หลบรัก 01
(Sand x Ice)
ครั้งแรกที่ผมเจอหมอนั่น ผมเป็นซีเนียร์ ส่วนมันเป็นเฟรชชี่
เราเรียนคณะเดียวกัน เอกเดียวกัน มันเป็นรุ่นน้องที่ป้า ๆ เอ่ยปากว่าเห็นแล้วถึงกับน้ำลายหก แน่นอนว่ามันหน้าตาดี ยิ้มมีสเน่ห์ เป็นพวกเกรียนเกม สิงอยู่ตามแหล่งอบายมุข กินเหล้าไม่เป็น แต่ตีดอทเก่ง วัน ๆ ถ้าไม่มีสอบหรือเช็คชื่อเข้าห้องเรียน เจอมันที่คณะแทบนับครั้งได้
ผมชอบผู้ชาย และผมมองมันตามประสาเห็นคนหน้าตาดี ที่รู้คือมันมีแฟนแล้ว คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มแบบที่ควงอวดใครได้ไม่มีอาย ส่วนมันเองก็คงจำได้ว่าผมเป็นรุ่นพี่ ไม่รู้ว่าจำได้เองหรือเพราะสนิทกับเพื่อน ๆ ผม ที่มีทั้งไอ้เก้าที่อยู่หอเดียวกับมัน แล้วก็พวกผู้หญิงที่อยากทำตัวเป็นป้าแก่ ๆ เลี้ยงต้อย
ทำไปทำมา ผมยังคิดเลยว่ามันดูเหมือนสนิทกับรุ่นผมมากกว่ารุ่นเดียวกันเสียด้วยซ้ำ
“ไอ้ไอซ์ มึงมีชุดไปบายเนียร์หรือยังวะ”
เสียงทุ้มของเพื่อนสนิทถามให้ผมละสายตาจากเด็กปีหนึ่งที่นั่งยิ้มร่าในกลุ่มรุ่นพี่ ไอ้นี่แหละที่ชื่อเก้า สนิทกับผมตั้งแต่ ปี 1 กระทั่งตอนนี้ที่กอยู่ปี 4
“ว่าจะไม่ไป”
“เฮ้ย ได้ไง ปีสุดท้ายแล้วไปสักหน่อยเถอะ น้องมันอุตส่าห์จัดให้”
“ไร้สาระ”
“มึงก็เป็นเสียแบบนี้ ขอเถอะ ไปให้กูหน่อย กูไปไซโคลชี่ไว้ว่ารุ่นเราไปกันครบ ให้พวกมันตามกันมาให้หมด”
“ภาระใครก็ภาระมันสิวะ มึงรับปากเอง”
“ไอ้เชี่ยไอซ์”
ผมทำท่าจะเดินหนี แต่เก้าผู้อ่านเกมขาดทุกงานคว้าปกเสื้อไว้จากด้านหลัง เก้าเป็นประธานรุ่น ประธานเชียร์ของคณะด้วย
“กูจะฟ้องเฮีย”
“ไอ้เชี่ยยย”
“ไม่รู้แหละ กูโทรบอกเฮียอิ๊กแน่ ๆ ว่าเสาร์นี้มีบายเนียร์” ไอ้เก้าปล่อยมือจากคอผม กอดอกแสดงเจตนารมย์ชัดแจ้ง “ทำเป็นเล่นตัวนะไอ้หอก มีป๋าเปย์ให้แท้ ๆ เสื้อผ้าหน้าผมใช่ว่าจะจ่ายเอง”
คนพูดตบหน้าผากผมจนหงายแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ คุยอะไรกันเสียงดังแต่ผมได้ยินไม่ชัด จากนั้นรุ้่นน้องหนุ่มร่างสูงใหญ่เพียงคนเดียวในกลุ่มก็ทิ้งสายตามาที่ผม
เป็นแววตาที่ผมไม่อาจอ่านออกว่ามันกำลังพยายามหมายถึงอะไร
รถยุโรปราคาแพงเคลื่อนตัวจอดหน้าสโมสรทหารบกที่เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ เฮียอิ๊ก พี่ชายต่างแม่ของผมลงมาจากรถเพื่อเปิดประตูให้ อันทีจริงใช้คำนั้นคงดูดีเกินไป เพราะในความเป็นจริงที่ผมกับเฮียรู้กันดีเราเรียกมันว่า ถูลู่ถูกัง
ไอ้เก้ามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อกิ๊บ เฮียอิ๊กถูกอกถูกใจมาหลายปีแล้ว ทุกครั้งที่ไอ้เก้าไหว้วานอะไรเฮีย ผมจะถูกบังคับให้ทำตามความต้องการของเพื่อนสนิทโดยมีน้องกิ๊บเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนของเฮียเป็นประจำ ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากงานรับน้อง หรือเข้าค่ายไหน ๆ ที่ไอ้เก้ามันโทรไปฟ้องเฮียให้ลากผมมาจนได้
งานพบปะสังสรรค์ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก เพียงแต่ผมไม่ชอบคบค้าสมาคมกับคนหมู่มาก ผมเป็นคนพูดน้อยโดยนิสัย ไม่ได้เกิดจากครอบครัวที่ไม่มีแม่ตั้งแต่เด็กตามคำสันนิษฐานของคนนอก เรื่องเฮียอิ๊กก็ด้วย ปากมอม ๆ ของไอ้เก้าทำให้เกิดคำครหาไปต่าง ๆ ว่าผมมีป๋าเปย์ กลายเป็นเด็กเสี่ยตั้งแต่ปี 1 ยัน ปี 4 โดยไม่เคยมีใครเดินเข้ามาถามความจริงกับผมสักคน
ผมชินแล้ว อยากคิดอะไรก็คิดไป ถือว่าทำบุญทำทานมีเรื่องเมาท์ให้สนุกปากแก่เด็กรุ่นหลัง ๆ
“จะให้มารับกลับบ้านไหม ?”
เฮียอิ๊กกระซิบถามเพราะเห็นว่ากำลังถูกจับจ้องด้วยสายตาประหลาดจากคนรอบข้าง
ผมไม่เคยบอกเฮียว่ามีข่าวลืออะไรระหว่างผมกับมัน แต่เฮียเองรู้สึกว่ามันไม่ปกติมาตลอด เฮียเคยถามว่าเพื่อน ๆ ไม่ชอบเฮียหรือเปล่าผมก็ได้แต่หัวเราะแห้ง จะให้บอกยังไงว่าใคร ๆ เขาก็คิดว่าเฮียเป็นผัวผมกันหมด
“เดี๋ยวค้างหอไอ้เก้า พรุ่งนี้เฮียมารับไอซ์ตอนเที่ยง ๆ แล้วกัน”
เฮียพยักหน้า พอดีกันกับไอ้เก้าเดินออกมาจากงาน มันยิ้มแผล่ยกมือไหว้พี่ชายผม “ขอบคุณมากครับเฮีย ถ้าไม่ได้เฮียบังคับไอซ์นะ มันไม่ยอมมาอีกตามเคย”
“อืม ฝากดูแลด้วยล่ะ อย่าให้กินเหล้าเยอะ”
เฮียยิ้มให้ไอ้เก้าแต่ตบบ่าผมปุ เพื่อนสนิทผมพยักหน้ารับแข็งขันแล้วยืนรอส่งจนรถยุโรปราคาแพงวิ่งลับไปนอกประตู เสียงซุบซิบดังขึ้นรอบตัวเหมือนผึ้งแตกรัง ไม่ต้องบอกผมก็รู้ ว่าคนอื่น ๆ กำลังพูดถึงเรื่องอะไร
ใช่...ผมรู้ แต่ไอ้เก้าไม่รู้ มันเป็นประธานรุ่นที่เก่งแต่ซื่อบื้อได้ใจ ผมเองก็ไม่เคยพูดให้มันฟังหรอกว่าที่มันเรียกเฮียผมว่า ป๋าไอ้ไอซ์ ถูกตีความกว่าความตั้งใจเดิมไปถึงไหนต่อไหน มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ความจริง แต่ไม่มีใครใส่ใจจะแก้ข่าวให้เพราะคิดแค่ว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
“วันนี้กูขอป๋ามึงมาได้แล้ว จัดให้เละ อย่าให้เหลือ”
“มึงรับปากจะดูแลกูไม่ใช่เหรอไอ้เก้า”
“เอาน่า นาน ๆ ที”
ไอ้สันขวาน ไอ้หอกหัก
เพื่อนรักเพื่อนตายผลักผมเข้าไปในงานแล้วส่งให้กลุ่มสาว ๆ พลางตะโกนเย้วเสียงดังว่าให้พรรคพวกพากันมารุม "งานนี้ไอ้ไอซ์ไม่เมาอย่าเรียกกูว่าพี่เก้า”
สิ้นเสียงประกาศกร้าวผมถูกจับกรอกเหล้าตั้งแต่พิธีการยังไม่เริ่ม สักพักคนที่ชอบมองบ่อย ๆ ก็ถูกพวกผู้หญิงลากมานั่งที่โต๊ะด้วย มันชื่อ แซน เป็นเด็กปีหนึ่งที่ตัวสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อคมไม่เกรงอกเกรงใจรุ่นพี่
“ไอ้ไอซ์ ๆ มึงถ่ายรูปกูกับน้องแซนให้หน่อย”
เพื่อนผู้หญิงสะกิดผมยิก ยัดโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้ในมือ ผมพยักหน้าแล้วหันไปหาคนที่นั่งข้าง ๆ ประโยคแรกที่พูดกับมันคือ
“พี่ส้มอยากถ่ายรูปด้วย”
ไอ้แซนยิ้มโชว์เขี้ยวเดินอ้อมหลังผมมายืนข้างส้ม ผมกดถ่ายให้มันได้สองสามชอตก็ส่งคืนแล้วมานั่งกินเฟรนช์ฟรายต่อ
“ผมอยากถ่ายกับพี่ไอซ์บ้าง พี่ส้มถ่ายให้หน่อย”
ไอ้แซนสะกิดพี่สายมันยิก ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับมัน อะไรบางอย่างบอกว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่เคยอ่านออกว่าแซนพยายามจะทำอะไร “เอามือถือพี่ไอซ์ถ่ายได้ไหม ผมใช้บีบีกล้องไม่ชัด”
ผมยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้ส้มหลังรุ่นน้องขอ แซนลุกมายืนซ้อนด้านหลังผมวางมือกับบ่าก้มหน้ามาใกล้จนเกือบแนบแก้ม พอถ่ายเสร็จไอ้ส้มก็ส่งคืน
“พี่ไอซ์ส่งไลน์ให้ผมด้วยดิ”
“พี่ไม่มีไลน์เรา”
“แอดดิ เอาเบอร์มาเดี๋ยวผมซิงค์หาเอง”
ผมกดเบอร์ให้รุ่นน้องแล้วส่งให้ พักเดียวก็มีชื่อมันทักมาผ่านโปรแกรมแชท ผมส่งรูปให้มัน ถือเป็นอันจบ ไอ้แซนยอมนั่งคุยกับเพื่อนคนอื่น ๆ ของผมโดยไม่หันกลับมาวอแวให้อึดอัดใจอีก
“เฮ้ย ๆ แก้วนี้กูขอชนกับไอซ์”
เสียงไอ้เก้าดังมาแต่ไกล ผมเห็นมันถือแก้วไพน์มาสองอัน แหวกผู้คนเดินมายัดใส่มือให้ผมถือ “หมดแก้วนะมึง”
“พี่เก้าแกล้งพี่ไอซ์” ไอ้แซนโวยเสียงดัง เพื่อนคนอื่นเริ่มสงเสียงแซว “เดือดร้อนอะไรกับเขาล่ะไอ้แซน”
“ก็รู้อยู่ว่าพี่ไอซ์ดื่มไม่เก่ง เอามานี่เลย ผมดื่มแทนเอง”
ไอ้แซนยื้อแอลกอฮอล์ฟองฟอดไปจากมือผม ยกขึ้นดื่มอึก ๆ พร้อมเสียงโห่ฮาของเพื่อนร่วมเอก
“ไอ้ห่าแซน คอแข็งตั้งแต่เมื่อไหร่มึง”
“คอไม่แข็งหรอกครับ แต่ผมอยากดูแลพี่ผม”
เสียงหัวใจผมเต้นดังแทรกเสียงแซวสนุกปาก รู้สึกได้ทันทีว่าแก้มทั้งสองข้างร้อนฉ่า แต่ไอ้เก้าไม่หยุดแค่นั้น
“มึงน่ะเป็นพี่ ต้องให้รุ่นน้องคออ่อนปกป้องแบบนี้ไม่เสียศักดิ์ศรีเหรอวะ”
มันหันไปกวักมือเรียกบริกร รอไม่นานจากนั้นเบียร์หนึ่งเหยือกเต็ม ๆ ก็ถูกยัดใส่มือ
“แดกไม่หมดเป็นหมา”
ผมมองค้อนให้ไอ้เก้า เพื่อนสนิทยักคิ้วท้าทายพร้อมเสียงโห่ฮารอบทิศ ไอ้เชี่ยเก้า รู้แก่ใจว่าปกติกูไม่กินเบียร์แม่งก็ยังยัดเยียดมาให้จนได้ ไอ้เพื่อนสับปะรังเค กูเกลียดมึง!
----------------------------------------------
รู้สึกเมื่อยขบไปทั้งตัว
ความทรงจำเมื่อคืนปะติดปะต่อเป็นเรื่องทันทีที่ลืมตาขึ้น มีช่วงที่ขาด ๆ หาย ๆ เป็นพัก จำได้ว่าไอ้เก้าลากออกมาจากที่จัดงานแล้วยัดผมใส่แท็กซี่พร้อมใครอีกสอง – สามคน บนรถขับโคลงเคลงจนต้องโก่งคออ้วก ก่อนจะมีเสียงกระซิบจากใครบางคนให้เดินไปอ้วกที่ห้องน้ำ
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ถูกจูบ
แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้เลย
เสียงประตูห้องน้ำถูกปิดดังขึ้นจากด้านซ้าย ผมหยัดตัวเองลุกนั่งแต่ปวดหน่วงไปตลอดช่องท้องและช่วงล่าง ภาพของหอพักหน้าตาคล้ายห้องไอ้เก้าแต่ไม่เหมือนเสียทีเดียวปรากฏชัดในตา เฟอร์นิเจอร์บางอย่างเท่านั้นที่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วถือว่าเรียบร้อยมากกว่าที่จะเป็นห้องเพื่อนสนิทผมได้
สักพักคนที่ไม่ควรจะอยู่ที่นี่ก็เดินมาหาผม กวาดตามองร่างกายที่ตั้งแต่คอลงมาจนถึงเหนือสะดือเพราะต่ำกว่านั้นมีผ้านวมผืนหนาปกคลุมเอาไว้พลางยิ้มอบอุ่น
“เป็นยังไงบ้างพี่ไอซ์ ปวดหัวหรือเปล่า มีไข้ไหม?”
มันขยับตัวเองที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวขึ้นมานั่งบนเตียงเดียวกัน ยื่นมือมาอังหน้าผากให้ผมสะบัดหน้าหนี
ผมเริ่มเรียบเรียงความคิดในหัวอีกครั้งและพบว่ามันเกิดขึ้นแล้ว
ผมกับ......
“ใส่เสื้อผ้าของผมก่อน ผมเพิ่งเอาชุดพี่ไปซักมายังไม่ทันแห้ง ส่วนตัวพี่เมื่อคืนผมเช็ดให้แล้ว ยังอยากอาบน้ำหรือเปล่า อาบไหวมั้ย ผมช่วย”
“ไม่เป็นไร ขอของพี่คืนก็พอ”
แซนเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์และโทรศัพท์มาให้พร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ มือถือของผมถูกปิด และพอเปิดเท่านั้นเฮียอิ๊กก็โทรเข้าเหมือนกระหน่ำโทรมาก่อนหน้านี้หลายหน
“ไอซ์ อยู่ไหน เฮียรออยู่ใต้หอไอ้เก้า โทรขึ้นไปไม่มีคนรับ โทรเข้าเครื่องเราก็ปิดเครื่อง”
“มาถึงแล้วเหรอครับ?”
“ก็ใช่น่ะสิ นัดเฮียไว้กี่โมง แล้วนี่กี่โมงแล้ว”
“เฮีย เดี๋ยวไอซ์ลงไป จะเสร็จแล้ว”
พูดจบผมก็กัดฟันลุกขึ้นแต่งตัวโดยมีสายตาของรุ่นน้องจับจ้องอยู่ ภาพสะท้อนที่กระจกเผยให้เห็นผิวขาวจัดมีรอยช้ำ และแผลจากเขี้ยวคมประปราย แต่อย่างน้อยแซนก็ไม่ได้ทิ้งรอยไว้ในที่ที่สามารถมองเห็นชัดได้นัก
“เขามารับเหรอครับ?”
“?”
“เสี่ยที่เลี้ยงพี่ไอซ์อยู่”
ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับมัน แซนเคยมีดวงตาขี้เล่นแต่ตอนนี้ไม่เหลือเค้าของเด็กรักสนุกเลย ดวงตาสีดำขลับดุดัน เกรี้ยวกราด ผมไม่ตอบแต่ยัดของใช้ใส่กระเป๋ากางเกง
“เดี๋ยวพี่ซักให้แล้วจะเอามาคืน”
“ไม่ไปได้มั้ยพี่ไอซ์”
แซนคว้าแขนผมไว้ นาทีนั้นผมไม่รู้จริงๆว่าเพราะอะไร พยายามขืนตัวออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล แซนผลักผมเข้ากำแพง ตามด้วยทิ้งน้ำหนักตัวบดเบียดเข้าชิด “แซน!”
“คิดว่ามันจะเอาพี่อีกเหรอ ทั้งตัวมีแต่ร่องรอยของผมขนาดนี้ “
“มันเป็นปัญหาที่พี่จะจัดการเอง แซนทำในเรื่องที่ตัวเองควรจะทำไปเถอะ”
ผมจะลบทุกอย่างออกจากความทรงจำ แค่ผ่านวันนี้ไป ผมกับมันจะกลับมาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไม่มีเรื่องให้ต้องคุยกันอีก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความผิดพลาด ผมเมา มันเมา แล้วเราก็ขาดซึ่งความยับยั้งชั่งใจ
“คิดซะว่าเรื่องเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน”
ผมก็ผู้ชาย มันก็ผู้ชาย
ไม่มีอะไรที่เสียหาย ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
TBC