Title : My Golden Fish
Author : -BallOonzA-
Staring : Kibom x Donghae x Hyukjae
Writher’ Talk : SF เรื่องแรกของของบอลลูน เรื่องราวของชายหนุ่มที่มีความเหงาเป็นเพื่อน กับเงือกน้อยที่ถูกจับมาได้จากงานเทศกาล ผู้ที่ไม่มีใครเห็นค่า..กับผู้ชายที่ต้องการใครสักคนมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย กลายเป็นหัวใจที่ลงตัว
----------------------------------------------------------------------------------------------
เสียงจอแจวุ่นวาย เกิดขึ้นตลอดเวลาในบรรยากาศแห่งความสนุก และสุขสมของใครหลายคน งานเทศกาลที่เกิดขึ้นในศูนย์รวมจิตใจ ศูนย์กลางศาสนาแห่งนี้ บันดาลหลากอารมณ์และจินตนาการให้กับผู้ร่วมงาน แล้วแต่ว่าจะเลือกอิงแอบกับมุมใดของงาน
สองข้างทางเดินของถนน ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีสัน ห้อยระย้าระโยงระยางไปมาน่าดูชม นานทีปีหนที่เมืองแห่งความวุ่นวายใจกลางประเทศแบบนี้จะมีอะไรให้สัมผัส ชวนให้นึกถึงวัยเยาว์ที่ได้จูงมือบิดามารดามาแอบลุ้นกับการจับสลาก ทานสายไหม หรือเล่นเกมส์ที่มีภายในงาน
ภายในเรียงรายไปด้วยการออกร้านที่แตกต่างกัน บ้างขายน้ำแข็งไส บ้างไส้กรอก ของกินของเล่นสลับไปมา ซุ้มเกมส์สนุกๆ ที่ได้รับความนิยมของเด็กๆ หนีไม่ถ้นการยิงปืนชิงตุ๊กตา ปาลูกดอก หรือจับสลากสัตว์เลี้ยงแสนวิเศษ
คิบอมเป็นเพียงชายหนุ่มขี้เหงาที่เหมือนขาดอะไรในชีวิต การที่ต้องเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวเช่นนี้ ทำให้คิบอมโหยหาบางสิ่ง... เหงา..คำนี้คงจะอธิบายทุกอย่างได้ดี นักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐบาลต้องเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่เพื่อให้ใกล้กับสถานศึกษา ความห่างไกลจากครอบครัวคงเป็นตัวแปรหนึ่งที่กระตุ้นความเหงาให้แสดงผลชัดเจนยิ่งขึ้น
เขาเลือกบรรเทาความเหงาด้วยตัวอักษรเพียง 3 ตัว S-E-X ตัวอักษรง่ายๆ สามตัวที่เรียงรายเป็นคำคำหนึ่ง คำที่ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนรักที่ควรจะมีต่อกัน แต่ในกระแสโลกที่หมุนเวียนปัจจุบันทำให้คำว่า Love กับคำว่า Sex แยกออกจากกันได้โดยสิ้นเชิงสำหรับใครหลายคน ไม่เว้นกระทั่งคิบอม
มันเป็นสิ่งเดียวที่สร้างความรู้สึกใกล้เคียงกับคำว่า อบอุ่น หรือว่าคำว่า “รัก” ถึงจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แต่เขาก็เลือกที่จะใช้มันดับไฟเหงาของตนเอง หน้าตารูปร่าง..ถือเป็นกับดักล่อเหยื่อชั้นดีที่ยีนส์ฝั่งดีของบิดามารดาประทานมาให้ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้หลายคนยอมแยกคำว่า รัก กับคำว่า ร่วมรัก เพื่อคิบอม
ทุกคนล้วนเข้ามา..แล้วจากไป บ้างสมหวังที่ได้เสพย์สวรรค์กามา บ้างผิดหวังที่คิดว่าร่างกายและความผูกพันธ์ของสัญชาตญาณการสืบพันธุ์จะสามารถเหนี่ยวรั้งหัวใจคิบอมไว้ได้ แต่เปล่าเลย เขาไม่ได้ต้องการรักที่ได้มาจากความสัมพันธ์ข้ามคืน เขาเองยังไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร ไม่เคยรู้มาตลอด
เริ่มแรกคิบอมตอบสนองตัณหาด้วยความธรรมดาอย่างชายทั่วไป หญิงสาวมากมายที่ผ่านมา เมื่อเรื่องราวจากผู้หญิงมันมากมายเกินกว่าจะรับไหว ก็เริ่มหันไปหาสิ่งใหม่ที่น่าจะเบาใจได้มากกว่า คนที่สวยเหมือนผู้หญิง ... ใช่ คิบอมนิยมมันมากกว่า อย่างน้อยคนประเภทนี้ก็สามารถแยกคำว่ารักกับผสมพันธุ์ได้มากกว่า หากจบกันก็คือจบ ไม่มีห่วงว่าต้องรับผิดชอบ หรือกังวลว่าสักวันจะมีพยานรักมาเป็นมารหัวขนให้อนาคตตนเองดับสูญ ใช่ว่าจะหมดรักหญิง แต่อยากร่วมรักกับใครสักคน ..เขาทำมันจนเป็นนิสัย เมื่อใดที่เขาเหงา หนุ่มน่ารักเหล่านั้นจะเป็นเครื่องมือคลายเหงาชั้นดี มีบ้างอยากจะผูกพันธ์ บ้างแค่อยากลิ้มรสชาดเกมส์รักของหนุ่มหล่อที่หลายคนโจษจัน คิบอมได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มที่หลายคนหมายปอง ประสบการณ์หลายปีทำให้เขาเชี่ยวชาญจนมอบความสุขให้ใครต่อใครมามากมาย แต่ความสุขของตนเองจากการปลดปล่อย..มันพอแล้วหรือ คิบอมเฝ้าถามตัวเอง
เมื่อไม่มีคำตอบให้กับตนเอง เขายังคงดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป เพราะไม่มีอะไรจะทำให้เค้า..หายเหงา ได้ดีมากกว่าสิ่งเหล่านี้ สักวัน หากเขาพบบางสิ่งที่ต้องการและค้นหา เขาอาจจะหยุดมัน สักวัน...ที่ไมใช่วันนี้
คิบอมเป็นเพียงสามัญชนที่อยากร่วมเฉลิมฉลองกับเทศกาลต่างๆ แต่การเดินคนเดียวมันเปล่าเปลี่ยวเกินไปสำหรับเขา คิบอมจึงโทรเรียกคนที่ยอมตามใจเขาเสมอ ยอมให้เขาได้ระบายอารมณ์ใคร่ ยอมหลายๆ อย่าง แม้แต่ยอมให้เขาเพิกเฉย ไม่สนใจกับความรักที่มอบให้... ลีฮยอกแจ
นั่นเป็นเพียงคู่ขาคนเดียวที่คิบอมใช้บริการบ่อยที่สุด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าฮยอกแจหลงรักตน เขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าติดใจในเรือนร่างขาวโพลนนั้น ฮยอกแจมอบความรื่นรมย์ในยามสอดประสานร่างกายได้ดี แต่อรรถรสจากรัก คิบอมไม่มีคำตอบจากรักที่ฮยอกแจส่งผ่านมา
ในเมื่อไม่รัก ก็คือไม่รัก อยากมีอะไรด้วยเท่านั้น...คิบอมชัดเจนเรื่องนี้ มีเพียงฮยอกแจเท่านั้นที่ยังทุ่มเทความรักให้มา อย่างรอคอยว่าสักวัน..คิบอมจะหันมามองแล้วตอบรับมัน สักวัน
ฮยอกแจเป็นฝ่ายมายืนรอการมาของคิบอมที่หน้างานอึกทึกครึกโครมนั่น เป็นการรอคอยอย่างเคย ทุกครั้งที่ถูกนัด และรู้ด้วยว่า...มันจะจบที่ไหน เตียง..ก็แค่เตียง สัมผัสกัน มอบท่าทีที่คล้ายว่ารักให้กัน แต่ไม่เคยมีคำว่ารักจากปากของชายหนุ่มคนนั้น ชายหนุ่มผู้โดยแช่แข็งหัวใจจากอะไรสักอย่าง ก้อนน้ำแข็งที่ฮยอกแจละลายมันไม่เคยสำเร็จ ทั้งที่ลงทุนลงแรงไปทั้งตัว..และหัวใจ
“มานานรึยัง” คิบอมโบกมือให้เบาๆ
“อื้ม..พักนึงน่ะ วันนี้คิดยังไงชวนมาเดินข้างนอกได้” ฮยอกแจไม่ได้โกรธที่คิบอมมาสาย ไม่เคยโกรธ แค่แปลกใจเท่านั้นเองที่มันแปลกกว่าทุกวัน
“ไม่ดีรึไง หรือว่าใจร้อนอยากจะนอนกับชั้นแล้ว” คิบอมเชยคางนั้นมาจูบไซร้ซอกคอร้อนแรง ไม่ได้เกรงใจสายตาคนอื่นเท่าใด ชีวิตนี้เป็นของเขา ไม่ใช่ของคนอื่น คนอื่นแค่มองและวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่ใช่แรงผลักดันอะไรในชีวิต เขาไม่จำเป็นต้องแคร์
“อ้า...” ฮยอกแจเพิ่งได้หายใจหลังจากคิบอมยอมปล่อยปากนั้นเป็นอิสระ “เปล่า...แค่แปลกใจ”
“อย่าสู่รู้เรื่องของชั้น มีหน้าที่อะไรก็ทำไป ถ้าไม่พอใจชั้นหาคนอื่นก็ได้” คิบอมกระตุกอารมณ์นิดหน่อยเมื่อได้ยินแบบนั้น
“อย่าเลย...ไม่ไม่ ไปสิ ถ้าคิบอมอยากเดิน ก็เดินกัน” ฮยอกแจคล้องแขนคิบอม ไม่อยากให้คิบอมขัดใจสิ่งใด เวลาปกติคิบอมจะดูด้านชาแค่ไหน อย่างน้อย..ในบทรัก คิบอมก็อ่อนโยนกับเขาเป็นที่สุด ฮยอกแจคิดอย่างนั้น
“ดี” เสียงห้วนตอบคำเดียว แล้วเริ่มออกเดิน
ร้านรวงต่างๆ ทำให้เพลิดเพลินได้ดีทีเดียว คนน่ารักอย่างฮยอกแจก็ทำให้คิบอมเบิกบานใจไม่น้อย หากคืนนี้จบลงที่บทรักอย่างเคย ก็คงจะครบวงจรชีวิตประจำวันของคิบอมแล้วสินะ คิบอมหัวเราะเบาๆ กับชีวิตตัวเอง เขาไม่ได้ขาดสิ่งใดเลย ครอบครัวที่อบอุ่น ฐานะที่จัดว่าดี ทุกองค์ประกอบเพอร์เฟคหากจะพูดไป ปัญหาคงจากแค่ตัวเขาเองเท่านั้น
ฮยอกแจก็ไม่ต่างจากคนอื่นที่เคยผ่านมา ทำให้เขาเบิกบานได้ประเดี๋ยวประด๋าว ซองมิน ฮีซอล อิทึก เรียววุค แล้วก็อีกหลายคนที่เขาไม่คิดแม้แต่จะจำชื่อ ในท้ายที่สุด ฮยอกแจก็ลงเอยเหมือนคนเหล่านั้น เป็นแค่อดีตที่เขาไม่คิดจะเหลียวหลังไปมอง แค่ตอนนี้ฮยอกแจอยู่ได้นานที่สุดก็เท่านั้น
“นี่คิบอม จูบชั้นหน่อยสิ” เห็นคู่รักแสดงความรักอย่างเปิดเผย ฮยอกแจก็อยากจะทำอย่างนั้นบ้าง ถึงจะรู้ว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็อยากจะลองขอ ทุกคนรู้ดีว่า..คิบอมไม่เคยจูบใคร...ที่ปาก
คิบอมได้ยินประโยคดังกล่าวก็ถอนใจเบาๆ ‘มาอีกแล้วสินะ พวกเรียกร้อง’ คิบอมเลือกที่จะจูบเบาๆ ที่หว่างคิ้ว ..ไม่ใช่ปาก ฮยอกแจขัดเคืองเล็กน้อยเพราะมันไม่ต่างจากทุกครั้งที่เคยทำ อยากได้อะไร..ที่ไม่เคยได้จากคิบอม
“นี่ลุง !! ผมว่าผมต้องได้กระต่ายนะ” เด็กน้อยวัยประมาณสิบขวบโวยวายเสียงดังอยู่ไม่ห่างจากคนทั้งคู่ เรียกความสนใจจากคิบอมและฮยอกแจได้ดี จนต้องหันกลับไปมอง
“ทำไมเป็นงี้ล่ะ” ในมือเด็กชายคนนั้นถือถุงพลาสติก ภายในบรรจุน้ำและสิ่งมีชีวิตตัวไม่ใหญ่เท่าใดนักไว้ มันว่ายวนไปมา เหมือนจะตื่นกลัวการเคลื่อนไหวทุกอย่างที่อยู่รอบตัว
“กระต่ายต้องออกเบอร์ 3 ถึงจะได้นะ แต่ของน้องชายออกเบอร์ 6 นี่ ปลาทองก็น่ารักดีนะ” เจ้าของร้านตอบอย่างใจเย็น ชินเสียแล้วกับอาการไม่ถูกใจของเด็กๆ แต่ถ้าจะให้ใจอ่อนยอมแลกหรือให้เปลี่ยน ร้านคงขาดทุนยับ
“ขี้โกงชะมัดเลย” เด็กชายถือถุงปลาสะบัดหน้าไปมาไม่พอใจ จนเด็กหนุ่มอีกคนที่ดูมีอายุมากกว่าเพราะตัวสูงกว่าเดินมาจูงมือให้ออกมาจากหน้าร้าน
“ไปเถอะน่าเควิ่น อย่าดื้อสิ ถ้านายทำพี่ขายหน้า พี่จะไม่รักนายแล้วนะ” พี่ชายคนหนึ่งขู่ไว้
“โอ๊ย...ไปก็ได้ ทำไมยูเมะชอบขู่ว่าไม่รักล่ะ ก็เค้าอยากได้กระต่ายนี่นา” ฉายแววดื้อในสายตานั้น แต่รวมกับหน้าตาที่น่ารักแล้ว มันไม่ได้ดูน่าหมั่นไส้แต่อย่างใด น่าเอ็นดูเสียมากกว่า
“แล้วกลัวมั๊ยล่ะ ไม่กลัวก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ” เด็กโตที่ชื่อยูเมะ หันหลังกลับจะเดินหนีไป
“อ๊า......... ไม่เอานะยูเมะห้ามทิ้งเค้านะ ไปก็ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะตาลุงงี่เง่า” เควิ่นหันกลับไปแลบลิ้นปลิ้นตาให้กับคนที่ไม่พอใจ
“เควิ่น !! ถ้านายยังซน พี่จะไม่ไปขอนายตอนโต” คำขู่แปลกๆ โพล่งมาอีกครั้ง
“แง๊....ไม่เอาอ่า ห้ามทำนะ เค้าไม่ดื้อแล้ว แงแง” ดูท่าจะกลัวคำนี้มากกว่าคำแรกเสียมากกว่า จึงปล่อยโฮออกมาเสียตรงนั้น พี่ชายก็ไม่ได้ใจร้ายจนเกินไป เดินเข้ามาปลอบน้องชายคนนั้นทันที
“ไม่เอาน่านะ ไม่ร้อง กลับบ้านกันดีกว่า เดี๋ยวคุณน้าเป็นห่วง ถ้าวันหลังอยากได้กระต่าย พี่จะเก็บตังไปซื้อให้นะ”
“แน่นะพี่ยูเมะ” หยุดร้องได้ง่ายๆ เมื่อโดนปลอบด้วยของที่ถูกใจ
“สัญญา กลับได้รึยัง พี่หิวแล้ว เดี๋ยวแม่ว่าด้วย ถ้าเดินมาตามถึงบ้านนาย พี่จะโดนดุ”
“กลับสิ ไม่เห็นอยากได้เลยปลาทองแบบนี้ เค้าจะรอกระต่ายของพี่ยูเมะนะ”
คิบอมและฮยอกแจได้ยินบทสนทนานั้นตลอด มีอะไรบางอย่างทำให้คิบอมละสายตาไม่ได้ หยุดค้างจนฮยอกแจผู้รอจูบครั้งต่อไปต้องเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นอาการนิ่งไปของคิบอม
“เด็กพวกนั้น ทำไมเหรอ ?”
“พี่ยูเมะ เค้าไม่อยากได้ปลาทองอ่ะ จะเอาไปทิ้งที่ไหนเนี่ย” เด็กน้อยที่เดินตามต้อยๆ ยังบ่นกระปอกระแปด
“เลิกบ่นได้แล้วน่าเควิ่น” ยูเมะมีแววระอาไม่น้อย
คิบอมปล่อยมือที่สัมผัสร่างของฮยอกแจลง แล้วเดินเข้าไปหาเด็กทั้งคู่ เหมือนว่าสิ่งนั้นสำคัญกว่าคู่ที่จะต้องให้บริการรักคืนนี้
“เดี๋ยวสิ คิบอม ทำอะไรน่ะ !” คิบอมไม่ได้สนใจเสียงเรียกนั้นแต่อย่างใด กลับเดินต่อไปเรื่อยๆ ฮยอกแจคงอดทนมาจนถึงที่สุดแล้วเหมือนกัน จึงได้ร้องขู่ออกไป “คิบอม ถ้านายทิ้งชั้นไว้ตรงนี้ เราจบกัน”
คำขู่นั้นไม่เป็นผลสักเท่าใด คิบอมไม่สนใจหันมาฟังด้วยซ้ำ ความอดทนทั้งหลายจึงขาดผึงทันที
“ไอ้ผู้ชายงี่เง่าที่สุด คนอย่างนายไม่มีวันเจริญหรอก คิมคิบอม ขอให้นายติดเอดส์ตาย.......” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่คิบอมได้ยิน ได้ยิน..แต่ไม่ใส่ใจ สุดท้าย..ก็จบเหมือนทุกๆ คน
“นี่น้องชาย” เสียงดุๆ ของคิบอมทำให้เด็กสองคนหยุดการก้าวเท้าได้ดี
“เฮือก” รัศมีความเย็นชาน่ากลัวคงทำให้เด็กๆ สัมผัสมันได้ เมื่อหันมาพบกับใบหน้าเฉยชาไร้อารมณ์ แววตาที่ดูว่างเปล่าของคิบอม ทำให้เควิ่นหน้าถอดสี ไม่รู้ทำไม...แต่กลัว หน้าที่ของยูเมะทำงานโดยอัตโนมัติ เด็กที่ตัวโตกว่าก้าวขาออกมากางกั้นปกป้องเควิ่นไว้ทันที
“นี่..ถ้าจะทิ้ง ขายต่อพี่เหอะ พันวอนพอมั๊ย หรือเอาเท่าไหร่”
“อ่า...ได้ ได้ครับ ผมให้เลย” เหงื่อเม็ดโตๆ ผุดบนใบหน้าเด็กน้อย ในวัดแบบนี้ คนเสียงเย็น ใบหน้า แววตาแบบนี้ คงไม่ใช่อะไรธรรมดาแน่ เขาจึงตัดสินใจรีบยกถุงปลาทองนี้ให้ทั้งที่หลับตาปี๋
คิบอมคว้าถุงมาไว้ในมือแล้วเตรียมหยิบกระเป๋าสตางค์มาจ่ายเงิน แค่แว๊บเดียวที่ละสายตา เด็กสองคนนั้นก็โกยอ้าวไปไกลแล้ว คนตัวโตจูงคนตัวเล็กกว่าวิ่งไม่คิดชีวิต แถมยังมีเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายมาสวนกับคำที่คิบอมพูด
“ขอบใจนะ แล้วเงิน”
“ว๊ากกกกกกกกกกกกก ผีปลาทอง หนีกันเถอะ” เด็กสองคนเข้าใจอะไรคิบอมไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่า..เขาคงไม่เป็นที่รักของเด็กๆ สักเท่าใด คนเดินผ่านไปมาก็มีเสียงซุบซิบเซ็งแซ่
นี่ผู้ชายคนนั้นแย่งปลาทองจากเด็กล่ะ
ผู้ชายอะไรกันนะ
ผีปลาทองเหรอ.. ผู้ชายคนนี้โดนผีสิงเหรอ ว๊าย...
คิบอมไม่อยากสนใจคำพูดคนอื่น แค่สนใจตัวเองก็พิศวงใจจะแย่อยู่แล้ว ทำไมถึงอยากได้ปลาทองตัวนี้นะ แค่สัตว์ตัวนึง กับเด็กเกเร เกิดอะไรขึ้น
0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0-0
คิบอมกลับมาที่ห้องของตนเองพร้อมปลาหนึ่งตัว คนที่คิดว่าจะปลดเปลื้องอารมณ์ในคืนนี้หลุดลอยไปซะแล้ว จะโทรหาเหล่า Sex Friend ก็หมดอารมณ์เสียแล้ว
‘แบบนี้ เรียกว่า..ทำแล้วค่อยมาคิดหรือเปล่านะ’ ฮยอกแจถือเป็นคู่นอนที่ดีที่สุดคนนึง เสียตัวเลือกให้แก้เซ็งไปหนึ่ง ...ช่างเถอะ อย่างฮยอกแจ โกรธเขาไม่นานหรอก เดี๋ยวก็ต้องกลับมาเอง หรือถ้าจะไปจริงๆ ก็ไม่ได้เกิดผลเสียอะไรกับชีวิตอยู่แล้ว
คิบอมจัดแจงหาภาชนะทรงสูงใบหนึ่งที่ไม่ได้ใช้งานมาเป็นที่อยู่ของปลาทองที่ได้มาจากงานเทศกาล
“อันนี้ก็ได้...แจกันแบบนี้ก็ไม่เลวนะ” คิบอมพูดกับตัวเอง
“ลืมอะไรอีกนะ อืม....อ้อ แล้วจะกินอะไรดีล่ะ นั่นสิ” คิบอมลูบคางตนเองเบาๆ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าออกจนหมด มีเพียงบอกเซอร์ตัวเดียวเหลือไว้ เขาเข้าไปอาบน้ำชะระร่างกายให้สะอาดแล้วออกมาจากห้องน้ำ เปลี่ยนเป็นชุดนอนยามปกติ ...ก็บอกเซอร์ตัวเดียว เหมือนเดิม แค่เปลี่ยนลาย การอยู่คนเดียวแบบนี้มีอิสระจะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องแคร์สายตาใคร
ตึง....
คิบอมทิ้งตัวลงบนเตียง หาวเบาๆ และสางผมเบาๆ ให้เข้าที่
“ฮ้าว...งีบก่อนดีกว่า หรือจะเอาไปขายที่ร้านดีน๊า...” คิบอมคิดสับไปมา การจะข่มตาโดยไม่ทำให้ร่างกายเหนื่อยอ่อนก่อนทุกคืน มันยากเย็นเกินไปสำหรับเขา คิบอมพยายามหลับตาแล้วคิดไปเรื่อยเปื่อย พูดกับตนเองอย่างไม่เบื่อหน่าย...อยู่คนเดียวนี่ จะให้พูดกับใคร
“อา...อุตส่าห์ขอมาจากเด็กพวกนั้นทั้งที....” กำลังหาวิธีจัดการกับปลาทองที่แลกมาด้วยการไร้คู่หนึ่งคืนไปมา คิดหาวิธีที่เหมาะสมที่สุด