ซีนที่36 พาไปจัดหนัก
“หมายถึงพี่กับบีน่ะเหรอ”
อยู่ๆพี่ดินก็โผล่มายืนยิ้มอยู่หน้าผมพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่…..ซึ่งใหญ่กว่าของไอ้นภสองเท่าได้…..แน่นอนไอ้นภตอนนี้ทำหน้าเหวอแบบบอกไม่ถูก และผมเดาว่ามันคงกำลังอยากเข้าไปรัวหมัดต่อยพี่ดินแบบสุดๆเลยล่ะครับ
“หมายถึงผมกับบีสิครับพี่” ไอ้นภเริ่มโพล่งออกไปเมื่อตั้งสติได้
“อ้าวเหรอ นึกว่าพี่กับบีซะอีก” พี่ดินยิ้มตอบแบบไม่สะทกสะท้าน….และขณะที่ทุกคนกำลังตั้งสมาธิอยู่กับบทสนทนา พี่ดินก็เอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมให้ผมต่อหน้าไอ้นภซะงั้นครับ!!! งานเข้ากูแล้วววว!!!
“แหม ไม่ต้องลำบากพี่หรอกครับ ไอ้บีคนเดียวผมดูแลได้” ไอ้นภพูดเสร็จก็เอาผ้าเช็ดตัวในมือมาเช็ดหัวให้ผมครับ!!!......โอ้ย…..หัวกู!!!
“ไม่เป็นไรหรอก บีเป็นน้องรหัสพี่ ส่วนนภเป็นแค่ ‘เพื่อน’ ไม่ต้องลำบากหรอก” พี่ดินเน้นคำว่าเพื่อนแบบหนักแน่นชัดเจนขณะที่ยังคงรอยยิ้มเดิมไว้อยู่…..ว่าแต่พี่จะรวบผมไปโอบทำม๊ายยยยยยยย
“ไม่ใช่แค่เพื่อนครับพี่ พวกผม ‘สนิท’ กันมากเลย” ไอ้นภของขึ้นไม่ยอมแพ้ เน้นคำสู้……แต่มึงจะกระชากหัวกูไปแบบนี้ไม่ด้ายยยยยย!!!!
“เอางี้นะครับทุกคน เดี๋ยวผมพาบีไปรับเหรียญก่อนละกันนะครับ” ไอ้เล็กรีบเข้ามาแทรกกลางระหว่างไอ้นภและพี่ดินพร้อมกับคว้าผ้าเช็ดตัวไปทั้งสองผืน ก่อนที่จะฉุดผมออกไปจากตรงนั้นโดยไม่สนการทัดทานใดๆของไอ้สองคนนั้นครับ
“ขอบใจมากเลยเล็ก ถ้านายไม่ลากเราออกมาสงสัยเราโดนสองคนนั้นฉีกร่างออกเป็นสองส่วนแหงๆ” ผมหันไปขอบคุณไอ้เล็ก
“เอาน่า ไม่เป็นไร เราเข้าใจ ว่าแต่นายเนี่ยก็เนื้อหอมไม่เบานะ ทั้งพี่รหัสเดือนคณะ ทั้งเพื่อนดารา ฮ่าๆๆ” ไอ้เล็กขำ
“นั่นสิ ทั้งพี่รหัสเดือนคณะ ทั้งเพื่อนดารา แถมคู่แข่งเดือนวิศวะก็มารุมตอมเพิ่มอีกคน” ไอ้ริทโผล่มาจากไหนไม่รู้ครับ เหน็บแนมใส่ไอ้เล็กทันทีที่มาประชิดตัว
“ก็ใช่ไง บีเค้าน่ารัก นิสัยก็ดี ไม่แปลกไหมวะที่เดือนวิศวะจะมาชอบ แล้วไง เดือนอักษรจะมาเข้าคิวอีกคนหรือไง” ไอ้เล็กหันไปทะเลาะกับไอ้ริทแทน……..โอย……เวรกรรมอะไรของโผ๊มมมมมมมม!!!!!
และแล้วไอ้ริทกับไอ้เล็กที่ดูเหมือนจะสงบกันไปแล้วก็เริ่มทะเลาะกันใหม่โดยมีผมยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงกลางระหว่างมันสองคน…..เฮ้อ…..เชรี่ยยยยยยย!!!.......มีคนมามุงถ่ายรูปเต็มเลย กูต้องโดนเอาไปลงเพจอัปรีย์นั่นอีกแน่ๆ….เอาไงดีวะ
“ริท เล็กบอกว่ารักมึง”ผมหันไปบอกไอ้ริท….ได้ผล พวกมันหยุดทะเลาะกันทันที
“จริงเหรอ….” ไอ้ริทหน้าแดง….
“เอ่อ คือ….” ไอ้เล็กพยายามจะพูดอะไรสักอย่างขึ้นมา
“เล็กมึงไม่ต้องพูดหรอก ไอ้ริทมันก็บอกกูว่ามันรักมึงเหมือนกัน” ผมรีบพูดขึ้นมาทันที….
“จริงเหรอ….” ไอ้เล็กถาม…
“ก็เออสิ พวกมึงคุยกันไปเลยนะ กูไปห้องน้ำก่อน” ผมพูดจบก็เอามือมันสองคนไปจับกัน ก่อนจะวิ่งหนีไป….ส่วนพวกไทยมุงที่ยืนดูอยู่ พอเห็นสองคนนี้ยืนจับมือกันหน้าแดงก็รีบควักมือถือมาถ่ายรูปกันรัวๆซะยิ่งกว่างานพรมแดงเมืองคานทันที….. ไอ้สองคนที่ยืนซาบซึ้งอยู่ก็ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างปล่อยชาวบ้านถ่ายรูปซุบซิบกันมันปากไปตามระเบียบ
………………………………….
หลังจากแข่งว่ายน้ำเสร็จ กีฬาเฟรชชี่ปีนี้สำหรับผู้ชายทันตะก็ถือว่าเป็นอันจบลงโดยบริบูรณ์ เพราะแข่งครบหมดทุกประเภทรายการแล้ว…. นำมาซึ่งความปลาบปลื้มยินดีแก่เจ๊มอลลี่เป็นอย่างมาก เพราะปีก่อนแพ้หมดรูปไม่เข้ารอบเลยสักอัน แต่ปีนี้ได้ทั้งเหรียญทองชกมวย เหรียญเงินว่ายน้ำ และชนะแข่งบอลไปสองนัดแบบที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ของคณะไปตลอดกาล…..
แต่ยังครับ…..เรื่องยังไม่จบ….งานเลี้ยงไม่มี…..ความสงบสุขก็ยังไม่มา….เพราะวันมะรืนหลังปิดกีฬาเฟรชชี่จะเป็นงานเฟรชชี่ไนท์…..งานที่ดาวและเดือนของทุกคณะต้องมารวมตัวกันเพื่อประกวดเฟ้นหาดาวเดือนมหาลัยคู่ใหม่ต่อไป…..แน่นอน…..งานนี้ผมต้องเข้าร่วมด้วย ซึ่งดูจากแรงกดดันของคนในคณะแล้ว ผมรู้สึกว่าหนักอึ้งกว่าตอนไปแข่งว่ายน้ำสักสิบเท่าได้ เพราะทุกคนเชื่อว่างานนี้คือหน้าตาและศักดิ์ศรีของคณะ!!! ผมและอ้อยพิษจะแพ้ไม่ได้!!! เพราะถ้าแพ้เจ๊มอลลี่มากระซิบบอกแล้วว่าตาย!!! ม่ายยยยยยยย!!!
เนื่องจากก่อนหน้านี้ผมต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อกีฬา พวกพี่ปีสองเลยไม่เคี่ยวเข็นอะไรผมมากเพราะพวกเค้าคิดว่าการซ้อมและการออกกำลังกายถือเป็นการฟิตหุ่นที่ดีที่สุด เค้าก็เลยปล่อยผมให้ตายใจ แต่พอแข่งเสร็จเท่านั้นแหละครับ พวกพี่ปีสองก็ลากผมไปติวเข้มสารพัดทันทีด้วยคอร์สintensive ทำยังไงให้พิชิตใจกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การโพสท่าบนเวที การวางมือ การแต่งตัว การใช้เสียง การแสดงความสามารถพิเศษ และอื่นๆอีกมากมาย…….โอยยยยยย…..ผมไม่ได้จะไปประกวดนางงาม ปล่อยผมไปเถอะคร๊าบบบบบบ!!!!
กว่าผมจะหลุดออกมาได้ก็ปาไปสามทุ่ม…..แล้วเหตุผลที่พวกพี่ๆยอมปล่อยผมมาก็ไม่ใช่อะไรนะครับ ไอ้นภมันเข้าไปรับผมออกมาด้วยตัวเอง มันบอกพี่ๆว่าที่เหลือมันจะติวให้….พวกพี่ๆได้ยินก็เลยดีใจยอมทำตามแต่โดยดีเพราะคิดว่าคงไม่มีใครเก่งเรื่องนี้เกินไอ้นภอีกแล้ว
ณ จุดนี้ สงสารก็แต่อ้อยพิษครับที่แม้จะถูกหนูแม้นติวเข้มแบบสุดโหดจนพูดไม่เป็นภาษามาทั้งอาทิตย์แล้ว ช่วงนี้ก็ยังจะมาถูกรุ่นพี่จับกักตัวเพื่อติวต่ออีก….ตอนออกมา ผมเห็นนางกำลังนั่งบ่นพึมพำอะไรไม่รู้อยู่คนเดียวที่มุมห้อง มืดๆซึ่งดูเหมือนหนังผีไปทุกที….ผมว่าถ้าผมอยู่ต่อก็คงไม่พ้นจะต้องอยู่ในสภาพเดียวกันกับอ้อยพิษแน่ๆครับ
“ขอบคุณมากเลยนภ มึงคือพระเอกของกูเลย” ผมหันไปชื่นชมมันตอนขึ้นรถแล้ว
“แน่นอน กูเป็นพระเอกของมึงทุกวันอยู่แล้วเหอะ” ไอ้นภตอบด้วยความยียวน
“เออๆ ตามนั้น วันนี้ยอมมึงวันนึง ถ้ากูอยู่ติวต่อกูคงเป็นบ้าแน่ๆ”
“ยอมกูแน่นะ” ไอ้นภหันมาส่งสายตาสุดหื่นใส่
“ไม่ใช่ยอมแบบนั้นโว๊ย กูหมายถึงยอมให้มึงพูดว่าเป็นพระเอกของกูทุกวัน”
“อันนั้นมันเป็นข้อเท็จจริงอยู่แล้วเปล่าวะ”
“เออๆ ก็ได้ ขี้เกียจเถียงกับมึง…..นี่……แล้วเอามือที่กำลังจับต้นขากูออกด้วย…. ไปจับพวงมาลัยดีๆ ขับดีๆ เดี๋ยวคว่ำ” ผมโวย พร้อมแงะมือปลาหมึกของไอ้นภออก
“โห อะไรวะ จับนิดจับหน่อยเอง แค่นี้ทำเป็นหวง ตอนมึงหลับกูจับมากกว่านี้ มึงยังไม่เห็นว่าอะไรเลย” ไอ้นภตอบหน้าตาเฉย
“เฮ้ย!! มึงจับอะไรกูตอนหลับ!! มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!” ผมโวยวายรีบปัดมือมันออกทันที
“แหม ก็จับผม จับตัว จับไหล่ไง แค่นี้เอง กูไม่ได้ไปจับของสงวนมึงสักหน่อย”
“มึงแน่ใจนะว่าแค่นี้” ผมระแวง
“เออสิ กูพูดคำไหนคำนั้น ขนาดตอนกูเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มึงตอนมึงสลบ กูเห็นเต็มตา กูยังห้ามใจไม่จับเลย” ไอ้นภตอบ
“ห๊า!!! ไอ้!@#$!@#%@&$&*&$%” ผมตกใจโวยวายไม่เป็นภาษา
“มึงจะโวยวายอะไร กูคนจริง ถ้าจับบอกจับ ไม่จับก็คือไม่จับไง กูไม่โกหกมึงหรอก มึงจะให้กูพิสูจน์มะ” ไอ้นภเอื้อมมึอมาหยิกแก้มผม
“เออๆๆๆ พอๆๆๆ มึงไม่ต้องพิสูจน์!!! ขืนมึงพิสูจน์ กูคงโดนอะไรไปหนักกว่าเดิมอีกแหงๆ”
“ฉลาด….หึๆ” ไอ้นภหัวเราะชั่วร้ายอีกแล้วครับ
“เดี๋ยวมึง เลยหอแล้ว กูบอกแล้วว่าให้ขับดีๆ มัวแต่แทะโลมกูอยู่ได้เห็นมั๊ย ขับเลยแล้ว” ผมสะกิดไอ้นภทันทีที่เห็นว่ามันขับออกนอกเส้นทาง
“แล้วใครบอกว่าจะพามึงกลับห้อง!! กูจะพามึงไปจัดหนักต่างหาก ฮ่าๆๆๆ” ไอ้นภระเบิดหัวเราะที่ดูชั่วร้ายไปมากกว่าเดิม……
ม่ายยยยยยยย!!!!!
…………………………………..
ต่อตอนหน้าอะจิ