ตอนที่ 2 1st time Fan Meeting
งานแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกที่ไทยของจินนับว่ายิ่งใหญ่ประมาณหนึ่ง เจ้าของบัตรทั้ง 3500 ที่นั่งมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติคละกันไป ศรุตเดินตามมีนเข้างานอย่างว่าง่าย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มางานแบบนี้ ด้วยอัตราส่วนแฟนคลับผู้ชายที่ค่อนข้างน้อยทำให้เขารู้สึกเขินอายขึ้นมาเมื่อโดนกลุ่มสาว ๆ ที่นั่งข้างหน้ามอง
“พี่ศรุต อันนี้คือผ้าเชียร์นะคะ ปกติจะถือไว้เวลาน้องมองมา แต่ห้ามชูสูงเพราะจะบังคนข้างหลังค่ะ” เด็กสาวยื่นผ้าสี่เหลี่ยมขนาดเล็กมาให้พร้อมอธิบาย
“เขาแจกหรอครับ”
“เปล่าค่ะ อันนี้ของมีนเอง พอดีว่ามีนเพิ่งซื้ออันใหม่มาเมื่อกี้แล้วเลือกไม่ได้ว่าจะใช้อันไหนดี ฝากพี่ใช้หน่อยนะคะ” เด็กสาวหัวเราะแล้วหยิบผ้าเชียร์อีกผืนออกมาจากกระเป๋า
ศรุตกางผ้าเชียร์ออกมาดู ฝั่งหนึ่งเขียนชื่อจินเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนอีกฝั่งเป็นรูปจินที่ถูกวาดรูปหูแมวเพิ่มเข้าไป นั่งฝั่งมีนเล่าเรื่องของที่ซื้อมาจากหน้างานสักพักแสงไฟในฮอลล์ก็ดับลงพร้อมกับการปรากฏตัวของพิธีกรในงานวันนี้
“สวัสดีค่า~~” ลิน พิธีกรชายใจหญิงคนดังเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับกล่าวทักทายผู้ชม
“อ่ะก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน ดิฉันชื่อลินรดานะคะ ชื่อเก่าอย่าไปสนใจ วันนี้ก็ได้รับเกียรติมาเป็นพิธีกรในงานแฟนมีตติ้งของคุณจิน ขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ”
“ไหนขอดูความพร้อมหน่อย วันนี้เป็นงานแฟนมีตติ้งของใครนะ?”
“จินนนน!!!!!!!” แฟนคลับตอบเป็นเสียงเดียวกัน
“ใช่แล้วค่า วันนี้เป็นงานแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกของจิน เด็กไทยที่ได้ไปเดบิวต์ที่เกาหลีกับวง TBeX นะคะ เพราะว่าน้องเป็นคนไทยวันนี้เลยจะไม่มีล่าม มีแค่ฉันกับน้องอยู่บนเวทีแค่สองคน ไม่อิจฉานะสาวๆ” ลินยกมือปิดปากหัวเราะแบบตัวร้าย
“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียงเวลา เราไปพบกับคุณจิน หรือ จิน TBeX กันเลยดีกว่าค่า~~~” สิ้นเสียงของพิธีกรแสงไฟบนเวทีก็ดับลงพร้อมกับเสียงเพลงและเสียงกรี๊ดที่ดังกระหึ่มฮอลล์
แสงไฟบนเวทีสว่างขึ้นอีกครั้งพร้อมการปรากฏตัวของไอดอลคนดังที่ทุกคนรอคอย ร่างโปร่งบางเคลื่อนไหวไปตามเสียงดนตรี แขน ขา เอว สะโพก และเท้าขยับราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับดนตรี ทำนองเพลงดังคุ้นหูเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละเพลง ไม่ใช่ท่าเต้นที่สร้างมาจากเพลง แต่เป็นเพลงต่างหากที่สร้างมาเพื่อท่าเต้นนี้
เสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกครั้งเมื่อบทเพลงจบลง จินรับไมค์จากทีมงานแล้วกล่าวทักทายแฟนคลับทุกคน
“สวัสดีครับ” ภาษาไทยสำเนียงต่างชาติออกมาจากคนไทยแท้เป็นอะไรที่น่าประหลาด แต่พอเป็นจินไม่ว่าอะไรก็ดีทั้งหมดนั่นแหละ
แฟนคลับด้านล่างส่งเสียงกรี๊ดตอบรับ จินเดินทักทายแฟนคลับตามโซนต่าง ๆ ในขณะที่ทีมงานจัดเวทีด้านหลัง
“โอเคค่า ทักทายกันไปพอหอมปากหอมคอกันแล้ว มาเข้าสู่ช่วงแรกของกิจกรรมกันดีกว่านะคะ” ลินรดาพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าจินทักทายแฟนคลับครบทุกโซนแล้ว
“คุณจินดูประหม่านะคะวันนี้ ตื่นเต้นหรอคะ” ลินกล่าวแซว
“นิดหน่อยครับ ผมเพิ่งเคยมีแฟนมีตติ้งเดี่ยวแบบนี้” จินลูบจมูกแก้เขิน แก้มใสขึ้นริ้วสีชมพูจางๆ
“ไม่ต้องกังวลนะคะ ในงานนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าพี่อีกแล้ว” ลินปล่อยมุกเรียกเสียงหัวเราะจากจินและคนในงาน
“มาๆๆ มาเข้ากิจกรรมกันดีกว่า ช่วงแรกเป็นช่วงตอบคำถามนะคะ ทางทีมงานเราได้คัดคำถามมาจากผู้ร่วมงานมาแล้ว ให้คุณจินสุ่มเลือกขึ้นมาได้เลยค่ะ” พิธีกรหนุ่มยื่นกล่องกระดาษใส่คำถามให้จิน
ชายหนุ่มหยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งใบแล้วยื่นกลับไปให้พิธีกร
“คำถามแรกนะคะ เกี่ยวกับเมมเบอร์ค่ะ ถามว่าสนิทกับเมมเบอร์คนไหนในวง TBeX มากที่สุดคะ”
“อ่า.. จริง ๆผมก็สนิทกับทุกคนนะครับ ถ้าสนิทที่สุดก็คงเป็น อึนชา ครับ”
“กรี๊ดดดดดด!! อึนจินๆๆๆ” แฟนคลับตะโกนชื่อเมมเบอร์ TBeX พร้อมกรีดร้องเสียงดัง ศรุตค่อนข้างงงนิดหน่อย แต่เห็นมีนที่นั่งข้างๆตะโกนร่วมกับคนอื่นด้วยจึงพอเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าคงเป็นเรื่องในวงการ K-pop ที่เขายังไม่รู้
“ไหนขยายความหน่อย สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้จักกันมานานหรือยัง อะไรประมาณนี้”
“ก็รู้จักตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กฝึกแล้วครับ ตอนเข้าไปแรกๆเขาก็ช่วยสอนภาษาให้ เพราะอายุใกล้กันด้วยเลยสนิทกันที่สุดครับ”
จินเลือกคำถามมาอีก 5 คำถามก่อนจะตัดเข้าช่วงร้องเพลง งานดำเนินไปอีกสักพักจนเข้าสู่ช่วงลัคกี้แฟนที่ทีมงานไม่เคยแจ้งมาก่อนว่าจะมีช่วงนี้
“คุณจินจับฉลากเลือกลัคกี้แฟนเลยค่ะ ลัคกี้แฟนคนแรกจะได้ขึ้นมาเล่นเกม แต่เป็นเกมอะไรนั้นขอเก็บไว้ก่อน” กล่องใส่ฉลากใบใหม่ถูกยื่นให้ไอดอลคนดัง
คราวนี้จินใช้เวลาในการควานหาฉลากนานกว่ารอบที่จับคำถาม ทำเอาคนทั้งฮอลล์นั่งลุ้นจนตัวเกร็ง
“ได้มาแล้วนะคะหมายเลขที่นั่งของผู้โชคดีคนแรก ได้แก่หมายเลข....” พิธีกรลากเสียงยาว มีนที่นั่งข้างศรุตประสานมือพูดหมายเลขที่นั่งตัวเองไม่หยุด
“หมายเลขอะไรดีคะ” เสียงโห่ดังก้องฮอลล์เพราะพิธีกรไม่ยอมประกาศเลขที่นั่งสักที “บอกแค่โซนก่อนดีกว่าเนอะ จะได้ลุ้นๆหน่อย”
“ผู้โชคดีคนแรกอยู่โซน....” ทีมงานเปิดเพลงประกอบเพิ่มบรรยากาศลุ้นขึ้นไปอีก “โซน BF ค่ะ”
เสียงกรี๊ดดังมาจากโซน BF ในขณะที่โซนอื่นผิดหวังไปตามๆกัน
“ผู้โชคดีได้แก่ที่นั่ง BF 433 ค่า~~” พิธีกรประกาศพร้อมกับภาพบนจอถ่ายไปที่ผู้โชคดี เจ้าของที่นั่ง BF 433 เป็นเด็กผู้หญิงวัยประมาณมหาลัย เธอกรี๊ดดีใจพร้อมกับตีเพื่อนที่นั่งข้างๆไม่หยุด
“เชิญขึ้นมาบนเวทีเลยค่า มาเล่นเกมกัน” เด็กสาวลุกขึ้นเดินขึ้นเวทีโดยมีกล้องถ่ายตามหลังไปตลอด
“เกมแรกคือเกมตกปลานะคะ ทีมงานขออุปกรณ์หน่อยค่ะ” ทีมงานยกอุปกรณ์เกมตกปลาขึ้นมาบนเวที มันเป็นเหมือนกับเกมตกปลาของเล่นเด็ก แต่เป็นชุดที่ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อย
“เกมนี้จะให้เล่นแข่งกับคุณจินนะคะ ถ้าตกปลาได้เยอะกว่าคุณจินก็รับไปเลยอัลบั้มพร้อมลายเซ็นต์ของคุณจินนน!!” คนด้านล่างส่งเสียงกรี๊ดอีกครั้งเมื่อได้ยินของรางวัลที่ผู้โชคดีจะได้รับ
เพื่อไม่ให้เสียเวลาลินรดาให้สัญญาณเริ่มเกม ในตอนแรกผู้โชคดีได้คะแนนมากกว่าจิน แต่ช่วงท้ายเกมจินสามารถพลิกกลับมานำได้พร้อมกับสัญญาณหมดเวลาพอดี ผู้โชคดีคนแรกจึงพลาดอัลบั้มพร้อมลายเซ็นไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ยังคงเป็นคนน่าอิจฉาเพราะก่อนลงจากเวทีจินลูบหัวปลอบใจไปครั้งหนึ่ง
ผู้โชคดีคนที่สองก็ยังคงเป็นผู้หญิง อาจจะเป็นเพราะในงานนี้มีแฟนคลับผู้ชายมาค่อนข้างน้อย ทั้ง ๆที่ตามปกติแล้วจินถือว่าเป็นไอดอลชายที่มีแฟนบอยเยอะเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว
“ผู้โชคดีคนต่อไปจะเป็นผู้โชคดีคนสุดท้าย ก่อนที่เราจะให้คุณจินไปเตรียมตัวเต้นอีกเพลงนะคะ ไหนขอเสียงคนที่อยากขึ้นมาเล่นกับน้องหน่อยยยย” สิ้นเสียงพิธีกรคนทั้งฮอลล์ก็พร้อมใจกันส่งเสียงออกมา
“เชิญคุณจินจับฉลากเลือกผู้โชคดีคนสุดท้ายเลยค่า~~” คราวนี้เสียงเพลงที่ทีมงานเปิดยิ่งเร้าอารมณ์ขึ้นไปอีกขึ้น
“ผู้โชคดีคนสุดท้ายอยู่ที่โซน AR ค่ะ” ศรุตเผลอยืดตัวตรงเมื่อได้ยินชื่อโซนที่ตัวเองนั่งอยู่
“ผู้โชคดีคนสุดท้ายได้แก่.....” ศรุตกลั้นหายใจ ไม่ต่างจากคนอื่น ๆในโซน
“AR 32!!!” “กรี๊ดดดดด!!! พี่ศรุต!!” มีนหันมาหาศรุตก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียอีกว่าเจ้าของที่นั่งที่พิธีกรหมายถึงคือตัวเอง
“ว้าววว คราวนี้ได้ผู้โชคดีเป็นแฟนบอยนะคะ สนใจมาเป็นแฟนพิธีกรไหมคะ” ศรุตยิ้มเขินเมื่อโดนพิธีกรแซว แถมตอนนี้กล้องยังถ่ายภาพเขาฉายขึ้นจออีกต่างหาก
“มีนขึ้นไปแทนพี่ไหม เราเป็นคนกดบัตรให้พี่ ขึ้นไปน่าจะดีกว่านะ” ศรุตหันไปกระซิบกับหญิงสาวข้างตัว เพราะมีนเป็นคนกดบัตรมาให้ เขาจึงอยากให้น้องได้ขึ้นไปเล่นเกมกับศิลปินที่ชอบมากกว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ขึ้นไปเถอะ เดี๋ยวมีนรอไฮทัชก็พอแล้ว” มีนส่ายหน้าปฏิเสธ ศรุตจึงต้องเป็นคนลุกขึ้นไปเล่นเกม เพราะพิธีกรเอ่ยเร่งให้ขึ้นไปบนเวที
“ก่อนเริ่มเกมมาคุยกันสักหน่อย ชื่อคุณอะไรคะ” พิธีกรยื่นไมค์มาถามด้วยบทพูดเหมือนกับสองคนก่อนหน้า ศรุตเผลอยืนหลังตรงสวมมาดเวลาทำงานอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาคนด้านล่างเวทีที่จ้องมอง
“องศาครับ” ศรุตบอกชื่อเล่นที่คนรอบตัวไม่ค่อยเรียกกัน
“คุณองศานะคะ เกมสุดท้ายนี้เป็นเกมง่ายๆค่ะ เราจะมีลูกเต๋าให้ลูกหนึ่ง ให้คุณองศาและคุณจินโยน โดยคุณองศาจะต้องทำตามคำสั่งบนหน้าลูกเต๋าของคุณจิน ส่วนคุณจินก็ต้องทำตามคำสั่งบนหน้าลูกเต๋าที่คุณองศาโยนได้ค่ะ” พิธีกรหนุ่มอธิบายพร้อมกับทีมงานที่ถือลูกเต๋าขนาดใหญ่ขึ้นมาบนเวที
“คุณองศาสงสัยตรงไหนไหมคะ” ศรุตส่ายหน้า
“คุณจินมีคำถามไหมคะ” จินส่ายหน้า
“ถ้าอย่างนั้นให้คุณจินโยนก่อนนะคะ เชิญค่ะ” จินรับลูกเต๋ายักษ์จากทีมงาน พอได้มายืนบนเวทีด้วยกันศรุตถึงได้รู้ว่าศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบตัวเล็กกว่าเขาอยู่ประมาณหนึ่ง
“หน้าลูกเต๋าของคุณจินออกมาว่าเล่นเกมอุ๋งๆค่ะ” เสียงกรี๊ดจากด้านล่างเวทีดังจนศรุตแทบจะไม่ได้ยินเสียงพิธีกร
“รู้จักเกมอุ๋งๆกันไหมคะ” พิธีกรหันมาถามศรุตและจิน พวกเขาทั้งคู่ส่ายหัวพร้อมกัน
“เป็นเกมง่ายๆ ให้คุณจินยื่นมือมาข้างหน้าแบบนี้” พิธีกรแบมือข้างหนึ่งออกมาด้านหน้า “แล้วคุณองศาก็วางคางลงไปบนมือแบบนี้” ลินวางคางบนมือของตัวเอง
“ไหนลองซ้อมกับลินก่อนๆ” พิธีกรหนุ่มแบมือมาตรงหน้าของศรุต เขามองมือสักพักถึงนึกได้ว่าต้องวางคางของตัวเองลงไป
“แม่ขา เขาอ่อยหนู!!” พิธีกรหันไปคุยกับแฟนคลับด้านล่างเวทีที่ส่งเสียงหัวเราะรับมุกให้พิธีกรหนุ่ม
“มาค่ะ พร้อมแล้วเริ่มได้เลย คุณองศาจะได้โยนลูกเต๋าบ้าง”
ศรุตขยับเข้าไปใกล้จินตามที่พิธีกรบอก มองมือขาวที่ยื่นออกมาอย่างชั่งใจ เมื่อเช้าเขาโกนหนวดมาอย่างดีแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีไรหนวดใด ๆมาระคายมือข้างนี้ แต่สุดท้ายทั้งด้วยตกใจเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับด้านล่าง และความประหม่าที่ไม่มีที่มา ศรุตจึงวางคางลงไปบนมือนิ่มแค่เสี้ยววินาทีแล้วถอยตัวออก
“ตาคุณองศาโยนลูกเต๋าแล้วค่ะ โยนได้เลย” ศรุตรับลูกเต๋าอีกลูกจากทีมงาน โยนออกไปแบบไม่ได้คิดอะไรมาก อันที่จริงสติเขายังไม่กลับมาจากสัมผัสนุ่มๆที่คางเมื่อกี้ด้วยซ้ำ
“และคำสั่งที่คุณจินต้องทำก็คือ....” พิธีกรหนุ่มยื่นเงียบไปเมื่อได้อ่านข้อความบนลูกเต๋า “แกกกก บ้าเอ๊ย! ฉันเขินแทน” ท่าทางของพิธีกรยิ่งเพิ่มความอยากรู้ของคนด้านล่างเข้าไปอีก
“คำสั่งคือ‘อ้อน’ค่ะ ให้คุณจินอ้อนคุณองศาจนกว่าจะพูดว่ายอมแล้วค่ะ” ศรุตเผลอสบตาจินทันทีที่พิธีกรอธิบายกติกาจบ
...ศรุตรู้สึกเหมือนใช้บุญทั้งชีวิตหมดไปกับการทอยลูกเต๋าครั้งนี้แล้ว
“ผมจะต้องอ้อนยังไงหรอครับ” จินหันไปขอความช่วยเหลือจากพิธีกร ฝั่งพิธีกรส่ายหน้าไม่ยอมช่วยจนจินต้องหันไปถามแฟนคลับ เสียงแฟนคลับแข่งกันพูดวิธีอ้อนที่ตนเองอยากเห็นมาคนละอย่าง สุดท้ายเหมือนจินจะเลือกมาได้หนึ่งวิธีจึงเดินกลับมาจ้องหน้าเขา
“คือว่า... หมากับแมวชอบอะไรมากกว่ากันครับ” ศรุตงงกับคำถามนิดหน่อยแต่ก็ตอบไปตามจริง
“แมวครับ”
“แล้วแมวกับผม... ชอบอะไรมากกว่ากันครับ” คำถามนี้ทำเอาศรุตอึ้งชั่วขณะ จนได้ยินเสียงกระซิบจากพิธีกรว่าให้ตอบแมว เขาจึงตอบไปแบบไม่ได้คิดอะไร
“เอ่อ... แมวครับ” ตอบไปแล้วถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรตอบว่าชอบจินมากกว่า พอจะเอ่ยแก้ตัวว่าล้อเล่นก็ไม่ทันอีกคนที่เร็วกว่า
“เหมี๊ยววววว~~” เสียงร้องเหมียวดังมาจากปากเด็กหนุ่มตรงหน้า พร้อมกับสายตาออดอ้อนที่จ้องมา คนทั้งฮอลล์เงียบไปก่อนเสียงกรี๊ดจะดังกระหึ่มยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“...ยอมแล้วครับ” ศรุตยกมือปิดปากรู้สึกมือไม้เก้งก้างไปหมดไม่รู้จะเอาไว้ที่ไหนดี
เดินลงมาจากเวทีแบบไม่รู้ตัว จนกลับมาถึงที่นั่งตอนไหนก็จำไม่ได้ รู้แค่ว่าเสียงร้องเหมียวพร้อมกับแววตาใสแจ๋วนั่นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไปเกือบอาทิตย์
---------------------------------------------------------
ฮืออ มีคนอ่านด้วยย ดีใจจจจ
มาลงต่อแล้วนะคะ แม้ว่าจะยังสอบไม่เสร็จก็ตาม TT
ขอบคุณทุกคอมเมนท์และยอดอ่านเลยค่ะ