ทุกๆวันพิเศษ นายช่างใหญ่(ช่างถ่ายภาพนะ!!) กำลังนั่งเคาะนิ้วกับโต๊ะทำงานของตัวเอง มือข้างหนึ่งเท้าคางทำหน้าบูด เซ็งโลกประหนึ่งว่าอีกสองชั่วโมงโลกกำลังจะแตก..ทั้งที่วันนี้...รอบๆตัวมีแต่สีแดงของกุหลาบ หรือไม่ก็สีชมพูของรูปหัวใจวิบวับไปหมด อุ่นไอในวันของความรักแผ่รังสีไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งสตูดิโอถ่ายภาพ...วันที่มีคู่รักน้อยใหญ่จูงมือเกี่ยวก้อยกันเข้ามาถ่ายภาพเก็บความประทับใจ ในวันลาเลนไทน์ทั้งวัน
"พี่ธี!! ไฟล์รูปของด่วนผมแต่งให้เสร็จหมดแล้วนะ เอ่อ...แล้วก็..ขอกลับก่อนซักชั่วโมงหนึ่งได้ป่าวครับ" คุณผู้ช่วยโอ้เอ้เดินโผล่หน้าเข้ามารายงานความคืบหน้า ก่อนจะยืนทำตัวบิดไปมาทำหน้าเขินอายจนคนมองเริ่มรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ
"ไปไหนล่ะ มีธุระเหรอ" ที่จริงแทบไม่ต้องถามก็พอจะเดาคำตอบได้ ในวันแห่งความรักแบบนี้..ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่หาเรื่องไปเซอร์ไพร์คนที่ตัวเองรักเพื่อเอาใจ แต่ที่ผมถาม...ก็แค่อยากแกล้งมันเล่นแก้เบื่อ
"แหม..!! พี่ธีทำเป็นไม่รู้ไปได้ วันแบบนี้คนที่เค้ามีแฟนก็ต้องหวานๆนิดหนึ่ง เดี๋ยวเกิดโดนงอนขึ้นมาจะแย่" มันพูดถึงแฟนสาวนักศึกษาของมันทำตาลอยเคลิ้มฝัน ทั้งที่เพิ่งจะคบกันได้ไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำ ...ผมยังจินตนาการไม่ออกเลยว่า..หากคุณหมอของผมจะงอนผมด้วยเรื่องแบบนี้...มันจะน่าดีใจซักแค่ไหน
"อืม..ไปเถอะ อย่าหักโหมมากนักล่ะ ขับรถก็ระวังๆด้วย" ไอ้โอ้หันมาทำท่าตะเบ๊ะเลียนแบบคนในเครื่องแบบแล้วฉีกยิ้มให้ ทำท่าจะวิ่งออกไปจากห้องทันทีที่ได้รับคำอนุญาต แต่มันก็หันกลับมาเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
"ว่าแต่ผมเหอะ พี่ธีเองก็อย่า'หักโหม'กับคุณหมอรูปหล่อให้มาก'รอบ'นักล่ะ พรุ่งนี้มีงานน่ะ...ว้ากกกกกกกก" มันส่งเสียงร้องทิ้งท้ายไว้จนแสบแก้วหู เพราะโดนขายาวๆของผมยื่นไปยันโครมเข้าให้จนตัวมันพุ่งออกไปข้างนอก ตามมาด้วยเสียงระเบิดหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วควงกุญแจเดินออกไปนอกร้าน ยังมีการโบกไม้โบกมือก่อนออกไปอีกรอบ
หนุ่มลูกครึ่งตาน้ำขาวสูงยาวเข่าดี รูปหล่อ (แม้ว่าพ่อจะไม่รวย) แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในข่ายเพอร์เฟค กำลังนั่งถอนหายใจทิ้งเป็นรอบที่ร้อย(มั้ง) เรื่องฉลองในวันแห่งความรัก...ตัดออกไปได้เลย เพราะคุณเนสไม่มีทางดีใจไปกับงานเทศกาลอะไรแบบนั้นแน่ ที่จริงไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญใดๆก็ตามนั่นแหละ ...ทั้งที่ผม..ให้ความสำคัญกับคนสำคัญในโอกาสพิเศษต่างหาก ไม่ได้ให้ตามเทศกาลอะไรแบบนั้นซักหน่อย แต่..ขืนพูดออกไปก็มีแต่จะทำให้โดนหงุดหงิด เฮ่อ~~~
ครืด ครืด...เจ้าโทรศัพท์ที่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะสั่นเป็นสัญญาณบอกว่ามีคนเรียกเข้า เบอร์ที่ขึ้นอยู่หน้าจอทำเอาเจ้าหมานอกขี้เบื่อคลี่ยิ้มออกมาได้ทันที...เหมือนรู้เลยแหะ..ว่าคนทางนี้กำลังคิดถึง
"ครับ,คุณเนส..."
"วันนี้อยู่เวรนะ ไม่ได้กลับไปกินข้าวด้วย" อีกแล้ว...ที่สุดแล้วก็เรื่องงานมาก่อนตลอด แม้ว่าจะทำใจและพยายามเข้าใจมาตลอด...แต่ก็ยังอดรู้สึกอิจฉางานพวกนั้นไม่ได้ อิจฉาคนไข้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว อิจฉาคุณพยาบาลสาวๆที่ได้เดินอยู่ใกล้ ได้เห็นหน้า..ทั้งที่คุณหมอเนส..เป็นของผมแท้ๆ
"ครับ..ผมเข้าใจ.." ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ก็หางลู่หูตกไปแล้วเรียบร้อย
"เอ่อ...มีเวลาว่าง 2-3 ชม.นะ" หืม...!!? ไอ้หมานอกเอาหูแนบกับโทรศัพท์อีกครั้งเหมือนว่าฟังไม่ถนัด หรือว่าหูจะฝาดไป
"อะไรนะครับ..?"
"ก็บอกว่ามีเวลาว่างตอนเย็นก่อนแลกเวร 2-3 ชม. จะมาหาอะไรกินแถวนี้ไหม?" ธีโอแทบจะกระโดดลุกขึ้นแล้วร้องตะโกนกับตัวเองด้วยความยินดี ขอแค่เวลาซักเล็กน้อยก็ยังดี...แค่ได้เจอหน้า มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน จะที่ไหนก็ได้ไม่สำคัญ
"คุณเนสอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมจะซื้อไปให้ เอาของหวานด้วยไหม เสื้อผ้าเปลี่ยนล่ะครับ.."
"พอๆ ไม่ได้ย้ายบ้าน แค่โผล่หน้ามาพร้อมของกินก็พอ แค่นี้นะ โดนเรียกตัว.." ติ๊ดดดดดดดดด..........เรียบร้อยสัญญาณโดนตัดไปแล้ว แต่คนทางนี้ยังคงยืนถือโทรศัพท์ค้าง ยิ้มกริ่มเหมือนคนบ้า จะไม่ให้ยิ้มยังไงไหว ก็ความหมายคำพูดเมื่อกี้ถ้าคนทั่วไปฟังก็ดูเหมือนจะเย็นชา...แต่สำหรับคุณเนสของผม...มันหมายความว่า 'ก็แค่อยากเจอ' ต่างหาก
กว่าจะตระเวนซื้อของคาวหวานที่คุณหมอชอบมาได้ครบก็นานโข ลืมเผื่อเวลาไปด้วยว่าวันนี้จะต้องรถติดแน่ เพราะบรรดาคู่รักทั้งหลายต่างก็ออกมาหาอะไรทานกัน บางคนก็มาแบบเป็นครอบครัว แต่ที่เห็นส่วนใหญ่ก็จะจูงมือมาเป็นคู่เสียมากกว่า ตอนเดินเข้ามาสวนกับคุณหมอห้องข้างๆที่หันมายิ้มทักทายตามประสาคนที่เคยเห็นหน้า แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังคงไม่เคยได้ทำความรู้จักจริงๆจังๆซักที
"หอบอะไรมามากมาย จะเลี้ยงคนทั้งโรงพยาบาลรึไง?" คุณเนสที่ยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมสีขาวตัวยาวเดินเอามือล้วงกระเป๋าเข้ามาทัก คนที่แค่ได้เห็นหน้าความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็มลายหายไปทันที
"ผมเลี้ยงคุณเนสคนเดียวก็จะแย่แล้วครับ" คุณเนสหันมามองด้วยหางตา ก่อนจะเดินนำไปยังห้องพักแบบไม่รอ ปล่อยให้ไอ้หมาใหญ่เดินหิ้วของกินเดินตามต้อยๆ แต่ใบหน้าก็ยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง ..ไม่รู้ว่าคิดไปเองอีกหรือปล่าว ...ทุกครั้งที่ผมแวะมาหาที่โรงพยาบาลคุณหมอเนสจะเข้ามาหาก่อนเสมอ แอบคิดเข้าข้างตัวเองไปแล้วว่ามายืนรอ แค่นี้ก็มีความสุขมากมายแล้ว
"อ๊ะ!!" ทันทีที่เข้าไปในห้องพักสายตาของธีโอก็ไปสะดุดเข้ากับกล่องของขวัญหลากสีวางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ เจ้าของห้องหันกลับมามอง ก่อนจะยื่นมือมาช่วยหยิบถุงของกินในมือไปแกะใส่จาน เหมือนไม่ได้สนใจอาการตกใจเล็กๆนั่นเลยแม้แต่น้อย
"กินเลยนะ เดี๋ยวต้อง...." ยังไม่ทันที่หมอเนสจะพูดจบอ้อมแขนอุ่นก็สอดเข้ามากอดหมับจากทางด้านหลัง เล่นเอายืนตัวแข็งเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว และไอ้หมาใหญ่มันไม่เคยทำอะไรแบบนี้...นอกสถานที่ ยังไม่พอเท่านั้นมันยังกดริมฝีปากลงมาที่แก้มซ้ำๆย้ำๆเหมือนกับจะประทับตราว่าเป็นของๆตัวเอง
"ทำไมให้ได้...?" คำถามที่ได้ยินทำเอาคุณหมอขมวดคิ้วเข้าหากัน ในมือยังถือกล่องโฟมใส่ของกินค้างอยู่
"อะไร!!? อย่ามาทำอะไรรุ่มร่ามแถวนี้นะ โกรธจริงๆ" ขู่ไปก็ไร้ผล เมื่อคนฟังกำลังเข้าโหมด...งอน...ไปเรียบร้อยแล้ว
"ทำไมคนอื่นให้ของขวัญคุณเนสได้ แล้วผมล่ะ...?" ได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจออกมายาวเหยียด หัวใจคนถามเริ่มหวั่นๆกลัวว่าจะโดนโกรธเอาได้ที่บังอาจไปทำตัวงี่เง่าแบบนั้น คุณเนสหมุนตัวกลับมาสบตาเอาสองมือวางแหมะลงบนใบหน้า...กิริยาที่ทำให้คนทางนี้หัวใจเต้นไม่ปกติ
"เคยห้ามด้วยรึไง..? จำได้ว่าไม่เคยพูดซักคำ คิดเองเออเองตลอด...!!" หา!!!? นี่...หรือว่าผมจะฝันไป...คุณเนสกำลังทำหน้างอ มองค้อนเหมือนกำลังโกรธ...ไม่ซิ!! กำลังหงุดหงิด ที่บอกว่าไม่เคยห้าม ไม่เคยพูด ไอ้กระผมก็คิดเอาว่าถ้าไปทำอะไรตามเทศกาลเหมือนคนอื่นจะทำให้โดนโกรธ เพราะ...คุณเนสของผม เหมือนคนอื่นที่ไหน!!
"ก็ผมคิดว่า..."
"ทุกวันที่ผ่านๆ มีอะไรไม่พิเศษรึไง หรือว่าอะไรมันลดน้อยลงไป แล้วถ้าต้องรอแค่วันๆหนึ่งในรอบปี ก็ไม่เท่ากับว่าอีก 300 กว่าวันที่เหลือ เราไม่ได้มีอะไรที่พิเศษต่อกัน..งั้นซิ!!" เหตุผลที่เล่นเอาคนฟังเถียงไม่ออก ทำได้แค่ยืนอึ้งกระพริบตาปริบๆ
"คุณเนสเป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญเสมอไม่ว่าวันไหน" เถียงได้แค่นั้น เพราะจำนนต่อเหตุผล แต่ก็ยังดีที่ยังแอบเห็นรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้าคุณหมอ
"ก็แค่นั้น.." หมอเนสแกล้งกลบเกลื่อนจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองด้วยการเบือนหน้าไปอีกทาง ประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่ยังมีค่ามากกว่าของขวัญแพงๆชิ้นใดในโลก
"ทำไมทำแบบนี้กับผมล่ะ โธ่~~!!" ไอ้หมานอกทำได้แค่ครางหงิง เพราะไม่ได้เอาอะไรติดไม้ติดมือมาด้วยเลยนอกจากของกิน ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มร้ายๆบนใบหน้าคุณหมอราวกับว่าเป็นผู้ชนะก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง แล้วก็โทษใครไม่ได้ด้วย เพราะดันคิดเองเออไปเองจริงๆ นึกอยากจะกอดแน่นๆ ก็ยังทำได้แค่กอด!!...
"อย่ามากล่าวหากันนะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย หลบๆจะแกะของกินใส่จาน" คุณหมอหมุนตัวกลับไปทางเดิม ตั้งหน้าตั้งตาแกะห่อของกินใส่จานทั้งที่ยังมีหมานอกตัวโตเกาะติดอยู่ที่เอวไม่ยอมห่าง
"กินอย่างอื่นก่อนได้ไหม..." อย่างอื่นที่ว่า...คงไม่ต้องอธิบายให้มากความ เมื่อคนพูดจรดริมฝีปากลงบนต้นคอ คนที่กำลังเพลินอยู่กับของกินสะดุ้งหันกลับมามอง ..ขู่แบบนี้ให้ตายก็ไม่มีทางกลัว มีแต่จะวิ่งเข้าใส่มากกว่า
"ไม่เอา!! ไม่เล่นแบบนี้นะ!!" ใครบอกว่าเล่น!!? เอาจริงเอาจังซะขนาดนี้
"เหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมง ไปหาอะไรทานข้างนอกกัน นะ..นะ please~~~" ลูกอ้อนแบบนี้ อ้อมแขนกอดรัดแน่น ริมฝีปากที่กดประทับลงมาไม่หยุดทุกส่วนที่จะแตะต้องได้ ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่า'อาหารพิเศษ' ที่ว่า..คืออะไร!!
คนฟังเริ่มร้อนผ่าวไปทั้งตัว นึกโทษวันที่ในปฏิทินที่ทำให้วันนี้ใจอ่อนกับลูกอ้อนของไอ้หมานอกตัวโตเป็นพิเศษ กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองว่าพยักหน้าตอบตกลงก็ตอนที่เสื้อคลุมถูกปลดออกไปแขวนอยู่ในตู้ และปล่อยให้ข้อมือโดนไอ้หมาใหญ่จูงออกไป'ข้างนอก'เสียแล้ว...
=====================
สุขสันต์วันแห่งความรักทุกคนนะ จุ๊บๆ