องแบงค์น่ะสิวะ...ยังไม่ตกลงเป็นแฟนกับข้าซักที.. ” ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
โก้รู้สึกอึดอัดใจมากที่ได้ยินคนที่ตัวเองรัก กำลังพูดถึงคนอื่น แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะยังมีคำว่า “ เพื่อน ” เป็นเส้นกั้นกลางระหว่างเขากับต้อมอยู่..
" ไอ้ต้อม..ข้าว่าแกตัดใจซะเถอะนะ...ยิ่งทุ่มเทให้เขามากก็ยิ่งเจ็บกลับมามากนะเว้ย.. ” โก้ปลอบใจเพื่อน แต่ก็เป็นการปลอบใจตัวเองทางอ้อมไปด้วย
“ แต่ข้ารักเค้า...ข้าเชื่อว่ามันต้องมีซักวัน..ที่แบงค์จะยอมรับข้า ” ต้อมขึ้นเสียงใส่โก้
ฝ่ายโก้เมื่อได้ยินต้อมขึ้นเสียงใส่ตนอย่างนั้นก็ถึงกับน้ำตาซึม แต่ก็พยามเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้ต้อมรู้..
“ นี่ข้าคงเปลี่ยนใจเอ็งไม่ได้จริงๆ สินะ... ” โก้พูดเสียงสั่นพยามเก็บกดความเสียใจเอาไว้ในอกของตน
“ ยังไงข้าก็จะไม่ยอมตัดใจ...จนกว่าข้าจะได้ยินจากปากของแบงค์ว่าเค้าไม่ได้รักข้า ” ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
โก้กลั้นน้ำตาไม่ไหวจึงรีบวิ่งหนีต้อมออกไป ทำให้ต้อมมองตามไปอย่างงงๆแต่เขาก็ไม่ได้ลุกขึ้นตามเพื่อนไป จึงได้แต่นั่งมองดูโก้ที่วิ่งออกไปอย่างเงียบๆ
“ เดี๋ยวนี้ไอ้โก้มันเป็นอะไรของมันนะ... ” ต้อมครุ่นคิดในใจ
“ นี่แบงค์...แกเล่นเปียโนเป็นใช่มั๊ย ? ” ป่านถามขึ้น ในขณะที่ทุกคนในกลุ่มยังคงนั่งลอกการบ้านของไอ้แว่นอย่างขะมักเขม้น
“ เออ...แล้วทำไมเหรอวะ ” แบงค์วางมือจากการลอกการบ้าน แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามเพื่อนสาวตาคม
“ ก็ข้าอยากให้แกเล่นโชว์ในงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ ม.6 ซะหน่อย ”
“ ฮะ!! เล่นโชว์ในงานเนี่ยนะ! ” แบงค์ร้องออกมาด้วยความตกใจ
" ไอ้ป่าน...นี่แกหาเหาใส่หัวให้ข้าอีกแล้วนะ ” แบงค์ตัดพ้อกับเพื่อน
“ นะ..แบงค์นะ ข้าไหว้ล่ะนะ ” ป่านพูดพร้อมกับพนมมือลกๆเพื่อเป็นการขอร้อง
“ แบงค์ยังไงก็ช่วยห้องเราหน่อยนะ...เพราะว่าห้องเรายังไม่ได้ส่งการแสดงอะไรเลยนะ อีกอย่างป่านก็เป็นหัวหน้าห้องด้วยถ้าไม่ยอมส่งมีหวังโดนดุแน่ๆ ” ต้าช่วยพูดอีกแรง
“ เออๆ...ก็ได้ๆ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ” แบงค์พูดเสียงเรียบ
“ แล้วพี่จะรอฟังนะ... ” กอล์ฟพูดหยอกน้องชายพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ เออ...ปิดเทอมนี้ใครมีแผนจะไปเที่ยวไหนบ้างมั๊ยวะ ? ” ไอ้แว่นที่นั่งเงียบอยู่นานถามกับเพื่อนๆ ….. แต่คำตอบที่ได้รับจากเพื่อนๆก็คือการส่ายหน้าไปมา …..
“ เออ...เอางี้สิไปเที่ยวที่สวนองุ่นของน้าข้าเอามั๊ย ? ” เจี๊ยบเสนอกับเพื่อนๆ
" ไอ้เจี๊ยบ...จะไปทำไมวะสวนองุ่น ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย ”
ไอ้แว่นคัดค้านข้อเสนอของเจี๊ยบ
“ นี่! ไอ้แว่น...ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ สวนองุ่นของน้าข้าที่จะพาไปเนี่ย..มันไม่น่าสนก็จริงนะ...แต่ถ้าข้าจะบอกว่ามันอยู่ใกล้กับน้ำตกมวกเหล็กเลยล่ะ...จะสนมั๊ย ? ”
“ น้ำตกเหรอ!...เจี๊ยบเราอยากไป ” แบงค์รีบตอบกับเพื่อนทันทีโดยไม่ต้องคิด
“ แต่เราเกรงใจน้าแกว่ะ...อีกอย่างช่วงนี้ก็ยิ่งไม่ค่อยมีตังค์ด้วย ” ป่านบอกกับเจี๊ยบ
“ ไม่เป็นไรเว้ย...งานนี้เดี๋ยวเจ๊เลี้ยงเอง.. ”
“ เย้!! ” เสียงทุกคนในกลุ่มตะโกนร้องพร้อมกันด้วยความดีใจ จนทำให้คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอื่นๆหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียว
“ เฮ้ย..พวกแกนี่ทำตัวเป็นเด็กบ้านนอกไปได้ ” กอล์ฟพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ กับการกระทำของเพื่อนๆ
“ ไม่ต้องมาว่าแต่คนอื่นเลยนะ...มรึงก็เหมือนกันนั่นแหละ ” ต้าพูดย้อน
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายแล้ว ทุกคนก็ตั้งใจทำข้อสอบอย่างเต็มที่เพราะว่าวันพรุ่งนี้พวกเขาก็จะได้หยุดพักผ่อนยาวแล้วก็ไม่ต้องมาเรียนอีกหลายเดือน..
" ไอ้แบงค์...นี่แกดูตื่นเต้นจังเลยนะ ถามจริงเหอะ..ไม่เคยไปเที่ยวน้ำตกเหรอไงวะ ? ” ป่านถามกับแบงค์ที่จะดูตื่นเต้นกับการไปเที่ยวครั้งนี้เป็นพิเศษ
“ ก็ข้าเคยอยู่แต่ภูเก็ต...จะมีน้ำตกที่ไหนให้เที่ยววะ ”
“ เออ...ก็จริงของมันนะ เพราะแถวนั้นก็มีแต่ทะเล ” เจี๊ยบพูดขึ้นทั้งๆที่ยังเคี้ยวขนมอยู่เต็มปาก
“ เออ..แบงค์...ข้าขอถามอะไรหน่อยสิ ? ” ป่านถามกับแบงค์ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ ทำไม...มีอะไรเหรอ ? ” แบงค์ถามกลับด้วยความสงสัย
“ ตกลงแกคิดยังไงกับพี่ต้อมวะ ? ” ป่านถามแบงค์ด้วยสีหน้าจริงจัง
“ ข้าไม่เคยคิดกับพี่ต้อมเกินคำว่าพี่ชายเลยนะ.. ” แบงค์ตอบเพื่อนพร้อมกับรอยยิ้ม
“ แต่ข้ากลัวพี่ต้อมเค้าจะไม่คิดเหมือนแกน่ะสิ... เพราะดูว่าพี่เค้าจะจริงจังกับแกมากเลยนะ.. ” เจี๊ยบบอกความเห็นของตนกับเพื่อนๆ
“ ก็เรื่องนี้แหละ..ที่ข้ายังกลุ้มใจอยู่ ” แบงค์พูดน้ำเสียงอ่อนลง เพราะว่าตอนนี้เขายังหาทางออกไม่ได้เลยว่าจะบอกต้อมยังไง เพื่อจะไม่เป็นการทำร้ายจิตใจของต้อมจนเกินไป
“ ถ้างั้น...แกก็บอกพี่เค้าไปตรงๆเลยสิวะ ว่าแกไม่ได้ชอบเค้า ” เจี๊ยบบอกกับแบงค์ที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ตรงหน้าของตน
“ มันจะไม่โหดไปเหรอวะเจี๊ยบ.. .”
“ แล้วจะทำยังไงล่ะ...หรือว่าแกมีวิธีที่มันดีกว่านี้ ? ”
“ ไม่มีหรอก...ยังคิดไม่ออกเลย ” แบงค์ตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมาด้วยความเหนื่อยใจ
หลังจากที่ต้อมได้กลับไปนั่งคิดนอนคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า เขาควรจะถามความรู้สึกของหัวใจกับคนพิเศษในหัวใจของตนซักที วันนี้ต้อมจึงตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า เขาจะต้องถามกับแบงค์ให้รู้อย่างแน่ชัดไปเลยว่าแบงค์คิดยังไงกับตนกันแน่ก่อนที่มันจะสายเกินไป
“ น้องเจี๊ยบครับ ! ” เสียงเรียกชื่อของตนที่ดังมาจากข้างหลัง ทำให้เจี๊ยบต้องหันกลับไปมอง
“ อ้าว! พี่ต้อม...มีอะไรเหรอคะ ? ” เจี๊ยบพูดกับเด็กหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ น้องเจี๊ยบครับ...คือเรื่องวันนั้นพี่ขอโทษนะครับ ” ต้อมก้มหน้าสำนึกผิด
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..เจี๊ยบลืมมันไปหมดแล้วแหละ ว่าแต่พี่ต้อมมีอะไรจะพูดกับเจี๊ยบอีกเหรอคะ ”
“ คือพี่มีเรื่องให้น้องเจี๊ยบช่วยหน่อยครับ. ”
“ มีเรื่องให้เจี๊ยบช่วย...เรื่องอะไรเหรอคะ ? ” เจี๊ยบถามด้วยความสงสัย
“ เดี๋ยวนี้พี่รู้สึกว่าแบงค์เค้ากำลังพยามหลบหน้าพี่...พี่ก็เลย.. ”
“ อยากให้เจี๊ยบช่วยไปบอกแบงค์ให้ว่า พี่ต้อมมีธุระจะคุยกับมันใช่มั๊ยคะ.. ” เจี๊ยบพูดแทนต้อม
“ ครับ ” ต้อมพยักหน้า
“ เอาไว้เดี๋ยวเจี๊ยบจะบอกแบงค์มันให้นะคะ...วันนี้หลังสอบเสร็จเจอกันที่ชมรมปิงปองนะคะ ” เจี๊ยบพูดจบแล้วก็เดินจากไป
“ แบงค์..เมื่อไหร่นะแกถึงจะกล้าบอกพี่ต้อมไปซักที ว่าแกไม่ได้คิดอะไรกับพี่เค้า ” เจี๊ยบคิดในใจในขณะที่เดินกลับมายังห้องเรียน
“ แบงค์..วันนี้ข้าเจอพี่ต้อมด้วยว่ะ ” เจี๊ยบเดินเข้ามาบอกกับแบงค์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ
“ เออ...แล้วไงวะ ? ” แบงค์ถามอย่างไม่ยินดียินร้ายเท่าไรนัก
“ พี่เค้าฝากข้ามาบอกกับแกว่า..เค้ามีเรื่องจะคุยกับแกเย็นนี้..ที่ชมรมปิงปอง แล้วแกก็ต้องไปตามนัดแล้วห้ามหนีกลับบ้านก่อนด้วย ” เจี๊ยบอธิบายกับเพื่อนยาวเหยียด
“ เจี๊ยบแกว่าข้าจะบอกพี่เค้าดีมั๊ยวะ.. ” แบงค์ถามเจี๊ยบด้วยสีหน้ากังวล
“ ถ้าถามความเห็นข้านะ...ข้าว่าแกบอกไปตรงๆ ตอนนี้เลยดีกว่านะ ดีกว่าให้พี่เค้ารู้เองทีหลัง ข้าว่ามันจะทำให้พี่เค้าจะเสียใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ”
“ แต่ข้าไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี... ” แบงค์พูดเสียงเศร้า
**********************************************************************************************************************************