ตอนที่9
นารายณ์ talk “เดินเร็วๆดิ เดี๋ยวก็หมดพอดี”เสียงใสหันมาเร่งผมยิกๆ ขาสั้นๆของคนที่ถูกเรียกว่าเพื่อนสนิทเดินจ้ำด้วยความรวดเร็วราวกับว่าหากเดินด้วยความเร็วลดลงแม้เพียงสักนิดรองเท้าแบรนด์ดังที่มาเปิดบูทลดราคาอยู่กลางสยามจะหมดอย่างงั้นแหละ
“ไปก่อนเลย...”ผมยกมือปิดปากหาวอย่างไม่กระตือรือร้น เพราะไอ้รองเท้ายี่ห้อที่ว่าผมใส่จนเอียนแล้วแต่กับเพื่อนจอมขี้เหนียวมันคนละเรื่อง
“ไม่เอาดิวะนายณ์ มาด้วยกันเร็วๆมึงต้องไปเบียดแย่งให้กูนะ”
“คร้าบๆคุณหนูเฟิง”
วันนี้ผมและเฟิงมาเดินเลือกซื้อรองเท้ากันสองคน มันควรเป็นบ่ายที่ดีและสดใสสำหรับผม เพราะได้ใช้เวลาร่วมกับไอ้เปี๊ยกนี่สองต่อสอง ทว่าจุดหมายในการซื้อรองเท้าครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเอง...เฟิงมาเพื่อซื้อให้แฟนสาวคนสวยจากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาอะไรจำไม่ได้ ไม่อยากรับรู้ รู้แล้วปวดใจ...นั่นเพราะ...
ผมแอบรักเพื่อนสนิท
แอบเนียนซะด้วย แอบมาตั้งแต่ม.สี่จนตอนนี้ก็ปีสองละ มันยังไม่รู้ตัวเลย
ไม่มีเอะใจสักนิดว่าทำไมคนหน้าตาดีอย่างผมถึงไม่มีแฟนหรือพูดถึงคนที่ชอบกับมันสักครั้ง
และผมคงแอบรักแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะตายกันไปข้าง
เฟิงชอบผู้หญิง หากการสารภาพรักออกไปจะทำให้เราต้องแยกจากกันผมขออยู่ที่ข้างๆตรงนี้ในฐานะเพื่อนตลอดไปดีกว่า
.
.
ใช้เวลาช็อปปิ้งนานยังกะผู้หญิง พวกเรามาถึงบูทตั้งแต่บ่ายโมงเศษๆแต่ได้กลับออกมาอีกทีตอนสามโมง ในร้านนั้นมิติเวลาบิดเบือนหรืออะไร? ผมถอนหายใจอย่างคนหมดแรงแต่ไอ้เพื่อนรักกลับมีชีวิตชีวากว่าตอนแรก สองแขนกอดถุงรองเท้าแน่น
ขอให้มีความสุขกับรองเท้าของเมียมึงมากๆนะ
“ไปกินติมกัน!”เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง
“อืม”พอได้เห็นรอยยิ้มนี้ทีไรผมก็อดระบายยิ้มตามไม่ได้ทุกครั้ง เพราะแบบนี้ไงถึงไปไหนไม่รอดสักที
“มึงเลี้ยงนะ กูหมดตูดแล้ว”
“อืม”
“จริงดิ น่ารักจังเพื่อนใครเนี่ย โคตรป๋าเลย! ดีๆ เลี้ยงดูกูให้ดีนะ พอแก่แล้วถ้าไม่ได้แต่งงานกูจะไปอยู่กับมึง”
“เสียใจด้วย ลูกเมียกูคงไม่ต้อนรับมึง”
“ไอ้นายณ์ ไอ้บ้า ฮ่าๆๆๆ”เล่นเองก็หัวเราะเอง อารมณ์ดีจริงนะ รู้ไหมว่าคำพูดพล่อยๆของมึงส่งผลต่อจิตใจของคนฟังขนาดไหน
พวกเราเดินเข้าตัวห้างขึ้นบันไดเลื่อนมาก็เจอร้านไอติมเจ้าประจำพอดี แต่ดูเหมือนในร้านจะมีคนคุ้นเคยสองคนนั่งอยู่ก่อนแล้วนะ”นั่นมันน้องรหัสมึงนี่”ผมชี้ไปยังโต๊ะของน้อง มากับไอ้ครอส?
“เข้าไปทักๆ”ร่างเล็กรีบเดินเข้าไปยังโต๊ะของน้องรหัสตัวเองทันที ผมอยู่คนละคณะเลยไม่รู้ว่าสองคนนี้สนิทกันระดับไหน แต่พอเฟิงเข้าไปทักเพลินก็ยิ้มซะน่ารักเลย ผมหยุดยืนอยู่หน้าร้านมองคนน่ารักสองคนคุยกันแบบไม่รู้ว่าควรเข้าไปแทรกจังหวะไหนดี
“มึงจะยืนเก๊กอยู่ตรงนั้นทำไม เขินน้องอ่อวะ เข้ามาดิๆ พวกพี่ขอนั่งด้วยนะ”เฟิงกวักมือเรียกผมหยอยๆ เพลินมองมายังผมด้วยสีหน้าตกใจยังกับเห็นผี อะไรวะ? ผมน่ากลัวขนาดนั้น?
ถ้าไม่ตาฝาด สีหน้าของไอ้ทายาทเดือนมหาลัยดูตึงๆผิดจากตอนแรกนะ ครอสยกมือไหว้ผมและย้ายที่นั่งไปนั่งข้างเพลิน ผมจึงเลื่อเก้าอี้ตรงข้ามมันนั่งเพราะเหลืออยู่แค่ตัวเดียว
บรรยากาศโคตรอึดอัดนี่มันอะไร?
ไอ้เฟิงยังไม่รู้ตัวสั่งไอติมหน้าชื่นมื่น มีการสั่งเผื่อผมอีก คือมึงช่วยดูหน้าน้องด้วย ครอสแม่งพยามยิ้มแล้วก็ชวนพวกผมสองคนคุยตามปกติ แต่เพราะเคยคุยกันมาก่อนเลยดูออกว่าแม่งโคตรฝืน ส่วนเพลินก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเขี่ยเกล็ดหิมะในชามตลอดเวลา
เห้ๆ พวกพี่ไม่สมควรเข้ามาขัดจังหวะน้องรึป่าว
“เอ้อ ไอ้นายณ์ วันเสาร์นี้เราเลี้ยงน้องรหัสกันดีมะ”เฟิงผู้ไม่รู้อะไรบ้างเลยเอ่ยดี๊ด๊า
“อ่า..”เพลินเงยหน้าขึ้นมามองหน้าพวกผมเหรอหรา ส่วนเชี่ยครอสเสตามองออกไปนอกกระจกร้าน กดดันสัส กูควรตอบอะไรให้พวกมึงสบายใจดีวะ!?”ก็ว่างนะ...แค่เราสองคนกะน้องรหัสเหรอ ว่าแต่จะเลี้ยงที่ไหน?”
“อืม คนเยอะเรื่องก็เยอะ เลี้ยงที่เล้าจ์โรงแรมมึงดีมะ”ญาติฝั่งแม่ผมทำธุรกิจการโรงแรมครับ มีทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ส่วนฝั่งพ่อมีโรงงานประกอบชิ้นส่วนเครื่องยนต์อยู่ผมชอบแนวนี้มากกว่าเลยเลือกเรียนวิศวะ
“ก็ได้นะ นัดน้องสักทุ่มนึงไหมเจอกันที่ไหนดี น้องอยู่ไหนครับเดี๋ยวพวกพี่ไปรับ”
“...”เงียบ น้องเพลินติดสตั้นท์ไปเป็นที่เรียบร้อย
“ผม...ผม...”แค่บอกมาว่าอยู่ไหนทำไมต้องคิดเยอะขนาดนี้ หน้าครอสมีคำตอบอยู่หรือไงหันไปมองอยู่นั่นแหละ
“เพลินรอที่หอซังดิ พี่เขาจะได้มารับง่ายๆ หอเพื่อนมันอยู่ซอยห้าครับพี่รู้จักไหม”แล้วทำไมคนตอบถึงเป็นครอสวะ ผมพยักหน้าฟังมันบอกทางบอกตรอกซอกซอยซะละเอียดยิบประหนึ่งเป็นหอของมันเอง
“มึง...เสาร์อาทิตย์กูกลับบ้าน...”
“ไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ดูหน้าก็รู้แล้วว่ามึงอยากไป พี่เขาเลี้ยงทั้งทีปฏิเสธได้ไง”
น้องมันคุยกันครับ เชี่ยเฟิงได้ไอติมแล้วก็ตั้งอกตั้งใจกินปล่อยให้ผมนั่งตามเรื่องไม่ทันอยู่คนเดียว
เอาเถอะ...น้องรหัสเฟิงไม่เท่าไหร่หรอกแต่
น้องรหัสของผมนี่สิตัวปัญหา แม่ง...เถื่อนสัส ไม่บอกนี่นึกว่าเรียนช่างกล แถมได้ยินข่าวลือเสียๆเยอะด้วย
ตกดึกคืนนั้นขณะกำลังเล่นเกมส์มันๆผมก็ฉุกคิดว่าได้ว่าควรโทรไปชวนน้องรหัสตัวเองไว้แต่เนิ่นๆ ผมไม่อยากมีปัญหากับไอ้เด็กนี่เท่าไหร่ รอเสียงสัญญาณอยู่นานก็ไม่มีคนรับสายผมเลยกดโทรไปใหม่อีกสักสาย
“มีไรวะ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม”ขอโทษครับพี่เจอร์ ถุ้ย! มึงเป็นน้องรหัสกูนะสัส! เจอมันพูดประโยคแรกผมถึงกับไปไม่เป็นเลย
“ไอ้เจอร์มึงทำไรอยู่วะ เสียงดังได้ยินไม่ชัดเลย”
ชื่อเล่นเต็มๆมันคือเมเจอร์ครับ หน้าตาก็ออกจะดีแต่สันดานตรงกันข้าม แค่เข้ารับน้องวันแรกรุ่นพี่ก็จับตาดูระวังมันก่อเรื่อง เส้นผมสีดำซอยระต้นคอย้อมแดงตรงปลายนั่นยิ่งโคตรเด่นบวกกับนิสัยเลือดร้อนของมันยิ่งเหมือนกองไฟเดินได้ ตัวมันเล็กกว่าผมหน่อยแต่ทำตัวกร่าง
“อยู่ RCAพี่! มาด้วยกันมะ ผับนี้หญิงแจ่มเลย”มันตะโกนแหวกเสียงเพลงที่ได้ยินแว่วๆมา เดาว่ามันคงเข้ามาคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำเพราะเสียงฟังดูก้องๆ หรือไม่มันก็อยู่ในห้องน้ำตั้งแต่แรก...เพื่อทำไอ้กิจกรรมเข้าด้ายเข้าเข็มที่ว่า...
“คืนวันเสาร์หน้ามึงว่างไหม กูจะเลี้ยงที่โรงแรมบ้านกู”
“คืนวันเสาร์!? จะบ้าเหรอพี่ นั่นวันออกล่าเหยื่อเลยนะ ไม่ได้ๆ ขอวันอื่นเถอะ”
“วันเสาร์นี่แหละ กูนัดคนไว้แล้ว”
“ใครบ้างวะ มีแต่ตัวผู้อ่ะดิ พี่นารายณ์แม่งมีเพื่อนผู้หญิงที่ไหนเกิดมาหล่อรวยKใหญ่เสียเปล่าสัสๆ เออ งั้นน้องรหัสเพื่อนพี่มีแจ่มๆบ้างมะ” มึงรู้ได้ยังไงว่าKกูใหญ่ ผมถอนหายใจให้ความไร้มารยาทของน้องรหัสตัวเอง มันทำท่าไม่อยากไปก็ดีเหมือนกันผมไม่อยากผูกมิตรกับเด็กที่ปีนเล่นหัวรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานแบบนี้เท่าไหร่
ผมไม่ใช่คนเคร่งระบบรุ่นพี่รุ่นน้องหรืออะไรนักหรอก รุ่นน้องหลายคนก็พูดกูมึงด้วยไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยมันก็ควรมีมารยาทเห็นหัวกันบ้าง
“ไม่มีเว้ย ไปกันแค่เพื่อนกูที่ชื่อเฟิงแล้วก็เพลินน้องรหัสมัน”มึงไม่ไปใช่มะ ลาก่อนไอ้พลกูจะไม่เลี้ยงมึงอีก
“เพลิน? เพลินที่เป็นเดือนเภสัชป่ะ”ไหงเสียงเปลี่ยน
“เออ ไมวะ?”
“งั้นไปๆ เลี้ยงที่โรงแรมใช่มะ ดีเลยๆ พี่จองห้องไว้ให้ด้วยนะ”
“อย่าทำตัวเหี้ยกับน้องกูไอ้เจอร์! เจอร์!”มันตัดสายไปฉิบ คนเหี้ยไรเนี่ย!?
" " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " "
WARNING!!
SPOIL(พี่นารายณ์)
ใครไม่อยากรู้หลับตาปี๋แล้วเลื่อนข้ามไปเลยค่ะพี่นารายณ์มีคู่นะคะ แต่อาจไม่ใช่คนที่พี่แกแอบชอบอยู่
#เชื่อเราไหมเราคนแต่งนะ
/ที่จริงมันไม่อยากบอกหรอก แต่แบ่บ...เรื่องราวความรักของอปป้าของทุกคนมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนพิรอดมาก(?) เลยตัดสินใจบอกไว้หน่อยละกัน/
ไม่ร้องนะ เชื่อเรา เราอ่านเองแล้วมันสนุกมาก(?)