deshiwa น่ารักจริงๆเข้ามาดันทู้ให้ตลอด
มีแฟนยางเนี่ย
*******************************************************
ตอนที่ 36 “เก่ง..เก่ง..มานี้เดี๋ยว” หลังจากที่วางสายจากไอคิมมันผมก็เรียกหาไอเก่งทันทีครับ
“ครับ...ว่าไงครับพี่...” ไอเก่งมันวิ่งหน้าเริด มาหาผม เหงื่อซกตามเคย หน้ามันแผล่บเลยมัน
“เด๋ว...พี่มีธุระนะ...เก่ง ดูคนงานให้พี่ด้วยแล้วกัน....และก็..”ผมสั่งงานไอเก่งมันครับ
“ได้ครับพี่..เอ่อ..พี่...” ไอเก่งมันทำเสียงอ้ำอึ้ง เหมือนกับอยากรู้ว่าผมจะไปไหนงั้นแหละ
“พี่จะไปบ้านพี่คิม...ไปนะ..อ๋อ..นั่งแท๊กซี่กลับนะเก่ง..เอ้า นี้เงิน” พูดจบผมก็เอาตังค์ออกจากกระเป๋า แล้วยัดใส่มือไอเก่งมันเหมือนเดิม
ไอเก่งมันมองหน้าผมตาละห้อยครับ...ผมยิ้มให้มันหน่อยแล้วหันหลังให้มันเดินไปที่รถ แล้วจัดการขับรถออกไปทันที..จะทันไหมนี้กู...ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยหว่า...
เป็นอย่างที่คิดครับ ผมใช้เวลาติดแหงกอยู่บนถนนนานโข เลยที่เดียว กว่าจะถึงซอยเข้าบ้านไอคิมมัน ก่อนที่ผมจะมาถึงนี้ ผมโทรถามมันแล้วครับ ว่าบ้านไอคิมมันอยู่ตรงไหนผมจะได้ไปถูก มันบอกว่าเดี๋ยวมันจะรอผมที่ ป้ายรถเมล์ ปากซอย..พอถึงป้ายรถเมล์ก็ชลอรถด้วยแล้วกัน
พอผมถึงป้ายรถเมล์ที่มันบอก ผมก็เห็นมันยืนทำตัวสูงอยู่ก่อนแล้วครับ...ผมบีบแตรให้มัน แล้วขับเลยป้ายไปหน่อย จอดตรงป้ายไม่ได้ครับ กลัวพวกรถเมล์กระทืบเอา...
“มาเร็วเหมือนกันหนิ...” พอมันขึ้นมาบนรถผมมันก็ยิ้มร่าหน้าบ้านถามผมออกมาอย่างล้อๆ
“เออ...น่า พูดมากจริง...ว่าแต่แม่นายอยากเจอเราทำไมอะ...” ผมขับรถเลี้ยวเข้าไปในซอยบ้านมันพลางเอ่ยปากถามมันโดยไม่มองหน้า
“อ๋อ..หึหึ... ยังไงดีหล่ะ.. ก็ไม่เชิงหรอกนะ..คือ..เราก็แค่อยากให้นายมากินข้าวบ้านเรา.และก็.อยากให้พ่อแม่เรารู้จักนายไง......”
ผมหันขวับไปมองหน้ามันทันทีครับ..แล้วรีบหันหน้ากลับไปมองถนนเหมือนเดิม... รู้สึกมีกลิ่นทะแม่งๆ ครับเหมือนโดนหลอก
“หมายความว่าไง...” ถามมันออกมาเสียงห้วนๆ เริ่มจี๊ดแล้วครับ
“อะแฮ่ม..คือ..เราไปอยู่ ไปกินกับนายตั้งนานใช่ม่า แม่เราก็เลยอยากเลี้ยงข้าวตอบแทนนายอะ..อืม..นั้นหล่ะ” ไอคิมมันพูดออกมาเสียงดังๆ อย่างที่ทำให้ผมรู้ว่ามันกำลังโกหก...
“จริงเหรอ...” ผมทำเสียงสูงๆใส่มัน อย่างไม่ค่อยเชื่อถือมันเท่าไหร่นัก
“เออ.เออๆ..เราโกหก..ความจริงเรายังไม่ได้บอกแม่เราด้วยซ้ำว่านายจะมาบ้านเรา...เราพึ่งบอกแม่เราหลังจากที่เราโทรบอกนายแล้วนั้นหล่ะ...ทำไงได้วะ...ก็อยากให้นายมาบ้านเรานี้หว่า..” ไอคิมมันพูดสารภาพออกมาน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจมากเลยครับ...ไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดที่ทำให้ผมรีบจนตาลีตาเหลือก...
“ก็น่าจะบอกตั้งแต่แรกสิ....เราก็นึกว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า..กังวลแทบตาย...อย่าทำแบบนี้อีกนะคิม เราไม่ชอบ..” ผมพูดอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก..แม่มหลอกกูชัดๆ
“เออ... ขอโทษแล้วกัน...ก็ถ้าเราไม่บอกนายว่าแม่เราอยากเจออะ...นายจะยอมมาบ้านเราเหรอ...” ไอคิมมันพูดเสียงอ่อนลงมานิดนึง แค่นิดเดียวครับ
“แล้วรู้ได้ไงว่าเราจะไม่มา...” ผมพูดอย่างมีโมโห..พลางตวัดหางตามองมันที..เซ็งจริงๆเลยแม่ม ..กังวลแทบตายสิกู..สรุปว่ากูบ้าไปเองใช่ไหมเนี๊ยะ
“หึ..รู้ได้ไงงั้นเหรอ...นายกับเราคบกันมาตั้งนาน.....ทุกครั้งที่เรามาหานายหน่ะ...เราชวนนายมาบ้านเราตั้งหลายครั้ง...แต่นายก็ไม่เคยมาเลยซักครั้งเดียว อ้างนู้น อ้างนี้ตลอด...ขนาดบ้านเราเป็นทางเดียวกันกับมหาลัยนายนะเนี๊ยะ...แค่นี้พอจะทำให้รู้มะ ว่านายจะมาหรือไม่มาหน่ะ” ไอคิมมันพูดเหมือนน้อยใจครับ ..น้ำเสียงที่อ่อนๆตอนแรกเริ่มแข็งขึ้นมาอีกแล้วครับ
ผมมองหน้ามันอย่างโมโหครับควันออกหู วิ้วๆ เลยทีเดียว
“ถึงแล้ว...” ไอคิมมันตะคอกผมอะ
พอผมจอดรถที่หน้าบ้านหลังนึง ไอคิมมันก็เปิดประตูรถออกไป แล้วเดินไปเปิดประตูบ้านให้ผมอะครับ ในใจผมตอนนั้นอยาก ขับรถเลยไปจริงๆเลยครับ อยากประชดมันหน่ะ....แต่คิดว่าบอกผู้ใหญ่ไว้แล้วว่าจะมา พอมาถึงจะไม่เข้าไป...ก็จะดูน่าเกลียด ผมเลยต้องจำใจ ขับรถผ่านประตูหน้าบ้านมันเข้าไป..
จัดการจอดรถ ล๊อครถเรียบร้อย ผมก็เดินตามไอคิมมัน เข้าไปในบ้านแหละครับ...ก้มหน้าก้มตาเดิน เซ็งสุดๆเลยครับผมอะ...
“โอ๊ะ..อะไรอะ...” ตกใจครับ...เมื่ออยู่ๆ ไอคิมมันก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือผม แล้วดึงผมเข้าไปตรงมุม มืดๆ ก่อนที่จะเข้าไปในบ้านอะครับ
“คิม ไม่นะ..อือ” และก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ไอคิมมันก็ฉกริมฝีปากวูบเข้าที่ริมฝีปากผมทันทีเลยครับ มันเอาลิ้นมันเข้ามานัวเนียกับลิ้นของผม รู้สึกอึ้งๆครับ ไม่คิดว่าไอคิมมันจะกล้าทำแบบนี้ที่บ้านของมันเอง...
ไอคิมมันจูบผมดูดดื่มมากมายจนผมตัวอ่อนไปหมด...ปากมันประกบปากผม มือมันก็โอบกอดไปตามแผ่นหลังผม พร้อมกับดึงตัวผมขึ้นขามันก็แทรกเข้ามาตรงหว่างขาผม..พร้อมกันนั้นมันก็ดันตัวผม จนหลังผมไปติดแหง๊กอยู่ตรงซอกตึก..และผมก็เผลอตัวยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอมัน...ก็คนมันเคลิ้มอะทำไงได้..
จากนั้นไอคิมมันก็ถอนริมฝีปากออกจากปากผม มันลากลิ้นไปทั่วใบหน้าและลำคอผม มือมันก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดบางๆที่ผมใส่อยู่...แล้วมันก็ลูบไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นหลังของผม
“อือ..คิม..พะพอ ละแล้ว อือ” ผมพูดออกมาได้แค่นั้นครับ เมื่อไอคิมมันย้อนกลับมาจูบปากผมอีกครั้ง..มันเอาลิ้นมันเข้ามาเกี่ยวพันหยอกล้อกับลิ้นของผม..
“จุ๊บ..หายโกรธเรารึยัง...เรารักนายนะ..อย่าโกรธเราเลยนะ” ไอคิมมันถอนริมฝีปากออกจากปากผม จุ๊บเบาๆ แล้วพูดขอโทษผมเสียงหวาน...ไอโมก็ใจอ่อนยวบเลยแหละครับ…พยักหน้าหงึกๆ..อย่างอายๆ แล้วซบหน้าลงกับซอกคอมัน...
“เข้าบ้านได้แล้วหล่ะ...เด๋ว พ่อแม่พี่เรา จะสงสัยเอา...ปะ จุ๊บ” ไอคิมมันยังพูดเสียงหวานๆ กับผมอยู่ครับ พร้อมกับจุ๊บ ลงที่ปากผมอีกครั้งนึง มันขยับมือลงไปบีบที่ก้นผม..ผมก็หน้างอทันทีอะครับ..ชิไอบ้าไอลามก..
“ หึหึ...คิดถึง..ตรงนี้ของนายจัง...” ไอคิมมันทำเสียงหื่นๆ แล้วเอาฝ่ามือดันตรงก้นผมจนผมเด้งไปด้านหน้า และมันก็เด้งสะโพกมันเข้าหาผมเหมือนกัน..แล้วมันก็ขยับสะโพกถูไถกับช่วงล่วงผมอะครับ
“อือ...เราว่า...เราไม่พานายเข้าบ้านแหละ...เราพานายไปเอาดีกว่า..โอ้ย...” ฮึ่ม ไอชั่ว..ครับไอคิมมันยังพูดไม่ทันจบประโยค มันก็เจอกับ กำปั้นพิฆาตผมเข้าให้...ถึงกับทรุดฮวบไปกองอยู่กับพื้นกุมท้องไว้ อ้าปากร้องไม่มีเสียงกันเลยทีเดียว
“รู้จัก กาละเทศะบ้าง...ไอหื่น” พูดพลางเดินออกไปยืนรอมันตรงที่มันสว่างๆหน่อยอะครับ
ไอคิมมัน มองหน้าผมอย่างงอนๆ แล้วค่อยๆลุกขึ้น ลูบท้องตัวเองป่อยๆ..มันเดินเข้ามากอดคอผม...ผมก็พยายามดึงแขนมันออกจากคอผมอะครับ ..และผมก็ต้องหยุดครับ เมื่อมีผู้ชายคนนึง อายุ ราวๆ 25-26 เดินออกมา..จากข้างในบ้าน...ดูจากลักษณะท่าทางและหน้าตาที่เหมือนกับไอคิมมาก ผมคาดว่าน่าจะเป็นพี่ชายมัน
“อ้าว...เออ..อยู่นี้กันเอง....ทำไรกันอยู่วะ...ได้ยินเสียงรถตั้งนานแหละ..อือ..หวัดดีครับ” พี่คนนั้นพูดน้ำเสียงสดใสมากมายครับ แกยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว...และแกก็รับไหว้ผมด้วยครับ
“โม นี่..พี่ กันต์ พี่ชายเราเอง..พี่ นี่แตงโม เพื่อนซี้ผม” ไอคิมมันพูดกับพี่มันน้ำเสียงห้วนๆครับ..เออ เนาะ ผมก็นึกว่ามันพูดแบบนี้กับผมคนเดียวซะอีก ...
“ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องแตงโม...ปะ ปะ...เข้าบ้านกันดีกว่า...พี่หิวแหละ...แม่ตั้งโต๊ะรอแล้วหล่ะ...ว่าแต่ทำไรกันอยู่วะ...ยังไม่ได้ตอบพี่เลย” พี่กันต์ พูดพลางเดินเข้ามาหาผมกับไอคิม แล้วแกก็เอามือมาโอบที่ไหล่ผมอะครับ...ซึ่งตอนที่เห็นพี่กันต์เดินออกมานั้น..ผมดึงแขนไอคิมออกจากคอผมได้สำเร็จพอดีอะครับ..และ.ผมก็หันไปยิ้มให้พี่แก ด้วยความจริงใจ...พี่กันต์ก็ยิ้มให้ผมอย่างพี่ชายใจดี..ปลื้มครับปลื้ม...
“ดูรถพี่อยู่อะ...โมเค้าเห็นรถพี่แต่งสวยดี” ไอคิมมันพูดโดยไม่หันหน้ามามองผมกับพี่กันต์เลยครับ โกหกได้เนียนมากเลยครับ น้ำเสียงนิ่งมากมาย พี่กันต์ยิ้มแล้วยักคิ้วให้ผมนิดนึง...พี่กันต์ดูเพินๆเหมือนไอคิมมากครับ...แต่พอมองดีๆ แล้ว คนละเรื่องกันเลย..ไอคิมจะแนว คุณชายอะ..เมื่อเทียบกับพี่กันต์นะหน้าตามันออกแขกๆผิวขาวจั๊วะ..พี่กันต์ ดูลุยๆ..และหน้าตาพี่กันต์ก็ออกแขกๆเหมือนกันครับ แต่คมกว่า ...ผิวออกเข้มๆ.หล่อมากแมนมากครับ..ไอคิมชิดซ้ายกระเด็นกระดอนเลย..เทียบพี่กันต์ไม่ติดฝุ่นเลยครับ..เหอๆ...พี่กันต์ตัวใหญ่หนากว่าไอคิมเยอะครับ ตอนนั้นนะหรืออาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นไอคิมมัน ยังไม่เป็นหนุ่มเต็มที่ก็ไม่รู้นะ..ก็พึ่งอายุ 18-19 กันเองนี้ครับ..
และพี่กันต์ก็เดินพาผมเข้าไปในห้องทานข้าวครับ โดยมีไอคิมเดินนำหน้าไปก่อน..และที่นั้นผมก็ได้เจอกับสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว ไอโมใจเต้นตุ๊บๆครับ...กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกทีเดียว
“ไปตามตัวมาให้..แล้วครับแม่...น้องแตงโมครับ นี่ คุณนาย...(ชื่อคุณแม่ครับ)แม่ของพวกพี่ครับ”ผมยกมือไหว้คุณแม่อย่างเขิลๆ และก็ขำพี่กันต์ด้วยครับ..และนี่คืออีกข้อของความต่างระหว่างพี่น้องสองคน พี่กันต์จะขี้เล่นอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ไอคิม..จะตรงกันข้าม
“นี่ น้อยๆหน่อยเถอะ พ่อกันต์..แหม๋ แนะนำซะ..ยังกะน้องเค้าเป็นเพื่อนเรางั้นแหละ” คุณแม่รับไหว้ผมแล้วยิ้มให้อย่างใจดี แล้วจึงหันไปค้อนลูกชายคนโตดังขวับเลยครับ..
“น่าแม่ก็...ใครแนะนำก็เหมือนกันแหละ..และ. นี้ คุณ...(ชื่อคุณพ่อครับ) พ่อพวกพี่อีกเหมือนกัน” ผมยกมือไหว้คุณพ่อบ้างอะครับ ส่งยิ้มพิมพ์ใจให้คุณพ่อด้วย...
คุณพ่อรับไหว้แต่ไม่พูดอะไรครับ..ถึงท่านไม่พูดแต่แววตาท่านก็ได้บอกผมอย่างชัดเจนว่าท่านเป็นคนใจดีพอควร...
“อ๋อ และนี้ ไม่แนะนำไม่ได้แล้ว...ภรรยาที่น่าร้าก ของพี่เองครับ...พี่บัว ครับผม..” ผมยิ้มให้พี่บัวแล้วยกมือไหว้พี่เค้า
“ดีจ้ะ...น้องแตงโม..เอ๋า มาช่วยบัวยกหน่อยสิค่ะกันต์” พี่บัวไม่ได้รับไหว้ผมครับ พี่เค้าแค่ผงกหัวยิ้มๆให้ผมเท่านั้นเอง
เนื่องด้วยตอนนี้ สองมือพี่เค้ามีของอยู่เต็มสองมือเลยทีเดียว...พอพี่บัวพูดจบพี่กันต์ก็รีบเดินเร็วๆไปช่วยเมียรักถือของมาวางบนโต๊ะทันทีครับ...ดูท่าแกจะรักเมียมากครับ....พี่บัวออกจะดูแม่บ้านแม่เรือนหน่อยๆครับ..กุลสตรีไทยมากมาย..ออกแนวสวยใส ไร้เดียงสา อะไรแบบนั้น
จากนั้นทุกคนก็ได้ประจำเก้าอี้เพื่อทานอาหารกันครับ...โดยผมนั่งติดกับคุณแม่ และไอคิมก็นั่งประกบผมอีกข้าง...ตอนแรกผมก็เกร็งๆอะนะ แต่ด้วยความเป็นกันเองของทุกคนในครอบครัว เลยทำให้ผมหายเกร็งไปเลย..คุณแม่เป็นคนน่ารักมากครับ...คุยสนุกมากเลยอะ หัวสมัยใหม่มากครับ...
พอพวกผมทานข้าวเสร็จก็ไปนั่งย่อยอาหารกันที่ห้องนั่งเล่น...ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย...คุณพ่อคิมสนใจเรื่องพระเครื่องครับ ท่านสะสมพวกพระเครื่องอะ..พอไอคิมบอกพ่อว่าพ่อผมก็ชอบพระเครื่อง สะสมพระเครื่องเหมือนกันเท่านั้นแหละ เหมือนเข้าทางครับ..คุณพ่อถามผมใหญ่เลย
ผมก็ตอบได้เท่าที่ตอบอะครับ...และท่านก็หัวเราะขำผม...ที่ผมบอกว่าผมเคยแอบเอาพระเครื่องของพ่อไปห้อยคอ และเกือบทำหายโดยไม่รู้เลยว่า พระองค์นั้น มีราคาค่าเช่า..แพงหูฉี่เลยครับ พอท่านทราบว่าพ่อผมมีพระไรอยู่บ้างคร่าวๆนะ(เพราะผมไม่รู้ว่าองค์ไหนเป็นองค์ไหน) ท่านเลยบอกว่าอยากเจอพ่อผมจริงๆ จะได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ท่านว่างั้น…และไอคิมก็บอกว่ามันคุยกับพ่อผมแล้วพ่อผมก็อยากรู้จักพ่อผมเหมือนกัน แหม๋ หัวใสหัวเหม่งจริงๆเลยครับที่รักผม...
และผมก็คุยกับทุกคนเพลินครับ...เหมือนได้กลับบ้านไปอยู่ในครอบครัวตัวเองเลยอะ..แฮะ..และดูคุณแม่ของคิม จะเอ็นดูผมอยู่มากโขครับ...ท่านบอกว่าผมหน้าตาน่ารักอะ..ตาโต แล้วยังตาหวานอีก....(แอบเขิลนะเนี๊ยะเขียนไปเนี๊ยะ)โหย จะดีใจดีไหมอะ..ทำไมไม่ชมว่าผมหล่อหล่ะ ...เคืองคุณแม่ โป้งๆ..เลย
ไม่ใช่แค่หน้าตาน่ารัก นิสัยยังน่ารักอีก..คุณแม่ว่างั้น (โอ้ยอายปากหว่ะ)แบบว่าผมพูดอ้อนคุณแม่ ชมนั้นชมนี้คุณแม่ไม่ขาดปากอะครับ ออเซาะมากมาย …แฮะ ..กว่าจะรู้ตัวครับ พอมองดูนาฬิกา เกือบ 4 ทุ่มครับ ผมก็เลย ขอตัวกลับบ้าน...
“กลับทำไมอะ..นายนอนนี้ก็ได้หนิ...หรือว่ากังวลเรื่องเสื้อผ้า..เสื้อผ้าเรามีใช้ๆไปเถอะ” ไอคิมมันพูดขึ้นมาเสียงห้วนๆสไตร์มันอะครับ
“เปล่าหรอก..พรุ่งนี้เราต้องไปทำงานแต่เช้าหนะ...”ผมปฏิเสธไอคิมมันไปทันทีครับ
“อืม นั้นสิลูก โม มันดึกแล้วนะ ขับรถกลับคนเดียวอันตรายนะลูก นอนนี่แหละ..นะ” คุณแม่ พูดยิ้มๆอย่างใจดี
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณแม่...ผมกลับดีกว่าครับ ไม่ได้บอกน้องๆที่บ้านไว้ด้วย...เอาไว้วันหน้าดีกว่านะครับ...ผมจะมาทานข้าวฝีมือคุณแม่ให้พุงกางไปเลยครับ...” ผมพูดพลางทำหน้าอ้อนๆ คุณแม่ด้วยครับ
“หึหึ..จ้า ...ก็ได้รับปากแม่แล้วนะ..เฮ้อ...แตงโมนี้น่ารักจริงๆเลยนะลูก...แม่อยากมีลูกหน้าตาน่ารัก นิสัยน่ารักแบบนี้บ้างจัง...ดูลูกแม่แต่ละคนสิ...ดูได้ซะที่ไหน...ยังกะองคุลีมาล..” คุณแม่ว่าลูกชายตัวเองซะงั้น แถมยังพูดชมผมซะผมตัวลอยหน้าแดง พูดอะไรไม่ออกเลยครับ ได้แต่ยิ้มอายๆ...
“งั้น..ให้ผมแต่งงานกับ โมซะเลยดีไหมครับแม่...นายโมจะได้เป็นลูกของแม่จริงๆไงครับ ดีไหม..แทนที่จะได้ลูกสะใภ้เป็นผู้หญิงก็เปลี่ยนเป็นผู้ชาย แทนคงไม่เป้นไรนะฮะ..ไหนๆ แม่ก็หลงรักนายแตงโมไปแล้วหนิ” ไอคิมมันพูดขึ้นมาหน้าตาเฉยครับ
ไม่ยิ้มไม่บึ้งหน้าตานิ่งมากมาย ปากมันพูด แต่ตามันอะดูหนังสือนิตยสารรถ ในมือไป...เหมือนไม่สนใจอะครับ…แต่ผมนี่สิครับ ได้ยินถึงกับสะดุ้งเสียวสันหลังวาบครับ...
“หึ...พูดไรของแกยะ...พ่อคูณ...หึ..แกหน่ะคงไม่เป็นไร..ก็น้องแตงโมเค้าน่ารักหนิ...แต่เค้าหน่ะจะเอาแกรึเปล่า หน้าแกหน่ะยังกะโจร..นิสัยเสียปากก็เสีย..ใครที่ไหนจะรักจะชอบแกยะ..แค่แตงโมยอมเป็นเพื่อนกับคนอย่างแกนี่ แม่ก็ว่าเหลือเชื่อมากพอแหละ....อย่าให้แม่พูดเลย..ขี้เกียจพูด..เนอะ แตงโม..หึ..ผู้หญิงดีๆสวยๆมีอีกถมถืดให้แตงโมเลือกเนอะลูก...ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมา..ยุ่งเกี่ยวกับคนอย่างเจ้าคิมมันเลย..นี่ลูกสาวเพื่อนๆแม่นะ..หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู นิสัยดีๆทั้งนั้นเลยลูก..แล้วแม่จะแนะนำให้แตงโมรู้จักวันหลังนะลูก...คิคิ..” คุณแม่พูดยืดยาว เผาไอคิมซะไหม้ไปทั้งตัวเลยครับ ส่วนตัวผมก็ได้แต่ยิ้มหน้าบาน
“ขอบคุณคร้าบ คุณแม่...ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคร้าบ...เอาไว้ผมจะมาคุยกับคุณแม่บ่อยๆนะครับ...อย่าลืม..ที่พูดนะครับคุณแม่” ผมเริ่มสนิทครับ เลยกล้าพูด...ก็คุณแม่อะชี้ทางให้กระรอกน้อยอย่างผมเองนี้ครับ คิคิ
พอผมพูดแบบนั้น คุณแม่กับ พี่บัว ก็หัวเราะชอบใจครับ...และพร้อมใจกันว่าผมอะท่าทางจะเจ้าชู้น่าดู...พูดเอาอกเอาใจคนเก่งแบบนี้คงเป็นขวัญใจสาวๆชัวร์ ไอโมก็ยิ้มรับหน้าบานครับ ส่วนไอคิมก็หน้าบึ้งมากมาย....คุณแม่ กับ พี่บัว เลยว่าไอคิมหน่ะ มันอิจฉาผม แต่ผมรู้ว่าไม่ใช่ครับ คิคิ มันกำลังหึงโผ้มมมมมม..เหอๆ..
และกว่าที่ผมจะขอตัวออกมาได้ก็นานโขอีกเหมือนกันครับ และผมก็รับปากคุณแม่ว่าจะมาคุยด้วยบ่อยๆ คุณแม่เหงาหน่ะครับ...สามีก็ทำงาน ลูกชายก็คนโตก็เหมือนกัน ลูกสะใภ้ก็ไปช่วยลูกชายดูแลบริษัท ลูกชายคนเล็ก ก็ไปเรียนซะไกล นานๆกลับกรุงเทพทีก็ไม่เคยโผล่หัวมาให้แม่เห็นหน้าเลยสักครั้ง ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้..(รู้สึกผิดยังไงบอกไม่ถูกครับ).คุณแม่ก็ต้องอยู่บ้านกับคนรับใช้ เพียงลำพัง..จะพูดคุยอะไรกับคนรับใช้มากก็ไม่ได้ครับ....ยังไงก็ยังมีคำว่าบ่าวกับนายคั้นกลางอยู่....
“ไม่อยากนอนกับเราขนาดนั้นเลยหรอ” อยู่ๆไอคิมมันก็พูดขึ้นมาตอนที่มันเดินมาส่งผมที่รถอะครับ..
พอดีผมกับมันเดินมาถึงรถผมอะครับ ผมเลยหยุดแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าไอคิมมัน
“แล้วนายพูดจริงเหรอ..ที่พูดกับแม่เราหน่ะ...เรื่องลูกสาวเพื่อนแม่เราหน่ะ” ไอคิมมันยังตั้งคำถามกับผมไม่หยุดครับ
“บ้า...เราก็พูดไปงั้นแหละ...เรามีนายทั้งคน...ไม่คิดมีคนอื่นหรอก..” ผมพูดยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี
“พูดจริงนะ...แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมค้างบ้านเราอะ” ไอคิมมันทำเสียงอ้อนๆ คงอยากให้ผมเปลี่ยนใจ
“จริง...หึ..ก็ถ้าเราค้างบ้านนาย...นายก็ต้องฟัดเราสิใช่มะ...” ผมถามมันอย่างกระดากปาก
“แน่นอน...” ไอคิมมันพูดพลางเอื้อมมือมาจะจับมือผมอะครับ..แต่ผมขยับมือหนีมือมันซะก่อน ไอคิมทำตาขวางขึ้นมาทันทีเลยครับ
“เฮ้อ...คิม...นี้บ้านนายหน่ะ...เรา..ละอายใจเกินไปที่จะนอนบ้านนายอะ..ครอบครัวนายดีกับเรามากเลยนะ...ถ้าพ่อแม่พี่นาย รู้ว่า เรากับนาย...เป็นอะไรกัน ทุกคนจะรู้สึกยังไง...ทุกคนยังจะดีกับเราอยู่ไหม...นายอาจจะพูดว่านายไม่แคร์...แต่เราแคร์...” ผมพูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ...ผมละอายใจจริงๆนะ..ทุกคนดีกับผม...จนผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังหักหลังทุกคนอะ...
“คิดมากไปแล้ว..” ไอคิมมันมองผมอย่างเอื่อมๆ
“ก็ดีกว่า คิดน้อยอย่างนายหล่ะน่า...” ผมพูดตัดพ้อมันอย่างหมั่นไส้ เคยทุกข์ร้อนอะไรกับเค้าบ้างไหมนายหน่ะ...
ผมมองซ้ายมองขวา มองหน้ามองหลัง แล้วมองเข้าไปในตัวบ้าน ไม่น่าจะมีใครเห็นนะ...ผมขยับเข้าไปใกล้ไอคิมมัน แล้วจุ๊บแก้มมันเบาๆทีนึง แล้วขยับออก...
“เราไปก่อนนะ...บาย” ผมพูดขึ้นอย่างอายๆ แล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งปิดประตูรถตามเบาๆ
‘ก๊อก ก๊อก’ ไอคิมมันเคาะกระจกรถผมอะครับ
“ว่าไง..” ผมเลื่อนกระจกลงแล้วยื่นหน้าไปถามมันยิ้มๆ
“นายไม่นอนบ้านเรา...งั้นเรา..ไปนอนบ้านนายนะ...” ไอคิมมันพูดพลางเอื้อมมือมาจับแก้มผม
“บ้าแหละ น่าเกลียด..พ่อแม่นายจะคิดไง..” ผมพูดเสียงดุขึ้นมานิดนึงครับ
“เราไม่สนอะ...ก็เราอยากนอนกับนายนี้นา..นะโม..” ไอคิมมันพูดเสียงอ้อนๆ..ก้มหน้าลงมาจนจมูกมันจะชนกับจมูกผมอยู่แล้วครับ
“งอแง ยังกะเด็กๆ...” ผมมองมันอย่างขำๆ..แล้ว เอาจมูกถูๆกับจมูกมัน.เออแฮะ. บทมันจะอ้อนมันก็อ้อนซะน่ารักเชียว…
“วันอื่นก็มี..เราไม่ได้หนีนายไปไหนซะหน่อย...วันนี้อยู่บ้านให้แม่นายชื่นใจหน่อยนะ...” พูดแล้วเอาปากจุ๊บเบาๆที่ปากไอคิมมัน
“ฝันถึงเราบ้างนะ” พูดเสร็จก็อายครับ รีบกดเลื่อนกระจกขึ้นทันทีทันใด
จากนั้นผมก็สตาร์ทรถแล้วเคลื่อนรถออกจากที่จอดรถบ้านไอคิมมัน...และไอคิมมันก็วิ่งไปเปิดประตูให้ผมทันทีเหมือนกัน...ก่อนที่รถผมจะเลี้ยวออกจากประตูบ้านไอคิมไปผมก็ส่งจูบ ให้มันด้วยครับ..ไอคิมมันยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตัวเอง....ยิ้มให้ผมพลางทำหน้าอายๆ...ผมหล่ะขำแทบตาย...แล้วไอคิมมันก็ค่อยๆเลือนหายไปจากสายตาผมช้าๆ...รู้สึกใจหายเหมือนกันครับ...ผมอะอยากจะนอนซุกอกอุ่นๆของมันเหมือนกันนะ...แต่ผมต้องตัดใจครับ..เศร้าๆเหงาๆยังไงชอบกลแฮะ...ไม่เป็นไรหรอก...แค่ไม่กี่วันเอง ดีไม่ดี พรุ่งนี้มันอาจจะมานอนให้ผมกอดก็ได้..คิคิ