วรุฒที่หายไปพักใหญ่ได้กลับเข้ามาอยู่ในแถวทันเวลาในสภาพสมบูรณ์แบบอีกครั้ง แม้จะมีอาการเหนื่อยหอบและมีเม็ดเหงื่อผุดออกมาประปรายที่หน้าผาก แต่ก็ยังหล่อลากไส้ลากดินเหมือนเดิม วรุฒไม่ลืมที่จะขยิบตาส่งยิ้มมาให้ชานนท์ที่มองตนเองอย่างสงสัย
“และก็ได้เวลาปิดการลงคะแนนแต่เพียงเท่านี้ครับ!!”
เสียงของพี่ชาญ ประธานกรรมการจัดกิจกรรมะโกนออกไมโครโฟนเสียงดังลั่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่พยายามเกริ่นนำโดยการเล่นมุกแป๊กไปหลายมุก เขาคงเห็นว่ามุกที่เล่นทั้งหมดใช้ไม่ได้เลยตัดสินใจตัดบทโดยการปิดโหวตเอาดื้อๆ
หลังจากสิ้นเสียงดังกล่าวผู้เข้าร่วมประกวดทุดคนในแถวต่างหยุดอยู่ในความเงียบงัน โดยเฉพาะชานนท์ที่ได้ยินเสียงหัวใจตนเองเต้นจนแทบจะเต้นหลุดออกมาจากอก
“ไม่ต้องตื่นเต้นไป ยังไงนายก็ไม่ได้เป็นหรอก!!” วรุฒหันมาพูดกับเขาเบาๆ คำพูดที่คนอื่นอาจจะฟังเหมือนดูถูกแต่ชานนท์เข้าใจความหมายในน้ำเสียงที่ดูหึงหวงเหล่านั้นได้ดี
“โอโห!!!! ได้ข่าวว่าคะแนนสูสีกันมาก ยิ่งในช่วงท้ายของการลงคะแนนยิ่งดุเดือด!!” รุ่นพี่ชาญ ประธานกรรมการกิจกรรมร่างสูงโปร่งและทรงผมสีทองอันเป็นเอกลักษณ์พูดใส่ไมค์ด้วยความตื่นเต้น
“และในที่สุด!! เราก็ได้ผู้ชนะครับ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดไปจากการคาดการของพวกเราเท่าไหร่.... ทั้งฝ่ายดาวและฝ่ายเดือน แต่คนที่ได้รองอันดับหนึ่งของฝ่ายเดือนนี่สิ ทำให้ผมประหลาดใจไม่น้อยเลย!!” พี่ชาญกล่าวต่อท่ามกล่างเสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้น
“เราจะประกาศจากฝ่ายดาวก่อนนะครับ ผู้ชนะได้แก่.......” พี่ชาญรับแทปเล็ทเครื่องเล็กจากกรรมการกิจกรรมอีกท่านหนึ่งที่เคยยืนอยู่ทางด้านหลัง ท่ามกลางเสียงในสนามก็เงียบสงบลงเหมือนไร้ผู้คน จนได้ยินเสียงจิ้งหรีดร้องระงมไปทั่ว
“น้อง...... น้อง....... ยูกิ ครับ!!! โห...... แสดงความยินดีด้วยครับ เป็นไปตามคาดจริงๆ ครับ คนอะไร ตอนเหนื่อยโทรมขนาดนี้ยังน่ารักเลยครับ!! น้องยูกิครับ รบกวนขึ้นมารับช่อดอกไม้แสดงความยินและมายืนถ่ายรูปรับรางวัลกับพวกพี่ๆ คณะกรรมการหน่อยครับ!!” พี่ชาญพูดจบก็เกิดเหตุชุลมุนไปกับการมอบดอกไม้และแย่งตำแหน่งกันถ่ายรูปร่วมกับดาวคณะฯคนใหม่
สาวสวยแสนน่ารักผิวขาวดูหมวยๆ น่ารักพิมพ์นิยมจริงๆ เรื่องความมีออร่าก็ต้องยกให้ยูกิเลย เพราะไม่ว่าเธอจะเดินไปไหน ทุกสายตาก็จะจ้องตามไม่วางตา เธอเหมาะสมกับตำแหน่งนี้แล้ว เพราะความสารถของยูกิเองก็ไม่ธรรมดา นอกจากความกล้าแสดงออกยังมีความเป็นผู้นำสูงอีกด้วย แม้แต่ชานนท์ยังมองด้วยความชื่นชมจนวรุฒส่งเสียงกระแอมใส่หลายครั้ง
“อ้าวๆ ต่อไป เราก็มาถึงรางวัลที่สาวๆหลายคน หรือหนุ่มๆ บางคนเฝ้ารอแล้วนะครับ!!” เสียงพี่ชาญดังผ่านลำโพงอีกครั้ง
“ได้เวลาประกาศ เดือนของคณะฯแล้วครับ!!!!” สิ้นเสียงประกาศ ผู้ชมทางด้านล่างต่างส่งเสียงกรี๊ดร้องด้วยความตื่นเต้น
“และคนที่จะมาเป็นเดือนคณะปีนี้ ได้แก่...... ได้แก่......” ถึงตรงนี้กองเชียร์ที่ยืนห่างออกไปต่างตะโกนชื่อของคนที่ตนเองเชียร์อยู่จนดังไปทั้งสนาม
“เป็นไปตามคาด!! น้องวรุฒ เอกไอทีครับ!!”
สิ้นเสียงประกาศผู้ชนะ ชานนท์ดวงตาเบิกโพลงไปที่วรุฒผู้ยิ้มตอบกลับมาอย่างมีชัย ปากก็ขยับเหมือนพูดคำว่า ‘บอกแล้ว’ ชานนท์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า วรุฒจะเป็นคนที่ทำได้ตามที่พูดได้เสมอเลย เป็นคนที่ไม่ว่าจะตั้งใจจะทำอะไรก็ทำอย่างพูด ‘มีมนุษย์แบบนี้จริงๆ หรือนี่!!’ ชานนท์คิดในใจ
เสียงโห่ร้องแสดงความดีใจดังไปทั่วสนามกีฬา บางเสียงก็เป็นกรีดร้องแสดงความยินดี บางเสียงก็เป็นเสียงโห่แสดงความผิดหวังกับผลที่ออกมาไม่ตรงใจ ซึ่งชานนท์ทราบดีว่ามาจากกลุ่มไหน
วรุฒเดินไปรับสายคล้องคอและดอกไม้แสดงความยินดีจากอาจารย์ตัวแทนของคณะฯ และถ่ายรูปคู่กับน้องยูกิซึ่งหลายๆ คนในแถวของคนดูก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งสองเหมาะสมกันมาก บางคนถึงขั้นถ่ายรูปและโพสต์ลงเฟซบุ๊คโดนมี แฮชแท็ก ‘คู่จิ้นคู่ใหม่’ ที่แชร์กันเยอะที่สุดของวันนี้เลยทีเดียว
ต่อไปเป็นการประกาศรองเดือนและดาว ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากการคาดการณ์ของทุกคน ฝ่ายเดือนก็คือ ชานนท์ ม้ามืดที่อยู่ๆก็มีคะแนนเทมาในช่วงท้ายของการแข่งขัน ผู้มีแฟนคลับป้ายไฟจำนวนมาก ส่วนฝ่ายดาว ตำแหน่งรองก็ตกไปที่ยัยเมย์ สาวห้าวสุดแสนน่ารักที่เอาชนะใจหนุ่มๆ ในคณะฯ หลายต่อหลายคน
ในช่วงท้ายของการจัดงาน คือการให้ดาวและเดือนกล่าวอะไรเล็กน้อยกับผู้คนที่ให้กำลังใจในวันนี้ โดยเริ่มจากตำแหน่งดาวและต่อด้วยเดือนคณะฯ ประธานจึงได้ส่งรองดาวและเดือนทั้งสองคน หลังจากขึ้นไปรับดอกไม้เรียบร้อยแล้ว ก็ถูกส่งตัวลงมาจากเวทีเพื่อให้สปอร์ตไลท์ส่องไปที่ดาวและเดือนได้อย่างเต็มที่ กองเชียร์หลายต่อหลายคนต่างจดจ่อจะเข้ามาแสดงความยินดีกับรองทั้งสองอย่างเต็มที่ ยัยเมย์ที่เดินลงมาอย่างงงๆ กับตำแหน่งรองที่เธอได้รับ เพราะมีความตั้งใจน้อยมากกับงานๆนี้ เดินลงมาถึงพื้นได้ยังไม่เต็มสองเท้า ก็มาเจอกับเซอร์ไพร์สเป็นดอกไม้ช่อใหญ่จากชายหนุ่มปริศนา หน้าหล่อผิวขาวตัวเล็ก (สูงถึงประมาณช่วงคอของชานนท์) หอบหิ้วช่อดอกไม้เกือบเท่าตัวเองมายื่นให้กับเมย์ถึงทางลงจากเวที
“ก้อง!!” เมย์ร้องเสียงหลง
“ไหนว่ามาไม่ได้ไง” เมย์สาวห้าวกลับมีนำเสียงอ่อนนุ่มลงมาทันที ส่วนดวงตาของเธอกับระเรื่อไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยงอยู่
“เซอร์ไพร์สไง!!” เสียงใหญ่เกินรูปร่างหน้าตาตอบกลับมาพร้อมยื่นดอกไม้ช่อใหญ่เกือบเท่าตัวเขาเองมอบให้กับเมย์
“ไม่เห็นจำเป็นต้องหอบมาให้เลย!! ตำแหน่งก็ไม่ได้เสียหน่อย!!” ยัยเมย์รับดอกไม้มาด้วยรอยยิ้มที่ฉีกไปถึงหูได้เธอก็จะทำ มันเป็นรอยยิ้มที่เบิกบานในมุมที่ชานนท์ไม่เคยเห็นจากเมย์มาก่อน
“หอบมาให้กำลังใจน่ะ ช่วงนี้เราไม่ค่อยไดัอยู่ด้วยกัน เลยอยากมาแก้ตัวเสียหน่อย” ชายหนุ่มยิ้มหวานกลับมา ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่บริเวณนั้นส่งเสียอิจฉากันอื้ออึง
เมย์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจมากเกินไป เธอจึงตัดสินใจคว้าแฟนหนุ่มตัวเล็กของเธอเดินไปจากจุดเดิมไปไกลจากกลุ่มคน ทิ้งไว้ให้ชานนท์ถูกเพื่อนๆ ในคณะฯ เข้ารุมล้อมแสดงความยินดี หนึ่งในคนกลุ่มนั้นมีเพื่อนคนแรกๆของเขารวมอยู่ด้วย
“มายด์ มาดูเหมือนกันเหรอ?” ชานนท์ทักสาวน้อยน่ารักที่โดดเด่นมากแม้อยู่ในกลุ่มคนเยอะขนาดนี้
“อืม.... ก็โดนตามให้มาช่วยน่ะ” มายด์ตอบไปถอนหายใจไป
“ช่วยอะไร? ช่วยใคร?” ชานนท์งงกับคำตอบของมายด์
“นั่นไง!!” มายด์ชี้ไปที่วรุฒที่อยู่บนเวทีชั่วคราวมี่สูงประมาณช่วงเอว และชี้ไปที่กลุ่มสาวแฟนคลับที่กรี๊ดกร๊าดคนบนเวทีอย่างชื่นชม ในขณะที่ดาวคณะคนใหม่กำลังพูดขอบคุณแฟนคลับทั้งหลายขอแรงใจให้ช่วยสนับสนุนในการเป็นตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยต่อไป
ส่วนชานนท์ได้แต่ทำหน้าแปลกใจตอบกลับมา
“ก็พี่รุฒน่ะสิ อยู่ๆก็ขอให้ช่วยติดต่อแฟนคลับจากทุกคณะให้มาช่วยลงคะแนน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตอนแรกบอกไม่อยากเป็น มันน่ารำคาญ แล้วอยู่ๆก็มาเปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายแบบนี้!!” หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าของมายด์ ชานนท์ก็ประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ในทันที และไม่แปลกใจที่ทำไมถึงเป็นมายด์ที่เป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างได้ เพราะทุกคนจะรู้จักมายด์ในฐานะ ‘น้องสาว’ และ ‘เพื่อนสาวคนสนิท’ ของวรุฒ ทำให้ถูกบรรดาแฟนคลับรบกวนอยู่บ่อยครั้ง การที่มายด์จะเป็นผู้ประสานงานติดต่อแฟนคลับทุกกลุ่มให้ช่วยเหลือเรื่องแบบนี้จึงเป็นเรื่องง่ายดายมาก
“อย่างนี้นี่เอง!” ชานนท์พูดลอยๆ เหมือนพูดกับตัวเอง
“ว่าแต่.... นายเลยได้แค่รองเอง...” มายด์แสดงสีหน้าเห็นใจออกมาชัดเจน
“ไม่เป็นไรหรอก เราก็ไม่ได้อยากเป็นหรอกนะ แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่ เราไม่เก่งเรื่องอะไรพรรณนี้หรอก หันกลับไปเอาดีทางเรียนดีกว่า” ชานนท์ยิ้มกลับ
“น่าเสียดายน๊า ดูสินายเปลี่ยนไปตั้งเยอะเลยนะ ดูแข็งแรงขึ้น รูปร่างเข้าส่วนมากกว่าเดิม นายน่ารักอยู่แล้ว พอยิ่งไม่ใส่แว่นแบบนี้เลยยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก!!” มายด์กล่าวอย่างชื่นชมพร้อมยิ้มอย่างน่ารักส่งมา หากเป็นเมื่อก่อน ในช่วงที่เขายังหลงรักในรอยยิ้มที่แสนน่ารักนี้อยู่ การมาได้รับคำชมและรอยยิ้มแบบนี้ ตัวเขาคงละลายไปกับพื้นแล้ว แต่ตอนนี้กลับแค่รู้สึกขัดเขินนิดหน่อย ส่วนอีกใจหนึ่งก็รู้สึกแปลกๆ อีกด้วย เพราะแทนที่จะได้ขอมายด์เป็นแฟน แต่กลับได้คนสนิทของมายด์มาเป็นแฟนเสียเอง เรื่องนี้เขาจึงยังรู้สึกเกร็งๆกับคนตรงหน้าไม่น้อย และยังอยากจะเก็บเป็นความลับกับเธอต่อไป
“มิน่าล่ะ” สาวน้อยตรงหน้ามองเขาอย่างฉายแววเจ้าเล่ห์
“อะไร?” ชานนท์ประหลาดใจกับบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปกระทันหัน
“พี่รุฒถึงได้ดูหลงนายหนักหนา นายทั้งน่ารัก นิสัยดีแบบนี้นี่เอง” ยังไม่ทันจบประโยคดีชานนท์ก็รูกสึกตกใจและถอยห่างจากสาวสวยตรงหน้าไปครึ่งก้าว
“เอ่อ.... มายด์......”
“รู้สิ! พี่รุฒไม่เคยมีความลับกับเราสักเรื่อง รวมถึงเหตุผลที่อยากประกวดชนะด้วย! เพราะเขาหวงนายจนไม่อยากให้ใครรู้จักนายไปมากกว่านี้ไง!!” มายด์เดินมาใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าอกของชานนท์อย่างจงใจ ส่วนชานนท์ได้แต่อึ้งทำตัวไม่ถูกว่าจะตอบกลับไปว่าอะไร
“แล้วมายด์ไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ? มายด์โอเคไหมที่เรากับ......” ชานนท์ยิ้มแห้งๆ กลับไปพร้อมกับจบประโยค
“โอ้ย! นี่มันสมัยไหนแล้ว พ่อคุณ! ความรักมันไม่มีเพศหรอกนะ ความจริงพี่รุฒนะก็ผู้ชายทั้งแท่งนะ แม้ว่าจะเคยผ่านประสบการณ์อะไรแบบนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะตกร่องปล่องชิ้นกับคนอย่างนาย”
“อย่างเรา?” ชานนท์ใช้นิ้วจิ้มตัวเอง
“ไม่ใช่ในความหมายไม่ดีนะ เพราะที่ผ่านมา ก็จะเจอแต่ระดับตัวท้อปทั้งนั้น.... อืม... ช่างเถอะ!! แต่ว่าในบรรดาคนของพี่รุฒทั้งหมด เราชอบนายมากที่สุดนะ” มายด์ตบไหล่ชานนท์เบาๆ
“เอ่อ..... ขอบคุณนะ” ชานนท์ตอบกลับทั้งที่ยังมีคำถามในใจอีกเยอะ แต่คิดว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะมาถามอะไรตอนนี้
“น้องนนท์”
เสียงตะโกนเรียกชื่อเขาดังขึ้นจากที่ไกลๆ ที่ไหนสักแห่งทำให้ทั้งชานนท์และมายด์หันหาต้นเสียงไปพร้อมๆ กัน
“น้องนนท์ พี่ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้น้องชนะไม่ได้” เสียงดังกล่าวกลับมาอยู่ใกล้ตัวเขาในระยะเวลาอันสั้น ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหัวหน้าใหญ่แฟนคลับของเขานั่นเอง!!
“พี่เต๋า!! เข้ามาได้ยังไงครับเนี่ย!!” เขาถามขึ้นเพราะคนในบริเวณที่เขายืนอยู่มันแน่นเสียจนไม่มีช่องว่างให้สามารถเดินเข้ามาได้เลย
“พี่เป็นนินจาครับ เรื่องแค่นี้สบายมาก!!”
“หา!?!?”
“น้องเนี่ยไม่เข้าใจมุกพี่อีกแล้ว!!”
ชานนท์ยิ้มแห้งๆตอบไป
“เรื่องแบบนี้ไม่มีปัญหาสำหรับพี่ครับ น้องอยู่ที่ไหนพี่ก็สามารถไปหาได้ เพื่อน้องพี่ทำได้ทุกอย่าง!!” พี่เต๋าพูดเสียงดังแข่งกันคนทั้งบริเวณจนทำให้มายด์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ออกสีหน้าแบบเหมือนกินของเลี่ยนๆเข้าไปจำนวนมาก
“อ้าว!! น้องมายด์! มาเชียร์คู่หมั้นตัวเองเหรอจ๊ะ!!” พี่เต๋าทักทันทีที่เห็นหน้ามายด์
“พี่เต๋า!!” มายด์มีสีหน้าตกใจเมื่อสิ้นประโยคของเต๋า
“คู่หมั้น?!?” ชานนท์งงกับคำพูดของพี่เต๋า
“อ้าว!! น้องนนท์ไม่ทราบเหรอครับว่า น้องมายด์น่ะ เป็นคู่หมั้นของไอ้เดือนคณะคนใหม่นั้น!!” พี่เต๋าหันมาทางชานนท์ด้วยรอยยิ้มที่ยกมุมฝีปากขึ้นมาเล็กน้อยและชี้ขึ้นไปบนเวที
“นนท์ เราขอคุยด้วยหน่อย” มายด์ยกมือขึ้นจับแขนของชานนท์เพื่อดึงไปให้ห่างจากพี่เต๋า และทำสีหน้าเหมือนพยายามพาชานนท์หลบจากงูพิษที่กำลังพ่นพิษใส่ แต่ชานนท์กลับนิ่งไม่ไหวติง
“หมายความว่าไง?” ชานนท์พูดออกจากปากสั้นๆ และท่าทางใจลอย
“งั้นเดี๋ยวพี่จะอธิบายให้ละเอียดอีกที....” พี่เต๋าเดินมาโอบไหล่ชานนท์เป็นเชิงกีดขวางไม่ใช้ชานนท์ไปกับมายด์ ซึ่งเขาก็ทำได้อย่างชำนาญ ชานนท์คล้อยตามไปโดยง่ายเพราะความอยากรู้ของตน ในขณะที่มายด์พยายามเรียกให้ชานนท์หันมาสนใจตนเอง
“เรื่องนี้ เป็นเรื่องภายในครอบครัว มีคนรู้ไม่กี่คน เฉพาะคนในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนสนิท สองคนนั้นน่ะวางแผนที่จะแต่งงานกันหลังเรียนจบ.......”
พอมาถึงคำว่า ‘แต่งงาน’ ในหัวของชานนท์ก็ขาวโพลนไปหมด เขาเริ่มจับใจความสิ่งที่พี่เต๋าพูดต่อไม่ค่อยได้เสียแล้ว เขารู้แต่ว่าพี่เต๋าโอบเขาแน่นขึ้น และพยายามพาเขาออกนอกกลุ่มคนที่แออัดมาเพื่อแสดงความยินดีกับคนที่ชนะการประกวด มีผู้คนมากหน้าหลายตามาแสดงความยินดีกับเขาพอสมควร แต่ในหัวเขามันแสนจะว่างเปล่าจนแทบจำคนที่มาแสดงความยินดีกับเขาด้วยรูปแบบต่างๆ นานาไม่ได้เลย เขารับรู้แต่เพียงบางคนมาขอถ่ายรูปด้วย เขาก็ยิ้มไปตามหน้าที่ บางคนมาขอกอดขอโอบ ขอจับมือ เขาก็ไม่ได้ถือสาอะไร จนกระทั้งเสียงในลำโพงเสียงหนึ่งแผดมาดึงสติเขากลับมา
“นนท์!! ชานนท์!! หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ?!?”
ชานนท์หันไปทางเวทีทันที
“หยุดก่อน!!” วรุฒพูดใส่ไมค์เสียงดัง ทุกคนที่ส่งเสียงโห่ร้อง กลับเงียบเสียงลงทันที วรุฒที่ควรจะอยู่บนเวทีกลับมายืนอยู่ใกล้เขาแค่ระยะมือเอื้อม
ตอนนี้แค่ชานนท์เห็นหน้าวรุฒก็อยากจะเดินออกไปให้ไกลแล้ว เขาจึงไม่เดินไปหาวรุฒ และเต๋าเองก็ยังทำตัวเกาะแกะอยู่กับชานนท์ไม่ห่าง รวมถึงบรรดาแฟนคลับของชานนท์เองด้วยที่ล้อมหน้าล้อมหลังตัวเขาอยู่
วรุฒแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์ เขาเดินตรงรี่เข้ามาชานนท์ทันที
“ที่กูเดินลงมาถึงตรงนี้ ก็เพื่อจะมาบอกทุกคนว่า อย่ามายุ่งกับเมียของกู คนนี้คนของกู ใครมาวุ่นวายกับเมียกูก็เตรียมตัวตายได้เลย!!” วรุฒพูดใส่ไมค์เสียงดังพร้อมดึงชานนท์เข้ามาในอ้อมแขนและกดริทฝีปากลงไปที่ปากสีชาดอ่อนๆ ของชานนท์ จนชานนท์ได้แต่ทำเสียงอู้อี้ท่ามกลางผู้คนในงานมากมาย เสียงฮือฮาดังตามมาไม่ขาดสาย
“เชี้ย! กูไม่นึกว่ามึงจะกล้าขนาดนี้!” เสียงพี่เต๋าแว่วมา
“ทำบ้าอะไรเนี่ย!!” ชานนท์ผลักวรุฒออกสุดแรง เขารู้สึกสับสนระหว่างโกรธและอาย ท่ามกลางสายตานับร้อย เขาทำได้แค่เพียงวิ่งหนีออกจากจุดนั้น เขาได้ยินแต่เสียงวรุฒเรียกชื่อเขาผ่านไมค์ แต่เท้าเขากลับพาเขาออกห่างจากจุดนั้นออกไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ทิศทาง
...............