Just you and I : 17
อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ช่วงเทศการสอบไฟนอล เหล่าอาจารย์ที่เคารพรักคงจะรักพวกผมมาก เลยให้งานมาทำจนไม่มีเวลานอน แล้วคนสมองกลวงๆ แบบพวกผมจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือ คงได้อ่านก่อนเข้าห้องสอบอีกแน่
อย่างตอนนี้ที่พวกผมกำลังหนีบกระดาษกับขาตั้งเพื่อจะหาทำเลที่มีรูปทรงเหมาะๆ ในการวาดส่งป๋าเปา งานชิ้นนี้อาจจะทำให้คะแนนสอบที่น่าจะโคตรแย่ดีขึ้นมาได้ เพราะคะแนนโคตรเยอะ ดังนั้นพวกผมเลยตั้งใจทำเป็นพิเศษ
ผมกับเพื่อนๆ เลือกมุมของหอสมุดเก่าที่มีต้นไม้เรียบทางเดินตั้งแต่ถนนยาวไปถึงทางเข้าทำให้บรรยากาศร่มรื่น อีกอย่าง ตัวตึกของห้องสมุดเป็นรูปหกเหลี่ยมหากหามุมวาดดีๆ รับรองคะแนนเต็ม
“ไอ้เชี่ยกลอย คืนนี้ไปไหนวะ” ไอ้เคเพื่อนในคณะเดินมาสูบบุหรี่ตรงที่ผมนั่งอยู่
“ไปไหนอะไรวะ” ผมถาม มือยังร่างลายเส้นของตึกแบบคร่าวๆ
“ก็วันนี้เลี้ยงสายรหัส พี่มึงไม่โทรบอกหรือไง” ทำไมพี่รหัสผมไม่โทรหาวะ
“กูไม่เห็นรู้เลย มึงล่ะ”
“ร้านหลังมอนั่นแหละ สายกูผู้หญิงเยอะสัด ปีสี่ ปีสาม ปีหนึ่ง มีกูเป็นผู้อยู่คนเดียว เซ็งเหี้ย” มันปล่อยควันให้ลอยสู่ท้องฟ้าก่อนชะโงกหน้ามองแผ่นกระดาษของผม “มุมมึงดีว่ะ เดี๋ยวกูย้ายมานั่งกับมึงดีกว่า”
“มึงไม่ต้องเลยไอ้สัด อย่าคิดจะให้กูช่วยด้วยข้ออ้างมุมเดียวกัน” มุกเนียนๆ นี่ผมเจอบ่อยครับ โคตรเซ็ง
“รู้ทันกูอีก” ไอ้เหี้ย พ่นควันใส่หน้ากูอีก
“พวกมึงซุบซิบอะไรกันวะ ให้กูเสือกด้วยคน” ไอ้เชี่ยต๋องมันมาพร้อมกับแย่งซองบุหรี่ไอ้เค ที่จริงผมก็สูบนะครับ แต่ไม่ได้สูบพร่ำเพรื่อ จะสูบเฉพาะเวลากินเหล้ากับเพื่อนๆ อีกอย่าง แม่ผมไม่ชอบให้สูบ เวลากลับบ้านแล้วแม่ได้กลิ่น ผมจะไม่ได้นอนเลยคืนนั้น เพราะแม่จะมานั่งสวดมนต์ในห้องแล้วบอกว่า สวดให้ผมไปที่ชอบๆ
...แม่ผมเป็นคนตลก
“พี่รหัสมึงพาไปที่ไหนวะ” ผมถามหน้าไอ้ต๋อง มันอัดบุหรี่เข้าปอดอย่างหนัก สงสัยจะเครียด
“ร้านพี่วรรณนั่นแหละ มึงก็รู้ว่าลุงรหัสกูรักเมียแค่ไหน เลี้ยงทีไรพาไปร้านเมียตลอด” ไอ้ต๋องมันทำหน้าเซ็งๆ ร้านพี่วรรณที่ไอ้ต๋องว่ามันก็ร้านเหล้าตองที่อยู่ในเพิงหมาแหงนครับ ที่จริงบรรยากาศมันใช้ได้เลยนะ ผมเคยไป แถมยาดองอร่อยมาก กินแล้วร้อนคอร้อนท้องสุดๆ
“มึงมาถามคนอื่น แล้วมึงไปที่ไหนวะ” ไอ้ทูเดินตาปรือมานั่งข้างผม มันส่ายหน้าปฏิเสธม้วนบุหรี่ที่ไอ้เคยื่นให้
“พี่กูเงียบว่ะ สงสัยไม่มีตังค์” ผมว่า
“กูว่าจะถาม กูได้ยินพวกเด็กเกษตรมันพูด ว่ามึงโดนรุมเหรอวะ” ไอ้ต๋องขมวดคิ้วถามจริงจัง ยังมีไอ้เคกับไอ้สักที่มาสมทบอีก พวกมันจ้องผมซะกดดัน
“เออ”
“โดนวันไหนวะ ทำไมไม่โทรเรียกพวกกู”
“ก็พวกมึงหนีไปเต๊าะหญิงที่โรงยิม อีกอย่างตอนนั้นกูคิดได้แค่วิ่ง” ตอนนี้พอนึกถึงผมยังกลัวอยู่เลย
“มึงยังโชคดีที่ไอ้พวกเกษตรลงแปลง ถ้ามันไม่อยู่กูไม่อยากจะคิด” ไอ้สักมันว่าก็จริงของมันแหละครับ เพราะซอยนั้นมันเงียบแถมไม่ค่อยมีคนผ่าน ถ้าไม่มีพวกไอ้ต้อม ผมคงเสร็จมันไปแล้ว
“แล้วมึงรู้หรือเปล่าว่าใครรุมมึง”
ผมก็อยากจะบอกเพื่อนอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะบอกยังไง จะบอกว่าแฟนเก่าของคนที่กำลังจีบผมตอนนี้มันก็คงแปลกๆ
“ช่างมันเถอะว่ะ กูไม่เป็นอะไร”
“ต่อไปมึงก็ระวังตัวไว้ หน้าอย่างมึงเนี่ย ไปอ่อยผัวใครเข้า เดี๋ยวเมียเขาจะตามตบให้” เชี่ย ไอ้เคพูดทำเอาไอ้ทูหัวเราะลั่น
“มึงไกลๆ ตีนกูเลย พวกมึงด้วย ไปทำงานของพวกมึงไป๊” ไล่ครับไล่ พวกมันก็ตบหัวผมคนละทีแล้วก็เดินไป เห็นหัวกูเป็นลูกวอลเลย์ตลอด
พอไล่พวกเกะกะอารมณ์ไปผมก็ลงมือทำงานต่อ กำลังจะลากเส้นโทรศัพท์ก็ดังขัด ใครวะ แต่พอหยิบมาดูผมถึงกับต้องกระแอมเสียง
อย่าคิดไกล พี่รหัสผมครับ
“ว่าไงครับพี่รหัสคนสวย” พี่รหัสผมเป็นถึงดาวคณะเลยนะครับ ไม่ธรรมดา
(มึงไม่ต้องมาปากหวาน รู้ว่าจะได้กินของฟรีล่ะสิ) แม้เป็นดาวคณะก็ใช่จะหวานนะครับ พี่แกห้าวกว่าผมอีก
“แหมเจ้ รู้ทันตลอด” ผมหัวเราะจนได้ยินอีกฝ่ายด่ากลับ “ว่าแต่ คราวนี้พี่มิกจะพาไปไหนเหรอ” พี่มิกเป็นลุงรหัสผม ตอนนี้แกอยู่ปีสี่ที่แทบไม่เคยเห็นหน้า
(ร้านหมูกระทะแถวๆ หอมึงนั่นแหละ)
“โห ผมกินโคตรบ่อยร้านนั้น”
(งั้นแสดงว่ามึงไม่ไป?)
“ไปดิ่ ของฟรีนะครับ ฮ่าๆ”
(ก็แค่นั้น แล้วอย่าลืมโทรหาน้องปีหนึ่งด้วยนะ)
“โอเค...” หรือเปล่าวะ “เอ่อ เดี๋ยวเจ้ เดี๋ยวผมโทรคอนเฟิร์มอีกทีได้หรือเปล่า”
(อะไร ห้ามขาดนะเว้ย พวกกูอยากรู้เรื่องที่มึงถูกรุม แค่นี้นะ เลิกกัน)
เออ เลิกไปเลย แม่ง ผมยัดมือถือในกระเป๋ากางเกงตามเดิม ที่ลังเลก็เพราะทุกวันนี้พี่โชมารับมาส่งผมไง หอผมแทบไม่ได้เหยียบนอกจากไปเอาเสื้อผ้า ยังดีที่พี่โชไม่ให้ผมย้ายไปถาวร ไม่งั้นเวลาโดนทิ้งนี่ไม่มีที่ซุกหัวนอนเลยนะ ว่าแล้วก็โทรถามสักหน่อยดีกว่า
ผมล้วงมือถือออกมา (แล้วจะเก็บทำไม) เลื่อนๆ หาเบอร์ที่เมมไว้ อย่าคิดว่าผมจะเป็นคนได้เมมชื่อเองนะครับ พี่โชมันคว้าไปเปลี่ยน ตอนแรกผมเมมว่าพี่โช มันแย่งไปพิมพ์ใหม่ว่า MYLOVE ปล่อยไปครับ ผมทำอะไรไม่ได้ พอจะลบพี่แกก็ทำท่าเหมือนจะขย้ำผม...รอสายอยู่นานกว่าปลายสายจะกดรับ สงสัยจะนอนอยู่
(ว่าไงครับ) เสียงแหบมาเชียว นอนหลับจริงๆ
“ผมปลุกพี่เหรอ” รู้สึกผิดนะเนี่ย
(กำลังจะลุกพอดี เลิกเรียนแล้วเหรอพี่จะได้ไปรับ)
“ยังๆ ผมแค่จะโทรมาบอกว่าไม่ต้องมารับนะวันนี้”
(ทำไม) เสียงนิ่งๆ มาอีกแล้ว
“คือวันนี้มีเลี้ยงสายรหัส แล้วผมต้องไป”
(ที่ไหน มีใครบ้าง กลับกี่โมง) มารัวจนฟังแทบไม่ทัน
“ร้านหมูกระทะแถวๆ หอผมอ่ะ ส่วนกลับกี่โมงผมก็ไม่รู้ เดี๋ยวผมนอนหอเอา”
(กลอยนอนหอ แล้วปล่อยให้พี่นอนคนเดียวเหรอ) ไปหัดพูดจาแบบนี้มาจากไหนวะเนี่ย
“พี่ก็นอนคนเดียวมาได้ตั้งนานนี่นา”
(ใจร้ายว่ะ) มีงอนเว้ยเห้ย (แล้วมีใครบ้าง)
“ก็สายรหัสผมนั่นแหละ”
พี่โชเงียบไปพักใหญ่ๆ จนผมคิดว่าสายหลุด พอจะกดวาง ก็มีเสียงเล็ดลอดออกมา
(ไอ้เด็กที่ให้ดอกกุหลาบนั่นด้วยใช่มั้ย) จำแม่นเชี่ยๆ
“อืม”
(อืม)
เสียงตอบกลับทำเอาผมสบายใจเมื่อพี่โชอนุญาต พอวางสายปุ๊บ ผมก็รีบโทรจิกไอ้รอนทันที ไอ้เชี่ยนี่เวลาผมโทรหาทีไรมันชอบเก๊กเสียงหล่อตลอด แม่งหลอดลมอักเสบหรือเปล่าวะ
นัดกันเสร็จสรรพผมก็ลงมือวาดรูปต่อ ลมเย็นๆ เริ่มพัดมาจนใบไม้แห้งปลิวว่อนให้ความรู้สึกถึงลมหนาวที่กำลังมา แต่มันจะหนาวได้สักกี่วัน มีปีหนึ่งโคตรหนาว ผมท้าลมหนาวอยู่หลายวันจนเป็นหวัดเลยกลับไปขนเสื้อกันหนาวจากบ้านมาสวม แค่ข้ามวัน เหงื่อเม็ดเป้งไหลย้อยจนผมต้องรีบถอดเสื้อกันหนาวออกก่อนจะเป็นลม มันโคตรอารมณ์เสีย
เอ...หรือหน้าหนาวนี้จะขึ้นเหนือเที่ยวภูเขาเผาข้าวหลามดีวะ
พวกผมที่นั่งวาดรูปจนเย็นต่างก็พากันเก็บของและเดินเอาขาตั้งไปคืนที่โกดัง ผมเห็นไอ้ทูรีบเก็บของก่อนจะเหลือบมองผมนิดๆ แล้วมันก็วิ่งออกโกดังไปเลยครับ เป็นอะไรของมัน แต่มีเหรอที่ไอ้เคจะไม่เสือก นู้นครับ มันรีบวิ่งตามหลังไปก่อนจะตะโกนเรียกไอ้ทูเสียงโคตรดัง ผมที่วิ่งตามไอ้เคไปติดๆ ก็เห็นไอ้ทูมันรีบเข้าไปนั่งในรถยนต์สีส้มที่จอดรออยู่ ก่อนรถนั้นจะรีบขับไป รถใครวะ แล้วทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ
“ไอ้เชี่ยทูมันแอบมีแฟนหรือเปล่าวะ” ไอ้เคหันมาถามพวกผม
“แล้วกูจะรู้มั้ย” กูเห็นด้วยไอ้ต๋อง
“มึงล่ะ เพื่อนสนิทมัน รู้หรือเปล่า”
ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ ขนาดเรื่องพี่เบมันยังไม่ยอมเล่า แล้วเรื่องนี้มันจะเล่าเหรอครับ มันเป็นคนที่ชอบคิด ชอบทำอะไรคนเดียว ผมจะรู้ก็ต่อเมื่อมันอ้าปากบอกเอง ไม่ก็เกิดปัญหานั่นแหละครับ
ระหว่างมองตามท้ายรถสีส้ม แรงสะกิดที่ไหล่ก็ทำให้ผมหันไปมอง ไอ้รอนส่งยิ้มแป้นแล้นจนตาหยี แถมมันยังยื่นมือมาคล้องแขนผมอีก
“อะไรของมึง”
“ก็ไปเลี้ยงสายรหัสไง”
“แล้ว?” ผมมองหน้ามันก่อนก้มมองแขนตัวเองที่ถูกมือไอ้รอนจับ “จำเป็นต้องเกาะแขนกูมั้ย กูร้อน”
“โด่พี่กลอยอ่ะ ไม่โรแมนติกเลย”
“โรแมนติกเชี่ยอะไร แล้วมึงเลิกเรียนแล้วเหรอวะ”
“ถ้าไม่เลิกพี่จะเห็นผมยืนหล่อตรงนี้เหรอครับ”
กวนตีน ผมพูดไร้เสียงแต่มันคงรู้ หน้ามันก็งอเหมือนเด็กโดนขัดใจ
“พี่กลอยไปยังไงอ่ะ”
เออว่ะ ผมจอดฟีโน่ลูกรักที่คอนโดพี่โชนู้น พอไอ้รอนเห็นผมเงียบมันก็ออกแรงดึงครับ
“อะไรของมึง จะดึงกูไปไหน”
“ไปกับผมไง วันนี้โชคดีผมเอารถพี่มา พี่ไปกับผม ตอนขากลับผมจะไปส่งพี่เอง” ไอ้รอนยิ้มกว้าง
ก็ดีเหมือนกันนะ ประหยัดเงินด้วย พอมันเห็นผมพยักหน้ามันก็ทำท่าดีใจเกินเหตุจนโดนฝ่ามือหนักๆ ของไอ้สักเต็มหัว
“พี่สักตีหัวผมทำไมเนี่ย”
“มึงจะยืนจีบเพื่อนกูอีกนานมั้ย พวกกูจะปิดโกดังแล้วโว้ย”
ไอ้รอนมันทำปากยื่นก่อนจะเอนตัวหนีฝ่ามือไอ้สักที่จะฟาดอีกรอบ ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้เพื่อนกับน้องรหัส
พวกผมเดินมาที่ลานจอดรถ ไอ้สักกับไอ้เคต่างก็แยกย้ายไปขึ้นรถตัวเอง เห็นมันกากๆ แบบนี้มันก็มีรถขับเหมือนกัน แม้จะไม่ใช่รถที่แพงมาก แต่ก็แพงสำหรับผม ไอ้ต๋องมันขี่มอเตอร์ไซค์ฮ่างครับ มันบอกว่าคลาสสิกดี แต่แม่งซ่อมบ่อย แบบนั้นเอาเงินที่ส่งซ่อมมาซื้อคันใหม่คงได้เป็นสิบกว่าคัน
ส่วนผมที่เดินโดยมีไอ้รอนจับไหล่เหมือนเล่นต่อแถวรถไฟ ดูมันร่าเริงเกินเหตุจนเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที ก่อนเสียงหัวเราะใสๆ จะหายไปเมื่อมีรถคันแพงมาจอดเทียบ เจ้าของรถเปิดประตูก้าวเท้าออกมา พอเห็นว่าเป็นใคร ไอ้รอนก็มองอย่างไม่ชอบใจ คิ้วมันขมวดเป็นปม มือที่จับไหล่ผมเปลี่ยนมาเป็นโอบไหล่แทน
ความรู้สึกบางอย่างพุ่งพรวดจนผมต้องสะบัดตัวออกจากมือของน้องรหัส สายตาพี่โชตอนนี้ไม่ใช่ขู่แต่พร้อมจะเอาจริง ผมยังจำภาพที่พี่โชกระทืบคนวันแรกได้อยู่เลย ยิ่งภาพที่เห็นไอ้สองคนที่ทำร้ายผมอีก สยดสยองเกินหากไอ้รอนจะโดนแบบนั้น
พี่โชจ้องหน้าไอ้รอนนิ่ง ขายาวๆ ก้าวมาหาผมพร้อมกับยื่นมือมาดึงแขนผมไปอยู่ข้างๆ หน้าไอ้รอนมันดูไม่พอใจเตรียมจะดึงแขนผมกลับ แต่พี่โชดึงหลบ ไม่ใช่ว่าจะมาตีกันที่นี่หรอกนะ คนออกจะเยอะแยะ
“พี่โช...ผมว่า”
“อย่าให้กูเห็นมึงอยู่กับแฟนกูอีก” พี่โชไม่สนใจผมครับ พี่เขาเอาแต่จ้องหน้าไอ้รอนจนผมเริ่มกลัว
“ผมต้องทำตามด้วยเหรอครับ” ไอ้รอนจ้องท้าทายอย่างไม่กลัวตาย
“มึง” พุ่งครับพุ่ง ผมรีบคว้าร่างที่โชทันทีที่จะพุ่งเข้าไปหาไอ้รอน
“ไอ้เชี่ยรอน รีบไปก่อนเลย เร็วๆ” รีบๆ ไปไอ้เชี่ย กูจะเอาพี่โชไม่ไหวแล้วโว้ย
“เห็นแก่พี่กลอยหรอกนะ งั้นผมไปรอที่ร้านนะพี่” ก่อนไปมันยังยักคิ้วท้าทายพี่โชจนผมเกือบล้มเมื่อร่างใหญ่กว่าสะบัดจากการจับ ดีที่มันเข้าไปนั่งในรถก่อน ไม่อย่างงั้นมีมวยสดๆ ให้ดูแน่นอน
พอรถของไอ้รอนขับผ่านไป พี่โชก็ตวัดหางตามองผมทันที ดูเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เลือกที่จะเงียบแล้วอ้อมไปขึ้นรถ ผมมองพี่โชอย่างขัดใจ เอาอีกแล้ว เป็นแบบนี้อีกแล้ว พอผมขึ้นรถปุ๊บก็ออกตัวปั๊บ แถมยังพาไปทางอื่นซึ่งไม่ใช่ทางไปร้านหมูกระทะที่พวกพี่รหัสผมนัด
“พี่จะไปไหนเนี่ย ผมนัดกับพี่รหัสที่ร้านหมูกระทะนะ” ผมโวยวายแต่อีกคนไม่ยอมพูด ไม่แม้จะชายตามามอง “พี่โช ผมบอกว่า...”
“หุบปากมึงไปเลย!” ตวาดดังจนลั่นรถ
“เป็นเหี้ยอะไรทำไมไม่พูดวะ ผมไม่ใช่ถังขยะที่ต้องคอยรับอารมณ์โมโหร้ายของพี่นะเว้ย” ตวาดมาก็ตวาดกลับ พี่โชหักพวงมาลัยเข้าข้างทางก่อนจอดกระทันหันจนผมแทบจะจูบกับกระจกหน้ารถ พอรถจอดสนิทผมก็เปิดประตูลงไปอย่างโมโห
ผมเดินย้อนกลับไปทางเดิมแม้มันจะยังไม่ไกลแต่ก็ขาลากได้เหมือนกัน ผมลากขาตามทางไปเรื่อยๆ ก่อนจะโดนดึงข้อศอกจากด้านหลัง ผมสะบัดยังไงมือนั่นก็ไม่หลุด และเจ้าของมือคงรำคาญเลยกระชากอย่างแรงจนผมเซไปด้านหลังปะทะกับอกแกร่ง
“ปล่อย” ผมบอกนิ่งๆ แต่มือที่จับยังคงยึดไว้แน่น “ผมบอกให้ปล่อย”
“พี่ขอโทษ” มือที่ไม่ยอมปล่อยเปลี่ยนมาดึงผมเข้าไปกอด คางแหลมวางบนไหล่ผมพอดิบพอดี “พี่โมโหไอ้เด็กนั่นแต่กลับมาลงที่กลอย พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่นะ”
“...”
“อย่าเงียบใส่พี่สิ พี่ขอโทษ”
“ผมเคยบอกแล้วว่าไม่พอใจหรือรู้สึกอะไรก็ให้พูดออกมาตรงๆ แต่พี่ก็ยังทำแบบเดิม แล้วก็เอามาลงที่ผมเหมือนเดิม”
“พี่ผิดไปแล้ว จะตบหน้าพี่ก็ได้นะ” พี่โชจับมือผมขึ้นตบหน้าตัวเอง แม้ไม่แรงมากแต่ก็น่าจะเจ็บเพราะหน้าขาวๆ มีรอยแดง
“เฮ้ยพี่” ผมตกใจรีบชักมือกลับ แม้ผมไม่ได้เป็นคนตบ แต่มือเป็นของผม
“ยกโทษให้พี่หรือยัง”
“...”
“น้องกลอยครับ ยกโทษให้พี่โชคนนี้ด้วยนะครับ”
“เออๆ ยกโทษแล้ว แต่ถ้ายังทำอีก ผมจะไม่คุยกับพี่อีกเลยจำไว้”
นี่ผมหายงอนไวเกินไปหรือเปล่าวะ
พี่โชยิ้มออกทันทีก่อนจะพาผมกลับไปที่รถตามเดิม และผมสั่งให้เลี้ยวรถกลับไปที่ร้านหมูกระทะ แม้จะมีเสียงฮึดฮัดแต่ก็ยอมทำตาม...
ตอนนี้เลยมีคนแปลกหน้ามานั่งรวมอยู่ที่โต๊ะด้วยหนึ่งคน
สายรหัสผมเริ่มมองกันเลิกลักเมื่อเห็นคนแปลกหน้ามานั่งร่วมโต๊ะ แม้จะหน้าตาดีจนพี่รหัสและย่ารหัสมองตาละห้อยแต่เพราะแต่ละคนมีคนมาคุมเหมือนกันเลยแสดงออกได้แค่ทางสายตา แต่ที่น่าขำที่สุดคงเป็นป้าสายเทคที่ออกปากแซวแถมยังคอยบริการพี่โชจนพี่มิกด่า
“เห็นผู้ชายหน่อยไม่ได้นะมึงอีแปร๊ด”
“แหมพี่มิก ก็ผู้ชายหล่อนี่คะ นานๆ จะหลงมาทีเราก็ต้องเกี่ยวไว้” ป้าสายเทคชื่อแปร๊ดจริงๆ ครับ เป็นสายเฮฮามาก ตอนนี้ก็นั่งรวมสายเทคด้วย แต่ไม่มีใครกล้ายุ่งกับพี่โชเท่าพี่แปร๊ดแก
“มึงจะเกี่ยวเขา แล้วเขาให้เกี่ยวหรือเปล่าวะ” พี่มิกยังไม่เลิกกัด พวกผมฟังก็ได้แต่หัวเราะ จะมีก็แต่ไอ้รอนกับพี่โชที่นั่งจ้องหน้ากันอยู่ “เขากลัวมึงจนไม่พูดสักคำ” พี่แปร๊ดขี้เกียจเถียงเลยหนีไปตักหมูแทน ส่วนพี่โชก็มีผมที่คอยคีบหมูบนเตาให้
“พี่โชกินสิ ผมตักให้เต็มถ้วยแล้วเนี่ย” ยื่นหน้าไปกระซิบแต่อีกคนทำแค่ชายตามอง “พี่โช” เสียงนิ่งๆ ทำให้คนที่นั่งนิ่งจับตะเกียบคีบหมูเข้าปาก
“ทำตัวเป็นเด็กต้องให้คนอื่นคีบให้” ไอ้เชี่ยรอนมันพูดออกมาเลยครับ แม้พวกพี่ๆ เขาจะไม่ได้ยิน (เพราะเถียงกัน) แต่พี่โชกับผมได้ยินเต็มๆ
“มึง”
“พี่โชผมขอล่ะ”
ผมรีบจับแขนพี่โชทันทีกลัวว่าจะลุกเข้าไปต่อยหน้าไอ้รอน
จนแล้วจนรอด ปาร์ตี้หมูกระทะก็จบลง แม้ผมเห็นพี่ๆ อ้าปากจะถามเรื่องที่ผมถูกรุมทำร้ายแต่เพราะมีพี่โชนั่งตาขวางใส่เวลาผมถูกเรียกเลยไม่มีใครกล้ายุ่ง มื้อนี้เลยจบลงที่แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนไอ้รอนถูกพี่มิกลากกลับไปแล้วครับ สงสัยจะสังเกตเห็นไฟฟ้าที่ออกจากตาปะทะกันจนร้านแทบไหม้
ผมนั่งเงียบๆ ในรถของพี่โชเพราะพี่เขากำลังคุยโทรศัพท์กับพี่สาว ดูเหมือนจะนัดแนะอะไรกันสักอย่าง พี่โชบ่นว่าไม่อยากไป แต่ก็รับปากในที่สุด ผมไม่ได้แอบฟังนะ มันได้ยินเอง
“พี่จะไปไหนเหรอ” ไม่ได้แอบฟังจริงจริ๊ง
พี่โชเหลือบตามองผมนิดๆ ก่อนถอนหายใจออกมา “โดนบังคับให้ไปเที่ยวด้วย”
“ไปเที่ยวที่ไหน”
“ยุโรป”
เชี่ย ไปยุโรป ความฝันไอ้กลอยเลย
“ไปดิ่พี่ ผมยังอยากไปเลย” ผมตื่นเต้นแทนคนจะได้ไป แต่พี่โชกลับส่ายหน้า
“ไม่อยากไป”
“ทำไมอ่ะ น่าสนุกออกนะ”
“ก็ที่นั่นไม่มีกลอย”
ยังเลี่ยนได้อีกมั้ย เอาให้ไอ้กลอยคนนี้เขินให้ตายไปเลย
“เลี่ยนว่ะ” ผมแลบลิ้นใส่ พี่โชขำออกมาเมื่อเห็น
“พี่พูดจริงๆ” เสียงจริงจังทำให้ผมเสหน้ามองทางอื่นเพื่อหลบสายตาจริงใจนั่น “ปิดเทอมไปเที่ยวกับพี่มั้ย”
“ไปที่ไหน”
“ที่ๆ กลอยอยากไป”
“ไปเชียงใหม่มั้ย ผมอยากขึ้นดอยสัมผัสอากาศหนาว” พอได้ยินที่ผมพูดพี่โชก็มองผมตาวาว
“โอเคครับ เราจะไปเที่ยวเชียงใหม่กัน”
“เย้ เดี๋ยวผมชวนไอ้ม่าน ไอ้อัธด้วยดีกว่า ไอ้ม่านบ้านมันก็อยู่ที่นั่น เราจะได้พักฟรีไง” สมองเริ่มวางแผนสถานที่เที่ยวที่อยากไป
“แต่พี่อยากไปกับกลอยสองคนมากกว่า”
“ทำไมอ่ะ ไปหลายคนสนุกดีออก”
“อยู่สองคนก็สนุกได้”
ผมละเกลียดไอ้สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นที่สุด คงคิดหื่นๆ กับผมละสิ ไม่ได้แอ้มผมหรอก
“คิดเรื่องบนเตียงตลอดว่ะ” ผมว่า พี่โชหัวเราะเสียงดังลั่นรถ ผมคงคิดถูกล่ะสิ
“แล้วกลอยไม่เห็นใจพี่บ้างเหรอ นอนข้างคนที่รักทุกวันแถมยังยั่วตลอด”
“ผมไปยั่วพี่ตอนไหน”
“ทุกตอน”
ไปไม่เป็นแล้วไอ้กลอย อยู่เงียบๆ น่าจะดีกว่า
แต่พอถึงห้องแล้วมันเงียบไม่ได้ เพราะต้องหลบหลีกเจ้าของห้องที่วิ่งไล่ล่าจะเอาผมไปอาบน้ำด้วย อาบด้วยทีไรถูกจับรีดน้ำออกตลอด ขนาดทำเองยังนานๆ ที แต่นี่โดนคนอื่นจับแถมข่มด้วยขนาดอีก แล้วใครมันจะไปอยากอาบด้วยวะ
“มาอาบน้ำกัน”
“ไม่โว้ย อยากอาบก็อาบไป ผมยังไม่อาบ”
คิดว่าจะฟังเหรอครับ ไม่เลย แถมยังรวบผมขึ้นบ่าแบกเข้าห้องน้ำเรียบร้อย เรื่องแบบนี้มือไวตลอด เอะอะถอดเสื้อ เอะอะถอดกางเกง จนบนตัวไม่เหลืออะไรสักชิ้น
“ห้ามมอง! ห้ามจับ! ห้ามลูบด้วยโว้ย!!”
.....................TBCLOVE LOVE
**มีเม้นถามเรื่องหนังสือด้วย ยอมรับว่าทำไม่เป็น ฮา มือใหม่หัวใจใสๆ ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้ค่า พี่โชกับน้องกลอยคงดีใจมากที่รู้ว่ามีคนรักขนาดนี้ (กราบขอบพระคุณค่า)**