ขออภัยกับเนื้อเรื่องที่ไหลไปเรื่อย ฮ่าๆๆๆ
ก็นะเห็นคนอ่านรำคาญเจ้าเฟย์ละ ตัดจบให้มันตายไปเลยดีไหมครับ ฮี่ๆๆ บท สังหาร คืนนั้นบ้านวิษากมลวิเศษวุ่นวายไปด้วยเสียงสถบบ่นงึมงำและเสียงเดินกันวุ่นวาย ในห้องโถงกว้างมีหนุ่มใหญ่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางจ้องโทรศัพท์เอาเป็นเอาตาย ข้างกันนั้นผู้หญิงคนเดียวในบ้านนั่นโบกพัดอย่างไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มหน้าหวานนั่งกอดเข่าตัวเองบนโซฟาเงียบๆสายตาจ้องมองโต๊ะตรงหน้านิ่ง ชายอีกคนเดินวนไปเวียนมาแทบไม่หยุด ส่วนอีกคนยืนพิงประตูห้องโถงเล่นไม่สนใจใคร
“ป่านนี้น้องเฟย์จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ น้องยังไม่หายดีด้วยผมไม่น่าดุน้องเลย”
“นั่นน่ะสิ แกทำอะไรของแกกัน ทำไมปล่อยให้น้องวิ่งหนีไปแบบนั้น น้องมันยังจำอะไรไม่ได้แบบนั้นแล้วจะกลับบ้านมาได้ยังไง”
“นี่คุณพี่มันไม่ใช่ความผิดของตาออยนะคะ! เป็นเพราะเด็กนั่นวิ่งหนีออกไปเองแบบนั้นต่างหาก แล้วเนี่ยถ้าไม่เพราะความเอาแต่ใจของมันป่านนี้พวกเราคงจะได้นอนกันหมดแล้ว ง่วงจะแย่”
“มันจะมากไปแล้วนะคุณหญิง! นี่คุณไม่เป็นห่วงลูกผมบ้างเลยหรือไง”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ อย่าลืมนะว่าที่คุณมีทุกวันนี้เพราะใคร ฉันจะขึ้นไปนอนแล้วอย่ามารบกวนฉันอีกแล้วกัน ฮึ เรื่องไร้สาระเดี๋ยวมันก็กลับมาเองน่ะแหละ ไป ตาออยขึ้นไปนอนกันลูก”
“ไม่ครับคุณแม่ ผมจะอยู่รอน้องเฟย์คุณแม่ขึ้นไปนอนก่อนเถอะครับ”
“พ่อครับ แจ้งตำรวจเลยสิครับ”
“ไม่ได้หรอกเจ้าแอล ถ้าไม่ถึง 24 ชม. ตำรวจเขาไม่รับเรื่องหรอกนะลูก พ่อเองก็อยากจะแจ้งความเหมือนกัน”
แอลหันไปนั่งกอดเข่าเงียบๆอีกคราว ฝ่ายออยเดินวนไปวนมาจนคนมองเวียนหัว มิลที่ยืนมองอยู่นานเมื่อไม่มีคนสนใจเขาก็เดินกลับห้องไป ในห้องที่ตกแต่งโทนสีดำกลับมีกระเป๋าเป้สีแดงวางอยู่ มิลเดินเข้าไปเปิดมันแล้วเทของที่อยู่ข้างในลงบนเตียงทั้งเอกสารโฉนดและกล้องวิดีโอกลิ้งหล่นลงมา
“หึ คิดจะไปจากที่นี่ง่ายๆไม่มีทางหรอกเฟย์ มึงต้องอยู่ที่นี่กับกูไปตลอดชีวิต”
ปี๊บๆๆ
“ฮัลโหล......กูรู้แล้ว อย่าเพิ่งทำอะไรมันกูจัดการเอง....ไอ้สัสเงินมึงจะเอาไหมอย่าทำอะไรมัน มันเป็นเหยื่อของกูคนเดียว อย่าขัดคำสั่งกูถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ เข้าใจมั้ย!”
มิลกดวางโทรศัพท์พร้อมกับที่เสียงประตูห้องเขาเปิดออก มันสะดุ้งตกใจแล้วก็เปลี่ยนเป็นโล่งใจเมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาหาชัดๆ
“กะอยู่แล้วเชียวว่าเรื่องที่มันหายตัวไปต้องเป็นฝีมือมิล”
“แม่ครับ คราวหลังอย่ามาเงียบๆสิครับ”
“จ้า แม่ขอโทษ ว่าแต่ที่แม่พูดเป็นความจริงใช่มั้ย ที่เรื่องไอ้เฟย์หายไปเป็นฝีมือลูกใชมั้ย”
“หึๆ ไม่รู้สิครับ”
“แหม แค่นี้บอกแม่บ้างก็ไม่ได้ แต่แม่มีอะไรจะเตือนหน่อยนะลูก”
“ครับ?”
“คนตายเท่านั้นที่จะเก็บความลับไว้ได้......”
“เรื่องนั้นถึงคุณแม่ไม่บอกผมก็รู้อยู่แล้วล่ะครับ หึๆ”
คุณนายวิษากมลวิเศษเดินออกไปแล้วทิ้งเขาไว้กับความเงียบรอบตัว เสียงหัวเราะดังขึ้นในความมืด แสงสะท้อนรอยยิ้มจากแสงไฟด้านนอกทำให้มันน่ากลัวกว่าที่เคยเป็น
“นั่นสินะ คนตายเท่านั้นที่จะเก็บความลับไว้ได้.......”
++++++++++
“อึก....อือ....อื้อ....อือ......”
ผมนอนบิดตัวไปมาอย่างทรมานกับความร้อนรุ่มที่แผดเผาอยู่ข้างในตัวผม ถึงตอนนี้ผมก็เข้าใจแล้วว่าที่พวกมันให้ผมกินเข้าไปนั้นคืออะไร เพราะของแบบนี้ผมเองก็เคยใช้กับคนอื่น นี่กรรมตามสนองผมสินะ
“หมายความว่ายังไงดีโอ มันไม่ยอมให้เงินเราเหรอ?”
“ฉันไม่แน่ใจแต่มันบอกว่าห้ามยุ่งกับเจ้าหนูนี่ มันสั่งไว้ด้วยว่าถ้าไม่อยากตายอย่าขัดคำสั่งมัน”
“ชิ มันมีสิทธ์อะไรมาสั่งพวกเรา ถึงเราจะทำงานให้มันแต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะยอมก้มหัวให้มันจิกหัวใช้งานนะเว้ย”
“แล้วจะเอายังไง ยาก็ให้มันกินแล้วด้วยส่วนไอ้ห่านั่นก็ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไรด้วย เดี๋ยวเจ้าหนูนี่ทนไม่ไหวตายไปทำยังไงกัน”
“จะทำอะไรก็ทำไปเลย ยังไงมันก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอกน่า”
“พวกมึงจะ.....จะทำอะไร....กูจะ.....ฮึก....พวกมึงโดนจ้างมาสินะ...อ้ะ”
“หึๆท่าทางทรมานขนาดนี้ยังจะพูดอะไรอีกเหรอเจ้าหนู”
“อ้ะ...อยะ.....อย่าจับกู....อึก....พวกมึงน่ะ ไม่มีทางได้เงินหรอกแม้แต่ชีวิตตัวเองก็ไม่มีทางจะรักษาไว้ได้ด้วย”
“หมายความว่ายังไง?”
“คนที่....คนที่จ้างวาน มึงคือใคร?”
“จำเป็นต้องบอกแกด้วยเหรอเจ้าหนู นึกว่าจะพูดอะไรซะอีก หยุดเรื่องไร้สาระแล้วมาสนุกกันดีกว่า”
“ไม่ไร้สาระ แฮ่กๆ.....กูไม่เคยมีศัตรู แล้วเรื่องที่กูเป็นน้องคนเล็กของบ้านไม่มีใครรู้สักคน คนที่รู้ก็มีแต่คนในบ้านเพราะฉะนั้นคนที่จะให้ข้อมูลมึงได้มีแค่พวกมัน! กูพูดถูกใช่มั้ย!”
“หึๆ ดีโอ ไอ้หนูนี่ฉลาดกว่าที่คิดนะ ดูท่าเราคงไม่ต้องแสดงละครต่อแล้วล่ะ”
“นั่นสินะ ฉันก็เบื่อเต็มทีที่จะต้องเล่นละครเป็นผู้ร้ายเรียกค่าไถ่ เอาล่ะถ้างั้นเรามาสนุกกันได้แล้ว คล็อกถอดกางเกงมันออกซะ”
“อย่านะ ไอ้เหี้ยเอ้ย! พวกมึงรู้ไว้ถ้าเป็นไอ้พวกสันดานนั่นพวกมึงไม่มีทางได้เงินหรอก มันจะต้องมาฆ่ามึงแน่ๆมึงคอยดูสิ”
ผมหมดหนทางเอาตัวรอดแล้วเมื่อความเย็นวาบขึ้นด้านล่าง กางเกงผมคงจะถูกถอดออกไปแล้วสินะ ตายแน่ๆกู ตายๆชาติชายของกูแล้วกูจะเอาหน้าที่ไหนกลับไปหาน้องๆได้วะ ไม่อ๊าววววววว
ปัง!
เฮือก!
“กูบอกพวกมึงว่ายังไง! กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่งกับมัน มันเป็นของกูคนเดียว!”
หลังจากเสียงเปิดประตูเข้ามาอย่างดังเสียงตวาดก็ตามมา ผมรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนี้มากแต่นึกไม่ออก ร้อนก็ร้อน เมื่อยตัวไปหมด ต้องถูกมัดอีกนานแค่ไหนวะเนี่ย
“ถุ้ย! พวกกูจะรู้มั้ยว่ามึงจะมาเมื่อไร แล้วอีกอย่างมึงจ้างให้กูเล่นบทผู้ร้ายลักพาเรียกค่าไถ่ กูก็ทำให้แล้วเรื่องอื่นมึงไม่มีสิทธ์มาสั่งพวกกู”
“เฮ้ย คล็อก ใจเย็นๆ”
“พวกมึงกล้ามากนะที่เล่นลิ้นกับกู...แต่ช่างแมร่งยังไงพวกมึงก็ไม่มีโอกาสหายใจอีกแล้วแหละ”
ปัง! ปัง! ปัง! ผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสามนัด เสียงร้องโอดครวญและเงียบไป เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินคือเสียงหัวเราะแผ่วเบาข้างหูผม
จบบทสังหาร
เจอกันบทต่อไป "บทเสน่หา" ครับ
ขอบคุณทุกเม้นท์นะ ผมอ่านทุกอันและมันเป็นสิ่งผลัก(ดัน-เตะ ถีบ)ให้ผมแต่งต่อไปได้ขอบคุณผู้อ่านเช่นกันครับ