บทที่ 21
“อยากจูบอ่ะ” เมฆาพูด ไม่ทันที่เพียงดินจะได้ตั้งตัว ร่างเล็กนั้นก็ก้มลงจูบเพียงดินอย่างรวดเร็ว เพียงดินตกใจไม่น้อยแต่พอลิ้นเล็กๆนั้นพยายามแทรกเข้ามาในปากของเขาเพียงดินก็เริ่มเคลิ้ม กลายเป็นว่าตอนนี้เพียงดินพลิกร่างของเมฆาลงไปอยู่ข้างล่างแล้วกลายเป็นคนจูบเสียเอง
มือหนานั้นลูบไล้ผิวเมฆาที่เปลือยเปล่าพร้อมบีบคั้น เริ่มเองนะเตี้ย อย่ามาโกรธก็แล้วกัน
“อื้อ... หะ...หายใจไม่ออก” เมฆพูดเมื่อพยายามดันตัวเองให้ออกจากการรุกรานของเพียง ร่างเล็กหอบหายใจถี่และหายใจไม่ออกจนต้องใช้มือดันหน้าของเพียงดินออกไป
เพียงดินหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆก็โดนดันออกแถมเมฆายังเบี่ยงตัวหนีอีก เดี๋ยวๆ อะไรกันเนี่ย เพียงดินไม่สนใจร่างที่หอบตัวโยนข้างใต้ เขาพยายามจะก้มจูบเมฆาอีกรอบเพราะตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังพลุ่งพล่านได้ที่
“ออกไป ...ร้อน ...หนัก ...หายใจไม่ออก” คนเมาพูดพร้อมกับดันเพียงดินอีกรอบ
“อะไรเนี่ยเตี้ย เริ่มเองแล้วจะมาหยุดได้ไง” เพียงดินพูดด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ ตอนนี้เขามีอารมณ์แล้ว แล้วเมฆาจะมาหยุดกลางคันสวรรค์เขาล่มแบบนี้ไม่ได้
“ใครวะ รำคาญ” เมฆาสะบัดแขนอย่างนึกรำคาญใจ แขนนั้นฟาดโดนหัวเพียงดินจนพ่อเลี้ยงหนุ่มเผลอร้องออกมา ไหนจะเท้าที่ถีบสะเปะสะปะจนมันถีบเข้าสีข้างของเพียงดินเต็มๆ
ตุบ
“โอ้ย!” เพียงดินร้องลั่นเมื่อถูกถีบตกลงจากโซฟาพร้อมกับหัวโขกเข้ากับโต๊ะเต็มๆ อารมณ์ที่เริ่มมีหายไปหมด ไอ้หมอเตี้ย!
“มีอะไรครับคุณดิน เสียงเอะอะโวยวาย” ตะวันเข้ามาอีกรอบเมื่อได้เสียงเพียงดินร้องลั่นบ้าน เข้ามาก็เจอเพียงดินนอนกุมหัวตัวเองอยู่กับพื้น เมฆากำลังนอนแผ่หลาเกาพุงอยู่บนโซฟาอย่างสบายใจ
“ไม่มีอะไรครับ” เพียงดินตอบ ขืนบอกไปว่าเกือบจะทำอะไรๆน้องชายเจ้าของบ้านเข้าล่ะก็เพียงดินคงไม่ได้กลับไร่อย่างครบสามสิบสองเป็นแน่ ถึงเมฆาจะเริ่มก่อนแต่นั่นก็คนเมา
“ถ้าอย่างนั้นคุณดินออกไปรอข้างนอกกับรินก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมพาไอ้เมฆไปนอนก่อน” ตะวันว่าแล้วเข้าไปช้อนตัวเมฆาที่ตอนนี้แน่นิ่งไปแล้วเพื่อพาไปนอนข้างบนบ้าน
เพียงดินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วมองตามตะวันที่พาเมฆาขึ้นบ้านไป ไอ้เตี้ยนะไอ้เตี้ย หายเมาพรุ่งนี้เจอดีแน่
“เมฆ! ไอ้เมฆ! ไอ้หมาเมฆ!” เสียงเอะอะโวยวายแต่เช้าทำให้คนที่นอนมุดผ้าห่มผืนโตต้องยกหมอนข้างมาปิดหูพร้อมกับไถตัวเข้าไปในผ้าห่มให้คลุมทั้งร่าง ซึ่งทำให้คนที่มาปลุกหงุดหงิดไม่น้อย
รัชพลถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเมื่อเมฆาไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ตอนนี้ก็แปดโมงเช้าแล้ว ไอ้หมอตัวดียังนอนสบายใจอยู่ทั้งที่เมื่อคืนสร้างเรื่องไว้แท้ รัชพลตามมาเอาเรื่องอย่างที่ลั่นวาจาไว้เมื่อคืน กล้าดียังไงมาปลุกปล้ำสิตางศุ์ของเขาแบบนั้น
“ไอ้เมฆ จะตื่นไม่ตื่น ตื่นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้เลย” รัชพลกระชากผ้าห่มออกจากตัวเมฆานั่นทำให้เมฆาที่จับผ้าห่มแน่นต้องตกเตียงดังอั๊ก
“อูย... อะไรแต่เช้าวะเนี่ย” เมฆานั่งพิงเตียงแล้วลูบหัวตัวเองปอยๆก่อนจะลืมตามามองคนที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า
“ตื่นซักทีนะไอ้ตัวแสบ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย” รัชพลชี้หน้าพร้อมเอาเรื่องเต็มทีก่อนจะเท้าสะเอวมองคนที่ยังสะลึมสะลือไม่หาย
“อะไรวะพี่รัช แล้วมาอยู่บ้านเมฆได้ไงเนี่ย น้องจะหลับจะนอน มากวนทำไม” เมฆาบ่นอุบ เขาไม่เข้าใจรัชพลที่มาปลุกแต่เช้า เขายังมึนๆอยู่เลย วันนี้วันหยุดทั้งที จะนอนนานๆหน่อยก็ไม่ได้
“ไม่ต้องนอนต่อเลย ไปอาบน้ำแล้วลงไปข้างล่างเลย ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก” รัชลากขาคนที่จะกลับขึ้นไปนอนแล้วหิ้วเมฆาไปโยนในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เรื่องคราวก่อนสิตางศุ์เกือบตาย เรื่องคราวนี้เกือบจะทำร้ายคนรักของเขาอีก ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว จะทิ้งเมฆาอยู่กับไอ้เมฆสองคนไม่ได้แล้ว
เมฆาหัวเสียเมื่อรัชพลตัวเขาเข้ามาในห้องน้ำ ร่างเล็กยีหัวอย่างหงุดหงิดแล้วยอมอาบน้ำอย่างจำใจ ขืนออกไปรัชพลก็คงโยนเขากลับมาอีกรอบอยู่ดี เป็นบ้าอะไรของไอ้พี่รัชเนี่ย
เมฆามองตัวเองที่กระจกก็ต้องผงะเมื่อพบว่ามีศพเดินได้กำลังยืนแห้งอยู่ตรงหน้า สภาพดูไม่ได้เลยสักนิด ผมฟูๆ เสื้อก็ไม่ใส่ ตาก็คล้ำ นี่หมอจริงๆเหรอวะเนี่ย เมื่อเพ่งดูดีๆก็ต้องเจอปากที่บวมเจ่อของตัวเอง
“นี่กูไปโดนผึ้งต่อยมารึไงวะเนี่ย” เมฆาขยับเข้าไปใกล้กระจกก่อนจะเตะๆดูที่ปาก นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าไปทำอะไรมาถึงบวมแบบนี้ สุดท้ายก็เลิกคิดแล้วอาบน้ำ
อาบน้ำเสร็จก็ลงมาข้างล่าง เจอรัชพลนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่กับสิตางศุ์ ภุมรินกับตะวันไม่อยู่ เมฆาคิดว่าสองคนนั้นคงไปทำงานที่ตลาดแล้ว ไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวก็หายไปแล้ว คงจะกลับบ้านกลับช่องตั้งแต่เมื่อคืนนั่นแหละ แล้วไอ้พี่รัชกับพี่สิตางศุ์ทำไมยังไม่กลับล่ะ
“มาแล้วเหรอไอ้ตัวดี มานั่งนี่เลย” รัชพลทำหน้าดุ
“อะไรของพี่เนี่ยพี่รัช ทำหน้าโหดแต่เช้า” เมฆาว่าพร้อมกับรับแก้วกาแฟร้อนๆมาจากแม่บ้านที่เอามาให้
“เมื่อคืนแกทำอะไรไว้ไอ้เมฆ อย่าบอกว่าจำไม่ได้” รัชพลชี้หน้าว่า เมฆาขมวดคิ้วแน่น
“ทำอะไร” เมฆาชักจะเริ่มตงิดๆแล้ว เมื่อคืนเขาไปทำอะไรเอาไว้อีกล่ะไอ้พี่รัชถึงอาฆาตแบบนี้ ว่าแต่เมื่อคืนเขาก็ไม่ได้เมามากนะ แค่มึนๆเอง แต่ก็จำไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รัชพลมาปลุกนี่แหละ
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก แกจะปล้ำเมียฉันเนี่ย” รัชพลโวยลั่น คิดถึงภาพเมื่อคืนแล้วปวดกระดองใจไม่หาย สิตางศุ์ตัวน้อยของเขาต้องมาอยู่ใต้ร่างไอ้หมอเมาแล้วหื่นอย่างเมฆาเนี่ย น้อยนุ่งก็น้องนุ่งเถอะ ถ้าน้องไม่นุ่งแล้วปลุกปล้ำเมียที่รัก รัชพลก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน
“ห๊า...” เมฆาทำหน้าเหวอเมื่อรัชพลพูดแบบนั้นพร้อมกับหันไปมองสิตางศุ์ เดี๋ยวๆ เขาเนี่ยนะจะปล้ำสิตางศุ์ เมฆาว่ามันไม่ใช่
“ไม่ต้องมาหาเลย แม่ง ทิ้งไว้กับตางทีไรเป็นอย่างนี้ตลอด ไอ้เมฆ กูจะทำยังไงดีวะเนี่ย” รัชพลหัวเสีย ตอนแรกก็อยากจะห้ามไม่ให้เจอกัน แต่กลายเป็นว่าสิตางศุ์เองที่ขอไม่ให้ทำอย่างนั้นเพราะน้องเมา เมาแล้วหื่นอย่างไอ้เมฆมันก็น่าห้ามมั้ยล่ะ
“ใจเย็นน่าพี่รัช เมฆมันเมา มันไม่รู้เรื่องหรอก กลับบ้านดีกว่า ว่าแต่เมฆเถอะ จะไปไร่น้ำรินกับคุณตะวันแล้วก็รินไม่ใช่เหรอ” สิตางศุ์พยายามระงับสติของรัชพลแล้วหันมาถามเมฆา เรื่องมันแล้วก็แล้วไป เมฆาก็ดูเหมือนจะจำอะไรไม่ได้
“ครับ พี่ตาง ถ้าเมื่อคืนผมทำแบบนั้นจริงๆก็ขอโทษนะพี่ พอดีเมาล่ะมั้ง” เมฆายิ้มแห้งให้ แต่ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าตัวเองไปทำอะไรแบบนั้น แต่ดูจากท่าทางรัชพลแล้วก็คงใช่
“พี่รู้ว่าเมฆเมา ต่อไปก็อย่าดื่มเยอะแล้วกัน เมฆจะไปที่ไร่ก็รีบหน่อยนะ พี่ว่าจะกลับแล้วล่ะ รินกับคุณตะวันก็คงจะเอารถออกแล้วด้วย” สิตางศุ์ว่า พอดีกับเสียงรถของตะวันดังขึ้นพอดี
“ถ้างั้นรอเมฆแป๊บนึง บอกไอ้พี่ตะวันรอเมฆก่อนนะพี่ตาง”
เมฆารีบวิ่งแจ้นขึ้นไปบนบ้านเพื่อเอาของของตัวเอง ลงมาก็พบว่ารัชพลกับสิตางศุ์ออกไปแล้ว ร่างเล็กเข้าไปในครัวแล้วหยิบแซนวิซมาสองอันก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกก็เจอตะวันกับภุมรินยืนรออยู่
รถของตะวันแล่นตามหลังรถของรัชพลเพื่อขึ้นไปยังไร่น้ำริน เหมือนวันนี้พวกผู้ใหญ่มีเรื่องงานจะคุยอะไรไม่รู้กัน ส่วนเมฆาก็แค่อยากไปเที่ยวเล่นพักผ่อนแค่นั้นเอง
มาถึงไร่น้ำรินก็เก้าโมงกว่า รัชพลพาตะวันเข้าไปดูไวน์ตัวใหม่ที่เริ่มจะนำออกมาขายได้ ทิ้งให้สิตางศุ์ต้อนรับเมฆากับภุมริน ใจจริงก็ไม่อยากจะทิ้งสิตางศุ์ไว้ให้ไอ้หมอเมฆหรอก แต่มีภุมรินอยู่ด้วยก็เบาใจนิดหน่อย แถมเขาเองก็มีงงานต้องทำด้วย จะลากสิตางศุ์ไปด้วยก็กลัวว่าคนตัวบางจะเบื่อเอา
“คิดถึงคุณน้องรินจังเลยค่ะ” ป้าจันเข้ามากอดภุมรินแน่น ตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับตะวันภุมรินก็มีงานรัดตัวตลอด พักหลังยิ่งแล้วใหญ่ไม่ค่อยได้กลับมาที่ไร่ ป้าจันเลยบ่นคิดถึงทุกวัน
“รินก็คิดถึงป้าจันเหมือนกัน” ภุมรินกอดร่างท้วมแน่น
“ป้าทำของว่างไว้ให้ด้วยนะคะ อ้อ... มีคุกกี้ของคุณสิตางศุ์ด้วยค่ะ ลองเอาไปทานกันดูนะคะ” ป้าจันยื่นถาดขนมให้ภุมริน
“แหม มีพี่ตางอยู่ด้วยแบบนี้ พี่รัชต้องเจริญอาหารแน่ๆใช่มั้ยป้าจัน” ภุมรินแอบกระซิบกระซาบถาม ตอนนี้สิตางศุ์อยู่ที่ห้องรับแขกกับเมฆา ส่วนเขาเข้ามาหาป้าจันในครัว
“เดี๋ยวนี้กินข้าวทุกมื้อเลยค่ะ จะทำงานหนักแค่ไหนก็ต้องมากินข้าวกับคุณสิตางศุ์ให้ได้” ป้าจันพูดไปยิ้มไป
“อ้อ... คุณริน เมื่อวานหมอชาญมาที่นี่ เห็นบอกว่าเมียเจ้าด่างมันคลอดลูกแล้ว ตั้งสี่ตัว คุณรินจะไปดูมั้ยคะ” ป้าจันพูด
เจ้าด่างคือหมาที่ก้องลูกคนงานเลี้ยงไว้ มันไปทำหมาสาวแถวสำนักงานที่หน้าไร่ท้อง ตอนนี้ก็คลอดลูกออกมาแล้วสี่ตัว สิตางศุ์รักเจ้าด่างมาก แต่รัชพลกลับไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ นานๆครั้งก็จะปล่อยให้สิตางศุ์ไปที่หน้าสำนักงานของไร่ เพราะฉะนั้นสิตางศุ์เลยไม่ค่อยได้เจอเจ้าด่าง ภุมรินยิ่งแล้วใหญ่เลย ไม่ค่อยได้กลับไร่ ตั้งแต่ก้องเอาหมามาเลี้ยงเขาเคยเจอมันแทบจะนับครั้งได้
“ดีเลย” ภุมรินยิ้มอย่างนึกสนุกก่อนจะเดินออกไปคุยกับสิตางศุ์และเมฆา ก่อนจะได้ข้อสรุปว่าทั้งสามคนจะไปหาลูกเจ้าด่างมัน
นายน้อยเก่าแห่งไร่น้ำรินเป็นคนนำทาง รถกระบะคันเก่าเปื้อนโคลนแล่นมาจอดที่หน้าสำนักงานที่หน้าไร่ ก่อนออกมาก็บอกตะวันกับรัชพลเรียบร้อยเพื่อที่รัชพลจะได้ไม่โวยวายเวลาหาสิตางศุ์ไม่เจออีก
คนงานที่สำนักงานพอเจอภุมรินก็ดีใจกันยกใหญ่เพราะภุมรินไม่ค่อยกลับไร่ พอภุมรินถามหาลูกหมาก้องก็อาสาพาไปเอง ที่อยู่เจ้าด่างและเมียหมาสาวสี่ขาวผ่องก็คือข้างหลังสำนักงานเหมือนเดิม พอเจอสิตางศุ์เจ้าด่างมันก็ส่ายหางดิกๆแต่เมียเจ้าด่างเหมือนจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่มีคนมากวน ขู่ฟ่อๆแถมยังซ่อนลูกไว้อีก
“เมฆอยากเลี้ยงอ่ะ” เมฆาพูดขึ้น หมาน้อยสีขาวสีน้ำตาลสีตัวกำลังแย่งกันกินนมแม่อย่างเอาเป็นเอาตายมันทำให้เมฆานึกอยากจะอุ้มกลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้ แต่ดูจากสายตาแม่หมาแล้วเมฆาขอเลี่ยงตอนนี้จะดีกว่า
“พี่ตะวันคงยอมหรอก เลี้ยงที่นี่แหละเมฆ อยากเจอมันตอนไหนก็ค่อยมาหา” ภุมรินบอกเพื่อนรัก จริงอยู่ที่ตะวันเป็นคนไม่ค่อยชอบหมาแมวเท่าไหร่ ขืนเมฆาเอาเข้าบ้านมีหวังตะวันได้เตะโด่งออกมาแน่นอน
“เอาเลี้ยงที่นี่แหละเมฆ ไว้พี่จะมาดูมันบ่อยๆ เมฆก็มาที่นี่บ่อยๆจะได้เจอมัน” สิตางศุ์พูด ต่อจากนี้สิตางศุ์คงขอรัชพลมาที่นี่บ่อยแน่ๆ หรือว่าจะเอาไปเลี้ยงที่บ้านต้องดูอีกทีก่อน เรื่องนี้เจ้าของบ้านต้องเป็นคนตัดสินใจ
“เอาอย่างนั้นก็ได้ งั้นเมฆจะมาหาเจ้าตัวเล็กบ่อยๆแล้วกัน” เมฆาว่า จริงอย่างที่ภุมรินบอก ไอ้พี่ตะวันน่ะไม่รักหมาแมวหรอก เอาไว้กลัวว่าจะโดนพี่ชายเขาเตะเอาทุกวัน กลายเป็นว่าทำร้ายสัตว์อีก
“นายน้อยครับ เอ่อ... พอจะว่างมั้ยครับ” เสียงเรียกภุมรินดังขึ้นจากข้างหลัง
“อืม ว่าง มีอะไรเหรอพี่เหม” เป็นเหมนั่นเองที่มาเรียก ทั้งสามคนละจากเจ้าตัวเล็กหน้าขนแล้วเดินมาหาเหม
“ผมเห็นไอ้วันมันบ่นเมื่อวานว่าไม่มีใครซ่อมเครื่องสูบน้ำ ตามช่างก็ซ่อมไม่ได้ เห็นนายน้อยมาเลยอยากจะให้ไปดูหน่อยน่ะครับ ถ้านายน้อยซ่อมไม่ได้อีกก็คงต้องเปลี่ยน” เหมรายงาน เขาไม่ได้จัดการตรงส่วนนั้นโดยตรงก็จริง แต่เรื่องเรียกช่างหรือตามคนมาดูเขาเองก็มีส่วนร่วมเพราะต้องเป็นคนจัดการเรื่องการเบิกงบจากฝ่ายบัญชีมาให้
“ได้สิ ว่าแต่เครื่องสูบน้ำตรงไหนเหรอ” เรื่องงานซ่อมภุมรินเจ๋งสุดในไร่แล้ว แน่นอนว่าเขาเรียนมาด้านนี้โดยตรง ย่อมถนัดกว่าคนงานอยู่แล้ว
“ตรงริมไร่องุ่นฝั่งที่ติดกับไร่เพียงระพีนู่นครับ เดี๋ยวผมพาไปเอง” เหมเสนอ ภุมรินพยักหน้ารับ
สิตางศุ์ขอรออยู่ที่สำนักงานแทนเพราะเขาไม่อยากไปตากแดดร้อนมากๆเดี๋ยวจะจะได้แพ้อีก รัชพลคงด่าภุมรินแน่ๆ แต่เมฆากลับขอติดสอยห้อยตามไปด้วย เขาชอบเรื่องสนุกมากกว่านั่งรอเฉยๆ เพราะฉะนั้นรถกระบะคันเดิมจึงพาทั้งสามคนมาที่ริมไร่ฝั่งตะวันตกที่เฉียงไปทางด้านหน้าซึ่งติดไร่น้ำริน
“เครื่องนี้เก่าแล้ว คงซ่อมลำบากหน่อย” ภุมรินเข้าไปเช็คสภาพเครื่องแล้วลงมือทำอะไรก็ไม่รู้
เมฆาเลยเดินแยกตัวออกมาไม่ไกล มองไปรอบๆ ที่ตรงนี้ไม่ค่อยร้อนมากเพราะว่ามีต้นไม่ใหญ่ทั้งต้นมะขาม ต้นจามจุรี และต้นไม้อื่นๆปลูกอยู่ริมทาง กิ่งมันโน้มเข้ามาในไร่เช่นกัน เมฆาเดินเลาะออกไปข้างนอกซึ่งติดกับถนนลูกรังเส้นเล็ก แอบมองลอดต้นไม้ไปที่ไร่เพียงระพี เหมือนที่ตรงนี้เป็นทางโล่ง มองไปอีกหน่อยคือทุ่งหญ้า คงจะเป็นส่วนของทุ่งหญ้าที่เมฆาเคยไปขี่ม้าแน่ๆ เพิ่งรู้ว่ามีทางติดกันตรงนี้
เมฆามองไปแล้วก็ต้องหยุดกึกเมื่อเห็นม้าสีน้ำตาลสวยสองตัวกำลังวิ่งมาแต่ไกลก่อนจะหยุดอยู่แถวนั้น สายตาของคุณหมอหนุ่มเพ่งมองแล้วก็เห็นว่าเป็นเพียงดิน กับใครบางคนซึ่งเป็นผู้หญิง
“ใครวะ” เมฆาขมวดคิ้วมุ่น ขยับเข้าไปใกล้ก็ยังมองไม่ถนัด
คนตัวเล็กเลยหันไปเจอต้นมะขามขนาดสูงใหญ่อยู่ เลยถอดรองเท้าไว้แถวนั้นก่อนจะรีบปีนขึ้นไป ด้วยความที่เล่นปีนต้นไม้กับภุมรินมาตั้งแต่เด็กมันจึงไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้ขอเสือกก่อน
ร่างเล็กเมื่อขึ้นไปบนต้นมะขามแล้วก็มองทะลุไปอีกรอบ เขาเจอเพียงดินอยู่ไกลลิบกำลังพูดอะไรซักอย่างกับผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนที่ตะวันจะจับหัวของสาวเจ้าโยกไปมาท่าทางเหมือนเอ็นดู
“แฟนไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัวเหรอ” เมฆาหน้าเคร่งลง มีแฟนแล้วนี่ไอ้เพียงดิน แหม ทำเป็นพามาขี่ม้าเล่น แถมยังหยอกล้อต่อกระซิก
คราวที่แล้วที่พาเขาไป แถมยังหยอดมุกเสี่ยวๆนั่น เมฆาคิดว่าเขาเป็นคนเดียวซะอีกที่ไอ้พ่อเลี้ยงนี่พานั่งมอเตอร์ไซค์ไปขี่ม้าเล่น ที่ไหนได้ ทำแบบนี้กับทุกคนนี่หว่า
แล้วมาทำเป็นหยอดเพื่ออะไรไอ้หัวงู ใช่ว่าเมฆาจะไม่รู้ว่าตอนนี้ได้พ่อเลี้ยงนั่นกำลังทำอะไรอยู่ แค่ไม่แน่ใจเฉยๆ ก็คิดอยู่หรอกว่าตัวเองอาจจะโดนจีบเพราะตอนเรียนก็มีตัวผู้เข้ามาหาทำนองนี้บ่อยๆ
ที่ไหนได้ไอ้พ่อเลี้ยงชีกอนี่ก็เจ้าชู้ไก่แจ้ม่อไปทั่ว รู้เช่นเห็นชาติขนาดนี้แล้ว อย่าหวังว่าจะได้มาวอแวอีกเลยไอ้พ่อเลี้ยงคอกวัว คิดแล้วโมโห!
“เมฆ ขึ้นไปทำไม ลงมา” เสียงภุมรินตะโกนเรียกจากข้างล่าง เมฆาก้มลงไปมอง
“แป๊บนึง อยากได้มะขามไปจิ้มกะปิน่ะ” เมฆาโกหกภุมรินก่อนจะทำทีไปเอามะขามอย่างที่ปากกว่า
มันน่าจะเอาหนังสติ๊กของภุมรินติดมือมาด้วย เห็นอย่างนี้เมฆาเคยยิงหนังสติ๊กชนะรัชพลเชียวนะ ถ้าไอ้พ่อเลี้ยงอยู่ในระยะยิ่ง รอบรองไม่รอด
หัวโนแน่นอน!
********************************************************************************
อิดินตายแน่