ดับสามราศี
มาร์คัสและนาซีซัสมุ่งหน้ากลับไปที่ตึกเอ็มไพร์สเตรทเพื่อจะได้สมทบกับคนอื่นๆ
ระหว่างทางทั้งสองคนเห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างที่ผิดปกติ
มีการเคลื่อนย้ายวัตถุบางอย่างไปที่หมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากตึกเอ็มไพร์สเตรทเพียงยี่สิบกิโลเมตร
ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะลองสืบดูก่อนที่เผื่อพวกโซดิเอคจะวางแผนอะไรไว้
ทั้งสองคนติดตามวัตถุที่ถูกขนมาอย่างลับจนถึงหน้าหมู่บ้าน
หมู่บ้านวิญญูชน
ป้ายบอกชื่อหมู่บ้านขนาดใหญ่ตอนนี้ห้อยจนเหมือนจะตกลงมาเมื่อไหร่ก็ได้
หน้าหมู่บ้านมีเวรยามเฝ้าอยู่เพียงสี่คน แต่ทั้งสี่คนหาได้ด้อยฝีมือไม่
จากการตรวจจับพลังของมาร์คัสทำให้รู้ว่าทั้งสี่คนน่าจะอยู่ในระดับ32ดาวเล็ก
“แค่หมู่บ้านเล็กๆ ถึงกับต้องใช้32ดาวเล็กมาเฝ้าเชียวหรือ” มาร์คัสส่งเสียงบอกนาซีซัสผ่านพลังเนกิส
“ข้าว่าสิ่งที่ขนมาต้องมีความสำคัญมากแน่ๆ เราลองสืบดูก่อนจะดีกว่านะ” นาซีซัสเสนอ
“ข้าก็คิดเหมือนกัน แต่เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่ามีใครอยู่อีกบ้าง”
หลังจากตกลงกันได้ทั้งสองคนซ่อนพลังเนกิสของตนเองไว้จนยากที่จะจับสัมผัสได้
ท่าวิหกเล่นลมแปลงกับท่ามารไร้ลักษณ์แปลงถูกใช้ลอบเข้าในหมู่บ้าน
ต่อให้32ดาวเล็กเก่งขนาดไหนก็ยากที่จะจับการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนได้
ทั้งสองคนลอบเข้าไปแอบในบ้านหลังเล็กกลางหมู่บ้านใกล้จุดที่มีการนำวัตถุประหลาดมาเก็บไว้
ตรงที่เก็บวัตถุนั้นยิ่งมีเวรยามเฝ้าอย่างแน่นหนากว่าเดิม 7 ใน 32 ดาวเล็กคอยดูแลอยู่ลอบๆ
และทั้งสองคนยังจับพลังที่รุนแรงได้จากภายในอีกสามคน คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่ม 12 ราศี
ของพวกนี้มีความสำคัญอย่างไรกันถึงได้ต้องมีการคุ้มกันมากขนาดนี้
มาร์คัสตั้งสมาธิเพื่อฟังคนข้างในสนทนากัน ตั้งแต่เขาบรรลุพลังขั้นสูงเขาสามารถได้ยินสิ่งรอบข้างในระยะ 200 เมตรได้
“ถ้าเราประกอบอาวุธชิ้นนี้เสร็จเมื่อไหร่ พวกเราก็จะได้ครอบครองที่นี่เสียที”
“แต่ว่าสิ่งนี้มันยังไม่สำเร็จดีเลยนี่นา ไม่น่ารีบเอาออกมาใช้เลยนะ”
“ทำยังไงได้ล่ะท่านเจ้าปฐพีเป็นคนสั่งมาเองนี่นา พวกเราอย่าทำให้พลาดแล้วกัน ไม่งั้นท่านเจ้าปฐพีมาถึงได้ตายไม่ดีแน่ๆ”
ข้อความที่ได้ยินทำให้รู้ว่าสิ่งที่ขนมาเป็นอาวุธร้ายแรงเพื่อมาทำลายพวกเขา
“ข้ารู้แล้วมันคืออะไรเห็นทีเราจะต้องกลับช้าเสียแล้ว” มาร์คัสหันไปบอกนาซีซัส
“ข้าเองก็ได้ยินแล้ว” นาซีซัสตอบทำเอามาร์คัสแปลกใจ นี่เขาก้าวหน้าถึงขั้นไหนกันแน่นะ
“ข้าว่าเรารอจนมืดก่อนแล้วลงมือทำลายของชิ้นนี้ซะ ก่อนที่มันจะประกอบสำเร็จ” มาร์คัสเสนอแผน
“ข้าเห็นด้วย ถ้าปล่อยไว้พวกเราคงล้มตายกันอีกมาก”
กลางดึก
ฟ้าว!! ฟ้าว!!
ทั้งสองคนรอบเข้าไปในตึกที่เก็บของหลังจากที่เห็นโอกาส
“เจ้าไปทางซ้าย ข้าไปทางขวา ถ้ามีอะไรส่งสัญญาณแจ้งทันที” มาร์คัสบอกนาซีซัสก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกกันออกไป
มาร์คัสขึ้นมาชั้นสองทั้งชั้นเป็นพื้นที่โล่ง มีกล่องวางอยู่ตรงกลางหลายใบ
เขารีบเข้าไปสำรวจอย่างรวดเร็ว
ฟุบ!! ฟุบ!!
เข็มพิษจำนวนมากพุ่งออกมาจากกล่องทันทีที่เปิดออก
ฮึบ!!
มาร์คัสกระโดดถอยหลังพร้อมกับวาดมือเป็นวงกลมด้านหน้าตนเอง
เกิดกระแสลมหมุนวนเข็มพิษทั้งหมดมาไว้ที่ตรงหน้าเขา ก่อนที่จะผลักเข็มพิษออกไปนอกหน้าต่าง
พรึบ!!!
แสงไฟทั้งชั้นสว่างขึ้นอย่างทันท่วงที
“ท่าทางเราจะจับหนูตัวใหญ่ได้แล้วแน่ๆ ท่านพี่ทอรัส” ชายร่างเล็กผมสีน้ำแดงซีดเดินออกมาจากมุมห้องพร้อมกับอีกสองคน
“ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนั้นหรือว่าเจ้ารู้ว่ามันเป็นใคร” ชายร่างสูงใหญ่สวมเสื้อคลุมยาวสีแดงต่างจากผมยาวสีขาว
“ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะท่านพี่ทอรัส ข้าเลยพบเขามาแล้ว คนคนนี้คือราชันย์มาร์คัสท่านพี่”
เมื่อเอ่ยชื่อออกมา ทั้งสองคนถึงกลับหันกลับมามองทันที
“อควอรีอัส ซาจิทารัส เห็นทีจะประมาทไม่ได้เสียแล้ว” ทอรัสพูดเตือนทุกคน
มาร์คัสเมื่อรู้ทั้งสามคนเป็นใครก็ไม่ประมาทเช่นกัน
ทั้งสามคนหยิบอาวุธประจำตัวออกมา
ทอรัสหยิบอาวุธขนาดใหญ่จนยากที่จะเรียกว่าอะไรได้ เพราะถ้าเรียกกระบี่ก็ต้องเล็กกว่านี้ ถ้าเรียกดาบก็ต้องมีคมเดียว เป็นอาวุธประหลาดอย่างหนึ่ง
ซาจิทาริอัสหยิบถึงมือที่ทำจากทองคำขาวผสมโลหะพิเศษออกมาสวมทั้งสองข้าง พร้อมหยิบหน้ากากโหละมาสวมไว้
อควอรีอัสสร้างไม้กางเขนน้ำแข็งขนาดใหญ่จากน้ำที่พกไว้รอบเอว
มาร์คัสหยิบกระบี่เทวะดารามาไว้ในมือ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะใช้วิชาใหม่กับกระบี่จริง ซึ่งเขาเองยังยากที่จะจินตนาการถงความรุนแรงของมันได้
“ลุย!!” ทอรัสสั่งพร้อมฟาดอาวุธยักษ์เข้าใส่ รังสีทองรูปครึ่งวงกลมพุ่งเข้าใส่มาร์คัส
อีกสองคนที่เหลือกระจายตัวออกไปซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว
มาร์คัสวาดกระบี่เป็นวงกลมตรงหน้าเกิดโล่พลังสีม่วงขึ้นกันเขาทันที
“คิดว่าจะทำได้ง่ายขนาดนั้นหรือไง หรือเจ้าลืมพวกเราไปแล้ว” อควอรัสพูดพร้อมกับแผ่พลังไอเย็นไปที่โล่พลังของมาร์คัส
เกร็ก!!
โล่พลังแข็งตัวพร้อมกับแตกออกอย่างง่าย รังสีหมัดสีทองพุ่งเข้าหาจากทางด้านซ้าย
รังสีครึ่งวงกลมกรีดพื้นจนเป็นรอยลึกขณะพุ่งเข้าหามาร์คัส
ถึงจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาร์คัสยังคงความเยือกเย็นไว้ได้
เขาก้าวถอยหลังไปสามก้าวพร้อมแล้วหยุด
“ราชันย์ไร้ปราณี”
มาร์คัสหมุนตัวเป็นวงกลมพร้อมกับแทงกระบี่ออกไปยังคนทั้งสามที่ล้อมตนอยู่
ริ้วกระบี่สีม่วงอ่อนหมุนวนเป็นวงแหวนจำนวนมากออกมา
ทั้งสามราศีรีบรั้งท่าโจมตีกลับอย่างรวดเร็วเพื่อเปลี่ยนเป็นตั้งรับแทน
เพราะแถบริ้วกระบี่ยากที่จะตั้งรับทั้งๆ ที่ยังโจมตีอยู่
ตูม!! ตูม!! ตูม!!
วงแหวนริ้วกระบี่เข้าปะทะทั้งสามคน ที่เหลือพุ่งชนกำแพงตึกรอบข้างจนพังทลายลงมา
หลังคาชั้นสองถล่มลงมาเพราะความรุนแรงจากพลังของมาร์คัส
มาร์คัสทะยานตัวหลบออกมาก่อนที่หลังคาจะพังลงมา แต่ทั้งสามราศียังอยู่ในนั้น
ตูม!!!!
เสียงซากปรักหักพังระเบิดออก ทั้งสามคนทะยานออกมา โดยที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยสร้างความแปลกใจให้มาร์คัสอย่างมาก
แต่เมื่อสังเกตก็จะเห็นเกร็ดน้ำแข็งหล่นลงมาจากเสื้อผ้าของทั้งสามคน
“โล่น้ำแข็งนี่แข็งแกร่งไม่เบานี่นา” มาร์คัสชม
“เราสามคนรวมมือกันเจ้าก็อย่าดูถูกให้มากนักเลย” อควอรีอัสพูดพร้อมกับปล่อยไอเย็นออกมาปกคลุมพื้นที่จนทั่ว
ไอเย็นบดบังสายตาของมาร์คัสไว้ มาร์คัสหลับตาเรียกธาตุลมอย่างรวดเร็ว
ลมหมุนเกิดขึ้นรอบตัวมาร์คัสจนเกิดช่องว่างของไอเย็น
“ต้องกำจัดคนใช่ไอเย็นก่อน” มาร์คัสลอบตัดสินใจ
ขณะที่กำลังตัดสินใจรังสีหมัดสีทองนับสิบพุ่งเข้าใส่จากด้านหลัง
ด้านหน้ารังสีรูปจันทร์เสี้ยวสีทองอีกจำนวนมากพุ่งเข้ามาเช่นกัน
มาร์คัสวาดมือไปข้างหน้า
“กระจาย”
สายลมกรรโชกกระจายตัวออกไปโดยมีมาร์คัสเป็นจุดศูนย์กลาง
แรงของลมทำไปเย็นหายไปอย่างรวดเร็ว
“กำแพงปฐพี”
มาร์คัสตบเท้าลงพื้นเศษซากสิ่งก่อสร้างหมุนวนก่อตัวเป็นกำแพงด้านหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
ตูม!! ตูม!!
รังสีรูปจันทร์เสี้ยวปะทะกับกำแพงที่เกิดขึ้นจนฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว
เมื่อฝุ่นจางหายไปมาร์คัสก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว
ทั้งสามคนมองหาอย่างรวดเร็ว
“เจ้ามองหาข้าหรือไง” มาร์คัสอยู่ด้านหลังอควอรีอัส
“ราชันย์ออกศึก”
ท่าที่ใช้กำจัด 3 ดาวเล็กถูกใช้ออกมา แต่คราวนี้ใช้พร้อมกับอาวุธในมือ อนุภาพย่อมต่างกัน
ริ้วกระบี่จำนวนมากพุ่งออกมา ก่อนจะกลับมารวมกันเป็นรูปกระบี่เทวะดาราสีม่วงเข้มพุ่งเข้าใส่อควอรีอัส
อควอรีอัสรนรานรีบใช้ไม้ตายสูงสุดของตนเองเข้าต้านทันที
“ธิดาเหมันต์พิโรธ”
ไม้กางเขนน้ำแข็งในมือแตกกระจายกลายเป็นเกร็ดหิมะจำนวนมาก
เกร็ดหิมะนี้แช่แข็งทุกอย่างที่มันพัดผ่าน รวมถึงริ้วกระบี่ของมาร์คัสด้วย
ถึงจะโดนแช่แข็งแต่ริ้วกระบี่ก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเหมือนเดิมเพียงแต่ลดความเร็วลง
อีกสองคนเห็นว่าอควอรีอัสคงรับมือไม่ไหวแน่นอนรีบเข้าไปช่วย
พรึบ!!!
เปลวไฟเป็นทางยาวลุกขึ้นล้อมทั้งสองคนไว้ ทำให้ทั้งสองชะงักลงไป
“กระจาย”
มาร์คัสตะโกน รังสีกระบี่แตกตัวออกทันทีทำลายเกร็ดหิมะที่ห่อหุ้มไว้จนหมด
อ๊ากกก!!
ร่างของอควอรีอัสแยกออกเป็นชิ้นๆ จนยากที่จะต่อคืน
“ศิษย์น้อง แกตาย” ทอรัสควบคุสสติไม่อยู่เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น
ท่าไม้ตายสูงสุดระเบิดใช้ออกมา
“คชสารทลายปฐพี”
รังสีสีทองรวมตัวกันเป็นรูปช้างตัวใหญ่วิ่งตรงเข้าหามาร์คัสราวช้างกำลังตกมัน
“วารีต้านสมุทร”
ท่าไม้ตายของซาจิทาริอัสถูกใช้ออกมาสมทบทันที
รังสีหมัดถูกปล่อยออกมาจนมองเห็นเหมือนกระแสน้ำขนาดใหญ่ตามหลังช้างของทอรัสมา
ต่อให้เป็นมาร์คัสตอนนี้ก็ยากที่จะประมาทการรวมพลังของทั้งสองคนได้
“ราชันย์ทลายกองทัพ”
มาร์คัสใช้ท่าไม้ตายท่าแรกจากสามท่าเข้าต้าน
กระบี่เทวะดาราในมือพุ่งเข้าต้านพลังทั้งสอง
มาร์คัสประกบมือเข้าหากันก่อนแยกออกกระบี่แยกออกเป็นสองเล่ม
เขาวาดมือขวาเป็นวงกลมกระบี่หมุนตัวเป็นวงกลมพร้อมกับมีไฟติดขึ้นเป็นเหมือนกงจักรไฟ
มือขวาขยับเหวี่ยงไปด้านหน้ากงจักรไฟพุ่งเข้าใส่พลังของทอรัสทันที
มือซ้ายมาร์คัสลากจากซ้ายไปขวากระบี่แยกตัวออกเป็นแนวยาวนับหลายสิบเล่ม
มาร์คัสหมุนมือกระบี่เรียงอยู่หมุนรอบตัวเองก่อนพุ่งเข้าใส่คลื่นพลังของซาจิทาริอัสราวกับลูกธนู
ตูม!! ตูม!!
พลังทั้งสามปะทะกันจนตึกที่ยืนอยู่พังลงไปทั้งหลัง
อ๊อค!!
มาร์คัสกระอักเลือดออกมุมปากเล็กน้อยพร้อมถอยหลังไปสามก้าว
แต่เมื่อหันกลับไปมองทั้งสองคน
ทอรัสตัวขาดตั้งแต่ช่วงเอวช่วงบนหล่นลงมาอยู่บนพื้นโดยที่ยั้งตั้งท่าโจมตีอยู่
ซาจิทาริอัสมีกระบี่เทวะดาราปักอยู่ที่กลางหน้าผากทะลุหน้ากากเหล็กเข้าไป
ทรุดตัวนั่งคุกเข่าสิ้นใจทั้งที่ตายังลืมอยู่
“ท่าทางจะประมาทไม่ได้เสียแล้ว”
มาร์คัสบอกกับตัวเองเพราะรู้แล้วว่าถ้าศัตรูรวมพลังกันมีพลังมากกว่าที่เขาคิด
ถ้าประมาทคนที่พ่ายแพ้อาจเป็นเขาก็ได้
แล้วทางด้านนาซีซัสล่ะเป็นยังไงบ้าง เพราะว่าตอนนี้ตึกก็ถล่มลงมาจากการปะทะกันของเขาเสียแล้ว
โปรดติดตามตอนนต่อไป