“อะไรนะครับ!?”
ต้นน้ำร้องลั่นด้วยความตกใจ แต่ชัยชัชยังยิ้มน้อยๆ แล้วพูดประโยคเดิมอีกครั้ง
“เสาร์หน้าจะมีงานเลี้ยงวันเกิดเราใช่มั้ยครับ? พี่จะพาเถ้าแก่เข้าไปหาปู่ต้นนะ”
น้ำเสียงและแววตาของชัยชัชไม่มีแววล้อเล่นเจืออยู่เลยแม้แต่น้อย!
อันที่จริงต้นน้ำแอบขัดใจเรื่องงานวันเกิดของตนนิดๆ ปีนี้เขาจะอายุยี่สิบเอ็ด แม้ปีที่แล้วเขาจะคืนดีกับคุณปู่แต่เขากลับเลือกฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ คุณปู่ของเขาเลยจัดงานเลี้ยงเล็กๆ พบปะญาติขึ้นที่บ้านเพื่อแนะนำเขากับคนอื่นๆ มันไม่ประทับใจเขาเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับปีนี้ที่เขากลับไปอยู่กับคุณปู่เต็มตัว คุณปู่ของเขาจึงจองโรงแรมเพื่อเลี้ยงเปิดตัวเขาโดยเฉพาะ!
ต้นน้ำแทบนับไม่ถูกว่าปีที่ผ่านมาเขาต้องออกงานกับคุณปู่และป้าณีกี่ครั้ง! หนังสือกอสซิบเคยลงข่าวเขาว่าเป็นว่าที่ผู้บริหารเดอะพรีเชียสไดมอนด์รุ่นที่สามด้วยซ้ำ! แต่เขาเรียนฟิสิกส์ไม่ใช่บริหาร! เขาอยากเรียนต่อโทและถ้าทำได้เขาอยากไปต่อปริญญาเอกที่ต่างประเทศ เขาอยากกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเหมือนพ่อของเขา อันที่จริงต้นน้ำแอบคิดหน่อยๆ ว่าถ้าเขารีบเรียนให้จบดอกเตอร์ภายในเวลาที่พ่อเขายังมีอำนาจอยู่นั้นเขาอาจจะได้ตำแหน่งอาจารย์ในภาคได้ไม่ยาก ก็แหมนักเรียนดีเด่นอย่างเขาที่ใครๆ ต่างก็เอ็นดู อาจารย์ในภาคต้องส่งเสริมเขาอยู่แล้ว ยิ่งพ่อเขามีตำแหน่งในคณะ อนาคตที่วาดหวังไว้ไม่ใช่เรื่องยาก!
แต่คุณปู่ผลักดันจับร้านยัดใส่มือเขาสุดๆ ทำไงได้ในเมื่อพี่ธีร์ก็ไม่อยู่แล้ว ป้าณีเองก็แก่ลงทุกวัน พี่ษาก็เรียนหนักจบออกมาก็คงไม่พ้นเปิดคลินิกเสริมความงามของตัวเอง นี่ได้ข่าวว่าพี่สาวเขาเล็งจะเรียนหลักสูตรแพทย์ผิวหนังให้เป็นเรื่องเป็นราว พูดง่ายๆ ว่าไม่มีใครสนใจร้านเพชรของครอบครัว ต้นน้ำที่รู้จักแต่องค์ประกอบของคาร์บอนเลยปวดหัวกับการพยายามแยกแยะ “น้ำงาม” สุดชีวิต! แต่อะไรก็ไม่เท่ากับการต้องปั้นหน้ายิ้มให้พวกคุณหญิงคุณนาย!
มาปีนี้คุณปู่ตั้งใจจะเลี้ยงวันเกิดเปิดตัวเขาเต็มที่! แค่นี้เขาก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ละนี่ชัยชัชยังจะมาพบปู่เขาอีกหรือ? ต้นน้ำไม่อยากจะคิดว่ามันจะวุ่นวายขนาดไหน!
“พี่ชัช...”
ใจจริงต้นน้ำอยากจะถามว่าชัยชัชคิดอะไรของเขาแต่พูดไม่ออก ทำไมเขาจะไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของชัยชัช เขารู้ดีแต่ว่าอย่างไรเขาก็กลัว... หากชัยชัชมาเฉยๆ คงไม่เท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มเอ่ยปากว่าจะพาเถ้าแก่มาด้วย... เถ้าแก่ที่ว่า... ต้นน้ำสับสนทั้งตื่นเต้นปนดีใจจนความคิดในหัวตีกันวุ่นวาย!
เมื่อเห็นต้นน้ำเงียบไปชัยชัชก็ยิ้ม สีหน้ากังวลสับสนจนพูดไม่ออกของต้นน้ำทำให้เขาเอ็นดู
“เชื่อพี่นะครับ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี พี่ทำผิดพี่ก็ต้องยอมรับผิด พี่จะฝ่าด่านปู่เราให้ได้”
“แล้วถ้าเกิดคุณปู่...”
“ยังไงปู่ต้นก็คงไม่เอาไม้ตะพดออกมาไล่หวดพี่หัวแบะหรอกม้าง แกแก่แล้วเดินยังไม่ค่อยจะไหว พี่ไม่กลัวหรอก ฮ่าๆ”
“ยังจะเล่นอีกนะครับ”
แต่มุกของชัยชัชก็ทำให้ต้นน้ำผ่อนคลาย เขายิ้มออกมาได้ในที่สุด
“ไม่ต้องห่วงหรอกต้น ความจริงเรื่องนี้พี่ปรึกษาพ่อเราแล้ว แกแนะนำให้พี่พาเถ้าแก่ไปด้วย พี่เลยว่าจะรบกวนพ่อไอ้เอกมัน ระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั้งที ปู่เราคงไว้หน้าพี่บ้าง”
นี่ชัยชัชแอบเข้าหาพ่อเขาตั้งแต่เมื่อไหร่! ต้นน้ำตกใจจนตาโตเผลออ้าปากค้าง แต่แล้วประโยคถัดมาก็ทำให้เขาต้องหุบปากอมยิ้มด้วยความอาย
“รอพี่ไปขอดีๆ นะครับ ไม่ต้องเครียด”
“พี่ชัชก็... บ้า! ผมปวดหัวจะตายอยู่แล้วยังจะหาเรื่องมาให้ผมอีก”
“หืม? ปวดหัวเรื่องอะไรครับ?”
“ก็เรื่องร้านน่ะสิครับ งานนี้นอกจากจะเป็นงานวันเกิดแล้วคุณปู่ยังจะเปิดตัวผมด้วย ยังไงคุณลุงก็คงไม่มาทำร้านนี้แล้ว พี่ษาก็ไม่เอาเหลือแต่ผม พวกญาติๆ คนอื่นก็อยากเข้ามาจนตัวสั่น ผมเหมือนอยู่ท่ามกลางฝูงแร้งเลย”
ได้ยินต้นน้ำบ่นแล้วชัยชัชก็นึกห่วง อนาคตของเมียรักผัวจะไม่ห่วงได้อย่างไร ชัยชัชรู้จักต้นน้ำดีจึงรู้ว่าคนรักหนักใจเรื่องอะไร
“ต้นไม่อยากทำร้านเพชรเหรอครับ?”
“ครับ ผมขายของเป็นซะที่ไหน แถมยังดูเพชรไม่เก่งอีก ให้ไปขายสร้อยเพชรเส้นละสิบล้านน้ำงามอย่างโง้นอย่างงี้ให้พวกไฮโซผมทำไม่ได้หรอก เวลามีคนเอาของเก่าต้นตระกูลมาขายผมก็ดูไม่เป็น ไม่รู้ว่าอันไหนคุ้มที่จะรับซื้ออันไหนไม่ควรรับ ป้าณีซะอีกที่เก่ง แต่พักหลังท่านก็บ่นว่าอยากให้ผมรับช่วงต่อจากท่านซักที”
ฟังเสียงคนรักบ่นด้วยความหนักใจแล้วชัยชัชก็สงสาร กับงานขายยาตามโรงพยาบาลเขายังเหนื่อยแทบตาย นี่เมียรักเขาต้องกระโจนลงสนามเจรจาซื้อขายเพชรพลอยกับพวกเขี้ยวๆ ไม่แปลกที่คนไม่ถนัดใส่หน้ากากเข้าสังคมอย่างต้นน้ำจะอยากวิ่งหนี
“แล้วต้นอยากทำอะไรเหรอครับ?”
“ผมอยากเรียนโทให้จบเร็วๆ แล้วไปต่อเอกที่อังกฤษครับ ผมอยากเป็นด็อกเตอร์ก่อนสามสิบแล้วกลับมาเป็นอาจารย์เหมือนคุณพ่อ”
เมื่อได้เห็นสีหน้ายิ้มแย้มขณะเล่าความฝันของต้นน้ำแล้วชัยชัชก็ระบายยิ้มด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“ทำไมถึงอยากเป็นอาจารย์ละครับ”
พอถูกถามต้นน้ำก็ชะงัก เขาย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
“อืม... ไม่รู้สิครับ ตอนแรกที่ผมชอบฟิสิกส์ก็เพราะผมชอบดาว ตอนเด็กๆ ผมอยากเป็นนักบินอวกาศ แต่ความฝันแบบนั้นต่อให้พยายามทั้งชาติผมก็คงทำไม่ได้ ผมไม่มีทางฟิตพอจะเป็นนักบินอวกาศได้แน่ๆ แล้วนาซ่าเขาก็คงไม่มีตั๋วนักบินอวกาศให้คนไทยง่ายๆ หรอกครับ ผมก็ควรจะเลิกฝันแล้วมองความจริงซะที”
แม้จะเป็นบทสนทนาชวนหดหู่แต่ชัยชัชกลับยิ้ม เขานึกเอ็นดูความฝันของคนรัก เด็กทุกคนมีความฝันเสมอ แต่พอโตแล้วกลับมีน้อยรายที่ทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ เด็กบางคนลืมความฝันของตัวเองไปแล้วเสียด้วยซ้ำ เช่นเขาเป็นต้น
“พูดอะไรอย่างนั้น เราอาจจะไปเรียนต่อแล้วได้ทำงานกับนาซ่าจริงๆ ก็ได้ใครจะไปรู้”
“อื้อไม่เอาหรอกครับ ถ้าไปอยู่บนอวกาศก็เหงาตายเลย อยู่กับพี่ชัชบนโลกดีกว่า ผมไม่อยากเป็นเจ้าชายน้อยผู้โดดเดี่ยวคนนั้น”
มุกตลกของต้นน้ำทำเอาชัยชัชหลุดขำพรืด
“เดี๋ยวนี้ร้ายกาจนะเรา”
“ก็นิดหน่อยครับ”
ต้นน้ำขยิบตาก่อนจะยกโกโก้ร้อนขึ้นจิบปกปิดสีแดงจางๆ บนพวงแก้ม ภาพอากัปกิริยาน่ารักเหล่านี้ทำให้หัวใจของชัยชัชเต้นรัว เขาบอกตัวเองให้เอื้อมมือไปยกกาแฟบนโต๊ะขึ้นดื่มแทนการคว้าตัวคนรักมาบดริมฝีปาก อย่างไรเสียพวกเขาก็นั่งสนทนากันในร้านกาแฟหาใช่ที่ลับตาคน
“ต้นอยากอยู่กับพี่จริงอ่ะ?”
ต้นน้ำไม่รู้ว่าโดนชัยชัชหยั่งเชิงจึงแอบหนักใจ
“ผม... ผมก็อยากนะครับ แต่คุณปู่คง...”
“พี่อยากชวนเราไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เหมือนเมื่อก่อน... ต้นจะว่าไง?”
เพียงเท่านี้ต้นน้ำก็ตาโต! แต่ชัยชัชไม่ปล่อยโอกาส เขารุกต่ออย่างนิ่มนวล
“ความฝันที่เราอยากเป็นนักบินอวกาศพี่คงช่วยอะไรเราไม่ได้ แต่ความฝันที่เราอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นพี่ทำให้ได้นะครับ คราวนี้พี่อยากทำอะไรให้มันถูกต้องซะที พี่จะสร้างครอบครัวกับต้นนะ”
พูดไม่พูดเปล่าชัยชชัชยังแอบจับมือของต้นน้ำ เขาบีบมือของคนรักเบาๆ แล้วส่งยิ้มให้ ต้นน้ำเขินจัดหน้าแดงจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่หลบตาเสมองไปทางอื่น
“ผู้ชายด้วยกันสร้างครอบครัวได้ที่ไหน”
“ไม่รู้สิ มีบ้านแล้วเดี๋ยวอะไรๆ ก็ตามมาเองแหละ”
ต้นน้ำงงจนต้องหัวมาถามคนรักด้วยสายตา แต่ชัยชัชกลับพูดสบายๆ
“โครงการเขาสร้างไปได้เยอะแล้ว สิ้นปีนี้คงเข้าไปอยู่ได้ พี่กะว่าจะตกแต่งให้เสร็จก่อนค่อยย้ายเข้า ต้นอยากได้แบบไหนต้องมาเลือกเองนะ ไม่งั้นเดี๋ยวได้บ้านไม่ถูกใจจะให้ทุบทำใหม่พี่ไม่มีตังค์นะเออ!”
“พูดเป็นเล่น...”
ต้นน้ำอ้าปากค้าง! แฟนเขาพูดจริงหรือ? ความรู้สึกหลายหลากปนเปกันจนยุ่ง ต้นน้ำทั้งดีใจทั้งทึ่งจนพูดไม่ออก!
“ใครบอก พี่เอาจริงนะเออ เตรียมเรือนหอรอไว้แล้ว เหลือก็แต่แต่งเมียนี่แหละ ไปเป็นแม่บ้านให้พี่นะครับ รับรองผ่อนหมดเมื่อไหร่เป็นชื่อเราแน่ๆ แต่คงอีกซักยี่สิบปีนะต้น พี่กู้ระยะยาวว่ะ”
“แล้วคอนโดละครับ?”
“ก็ขายเอาเงินมาโป๊ะสิ ไม่ก็ปล่อยเช่า เดี๋ยวพี่ก็หาทางได้เองแหละ พี่ไม่โสดแล้ว คนมีครอบครัวไม่เหมาะกับการอยู่คอนโดหรอก เผื่อที่ไว้ให้ลูกวิ่งเล่นด้วยไง”
“ลูกอะไรครับ?”
“เอ้า! ก็ลูกหมาไง พี่อยากเลี้ยงหมาว่ะ”
และแล้วต้นน้ำก็เบ้ปากใส่แฟนหนุ่มก่อนจะใช้มือซ้ายยกแก้วโกโก้ขึ้นจิบโดยปล่อยให้มือขวาของตนถูกชัยชัชกุมไว้หลวมๆ
แม้วันนี้จะมีงานเลี้ยงสังสรรค์เปิดตัวต้นน้ำตอนค่ำแต่ทุกคนกลับวุ่นวายกันตั้งแต่เช้า ทุกคนในบ้านตื่นเช้าเตรียมตัวไปทำบุญที่วัด แต่ต้นน้ำกลับกระวนกระวายเรื่องอื่นมากกว่า เขาลุกลี้ลุกลนผิดปกติจนเจ้าสัวเอ่ยปากทัก ทุกคนคิดว่าเขาตื่นเต้นเรื่องงานเลี้ยงคืนนี้ มีแค่ต้นตระการเท่านั้นที่รู้ดีว่าลูกชายกังวลเรื่องอะไร จนกระทั่งกลับถึงบ้าน ทุกคนก็พบกับแขกที่มารอ...
แม้จะมีเถ้าแก่เป็นถึงระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาลชื่อดังมาช่วยพูดให้แต่บรรยากาศก็ยังตึงเครียด ต้นน้ำถูกเจ้าสัวไล่ให้ไปช่วยณีรนันท์เตรียมของว่างสำหรับแขกไม่เปิดโอกาสให้เขาได้สบตากับชัยชัชเลยแม้แต่น้อย เกรียงไกรที่ไม่ชอบบรรยากาศอึดอัดจึงหนีเข้าครัวไปอีกคนทิ้งให้ต้นตระการรองรับอารมณ์ผู้เป็นพ่อเพียงลำพัง
ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ได้เห็นฉากเด็ดที่ชัยชัชยกพานดอกไม้ธูปเทียนคลานเข่าเข้าไปกราบเท้าขอขมาท่านเจ้าสัว แต่ท่านเจ้าสัวกลับชักเท้าหนีจนชัยชัชหน้าเสีย
“คุณพ่อครับ”
ท่านเจ้าสัวขัดใจยิ่งนักเมื่อเห็นว่าลูกชายของตนทำท่าจะอยู่ข้างเดียวกับชัยชัช
“ฮึ! อั๊วะเป็นคนจีน”
“เดี๋ยวผมจัดพิธียกน้ำชาแบบจีนก็ได้ครับ”
“ใครจะยกอาตี๋เล็กให้ลื้อ!”
“ผมตกลงกับคุณชัชแล้ว ผมไม่อยากฝืนใจลูกอีก คุณพ่อไม่อยากเห็นหลานมีความสุขเหรอครับ”
“แล้วที่อาตี๋เล็กฆ่าตัวตายเพราะอีล่ะ อาต้น ลื้ออยากเห็นลูกทุกข์ใจอีกรึไง ผู้ชายแบบนี้จะดูแลอาตี๋เล็กได้ยังไง ฮึ! หลานอั๊วะๆ ดูแลเองได้”
สถานการณ์เริ่มย่ำแย่ เอกดนัยจึงสะกิดพ่อของตนบ้าง ฝ่ายผู้อำนวยการก็จ้องหน้าศิษย์คนโปรดจนตาถลน ดีแต่สร้างเรื่องตั้งแต่หนุ่มยันแก่! ไม่มีใครบอกเขาสักคนว่าชัยชัชสร้างเรื่องไว้ถึงขั้นคนรักฆ่าตัวตาย!
“แม้ว่าเจ้าชัชจะใจร้อนไปบ้างแต่ก็เป็นคนขยันขันแข็ง เอาการเอางาน”
ถ้าจะมีข้อดีก็เห็นจะเป็นเรื่องเอาการเอางานนี่แหละที่แม้แต่ท่านเองยังอดชื่นชมชัยชัชไม่ได้ แต่ยังพูดไม่ทันจบก็โดนแทรก
“อั๊วะรวยอยู่แล้ว อาตี๋เล็กไม่ต้องทำอะไรก็สบายมีกินไปทั้งชาติ!”
“เป็นคนรักครอบครัว...”
ผู้อำนวยการพยายามนึกถึงข้อดีของชัยชัชแต่กลับทำได้ยากเย็น
“คนเจ้าชู้อย่างอีจะรักใครมากกว่ารักตัวเอง”
ท่านเจ้าสัวกล่าววาจาเฉือดเฉือนขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ยังปรายตาเผื่อไปให้ลูกชายคนเล็กของตนแถมอีกคนที่พึ่งจะมาทำตัวได้เรื่องเอาก็ตอนแก่!
“ฐานะอีรึก็งั้นๆ วีรกรรมก็มีมิใช่น้อย ดีแต่ทำให้อาตี๋เล็กเสียใจ พวกลื้อคิดว่าคนอย่างอีเหมาะจะดูแลหลานชายคนเดียวของอั๊วะเหรอ?”
“ผมอาจจะทำร้ายต้นไว้มากแต่ผมขอสัญญาว่าจากนี้ต่อไปผมจะไม่ทำให้ต้นเสียใจอีกเด็ดขาด ผมขอโอกาสจากท่านเจ้าสัวอีกครั้งนะครับ รับรองความนี้ผมจะดูแลต้นให้ดีที่สุด ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังครับ”
น้ำเสียงจริงจังและแววตาที่มุ่งมั่นของชัยชัชทำให้คุณปู่ผู้หวงหลานชายเชื่อ เจ้าสัวเชื่อว่าชัยชัชรักต้นน้ำจริงๆ แต่ท่านไม่เชื่อว่าชัยชัชจะปรับปรุงนิสัยแย่ๆ ได้แล้ว ชัยชัชไม่ได้มีข้อเสียเพียงเรื่องเดียวเสียหน่อย
ในที่สุดท่านผู้อำนวยการก็ถอนหายใจ....
“ว่ากันตรงๆ เลยนะท่านเจ้าสัว ไอ้ผมเองก็เห็นลูกศิษย์คนนี้มานาน ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูกไปแล้ว ผมเห็นเขามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กไร้หัวคิด จนกระทั่งวันนี้ที่มันแก่มันก็ยังงี่เง่าเหมือนเดิม เคยอันธพาลอย่างไรก็ยังใจร้อนอยู่อย่างนั้น แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเจ้าชัชมันรักใครมากขนาดนี้มาก่อนเหมือนกัน มีแต่หลานชายท่านเจ้าสัวคนเดียวที่ทำให้มันเป็นผู้เป็นคนขึ้น ไอ้ลูกศิษย์ตัวแสบถึงขั้นบากหน้ามาขอให้ผมเป็นเถ้าแก่สู่ขอหลานท่านให้เป็นเรื่องเป็นราว ผมก็รู้ทันทีว่ามันรักของมันมาก อย่างไรเสียเรื่องร้ายๆ ก็ผ่านไปแล้ว ในเมื่อเด็กมันรักกันท่านจะไม่ให้โอกาสมันหน่อยหรือ?”
แม้ท่านผู้อำนวยการจะช่วยพูดให้แต่ท่านเจ้าสัวก็ยังไม่มีท่าทีจะใจอ่อน ต้นตระการจึงช่วยสำทับให้อีกแรง
“เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความสุขของต้น คุณพ่อน่าจะถามความเห็นหลานนะครับ”
“เข้าข้างกันเข้าไป พวกลื้อมันก็เหมือนกัน! ได้! งั้นให้ใครไปเรียกอาตี๋เล็กมา อั๊วะจะถามอีเอง!”
ท่านเจ้าสัวหงุดหงิดจนส่งเสียงล้งเล้งเรียกหาหลานชายคนโปรด และเมื่อต้นน้ำมาถึงก็ถูกเจ้าสัวเรียกให้ไปนั่งข้างๆ ต้นน้ำจึงนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ข้างๆ ผู้เป็นปู่ประจันหน้ากับชัยชัชที่แทบไม่ได้ขยับจากจุดเดิม
“อาตี๋เล็ก อีมาขอลื้อๆ จะว่าไง?”
“ผม...”
สีชมพูจางๆ บนแก้มของต้นน้ำบ่งบอกคำตอบได้เป็นอย่างดี เกรียงไกรที่แอบลุ้นอยู่ยังเผลอดีใจแทนหลาน ทว่าคำพูดต่อมาของเจ้าสัวก็ดับฝันของทุกคน!
“ลื้อโตแล้วน้า... ยี่สิบเอ็ดแล้ว ลื้อจะทำอะไรอั๊วะคงห้ามลื้อไม่ได้ แต่อั๊วะอยากให้ลื้อคิดดีๆ ถ้าสิ่งที่ลื้อฝันมันไม่เป็นไปตามที่ลื้อคิดลื้อจะรับได้รึเปล่า? อั๊วะไม่อยากเห็นลื้อเสียใจอีก เรื่องบางเรื่องใครก็ช่วยลื้อไม่ได้นอกจากตัวลื้อเอง อั๊วะเองก็อยากเห็นลื้อมีความสุขกับคนดีๆ แต่อั๊วะไม่อยากบังคับจิตใจลื้อ ถึงลื้อจะเป็นผู้ชายแต่อั๊วะก็เป็นห่วงน้าอาตี๋เล็ก”
ได้ยินแล้วต้นน้ำก็น้ำตาร่วง...
“ผม... ผม...”
เห็นอาการอึกอักของเมียรักแล้วชัยชัชก็สะอึก เขารู้ทันทีว่าลึกๆ แล้วต้นน้ำยังแอบกลัว และเพราะความกลัวนี้เองต้นน้ำถึงไม่กล้าทุ่มเทให้เขาหมดหัวใจเช่นกาลก่อน กำแพงบางๆ ที่ขวางกั้นเขาเอาไว้ก็คือผลกระทบทางจิตใจจากเรื่องราวในอดีตนี่เอง!
“ลื้อรักอีรึเปล่าอาตี๋เล็ก?”
“ครับ”
แม้จะเป็นการตอบรับแต่เสียงของต้นน้ำกลับเบาหวิว หยดน้ำตาที่ไหลเป็นทางบนแก้มชวนให้คนมองแล้วสงสาร ต้นน้ำก้มหน้าลงไม่กล้ามองสบตากับใคร
“แล้วถ้าเกิดอีทำให้ลื้อเสียใจอีกลื้อจะทำยังไง?”
ชัยชัชอยากตะโกนออกไปเหลือเกินว่าเขาไม่มีวันทำให้ต้นน้ำเสียใจอีกแน่นอน แต่อีกใจก็อดลุ้นไม่ได้ว่าต้นน้ำจะตอบเช่นไร
“ผมจะทิ้งเขาทันทีครับคุณปู่”
ได้ยินแล้วชัยชัชแทบร้อง! เขามองคนรักปาดน้ำตาก่อนจะเงยหน้าพูดต่อด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว!
“ผมเชื่อว่าพี่ชัชคงจะไม่ทำให้ผมต้องเสียใจอีก แต่ว่า... แต่ผมเองก็ไม่มั่นใจ ผมอยากจะตอบว่าผมจะให้อภัยเขา แต่ว่า... หลังจากผ่านอะไรมาตั้งเยอะผมให้โอกาสเขาถึงขั้นนี้แล้วถ้าเขายังกล้าทำให้ผมเสียใจอีกเขาก็ไม่คู่ควรกับความรักของผมแล้วครับ”
ชัยชัชหลุดยิ้มออกมาเมื่อถูกต้นน้ำหันมาสบตา ดวงตาฉ่ำคราบน้ำตาแต่แฝงแววเด็ดเดี่ยวทำให้เขาเอ็นดู ลูกแกะน้อยของเขาเข้มแข็งขึ้นมากทีเดียว
“พี่จะไม่ทำให้ต้นผิดหวังในตัวพี่อีกแน่ๆ ครับ ขอให้ผมได้ดูแลต้นอีกครั้งนะครับเจ้าสัว”
คำพูดสั้นๆ แต่หนักแน่นและจริงใจส่งผ่านไปถึงท่านเจ้าสัว ต้นน้ำขยับไปนั่งเคียงข้างชัยชัชก่อนจะก้มลงกราบพร้อมกัน คราวนี้ท่านเจ้าสัวไม่เล่นแง่อีก สายตาของชายชรามีแต่ความอบอุ่นอ่อนโยนส่งมาให้หลานคนเล็ก ในที่สุดหลานชายเขาก็ออกเรือน... น่าเสียดายนัก พึ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นานก็จะต้องเสียต้นน้ำไปให้คนอื่นอีกแล้วหรือ...
ท่ามกลางความเงียบทุกคนต่างกระวนกระวาย ชัยชัชหายใจไม่ทั่วท้องนั่งจ้องตากับท่านเจ้าสัวจนนิ่งแข็งเป็นรูปปั้น กระทั่งต้นน้ำยังแอบลุ้นจนตัวโก่งกลัวจะไม่ผ่านการอนุมัติ ในที่สุดก็มีเสียงถอนหายใจของเจ้าสัวดังขึ้นทำลายความอึดอัด
“ถึงหลานอั๊วะจะเป็นผู้ชายแต่ลื้อก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณีน้า อั๊วะเองก็มีหน้ามีตาลื้อจะเอาหลานอั๊วะไปอยู่ด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้ ใครรู้เข้ามันจะไม่ดี อั๊วะอนุญาตให้หมั้นกันไว้ก่อน ถ้าลื้อรักอาตี๋เล็กจริงก็ต้องรอให้อีเรียนจบก่อนถึงจะเอาอีไปอยู่ด้วยได้ ลื้อต้องให้เกียรติอี ลื้อทำได้รึเปล่า?”
ท่านเจ้าสัวใจอ่อนถึงขั้นนี้แล้วชัยชัชจะไม่รีบรับปากได้อย่างไร
“ได้ครับได้!”
หมาป่าตกปากรับคำอย่างรวดเร็วจนลืมคิดถึงความจริงบางอย่าง หมาป่าจะดุร้ายเพียงไรก็ไม่มากเล่ห์เท่าจิ้งจอกเฒ่า!
“แต่อั๊วะมีข้อแม้! ถ้าลื้อทำไม่ได้ก็แปลว่าลื้อไม่เหมาะจะดูแลอาตี๋เล็กของอั๊วะ ต่อไปลื้อห้ามมายุ่งกับอาตี๋เล็กของอั๊วะอีก!”
ทันทีที่ได้ยินชัยชัชก็ยิ้มค้าง!
“ข้อแม้?”
หมาป่าหันไปมองหน้าเด็กเลี้ยงแกะๆ ก็ทำหน้างงก่อนจะหันไปขอความเห็นจากพ่อของตน แม้แต่ต้นตระการยังส่ายหัวไม่รู้เรื่องด้วยเลย!
“ใช่! ลื้อต้องหาสินสอดมาหมั้นอาตี๋เล็กให้ได้ก่อนอีเรียนจบ ไม่งั้นอั๊วะไม่ยกให้!”
ได้ยินแล้วชัยชัชก็ชักเหงื่อตก...
“แล้ว... เจ้าสัวจะเรียกเท่าไหร่เหรอครับ”
ชัยชัชยังทำใจดีสู้เสือต่อ หารู้ไม่ว่าคำตอบของเจ้าสัวจะทำให้เขาอ้าปากค้าง!
“เงินสดเก้าล้าน ทองอีกเก้าสิบเก้าบาท!”
ว่าแล้วท่านเจ้าสัวก็หัวเราะด้วยความสะใจ ต้นน้ำหน้าซีดได้แต่ปล่อยให้ชัยชัชอ้าปากค้าง! สินสอดสิบกว่าล้านเขาจะไปมีปัญญาหามาจากไหน! หมาป่าหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เหงื่อกาฬแตกพลั่กพลางหันไปมองหน้าผู้ใหญ่ของตน
“เอ่อ... ท่านเจ้าสัวครับ เรื่องนี้ผมว่า...”
“ฮึ๊! สินสอดแค่นี้ยังไม่มีปัญญาจะมาดูแลหลานอั๊วะได้ยังไง ชีวิตอาตี๋เล็กของอั๊วะมีค่ามากกว่าสิบล้าน!”
โดนว่าเข้าแบบนี้ชัยชัชก็เถียงไม่ออก แต่เจ้าสัวยังคงซ้ำเติมไม่หยุด
“ลูกหลานเพื่อนอั๊วะแต่งงานแต่ละคนได้สินสอดเป็นร้อยล้าน ลื้อคิดดูน้าอาตี๋ อีกหน่อยอาตี๋เล็กต้องเป็นคนมาดูแลร้านต่อจากอั๊วะ เกิดลื้อให้อีไม่สมศักดิ์ศรี ไอหย๊า! อาตี๋เล็กอีไม่ขายหน้าหมดเหรอ ลื้อไม่อายเขาเหรออาตี๋ คนอื่นเขาจะว่าลื้อเอาได้น้า ลื้อก็ต้องพิสูจน์ตัวเองซี่ว่าลื้อเองก็เป็นลูกผู้ชายคนนึง หรือลื้อจะให้อาตี๋เล็กเป็นคนไปขอลื้อแทนล่ะ อั๊วะไม่มีปัญหาหรอกน้า เท่าไหร่ก็เรียกมาเลย ฮ่าๆ”
ชัยชัชขบกรามแน่น แม้ศักดิ์ศรีจะค้ำคอเขาอยู่จนแทบกระอัก แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็เห็นตามที่เจ้าสัวพูด เขาเองก็ไม่อยากให้ใครมาค่อนขอดว่าเกาะเมียกิน สุดท้ายชัยชัชจึงได้แต่ก้มหน้ารับคำอย่างจนใจ
“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ”
เพราะชัยชัชรับคำเสียงอ่อยแถมยังคอตกต้นน้ำที่กลัวเจ้าบ่าวถอดใจเลยพยายามกุมมือให้กำลังใจคนรักของตนสุดชีวิต ฝ่ายชัยชัชเองเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของต้นน้ำก็พยายามฝืนยิ้มออกมา หมาป่าส่งยิ้มแห้งๆ ไปปลอบลูกแกะทั้งๆ ที่ในหัวมีแต่เพลงสิบหมื่นจากมนต์รักลูกทุ่งวิ่งวน อา... ค่าตัวเมียรักเขาแพงจริงๆ
ท่านเจ้าสัวเห็นอาการของคู่รักแล้วก็ลอบยิ้ม
“สมัยนี้ผู้ชายจัดงานแต่งกันเยอะแยะ ถ้าลื้อจะแต่งงานกันอั๊วะจะจัดงานให้เอง เอาให้ใหญ่โตไปเลยเพื่อนฝูงอั๊วะเยอะแยะ แต่ต้องรออาตี๋เล็กอีเรียนจบก่อนน้า อียังเด็ก แต่กว่าอีจะเรียนจบก็อีกตั้งนาน เกิดอีไปเมืองนอกเจอฝรั่งหล่อๆ อั๊วะก็ช่วยลื้อไม่ได้น้า หมั้นกันไว้ก่อนแหละดี เวลามีคนมาทาบทามอาตี๋เล็กอั๊วะจาได้ปฏิเสธได้ ไอหย๊าสมัยนี้น้าผู้ชายจีบกันเยอะจริงๆ! ลูกหลานเพื่อนอั๊วะก็เป็นเกย์ไปตั้งเยอะ แต่ละคนบอกว่าอาตี๋เล็กของอั๊วะน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้อยากได้ไปเป็นหลาน อั๊วะก็เกรงใจเพื่อนไม่รู้จะปฏิเสธอียังไง คนกันเองทั้งนั้น ลื้อเข้าใจมั้ยอ่า ถ้าอั๊วะยกอาตี๋เล็กให้คนอื่นแล้วใครจะมาดูแลร้านของอั๊วะ”
“ครับ ผมเข้าใจครับ”
ชัยชัชยังนั่งคอตกอยู่จึงไม่ทันฉุกใจ แต่มีหรือต้นตระการจะไม่รู้ทันพ่อตัวเอง แต่เขาก็อยากดูท่าทีของชัยชัชเช่นกันจึงยังคงนิ่งเฉยปล่อยให้เจ้าสัวแกล้งว่าที่ลูกเขยไม่หยุด
“แต่ถ้าเกิดอั๊วะยกอาตี๋เล็กให้ลื้อฟรีๆ คนเขาจะมองไม่ดีเอาได้น้า หลานชายคนเดียวทั้งทีอั๊วะก็อยากให้สมน้ำสมเนื้อ เงินไม่กี่ล้านคงไม่ยากเกินความสามารถลื้อใช่มั้ย? ลื้อทำงานเก่งไม่ใช่เหรอ? หรือลื้อจะมาทำงานกับอั๊วะก็ได้นะ ถ้าขยันๆ อั๊วะจะจ่ายโบนัสให้ลื้อเยอะๆ เลย ฮ่าๆ”
นาทีนี้ชัยชัชจะทำอะไรได้นอกจากนั่งน้ำตาตกปล่อยให้ประมุขของบ้านหัวเราะร่วนด้วยความสะใจ
“ไปๆ วันนี้วันมงคล เชิญที่ห้องอาหารดีกว่า อั๊วะสั่งให้คนเตรียมของว่างเอาไว้แล้ว จะได้คุยเรื่องฤกษ์ยามกันด้วย ฮ่าๆ”
สถานการณ์เหมือนจะดี ทุกคนลุกตามท่านเจ้าสัวย้ายไปยังห้องอาหารเหลือแต่ชัยชัชและต้นน้ำนั่งให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
“ต้นครับ ปกติแล้วโทเนี่ย เขาเรียนกันกี่ปีนะครับ? ลงตัวละเทอมได้รึเปล่า? พี่จะได้มีเวลาเก็บเงินก่อนต้นไปเมืองนอกนานๆ”
“จะบ้าเหรอครับ! ขืนผมเรียนช้าแบบนั้นคนเขาได้ด่าว่าผมโง่ตาย! ผมกะจะเรียนปีครึ่งด้วยซ้ำ! อุตส่าห์หาหัวข้อไว้แล้วด้วย”
“แล้วถ้าพี่หาเงินไม่ทันละครับที่รัก?”
“พี่ชัชก็หาให้ได้สิครับ”
ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ต้นน้ำก็หนักใจไม่แพ้แฟนของตน
“สิบล้านเชียวนะครับ พี่ไม่ได้เสกเงินได้เองนะน้อง!”
“ไม่รู้แหละ ก็ผม... หรือพี่ชัชจะไม่รักผมแล้วล่ะ?”
ต้นน้ำงอนปากยื่นพลางคิดในใจว่าถ้าเขาแอบจิ๊กเครื่องเพชรที่คุณปู่ยกให้ไปขายจะได้เท่าไหร่กันหนอ... แต่มีหวังถูกจับได้แน่ๆ เพราะเครื่องเพชรชุดนั้นว่ากันว่าเป็นของโบราณฝีมือปราณีตน้ำงามมาก มีคนสนใจอยากซื้อต่อเยอะแยะแต่คุณปู่หวงมากไม่ยอมยกให้ใครจะเก็บไว้ให้พี่ธีร์เอาไปหมั้นสาว แต่ในเมื่อพี่ธีร์ไม่อยู่แล้วถ้าเขาจะเอาเครื่องเพชรชุดนั้นไปขายให้คนมาหมั้นตัวเองจะผิดไหมหนอ?
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับที่รัก... พี่แค่... ต้นก็รู้ว่าพี่ไม่มีเงินมากขนาดนั้น”
“ผมจะช่วยด้วย คิวว์เคยบอกผมว่ามีคนอยากได้ผมไปแคสตัวละครในซีรี่ย์ บทมันตรงกับบุคลิกผม ถ้าผมเป็นดาราน่าจะได้เงินเยอะ”
“หยู๊ด! พอเลยต้น พี่ไม่อนุญาตให้เราออกสื่อครับ แค่นี้พี่ก็หึงเราแทบบ้าแล้ว! เกิดคนอื่นเห็นความน่ารักของเราแล้วพากันรุมจีบพี่ก็แย่สิครับ พี่หึงนะครับ”
“พี่ชัชก็... บ้า!”
แม้ปากจะด่าแต่ก็เขินจนหน้าแดง ใครใช้ให้หมาป่าของเขาคารมดีแบบนี้กันเล่า ต้นน้ำเลยแอบอมยิ้มเพราะมุกตลกของชัยชัช
“แล้วคิดออกรึยังครับว่าจะหาเงินยังไง?”
“กู้นอกระบบมาแต่งเมียมั้งครับ คงได้หยิบยืมเงินเพื่อนฝูงมาใส่พานก็งานนี้ หึๆ”
แล้วคนทั้งสองก็ยิ้มให้แก่กันอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรก็ตามชัยชัชรู้ดีว่าข้างกายหมาป่าจะมีเด็กเลี้ยงแกะอยู่เคียงข้างช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคเสมอ เพราะเหตุนี้ไม่ใช่หรือเขาถึงเลือกเด็กผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต ต้นน้ำไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนับจากวันที่ถือถุงเค้กพะรุงพะรังวิ่งตามเขา ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปแต่มือของต้นน้ำยังกระชับมั่นอยู่กับมือของเขาราวกับไม่มีวันจะทิ้งกัน ความรักของต้นน้ำไม่เคยเปลี่ยนเช่นเดียวกับหัวใจของเขา หมาป่าอยากดูแลลูกแกะน้อยตัวนี้ตลอดไป ชัยชัชรู้ดีว่าหากหมาป่ามีปัญหา ลูกแกะน้อยจะคอยเป็นกำลังใจให้เขาแน่นอน!
“พี่รักต้นนะครับ”
“มาหวานอะไรตอนนี้ครับ รีบไปดีกว่าเดี๋ยวถูกคุณปู่ดุเอา”
ต้นน้ำเขินเลยเนียนเปลี่ยนเรื่อง แต่ทว่า...
'หมับ'และแล้วเขาก็ถูกกอดก่อนที่สัมผัสอุ่นๆ จะประทับลงบนแก้ม
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ครับที่รักของพี่”